ปางต่าง ๆ ของพระพุทธรูป ในรูปแบบ การ์ตูนกว่า ๔๖ ปาง
ข้อมูลทางบรรณานุกรม ปางแห่งพระพุทธเจ้า กรุงเทพฯ : พริ้ นท์เอเบิ้ ล, พิมพ์ครั้ งที่ 1, 2566. 48 หน้า. ISBN 978-616-92486-5-1 © ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìÀÒ¾»ÃСͺ ¾.È. 2563 ºÃÔÉÑ· ¾ÃÔé¹·àÍàºÔéÅ ¨Ó¡Ñ´ ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔÅÔ¢ÊÔ·¸Ôì ¾.È. 2558 äÁ‹Í¹ØÞÒµãËŒ¤Ñ´ÅÍ¡ËÃ×Ͷ‹ÒÂÊà¹ÒÀÒ¾»ÃСͺ ¢Í§Ë¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹Õéà¾×èÍà¼Âá¾Ã†ã¹Ê×èÍ·Ø¡»ÃÐàÀ·ËÃ×Íà¾×èÍÇѵ¶Ø»ÃÐʧ¤ã´æ ¹Í¡¨Ò¡¨Ðä´ŒÃѺ͹ØÞÒµ ÁÔઋ¹¹Ñ鹨ж×ÍÇ‹ÒÅÐàÁÔ´ÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìáÅж١´Óà¹Ô¹¤´Õ¡ÒõÒÁ¡®ËÁÒµ‹Íä» á¨¡¿Í¹· PrintAble4U ดูวิดีโอพรอมเสียงบรรยายไดที่ อานการตูนพระพุทธประวัติไดที่ อานการตูนมนุษยคิดบวกเลม1ถึง4ไดที่ ข้อมูลทางบรรณานุกรม ปางแห่งพระพุทธเจ้า กรุงเทพฯ : พริ้ นท์เอเบิ้ ล, พิมพ์ครั้ งที่ 1, 2566. 48 หน้า. ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔÅÔ¢ÊÔ·¸Ôì ¾.È. 2558 äÁ‹Í¹ØÞÒµãËŒ¤Ñ´ÅÍ¡ËÃ×Ͷ‹ÒÂÊà¹ÒÀÒ¾»ÃСͺ กรุงเทพฯ : พริ้ นท์เอเบิ้ ล, พิมพ์ครั้ งที่ 1, 2566. 48 หน้า. ¢Í§Ë¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹Õéà¾×èÍà¼Âá¾Ã†ã¹Ê×èÍ·Ø¡»ÃÐàÀ·ËÃ×Íà¾×èÍÇѵ¶Ø»ÃÐʧ¤ã´æ ¹Í¡¨Ò¡¨Ðä´ŒÃѺ͹ØÞÒµ ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔÅÔ¢ÊÔ·¸Ôì ¾.È. 2558 äÁ‹Í¹ØÞÒµãËŒ¤Ñ´ÅÍ¡ËÃ×Ͷ‹ÒÂÊà¹ÒÀÒ¾»ÃСͺ ข้อมูลทางบรรณานุกรม ปางแห่งพระพุทธเจ้า กรุงเทพฯ : พริ้ นท์เอเบิ้ ล, พิมพ์ครั้ งที่ 1, 2566. 48 หน้า. ISBN 978-616-92486-5-1 ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔÅÔ¢ÊÔ·¸Ôì ¾.È. 2558 äÁ‹Í¹ØÞÒµãËŒ¤Ñ´ÅÍ¡ËÃ×Ͷ‹ÒÂÊà¹ÒÀÒ¾»ÃСͺ ¢Í§Ë¹Ñ§Ê×ÍàÅ‹Á¹Õéà¾×èÍà¼Âá¾Ã†ã¹Ê×èÍ·Ø¡»ÃÐàÀ·ËÃ×Íà¾×èÍÇѵ¶Ø»ÃÐʧ¤ã´æ ¹Í¡¨Ò¡¨Ðä´ŒÃѺ͹ØÞÒµ ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìÀÒ¾»ÃСͺ ¾.È. 2563 ºÃÔÉÑ· ¾ÃÔé¹·àÍàºÔéÅ ¨Ó¡Ñ´ ÁÔઋ¹¹Ñ鹨ж×ÍÇ‹ÒÅÐàÁÔ´ÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìáÅж١´Óà¹Ô¹¤´Õ¡ÒõÒÁ¡®ËÁÒµ‹Íä» อานการตูน ดูเล่มแบบ E-Book พิมพ์ครั้ งที่ 1 พ.ศ. 2566 จํานวน 10,000 เล่ม • ศิลปินผู้วาดภาพประกอบ : สิทธิพงศ์ ปานสมทรง • ขอขอบพระคุณเนื้อหาจาก หนังสือพระพุทธรูปปางต่าง ๆ กรมศิลปากร (ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2552 เลข ISBN 974-417-752-7) • เรียบเรียง พิสูจน์อักษร : ญาณิศา ทับเจริญ • ขอบคุณฟอนท์สวย ๆ จาก www.f0nt.com • ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มอบกระดาษปอนด์มาร่วมพิมพ์หนังสือแจกในครั้ งนี้ บริษัท ซี.เอ.เอส เปเปอร์ จํากัด และ GROW Packaging สงวนลิขสิทธิภาพประกอบ ์ ออกแบบและจัดพิมพ์ : บริษัท พริ้ นท์เอเบิ้ ล จํากัด CALL 094-559-2965 285 ซอยพัฒนาการ 53 แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กทม. 10250 ปางนาคปรก พระอิริยาบถประทับนั่ งขัดสมาธิราบ หงายพระหัตถ์ทั้ งสองวางบนพระเพลา มีพญานาคแผ่พังพานเหนือพระเศียร ขดนาคทําเป็นพุทธบัลลังก์ ในสัปดาห์ที่ ๖ หลังตรัสรู้ พระพุทธองค์ จึงเสด็จไปประทับบําเพ็ญสมาธิ ณ ใต้ต้นมุจลินทพฤกษ์ คราวนั้ นเกิดอากาศวิปริตฝนตกท่วมท้น พญานาคมุจลินท์อาศัยใน สระมุจลินท์ จึงขึนจากสระแผ่พังพานเพื่อปกป้องพระพุทธองค์จากอากาศวิปริตนั ้ ้ น พระพุทธรูปปางนี้เป็นพระพุทธรูปประจําวันเสาร์ *คําอธิบายปางจากภาพที่ปกหน้า
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 1 ปางที ่ ๑ ปางประสูติ พระอิริยาบประทับยืนบนฐาน บัว เบื้องหลังพระเศียร มีประภามณฑล พระหัตถ์แนบองค์ เบื้องหลัง เป็นพระนางสิริมหามายา (พระพุทธมารดา) ประทับยืน ทรงเหนี่ยวกิ่ งต้นรัง รายรอบด้วย พระอินทร์ พระพรหม หมู่เทวดา และข้าราชบริพาร ซึ่งตามเสด็จ พระราชดําเนินไปยังนครเทวทหะ ในระหว่างเส้นทางเสด็จ พระนางสิริมหามายาทรง ประชวรพระครรภ์ ทรงเหนี่ยว กิ่ งต้นรังด้วยพระหัตถ์ขวา ทรงมีพระประสูติกาล พระโพธิสัตว์กุมาร ในมหามงคลดิถีวิสาขะ นักขัตฤกษ์ วันเพ็ญ เดือน ๖ ขึน ๑๕ ค�า ้ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 2 ปางที ่ ๒ ปางมหาภิเนษกรมณ์ หรือปางอธิษฐานเพศบรรพชิต พระอิริยาบถประทับบนหลังอัศวราช ชื่อ กัณฐกะ มีนายฉันนะมหาดเล็กตามเสด็จ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตัดสินพระทัยเสด็จออกบรรพชา เสด็จออกจากเมืองกบิลพัสดุ์ โดยทรงม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะตามเสด็จ เมื่อถึงฝั่ งแม่น�า อโนมา จึงทรงเปลื้องเครื่องทรงขัตติยราชทังหมด พระราชทานแก่นายฉันนะ และทรงตัด้ พระเมาลี
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 3 ปางที ่ ๓ ปางตัดพระเมาลี เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตัดสินพระทัยเสด็จออกบรรพชาขณะเสด็จออกจาก เมืองกบิลพัสดุ์ มารได้ออกมาห้ามมิให้เสด็จออกจากเมืองแต่ด้วยทรงมีพระทัย แน่วแน่มารจึงปลาสนาการ (หายตัวไป) หลังจากนัน พระองค์จึงเสด็จจากเมืองกบิลพัสดุ์ ้ ผ่านเมืองสาวัตถี และเวสาลี บรรลุฝั่ งแม่น�าอโนมาทรงเปลื้องเครื่องทรงขัตติยราช พระราชทานนายฉันนะนํากลับนครกบิลพัสดุ์พร้อมด้วยม้ากัณฐกะ จากนั้ นทรงตัด พระเมาลีด้วยพระขรรค์ อธิษฐานเพศเป็นบรรพชิต
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 4 ปางที่ ๔ ปางทุกรกิริยา เมื่อพระสิทธัตถะครองเพศบรรพชิตทรงแสวงหาวิถีทางเพื่อตรัสรู้ พระโพธิญาณเสด็จถึงป่าอุรุเวลาริมแม่น�าเนรัญชรา ในกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ ประทับบําเพ็ญทุกรกิริยากระทําสมาธิ โดยมีหมู่ปัญจวัคคีย์ประกอบด้วย โกณทัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ เป็นอุปฐาก พระสิทธัตถะทรงบําเพ็ญทุกรกิริยาอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา ๖ ปี จน พระวรกายซูบผอมแต่ยังไม่ทรงบรรลุพระโพธิญาณแต่อย่างใด
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 5 พระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา (สีห์ไสยา) พระเศียรหนุนพระเขนย พระกรซ้ายทอดยาวแนบพระวรกาย พระหัตถ์ขวาหนุนที่พระกรรณ เมื่อพระสิทธัตถะทรงดําริจะเลิกอดภัตตาหาร พระปฐมสมโพธิกถา กล่าวถึงในพุทธประวัติตอนนี้ว่า ครั้ งนั้ นพระอินทร์ ทรงพิณสามสายถวาย พระสิทธัตถะ สายหนึ่ งตึงเกินไปจึงขาด อีกสายหนึ่ งหย่อนเกินไป เมื่อดีดจึง ไม่มีเสียงกังวาน ส่วนสายที่ขึงตึงพอดี มีเสียงที่ไพเราะ จึงทรงระลึกถึงวิถีแห่ง มัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง) อันจะนําไปสู่ความสําเร็จ ปางที ่ ๕ ปางทรงพระสุบิน (ปางสุบิน)
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 6 ปางที ่ ๖ ปางรับมธุปายาส ภายหลังจากพระสิทธัตถะทรงเลิกบําเพ็ญทุกรกิริยา ในเช้าวันเพ็ญ วิสาขะ ๑๕ ค�า เดือน ๖ นางสุชาดา บุตรีของเสนคหบดีแห่งบ้านเสนานิคม เมืองอุรุเวลา หุงข้าวมธุปายาส (ข้าวสุกหุงด้วยน�านมโค) จัดลงในถาดทองคํา เพื่อนําไปบวงสรวงเทวดาที่ต้นนิโครธพฤกษ์ (ต้นไทร) ครั้ นเห็นพระโพธิสัตว์ ประทับอยู่บังเกิดจิตศรัทธา จึงถวายข้าวมธุปายาสถาดนั้ นแก่พระโพธิสัตว์
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 7 ปางที ่ ๗ ปางเสวยมธุปายาส พระอิริยาบถประทับนั่ งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายทรงประคองถาด ข้าวมธุปายาส พระหัตถ์ขวาวางบนปากถาด แสดงพระอิริยาบถทรงหยิบปั้น ข้าวมธุปายาสเสวย เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดาแล้ว พระองค์ทรงถือถาดข้าวมธุปายาสเสด็จสู่แม่น�าเนรัญชรา ทรงแบ่งข้าวมธุปายาส เป็น ๔๙ ส่วน แล้วปั้นเป็นก้อน ๔๙ ก้อน และเสวยข้าวนั้ นจนหมด
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 8 ปางที่ ๘ ปางลอยถาด พระอิริยาบถประทับ นั่ งคุกพระชานุ (เข่า) ทั้ งสอง พระหัตถ์ซ้ายวางที่พระเพลา ข้างซ้ายเป็นอาการค�าพระวรกาย ให้ตั้ งมั่ น ทอดพระเนตรลงต�า พระหัตถ์ขวาปล่อยถาดลอย น�าหลังจากที่พระโพธิสัตว์ เสวยข้าวมธุปายาสแล้ว ณ บริเวณใต้ต้นโพธิ ริมฝั์ ่ งแม่น�า เนรัญชรา ทรงอธิษฐานว่าหาก พ ร ะ อ ง ค์ จ ะ ไ ด้ ต รั ส รู้ เ ป็ น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอ ให้ถาดทองคํานั้นลอยทวน กระแสน�า ปรากฏว่าถาด ทองคําลอยทวนกระแสน�าไป ไกลประมาณ ๘๐ ศอกจึงจมสู่ พิภพพระยากาฬนาคราช
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 9 พระอิริยาบถยืน พระกรซ้ายทอด ยาวข้างพระวรกายพระหัตถ์ขวาหงายยื่น ออกมาข้างหน้า แสดงพระอิริยาบถรับหญ้า ในบางครั้ งอาจมีรูปพราหมณ์ถวายหญ้าคา หรือไม่มีรูปพราหมณ์ดังกล่าวแต่มีหญ้าคา อยู่ที่พระหัตถ์ ในเวลาเย็นพระโพธิสัตว์เสด็จ กลับไปประทับใต้ต้นโพธิ์ ทรงรับหญ้าคาที่ พราหมณ์โสตถิยะถวาย ทรงใช้หญ้าคารอง เป็นที่ประทับใต้ต้นอสัตถพฤกษ์ หรือต้นโพธิ์ ตรัสรู้ ปางที่ ๙ ปางรับหญ้าคา
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 10 ปางที่ ๑๐ ปางสมาธิ ปางสมาธิ ในบางครั้งมี กล่าวถึงเป็นปางตรัสรู้ ซึ่ งอ้างอิง ถึงเหตุการณ์ในพุทธประวัติต่างกัน กล่าวคือ ปางสมาธิ เป็นเหตุการณ์ เมื่อพระโพธิสัตว์ประทับบําเพ็ญ สมาธิบนอาสนะหญ้าคาใต้ต้นโพธิ์ ณ ริมฝั่ งแม่น�าเนรัญชรา ส่วน ปางตรัสรู้ กล่าวถึงเหตุการณ์ ขณะทรงบําเพ็ญสมาธิใต้ต้นโพธิ์ แ ล ะ พ ร ะ ย า วั ส ว ดี ม า ร แ ล ะ พลพรรคมาทําลายขัดขวางการ บําเพ็ญสมาธิ แ ต่ ต้ อ ง พ่ า ย ต่ อ ก ร ะ แ ส น� า จ า ก ม ว ย ผ ม ข อ ง แม่พระธรณี ต่อมาทรงบรรลุญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใ ต้ ต้ น อ สั ต ถ พ ฤ ก ษ์ ริมฝั่ง แม่น�าเนรัญชรา ตําบลอุรุเวลา เสนานิคม แคว้นมคธ เมื่อก่อน พุทธศักราช ๔๕ ปี
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 11 ปางที ่ ๑๑ ปางเรือนแก้ว พระอิริยาบถประทับ นั่งขัดสมาธิราบในซุ้มเรือนแก้ว พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว�าบนพระชานุ นิวพระหัตถ์ชี้พระธรณี ในสัปดาห์ ้ ที่ ๔ หลังตรัสรู้ พระพุทธองค์เสด็จ จากรัตนจงกรมเจดีย์ไปประทับใน เรือนแก้ว (รัตนคฤห) ทางทิศตะวัน ตกเฉียงเหนือ ซึ่ งเทพยดาเนรมิต ถวาย เพื่อทรงพิจารณาพุทธธรรม ในกําหนด ๗ วัน จนบังเกิดเป็น ประภาวลี สถานที่ดังกล่าวจึงมีชื่อ ว่า รัตนฆรเจดีย์ ปางมารวิชัย พระอิริยาบถเหมือนกับ ปางเรือนแก้ว เพียงแต่ไม่มีเรือนแก้วเท่านั้ น
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 12 พ ร ะ อิ ริ ย า บ ถ ป ร ะ ทั บ ยื น พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันอยู่ที่หน้า พระเพลา ลืมพระเนตร เมื่อพระสัมมา สัมพุทธเจ้าตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ และประทับเสวยธรรมปิติ ณ ใต้ต้น มหาโพธิ ครบ ๑ สัปดาห์ ครั ์ ้ นถึงสัปดาห์ ที่ ๒ พระพุทธเจ้าประทับยืนทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือของต้นมหาโพธิ์ ทรงลืมพระเนตรโดยไม่กะพริบพระเนตร บูชาพระมหาโพธิที่พระพุทธองค์ประทับ ์ ต รั ส รู้ ต ล อ ด สั ป ด า ห์ ที่ ๒ ส ถ า น ที่ ดังกล่าวเรียกว่า อนิมิสเจดีย์ ปางที ่ ๑๒ ถวายเนตร
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 13 พระอิ ริยาบถประทั บยืนด้ วย พระบาทขวา ยกส้นพระบาทซ้าย เป็น พระอิริยาบถดําเนินจงกรม พระหัตถ์ทั้ง สองประสานกันที่หน้าพระเพลา พระเนตร ทอดยาวลงต�า ในสัปดาห์ที่ ๓ หลังการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าทรงหยุดพระดําเนินระหว่าง ต้นนิโครธพฤกษ์ กับอนิมิสเจดีย์ ทรงกระทํา ปาฏิหาริย์เนรมิตรัตนจงกรมในอากาศทาง ทิศเหนือแห่งพระมหาโพธิ์ และเสด็จพุทธ ดําเนินจงกรม ณ ที่ดังกล่าวเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ สถานที่ดังกล่าวเรียกว่า รัตนจงกรมเจดีย์ ปางที ่ ๑๓ ปางจงกรมแก้ว
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 14 ปางที ่ ๑๔ ปางรําพึง พระอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทังสองยกขึ้ นประทับที่พระอุระ ้ พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย แสดง พระอิริยาบถรําพึง ทรงแสดงธรรม โปรดชาวโลก พิจารณาว่าบุคคลย่อม มีปัญญาต่างกัน อาจแบ่งออกเป็น ๔ จําพวกเสมือน “บัว ๔ เหล่า” พระองค์ มีพระทัยที่จะแสดงพระธรรมสั่ งสอน ชาวโลกต่อไปโดยทรงตั้งปณิธานว่า “หากหลักสัจธรรมยังไม่แพร่หลาย และสาวกยังไม่รู้ทั่วถึงธรรมก็จักไม่ นิพพาน” พ ร ะ พุ ท ธ รู ป ป า ง นี้ เ ป็ น พระพุทธรูปประจําวันศุกร์
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 15 ปางที ่ ๑๔ ปางรําพึง ปางที ่ ๑๕ ปางสํ าแดง อิทธิปาฏิหาริย์ พระอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ซ้ายยกขึนป้องเหนือพระอุระ ้ พระกรขวาทอดยาวข้างพระวรกาย รอบพระวรกายมีประภาวลีเปล่งรัศมี ซึ่งบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลง มาท่ามกลางหมู่พระประยูรญาติที่ไม่ เคารพในพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ จึงทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์เนรมิตรัตน จงกรมให้เกิดขึนกลางอากาศและเสด็จ ้ ดําเนินจงกรมทําให้หมู่พระประยูรญาติ และพระพุทธบิดามีจิตเลื่อมใสถวาย นมัสการ ฝนดังกล่าว “ผู้ใดปรารถนา จะให้เปียกก็เปียก หากผู้ใดไม่ปรารถนา ให้เปียก เม็ดฝนจะกลิ้ งหายจากกาย เหมือนหยาดน�าบนใบบัว” *ฝนโบกขรพรรษ อ่านว่า ฝน-โบก-ขะ-ระ-พัด
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 16 ปางที ่ ๑๖ ปางรับสั ตตูก้อน สั ตตูผง พระอิริยาบถประทับนั่ งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้ งสองประคองบาตรซึ่ งวาง อยู่บนพระเพลา ทอดพระเนตรลงต�าแสดงพระอิริยาบถรับสัตตูก้อน สัตตูผงด้วยบาตร เมื่อพระพุทธองค์ทรงประสานบาตรทั้งสี่ของท้าวจตุโลกบาลรวมเป็นบาตรใบเดียว แล้วจึงทรงรับการถวายสัตตูก้อน สัตตูผงจากพ่อค้าสองพี่น้อง คือ ตปุสสะ และ ภัลลิกะ หมายเหตุ ‘สัตตูผง’ นั้นบาลีเรียกว่า “มันถะ” คือ ข้าวตากที่ตําละเอียด / ส่วน ‘สัตตูก้อน’ บาลีเรียกว่า “มธุบิณฑิกะ” คือ ข้าวตากที่ผสมน�าผึ้งแล้วปั้นเป็นก้อน ๆ
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 17 ปางที ่ ๑๗ ปางพระเกศธาตุ พระอิริยาบถประทับนั่ งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวายกขึ้นแสดงพระอิริยาบถลูบพระเกศา เมื่อพระพุทธองค์เสวยภัตตาหาร ที่ตปุสสะและภัลลิกะถวายแล้ว ทั้ งสองคนได้ทูลปวารณาตนเป็นอุบาสกในพระพุทธ ศาสนา และทูลขอสิ่ งอันเป็นเครื่องสักการะบูชาถึงพระพุทธองค์ จึงทรงยกพระหัตถ์ ขวาลูบพระเกศา ได้พระเกศาธาตุ ๘ องค์ ประทานแก่พ่อค้าทั้ งสอง
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 18 ปางที ่ ๑๘ ปางปฐมเทศนา พระอิริยาบถประทับนังขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ขวายกขึ ่ ้น จีบนิวพระหัตถ์เป็น ้ รูปวงกลมในมุทราแสดงธรรม พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระพุทธองค์ทรง พิจารณาว่า ธรรมดาอดีตพุทธเจ้าเมื่อตรัสรู้แล้วได้สังสอนสรรพสัตว์ทั ่ งมวล พระพุทธองค์ ้ จึงทรงรําลึกถึงปัญจวัคคีย์ที่เคยอุปการะพระพุทธองค์เมื่อครังยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ้ บําเพ็ญทุกรกิริยา จึงเสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวันเพื่อประทานปฐมเทศนาที่เรียก ว่า “ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร” ปางที ่ ๑๙ ปางประทาน เอหิภิกขุอุปสมบท
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 19 ปางที ่ ๑๙ ปางประทาน เอหิภิกขุอุปสมบท พระอิริยาบถประทับนั่ง ขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงาย บนพระชานุเป็นพระอิริยาบถทางรับ พระหัตถ์ขวายกตั้ ง หันฝ่าพระหัตถ์ ออก งอนิ้ วพระหัตถ์เล็กน้อย หลังจากปัญจวัคคีย์เข้าถึง โลกุตรธรรมอันพระพุทธองค์ทรง แสดงแล้ว โกณฑัญญะ ผู้อาวุโสที่สุด ในหมู่ปัญจวัคคีย์ จึงกราบทูลขอ บรรพชาอุปสมบท พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า เอหิภิกขุ การอุปสมบทของ โกณฑัญญะ ถือเป็นพระสงฆ์องค์แรก ของพุทธศาสนา หลังจากนันจึงโปรด้ ประทานอุปสมบทปัญจวัคคีย์อีก ๔ องค์
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 20 ปางที ่ ๒๐ ปางภุตตากิจ (ปางภัตกิจ) พระอิริยาบถประทับนั่ง ขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายประคอง บาตรซึงวางอยู่บนพระเพลา พระหัตถ์ ่ ขวาหย่อนลงในบาตรแสดงพระอิริยาบถหยิบภัตตาหารเสวย ยส (ยะสะ) บุตรเศรษฐี เมืองพาราณสี เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แจ้งความประสงค์ขอบรรพชา เมื่อ พระพุทธองค์ประทานบรรพชาให้ ยส พระยส จึงนําเสด็จพระพุทธองค์ ไปสู่เคหสถานแห่งตน เพื่อรับถวาย ภัตตาหารจากบุพการีและอดีตภริยา หลังจากนั้ นพระพุทธองค์ทรงแสดง พระธรรมกถาประทานแก่ครอบครัว ของพระยส ปางที ่ ๒๑ ปางชี ้ พระอัครสาวก
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 21 ปางที ่ ๒๑ ปางชี ้ พระอัครสาวก พระอิริยาบถประทับนั่ง ขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงาย บนพระเพลา พระหัตถ์ขวายกขึ้นชี้ พระดัชนีออกไปข้างหน้า แสดงมุทรา ทรงชี้พระอัครสาวกในที่ประชุม สงฆ์ พระพุทธองค์ได้แสดงสัจธรรม โปรดปริพาชกและประทานเอหิภิกขุ อุปสัมปทาแก่อุปดิส โกลิต และ บริวาร ซึงพระพุทธองค์มีพระพุทธฎีกา ่ ตรัสเรียกนาม อุปดิส บุตรนาง สารีพราหมณี ว่า สารีบุตร และโกลิต บุตรนางโมคคัลลี ว่า โมคคัลลานะ ภายหลังบรรพชาพระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตรได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ พระพุทธองค์ทรง ยกย่องเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย และเบื้องขวาตามลําดับ
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 22 ปางที่ ๒๒ ปางแสดง โอวาทปาติโมกข์ พระอิริยาบถประทับ นั่งขัดสมาธิราบ ยกพระหัตถ์ ทั้ งสองขึ้นเสมอพระอุระจีบนิ้ ว พระหัตถ์แสดงมุทราประทาน โอวาทปาติโมกข์ เมื่อพระพุทธองค์ทรง มีพระพุทธฎีกาตังพระโมคคัลลานะ ้ เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและ พระสารีบุตร เป็นพระอัครสาวก เบื้องขวาแล้วทรงแสดงธรรม โอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางหมู่สงฆ์
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 23 ปางที ่ ๒๓ ปางรับผลมะม่วง พระอิริยาบถประทับ นั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้าย วางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ ขวาวางหงายบนพระชานุ ในฝ่า พระหัตถ์มีผลมะม่วง เหตุการณ์แรก คัณฑะ ถวายมะม่วงสุกแก่พระพุทธองค์ พระอานนท์กรองคั้ นเนื้อมะม่วง เป็นน�าอัมพบานถวายพระพุทธองค์ เสวยอัมพบานนัน และตรัสให้นาย ้ คัณฑะนําเมล็ดมะม่วงไปปลูก เหตุการณ์ที่สอง ครั้ น เมื่อผู้รักษาพระราชอุทยานแห่ง กษัตริย์ เมืองสาวัตถีนําผลมะม่วง มาถวายพระพุทธองค์ หลังจาก เสวยน�าคั้นจากผลมะม่วงแล้ว พระพุทธองค์โปรดให้นําเมล็ด มะม่วงนันไปปลูก เกิดปาฏิหาริย์ ้ ต้นมะม่วงโตขึนทันทีอย่างรวดเร็ว ้
ปางแห่งพระพุทธเจ้า 24 ปางที่ ๒๔ ปางโปรดพุทธมารดา พระอิริยาบถประทับนั่ งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวายกขึนเสมอพระอุระ จีบนิ้ วพระหัตถ์ในมุทราแสดงธรรม หลังจากพระพุทธองค์ ้ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ปราบเหล่าเดียรถีย์แล้ว เสด็จสู่สวรรค์ชั้ นดาวดึงส์เพื่อเทศนา พระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดาเช่นเดียวกับพระอดีตพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงปฏิบัติ
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 25 พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ พระหัติถ์์ขัวายกขั้นิจิีบ่นิิ� วพระหัติถ์์ อันิ � เป็นิมีุทราแสดังธรรมีโปรดัพระพุทธ บ่ิดัา พระหัติถ์์ซ้้ายประคองบ่าติร พระพุทธองค์ทรงอธิบ่ายว่า ทรงปลัดัประเพณีีกษัติริย์ออกจินิหมีดั สินิแลั้วแลัะทรงติั � งอยู่ในิ “ประเพณีีขัอง � ติถ์าคติ” เมีื�อทรงอยู่ในิภัาวะสมีณีเพศี วัติรอันิควรปฏิบ่ัติิ คือ การบ่ิณีฑบ่าติ พระพุทธบ่ิดัาเมีื�อทรงสดัับ่พระธรรมี โอวาทไดั้บ่รรลัุพระโสดัาปัติติิผ่ลั แลัะ ไดั้ทูลัอาราธนิาพระพุทธองค์พร้อมีดั้วย พระสงฆ์สาวกเสดั็จิไปเสวยภััติติาหาร ณี พระราชนิิเวศีนิ์โดัยพร้อมีเพรียงกันิ ปางที ่ ๒๕ ปางโปรดีพุทธิบิดีา
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 26 ปางทรมีานิพระยามีหา ชมีพู หรือปางโปรดัพระยาชมีพูบ่ดัี มีีการทำาเป็นิประติิมีากรรมี ๒ ลัักษณีะ ลัักษณีะที� ๑ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่นิั� งขััดัสมีาธิราบ่ พระหัติถ์์ ซ้้ายวางหงายบ่นิพระเพลัา พระหัติถ์์ ขัวาควำาวางบ่นิพระชานิุ แสดังภัูมีิ- สปรศีมีุทรา (ปางมีารวิชัย) ทรง เครื�องราชาภัรณี์ ลัักษณีะที� ๒ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่ยืนิ พระกรทั�งสองยกขั้�นิ เสมีอพระอุระ ติั�งฝ่่าพระหัติถ์์ยื�นิ ออกไปขั้างหนิ้าแสดังมีุทราห้ามี ทรงเครื�องราชาภัรณี์ พระอิริยาบถประทับนั่ ง ปางที ่ ๒๖ ปางโปรดีพระยาชัมพูบดีี หรือิ ปางทรมานพระยามหาชัมพู
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 27 เมีื� อครั�งที�พระพุทธองค์ ประทับ่ ณี เวฬุวนิารามี ซ้้� งพระเจิ้า พิมีพิสารทรงสร้างอุทิศีถ์วาย พระยา มีหาชมีพู (พระยาชมีพูบ่ดัี) กษัติริย์ ทรงบุ่ญญาธิการ แลัะฤทธานิุภัาพ แห่งปัญจิาลันิครทรงคุกคามีรุกรานิ ดัินิแดันิในิปกครองขัองพระเจิ้าพิมีพิสาร พระองค์จิ้งทรงย้ดัพระพุทธองค์เป็นิ ที�พ้� ง พระพุทธองค์ทรงทราบ่ ดั้วยพุทธบ่ารมีีว่า พระยามีหาชมีพู จิะไดั้สำาเร็จิในิพุทธศีาสนิา จิ้งทรง เนิรมีิติพระองค์เป็นิพระราชาธิราช ทรงเครื�องราชาภัรณี์ แลั้วติรัสสั� งให้ พระอินิทร์แปลังเป็นิทูติไปเชิญพระยา มีหาชมีพูมีาเฝ่้า พระพุทธองค์ ทรงแสดังธรรมีโปรดัจินิกระทั�ง พระยามีหาชมีพูลัะมีิจิฉาทิฏฐิขัอ บ่รรพชา พระอิริยาบถประทับยืน ปางที ่ ๒๖ ปางโปรดีพระยาชัมพูบดีี หรือิ ปางทรมานพระยามหาชัมพู
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 28 ปางที ่ ๒๘ ปางโปรดีพกาพรหม ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 28 ปางที ่ ๒๗ ปางโปรดีสั ตวิ์ (ปางโปรดี อิาฬวิกยักษ์) พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ ยกพระหัติถ์์ขัวาจิีบ่นิิ�วพระหัติถ์์ เป็นิวงกลัมี แสดังวิติรรกมีุทรา (ปาง แสดังธรรมี) พระหัติถ์์ซ้้ายยกขั้นิ หันิ� ฝ่่าพระหัติถ์์ออกมีาขั้างหนิ้า บ่าง ครั� งมีีจิีวรในิอุ้งพระหัติถ์์ *อาฬวก อ่านิว่า อาลัะวะกะ *อาฬวกยักษ์ คือ ยักษ์จิำาพวกหนิ้� ง
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 29 ปางที ่ ๒๘ ปางโปรดีพกาพรหม พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ บ่นิเศีียรพกาพรหมี ซ้้� งประทับ่อยู่ บ่นิหลัังพระโค เหติุการณี์กลั่าวถ์้งเมีื�อ ครั�งที�พระพุทธองค์ทรงสำาแดัง ปาฏิหาริย์อันิติรธานิพระกายเสดั็จิ ขั้�นิดัำาเนิินิจิงกรมีบ่นิเศีียรขัอง พกาพรหมี โดัยที�พกาพรหมีไมี่เห็นิ พระพุทธองค์ ในิที�สุดัพกาพรหมี จิ้งลัะทิฏฐิแลัะยอมีจิำานินิ อีกเหติุการณี์กลั่าวถ์้ง พระมีหิศีรเทพ (พระอิศีวร) ท้า ประลัองฤทธิกับ่พระพุทธองค์ดั้วย ์ การสำาแดังอิทธิฤทธิ์ ซ้่อนิกายแติ่ แลั้วติ้องยอมีจิำานินิแก่พระพุทธองค์ แลัะกระทำาสักการะพระพุทธองค์
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 30 ปางที ่ ๒๙ ปางโปรดีอิงคุลีมาลโจัร พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ พระกรซ้้ายทอดัยาวขั้างพระวรกาย พระหัติถ์์ขัวายกขั้�นิเสมีอพระอุระ ฝ่่าพระหัติถ์์หันิเขั้า ในิครั�งนิั�นิองคุลัีมีาลัไลั่ติามี พระพุทธองค์ดั้วยประสงค์พระชนิมี์ชีพ แติ่ไมี่สามีารถ์เขั้าทำาร้ายพระพุทธองค์ไดั้ จิ้งบ่อกให้พระพุทธองค์หยุดัรอก่อนิ พระพุทธองค์มีีพระดัำารัสติอบ่ว่า “เรา หยุดแล้ว ท่านจงหยุดสิ องคุลีมาล” องคุลัีมีาลัทูลัถ์ามีว่า “ทรงดัำาเนิินิไป เหติุไฉนิจิ้งติรัสว่าหยุดัแลั้ว” ทรงติรัส ติอบ่ว่า “เราหยุดฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จึง ได้ชื่อว่าหยุด ส่วนท่านได้ชื่อว่ายังไม่ หยุด” องคุลัีมีาลัจิ้งเกิดัจิิติเลัื�อมีใส กราบ่ทูลัขัอบ่รรพชา พระพุทธองค์ จิ้งประทานิเอหิภัิกขัุอุปสมีบ่ทให้
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 31 พ ร ะ อิ ริ ย า บ่ ถ์ ป ร ะ ทั บ่ ยื นิ พระหัติถ์์ทั� งสองประคองบ่าติร เมีื�อฝ่นิโบ่กขัรพรรษติกลังท่ามี กลัางหมีู่พระประยูรญาติิแลั้ว พระพุทธองค์ จิ้งติรัสเทศีนิามีหาเวสสันิดัรชาดักในิ วันิรุ่งขั้นิพระพุทธองค์พร้อมีดั้วยพระสงฆ์ � ๒๐,๐๐๐ รูป เสดั็จิบ่ิณีฑบ่าติในิกรุงกบ่ิลัพัสดัุ์ ทุกหนิแห่ง เพื�อประชาราษฎรไดั้ชื�นิชมี พระบ่ารมีี พระพุทธรูปปางนิี�เป็นิพระพุทธรูป ประจิำาวันิพุธ (เวลัากลัางวันิ) ปางที ่ ๓๐ ปางอิุ้ มบาตร
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 32 พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่นิั�งห้อย พระบ่าทบ่นิแท่นิ มีีฐานิบ่ัวรองพระบ่าท พระหัติถ์์ทั� งสองควำาบ่นิพระชานิุ เมีื�อพระพุทธองค์เสดั็จิกลัับ่ กรุงกบ่ิลัพัสดัุ์ ซ้้งในิแติ่ลัะครั � งพระพุทธองค์ � ทรงแสดังธรรมี จินิกระทั� งเหลั่าอำามีาติย์ ทังหลัายเกิดัศีรัทธาเลัื�อมีใสแลัะขัอบ่รรพชา � พระกาฬุทายีเถ์ระซ้้�งเป็นิ อำามีาติย์ผู่้หนิ้งที�บ่รรพชา ไดั้ทูลัอาราธนิา � ให้เสดั็จิไปกรุงกบ่ิลัพัสดัุ์ พระพุทธองค์ จิ้งออกเดัินิทางจิากกรุงราชคฤห์ เมีื�อ สุดัแคว้นิมีคธมีีแมี่นิ�าใหญ่คั�นิ จิ้งเสดั็จิ ประทับ่บ่นิบ่ัลัลัังก์ในิเรือขันิานิขั้ามี แมี่นิ�าไปกรุงกบ่ิลัพัสดัุ์ อีกเหติุการณี์หนิ้�งกลั่าวถ์้งว่า ระหว่างที�พระพุทธองค์ประทับ่ ณี เวฬุ วนิารามี เกิดัโรคระบ่าดัแลัะภััยพิบ่ัติิ ในิ เมีืองไพศีาลัี พระเจิ้ากรุงไพศีาลัีจิ้งโปรดัฯ ให้ทูลัอาราธนิาพระพุทธองค์เสดั็จิไป ระงับ่ความีเดัือดัร้อนินิันิ เมีื�อพระพุทธองค์ � เสดั็จิถ์้งแมี่นิ�าคงคาไดั้เสดั็จิประทับ่เรือไป ยังเมีืองไพศีาลัี ปางที ่ ๓๑ ปางเสดี็จัลงเรือิขนาน
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 33 ปางที ่ ๓๒ ปางแสดีงยมกปาฏิหาริย์ พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่นิั�งห้อย พระบ่าทบ่นิบ่ัลัลัังก์ พระบ่าททั�งสอง มีีฐานิบ่ัวรองรับ่ พระหัติถ์์ซ้้ายวางบ่นิ พระเพลัาพระหัติถ์์ขัวายกขั้นิเสมีอพระอุระ � จิีบ่นิิ�วพระหัติถ์์ในิมีุทราแสดังธรรมี พระพุทธรูปปางแสดังยมีกปาฏิหาริย์ มีี ๒ เหติุการณี์ ไดั้แก่ เหติุการณี์ ที�พวกเดัียรถ์ีย์พากันิมีาโค่นิติ้นิมีะมี่วง วาติวลัาหกเทพบุ่ติรจิ้งบ่ันิดัาลัให้มีหาวาติพายุพัดัทำาลัายมีณีฑปขัองเดัียรถ์ีย์ ครั�นิเวลัาบ่่าย พระพุทธองค์จิ้งทรง กระทำายมีกปาฏิหาริย์ อีกเหติุการณี์ กลั่าวถ์้งพระพุทธองค์ทรงสำาแดังฤทธิ์ เนิรมีิติพระองค์ในิพระอิริยาบ่ถ์นิั� ง นิอนิ ยืนิ เดัินิ ปรากฏเป็นิคู่ รวมีทั� งมีีเปลัวเพลัิง แลัะกระแสนิ�าพุงออกจิากทุกส่วนิขัอง พระวรกายพร้อมีกันิโดัยที�สายนิ�านิั� นิไมี่ ดัับ่เปลัวเพลัิง
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 34 ปางที ่ ๓๓ ปางป่ าเลไลยก์ พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่นิั� งบ่นิโขัดัหินิ ห้อยพระบ่าททั� งสองบ่นิ ฐานิบ่ัวพระหัติถ์์ขัวาวางหงายบ่นิพระชานิุ แสดังมีุทราทรงรับ่ขัองถ์วาย พระหัติถ์์ ซ้้ายควำาวางบ่นิพระชานิุ มีีช้างปาลัิไลัยก์หมีอบ่ที�พื�นิขั้างขัวา ชูงวงย้ดัคนิโทนิ�า แลัะ ลัิงถ์ือรวงผ่้� งอยู่ขั้างช้าย ในิพรรษาที่ ๑๐ เมีื่ อพระพุทธองค์ประทับ่ ณี โฆสิติารามี เมีืองโกสัมีพี ในิครั้ งนิั้ นิพระสงฆ์ สาวกไมี่สามีัคคีปรองดัองกันิ ประพฤติินิอกพระโอวาท ดั้วยอำานิาจิมีานิะทิฏฐิพระพุทธองค์จิ้งเสดั็จิจิาริก แติ่พระองค์เดัียวไปยังป่ าปาลัิไลัยกะ ทรงอาศีัย พระยาช้างปาลัิไลัยก์ทำาวัติรปฏิบ่ัติิ ติ่อมีาพระยาวานิรออกเที่ ยว ติามียอดัไมี้ ไดั้พบ่เห็นิพระยาช้าง ปาลัิไลัยก์ทำาวัติรปฏิบ่ัติิถ์วายแดั่ พระพุทธองค์ ดั้วยกุศีลัจิิติ พระยาวานิรจิ้งพบ่รวงผ่้้ ง แลัะนิำามีามีอบ่ถ์วาย พระพุทธองค์
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 35 ปางที่ ๓๔ ปางเปิดีโลก พระอิริยาบ่ถ์แรก ประทับ่ยืนิ พระกรทั�งสองทอดัยาวกางออกไปขั้าง พระวรกาย นิิ� วพระหัติถ์์กางเลั็กนิ้อย แสดังมีุทราทรงเปิดั พระอิริยาบ่ถ์ที�สอง ประทับ่ยืนิ พระกรทั�งสองทอดัยาวขั้างพระวรกาย หงายฝ่่าพระหัติถ์์ทั�งสองออกขั้างหนิ้า แสดังพระอิริยาบ่ถ์อันิหมีายถ์้งเปิดัโลัก เมีื�อพระพุทธองค์จิะเสดั็จิลังจิาก ดัาวดั้งส์ หลัังจิากเสดั็จิโปรดัพระพุทธมีารดัา แลั้ว ทรงแสดังปาฏิหาริย์เปิดัโลักทำาให้ ชาวโลักมีนิุษย์ สวรรค์ แลัะนิรก ติ่างเห็นิ กันิโดัยติลัอดั
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 36 พระอิริยาบ่ถ์ก้าวพระบ่าท ดัำาเนิินิ ยกส้นิพระบ่าทขัวา พระกรขัวา อยู่ในิท่าไกว พระหัติถ์์ซ้้ายยกขั้�นิเสมีอ พระอุระป้องไปเบ่ื�องหนิ้า เมีื�อพระพุทธองค์เสดั็จิลังจิาก สวรรค์ชันิดัาวดั้งส์นิั � นิ พระอินิทร์เนิรมีิติ � บ่ันิไดัสามีบ่ันิไดัเพื�อทรงดัำาเนิินิ นิอกจิากนิี�พระพุทธรูปปาง ลัีลัา อาจิเกี�ยวขั้องกับ่พุทธประวัติิติอนิ อื�นิ ๆ เช่นิ พระพุทธองค์เสดั็จิจิาริก สั� งสอนิเผ่ยแพร่พระพุทธศีาสนิา ปางที ่ ๓๕ ปางลีลา
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 37 ปางประดัิษฐานิรอยพระบ่าท มีีการทำาเป็นิประติิมีากรรมีรูปเคารพ ๒ ลัักษณีะ ลัักษณีะที� ๑ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่ยืนิ ทรงกดัปลัายพระบ่าท พระหัติถ์์ทั� งสองแนิบ่พระวรกาย ลัักษณีะที� ๒ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่ยืนิ พระบ่าทซ้้ายเหยียบ่บ่นิหลััง พระบ่าทขัวาเป็นิพระอิริยาบ่ถ์กดัรอย พระบ่าทพระหัติถ์์ทั�งสองแนิบ่ที�หนิ้า พระเพลัา ติั�งพระทัยประดัิษฐานิรอย พระบ่าทให้ปรากฏชัดั ปางที่ ๓๖ ปางประดีิษฐาน รอิยพระบาท
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 38 ปางที่ ๓๗ ปางขอิฝน พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ พระหัติถ์์ขัวายกขั้�นิแสดังมีุทรากวัก พระหัติถ์์ซ้้ายยกขั้�นิเสมีอบ่ันิพระองค์ � ในิพระอิริยาบ่ถ์รองรับ่นิ�าฝ่นิ พระพุทธรูปปางนิี� สร้าง ขั้�นิติามีเหติุการณี์ในิพุทธประวัติิเช่นิ เดัียวกับ่พระพุทธรูปปางคันิธารราฐ ที�กลั่าวมีาแลั้ว ป า ง นิี� เ ป็ นิ พ ร ะ พุ ท ธ รู ป ประจิำาเดัือนิ ๕ แลัะพระพุทธรูป ประจิำาวันิอังคาร
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 39 ปางประทานิพร มีีการทำาเป็นิ ประติิมีากรรมีรูปเคารพ ๒ ลัักษณีะ ลัักษณีะที� ๑ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่ยืนิ ยกพระหัติถ์์ซ้้ายขั้�นิหงาย ฝ่่าพระหัติถ์์ออกไปขั้างหนิ้า หรือทรง ถ์ือชายจิีวร พระหัติถ์์ขัวาทอดัยาวหงาย ฝ่่าพระหัติถ์์ออกไปขั้างหนิ้าแสดังมีุทรา ประทานิพร ลัักษณีะที� ๒ พระอิริยาบ่ถ์ ประทับ่นิั� ง พระหัติถ์์ซ้้ายวางหงายบ่นิ พระเพลัา พระหัติถ์์ขัวาวางหงายบ่นิ พระชานิุแสดังมีุทราประทานิพร เมีื�อครังที�พระพุทธองค์ประทับ่ � ณี เชติวันิ ทรงประทานิพรให้หมีอชีวกโกมีารภััจิจิ์แลัะพระอานินิท์เขั้าเฝ่้าเพื�อทูลั ถ์ามีปัญหาไดั้ทุกเวลัา แลัะให้นิางวิสาขัา ถ์วายเครื�องอุปโภัคบ่ริโภัคแก่พระสงฆ์ไดั้ ปางที่ ๓๘ ปางประทานพร
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 40 ปางที ่ ๓๙ ปางเสดี็จัจัากดีาวิดีึงส์ พ ร ะ อิ ริ ย า บ่ ถ์ ป ร ะ ทั บ่ ยื นิ ยกพระหัติถ์์ทั�งสองขั้�นิเสมีอพระอุระ จิีบ่นิิ� ว พระหัติถ์์ทั� งสองเป็นิมีุทราแสดัง ธรรมี เมีื� อพระพุทธองค์เสดั็จิลัง จิากสวรรค์ชั�นิดัาวดั้งส์นิั�นิทรงจิีบ่นิิ� ว พระหัติถ์์เป็นิมีุทราแสดังธรรมี พระพุทธรูปปางเสดั็จิจิาก ดัาวดั้งส์เป็นิพระพุทธรูปประจิำาเดัือนิ พฤศีจิิกายนิ
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 41 พ ร ะ อิ ริ ย า บ่ ถ์ ป ร ะ ทั บ่ ยื นิ พระกรซ้้ายทอดัยาวขั้างวรกาย พระกร ขัวายกขั้�นิชี�พระดััชนิีขั้�นิเบ่ื�องบ่นิแสดัง มีุทราชี�มีาร เมีื�อพระอรหันิติ์ ชื�อ พระโคธิกะ ปรินิิพพานิลัง พระพุทธองค์พร้อมีดั้วย พระสงฆ์สาวกเสดั็จิไปเยี�ยมี ขัณีะนิั�นิ มีารคิ ดัว่ าวิ ญญาณีขัองพระโคธิกะ เพิ� งออกจิากร่าง จิ้งเหาะขั้�นิไปแสวงหา วิญญาณีติามีก้อนิเมีฆ พระพุทธองค์ จิ้งยกพระหัติถ์์ชี�ขั้�นิไปพร้อมีกับ่ติรัสแก่ เหลั่าพระสงฆ์ว่า หาไดั้มีีวิญญาณีขัอง พระโคธิกะอยู่ในินิันิไมี่ เพราะพระโคธิกะ � ไดั้ปรินิิพพานิแลั้ว พ ร ะ พุ ท ธ รู ป ป า ง นิี� เ ป็ นิ พระพุทธรูปประจิำาเดัือนิมีกราคมี ปางที่ ๔๐ ปางชัี้ มาร
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 42 ปางที่ ๔๑ ปางห้ามมาร พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่นิัง� ขััดัสมีาธิราบ่ พระหัติถ์์ซ้้ายวาง หงายบ่นิพระเพลัา พระหัติถ์์ขัวา ยกเสมีอพระอุระ หันิฝ่่าพระหัติถ์์ ออกแสดังมีุทราห้ามี พระยาวัสวดัีมีาร ไดั้มีา กราบ่ทูลัอาราธนิาให้พระพุทธองค์ เสดั็จิลัะสังขัารนิับ่ติังแติ่พระพุทธ- � องค์แรกติรัสรู้ แติ่ในิครั�งนิั�นิ พระพุทธองค์ไมี่ทรงรับ่อาราธนิา พระยามีารจิ้งกราบ่ทูลัอาราธนิา อีกว่า ปริสสมีบ่ัติิแลัะพรหมีจิรรย์ ก็สมีบู่รณี์ดัังพุทธประสงค์แลั้ว ทุกประการ ขัอให้ทรงปรินิิพพานิ พระพุทธองค์ทรงรับ่อาราธนิา โดัยติรัสว่า “ดูกรท่าน ท่านอย่า ได้ทุกข์โทมนัสเลย อีก ๓ เดือน พระพุทธองค์ก็จะปรินิพพาน”
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 43 ปางที ่ ๔๒ ปางห้ามสมุทร พ ร ะ อิ ริ ย า บ่ ถ์ ป ร ะ ทั บ่ ยื นิ พระกรทั� งสองยกขั้�นิเสมีอพระอุระ ติั� ง ฝ่่าพระหัติถ์์ยื�นิออกไปขั้างหนิ้าแสดัง มีุทราห้ามี ในิพุทธประวัติิติ่างกันิเป็นิ ๒ เหติุการณี์ เหติุการณี์หนิ้�งกลั่าวถ์้งเมีื�อ พระพุทธองค์แสดังปาฏิหาริย์ โดัยทรง ห้ า มี ฝ่ นิ ที� ติ ก ห นิั ก ใ นิ บ่ ริ เ ว ณี นิั�นิ มีิให้เปียกท่วมีปริมีณีฑลัที�พระพุทธองค์ ประทับ่อยู่ ชฎิลัทังสามีแลัะบ่ริวารจิ้งยอมี� อ่อนินิ้อมีขัอบ่รรพชา ส่วนิอีกเหติุการณี์ กลั่าวถ์้งขัณีะพระพุทธองค์ทรงห้ามี หมีู่พระประยูรญาติิวิวาทกันิดั้วยเรื�อง แย่งนิ�า พ ร ะ พุ ท ธ รู ป ป า ง นิี� เ ป็ นิ พระพุทธรูปประจิำาปีนิักษัติรปีฉลัูแลัะ เป็นิพระพุทธรูปประจิำาวันิจิันิทร์
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 44 ปางที ่ ๔๓ ปางห้ามญาติ พ ร ะ อิ ริ ย า บ่ ถ์ ป ร ะ ทั บ่ ยื นิ พระกรซ้้ายทอดัยาวขั้างพระวรกาย พระหัติถ์์ขัวายกขั้�นิเสมีอพระอุระ ติั� งฝ่่า พระหัติถ์์ยื�นิออกไปขั้างหนิ้าแสดังมีุทรา ห้ามีกษัติริย์วงศี์ศีากยะพระญาติิฝ่่าย พระบ่ิดัาในิกรุงกบ่ิลัพัสดัุ์ กับ่กษัติริย์วงศี์ โกลัิยะพระญาติิฝ่่ายพระมีารดัาในินิคร เทวทหะที�มีีความีขััดัแย้งบ่าดัหมีางกันิ เหติุดั้วยฝ่นิแลั้ง แย่งนิ�าเพื�อใช้อุปโภัค บ่ริโภัคในิแติ่ลัะเมีือง พระพุทธองค์ทรง ทราบ่ดั้วยญาณีวิเศีษจิ้งเสดั็จิไปเพื�อ ระงับ่เหติุบ่าดัหมีางดัังกลั่าว เมีื�อพระ ประยูรญาติิสดัับ่พระธรรมีที�พระพุทธองค์ ทรงแสดังจิ้งเลัิกทิฏฐิมีานิะยุติิความี ขััดัแย้งกันิ
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 45 ปางที่ ๔๔ ปางห้ามพยาธิิ พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่ยืนิ พระกรซ้้ายทอดัยาวแนิบ่ขั้างพระวรกาย พระหัติถ์์ขัวายกขั้�นิเสมีอพระอุระ หงายฝ่่าพระหัติถ์์ออกติั�งติรงแสดัง มีุทราห้ามี เมีื�อพระพุทธองค์เสดั็จิถ์้ง เมีืองไพศีาลัี แคว้นิวัชชีทรงระงับ่โรค ระบ่าดัแลัะภััยพิบ่ัติิติ่าง ๆ
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 46 ปางที ่ ๔๕ ปางปลงพระชันม์ (ปางปลงอิายุสั งขาร) พระอิริยาบ่ถ์ประทับ่นิั� งขััดัสมีาธิราบ่ พระหัติถ์์ซ้้ายวางควำาบ่นิพระชานิุ พระหัติถ์์ขัวายกขั้�นิทาบ่พระอุระเมีื�อพระพุทธองค์ติรัสแก่พระอานินิท์ว่า ทรงเจิริญ พระชนิมี์ ๘๐ พรรษา แลั้วแติ่พระอานินิท์ก็มีิไดั้ทูลัอาราธนิาให้เจิริญพระชนิมี์ ติ่อไป ครั� นิพระยาวัสวดัีมีารมีากราบ่ทูลัขัอให้เสดั็จิปรินิิพพานิ จิ้งทรงรับ่ว่าจิะเสดั็จิ ปรินิิพพานิภัายในิ ๓ เดัือนิ จิากนิันิทรงติั� งสติิสัมีปชัญญะปลังอายุสังขัาร ณี ปาวาลัเจิดัีย์ �
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 47 พระอิริยาบ่ถ์บ่รรทมีติะแคงขัวา (สีหไสยา) หลัับ่พระเนิติร พระเศีียรหนิุนิ พระเขันิย พระกรซ้้ายทอดัยาวแนิบ่พระวรกาย พระหัติถ์์ขัวาหงายวางแนิบ่พื�นิขั้าง พระเขันิยพระบ่าททั�งสองเหยียดัเสมีอกันิ พระพุทธองค์ประทานิปัจิฉิมีโอวาทแก่ พระอานินิท์แลัะเหลั่าพระสงฆ์สาวกแลัะเสดั็จิดัับ่ขัันิธปรินิิพพานิในิคืนิ วันวิสาขบุรณมี (วันิวิสาขับู่ชา) เวลัาใกลั้รุ่ง ปางที ่ ๔๖ ปางไสยาสน์ (ปางปรินิพพาน)
ปางแห่งพระพุทธิเจั้า 48 มารวิิชััย (ผจัญมารหรือิภููมิสปรศมุทรา) ขัดีสมาธิิราบ (วิีราสนะหรือิสัตตวิปรยังคะ) ท่านั่ งขอิงพระพุทธิรู ป มุทราหรือิการแสดีงปางดี้วิยพระหัตถ์ขอิงพระพุทธิรู ป ขัดีสมาธิิเพชัร (วิัชัราสนะหรือิวิัชัรปรยังคะ) นั่ งห้อิยพระบาท (ปรลัมพปทาสนะ) สมาธิิ (ธิยานมุทรา) ปฐมเทศนา (ธิรรมจัักรมุทรา) แสดีงธิรรม (วิิตรรกมุทรา) ประทานอิภูัย (อิภูัยมุทรา) ประทานพร (วิรมุทรา)