ก
คำนำ
การอ่านคิดวเิ คราะห์เป็นพน้ื ฐานสาคัญในการพัฒนาผเู้ รียนให้รจู้ กั การคิดอย่างเป็นระบบ
คดิ อยา่ งมเี หตผุ ล คิดอยา่ งมีวิจารณญาณ มีการไตร่ตรอง มองเห็นการณ์ไกล นาความรู้ไปใช้
ในการเผชญิ สถานการณ์ไดแ้ ละร้จู กั นาความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ทงั้ ดา้ นการศกึ ษา
การประกอบอาชีพ เป็นปจั จยั สาคญั ในการพัฒนาคนใหเ้ กิดความงอกงามทางสติปัญญา โดยสะสม
ความรู้ที่เปน็ ประโยชน์ต่อการอา่ น เพื่อใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ จรงิ โดยผา่ นกระบวนการคิดวิเคราะห์
ไดอ้ ย่างเหมาะสม ซึง่ สอดคล้องกบั หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
แบบฝกึ ทักษะการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นสื่อความตามแนว PISA กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จัดทาขึ้น เพ่ือใช้เป็นสื่อเสรมิ ประสบการณป์ ระกอบการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าภาษาไทย ๕ ท๒๓๑๐๑
เป็นเครอ่ื งมือในการพัฒนาทักษะการอา่ นคิดวิเคราะห์ และเขียนสอื่ ความ ให้กับนักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
เปน็ นวตั กรรมทางการศึกษาท่ีชว่ ยใหน้ ักเรียนเกิดทักษะในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสอื่ ความ
ตามแนว PISA ชุดนมี้ ีทง้ั หมด ๙ เลม่ ดงั นี้
เล่มที่ ๑ อ่านคดิ วิเคราะห์รูปแบบ PISA
เล่มท่ี ๒ พจิ ารณาขอ้ ความนา่ รู้
เลม่ ท่ี ๓ กา้ วสูโ่ ลกขา่ วสาร
เล่มที่ ๔ วิจารณ์สารคดี
เลม่ ที่ ๕ มคี วามรดู้ โู ฆษณา
เลม่ ท่ี ๖ พนิ จิ สาระเพลงไทย
เล่มท่ี ๗ บอกคณุ ค่าบทรอ้ ยกรอง
เล่มที่ ๘ อ่านคดิ คล่องนิทานพ้นื บ้าน
เล่มท่ี ๙ ส่ือสารงานเขยี นจากบทความ
ในการจดั แบบฝกึ ทักษะการอ่านคดิ วิเคราะห์ และเขียนส่อื ความตามแนว PISA กลุ่มสาระ
การเรียนรูภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ เลม่ ท่ี ๕ มคี วามรูด้ โู ฆษณา ผู้จัดทามีความคาดหวงั ให้แบบ
ฝกึ ทักษะการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นสื่อความตามแนว PISA เลม่ นเี้ สรมิ สรา้ งใหเ้ กิดการกระตุน้
เพิม่ ความเร้าใจแกน่ ักเรียนให้มีความสนใจต่อการเรยี นรู้ และมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนภาษาไทย
มากย่งิ ข้ึน ขอขอบพระคณุ นายราเมศน์ โสมแสน ผอู้ านวยการโรงเรียนโนนสวุ รรณพทิ ยาคม
และผูม้ สี ว่ นร่วมทุกท่านทใ่ี หค้ าปรึกษา แนะนา เอ้ืออานวยความสะดวกในดา้ นต่าง ๆ จนผลงานสาเร็จ
ลลุ ว่ งดว้ ยดี ผูจ้ ดั ทาหวังเป็นอยา่ งย่ิงว่าแบบฝึกทักษะการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี นสอื่ ความตามแนว
PISA เลม่ นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเรยี นการสอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สามารถนาไปบรู ณาการกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ ได้เปน็ อย่างดยี ิง่
ณฐั ธนนั วรรณสุข
ข
สำรบญั
เรื่อง หนำ้
คานา ....................................................................................................................................... ก
สารบัญ ............................................................................................................................. ....... ข
คาช้ีแจงเกี่ยวกบั แบบฝึกทักษะ ................................................................................................ ๑
คาช้แี จงสาหรับครู ................................................................................................................... ๒
คาช้แี จงสาหรับนักเรยี น .......................................................................................................... ๓
สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด (Concept) ............................................................................. ๔
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด ................................................................................................... ๔
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ .............................................................................................................. ๕
แบบทดสอบกอ่ นเรียน ............................................................................................................ ๗
กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ................................................................................... ๑๑
ใบความรู้ เรอื่ ง “ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกบั โฆษณา” ................................................................. ๑๒
สรุปองคค์ วามรู้เกี่ยวกับโฆษณา ............................................................................................... ๑๖
แบบฝกึ ทักษะท่ี ๑ เร่อื ง “เซรั่มหอยทาก” .............................................................................. ๑๘
แบบฝึกทกั ษะที่ ๒ เรอื่ ง “โฆษณายาลดความอว้ น” ............................................................... ๒๔
แบบทดสอบหลงั เรยี น ............................................................................................................. ๓๐
กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน .................................................................................... ๓๔
บรรณานุกรม ........................................................................................................................... ๓๕
ภาคผนวก ................................................................................................................................ ๓๘
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน .................................................................................................... ๓๙
การจาแนกกลยุทธก์ ารอ่านตามแนว PISA แบบทดสอบก่อนเรยี น ........................................ ๔๐
เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี ๑ เรื่อง “เซร่มั หอยทาก” ...................................................................... ๔๑
การจาแนกกลยุทธก์ ารอ่านตามแนว PISA แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๑ เร่อื ง “เซรม่ั หอยทาก” ......... ๔๗
เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี ๒ เรื่อง “โฆษณายาลดความอว้ น” ....................................................... ๔๘
การจาแนกกลยทุ ธ์การอา่ นตามแนว PISA แบบฝกึ ทักษะที่ ๒ เรือ่ ง “โฆษณายาลดความอ้วน” ๕๕
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ..................................................................................................... ๕๖
การจาแนกกลยทุ ธก์ ารอา่ นตามแนว PISA แบบทดสอบหลังเรียน ........................................ ๕๗
ประวัติยอ่ ของผจู้ ดั ทา .............................................................................................................. ๕๘
๑
คำชแ้ี จงเกี่ยวกับแบบฝกึ ทกั ษะ
เอกสารแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความตามแนว PISA
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เล่มที่ ๕ มีความร้ดู ูโฆษณา เลม่ นี้
ใชป้ ระกอบการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
โรงเรยี นโนนสวุ รรณพิทยาคม อาเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บุรีรัมย์ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา
มธั ยมศึกษา เขต ๓๒ โดยมขี ้ันตอนดังน้ี
๑. นักเรียนอ่านคาชีแ้ จงการใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นสอื่ ความ
ตามแนว PISA ใหเ้ ขา้ ใจ
๒. นักเรยี นศกึ ษามาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด ขอบข่ายของเนอ้ื หา สาระสาคัญ จุดประสงค์
การเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๓. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพ่ือตรวจสอบความรู้พืน้ ฐาน
๔. นกั เรยี นศกึ ษาเนื้อหาโดยละเอียดทีละเร่ืองตามลาดับและทาแบบฝึกทักษะ
๕. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพือ่ ตรวจสอบความก้าวหน้าหลงั เรยี น
เกณฑก์ ำรผ่ำนกำรประเมนิ
๑. นกั เรียนต้องได้คะแนนประเมินตนเองหลังเรียนไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ ๘๐
๒. ถ้าได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ให้กลับไปทบทวนความรู้เพิ่มเติม แลว้ ทาแบบทดสอบใหม่
จนกวา่ จะได้คะแนน ไม่ตา่ กว่าร้อยละ ๘๐
๓. นกั เรยี นต้องได้คะแนนแบบฝึกทักษะท่ี ๑ แบบฝึกทกั ษะที่ ๒ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐
๒
คำช้แี จงสำหรบั ครู
เอกสารแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนสือ่ ความตามแนว PISA
เลม่ ท่ี ๕ มคี วามรดู้ ูโฆษณา เล่มน้ี ใชป้ ระกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าภาษาไทย ๕ ท๒๓๑๐๑
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรยี นโนนสวุ รรณพิทยาคม
อาเภอโนนสุวรรณ จงั หวัดบรุ ีรัมย์ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๓๒ โดยมีข้นั ตอนดังน้ี
๑. ครเู ตรียมและศึกษาแผนการจัดการเรยี นรูแ้ ละแบบฝกึ ทักษะการอา่ น คดิ วิเคราะห์
และเขยี นส่ือความตามแนว PISA กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
เล่มที่ ๕ มีความรู้ดูโฆษณาก่อนท่ีจะให้นักเรยี นไดป้ ฎบิ ตั ิกจิ กรรม
๒. ครูแจกแบบฝกึ ทักษะการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียนสื่อความตามแนว PISA
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เล่มที่ ๕ มคี วามรดู้ ูโฆษณา
๓. ครูชีแ้ จงการใช้แบบฝึกทักษะการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี นส่อื ความตามแนว PISA
ให้นักเรยี นทราบก่อนลงมือปฏบิ ัติ
๔. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือดูว่านักเรยี นมพี ื้นฐานความรู้ความเขา้ ใจ
เกย่ี วกบั เร่อื งนี้มากน้อยเพียงใด
๕. ครูให้นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ในแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นสื่อความ
ตามแนว PISA กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ เล่มท่ี ๕ มีความรดู้ ูโฆษณา
แล้วปฏบิ ตั ิตามแบบฝึกทักษะท่ี ๑ แบบฝกึ ทกั ษะท่ี ๒ เพื่อใหน้ ักเรียนไดท้ บทวนและเกิดความรู้
ความเขา้ ใจถกู ต้อง
๖. ตระหนกั อยู่เสมอว่าในการทากจิ กรรมควรให้นักเรียนมสี ว่ นร่วมมากทสี่ ดุ
เชน่ การมีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรรม การตรวจแบบฝกึ ดว้ ยตนเอง การเปลย่ี นกนั ตรวจกับเพื่อน
๗. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพ่ือดวู ่านกั เรยี นมีความรู้ความเข้าใจหลงั เรียน
มากน้อยเพียงใด
๘. ครูสังเกตพฤติกรรม สมรรถนะหลกั ของนักเรียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
แล้วบันทกึ ผล ตลอดจนการบันทกึ คะแนนการเปรยี บเทยี บพฒั นาการของตนเอง
๙. ครูตรวจผลงานนกั เรยี นและแบบทดสอบ บนั ทึกผลลงในใบเก็บคะแนน
๑๐. ครแู จ้งคะแนนให้นักเรียนทราบและชมเชยนกั เรียนพร้อมให้คาปรกึ ษา
๓
คำชีแ้ จงสำหรับนักเรยี น
เอกสารแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นสอ่ื ความตามแนว PISA เล่มที่ ๕
มคี วามรดู้ โู ฆษณาเล่มน้ี ใชป้ ระกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าภาษาไทย ๕ ท๒๓๑๐๑ กลมุ่ สาระ
การเรียนรภู้ าษาไทย นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม อาเภอโนนสุวรรณ
จงั หวดั บรุ รี ัมย์ สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๓๒ โดยมขี นั้ ตอนดังนี้
๑. ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๒. อ่านคาชแ้ี จงการใช้แบบฝกึ ทกั ษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี นสอื่ ความตามแนว PISA
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ เลม่ ท่ี ๕ มีความรดู้ โู ฆษณาใหเ้ ขา้ ใจตามขั้นตอน
๓. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เล่มท่ี ๕ มคี วามรดู้ โู ฆษณาเพื่อประเมินความรู้พืน้ ฐาน
ของนักเรียนจานวน ๑๐ ข้อ ใช้เวลา ๑๐ นาที
๔. ศึกษากรอบเนื้อหาอย่างละเอียดของ เล่มท่ี ๕ มีความรู้ดโู ฆษณาทาความเขา้ ใจ
แล้วทาแบบฝึกทักษะที่กาหนดให้
๕. ทาแบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑ แบบฝกึ ทักษะที่ ๒ จนครบทกุ กิจกรรมตามลาดบั
๖. ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน ๑๐ ขอ้ ใช้เวลา ๑๐ นาที เพ่ือประเมนิ ความกา้ วหน้า
ของตนเอง
๗. ตรวจคาตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน/แบบฝึกทักษะ/แบบทดสอบหลังเรยี น
จากเฉลยในภาคผนวก
๘. ในการศกึ ษาและทากจิ กรรมให้นกั เรยี นทาด้วยความตั้งใจ มคี วามซ่ือสตั ยต์ อ่ ตนเอง
โดยไมเ่ ปิดดเู ฉลยก่อน ให้นักเรยี นใช้เวลาในการศึกษาใหเ้ หมาะสมและตรงต่อเวลา
๙. สรปุ ผลคะแนนท่ไี ด้ลงในกระดาษคาตอบเพื่อทราบผลการเรียน การพัฒนาของตนเอง
และหวังว่าแบบฝึกทักษะการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นสื่อความตามแนว PISA กลมุ่ สาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เล่มที่ ๕ มีความรดู้ โู ฆษณานี้คงเปน็ ประโยชนส์ าหรบั
นกั เรยี นและครู สามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน เพ่ือใหเ้ กดิ ประโยชน์
แก่ผ้เู รียนในโอกาสตอ่ ไป
๔
สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด (Concept)
การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียนส่ือความตามแนว PISA เลม่ ที่ ๕ มีความรู้ดโู ฆษณา
การโฆษณาเป็นการฝึกทักษะกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ โดยนาข้อมูลท่ีศึกษาค้นคว้ามาเรียบเรียง
และถ่ายทอดโดยใช้ภาษาอย่างสร้างสรรค์ประกอบด้วยอะไร มีจุดมุ่งหมายหรือมีความประสงค์ส่ิงใด
และสว่ นย่อย ๆ ทีส่ าคญั นนั้ แตล่ ะเหตกุ ารณ์เกี่ยวพันกัน โดยการวิเคราะห์ความ ตีความ สรุปความ
และตอบคาถามจากเรื่องท่ีอ่าน ทาให้ผู้อ่านแยกแยะเรื่องท่ีอ่านครอบคลุมกลยุทธ์การอ่านท้ัง ๓ ด้าน
ตามแนว PISA คอื กลยุทธก์ ารเข้าถงึ และ คน้ คนื สาระ กลยทุ ธก์ ารบรู ณาการและตีความ กลยทุ ธ์
การสะท้อนและการประเมินว่าการโฆษณามีอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของเรา โดยในปัจจุบัน
มีการโฆษณาผ่านสื่อท่ีหลากหลายทง้ั โทรทศั น์ วิทยุ อินเทอร์เนต็ สื่อสง่ิ พมิ พ์ และสื่อบคุ คล เราจึงตอ้ ง
มีความรู้ความเข้าใจสามารถแยกแยะและรู้เท่าทันการโฆษณาเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
และไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ
มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั
สำระที่ ๑ กำรอ่ำน
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนาไปใช้
ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรักการอ่าน
ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ม.๓/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้องและเหมาะสมกับเรือ่ งทอ่ี ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๒ ระบคุ วามแตกต่างของคาทม่ี ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั
ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของข้อมูลทสี่ นับสนุนจากเรอ่ื งท่ีอ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๔ อา่ นเร่ืองตา่ ง ๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคดิ ผังความคดิ
บันทกึ ยอ่ ความและรายงาน
ท ๑.๑ ม.๓/๕ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินเรือ่ งที่อา่ นโดยใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทยี บ
เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเข้าใจได้ดีขึน้
ท ๑.๑ ม.๓/๖ ประเมนิ ความถูกต้องของข้อมูล ท่ีใชส้ นบั สนนุ ในเร่ืองท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ม.๓/๗ วิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลาดับความ และความเป็นไปได้ของเรื่อง
ท ๑.๑ ม.๓/๘ วิเคราะห์เพ่ือแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ย้งเกยี่ วกับเรื่องที่อ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๙ ตคี วามและประเมินคณุ คา่ และแนวคดิ ที่ไดจ้ ากงานเขยี นอย่างหลากหลาย
เพื่อนาไปใชแ้ ก้ปญั หา ในชีวติ
ท ๑.๑ ม.๓/๑๐ มมี ารยาทในการอ่าน
๕
สำระท่ี ๒ กำรเขยี น
มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ
และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชี้วดั
ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาไดถ้ ูกต้องตามระดบั ภาษา
ท ๒.๑ ม.๓/๔ เขยี นย่อความ
ท ๒.๑ ม.๓/๖ เขียนอธบิ าย ชีแ้ จง แสดงความคดิ เห็นและโตแ้ ยง้ อย่างมีเหตุผล
ท ๒.๑ ม.๓/๗ เขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรอื โต้แย้งในเร่ืองต่าง ๆ
ท ๒.๑ ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการเขยี น
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๑. ด้ำนควำมรู้ (K-Knowledge)
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจ การอ่านคิดวเิ คราะห์บทโฆษณา
๑.๒ สามารถอา่ นคิดวเิ คราะห์ และเขยี นสอื่ ความตามแนว PISA บทโฆษณาได้
๑.๓ บอกแนวทางการประเมินคุณคา่ บทโฆษณาได้
๑.๔ ประเมนิ คุณค่างานเขยี นบทโฆษณาได้
๑.๕ เขียนบทโฆษณาไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์
๒. ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P-Process)
๒.๑ นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความร้ทู ่ีไดจ้ ากการอา่ นคิดวิเคราะห์ และเขยี นส่ือความ
ตามแนว PISA บทโฆษณา
๒.๒ นกั เรียนตอบคาถามตามแนว PISA จากบทโฆษณาท่ีอ่านได้
๓. ดำ้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยม (A-Attitude)
๓.๑ นกั เรยี นมมี ารยาทในการอ่านและมมี ารยาทในการเขยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนในการอา่ น
คิดวเิ คราะห์ และเขียนส่ือความตามแนว PISAได้
๔. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ ซื่อสตั ยส์ จุ ริต
๔.๒ มีวินยั
๔.๓ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๔ มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๔.๕ มจี ติ สาธารณะ
๖
สวสั ดีคะ พ่ขี อแนะนาตัวเองนะคะพ่แี พรวากบั พจ่ี อมขวัญ
วนั นเี้ ราสองคนจะพาน้องทุกคน มาเรียนภาษาไทย
หลังจากท่ีน้องทกุ คน ศึกษาคาชแี้ จง รายละเอียดเก่ยี วกบั
แบบฝกึ ทักษะ มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด จุดประสงค์
กำรเรยี นรู้ เราไปศึกษาเกย่ี วกับ
แบบฝกึ ทกั ษะกำรอำ่ น คิดวเิ ครำะห์ และเขียนส่ือควำม
ตำมแนว PISA กลมุ่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย
ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ “เล่มที่ ๕ มีควำมรดู้ โู ฆษณำ ”
เรามาเริ่มที่แบบทดสอบก่อนเรียนกนั นะคะ เรมิ่ กันเลยนอ้ ง ๆ
๗
แบบทดสอบก่อนเรียน
เล่มท่ี ๕ มีควำมรู้ดโู ฆษณำ
คำชแี้ จง
๑. แบบทดสอบมีท้ังหมด ๑๐ ข้อ
๒. กาหนดเวลาทาแบบทดสอบ ๑๐ นาที
๓. ใหน้ ักเรียนเขียนเครอ่ื งหมายกากบาท ( × ) ทบั ข้อที่ถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดยี ว
๑. ขอ้ ความโฆษณาสนิ คา้ ขา้ งต้นมขี อ้ บกพรอ่ งในการสื่อสารด้านใดมากทส่ี ุด
ควำมสุข ๒ ทัศนยี ภำพจำกบำ้ นท่ถี กู ดไี ซน์ให้
“สวยทง้ั หน้ำบำ้ นและหลงั บ้ำน”
สดั สว่ นควำมทนั สมัยผสมผสำนสีสนั
ออ่ นละมนุ ได้อยำ่ งลงตัวทส่ี ดุ
ก. การใช้คากลา่ วเกินจริง
ข. การใชค้ าผดิ ความหมาย
ค. การใช้คาภาษาต่างประเทศ
ง. การใช้คาแสดงเหตผุ ลไม่หนกั แนน่
๘
๒. ภาษาโฆษณาในข้อใดที่ใช้ภาษาโนม้ นาวด้วยการ “อา้ งบุคคล”
ก. เมอื่ มีบา้ นทอ่ี ยู่อาศัยที่สงบสขุ ร่มเย็นแล้ว ภายในนนั้ ก็ควรบรรจไุ ปด้วย ครอบครวั
ทอ่ี บอนุ่ มีความสุขระหว่างพอ่ แม่ ลูกดว้ ยละก็ กส็ ดุ ยอดเพอร์เฟ็กแลว้
ข. โดยเฉพาะเจ้าตัวเลก็ ในบา้ นที่กวา่ จะเลย้ี งดูเขาให้เตบิ โตเปน็ สมาชิกที่มีคุณภาพของสังคม
คุณพ่อ คุณแม่ก็ปวดหวั อยู่หลายยกเหมือนกัน
ค. พ.ญ. วราพร พันธุมโกมล ได้ถา่ ยทอดความรู้ในการดูแลเลีย้ งดูเจ้าตวั ยุง่ ได้อย่างสนกุ สนาน
ดว้ ยภาษาท่งี า่ ย ๆ เป็นกันเองสน้ั กระชับ
ง. “กว่าหนูจะโต” น่าจะเปน็ คู่มือสาหรบั คุณพ่อคุณแมท่ ั้งหลายใช้เป็นความรู้ในการปฏิบตั ิ
เบ้อื งต้นยามท่ลี กู รักของคุณต้องเจบ็ ปว่ ยทงั้ จากโรคภยั และความซุกซน
๓. ขอ้ ความโฆษณาสินคา้ ข้างต้นมีขอ้ บกพร่องในการสื่อสารด้านใดมากทีส่ ุด
“ป.ปลำนน้ั หำยำก” ต้องลำบำกออกเรือไป
ขนส่งมำแตไ่ กล ใช้นำ้ แข็งเปลืองนำ้ มนั
ก. ใชถ้ ้อยคาเรา้ อารมณ์ความรู้สกึ
ข. ใชค้ าสนั้ ๆ กะทัดรัดคล้องจองกัน
ค. ใหเ้ หน็ ความสาคัญแก่ผู้ใช้สินค้า
ง. ชีใ้ หเ้ ห็นความยากลาบากของการได้สนิ ค้านนั้
๔. ภาษาโฆษณานโ้ี น้มนา้ วใจผู้อา่ นดว้ ยวิธกี ารใด
“สง่ิ ทด่ี ีในชีวติ ค่คู วรสตรีเช่นคุณ”
ก. ช้ีใหเ้ หน็ ความดขี องสินค้า
ข. ให้ความสาคัญแก่ผูใ้ ช้สินค้า
ค. ใชถ้ อ้ ยคาเรา้ อารมณค์ วามรู้สึก
ง. ใช้วลสี นั้ ๆ เพอ่ื ใหผ้ ู้อ่านเข้าใจได้ทนั ที
๙
๕. ขอ้ ความน้ตี ้องการสื่อความหมายวา่ อะไร
“เครือ่ งดมื่ มีคณุ คำ่ รำคำนำ้ อัดลม”
ก. เครื่องด่ืมนีร้ าคาถูกแต่มีคุณคา่
ข. น้าอัดลมราคาแพงแตไ่ ม่มีคุณคา่
ค. เคร่ืองด่ืมทที่ ีคุณค่าและราคาถกู คือ นา้ อัดลม
ง. เครอ่ื งดืม่ ชนดิ นี้มีคณุ ค่าและราคาแพงเทา่ นา้ อดั ลม
๖. ขอ้ ความโฆษณาผลิตภัณฑ์บารุงเส้นผมนี้ มีข้อบกพรอ่ งในการใช้ภาษาโนม้ นา้ วใจตามขอ้ ใด
“เธอดูแลผมของเธอไดง้ ดงำม เธอก็น่ำจะดแู ลผมไดด้ ี”
ก. การใชค้ าซา้
ข. การใช้เหตผุ ล
ค. รูปประโยคไม่สมบูรณ์
ง. การใชค้ าเชอื่ มประโยค
๗. ข้อใดแสดงลกั ษณะเด่นของบทโฆษณาน้ี
“เขยี นหมดจนหยดสุดทำ้ ย”
ก. ใชค้ าเกนิ จรงิ
ข. ใช้คาท่ใี ช้ภาพพจน์
ค. ใชค้ าส้ัน ๆ สะดดุ หู
ง. ใชค้ าแสดงจดุ เด่นของสินค้า
๑๐
๘. ในฐานะเป็นผู้บรโิ ภค นกั เรยี นได้รบั อะไรจากสือ่ โฆษณากบั สุขภาพ
ก. ขอ้ มลู ข่าวสารดา้ นสขุ ภาพ เพ่ือสนองความต้องการทงั้ ทางด้านรา่ งกายและจิตใจ
ข. ข้อมลู ข่าวสารดา้ นท่อี ยู่อาศยั เพ่ือสนองความตอ้ งการทั้งทางด้านร่างกายและจติ ใจ
ค. ข้อมลู ข่าวสารด้านการเดินทาง เพ่ือสนองความต้องการทั้งทางดา้ นร่างกายและจิตใจ
ง. ข้อมูลข่าวสารดา้ นอุตสาหกรรม เพื่อสนองความต้องการทงั้ ทางด้านรา่ งกายและจิตใจ
๙. เม่ือนกั เรียนเกิดอาการแพ้อย่างรนุ แรงหลงั จากใช้ผงซกั ฟอกย่ีหอ้ หน่งึ เปน็ ผลจากสื่อโฆษณา
เกี่ยวกบั สุขภาพด้านใด
ก. สขุ ภาพปัญญา
ข. สุขภาพสงั คม
ค. สขุ ภาพกาย
ง. สุขภาพจิต
๑๐. ส่อื โฆษณาเกีย่ วกับสุขภาพมคี วามสาคัญอยา่ งไร
ก. มีอทิ ธพิ ลต่อผคู้ ้าคนกลางส่งสนิ คา้ สุขภาพท่จี ะนาไปใช้
ข. มีอทิ ธิพลต่อผูค้ า้ คนกลางที่จะนาสินค้าสง่ ต่ออย่างมนั่ ใจ
ค. มอี ิทธพิ ลต่อผู้ขายทจ่ี ะใหส้ ินค้าสขุ ภาพขายได้ในตลาด
ง. มีอิทธพิ ลต่อทศั นคตจิ ติ ใจและพฤติกรรมที่ผบู้ รโิ ภคจะนาไปเลอื กซ้อื สินคา้
เป็นอย่างไรบ้าง เม่ือทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสรจ็ แล้ว
เราไปศึกษาใบความรกู้ นั เลยนะคะ..ไปกันเลยทุกคน...
๑๑
กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น
เล่มท่ี ๕ มคี วำมรู้ดูโฆษณำ
ชอื่ -สกลุ ...................................ช้ัน...............................เลขที่..................
ข้อ ก ข คง
๑
๒ สรุปคะแนน
๓ คะแนนทไ่ี ด้
๔
๕ .......................................................................
๖
๗
๘
๙
๑๐
คะแนนเตม็
รวม ๑๐ คะแนน
๑๒
ใบควำมรู้
เรอื่ ง ควำมรูเ้ บอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั กำรโฆษณำ
ควำมหมำย
การโฆษณา คือ การนาเสนอสนิ ค้า หรอื บรกิ ารที่ดึงดูดความสนใจใหผ้ ู้ซอ้ื หนั มาสนใจสนิ ค้า
และบริการอยา่ งต่อเนื่อง โดยจะตอ้ งเน้นจดุ ขายของสนิ ค้าน้ัน และไม่ควรกล่าวเกินจรงิ จนดเู หมอื นวา่
ลกู คา้ ถูกหลอกลวง ถ้อยคาสานวนตอ้ งสรา้ งความสะดดุ ใจ แกผ่ พู้ บเห็นน่าเชื่อถือและดงึ ดูดความสนใจ
ทัง้ ภาพ ตัวอักษร การออกแบบและสีสัน
ลักษณะของข้อควำมโฆษณำท่ีดี
๑. ชดั เจนไมค่ ลมุ เครือ
๒. ใจความส้ันไมเ่ ยน่ิ เย้อ
๓. ใชถ้ อ้ ยคาทช่ี วนให้เหน็ ตามและนา่ เชือ่ ถอื
๔. ใชข้ ้อความท่เี หมาะสมกบั บคุ คล อ่านแลว้ ทราบได้ทันทีวา่ สินค้าน้ีตอ้ งการขายให้ใคร
๕. ใช้ภาษาเข้าใจงา่ ย ประโยคส้นั อา่ นแล้วเขา้ ใจทันที
ขอ้ ดขี องโฆษณำ ขอ้ เสยี ของโฆษณำ
๑. ผู้บริโภคสามารถเลือกซือ้ สินค้า ๑. ผ้บู รโิ ภคหลงผดิ ตามคาโฆษณาชวนเชอ่ื
หรือบริการไดต้ รงความต้องการ ๒. มคี า่ นิยมท่ีผิดเก่ยี วกับการใชส้ นิ ค้า
๒. มีทางเลอื กที่หลากหลาย และป้องกนั หรอื บริการ
การผกู ขาดสนิ ค้าหรือบริการ ๓. ใชส้ นิ คา้ ฟมุ่ เฟือยเกินความจาเป็น
๓. ให้ข้อคดิ ท่เี ปน็ ประโยชน์ และเป็น
สารทีจ่ รรโลงใจ
๑๓
สว่ นประกอบของโฆษณำ
๑. พาดหัว เปน็ สว่ นสาคัญของขอ้ ความโฆษณาทีจ่ ะเรียกความสนใจ มกั จะใช้คาหรือประโยค
ที่สะดดุ ตา สะดดุ ใจ เชน่ มอบความหอมพร้อมผิวสวย เปน็ ตน้
๒. ขยายพาดหัว เป็นสว่ นข้อความขยายหรือประกอบพาดหวั ใหเ้ ขา้ ใจชดั เจนข้ึน
๓. ส่วนขยายรายละเอียดของสนิ ค้าหรือบรกิ าร เป็นส่วนที่เสนอขอ้ มลู ท่เี ป็นความดีเดน่
ของสนิ ค้า บริการท่ดี ีเลิศ ผู้รับสอื่ โฆษณาจะไดร้ บั ทราบถงึ คณุ ภาพ ประโยชน์ ความดีเด่นพิเศษตา่ ง ๆ
ของตวั สนิ ค้า และบริการอยา่ งละเอียดทกุ ด้าน
๔. ส่วนสรุปหรือส่วนลงทา้ ย มกั เปน็ ข้อความกระต้นุ ให้ผู้ซื้อตดั สนิ ใจเรว็ ขน้ึ หรอื กระตนุ้ ใหผ้ ้อู า่ น
ทาตาม เชน่ แนะวิธีปฏบิ ตั ิท่จี ะซ้ือสินคา้ หรอื บริการนั้นอย่างไร ทไ่ี หน ตวั อย่างโฆษณา
วธิ ีกำรเขียนโฆษณำ
๑. ศึกษารายละเอยี ดเก่ียวกบั สินคา้ ทกุ แงท่ ุกมมุ
๒. ศกึ ษารายละเอยี ดเก่ียวกบั ลูกคา้ รายได้และอาชีพว่าเป็นอย่างไร ซ่ึงจะมผี ลต่อการตัดสนิ ใจ
ซ้ือของลกู ค้า
๓. ออกแบบการโฆษณา ต้องคดิ สร้างสรรค์ถ้อยคาใหส้ อดคล้องกับตวั สนิ คา้ และบรกิ ารใชค้ า
ทม่ี ีนา้ หนกั นา่ เชื่อถือ แปลกใหม่ สะดดุ ตา
๔. ภาพประกอบต้องมีความสอดคล้องกับภาษาทใ่ี ช้ ตวั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารและเหมาะสม
กบั กลุ่มเป้าหมาย
กำรใช้ภำษำสำหรบั โฆษณำ
๑. การใชห้ ลกั จิตวิทยา เปน็ วิธีการทน่ี กั โฆษณาใช้หลักจิตวิทยา โดยการจบั จดุ อ่อนมาเป็นหลัก
ชักจงู การโฆษณาจึงออกมาในลักษณะเปน็ ภาพรวม เช่น “ไทยทา ไทยใช้ ไทยเจริญ”
๒. การใช้เหตผุ ล เป็นการโฆษณาดว้ ยการใชเ้ หตุผลในการชวนเช่อื แตก่ ารใช้
ภาษามกั จะไมเ่ ปน็ เหตุเป็นผล ซ่งึ กันและกนั เช่น “มียาอมตดิ ตัว ไม่กลวั แฟนหนี”
๓. การโฆษณาเกนิ ความจริง เปน็ การโฆษณาวิธนี าเสนอเพื่อจะดงึ ดดู ความสนใจไมไ่ ด้คานึง
ถงึ ความเป็นจริง อาจจะยัว่ ยุอารมณ์ หรืออาจเป็นลกั ษณะหลอกลวง
เช่น “หงอกสลาย หายคันหวั เมื่อใช้ผลิตภณั ฑ์”
๑๔
๔. การสร้างคาขวญั เป็นการโฆษณาวธิ นี ้ีเพ่ือต้องการให้ผบู้ ริโภคจาไดข้ ึน้ ใจ จงึ ใชภ้ าษา
โดยเลือกสรรถอ้ ยคา สัมผัสคล้องจองหรือคาทีส่ ะดดุ ใจ เพ่ือใหจ้ ดจาได้ง่ายเช่น “สดใสซาบซา่ ”
“ด่มื ได้ทุกรส สดทุกเมื่อ”
กลวิธีกำรโนม้ น้ำวใจ
กลวิธกี ารโนม้ น้าวใจ ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อใหผ้ รู้ ับสารยอมรบั และยอมเปลี่ยนความคดิ
คลอ้ ยตามบุคคลผโู้ น้มน้าวใจ มีแนวทางดังน้ี
๑. ความนา่ เชอ่ื ถือ เช่น การมีคุณธรรม การมีความปรารถนาดี
๒. ความหนกั แนน่ ของเหตผุ ล เชน่ ความคิดหลักกฎเกณฑ์ ข้อเท็จจริงขอ้ วินจิ ฉัย ขอ้ ตัดสินใจ
ทมี่ ขี ้อสรุปอย่างมีเหตุผล
๓. ความรสู้ ึกและอารมณร์ ่วมกนั
๔. แสดงทางเลอื กด้านดแี ละดา้ นเสยี ควรปฏบิ ตั ิหรือละเวน้ ท่ีจะปฏิบัติ
๕. สร้างความหรรษาแกผ่ รู้ ับสาร เปน็ ลักษณะทเี ล่นทีจรงิ หรอื ใช้อารมณ์ขัน
๖. เร้าใหเ้ กดิ อารมณ์อยา่ งแรงกล้า เป็นลักษณะให้เกิดความน่าหวาดกลวั ความนา่ สงสาร
กำรใชภ้ ำษำในกำรสอื่ สำรและโฆษณำ
วจั นภาษา หมายถงึ การส่ือสารในระบบคาและประโยค โดยผ่านการฟังพดู อ่าน เขียน
โดยจะมีคาเป็นตัวส่ือความหมาย ซง่ึ ในประโยคใด ๆ คาแต่ละคาจะเขยี นและอ่านไดเ้ พียงวธิ เี ดยี ว
เทา่ น้ัน ดงั นน้ั การโฆษณาเพื่อช้ีแจงใหเ้ ห็นความครบถ้วน ถูกตอ้ งของข้อความหรือเร่ืองนั้น จงึ ต้องใช้
วัจนภาษาเปน็ อยา่ งมาก
อวัจนภาษา หมายถึง การสอ่ื สารโดยไมใ่ ชก้ ารฟงั การพดู การอ่านตามตวั หนงั สอื และการเขยี น
เป็นตัวหนังสือ หรือหมายถึง การสอื่ สารโดยไม่ใชร้ ะบบคาและประโยคเช่น ป้ายจราจร ภาษามือเพื่อ
เพม่ิ อรรถรสในการสนทนา ประกอบท่าทางและเป็นสอื่ สากลท่ีใชส้ ่ือสารในยามท่ไี ม่สามารถ
ใช้วัจนภาษาได้ ดงั น้ัน การโฆษณาจงึ มีความจาเปน็ จะต้องใช้อวัจนภาษาแทนวัจนภาษา ในกรณี
ทตี่ ้องการให้เกิดความเขา้ ใจที่ตรงกนั อยา่ งรวดเร็ว
๑๕
กำรอ่ำนสอื่ โฆษณำเพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ำกทีส่ ุด
๑. อ่านแล้วพจิ ารณาเง่ือนไขหรอื กติกา หรือของแถมของสมนาคณุ ที่จะให้กบั ผ้บู รโิ ภคว่าคุ้ม
กับราคาหรือไม่
๒. อา่ นแลว้ ต้องพนิ จิ พิจารณาวา่ นา่ จะเปน็ ไปไดห้ รอื ไม่ หรือเปน็ การหลอกลวงอยา่ งชัดเจน
ไม่น่าจะเป็นไปได้ เม่ือเปรยี บเทยี บกับราคาทข่ี ายกับราคาจริงของสินคา้
๓. อา่ นแลว้ ควรปรึกษาผรู้ ู้ นกั กฎหมาย นกั วิชาการ หรือติดต่อตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ
ทท่ี าหน้าท่นี ั้น ๆ โดยตรง
๔. อา่ นแลว้ พิจารณาคุณภาพสนิ ค้าว่าชารุดหรอื ไม่ เครอ่ื งอะไหลห่ าง่ายหรือไม่ มีตวั แทน
จาหน่ายหรอื ไม่
๕. อ่านข้อความโฆษณาแล้วตอ้ งซกั ถามผู้ขายใหล้ ะเอียด
๖. ราคา ควรเปรียบเทยี บราคากับบรษิ ัทอนื่ ๆ และตรวจสอบราคาใหแ้ นน่ อน
๗. ควรพิจารณาสนใจอา่ นขอ้ ความทีพ่ ิมพ์ด้วยตวั พมิ พ์ตัวเลก็ ๆ เพราะผูโ้ ฆษณาจะตง้ั ใจพิมพ์
ขอ้ ความตัวใหญใ่ ห้สะดุดตา เพื่อให้เกดิ การหลงเช่อื จนละเลยอา่ นข้อความตวั เลก็ ๆ ไป
๘. อ่านขอ้ ความโฆษณาแล้วพิจารณาหลักฐานอ้างอิง หรือชอื่ ทผ่ี โู้ ฆษณา
กล่าวอา้ งถึง โดยตดิ ต่อสอบถามข้อเท็จจรงิ จากบุคคลเหลา่ น้นั หลาย ๆ คน ตลอดจน
ความมชี ่ือเสียงของผู้ประกอบการ
๑๖
สรปุ องคค์ วำมรเู้ กี่ยวกับกำรโฆษณำ
การโฆษณา คอื การนาเสนอสินค้าหรือบริการทด่ี งึ ดดู ความสนใจให้ผซู้ อ้ื หนั มาสนใจสนิ ค้า
และบรกิ ารอยา่ งต่อเน่ือง โดยจะต้องเนน้ จดุ ขายของสินค้านั้น และไม่ควรกล่าวเกินจรงิ จนดเู หมอื นวา่
ลูกคา้ ถูกหลอกลวง ถ้อยคาสานวนตอ้ งสร้างความสะดดุ ใจ แกผ่ ู้พบเหน็ น่าเช่ือถือและดงึ ดูดความสนใจ
ท้ังภาพ ตวั อักษรการออกแบบและสสี ัน
ลกั ษณะของข้อความโฆษณาทดี่ ี คอื ชดั เจนไมค่ ลุมเครือ ใช้ภาษาเข้าใจงา่ ย ประโยคส้ัน
อา่ นแลว้ เขา้ ใจทันที
สว่ นประกอบของโฆษณามดี ังนี้ พาดหัว ขยายพาดหัว สว่ นขยายรายละเอยี ดของสนิ คา้
หรือบริการ และสว่ นสรปุ หรอื ส่วนลงทา้ ย
การใช้ภาษาสาหรับโฆษณา คือ การใชภ้ าษาสาหรบั โฆษณา การใชเ้ หตุผล การโฆษณา
เกนิ ความจรงิ และการสร้างคาขวญั
กลวิธกี ารโนม้ นา้ วใจ ต้องอาศัยระยะเวลาเพ่ือใหผ้ รู้ ับสารยอมรับและยอมเปล่ยี นความคดิ
คล้อยตามบุคคลผ้โู น้มนา้ วใจ
การใชภ้ าษาในการสื่อสารและโฆษณา มสี องแบบ คือ วจั นภาษา และอวจั นภาษา
ตวั อยำ่ งที่ ๑ กำรอ่ำนคดิ วิเครำะหบ์ ทโฆษณำ
คาช้แี จง นกั เรียนอา่ นบทโฆษณาแลว้ ศึกษาการอ่านคิดวเิ คราะหท์ ถ่ี ูกต้อง
“สินคา้ ตา่ ง ๆ ท่ีขายได้เดย๋ี วนี้ ไมไ่ ด้ขายด้วยคุณภาพอยา่ งเดียวแลว้ แตข่ ายด้วยภาพลกั ษณ์ทดี่ ีด้วย
น่นั หมายถึงว่า ห้างนั้น บรษิ ทั น้นั มชี อ่ื เสียงดี มสี ินค้าดี มภี มู ิหลงั ดี เปน็ สินค้าท่เี คยประสบความสาเร็จ
มาดี อย่างนี้แลว้ ความเชือ่ ถือในการเลือกซ้ือสนิ คา้ น้นั กม็ ีมากขน้ึ ”
๑๗
โครงสรำ้ งของขอ้ ควำม
ขอ้ สรปุ คือ ๑) “สินคา้ ตา่ ง ๆ ที่ขายได้เดี๋ยวนี้… คุณภาพอย่างเดียวแลว้ ”
๒) “แต่ขายดว้ ยภาพลักษณท์ ่ีดดี ้วย”
ขอ้ สนับสนนุ คือ “น่นั หมายถึงวา่ ห้างบริษทั นนั้ เลือกซอื้ สินคา้ นน้ั ก็มีมากขึ้น”
ตวั อย่ำงท่ี ๒ กำรอำ่ นคดิ วิเครำะหบ์ ทโฆษณำ
ลดห่นุ -ลดอ้วนไม่ต้องทาศลั ยกรรม
ชาสลายไขมันสตู รเข้มข้น ขนาดทดลอง ๕ วัน
ลองดซู ิคะ... คนดังในวงการแนะนา
จุดประสงคข์ องกำรโฆษณำ
เพอ่ื ใหผ้ ู้หญงิ หรอื คนทม่ี ีน้าหนักมากเกินมาตรฐานเกิดความหลงเช่ือว่า
ถ้าอยากรูปร่างสวยตอ้ งซือ้ ชาสลายไขมันมาด่มื
กำรใชภ้ ำษำโฆษณำสินค้ำ
การโฆษณาเกนิ ความเป็นจรงิ ตอ้ งคดิ ถึงเร่ืองสาเหตุของปญั หาคนเราจะอว้ นหรอื ผอม
อยทู่ ี่นสิ ัยการบรโิ ภคใหเ้ หมาะสม พอประมาณ รจู้ กั เลอื กรับประทานสงิ่ ท่เี ป็นประโยชนต์ ่อร่างกาย
ออกกาลงั กาย พักผ่อนใหเ้ พียงพอ ทาจติ ใจให้ปลอดโปร่ง อยู่ในทสี่ ิง่ แวดลอ้ มท่ีดี
ควำมนำ่ เชอื่ ของข้อควำมโฆษณำ
ไมน่ ่าเชอ่ื ถือ เพราะคนที่อ้วน ชาสลายไขมันไมส่ ามารถลดหุ่น
หรือลดความอว้ นได้ หากไมง่ ดการรับประทานอาหารประเภทแปง้ และนา้ ตาล
และการออกกาลังกาย เพือ่ เผาผลาญไขมันสว่ นเกนิ
๑๘
แบบฝึกทักษะที่ ๑ เร่ือง “เซรั่มหอยทำก”
(ที่มา: http://www.un-nashop.com/product/๑๖๖๙๔๒๘/fuji-snail-cream,สืบคน้ เม่ือ
วันที่ ๒๓ มนี าคม ๒๕๕๙)
๑๙
คำสัง่ จงทาเคร่ืองหมายกากบาท ( × ) ทับอักษรหนา้ ตัวเลอื กท่ีเปน็ คาตอบที่ถูกต้องท่สี ุด
(๕ คะแนน)
คำถำมท่ี ๑ ขอ้ ใดในโฆษณานี้สามารถโน้มน้าวใจใหผ้ ู้อื่นกระทาตามคือส่ิงใด
ก. เซรั่มหอยทากแก้รอยแผลเปน็ และรว้ิ รอยก่อนวัย
ข. เซรั่มหอยทากขาวภายใน ๗ วัน หนา้ จะขาวใส
ค. เซรมั่ หอยทากภายใน ๓ วัน หนา้ จะเด้งและมอี อร่า
ง. เซรม่ั หอยทากทาแลว้ ผวิ หนงั จะเหีย่ วยน่
คำถำมที่ ๒ “เซรั่มหอยทาก สามารถรกั ษาอาการผวิ หนงั เหย่ี วย่น ฝา้ รอยแผลเป็น
จากสิว และร้ิวรอยกอ่ นวยั ” จากขอ้ ความนี้ เปน็ จริงได้หรอื ไม่
ก. เปน็ จริง เพราะในเซรมั่ หอยทากมสี ารปรอท
ข. เป็นจริง เพราะในเซรัม่ หอยทากผลติ เมือกหอยทากมีคุณสมบตั ิไว้ซ่อมแซมส่วนที่สกึ หรอ
ค. ไมเ่ ปน็ จรงิ เพราะโฆษณาน้ีกล่าวเกินจรงิ
ง. ไม่เป็นจรงิ เพราะผลิตภัณฑ์น้ีไม่มี อย.
คำถำมท่ี ๓ ใจความสาคญั ของโฆษณานี้คือ
ก. เซร่มั หอยทากผลติ ภัณฑน์ าเข้าจากเกาหลี
ข. เซรม่ั หอยทากทาแลว้ ผิวจะสวยใสกวา่ เศรษฐีนี
ค. เซร่ัมหอยทากใชไ้ ด้ทกุ ครงั้ ตามทตี่ ้องการ
ง. เซรั่มหอยทากแกร้ อยแผลเป็นและรวิ้ รอยทาให้ดอู ่อนกว่าวัย
คำถำมที่ ๔ ขอ้ ใดแสดงลกั ษณะเด่นของโฆษณานี้
ก. ใชถ้ อ้ ยคาโฆษณาเกินจริง
ข. ใช้ถ้อยคาทาให้เกิดภาพพจน์
ค. ใช้ถ้อยคาแสดงจุดเดน่ ของสนิ คา้
ง. ใชถ้ อ้ ยคาทาให้เกิดจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
๒๐
คำถำมที่ ๕ เซร่ัมหอยทากสารสกัดจากเมือกหอยทาก นาเข้าจากเกาหลี
ขอ้ ความในโฆษณานโ้ี นม้ นา้ วใจผู้อา่ นด้วยวธิ กี ารใด
ก. ใชถ้ ้อยคาเรา้ อารมณ์ความรูส้ ึก
ข. ใชถ้ ้อยคาช้ใี ห้เหน็ ความดขี องสินคา้
ค. ใช้ถอ้ ยคาทาใหเ้ กิดความรู้สึกและอารมณร์ ว่ มกัน
ง. ใช้ถ้อยคาทาใหเ้ กิดความหรรษาแกผ่ รู้ บั สาร
คำถำมท่ี ๖ (๕ คะแนน)
จากถ้อยคาข้างต้น ข้อความต่อไปน้ี เป็นควำมจรงิ หรือ ไม่เปน็ ควำมจริง
ขอ้ ความ เปน็ ความจริง จงเขยี นเคร่ืองหมายกากบาท ( × ) ในชอ่ ง “ใช่”
ขอ้ ความ ไม่เป็นความจรงิ จงเขียนเครื่องหมายกากบาท ( × ) ในชอ่ ง “ไมใ่ ช่”
ขอ้ ขอ้ ควำม ใช่ ไม่ใช่
๑. เซรม่ั หอยทากนาเข้าจากประเทศเกาหลี
๒. เมือกหอยทากมีคณุ สมบัติพิเศษไว้ใชซ้ ่อมแซมตวั เองได้รวดเรว็ และมากกว่า
สิ่งท่ีมชี ีวติ อ่นื ๆ
๓. การคน้ พบสารสกัดจากเมอื กหอยทากน้ี นบั เป็นของขวัญจากธรรมชาติ
ทแ่ี สนอศั จรรย์
๔. ประเทศชลิ เี ปน็ ประเทศทเ่ี ลีย้ งหอยทากใหญ่กว่าประเทศเกาหลีและเป็น
อันดับหนง่ึ ของโลก
๕. เมอื กของหอยทากสามารถนาไปสกดั เปน็ ยารักษาโรคมะเรง็ ได้
๖. เซรัม่ หอยทากใช้ได้บอ่ ยเท่าท่ีตอ้ งการ ใชร้ ่วมกับครีมอื่นได้ผลดี
๗. “เซรมั่ หอยทากรักษาอาการผิวหนังเหย่ี วย่น ฝา้ รอยแผลเป็นจากสวิ ”
จนเปน็ ท่ีแพร่หลายในประเทศเกาหลี โดยไม่ต้องศลั ยกรรม
๘. สอ่ื โฆษณานีเ้ ป็นเรื่องของสุขภาพและการรักษาสุขภาพ
๙. เซรมั่ หอยทากไมม่ ี อย.รบั รอง
๑๐. โฆษณาน้ีใชภ้ าษาโฆษณาโนม้ น้าวใจแตข่ าดความไม่น่าเชอื่ ถือเกดิ ขนึ้ ได้
๒๑
คำถำมที่ ๗ (๓ คะแนน)
ใหน้ กั เรียนเขยี นคาตอบลงในตารางให้สัมพนั ธ์กับข้อความท่ีกาหนดให้
ที่ ข้อควำม คำตอบ
๑. โฆษณานีช้ ือ่ วา่ อะไร ตอบ.............................................
………………………………………………
๒. จากการค้นพบว่าเมือกหอยทากสามารถบารุงผิว ………………………………………………
ใหน้ ุ่มนวลและปราศจากริว้ รอยน้นั พบทีป่ ระเทศใด ………………………………………………
ตอบ..............................................
๓. เซรั่มหอยทากฟูจอิ อนเซนนาเขา้ จากประเทศใด ………………………………………………
………………………………………………
………………………………………………
ตอบ..............................................
………………………………………………
………………………………………………
………………………………………………
ทาแบบฝึกทักษะมาหลายข้อแล้ว นอ้ ง ๆ พอจะเข้าใจ
ในเนอ้ื หากนั หรือยัง ถ้าอยา่ งนนั้ ทาขอ้ ตอ่ ไปกนั นะคะ..
๒๒
คำถำมที่ ๘ (๒ คะแนน)
เซรม่ั หอยทำกนวัตกรรมใหมส่ ำหรับผวิ หนำ้ สวยใส
จากคาถามต่อไปน้ีให้นักเรียนบอกเหตุผล โดยใชข้ ้อมูลจากเน้อื เร่อื งสนบั สนุน
๑. “เซร่มั หอยทาก” มเี สียงวรรณยกุ ตก์ ่ีเสียงมเี สียงใดบา้ ง
ตอบ............................................................................................................................. ...............
................................................................................................................... ..................................
............................................................................................................................. ........................
.....................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................
๒. “เซรมั่ หอยทาก รกั ษาอาการผวิ หนังเหีย่ วย่น ฝา้ รอยแผลเป็นจากสวิ ” ขอ้ ความท่ีโฆษณาน้ี
ใช้กลวธิ กี ารโน้มน้าวใจแบบใด
ตอบ............................................................................................................................. ...............
............................................................................................................................. ........................
.......................................................................................................... ...........................................
............................................................................................................................. ........................
๒๓
คำถำมที่ ๙ (๕ คะแนน)
“เซรม่ั หอยทำกฟูจิออนเซน หยดเดยี วกส็ วยไดโ้ ดยไมต่ ้องศัลยกรรม”
นักเรยี นคิดอย่างไรกบั คาพูดข้างตน้ ทาไมจงึ คิดเช่นนนั้ ใหเ้ หตผุ ลประกอบคาอธิบาย
๑. ให้นกั เรยี นเลอื กทาเคร่ืองหมาย วงกลมล้อมรอบ ข้อความขา้ งลา่ งนเี้ พียง ๑ ข้อความ
ควำมคิดเหน็ คลอ้ ยตำม ควำมคดิ เห็นโตแ้ ย้ง ควำมคิดเหน็ คลอ้ ยตำมและโต้แย้ง
๒. ให้นกั เรียนเขยี นอธบิ ายเหตุผล จานวน ๒ ขอ้ ท่ีสอดคล้องความคดิ การเลือกในข้อ ๑
ควำมคดิ เห็นคลอ้ ยตำม ควำมคิดเห็นโต้แยง้
๑. ………………………………………………………….…… ๑. ……………………………………………………….……
…………………………………………………………………… …………………………………………………………………
…………………………………………………………………… …………………………………………………………………
…………………………………………………………….…… …………………………………………………………….……
๒. ……………………………………………………….……… ๒. ……………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………..…
…………………………………………………………………… ………………………………………………..………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………
๒๔
แบบฝึกทกั ษะท่ี ๒
เรือ่ งโฆษณำยำลดควำมอ้วน
(ท่มี า: http://www.greentinathailand.com, สืบคน้ เมื่อวันท่ี ๒๓ มนี าคม ๒๕๕๙)
๒๕
คำส่งั จงทาเคร่ืองหมายกากบาท ( × ) ทับอักษรหน้าตวั เลอื กทเี่ ปน็ คาตอบ
ท่ถี ูกต้องที่สุด (๕ คะแนน)
คำถำมท่ี ๑ โฆษณาท่ีนกั เรียนเหน็ เป็นเร่ืองเกี่ยวกับอะไร
ก. เรื่องเกีย่ วกบั ยาแต่ละชนดิ มีทัง้ ประโยชน์และโทษ
ข. เรอ่ื งเกยี่ วกบั การรบั ประทานยาตามแพทยส์ ั่ง
ค. เรื่องเกย่ี วกับยาแต่ละชนดิ หมดอายเุ มือ่ ไร
ง. เรอ่ื งเกยี่ วกบั โฆษณายาลดความอว้ น
คำถำมท่ี ๒ วธิ ีการในข้อใดสามารถโนม้ นา้ วใจผอู้ า่ นขอ้ ความโฆษณาน้ี
ก. ข้อมลู ข่าวสารด้านสุขภาพ เพอื่ สนองความตอ้ งการท้งั ทางดา้ นร่างกายและจติ ใจ
ข. ขอ้ มลู ข่าวสารด้านที่อยู่อาศยั เพอ่ื สนองความต้องการทั้งทางด้านร่างกายและจติ ใจ
ค. ข้อมูลขา่ วสารด้านการเดินทาง เพ่ือสนองความต้องการทัง้ ทางดา้ นร่างกายและจติ ใจ
ง. ข้อมลู ขา่ วสารดา้ นการอุตสาหกรรมเพอื่ สนองความตอ้ งการท้งั ทางดา้ นร่างกายและจติ ใจ
คำถำมท่ี ๓ ภาษาโฆษณาในขอ้ ใดทใี่ ช้ภาษาโนม้ นาวด้วยการ “อา้ งบคุ คล”
ก. คุณมน้ิ ทเ์ จ้าของกรนี ตินา่ ทานเองหนุ่ ดเี อง
ข. พ.ญ.วราพร พนั ธุมโกมล ไดเ้ สนอแนวทางการลดน้าหนักด้วยสมนุ ไพรธรรมชาติ
ค. กรนี ตนิ ่า สมนุ ไพรลดความอว้ นท่ีผสานคุณสมบัติหลกั ๓ ชนดิ กระบองเพชร
ชาเขียว ถว่ั ขาว
ง. พ.ญ.ชนาการณ์ อนิ ทรสกลุ ยืนยนั ว่ายาลดนา้ หนักกรนี ติน่า ชว่ ยลดความอยากอาหาร
ไมต่ อ้ งกังวล yoyo effect
คำถำมที่ ๔ ส่ือโฆษณาเกย่ี วกับสขุ ภาพมีความสาคญั อยา่ งไร
ก. มอี ทิ ธพิ ลต่อผคู้ ้าคนกลางส่งสนิ คา้ สุขภาพทีจ่ ะนาไปใช้
ข. มอี ิทธิพลต่อผ้คู ้าคนกลางท่ีจะนาสินค้าส่งต่ออย่างม่ันใจ
ค. มีอทิ ธพิ ลต่อผูข้ ายท่ีจะให้สินคา้ สขุ ภาพขายได้ในตลาด
ง. มอี ิทธพิ ลต่อทศั นคติจิตใจและพฤติกรรมทผ่ี บู้ รโิ ภค
จะนาไปเลอื กซอ้ื สนิ ค้า
๒๖
คำถำมท่ี ๕ ข้อความโฆษณาสินคา้ ขา้ งตน้ มีขอ้ บกพร่องในการสือ่ สารด้านใดมากท่ีสุด
ก. การใชค้ ากล่าวเกินจริง
ข. การใชค้ าผดิ ความหมาย
ค. การใช้คาภาษาตา่ งประเทศ
ง. การใชค้ าแสดงเหตุผลไมห่ นักแน่น
คำถำมท่ี ๖ จำกถ้อยคำข้ำงต้นตอ่ ไปน้เี ปน็ ควำมจรงิ หรือไมเ่ ปน็ ควำมจริง (๕ คะแนน)
ข้อความเป็นความจริง จงเขียนเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ในช่อง “ใช่”
ขอ้ ความไม่เป็นความจริง จงเขยี นเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ในชอ่ ง “ไม่ใช่”
ขอ้ ข้อควำม ใช่ ไมใ่ ช่
๑. กรีนตนิ ่า “ลดนา้ หนกั ด้วยผลิตภณั ฑจ์ ากธรรมชาติ”
คอื ชอื่ ของโฆษณา
๒. กระบองเพชร เป็นสมุนไพรช่วยลดความอยาก
เร่งเผาผลาญ ทาให้หนุ่ สวยผอมจริง
๓. กรีนตนิ ่ามีสมุนไพรธรรมชาติมากกว่า ๓ ชนิด
๔. ถว่ั ขาวมคี ณุ สมบตั ใิ นการลดคอเลสเตอรอลในเลือด
๕. กรนี ตนิ ่าช่วยทาให้รา่ งกายแข็งแรง เมอ่ื ทานติดต่อกันหลายวัน
ร่างกายจะรสู้ ึกอ่อนเพลีย
๖. กรีนตนิ ่า ยาลดความอว้ นผลติ จากสารสกัดธรรมชาติหลายชนิด
ไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อรา่ งกายเป็นโฆษณาชวนเชอ่ื
๗. โฆษณายาลดความอว้ นนเ้ี ปน็ สือ่ โฆษณาเกีย่ วกับสุขภาพดา้ นร่างกาย
๘. ภาษาโฆษณามกี ารใช้ภาษาโน้มนา้ วใจด้วยการอา้ งบคุ คล
๙. ชาเขยี ว ช่วยลดคอเลสเตอรอล คอื ลักษณะเด่นในบทโฆษณาน้ี
๑๐. กรนี ตินา่ ยาลดความอ้วนผลิตจากสารสกัดธรรมชาตทิ ่ีทาให้
ระบบเผาผลาญไขมันดขี น้ึ มากกว่าผลติ ภัณฑ์ยหี่ ้ออนื่
๒๗
คำถำมที่ ๗ (๓ คะแนน)
ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาตอบลงในตารางให้สมั พันธ์กบั ข้อความท่ีกาหนด
ท่ี ขอ้ ควำม คำตอบ
๑. โฆษณานชี้ ื่อ …...…………………………………………………….
………………………………………………………….
๒. การใชภ้ าษาในโฆษณาสนิ ค้าน้ี ………………………………………………………….
มีลกั ษณะอย่างไร …...…………………………………………………….
………………………………………………………….
๓. ผลติ ภัณฑ์กรนี ตินา่ มีการผสมสมุนไพร ………………………………………………………….
ท้งั หมดกชี่ นดิ มีคุณสมบัตอิ ยา่ งไรบ้าง …...…………………………………………………….
………………………………………………………….
………………………………………………………….
…...…………………………………………………….
………………………………………………………….
………………………………………………………….
…...…………………………………………………….
………………………………………………………….
………………………………………………………….
…...…………………………………………………….
…………………………………………………………..
นอ้ ง ๆ อย่าหลงเชื่อคาโฆษณานะคะ
ยาลดความอ้วนอาจทาใหเ้ สยี ชีวิตได้
ตอ้ งระวงั มาก ๆ นะทุกคน
๒๘
คำถำมที่ ๘ (๓ คะแนน)
คุณสำมำรถลดควำมอ้วนได้ โดยไม่ตอ้ งอดอำหำร และออกกำลังกำย
เมอื่ คุณทำนกรีนตนิ ำ่ ผลติ ภณั ฑเ์ สริมอำหำร
จากคาถามต่อไปนี้ให้นกั เรียนบอกเหตุผล โดยใช้ขอ้ มลู จากเนอ้ื เร่อื งสนบั สนุน
๑. ข้อความในบทโฆษณาน้ีมีความน่าเชอ่ื ถือหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ.............................................................................................................................. ..............
.................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................
๒. ข้อความในบทโฆษณานี้มีจดุ ประสงค์เพ่อื อะไร
ตอบ.............................................................................................................................. ..............
.................................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ........................
๓. ปจั จัยสาคญั ทีท่ าให้เกิดปัญหาความอว้ นหรือผอมคอื อะไร
ตอบ.............................................................................................................................. ......
…………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………
๒๙
คำถำมท่ี ๙ (๕ คะแนน)
ถ้ำคณุ ถกู ทกั วำ่ “ดูคณุ อ้วนข้ึนนะ ทำไมเดยี๋ วนี้อว้ นจัง” คณุ ก็คง
ไมค่ อ่ ยจะพอใจนัก คณุ คงคดิ ว่ำ ฉันผอมเพรำะยำลดควำมอว้ น
นกั เรียนคิดเหน็ อย่างไรกับคาพูดขา้ งตน้ ทาไมจึงคิดเช่นนัน้ ให้ใชเ้ หตผุ ลประกอบคาอธิบาย
๑. ให้นักเรยี นเลอื กทาเคร่ืองหมาย วงกลมล้อมรอบ ข้อความขา้ งลา่ งนี้ เพียง ๑ ข้อความ
ควำมคิดเห็นคล้อยตำม ควำมคิดเห็นโตแ้ ย้ง ควำมคิดเห็นคลอ้ ยตำมโตแ้ ยง้
๒. ให้นักเรียนเขยี นอธิบายเหตุผล จานวน ๒ ข้อ ที่สอดคล้องความคิดการเลือกในข้อ ๑
ควำมคิดเห็นคลอ้ ยตำม ควำมคดิ เห็นโต้แย้ง
๑.………………………………………………………………… ๑. …………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………..
..………………………………………………………………… ………………………………………………………………………
…………………………………………………………………… …………………………………………………………………..…
๒.………………………………………………………………… ๒. …………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………..
..………………………………………………………………… ………………………………………………………………………
…………………………………………………………………… …………………………………………………………………..…
๓๐
แบบทดสอบหลังเรียน
เลม่ ท่ี ๕ มคี วำมรดู้ โู ฆษณำเปน็
คำชี้แจง
๑. แบบทดสอบมีท้ังหมด ๑๐ ข้อ
๒. กาหนดเวลาทาแบบทดสอบ ๑๐ นาที
๓. ใหน้ ักเรียนเขียนเครอ่ื งหมายกากบาท ( × ) ทบั ข้อที่ถกู ทีส่ ดุ เพียงข้อเดยี ว
๑. ภาษาโฆษณาน้โี นม้ น้าวใจผอู้ า่ นด้วยวิธีการใด
“ส่งิ ทดี่ ีในชีวิต คูค่ วรสตรเี ชน่ คณุ ”
ก. ช้ีให้เห็นความดีของสนิ คา้
ข. ให้ความสาคญั แก่ผู้ใช้สนิ ค้า
ค. ใชถ้ อ้ ยคาเรา้ อารมณ์ความรสู้ กึ
ง. ใช้วลีสน้ั ๆ เพ่อื ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ทันที
๒. สอื่ โฆษณาเกี่ยวกับสุขภาพมคี วามสาคัญอยา่ งไร
ก. มีอิทธพิ ลต่อผคู้ ้าคนกลางส่งสินคา้ สขุ ภาพท่จี ะนาไปใช้
ข. มีอิทธิพลต่อผูค้ า้ คนกลางท่ีจะนาสนิ ค้าส่งต่ออย่างม่ันใจ
ค. มีอิทธพิ ลต่อผขู้ ายทจ่ี ะใหส้ ินคา้ สขุ ภาพขายได้ในตลาด
ง. มอี ิทธิพลต่อทศั นคติจติ ใจและพฤตกิ รรมทีผ่ ู้บริโภคจะนาไปเลือกซ้อื สนิ ค้า
๓๑
๓. ขอ้ ความโฆษณาผลิตภณั ฑ์บารงุ เส้นผม นี้มีข้อบกพร่องในการใชภ้ าษาโนม้ น้าวใจ
ตามขอ้ ใด
“เธอดูแลผมของเธอได้งดงำม เธอก็น่ำจะดแู ลผมได้ดี”
ก. การใช้คาซ้า
ข. การใชเ้ หตผุ ล
ค. รูปประโยคไม่สมบรู ณ์
ง. การใช้คาเชอ่ื มประโยค
๔. ขอ้ ความโฆษณาสินคา้ ขา้ งต้นมีขอ้ บกพร่องในการส่ือสารดา้ นใดมากที่สุด
ควำมสขุ ๒ ทัศนียภำพจำกบ้ำนที่ถกู ดีไซน์ให้
“สวยทั้งหนำ้ บำ้ นและหลังบ้ำน”
สดั สว่ นควำมทนั สมัยผสมผสำนสสี ัน
อ่อนละมุนไดอ้ ยำ่ งลงตัวทสี่ ุด
ก. การใชค้ ากลา่ วเกินจริง
ข. การใชค้ าผิดความหมาย
ค. การใชค้ าภาษาต่างประเทศ
ง. การใชค้ าแสดงเหตุผลไม่หนกั แน่น
๕. เมอื่ นักเรยี นเกดิ อาการแพ้อยา่ งรุนแรงหลงั จากใช้ผงซักฟอกย่ีหอ้ หน่ึง เปน็ ผลจากส่ือโฆษณา
เกยี่ วกบั สขุ ภาพด้านใด
ก. สขุ ภาพปัญญา
ข. สุขภาพสงั คม
ค. สุขภาพจติ
ง. สุขภาพกาย
๓๒
๖. ภาษาโฆษณาในข้อใดท่ีใช้ภาษาโน้มนาวดว้ ยการ “อา้ งบุคคล”
ก. เม่อื มีบ้านที่อยู่อาศัยทสี่ งบสุขร่มเยน็ แลว้ ภายในนน้ั กค็ วรบรรจุไปด้วยครอบครวั ทอี่ บอุ่น
มคี วามสขุ ระหวา่ งพ่อ แม่ ลกู ด้วยละก็ ก็สุดยอดเพอร์เฟ็กแล้ว
ข. โดยเฉพาะเจ้าตวั เล็กในบา้ นทกี่ วา่ จะเลีย้ งดเู ขาใหเ้ ตบิ โตเปน็ สมาชิกทีม่ ีคณุ ภาพของสงั คม
คุณพ่อ คุณแม่ก็ปวดหัวอยู่หลายยกเหมือนกัน
ค. พ.ญ. วราพร พนั ธุมโกมล ไดถ้ า่ ยทอดความรูใ้ นการดูแลเล้ียงดเู จา้ ตวั ยุ่งได้อย่างสนุกสนาน
ดว้ ยภาษาทีง่ ่าย ๆ เป็นกนั เองสนั้ กระชับ
ง. “กว่าหนูจะโต” นา่ จะเปน็ ค่มู อื สาหรบั คุณพอ่ คณุ แม่ท้งั หลาย ใชเ้ ปน็ ความรใู้ นการปฏบิ ตั ิ
เบอื้ งตน้ ยามทีล่ ูกรักของคุณต้องเจ็บป่วยทัง้ จากโรคภยั และความซุกซน
๗. ข้อความโฆษณาสินคา้ ขา้ งต้นมขี อ้ บกพรอ่ งในการสื่อสารด้านใดมากที่สดุ
“ป.ปลำนนั้ หำยำก” ต้องลำบำกออกเรือไป
ขนส่งมำแต่ไกล ใช้น้ำแขง็ เปลอื งนำ้ มนั
ก. ใช้ถอ้ ยคาเรา้ อารมณค์ วามรสู้ กึ
ข. ใช้คาสั้น ๆ กะทัดรัดคล้องจองกัน
ค. ให้เห็นความสาคัญแก่ผใู้ ช้สินค้า
ง. ช้ีให้เห็นความยากลาบากของการได้สินคา้ น้ัน
๘. ขอ้ ใดแสดงลักษณะเด่นของบทโฆษณาน้ี
“เขยี นหมดจนหยดสุดทำ้ ย”
ก. ใชค้ าเกินจรงิ
ข. ใชค้ าท่ใี ช้ภาพพจน์
ค. ใชค้ าแสดงจุดเดน่ ของสนิ ค้า
ง. ใชค้ าสั้น ๆ สะดุดหู
๓๓
๙. ขอ้ ความนต้ี ้องการสื่อความหมายว่าอะไร
“เครอ่ื งดืม่ มีคณุ ค่ำ รำคำนำ้ อัดลม”
ก. เครื่องด่ืมน้ีราคาถูกแต่มีคุณค่า
ข. นา้ อดั ลมราคาแพงแต่ไม่มีคณุ ค่า
ค. เครอ่ื งด่ืมที่ทีคณุ ค่าและราคาถูก คือ นา้ อัดลม
ง. เครอื่ งดื่มชนดิ น้มี ีคณุ คา่ และราคาแพงเทา่ น้าอัดลม
๑๐. ในฐานะเป็นผู้บริโภค นกั เรยี นได้รบั อะไรจากสื่อโฆษณากบั สขุ ภาพ
ก. ขอ้ มลู ข่าวสารดา้ นการเดนิ ทาง เพ่ือสนองความต้องการท้งั ทางด้านร่างกายและจิตใจ
ข. ขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นสุขภาพ เพือ่ สนองความตอ้ งการท้ังทางด้านรา่ งกายและจติ ใจ
ค. ข้อมูลขา่ วสารด้านท่ีอยู่อาศยั เพอ่ื สนองความตอ้ งการท้ังทางดา้ นรา่ งกายและจิตใจ
ง. ขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นอุตสาหกรรม เพ่ือสนองความต้องการทั้งทางด้านร่างกายและจติ ใจ
เย้ ๆ.....เรยี นจบกันแล้วทุกคน..
อยา่ ลมื ตรวจข้อสอบหลังเรียนนะคะ
เฉลยอย่ใู นภาคผนวกจ้า
๓๔
กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น
เล่มท่ี ๕ มคี วำมรูด้ ูโฆษณำ
ชื่อ-สกุล...................................ชั้น...............................เลขท่ี..................
ขอ้ ก ขคง
๑
๒ สรุปคะแนน
๓ คะแนนทไ่ี ด้
๔
๕ .......................................................................
๖
๗
๘
๙
๑๐
คะแนนเตม็
รวม ๑๐ คะแนน
๓๕
บรรณำนกุ รม
กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๑). แนวทางการบริหารจดั การหลกั สตู รการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
. (๒๕๕๒). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑.
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กอบกาญจน์ วงศ์วิสทิ ธิ์. (๒๕๕๑). ทกั ษะภาษาเพ่ือการส่ือสาร. กรงุ เทพฯ: โอเดียนสโตร์.
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักด์ิ. (๒๕๕๖). การคิดเชิงวิเคราะห์. กรุงเทพฯ: ซัคเซสมเิ ดยี .
โครงการ PISA ประเทศไทย สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (๒๕๕๗).
ผลการประเมนิ PISA คณติ ศาสตร์ การอา่ น และวิทยาศาสตร์ นกั เรียนรูอ้ ะไร
และทาอะไรได้บ้าง. กรุงเทพฯ: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
(สสวท.).
. (๒๕๕๕). ตวั อยา่ งขอ้ สอบการประเมนิ ผลนานาชาติ PISA ๒๐๐๙: การอ่าน (เพิ่มเติม).
พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๒. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).
. (๒๕๕๗). ผลการประเมิน PISA ๒๐๑๒ คณติ ศาสตร์ การอา่ น และวิทยาศาสตร์
นักเรียนรูอ้ ะไรและทาอะไรได้บ้าง. กรุงเทพฯ: สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี (สสวท.).
. (๒๕๕๗). “แผน่ พับประชาสัมพันธโ์ ครงการ PISA ๑”. โครงการ PISA. สถาบนั สง่ เสริม
การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).เขา้ ถงึ ไดจ้ าก
ttp://pisathailand.ipst.ac.th/
. (๒๕๕๗). “แผ่นพับประชาสัมพนั ธโ์ ครงการ PISA ๒”. โครงการประเมนิ ผลนักเรยี น
รว่ มกับนานาชาต.ิ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.).
ฉววี รรณ คหู าภนิ ันทน์. (๒๕๕๒). เทคนิคการอ่าน (Reading Techniques). กรุงเทพฯ:
ศลิ ปาบรรณาคาร.
ทิศนา แขมมณี. (๒๕๕๓). “การนาเสนอรูปแบบเสริมสร้างทกั ษะการคดิ ขั้นสูง ของนิสติ
นักศกึ ษาครรู ะดับปรญิ ญาตรีสาหรับหลักสูตรครุศกึ ษา”. เอกสารอดั สาเนา.
๓๖
ธตรฐ ตลุ าพงษพ์ ิพฒั น์. (๒๕๕๘). เอกสารประกอบการพัฒนาครูภาษาไทย โครงการ
เร่งรดั คณุ ภาพการอ่านรเู้ รอ่ื งและส่ือสารไดส้ ู่การเรียนการสอน กจิ กรรมทักษะการอา่ น คิด
วเิ คราะห์ และเขยี นสื่อความหมาย แนวทางการประเมนิ ผลนกั เรยี นรว่ มกบั นานาชาติ (PISA).
เอกสารอัดสาเนา.
. (๒๕๕๘). การอา่ นรเู้ รื่องตามแนว PISA (Reading Literacy). เอกสารอัดสาเนา.
บุญเรือน รัฐวเิ ศษ. (๒๕๔๒). แบบทดสอบเสริมทักษะภาษาไทย ม.๓ (ท๓๐๖). กรงุ เทพฯ:
ดอกหญ้าวชิ าการ.
ประพนธ์ เรืองณรงค์ และคณะ. (๒๕๔๕) .ชดุ ปฏิรูปการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
พ.ศ. ๒๕๔๔ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชว่ งชนั้ ที่ ๓ ม.๑-๓. กรุงเทพฯ:
ประสานมติ ร.
ประภาศรี สีหอาไฟ. (๒๕๕๔). วัฒนธรรมทางภาษา.พิมพ์ครง้ั ที่ ๒ . กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย.
พรทพิ ย์ แฟงสดุ . (๒๕๕๐). แบบฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความภาษาไทย. กรุงเทพฯ: ฟสิ ิกส์เซ็นเตอร์.
พัชรินทร์ อารมณ์สาวะ. (๒๕๕๗). การประเมนิ การรเู้ รือ่ งการอา่ นของ PISA ๒๐๑๕.
นิตยสาร สสวท.๔๒ (๑๘๙),๔๔-๔๘.
เพ็ญศรี จันทร์ดวง และคณะ. (๒๕๔๔). หนังสอื เสริมทักษะ ท.๓๐๕ ชุดพฒั นาทักษะกระบวนการ
ภาษาไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.).
มานิตา ศรีสาคร. (๒๕๕๒) ภาษาไทย ช่วงชนั้ ที่ ๓. กรงุ เทพฯ: ประสานมิตร.
ราชบัณฑิตยสถาน. ๒๕๕๔. พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรงุ เทพฯ:
อักษรเจริญทศั น์.
สมศกั ดิ์ อัมพรวสิ ิทธิโ์ สภา และธญั ลกั ษณ์ จ้ยุ เรือง.( ๒๕๕๔.) วิวธิ ภาษาวรรณคดีวจิ กั ษ์ ม.๓.
กรุงเทพฯ: ภูมิบณั ฑิตการพิมพ์
สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๕). รา่ งชุดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมผเู้ รียนสู่
การประเมินผลนกั เรียนนานาชาติ PISA. การอบรมเตรยี มความพร้อมผู้เรยี นสู่
การประเมนิ ผลการนกั เรยี นนานาชาติ PISA ๒๐๑๒. (หน้า ๑-๑๒๖). กรงุ เทพฯ:
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน.
สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๕๘). คู่มือการเรยี นการสอน การอ่าน คดิ วเิ คราะห์
ตามแนวทางประเมินประเมนิ ผลการนกั เรียนนานาชาติ (PISA).
กรุงเทพฯ: สานกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน.
๓๗
สุวฒั น์ ววิ ฒั นานนท์. (๒๕๕๔). ทกั ษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น. พิมพ์ครง้ั ท่ี ๓. นนทบุรี:
ซี.ซ.ี นอลลิดจ์ลิงคส.์
สุวิทย์ มูลคา. (๒๕๕๑). กลยุทธ์การสอนคิดวเิ คราะห์. กรงุ เทพมหานคร: ภาพพมิ พ์.
. (๒๕๕๓). ครบเครอ่ื งเร่ืองการคิด. พมิ พ์ครั้งที่ ๑๑. กรงุ เทพฯ : ห้างหุน้ สว่ นจากดั ภาพพิมพ์.
สุวทิ ย์ มูลคา และอรทัย มูลคา. (๒๕๕๓). ๒๑ วิธจี ดั การเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นากระบวนการคิด.
พิมพค์ รั้งท่ี ๕. กรุงเทพมหานคร: หา้ งหุ้นสว่ นจากัด ภาพพิมพ์.
เอกรินทร์ อัชชะกุลวิสทุ ธ์.ิ (๒๕๕๗). “การประเมินดา้ นการแก้ปญั หาแบบร่วมมอื ของ PISA
๒๐๑๕”, นิตยาสาร สสวท. ๔๓(๑๙๑),๓๗-๔๑.
http://www.un-nashop.com/product/๑๖๖๙๔๒๘/fuji-snail-cream,สืบคน้ เมอื่
วันท่ี ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘).
http://www.greentinathailand.com, สบื คน้ เมือ่ วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘)
๓๘
ภำคผนวก
๓๙
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ขอ้ คำตอบ
๑. ก
๒. ค
๓. ง
๔. ข
๕. ก
๖. ข
๗. ข
๘. ก
๙. ค
๑๐. ง
๔๐
กำรจำแนกกลยุทธก์ ำรอำ่ นแนว PISA
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
กลยุทธ์
ข้อท่ี กำรเขำ้ ถงึ และคน้ คืนสำระ กำรบูรณำกำรและตคี วำม กำรสะท้อนและ
ประเมนิ
๑X
๒X
๓X
๔X
๕X
๖X
๗X
๘X
๙X
๑๐ X
๔๑
เฉลยแบบฝึกทกั ษะท่ี ๑
เร่ือง “เซร่ัมหอยทำก”
คำส่ัง จงทาเคร่ืองหมายกากบาท ( × ) ทับอักษรหนา้ ตวั เลือกทเี่ ปน็ คาตอบท่ีถูกต้องที่สุด
(๕ คะแนน)
คำถำมท่ี ๑ ข้อใดในโฆษณาน้สี ามารถโน้มน้าวใจให้ผู้อืน่ กระทาตามคือส่ิงใด
ก. เซรมั่ หอยทากแกร้ อยแผลเป็นและรว้ิ รอยก่อนวัย
ข. เซร่มั หอยทากขาวภายใน ๗ วนั หน้าจะขาวใส
ค. เซร่ัมหอยทากภายใน ๓ วนั หน้าจะเด้งและมีออร่า
ง. เซรมั่ หอยทากทาแล้วผิวหนังจะเห่ียวย่น
กลยุทธก์ ำรอ่ำน : การเข้าถึงและคน้ คืนสาระ
รปู แบบกำรตอบ : แบบเลอื กตอบ
คำถำมที่ ๒ “เซรัม่ หอยทาก สามารถรักษาอาการผิวหนังเหี่ยวย่น ฝา้ รอยแผลเป็น
จากสวิ และร้ิวรอยกอ่ นวัย” จากข้อความน้ี เปน็ จริงไดห้ รือไม่
ก. เปน็ จริง เพราะในเซรม่ั หอยทากมสี ารปรอท
ข. เป็นจรงิ เพราะผลิตภณั ฑ์น้ีมีอย.
ค. ไมเ่ ป็นจรงิ เพราะโฆษณานี้กล่าวเกนิ จริง
ง. ไม่เปน็ จริงเพราะในเซร่ัมหอยทากผลติ เมอื กหอยทากมคี ณุ สมบัติไวซ้ ่อมแซมสว่ นที่สกึ หรอ
กลยทุ ธก์ ำรอำ่ น : การอา่ นการสะทอ้ นและประเมนิ
รูปแบบกำรตอบ : แบบเลือกตอบ
๔๒
คำถำมที่ ๓ ใจความสาคัญของโฆษณาน้ีคอื
ก. เซรัม่ หอยทากผลติ ภณั ฑ์นาเขา้ จากเกาหลี
ข. เซรม่ั หอยทากทาแลว้ ผวิ จะสวยใสกวา่ เศรษฐีนี
ค. เซรั่มหอยทากใชไ้ ด้ทุกครงั้ ตามทต่ี ้องการ
ง. เซรมั่ หอยทากแกร้ อยแผลเปน็ และรวิ้ รอยทาให้ดูอ่อนกว่าวยั
กลยทุ ธ์กำรอำ่ น : การบรู ณาการและตีความ
รูปแบบกำรตอบ : แบบเลือกตอบ
คำถำมท่ี ๔ ข้อใดแสดงลักษณะเดน่ ของโฆษณาน้ี
ก. ใช้ถ้อยคาโฆษณาเกินจริง
ข. ใชถ้ อ้ ยคาทาใหเ้ กดิ ภาพพจน์
ค. ใชถ้ ้อยคาแสดงจดุ เด่นของสนิ ค้า
ง. ใชถ้ อ้ ยคาทาใหเ้ กิดจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
กลยุทธ์กำรอ่ำน : การเขา้ ถงึ และค้นคืนสาระ
รปู แบบกำรตอบ : แบบเลือกตอบ
คำถำมที่ ๕ เซร่มั หอยทากสารสกัดจากเมอื กหอยทาก นาเข้าจากเกาหลี
ข้อความในโฆษณานี้โนม้ น้าวใจผู้อ่านด้วยวิธกี ารใด
ก. ใชถ้ อ้ ยคาเรา้ อารมณ์ความรสู้ ึก
ข. ใช้ถอ้ ยคาชีใ้ หเ้ ห็นความดีของสินคา้
ค. ใช้ถอ้ ยคาทาใหเ้ กิดความรู้สกึ และอารมณร์ ่วมกัน
ง. ใช้ถอ้ ยคาทาให้เกิดความหรรษาแก่ผรู้ ับสาร
กลยทุ ธ์กำรอ่ำน : การบูรณาการและตคี วาม
รูปแบบกำรตอบ : แบบเลือกตอบ
๔๓
คำถำมท่ี ๖ (๕ คะแนน)
จากถ้อยคาข้างตน้ ข้อความต่อไปน้ี เปน็ ควำมจรงิ หรือ ไม่เปน็ ควำมจรงิ
ขอ้ ความ เปน็ ความจรงิ จงเขยี นเคร่ืองหมายกากบาท ( × ) ในชอ่ ง “ใช่”
ขอ้ ความ ไมเ่ ป็นความจริง จงเขียนเครื่องหมายกากบาท ( × ) ในช่อง “ไมใ่ ช่”
กลยุทธก์ ำรอำ่ น ขอ้ ควำม ใช่ ไม่ใช่
การเขา้ ถึงและคน้ คนื สาระ ๑. เซรัม่ หอยทากนาเข้าจากประเทศเกาหลี ×
การสะท้อนและประเมิน ๒. เมือกหอยทากมีคุณสมบตั ิพเิ ศษไว้ใช้ซ่อมแซม ×
ตวั เองได้รวดเรว็ และมากกว่า สิง่ ทม่ี ชี ีวติ อืน่ ๆ
การบรู ณาการและตีความ ๓. การคน้ พบสารสกัดจากเมือกหอยทากน้ี นับเปน็ ×
ของขวญั จากธรรมชาตทิ ่ีแสนอศั จรรย์
การสะท้อนและประเมนิ ๔. ประเทศชิลเี ป็นประเทศทเ่ี ลี้ยงหอยทากใหญ่กวา่ ×
ประเทศเกาหลแี ละเป็นอนั ดับหนง่ึ ของโลก
การเข้าถึงและคน้ คืนสาระ ๕. เมอื กของหอยทากสามารถนาไปสกัดเป็นยารักษา ×
โรคมะเร็งได้
การบรู ณาการและตีความ ๖. เซร่ัมหอยทากใชไ้ ดบ้ ่อยเท่าทีต่ ้องการ ใช้ร่วมกบั ×
ครมี อน่ื ได้ผลดี
การบูรณาการและตีความ ๗. “เซรมั่ หอยทากรักษาอาการผวิ หนังเหย่ี วย่น ฝ้า
รอยแผลเป็นจากสิว”จนเป็นทแ่ี พร่หลายในประเทศ ×
เกาหลี โดยไม่ต้องศัลยกรรม
การเขา้ ถงึ และค้นคนื สาระ ๘. สอ่ื โฆษณานี้เปน็ เร่อื งของสุขภาพและการรักษา ×
สขุ ภาพ
การเขา้ ถึงและคน้ คนื สาระ ๙. เซร่มั หอยทากไม่มี อย.รบั รอง ×
การเข้าถงึ และค้นคืนสาระ ๑๐. โฆษณานใ้ี ชภ้ าษาโฆษณาโนม้ น้าวใจ ×
แตข่ าดความไม่นา่ เช่อื ถือเกดิ ขนึ้ ได้
กลยุทธ์กำรอำ่ น : การเข้าถงึ และค้นคนื สาระ
การบูรณาการและตคี วาม
การสะท้อนและประเมิน
รูปแบบกำรตอบ : แบบเชิงซอ้ น
๔๔
คำถำมท่ี ๗ (๓ คะแนน)
ใหน้ กั เรียนเขยี นคาตอบลงในตารางใหส้ ัมพนั ธ์กับข้อความทก่ี าหนดให้
ท่ี ข้อควำม คำตอบ
๑. โฆษณาน้ชี อ่ื ว่าอะไร ตอบ เซรมั่ หอยทาก ฟูจิออนเซน
๒. จากการคน้ พบว่าเมือกหอยทากสามารถบารุงผิว ตอบ ประเทศชิลี
ให้น่มุ นวลและปราศจากรว้ิ รอยน้นั พบทปี่ ระเทศใด
๓. เซรม่ั หอยทากฟูจอิ อนเซนนาเขา้ จากประเทศใด ตอบ ประเทศเกาหลี
กลยุทธก์ ำรอ่ำน : การเข้าถงึ และคน้ คืนสาระ
รูปแบบกำรตอบ : แบบปดิ
๔๕
คำถำมท่ี ๘ ๒ คะแนน
เซรั่มหอยทำกนวตั กรรมใหม่สำหรบั ผวิ หน้ำสวยใส
จากคาถามต่อไปน้ีให้นกั เรยี นบอกเหตผุ ล โดยใช้ข้อมลู จากเน้อื เรื่องสนับสนนุ
๑. “เซร่มั หอยทาก” มีเสียงวรรณยกุ ต์ก่เี สียงมเี สียงใดบา้ ง
แนวการตอบ ๓ เสยี ง คือ
๑. เสียงสามัญ
๒. เสยี งโท
๓. เสียงตรี
๒. “เซรมั่ หอยทาก รักษาอาการผิวหนงั เหยี่ วยน่ ฝ้า รอยแผลเป็นจากสวิ ” ข้อความท่ีโฆษณา
นใี้ ชก้ ลวธิ ีการโน้มน้าวใจแบบใด
แนวการตอบ ความนา่ เช่อื ถือ
กลยุทธ์กำรอ่ำน : การบูรณาการและตีความ
รปู แบบกำรตอบ : แบบปดิ
๔๖
คำถำมที่ ๙ ๓ คะแนน
“เซรั่มหอยทำกฟจู ิออนเซน หยดเดยี วกส็ วยได้โดยไมต่ ้องศัยกรรม”
นกั เรียนคิดอย่างไรกับคาพดู ข้างตน้ ทาไมจงึ คดิ เช่นนัน้ ให้เหตผุ ลประกอบคาอธิบาย
๑. ใหน้ ักเรยี นเลอื กทาเคร่ืองหมาย วงกลมล้อมรอบ ข้อความขา้ งล่างน้ีเพียง ๑ ข้อความ
ควำมคดิ เห็นคลอ้ ยตำม ควำมคดิ เห็นโต้แย้ง ควำมคดิ เหน็ คล้อยตำมและโต้แย้ง
๒. ใหน้ ักเรยี นเขียนอธบิ ายเหตผุ ล จานวน ๒ ข้อ ทีส่ อดคล้องความคดิ การเลือกในข้อ ๑
ควำมคดิ เหน็ คล้อยตำม ควำมคิดเหน็ โตแ้ ยง้
๑. ๑.
-ตามดลุ ยพินิจของครู- -ตามดุลยพินิจของครู-
๒. ๒.
-ตามดุลยพินิจของครู- -ตามดลุ ยพินิจของครู-
กลยทุ ธก์ ำรอำ่ น : การสะทอ้ นและประเมิน
รูปแบบกำรตอบ : แบบเปดิ
๔๗
กำรจำแนกกลยุทธ์กำรอำ่ นแนว PISA
แบบฝึกทักษะท่ี ๑ เซร่ัมหอยทำก
กลยทุ ธ์
คำถำมที่ ขอ้ ท่ี กำรเขำ้ ถงึ กำรบูรณำกำร กำรสะท้อน รปู แบบกำรตอบ
และค้นคืนสำระ และตีควำม และประเมิน
๑×
๒×
๓ × แบบเลือกตอบ
๔×
๕×
๑× แบบเชิงซ้อน
๒×
๓×
๔×
๖ ๕ ×
๖
×
๗×
๘×
๙×
๑๐ ×
๗ ๑ × แบบปดิ
๒ ×
๘ ๑ × แบบปดิ
๒ ×
๙ ๑ × แบบเปดิ
๒ ×