คริสต์มาส
ความหมายของวนั คริสต์มาส
วนั คริสต์มาส คือ การฉลองวนั ประสตู ิของพระเยซผู ้เู ป็นศาสดาสงู สดุ ของชาวคริสต์ทว่ั
โลก เป็นวนั ฉลองท่ีมคี วามสาคญั และมคี วามหมายมากที่สดุ วนั หนง่ึ เพราะชาวคริสต์ถือ
ว่า พระเยซูมใิ ชเ่ ป็นแต่เพียงมนษุ ย์ธรรดาๆ ที่มาเกิดเหมอื นเดก็ ทวั่ ไป แต่พระองค์เป็นบตุ ร
ของพระเจ้าผ้สู งู สดุ และมีพระธรรมชาตเิ ป็นพระเจ้า และเป็นมนษุ ย์ในพระองค์เอง การ
บงั เกิดของพระองค์ จงึ เป็นเหตกุ ารณ์พเิ ศษ ทไี่ มเ่ หมือนใครและไมม่ ใี ครเหมือนด้วย
ประวตั ิการพระเยซูเจ้า
ทาไมจงึ ฉลองคริสต์มาสวนั ท่ี 25 ธนั วาคม
ตามหลกั ฐานในพระคมั ภีร์ (ลก.2:1-3) บนั ทกึ ไว้วา่ พระเยซเู จ้าบงั เกิด ในสมยั ทีจ่ กั รพรรดิ
ซีซา่ ร์ออกสั ตสั ให้จดทะเบยี นสามะโนครัวทว่ั ทงั ้ แผน่ ดนิ โดยมคี ีรินิอสั เป็นเจ้าครองเมอื ง
ซีเรีย ซงึ่ ในพระคมั ภีร์ไมไ่ ด้บอกวา่ เป็นวนั หรือเดือนอะไร แตน่ กั ประวตั ศิ าสตร์ให้เหตผุ ล
ว่า ทื่คริสตชน เลอื กเอาวนั ท่ี 25 ธนั วาคม เป็นวนั ฉลองคริสต์มาส ตงั ้ แต่ ศตวรรษที่ 4 เป็น
ต้นมา เนื่องจาก ในปี ค.ศ. 274 จกั รพรรดเิ อาเรเลียน ได้กาหนดให้วนั ท่ี 25 ธนั วาคม เป็น
วนั ฉลอง วนั เกิดของสรุ ิยเทพผ้ทู รงพลงั ชาวโรมนั ฉลองวนั นีอ้ ย่างสง่า และถือเสมือนวา่
เป็นวนั ฉลองของพระจกั รพรรดิไปในตวั ด้วย เพราะพระจกั รพรรดิก็เปรียบเสมอื น ดวง
อาทิตย์ ท่ีให้ความสวา่ งแก่ชีวติ มนษุ ย์
คริสตชนท่ีอยใู่ นจกั รวรรดิ โรมนั รู้สกึ อดึ อดั ใจทจ่ี ะฉลองวนั เกิดของสรุ ิยเทพตามประเพณี
ของชาวโรมนั จงึ หนั มาฉลองการบงั เกิดของพระเยซเู จ้าแทน จนถึงวนั ท่ี 25 ธนั วาคม ค.ศ.
330 จงึ เร่ิมมกี ารฉลองคริสต์มาสอยา่ งเป็นทางการ และอยา่ งเปิดเผย เน่ืองจากก่อนนนั ้ มี
การเบยี ดเบียนศาสนาอย่างรุนแรง (ตงั ้ แต่ ปี ค.ศ. 64-313) ทาให้คริสตชนไมม่ โี อกาส
ฉลองอะไรอย่างเปิดเผย
ความสาคญั ของวนั คริสต์มาส
คริสต์มาส เป็นวนั ท่ีมีความสาคญั อยา่ งย่งิ วนั หนง่ึ ในศาสนาคริสต์ มใิ ช่เป็นวนั สาคญั ฝ่าย
ร่างกายจดั งาน ร่ืนเริงภายนอกเทา่ นนั ้ ซง่ึ เป็นแตเ่ พียงเปลอื กนอกของการฉลอง
คริสต์มาส แต่แก่นแท้อย่ทู ่ีความรัก ของพระเจ้าท่ี มีต่อโลกมนษุ ย์ นนั่ คือ พระเจ้าทรงรัก
มนษุ ย์ มากจน ถงึ กบั ยอมสง่ พระบตุ รแต่องค์เดียว ของพระองค์ ให้มาเกิดเป็น มนษุ ย์ มี
เนือ้ หนงั มงั สา ชื่อว่า "เยซ"ู
การที่พระเจ้าได้ถ่อมองค์ และเกียรติ ลงมาเกดิ เป็นมนษุ ย์ เพื่อชว่ ยมนษุ ย์ให้รอดพ้นจาก
การเป็นทาส ของความชว่ั และบาปตา่ งๆ นน่ั เอง ดงั นนั ้ ความสาคญั ของวนั คริสต์มาสจึง
อยทู่ ่ีการฉลองความรักท่ีพระเจ้ามีตอ่ โลกมนษุ ย์ อยา่ งเป็นจริง เป็นจงั และเหน็ ตวั ตนใน
พระเยซคู ริสต์ท่ีมาเกิดเป็นมนษุ ย์ มากกว่าสงิ่ อ่ืนใดทงั ้ สนิ ้
rry Christmas เป็นคาที่ใช้อวยพรคนอน่ื ขอให้เขาได้รับสนั ตสิ ขุ และความสงบ ทางใจ
สว่ นภาษาไทยใช้อวยพรด้วยประโยควา่ "สขุ สนั ต์วนั คริสต์มาส Merry Christmas"
การร้ องเพลงคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาสที่เรานิยมร้องมากที่สดุ ในปัจจบุ นั ได้แต่งขนึ ้ ในศตวรรษที่ 19 จากประเทศ
องั กฤษเป็นสว่ นใหญ่ เพลงที่มีเสียงมากได้แก่ Silent Night, Holy Night เป็นภาษาไทย
ว่า "ราตรีสวสั ด์ิ คืนอนั ศกั ดสิ ทิ ธ์"
ความเป็นมาของเพลงนีค้ ือ วนั ก่อนวนั คริสต์มาส ของปี ค.ศ. 1818 คณุ พ่อ Joseph
Mohr เจ้าอากาสวดั ท่ี Oberndorf ประเทศออสเตรเลยี ได้ข่าวว่าออร์แกนในวดั เสีย ทา
ให้วงขบั ไมส่ ามารถร้องเพลงตามท่ีซ้อมไว้ได้ คณุ พอ่ เองตงั ้ ใจจะแตง่ เพลงคริสต์มาส
หลงั จากแต่งเสร็จก็เอาไปให้เพ่ือนคนหนง่ึ ช่ือ Franz Gruber ที่อยหู่ มบู่ ้านใกล้เคยี งใส่
ทานองในคืนวนั ที่ 24 นนั ้ เอง สตั บรุ ุษวดั ใกล้ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครัง้ แรก โดย
การเลน่ กีตาร์ประกอบการขบั ร้อง ซงึ่ กลายเป็นเพลงท่ีนิยมมากท่ีสดุ ทวั่ โลก
เทยี นและพวงมาลยั
ในสมยั ก่อนมกี ลมุ่ คริสตชนกล่มุ หนึง่ ในเยอรมนั ได้เอาก่ิงไม้มาประกอบเป็นวงกลมคล้าย
พวงมาลยั แล้วเอาเทียน 4 เลม่ วางไว้บนพวงมาลยั นนั ้ ในตอนกลางคืนของวนั อาทติ ย์
แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทกุ คนในครอบครัวจะมารวมกนั ดบั ไฟ แล้วจดุ เทียนเลม่
หน่งึ สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกนั เขาจะทาดงั นีท้ กุ อาทติ ย์จนครบ 4
อาทิตย์ก่อนคริสต์มาส ประเพณีนีเ้ป็นท่ีนิยมและแพร่หลายในท่ีหลายแหง่ โดยเฉพาะท่ี
สหรัฐอเมริกา
ซง่ึ ตอ่ มามกี ารเพ่ิม โดยเอาพวงมาลยั พร้อมกบั เทียนที่จดุ ไว้ตรงกลาง 1 เลม่ ไปแขวนไว้ที่
หน้าตา่ งเพื่อชว่ ย ให้คนที่ผา่ นไปมา ได้ระลกึ ถงึ การเตรียมตวั รับวนั คริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา
และพวงมาลยั นนั ้ ยงั เป็นสญั ลกั ษณ์ที่คน สมยั โบราณใช้หมายถึงชยั ชนะ แตใ่ นท่ีนี ้
หมายถึงการที่พระองค์มาบงั เกิดในโลก และทาให้ทกุ สง่ิ ทกุ อย่างครบ บริบรู ณ์ตาม
แผนการณ์ของพระเป็นเจ้า.
การทามสิ ซาเที่ยงคนื
เมื่อพระสนั ตะปาปาจลู อี สั ท่ี 1 ได้ประกาศให้วนั ท่ี 25 ธนั วาคมเป็นฉลองพระคริสตสมภพ
(วนั คริสต์มาส) แล้วในปี นนั ้ เองพระองค์และสตั บรุ ุษได้พากนั เดินสวดภาวนา และขบั ร้อง
ไปยงั ตาบลเบธเลเฮม ยงั ถา้ ที่พระเยซเู จ้าประสตู ิ
พอไปถงึ ก็เป็นเวลาเท่ยี งคืน พระสนั ตะปาปาก็ทรงถวายบชู า ณ ท่ีนนั ้ เมื่อเสร็จแล้วก็
กลบั มาที่พกั เป็นเวลาเช้ามดื ราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวายมสิ ซาอีกครัง้ และสตั บรุ ุษเหลา่ นนั ้
ก็พากนั กลบั แต่กย็ งั มีสตั บรุ ุษหลายคนท่ีไมไ่ ด้ไป พระสนั ตะปาปากท็ รงถวายบชู ามสิ ซา
อีกครัง้ หนึ่งเป็นครัง้ ท่ี 3 เพื่อ สตั บรุ ุษเหลา่ นนั ้ ด้วยเหตนุ ีเ้องพระสนั ตะปาปาจงึ ทรง
อนญุ าตในพระสงฆ์ถวายบชู ามสิ ซาได้ 3 ครัง้ ในวนั คริสต์มาส เหมอื นกบั การปฏบิ ตั ิของ
พระองค์ ตงั ้ แตน่ นั ้ เป็นต้นมาจงึ มี ธรรมเนียมถวายมสิ ซาเท่ียงคืน ในวนั คริสต์มาส และ
พระสงฆ์ก็สามารถถวายมสิ ซาได้ 3 มสิ ซา ใน โอกาสวนั คริสต์มาสเชน่ เดียวกนั .
เรื่องเลา่ จากซานตาครอส
ตวั จริงของซานตาครอส คือ นกั บญุ นโิ คลสั ซง่ึ เป็นบาทหลวงในตรุ กี ชว่ งคริสต์ศตวรรษท่ีสี่
ผ้ขู นึ ้ ช่ือในเรื่องความใจดี โดยเฉพาะกบั เดก็ ๆ ต่อมาท่านเป็นที่รู้จกั อยา่ งกว้างขวางทวั่
ฮอลแลนด์ในชอ่ื "ซินเตอร์คลาส" ราวค.ศ.1870 ชาวอเมริกนั เรียกชื่อเพีย้ นไปเป็น
"ซานตาคลอส" ตงั ้ แตแ่ รกจนถงึ ค.ศ. 1890
ภาพของซานตาคลอสเป็นชายร่างผอมสงู สวมชดุ สเี ขียว หรือนา้ ตาลสลบั แดง เจนนี ไน
สตรอม ศลิ ปินชาวสวีเดน เป็นผ้คู ดิ ค้นรูปลกั ษณ์ของซานตาครอสอยา่ งที่เหน็ กนั ใน
ปัจจบุ นั โดยวาดภาพลงในบตั รอวยพรคริสต์มาส ภาพเหลา่ นีไ้ ด้รับความนิยมไปทวั่ โลก
เมอ่ื ชาวสวีเดนอีกคนชอื่ แฮดดอน ซนั ด์บลอม นาภาพวาดของไนสตรอมสวมชดุ ขาว
คริสต์มาส คือการฉลองการบงั เกิดของพระเยซูเจ้า เราเฉลมิ ฉลองกนั ในวนั ที่ 25 ธนั วาคม
คาว่า คริสต์มาส เป็นคาทบั ศพั ท์ภาษาองั กฤษ Christmas ซง่ึ มาจากภาษาองั กฤษ
โบราณว่า Christes Maesse ที่แปลวา่ บชู ามสิ ซาของพระคริสตเจ้า เพราะการร่วมพิธี
มสิ ซาเป็นประเพณีสาคญั ท่ีสดุ ที่ชาวคริสต์ ถือปฎิบตั ิกนั ในวนั คริสต์มาส
คาวา่ Christes Maesse พบครัง้ แรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาองั กฤษ ในปี ค.ศ.
1038 และคานีก้ แ็ ปรเปลย่ี นมาเป็นคาว่า Christmas คาทกั ทายที่เราได้ฟังบอ่ ย ๆ ใน
เทศกาลนีค้ อื Merry Christmas คาว่า Merry ในภาษาองั กฤษโบราณ แปลว่า สนั ตสิ ขุ
และความสงบทางใจ
วนั ฮาโลวีน
ทุกปี ภายในวนั ท่ี 31 ตุลาคม วันท่ีคนจะแต่งชุดผี คอื วันฮาโลวนี (halloween)มตี ้นกำเนิด
มำจำกเทศกำลของชำวเซลตคิ โบรำณ ท่ีรู้จกั ในช่ือ Samhain มีที่มำจำกชำวไอริชโบรำณ ถือวำ่ เป็นวนั
สนิ ้ สดุ ของฤดรู ้อน เทศกำล Samhain มีขนึ ้ เพื่อฉลองจดุ สนิ ้ สดุ ของชว่ งสว่ำงแหง่ ปี และเข้ำสชู่ ว่ งมืดของ
ปี ทงั ้ ยงั ถือกนั วำ่ เป็นวนั ปีใหมข่ องชำวเซลตคิ อีกด้วย
เทศกำลนีบ้ ำงกลมุ่ กเ็ รียกว่ำ เทศกำลแห่งควำมตำย (Festival of the dead) ชำวเซลท์โบรำณเช่ือ
วำ่ เป็นวนั ท่ีโลกนีแ้ ละโลกหน้ำโคจรมำอย่ใู กล้กนั มำกที่สดุ ทำให้เหลำ่ วิญญำณสำมำรถผำ่ นเข้ำออกได้อย่ำง
อิสระ ซง่ึ วญิ ญำณของบรรพบรุ ุษที่เคำรพจะได้รับกำรต้อนรับกลบั บ้ำน ในขณะที่วญิ ญำณร้ำยจะถกู ขบั ไล่
โดยมีควำมเช่ือกนั วำ่ กำรท่ีจะสำมำรถขบั ไลว่ ญิ ญำณร้ำยได้นนั ้ สำมำรถทำได้ด้วยกำรสวมชดุ และหน้ำกำก
ผี ซงึ่ มจี ดุ ประสงค์คือกำรแฝงตวั เป็นวญิ ญำณเพ่ือหลกี เล่ียงอนั ตรำย เทศกำล Samhain ยงั เป็นวนั แหง่
กำรตนุ อำหำรไว้สำหรับฤดหู นำว และมีกำรเลน่ รอบกองไฟในหลำยท่ี ไฟและแสงสวำ่ งประเภทอ่ืนจะถกู ดบั
ลง และบ้ำนแตล่ ะหลงั จะจดุ ไฟในเตำ สว่ นกระดกู ของสตั ว์ท่ีใช้เป็นอำหำร จะถกู โยนเข้ำไปในเปลวเพลงิ นี ้
บำงครัง้ กองไฟ 2 กองจะถกู จดุ ไว้ข้ำงๆกนั ผ้คู นกบั สตั ว์ท่ีเลยี ้ งไว้จะเดินวนระหวำ่ งสองกองไฟ ถือเป็นพิธี
กำรชะล้ำง
เกิดในวนั ท่ี 31 ตุลาคม ทกุ ปี
ท่ีมาของช่อื วันฮาโลวนี Halloween
ฮาโลวีน (Halloween) เดมิ นนั ้ สะกดเป็น ฮนั โลวีน, ฮลั โลวีน, ฮำโลวนี เป็นคำย่อของคำวำ่
Hallows’ (ฮอลโลว, ฮำโลว) Even (อีเว้น) และคำวำ่ e’en ก็เป็นคำย่อของคำวำ่ even ซงึ่ ยอ่ มำ
จำกคำว่ำ evening (ค่ำ) ซงึ่ เป็นคำที่มีรำกคำมำจำกภำษำองั กฤษโบรำณ ปัจจบุ นั เป็นท่ีรู้จกั ในชอื่ วนั
อีฟ ออฟ ออลเซน็ ต์ ซงึ่ ตรงกบั วนั ที่ 1 พฤศจกิ ำยน
สัญลักษณ์/เคร่ืองหมาย วนั ฮาโลวนี Halloween
ในวนั ฮำโลวีนอีฟ ชำวเซลท์โบรำณจะแขวนโครงกระดกู ไว้ท่หี น้ำตำ่ ง เพื่อแสดงออกถงึ ควำมตำย มีจดุ
กำเนิดในยโุ รป จะมกี ำรแกะสลกั โคมไฟจำกหวั ผกั กำด เพรำะมีควำมเช่ือวำ่ หวั เป็นสว่ นที่มพี ลงั ท่ีสดุ ของ
ร่ำงกำย ประกอบไปด้วยจิตวญิ ญำณและภมู คิ วำมรู้ ซง่ึ ชำวเซลท์ใช้ขบั ไลว่ ญิ ญำณร้ำย
ตานานเก่ียวกับฟักทอง หรือ แจ๊ก-โอ’-แลนเทริ ์น (jack-o’-lantern)
ตำนำนพืน้ บ้ำนของชำวไอริช ที่กลำ่ วถึง แจ๊คจอมตืด นกั เลน่ กลขเี ้มำ วนั หน่ึงเขำหลอกปีศำจขนึ ้ ไปบนต้นไม้
และเขียนกำกบำทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศำจลงมำไมไ่ ด้ จำกนนั ้ เขำได้ทำข้อตกลงกบั ปีศำจ ‘ห้ำมนำสง่ิ ไมด่ ี
มำหลอกลอ่ เขำอกี ’ แล้วเขำจะปลอ่ ยปีศำจลงจำกต้นไม้ เม่ือแจ็คตำยลง เขำปฏเิ สธท่ีจะขนึ ้ สวรรค์
ขณะเดียวกนั ปฏเิ สธที่จะลงนรก ปีศำจจงึ ให้ถ่ำนที่กำลงั คแุ ก่เขำ เพื่อเอำไว้ปัดเป่ำควำมหนำวเย็นท่ำมกลำง
ควำมมดื มดิ และแจค็ ได้นำถ่ำนนีใ้ สไ่ ว้ในหวั ผกั กำดเทอนิพที่ถกู เจำะให้กลวง เพ่ือให้ไฟลกุ โชตชิ ว่ งได้นำน
ขนึ ้
ชำวไอริชจงึ แกะสลกั หวั ผกั กำดเทอนิพและใสไ่ ฟในด้ำนในเป็นอีกสญั ลกั ษณ์ของวนั ฮำโลวีน เพ่ือระลกึ ถงึ
‘กำรหยดุ ยงั ้ ควำมชวั่ ’ เพ่ือสง่ ผลบญุ ให้กบั ญำติผ้ลู ว่ งลบั และพธิ ีทำงศำสนำเพ่ือทำบญุ วนั ปีใหม่ แต่เมอื่ มี
กำรฉลองฮำโลวีนในสหรัฐอเมริกำ ชำวอเมริกำพบว่ำ ฟักทองหำงำ่ ยกวำ่ หวั ผกั กำดมำก จงึ เปลยี่ นมำใช้
ฟักทองแทน หวั ผกั กำดจงึ กลำยเป็นฟักทองด้วยเหตผุ ลนี ้
Summited By
Terapat Siricherdchooto P.6/2 No.19
วนั โกหกของโลก(April Fool’s Day)
วนั ท่ี 1 เมษายนของทกุ ปี ถือเป็นอีกวนั หนง่ึ ทีค่ นทวั่ โลก
นิยมแกล้งเพ่ือนๆ หรือคนสนิทของตนด้วยการแกล้งโกหก
ในเรื่องตา่ งๆ เน่ืองด้วยเป็นวนั “April Fool’s Day”
หรือวนั เมษาหน้าโง่ หรือถ้าให้สภุ าพสกั หนอ่ ยคงต้อง
เรียกวา่ เป็นวนั โกหกของโลก และแม้วา่ วนั นีเ้องจะไมใ่ ช่วนั
สาคญั ในวฒั นธรรมไทยอยา่ งเป็นทางการ แตใ่ นปัจจบุ นั เอง
คนไทยกร็ ับเอาวฒั นธรรมนีเ้ข้ามาหลอมรวมเป็นสว่ นหน่ึง
ในชีวติ ตามกระแสทางสงั คมและยคุ สมยั ทมี่ ีการ
เปลยี่ นแปลงอยเู่ สมอ
วนั ท่ี 1 เมษายนของทกุ ปี ถือเป็นอีกวนั หนงึ่ ท่คี นทวั่ โลก
นิยมแกล้งเพื่อนๆ หรือคนสนิทของตนด้วยการแกล้งโกหก
ในเรื่องตา่ งๆ เน่ืองด้วยเป็นวนั “April Fool’s Day”
หรือวนั เมษาหน้าโง่ หรือถ้าให้สภุ าพสกั หนอ่ ยคงต้อง
เรียกวา่ เป็นวนั โกหกของโลก และแม้วา่ วนั นีเ้องจะไมใ่ ชว่ นั
สาคญั ในวฒั นธรรมไทยอย่างเป็นทางการ แตใ่ นปัจจบุ นั เอง
คนไทยกร็ ับเอาวฒั นธรรมนีเ้ข้ามาหลอมรวมเป็นสว่ นหนง่ึ
ในชีวิต ตามกระแสทางสงั คมและยคุ สมยั ที่มีการ
เปลีย่ นแปลงอยเู่ สมอ มีบนั ทกึ โบราณพบวา่ ต้นกาเนิดของ
วนั “April Fool’s Day” นนั้ เกิดขนึ ้ ใกล้เคียงกบั
เทศกาลฮิลาเรียของโรมนั ที่จดั ขนึ ้ ในวนั ท่ี 25 มีนาคม
นนั่ เอง
จากตานานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) เลา่ วา่
สมยั นนั้ มีการเขียนบนั ทกึ เร่ืองราวเก่ียวกบั ตานานแมช่ ีและ
พระ (Nun’s Priest’s Tale) ซงึ่ เร่ืองนีม้ ีการทา
สาเนาเอาไว้หลายแผ่น จนเกิดการคดั ลอกผิดพลาด
เก่ียวกบั การระบวุ นั ท่จี ากเดิมพดู ถึง 32 วนั หลงั เดือน
เมษายน นน่ั ก็คือวนั ท่ี 2 พฤษภาคม แตถ่ กู ทาสาเนาผิดเป็น
32 วนั หลงั มีนาคม ซง่ึ กค็ อื วนั ท่ี 1 เมษายน ทาให้
ความหมายเปลย่ี นไป พอคนรุ่นหลงั ๆ มาอา่ นบนั ทกึ ทีไ่ ม่
เหมอื นกนั กเ็ ข้าใจไปวา่ ตานานฉบบั คดั ลอกเป็นเร่ือง
“โกหก” ซงึ่ กม็ ีความเชื่อมโยงกบั วนั ที่ 1 เมษายนนนั่ เอง
อีกหนงึ่ ทฤษฎีเชื่อวา่ วนั “April Fool’s Day” มีความ
เชื่อมโยงกบั การกาหนดให้วนั ที่ 1 มกราคมเป็นวนั ขนึ ้ ปีใหม่
โดยแตเ่ ดิมในยคุ กลางนนั้ วนั ขนึ ้ ปีใหมข่ องชาวยโุ รปคอื วนั ท่ี
1 เมษายน ตอ่ มาในปี ค.ศ. 1592 พระสนั ตปาปาเกรเกอ
รี่ได้ประกาศใช้ปฏิทนิ ใหม่สาหรับชาวคริสต์ ทาให้วนั ขนึ ้ ปี
ใหมถ่ กู เปล่ยี นไปเป็นวนั ท่ี 1 มกราคมนบั แตน่ นั้ เป็นต้นมา
และเน่ืองจากปัญหาด้านการสื่อสารท่ลี า่ ช้าในยคุ นนั้
ยงั คงมีประชาชนบางสว่ นท่ีไมร่ ู้หรือรู้แตไ่ ม่เช่ือเก่ียวกบั การ
เปล่ยี นแปลงดงั กลา่ ว พวกเขายงั จดั งานฉลองวนั ขนึ ้ ปีใหม่
ในวนั ท่ี 1 เมษายนตามเดมิ ทาให้คนอ่ืนๆ พากนั เรียกพวก
เขาวา่ ” พวกเมษาหน้าโง”่ (April Fools) นนั่ เอง
หวั ใจของการโกหกในวนั April Fool’s Day คอื ความ
ตลก โดยเร่ืองท่โี กหกต้องอยบู่ นพืน้ ฐานท่วี า่ ต้องไม่ทา
อนั ตรายให้คนอื่น หรือไมส่ ร้างความเดอื ดร้อนให้กบั ผ้อู ่ืน
และต้องไมเ่ ก่ียวกบั ความเป็นความตาย เพราะฉะนนั้ การ
สร้างกลอบุ ายท่ียอดเย่ยี มทีส่ ดุ คือจะต้องทาให้ทกุ คน
หวั เราะได้ ซง่ึ เป็นเปา้ หมายสาคญั ของวนั แหง่ ความ
สนกุ สนานนี ้
Summited By
Baragus ChungrassameeP6/2No.21
Chinese newyear(วนั ตรุษจีน)
History of Chinese New
Year!History of New Year's
Day in China is interesting as
well. In other cultures
Desire, what we hope to
improve. Or we think to do
when starting in the New
Year this time.Do it again
next year, however. Hope it
would not lose the
opportunity because the two
are all arrived. To celebrate
the Chinese New Year, or as
we know it. Chinese New
Year on February 1 this that
.Chinese New Year is similar
to that in Western countries.
Traces of Tradition And
rituals of the celebration of
Chinese New Year. There are
more than a century
Actually, a very long I can
not look back at what
started celebrating since
when.To celebrate Spring
Festival And celebrations for
up to 15 days to prepare the
feast begins one month
before Chinese New Year
(similar to a Western
Christmas), when people
start buying gifts.Things to
beautify their homes,Food
and clothing Major start
cleaning up the day before
Chinese New Year. Houses
are Clean the house from
top to bottom until the end
of the house. Which means
to sweep away bad luck
away.Door windows are
Paper decorated with a
greeting such as well-being,
wealth and longevity and so
on.
Summited
Namo ladbuakhao P.6/2 No.20