กระจกดอกไม้ Flower Mirror นางสาวกัญญาณัฐ มั่นใจ นางสาวณัฐชยา สรงประชา นางสาวรัชนีวรรณ กล่อมจิตร์ นางสาววรรณวดีกุล ศิริทาน โครงงานนี้เป�นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการบัญชี สาขางานการบัญชี ป�การศึกษา 2565 วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี
ใบรับรองโครงงาน วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี แผนกวิชา การบัญชี เรื่อง กระจกดอกไม้ Flower Mirror ผู้ดำเนินการ นางสาวกัญญาณัฐ มั่นใจ 63202010001 นางสาวณัฐชยา สรงประชา 63202010003 นางสาวรัชนีวรรณ กล่อมจิตร์ 63202010013 นางสาววรรณวดีกุล ศิริทาน 63202010014 ประเภทผลงาน งานวิจัย ได้พิจารณาเห็นชอบโดย ครูที่ปรึกษาโครงการ ........................................................... (นางสาวอรุณรัศมี ทรัพย์มาก) หัวหน้าแผนกวิชา ........................................................... (นางประไพ แก้ววิลัย) หัวหน้างานวิจัย พัฒนา นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ ........................................................... (นางสาวณฐพร จุลเอียด) รองผู้อำนวยการวิทยาลัยฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ ........................................................... (นางสาวอัญขลีเหลืองศรีชัย) ........................................................... (นายดำรงค์ สุดวิลัย) ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีรักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี วันที่ เดือน พ.ศ. 256
ก ชื่อผลงาน กระจกดอกไม้ Flower Mirror ชื่อนักเรียน นางสาวกัญญาณัฐ มั่นใจ นางสาวณัฐชยา สรงประชา นางสาวรัชนีวรรณ กล่อมจิตร์ นางสาววรรณวดีกุล ศิริทาน ที่ปรึกษา : นางสาวอรุณรัศมี ทรัพย์มาก สาขางาน : การบัญชี ป�การศึกษา : 2565 บทคัดย่อ กระจกดอกไม้ Flower Mirror เป�นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาจากดินเบาหรือดินป��นในการป��น หรือออกแบบเป�นรูปแบบต่างๆ ซึ้งใช้ดินเบาเป�นอุปกรณ์หลักในการป��น โดยวัตถุประสงค์ของ การศึกษา คือ 1.ศึกษาขั้นตอนการป��นดินเบา 2.เพื่อเป�นการต่อยอดชิ้นงานให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น มี ส่วนประกอบ ในการทำงานคือ ดินเบา ดินป��น กาวร้อน และกระจก ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้ 1.เริ่ม จากการเตรียม ความพร้อมและวางแผน 2.ป��นดินเบาเป�นรูปต่างๆและรอให้แห้งสนิท 3.ติดกับกระจก โดยใช้กาว ผลการทำงานที่ได้ก็คือ ได้ชิ้นงานใหม่ที่สวยงามซึ่งเป�นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะ เปลี่ยนแปลงกระจกอันเก่าให้ดูดีขึ้น สรุปผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ซื้อสินค้าที่มีต่อกระจกดอกไม้ของผู้ซื้อสินค้า ในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ภาพรวมอยู่ใน ระดับที่มาก ที่สุด คือด้านผลิตภัณฑ์มีความสวยงาม ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 รองลงมา คือด้านผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับตนเอง ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
ข กิตติกรรมประกาศ การศึกษาความพึงพอใจของประชากรที่มีผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ในเขตวิทยาลัยเทคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สำเร็จได้ด้วยดี ได้รับความอนุเคราะห์และช่วยเหลือ อย่างดียิ่งจากท่านผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี นายดำรงค์ สุดวิลัย เรียนรู้สื่อการเรียนต่างๆ โครงงาน กระจกดอกไม้สำเร็จได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์และช่วยเหลืออย่างดี ยิ่งจากครูที่ปรึกษา นางสาวอรุณรัศมี ทรัพย์มาก และคำแนะนำในการดำเนินงานโครงงานตลอดจน แก้ป�ญหาต่างๆที่เกิดขึ้น อันเป�นประโยชน์ต่อโครงงาน คอยให้คำชี้แนะเนื้อหาปรับปรุงแก้ไขเครื่องมือ ที่ใช้ในการประเมินจนสมบูรณ์ครบถ้วน ซึ่งทำให้การดำเนินงานโครงงานสามารถเป�นไปตามที่กำหนด การวางแผนการดำเนินงานเป�นไปด้วยดี คณะผู้จัดทำขอขอบคุณเป�นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณผู้ตอบแบบสอบถามในเขตวิทยาลัยเทคธัญบุรี ตำบลบึงนำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีทุกท่านที่กรุณาตอบแบบสอบถาม คณะครูในแผนกวิชาการบัญชีที่ให้ความร่วมมือ อำนวยความสะดวก ในการเก็บรวบรวมข้อมูลตลอดจนนักเรียนทุกคนที่คอยให้กำลังใจโดยตลอดเวลา การจัดทำโครงงาน คณะผู้จัดทำ นางสาวกัญญาณัฐ มั่นใจ นางสาวณัฐชยา สรงประชา นางสาวรัชนีวรรณ กล่อมจิตร์ นางสาววรรณวดีกุล ศิริทาน
ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ...........................................................................................................................................ก กิตติกรรมประกาศ............................................................................................................................ข คำนำ.................................................................................................................................................ค สารบัญ..............................................................................................................................................ง สารบัญตาราง....................................................................................................................................จ สารบัญภาพ.......................................................................................................................................ฉ บทที่ 1 บทนำ..................................................................................................................................1 1.1 ความเป�นมาของโครงงาน..................................................................................................1 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน.................................................................................................2 1.3 ขอบเขตของโครงงาน........................................................................................................2 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ................................................................................................2 1.5 นิยามศัพท์ ........................................................................................................................2 บทที่ 2 ทฤษฎีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง.............................................................................................3 2.1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกระจก ดินเบา.................................................................................3 2.2 ประวัติเกี่ยวกับกระจก ดินเบา.........................................................................................4 2.3 ป�จจัยที่มีผลต่อการผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้....................................................................6 2.4 หลักการการออกแบบของผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้.........................................................6 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง..........................................................................................................6 บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน......................................................................................................9 3.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น.........................................................................................................9 3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง..............................................................................9 3.3 การออกแบบกระจกดอกไม้...........................................................................................10 3.4 การสร้างกระจกดอกไม้..................................................................................................10 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล....................................................................................................11
ง สารบัญ (ต่อ) บทที่ 4 ผลการวิเคาระห์โครงงาน................................................................................................12 4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม........12 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้.....................14 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ................................................................................16 5.1 สรุปผล ..........................................................................................................................16 5.2 อภิปรายผล....................................................................................................................17 5.3 ข้อเสนอแนะ..................................................................................................................18 บรรณานุกรม..................................................................................................................................19 ภาคผนวก……………………………………………………………………………...………………………………………..20 ภาคผนวก ก..........................................................................................................................21 ภาคผนวก ข.........................................................................................................................24 ภาคผนวก ค.........................................................................................................................26 ภาคผนวก ง..........................................................................................................................29 ภาคผนวก จ..........................................................................................................................31 ประวัติผู้จัดทำโครงงาน………………………………………………………………………………….…………………36
จ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 4.1 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านเพศ........................................................12 4.2 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอายุ........................................................13 4.3 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอาชีพ.....................................................13 4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพีงพอใจของกลุ่มที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้....14 4.5 ระดับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์.........................................................15
ฉ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 3.1 ขั้นตอนป��น.............................................................................................................................12 3.2 ขั้นตอนการประกอบดอกไม้...................................................................................................12 3.3 ขั้นตอนการประกอบดอกไม้...................................................................................................1
บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป�นมาและความสำคัญของป�ญหา จุดเริ่มต้นของดินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ที่เรียกว่าดินญี่ปุ่นหรือดินไทยมีที่มาจากต่างประเทศ แต่กลับไม่ใช้ประเทศญี่ปุ่นอย่างที่เราเข้าใจกัน โดยแท้เริ่มมาจากประเทศในทวีปยุโรป เริ่มที่ยุโรปเมื่อ ประมาณ 50-60 ป�ที่ผ่านมา เกิดจากความบังเอิญมากกว่า เนื่องจากคนยุโรปในสมัยมักจะทานอาหาร ประเภทขนมป�งเป�นอาหารหลัก ดังนั้น จึงเกิดแป้งที่เหลือใช้เป�นจำนวนมากในแต่ละครั้ง จึงได้มีผู้ที่คิด ลองเอามาป��นเป�นสิ่งของต่างๆ เช่น ตุ๊กตา สัตว์ และดอกไม้จากนั้นก็ได้มีการคิดพัฒนามาเรื่อยๆ จาก ที่เคยไม่มีสีก็ผสมสีลงไป จากที่โดยแมลงแทะกิน จากที่เกิดเป�นเชื้อราบ้างก็มีการปรับสูตรมากันมา เรื่อยๆตามลำดับ ต่อมาเมื่อประมาณป� ค.ศ.1970 หรือประมาณ 50 ป�ที่แล้ว เกิดมีชาวญี่ปุ่นเห็นชาวยุโรปป��นเป�น รูปร่างต่างๆก็กลับมาคิดพัฒนา เป�นแป้งป��นของญี่ปุ่นบ้าง แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกับทางยุโรป อีกเช่นเคยด้วยความที่ญี่ปุ่นเป�นนักคิดก็สามารถพัฒนาแป้งป��นในเกิดเป�นดินป��นขึ้นมาจนได้ ที่ เรียกว่า เคลย์(Clay) ส่วนผสมในตอนแรกก็ทำมาจาก แป้งทำอาหาร เหมือนกัน(แต่ป�จจุบันเกิดแป้ง ทางเคมี) ที่ประเทศญี่ป่นในยุคก่อนนำมาป��น ตุ๊กตาแบบเหมือนจริง ก็จะผสมกระดาษป่นเข้าที่เรียก ว่าดินเยื่อกระดาษ ส่วนการทำดอกไม้ก็ใช้ดินแป้งทำ และก็มีโรงเรียนเล็กๆเกิดขึ้นมากมาย เพื่อสอน การทำงานฝ�มือประเภทนี้ขึ้น ในขณะเดียวกันเกิดบริษัทที่ผลิตออกมาจำหน่ายเป�นจำนวนมากเช่นกัน หลากหลายยี่ห้อ ส่วนยี่ห้อที่เรารู้กันดีก็คือ ดิน LUNA CLAY ยี่ห้อหนึ่งที่มีคนใช้มาก มีหลายเกรดแต่ แบบที่บ้านเราใช้กันเป�นเกรดที่ถูกที่สุดในญี่ปุ่น ลักษณะของดินเบา มีกลิ่นที่ไม่เหม็นและไม่หอม ปลอดภัย ไร้สารพิษ และแข็งตัวในตัวเอง สี ผสมง่าย ผสมดี เพื่อสร้างสีใหม่ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เลอะเทอะและไม่แตกหลังจากแห้งตามธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งที่จะขึ้นรูปเป�นรูปทรงต่างๆ ด้วยการจัดการที่สะอาดและไม่ติดมือดินเบาสามารถยึดติด กับตัวมันเองและวัสดุอื่นๆ ได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้กาวอื่นๆ ผึ่งลมให้แห้งเพื่อให้ผิวเรียบและยืดหยุ่นได้ และยังสามารถทำให้นพกลับมาป��นได้อีกครั้งหลังจากแห้ง โดยการนำดินเบาที่แห้งไปแล้วนำมาชุบน้ำ ให้ดินเบาเป�ยกและทำการนวดจะทำให้ดินเบากลับมานิ่มอีกครั้งได้
2 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.2.1 เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการจินตนาการ 1.2.2 เพื่อต่อยอดและหารายได้เสริมจากการป��นดินเบา 1.2.3 เพื่อตกแต่งสิ่งของให้ดูสวยงามและเหมาะสมแก่การใช้ 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1.3.1 ด้านเนื้อหา การป��นดินเบาเป�นรูปทรงต่างๆ 1.3.2 ด้านเวลา 18 ตุลาคม 2565 – 15 กุมภาพันธ์ 2566 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.4.1 สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง 1.4.2 สามารถนำไปต่อยอดเป�นรายได้ได้ 1.4.3 นำชิ้นงานใหม่ที่เกิดจากการใช้ดินป��น 1.5 คำนิยามศัพท์ 1.5.1 ดินเบา หมายถึง เป�นดินละเอียดเนียนนุ่มและมีความแข็งแรงในการทำงานป��น หรือ ชิ้นงานต่างๆ สามารถขึ้นรูปทรงได้ง่ายและมีความยืดหยุ่นสูง ชิ้นงานสามารถแห้งเองได้เพียง แค่ทิ้งไว้ ในอุณหภูมิห้อง เมื่อแห้งแล้วม้ำหนักเบามากๆ ลักษณะจะคล้ายคลึงกับโฟม 1.5.2 กาวตราช้าง หมายถึง กาวใสชนิดที่ติดแน่นมากแกะออกได้ยาก ส่วนประกอบหลัก คือ สารกลุ่มไซยาโนอะคริเลต 1.5.3 กระจก หมายถึง วัสดุที่ทำมาจากแก้ว ซึ่งมีองค์ประกอบหลักทางเคมีคือซิลิคอน ซึ่ง สามารถหลอมและนำไปขึ้นรูปได้ เมื่อเย็นตัวแล้วมีลักษณะ โปร่งใส และเป�นของแข็งโดยไม่จับผลึก กระจกจึงสามารถแตกได้เหมือนแก้ว และมีความคมมากกว่าแก้วเมื่อแตกเพราะมีความบางในการผลิ
บทที่2 ทฤษฎีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง โครงงานกระจกดอกไม้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กระจกที่เรียบๆมีความสวยงามและน่าใช้มากขึ้น เพื่อให้โครงงานบรรลุตามวัตถุปประสงค์ และเป�นไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้ คณะผู้จัดทำได้ ทำการศึกษาทฤษฎีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 2.1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกระจก ดินเบา 2.2 ประวัติเกี่ยวกับกระจก ดินเบา 2.3 ป�จจัยที่มีผลต่อการผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ 2.4 หลักการการออกแบบของผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกระจก ดินเบา 2.1.1 กระจก วัสดุที่ทำมาจากแก้ว ซึ่งมีองค์ประกอบหลักทางเคมีคือซิลิคอน ซึ่งสามารถหลอม และนำไปขึ้นรูปได้ เมื่อเย็นตัวแล้วมีลักษณะ โปร่งใส และเป�นของแข็งโดยไม่จับผลึก กระจกจึง สามารถแตกได้เหมือนแก้ว และมีความคมมากกว่าแก้วเมื่อแตกเพราะมีความบางในการผลิต ความ แตกต่างในการใช้คำเมื่อเทียบกับคำว่าแก้วคือ กระจกจะใช้เรียกแก้วที่นำมาทำให้เป�นแผ่น โดยมี ลักษณะแบนราบและมีความหนาประมาณหนึ่งเป�นส่วนใหญ่ กระจกเป�นลักษณะการผลิตวัสดุ ประเภทแก้วที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างๆ เช่น เพื่อเป�นวัสดุกั้นขวางที่ไม่ทึบแสง ใช้เพื่อ เป�นฉนวนกั้น ใช้เพื่อประดับตบแต่งอาคาร ในบางความต้องการใช้ กระจกถูกนำไปปรับคุณสมบัติต่อ เพื่อให้มีคุณลักษณะบางอย่าง เช่น ฉาบปรอทที่ด้านๆหนึ่งเพื่อให้มีคุณสมบัติสะท้อนแสงเรียกว่า กระจกเงา หรือผสมสารชนิดอื่นลงไปใน เนื้อสารให้มีสีสันหรือความทึบแสงบางส่วนหรือทั้งหมด เรียกว่า กระจกสี กระจกทึบ หรือกระจกควัน หรือนำไปพ่นทรายลงบนพื้นผิวเพื่อให้เกิดความไม่ สม่ำเสมอของความเรียบบนผิวทำให้แสงผ่านได้แต่มีลักษณะมัวๆเรียกว่า กระจกฝ้า เนื่องจากกระจก คือวัสดุประเภทแก้วซึ่งมีความโปร่งใสมากและยังมีค่าดรรชนีหักเหของแสงที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ จึงมีการนำไปสร้าง เป�นวัสดุที่มีความหนาไม่สม่ำเสมอแต่มีลักษณะเฉพาะ เรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษ
4 ว่า เลนส์ (lens) เช่น มีสัณฐานกลมเหมือนเหรียญที่เว้าเข้าตรงกลางทั้งสองด้านเรียกว่า เลนส์เว้า หรือเว้าเข้าด้านเดียวอีกด้านหนึ่งแบนราบและฉาบปรอทมักเรียกว่า กระจกเว้า มีสัณฐานกลมเหมือน เหรียญที่ป่องออกตรงกลางทั้งสองด้านเรียกว่า เลนส์นูน หรือนูนออกด้านเดียวอีกด้านหนึ่งแบนราบ และฉาบปรอทมักเรียกว่า กระจกนูน ซึ่งเลนส์คือประเภทการผลิตวัสดุประเภทแก้วในรูปแบบของ กระจกเพื่อการใช้งานในลักษณะของการหักเหแสงนั่นเอง กระจกบางประเภทถูกนำไปประกอบสร้าง แบบพิเศษ เช่น เคลือบเนื้อสารบางประเภทเช่นพลาสติกด้านเดียวหรือทั้งสองด้าน (เนื้อสารที่นำมา เคลือบเรียกว่าฟ�ล์ม) เพื่อให้ทึบแสงหรือเพื่อให้ไม่แตกร่วนหรือเพื่อให้เมื่อแตกแล้วไม่มีความคมคล้าย เมล็ดข้าวโพด เช่น กระจกรถยนต์ ฟ�ล์มบางประเภทที่นำมาเคลือบ เช่นเคฟลาร์ มีลักษณะทาง โครงสร้างเคมีที่สามารถกระจายแรงที่มากระทบด้านหน้าออกไปทางด้านข้างได้ จึงทำให้สามารถผลิต เป�นกระจกนิรภัย ที่สามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้และในบางกรณีการผลิตแบบเคลือบด้านนอก อาจปรับเป�นการผลิตแบบสอดไส้ข้างในหรือผสมลงไปเป�นเนื้อเดียวกัน ในบางกรณีกระจกอาจสร้าง จากวัสดุที่มีความใสไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กับแก้วแต่เป�นวัสดุประเภทอื่นไปเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระจกจะมีความหมายในลักษณะ ใสบาง เป�นแผ่น มีผิวราบเรียบอย่างมาก อาจหมายรวมไปถึง สะท้อนแสงได้ รวมหรือเบี่ยงเบนแสงได้หรือ เป�นเงาเสมอๆวัสดุประเภทกระจกนั้น หากมีค่าความ ยอมให้ผ่านของแสงมาก จะเรียกว่า โปร่งใส หากมีค่าน้อยจะเรียกว่า โปร่งแสง และหากไม่มีค่าเลยจะ เรียกว่า ทึบแสง 2.1.2 ดินเบา หรือที่เรียกกันว่า ดินเกาหลี มีลักษณะเป�นดินป��นชนิดเบา สามารถยืดหยุ่นได้ ด้วยความนุ่มนิ่มของเนื้อดิน ทำให้การผสมสีนั้นทำได้ง่ายเมื่อป��นเสร็จ แล้วจะมีลักษณะที่คล้ายกับโฟม และยังสามารถเก็บรักษาไว้เป�นผลงาน 2.2 ประวัติเกี่ยวกับกระจก ดินเบา 2.2.1 กระจกเงา กระจก มีประวัติความเป�นมาจาก “แก้ว” และแก้วก็มีประวัติยาวนานมาก ทีเดียว ตามตำราของพลินี ดิ เอลเดอร์ นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน เขียนไว้ว่า กลาสีที่อาศัยอยู่แถบโพ ลิเนเชียนเป�นผู้ค้นพบแก้ว จากการหุงหาอาหารที่ชายหาด ซึ่งตอนนั้นไม่มีภาชนะหม้อไหที่ไหน ก็เลย ไปคุ้ยๆหาวัสดุในโกดังในเรือมาเป�นแผ่นเนตรอน (natron) มาหุงอาหาร ปรากฏว่า เมื่อเนตรอนถูก ความร้อนถึงผสมกับทรายที่ชายหาด กลายเป�นของเหลวใสไหลเป�นสาย และเมื่อเย็นตัวก็กลายเป�น จุดเริ่มต้นของ “แก้ว” มาตั้งแต่นั้น แต่ก็มีความเชื่อว่า แก้ว เกิดก่อนหน้านั้นหลายพันป�ทีเดียว
5 ประมาณ 3,000 ป�ก่อนคริสตกาล แถบเมโสโปเตเมีย หรือประเทศซีเรียและอิรักในป�จจุบัน แม้ว่าที่มา ของช่วงเวลายังสรุปได้ไม่แน่นอน แต่ช่วงเวลาที่มนุษย์ผลิตแก้วและกระจกอยู่ราว 50 ป�ก่อนคริสตกาล โดยชาวโรมัน การผลิตแก้วใช้ปูนและโซดาผสมเข้ากับซิลิก้า ซึ่งมีอยู่ในเม็ดทราย ซิลิก้ามีจุด หลอมเหลวสูงมาก จะใช้ไฟธรรมดาหลอมไม่ได้ ต้องเข้าเตาหลอมพิเศษ อุณหภูมิสูงราว 1,590 องศา เซลเซียส จากนั้นเทแก้วหลอมลงบนผิว ของดีบุกหลอมเหลว จะทำให้แก้วเย็นลงเมื่อถึงอุณหภูมิที่ 600 องศาและเริ่มแข็งตัวเป�นกระจกใส จากนั้นจึงนำไปเจียเป�นกระจกแผ่น สำหรับกระจกก็คือแก้ว แผ่นเรียบ ที่ช่างต้องอาศัยการกดลูกแก้วให้แบนเป�นแผ่นด้วยการต่อเข้ากับปลายแท่งเหล็ก ซึ่งช่างก็ จะต้องหมุนแท่งเหล็กนี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แก้วเป�นกระจกแผ่นเรียบ ส่วนวิธีทำกระจก มีขั้นตอนเช่นเดียวกับแก้ว วัตถุดิบก็คือ “ทรายแก้ว” ซึ่งเป�นทรายสีขาว ละเอียดยิบและเงาจนเป�น ประกาย เมืองไทยเรามีอยู่ที่เหมืองทรายแก้ว จ.ระยอง แก้วกลายเป�นกระจกเมื่อผ่านการขัดเงา และ ฉาบด้วยโลหะบางอย่าง ปกติแล้วโลหะนี้จะเป�นอลูมิเนียมฉาบด้วยความหนา 100 นาโนเมตร จะมี น้ำหนักเพียงไม่กี่กรัม นอกจากนี้กระจกยังฉาบด้วยทอง เงิน หรือบรอนซ์ก็ได้ 2.2.2 ดินเบา จุดเริ่มต้นของดินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ที่เรียกว่าดินญี่ปุ่นหรือดินไทย มีที่มาจาก ต่างประเทศ แต่กลับไม่ใช้ประเทศญี่ปุ่นอย่างที่เราเข้าใจกัน โดยแท้เริ่มมาจากประเทศในทวีปยุโรป(ไม่ แน่ใจว่าประเทศไหน เพราะไม่มีการบันทึกไว้) แต่เริ่มที่ยุโรปเมื่อประมาณ 50-60 ป�ที่ผ่านมา(ค.ศ. 1940-1950) เกิดจากความบังเอิญมากกว่า เนื่องจากคนยุโรปในสมัยมักจะทานอาหารประเภทขนม ป�งเป�นอาหารหลัก ดังนั้นจึงเกิดแป้งที่เหลือใช้เป�นจำนวนมากในแต่ละครั้ง จึงได้มีผู้ที่คิดลองเอามาป��น เป�นสิ่งของต่างๆ เช่น ตุ๊กตา สัตว์ และดอกไม้ จากนั้นก็ได้มีการคิดพัฒนามาเรื่อยๆ จากที่เคยไม่มีสีก็ ผสมสีลงไป จากที่โดยแมลงแทะกิน จากที่เกิดเป�นเชื้อราบ้าง ก็มีการปรับสูตรมากันมาเรื่อยๆ ตามลำดับ ต่อมาเมื่อประมาณป� ค.ศ.1970 หรือประมาณ 30 ป�ที่แล้ว เกิดมีชาวญี่ปุ่นเห็นชาวยุโรป ป��นเป�นรูปร่างต่างๆก็กลับมาคิดพัฒนา เป�นแป้งป��นของญี่ปุ่นบ้าง แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกับทางยุโรปอีก เช่นเคย ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป�นนักคิดก็สามารถพัฒนาแป้งป��นในเกิดเป�นดินป��นขึ้นมาจนได้ ที่เรียกว่า เคลย์(Clay) ส่วนผสมในตอนแรกก็ทำมาจาก แป้งทำอาหาร เหมือนกัน(แต่ป�จจุบันเกิดแป้งทางเคมี) ที่ประเทศญี่ป่นในยุคก่อนนำมาป��น ตุ๊กตา แบบเหมือนจริง ก็จะผสมกระดาษป่นเข้าที่เรียกว่า ดินเยื่อ กระดาษ ส่วนการทำดอกไม้ ก็ใช้ดินแป้งทำ และก็มีโรงเรียนเล็กๆเกิดขึ้นมากมาย เพื่อสอนการทำงาน ฝ�มือประเภทนี้ขึ้น หลังจากนั้นไม่นานนักดินญี่ปุ่นก็เริ่มเข้ามาในประเทศไทย ประมาณป� พ.ศ.2530 เกิดการนำดินญี่ปุ่นมาป��นเป�นดอกไม้ เป�นตุ๊กตา โดยผู้สอนก็เป�นอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ในตอนนั้นมีคนไทย
6 สนใจเป�นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่แพร่หลาย ทำกันเฉพาะกลุ่ม โดยส่วนจะเป�นการทำเพื่อเป�นอดิเรก มากกว่าไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย หลังจากนั้นไม่นานนักคนไทยเป�นคนรักเรื่องงานฝ�มือก็คิดมาดินไทย ขึ้นมาบ้าง ก็เกิดจากแป้งเหมือนในทุกๆประเทศที่เริ่มคิดสูตร คุณครูสอนที่สอนหนังสือนำแป้งที่ทำเอง มาสอนนักเรียนในวิชางานประดิษฐ์ในหลายๆโรงเรียน ส่วนกลุ่มที่ทำขายก็พัฒนาด้านฝ�มือในการทำ ให้สวยงาม ละเอียดละออ ยิ่งกว่าประเทศต้นแบบเสียอีก 2.3 ป�จจัยที่มีผลต่อดินเบา 2.3.1 ลักษณะของดินเบา เนื้อนุ่ม ป��นง่าย เมื่อแห้งแล้วตกไม่แตก เพราะมีน้ำหนักเบา 2.3.2 แต่มีข้อเสียคือไม่สามารถเป�ยกน้ำได้ 2.4 หลักการการออกแบบของผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ 2.4.1 กระจกที่ใช้ในป�จจุบันมีรูปแบบที่เรียบไม่มีลวยลายหรือการตกแต่งใดๆ พวกเราจึงคิดหา วิธีการตกแต่งกระจกขึ้นมาเป�นกระจกดอกไม้ และได้ทำการป��นดินเบาเป�นรูปทรงดอกไม้หลากสีต่างๆ ขึ้นมาเพื่อนำมาตกแต่งติดเข้ากับกระจกให้ความสวยงามและน่าใช้มากขึ้น 2.4.2 หาซื้อกระจกแบบที่ต้องการที่เหมาะกับการนำมาตกแต่ง 2.4.3 ดูแนวทางการป��นดอกไม้แบบต่างๆ แล้วนำมาป��นเป�นดอกไม้ตามที่ต้องการและนำมา ตกแต่งเข้ากับกระจกที่ซื้อมา 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาดินป��นกากมะพร้าวสำหรับผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์มะพร้าวเป�นพีชมีความสำคัญทาง เศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทย ประชากรไทยบริโภคเนื้อมะพร้าวเฉลี่ยประมาณ 18 ผลต่อคน และต่อป�ประเทศไทยผลิตมะพร้าวได้เป�นอันดับ 6 ของโลก รองจาก อินโดนีเซีย ฟ�ลิปป�นส์บราซิล และศรีลังกา โดยส่งออกมะพร้าวและน้ำมะพร้าวเป�นอันดับที่ 11 และ 20 ของโลกตามลำดับ และมี พื้นที่ปลูกมะพร้าว 1.54 ล้านไร่ มีผลผลิตรวม 1.48 ล้านตัน/ป�โดยผลผลิตมะพร้าวของภาคใต้มีมาก ที่สุดคิดเป�นร้อยละ 73 ของผลผลิตทั้งประเทศ ประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวไม่ต่ำกว่าป� ละ 2,700 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวที่ส่งออกเป�นหลัก ได้แก่ มะพร้าวสด (Fresh
7 Coconut) มะพร้าวแห้ง (Desiccated Coconut) น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) เส้นใยกาบมะพร้าว (Colr Fiber) เป�นต้น กากมะพร้าว เกิดจากมะพร้าวที่เอาเนื้อไปแปรรูปไปน้ำมันมะพร้าวของโรงงานผลิต น้ำมันพืช การทำน้ำส้มสายชูจากน้ำมะพร้าวหรือการผลิตกะทิสำเร็จรูป เป�นต้นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ เพาะปลูกณะพร้าว ประมาณ 436,858 ไร่ ซึ่งเป�นพื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 149,000 ใร่ ได้ปริมาผลผลิต เนื้อมะพร้าวประมาณ 662,990 ตันต่อป� ผลผลิตประมาณร้อยละ 30 ใช้บริโภคสุดภายในประเทศอีก ร้อยละ 70 ส่งเข้าโรงงานเพื่อเป�นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่อเนื่องเช่น การทำกะทิและอุตสาหกรรม การ บีบน้ำมันมะพร้าวในจังหวัด และเขตจังหวัดใกล้เคียง จากปริมาณผลผลิตที่ส่งเข้าโรงงานแปรรูป เป�นกะทิ และน้ำมันมะพร้าว จึงทำให้เกิดกากมะพร้าว ไม่น้อยกว่า 20,000 ตัน/ป� กากมะพร้าวมี องค์ประกอบทางเคมีประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และฟ�ต และกากมะพร้าวยังมีองค์ประกอบ ที่ย่อยได้ยาก เช่น ลิกนิน (ร้อยละ 5.17) กากมะพร้าวเป�นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้เพราะ องค์ประกอบส่วน ใหญ่ในกากมะพร้าวคือ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และลูกป�น เนื่องจาก คุณค่าทางอาหาร เหลืออยู่มากสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป�นอาหารวัว ควาย หมู กระต่าย นอกจาก เป�นอาหารสัตว์แล้ว กากมะพร้าวจากอุตสาหกรรมกะที่ยังสามารถนำมาทำ เป�นแป้งมะพร้าวและ มะพร้าวอบแห้ง (Desiccated Coconut) เพื่อใช้เป�นส่วนประกอบในการทำ ผลิตภัณฑ์อาหารประเภท ขนมอบ เช่น คุกกี้ เค้ก โดนัท และขนมปุยฝ้าย เป�นการเพิ่มคุณค่าทาง อาหาร และลดปริมาณการใช้แป�งสาลีลง การป��นเป�นศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่มนุษย์เริ่มเกิดขึ้นมนุษย์มีความสามารถในการป��นสิ่งต่างๆมา ตั้งแต่ ดึกดำบรรพ์ป��นเพื่อเล่น ป��นเพื่อใช้ประกอบพิธีต่างๆ หรือใช้บูชาตามความเชื่อวัสดุที่ใช้ป��น ส่วนมากได้จากธรรมชาติที่หาได้ใกล้ตัวและมีในท้องถิ่นแต่ด้วยเหตุที่ดินที่ได้จากแหล่งธรรมชาติเมื่อ ป��นเป�นรูปแบบต่างๆ เมื่อแห้งจะมีความแข็งไม่สามารถดัดแปลงให้มีความบางและความพริ้วได้ [5] มนุษย์จึงมีการดัดแปลง และสร้างสรรค์หาวัสดุต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนการป��นจากดินให้มี ความสามารถ เก็บไว้ได้นาน มีความเหมาะสมกับการนำไปเป�นของที่ระลึกในงานต่างๆ ดินญี่ปุ่นเป�น วัสดุหนึ่งที่นิยมนำมาใช้เพราะ มีความขาวสามารถผสมสีได้ตามความต้องการและมีคุณสมบัติที่ดีแต่ ดินญี่ปุ่นมีราคาค่อนข้างแพง ประเทศไทยจึงเริ่มคิดสูตรดินไทยขึ้นมาซึ่งเกิดจากแป้งเหมือนในทุกๆ ประเทศศิลปะการป��น ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นด้วยการใช้เวลาว่างให้เป�นประโยชน์จากดินเหนียวริม คลองสู่แป้งขนมป�งสร้างสรรค์เป�นรูปคน สัตว์ดอกไม้หลากหลายรูปแบบ กลายเป�นงานศิลปะที่วิจิตร
8 บรรจงสวยงาม และในป�จจุบันศิลปะการป��นยังคงได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป�นการป��นเพื่องานอดิเรก หรือการป��นเพื่อจําหน่าย จากการศึกษาพบว่า กากมะพร้าวส่วนใหญ่ที่เหลือจากการบีบคั้นกะทิเป�นขยะทิ้งไม่มีประโยชน์ เกิดการเน่าเหม็น เบื้องต้นยังไม่พบการนำกากมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ในงานศิลปะประเภทงาน ประดิษฐ์ ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาข้อมูลของกากมะพร้าว พบว่าลักษณะทางกายภาพของกากมะพร้าวมี ลักษณะเป�นสีขาว เมื่อแห้งจะมีลักษณะร่วน ซึ่งเป�นคุณสมบัติที่ดีในการทำงานศิลปะประเภทงานป��น ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาดินป��นกากมะพร้าวสำหรับผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์โดยทำวิจัยเพื่อช่วย แก้ไขป�ญหากากมะพร้าวที่มีอยู่เป�นจำนวนมากลดการทิ้งการเน่าเสีย เป�นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มโดยการนำวัตถุดิบที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน
บทที่ 3 วิธีดำเนินศึกษา ในการดำเนินการศึกษาครั้งนี้ คณะผู้จัดทำโครงการได้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการสร้าง สิ่งประดิษฐ์กระจกดอกไม้และได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ 3.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเครื่องมือ 3.3 การออกแบบ 3.4 การสร้าง 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น คณะผู้จัดทำได้ทำการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของดินที่จะนำมาดำเนินโครงงาน ซึ่งได้ศึกษาข้อมูล ของดินชนิดต่างๆที่เหมาะในการสมในการป��น จึงได้เจอกับดินเบาที่มีคุรสมบัติที่เหมาะสมในการนำมา ทำโครงงานในครั้งนี้ เนื่องจากดินเบานั้นสามารถแห้งไวเหมาะสมแก่การป��น พอแห้งแล้วดินจะมี น้ำหนักที่เบาไม่หนักจนเกินไปและดินเบาเป�นดินที่หาซื้อได้ง่ายประหยัดเวลาและราคาถูก 3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเครื่องมือ 3.2.1 ดินเบา 3.2.2 กระจก 3.2.3 กาวตราช้าง 3.3 การออกแบบ ต้นแบบของดอกไม้ที่นำมาป��นคือดอกเดซี่ ลักษณะในการป��นกลีบดอกไม้จะป��นเป�นวงกลมเพื่อ ความสวยงามและให้เหมือนดอกเดซี่ และมีสีสันที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้มีความสวยงามและเพื่อให้ ดอกไม้ที่ป��นออกมามีสีสันตรงกับความหมายของสีดอกเดซี่สีต่างๆ
10 3.4 การสร้าง ขั้นตอนแรก นำดินเบาออกมาป��นเป�นวงกลมเตรียมไว้เพื่อที่จะเตรียมการดำเนินที่สู่ขั้นตอน ต่อไป ภาพที่ 3.1 ขั้นตอนป��น ขั้นตอนที่สอง นำดินเบาที่ป��นเตรียมไว้มาติดกันให้เป�นดอกไม้และรอให้แห้ง ภาพที่ 3.2 ขั้นตอนการประกอบดอกไม้ ขั้นตอนที่สุดท้าย นำดอกไม้ที่แห้งแล้วทากาวตราช้างและนำมาติดกับกระจกแล้วทำการตกแต่ง ให้สวยงาม ภาพที่ 3.3 ขั้นตอนการประกอบดอกไม้
11 3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการทดลอง ผู้จัดทำโครงงานกระจกดอกไม้ต้องการศึกษา ข้อมูลว่า กระจกดอกไม้ที่ผลิตขึ้นมานั้นมีความพึงพอใจของกลุ่มผู้บริโภคหรือไม่ จึงนำแบบสอบถามความ คิดเห็นของผู้ที่ทดลองใช้กระจกดอกไม้โดยแจกแบบสอบถามจำนวน 40 ชุด
บทที่ 4 ผลการวิเคาระห์โครงงาน ผลการวิเคราะห์และการนำผลของการศึกษาความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์ กระจกดอกไม้ในเขตพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นำเสนอ ในรูปตารางประกอบคำบรรยาย โดยแบ่งการนำเสนอ ดังนี้ 4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจก ดอกไม้ ในเขตพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 4.3 ผลการวิเคราะห์เนื้อหาจากแบบสอบถามปลายเป�ดเป�นข้อเสนอแนะอื่นๆของผู้ตอบ แบบสอบถาม ลำดับต่อไปนี้ผู้จัดทำโครงงานได้เสนอผลการดำเนินงาน โดยเรียงลำดับการนำเสนอทั้ง 3 ข้อ ดังนี้ 4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ลักษณะ แบบสอบถาม เป�นการตรวจสอบรายการ (Check List) มีจำนวน 3 ข้อ ดังนี้ 4.1.1 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านเพศ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศปรากฏผล ดังตารางที่ 1 แสดง จำนวนและค่าร้อยละของสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศ ลำดับ เพศ จำนวน ร้อยละ 1 เพศชาย 10 25 2 เพศหญิง 30 75 รวม 40 100 ตารางที่ 4.1 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านเพศ
13 จากตารางที่ 1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุด ได้แก่ เพศหญิงจำนวน 30 คน คิดเป�น ร้อยละ 75 และเพศชายจำนวน 10 คน คิดเป�น ร้อยละ 25 4.1.2 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอายุ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุปรากฏผลดังตารางที่ 2 ส่วนอายุ ลำดับ อายุ จำนวน ร้อยละ 1 อายุต่ำกว่า 20 ป� 37 92.5 2 อายุระหว่าง 20 – 30 ป� 1 2.5 4 อายุ 31 – 40 ป� 2 5 5 อายุ 41 ป�ขึ้นไป - - รวม 40 100 ตารางที่ 4.2 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอายุ จากตารางที่ 2 พบว่า อายุของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุดได้แก่ อายุต่ำกว่า 20 ป�จํานวน 37 คน คิดเป�นร้อยละ 92.5 4.1.3 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอาชีพ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับ สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอาชีพปรากฏผลดังตารางที่ 3 แสดง จำนวน และค่าร้อยละของสถานภาพ ส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอาชีพ ลำดับ อาชีพ จำนวน ร้อยละ 1 นักเรียน 38 95 2 ครู / อาจารย์ 2 5 4 รับจ้างทั่วไป - - 5 อื่นๆ - - รวม 40 100 ตารางที่ 4.3 สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามด้านอาชีพ
14 จากตารางที่ 3 พบว่า อาชีพของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุดได้แก่ นักเรียนจํานวน 38 คน คิดเป�นร้อยละ 9 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของกลุ่มที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพีงพอใจของกลุ่มที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ และ ความเป�นไปได้ของผลิตภัณกระจกดอกไม้ในเชิงพาณิชย์ลักษณะเป�นแบบ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบ่งเป�น 4 จํานวน 11 ข้อ ดังนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพีงพอใจของกลุ่มที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ในเขตพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ปรากฏผลดัง ตารางที่ 4 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนที่เบี่ยงเบนมาตราฐานความพึงพอใจของประชากร ผลต่อผลิตภัณฑ์ กระจกดอกไม้ ข้อที่ ความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อ ผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ระดับความพึงพอใจ S.D. แปลผล อันดับ 1 ผลิตภัณฑ์ความสวยวาม 4.63 0.63 มากที่สุด 4 2 ผลิตภัณฑ์มีการออกแบบที่เป�นเอกลักษณ 4.48 0.68 มาก 8 3 ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี 4.60 0.59 มากที่สุด 5 4 ความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลิตภัณฑ์ 4.50 0.51 มากที่สุด 7 5 ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น 4.53 0.55 มากที่สุด 6 6 แสดงป้ายราคาอย่างชัดเจน 4.53 0.60 มากที่สุด 6 7 ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า 4.43 0.64 มาก 9 8 ราคาสามารถต่อรองได้(ลดได้) 4.40 0.63 มาก 10 9 ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับตนเอง 4.75 0.44 มากที่สุด 2 10 ผลิตภัณฑ์สามารถนำมาใช้ได้จริง 4.80 0.41 มากที่สุด 1 11 เป�นที่ยอมรับนำสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ 4.65 0.58 มากที่สุด 3 ตารางที่ 4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพีงพอใจของกลุ่มที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ จากตารางที่ 4 ระดับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีจําแนกเป�นรายข้อ ข้อที่ได้รับ ความพึงพอใจมากคือ ข้อที่ 10 ผลิตภัณฑ์สามารถนำมาใช้ได้จริง ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับ
15 มากที่สุด เท่ากับ 4.80 รองลงมาคือ 9 ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับตนเอง ระดับความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ลำดับที่ 3 คือข้อที่ 11 เป�นที่ยอมรับนำสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ระดับความฟ�งพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 ลำดับที่ 4 คือข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์ความ สวยงามระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ลำดับที่ 5 คือข้อที่ 3 ผลิตภัณฑ์ มีคุณภาพดี ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ลำดับที่ 6 คือ ข้อที่ 5 ผลิตภัณฑ์ มีความโดดเด่น ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 และลำดับที่ 6 แสดงป้ายราคาอย่างชัดเจน ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ลำดับที่ 7 ความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ลำดับที่ 8 ผลิตภัณฑ์มีการออกแบบที่เป�นเอกลักษณ์ ระดับความพึงพอใจ อยู่ใน ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 ลำดับที่ 9 ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า ระดับความพึงพอใจอยู่ ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 ลำดับที่10 ราคาสามารถต่อรองได้(ลดได้) ระดับความพึงพอใจ อยู่ ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 ความพึงพอใจของประชากรที่มีต่อกระจก ดอกไม้ S.D. แปลผล ลำดับที่ ด้านผลิตภัณฑ์ 22.74 2.96 มากที่สุด 1 ด้านราคา 13.36 1.87 มาก 3 ด้านประโยชน์เชิงพาณิชย์ 14.2 1.43 มาก 2 ตารางที่ 4.5 ระดับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์ จากตารางที่ 5 ระดับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ในเขต พื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำแนกเป�นรายด้านและ ภาพรวม ภาพรวมความพึงพอใจของประชากรที่มีผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มาก คือ อันดับที่ 1 ด้านผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 22.74 รองลงมาอันดับที่ 2 ด้านประโยชน์เชิงพาณิชย์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 14.2 อันดับที่ 3 ด้านราคา ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.36
บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ จากการประเมินครั้งนี้ได้ศึกษาถึงความพอใจของประชากรที่มีต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ใน เขตวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สรุปผลการประเมินดังนี้ 5.1 สรุปผลการจัดทำโครงงาน 5.2 อภิปรายผล 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการจัดทำโครงงาน จากการศึกษาความพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามกระจกดอกไม้ ในเขตวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สรุปผลการศึกษาได้ดังนี้ 5.1.1 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป�นเพศหญิง อายุต่ำกว่า 20 ป� ประกอบอาชีพนักเรียน นักศึกษา 5.1.2 จากการศึกษาความพึงพอใจของประชากรที่ผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ดอกไม้ ในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำแนกเป�นรายข้อพบว่า ประชากรมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดที่ได้รับความพึงพอใจมากที่สุดคือข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์มีความ สวยงาม ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 รองลงมาคือข้อที่ 9 ผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้กับตนเอง ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ลำดับที่ 3 คือ ข้อที่ 11 เป�นที่ยอมรับนำสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ระดับความฟ�งพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.65 ลำดับที่ 4 คือข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์ความสวยวาม ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ลำดับที่ 5 คือข้อที่ 3 ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี ระดับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ลำดับที่ 6 คือข้อที่ 5 ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น ระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ลำดับที่ 6 แสดงป้ายราคาอย่างชัดเจน ระดับความพึง พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ลำดับที่ 7 ความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ลำดับที่ 8 ผลิตภัณฑ์มีการออกแบบ ที่เป�นเอกลักษณ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 ลำดับที่ 9 ราคา
17 เหมาะสมกับคุณภาพสินค้า ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 ลำดับที่10 ราคาสามารถต่อรองได้(ลดได้) ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 การจำแนกเป�นรายด้านและภาพรวม ภาพรวมความพึงพอใจของประชากรที่มีผลิตภัณฑ์ กระจกดอกไม้ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก คือ อันดับที่ 1 ด้านผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 22.74 รองลงมาอันดับที่ 2 ด้านประโยชน์เชิงพาณิชย์ ระดับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 14.2 อันดับที่ 3 ด้านราคา ระดับความพึงพอใจอยู่ ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.36 จากการศึกษาความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แบบปรายเป�ดข้อเสนอแนะ พบว่าประชากรส่วนมากมีความคิดเห็นตรงกันว่าผลิตภัณฑ์ควรมีสีสันหลากหลาย 5.2 อภิปรายผล ประเด็นสำคัญที่จากการประเมินในเรื่องนี้ผู้จัดทำจะได้นำมาอภิปรายเพื่อสรุปผลเป�นข้อยุติให้ ทราบถึงข้อเท็จโดยมีการนำเอกสารดังนี้ 5.2.1 ด้านผลิตภัณฑ์จากการศึกษาพบว่าประชากรในเขตวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำ รักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.63 คือ ผลิตภัณฑ์ ความสวยงาม 5.2.2 ด้านราคาจากการศึกษาพบว่าประชากรประชากรในเขตวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึง น้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 4.53 คือ แสดงป้ายราคาอย่างชัดเจน 5.2.3 ด้านเชิงประโยชน์เชิงพาณิชย์จากการศึกษาพบว่าประชากรประชากรในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากค่าเฉลี่ย 4.80 คือผลิตภัณฑ์สามารถนำมาใช้ได้จริง สรุปผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ซื้อสินค้าที่มีต่อกระจกดอกไม้ ของผู้ซื้อสินค้าในเขต วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ภาพรวมอยู่ใน ระดับที่มาก ที่สุด ลำดับที่ 1 ผลิตภัณฑ์มีความสวยงาม ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 รองลงมาคือข้อที่ 9 ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับตนเอง ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
18 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ลำดับ ที่ 3 คือข้อที่ 11 เป�นที่ยอมรับนำสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ระดับความฟ�ง พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 ลำดับที่ 4 คือข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์ความสวยวาม ระดับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ลำดับที่ 5 คือข้อที่ 3 ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ลำดับที่ 6 คือข้อที่ 5 ผลิตภัณฑ์มี ความโดดเด่น ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 และลำดับที่ 6 แสดง ป้ายราคาอย่างชัดเจน ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ลำดับที่ 7 ความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลิตภัณฑ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ลำดับที่ 8 ผลิตภัณฑ์มีการออกแบบ ที่เป�นเอกลักษณ์ ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 ลำดับที่ 9 ราคาเหมาะสม กับคุณภาพสินค้า ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 ลำดับที่ 10 ราคาสามารถต่อรองได้(ลดได้) ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ปรับราคาให้เหมาะสม 5.3.2. ควรเพิ่มสีสันของผลิตภัณฑ์ 5.3.3 ควรมีหลากหลายขนาด
19 บรรณานุกรม สรญา แสงเย็นพันธ์. (2561). ดินเบา (Light Clay) หรือดินป��นเกาหลี คืออะไร?, แหล่งที่มา http://www.kidartshop.com นคเรศ. (2565). ประวัติกระจก, แหล่งที่มาhttps://th.wikipedia.org บริษัท พี. เกรท มาร์เก็ตติง จำกัด. (2560). ประวัติ กาวตราช้าง, แหล่งที่มา https://marketeeronline.co/archives/256235
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก แบบสอบถามจัดทำโครงงาน
แบบสอบถาม การศึกษาความพคงพอใจของประชากรที่มีผลผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ในเขตพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี คำชี้แจง : แบบสอบถาม 1. แบบสอบถามเพื่อการศึกษาความพึงพอใจของประชาชกรที่มีต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ใน เขตพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงขอความกรุณา ตอบแบบสอบถามตามความเป�นจริงโดยข้อมูลที่ได้รับจากแบบสอบความฉบับนี้ใช้ประกอบการศึกษา เท่านั้น 2. แบบสอบถาม 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของประชากรที่มีต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป คำชี้แจง : โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องว่าง หน้าข้อความที่ตรงกับคำตอบของท่านหรือ เติมข้อความให้สมบูรณ์ 1.1 เพศ เพศชาย เพศหญิง 1.2 อายุ อายุต่ำกว่า 20 ป� อายุ 20 - 30 ป� อายุ 31 - 40 ป� อายุ 41 ป�ขึ้นไป 1.3 อาชีพ นักเรียน ครู/อาจารย์ รับจ้างทั่วไป อื่นๆ.............
ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้ คำชี้แจง : โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องว่างระดับความพึงพอใจเพียงข้อละ 1 เครื่องหมาย ข้อ ที่ ความพึงพอใจของประชากรที่มีผลต่อ กระจกดอกไม้ ระดับความพึงพอใจ มากที่สุด (5) มาก (4) ปาน กลาง (3) น้อย (2) น้อย ที่สุด (1) ด้านผลิตภัณฑ์ 1 ผลิตภัณฑ์ความสวยงาม 2 ผลิตภัณฑ์มีการออกแบบที่เป�น เอกลักษณ์ 3 ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี 4 ความคิดส้รางสรรค์ในการทำผลิตภัณฑ์ 5 ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น ด้านราคา 6 แสดงป้ายราคาอย่างชัดเจน 7 ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า 8 ราคาสามารถต่อรองได้(ลดได้) ด้านเชิงประโยชน์เชิงพาณิชย์ 9 ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับตนเอง 10 ผลิตภัณฑ์สามารถนำมาใช้ได้จริง 11 เป�นที่ยอมรับนำสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
ภาคผนวก ข อุปกรณ์การจัดทำกระจดดอกไม้
อุปกรณ์การทำกระจกดอกไม้ ลำดับ อุปกรณ์ รูปภาพประกอบ 1 ดินเบา 2 กระจก 3 กาว
ภาคผนวก ค ขั้นตอนการจัดทำกระจกดอกไม้
ขั้นตอนการทำกระจกดอกไม้ ลำดับ คำอธิบาย ภาพประกอบ 1 ป��นดินเบาเป�นวงกลม 2 ประกอบติดกันเป�นรูปดอกไม้ 3 นำมาติดกับกระจก 4 รอให้แห้งสนิท
ขั้นตอนการสำรวจ
ภาคผนวก ง ผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้
ผลิตภัณฑ์กระจกดอกไม้
ภาคผนวก จ แผ่นพับ ตราสินค้า โปสเตอร์
ตราสินค้า
ประวัติผู้จัดทำโครงงาน
ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นางสาวกัญญาณัฐ มั่นใจ บ้านเลขที่ 22/5 หมู่16 ตำบลบึงทองหลาง ลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150 หมายเลขโทรศัพท์ 0635423095 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดขวาง ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนวัดชุมชนวัดทำเลทอง ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นป�ที่ 3 วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี
ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นางสาวณัฐชยา สรงประชา บ้านเลขที่ 39/753 หมู่1 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12110 หมายเลขโทรศัพท์ 0654577011 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดสระบัว ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นป�ที่ 3 วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี
ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นางสาววรรณวดีกุล ศิริทาน บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 5 ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150 หมายเลขโทรศัพท์ 0649903628 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนรวมราษฎ์สามัคคี ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นป�ที่ 3 วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี
ประวัติผู้จัดทำโครงงาน ชื่อ นางสาวรัชนีวรรณ กล่อมจิตร์ บ้านเลขที่ 5/4 หมู่7 ตำบลลำไทร อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150 หมายเลขโทรศัพท์ 0631505765 e-mail address: [email protected] ประวัติการศึกษา ชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดทศทิศ ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนวัดทศทิศ ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นป�ที่ 3 วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี