The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการจัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ 64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by PANTHIDA_1994, 2021-08-25 22:25:50

รายงานผลการจัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ 64

รายงานผลการจัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ 64

บนั ทกึ ขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรยี นบ้านสระแก้ว อำเภอพนมดงรกั จงั หวดั สุรนิ ทร์

ท.ี่ .............../๒๕๖๔ วันที่ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔

เรือ่ ง โครงการวันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสระแก้ว

ข้าพเจ้า นางสาวปานธิดา เทพนา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี โรงเรยี นบา้ นสระแก้ว รบั ผิดชอบโครงการวันวทิ ยาศาสตร์ ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ เพื่อเป็นการ
เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และ
เพื่อเป็นการส่งเสริม พัฒนาความรู้ ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักเรียน รวมทั้งเป็นการกระต้นุ ให้
นกั เรียนมเี จตคติทดี่ ีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ มีความสนใจและใฝศ่ กึ ษาหาความรูต้ ามกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ใหม้ ากข้นึ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์วันหว่างวันที่ ๑๖-๒๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ
๒๕๖๔ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา (Covid ๑๙) โดยมีมผี ูเ้ ขา้ ร่วมทำแบบทดสอบ
ออนไลน์ จำนวนทั้งสิ้น 124 ครั้ง และมีผู้ส่งภาพถ่ายเข้าร่วมกิจกรรมหนูน้อยรักษ์โลก จำนวนทั้งสิ้น 22 คน
บัดนี้การดำเนินโครงการดังกลา่ วเสร็จสิ้นและบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นท่ีเรียบร้อยแลว้ ดังนั้น จึงใคร่ขอสรุป
และรายงานผลการจัดโครงการดังกล่าว ดังเอกสารทีแ่ นบมาพรอ้ มน้ี

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบและพจิ ารณา

ลงชอ่ื ………………………………………….
(นางสาวปานธดิ า เทพนา)
ครผู ู้ช่วย

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะผู้อำนวยการโรงเรียน
……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………….
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ........................................
(นายพันธวัช สมบูรณ์)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นสระแกว้

คำนำ

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านสระแก้ว ตำบลโคกกลาง อำเภอ
พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการจัดโครงการวันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ โดยการจัด
กิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์วันหว่างวันที่ ๑๖-๒๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ ๒๕๖๔ เนื่องจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid ๑๙) และได้ดำเนินการสรุปเป็นรูปเล่ม เพื่อแสดง
ความชดั เจนของการจดั กจิ กรรมในคร้ังน้ี ทบ่ี รรลุตามเปา้ หมายและประเมินผลเป็นท่เี รียบร้อย

ขอขอบคณุ คณะครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาทุกทา่ น ทไ่ี ดใ้ ห้ความรว่ มมอื ในการจัดกิจกรรมคร้ังน้ี
สำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี

(นางสาวปานธิดา เทพนา)
ครูกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โรงเรยี นบา้ นสระแกว้
๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔

สารบัญ หนา้

คำนำ ๑
สารบัญ ๑
บทที่ ๑ บทนำ ๑

- หลกั การและเหตผุ ล ๒
- วัตถปุ ระสงค์ ๒
- เป้าหมายของโครงการ ๒
- ระยะเวลาดำเนนิ การ ๒
- ผูร้ ับผดิ ชอบ ๓
- ปฏทิ ินปฏบิ ตั ิงาน ๓
- งบประมาณ ๔
- การติดตามประเมนิ ผล ๔
- ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รบั ๕
บทท่ี ๒ หลกั การ แนวคดิ ทฤษฎี ท่ีเก่ยี วข้อง ๙
- ประวัตวิ นั วิทยาศาสตร์ ๙
- ทฤษฎเี ก่ยี วกบั การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ๙
บทท่ี ๓ วธิ ดี ำเนนิ การ ๙
- ขนั้ ศกึ ษา ๙
- ข้ันเตรียมการ ๑๐
- ขน้ั ดำเนินการ ๑๐
- ข้ันสรุปและรายงานผล ๑๑
บทที่ ๔ ผลการดำเนนิ การ ๑๑
- ผลการดำเนนิ การจัดกจิ กรรม ๑๑
บทท่ี ๕ สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ๑๑
- สรปุ ผลการดำเนินงานโครงการ
- การอภิปรายผล
- ข้อเสนอแนะ

ภาคผนวก
โครงการ
รูปกจิ กรรม

บทที่ ๑
บทนำ

๑. หลกั การและเหตุผล
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรการศึกษาของประเทศ มี

จุดประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสามารถในการ
แข่งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่กับผู้อื่นอย่างมีความสุข
บนพื้นฐานของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมทง้ั มีความสามารถในการประกอบอาชีพ หรือศึกษาต่อ
ตามความถนัด ความสนใจ และความสามารถของแต่ละบุคคล ตลอดจนการวัดผลและประเมินผลการเรียน
ตาม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เน้นวิธีการวัดผลจากสภาพจริง โดยเน้นการ
แสดงออกของผเู้ รียน ให้สอดคลอ้ งกบั คุณลักษณะ
ความสามารถท่พี ึงประสงค์ ดว้ ยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย

จากการดำเนินโครงการพัฒนาการเรียนการสอนที่ผ่านมาพบว่าในการจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอนยังต้องมีวัสดุอุปกรณ์จำเป็นในการดำเนินงานประจำและยังต้องมีส่วนที่พัฒนาขึ้นอีก เพื่อให้การจัดการ
เรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ จึงเสนอโครงการนีข้ ึ้นมาเนื่องจากวันที่ ๑๘ สิงหาคมของทุกปีเป็น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ”
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรง
คำนวณการเกิดสุรยิ ุปราคาที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธเ์ มื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๔๑๑ โดยไม่
คลาดเคลอื่ นแมแ้ ตว่ ินาทเี ดยี ว ซง่ึ เป็นการพสิ จู น์
ผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจยิ่งของประเทศชาติไทย ทางสถาบันศึกษาจะมีการจัด
กิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนกิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ นำเสนอความรู้และ
นันทนาการตา่ งๆ

และจากการจัดกิจกรรมที่ผ่านมาพบว่านักเรียนให้ความสนใจและอยากให้มีกิจกรรมดังกล่าวมี
การจัดขึ้นอีกกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านสระแก้วจึงจัดโครงการวันวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนา
กระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิชาต่างๆ พร้อมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ ทำให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและนำความรู้ไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันไดจ้ ริง

๒. วตั ถปุ ระสงค์
๒.๒ เพ่ือจัดนิทรรศการแสดงความรแู้ ละผลงาน ความสามารถของนกั เรียน ด้านวิทยาศาสตร์
๒.๒ เพื่อแขง่ ขันทกั ษะทางวชิ าการดา้ นวิทยาศาสตร์
๒.๓ เพ่ือให้นักเรยี นเกิดความสนุกสนานควบคกู่ ับการได้รบั ความร้ใู นสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์
๒.๔ เพอ่ื ฝกึ ใหน้ กั เรยี นไดร้ ว่ มกนั คดิ อยา่ งมรี ะบบ คิดอย่างมีเหตุผลตามหลกั การวทิ ยาศาสตร์

๓. เป้าหมาย

๓.๑ เชงิ ปริมาณ
๓.๑.๑ รอ้ ยละ ๘๐ ของครู นักเรยี นเข้ารว่ มชมนิทรรศการ ผลงานและความสามารถของ
นักเรยี น
๓.๑.๒ รอ้ ยละ ๘๐ ของครู นักเรยี นเข้ารว่ มแข่งขันทักษะทางวชิ าการด้านวทิ ยาศาสตร์

๓.๒ เชงิ คุณภาพ
๓.๒.๑ นกั เรียนเกดิ ความสนุกสนานควบคู่กับการไดร้ บั ความรใู้ นสาระการเรยี นรู้

วิทยาศาสตร์
๓.๒.๒ นักเรียนไดร้ ่วมกนั คิดอยา่ งมีระบบ คิดอยา่ งมเี หตุผลตามหลักการวิทยาศาสตร์

๔. ระยะเวลาดำเนินการ ตลอดปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
๕. ผูร้ บั ผิดชอบ

จำนวนข้าราชการ……… ๑….……(คน)
๖. หน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง………………………………-………………………………………………

๗. ปฏทิ ินปฏิบตั ิงาน ( ระบวุ นั เดือน ปีทีช่ ัดเจนเพ่ือใชท้ ำปฏิทนิ ปฏิบตั ิงาน )

ท่ี กจิ กรรม งบประมาณ ผูร้ ับผิดชอบ หมายเหตุ

๑ จัดนทิ รรศการแสดงความร้แู ละผลงาน - ครกู ลุม่ สาระ

ความสามารถของนักเรียน ดา้ น วิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์

๒ แขง่ ขันทักษะทางวิชาการดา้ น - ครกู ลุ่มสาระ

วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์

รวม -

๘. งบประมาณ งบ เงนิ งบประมาณ (บาท) เงินงบประมาณ
ที่ กจิ กรรม บุคลากร ในงบฯ นอกงบฯ
ตอบ วัสด/ุ ครุภัณฑ์ ปรับปรุง
๑ จัดนทิ รรศการแสดงความรู้ แทนใช้ อปุ กรณ์
และผลงาน ความสามารถ สอย
ของนักเรยี น ด้าน
วทิ ยาศาสตร์

๒ แข่งขนั ทักษะทางวชิ าการ
ด้านวิทยาศาสตร์

๙. การติดตามประเมนิ ผล วธิ กี ารประเมิน เครือ่ งมือ

ตัวบ่งชค้ี วามสำเร็จ สงั เกตการเข้าร่วมกิจกรรม แบบสังเกตเข้าร่วม

๑๖.๑ นกั เรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมจดั นิทรรศการแสดง กจิ กรรม
ความรแู้ ละผลงาน ความสามารถของนกั เรยี น ด้าน
วิทยาศาสตร์ การเขา้ รว่ มแขง่ ขนั ทกั ษะ ใบลงทะเบยี นเขา้ รว่ ม
แข่งขันทกั ษะ
๑๖.๒ นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแขง่ ขันทกั ษะทาง
วิชาการดา้ นวิทยาศาสตร์

๑๐. ผลท่คี าดว่าจะไดร้ บั
๑๐.๑ นกั เรียนมีเวทีแสดงความรู้ ผลงานและความสามารถด้านวิทยาศาสตร์
๑๐.๒ นักเรยี นมเี จตคติที่ดตี ่อการเรียนวทิ ยาศาตร์
๑๐.๓ ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นทางวิทยาศาสตรท์ ส่ี ูงข้ึน

บทท่ี ๒

หลกั การ แนวคดิ ทฤษฎี ที่เกี่ยวขอ้ ง

รายงานการจดั กิจกรรมวนั วทิ ยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ของโรงเรยี นบ้านสระแกว้ ได้
ศึกษาทฤษฎีหลักการเอกสารดงั นี้

๑. ประวตั ิวันวิทยาศาสตร์
๒. ทฤษฎีเกยี่ วกับการพฒั นากระบวนการเรียนรู้เพื่อพฒั นาผ้เู รียน

๑. ประวัติวันวิทยาศาสตร์
วรนุช อุษณกร.(๒๕๔๓) [Online] ได้กล่าวไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่

๔ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถปรับปรุงสยามประเทศให้เจริญทัดเทียม
นานาอารยประเทศ ทรงรบั เอาศิลปวทิ ยาการและความคดิ สมยั ใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ดว้ ย
เหตุน้ีองคก์ ารศกึ ษาวิทยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงไดป้ ระกาศยกย่องพระเกียรติ
คุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ
โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจดา้ นดาราศาสตร์

เนื่องด้วยพระองค์ทรงสนพระทัยวชิ าคณิตศาสตร์และวิชาดาราศาสตร์ในตำราโหราศาสตร์ของไทย
ในที่สุดพระองค์ทรงค้นคิดวิธีการคำนวณปักข์ (ครึ่งเดือนทางจันทรคติ) โดยอาศัยหลักตำราสารัมภ์ของมอญ
เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ (วันพระ) ให้ถูกต้องตามการโคจรของดวงจันทร์ท่ีเรียกว่า ปฏิทิน
ปักขคณนา ย่ิงกว่าน้ัน พระองค์ได้ทรงคิดสูตรสำเร็จในการคำนวณปักข์ออกมาในรูปกระดานไม้สี่เหล่ียมผืนผ้า
มีเครื่องหมายเรียงเป็นแถว ๑๐ แถว แต่ละแถวมีจำนวนต่างกัน และมีเครื่องหมายแทนดวงดาว ๕ ดวง เดิน
เคลื่อนไหวเหนือแถวเหล่านั้นคล้ายกับเดินตัวหมากรุก ก็จะได้วันพระที่ถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ
เรียกว่า กระดานปักขคณนา ปัจจุบันน้ีคณะธรรมยุตยังคงใช้กันอยู่ สิ่งเหล่าน้ีน่าจะเปน็ สาเหตุที่จุดประกายให้
พระองคท์ รงเรม่ิ สนพระทัยในวิชาดาราศาสตรอ์ ย่างจริงจงั

ในพระราชฐานของพระองค์ทั้งที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดจะมีหอดูดาว โดยเฉพาะหอ
ชัชวาลเวยี งไชยนมี้ คี วามสำคัญมากในประวตั ิศาสตรว์ ิชาดาราศาสตรข์ องไทย ดว้ ยมีพระราชประสงค์จะให้เป็น
สถานที่สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในการรักษาเวลามาตรฐานของประเทศไทยต่อไป ดังนั้นหอนี้จึงเป็น
อนุสรณ์แห่งสัมฤทธิผลในทางวิทยาศาสตร์เรื่องระบบเวลา พระองค์ทรงสถาปนาระบบเวลามาตรฐานขึ้นใน
ประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๕ โดยสร้างพระที่นั่งภูวดลทัศไนยขึ้นในพระบรมราชวัง ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวง
บอกเวลามาตรฐานของประเทศไทยสมัยนั้น โดยมีพนักงานตำแหน่งพันทิวาทิตย์ เทียบเวลาตอนกลางวันจาก
ดวงอาทติ ย์ และพนั พินติ จนั ทรา เทียบเวลาตอนกลางคนื จากดวงจนั ทร์

นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงคำนวณเหตุการณ์ล่วงหนา้ ถึง ๒ ปีว่า วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๑
จะเกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงในประเทศไทย ที่ที่จะเห็นเหตุการณ์สุริยุปราคาชัดเจนที่สุดก็คือ หมู่บ้าน
หัววาฬ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรเหตุการณ์
สุริยุปราคาที่นั่น และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพยากรณ์ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาที
เดียว ทางสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์จึงคิดกันว่า น่าจะถือว่าวันนี้
เปน็ วันวิทยาศาสตร์ของไทย ซ่ึงเป็นจุดเรม่ิ ต้นของการกำหนดวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตอ่ มาคณะรัฐมนตรีได้มี
มติในการประชุม เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๕ เพื่อเทอดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า

เจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ ๑๘ สิงหาคมของทุกปีเป็น "วัน
วทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ"

ดังนั้น ในวันที่ ๑๘ สิงหาคมของทุกปี ได้มีการจัดงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นทั่วประเทศ โดย
เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นต้นมา โดยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานเป็นหน่วยงาน
หลักในการจดั รว่ มกับหนว่ ยงานอื่นทีเ่ กี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท้ังภาครฐั และเอกชน ต่อมาในปี
พ.ศ. ๒๕๒๗ งานวันวิทยาศาสตรแ์ ห่งชาติได้รับการขยายให้เป็นงาน "สัปดาหว์ ิทยาศาสตร์แห่งชาติ" ในงานนี้มี
การจดั กจิ กรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย เช่น นทิ รรศการ ผลงานวิจยั ส่ิงประดษิ ฐ์ รวมท้ัง
การแข่งขันโครงการทางวิทยาศาสตร์ และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ท่ี
ไดร้ ับการคัดเลือกใหเ้ ปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ดีเดน่ ในสาขาวิชาต่างๆ อีกดว้ ย

๒. ทฤษฎีเก่ียวกบั การพฒั นากระบวนการเรียนรู้
ทิศนา แขมมณี.(๒๕๕๐) [Online] ทฤษฎีการเรียนรู้เป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ครูจะต้อง

ศึกษากอ่ นการเขยี นแผนการจดั การเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนรูต้ ่าง ๆ จะทำใหค้ รเู ขา้ ใจกระบวนการจดั การเรียนรู้
ซงึ่ จะสง่ ผลโดยตรงกับ ผู้เรยี น ในการจัดการเรียนรู้ถ้าครูศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้ก่อนแลว้ นำแนวคิดจากทฤษฎี
ไปสกู่ ารปฏิบตั ิคือการจัดการเรยี นรู้ จะทำใหก้ ารจัดการเรยี นรบู้ รรลวุ ัตถุประสงค์อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะดีกว่าการ
ทีเ่ ราจัดการเรียนรโู้ ดยไม่มที ฤษฎีรองรับเพราะทฤษฎีตา่ งๆ นัน้ ได้มีการค้นคว้าทดลองจนเป็นทีย่ อมรับ พูดง่าย
ๆ กค็ ือไดผ้ า่ นการพิสูจน์มาแลว้ สามารถนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้เลย ทศิ นา แขมมณี (๒๕๕๐ : ๔๐ - ๑๐๗) ไดส้ รุป
แนวคดิ และแนวปฏิบัติของทฤษฎีการเรียนรู้ไว้ตั้งแตแ่ นวคดิ เก่ียวกบั การกระทำหรือพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งมี
๓ แนวคดิ แนวที่ ๑ เช่ือวา่ พฤติกรรมหรือการกระทำของมนษุ ย์ เกดิ ข้ึนจากแรงกระต้นุ ภายในตนเอง แนวท่ี ๒
เชื่อว่าพฤติกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ เกิดขึ้นจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม มิใช่มาจากแรงกระตุ้นภายใน
แนวที่ ๓ เชื่อว่าพฤติกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ เกิดขึ้นทั้งจากสิ่งแวดล้อมและจากแรงกระตุ้นภายในตวั
บุคคล

ทิศนา แขมมณี (๒๕๕๐ : ๔๕ - ๕๐) ได้กลา่ วถึงทฤษฎเี กีย่ วกับการเรียนรู้ในชว่ งก่อนคริสต์ศตวรรษ
ที่ ๒๐ และหลกั การจดั การศึกษาและการสอนไวด้ ังนี้

๑. ทฤษฎีทเี่ น้นการฝึกจติ หรือสมอง (Mental Discipline)นักคิดกลุ่มน้มี คี วามเชือ่ ว่าจติ หรอื สมอง
หรือสตปิ ญั ญา (mind) สามารถพฒั นาใหป้ ราดเปรือ่ งได้โดยการฝกึ เชน่ เดยี วกับกลา้ มเนื้อซงึ่ จะแขง็ แรงได้ดว้ ย
การฝึกออกกำลงั กาย ในการฝึกจติ หรอื สมองนท้ี ำไดโ้ ดยการให้บุคคลเรยี นรู้เรื่อง ทีย่ าก ๆ ยง่ิ ยากมากเท่าไรจิต
ก็จะได้รับการฝึกใหแ้ ข็งแกรง่ ขึ้นเท่าน้นั นักคดิ กลุ่มน้ีมแี นวคิดแยกออกเป็น ๒ กล่มุ ย่อย คือ (Bigge,๑๙๖๔ :
๑๙ – ๓๐ อ้างถึงในทิศนา แขมมณี ๒๕๕๐ : ๔๕ – ๔๘) มดี งั น้ี

๑.๑ กลุ่มทีเ่ ช่อื ในพระเจา้ (Theistic Mental Discipline) นกั คิดที่สำคัญของกลุม่ น้คี ือ เซนต์ออ
กสุ ตนิ (St. Augustine) จอหน์ คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน โวลฟ์ (Christian Wolff) นักคิดกล่มุ น้มี ี
ความเชอ่ื ดงั น้ี
ความเชือ่ เกี่ยวกับการเรยี นรู้

๑. มนษุ ยเ์ กิดมาพร้อมกบั ความช่ัวและการกระทำใด ๆ ของมนษุ ยเ์ กดิ จากแรงกระต้นุ
ภายในตัวมนษุ ยเ์ อง (bad-active)

๒. มนษุ ยพ์ รอ้ มท่ีจะทำความชัว่ หากไมไ่ ดร้ บั การส่งั สอนอบรม
๓. สมองของมนษุ ย์น้นั แบง่ ออกเป็นส่วน ๆ (faculties) ซง่ึ หากได้รบั การฝกึ อยา่ งเหมาะสม
จะช่วยทำให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ได้

๔. การฝึกสมองหรือฝึกระเบียบวนิ ัยของจิตเปน็ สิง่ จำเป็นต่อการพัฒนาให้มนษุ ย์เป็นคนดี
และฉลาด

๕. การฝกึ ฝนสมองใหร้ ูจ้ ักคดิ ตอ้ งใช้วชิ าทีย่ าก เชน่ วิชาคณิตศาสตร์ ปรชั ญา ภาษาลาติน
ภาษากรกี และคัมภีร์ใบเบลิ เป็นต้น

หลักการจัดการศึกษา/การสอน
๑. การฝึกสมองหรือการฝกึ ระเบยี บของจิตอย่างเข้มงวด เปน็ สิง่ สำคญั ในการฝึกให้บุคคล
เป็นคนฉลาดและคนดี
๒. การฝึกจติ จะตอ้ งทำอย่างเข้มงวด เพื่อใหจ้ ิตเข้มแข็ง การบงั คบั ลงโทษเปน็ ส่ิงจำเป็นถ้า
ผเู้ รียนไม่เชอ่ื ฟัง
๓. การจัดให้ผู้เรียนได้เรยี นเนื้อหาวิชาท่ยี าก ได้แก่ คณิตศาสตร์ ปรชั ญา ภาษาลาตนิ และ
ภาษากรีก จะช่วยฝกึ ฝนสมองให้เข้มแขง็ ได้เป็นอย่างดี
๔. การจดั ให้ผู้เรียนได้ศึกษาคัมภีร์ใบเบิลและยึดถือในพระเจ้า จะช่วยให้ผ้เู รยี นเป็นคนดี
๑.๒ ทฤษฎีของกลุ่มท่ีเช่อื ในความมีเหตุผลของมนุษย์ (Humanistic Mental Discipline) นัก
คิดคนสำคญั ในกลมุ่ น้ีคอื พลาโต (Plato) และอริสโตเติล (Aristotle) นักคดิ กลุม่ น้ีมีความเช่ือ ดงั น้ี
ความเชอ่ื เกีย่ วกบั การเรียนรู้
๑. พัฒนาการในเรือ่ งต่าง ๆ เปน็ ความสามารถของมนุษย์ มใิ ชพ่ ระเจ้าบนั ดาลใหเ้ กิด
๒. มนษุ ย์เกดิ มามีลักษณะไม่ดไี ม่เลวและการกระทำของมนษุ ย์เกดิ จากแรงกระตุน้ ภายใน
(neutral - active)
๓. มนษุ ย์เป็นผมู้ ีเหตผุ ลพรอ้ มที่จะพฒั นาตนเอง มนษุ ยม์ ีอสิ ระท่ีจะเลือกทำตามความเข้าใจ
และเหตผุ ลของตน หากได้รับการฝึกฝนอบรมกจ็ ะสามารถพฒั นาศักยภาพที่ติดตัวมา
๔. มนษุ ย์มคี วามรู้ติดตวั มาตง้ั แตเ่ กดิ แต่ถา้ ขาดการกระตุ้นความร้จู ะไมแ่ สดงออกมา
หลกั การจัดการศกึ ษา/การสอน
๑. การพฒั นาใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้คอื การกระตุ้นความร้ใู นตัวผู้เรียนใหแ้ สดงออกมา
๒. การพัฒนาผเู้ รยี นไม่จำเปน็ ต้องใช้การบังคบั เคยี่ วเขญ็ แตค่ วรใชเ้ หตผุ ลเพราะมนษุ ยเ์ กดิ
มาพร้อมกบั ความสามารถในการใชเ้ หตผุ ล
๓. การใช้วิธีสอนแบบโสเครตีส (Socratic Method) คอื การใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัว
ผูเ้ รียนออกมาให้เหน็ กระจ่างชัด เปน็ วธิ ีสอนทจ่ี ะช่วยใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ไดด้ ี
๔. การใชว้ ธิ สี อนแบบบรรยาย (Didactic Method) คอื การสอนที่ใชค้ ำถามฟนื้ ความจำของ
ผเู้ รยี นแล้วเพ่มิ เติมประสบการณใ์ ห้แก่ผเู้ รียน เปน็ วธิ ีสอนท่ีจะช่วยใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การเรียนรู้ไดด้ ีอีกวธิ หี นึ่ง
๒. ทฤษฎขี องกลมุ่ ที่เน้นการพัฒนาปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment) นักคดิ คนสำคัญใน
กล่มุ นคี้ ือรุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel) และเพสตาลอสซี (Pestalozzi) นักคิดกลุม่ นี้มีความเช่อื ดงั น้ี
ความเชือ่ เก่ียวกับการเรยี นรู้
๑. มนุษยเ์ กิดมาพร้อมกับความดีและการกระทำใด ๆ เกดิ ขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในตวั มนุษย์
เอง (good - active)
๒. ธรรมชาตขิ องมนุษย์มีความกระตือรือร้นท่จี ะเรยี นรู้และพฒั นาตนเอง หากไดร้ บั เสรภี าพใน
การเรียนรู้ มนษุ ย์ก็จะสามารถพมั นาตนเองไปตามธรรมชาติ
๓. รสุ โซมีความเชอื่ วา่ เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเลก็ ๆ เดก็ มสี ภาวะของเด็ก ซ่ึงแตกตา่ งไปจากวัยอน่ื
การจดั การศกึ ษาให้เด้กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก

๔. รสุ โซเช่ือวา่ ธรรมชาตคิ อื แหล่งความรูส้ ำคญั เด็กควรจะไดเ้ รียนรู้ไปตามธรรมชาติ คือการ
เรยี นรจู้ ากปรากฏการณท์ างธรรมชาติ จากผลของการกระทำของตน มใิ ช่การเรยี นจากหนังสือหรอื จากคำพูด
บรรยาย

๕. เพสตาลอสซีมคี วามเชื่อว่า คนมธี รรมชาตปิ นกนั ใน ๓ ลกั ษณะ คือ คนสตั ว์ ซง่ึ มลี ักษณะ
เปิดเผย เป็นทาสของกิเลส คนสังคม มีลกั ษณะที่จะเข้ากบั สังคม คล้อยตามสังคม และคนธรรม ซง่ึ มลี ักษณะ
ของการรู้จักผดิ ชอบช่ัวดี คนจะตอ้ งมีการพัฒนาใน ๓ ลักษณะ ดังกล่าว

๖. เพสตาลอสซีเช่อื ว่าการใช้ของจรงิ เปน็ สื่อในการสอน จะชว่ ยให้เดก็ เรียนรไู้ ดด้ ี
๗. ฟรอเบลเชือ่ วา่ ควรจะให้การศึกษาชนั้ อนุบาลแกเ่ ดก็ เล็ก อายุ ๓ – ๕ ขวบ โดยให้เดก็
เรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรง
๘. ฟรอเบลเช่ือว่าการเล่นเป็นการเรียนรทู้ ีส่ ำคญั ของเด็ก
หลกั การจัดการศึกษา/การสอน
๑. การจัดประสบการณ์เรียนรใู้ หแ้ กเ่ ด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดใหผ้ ู้ใหญ่
เนื่องจากเดก็ มีสภาวะท่ตี า่ งไปจากวัยอืน่ ๆ
๒. การจดั การศึกษาใหแ้ กเ่ ดก็ ควรยึดเด็กเปน็ ศนู ย์กลาง ให้เสรีภาพแก่เด็กทจ่ี ะเรยี นร้ตู าม
ความต้องการและความสนใจของตน เพื่อใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรู้อย่างอสิ ระ
๓. ลักษณะการจัดการเรียนรู้ทีเ่ หมาะสมสำหรบั เดก็ คือการจดั ใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรูจ้ ากธรรมชาติ
และเป็นไปตามธรรมชาติ ได้แก่

๓.๑ ใหเ้ ด็กได้เล่นอย่างอสิ ระ
๓.๒ ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
๓.๓ ให้เด็กไดเ้ รียนจากของจริงและประสบการณจ์ รงิ
๓.๔ ให้เด็กไดเ้ รียนรู้จากผลของการกระทำของตน
๔. การจดั ประสบการณเ์ รยี นรูใ้ หเ้ ด็กจะต้องคำนงึ ถึงความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลและความ
พร้อมของเด็ก
๓. ทฤษฎีของกลุ่มท่ีเน้นการรับรู้และการเช่ือมโยงความคดิ (Apperception หรอื Herbartianism)
นักคิดคนสำคัญในกลุม่ น้คี ือ จอหน์ ลอ็ ค (John Locke) วิลเฮลม์ วนุ ด์ (Wilhelm Wundt) ทชิ เชเนอร์
(Titchener) และแฮรบ์ าร์ต (Herbart) ซ่งึ มคี วามเช่อื ดงั นี(้ Bigge,๑๙๖๔ : ๓๓ – ๔๗ อา้ งถึงในทิศนา แขมมณี
๒๕๕๐ : ๔๘ – ๘๐)
ความเชือ่ เก่ยี วกับการเรียนรู้
๑. มนษุ ยเ์ กดิ มาไม่มีทง้ั ความดีและความเลวในตวั เอง การเรียนร้เู กิดข้นึ ได้จากแรงกระตุ้น
ภายนอกหรอื ส่งิ แวดล้อม (neutral - passive)
๒. จอหน์ ลอ็ ค เชอ่ื วา่ คนเราเกดิ มาพรอ้ มกับจติ หรือสมองที่ว่างเปล่า (tabula rasa) การเรยี นรู้
เกิดจากการท่ีบุคคลไดร้ บั ประสบการณผ์ ่านทางประสาทสัมผัสทงั้ ๕ การส่งเสริมใหบ้ ุคคลมีประสบการณม์ าก
ๆ ในหลาย ๆ ทางจึงเป็นการช่วยใหบ้ คุ คลเกดิ การเรียนรู้
๓. วนุ ด์ เช่อื ว่าจิตมอี งคป์ ระกอบ ๒ สว่ น คอื การสมั ผสั ทั้ง ๕ (sensation) แลการรสู้ ึก (feeling)
คือการตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผสั
๔. ทชิ เชเนอร์มคี วามเหน็ เชน่ เดยี วกบั วุนด์ แตไ่ ด้เพิม่ สว่ นประกอบของจิตอีก ๑ ส่วน ได้แก่
จินตนาการ (imagination) คือการคิดวเิ คราะห์

๕. แฮร์บารต์ เช่ือวา่ การเรียนร้มู ี ๓ ระดบั คอื ขนั้ การเรียนรู้โดยประสาทสมั ผัส (sens activity)
ขนั้ จำความคิดเดมิ (memory characterized) และขน้ั เกิดความคิดรวบยอดและเขา้ ใจ (conceptual
thinking or understanding) การเรยี นรูเ้ กิดจากการที่บคุ คลได้รบั ประสบการณ์ผ่านทางประสาทสมั ผสั ทง้ั ๕
และส่งั สมประสบการณห์ รือความรเู้ หล่านี้ไว้ การเรียนรนู้ ้ีจะขยายขอบเขตออกไปเรื่อย ๆ เม่ือบคุ คลได้รับ
ประสบการณ์หรือความรู้ใหม่เพมิ่ ข้ึน โดยผ่านกระบวนการเชอ่ื มโยงและการสร้างความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความรู้
ใหมก่ บั ความรู้เดมิ เข้าด้วยกนั ( apperception)

๖. แฮร์บารต์ เชอื่ วา่ การสอนควรเรม่ิ จากการทบทวนความรู้เดมิ ของผูเ้ รยี นเสยี ก่อนแล้วจงึ เสนอ
ความรู้ใหม่ ต่อไปควรจะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนสร้างความสมั พนั ธร์ ะหว่างความรเู้ ดมิ กับความรใู้ หม่ จนไดข้ ้อสรุปท่ี
ต้องการแลว้ จงึ ใหผ้ ้เู รียนนำข้อสรปุ ทไ่ี ด้ไปประยุกต์ใช้กบั ปัญหาหรือสถานการณใ์ หม่ ๆ

หลกั การจัดการศกึ ษา/การสอน
๑. การจดั ใหผ้ ้เู รียนได้ประสบการณผ์ า่ นทางประสาทสัมผัสท้งั ๕ เปน็ สิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการ
เรยี นรขู้ องผเู้ รียน
๒. การชว่ ยให้ผู้เรียนสรา้ งสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ จะชว่ ยให้ผเู้ รยี นเกิดความ
เขา้ ใจได้อยา่ งดี
๓. การสอนโดยดำเนินการตาม ๕ ขน้ั ตอนของแฮร์บาร์ต จะชว่ ยใหผ้ ้เู รยี นเกิดการเรยี นรู้ไดด้ ี
และรวดเร็ว ขน้ั ตอนดังกลา่ วคือ

๓.๑ ข้นั เตรยี มการหรือขน้ั นำ (preparation) ได้แก่การเร้าความสนใจของผูเ้ รยี นและการ
ทบทวนความรู้เดิม

๓.๒ ขน้ั เสนอ (presentation) ได้แก่ การเสนอความรใู้ หม่
๓.๓ ขน้ั การสัมพนั ธ์ความรู้เดิมกบั ความรู้ใหม่ (comparison and abstraction) ได้แกก่ าร
ขยายความร้เู ดิมให้กวา้ งออกไป โดยสมั พันธ์ความรเู้ ดิมกับความรใู้ หมด่ ้วยวธิ กี ารต่าง ๆ เชน่ การเปรียบเทียบ
การผสมผสาน ฯลฯ ทำใหไ้ ด้ขอ้ เทจ็ จรงิ ใหม่ท่สี ัมพันธ์กับประสบการณเ์ ดมิ
๓.๔ ขั้นสรุป (generalization) ไดแ้ กก่ ารสรุปการเรยี นรเู้ ป็นหลักการหรือกฎตา่ ง ๆ ทจ่ี ะ
สามารถจะนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับปญั หาหรอื สถานการณ์อ่ืน ๆ ตอ่ ไป
๓.๕ ขั้นประยุกตใ์ ช้ (application) ไดแ้ ก่การให้ผู้เรยี นนำข้อสรุปหรอื การเรียนรู้ทไ่ี ด้ไปใชใ้ น
การแกป้ ัญหาในสถานการณ์ใหม่ ๆท่ีไม่เหมือนเดมิ

บทที่ ๓

วธิ ดี ำเนนิ การ

กลมุ่ เปา้ หมาย
คณะครู นักเรยี นโรงเรียนบ้านสระแก้ว

วิธีการดำเนินงาน
๑. ขัน้ ศกึ ษา
ศึกษาพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.

๒๕๔๕ พร้อมกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ มุ่งเน้นให้การ
ปฏิรูประบบบริหารและการจัดการทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และมาตรฐานการศึกษา
แห่งชาติเกี่ยวกับมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษา และประชุมหารือกับคณะครูเพื่อจัดทำกิจกรรมให้
เกดิ ประโยชน์กับผู้เรยี นมากท่สี ุด ให้นักเรยี นได้แสดงความสามารถและมีความสุข สนุกสนานในกิจกรรมโดยมี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้รบั ผิดชอบ

๒. ขน้ั เตรยี มการ
๒.๑ เสนอโครงการ
๒.๒ ประชุมครูในกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๒.๓ บันทึกเสนอผ้บู ริหารขออนุญาตจดั กจิ กรรม และขอใชเ้ วลาจัดกิจกรรม
๒.๔ กำหนด/วัน/เวลา/รปู แบบการจดั กจิ กรรม
๒.๕ มอบหมาย/ดำเนินการ

๓. ขั้นดำเนนิ การ
๓.๑ แตง่ ตั้งคณะกรรมการ
๓.๒ ดำเนินการจดั กจิ กรรม

๔. ข้ันสรปุ และรายงานผล
หลงั จากดำเนนิ โครงการเสร็จสนิ้ ไดส้ รุปโครงการเป็นรปู เล่มเพ่ือเสนอผูบ้ รหิ าร

บทที่ ๔

ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานการ จัดงานโครงการวันวิทยาศาสตร์ โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ได้รับความร่วมมือ รว่ มใจจากนกั เรียน คณะครูและบคุ ลากรทางการศึกษา เป็นอยา่ งดียิง่ ซง่ึ การจัด
กิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์วันหว่างวันที่ ๑๖-๒๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ ๒๕๖๔ เนื่องจาก
สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรสั โคโรนา (Covid ๑๙) โดยมีผลการดำเนินงานมรี ายละเอียดดังน้ี

๑. กิจกรรมการทำแบบทดสอบออนไลน์ สัปดาห์วันวิทยาศาสตร์โรงเรียนบ้านสระแก้ว เพื่อรับ
เกยี รตบิ ัตร

๒. การส่งภาพถ่ายเข้าร่วมกิจกรรม ในหัวข้อ “หนูน้อยรักษ์โลก” สัปดาห์วันวิทยาศาสตร์โรงเรียน
บ้านสระแกว้ เพอ่ื รับเกียรติบัตร

บทที่ ๕

สรุปผลการดำเนนิ การ / อภิปราย / ขอ้ เสนอแนะ

โรงเรียนบ้านสระแก้ว เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ ประจำ
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ซง่ึ การจดั กิจกรรมครั้งน้ีจะจดั ขนึ้ ในรปู แบบออนไลน์วนั หว่างวนั ท่ี ๑๖-๒๒ เดือน สิงหาคม
พ.ศ ๒๕๖๔ เน่อื งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชอ้ื ไวรัสโคโรนา (Covid ๑๙)
โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ดงั น้ี

๑. เพอ่ื จัดนทิ รรศการแสดงความรแู้ ละผลงาน ความสามารถของนักเรียน ด้านวทิ ยาศาสตร์
๒. เพื่อแขง่ ขนั ทกั ษะทางวชิ าการด้านวิทยาศาสตร์
๓. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกิดความสนกุ สนานควบคูก่ บั การได้รับความรู้ในสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
๔. เพื่อฝึกใหน้ กั เรียนได้รว่ มกันคดิ อย่างมรี ะบบ คิดอย่างมีเหตผุ ลตามหลกั การวทิ ยาศาสตร์

สรปุ การดำเนนิ งาน
การจัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นใน

รูปแบบออนไลน์วันหว่างวันที่ ๑๖-๒๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ ๒๕๖๔ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
เชือ้ ไวรัสโคโรนา (Covid ๑๙) มผี เู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทั้งสิ้น ดงั นี้

๑. กิจกรรมการทำแบบทดสอบออนไลน์ สัปดาห์วันวิทยาศาสตร์โรงเรียนบ้านสระแก้ว เพื่อรับ
เกียรตบิ ตั ร

๑.๑ มีผู้เข้ารว่ มทำแบบทดสอบจำนวนทง้ั สิ้น 124 ครงั้ ประกอบด้วย
- คณะครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา คดิ เปน็ ร้อยละ 29.80
- นักเรยี น/นิสิต/นกั ศึกษา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 66.90
- ประชาชนทว่ั ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.30

๑.๒ คา่ เฉล่ียคะแนนในการทำแบบทดสอบ 14.25 / 20 คะแนน
๑.๓ คา่ มัธยฐาน 15 / 20 คะแนน

๒. การสง่ ภาพถ่ายเขา้ รว่ มกจิ กรรม ในหัวข้อ “หนูนอ้ ยรกั ษโ์ ลก” สัปดาหว์ นั วิทยาศาสตร์โรงเรียน
บ้านสระแก้วเพอ่ื รับเกียรตบิ ัตร

๒.๑ มผี ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมจำนวนทง้ั สน้ิ 22 คน ประกอบด้วย
- นักเรียนชัน้ อนบุ าล 2 จำนวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.09
- นักเรยี นชนั้ อนุบาล 2 จำนวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.09
- นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 18.18
- นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 27.27
- นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 5 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 22.72
- นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.55
- นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.55
- อืน่ ๆ จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.55

ภาคผนวก

การประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรม



โครงการ

โครงการวนั วทิ ยาศาสตร์ ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นบา้ นสระแกว้

๑. กิจกรรมการทำแบบทดสอบออนไลน์ สปั ดาห์วันวทิ ยาศาสตร์โรงเรยี นบา้ นสระแก้ว เพื่อรบั เกยี รตบิ ตั ร



๒. การส่งภาพถ่ายเข้าร่วมกิจกรรม ในหัวข้อ “หนูน้อยรักษ์โลก” สัปดาห์วันวิทยาศาสตร์โรงเรียนบ้าน
สระแก้วเพ่ือรบั เกยี รติบัตร





ตวั อยา่ ง เกยี รตบิ ตั รการเขา้ ร่วมกจิ กรรม






Click to View FlipBook Version