STEAM การจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการ (Best practice) S = วิทยาศาสตร์ T= เทคโนโลยี E= วิศวกรรมศาสตร์ A = ศิลปะ M = คณิตศาสตร์
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ฉบับแกนกลางปี 2560 ได้ให้จุดมุ่งหมายว่าควรพัฒนาเด็กอย่างองค์รวม ให้เด็กมีทักษะความคิด การใช้ภาษา สื่อสารและการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัยรวมทั้งจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิตได้ลงมือกระทำ ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ เรียนรู้ ดังนั้นนวัตกรรม STEAM จึงเป็นนวัตกรรมที่ครูผู้สอนได้นำ มาใช้เพราะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จำ เป็นอย่างยิ่งที่เด็กจะสร้าง องค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้ทันยุคสมัย การจัดการเรียนรู้ STEAM จึงเป็นการสอนบนพื้นฐานพัฒนาการตามวัย สอดแทรกการใช้เทคโนโลยี ในการสอนเด็ก มีเจตนาที่ดีต่อการเรียนรู้ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้โดยการใช้การสอนแบบบูรณาการ STEAM เข้าด้วยกันและเป็นการ พัฒนาเด็กอย่างองค์รวม เด็กได้ลงมือกระทำ ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เรียนรู้ผ่านสิ่งรอบตัวเด็กมีการกระตุ้นความคิด สังเกต คิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์และการทำ งานเป็นทีม เรียกได้ว่าการเรียนรู้แบบนี้ เด็กๆจะได้พัฒนาอย่างองค์รวมตอบโจทย์ของหลักสูตรปฐมวัยว่าด้วยการ พัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ความสำ คัญของการพัฒนา " นวัตกรรม "
สตรีมศึกษา (STEAM EDUCATION) เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการ วิชา วิทยาศาสตร์(Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ศิลปะ (Arts) และ คณิตศาสตร์(Mathematics) เข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้และสามารถพัฒนา องค์ความรู้ที่ได้ ไปพัฒนาจนเกิดทักษะในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นำ ความรู้ไปใช้แก้ปัญหา ในชีวิตจริงเป็นประโยชน์ต่อการดำ เนินชีวิตและการทำ งานช่วยให้เด็กสร้างความเชื่อมโยงกันในโลกของ ความเป็นจริง ที่ต่อยอดองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันโดยเน้นพัฒนาเด็กอย่างองค์รวม เน้นการนำ ความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งพัฒนากระบวนการ และการเรียนรู้ยังเชื่อม 5 วิชา เข้ากับการเรียนรู้อีกด้วย หลักการแนวคิด
(1) เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ (2) ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 5 กับชีวิตประจำ วัน (3) เน้นการพัฒนาทักษะ (4) ท้าทายความคิดของนักเรียน (5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหา (6) ช่วยให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำ ผลงาน (7) ช่วยให้เด็กมีทักษะในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (8) ช่วยให้เด็กสามารถศึกษาค้นคว้าสิ่งที่ตนเองสงสัยได้ด้วยตนเอง 3.จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดำ เนินงาน
1.เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ
2.ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 5 กับชีวิตประจำ วันและการทำ อาชีพ
(3) เน้นการพัฒนาทักษะ
(4) ท้าทายความคิดของนักเรียน
(5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหา
(6) ช่วยให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำ ผลงาน
(7) ช่วยให้เด็กมีทักษะในการแก้ไขปัญหาอย่าง สร้างสรรค์
8) ช่วยให้เด็กสามารถศึกษาค้นคว้าสิ่งที่ตนเองสงสัยได้ ด้วยตนเอง
4.1 การดำ เนินงาน มีหน้าที่รับผิดชอบ ครูอนุบาลในโรงเรียน มีการคิดหลักเกี่ยวกับการจัดการศึกษาที่มุ่ง พัฒนาเด็กทุกคนให้ได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ หรือลงมือทำ ความรู้ซึ่ง “ ที่เกิดขึ้นก็เป็นความรู้ที่ได้จาก ประสบการณ์กระบวนการในการ จัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องได้มีโอกาสลงมือกระทำ มากกว่าการฟัง เพียงอย่างเดียวต้องจัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้การเรียนรู้โดยผ่านงานศิลปะต่างๆ และการวิเคราะห์ปัญหาอีกทั้ง ให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิด ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมายโดยการร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ทำ ให้ผู้ เรียนเกิด ความกระตือรือร้น ในการจะทำ กิจกรรมต่างๆมากขึ้นอย่างหลากหลาย ได้ส่งผลการพัฒนาการร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา 4.วิธี วิ ก ธี ารดำ เนิน นิ การ
4.2การดำ เนินงานในแต่ละกิจกรรมตามขอบเขตที่กำ หนด มีการดำ เนินงานแบบบูรณาการ จัดประสบการณ์การ เรียนรู้อย่างมีความสุข เหมาะสมกับทักษะชีวิต และมีการร่วมมือระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และ ทุกฝ่ายที่ต้องเกี่ยวข้องกับพัฒนาการเด็ก มีการวางแนวทางปฏิบัติในการดำ เนินงานกิจกรรมนั้นๆอย่างชัดเจน ทำ ให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสร็จตามระยะเวลา ตัวอย่างเช่น การจัดทำ แผนการสอน การนิเทศ
4.3 ดำ เนินงานจัดทำ รายงานเสนอให้จัดทำ รายงานผลปัญหาอุปสรรค และการดำ เนินงานผู้บริหารให้ข้อเสนอ แนะและแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อให้การดำ เนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ของรูปแบการ สอนแบบSTEAM 4.4 การเผยแพร่ข้อมูลการจัดกิจกรรมลงในเพจโรงเรียน และใน FaceBook ,Line กลุ่ม -เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ในการดำ เนินงานของกิจกรรม -เพื่อให้การดำ เนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการที่กำ หนดไว้ ที่สำ คัญผู้ปกครองยังสามารถนำ ไปต่อยอดกิจกรรมให้กับบุตรหลานที่บ้านได้
จุดเด่น สตรีมศึกษา (STEAM EDUCATION) เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการ วิชา วิทยาศาสตร์(Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ศิลปะ (Arts) และ คณิตศาสตร์(Mathematics) เข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้และพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21มีทักษะชีวิต มีทักษะการคิดการใช้ภาษาสื่อสารและการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัยและนำ ความรู้ที่ได้ไป พัฒนาจนเกิดทักษะในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอีกด้วย
จุดด้อย การจัดการเรียนการสอนแบบ STEAM จำ เป็นต้องอาศัยสื่ออุปกรณ์ในการสอนอย่างเพียงพอและสภาพแวดล้อม ต้องเอื้ออำ นวยต่อการเรียนรู้อีกด้วย สื่อ เทคโนโลยีควรทันสมัยเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้แบบประสบผลสำ เร็จ
Thank You ขอบคุณ คุ ค่ะ