รายงาน
เรื่อง สินเชื่อเพื่อบริโภค
โดย
นาย นภัสกร สัตตรัตนำพร
เสนอ
อาจารย์ ศิริรักษ์ สมพงษ์
รายงานนี้เป็นส่วยหนึ่งของ วิชา อาชีพ
(ง23201)
ภาคเรื่อนที่2ปีการศึกษา 2564
โรงเรียน นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย
คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพ3 เพื่อให้ได้ ศึกษา
หาความรู้เรื่องสินเชื่อเพื่อบริโภค และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์จ่อการเรียน
ผู้จัดทำ หวังว่า รายงานนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น หากมีข้อเสนอเเนะหรือข้อผิดพลาด
ปนะการใดขอน้อมรับไว้ขออภัยมา ณ ที่นี้
ผู้จัดทำ
นายนภัสกร สัตตรัตนำพร
สารบัญ หน้ า
ก
เรื่อง ข
คำนำ
สารบัญ 1-2
สินเชื่อเชื่อบริโภค 3
สินเชื่อที่อยู่อาศัย
สินเชื่อรถยนต์ 4-5
บัตรเครดิต 6-10
สินเชื่อบุคคล
ธุรกิจ 11
แหล่งที่มา 12-13
อ้างอิง
14
สินเชื่อคืออะไร
“สินเชื่อ” คือการที่ “ผู้ขอ” มีโอกาสที่จะได้รับเงินก้อนมาใช้จ่ายกับเรื่องต่างๆ
โดยการขอสินเชื่อส่วนมากนั้น มักจะเป็นการขอกับทางสถาบันทางการเงิน
หรือธนาคารต่างๆ ตามระเบียบแบบแผนประเภทต่างๆ ที่เหมาะสมกับผู้ขอ
เรียนรู้ก่อนกู้ สินเชื่อมีกี่ประเภท
เชื่อว่า สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อบ้าน น่าจะเป็นประเภท
ของสินเชื่อที่คุ้นหูกันดี แต่จริงๆ แล้ว ประเภทของสินเชื่อที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สามารถแบ่งประเภทหลักๆ ได้ดังนี้
สินเชื่อที่แบ่งตามลักษณะของผู้ขอสินเชื่อ
สินเชื่อที่แบ่งตามระยะเวลา
สินเชื่อที่แบ่งตามหลักประกัน
สินเชื่อที่แบ่งตามลักษณะของผู้ขอสินเชื่อ
สินเชื่อประเภทนี้สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกตามการใช้งานของสินเชื่อ
โดยที่หลายคนยกให้สินเชื่อประเภทนี้ อยู่ในหมวดเดียวกับการขอสินเชื่อเพื่อ
วัตถุประสงค์ซึ่งมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ
สินเชื่อส่วนบุคคล = สินเชื่อเพื่อการบริโภค
สินเชื่อประเภทนิติบุคคล = สินเชื่อเพื่อการลงทุน การค้า หรือพาณิชย์
สินเชื่อภาครัฐ
สินเชื่อที่อยู่อาศัย
สินเชื่อที่อยู่อาศัย ประกอบไปด้วย เงินต้น อัตราดอกเบี้ย และ
ระยะเวลากู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้จะมีผลต่อการ
คำนวณยอดเงินที่เราต้องชำระรายเดือน
เงินต้นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
เงินต้น ในที่นี้หมายถึง จำนวนเงินที่กู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย และ
ยังไม่ได้ชำระคืน ซึ่งเงินต้นนี้เองที่จะถูกนำไปคิดเป็นดอกเบี้ย
รายเดือน ซึ่งผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะต้องชำระรวมกับเงินต้น
ในแต่ละเดือน
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
โดยทั่วไปแล้วดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนี้จะอ้างอิงกับอัตรา
ดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับเงินกู้ ที่กำหนดโดยธนาคารแห่ง
ประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Minimum Retail Rate (MRR)
และแสดงค่าในรูปแบบของ MRR – x% ตัวอย่างเช่น อัตรา
ดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับเงินกู้อยู่ที่ 6.6% และอัตราดอกเบี้ยของ
สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารคือ MRR -2.5% แสดงว่าอัตรา
ดอกเบี้ยของสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารคือ 4.1% นั่นเอง
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หมายถึง การทำสัญญาซื้อ-ขาย ระหว่างคุณกับบริษัทจำหน่า
รถยนต์ โดยทำสัญญาเช่าซื้อผ่านคนกลาง คือสถาบันการเงินต่างๆ โดยทางสถาบัน
การเงินนั้นๆจะชำระค่ารถยนต์เต็มจำนวนแทนคุณ หลังจากนั้นคุณก็ทำสัญญาตกล
ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนกับสถาบันการเงินหรือบริษัทสินเชื่อเหล่านั้นแทน
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
คือการเช่าซื้อรถยนต์ตามปกติ โดยทำสัญญาซื้อขายกับทางบริษัทสินเชื่อ ผ่านทาง
โชว์รูม ซึ่งทางบริษัทสินเชื่อจะเป็นคนจ่ายค่าเช่าซื้อแทนคุณให้กับทางโชว์รูม แล้วให้
คุณมาผ่อนชำระกับทางบริษัทสินเชื่อด้วยตนเอง ผ่านช่องทางต่างๆตามอัตรา
ดอกเบี้ยที่ตกลงกัน
ซึ่ง สินเชื่อรถยนต์ ในรูปแบบนี้ มีข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รถแตกต่างกันไปตาม
เงื่อนไข บริษัทสินเชื่อบางเจ้าอาจตั้งกำหนดเวลาโอนกรรมสิทธิ์ไว้อย่างยุติธรรม แต่
บางบริษัทอาจถือกรรมสิทธิ์ไปจนกว่าคุณจะทำการผ่อนชำระใกล้หมด ซึ่งเสี่ยง
มากกว่ารูปแบบแรก เพราะหากบริษัทเหล่านั้นถูกฟ้องล้มละลาย คุณก็จะพลอยสูญ
เสียทรัพย์สินไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
สินเชื่อระบบไฟแนนซ์
ก็คือการที่เรามีรถยนต์อยู่แล้ว ผ่านการผ่อนชำระจนหมดพันธะเรียบร้อยแล้ว แต่คุณ
มีความจำเป็นต้องใช้เงินสดจำนวนหนึ่ง จึงนำรถยนต์คันนี้เข้าไปจำนองกับบริษัท
ไฟแนนซ์ เพื่อแลกเป็นเงินสดออกมาใช้จ่าย โดยนำรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
แล้วผ่อนจ่ายตามจำนวนที่ตกลงกัน
สินเชื่อรถยนต์ระบบไฟแนนซ์นี้ สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท ทุกรุ่น และมี
อัตราการประเมินราคาที่แตกต่างกันออกไปตามสายตาของช่าง และนายทุนในบริษัท
นั้นๆ ซึ่งบางทีคุณอาจไม่ได้เต็มตามวงเงินที่ขอไป แต่ทางบริษัทประเมินให้ตามสภาพ
รถและอายุการใช้งาน เพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย
วงเงินในการอนุมัติขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละบริษัทอีกด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 75-
85% ตามราคาและสภาพรถ ระยะเวลาในการผ่อนชำระก็ยาวนานพอๆกับการผ่อนรถ
ใหม่อีกครั้งเลยทีเดียว นั่นคือ 12-72 เดือนตามกำลังของผู้กู้
การขอสินเชื่อรถยนต์หากผ่านการอนุมัติแล้ว จะมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งหมายถึงการ
คิดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวตั้งแต่แรกซื้อ โดยไม่มีการทบต้นทบดอกเพิ่มในภายหลัง
โดยบวกดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไปในยอดชำระของแต่ละงวด ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนั้นาขึ้นอยู่กับ
หลายปัจจัย เช่นสภาวะทางการตลาด สภาพคล่องทางเศรษฐกิจ สภาวะการแข่งขัน
ระหว่างบริษัทที่อนุมัติสินเชื่อด้วยกันเอง ซึ่งทางบริษัทสินเชื่อจะคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม
รวมเข้าไปด้วย 7% สำหรับรถใหม่
สินเชื่อบัตรเครดิต
บัตรเครดิต หรือ บัตรสินเชื่อ
เป็นบริการที่สถาบันทางการเงินต่าง ๆ ออกให้แก่ลูกค้า เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด
บัตรเครดิตที่รู้จักกันเช่น วีซา มาสเตอร์การ์ด เจซีบี ยูเนี่ยนเพย์ อเมริกันเอกซ์
เพรส ดิสคัฟเวอร์ และ ไดเนอร์สคลับ สามารถใช้ได้ตามจำนวนวงเงินบัตรที่
อนุมัติหักออกด้วยค่าสินค้าและบริการที่ใช้จ่ายผ่านบัตร ค่าธรรมเนียม
ดอกเบี้ย และหนี้สินคงค้างที่ยังไม่ได้ชำระ
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิต มีแบบไหนบ้าง?
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิต (Payment Gateway) หรือที่หลายคนคุ้นเคยกับบัตร
เครดิตที่มีสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนบัตร อาทิ Visa, MasterCard, JCB, UnionPay ที่เรา
เคยเห็นกันบ่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือตัวกลางในการชำระเงิน ระหว่างร้านค้า และสถาบันการ
เงิน ซึ่งบัตร Visa และ MasterCard เป็นรูปแบบการชำระเงินที่เป็นที่ยอมรับจากสากล มี
เครือข่ายที่รองรับการชำระเงินอยู่ทั่วโลก ซึ่งการใช้จ่ายแต่ละรูปแบบก็จะมีสิทธิประโยชน์ใน
การใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป
บัตรเครดิต Visa
ถือเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศ
สหรัฐอเมริกา มีทั้งในรูปแบบของบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ให้คุณมั่นใจว่าคุณสามารถใช้
จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่าได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุมทั่วโลก ทั้งร้านค้าและบริการต่าง
ๆ ที่รองรับบัตรวีซ่า ไปจนถึงการใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่ให้คุณสามารถกดเงินได้ครอบคลุมกว่า
200 ประเทศทั่วโลก
บัตรเครดิต MasterCard
อีกหนึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่น
เดียวกัน พร้อมรูปแบบการให้บริการทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรพรีเพด แต่มีการ
รองรับการใช้งานจากร้านค้าที่มากกว่าบัตรวีซ่า นอกจากนี้ประโยชน์ในการใช้งานต่าง ๆ
แทบไม่ต่างกับบัตรวีซ่า ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณสามารถใช้จ่ายได้ทุกที่ที่มีเครื่องหมาย
MasterCard
บัตรเครดิต JCB
บัตรเครดิต JCB คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศญี่ปุ่น อีกหนึ่งบัตรที่มีคนสนใจเป็น
อย่างมาก อีกทั้งในปัจจุบันร้านค้าส่วนใหญ่ยังเปิดให้สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต JCB
ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้บัตร JCB มักจะมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในการเดินทางท่องเที่ยว
ที่ประเทศญี่ปุ่น เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม การซื้อสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น
บริการต่าง ๆ ในสนามบิน บัตรนี้ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็น
อย่างมาก
บัตรเครดิต UnionPay
ผู้ให้บริการจากประเทศจีน ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งมีร้านค้าในประเทศไทยที่รับการ
ชำระผ่าน UnionPay อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ยังมอบสิทธิประโยชน์ทั้งการใช้จ่ายที่
ประเทศจีน มาเก๊า ไต้หวัน ฮ่องกง ทั้งสำหรับการเดินทางหรือการใช้จ่ายในประเทศนั้น ๆ
รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยสกุลเงินของประเทศดังกล่าว
สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อส่วนบุคคลคือวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ผู้กู้สามารถนำไปใช้ได้ตามความ
ต้องการ หรือเพื่อประโยชน์ของแต่ละคน โดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน จะ
พิจารณาอนุมัติให้กับบุคคลทั่วไปที่มีรายได้มั่นคง มีประวัติทางการเงินที่ดี และมี
ความสามารถในการจ่ายเงินคืน เช่น พนักงานที่มีรายได้ประจำ มีการผ่อนชำระสิน
เชื่อตรงต่อเวลาต่อเนื่อง 12 - 24 เดือน ปกติธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้สูงสุด
ประมาณ 5 เท่าของรายได้ เช่น ถ้าคุณมีรายได้ 20,000 บาท คุณสามารถกู้สิน
เชื่อส่วนบุคคลได้ไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่เงื่อนไขการอนุมัติของแต่ละ
ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน
ลักษณะเด่นของสินเชื่อส่วนบุคคลคือ
ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน โดยธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะ
พิจารณาวงเงินกู้จากเอกสารรายได้ของผู้กู้เป็นหลัก ข้อดีก็คือผู้กู้ไม่ต้องวิ่งวุ่นไป
หาคนมาค้ำประกัน เพราะปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครอยากเอาอนาคตทางการเงินมา
เสี่ยงเพื่อคนอื่น
วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้หรือสูงสุด 2 ล้านบาท ซึ่งน่าจะมากพอที่จะ
นำไปใช้จัดการธุระทางการเงินที่วางแผนไว้ และไม่มากเกินไปจนกลายเป็นภาระที่
ต้องแบกรับไปอีก 1 – 5 ปีข้างหน้า
มีค่างวดผ่อนชำระที่ชัดเจน และสามารถเลือกผ่อนจ่ายได้ตามความสามารถในการ
ชำระหนี้แบบสบายๆ นานสูงสุดถึง 60 เดือน ทำให้ผู้กู้สามารถวางแผนค่าใช้จ่าย
ต่อเดือนได้
ดอกเบี้ยเรียกเก็บเป็นแบบลดต้นลดดอก วิธีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเป็นสิ่งสำคัญ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้กู้ต้องตระหนักถึง เมื่อมีมาก ก็จ่ายคืนมาก นอกจากจะช่วยให้เป็น
อิสระภาพทางการเงินเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเงินที่ต้องทิ้งไปกับดอกเบี้ยที่
รวมแล้วเกือบจะสูงเท่าเงินต้นที่จ่ายไป แล้วเอาส่วนต่างดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ไปลง
ฝากเข้าบัญชี หรือลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย
สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ
สินเชื่อธุรกิจ คือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับท่านเจ้าของกิจการที่ประกอบ
กิจการมาแล้วอย่างน้ อย 2 ปี ต้องการเงินทุนมาหมุนเวียน หรือต้องการ
เงินทุนเพื่อใช้ดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซื้อ
เครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต หรือขยายธุรกิจ เช่น วงเงินเบิก
เกินบัญชี(O/D) , เงินกู้ระยะยาว (T/L) , วงเงินรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
(P/N) , สินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ , สินเชื่อโครงการพิเศษ , บริการ
ด้านการค้ำประกัน , หนังสือรับรองเครดิต เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่ธรุกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจนต้องเพิ่มกำลังขยาย
กิจการ หรือธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จนทำให้ต้องปรับโครงสร้าง
ใหม่ในระยะเวลาสั้น ๆ
เจ้าของธุรกิจต้องวางแผนให้ดีว่าจะจัดการหาเงินทุนหมุนเวียน หรือ
วงเงินสำรองมาจัดการอย่างไรให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ไม่มี
สะดุด และสิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้ คือ การขอสินเชื่อ SME
ขั้นตอนในการขอรับสินเชื่อ
1.ติดต่อเจ้าหน้ าที่ ที่ให้บริการเกี่ยวกับการเงิน เพื่อปรึกษาและขอสินเชื่อ
SME
2. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ง่าย ๆ https://www.formoneycredit.com/ ใช้
เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที และ Upload เอกสารผ่านทางเว็บไซต์
3.เจ้าหน้ าที่พิจารณากิจการ/ประเมินหน้ างาน (ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น)
4.อนุมัติการขอสินเชื่อ เซ็นสัญญาและรับเงินเข้าบัญชีธนาคารของคุณทันที
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจกิจรายย่อยที่ต้องการขอ สินเชื่อ SME จะเห็นได้ว่ามี
หลากหลายประเภทให้เลือกพิจารณา
โดยผู้ประกอบการก็ควรคำนึงถึงการเลือกสินเชื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์
ระยะเวลา และความเหมาะสมเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก
เพื่อที่จะสามารถใช้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสามารถในการ
ชำระเงินคืนให้กับผู้ให้บริการเงินทุนได้ด้วย
สรุปสินเชื่อแต่ละประเภท
บรรณานุกรม
https://www.formoneycredit.com
/content/2527
https://www.moneyguru.co.th/pe
rsonal-loan/articles