The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้น ป.๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanna.tk, 2022-05-17 03:08:37

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้น ป.๒

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้น ป.๒

ใบงานท่ี 1

Draw the lines to match the letters.

Km
Iq
Gy
Dz
Cj
Ag
Bf
Ec
Fa

Hk
Jb
Ld
Me
Ql
Yh
Zi

ใบงานท่ี 2

1. Look at the pictures and write name

What’s your name?

ผังมโนทศั นห์ น
เร่อื ง Back to

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ ....1

1.เรอ่ื งคำศัพทเ์ กีย่ วกับอุปกรณ์ หนว่
การเรียนตา่ งๆ เรอ่ื

เวลา......10........ ชัว่ โมง

3.เรอ่ื งคำแ
พูดและเ
ข้อมูลบอ
เวลา...

น่วยการเรยี นร้ทู ี.่ ..2.....
o school รายวิชาภาษาอังกฤษ
1....เวลา.....29.....ชวั่ โมง จำนวน.....5.......หนว่ ยกิต

วยการเรยี นรูท้ ี่ ..2.. 2.เรอ่ื งจำนวน 11-20
อง Back to school เวลา ......9........ชัว่ โมง

และประโยคทีใ่ ช้ในการ
เขียนเพือ่ ถามและให้
อกจำนวนสิ่งของตา่ งๆ
....10........ ชว่ั โมง

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง Back to school จำนวน 29 ช่วั โมง

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ชั้น ป.2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

รายวิชาภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ12101 ครูผู้สอน นางวรรณา แก้วกัลยา

_________________________________________________________

สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)

เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอปุ กรณก์ ารเรียนตา่ งๆ และจำนวน 11-20 รวมถึงโครงสร้างประโยคคำถาม

What have you got? และคำตอบ I’ve got ……………. และคำถาม-คำตอบ ที่ถามถึงจำนวนของส่งิ ของ คือ

How many …..(plural nouns)…. are there? There is/are ……(number)…… noun. ซึง่ เป็นการเรียนรู้

ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล

ตัวช้ีวดั ป2/3. เลอื กภาพตรงความหมายของคำ กล่มุ คำ และประโยคทีฟ่ ัง

ป2/4. ตอบคำถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา หรือนทิ านง่ายๆ ทีม่ ีภาพประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและ

ความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ตัวช้ีวัด ป2/1. พูดโต้ตอบดว้ ยคำส้ันๆ ง่ายๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบทีฟ่ งั

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพูด

และการเขียน

ตวั ช้ีวดั ป2/1. พูดให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวัด ป2/1. พดู และทำทา่ ประกอบ ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ืน่ และ
เป็นพืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน

ตวั ช้ีวัดที่ ป2/1. บอกคำศพั ทท์ ี่เกีย่ วข้องกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น

สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
( Competency ) ( Desired Characteristics )

- ความสามารถในการส่อื สาร - มีวินยั
- ความสามารถในการคิด - ซื่อสตั ย์สุจริต
- ใฝเ่ รียนรู้
- ม่งุ มั่นในการทำงาน
- มีจติ สาธารณะ

ทักษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทักษะการคิด
ทกั ษะเฉพาะวิชา - ระดมสมอง
- การค้นคว้าขอ้ มูล
- ฟงั เข้าใจในสง่ิ ที่ได้ยิน หรือสนทนา - การนำเสนอข้อมลู
- พดู ได้ใจความ ออกเสียงได้ถูกต้อง
สามารถถ่ายทอดข้อมลู เนื้อหาได้
- อา่ น เข้าใจตวั อกั ษร คำ และภาพทีเ่ หน็ ใน
หนงั สือเรียนและแบบฝึกหัด และอ่านออกเสยี งได้
- เขียน ตวั อกั ษร คำศัพท์ และประโยคงา่ ยๆ ได้

ความเขา้ ใจทีย่ ง่ั ยืน
นกั เรยี นสามารถพดู คำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนต่างๆ และบอกจำนวน 11-20 รวมถึง

โครงสร้างประโยคคำถาม What have you got? และคำตอบ I’ve got ……………. และคำถาม-คำตอบ ที่ถาม
ถึงจำนวนของสง่ิ ของ คือ How many …..(plural nouns)…. are there? There is/are ……(number)…… noun.
ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ความสมั พันธ์กับกลุม่ สาระการเรยี นร้อู ื่น
- สาระคณิตศาสตร์ นักเรยี นสามารถนับจำนวนและเขียนตวั เลขได้ถูกต้อง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่.....3.....
เร่อื งคำศัพทเ์ กีย่ วกับอปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ
เวลา.....10.....ช่ัวโมง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งที่ต้องรแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน / ชิน้ งาน การวดั ผลและการ
และตัวชี้วัด ประเมินผล
นกั เรยี นสามารถบอก - การพูดถาม-ตอบ ชือ่
ต1.1 ป2/3 ป2/4 คำศัพทเ์ กี่ยวกบั อุปกรณ์ อปุ กรณก์ ารเรียนต่างๆ - ประเมินการทำ
การเรียนต่างๆ ได้ - การทำกลอ่ งใส่อปุ กรณ์ แบบฝึกหดั
การเรียน - สงั เกตพฤติกรรมการ
- การวาดภาพตามคำสัง่ เรียนรู้ในชว่ งการทำ
-แบบฝึกหดั กิจกรรม
- ประเมินการปฏิบัติ

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

1. ความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นสามารถบอกคำศพั ท์เกีย่ วกับอปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ ได้

2. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- บอกคำศัพทเ์ กี่ยวกบั อปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ ได้
- การวาดภาพอุปกรณก์ ารเรียน
- ประดิษฐ์กลอ่ งใสอ่ ปุ กรณก์ ารเรียน

3. สมรรถนะ (Competency)
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด

3. หลักฐานการเรยี นรู้ชิน้ งานหรือภาระงาน (Work)

- กลอ่ งใส่อุปกรณ์การเรียน

- แบบฝึกหัด

- ภาพอปุ กรณ์การเรียน

4. การวดั และการประเมินผล ( Evaluation )

สง่ิ ทีว่ ัดผล วิธีวดั ผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมิน

ดา้ นความรู้ (K) -ประเมินการทำแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านร้อยละ 50ขึน้ ไป

-สังเกตพฤติกรรมการ -แบบสังเกตพฤติกรรม

เรียนรู้ในชว่ งการทำ

กิจกรรม

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) - ประเมินดา้ นทกั ษะ -แบบประเมินทักษะ ผ่านร้อยละ 50ขึน้ ไป

-ประเมินการพูดถาม-

ตอบข้อมูลง่ายๆ เกีย่ วกบั

จำนวน

เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) - ประเมินคุณลักษณะอัน -แบบประเมิน อยู่ในระดบั ผ่านขึน้ ไป

พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์

สมรถนะของผู้เรยี น (C) - ประเมินสมรถนะของ -แบบประเมินสมรถนะ อยู่ในระดับผ่านขึน้ ไป

ผู้เรยี น ของผู้เรียน

5. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กิจกรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลือนกั เรยี น
1) จดั กิจกรรมให้เหมาะสมกบั วยั ความสามารถและความสนใจของผู้เรยี น
2) ใช้สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสม
3) ผู้เรยี นมีส่วนรว่ มทำกิจกรรมและการประเมินผล
4) ใช้เทคนคิ วิธกี ารเรียนรู้ที่หลากหลาย

6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น ( 1 ช่วั โมง )
1. ครทู ักทายนกั เรยี นในห้องเรียน และนักเรียนทักทายครูโดยพร้อมเพรียงกนั
2. ครูทบทวนอักษร A-Z โดยให้นักเรยี นท้ังช้ันพูด หรือรอ้ งเพลง ABC

3. ครูให้นกั เรยี นนำใบงานที่ 2 ทีใ่ ห้กลับไปทำเปน็ การบ้านขนึ้ มาเฉลย และทำกิจกรรม Listen and

Point เพื่อทบทวนความจำ
4. ครบู อกนักเรยี นว่าในบทเรียนนี้ นกั เรยี นจะได้เรยี นรู้คำศัพทเ์ กี่ยวกบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ

และส่งิ ของในห้องเรียน รวมทั้งไดฝ้ ึกสนทนา เพือ่ ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สง่ิ เหลา่ นี้

2. ข้ันสอน ( 8 ช่วั โมง )
1. ครทู ดสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี นเกีย่ วกบั อุปกรณก์ ารเรียน ดว้ ยแบบทดสอบ English Pre-
Test ครูตรวจคำตอบและเพื่อบันทึกคะแนนของนกั เรยี นแต่ละคนไว้

2. นกั เรยี นดรู ปู ภาพในหนังสือเรยี น หน้า 4 ข้อ 1 Listen and point. แล้วตอบครวู า่ เหน็
อะไรบ้างในภาพ
Teacher: What do you see in this picture?
Students: ดนิ สอ กรรไกร กระเป๋านักเรียน ดนิ สอสี ตู้หนังสือ ยางลบ
ครูเปิด วีดที ศั น์ ให้นกั เรยี นฟงั 2 รอบ ให้นกั เรยี นพูดตาม แล้วชไี้ ปตามภาพทีไ่ ด้ยิน โดย
ครชู ใี้ ห้นกั เรยี นดูทลี ะภาพกอ่ น เพื่อให้มั่นใจวา่ ออกเสียงตรงตามภาพ จากน้ันนักเรยี นและครู
ชว่ ยกันบอกความหมายของภาพที่ได้ฟงั เสยี งจาก วีดที ศั น์ นักเรยี นฟงั 2-3 ครงั้ ชภี้ าพ
ตามเสยี ง แล้วออกเสียงให้ถูกต้อง

3. ครสู อนคำศพั ทเ์ กี่ยวกบั อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ครูเตรียมบัตรภาพ และส่งิ ของจริงในช้ันเรียนได้แก่
ยางลบ กระเป๋าดนิ สอ สเี ทียน กรรไกร กระเป๋านกั เรียน และเตรียมบตั รคำตอ่ ไปนี้

eraser cupboard pencil case crayon

scissors school bag

ครูชสู ง่ิ ของทีละสิ่ง และติดบตั รคำบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นออกเสียงและสะกดคำตามครู

4. นกั เรยี นเปิดหนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 2 Listen, point and say. ครสู ุ่มเรียกนักเรยี น
2-3 คน ให้ยืนขนึ้ อ่าน (1 คน อา่ นทงั้ 6 คำ) ครูทดสอบการจำคำศัพท์ของนกั เรยี น
โดยการสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 7 คน ให้ออกมาหน้าชั้นเรียน แล้วยื่นอปุ กรณ์การเรียนต่างๆ ที่
ครเู ตรียมมาให้นักเรยี นคนละ 1 ชนิ้ นักเรยี นแต่ละคนต้องนำอุปกรณ์การเรียนทีต่ นเอง
ได้รับชขู นึ้ ให้ตรงกับบตั รคำทีค่ รถู ือไว้

5. นักเรียนดูรูปภาพในหนงั สอื เรียน หน้า 5 ข้อ 3 Listen and match. โดยครูถามนักเรยี นว่า
มีใครอยใู่ นภาพบ้าง

Teacher: Who are in the picture? (ชที้ ี่ภาพ ด.ช. และ ด.ญ.)
Students:Jenny and Tommy.
6. ครใู ห้นักเรยี นดกู ระเป๋าของ Jenny และฝกึ พูดประโยค What have you got in school bag?

แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกันแปลโดยดคู วามหมายจากรปู ภาพ จากนั้นให้นักเรียนฟังครูพูดคำศพั ท์

ว่ามีส่งิ ใดเป็นสมบตั ขิ อง Jenny ทีอ่ ยใู่ นกระเป๋านกั เรียน โดยการโยงเสน้ จากสิง่ ของทีอ่ ยู่

ดา้ นบนมาทีก่ ระเป๋านักเรียนของ Jenny

7. ครสู มุ่ นักเรยี น 2 คน ออกมาพูดบทสนทนาให้เพือ่ นๆ ในชั้นฟัง ครบู อกนักเรยี นว่า การที่

เราจะบอกผู้อื่นว่าเรามีสิ่งใด เราสามารถใช้รูปแบบดงั นี้ ครูเขียนบนกระดาน

A : What have you got in school bag?

B : I’ve got + (noun) .

8. นักเรยี นแตล่ ะคนมองสิ่งของของตนบนโตะ๊ เพือ่ เตรียมพูดคนละ 1 ประโยค ครเู ดนิ ไปรอบๆ ห้อง

เมื่อสุ่มไปทีน่ กั เรยี นคนใด นักเรยี นคนน้ันต้องพูดอยา่ งรวดเรว็ เช่น

Ploy: I’ve got a book.

Kratae: I’ve got an eraser. (ครสู มุ่ ประมาณ 10 คน)

นักเรยี นทำแบบฝึกหดั หน้า 8 ขอ้ ที่ 6 ให้นกั เรยี นวาดภาพส่งิ ของที่อย่ใู นกระเป๋าของนักเรยี น

๙. ครทู บทวนการใช้ article a/an ดังตอ่ ไปนี้

a และ an ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ (1 ส่งิ ) เมื่อกล่าวถึงคำนามนนั้ โดยทัว่ ไปไม่

เฉพาะเจาะจง a + คำนาม 1 ส่งิ ทีข่ นึ้ ต้นดว้ ยพยัญชนะ เช่น a book a pen

an + คำนาม 1 สง่ิ ที่ขนึ้ ต้นดว้ ยสระ (a, e, i, o และ u) เชน่

an eraser an apple

10. ครูสอนนักเรียนประดิษฐ์กล่องใส่อปุ กรณ์การเรียน สำหรบั จัดเกบ็ ส่งิ ของให้เป็นระเบียบ ซึ่งมี

ข้ันตอนการประดิษฐ์ ดังนี้

1) เตรียมอปุ กรณ์ ได้แก่ กระปอ๋ ง 1 ใบ กระดาษหอ่ ของขวญั กาว ริบบิ้น

2) ลา้ งกระป๋องให้สะอาด ขนาดของกระป๋องไมค่ วรใหญ่ หรือเลก็ เกินไป โดยอาจใช้กระป๋อง

นมข้นหวาน หรือกระป๋องนำ้ อดั ลมก็ได้ ถ้าไมม่ ีกระป๋องนักเรียนสามารถใช้กลอ่ งแขง็ แทนได้

3) ตดั กระดาษหอ่ ของขวัญให้พอดกี บั กระป๋อง พันกระดาษรอบกระป๋อง แล้วใช้กาวปิด

4) ตกแตง่ กระป๋องดว้ ยริบบิ้นให้สวยงาม

เมือ่ นกั เรียนทุกคนประดิษฐ์กระป๋องเสร็จ ครคู ัดเลอื กผลงานที่สวยงามและดเี ด่น 5 ชนิ้
เพื่อนำมาแสดงหน้าช้ันเรียน พร้อมตดิ ชื่อของเจ้าของผลงาน

3. ขน้ั สรปุ ( 1 ชวั่ โมง )
1. ครูทดสอบความรู้ของนักเรยี นเกี่ยวกับอปุ กรณก์ ารเรียน หลงั จากเรียนไปแล้วดว้ ยแบบทดสอบ
English P0st-Test ครูตรวจคำตอบและจ้งผลคะแนนของนกั เรยี นแต่ละคนวา่ มีการพัฒนาขนึ้
หรือไม่
2. ครูส่ังให้นักเรยี นกลับไปทำการบ้านในแบบฝึกหัดหนา้ ที่ 4- 7 นำมาส่งครูในชัว่ โมงตอ่ ไป

4. สื่อการสอน / แหลง่ เรียนรู้

1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 2
3. วีดที ศั น์ Smile ป. 2
4. บตั รภาพ บตั รคำ
5. ใบงาน
6. อปุ กรณ์ในการประดิษฐ์กล่องเก็บอุปกรณ์
7. ส่งิ ของและอปุ กรณก์ ารเรียนตา่ งๆ

7. บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ด้านความรู้ (K)

ตารางที่ 1 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรือ่ ง ............................................................

...........................................................................................................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบว่านักเรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อย่ใู นระดบั ................
และรองลงมารอ้ ยละ.................อย่ใู นระดบั ..................และพบวา่ นักเรียน.............................................
............................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรือ่ ง .........................................................

.......................................................................................................................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบว่านกั เรียนผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยู่ในระดบั ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ................และพบว่านกั เรี..........................................................
...........................................................................................................................................................

1.3 ด้านเจตคติ / คณุ ลักษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชื่อมโยงกับมาตรฐานหลักสตู ร

ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง .......................................................

................................................................................................................................

ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบว่านักเรียนคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดบั ............
และ รองลงมารอ้ ยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบว่านักเรียน.....................................................
..................................................................................................................................................................

สรปุ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ………… ………………..
1) นักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยูใ่ นระดับ..........................................
2) นักเรยี นมีทกั ษะในระดบั ........................................
3) นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะในระดับ..........................................

2. บรรยากาศการเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

3. การปรบั เปลี่ยนแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถ้ามี)
...........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

4. ขอ้ ค้นพบดา้ นพฤติกรรมการจดั การเรยี นรู้
...........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

5. อืน่ ๆ.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ปัญหา/สิง่ ทีพ่ ฒั นา / แนวทางแก้ปัญหา / แนวทางการพฒั นา

ปัญหา/สิ่งที่พัฒนา สาเหตขุ องปญั หา/ แนวทางแก้ไข/ วิธแี ก้ไข/พัฒนา ผลการแก้ไข/
พฒั นา
สิ่งที่พัฒนา พัฒนา

ลงชือ่ ....................................... ผู้สอน
(นางวรรณา แก้วกัลยา)

รับทราบผลการดำเนนิ การ

ลงชือ่ ...............................................
(นางสาวอังคณา ทับลอ้ ม)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ลงชือ่ ............................................
( นายชาญยุทธ สทุ ธธิ รานนท์ )
รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

ลงชือ่ ...........................................
( นายวีระ แก้วกัลยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวัดเพชรบรุ ี

8. ความคดิ เหน็ (ผู้บรหิ าร / หรอื ผทู้ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย)
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.....นางวรรณา แก้วกลั ยา........แลว้ มีความเห็นดงั นี้
8.1 เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
ดมี าก ดี
พอใช้ ต้องปรบั ปรงุ
8.2 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ใช้กระบวนการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป
8.3 เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใช้สอนได้
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
8.4 ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

.............................................................................................................................................................

ลงชือ่ ................................................
(นางสาวอังคณา ทบั ลอ้ ม)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ความคิดเหน็ ของรองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ
..............................................................................................................................................................

.......................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................
( นายชาญยทุ ธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน
..............................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.............................................
( นายวีระ แก้วกลั ยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวดั เพชรบรุ ี

English Pre-Test and Post-Test

What are these?

1. P___ ___ c ___ ___
2. R ___ l ___ ___
3. ___ r a ___ ___ ___
4. C ___ ___ y ___ ___
5. P___ ___
6. N ___ ___ e b___ ___ k
7. S ___ ___ o___ ___ b ___ ___
8. B ___ ___ ___
9. S ___ ___ s s ___ ___s
10. P___ ___ c ___ ___ c ___ ___

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่.....4.....
เร่อื ง จำนวน 11-20

เวลา.....9.....ชวั่ โมง ระดบั ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลักฐานการเรยี นรู้ / การวัดและการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิง่ ที่ต้องร้แู ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชิน้ งาน การวดั ผลและการ
และตัวชี้วัด ประเมินผล
นกั เรยี นสามารถบอกและ - การพดู ถาม-ตอบ เลข
ต1.1 ป2/3 ป2/4 เขียนจำนวน 11-20 ได้ จำนวน 11 - 20 - ประเมินการทำ
- การนบั จำนวนสิ่งของ แบบฝึกหัด
ตั้งแต่ 11 - 20 - สังเกตพฤติกรรมการ
-แบบฝึกหดั เรียนรู้ในชว่ งการทำ
กิจกรรม
- ประเมินการปฏิบัติ

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

1. ความรู้ (Knowledge)
การเรียนรู้จำนวนตวั เลข 11-20

2. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- การอา่ นออกเสียง สะกดคำ และเขียนตัวอกั ษรของจำนวน 11-20
- การวาดภาพอปุ กรณ์การเรียนตามจำนวนตัวเลข

3. สมรรถนะ (Competency)

- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด

3. หลักฐานการเรยี นรู้ชิน้ งานหรือภาระงาน (Work)

- แบบฝึกหัด

- ภาพอปุ กรณก์ ารเรียน

4. การวดั และการประเมินผล ( Evaluation )

ส่งิ ที่วดั ผล วิธีวดั ผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมิน

ดา้ นความรู้ (K) -ประเมินการทำแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผา่ นร้อยละ 50ขึน้ ไป

-สังเกตพฤติกรรมการ -แบบสังเกตพฤติกรรม

เรียนรู้ในช่วงการทำ

กิจกรรม

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) -ประเมินการอ่านออกเสียง -แบบประเมินทักษะ ผา่ นร้อยละ 50ขึน้ ไป

สะกดคำ และเขียน

ตัวอักษรของจำนวน 11-

20 ได้

- ประเมินดา้ นทกั ษะฟงั

พดู และระบจุ ำนวนสิง่ ของ

ตา่ งๆ ได้

เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) - ประเมินคณุ ลักษณะอัน -แบบประเมิน อยใู่ นระดับผา่ นขึน้ ไป
สมรถนะของผู้เรยี น (C) พึงประสงค์
คุณลกั ษณะอันพึง
- ประเมินสมรถนะของ
ผู้เรยี น ประสงค์

-แบบประเมินสมรถนะ อยูใ่ นระดับผา่ นขนึ้ ไป

ของผู้เรยี น

5. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้/แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ช่วยเหลือนักเรยี น
1) จดั กิจกรรมให้เหมาะสมกับวยั ความสามารถและความสนใจของผู้เรยี น
2) ใช้สือ่ /แหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลายและเหมาะสม
3) ผู้เรยี นมีสว่ นรว่ มทำกิจกรรมและการประเมินผล
4) ใช้เทคนคิ วิธกี ารเรียนรู้ที่หลากหลาย

6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น ( 1 ชั่วโมง )
1. ครทู กั ทายนักเรยี นในห้องเรียน และนกั เรียนทักทายครูโดยพร้อมเพรียงกนั
2. ครูทบทวนจำนวนตวั เลข 1 - 10 โดยให้นกั เรยี นทั้งช้ันพดู พร้อมกัน
3. ครใู ห้นักเรยี นพูดตวั เลข 1 – 10 ทีละคนไปเรอ่ื ยจนครบท้ังห้อง และร้องเพลง “Ten Little
Indians” ครูเขียนเนอื้ เพลงบนกระดาน ดงั นี้

Ten Little Indians
One little, two little, three little Indians,
four little, five little, six little Indians,
seven little, eight little, nine little Indians,

4. ครูให้นักเรยี นนำแบบฝึกหดั ทีใ่ ห้กลับไปทำเปน็ การบ้านขนึ้ มาเฉลย และทำกิจกรรม Listen and
Point หนา้ 7 ขอ้ 4 เพื่อทบทวนความจำ

5. ครูบอกนักเรยี นว่าในเรือ่ งตอ่ ไป นกั เรยี นจะได้เรยี นรู้คำศพั ท์เกีย่ วกับตัวเลขจำนวน 11 - 20

2. ขน้ั สอน ( 7 ชว่ั โมง )
1. นักเรยี นดูจำนวนตวั เลข 11-20 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 8 ขอ้ 1 Listen and point.
2. ครเู ปิด วีดที ัศน์ จำนวนตวั เลข 11-20 ให้นักเรยี น ฟัง 2-3 ครงั้ นักเรยี นชตี้ วั เลขตามที่
ได้ยินจาก วีดที ศั น์ แล้วออกเสียงตามสำเนียงของเจ้าของภาษาให้ถกู ต้อง จากน้ันครูคอยเดนิ
สังเกต และกระตนุ้ ให้นกั เรยี นออกเสียงหรือขยบั รมิ ฝีปาก พร้อมทั้งชตี้ วั เลขดว้ ย

eleven twelve thirteen fourteen fifteen
sixteen seventeen eighteen nineteen twenty

นักเรยี นทกุ คนอ่านออกเสียงตวั เลขโดยพร้อมเพรียงกัน และสะกดตวั อักษร เช่น

Students: e - l - e - v - e - n eleven สบิ เอด็
สบิ สอง
t- w - e - l - v - e twelve

3. นกั เรยี นสำรวจรูปภาพและกลมุ่ คำตา่ งๆ ในหนงั สือเรยี น หน้า 8 ขอ้ 2 Listen, point and
say. ครูถามนกั เรยี นว่าเหน็ อะไรในภาพ
Teacher: What do you see in this picture?

Student: Pens, pencils, erasers, books, rulers, cupboards, notebooks,
scissors, chairs and schools bags.

ครเู ตอื นให้นกั เรยี นออกเสียง [s] ท้ายคำนาม เนือ่ งจากสง่ิ ของมีจำนวนหลายชนิ้ จะต้องเติม[s]

School, school, school. Back to school.

Eleven chairs Twelve pens

Thirteen rulers Fourteen pencils

Fifteen scissors Sixteen school bags

Seventeen books Eighteen erasers

Nineteen notebooks Twenty cupboards

School, school, school. This is my school.

ครอู ่านข้อความดา้ นบน และให้นกั เรยี นอ่านตามพร้อมท้ังช่วยกันอธิบายความหมายของสิ่งทีไ่ ดย้ ิน และชี้
ตวั อกั ษรทีเ่ หน็ ในหนงั สือเรียน จากน้ันจึงอา่ นออกเสียงพร้อมๆ กัน และชนี้ วิ้ ให้ตรงตามภาพประกอบ
ท้ัง 10 ภาพ ครูสุ่มนกั เรยี น 10 คน ให้ลกุ ข้นึ ยืนเพือ่ อา่ นคนละ 1 หมายเลข และชตี้ าม
ภาพประกอบแต่ละภาพให้ถกู ต้อง นักเรยี นทีเ่ หลอื ดตู าม และทักท้วงถ้าพบข้อผิดพลาด
4. นักเรยี นนบั จำนวนส่งิ ของอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ท้ัง 6 ชนิด ซึ่งอยู่ในกรอบทั้ง 6 ในหนงั สือเรยี น
หนา้ 9 ขอ้ 3 Count and match the objects. โดยนับตามเข็มนาฬิกา เริ่มจากกรอบภาพกระเป๋า
นักเรยี น 13 ใบกอ่ น นักเรยี นเริ่มต้นนับจาก 1-13 เชน่

Students: one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine,
ten, eleven, twelve, thirteen, thirteen school bags.
(เน้นเสยี ง [s] ดว้ ย)

เมื่อนกั เรียนนบั ภาพในกรอบจนครบทุกภาพแลว้ จึงใช้ดินสอสโี ยงเสน้ จากภาพแต่ละภาพไปยงั จำนวน
ตวั เลขท้ัง 6 ให้ถูกต้อง โดยกำหนดให้ใช้สีแตกต่างกันในการโยงเส้น เพื่อกนั การสับสน นกั เรยี น
สามารถปรึกษากับเพือ่ นข้างเคียงได้ จากนั้นช่วยกนั เฉลยคำตอบ

5. ครอู ธิบายนกั เรียนว่าการที่เราจะระบจุ ำนวนของสิง่ ของตา่ งๆ เราใช้โครงสร้าง ดังนี้ ครเู ขียนบน
กระดาน

number + plural noun * คำนามพหพู จนค์ ือ
(จำนวนตัวเลข + นามพหูพจน)์ นามทีม่ ีมากกว่า 1 ขนึ้ ไป

เช่น fourteen boys sixteen cups eleven crayons

6. ครแู จกใบงานที่ 1 ให้เวลานกั เรยี นทำกิจกรรม 10 นาที นักเรยี นช่วยกนั คิดหากลมุ่ คำตา่ งๆ ทีร่ ะบุ

จำนวนตามโครงสร้างขา้ งต้น คนละ 5 กลมุ่ คำ โดยสงั เกตจากสิง่ รอบๆ ตวั ภายในห้องเรยี น แล้ว

เขียนลงในสมุดของตนเอง

ครูสุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ให้ยืนขนึ้ อา่ นดงั ๆ เช่น

Joy: ten books, nine girls,

eleven pens, thirteen students,

eight rulers.

ครอู ธิบายคำนามเอกพจน์ (Singular) และพหพู จน์ (Plural) ดังนี้

1) คำนามเอกพจน์ (Singular) แสดงว่ามีคน สตั ว์ ส่งิ ของ อยเู่ พียงสิ่งเดยี ว หรืออันเดยี ว

ปรกตินาม Singular จะใช้ a หรือ an นำหน้าคำนาม เชน่

a teacher an orange

a book an egg

2) คำนามพหูพจน์ (Plural) แสดงว่ามีคน สตั ว์ ส่งิ ของ มากกว่าหนึง่ ตามปรกตินาม

Plural ใช้รปู เดยี วกบั นาม Singular แต่จะเติม s ท้ายคำ และไมม่ ี a/an นำหน้า เชน่

a student two students etc.
an egg ten eggs
an eraser fourteen erasers
a pencil twenty pencils

3. ข้นั สรุป ( 1 ชว่ั โมง )
1. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั หน้า 9 - 11 ข้อ 7 - 10 ให้นกั เรยี นนบั อุปกรณ์การเรียนแล้ว

เขียนตวั เลข เติมตัวเลขที่หายไปและ จบั คตู่ วั เลขกับส่งิ ของ
2. ครูแจกใบงานที่ 2 ให้นักเรยี นกลบั ไปทำการบ้าน นำมาส่งครูในช่วั โมงตอ่ ไป

4. สื่อการสอน / แหลง่ เรียนรู้

1. หนังสือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 2
3. วีดที ัศน์ Smile ป. 2
4. บัตรภาพ บัตรคำ
5. ใบงาน
6. อปุ กรณใ์ นการประดิษฐ์กล่องเกบ็ อุปกรณ์
7. สง่ิ ของและอปุ กรณก์ ารเรียนต่างๆ

ใบงานท่ี 1

คำช้ีแจง
1. ให้นักเรียนจบั คกู่ นั 2 คน
2. ให้นกั เรียนชว่ ยกนั คดิ หากล่มุ คำตา่ งๆ ท่ีระบจุ ำนวนตามโครงสร้างข้างต้น คู่ละ
5 คำ โดยสงั เกตจากสิ่งรอบๆ ตวั ภายในห้องเรียน แล้วเขียนลงในสมุดของ
ตนเอง
3. ครสู ่มุ นกั เรียน 2-3 คน ให้ยืนขึ้นอ่านดังๆ เชน่
ten books, nine girls,
eleven pens, thirteen students,
eight rulers.

ใบงานท่ี 2

Write the number

1………………………………………………… erasers
2………………………………………………… pencils

3…………………………………………………….. pen
4……………………………………………………..notebook
5……………………………………………………..school bag
6………………………………………………………crayon

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่.....5.....
เรอ่ื ง เรื่องคำและประโยคทีใ่ ช้ในการพดู และเขียนเพือ่ ถามและให้ข้อมลู บอกจำนวนสิง่ ของตา่ งๆ

เวลา.....10.....ชัว่ โมง ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลักฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิง่ ที่ตอ้ งร้แู ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชิน้ งาน การวัดผลและการ
และตวั ชีว้ ัด ประเมินผล
คำและประโยคที่ใช้ในการ - การพูดถาม-ตอบ
ต1.3 ป2/1 พดู และเขียนเพื่อถามและ การนบั จำนวนสิง่ ของ - ประเมินการทำ
ต3.1 ป2/1 ให้ข้อมูลบอกจำนวนสิง่ ของ -แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั
ตา่ งๆ -หุน่ กระบอกหุ้มหัวดินสอ - สังเกตพฤติกรรมการ
เรียนรู้ในชว่ งการทำ
กิจกรรม
- ประเมินการปฏิบตั ิ

2. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)

1. ความรู้ (Knowledge)
- คำและประโยคที่ใช้ในการพูดและเขียนเพื่อถามและให้ขอ้ มูลบอกจำนวนสิ่งของตา่ งๆ

2. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- การอ่านออกเสียง สะกดคำ และเขียนตวั อักษร
- การนับตามจำนวนตัวเลข
- การประดิษฐ์ห่นุ กระบอกหุ้มหวั ดินสอ

3. สมรรถนะ (Competency)

- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการคิด

3. หลักฐานการเรยี นรู้ชิน้ งานหรือภาระงาน (Work)

- แบบฝึกหัด

- การพดู ถาม-ตอบจำนวนปริมาณตัวเลขการนับจำนวนสิง่ ของ

- หุน่ กระบอกหุ้มหัวดินสอ

4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )

ส่งิ ที่วดั ผล วิธีวัดผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การประเมิน

ดา้ นความรู้ (K) -ประเมินการทำแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด ผ่านร้อยละ 50ขึน้ ไป

-สังเกตพฤติกรรมการ -แบบสงั เกตพฤติกรรม

เรียนรู้ในช่วงการทำ

กิจกรรม

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) -ประเมินการอา่ นออกเสียง -แบบประเมินทกั ษะ ผ่านร้อยละ 50ขึน้ ไป

สะกดคำ และเขียน

ตวั อักษรของจำนวน ได้

- ประเมินดา้ นทกั ษะฟงั

พูด และระบุจำนวนสิ่งของ

ตา่ งๆ ได้

-หุ่นกระบอกหุ้มหวั ดินสอ

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) - ประเมินคุณลักษณะอัน -แบบประเมิน อยใู่ นระดบั ผา่ นขึน้ ไป
สมรถนะของผู้เรยี น (C) พึงประสงค์
คณุ ลักษณะอันพึง
- ประเมินสมรถนะของ
ผู้เรยี น ประสงค์

-แบบประเมินสมรถนะ อยใู่ นระดับผา่ นขึน้ ไป

ของผู้เรยี น

5. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้/แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ช่วยเหลือนักเรยี น
1) จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกบั วัย ความสามารถและความสนใจของผู้เรยี น
2) ใช้สือ่ /แหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลายและเหมาะสม
3) ผู้เรียนมีส่วนร่วมทำกิจกรรมและการประเมินผล
4) ใช้เทคนคิ วิธกี ารเรียนรู้ที่หลากหลาย

6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น ( 1 ชว่ั โมง )
1. ครูทกั ทายนกั เรยี นในห้องเรียน และนกั เรียนทกั ทายครูโดยพร้อมเพรียงกัน
2. ครทู บทวนจำนวนตวั เลข 1 - 20 โดยให้นกั เรยี นท้ังชั้นพดู พร้อมกนั
3. ครูให้นกั เรยี นนำแบบฝึกหดั ที่ให้กลบั ไปทำเป็นการบ้านขึ้นมาเฉลย นกั เรยี นช่วยกันเฉลย
และครเู ขียนหมายเลขที่ถูกต้องบนกระดาน ครูสมุ่ นักเรยี น 3 คน ให้ยืนขนึ้ อา่ น
5. นกั เรยี นทุกคนนำอุปกรณก์ ารเรียนทกุ ชิ้นที่อยูใ่ นกระเป๋านกั เรียน และใต้โตะ๊ เรียนมาวางบน
โตะ๊ เรียนของตน ครบู อกให้นกั เรยี นบอกชือ่ อปุ กรณ์การเรียนเปน็ การทบทวน แล้วให้หยิบ
อุปกรณท์ ีเ่ หมอื นกันขนึ้ มานบั จำนวน
2. ข้ันสอน ( 8 ชั่วโมง )
1. ครูสอนโครงสร้างประโยคคำถามจำนวน ดังนี้

(นักเรยี น) A: How many + (plural noun) are there?

(เพ่อื นทางดา้ นซ้าย) B: Thereare + number + noun. (ดอู ปุ กรณบ์ นโตะ๊ ของตน)

is

นักเรยี นสามารถดูรูปแบบการสนทนาไดจ้ ากหนังสือเรียน หน้า13 ข้อ 3 Ask and answer.
2. ครใู ห้นักเรยี นจับค่กู นั เพือ่ ฝึกบทสนทนาถาม-ตอบถึงจำนวนสิง่ ของตา่ งๆจาก หนังสอื เรียน

หน้า 13 ข้อ 4 Ask and answer. เมื่อนักเรียนถามเสร็จแล้วให้นกั เรียนสลบั คู่ ถามใหม่
จนคลอ่ ง
3. นักเรยี นฝึกร้องเพลง “How many … are there” โดยก่อนอื่นนักเรยี นดเู นอื้ เพลงในหนงั สือ

เรียนหน้า 10 ข้อ 5 นักเรยี นอา่ นเนอื้ เพลงทีละบรรทัด แล้วช่วยกันบอกความหมาย
พร้อมกบั ครู จากน้ันจึงทบทวนการอา่ นหมายเลขจากภาพประกอบรอบเนอื้ เพลง โดยเริ่ม
จากหมายเลข 11-20 อา่ นเป็นวงกลมตามเขม็ นาฬิกา และใช้นวิ้ ช้ีตามหมายเลขที่อา่ น

Students: eleven, twelve, thirteen, ………… twenty.
ครเู ปิด วีดที ศั น์ ให้นกั เรยี นฟงั และร้องตามหลายๆ คร้ังจนคลอ่ ง จากนั้นครูคอยเดนิ ดูและ
ช่วยเหลอื นกั เรยี นที่ยังร้องเพลงไมไ่ ด้

How many... are there?
How many pens arethere?
How many pens arethere?
How many pens are here?
How many pens arethere?
There are 11, 12,13,14,15
How many books are there?
How many books are there?
How many books are there?
How many books are there?
There are 16, 17, 18, 19, 20

นักเรยี นทุกคนร้องเพลงโดยพร้อมเพรียงกัน ครสู ุ่มเรียกนักเรยี น 2-3 คน ให้ร้องคน
เดยี วนักเรยี นแบ่งออกเปน็ กลมุ่ กลุ่ม 5-6 คน (team work) เพือ่ แขง่ กันร้องเพลง และ
ดดั แปลงเนอื้ เพลง โดยเปลย่ี นชือ่ อปุ กรณ์การเรียนเปน็ ชนิดอื่น สว่ นตวั เลข 11-20 ยงั
คงไว้ไม่เปล่ยี นแปลง ครมู ขี องรางวลั มอบให้กบั ทีมทีร่ ้องเพลงได้ดีที่สุด คือเสยี งดงั
4. นักเรยี นสำรวจประโยคท้ัง 4 และรปู ภาพในกรอบส่เี หล่ยี ม 4 ภาพ จากหนงั สือเรียนหน้า
11 ข้อ 6 จากนั้นจึงลากเสน้ จากประโยคทั้ง 4 มายงั รปู ภาพให้ตรงกับความหมาย

Teacher: How many pencils are there?

Tina: There are fourteen pencils.
Teacher: How many erasers are there?
Tina: There are twenty erasers.
Teacher: How many scissors are there?
Tina: There are eleven scissors.
Teacher: How many crayons are there?
Tina: There are seventeen crayons.

นกั เรยี นอ่านประโยคท้ัง 4 พร้อมๆ กนั แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ ดว้ ยความเหน็ ชอบของครู
5. ครแู จกใบงานที่ 1 ให้นักเรยี นศึกษาและให้เวลาทำกิจกรรม เกี่ยวกบั วิธีประดษิ ฐ์หุ่นกระบอกติด

หัวดินสอในหนังสือเรียน หน้า 14
6. นักเรยี นนำหุ่นกระบอกของตนแสดงให้เพือ่ นๆ ดู ทกุ คนในห้องชว่ ยกันตัดสินใจวา่ หนุ่ กระบอก

ของผู้ใดสวยที่สดุ จำนวน 5 หนุ่ นกั เรยี นนำหนุ่ กระบอกของตนเองไปแสดงบทสนทนากบั หุน่ ตวั
อื่นๆ ครกู ำหนดรปู แบบการสนทนา โดยเขียนโครงสร้างบนกระดาน ดงั นี้

A: How many (สิง่ ของในห้อง) are there? หนุ่ กระบอกตัวใดพูด
B: There are (number + plural noun) . ให้นกั เรยี นขยบั หุ่นตวั นั้น
A: What have you got in your school bag?
B: I have got (อปุ กรณ์อย่างนอ้ ย 3 ชนิ้ ) .

นกั เรียนนำหุ่นกระบอกของตนไปสนทนากับหุ่นตัวต่างๆ รอบหอ้ งเรียน อยา่ งนอ้ ย 3-4 ครง้ั
จนคล่อง จากนั้นครูสุม่ ตวั อยา่ งนักเรียน 3 คู่ ให้นำหุ่นของตนมาสนทนาที่หน้าช้ันเรียน
นักเรยี นพากย์เสยี งให้สมจริงสมจัง พร้อมกับขยบั ตัวหนุ่ ทีก่ ำลงั พูดด้วย

7. นกั เรยี นเล่นเกมนบั ภาพในหนงั สือเรยี น หนา้ 15 ข้อ 1 Count and write the numbers. โดย
ครูจดั ให้นักเรยี นนง่ั เปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน การเล่นมีดังนี้ ให้ทกุ คนในกลุ่มชว่ ยกนั นับจำนวน
ส่งิ ของที่ระบใุ นข้อ 1 เริม่ จาก one, two …… แล้วรีบใสต่ ัวเลขลงในชอ่ ง กล่มุ ไหนเสร็จก่อนชนะ

3. ข้ันสรุป ( 1 ชัว่ โมง )
1. ครูแจกใบงานที่ 2 ให้นกั เรยี นเล่นเกม dictate number วงกลมตวั เลขตามคำบอกครู ใครที่
ถูกต้องและไวทีส่ ุดจะไดร้ ับรางวัล
2. นักเรยี นทำงานเปน็ คกู่ ับเพือ่ นที่ตนเองโปรดปราน (Pair work) โดยการนับจำนวนอุปกรณ์การ
เรียน และสง่ิ ของต่างๆ ในแบบฝึกหัด หน้า 12 ขอ้ 11 Count and write. แล้วเขยี นจำนวน
เปน็ ตวั อกั ษรทีถ่ ูกต้องลงในชอ่ งว่างทั้ง 5 ข้อ แล้วผลดั กนั ถาม-ตอบจนคลอ่ ง
ครสู ุ่มนักเรยี น 4 คู่ใหอ้ อกมาถาม-ตอบ คู่ละ 1 คำถาม
3. นักเรยี นฝึกคิดตัวเลขให้มีความสัมพันธ์กนั ในจำนวน 1-20 ดว้ ยแบบฝึกหดั หนา้ 13
ขอ้ 12 Complete the pattern. ครกู ำหนดให้นักเรยี นทำงานเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 3 คน เพื่อช่วยกนั
คิดหาจำนวนทีถ่ กู ต้อง แล้วนำไปเติมในวงกลมทีก่ ำหนดให้ จากนั้นจึงเขียนตัวอักษรบอกจำนวนกำกบั
ให้หมายเลขทุกจำนวนเมือ่ ทุกกลมุ่ ทำงานเสร็จแล้ว ครจู งึ เฉลยลงบนกระดาน ดงั นี้
1. 4
2. 5
3. 4
4. 9, 7
5. 12
6. 14, 18
7. 16

4. สือ่ การสอน / แหลง่ เรียนรู้

1. หนังสือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2
3. วีดที ศั น์ Smile ป. 2
4. บัตรภาพ บัตรคำ
5. ใบงาน
6. อปุ กรณ์ในการประดิษฐ์ห่นุ กระบอก

7. บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ด้านความรู้ (K)

ตารางที่ 1 แสดงคา่ ร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรือ่ ง ............................................................

...........................................................................................................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดีมาก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบวา่ นกั เรยี นผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยูใ่ นระดับ................
และรองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ..................และพบวา่ นักเรยี น.............................................
............................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรือ่ ง .........................................................

.......................................................................................................................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบวา่ นักเรียนผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยูใ่ นระดับ..........และ
รองลงมาร้อยละ.................อยู่ในระดบั ................และพบว่านกั เรี..........................................................
...........................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คุณลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชือ่ มโยงกับมาตรฐานหลักสูตร

ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง .......................................................

................................................................................................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบวา่ นกั เรยี นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดับ............และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดับ...............และพบว่านกั เรียน.....................................................
..................................................................................................................................................................
สรปุ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ………… ………………..
1) นกั เรยี นมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนอยใู่ นระดับ..........................................
2) นักเรียนมีทักษะในระดับ........................................
3) นักเรยี นมีคุณลักษณะในระดบั ..........................................
2. บรรยากาศการเรยี นรู้
.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
3. การปรับเปลีย่ นแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถ้ามี)
.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
4. ขอ้ ค้นพบดา้ นพฤติกรรมการจดั การเรยี นรู้
.................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
5. อื่นๆ.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ปัญหา/สิง่ ทีพ่ ัฒนา / แนวทางแกป้ ญั หา / แนวทางการพัฒนา

ปัญหา/สิง่ ทีพ่ ัฒนา สาเหตขุ องปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ วิธแี ก้ไข/พัฒนา ผลการแก้ไข/
พฒั นา
สิ่งที่พฒั นา พฒั นา

ลงชือ่ ....................................... ผู้สอน
(นางวรรณา แก้วกัลยา)

รับทราบผลการดำเนนิ การ

ลงชือ่ ...............................................
(นางสาวอังคณา ทับลอ้ ม)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ลงชือ่ ............................................
( นายชาญยทุ ธ สุทธธิ รานนท์ )
รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ลงชื่อ...........................................
( นายวีระ แก้วกัลยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบรุ ี

8. ความคดิ เห็น (ผบู้ รหิ าร / หรอื ผ้ทู ี่ได้รับมอบหมาย)
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.....นางวรรณา แก้วกลั ยา........แลว้ มีความเห็นดงั นี้

8.1 เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก ดี
พอใช้ ต้องปรบั ปรุง

8.2 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ใช้กระบวนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป

8.3 เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใช้สอนได้
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

8.4 ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

(นางสาวอังคณา ทับลอ้ ม)
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
....................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................
( นายชาญยุทธ สุทธธิ รานนท์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน
....................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

ลงชื่อ.............................................
( นายวีระ แก้วกัลยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวดั เพชรบุรี

ใบงานท่ี 1

หุ่นกระบอกตดิ หัวดินสอ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์ มีดงั ตอ่ ไปนี้

1) ดินสอดำ 1 แท่ง 2) กระดาษแขง็ สีขาว 2-3 แผ่น

3) กรรไกรเล็ก 4) กาว หรือแปง้ เปียก

5) สีเทียน 6) เศษไหมพรมสดี ำ หรือน้ำตาล

ข้ันตอนการประดิษฐห์ นุ่ กระบอกติดหวั ดินสอ ดงั ต่อไปนี้

1) ตัดกระดาษแขง็ เปน็ รูปวงกลม ให้มีเส้นผ่านศนู ย์กลางประมาณ 1.5 – 2

ซ.ม.

2) วาดหน้าตาของหุ่นกระบอกให้สวยงามบนวงกลม และระบายสีด้วยสีเทียน

3) นำไหมพรมมาติดเปน็ ผม โดยทำเปน็ ทรงต่างๆ เช่น ผมเปีย

ผมบอ๊ บ ผมยาว ผมม้า ฯลฯ ครเู นน้ ให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

ใบงานท่ี 2

เกม Dictate the numbers

4 11 2 16 1
9 17 8 15 7
10 18 12 20 14
5 13 3 19 6

คำชี้แจง
1. ครูแจกตารางให้นกั เรียนทุกคน ตารางดงั กลา่ วมหี มายเลข 1-20
2. ครูคิดหมายเลขไว้ในใจ 8 หมายเลข เมือ่ ครพู ดู ทีละหมายเลขดังๆ
2 คร้ัง ให้นกั เรียนวงกลมจำนวนตวั เลขให้ถกู ต้อง เมือ่ วงกลมครบ 8
ตัวเลข
3. ให้นกั เรียนนำกระดาษตารางหมายเลขไปเทียบกบั เพื่อนๆ ว่าตรงกนั หรือไม่
4. ครเู ฉลยคำตอบในขนั้ ตอนสุดท้าย และพูดให้นักเรียนฟงั อกี 1 คร้ัง

ผงั มโนทัศน์หน่วย
เร่อื ง At hom

ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ ....1..

1.เรอ่ื งคำศัพทเ์ กี่ยวกับห้องตา่ งๆ หนว่
ภายในบ้าน

เวลา......10........ ช่วั โมง

3.เร่อื ง
ประโย
สถานท่อี
เวลา.

ยการเรยี นร้ทู ี.่ ..3.....
me รายวิชาภาษาอังกฤษ
...เวลา.....30.....ชั่วโมง จำนวน.....5.......หนว่ ยกิต

วยการเรยี นร้ทู ี่ ..3. 2.เรอ่ื งสมาชิกในครอบครัว
เรอ่ื ง At home เวลา .....10.....ช่ัวโมง

งประโยคบอกเลา่ และ
ยคคำถามเพือ่ ขอทราบ
อยู่ และการตอบคำตอบ
......10........ ชวั่ โมง

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง At home จำนวน 30 ชวั่ โมง

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ช้ัน ป.2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ12101 ครผู ู้สอน นางวรรณา แก้วกัลยา

_________________________________________________________

สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)

การเรียนรู้คำศัพทเ์ กีย่ วกับห้องตา่ งๆ ภายในบ้านทีพ่ ักอาศยั และสมาชิกในครอบครวั ประโยคบอก

เล่า เชน่ He(She)’s in …..(room)….. และประโยคคำถามเพือ่ ขอทราบสถานท่อี ยู่ และคำตอบ เชน่

Where’s ……? He (She)’s in the .....(room)….. รวมท้ังประโยคคำถามทีต่ ้องการคำตอบ Yes/No เช่น

Is he (she) in the …..(room)…..? Yes, he (she) is. หรือ No, he (she) isn’t. ซึง่ เปน็ การเรียนรู้ภาษาองั กฤษ

เพื่อนำไปใช้ในการสอ่ื สารในชีวิตประจำวนั

สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งที่ฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความ

คิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล

ตวั ช้ีวัด ป2/2. ระบตุ ัวอักษรและเสยี ง อา่ นออกเสียงคำ สะกดคำ และอ่านประโยคงา่ ยๆ

ถูกต้องตามหลักการอ่าน

ป2/3. เลอื กภาพตรงความหมายของคำ กล่มุ คำ และประโยคที่ฟัง

ป2/4. ตอบคำถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา หรือนทิ านงา่ ยๆ ทีม่ ีภาพประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งตา่ งๆ โดย

การพดู และการเขียน

ตัวช้ีวัด ป2/1. พดู ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชวี้ ดั ป2/1. พดู และทำท่าประกอบ ตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ป2/3. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วัย

มาตรฐาน ต. 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

ตัวช้ีวดั ป2/1. ระบุตวั อักษรและเสยี งตวั อักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต. 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม

ตวั ช้ีวดั ป2/1. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่านๆ ทีเ่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน
มาตรฐาน ต. 4.2 สามารถใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครือ่ งมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การ
ประกอบอาชีพและการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสงั คมโลก

ตัวช้ีวัด ป2/1. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวมคำศพั ท์ที่เกี่ยวข้องใกลต้ ัว

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
( Competency ) ( Desired Characteristics )

- ความสามารถในการสอ่ื สาร - มีวินัย
- ความสามารถในการคิด - ซือ่ สัตยส์ ุจริต
- ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
- มีจติ สาธารณะ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process )

ทกั ษะเฉพาะวิชา ทักษะการคิด

- ฟงั เข้าใจในสง่ิ ทีไ่ ด้ยิน หรือสนทนา - ระดมสมอง

- พดู ได้ใจความ ออกเสียงได้ถูกต้อง - การค้นคว้าขอ้ มลู

สามารถถ่ายทอดข้อมลู เนอื้ หาได้ - การนำเสนอข้อมูล

- อ่าน เข้าใจตัวอักษร คำ และภาพทีเ่ ห็นใน

หนงั สือเรียนและแบบฝึกหดั และอา่ นออกเสยี งได้

- เขียน ตวั อักษร คำศัพท์ และประโยคงา่ ยๆ ได้

ความเขา้ ใจทีย่ งั่ ยืน
นกั เรียนรู้คำศพั ทเ์ กีย่ วกบั ห้องต่างๆ ภายในบ้านทีพ่ ักอาศัย และสมาชิกในครอบครัว ประโยคบอก

เลา่ และประโยคคำถามเพือ่ ขอทราบสถานทอ่ี ยู่ และคำตอบ รวมทั้งประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบ
ซึ่งเปน็ การเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพือ่ นำไปใช้ในการสือ่ สารในชีวิตประจำวัน

ความสมั พนั ธ์กบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่
- สาระการงานพื้นฐานอาชีพ นักเรยี นไดเ้ รียนรู้ห้องตา่ ง ๆ ภายในบ้านพกั การตกแต่งห้อง
รวมถึงสมาชิกในบ้าน

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่.....6.....
เร่อื งคำศัพทเ์ กี่ยวกบั ห้องต่างๆ ภายในบ้าน
เวลา.....10.....ชัว่ โมง ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลักฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวดั ผลและการ
สิ่งทีต่ ้องร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ประเมินผล

และตวั ชี้วัด

ต1.1 ป2/2 ป2/3 นกั เรยี นสามารถบอก -การพดู ถาม- ตอบ - ประเมินการทำ
คำศัพทเ์ กี่ยวกับห้อง
ตา่ งๆ ภายในบ้าน เกี่ยวกับห้องตา่ งๆ แบบฝึกหัด

ภายในบ้านพักอาศัย - สงั เกตพฤติกรรม

-การเขยี น และระบุ การเรียนรู้ในชว่ งการ

คาศพั ทห์ ้องตา่ งๆ ภายใน ทำกิจกรรม

บ้านพกั อาศยั - ประเมินการปฏิบตั ิ

-การวาดภาพห้องตา่ งๆ

ภายในบ้าน

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

1. ความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นสามารถบอกคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ห้องต่างๆ ภายในบ้านพกั อาศยั

2. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- การพดู ถาม- ตอบเกีย่ วกบั ห้องตา่ งๆ ภายในบ้านพกั อาศยั
- การวาดภาพห้องต่างๆ ภายในบ้านพกั อาศยั

3. สมรรถนะ (Competency)

- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด

3. หลกั ฐานการเรยี นรู้ชิน้ งานหรือภาระงาน (Work)
-การพดู ถาม- ตอบเกีย่ วกับห้องตา่ งๆ ภายในบ้านพกั อาศัย
-การเขียน และระบคุ าศพั ทห์ ้องตา่ งๆ ภายในบ้านพกั อาศยั
--การวาดภาพห้องต่างๆ ภายในบ้าน

4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )

ส่งิ ที่วดั ผล วิธีวัดผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมิน
ดา้ นความรู้ (K) ผา่ นร้อยละ 50ขึ้นไป
-ประเมินการทำแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P) ผ่านร้อยละ 50ขึน้ ไป
-บอกความหมายของคำวา่
เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) อยใู่ นระดับผ่านขึน้ ไป
สมรถนะของผู้เรียน (C) บ้านพกั และห้องตา่ งๆใน อยู่ในระดบั ผ่านขึน้ ไป

บ้านพกั

- ประเมินดา้ นทักษะ -แบบประเมินทักษะ

-ประเมินการพูดถาม-

ตอบข้อมูลง่ายๆ เกีย่ วกบั

จำนวน

- ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั -แบบประเมิน

พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอันพึง

ประสงค์

- ประเมินสมรรถนะของ -แบบประเมิน

ผู้เรยี น สมรรถนะของผู้เรยี น

5. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจัดกจิ กรรม ( Learning Process )
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้/แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลือนกั เรยี น
1) จดั กิจกรรมให้เหมาะสมกบั วัย ความสามารถและความสนใจของผู้เรยี น
2) ใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสม
3) ผู้เรยี นมีส่วนร่วมทำกิจกรรมและการประเมินผล
4) ใช้เทคนคิ วิธกี ารเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย

6. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น ( 1 ช่ัวโมง )
1. ครูและนกั เรียนทักทายกันพอสมควร
2. นกั เรยี นทบทวนคำศพั ทอ์ ุปกรณก์ ารเรียน และจำนวนตวั เลข 1 – 20 ตามที่ไดเ้ รียนมาใน Unit 1
ดว้ ยบัตรภาพ บัตรคำ และบตั รตัวเลข
3. ครูชู รูปบ้าน แลว้ ถามนักเรยี น ดังนี้
Teacher: What’s this?
Students: It’s a house.
4. ครูบอกนกั เรยี นวา่ วันนี้นกั เรียนจะได้เรียนรู้เร่อื งบ้าน และห้องตา่ งๆ ภายในบ้าน
5. นักเรยี นทำแบบทดสอบเพื่อวัดความรู้เดมิ ก่อนการเรียน (English Pre-Test) ครบู นั ทึกคะแนนของ
นักเรยี นเพื่อดูการพฒั นาการ

2. ขนั้ สอน ( 7 ชว่ั โมง )

1.นกั เรยี นเปิดหนังสือเรยี น หน้า 16 ข้อ 1 Listen and point. เพือ่ ดูภาพบ้าน ซึ่งมีอยดู่ ้วยกนั
ท้ังหมด

5 หอ้ ง จากน้ันครถู ามนกั เรยี น
Teacher: This is a house.
How many rooms are there?
Students: There are five rooms.

นักเรยี นฟงั วีดที ัศน์ พดู ถึงห้องต่างๆ นักเรยี นชี้ทีภ่ าพห้องให้ถกู ต้องตามที่ไดย้ ิน โดยชี้ตามครู

dining room, living room, bathroom, kitchen, bedroom

นกั เรยี นฟงั อีก 2 – 3 ครงั้ แล้วชีห้ ้องต่างๆ ตามทีไ่ ดย้ ิน จนสามารถจำชื่อห้องได้
2.นกั เรยี นฟงั วีดที ัศน์ ซึ่งระบุห้องทั้ง 5 ห้องตามรปู ภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 16 ขอ้ 2 Listen,

point and say. โดยใต้รูปภาพทั้ง 5 มีคำศพั ท์ของห้องตา่ งๆ ครใู ห้นักเรยี นชที้ ีละรูปให้ถกู ต้อง
ตาม เสียงพูด แล้วอา่ นออกเสียงดังๆ

dining room, living room, bathroom, kitchen, bedroom

ให้นกั เรยี นฝึกพูดตาม วีดที ัศน์ และหัดอ่านตวั อกั ษรจนออกเสียงได้คล่องทกุ คำศพั ท์ แล้วออกเสียง
ห้องท้ัง 5 พร้อมๆ กัน จากน้ันครสู มุ่ ตัวอยา่ งนักเรียน 4 คน ให้ยืนขนึ้ อา่ นทลี ะคน (1 คนอา่ นท้ัง
5 คำศพั ท)์
3. นักเรยี นฝึกฝนทกั ษะการฟังคำศพั ท์ห้องต่างๆ ภายในบ้านพกั อาศัย โดยกอ่ นอืน่ ครูให้นักเรยี น
สำรวจรูปภาพและคำศัพท์ก่อน ในหนงั สือเรยี น หน้า 17 ข้อ 3 Listen and write the
numbers. นกั เรยี นอ่านคำศัพทพ์ ร้อม ๆ กนั แล้วชว่ ยกนั บอกความหมาย ซึง่ ในแต่ละภาพต่าง
กส็ ื่อความหมายให้อย่แู ลว้ ครูอา่ น ให้นกั เรยี นฟงั 2-3 ครง้ั นักเรยี นต้ังใจฟัง แล้วเขียน
หมายเลขที่ถูกต้องลงในชอ่ งวา่ ง

Number one a living room,
Number two a dining room,
Number three a bedroom,
Number four a kitchen,
Number five a bathroom

ครูเฉลยคำตอบบนกระดาน นกั เรยี นแก้ไขให้ถูกต้อง แล้วฟงั วีดที ัศน์ อีก 1 ครง้ั เป็นครงั้ สดุ ทา้ ย

4. นกั เรยี นเลน่ เกมตอ่ ภาพ Jigsaw วิธีการเลน่ มีดงั นี้
1) ครูหากระดาษสแี ข็งๆ มา 5 สี
2) ครวู าดรูปห้องตา่ งๆ ในบ้านทั้ง 5 หอ้ ง ได้แก่ ห้องรบั ประทานอาหาร ห้องนอน
ห้องครวั ห้องนัง่ เลน่ และห้องนำ้ ลงในกระดาษ หรืออาจหาภาพตามนติ ยสาร แล้ว
นำไปติดกระดาษ ๆละ 1 ภาพก็ได้ เมือ่ กาวแหง้ แล้ว จึงตัดกระดาษแตล่ ะแผ่นออกเปน็
ชิน้ ๆ ประมาณ 7 – 8 ชนิ้
3) นกั เรยี นแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากนั้นครแู จกชนิ้ สว่ นกระดาษให้นกั เรียน
กลุ่มละ1 สี นักเรยี นต้องพยายามต่อช้ินส่วนให้เปน็ รปู ห้องตา่ งๆกอ่ น จึงจะทราบวา่ เปน็
ห้องอะไร กลมุ่ ใดสามารถต่อภาพเสร็จไดเ้ ปน็ กล่มุ แรก และบอกคำศัพทไ์ ด้ถูกต้องถือว่า
เป็นผชู้ นะ
4) ครถู ามความคิดเห็นของนักเรยี นว่าใน 5 ห้อง ได้แก่ (ครเู ขียนบนกระดาน) dining
room, living room, bathroom, kitchen และ bedroom ใครชอบห้องใดมากที่สดุ และ
ทำไม ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มตามความชอบของแต่ละคน จำนวนสมาชกิ ในกล่มุ อาจไม่
เท่ากนั จากนั้นให้สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ ออกความคิดเห็นวา่ ทำไมจงึ ชอบห้องนน้ั มาก
โดยสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียน

3. ขน้ั สรุป ( 2 ชว่ั โมง )
1. นกั เรยี นฝึกทักษะในการเขียนตวั อักษรในแบบฝึกหัด หน้า 14 ข้อ 1 Trace the words and
number the pictures. นกั เรียนฝึกการใช้กล้ามเนือ้ มือมดั เลก็ โดยการเขียนคำศพั ท์ห้องทั้ง 5
ห้อง ดว้ ยดินสอ ดังนี้ dining room, living room, bathroom, kitchen และ bedroom ตามรอยประ
จากนั้นนักเรยี นอา่ นคำศพั ทเ์ หลา่ นดี้ งั ๆ พร้อมกนั เมือ่ เขียนคำศพั ทเ์ สร็จแลว้ นกั เรียนดภู าพบ้าน
และห้องตา่ งๆ ใต้คำศพั ทท์ ั้ง 5 จากน้ันให้นักเรียนเขียนหมายเลขลงในช่องวา่ งให้ถูกต้อง สุดท้าย
ครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน เพื่อให้นักเรียนตรวจดว้ ยตนเอง
2. นกั เรยี นดภู าพอุปกรณ์ และสง่ิ ของทั้งหมด 8 ภาพเล็กๆ ในแบบฝึกหดั หน้า 15 ข้อ 2
Where is it? Find and match. ครูชที้ ีละภาพเพื่อให้นกั เรยี นบอกวา่ เปน็ ภาพอะไร
Teacher:What’s this? (ครชู ไี้ ปทีภ่ าพ 1 ทางซ้ายมือ)

นักเรยี นลากเส้นจากภาพเล็กๆ ท้ัง 8 ซึ่งเปน็ ภาพอุปกรณ์สง่ิ ของต่างๆ โดยพิจารณาวา่ สง่ิ ใดควร
จะไปอยูท่ ีห่ ้องใด ทั้ง 5 หอ้ ง ได้แก่ bathroom, bed room, kitchen, dining room และ living room
ถ้านักเรยี นไม่แน่ใจก็สามารถปรึกษากบั เพือ่ นร่วมชน้ั ได้
3. นกั เรยี นดภู าพห้องตา่ งๆ ทั้ง 5 ภาพทางซ้ายมือ และห้องตา่ งๆ 5 ห้องทางขวามือในแบบฝึกหดั
หนา้ 16 ข้อ 3 Look and match. โดยกอ่ นอืน่ ครชู ที้ ีละภาพ แล้วให้นักเรยี นพูดระบคุ ำศพั ท์
ออกมาจากนั้นนักเรยี นใช้ดินสอโยงเสน้ ภาพทางซ้ายมือมายังภาพขวามือให้ภาพท้ัง 2 มี
ความสมั พันธก์ ัน
4. ครใู ห้นักเรยี นทำ แบบฝึกหัด หนา้ 17 ขอ้ 4 และ แบบฝึกหัด หน้า 18 ข้อ 5 เปน็ การบ้าน
และนำมาส่งในชว่ั โมงตอ่ ไป

4. สื่อการสอน / แหล่งเรียนรู้

1. หนังสือเรียน Smile ป. 2
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2
3. วีดที ัศน์ Smile ป. 2
4. บัตรภาพ บตั รคำ
5. ใบงาน
6. เกมตอ่ จิกซอว์

7. บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ด้านความรู้ (K)

ตารางที่ 1 แสดงคา่ ร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรื่อง ............................................................

...........................................................................................................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบว่านกั เรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดบั ................
และรองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดบั ..................และพบวา่ นักเรียน.............................................
............................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรื่อง .........................................................

.......................................................................................................................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบว่านกั เรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดับ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยู่ในระดับ................และพบวา่ นักเรี..........................................................
...........................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คุณลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชือ่ มโยงกับมาตรฐานหลกั สตู ร

ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง .......................................................

................................................................................................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบวา่ นกั เรียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดับ............และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดับ...............และพบวา่ นกั เรียน.....................................................
..................................................................................................................................................................
สรปุ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ………… ………………..
1) นกั เรยี นมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนอยูใ่ นระดับ..........................................
2) นกั เรยี นมีทักษะในระดบั ........................................
3) นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะในระดับ..........................................
2. บรรยากาศการเรยี นรู้
.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
3. การปรับเปลี่ยนแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถ้ามี)
.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
4. ขอ้ คน้ พบดา้ นพฤติกรรมการจัดการเรยี นรู้
.................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
5. อืน่ ๆ.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version