The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาครูสู่การจัดการเรียนรู้สู่ฐานสมรรถนะ ระยะที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Noo Kae, 2023-05-30 09:47:48

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning

เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาครูสู่การจัดการเรียนรู้สู่ฐานสมรรถนะ ระยะที่ 1

Keywords: Active Learning

คู่มืคู่ มือฉบับบันี้จัดจัทำ ขึ้นเพื่อพื่ใช้ประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติบักติ าร โครงการพัฒพันาครูเรูพื่อพื่การจัดจัการเรียนรู้สู่ฐานสมรรถนะ ในการ ขับขัเคลื่อลื่นการปฏิรูปรูการเรียนการสอน เพื่อพื่ตอบสนองในการ เปลี่ยลี่นแปลงศตวรรษที่ 21 โดยให้มีห้กมีารปรับรั ปรุงรุหลักลัสูตสูร ปรับรั ปรุงรุ การจัดจัการเรียนการสอน และการประเมินผลเพื่อพื่การเรียนรู้ที่มุ่ที่มุ่งมุ่ เน้น สมรรถนะ พัฒพันาผู้เรียนให้เกิดทักทัษะกระบวนการคิดคิวิเวิคราะห์ คิดคิ สร้างสรรค์ ทักทัษะการแก้ปัญปัหา การตั้งตั้คำ ถามและแสวงหา ความรู้ด้วด้ยตนเอง ส่งเสริมให้ผู้ห้ ผู้เรียนมีบมีทบาทในการเรียนรู้มากขึ้น จัดจักระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมที่ทำที่ ทำ ให้ผู้ห้ ผู้เรียนกระตือตืรือร้น ในการเรียนรู้และปฏิบัติบักิติ กิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลาย ให้ผู้ห้ ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วด้ยตนเอง เป็นการจัดจัการเรียนรู้เชิงรุกรุ (Active Learning) โดยครูสรูามารถนำ การเรียนรู้เชิงรุกรุไปใช้ ในการจัดจัการเรียนการสอนในกลุ่มลุ่ สาระการเรียนรู้หรือรายวิชวิ า รวมถึงถึกิจกรรมพัฒพันาผู้เรียน คณะทีมทีงานผู้จัผู้ดจัทำ หวังวัเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มืคู่ มือฉบับบันี้คงจะเป็น ประโยชน์และแนวทางในการนำ ไปใช้ในการจัดจัการเรียนการสอน ของผู้เข้ารับรัการอบรม และขอขอบคุณคุคณะทำ งาน และผู้ที่ผู้ เที่กี่ยกี่วข้อข้ง ทุกทุฝ่ายที่ร่ที่ ร่วมระดมความคิดคิ ให้คห้วามร่วมมือจัดจัทำ คู่มืคู่ มือฉบับบันี้ จนสำ เร็จลุล่ลุ ล่วงด้วด้ยดี


หัวหัข้อข้หน้า การดำ เนินโครงการฯ 1 ความหมายของการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 2 กระบวนการเรียนรู้ใรู้นศตวรรษที่ 21 4 ตัวตัอย่าย่งรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 5 การเรียนรู้แรู้บบโครงงาน (Project Based Learning) 6 การเรียนรู้โรู้ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) 7 กระบวนการคิดขั้นขั้สูงเชิงระบบ (GPAS 5 Steps) 8 การเรียนรู้แรู้บบโต้วต้าที (Student Debates) 9 การประเมินผลกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 10 คณะผู้จัผู้ดจัทำ 11


การเรียนรู้เชิงรุกรุ(Active Learning) เป็นกระบวนการ เรียนการสอนอย่างหนึ่ง เป็นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติบั ติ หรือการลงมือทำ ซึ่ง “ความรู้” ที่เที่กิดขึ้นก็เป็นความรู้ที่ไที่ด้จด้าก ประสบการณ์ จากกระบวนการในการจัดจักิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนมีโอกาสลงมือกระทำ มากกว่าการฟังฟัเพียพีงอย่างเดียดีว ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการอ่าน การเขียน การโต้ตต้อบ และ การวิเวิคราะห์ปัญปัหา อีกอีทั้งทั้ให้ผู้เรียนได้ใด้ ช้กระบวนการคิดขั้นขั้ สูงสูได้แด้ก่ - การวิเวิคราะห์ - การสังสัเคราะห์ - การประเมินค่า การเรียนรู้ที่เที่น้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning) ทำ ให้ผู้เรียนสามารถรักรัษาผลการเรียนรู้ ให้อยู่คยู่งทนได้มด้ากและนานกว่ากระบวนการเรียนรู้ที่ผู้ที่ผู้เรียน เป็นฝ่ายรับรัความรู้ (Passive Learning)


พัฒพันาทักทัษะความคิด ระดับดัสูง อย่าย่งมีประสิทธิภธิาพ วิเวิคราะห์ สังสัเคราะห์ ประเมินข้อข้มูล ในสถานการณ์ ใหม่ นิสัยสั ใฝ่การเรียนรู้ ตลอดชีวิตวิ ลักลัษณะ สำ คัญคั ลดการถ่ายทอด ความรู้ จากผู้สผู้อนสู่ผู้เรียน ลงมือกระทำ มากกว่านั่งนั่ฟังฟั เพียพีงอย่าย่งเดียดีว มีส่มี ส่วนร่วร่ม ในกิจกรรม สำ รวจเจตคติ และคุณคุค่า ที่มีที่อมียู่ใยู่นผู้เรียน พัฒพันาการ คิดคิระดับดัสูงสู ข้อข้มูลป้อนกลับลั การสะท้อท้นความคิด ผู้เรียนและผู้สผู้อน


Idea ความท้าท้ทายด้านการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ในการเตรียมนักนัเรียน ให้พห้ร้อมกับกั ชีวิตวิ ในศตวรรษที่ 21 เป็นเรื่อรื่งสำ คัญคัของกระแสการปรับรั เปลี่ยลี่นทางสังสัคมที่เที่กิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีวิ กถีารดำ รงชีพของ สังสัคมอย่างทั่วทั่ถึงถึครูจึรูงจึต้อต้งมีคมีวามตื่นตื่ตัวตัและเตรียมพร้อมในการจัดจัการ เรียนรู้เพื่อพื่เตรียมความพร้อมให้นัห้กนัเรียนมีทัมีกทัษะสำ หรับรัการออกไปดำ รง ชีวิตวิ ในโลก นั่นนั่คือคืทักทัษะการเรียนรู้ (Learning Skill) ที่ส่ที่ ส่งผลให้มีห้กมีาร เปลี่ยลี่นแปลงการจัดจัการเรียนรู้เพื่อพื่ให้เด็กด็ มีคมีวามรู้ ความสามารถ และ ทักทัษะจำ เป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปรูเปลี่ยลี่นแปลงรูปรูแบบการจัดจัการ เรียนการสอน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ทักทัษะการคิดอย่างมี วิจวิ ารณญาณและ การแก้ปัญหา 1. 2. ทักทัษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ 3. ทักทัษะการสื่อสาร 4. ทักทัษะการทำ งานเป็นทีมที


การจัดจัการเรียรีนรู้ผ่รู้ ผ่ านโครงงาน 4. ขั้นประเมินผล การวัดและประเมินผลตามสภาพ จริง โดยให้บรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำ หนดไว้ใน แผนการจัดการเรียนรู้ โดยมีผู้สอน ผู้เรียนและเพื่อน ร่วร่มกันประเมิน 1. ขั้นนำ เสนอ ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาใบความรู้ กำ หนด สถานการณ์ศึกษาสถานการณ์เล่นเกม ดูรูปภาพ หรือผู้สอน ใช้เทคนิคการตั้งคำ ถามเกี่ยวกับสาระการเรียนรู้ที่กำ หนดใน แผนการจัดการเรียนรู้แต่ละแผน เช่นช่สาระการเรียนรู้ตาม หลักสูตรและสาระการเรียนรู้ที่เป็นขั้นตอนของโครงงานเพื่อ ใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการเรียนรู้ 2. ขั้นวางแผน ผู้เรียนร่วร่มกันวางแผน โดยการระดม ความคิด อภิปรายหารือข้อสรุปของกลุ่ม เพื่อใช้เป็น แนวทางในการปฏิบัติ 3. ขั้นปฏิบัติบั ติผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม เขียนสรุปรายงาน ผลที่เกิดขึ้นจากการวางแผนร่วร่มกัน STEP 1 การเตรียรีม ความพร้อร้ม STEP 2 การคิด และเลือก หัวหัข้อ STEP 3 การเขียขีน เค้าโครง STEP 4 การปฏิบัติบั ติ โครงงาน STEP 5 การนำ เสนอ โครงงาน STEP 6 การประเมินผล โครงงาน ขั้นตอน การจัดการเรียรีนรู้ PBL เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำด้ ทำงานตามระดับดัทักทัษะที่ตที่นเองมีอยู่ เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning) เป็นเรื่องที่ผู้ที่ผู้เรียนสนใจและรู้สึกสบายใจที่จที่ะทำ ผู้เรียนเลือกว่าจะตั้งตั้คำ ถามและต้องการผลผลิตด้วด้ยตนเอง ครูเป็นผู้สผู้นับสนุนอุปกรณ์ จัดจัประสบการณ์ มีฐานจากการวิจัวิ ยจั ศึกษา ค้นคว้า หรือองค์ความรู้ที่เที่คยมี มีเวลามากพอเพียพีงในการสร้างผลงานและมีผลผลิต เชื่อมโยงกับกั ชีวิตวิ จริง และสิ่งแวดล้อมจริง ผู้เรียนกำ หนดการเรียนรู้ของตนเอง ใช้แหล่งข้อข้มูล หลายแหล่ง และสร้างแรงจูงใจ ผู้เรียนวางแผนดำ เนินการ ศึกษาค้นคว้าข้อข้มูลด้วด้ยตนเองโดยผู้สผู้อนมีบทบาทเป็น ผู้ใผู้ห้คำ ปรึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนนำ เสนอแนวคิด การออกแบบชิ้นงานพร้อมให้เหตุผลประกอบ จากการค้นคว้า ให้ผู้สผู้อนพิจพิ ารณาร่วมกับกั การอภิปรายในชั้นชั้เรียน จากนั้นผู้เรียนลงมือปฏิบัติบั ติทำ ชิ้นงานและส่งความคืบหน้าตามกำ หนด การประเมินผลจะประเมินตามสภาพจริง โดยมี เกณฑ์การประเมินกำ หนดไว้ล่วงหน้าและแจ้งให้ผู้เรียนทราบก่อนลงมือทำ โครงการและ มีการเชิญผู้ทผู้รงคุณวุฒิร่วมประเมินผล ซึ่งมีลักลัษณะสำ คัญคัดังดันี้ มี 4 ขั้นขั้ตอน


ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กย์ลางของการเรียนรู้อย่างแท้จท้ริง (student-centered learning จัดจัผู้เรียนเป็นกลุ่มลุ่ย่อย่ย ๆ ให้มีจำ นวนกลุ่มลุ่ละประมาณ 5–8 คน ผู้สผู้อนทำ หน้าที่ เป็นผู้อำผู้ อำนวยความสะดวก (facilitator) หรือผู้ใผู้ห้คำ แนะนำ (guide) ใช้ปัญหาเป็นตัวตักระตุ้น (สิ่งเร้า) ให้เกิดการเรียนรู้ ผู้เรียนเป็นผู้แผู้ก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อข้มูลใหม่ ๆ ด้วด้ยตนเอง (self-directed learning) การประเมินผล ใช้การประเมินผลจากสถานการณ์จริง (authentic assessment) ดูจาก ความสามารถในการปฏิบัติบัขติองผู้เรียนในขณะทำ กิจกรรมการเรียนรู้(Learning process) และพิจพิ ารณาจากผลงานที่เที่กิดขึ้นจากการเรียนรู้ (Learning product) เป็นการสอนที่ส่ที่ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดจากเรียนรู้ตามวัตวัถุประสงค์ที่กำที่ กำหนด ด้วด้ยการศึกษา ปัญหาที่สที่มมุติขึ้ติขึ้นจากความจริง แล้วผู้สผู้อนกับกัผู้เรียนร่วมกันกัวิเวิคราะห์ปัญหา เสนอวิธีวิ แธีก้ปัญหา หลักลัของการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน คือ การเลือกปัญหาที่สที่อดคล้องกับกัเนื้อหาการสอนและ กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดคำ ถาม วิเวิคราะห์ วางแผนกำ หนดวิธีวิ แธีก้ปัญหาด้วด้ยตนเอง โดยผู้สผู้อนมี บทบาทให้คำ แนะนำ แก่ผู้ก่ ผู้เรียนขณะลงมือแก้ปัญหา สุดท้าท้ยเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแก้ปัญหา ผู้สผู้อนและผู้เรียนร่วมกันกั สรุปผลการแก้ปัญหา และแลกเปลี่ยลี่นเรียนรู้ถึงถึสิ่งที่ไที่ด้จด้ากการลงมือ แก้ปัญหา ซึ่งมีลักลัษณะสำ คัญคัดังดันี้ กำ หนดปัญหา ทำ ความเข้าใจ กับปัญหา ดำ เนินการ ศึกษาค้นคว้า สังเคราะห์ความรู้ สรุปและ ประเมินค่าคำ ตอบ นำ เสนอและ ประเมินผลงาน


เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สที่ามารถถักถัทอความรู้ทักทัษะกระบวนการและค่านิยมอย่าง กลมกลืน ในกระบวนการขั้นขั้ต่าง ๆ โดยไม่ติม่ดติ กับกัเนื้อหาวิชวิ าจึงจึสามารถนำ ไปใช้ได้กัด้บกัทุก วิชวิ าและการเรียนรู้ที่ต้ที่ ต้องใช้ศาสตร์ต่าง ๆ มาสัมสัพันพัธ์กันกั เริ่มจากคำ ถามเพื่อพื่กระตุ้นผู้เรียนให้สังสัเกต สงสัยสักระตุ้ เริ่มจากคำ ถามเพื่อพื่กระตุ้นผู้เ ผู้รียนให้สังสัเกต สงสัยสักระตุ้นตุ้ ความสนใจ ตระหนันันักนั ใน ปัญหา ตั้งตั้สมมุติฐติ าน ตั้งตั้ข้อข้ สงสัยสัเพื่อพื่รวบรวมข้อข้มูลที่เที่กี่ยวข้อข้ ปัญหา ตั้งตั้สมมุติฐติ าน ตั้งตั้ข้อข้ สงสัยสัเพื่อพื่รวบรวมข้อข้มูลที่เที่กี่ยวข้อข้งมาคัคัดคัคั เลืลืลือลื ก และจัจัดจัจัเก็ก็ก็ก็บ เพื่อพื่นำ ไปสู่การกระทำ ให้เกิดความหมายต่ เพื่อพื่นำ ไปสู่การกระทำ ให้เกิดความหมายต่อต่ ไป เป็นการจัดจักระทำ ข้อข้มูล โดยใช้แผนภาพความคิดมาช่วยจัดจัความคิดให้ เป็นการจัดจักระทำ ข้อข้มูล โดยใช้แผนภาพความคิดมาช่วยจัดจัความคิดให้เป็ป็ป็ป็นระบบ เช่น การจำ แนก จัดจัลำ ดับดัเชื่อมโยงสัมสัพันพัธ์ และเชื่อมโยงสู่โครงสร้ เช่น การจำ แนก จัดจัลำ ดับดัเชื่อมโยงสัมสัพันพัธ์ และเชื่อมโยงสู่โครงสร้างความดีดีดีดีคุคุคุณคุธรรม จริยธรรม และค่านิยมเชิงบวก นำ ไปสู่การออกแบบ สร้ จริยธรรม และค่ างทางเลือก ตัดตั สินใจ และค่านิยมเชิงบวก นำ ไปสู่การออกแบบ สร้างทางเลือก ตัดตั สินใจ และ วางแผนขั้นขั้ตอนการปฏิบัติบังติ านที่มีที่ มีประสิทธิภธิาพ เพื่อพื่นำ ไปสู่ วางแผนขั้นขั้ตอนการปฏิบัติบังติ านที่มีที่ มีประสิทธิภธิาพ เพื่อพื่นำ ไปสู่ความสำสำสำสำ เร็ร็ร็ร็จ เขีขีขียขี นขั้ขั้ขั้ขั้นขั้ขั้ ตอนการปฏิฏิฏิฏิบับัติติบับังติติาน และลงมืมืมือมืทำทำทำทำ จริริริริง โดยมีมีมีกมีารตรวจสอบเพื่พื่อพื่พื่พื่แก้ก้ปัญหาหรือพัฒพันาก้ปัญหาหรือพัฒพันา ให้เกิดผลดีกดีว่าเดิมดิ ในแต่ละขั้นขั้ตอน สรุปเป็นความรู้ ให้เกิดผลดีกดีว่รู้ความคิดรวบยอด แบบแผนหลักลัการ และว่าเดิมดิ ในแต่ละขั้นขั้ตอน สรุปเป็นความรู้ ความคิดรวบยอด แบบแผนหลักลัการ และ นำ กระบวนการ ทักทัษะ และหลักลัการไป ขยายความรู้สู่ท้อท้งถิ่นถิ่และสังสัคมที่กที่ว้ นำ กระบวนการ ทักทัษะ และหลักลัการไป ขยายความรู้สู่ท้อท้งถิ่นถิ่และสังสัคมที่กที่ว้างไกลออกไปจนถึถึงถึถึ ระดัดับดัดัโลก นำ ร่อร่งรอยการคิด การคิดสร้างสรรค์ที่หที่ลอมรวมคุณธรรม ค่ นำ ร่อร่งรอยการคิด การคิดสร้างสรรค์ที่หที่ลอมรวมคุณธรรม ค่าค่นินินินิยมเชิชิชิชิงบวก ร่อร่งรอยการทำ งาน การแก้ปัญหา จนเกิดผลงานที่มีที่ มีคุณภาพกว่าเดิมดิ มีคุณค่ามากกว่ ร่อร่งรอยการทำ งาน การแก้ปัญหา จนเกิดผลงานที่มีที่ มีคุณภาพกว่ าเดิมดิ ว่าเดิมดิ มีคุณค่ามากกว่าเดิมดิ จนสามารถสรุรุรุปรุเป็ป็ป็ป็นหลัลักลัลั การ นำนำนำนำ เสนอเป็ป็ป็ป็นรายงาน การอภิภิภิปภิราย การบรรยาย เอกสาร เผยแพร่ จัดจัทำ เป็น Video Presentation หรือเผยแพร่ผ่ร่ ผ่ เผยแพร่ จัดจัทำ เป็น Video Presentation หรือเผยแพร่ผ่ร่าผ่น Website เป็นการพัฒพันาการประเมินเชิงระบบเพื่อพื่ ให้ เป็นการพัฒพันาการประเมินเชิงระบบเพื่อพื่ ให้เห็ห็ห็นห็ จุจุจุดจุอ่อ่ออ่ อ่นจุจุจุดจุแข็ข็ข็ข็งของกลไก ทีทีมทีทีงานและตนเอง เพื่อพื่ ปรับรั ปรุงแก้ไข และปรับรัเพิ่มพิ่ คุณค่าด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่ เพื่ านิยมที่จที่ะขยายประโยชน์ อพื่ปรับรั ปรุงแก้ไข และปรับรัเพิ่มพิ่ คุณค่าด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่จที่ะขยายประโยชน์ คุณค่ คุ ค่าค่ ให้ห้ห้ถึห้ถึงถึถึสัสังสัสัคมทุทุทุกทุมิมิมิมิติติติติทั้ทั้ทั้งทั้ทั้ทั้เศรษฐกิกิกิกิจ สัสังสัสัคม ความเป็ป็ป็ป็นพลเมืมืมือมืง ความเป็ป็ป็ป็นพลโลก สิ่สิ่สิ่สิ่งแวดล้ล้ล้อล้ มโลก จนตกผลึลึลึกลึ เป็ป็ป็ป็นตัตัวตัตัตนกลายเป็ป็ป็ป็นบุบุบุคบุลิลิลิกลิ มีมีมีเมีหตุตุตุผตุล รัรักรัรั ษ์ษ์สิ่งแวดล้อม สังสัคม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตษัริย์ษ์สิ่งแวดล้อม สังสัคม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตษัริย์ ตรงตามสมรรถนะสำสำสำสำ คัคัญคัคั คุคุคุณคุลัลักลัลั ษณะอัอันอัอั พึพึงพึพึประสงค์ค์ค์ ค์ และตัตัวตัตัชี้ชี้ชี้ชี้วัวัดวัวั ครอบคลุลุลุมลุทั้ทั้ทั้งทั้ทั้ทั้หลัลักลัลั สูสูสูตสูรแกนกลาง การศึศึศึศึกษาขั้ขั้ขั้ขั้นขั้ขั้ พื้พื้พื้นพื้พื้พื้ ฐาน พุพุพุทพุธศัศักศัศัราช 2551 หลัลักลัลั สูสูสูตสูรโรงเรีรีรียรี นมาตรฐานสากล และความเป็ป็ป็ป็นพลโลก ในศตวรรษที่ 21 อย่ ในศตวรรษที่ างสมบูรณ์ที่21 อย่างสมบูรณ์


การจัดจักิจกรรมการเรียรีนรู้ที่รู้จัที่ดจัให้ผู้ห้ ผู้เรียรีนได้นำด้ นำเสนอข้อข้มูลมูที่ไที่ด้จด้าก ประสบการณ์และการเรียรีนรู้ เพื่อพื่ยืนยืยันยัแนวคิดคิของตนเองหรือรืกลุ่มลุ่ โดยผู้สผู้อน กำ หนดหัวหัข้อข้หรือรืประเด็นด็ ฝึกการทำ งานเป็นกลุ่มลุ่แบ่งกลุ่มลุ่ เพื่อพื่ให้สห้มาชิกแต่ละ กลุ่มลุ่ ไปค้นค้ คว้าหาข้อข้มูลมูเพื่อพื่ใช้สำ หรับรันำ เสนอหน้าชั้นชั้เรียรีน ฝึกซ้อมและ เตรียรีมตัวตัด้านการพูดพูนำ เสนอ เป็นการฝึกฝนด้านความคิดคิและฝึกทักทัษะการพูดพู ให้ผู้ห้ ผู้อื่ผู้นอื่เข้าใจ การออกเสียสีง สำ เนียงการพูดพูให้ผู้ห้ ผู้อื่ผู้นอื่ สนใจ คล้อล้ยตาม และแฝง ไปด้วด้ยความสนุกนุสนาน เตรียมประเด็นด็ การอภิปราย/ญัตญัติ ซึ่งประเด็นด็ ที่ยัที่งยัไม่มีม่ มีข้อข้ สรุป จัดจัทำ รายละเอียอี ดเกี่ยกี่วกับกั บทบาทหน้าที่ เตรียมสื่อการเรียนรู้และแหล่งข้อข้มูล ที่เที่กี่ยกี่วข้อข้งกับกัญัตญัติ ทบทวนประเด็นด็ สำ คัญคัที่ไที่ด้เรียนรู้ รวมกลุ่มลุ่ตามความสมัคมัรใจ ศึกษารายละเอียอี ดเกี่ยกี่วกับกั การเรียนรู้ด้วด้ยการโต้วาที (Debate) มาล่วงหน้า(ครูมอบหมาย) 1. เปิดญัตญัติ 2. การอภิปราย แบบโต้วต้าที 3. การสรุปญัตญัติ และประเด็นด็ การเรียนรู้ Video การเรียนรู้แบบโต้วาที


ผู้เรียน ศึกษาวิธีวิ กธีารใช้ช่องทางการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ผู้ที่ผู้สผู้อนกำ หนด เตรียมช่องทางการแลกเปลี่ยลี่นเรียนรู้ ผู้สผู้อน เตรียมประเด็นด็ คำ ถามหลักลัที่ต้ที่ ต้องการให้ผู้เรียนคิดหา คำ ตอบ การเรียรีนรู้แรู้บบเพื่อพื่นคู่คิดคิ (Think-pair-share) เป็นเทคนิคการสอนที่ กระตุ้นตุ้ ให้ผู้ห้ ผู้เรียรีนมีส่มี ส่วนร่วมในการเรียรีนรู้อรู้ย่างทั่วทั่ถึงถึ ได้เกิดคิดคิหาคำ ตอบด้วด้ย ตนเอง การแลกเปลี่ยลี่นเรียรีนรู้รรู้ะหว่างผู้เรียรีนด้วด้ยกันกัและกระตุ้นตุ้ ให้ผู้ห้ ผู้เรียรีนหา ข้อข้ สรุปรุร่วมกับกัผู้อื่ผู้นอื่อย่างเป็นระบบ โดยกำ หนดขอบเขตการคิดคิและการพูดพูคุยคุ อย่างเป็นลำ ดับดัขั้นขั้ตอน โดยผู้เรียรีนจะจดจ่อและคิดคิตามในประเด็นด็ ที่กำที่ กำลังลัเรียรีนรู้ ได้ตด้รวจสอบความรู้ครู้วามเข้าใจของตนเอง ทำ ให้เข้าใจเนื้อหาที่เที่รียรีนมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ ได้ฝึด้ ฝึกทักทัษะการสื่อสื่ สารด้วด้ยเหตุผตุล กล้าแสดงความคิดคิเห็นห็ ฝึกการคิดคิวิเวิคราะห์ และสังสัเคราะห์คำห์ คำตอบจากการแลกเปลี่ยลี่นความคิดคิเห็นห็ กับกัผู้อื่ผู้นอื่ เตรียมคำ ถามกระตุ้นในระหว่างที่ผู้ที่ผู้เรียนแลกเปลี่ยลี่นเรียนรู้ กับกัผู้เรียนคนอื่นอื่ๆ Video การเรียนรู้ การกำ หนดประเด็นด็ ที่ต้ที่อต้งการอภิปราย การคิดหาคำ ตอบ และการแลกเปลี่ยลี่น ความคิด การนำ เสนอข้อข้สรุป จากการแลกเปลี่ยลี่น ชี้แจงวั ความคิดเห็น ตวัถุประสงค์ ตั้งตั้คำ ถาม ผู้เรียนคิดหาคำ ตอบ ผู้เรียนเขียนคำ ตอบ ของตนเอง ผู้เรียนแลกเปลี่ยลี่นคำ ตอบ ของตนเองกับกัผู้เรียนคนอื่นอื่ ร่วมกันกัหาความเชื่อมโยง และข้อข้ สรุปร่วมกันกั ผู้สผู้อนตั้งตั้คำ ถามกระตุ้น ชวนให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยลี่น เรียนรู้ร่วมกันกั นำ เสนอคำ ตอบที่เที่ป็น ข้อข้ สรุปร่วมกันกั ผู้สผู้อนสรุปคำ ตอบของผู้เรียน ผู้สผู้อนเพิ่มพิ่เติมติ ประเด็นด็ ที่ผู้ที่ผู้เรียนยังยัไม่เข้าใจ หรือยังยัเข้าใจไม่คม่รอบคลุม การจัดจัการเรียนรู้


1. การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) เป็นการประเมินด้วด้ยวิธีวิ กธีารที่ หลาก หลาย เพื่อพื่ ให้ได้ผด้ลการประเมินที่สที่ะท้อท้นความสามารถที่แที่ท้จท้ริงของผู้เรียน จึงจึควรใช้ การประเมินการปฏิบัติบั ติ (Performance Assessment) ร่วมกับกัการประเมินด้วด้ยวิธีวิ กธีารอื่นอื่และกำ หนด เกณฑ์ในการประเมิน (Rubrics) ให้สอดคล้องหรือใกล้เคียคีงกับกั ชีวิตวิ จริง 2. การประเมินการปฏิบัติบั ติ(Performance Assessment) เป็นวิธีวิ กธีารประเมินงานหรือกิจกรรมที่ผู้ที่ผู้ สอนมอบหมาย ให้ผู้เรียนปฏิบัติบังติ านเพื่อพื่ ให้ทราบถึงถึผลการพัฒพันาของผู้เรียน การประเมินลักลัษณะนี้ผู้สผู้อนต้องเตรียมสิ่งสำ คัญคั 2 ประการ คือ ภาระงานและเกณฑ์การประเมิน กิจกรรมที่จที่ะให้ผู้เรียนปฏิบัติบั ติ 3. การประเมินโดยการใช้คำ ถาม (Questioning) คำ ถามเป็นวิธีวิ หธีนึ่งในการ กระตุ้น/ชี้แนะให้ ผู้เรียน แสดงออกถึงถึพัฒพันาการการเรียนรู้ของตนเอง รวมถึงถึเป็นเครื่องมือวัดวัและ ประเมินเพื่อพื่พัฒพันาการเรียนรู้ 4. การประเมินโดยการสนทนา (Communication) เป็นการสื่อสาร 2 ทางอีกอี ประเภทหนึ่งระหว่าง ผู้สผู้อนกับกัผู้เรียน สามารถดำ เนินการเป็นกลุ่มลุ่หรือรายบุคคลก็ได้ โดยทั่วทั่ไปมักมั ใช้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อพื่ติดติตามตรวจสอบว่าผู้เรียน เกิดการเรียนรู้เพียพีงใด เป็นข้อข้มูลสำ หรับรัพัฒพันา 5. การประเมินการสังสัเกตพฤติกรรม (Behavioral Observation) เป็นการเก็บข้อข้มูลจากการดูการ ปฏิบัติบั ติกิจกรรมของผู้เรียนโดยไม่ขัม่ดขัจังจัหวะการทำ งานหรือการคิดของผู้เรียน การสังสัเกตพฤติกติรรมเป็นสิ่ง ที่ทำที่ ทำ ได้ตด้ลอดเวลา แต่ควรมีกระบวนการและจุดประสงค์ที่ชัที่ดชัเจนว่าต้องการประเมินอะไร โดยอาจใช้ เครื่องมือ เช่น แบบมาตรประมาณค่า แบบตรวจสอบรายการ เป็นต้น 6. การประเมินตนเองของผู้เรียน (Student Self-Assessment) การประเมินตนเองนับเป็นทั้งทั้เครื่อง มือประเมิน และเครื่องมือพัฒพันาการเรียนรู้ เพราะทำ ให้ผู้เรียนได้คิด้ คิดใคร่คร่รวญว่าได้เรียนรู้อะไร เรียนรู้ อย่างไร และผลงานที่ทำที่ ทำนั้นดีแดีล้วหรือยังยัการประเมินตนเองจึงจึเป็นวิธีวิ หธีนึ่ง ที่จที่ะช่วยพัฒพันาผู้เรียนให้เป็นผู้เรียนที่สที่ามารถเรียนรู้ด้วด้ยตนเอง 7. การประเมินโดยเพื่อพื่น (Peer Assessment) เป็นเทคนิคการประเมินอีกอีรูปแบบหนึ่งที่น่ที่ น่าจะนำ ไปใช้ เพื่อพื่พัฒพันาผู้เรียนให้เข้าถึงถึคุณลักลัษณะของงานที่มีที่ มีคุณภาพ เพราะการที่ผู้ที่ผู้เรียนจะบอกได้ว่ด้ ว่าชิ้นงานนั้นเป็น เช่นไร ผู้เรียนต้องมีความเข้าใจอย่างชัดชัเจนก่อนว่าเขากำ ลังลัตรวจสอบอะไร ในงานของเพื่อพื่น การประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุก ควรใช้หลักลัการประเมินตามสภาพจริงและนำ ผลการประเมิน มาพัฒพันาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีลักลัษณะดังดันี้ 1) ใช้ผู้ปผู้ระเมินจากหลายฝ่าย เช่น ผู้เรียน เพื่อพื่น ผู้สผู้อน ผู้เกี่ยวข้อข้ง 2) ใช้วิธีวิ กธีารหลากหลายวิธีวิ /ธีชนิด เช่น การสังสัเกต การปฏิบัติบั ติการทดสอบ การรายงานตนเอง 3) ประเมินหลาย ๆ ครั้งรั้ในแต่ละช่วงเวลาของการเรียนรู้ เช่น ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และ สิ้นสุดการเรียน 4) สะท้อท้นผลการประเมินแก่ผู้ก่ ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อข้ง เพื่อพื่นำ ไปสู่การพัฒพันาผู้เรียน


1.นางรัตรัติกติร ทองเนตร ผู้อำผู้ อำนวยการสำ นักงานเขตพื้นพื้ที่กที่ารศึกษา มัธมัยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร 2.พันพัจ่าตรี พิสิพิ สิฐ รักรัพรม รองผู้อำผู้ อำนวยการสำ นักงานเขตพื้นพื้ที่กที่ารศึกษา มัธมัยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร 1.นางวิมวิ ลวรรณ เปี่ยมจาด ผู้อำผู้ อำนวยการกลุ่มลุ่นิเทศ ติดติตาม และประเมินผลการจัดจัการศึกษา 2.นางสาวผดุงพร ธรรมดา ศึกษานิเทศก์ชำ นาญการพิเพิศษ 3.นางสาวปัณณธร ละโป้ ศึกษานิเทศก์ชำ นาญการพิเพิศษ 4.นายวุฒิชัยชัคำ เสมอ ศึกษานิเทศก์ชำ นาญการพิเพิศษ 5.นางสาวจตุพร พงศ์พีรพีะ ศึกษานิเทศก์ชำ นาญการพิเพิศษ 6.นายณัฐพล พรมลี ศึกษานิเทศก์ชำ นาญการพิเพิศษ


Click to View FlipBook Version