The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานวรรณกรรมเรื่อง มณีพิชัย นางสาวธนพร มูลเมือง รหัส 6181163038

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongnanm_2012, 2021-03-16 12:00:39

รายงานวรรณกรรมเรื่อง มณีพิชัย นางสาวธนพร มูลเมือง รหัส 6181163038

รายงานวรรณกรรมเรื่อง มณีพิชัย นางสาวธนพร มูลเมือง รหัส 6181163038

วรรณคดีสำหรับงานนาฏยศิลป์ เร่อื ง มณีพิชยั

นางสาวธนพร มลู เมือง
รหัสประจำตวั นักศึกษา 6181163038

รายงานน้เี ปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาหลกั สูตรครุศาสตร์บณั ฑิต
สาขาวชิ านาฏยศลิ ปศ์ ึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บ้านสมเด็จเจา้ พระยา

ปกี ารศกึ ษา 2563

คำนำ

รายงานฉบับน้เี ป็นส่วนหนึ่งของวิชา วรรณกรรมสำหรบั นาฏยศิลปศ์ ึกษา รหสั 2151301 โดยจดั ทำข้ึนเพ่อื
ศึกษาวรรณกรรมสำหรบั นาฏยศิลป์ รายงานฉบบั นีไ้ ดร้ วบรวมเนอ้ื หาเกี่ยวกับวรรณกรรมสำหรับนาฏยศลิ ป์
โดยแบง่ เน้ือหาหลักออกเปน็ 6 อย่าง ประกอบดว้ ย ประวตั ิความเปน็ มา ประวัตผิ ู้แต่ง เนอ้ื เรอ่ื งยอ่ บท
ประพันธ์ ตวั ละคร และวเิ คราะหต์ ัวละคร

ผ้จู ดั ทำไดเ้ ลือกวรรณกรรมเรอ่ื ง มณีพชิ ัย ในการทำรายงานเนื่องจากเป็นเรื่องทน่ี ่าสนใจ รวมถงึ เปน็ เรื่องท่ี
เกยี่ วกบั การเรียนและสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ดว้ ยทั้งนต้ี อ้ งขอขอบพระคณุ อาจารย์รณกฤต เพชร
เกลีย้ ง ผใู้ หค้ วามรแู้ ละแนวทางการศกึ ษา ผจู้ ดั ทำหวงั ว่ารายงานเล่มน้ีจะใหค้ วามร้แู ละเปน็ ประโยชน์แกผ่ ู้ท่ี
สนใจจะศกึ ษาทุกท่าน

ผูจ้ ดั ทำ
ธนพร มูลเมอื ง

สารบญั หนา้

คำนำ ข
สารบญั 1
ประวัตคิ วามเปน็ มาของวรรณคดีเรื่อง มณีพิชยั 4
ประวัติผู้แตง่ 8
เน้อื เร่อื งยอ่ 9
บทประพนั ธ์ 42
ตวั ละคร 43
วเิ คราะหต์ วั ละคร
44
เอกสารอา้ งอิง 45
ภาคผนวก 46
ประวัตนิ กั ศกึ ษา

1

1.ความเป็นมาของวรรณคดีเรื่อง มณีพชิ ยั

วรรณคดเี ร่ือง มณีพชิ ัยแบง่ ออกเปน็ 3 ตอน ไดแ้ ก่

1.ตอนตน้ กอ่ นตอนท่ีทรงพระราชนิพนธเ์ ปน็ บทละคร

2. ตอนพราหมณย์ อพระกลนิ่ ขอมณพี ิชัยไปเป็นทาส

3.ตอนปลายต่อเรอื่ งตอนทรงพระราชนพิ นธ์เป็นบทละคร

1.1ตอนต้นกอ่ นตอนทที่ รงพระราชนพิ นธ์เป็นบทละครมีความเป็นมาดังนี้
เนือ้ เร่ืองกลา่ วถึงท้าววรกรรณและนางบุษบงครองเมอื งปาตลี มีราชธดิ านามว่า นางเกษณี ท้งั สองปรึกษากนั
วา่ เห็นควรใหน้ างเกษณมี คี ู่ครองจงึ ใหเ้ สนาไปป่าวร้องให้บรรดากษัตริย์ร้อยเอด็ นครมาประชุมกนั เพื่อใหน้ าง
เลอื กคู่ แตน่ างเกษณีไมย่ อมเลอื กกษตั ริยอ์ งค์ใด ท้าววรกรรณจงึ ใหป้ ระกาศสัง่ พวกชาวเมอื งทงั้ ผ้ดู ีและคน
เขญ็ ใจมาชุมนุมใหน้ างเลือกอกี ครงั้ ครง้ั นพ้ี ระอินทรจ์ ำแลงเป็นชายเสียสติมาร่วมงานดว้ ย พระอนิ ทร์แปลง
ดลใจให้นางเกษณเี หน็ รูปทแี่ ทจ้ ริง นางพอใจท้งิ พวงมาลยั ให้ ทา้ ววรกรรณกริ้วมากจึงขบั ไล่คนทัง้ สองออกจาก
พระนคร พระอินทร์แแปลงแกลง้ หลอกลอ้ พอ่ ตาเลน่ ท้าววรกรรณสัง่ ให้เสนาเขา้ จับตัว แต่ก็ไมส่ ามารถทำ
อะไรไดเ้ มอ่ื สมใจแลว้ พระอินทรแ์ ปลงกก็ ลับเพศเปน็ เทพยดาพานางเหาะไปครองคใู่ นเมอื งสวรรคช์ น้ั ดาวดงึ ส์
ท้าววรกรรณกับมเหสแี ละไพรบ่ ้านพลเมืองเหน็ ดงั นั้นกเ็ กิดความปีติยินดีตอ่ มานางเกษณีทรงครรภ์ ดว้ ยเหตทุ ี่
นางเป็นมนุษยไ์ ม่สามารถให้กำเนดิ บตุ รบนสวรรค์ได้ พระอินทร์จงึ นำนางกลับมายังโลกมนุษย์ เนรมิตพลบั พลา
ข้ึนในปา่ ใหเ้ หล่าเทพบุตรและเทพธิดาซ่ึงสิงสถิตตามรกุ ขพมิ านช่วยพิทักษ์รกั ษา จนกระทั่งนางประสูติพระธิดา
มรี ปู โฉมงดงามและมีกล่ินกายหอม พระอนิ ทรจ์ งึ ใหน้ ามวา่ ยอพระกล่นิ และกอ่ นทพี่ ระอนิ ทรก์ บั นางเกษณจี ะ
กลับไปยงั สวรรคพ์ ระอนิ ทรน์ ฤมติ อาภรณ์เครื่องทิพยใ์ หน้ างยอพระกลน่ิ และให้อยใู่ นปลอ้ งไม้ไผ่ลำใหญล่ ำหนึง่
โดยต้งั สตั ย์อธิษฐานขอใหบ้ ารมขี องตนช่วยปกป้องลูก พร้อมท้งั ประกาศติ ไวว้ ่าใครทม่ี ิใช่ค่คู รองของนางขออย่า
ใหต้ ัดไม้ไผล่ ำนนั้ ได้ กลา่ วถงึ มณพี ิชัย โอรสทา้ วพิชัยนุราชกับนางจนั ทรแหง่ กรุงศรอี ยธุ ยา วันหน่งึ มณีพชิ ยั
เสด็จประพาสป่า และไดต้ ง้ั พลับพลาท่ปี ระทับใกลก้ ับกอไผท่ ่นี างยอพระกลนิ่ ซอ่ นกายอยู่ คืนนนั้ มณพี ชิ ยั หลบั
ฝนั ว่ามดี อกฟา้ ตกลงมายังแท่นบรรทม พระองคใ์ ช้พระหัตถข์ วาควา้ มาเชยชม กลน่ิ ดอกไม้หอมอบอวลไป
ทวั่ เมื่อต่ืนบรรทมก็ไมพ่ บดอกไม้แตย่ งั มกี ลนิ่ หอมไม่สรา่ ง และลมทพี่ ัดมาทางทิศใต้ก็พากล่ินหอมนน้ั มา
ดว้ ย พระองค์จึงออกตามหา พบกอไผแ่ ละเหน็ ไม้ไผล่ ำหน่ึงสงู ใหญ่เปน็ ที่อศั จรรย์จงึ สง่ั ใหท้ หารชว่ ยกันตัด แต่
ไมม่ ีผูใ้ ดตดั ได้ มณีพชิ ัยจึงใช้พระแสงฟนั ลำไมไ้ ผข่ าดสะบ้ัน ไดพ้ บนางยอพระกลิน่ จึงสอบถามความเปน็ มาของ
นาง เมอื่ ได้นางเปน็ ค่แู ล้วมณพี ิชัยก็พานางกลบั ยงั บา้ นเมืองฝ่ายพระเจ้ากรุงปักกิ่ง มพี ระธิดาท้ังหมดเจ็ด
องค์ พระธดิ าองคส์ ดุ ท้องยังไมม่ ีคู่ พระองค์จงึ ใหร้ าชทตู ถอื สาส์นมาถึงพระพิชยั นุราชใหม้ ณพี ชิ ยั ไปอภเิ ษกกับ
พระธดิ า ถ้าไมเ่ ชน่ นั้นจะเสียไมตรีที่มตี ่อกัน พระพิชยั นุราชทราบความในสาส์นก็ยนิ ดี แตจ่ ะยกพลไปตอนนี้
ยงั ไมไ่ ด้เพราะเปน็ ฤดูฝนจึงขอผดั ไปเป็นเดอื นหา้ หนา้ แล้งมณีพิชัยแสร้งทำเปน็ ปว่ ยไข้ไม่ยอมเข้าเฝ้าพระบิดา
พระพชิ ัยนุราชหว่ งใยโอรสจงึ เสด็จไปยังหอ้ งบรรทมได้พบนางยอพระกลนิ่ และทราบความจริงท้งั หมด ส่วนนาง
จันทรพระมารดาไมพ่ อใจดว้ ยหมายจะใหม้ ณพี ชิ ยั เปน็ ราชบุตรเขยของพระเจ้ากรงุ จีน จึงทำอุบายดว้ ยการฆา่
แมวแลว้ เอาเลอื ดทารมิ ฝีปากนางยอพระกล่ิน เอาหางแมวเสยี บมวยผมขณะนางหลับสนิท และปา่ วรอ้ งใสร่ ้าย
ว่านางยอพระกล่นิ เป็นกระสือกินแมว ใหจ้ บั นางใส่หีบใหญ่แล้วให้นางกำนลั นำไปท้งิ ในปา่ แต่พระอนิ ทร์มา

2

ช่วยโดยแปลงร่างนางเปน็ พราหมณเ์ พ่อื ใหน้ างไดพ้ ิสจู น์คำครหาและแกแ้ ค้นนางจนั ทรตอ่ ไป
กรมหลวงภูวเนตรนรนิ ทรฤทธ์ิ./[online].
/Avarble: https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=179

1.2 ตอนพราหมณ์ยอพระกล่ินขอมณพี ิชยั ไปเปน็ ทาสบทละครนอกเรือ่ ง มณีพชิ ัย ท่ีรชั กาลท่ี 2 พระราชนพิ นธ์
น้มี ีมาตั้งแต่ครงั้ กรุงศรอี ยุธยาแล้ว เปน็ ทร่ี จู้ กั กันในช่อื เรือ่ งว่า "ยอพระกลน่ิ " เข้าใจกนั วา่ เป็นบทพระราชนิพนธ์
ในลน้ เกล้า รัชกาลที่ 2 โดยทรงพระราชนพิ นธเ์ ป็นกลอนสำหรับใชเ้ ป็นบทละครนอก ซ่งึ ความจริงร.2 แตง่
เฉพาะตอนที่ยอพระกลิ่น ปลอมตวั เปน็ พราหมณม์ าขอพระมณพี ิชัยไปเปน็ ทาส สว่ นเนื้อเรอื่ งตามต้นเรื่องและ
บททา้ ยน้นั จากหนังสือ "รวมพระราชนพิ นธ์บทละครนอก 6 เร่ือง ไม่ไดร้ ะบวุ ่าใครเป็นผแู้ ต่ง ซึง่ ทาง
สถานโี ทรทัศนส์ กี องทพั บกช่อง 7 โดย บรษิ ทั สามเศยี ร จำกัด และ บรษิ ทั ดาราวดิ โี อ จำกัดเคยนำมาสรา้ งเปน็
ละครพื้นบา้ นแนวจักรๆวงศๆ์ ในชอื่ ยอพระกล่ิน บทพระราชนพิ นธ์ในล้นเกลา้ รัชกาลที่ ๒ โดยทรงพระราช
นิพนธ์เป็นกลอนสำหรบั ใช้เปน็ บทละครนอก ทรงแตง่ เฉพาะตอนท่ียอพระกลิน่ ปลอมตัวเป็นพราหมณ์กลา่ วถึง
นางจนั ทรพระมารดาของมณีพชิ ยั ไปสรงน้ำยงั สระบัว นางเห็นดอกบัวลอยนำ้ กเ็ กบ็ แซมผม งูในดอกบวั กดั
นางส้ินชีวติ พระพชิ ัยนุราชให้เสนาไปปา่ วประกาศหาหมอมารักษา พราหมณ์ยอพระกลิน่ รับอาสาแตม่ เี งื่อนไข
ว่าต้องจัดวอทองออกมารบั มณพี ิชยั เห็นพราหมณม์ ีรปู รา่ งหน้าตาคล้ายนางยอพระกลิน่ กเ็ กดิ ความสงสยั จงึ
พยายามเข้าใกล้เพือ่ พสิ จู น์ความจรงิ แต่ไมเ่ ป็นผลพราหมณร์ กั ษานางจันทรฟนื้ แล้วจงึ ข่ถู ามเรอ่ื งนางยอพระ
กล่นิ นางกลวั จงึ ยอมบอกความจรงิ ว่าตนเป็นผกู้ ลั่นแกล้งพระพชิ ัยนรุ าชแอบฟังอยรู่ คู้ วามจรงิ ทง้ั หมด พระองค์
โกรธมากจึงเข้าไล่ทบุ ตีนางจันทรพราหมณข์ อส่งิ ตอบแทนคา่ รกั ษาโดยนำมณพี ิชัยไปเปน็ ทาสที่ศาลาในปา่ แลว้
แกล้งลองใจว่าตนจะออกไปหาเครอ่ื งยาในป่าและจะใหน้ ้องสาวมาอยเู่ ป็นเพอื่ นแลว้ พราหมณ์กแ็ ปลงตนเป็น
นอ้ งสาวพราหมณม์ ายว่ั ยวนมณพี ชิ ยั แตม่ ณีพิชัยไมแ่ สดงอาการยนิ ดี ทั้ง ๆ ทีส่ งสยั ว่าเหตุใดน้องสาวพราหมณ์
จึงเหมอื นกับนางยอพระกลนิ่ เพียงแต่กายไมม่ ีกล่นิ หอมเทา่ น้นั ครนั้ ตกเย็นนอ้ งสาวพราหมณ์กลับออกไป
พราหมณก์ ลับเข้ามาในศาลาและตอ่ ว่ามณีพิชยั ว่าเก้ียวพาราสนี อ้ งสาวตน มณีพชิ ยั ปฏเิ สธ พราหมณย์ อมเชอื่
พุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระ. บทละครนอกเรื่องมณีพชิ ยั พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 และกรม
หลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์. พระนคร:กรมศิลปากร./2498./[online].
/Avarble: https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=178

1.3 ตอนปลายต่อเรอ่ื งตอนทรงพระราชนพิ นธเ์ ป็นบทละครมีความเปน็ มาดงั น้ีเจา้ พราหมณย์ อพระกล่ิน
ได้พระมณีพไิ ชยไปไว้ทศ่ี าลาอาศรมหลายวนั เหน็ เธอมีความซ่อื ตรงก็กลบั รกั แต่ไม่กล้าจะบอกใหร้ ูว้ า่ ตัวเป็น
นางยอพระกล่ิน ดว้ ยเกรงพระอนิ ทรจะโกรธ จะเอาพระมณีพิไชยไวใ้ ชส้ อยตอ่ ไปกส็ งสาร จงึ อบุ ายบอกว่าได้ใช้
สอยพอแกค่ วามประสงคแ์ ลว้ จะโปรดปลอ่ ยให้กลบั คืนไปอยใู่ นบา้ นเมอื งกับพระบดิ ามารดาอยา่ งเดิม ฝา่ ยพระ
มณพี ิไชยกลบั อิดเออื้ นไม่อยากกลบั ดว้ ยรกั ใคร่ติดพันเจา้ พราหมณ์ย่ิงนกั แต่เจ้าพราหมณม์ ิยอมให้อยูก่ ็ตอ้ งจำ
ใจกลับมา ขณะเมอื่ พระมณีพไิ ชยกลบั มาถึงเมอื งนนั้ กำลังทูตจนี มาตอ่ วา่ ท้าวพิไชยนุราช ว่าพระเจ้ากรุงจนี คอย
อยชู่ า้ นานไมเ่ ห็นพระมณพี ไิ ชยไปแตง่ งานกับธดิ าตามท่ีทา้ วเธอไดส้ ญั ญาไว้ จงึ ให้ทูตมาตามตัว ถ้าไม่ได้พระ
มณีพิไชยไปก็จะใหก้ องทพั ยกมาตีเมืองอยุธยา ใหส้ มกบั ทหี่ ลอกลวงใหพ้ ระเจา้ กรุงจีนไดค้ วามอปั ยศอดสู
ทา้ วพไิ ชยนุราชไม่รทู้ ่จี ะผอ่ นผนั ฉนั ใด พอพระมณีพิไชยกลบั ไปถงึ ก็ต้องให้ไปเมืองจีนกับราชทูต ฝา่ ยเจ้า
พราหมณย์ อพระกล่นิ ตงั้ แตใ่ หพ้ ระมณพี ไิ ชยกลบั ไปบา้ นเมอื งแลว้ ก็ไมม่ คี วามสบาย ให้แต่คิดถงึ พระมณีพไิ ชย
เป็นกำลัง จึงตามเข้าไปในเมอื ง คร้ันรวู้ า่ พระมณพี ิไชยตอ้ งถูกสง่ ไปแต่งงานที่เมอื งจีนกต็ กใจ รีบตามพระมณพี ิ

3

ไชยไปทนั ทก่ี ลางทาง เจา้ พราหมณ์ก็เขา้ อาสาเป็นพรรคพวกไปเมืองจนี ด้วย ครัน้ พระมณพี ไิ ชยไปถงึ เมืองจีน
ทูตไปทลู ความให้พระเจา้ กรุงจนี ทราบว่า เป็นเหตุเพราะพระมณพี ิไชยมีเมียเสียก่อนจึงไม่ไปแตง่ งาน พระเจ้า
กรงุ จีนก็ขดั เคอื งคดิ อุบายหาขอ้ ผดิ จะฆ่าพระมณพี ิไชยเสยี จึงแกล้งให้หาฤกษแตง่ งานแลว้ กำหนดให้พระมณพี ิ
ไชยทำขนั หมาก ๑๐๐๐ ใหแ้ ลว้ ทันงานแต่ในเพลาเดียว ถา้ ทำไม่สำเร็จจะเอาโทษ พระมณพี ไิ ชยมคี วามทุกข์
ร้อนปฤกษาเจา้ พราหมณ์ ๆ จงึ บอกวา่ พระเจา้ กรุงจนี คิดร้ายไมส่ ุจรติ เสยี แล้ว ถา้ ขืนอยูใ่ นเมืองจีนต่อไปกค็ งไม่
พน้ อนั ตราย พระมณพี ิไชยเหน็ ชอบด้วย เจา้ พราหมณจ์ ึงชวนพระมณพี ิไชยหนีออกจากเมอื งจนี แตใ่ นเพลา
กลางคืน พากนั ดั้นดน้ ไปในปา่ จนเหน็ วา่ พน้ แดนจนี แล้ว ตา่ งคนเหน็จเหนื่อยก็นอนหลับไปทั้ง ๒ คน ตำบลที่
พระมณพี ไิ ชยกับเจ้าพราหมณ์ไปนอนหลบั อยนู่ ้นั เปน็ แดนของยกั ษพ์ วกหนง่ึ ซง่ึ ชอบกินมนุษย์ วนั นนั้ นนทการ
เสนายักษ์เทยี่ วมา เห็นพระมณีพไิ ชยกับเจา้ พราหมณ์นอนหลบั อยกู่ ย็ นิ ดี หมายว่าจะได้กินเป็นภักษาหาร จงึ
ร่ายมนตส์ กดไวท้ งั้ ๒ คน แลว้ เข้าไปพจิ ารณาดูเหน็ คนหนง่ึ เป็นพราหมณน์ ึกว่าคงชำนาญเวทมนตต์ ามวสิ ยั
พราหมณจ์ ะทำรา้ ยเหน็ จะไม่สมประสงค์ แตพ่ ระมณีพไิ ชยนัน้ ดูอวบอ้วนเนอ้ื ลมุนนา่ กนิ นนทการจงึ คดิ ว่า
มนุษยเ์ ชน่ น้ีหายากนาน ๆ จะพบสกั คนหน่ึง จะกินเสยี เองหาควรไม่ เอาไปถวายใหเ้ จา้ นายเสวยจะดีกวา่ จึง
สกดซํา้ แล้วเขา้ อมุ้ เอาพระมณพี ไิ ชยพาเหาะไปยังเมืองยักษ์ ขณะน้นั พระยายักษ์ผู้เป็นเจา้ เมอื งพึง่ ตาย เหลือแต่
นางวาสนั ผู้เป็นมเหษกี ับธดิ าช่อื วา่ นางผะกา นนทการพาพระมณีพไิ ชยไปถวายนางวาสัน ๆ คดิ วา่ ลูกสาวยังไม่
เคยกินเนื้อมนษุ ย์ จึงใหส้ ง่ ไปให้ลูกสาวกิน แตน่ างผะกาน้นั พอเห็นพระมณีพิไชยกเ็ กดิ กำหนัดยนิ ดีอยากจะใคร่
ไดไ้ วเ้ ปน็ ผวั จงึ มารยาส่งั ให้พาเขา้ ไปไว้ในตำหนกั วา่ จะกินให้สบาย แล้วขบั สาวใชใ้ หอ้ อกไปเสยี นางแกใ้ หพ้ ระ
มณีพิไชยฟ้ืนจากมนต์สกดแลว้ เกล้ยี กลอ่ มเกยี้ วพานใหย้ อมเป็นสามโี ดยดี ถ้าไม่ยอมจะกินเสีย พระมณพี ิไชย
กลัวยักษ์ก็ตอ้ งยอมเปน็ สามอี ยกู่ บั นางผะกาตอ่ มา ฝา่ ยเจ้าพราหมณย์ อพระกลน่ิ นอนอยูในปา่ คร้ันมนต์สกด
ของยกั ษ์ส้ินฤทธิ์ ฟ้นื ขึน้ ไม่เห็นพระมณพี ิไชยกต็ กใจ พจิ ารณาดเู ห็นรอยตนี ยกั ษเ์ กลื่อนไปในท่นี ้ันจึงเดินตาม
รอยไป ครั้นเหน็ รอยหายไปก็เขา้ ใจว่ายกั ษค์ งอุม้ พระมณีพไิ ชยเหาะไป เจ้าพราหมณ์จงึ ตามไปทางโฉมนา่ ทีย่ กั ษ์
พาไป ไปพบยักษ์บรวิ ารพวกหนง่ึ จะจับเจ้าพราหมณก์ นิ เกดิ รบกนั เจา้ พราหมณ์จบั ยกั ษ์ไดไ้ ต่ถามกไ็ ด้ความว่า
นนทการพาพระมณพี ไิ ชยไปเมืองยกั ษ์ เจา้ พราหมณ์ก็รีบตามไป คร้ันไปถงึ เมืองเพลาคา่ํ จงึ สกดผ้คู นให้หลับใหล
แลว้ ขนึ้ ไปคน้ บนปราสาท ไปเห็นพระมณีพไิ ชยกำลังนอนกอดอยูก่ ับนางยักษ์ เจ้าพราหมณก์ โ็ กรธ จึงปลุกพระ
มณีพไิ ชยขนึ้ แลว้ ถามวา่ เหตใุ ดจงึ หนมี ามีเมยี ยักษ์ พระมณพี ิไชยเล่าความใหฟ้ ังตามจรงิ เจ้าพราหมณ์ก็ไมเ่ ช่ือ
ด้วยกำลงั หงึ ษ์เป็นอารมณ์ เจ้าพราหมณ์เผลอตวั ไม่รู้สึกวา่ ไดแ้ ปลงเปนชาย กว็ า่ กลา่ วตัดพอ้ พระมณพี ิไชยว่าแต่
เดิมได้สญั ญาวา่ จะเล้ียงดู คร้นั แม่แกลง้ ใสค่ วามวา่ เป็นผกี ระสอื กินแมว แต่จะไตถ่ ามให้เห็นเทจ็ จริงก็ไม่มี กลบั
ปลอ่ ยใหเ้ ขาเอาใสห่ ีบไปฝงั เสยี หากวา่ บญุ มีจงึ รอดมาได้ ส้อู ุส่าห์ตามมาแก้ไขใหพ้ น้ ทุกข์แลว้ ยังกลบั ท้ิงมามเี มีย
ใหมเ่ สียดงั นี้ เหน็ ใจพระมณพี ิไชยเสยี แลว้ ว่าไม่มีความสตั ย์ พระมณีพิไชยได้ฟังรวู้ า่ เจา้ พราหมณน์ น้ั คอื นางยอ
พระกลน่ิ เปน็ แนแ่ ทก้ ย็ นิ ดี ปลอบเล้าโลมเฝา้ วงิ วอนไปตา่ ง ๆ หวงั วา่ จะให้นางดีดว้ ยอย่างแต่ก่อน ฝ่ายเจ้า
พราหมณร์ สู้ ึกวา่ เสียทจี ะอำพรางไมไ่ ดต้ ่อไป แต่จะยอมดดี ว้ ยก็กลัวด้วยพระอนิ ทร์ จึงแกลง้ ทำโกรธขงึ้ หึงหวงไม่
เช่ือฟงั พระมณพี ไิ ชย เข้าใจวา่ นางตัดรอนไมย่ อมดดี ว้ ยกโ็ ทมนัศเสียใจจนสลบไป เจ้าพราหมณ์เห็นพระมณีพิ
ไชยสลบสำคญั ว่าตายก็ตกใจ รอ้ งไห้ราํ่ รกั จนสลบไปด้วย ขณะน้นั ร้อนถงึ อาศน์พระอนิ ทร์ จึงลงมาแกไ้ ขให้ฟื้น
ข้ึนท้ัง ๒ คน แลว้ พามาสง่ ยงั เมืองอยุธยา ทา้ วพิไชยนรุ าชก็อภิเศกพระมณีพิไชยกับนางยอพระกล่ินใหอ้ ยู่
ด้วยกนั ต่อไป

4

เร่อื งมณีพิไชยตอนปลายมบี ทละครแตง่ ไว้เปน ๒ ความ เร่ืองที่กล่าวผดิ กันแลหามที ่สี ดุ ไม่ เห็นได้ว่าเปน
ของแต่งตอ่ ตามความคิดของเจา้ ของละครทีเ่ ลน่ ในช้นั หลงั จะถอื เอาเปนแกน่ สารไมไ่ ด้ จงึ คดั ความมาแสดงใน
นทิ านแต่ที่เหน็ ว่าเร่ืองสมเหตุผลตน้ ปลาย ตอ้ งตัดเรื่องในบทละครความชนั้ หลงั ออกเสียหลายแหง่
(พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ,2545 หนา้ 383-385)
สรุปถงึ ความสำคัญของเร่อื งวา่ มคี วามสำคญั อย่างไรทศี่ กึ ษาเรื่องนแี้ ละกล่าวถึงประโยชน์หรอื ความสำคญั

วรรณกรรมเรือ่ งมณีพิชัยมีมาต้งั แตย่ คุ สมัยรัตนโกสนิ ทร์ , รชั กาลท่ี 2 แบง่ ออกเป็น3ตอนไดแ้ ก1่ . ตอนตน้
ก่อนตอนทีท่ รงพระราชนพิ นธเ์ ปน็ บทละคร 2. ตอนพราหมณ์ยอพระกล่นิ ขอมณพี ชิ ัยไปเปน็ ทาส 3. ตอนปลาย
ต่อเร่อื งตอนทรงพระราชนพิ นธเ์ ปน็ บทละคร ซึง่ รชั กาลที่ 2 เป็นผูแ้ ต่ง แตง่ เฉพาะตอนทย่ี อพระกล่ิน ปลอมตัว
เปน็ พราหมณ์มาขอพระมณีพชิ ัยไปเปน็ ทาส ไมไ่ ดแ้ ตง่ ทง้ั หมดของวรรณกรรมในเร่อื งมณีพิชัยส่วนเน้ือเรื่องตาม
ตน้ เร่อื งและบททา้ ยน้ัน จากหนงั สือ "รวมพระราชนพิ นธ์บทละครนอก ๖ เร่ือง" ไม่ได้ระบวุ ่าใครเป็นผู้แตง่
เรอ่ื งนใ้ี ห้ข้อคดิ ท่เี ป็นประโยชน์ในชวี ิตจริงคือ ปญั หาครอบครัวท่สี ะท้อนให้เห็นจากเรอ่ื งมณีพชิ ยั น้นั สาเหตุ
หลกั นา่ จะเกิดขนึ้ จากลกั ษณะนสิ ยั ของตัวละครในเรอ่ื ง ซ่ึงมที ้ังความรกั โลภ โกรธ หลง อย่ภู ายในจิตใจ และ
อีกสาเหตุหน่งึ คือ ตัวละครฝา่ ยชายทไ่ี ม่พถิ ีพิถันในการเลอื กค่คู รองนัน้ เป็นสาเหตุใหเ้ กดิ ปญั หาระหวา่ งฝ่าย
หญิงกบั เครือญาติของตน และความไมม่ น่ั ใจในตวั คนรกั ของพระมณพี ิชัย ทไ่ี มเ่ ชอื่ ใจคนรักของตน ทั้งหมดนี้
จึงเกดิ เป็นปญั หาครอบครวั แตกแยก เกิดการพลดั พรากและตอ้ งตดิ ตามหาตวั กันตลอดทง้ั เรอื่ ง

2.ประวตั ผิ ้แู ต่ง

พระราชประวัตขิ องพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัย

พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลยั
ที่มา : https://www.google.com/url?sa=i&url=https%3A%2F%2Fwww.silpa-mag.com%2Fthis-
day-in-
history%2Farticle_6753&psig=AOvVaw1q1UVRYhuihdTxteI1i0a0&ust=1608799618416000&sour
ce=images&cd=vfe&ved=0CAIQjRxqFwoTCPji07_b4-0CFQAAAAAdAAAAABBG

พระราชประวัติ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย ทรงเป็นพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยองค์ที่ 2 แห่ง

ราชวงศ์จกั รี ทรงประสตู เิ มอ่ื 24 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2310 ตรงกับวันพธุ ขึ้น 7 คํา่ เดอื น 3 ปีกุน มพี ระนามเดมิ

5

วา่ "ฉิม" พระองค์ทรงเปน็ พระบรมราชโอรสองค์ท่ี 4 ในพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชและ
กรมสมเด็จพระอมรนิ ทรามาตย์พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง ประสูติ ณ บ้านอัมพวา แขวงเมอื งสมทุ รสงคราม
ขณะน้ันพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช เปน็ หลวงยกกรับตั รเมอื งราชบุรี พระบดิ าได้ให้เขา้
ศึกษากับสมเดจ็ พระวนั รัต ( ทองอยู่ ) ณ วดั บางหว้าใหญ่ พระองคท์ รงมพี ระชายาเทา่ ที่ปรากฏ

1. กรมสมเด็จพระศรีสรุ เิ ยนทรามาตย์ พระอัครมเหสี

2. กรมสมเด็จพระศรสี รุ าลยั พระสนมเอก ขณะขนึ้ ครองราชยใ์ นปี พ.ศ. 2352 มีพระชนมายไุ ด้ 42 พรรษา

พระราชกรณยี กจิ ทีส่ ําคญั

พ.ศ. 2317 ขณะท่ีเพง่ิ มพี ระชนมายไุ ด้ 8 พรรษา ไดต้ ดิ ตามไปสงครามเชยี งใหม่ อยใู่ นเหตกุ ารณ์คร้งั ท่บี ดิ ามี
ราชการไปปราบปรามเมืองนางรอง นครจําปาศกั ดิ์ และบางแกว้ ราชบุรี จนถึงอายุ 11 พรรษา
พ.ศ. 2322 พระราชบิดาไปราชการสงครามกรงุ ศรีสัตนาคนหุต ก็ติดตามไป
พ.ศ. 2323 พระชนมายุ 13 พรรษา ไดเ้ ข้าเป็นศิษย์สมเดจ็ พระวนั รตั (ทองอยู่ )
พ.ศ. 2324 พระราชบดิ าได้เลือ่ นเปน็ สมเด็จเจ้าพระยามหากษตั รยิ ศ์ กึ ฯ ไปร่วมปราบปรามเขมรกบั พระบิด
พ.ศ. 2325 พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก ไดป้ ราบดาภเิ ษกแล้วไดท้ รงสถาปนาข้ึนเป็น "สมเดจ็ พระ
เจ้าลกู ยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสนุ ทร"
พ.ศ. 2329 พระชนมายุ 19 พรรษา ได้โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระบรมชนกนาถ ไปสงครามตาํ บลลาดหญา้ และทาง
หวั เมืองฝ่ายเหนอื
พ.ศ. 2330 ไดโ้ ดยเสด็จพระบรมชนกนาถ ไปสงครามทตี่ าํ บลทา่ ดินแดง และตเี มอื งทวาย
พ.ศ. 2331 ทรงผนวชเป็นพระภกิ ษใุ นพระอโุ บสถวัดพระศรีรตั นศาสดาราม ซึง่ เป็นพระองค์แรกทีอ่ ุปสมบทใน
วดั น้ี เสด็จไปจําพรรษา เมอื่ ครบสามเดอื น ณ วัดสมอราย ปจั จุบนั คอื วัดราชาธริ าช คร้ันทรงลาผนวชในปีนั้น
ทรงอภเิ ษกสมรสกบั สมเดจ็ เจา้ หญิงบญุ รอด พระธดิ าในพระพนี่ างเธอ สมเด็จเจา้ ฟ้าหญิงกรมพระศรสี ดุ ารกั ษ์
พ.ศ. 2336 โดยเสดจ็ พระราชบิดาไปตีเมืองทวาย ครัง้ ที่ 2
พ.ศ. 2349 ( วนั อาทิตย์ เดือน 8 ขึน้ 7 ค่ํา ปขี าล ) ทรงพระชนมายุได้ 40 พรรษาได้รบั สถาปนาเป็น "กรม
พระราชวังบวรสถานมงคล" ซง่ึ ดํารงตําแหน่งพระมหาอุปราชขน้ึ แทน กรมพระราชวังบวรมหาสรุ สีหนาท ท่ีได้
สวรรคตแลว้ เมื่อ พ.ศ. 2346

การทาํ นบุ าํ รงุ บ้านเมอื ง

การปฎสิ ังขรณ์วดั โปรดให้แกะลายสลักที่บานประตู พระวิหารพระศรีศากยมุนี ณ วัดสทุ ศั น์ สร้างพระ
ประทานในพระอโุ บสถวัดแจ้ง และพระพกั ตร์พระพทุ ธธรรมิศรราชรายได้ของแผน่ ดนิ ได้จากการเกบ็ ภาษี
อากรทางด้านการคา้ ท่ที ําตามแบบเดิม คอื ใหพ้ ระคลงั สนิ คา้ มีอาํ นาจในการซ้ือขายการปกครอง นัน้ คงทรงไว้
แบบเก่า แต่งตงั้ เจา้ นายทีเ่ ป็นเชือ้ พระวงศ์เข้ากํากบั ราชการ กฎหมาย ทรงตราพระราชกาํ หนดสกั เลข และ
พระราชกําหนดหา้ มมิสบู และขายฝิน่ สถาปัตยกรรม ขยายเขตพระบรมมหาราชวงั สรา้ งสวนขวา พระสมุทร
เจดีย์ และสร้างเมอื งนครเขือ่ นขนั ธป์ ระเพณพี ิธกี รรม ไดแ้ กพ่ ระราชกรณยี กิจลงสรง พระกาํ หนดพิธีวสิ าขบูชา
พระราชพิธอี าพาธพนิ าศ และการต้งั โรงทานการใชธ้ งช้างเปน็ ธงชาติ ช้างเผอื ก 3 เชอื กไดแ้ ก่ พระยาเศวต
กุญชร พระยาเศวตไอยรา และพระยาเศวตคชลักษณ์ศาสนา ทํานุบาํ รงุ พุทธศาสนา เช่น การปฎสิ ังขรณ์วัดวา

6

อาราม การสังคายนาสวดมนต์ การสรา้ งพระไตรปฎิ ก การส่งสมณทตู ไปประเทศลงั กาวรรณคดีและกวี มีรัตนก
วีคู่พระหฤทยั เชน่ พระสนุ ทรโวหาร สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชโิ นรส นายนรนิ ทร์ธเิ บศร์ (
อนิ ) พระยาตรงั

บทพระราชนิพนธใ์ นพระองค์ ไดแ้ ก่

1. บทละครในเร่ืองรามเกียรต์ิ

2. บทละครในเรอ่ื งอเิ หนา

3. บทละครนอกเรื่อง สังขท์ อง คาวี ไชยเชษฐ์ ไกรทอง มณีพิชยั

4. กาพยแ์ หเ่ รอื ชมเคร่อื งคาวหวาน

5. บทกาพย์โขน ตอนนางลอย พรหมาสตร์ นาคบาศ และเอราวัณ

6. กลอนเสภาเรื่อง ขนุ ชา้ งขุนแผน

การตดิ ตอ่ กบั ประเทศเพอ่ื นบ้าน

การตดิ กบั พมา่

พ.ศ. 2352 หลังจากทีพ่ ระองค์ไดเ้ สดจ็ ข้ึนครองราชสมบตั พิ ระชนมายุได้ 43 พรรษา นาน 2 เดือน พม่ายก
ทัพมาตหี ัวเมอื งปกั ษใ์ ตโ้ ปรดใหส้ มเดจ็ พระอนุชาธิราชกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรกั ษ์เปน็ จอมทัพไปทรง
ปราบปรามพม่าได้

พ.ศ. 2363 พมา่ เปลีย่ นแผน่ ดนิ ใหม่ โดยมพี ระเจ้าจักกายแมง ตอ่ จากพระเจ้าปดงุ ได้ขา่ วว่า ไทยเกิดโรค
ระบาด จึงยกทพั มาตี ไทยได้จดั กองทพั ไปป้องกันตามทางที่พมา่ จะเดินทางเข้ามา เช่น กาญจนบรุ ี เพชรบรุ ี
ถลาง สงขลา พทั ลงุ และตาก พมา่ ร้ขู ่าวกอ่ นจงึ ไม่กล้ายกทพั มา

การตดิ ต่อกับญวน

พ.ศ. 2353 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคตแล้ว พระเจ้าเวียตนามยาลอง
กษัตรยิ ญ์ วน ไดแ้ ตง่ ตั้งใหท้ ูตเดนิ ทางมาเคารพพระบรมศพ พรอ้ มกับถวายเครือ่ งราชบรรณาการเพื่อขอเมือง
พทุ ธไธมาศกลบั คนื จงึ ยอมให้เพ่ือสมานพระราชไมตรี

การติดต่อกับกมั พชู า ( เขมร )

พ.ศ. 2353 สมเดจ็ พระอทุ ัยราชา กษตั ริยเ์ ขมร ถูกรัชกาลที่ 1 บรภิ าษไปเมือ่ คราวเข้าเฝา้ จึงผูกใจเจบ็ ไว้
คร้ันรัชการที่ 1 สวรรคต จึงหนั ไปพงึ่ อํานาจญวนดว้ ยสมเด็จพระอุทยั ราชากลวั วา่ ไทยจะยกทัพไปปราบปราม
ญวนใหน้ กั องโปโหคุมทหารมากาํ กับเขมร สมเด็จพระอุทัยราชาคิดเสียดายเมอื งเสยี มราฐ เมอื งพระตะบอง จงึ
ปรกึ ษากับญวนซ่ึงมีนักองโปโหเป็นกองกาํ ลัง นกั องโปโหกเ็ สนอแนะใหฟ้ า้ ทะละหะ ยกทัพไปไทยโดยทาํ ทวี ่าจะ
ไปเกบ็ คา้ งคาวและยมศลิ าตามประเพณี ถ้าเหน็ วา่ ออ่ นแอกใ็ หโ้ จมตเี มอื งพระตะบอง แตฝ่ า่ ยไทยไหวทนั จงึ ตี
กองทพั เขมรแตกพ่ายไป

7

การติดตอ่ กบั จีน ในรชั กาลที่ 2 โปรดใหไ้ ปเจริญทางพระราชไมตรถี งึ 2 ครงั้ คือ

พ.ศ. 2353 โปรดใหร้ าชทตู อนั เชญิ พระราชสาส์นไปถวายพระเจ้าเกียเข้งกรุงปักกง่ิ เพ่อื ให้จีนทราบวา่ ไทย
เปลยี่ นแผน่ ดินใหม่

พ.ศ. 2364 โปรดใหอ้ ญั เชญิ พระราชสาสน์ โดยมีพระยาสวัสดิสมทุ ร เปน็ ทูตไปแสดงความยินดีตอ่ พระเจ้า
เตากวาง ทค่ี รองราชย์ตอ่ จากพระเจา้ เกยี เขง้ พร้อมคํานับพระศพดว้ ย

การตดิ ต่อกบั โปรตเุ กส

พ.ศ. 2361 ประเทศโปรตุเกสแตง่ ตัง้ ให้ มร. คาร์ลอส มานเู อล ซลิ เวยี รา เปน็ ทูตถอื สาสน์ นาํ เคร่อื งราช
บรรณาการเขา้ มาเจริญทางพระราชไมตรสี มยั รตั นโกสนิ ทร์ โปรดใหเ้ ปน็ หลวงอภยั วาณิช

การตดิ ต่อกบั สหรัฐอเมริกา

พ.ศ. 2364 กปั ตนั แฮน เป็นพ่อคา้ ชาวอเมริกันคนแรกไดถ้ วายปืนคาบศิลา 500 กระบอก จงึ โปรดใหเ้ ปน็
หลวงภักดีราช

การติดตอ่ กบั องั กฤษ

พ.ศ. 2365 บรษิ ทั อินเดยี ตะวันออกขององั กฤษตั้งผ้สู ําเร็จราชการอนิ เดียคอื มาร์ควสิ เฮสตงิ ค์ ไดส้ ่ง
จอหน์ ครอวเ์ ฟิด มาเจริญราชไมตรี ผลของการเจรจาไทยเหน็ ว่าอังกฤษเอาเปรียบทกุ อยา่ งไทยเลย ไม่ตดิ ตอ่
ดว้ ย แต่ยงั มพี อ่ คา้ ชาวอังกฤษช่ือ โรเบิรต์ ฮันเตอร์ ยนิ ยอมทาํ ตามระเบยี บของไทย และคา้ ขายเรื่อยมาจนได้
โปรดใหเ้ ป็น หลวงอาวธุ วเิ ศษ

เสดจ็ สวรรคต

เม่ือส้ินรัชกาลสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลัยแลว้ เจ้าอนุวงศห์ มดความเกรงกลัว เร่ิมแขง็ เมอื งและเป็น
กบฎขน้ึ ในรัชกาลพระน่ังเกลา้ เจ้าอย่หู ัวพระบาทสมเดจ้ พระพุทธเลิศหล้านภาลยั เสด็จสวรรคต เมือ่ วันพธุ
เดือน 8 แรม 11 คา่ํ ปวี อก ตรงกับวันท่ี 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ขณะนน้ั ทรงพระชนมายุ 58 พรรษา ทรง
เสวยราชย์สมบตั ิ 16 ปี ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธดิ ารวมท้ังสน้ิ 73 พระองค์ [online].
/Avarble: https://sites.google.com/site/kittipotkijsirisin/phra-rach-prawati-khxng-phrabath-
smdec-phraphuthth-leis-hla-nphalay

8

3.เนือ้ เรอ่ื งย่อ

พระอินทร์พานางเกษณีไปอยู่ดว้ ยกนั บนสวรรค์ ไดใ้ หก้ ำเนดิ พระธิดาพระนามวา่ ยอพระกลิน่ จึง
นำไปใส่ไวใ้ นปลอ้ งไม้ไผท่ ีเ่ มืองมนษุ ยม์ ณพี ิชัยไดน้ างไป แตพ่ ระมารดาไมโ่ ปรด หาทางกล่นั แกลง้ นางพระ
อนิ ทรจ์ งึ ลงมาช่วย ในทสี่ ุดนางจึงครองรกั กับมณพี ชิ ัยอยา่ งมคี วามสขุ

ภาษาสยาม./ (2008). / [online]. /Avarble
:http://www.pasasiam.com/home/index.php/literature/li-ratanakosin/268-2008-09-17-16-25-
13

นางยอพระกล่ินเป็นธดิ าของพระอินทรแ์ ละเจา้ หญิงชาวมนษุ ย์นางหน่ึงพระอินทร์ไม่สามารถเลยี้ งดู
พระธดิ าไดจ้ ึงนำนางไปฝากไว้ในต้นไผ่ต้นใหญใ่ นปา่ บนโลกมนษุ ย์ตอ่ มาเป็นเวลาท่ีนางยอพระกลนิ่ เติบโตเปน็
สาวแลว้ ก็ได้มอี งค์ชายเมอื งหน่ึงชอ่ื วา่ มณีพชิ ยั ได้เดินทางเขา้ มาในป่าและบังเอิญได้กล่นิ หอมอบอวนมาจากต้น
ไผต่ น้ หนึ่งทีด่ ูแล้วแปลกไปกว่าตน้ ไผ่ต้นอนื่ และดนู ่าสนใจจงึ สง่ั ให้คนทีต่ ิดตามมาดว้ ยให้ไปตัดตน้ ไผต่ น้ นัน้ ออกดู
ว่าข้างในมอี ะไรแต่คนติดตามไม่สามารถตัดออกได้เพราะพระอนิ ทรท์ ่เี ป็นพอ่ ของนางยอพระกลน่ิ ได้พูดไว้ว่า
หากใครไมใ่ ช่คแู่ ทข้ องลูกสาวตวั เองกข็ อให้ตัดต้นไผ่ต้นน้ไี ม่ไดแ้ ตถ่ ้าหากเปน็ คแู่ ทจ้ ึงจะตัดออกได้แลว้ มณีพชิ ยั ก็
ไดล้ องตัดตน้ ไผเ่ องปรากฏว่าตัดออกแลว้ จงึ พบกับนางยอพระกลิ่นเมื่อมณพี ชิ ัยเหน็ นางงดงามและมกี ล่นิ
หอมหวนจึงพานางกลับเมอื งดว้ ยและแต่งต้ังให้เปน็ มเหสี

แตพ่ ระนางจนั ทร แมข่ องมณพี ชิ ยั อยากใหอ้ ภเิ ษกสมรสกับธิดาเจ้าเมอื งจีนท่ีมงั่ คั่งจึงวางแผนใสร่ ้ายป้าย
สยี อพระกลิ่นวา่ นางเป็นกระสือกนิ แมวในราชวังยอพระกลน่ิ จึงตอ้ งโทษประหาร แตเ่ คราะหด์ ีทพ่ี ระอินทร์ทรง
ลงมาช่วยลูกไวท้ ันแล้วเสกใหน้ างยอพระกลิ่นเป็นพราหมณ์หนุม่ มีเวทมนตร์แกก่ ลา้ ขณะเดียวกนั กใ็ ห้พญางไู ป
กัดพระนางจันทรจนลม้ ปว่ ยไม่มีใครรักษาไดพ้ ราหมณ์หนุ่มเดนิ ทางกลับมาทเี่ มอื งของมณีพิชยั และไดท้ ราบว่า
นางจันทรลม้ ป่วยจงึ อาสาไปขอรักษาพระนางจนั ทรหลงั รกั ษาหายแลว้ ยอพระกลนิ่ ในรา่ งพราหมณห์ น่มุ ได้
บงั คบั ให้นางจนั ทรจนยอมบอกความจริงเร่ืองที่ใสร่ า้ ยนางยอพระกลิ่นกบั ทกุ คนและไดข้ อใหม้ ณพี ชิ ยั ไป
ปรนนิบัติรบั ใช้ต้นในปา่ เพอ่ื แลกกับการรักษาพระนางจันทรแตร่ ะหวา่ งทางมณีพิชัยเดินไปเมอื งจนี และถกู ยกั ษ์
จบั ตัวไปและโดนนางยักษ์ผกาธิดาพญายกั ษบ์ งั คับใหม้ ณพี ชิ ัยยอมเปน็ สวามขี องนางพราหมณ์ยอพระกลน่ิ รีบ
ตามมาช่วยมณีพชิ ยั ท่เี มอื งยกั ษแ์ ต่กลบั เห็นว่ามณพี ิชยั นอนเคยี งข้างเพราะถูกมนตส์ ะกดของนางยกั ษ์นางยอ
พระกลนิ่ โกรธมณพี ิชยั พยายามอธิบายความจริงเท่าไหร่กไ็ ม่ยอมคืนดีดว้ ยแต่สดุ ท้ายพระอนิ ทร์กม็ าชว่ ยไกล่
เกลีย่ ให้ท้งั สองคนื ดกี นั จนไดส้ ุดท้ายมณีพิชัยก็พานางยอพระกลิน่ กลับไปครองรักกันทีเ่ มอื งของตนอย่างมี
ความสขุ

9

4.บทประพันธ์

นทิ านเรอ่ื งมณีพิชยั เรอ่ื งตอนต้นก่อนตอนท่ีทรงพระราชนิพนธ์เปน็ บทละคร
ทา้ ววรกรรณครองเมอื งปาตะลีกับนางบุษบงมเหสี ไม่มีราชบุตร มีแต่ราชธิดาองคห์ นงึ่ ทรงนามว่านางเกศนี
ทา้ ววรกรรณเป็นหว่ งราชสมบัตบิ า้ นเมอื งด้วยยังไม่มผี ูจ้ ะสบื สันตติวงศต์ ามราชประเพณคี ร้ันนางเกศนีอายุได้
๑๖ ปีท้าวเธอจึงปรึกษากบั มเหสวี ่าควรจะใหน้ างเกศน้มี ีคคู่ รองจะได้อภิเษกราชบตุ รเขยไวร้ บั รัชทายาท แต่จะ
เลอื กหาคู่ครองใหน้ างเองถา้ นางไม่ชอบใจกจ็ ะไม่มีความสุขต่อไปจงึ สง่ั ใหท้ ำพิธสี ยุมพรประกาศบอกหนอ่
กษัตรยิ ท์ ้ังปวงให้มาประชมุ กนั ถ้านางชอบองค์ไหนก็จะให้อภิเษกกับองค์น้ันหนอ่ กษตั ริย์ต่างพระนครพากนั มา
เปน็ อันมากนางเกศนกี ไ็ ม่ชอบองค์หนงึ่ องค์ใดทา้ ววรกรรณเห็นนางไม่ชอบพวกกษตั รยิ ์ตา่ งเมอื งจึงให้ประกาศ
สัง่ พวกชาวเมืองปาตะลนี น้ั ทั้งผดู้ ีและคนเขญ็ ใจไมเ่ ลอื กว่าผ้ใู ดให้เขา้ มาประชุมกันให้นางเกศนีเลือกขณะนนั้ บุญ
ของนางบันดาลใหพ้ ระอนิ ทรร์ ้อนอาสนจ์ งึ เล็งทิพเนตรดกู ร็ ูว้ ่านางเกศนม้ี ีบพุ เพสันนวิ าสมา แตช่ าตปิ างก่อน
พระอินทร์จงึ เหาะลงมายังเมืองปาตะลีแล้วจำแลงเป็นชายทคุ ตะเขญ็ ใจเขา้ ไปยังหนา้ พระลานกับชาวเมืองปา
ตะลนี างเกศน้ีแลเหน็ ก็รักใครท่ ิ้งพวงมาลัยใหช้ ายทคุ ตะน้นั ท้าววรกรรณได้ความอปั ยศอดสูโกรธแคน้ นางเกศน้ี
เปน็ กำลังจงึ ให้ขับนางไปเสยี จากพระนครกับชายทคุ ตะดว้ ยกันขณะนั้นพระอินทรก์ ลบั เพศเป็นเทพยดาอ้มุ นาง
เกศนพี าเหาะไปยงั เมอื งสวรรค์ชนั้ ดาวดึงส์ทา้ ววรกรรณกบั มเหสแี ละพวกไพรบ่ ้านพลเมอื งครน้ั เหน็ นางได้กบั
พระอนิ ทรก์ ก็ ลบั พากนั มคี วามยินดเี ม่ือนางเกศนขี ึ้นไปอยบู่ นสวรรคก์ บั พระอนิ ทร์อยมู่ านางมคี รรภค์ รนั้ จวนจะ
ถงึ กำหนดคลอดพระอินทร์นกึ รำพึงวา่ นางเป็นมนษุ ยค์ ลอดลกู ผดิ กับเทวดาถา้ ให้คลอดบนสวรรคเ์ กรงจะเป็น
อนั ตรายจึงพานางลงมายงั มนษุ ยโลกนฤมิตพลับพลาข้นึ ทปี่ ่าไผ่แหง่ หน่งึ ใหเ้ ปน็ ที่อยู่แล้วเรียกเหล่าเทพบตุ ร
เทพธิดาซงึ่ อยู่ตามรุกขพิมานใหม้ าช่วยกันพทิ กั ษร์ ักษาจนนางคลอดลกู ลูก นน้ั เปน็ ธดิ ามกี ล่ินหอมตดิ ตวั มา แต่
กำเนดิ พระอนิ ทรจ์ ึงให้มนี ามวา่ นางยอพระกล่ินพระอินทรเ์ ลย้ี งลูกอยู่กบั นางเกศนไี้ ด้ ๗ วันนึกเปน็ หว่ งเมือง
สวรรคเ์ กรงว่าถา้ รไู้ ปถงึ พวกอสรู ว่าพระอนิ ทร์ไม่อยู่กจ็ ะพากนั กำเริบมาเบียดเบียนเทวดาคร้ันจะพาลกู ไปเลี้ยง
บนสวรรคล์ ูกกเ็ ปน็ ทารกอยา่ งมนษุ ยจ์ ะขนึ้ ไปรอ้ งอ้อนออื้ อึงใหเ้ กิดรงั เกยี จของเหลา่ เทวดาจึงนฤมิตอาภรณ์
เคร่อื งทิพย์ใหแ้ ก่ลกู แล้วพาไปไวใ้ นปลอ้ งไม้ไผ่สีสุกลำหน่งึ ในป่านั้นสาปสรรไว้วา่ ถ้าผใู้ ดพระกลน่ิ ไว้พระมณีพิชยั
ฝนั ไปวา่ มีดอกไมเ้ มอื งสวรรคต์ กลงมายังท่บี รรทมเธอได้ดอกไมน้ น้ั ไว้กล่นิ หอมรืน่ ช่ืนใจยงิ่ นักครัน้ ต่ืนขนึ้ ลมพดั
มา แต่ป่าพากลิน่ หอมอย่างดอกไมใ้ นฝันซ้ำมาอีกกย็ ่ิงคิดพิศวงพอรงุ่ เชา้ พระมณพี ิชยั จงึ พาพวกคนสนทิ เทยี่ วคน้
ไปในปา่ จนถึงกอไผท่ ่ีนางยอพระกล่นิ อยู่เหน็ มไี มไ้ ผ่ลำใหญ่ประหลาดกว่าเพ่อื นอยูล่ ำหนึง่ นึกวา่ คงจะมขี อง
สำคัญอยู่ในนนั้ เป็นมน่ั คงจึงส่ังพวกคนสนทิ ทีต่ ดิ ตามไปดว้ ยใหช้ ว่ ยกนั ตัดไม้ไผล่ ำนัน้ มาดูพวกคนสนิทตัดฟนั ไม่
เข้าพากนั ครน่ั ครา้ มว่าจะเปน็ ไม้ผสี ิงพระมณีพิชัยจึงเขา้ ไปพจิ ารณาดูเองก็ไปได้กลิน่ หอมที่ไม้นัน้ อีกจงึ อธษิ ฐาน
วา่ ถา้ จะได้ของสำคญั ท่อี ยใู่ นลำไมไ้ ผ่นัน้ ขอให้ฟนั ไมข้ าดแล้วเอาพระขรรคฟ์ ันลำไม้ไผก่ ข็ าดแลเห็นนางยอพระ
กล่ินอยใู่ นปล้องไมน้ ัน้ กำลงั รุน่ สาวรูปทรงโสภาพระมณีพิชัยกน็ ึกรกั ในทนั ใดจงึ ได้ถามว่าเหตุใดนางจงึ ไปอยใู่ น
ปล้องไม้เชน่ นัน้ แตน่ างยอพระกล่นิ กำลังตกใจไม่ตอบประการใดพระมณีพชิ ัยจงึ อุ้มนางข้นึ วอพากลับมายัง
พลบั พลาแล้วบอกให้นางทราบว่าตวั เปน็ ลกู พระยามหามิใช่คูค่ รองของนางยอพระกล่ินถึงจะมาพบและมาตดั
ไมล้ ำนั้นกอ็ ย่าให้ไดต้ อ่ ใครมีบุญญาภินิหารสมควรจะเป็นคูค่ รองของนางจึงให้พบและได้นางไปครนั้ ฝากลกู เสรจ็
แลว้ พระอนิ ทรก์ ็พานางเกศนีกลบั ไปอยูบ่ นสวรรคอ์ ยา่ งคร้ังนัน้ ทา้ วพิชัยนุราชครองเมอื งอยธุ ยากบั นางจนั ทรม
เหสมี ีราชบุตรองคห์ น่งึ ทรงนามวา่ พระมณีพชิ ัยพอกำลังรุ่นหน่มุ วนั หนง่ึ พระมณีพิชยั ออกไปประพาสป่าเทวดา
ดลใจใหไ้ ปพักแรมอยใู่ นปา่ ไผท่ ่พี ระอินทรฝ์ ากนางยอพระกลิน่ ไว้ พระมณพี ิชยั ฝนั ไปวา่ มดี อกไม้เมืองสวรรคต์ ก

10

ลงมายังทบี่ รรทมเธอได้ดอกไม้นน้ั ไว้กลนิ่ หอมรนื่ ช่ืนใจยิง่ นกั คร้ันตน่ื ข้นึ ลมพัดมา แต่ปา่ พากล่นิ หอมอยา่ ง
ดอกไม้ในฝันซำ้ มาอีกกย็ ่ิงคิดพศิ วงพอรุง่ เชา้ พระมณพี ชิ ยั จงึ พาพวกคนสนิทเทยี่ วกันไปในป่าจนถึงกอไผท่ น่ี าง
ยอพระกลิน่ อยู่เห็นมไี มไ้ ผล่ ำใหญ่ประหลาดกวา่ เพ่ือนอยู่ลำหน่ึงนึกวา่ คงจะมขี องสำคัญอยใู่ นน้ันเปน็ มน่ั คงจงึ
ส่ังพวกคนสนทิ ทต่ี ดิ ตามไปด้วยให้ช่วยกนั ตดั ไมไ้ ผ่ลำนน้ั มาดพู วกคนสนิทตัดฟันไม่เขา้ พากันคร่นั คร้ามว่าจะเปน็
ไมผ้ ีสงิ พระมณพี ชิ ัยจงึ เข้าไปพิจารณาดูเองก็ไปได้กลนิ่ หอมทีไ่ มน้ ้นั อกี จึงอธิษฐานว่าถ้าจะไดข้ องสำคัญท่อี ยใู่ น
ลำไมไ้ ผ่นั้นขอใหฟ้ นั ไมข้ าดแล้วเอาพระขรรคฟ์ ันลำไมไ้ ผก่ ็ขาดแลเห็นนางยอพระกลิ่นอย่ใู นปล้องไมน้ นั้ กำลงั รุ่น
สาวรูปทรงโสภาพระมณีพิชัยกน็ กึ รกั ในทนั ใดจงึ ไตถ่ ามวา่ เหตใุ ดนางจงึ ไปอยใู่ นปลอ้ งไมเ้ ชน่ นน้ั แตน่ างยอพระ
กลน่ิ กำลงั ตกใจไมต่ อบประการใดพระมณพี ชิ ยั จึงอุม้ นางข้ึนวอพากลับมายังพลบั พลาแลว้ บอกให้นางทราบวา่
ตัวเป็นลูกพระยามหา กษัตรยิ ์ออกไปเที่ยวป่าเกดิ นมิ ติ ฝนั และไดก้ ลนิ่ หอมจงึ ไดต้ ามไปจนพบไว้ที่ในปล้องไม้ไผ่
พระมณีพิชยั ไดฟ้ ังก็ยง่ิ รกั ใคร่นางฝ่ายนางกร็ ักตอบพระพระราชนิพนธ์รชั กาลที่ 6 นางนางกเ็ ลา่ เร่อื งของนาง
ตามเหตุการณท์ ่ีเปน็ มาจนพระอนิ ทรเ์ อามาฝากมณีพชิ ัยด้วยเหน็ วา่ บุพเพสนั นวิ าสบงั เอญิ ใหไ้ ด้ประสบพบกัน
พระมณพี ิชยั จึงพานางยอพระกล่นิ เข้าไปอยดู่ ว้ ยกันที่ปราสาทในวงั แตเ่ กรงพระบิดามารดาจะกริว้ ว่าไปหาเมยี
แต่โดยลำพงั จึงหาทลู ความใหท้ ราบไมค่ รัง้ นั้นพระเจา้ กรงุ จนี มรี าชธดิ าอยู่ ๗ นางได้แต่งให้มคี ู่ครองไปแลว้ 5
นาง แต่นางผเู้ ป็นนอ้ งน้อยก็ยงั หามคี ่คู รองไมแ่ ละชนนีของนางน้ันเป็นพี่ของนางจนั ทรมเหสีทา้ วพิชัยนุราชพระ
เจา้ กรุงจนี ได้ทราบวา่ ท้าวพิชัยนุราชกบั นางจนั ทรมรี าชบตุ รรุ่นหน่มุ ยังไมม่ ีชายาจงึ ใหท้ ตู เชิญราชสาสนไ์ ปยงั
เมอื งอยธุ ยาขอพระมณีพิชยั เปน็ ราชบุตรเขยท้าวพชิ ัยนุราชกับนางจนั ทรไดท้ ราบราชสาสนก์ ็มีความยนิ ดีด้วย
หมายว่าพระมณีพชิ ัยยังเปน็ โสดอยูจ่ ะไดเ้ ปน็ ราชบุตรเขยพระเจา้ กรุงจนี มเี กยี รตยิ ศกำลังวังชามากจึงรับแก่ทูด
จีนว่าจะถวายพระมณีพิชัยเป็นราชบตุ รเขยตามประสงค์ของพระเจา้ กรงุ จีนและจะใหไ้ ปแตง่ งานในเดือน ๔
เม่ือท้าวเธอได้รับแกท่ ดู จนี แล้วจงึ มีรับสง่ั ให้หาพระมณพี ิชัยหมายจะบอกใหท้ ราบข่าวดที จี่ ะไดเ้ ป็นราชบตุ รเขย
พระเจ้ากรงุ จนี นัน้ ฝ่ายพระมณีพิชัยได้ทราบข่าวระแคะระคายอยู่ว่าพระเจ้ากรุงจนี ใหท้ ูตมาขอเปน็ ราชบตุ รเขย
นึกคาดวา่ พระบิดาคงจะเรยี กไปว่ากลา่ วให้ยนิ ยอมพร้อมใจดว้ ยพระมณพี ชิ ัยกำลงั รกั นางยอพระกลนิ่ กลัว
จะต้องถกู บงั คับให้ทิ้งนางก็บอกปว่ ยเสียไมข่ ึ้นไปเฝา้ ท้าวพชิ ยั นรุ าชกับนางจันทรสำคัญวา่ ราชบุตรประชวรจรงิ
ก็พากนั ลงไปเย่ียมจงึ ไปเหน็ นางยอพระกลน่ิ เม่อื ทา้ วพิชยั นรุ าชได้ไต่ถามทราบเรอื่ งของนางกเ็ กดิ เมตตาปรานี
เหน็ ควรจะใหเ้ ปน็ ชายาของพระมณีพชิ ัย แตส่ ว่ นนางจนั ทรนั้นนึกรงั เกยี จด้วยอยากจะให้พระมณพี ชิ ยั ได้เปน็
ราชบตุ รเขยพระเจา้ กรุงจนี เกรงว่าถา้ พระเจา้ กรงุ จนี รวู้ า่ พระมณีพิชัยมีเมยี อยู่แลว้ กจ็ ะไมย่ กราชธิดาให้จึงทูล
ทัดทานทา้ วพิชัยนุราชท้าวพิชัยนรุ าชหาฟังไม่ว่านางยอพระกลิน่ เปน็ เมยี อยเู่ มอื งน้จี ะไปเก่ียวขอ้ งขดั ขวางอันใด
กับเมยี ในเมืองจนี แล้วท้าวเธอกอ็ นญุ าตให้ฝา่ ยนางจันทรไมห่ ายรังเกยี จเกลียดชงั นางยอพระกลิ่นอยากจะใคร่
กำจัดเสยี จึงคดิ ว่านางยอพระกลิ่นน้ี แตเ่ ดมิ จะเปน็ ลูกสาวพระอินทร์จริงหรอื อยา่ งไรก็ตามเรื่องราวของนางไมม่ ี
ใครไดร้ เู้ ห็นเช่ือฟัง แตต่ ามคำของนางอย่างเดียวถ้าคดิ กลอบุ ายให้มีเค้าเงือ่ นว่านางเป็นยกั ขินผี ีกระสือคน
ทง้ั หลายกเ็ หน็ จะเช่อื เพราะพระมณีพิชัยไปไดม้ าจากในปา่ คงจะกำจัดนาง m๕๖ พระมณพี ิชยั อยกู่ บั นางยอ
พระกลนิ่ ตอ่ ไปยอพระกลนิ่ ไดส้ มประสงคค์ ิดดงั นแี้ ลว้ นางจันทรจงึ ฆ่าแมวที่เลยี้ งไวเ้ สยี ตัวหนง่ึ แลว้ ลอบลงไปยัง
ปราสาทพระมณพี ิชยั ในเวลาดกึ พระมณีพิชัยกบั นางยอพระกล่ินกำลังนอนหลับนางเอาหางแมวเหนบ็ ไวท้ ่ีมวย
ผมและเอาเลอื ดแมวปา้ ยไว้ท่ีปากนางยอพระกลิ่นแลว้ กลบั มายังท่ีอยขู่ องตนทำมารยาปลุกพวกสาวใช้ข้ึนบอก
ว่าเม่ือ แต่กม็ ยี ักขนิ หรอื ผีกระสืออะไรอยา่ งหนงึ่ ลอบขึ้นมาจบั แมวกินเผอญิ นางต่ืนขน้ึ ผนี ้ันก็วิ่งหนไี ปตอ่ หนา้
เปน็ ผีผู้หญงิ ดรู ปู ร่างคลา้ ย ๆ กบั นางทีพ่ ระมณีพิชยั ไปไดม้ าจากปา่ ว่าแล้วนางก็ชวนพวกเถ้าแก่สาวใชจ้ ดุ คบ

11

เพลิงลงมายงั ปราสาทพระมณพี ิชัยปลุกพระมณพี ิชยั กับนางยอพระกลนิ่ ขึ้นแลว้ แกลง้ ถามว่าเม่ือ แต่กม็ ผี ี
กระสอื ขึน้ ไปจบั แมวกนิ แล้ววงิ่ หนมี าทางปราสาทน้ไี ด้เห็นบา้ งหรอื ไมพ่ ระมณีพชิ ัยกับนางยอพระกล่ินต่างทลู วา่
นอนหลับอยู่ทั้งสองคนจนเสดจ็ มาปลุกจึงต่ืนขึ้นผจี ะมาทางนห้ี รือไปทางไหนหาได้เหน็ ไมน่ างจันทรทำเป็นพง่ึ
เหน็ เลอื ดแมวกับหางแมวทต่ี ิดอยกู่ บั ตัวนางยอพระกลน่ิ แลว้ แกล้งมารยาตกใจถามว่านี่อยา่ งไรปากจงึ เปื้อน
เลอื ดและเอาหางแมวเหนบ็ ผมไว้อย่างน้นี างยอพระกลิ่นก็มอิ าจจะช้ีแจงเหตุผลตน้ ปลายไดน้ างจนั ทรจึงลงเอา
ว่านางยอพระกลิน่ เป็นผกี ระสอื คนท่อี ยทู่ ัง้ นนั้ ก็พากันเชื่อแมพ้ ระมณีพิชยั ท้ังรักทัง้ เสยี ดายนางก็มริ ทู้ ่ีจะแกไ้ ข
ประการใดดว้ ยข้อพิรธุ ของนางปรากฏชดั เจนนกั นางจนั ทรจงึ ถามพระมณพี ชิ ัยวา่ เม่ือเมียกลายเปน็ ผกี ระสอื
เช่นน้จี ะว่าอย่างไรมณพี ิชัยกไ็ ด้ แตท่ ลู วา่ สดุ แล้วแต่พระแมเ่ จา้ จะโปรดนางจนั ทรจึงใหส้ าวใช้ ช่วยกนั จบั เอา
นางยอพระกลิ่นใสใ่ นหีบหามออกมาจากวังไป แต่เวลาเชา้ ตรสู ่ังใหพ้ วกขอเฝ้าเอาไปฝังเสีย แตพ่ วกขอเฝ้าไมร่ ู้
เหตุผลตน้ ปลายรู้แต่ว่าคนในหีบยงั เปน็ อยกู่ ็ไม่กลา้ ฝงั่ จึงเอาหบี ไปทง้ิ ไวใ้ นป่าแล้วกพ็ ากันกลับมาขณะนน้ั เกิด
บนั ดาลร้อนอาสนพ์ ระอินทรส์ ่องทพิ เนตรดูรวู้ า่ นางยอพระกลิน่ ผู้เป็นธดิ าต้องตกยากถึงสาหัสจงึ ลงมาช่วยนาง
ยอพระกลน่ิ นางเลา่ เรื่องทัง้ ปวงใหพ้ ระอินทร์ทราบพระอนิ ทรก์ โ็ กรธนางจนั ทรแล้วเลยขดั เคืองพระมณพี ชิ ยั ว่า
หลงเชือ่ แมไ่ ม่ช่วยแก้ไขจึงแปลงนางยอพระกลิ่นใหเ้ ป็นพราหมณส์ อนเวทมนตร์ใหม้ ีฤทธ์แิ ละใหพ้ ระขรรค์ไว้
สำหรบั ตวั และนฤมิตศาลาอาศรมให้อยใู่ นปา่ ทใ่ี กลเ้ มอื งอยธุ ยาบอกเจา้ พราหมณ์ว่าจะให้แก้แค้นแมผ่ วั ให้จงได้
เรอ่ื งมณีพิชัยตอนต้นมาตอ่ ตอนทีท่ รงพระราชนิพนธ์เปน็ บทละครตรงนี้

เร่ืองมณีพชิ ยั
ตอนพราหมณย์ อพระกลิน่ ขอพระมณีพชิ ยั ไปเป็นทาส
โดยจะใชส้ แี บง่ แยกบทประพนั ธ์ออกตามสีดังน้วี ่าเปน็ บทอะไรบ้าง
สเี หลือง=บทชมดง
สีเขยี ว=บทชมโฉม
สฟี ้า=บทแต่งตัว
สแี ดง=บทเก้ยี ว
สีชมพ=ู บทอ่นื ๆ

ช้า

๏ เมือ่ นั้น นางจันทรเทวศี รใี ส
อินทรามาเข้าดลใจ พเอญิ ใหร้ อ้ นรนพน้ ปญั ญา
คิดจะใคร่ไปสรงชลธี ยังที่ฉนวนน้ำประจำทา่

12

ชวนฝงู กำนัลในไคลคลา ลีลามาสู่ตำหนกั แพ
ฯ ๔ คำ ฯ เพลงชา้
รา่ ย

๏ ครน้ั ถงึ จงึ ลงสรงสนาน กบั บริวารขา้ สาวชาวแม่
หัวระรกิ ซิกซก้ี นั ซ้อแซ้ ชมุ แชช่ ลธารสำราญใจ

ฯ ๒ คำ ฯ เพลงฉ่ิง เจรจา

๏ นางจันทรทอดทศั นา เหน็ ดอกบัวลอยมาในน้ำไหล
ไม่แจง้ ว่างูร้ายอยู่ภายใน ครน้ั เข้ามาใกลก้ ็หยบิ เอา

กลนิ่ หอมรวยรนื่ ช่ืนอารมณ์ นางเชยชมดมแลว้ ดมเล่า
แซมมวยเลน่ ลองต้องเบาเบา งูงอดตอดเอาพระเศยี รนาง

พิศม์สงกลดั กล้มุ คลมุ้ จติ ร ดังหน่งึ ชีวติ รจะจากร่าง
ขึน้ มาบนฉนวนครวญคราง นวลนางซอนซบสลบลง

ฯ ๖ คำ ฯ โอด

๏ บดั น้นั กำนลั นางต่างคนตลงึ หลง
บ้างเขา้ ประคองต้ององค์ เหน็ โฉมยงแนน่ ่งิ ไม่ติงกาย
บา้ งวา่ งูขบสลบไป ทำกะไรกะนจ้ี ึงจะหาย

บา้ งวงิ่ ไปถงึ โรงฝพี าย หาหมอผูช้ ายก็ไมม่ ี
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ บรรดาข้าหลวงท้งั ปวงน้ัน ต่างตระหนกอกสนั่ ขวัญหนี
เขา้ กลมุ้ อมุ้ องคเ์ ทวี พาไปยงั ที่พระบรรธม
ฯ ๒ คำ ฯ เชดิ

13

๏ เถ้าแก่ท้าวนางต่างตกใจ อลหมา่ นอกไหมไ้ ส้ขม
บ้างไปเรียกขอเฝ้าเจา้ กรมบ้างข้นึ มาบงั คมทูลคดี
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เม่ือนั้น ทา้ วพิไชยนุราชเรืองศรี
ครัน้ ร้กู ร็ บี จรลี พระมณพี ิไชยกไ็ คลคลา

ฯ ๒ คำ ฯ เชดิ

๏ นั่งลงทรงลบู ปฤษฎางค์ กายนางเยน็ ฉำ่ ดังนำ้ ทา่
ตกใจสำคัญวา่ กลั ยา มอดมว้ ยมรณากจ็ าบลั ย์

ฯ ๒ คำ ฯ โอด

๏ จึงตรสั ส่งั ลกู รกั ใหเ้ รง่ หา หมองูเข้ามาขมีขมัน
ใครแกไ้ ขให้หายจะรางวัล แพรพรรณเงินทองลว้ นของดี

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เมอ่ื น้นั พระโอรสรับสง่ั ใสเ่ กษี
มาหาหมอวุ่นวง่ิ เปนสงิ คลี องึ มตี่ ึงตังทง้ั วงั ใน

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ มดหมอแก้ไขกน็ ักหนา นางจะฟ้ืนคืนมาก็หาไม่
จงึ ให้ตีฆอ้ งร้องป่าวไป หมองอู ยู่ทไ่ี หนเอาตัวมา

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

14

ลาวปีนตลงิ่

๏ เมอื่ น้นั โฉมเจา้ พราหมณ์นอ้ ยละหอ้ ยหา
นงั่ อยู่ยงั บรรณศาลา เหน็ เขามาร้องป่าวกเ็ ขา้ ใจ

ชรอยทา่ นแม่ผัวตวั อจิ ฉา บาปหนางขู บสลบไสล
เหมอื นคำโกสีย์ทีส่ าปไว้ สมนำ้ หน้าสาใจนางเทวี

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย

๏ คร้ันหยดุ เสยี งฆ้องก็รอ้ งถาม ถอ้ ยความอะไรขาวา่ เม่อื กี้
เชิญแวะมาหาขา้ ข้างนี้ เลา่ คดีให้ฟังม่งั เปนไร
ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บดั นัน้ เสนาฟงั พราหมณถ์ ามไถ่
จึงบอกว่ามเหษขี องทา้ วไท งูขบสลบไปไม่ฟ้ืนองค์

หมองูเอายาทาถวาย กไ็ มค่ ลายสกั นดิ ท่ีพศิ ม์สง
ถา้ ใครแก้ฟื้นคนื คง พระองค์จะให้ทองเทา่ ลูกฟกั
เขา้ ใจมงั่ ฤๅพ่อเปนหมองู ชีพราหมณค์ วามร้มู กั แหลมหลัก
ปากเปราะเราะรายมาทายทกั จะรบั รกั ษาไดฤ้ ๅไรนา

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมอื่ น้นั เจ้าพราหมณ์ยม้ิ พลางทางวา่
ขา้ เจ้าเปนหมองรู ูม้ นตรา จะรักษากไ็ ดเ้ ปนไรมี

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

15

๏ บัดนั้น เสนาได้ฟงั ถ้วนถี่
จึงว่าขอเชิญเจา้ พราหมณ์ชี ไปรักษามเหษที า้ วไท

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อน้ัน เจ้าพราหมณ์กล่าวแกลง้ แถลงไข
เทา้ ข้าปว่ ยเจ็บเปนเหนบ็ ไป เดินเหินไมไ่ ดณ้ เสนา

ท่าทางกลางดงก็กันดาร แม้นทา่ นจะใหไ้ ปรกั ษา
จงไปทลู อาการพระผ่านฟ้า ใหเ้ อาวอออกมารบั เรา

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บดั นั้น เสนีดีใจใครจะเท่า
ซักไซ้ไดค้ วามตามลำเนา แล้วกลับเขา้ บรุ ีเรว็ พลัน

ฯ ๒ คำ ฯ เชดิ

๏ ครั้นถึงทูลแถลงแจง้ ความ ขา้ ไปพบเจา้ พราหมณใ์ นไพรสณั ฑ์
เปนหมองรู ู้จบครบครัน หยูกยาวา่ ขยันเคยทดลอง
จะพามาดว้ ยก็ป่วยทา้ ว เดินก้าวไม่ถนดั ขัดข้อง
สัง่ มาวา่ จะขอเอาวอทอง ไปรับรองจึงเจ้าจะเขา้ มา
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนน้ั ท้าวพไิ ชยนุราชนาถา
ได้ฟังจึงส่ังเสนา อยา่ ช้าเรง่ รัดกันบัดนี้
วอทองของกทู ี่ทำใหม่ จงเอาไปให้เจา้ พราหมณข์ ี่
เชื้อเชญิ พดู จาให้จงดี รับเจ้าพราหมณช์ ีเข้ามา

16

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บดั น้ัน เสนีรับส่ังใส่เกษา
มาจดั แจงแต่งวอช่อฟ้า เสรจ็ แล้วก็พากนั คลาไคล

ฯ ๒ คำ ฯ เชดิ

๏ ครน้ั ถึงจึงบอกแกเ่ จา้ พราหมณ์ เลา่ ความจะแจ้งแถลงไข
บัดนพ้ี ระองคท์ รงภพไตร สง่ั ใหม้ ารบั ฉบั พลัน
ฯ ๒ คำ ฯ

จรเข้หางยาว

๏ เมื่อนน้ั เจ้าพราหมณ์เพราเพรศิ เฉิดฉัน
ในจิตรคดิ จะใครจ่ รจรัล ไปประสบพบกนั กบั ผัวรกั
แต่เมียพลดั พรากจากมา พระจะแสนโศกาเพยี งอกหัก
วนั นี้เขา้ ไปไดพ้ บภักตร์ จะรู้จักเมยี บ้างฤๅอย่างไร
คดิ คนงึ ถงึ ความเสนหา จะอดกล้ันโศกามใิ คร่ได้
เหน็ เขาแลดอู ดสใู จ ทำเมยี งเมนิ เดนิ ไปในศาลา

ฯ ๖ คำ ฯ

รา่ ย

๏ อาบน้ำชำระสระสรวย หวีผมเกล้ามวยแลว้ น่งุ ผ้า
มาขนึ้ วอสวุ รรณมิทันช้า ทัง้ สเี่ สนาก็นำไป
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

17

๏ มาถงึ ปราการกนั้ ช้ันสอง จงึ ลงจากวอทองผอ่ งใส
เถ้าแกท่ ้าวนางข้างใน ออกไปรบั เจา้ พราหมณ์ใหต้ ามมา

ฯ ๒ คำ ฯ เพลง

ช้าปี่

๏ เมอ่ื น้ัน พระมณีพิไชยใฝฝ่ นั หา
เห็นโฉมเจา้ พราหมณ์งามโสภา กิรยิ ารูปรา่ งเหมือนนางเมยี

แลว้ จะเปนยอพระกลิ่นเมียพี่ ที่พระชนนีขับเสีย
รอ้ นอกหมกไหมด้ ังไฟเลีย สำคญั คดิ วา่ เมยี กเ็ ขา้ มา
แย้มยิ้มหยอกยดุ ฉุดขอ้ มือ ไปไหนนอ้ ยฤๅพง่ึ เหน็ หน้า

พศิ วงหลงใหลไขว่คว้า อนิจาถอยหนพี ีไ่ ย
ฯ ๖ คำ ฯ

รา่ ย

๏ เมื่อนั้น เจา้ พราหมณป์ ดั กรคอ้ นให้
แลสบหลบเนตรภวู ไนย แย้มยิ้มละไปไปมา
คดิ คนงึ ถึงความเมอื่ ยามรัก สงสารพระทรงศกั ดเิ ปนนักหนา
ชลเนตรคลอคลองไนยนา เมียงเมินภกั ตราไมพ่ าที

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เม่อื น้นั พระมณพี ไิ ชยโฉมศรี
จงึ กมุ กรเจา้ พราหมณจ์ รลี มานั่งเหนอื แทน่ ทอ่ี นั เดียวกนั

18

คดิ พะวงสงไสยอยไู่ มว่ าย เหมอื นลมา้ ยยอพระกล่ินเมียขวัญ
จะใคร่รขู้ ้อขำสำคัญ จึงถามไถไ่ ปพลนั ทันที

นามกรของเจา้ นนั้ ช่อื ไร อยา่ ใส่ไคล้ย้อนยอกจงบอกพ่ี
สุรวิ งศพ์ งศเ์ ผ่าของเจ้ามี ฤๅกำเนิดเกิดทแ่ี ห่งใด

อนั ถ่ินฐานบ้านชอ่ งนอ้ งรกั แรกเรม่ิ เดิมสำนกั อยทู่ ไ่ี หน
บอกพ่ีเถดิ เจา้ พราหมณ์อย่าขามใจ เหตไุ รมาอยทู่ ศี่ าลา

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เม่อื น้นั เจา้ พราหมณ์ย้ิมเยือ้ นเบอื นหน้า
เสแสร้งแกล้วกล่าววาจา พระอย่ากนิ แหนงแคลงใจ
ตัวข้าชื่อว่าอารยิ พราหมณ์ขนานนามตามสงั เกตเพศไสย

บิดรมารดาข้าบรรไลย แต่อายขุ า้ ได้สบิ ปี
จงึ เทีย่ วสญั จรซอนซอก อยบู่ ้านนอกปลายแดนกรุงศรี

เรียนวิชาหาครูความรดู้ ี แลว้ มาอยู่ยังทศี่ าลา
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมือ่ นนั้ พระมณีนงิ่ ฟงั ให้กังขา
ถ้อยคำน้ำเสียงจำนรรจา เหมือนเสียงแก้วแววตาของพชี่ าย
ขนงเนตรเกษแก้มแยม้ เย้ือน ลม้ายเหมือนยอพระกล่ินโฉมฉาย

กิรยิ าพาทกี ็ขวยอวย ผิดชายนกั หนาน่าอศั จรรย์
ถอยถดขยดเข้านง่ั ชดิ ทอดสนทิ ตดิ ใจใฝฝ่ นั

จะใครด่ ูใหร้ สู้ ำคัญ เปนไรนนั่ กล่ินอายก็หายไป
น่งิ นกึ ตรกึ ถวลิ ยังกินแหนงจึงแสแสรง้ แกลง้ กลา่ วถามไถ่

ยามร้อนผ้าผ่อนเจา้ ห่มไย ซ้ือฤๅใครใหจ้ ึงไดม้ า
เนอื้ หนงั ดหี นอจะขอชม เจา้ พราหมณห์ ่มสมตวั นกั หนา

19

ฉุดชงิ ชายสไบไขวค่ วา้ ไนยนาแลลอดสอดดู
ไม่เห็นแยบคายกอ็ ายใจ ทอดถอนใจใหญแ่ ล้วยิม้ อยู่

แกเ้ ก้อนงั่ กดั ปูนพลู อดสูแกใ่ จไมเ่ จรจา
ฯ ๑๒ คำ ฯ

๏ เม่อื น้ัน เจ้าพราหมณ์ย้ิมพลางทางวา่
ผา้ ของขา้ นท้ี ห่ี ม่ มา ไปรักษาคนไขเ้ ขาให้ปนั
ไมเ่ คยพบผา้ ฤๅเอามือหยิบมใิ ช่ว่าผา้ ทพิ ย์ผ้าสวรรค์
ประเพณีชพี ราหมณ์พรหมจรรย์ หม่ ผ้ามากระนน้ั ตามธรรมเนียม
ข้าเจา้ นฤี้ ๅคนซื่อตาย ไมร่ ้ทู ำแยบคายอายเหนียม
เปนคนโง่เง่าไม่เทา่ เทยี ม สงบเสงีย่ มอยูต่ ามพราหมณ์ชี
อยา่ ทำลามลวนหาควรไม่ สบัดกรค้อนใหแ้ ล้วลุกหนี
ไปรับมาใหร้ กั ษาชนนี ก่นแต่เฝ้าเซา้ ซรี้ ำคาญใจ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เม่ือนัน้ พระมณีนกึ พะวงสงไสย
ดำเนินเดินตามเจา้ พราหมณไ์ ป รอเรยี งเคียงไหลช่ ำเลืองดู

จึงวา่ ตวั เจา้ ก็เปนชาย ไมพ่ อทจ่ี ะอายอดสู
หามาจะให้ปัดพศิ มง์ ู จงทำตามความรู้ที่เรยี นไว้
เคร่อื งเทศเครอื่ งไทยอะไรม่ัง พจี่ ะส่ังใหเ้ ขาเอามาให้
เหมอื นหนงึ่ กนั เองอย่าเกรงใจ จะต้องการส่ิงไรจงบอกเรา

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนัน้ เจา้ พราหมณ์ว่าร้อนใจไปไยเล่า
เครือ่ งเทศสมุนไพรกไ็ มเ่ อา ข้าเจา้ จะให้หายดว้ ยวทิ ยา

20

แมน้ พระมารดาฟื้นคนื คง พระองคจ์ ะให้อะไรขา้
จงให้ความสัตย์สญั ญา ต่อหน้าทง้ั ปวงเปนพยาน

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมือ่ นัน้ พระมณีพิไชยจึงว่าขาน
แม้นรกั ษาหายไมว่ ายปราณ จะทดแทนคณุ ทา่ นให้ถึงใจ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เจา้ เอยเจา้ พราหมณ์ ทงั้ นก้ี ็ตามอชั ฌาไศรย
นอ้ งรักจกั ประสงคส์ ง่ิ ใด พ่จี ะหาให้ดังใจนึก
ฤๅจะใคร่ไดเ้ มยี ที่สาวสาว ขาวขาวดีดีมไี มต่ รกึ
สมบตั วิ ัตถาโอฬารกึ จงเลือกนกึ เอาตามชอบใจ
เวน้ แต่ดาวเดือนดอกฟ้า นอกน้นั พ่ียาจะหาให้
เงนิ ทองของเขา้ จงเอาไป ส่ิงไรสารพัดไม่ขดั กนั

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมอ่ื นัน้ เจา้ พราหมณส์ ำรวลสรวลสนั ต์
จงึ ตอบวา่ เงนิ ทองของท้งั นั้น ข้าเปนพราหมณ์พรหมจรรย์ไม่ชอบใจ

ถา้ พระจะยอมไปเปนขา้ จงึ จะรับรกั ษามารดาได้
ครูขา้ กำชับบังคบั ไว้ มิใหเ้ อาสินบนเงนิ ทอง

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมือ่ นั้น พระมณไี ดฟ้ ังก็เศรา้ หมอง
นิ่งนกึ ดำริหต์ ริตรอง ดูทำนองโฉมงามเจ้าพราหมณน์ ี้
จะเปนยอพระกลน่ิ ดอกกระมัง จึงจำเภาะเจาะจงั เอาตวั พ่ี

21

แกว้ แหวนเงนิ ทองลว้ นของดี สาวสรรคส์ ตั รไี ม่ชอบใจ
จำจะยอมถอ่ มตัวเปนทาษา ตามไปถงึ ศาลาทอ่ี าไศรย
จะเปนชายฤๅหญงิ ยงั กรงิ่ ใจ กจ็ ะไดส้ ำคญั เปนมั่นคง
คดิ พลางทางว่ากับเจา้ พราหมณ์ พ่ีจะตามใจน้องตอ้ งประสงค์

จงชว่ ยชบุ ชวี าตม์มาตุรงค์ ใหฟ้ ืน้ คนื คงเปนมา
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อน้ัน เจา้ พราหมณ์ได้ฟงั ก็หรรษา
ชวนองค์พระมณลี ลี า เข้ามาสสู่ ถานพระมารดร

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ จงึ หยบิ เอาหมากมาสามคำ เศกทำตามท่ีโกสีย์สอน
สำรวมจิตรใจให้แน่นอน ประนมกรมสั การอา่ นมนต์
ฯ ๒ คำ ฯ ตระ

เช้อื

๏ โอมอสรพศิ ม์ฤทธ์ิกลา้ งทู ับสมิงคลาเปนตน้
งูเหา่ งงู อดตอดคน กน้ ขบจงอางขวา้ งคอ้ น
พระอินทร์ตรัสใช้ใหก้ มู า รอ้ งเรียกรอ้ งหาอยา่ ซุ่มซ่อน
ตัวใดท่ขี บนางจนั ทร เรง่ มาสูบถอนเอกพศิ มไ์ ป
แม้นชา้ จะใชใ้ ห้จักรเพ็ชร ตดั หวั ขาดเด็ดไม่อยไู่ ด้
อา่ นจบเจ็ดคาบกำราบไป บัดใจงรู า้ ยกเ็ ลื้อยมา

ฯ ๖ คำ ฯ คกุ ภาษ

22

ร่าย

๏ เม่ือนั้น พระมณตี ระหนกตกประหมา่
สิ้นสตติ กใจภาวนา กลัวงหู ตู าเหลือกลาน
ร้องเรยี กเจ้าพราหมณใ์ หช้ ่วยด้วย พีจ่ ะมว้ ยชีวงั สังขาร
น้อยฤๅนนั่ มันเลิกพังพาน ไม่ได้การแลว้ จะไปขา้ งไหนดี
ฝ่ายฝงู สาวสรรค์กำนลั ใน ตกใจตัวส่ันขวัญหนี

ร้องกรีดหวีดว่ิงเปนสงิ คลี องึ มไ่ี ปทัง้ วงั ใน
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด เจรจา

๏ เมือ่ นน้ั โฉมเจ้าพราหมณ์ชศี รใี ส
จึงร่ายพระเวทอันเรอื งไชย เป่าไปไดค้ รบสามครา

งเู ห่าเขา้ สูบเอาพศิ มส์ ง โดยดงั จำนงปราถนา
แลว้ เลอื้ ยหายไปมไิ ด้ช้า กัลยาคอ่ ยรสู้ กึ องค์

ฯ ๔ คำ ฯ รวั

๏ เจา้ พราหมณจ์ งึ สั่งไปทนั ใด เรง่ ให้เอาน้ำมาโสรจสรง
สคุ นธาลบู ไลช้ โลมลง นางโฉมยงคงคืนฟ้นื กาย
ฯ ๒ คำ ฯ สาธกุ าร เจรจา

ชา้

๏ เมอื่ น้นั ทา้ วพิไชยนรุ าชฤๅสาย
พิศโฉมเจา้ พราหมณ์งามเพรศิ พราย เหมือนลม้ายเทวีศรีสะใภ้

หน้าตาจมิ้ ลิ้มยม้ิ แยม้ สองแกม้ นวลลอกดังปอกไข่

23

จงึ ตรัสแก่พระมณีพไิ ชย เหมอื นเมยี เจา้ กะไรไม่ผดิ เพี้ยน
เอวองค์อรชรอ้อนแอน้ แขนแมนรปู รา่ งเหมือนอยา่ งเขียน

กริ ยิ ามารยาตรแนบเนยี น พระพนิ จิ พิศเพียนไม่วางตา
ฯ ๖ คำ ฯ เชดิ

ร่าย

๏ แล้วมีบญั ชาว่าไป เจ้าพราหมณ์ไดม้ ีคณุ หนักหนา
อยู่ดว้ ยพ่อเถิดอย่าไคลคลา บิดาจะเล้ียงเปนโอรส

สาวสรรคก์ ัลยาจะหาให้ อย่าพะวงสงไสยพ่อไมป่ ด
เข้าของนองเนืองเคร่ืองยศขอเชิญโอรสครอบครอง

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น เจา้ พราหมณน์ บน้วิ ทลู สนอง
โภไคยไอสูรยม์ ลู มอง แกว้ แหวนเงนิ ทองไม่ตอ้ งการ
พระมณพี ิไชยไดส้ ัญญา จะยอมไปเปนขา้ กระหมอ่ มฉาน
อย่าใหเ้ สยี สตั ย์ปฏั ญิ าณ จะขอรบั ประทานเอาตวั ไป

วา่ แล้วเข้าไปในที่เฝ้าพระชนนศี รใี ส
จงึ บังคมทลู ถามความใน เขาเลื่องฦๅอื้อไปทัง้ ภารา
กม็ ิใชก่ ลการของชพี ราหมณ์ แต่มคี วามสงไสยอยู่นกั หนา
นึกแหนงจะใครแ่ จ้งกจิ จา พระมารดาจงเลา่ ใหเ้ ขา้ ใจ
ไหนว่ายอพระกลิ่นนั้นกินแมว จริงแลว้ เหมือนฦๅฤๅไฉน
สบั ปลบั ก็จะกลับตายไป ลูกช่วยไมไ่ ดพ้ ระมารดา

ฯ ๑๐ คำ ฯ

24

๏ เมื่อนัน้ นางจันทรรอ้ นใจเปนนกั หนา
ครั้นจะไม่แจง้ อรรถดังสจั จา กก็ ลวั วา่ จะตายวายชีวิตร
แตเ่ หลียวหนา้ เหลยี วหลังกะทง่ั ไอ ลอายใจอดิ เออื้ นเบอื นบิด
ค่อยขยดเข้าไปให้ชิด แลว้ สกิดบอกความเจา้ พราหมณไ์ ป

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เดมิ เอยเดมิ ที พระมณลี กู ยาไปปา่ ใหญ่
ไดน้ างคนหน่งึ ในปล้องไม้ หลงใหลพิศวาศเทวี
กรงุ จนี ให้มรี าชสาร ไปแตง่ การกบั ลกู สาวศรี
พระมณพี ิไชยไม่ไยดี รักเมียขา้ งนี้อยูม่ ไิ ป
แมก่ ลัวกรุงจีนจะโกรธา ยกมารบพุ่งเอากรงุ ใหญ่
จึงแกล้งทำแยบยนตก์ ลใน พาโลลูกสใภด้ ว้ ยมารยา
เอาเลอื ดวิฬาร์ทาปากนาง ตดั หางแซมใสใ่ นเกษา
แลว้ ขบั ไลไ่ ปเสยี จากภารา พาลผดิ ฤษยานางทรามไวย
แมท่ ำชวั่ น่าชงั ทั้งนี้ เพราะจะใหพ้ ระมณีมเี มยี ใหม่
บอกเจา้ ตามจรงิ ทุกสิ่งไป อยา่ ใหแ้ ม่ม้วยชวี ี

ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา

๏ เมอื่ น้นั ทา้ วพไิ ชยนรุ าชเรอื งศรี
แอบองคแ์ ฝงบงั ฟังคดี ภมู ีกรวิ้ กราดตวาดไป
ชชิ ะพระมเหษีเอก ทำยอ้ นยอกโหยกเหยกอย่างนไี้ ด้
ใสถ่ ้อยรอ้ ยความลูกสใภ้ ช่างไมส่ มเพชเวทนา
ขบั เมยี เขาพรากไปจากผวั ทำตามใจตวั ไมป่ ฤกษา
ถึงกรงุ จีนจะยกทพั มา ก็สู้กนั สิหนาไมพ่ รั่นใจ
ทัง้ แก่กะน้ีไม่หนีเลย มึงไม่เคยเหน็ ฝีมือฤๅไฉน

25

ชาติเจ๊กกินหมจู ะสไู้ ทย โกฏิแสนแน่นไปกไ็ มก่ ลัว
น้อยฤๅอีเถ้าเจ้าความคิด ทจุ ริตอิจฉาขายหนา้ ผัว
เศกสรรปน้ั นำ้ เปนตัว เอออะไรไม่กลัวเขานนิ ทา
นน่ั แลเทวดาจึงอาเภท ปติเหตงุ ูขบสมน้ำหนา้
เจ้าพราหมณ์แกไ้ ขขนึ้ ไยนา ใหม้ นั มว้ ยชวี าสาแกใ่ จ
พระพิโรธโกรธเกรี้ยวเคย้ี วฟัน กระทบื บาทตัวสนั่ มนั ไส้
ฉวยได้ไมเ้ รยี วเลี้ยวไป แลน่ ไล่ตรี ันนางจนั ทร

ฯ ๑๔ คำ ฯ เชดิ

๏ เม่ือนั้น เจา้ พราหมณ์พิดทูลผนั ผ่อน
นางได้รบั ผดิ แล้วบิดร ขอโทษโปรดกอ่ นอยา่ โบยตี
เหตุนเี้ พราะข้ามาไต่ถาม นางจงึ บอกออกความถ้วนถี่
จะเปนบาปเปนกรรมแก่พราหมณ์ชี ภูมจี งทรงพระเมตตา

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมอื่ นั้น ทา้ วพิไชยนรุ าชจงึ รอ้ งว่า
จะขอโทษมันไวไ้ ยนา ชังน้ำหนา้ ตเี สียให้แทบตาย
เจา้ พราหมณซ์ ้ำวอนกอ็ ่อนจิตร ไดค้ ิดดเุ ดือดค่อยเหอื ดหาย

จึงวา่ มันพาพอ่ ได้อาย พอดีพอรา้ ยไปเม่ือไร
นีห่ ากพอ่ เห็นแกเ่ จ้าพราหมณ์ ถา้ คนอื่นมาห้ามหาฟงั ไม่

วา่ แลว้ ทิ้งไมเ้ สยี ทันใด ลงนั่งหอบหายใจไปมา
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา

๏ เมอื่ น้ัน โฉมเจ้าพราหมณน์ อ้ ยเสนหา
จงึ ชวนพระมณีพี่ยา เวลาเยน็ แล้วจะดว่ นไป

26

เปนห่วงบว่ งใยอะไรเล่า ลกู เต้าเมยี มอี ยู่ท่ีไหน
จะหนักหน่วงชักชา้ อยู่ว่าไร มาจะไปยงั บรรณศาลา

ฯ ๔ คำ ฯ

สามเส้า

๏ เมอื่ นั้น พระมณีฟงั ความเจา้ พราหมณว์ า่
ทอดถอนใจใหญไ่ ปมา แล้วผัดผาว่ากลา่ ววิงวอน
วนั นีเ้ วลาก็สายัณห์ จงอยนู่ อนด้วยกนั สกั คนื ก่อน

ต่อรุ่งรางสา่ งแสงทินกร จงึ คอ่ ยบทจรกเ็ ปนไร
พี่จะให้ไพร่พลมนตรี ออกไปสง่ ถึงท่ีอาไศรย
มรคาปา่ กวา้ งทางไกล จงขี่วอกลับไปเหมอื นเม่ือมา
เขาจะได้ฦๅเล่าว่าเจา้ พราหมณ์ ขว่ี อคนหามงามนักหนา
เปนหมองูรเู้ วทมนตรา จะซอ้ งสาธุการสำราญใจ

ฯ ๘ คำ ฯ

รา่ ย

๏ เมอ่ื น้ัน เจ้าพราหมณก์ ลา่ วแกลง้ แถลงไข
ขา้ เปนพราหมณช์ ีนไ้ี ซ้ จะนอนในร้ัววงั ไมบ่ งั ควร
เคยอยูแ่ ตศ่ าลาพนาเวศ รักษาพรตตามเพศพระอศิ วร
อย่าเฝ้าหนว่ งหนักชกั ชวน สายณั ห์ตวันจวนจะด่วนไป

ฯ ๔ คำ ฯ

โอป้ ี่

27

๏ เมอ่ื นัน้ สองกระษตั ริยโ์ ศกศลั ย์ไม่กลนั้ ได้
สงสารลกู นอ้ ยกลอยใจ จะต้องไปเปนข้าพราหมณช์ ี

จะกะตรกกะตรำลำบาก อดอยากอยูใ่ นไพรศรี
รนิ้ ยงุ บงุ้ ร่านใชพ่ อดี ทกุ ทวิ าราตรจี ะตรอมใจ
ยากแค้นเพราะแทนคุณแม่ ความสตั ยเ์ ทย่ี งแทจ้ ะหาไหน

พลางกอดลกู ยาโศกาไลย สอึกสอืน้ ไหไ้ ปมา
ฯ ๖ คำ ฯ โอด

รา่ ย

๏ เมื่อนัน้ โฉมเจ้าพราหมณน์ อ้ ยคอยท่า
เห็นสามกระษตั รยิ ์โศกา พไิ รรำ่ ลำ่ ลาอาไลย
จึงแย้มเยือ้ นเตอื นองคพ์ ระมณี อย่าโศกีเศรา้ สรอ้ ยละหอ้ ยไห้
แมน้ รำฦกถึงสองทา้ วไท จงึ กลับมาก็ไดเ้ ปนไรมี
ว่าแลว้ ถวายบังคมลา บิตเุ รศมารดาท้งั สองศรี
ผันภกั ตร์กวกั เรยี กพระมณี อย่าเซ้าซ้มี าไปด้วยกัน

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่อื นั้น พระมณเี ศรา้ สร้อยโศกศลั ย์
บังคมลาสององคท์ รงธรรม์ แลว้ จรจรลั เดินตามเจา้ พราหมณไ์ ป

ฯ ๒ คำ ฯ ทยอย

โอล้ าว

28

๏ เดินพลางมากลางมรคา พระราชาทอดถอนใจใหญ่
โอว้ า่ เวรกรรมได้ทำไว้ จำไปเปนข้าเจ้าพราหมณช์ ี
อกเอย๋ ไมเ่ คยจะตกยาก ลำบากเคืองข้องหมองศรี
ไมร่ ู้ใจนายร้ายฤๅดี แล้วจะตกี ันเล่นไมเ่ วน้ วนั
ครน้ั เจา้ พราหมณเ์ หลยี วมาทำหน้ามอ่ ย อยุ หนา่ หนามยอกน้อยไปฤๅนนั่
ทำนว่ิ ภกั ตร์ชักหนามฉับพลัน คอ่ ยเหยียบยันโขยกเขยกมา
เหน็ สมุ ทุมพมุ่ ไม้ในไพรชัฎ เกรงกรงิ่ สิงสตั วท์ ่ีในปา่
เดินพลางทางนึกภาวนา ร้องเตือนนายขาระวงั ตวั
ได้ยินเสียงสกุณีมี่ก้อง ชนีเหนย่ี วไมร้ อ้ งเรยี กผวั
ใจหายกายส่ันอย่รู วั รัว คดิ กลวั ผสี างปรางควาน
ดำเนนิ เดินตามเจา้ พราหมณ์ไป เปลีย่ วเปลา่ เศรา้ ใจในไพรสาณฑ์

ข้ึนเขาขา้ มน้ำลำธาร ดดั ดัน้ ดงดาลเดนิ มา
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด

รา่ ย

๏ เม่ือนนั้ เจ้าพราหมณช์ มี ีใจหรรษา
มาถึงทีบ่ รรณศาลา จึงพาพระมณีเขา้ ไป

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ นัง่ เหนือเส่อื สาดลาดปู ท่ีเคยอยูน่ ทิ ราอาไศรย
พศิ ภักตร์ภัศดาก็อาไลย สงสารภูวไนยชา่ งไม่รู้
ครัน้ จะลามลวนชวนชิด กเ็ กรงเดชโกสิตบิดาอยู่
แตย่ มิ้ ใหญย่ ้ิมน้อยชมอ้ ยดู คิดอดสแู สรง้ กล่าวเปนมารยา
วนั นี้เหนอ่ื ยนักจักเอนหลังพระองคจ์ งน่งั ระวงั ขา้

29

ต่อดึกหน่อยจึงค่อยนิทรา แล้วหลบั ตาน่งิ อยดู่ ทู ว่ งที
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมือ่ น้ัน พระมณพี ิไชยเรืองศรี
ถ่อมตวั กลวั เกรงเจ้าพราหมณ์ชี ปรนิบตั ิพดั วีให้นิทรา

ฯ ๒ คำ ฯ

ชมโฉม

๏ นง่ั พินจิ พศิ โฉมเจา้ พราหมณน์ อ้ ยแช่มช้อยน่ารักเปนนักหนา
พศิ ภกั ตรผ์ ่องผวิ โสภา ดังจนั ทราทรงกลดหมดมลทนิ

รปู ทรงสารพดั ไม่ขดั ขวาง เหมอื นละมา้ ยคลา้ ยนางยอพระกลิน่
นวลลอองสองแกม้ ดงั ลกู อิน จะแย้มเย้อื นเหมือนสน้ิ ทุกสง่ิ อัน

ฤๅจะเปนนวลลอองน้องแก้ว เมยี พคี่ นนแ้ี ล้วเปนแม่นมน่ั
พลางขยดเขา้ ใกล้ใจผูกพนั ลืมองค์หลงสำคญั วา่ กลั ยา
ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ ค่อยยกพระหัดถ์สัมผัสตอ้ ง ยม้ิ พลางทางมองดูหนา้
เหน็ คล้ายลมา้ ยเหมอื นไม่เคลอื่ นคลา พระราชาสรว้ มสอดกอดรัด

คร้ันเจ้าพราหมณ์ถามมาวา่ อะไร กต็ กใจแก้เกอ้ ว่ายุงกัด
ทำเหลยี วหลงั เหลียวหนา้ คว้าพดั โบกปัดพดั วีไปมา
ฯ ๔ คำ ฯ

30

๏ เม่อื นนั้ เจา้ พราหมณย์ ม้ิ ละไมอยใู่ นหนา้
ดูทำนองพระมณีพย่ี า เห็นวา่ จะจลู่ ่วู วู่ าม

จึงพลิกตวั ถอยถดด้วยอดสู ลุกข้ึนนัง่ ตง้ั กระทขู้ ถู่ าม
เอออะไรไมค่ วรมาลวนลาม เซา้ ซช้ี ีพราหมณ์เปนนา่ ชงั

ขา้ น้ีมิใชน่ ายหมอ่ มฤๅ ไมน่ บั ถอื ยำเยงเกรงใจม่ัง
จะว่าโดยดีกม็ ิฟงั ไม้เรียวจะลงหลังสกั ที

จงบรรธมเสยี เถดิ ให้สำราญ รำคาญวานอยา่ จจู้ ้ี
วา่ แลว้ นทิ ราในราตรี พระมณพี ไิ ชยกไ็ สยา
ฯ ๘ คำ ฯ ตระ

๏ ร่งุ เอยรุ่งราง แสงทองสอ่ งสว่างเวหา
เจา้ พราหมณน์ ิง่ นึกตรึกตรา จะลองใจภศั ดาสามี

ท้าวเธอจะสตั ยซ์ ือ่ อยฤู่ ๅไม่ ฤๅจะเปนไฉนให้รูท้ ี่
คดิ พลางทางว่าไปทันที นี่แนพ่ ระมณสี รุ วิ งศ์
วันน้ตี ัวข้าจะคลาไคล ออกไปหมิ วาปา่ รหง
เท่ยี วหายาหยกู ในแดนดง พระองค์จงอยเู่ ฝ้าศาลา
ข้าจะใหน้ ้องสาวมาอยู่เพื่อน เสอื สางกลางเถือ่ นดนุ ักหนา
สั่งเสียเสร็จสรรพกำชับกำชา แลว้ ลงจากศาลาคลาไคล

ฯ ๘ คำ ฯ เพลง

๏ ลดั แลงแฝงพ่มุ พนาลี มิใหพ้ ระมณสี งไสย
จงึ ร่ายเวทมัฆวานประทานไว้ จำแลงแปลงไดด้ ังใจปอง

ฯ ๒ คำ ฯ ตระ

ชมตลาด

31

๏ รปู ทรงคงเปนยอพระกลน่ิ งามสิ้นสารพัดไมข่ ัดขอ้ ง
ผวิ พรรณโสภาดังทาทอง ผดั หน้านวลลอองยองใย
นงุ่ โกไสยพัตรผา้ ทิพย์ ห่มสที ับทิมขลบิ สุกใส

เขม็ ขัดประจำยามงามวิไลย สอดใสส่ รอ้ ยสอิ้งพร้ิงพราย
สวมกำไลใส่แหวนงเู พช็ ร์ แตล่ ะเม็ดคา่ เมอื งเรอื งฉาย
อรชรอ้อนแอ้นกรีดกราย ดำเนินเดนิ ชายเข้ามา
ฯ ๖ คำ ฯ ฉุยฉาย

ร่าย

๏ คร้ันใกลศ้ าลาอาไศรย จึงแอบแฝงพ่มุ ไม้ใบหนา
ชำเลอื งแลลอดสอดตา ดอู งค์ภัศดาสามี

เห็นพระนัง่ กอดเขา่ เจ่าจกุ ทนทุกข์ทรมานหมองศรี
จงึ เด็ดดอกบบุ ผามาลี ท้งิ ไปในท่ีศาลา

แล้วลอบเอาไมเ้ ข้าไปเคาะเสียงดังเกาะเกาะท่รี มิ ฝา
กำทรายปรายซดั ข้นึ หลงั คา แกล้งหลอนราชาให้ตกใจ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่ือน้นั พระมณนี กึ พะวงสงไสย
อะไรนผ่ี ีสางฤๅอย่างไร อกใจทึกทึกนกึ ภาวนา
ตวั สน่ั เทาเทาหนาวสทา้ น แอบบานประตูนง่ิ พิงฝา
ให้สยดสยองพองโลมา ตกประหมา่ หน้าซดี ไม่สมประดี
แลว้ แขงจติ รคดิ มานะเหนบ็ รง้ั ลกู ผ้ชู ายจะมานั่งกลวั ผี
ลุกขยบั ลับล่ออยหู่ ลายที ภมู ียา่ งย่องไปมองดู

32

ฯ ๖ คำ ฯ เพลง

๏ ไม่เห็นสิง่ ไรสงไสยนกั เสียงเคาะกุกกักตระหนกั หู
โปรยปรายทรายลงตรงกบทู จะวา่ นกวา่ หนูกผ็ ดิ ไป
เห็นจะเปนปศิ าจปลาดจรงิ เดด็ ดอกไมท้ ิ้งมาใหม่ใหม่

ยิง่ คิดคร้ามครน่ั พรน่ั ใจ เหลียวไปแลมาอยชู่ า้ นาน
แลว้ กลบั คืนเขา้ มาศาลาไลย อกใจไสพ้ งุ พล่งุ พล่าน

ตงั้ สตภิ าวนาสมาทาน ปากบน่ ลนลานไม่ลมื กลวั
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่อื นัน้ ยอพระกลน่ิ กล้ันย้ิมแยม้ หวั
ในจิตรคิดจะใครใ่ หเ้ ห็นตวั เยา้ ยั่วผัวเล่นจะเปนไร
คิดพลางย่างเยอ้ื งจรลี ออกจากทส่ี ุมทุมพุ่มไมใ้ หญ่
กรายเตรก่ รีดเลบ็ เก็บดอกไม้ ใส่ไคลท้ ำหลงตรงเขา้ มา

ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉ่งิ

ช้าป่ี

๏ เม่อื น้ัน พระมณีผันแปรแลหา
เหน็ นางสาวสรรคก์ ัลยา ทรงโฉมโสภาลาวรรณ
คิดพะวงสงไสยใครนีห่ นอ เหมอื นนางยอพระกลน่ิ ดงั แกล้งสรรค์
แก้มคางขนงเนตรเกษกรรณ สารพันไม่ผดิ สกั นิดเดยี ว
พระน่ิงนึกตรึกไตรไปมา เสนหาป่วนปนั่ กระสันเสยี ว
งามลมอ่ มพรอ้ มพร้งิ จรงิ เจียว พศิ วงหลงเหลยี วไม่วางตา

ฯ ๖ คำ ฯ

33

ร่าย

๏ แลว้ นึกกนิ แหนงแคลงความ ฤๅนอ้ งสาวเจ้าพราหมณก์ ระมงั หนา
ส่ังไว้เม่ือจะไปจากศาลา จะให้น้องสาวมาอยเู่ พอ่ื นกัน
ชรอยนางนฤมลคนน้ี เปนนอ้ งเจ้าพราหมณ์ชแี ม่นมนั่

พ่ชี ายเขาจะโกรธทำโทษทัณฑ์ ตีรนั เล่นเปลา่ เปล่าไมเ่ ข้ายา
พระอุส่าหเ์ งอื ดงดสกดจติ ร มิได้คิดม่งุ มาดปราถนา
แกลว้ ทำสำรวมหลับตา กม้ หนา้ นงิ่ อย่ไู มด่ ไู ป
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่ือนั้น ยอพระกลนิ่ กลน้ั ยิม้ มใิ คร่ได้
จงึ แกลง้ แสร้งเสใส่ไคล้ เข้าไปในบรรณศาลา
ทำเปนไมเ่ ห็นพระโฉมยง หยดุ ยัง้ นง่ั ลงที่ตรงหนา้
แกลง้ ขยดถดถอยหลงั มา ใหใ้ กล้หดั ถภ์ ัศดาจะดูที

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อน้นั พระมณนี ึกกลวั เอาตัวหนี
ถอยไปใหห้ า่ งนางเทวี ภมู ตี รติ รึกนกึ ใน
ฤๅจะเปนยอพระกลนิ่ นอ้ งรกั ประหลาดนักกล่ินอายหายไปไหน
จะเปนนอ้ งของนายแล้วแนใ่ จ รูปรา่ งช่างกะไรเหมือนเมยี เรา
นเ่ี กรงใจเจ้าพราหมณ์อยนู่ กั หนา ถ้าว่าหาไมท่ ไี่ หนเลา่
ลำลำจะตระโบมโลมเลา้ แลว้ ได้คิดกอดเข่าเศร้าใจ

ฯ ๖ คำ ฯ

34

๏ เมื่อน้นั ยอพระกล่ินผินหลงั เขา้ นั่งใกล้
ทำเปนมดกัดสบัดไบ ล่อเล่นลองใจพระสามี
หนั หลังใหก้ ระทั่งถูกกาย แลว้ ร้องกรีดหวดี ว้ายนา่ บดั สี
เอออะไรใครมานั่งอยทู่ ่ีน้ี ฟ้าผเ่ี ถิดไม่ทนั เห็นเลย
วา่ พลางทางชมา้ ยชายหางตา สบเนตรเชษฐาทำหน้าเฉย
จงึ เสแสร้งแกล้งกลา่ วภปิ รายเปรย อกเอ๋ยเปนนา่ ลอายใจ
เหตุผลอยา่ งไรไฉนนี่ เจ้าหนุ่มน้อยคนน้มี าแต่ไหน
งว่ งเหงาเจ่าจกุ ทกุ ขถ์ งึ ใคร ทำไมมาอยใู่ นศาลา

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมือ่ นน้ั พระมณฟี งั นางพลางวา่
จะเลา่ ใหฟ้ งั แตห่ ลงั มา แมข่ ้างูขบสลบไป
เจ้าพราหมณ์ชีมีคุณไปรกั ษา แกไ้ ขมารดาไว้ได้
ขา้ จงึ ตามมาเปนข้าไท ท่านใช้ใหเ้ ฝ้าศาลา
นง่ั อยเู่ มื่อกี้ผหี ลอก เด็ดดอกไมท้ ้ิงแลว้ เคาะฝา
ชรอยผผี ู้หญิงมารยา พอใจข้าแกลง้ หยอกหลอกลอ้
นางสาวน้อยคนนอ้ี ยู่ท่ีไหน จิตรใจแกล้วกลา้ นกั หนาหนอ
เสือสางกลางไพรไม่ยอ่ ท้อ ธรุ ะขอ้ ไรเล่าเจ้าจงึ มา

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมอ่ื นั้น ยอพระกลนิ่ กล่าวแกลง้ แสร้งว่า
จะบอกความตามตรงอยา่ สงกา ตวั ขา้ เปนน้องเจา้ พราหมณช์ ี

พข่ี า้ มาแวะสัง่ ไว้ วา่ จะไปเที่ยวปา่ พนาศรี
กำชับกำชาให้ข้านี้ มาอยู่เพือ่ นพ่ที ี่ศาลา
ผีสางกลางป่าน้ที ายาด พอใจหลอกคนข้ีขลาดนักหนา

35

วา่ พลางยิ้มลไมไปมา แลว้ ชายตาแลดภู วู ไนย
เห็นพระน่ังน่งิ ไมต่ ิงกาย ทำแยบคายขยดถดเข้าใกล้

ไฮน้ า่ บดั สีนอ่ี ะไร เฝา้ ดูคนไปไดไ้ มว่ างตา
เจ้าข้าเอ๋ยไม่เคยพบเห็น มายักคว้ิ หยอกเล่นไดต้ อ่ หน้า
ทำแสนงอนค้อนใหด้ ้วยมารยา สมเพชเวทนาเปนน่าอาย

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ เมอ่ื นนั้ พระมณีนกึ ในใจหมาย
แม้นมใิ ช่น้องของนาย นางน้ีดรี า้ ยตายราบเรา
คิดพลางทางว่าน่แี นน่ าง อะไรชา่ งพาโลกนั เปล่าเปล่า
ไม่เหน็ ไม่ร้เู ลยดูเอา ขา้ ยกั คิ้วหยอกเจ้าเมือ่ ไรมี

นงั่ อยู่ดดี ีที่ศาลา เจ้ามานั่งเบยี ดเสียดสี
ไม่อดสดู เู อาเล่าเถดิ ซ้ี ย่ิงหนยี ง่ิ ขยับตามมา
จะให้เปนอย่างไรไปอกิ เล่าจนข้าเจา้ ถอยหลงั กระทั่งฝา
คบั แคบแทบจะตกศาลา นเ่ี นอ้ื จะมาแกลง้ กนั
เจ้าก็เปนสาวศรีพก่ี ห็ นมุ่ ยังกำดดั กลดั กลุม้ หุนหนั
อย่าทำเซา้ ซอ้ี ยา่ งนอ้ี ยา่ งนั้น ลกู เมียข้ามันกไ็ มม่ ี
ฉวยกะไรเพลี่ยงพลำ้ สริ ำคาญ ข้าข้คี ร้านเกีย้ วชจู้ ้จู ี้
จะขุ่นเคอื งเบื้องนา่ เปนราคี อยูค่ นเดยี วเถิดซที ี่ศาลา
ตัวข้าจะอยูด่ ว้ ยไมไ่ ด้ จะลาไปอาบน้ำที่ตนี ท่า
ทำไมมิให้ไคลคลา มายือ้ ยุดฉุดครา่ ไว้วา่ ไร

ฯ ๑๔ คำ ฯ

๏ หม่อมเอยหม่อมพ่ี ชา่ งพาทเี ชือนแชแก้ไข
อยู่ด้วยกันดดี ีจะหนไี ป ทำไมมิใหย้ ุดยอื้

36

พ่ีพราหมณใ์ ห้ขา้ มาคุมตัว หนีไปไมช่ วั่ อยู่เราฤๅ
อย่าพกั สำออยให้ปล่อยมอื วงิ่ ตอื๋ ไปสิไลเ่ จ้าไม่ทนั

หม่อมเปนทาษาพง่ึ มาใหม่จะต้องคมุ ตัวไว้ให้มั่น
แมน้ มีผขู้ ายนายประกัน เช่นนั้นแล้วขา้ จะวา่ ไร

นัง่ ลงดดี พี ่อี ยา่ ด้ือจะต้องถูกผกู มือน้ำตาไหล
ดดู ๋ฮู ดึ ฮัดสบดั ไป ชา่ งไมก่ ลัวนอ้ งของนาย

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ อย่าเอยอย่าวา่ ตวั ขา้ ไมค่ ดิ หนีหาย
ถึงท้งั ยากอยา่ งนี้กม็ อี าย ไมพ่ กั หาผ้ขู ายนายประกัน
เจ้าพราหมณ์ไปพาเอามาไว้ หวงั จะให้ใชส้ อยค่อยขยัน
ปรนิบัติวัตถากทุกวัน โดยฉนั เหมือนเช่นเปนข้าไท
ใช่จะมาพาให้หม่อมน้องสาว สำหรับเล่นซักส้าวกห็ าไม่
การอ่นื จะใชส้ อยไมน่ อ้ ยใจ นอี่ ะไรเซา้ ซ้ไี ปทีเดียว
ไมไ่ ดห้ ลบั ไดม้ ่อยสกั หนอ่ ยหน่งึ หยกิ ท้งึ ข่วนขา้ จนขาเขียว
น้องนายคนนด้ี จี ริงเจยี ว ขอ้ แขงแรงเร่ยี วครนั ครนั

มายอ้ื ยดุ ฉุดผูช้ ายเช่นน้ี เห็นดีแก่ใจฤๅไรนั่น
เจ้าสาวพ่ีหน่มุ จะคุมกนั เหมอื นดนิ ดำกำมะถนั อยใู่ กล้ไฟ

ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ ไม่เอยไม่รู้ จะเซ้าซ้มี ิให้อยศู่ ุขได้
ใครใช้ใหม้ าเปนขา้ ไท อยา่ พกั คิดติดใจไค้แคะ
จะเปนกะไรก็ใหเ้ ปน จะลากลถู่ ูเลน่ กระนนั้ แหละ
สาแก่ใจไมเ่ สงีย่ มเลยี มและ อยา่ พกั แกะไปเลยไมว่ างมือ
ตัวข้าเปนนอ้ งของนาย จะล้อเล่นตามสบายไม่ได้ฤๅ

37

จะตะโกนโพนทนาว่ายุดยื้อ ก็ตามเถดิ ไมถ่ อื กับนินทา
ยืนอยูน่ ท่ี เ่ี ดียวใหแ้ น่นิ่ง อยา่ ไหวตงิ นง่ิ อยู่อยา่ เงยหน้า
อย่าแลอยา่ เหลยี วอย่าพูดจา หลบั หหู ลบั ตาเสียอยา่ ดู
แมน้ ไมฟ่ ังยงั ขนื จะดุกดิก จะหยิกใหก้ ลัวตัวเปนหนู

ว่าคนพลอ่ ยพลอ่ ยร้อยประตู เจ้าชา่ งรูช้ อบผดิ ความคดิ ดี
ฯ ๑๐ คำ ฯ

๏ แสนเอยแสนแขนง ขืนแกล้งทาระกำทำพี่
จะบังคับยบั เยินไปอยา่ งน้ี ยากทจี่ ะประกอบใหช้ อบใจ

จะขอตัวกลวั หนกี ม็ ฟิ ัง ลากลถู่ ูกังกันไปได้
เจา้ พราหมณ์มาเถิดคะไมล่ ะใคร จะบอกกล่าวเลา่ ใหส้ น้ิ ไสพ้ งุ
เจ้าอยา่ มาทา้ ทายเลยี มลอ้ ไมย่ ่อทอ้ ถอยหลงั เหมอื นอย่างกงุ้

จะอื้อฉาวกลา่ วโทษให้โกรธฟงุ้ ถ้ามิยงุ่ ย่ิงอยกู่ ็ดูเอา
นายขามาดูหมอ่ มน้องสาวจะมาเล่นซกั สา้ วกับข้าเจา้
อุยหนา่ ไหลจ่ ะหลุดฉุดเบาเบา ยว่ั เยา้ อย่างน้ขี า้ มเิ คย
เออมาโนน่ แลว้ แน่เจ้าพราหมณ์ นอ้ งสาวทำงามเจ้าพราหมณ์เอ๋ย
จะนง่ั ทีไ่ หนไม่ไดเ้ ลย เฝา้ เทลาะเยาะเยย้ ยุดยอื้
เจ้าพราหมณไ์ ม่อยไู่ ม่รเู้ ห็น เปนไรก็เปนไปเถิดฤๅ

ลำลำจะขยบั จับข้อมอื แลว้ ร้อื ถอยหลงั ร้งั รา
ยม้ิ พลางทางว่าเจา้ อยา่ เล่น พ่ีชายมาเหน็ จะโกรธข้า

ไวใ้ จจงึ ใหเ้ จา้ มา อยเู่ ฝา้ ศาลาดว้ ยกัน
เดยี๋ วนี้เลา่ เจา้ พราหมณ์ยงั ไม่กลบั จงขยับไปอยู่เสยี ถึงน่นั

ขา้ จะเอาไม้วางไวก้ ลางคันถา้ ใครเดินเกนิ กนั ไดข้ ดั ใจ
ฯ ๑๖ คำ ฯ

38

๏ น่าเอยน่าหัวเราะ อย่าเปลาะเลยคะหาละไม่
ถงึ จะบอกหม่อมพีม่ บิ อกไย ข้าปดิ ปากไวเ้ มอื่ ไรมี
เจา้ เห็นว่าข้าอยู่แต่ผู้เดยี ว มาพดู เกีย้ วแกล้งเบียดเสียดสี
คะแยะศอกหยอกเย้าเซา้ ซี้ วา่ ดดี ีโกรธาทำตาแดง

ขา้ จึงฉดุ ยดุ ตวั กลวั จะวิง่ เจ้าสบิ้งสบดั ขัดแขง
ลากลูถ่ ูเหนย่ี วดว้ ยเร่ยี วแรง จนแขนขวาขา้ แพลงอย่เู ดย๋ี วนี้

มิหนำซ้ำว่าผหู้ ญงิ หยอก พดู ออกมาไดไ้ มบ่ ัดสี
ล้นิ ลมคมสันขยันดี หมอ่ มพีก่ ลบั มาได้ว่ากนั

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เจ้าเอยเจา้ โมโห นางนข้ี ้ีพาโลคนขยัน
เมื่อไรขา้ ได้ทำเชน่ นัน้ ลงดำน้ำกนั เถิดฤๅนาง
แพเ้ จ้าโทษเราท่ีหยกิ หยอก ใหต้ ัดแขนเพยี งศอกทงั้ สองข้าง
เจา้ พราหมณจ์ ะได้เห็นเปนกลาง แม้นนางแพข้ ้าจะวา่ ไร
เถยี งกันเปลา่ เปล่าไม่เข้าขอ้ ขา้ ตอบโตป้ ากคอเจ้าไมไ่ หว
เจ้าข้าเอย๋ ผีสางทีก่ ลางไพรช่วยดลใจใหเ้ จ้าพราหมณ์มา
วา่ พลางทางเดนิ เมนิ เมียง นงั่ ลงบนเตยี งไมด่ ูหนา้
เหน็ นางเข้าใกล้ไม่เจรจา ลุกมาน่ังใหมใ่ ห้ไกลกัน

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ เมื่อน้นั ยอพระกลน่ิ เยา้ ยั่วผัวขวัญ
ครนั้ บา่ ยแสงสุรยิ าสายณั ห์จงึ ผอ่ นผนั พูดจาใหอ้ าไลย
เขา้ นั่งชิดสกดิ วา่ หมอ่ มพ่ี จะทำทโี กรธขึ้งไปถึงไหน

เย็นแลว้ น้องจะลาคลาไคลนแ่ี นค่ ะขา้ ไหว้อยู่จงดี
ว่าพลางยม้ิ พรายชม้ายชมอ้ ย ค่อยขยดถดถอยจากที่

39

เมยี งเมินเดนิ ทำเปนท่วงที ชำเลืองดภู ูมีแลว้ ไคลคลา
ฯ ๖ คำ ฯ เพลง

๏ เล้ยี วเขา้ สมุ ทมุ พุม่ พง แฝงองคล์ บั เนตรเชษฐา
สำรวมกายร่ายมนตข์ องอินทรา นฤมติ รกายาทนั ใด

ฯ ๒ คำ ฯ ตระ

๏ กลับเปนเจา้ พราหมณ์ตามเดิม จณุ เจิมภักตราแจม่ ใส
ออกจากสมุ ทุมพุ่มไม้ คลาไคลไปบรรณศาลา
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง ฝร่ัง

๏ คร้นั ถึงจึงทำท่วงที เคอื งคอ้ นพระมณีแล้วเมินหน้า
มนึ ตงึ ขึง้ โกรธไมพ่ ดู จา จะดทู ีกิริยาภวู ไนย
ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เม่อื นัน้ พระมณนี กึ พรนั่ หว่นั ไหว
เห็นเจา้ พราหมณส์ เทนิ เมินไป ใหเ้ ร่าร้อนฤไทยดงั ไฟฮอี
ชรอยนางเจ้ากรรมท่ีทำความ มิบอกเล่าเจ้าพราหมณอ์ ยา่ งไรฤๅ
จะนิ่งอย่ดู รู า้ ยเม่อื ปลายมือ เสยี แรงเราซอื่ ถอื สัจจา
คดิ พลางเดนิ ตามมาถามไถ่ ไปเทย่ี วถงึ ไหนเจา้ พราหมณข์ า

เปนไรจงึ ไมพ่ ดู จาโกรธาขา้ ฤๅจงบอกความ
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่ือน้ัน เจ้าพราหมณ์แกล้งวา่ อย่ามาถาม
ไว้ใจคิดว่าไมล่ วนลาม ทำความงามหนา้ ขา้ ขอบใจ

40

ถึงเจา้ หยกิ เลบ็ กเ็ จ็บเนื้อ เสยี แรงเชอ่ื วา่ ตรงไมส่ งไสย
ว่าพลางเฉยเชอื นเบือนไป พระมณีพไิ ชยก็ตามวอน

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เจ้าเอยเจ้าพราหมณ์ หนกั เบาเจ้าถามพีบ่ ้างกอ่ น
อยา่ เพ่อเคืองขัดตัดรอน โทษกรพผ่ี ดิ ประการใด

ฤๅหมอ่ มน้องสาวไปกลา่ วโทษ เจ้าจงึ ขึง้ โกรธเปนข้อใหญ่
จงช่วยชีแ้ จงให้แจง้ ใจ ขา้ จะใหค้ วามสตั ยป์ ัฏิญาณ
ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมอ่ื น้นั เจา้ พราหมณ์ยิ้มในหน้าแลว้ วา่ ขาน
จะถามเจ้าเซา้ ซี้กข็ ี้ครา้ น กลวั จะไม่ใหก้ ารกนั ตามจรงิ
น้องขา้ รอ้ งไห้ออกไปบอก วา่ เจ้าทำหยิกหยอกยุ่งยิง่
กระทบกระทง่ั น่งั แนบแอบอิง กระน้นั จริงฤๅเจา้ จงเลา่ มา

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เม่ือน้นั พระมณลี บู อกตกประหม่า
จึงวา่ ข้าจะบอกแตส่ ัจจา เจา้ อย่ากนิ แหนงแคลงความ
เดมิ ทนี างน้องของเจ้า มายั่วเย้าขา้ เองไมเ่ กรงขาม
อดุ ตลดุ สดุ ท่จี ะห้ามปราม วา่ เจ้าพราหมณใ์ ชใ้ ห้มาควบคมุ
ข้าส้หู ลีกไปเสยี ให้หา่ ง ด้วยเหน็ นางเปนสาวข้าเปนหนมุ่

นอ้ งนายพาโลโพคลมุ เข้าจับกุมวา่ ข้าจะหนไี ป
ที่วา่ ข้าหยอกเยา้ นัน้ เปลา่ หมด ฟ้าผเ่ี ถดิ ไม่ปดสบถได้

แมน้ เจา้ ยังระแวงแคลงใจ จะดำน้ำลุยไฟให้เห็นจรงิ
ฯ ๘ คำ ฯ

41

๏ เมอื่ นนั้ เจา้ พราหมณ์ว่าขา้ เชือ่ อยทู่ ุกส่งิ

ความน้ไี มม่ ที ีอ่ า้ งองิ กระน้นั นิ่งเสียเถิดอย่าถือกัน

วา่ พลางยิม้ พรายชายตา พดู จาชกั ชวนสรวลสนั ต์

ทำทีทอดสนทิ ตดิ พัน สำราญใจในบรรณศาลา

ฯ ๔ คำ ฯ

นิทานเรอ่ื งมณีพชิ ัยตอนปลายตอ่ เร่อื งตอนทรงพระราชนพิ นธ์เป็นบทละคร

เจ้าพราหมณย์ อพระกลนิ่ ได้พระมณีพชิ ยั ไปไวท้ ี่ศาลาอาศรมหลายวันเห็นเธอมีความซื่อตรงกก็ ลับรกั แต่
ไมก่ ล้าจะบอกใหร้ วู้ ่าตัวเปน็ นางยอพระกล่ินด้วยเกรงพระอนิ ทร์จะโกรธจะเอาพระมณพี ิชัยไวใ้ ช้สอยต่อไปก็
สงสารจึงอุบายบอกวา่ ได้ใช้สอยพอแกค่ วามประสงค์แลว้ จะโปรดปลอ่ ยใหก้ ลบั คืนไปอยู่ในบ้านเมืองกบั พระ
บิดามารดาอยา่ งเดมิ ฝ่ายพระมณพี ิชัยกลบั อดิ เอือ้ นไมอ่ ยากกลบั ด้วยรกั ใคร่ติดพนั เจา้ พราหมณ์ย่ิงนกั แตเ่ จา้
พราหมณ์มยิ อมใหอ้ ย่กู ต็ ้องจำใจกลบั มาขณะเมอ่ื พระมณพี ิชัยกลับมาถงึ เมืองนนั้ กำลงั ทูตจีนมาตอ่ ว่าท้าวพชิ ัยนุ
ราชวา่ พระเจ้ากรุงจนี คอยอยชู่ า้ นานไม่เหน็ พระมณีพิชัยไปแตง่ งานกับธิดาตามท่ที ้าวเธอได้สัญญาไวจ้ ึงให้ทูตมา
ตามตวั ถา้ ไม่ไดพ้ ระมณพี ชิ ยั ไปก็จะให้กองทพั ยกมาตเี มืองอยุธยาให้สมกบั ที่หลอกลวงให้พระเจ้ากรุงจีนได้
ความอปั ยศอดสทู ้าวพชิ ยั นรุ าชไมร่ ูท้ ีจ่ ะผ่อนผันฉนั ใดพอพระมณีพิชัยกลับไปถึงก็ต้องใหไ้ ปเมืองจีนกบั ราชทูต
ฝ่ายเจ้าพราหมณ์ยอพระกลน่ิ ตง้ั แตใ่ ห้พระมณพี ชิ ัยกลบั ไปบา้ นเมอื งแล้วก็ไม่มคี วามสบายให้ แตค่ ิดถึงพระมณี
พชิ ัยเป็นกำลงั จึงตามเข้าไปในเมอื งครน้ั รวู้ ่าพระมณพี ชิ ยั ต้องถกู ส่งไปแตง่ งานท่ีเมอื งจีนกต็ กใจรีบตามพระมณี
พชิ ยั ไปทันทกี่ ลางทางเจ้าพราหมณ์กเ็ ขา้ อาสาเปน็ พรรคพวกไปเมอื งจนี ดว้ ยคร้ันพระมณีพิชยั ไปถงึ เมอื งจนี ทดู
ไปทลู ความใหพ้ ระเจา้ กรุงจนี ทราบวา่ เป็นเหตเุ พราะพระมณพี ิชัยมเี มียเสยี ก่อนจึงไมไ่ ปแตง่ งานพระเจ้ากรุงจนี
ก็ขดั เคืองคิดอบุ ายหาขอ้ ผดิ จะฆ่าพระมณพี ิชัยเสยี จงึ แกลง้ ใหห้ าฤกษแ์ ต่งงานแลว้ กำหนดใหพ้ ระมณีพิชยั ทำ
ขันหมาก ๑,๐๐๐ ให้แล้วทนั งาน แต่ในเพลาเดียวถา้ ทำไม่สำเร็จจะเอาโทษพระมณพี ิชัยมีความทุกข์รอ้ น
ปรกึ ษาเจ้าพราหมณ์ ๆ จึงบอกว่าพระเจา้ กรงุ จนี คดิ รา้ ยไม่สุจริตเสยี แลว้ ถ้าขนึ้ อยูใ่ นเมอื งจีนตอ่ ไปก็คงไม่พ้น
อนั ตรายพระมณพี ชิ ัยเห็นชอบด้วยเจ้าพราหมณ์จึงชวนพระมณพี ิชยั หนอี อกจากเมอื งจีน แต่ในเพลากลางคืน
พากันด้นั ด้นไปในป่าจนเหน็ ว่าพน้ แดนจนี แล้วต่างคนเหน็ดเหนื่อยก็นอนหลับตำบลทพ่ี ระมณีพชิ ยั กบั เจ้า
พราหมณ์ไปนอนหลับอยู่นัน้ เป็นแดนของยกั ษ์พวกหนงึ่ ซึ่งชอบกินมนษุ ย์วนั นน้ั นนทการเสนายกั ษ์เทยี่ วมาเหน็
พระมณีพชิ ัยกบั เจา้ พราหมณน์ อนหลบั อยกู่ ็ยนิ ดหี มายวา่ จะได้กินเปน็ ภักษาหารจงึ ร่ายมนต์สะกดไวท้ ั้งสองคน
แลว้ เขา้ ไปพิจารณาดูเห็นคนหนึง่ เป็นพราหมณน์ ึกวา่ คงชำนาญเวทมนตร์ตามวสิ ัยพราหมณ์จะทำร้ายเหน็ จะไม่
สมประสงค์ แต่พระมณพี ิชัยนนั้ ดอู วบอว้ นเนอ้ื ละมนุ นา่ กนิ นนทการจึงคดิ วา่ มนษุ ย์เชน่ นห้ี ายากนาน ๆ จะพบ
สกั คนหนึง่ จะกินเสยี เองหาควรไม่เอาไปถวายใหเ้ จ้านายเสวยจะดกี ว่าจงึ สะกดซ้ำแลว้ เข้าอ้มุ เอาพระมณพี ชิ ัย
พาเหาะไปยงั เมอื งยักษข์ ณะน้นั พระยายักษ์ผูเ้ ป็นเจา้ เมืองพ่งึ ตายเหลอื แตน่ างวาส้นั ผูเ้ ปน็ มเหสกี ับธดิ าชื่อวา่
นางผกานนทการพาพระมณีพชิ ัยไปถวายนางวาสน ๓๘๕ ไปท้งั สองคนนางวาสนคิดวา่ ลกู สาวยังไม่เคยกนิ เน้ือ
มนษุ ย์จึงให้ส่งไปใหล้ กู สาวกนิ แต่นางผกาน้ันพอเหน็ พระมณพี ชิ ยั ก็เกดิ กำหนดั ยนิ ดีอยากจะใคร่ได้ไวเ้ ป็นตวั จึง

42

มารยาสงั่ ใหพ้ าเขา้ ไปไว้ในตำหนกั ว่าจะกินให้สบายแลว้ ขบั สาวใชใ้ ห้ออกไปเสยี นางแก้ให้พระมณีพชิ ยั ฟน้ื จาก
มนต์สะกดแล้วเกล้ียกลอ่ มเกยี้ วพานให้ยอมเป็นสามโี ดยดถี า้ ไม่ยอมจะกินเสียพระมณพี ิชัยกลวั ยักษก์ ต็ อ้ งยอม
เปน็ สามีอยูก่ บั นางผกาต่อมาฝ่ายเจา้ พราหมณ์ยอพระกลิ่นนอนอยใู่ นปา่ ครนั้ มนต์สะกดของยักษ์ส้นิ ฤทธฟิ์ ื้นข้ึน
ไม่เหน็ พระมณีพชิ ยั ก็ตกใจพิจารณาดูเห็นรอยตนี ยกั ษ์เกลื่อนไปในทน่ี ้ันจงึ เดินตามรอยไปคร้นั เห็นรอยหายไปก็
เข้าใจว่ายักษค์ งอ้มุ พระมณีพชิ ัยเหาะไปเจา้ พราหมณ์จงึ ตามไปทางโฉมหนา้ ทย่ี กั ษ์พาไปไปพบยักษบ์ ริวารพวก
หนึ่งจะจับเจา้ พราหมณ์กินเกดิ รบกันเจา้ พราหมณ์จับยกั ษ์ไดไ้ ต่ถามก็ไดถ้ ามว่านนทการพาพระมณพี ิชัยไปเมอื ง
ยักษ์เจา้ พราหมณ์ก็รบี ตามไปครนั้ ไปถึงเมอื งเพลาคำ่ จงึ สะกดผูค้ นให้หลบั ไหลแล้วขน้ึ ไปคน้ บนปราสาทไปเหน็
พระมณีพชิ ัยกำลังนอนกอดอยู่กับนางยักษ์เจ้า พราหมณ์กโ็ กรธจึงปลกุ พระมณีพิชัยขน้ึ แล้วถามว่าเหตุใดจงึ หนี
มามีเมยี ยักษพ์ ระมณพี ชิ ัยเลา่ ความใหฟ้ งั ตามจริงเจ้าพราหมณ์ก็ไมเ่ ชือ่ ดว้ ยกำลงั ซง่ึ เปน็ อารมณเ์ จา้ พราหมณ์
เผลอตัวไม่รสู้ ึกวา่ ไดแ้ ปลงเปน็ ชายกว็ า่ กลา่ วตดั พ้อพระมณีพิชยั ว่า แต่เดมิ ได้สัญญาว่าจะเล้ียงดูครน้ั แม่แกล้งใส่
ความวา่ เปน็ ผกี ระสือกินแมว แต่จะไต่ถามให้เห็นเทจ็ จรงิ ก็ไมม่ กี ลับปล่อยให้เขาเอาใสห่ ีบไปฝังเสยี หากวา่ บุญมี
จงึ รอดมาไดส้ อู้ ุตสา่ ห์ตามมาแก้ไขใหพ้ ้นทุกขแ์ ลว้ ยงั กลบั ทง้ิ มามีเมยี ใหม่เสยี ดังนีเ้ หน็ ใจพระมณีพชิ ยั เสยี แลว้ ว่า
เปน็ แน่แท้ก็ยินดปี ลอบเล้าโลมเฝ้าวิงวอนไปต่าง ๆ หวงั ว่าจะให้นางดดี ้วยไมม่ คี วามสัตย์พระมณีพิชยั ได้ฟังรูว้ ่า
เจา้ พราหมณ์นน้ั คือนางยอพระกลิน่ อยา่ ง แตก่ ่อนฝา่ ยเจา้ พราหมณร์ สู้ กึ วา่ เสียท่จี ะอำพรางไมไ่ ด้ต่อไป แตจ่ ะ
ยอมดีด้วยกก็ ลัวพระอินทรจ์ งึ แกลง้ ทำโกรธขึง้ หึงหวงไม่เชื่อฟงั พระมณพี ชิ ยั พระมณีพิชัยเขา้ ใจว่านางตัดรอนไม่
ยอมดีดว้ ยกโ็ ทมนัสเสียใจจนสลบไปเจา้ พราหมณ์เห็นพระมณพี ชิ ัยสลบสำคัญวา่ ตายกต็ กใจร้องไหร้ ำ่ รักจนสลบ
ไปด้วยขณะน้ันรอ้ นถึงอาสน์พระอินทร์จึงลงมาแก้ไขใหฟ้ น้ื ขึน้ ทั้งสองคนแลว้ พามาส่งยงั เมอื งอยธุ ยาทา้ วพชิ ัยนุ
ราชกอ็ ภเิ ษกพระมณพี ิชยั กับนางยอพระกล่ินให้อยดู่ ้วยกนั ตอ่ ไปเร่อื งมณีพิชยั ตอนปลายมีบทละครแต่งไวเ้ ปน็
สองความเรื่องท่ีกลา่ วผดิ กันและหามีทสี่ ุดไมเ่ ห็นไดว้ ่าเป็นของแตง่ ต่อตามความคิดของเจา้ ของละครทเี่ ลน่ ใน
ชนั้ หลังจะถอื เอาเป็นแก่นสารไม่ได้จึงคัดความมาแสดงในนทิ าน แต่ทเี่ หน็ ว่าเรือ่ งสมเหตผุ ลต้นปลายตอ้ งตัด
เร่อื งในบทละครความช้ันหลังออกเสียหลายแหง่ (พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั ,2545 หนา้ 353-
385)

5.ตัวละคร

ยอพระกล่ิน

ยอพระกลื่นในร่างพราหมณ์

พระมณีพิชัย

พระอนิ ทร์

ท้าวพิชัยนุราช

นางจันทรมเหสี

43

พระเจ้ากรงุ จีน
นางผกา
นางยักษ์ (แมน่ างผกา)
นางเกศนี

5.2 วเิ คราะห์ตัวละคร

ท้าวพชิ ัยนรุ าช พ่อของพระมณีพชิ ัยเป็นบทบาทของพอ่ ทไ่ี มค่ อ่ ยจะได้เอาใจใสเ่ ร่ืองในครอบครัวมาก
นัก แต่เมื่อความแตกว่านางจันทรใสไ่ คลล้ ูกสะใภ้ท้าวพิชัยนรุ าชกส็ วมบทของกษตั รยิ ์ผูก้ ลา้ หาญและผนู้ ำ
ครอบครัวท่ีเทยี่ งธรรม

นางจนั ทรเทวีแมข่ องพระมณพี ชิ ยั ผู้อยากได้ลูกสาวเจ้ากรุงจีนซง่ึ มีศักดิ์เป็นพ่ีเขยของตนให้มาเป็น
ลกู สะใภค้ รน้ั เมื่อร้วู า่ ลกู ชายได้นางยอพระกลิ่นเป็นเมยี กส็ วมบทบาทของแมผ่ วั ใจรา้ ย

พระมณพี ิชยั บคุ ลกิ ภาพของชายประเภทรกั เมยี แตเ่ กรงใจแมซ่ ึ่งแฝงความออ่ นแอและหูเบาไวด้ ้วย
เมอ่ื ได้นางยอพระกลน่ิ มาเปน็ เมียก็ไมก่ ลา้ บอกใหพ้ ่อแมร่ ้ปู ลอ่ ยใหพ้ อ่ แม่ยอมรับจะใหแ้ ตง่ งานกับพระธดิ าเจ้า
กรงุ จีนจงึ ได้เกิดเรือ่ งยงุ่ ขนึ้ มิหนำซ้ำเม่ือวันหนึ่งตนื่ ขน้ึ มาพบว่าเมียคือนางยอพระกล่ินมีเลอื ดเปอ้ื นปากและมี
หางแมวแซมผมกป็ ล่อยใหเ้ มยี รักถกู นำไปฝังท้งั เป็นโดยไม่คิดจะสืบสวนข้อเทจ็ จรงิ และเม่อื ตนเองต้องไปเป็นขา้
พราหมณ์ตามสญั ญาถูกพราหมณ์ปลอมคอื นางยอพระกลิ่นลองใจโดยแปลงซอ้ นเป็นนอ้ งสาวพราหมณ์มี
รูปลักษณเ์ หมอื นดงั นางยอพระกลน่ิ เองเข้ามานงั่

เบียดชิดย้อื ยดุ หยอกล้อกส็ ู้อดใจไม่ลว่ งเกนิ นางมใิ ชว่ ่าจะซอื่ สัตย์ต่อเมียดอก แตเ่ ป็นเพราะกลัวพราหมณ์ผู้เปน็
นายมากกว่า

นางยอพระกลิน่ เป็นแบบฉบบั ของผหู้ ญิงท่ชี ื่อตรงจงรักภักดตี ่อสามี แตก่ ม็ คี วามฉลาดและกลา้ หาญท่ี
จะลุกขึ้นตอ่ สเู้ พือ่ ความเปน็ ธรรมและพสิ ูจนค์ วามจริงดงั จะเห็นได้จากเมื่อนางปลอมเป็นพราหมณม์ ารกั ษานาง
จนั ทรใหป้ ลอดภัยจากพิษงูแล้วได้ถามนางจันทรถึงข่าวลอื ทวี่ า่ ยอพระกลนิ่ กนิ แมวนางจนั ทรกลวั ตายจงึ
สารภาพเหตกุ ารณ์ตอนนี้แสดงคณุ ธรรมของนางยอพระกลิ่นอยา่ งหน่ึงว่ามไิ ดไ้ ตถ่ ามคาดคัน้ เอาในที่สาธารณะ
หากถามกนั อยใู่ นห้องสองตอ่ สองไม่ใหน้ างจันทรต้องได้อาย แต่บังเอิญทา้ วพชิ ยั นุราชแอบฟังจึงไดร้ คู้ วามจริง
ตอ่ มาเมอ่ื มณีพิชยั ถูกส่งตัวไปแต่งงานกบั ลูกสาวเจา้ กรุงจีนนางยอพระกลิ่นก็ติดตามไปด้วยความจงรักภักดีตอ่
สามแี ละได้ชว่ ยแกป้ ัญหาใหม้ ณีพชิ ยั อีกหลายครั้งกวา่ จะได้ครองคกู่ นั ในตอนจบ

44

เอกสารอา้ งอิง

กรมหลวงภูวเนตรนรนิ ทรฤทธิ์./[online].
/Avarble: https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=179

พุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเดจ็ พระ. บทละครนอกเรือ่ งมณีพิชัย พระราชนพิ นธ์ในรชั กาลที่ 6 และกรม
หลวงภูวเนตรนรินทรฤทธ์.ิ พระนคร:กรมศลิ ปากร./2498./[online].
/Avarble: https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=178

(พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย,2545 หน้า 383-385)

(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้ นภาลัย,2545 หน้า 353-385)

ภาษาสยาม./ (2008). / [online]. /Avarble
:http://www.pasasiam.com/home/index.php/literature/li-ratanakosin/268-2008-09-17-16-25-
13

[online]. /Avarble: https://sites.google.com/site/kittipotkijsirisin/phra-rach-prawati-khxng-
phrabath-smdec-phraphuthth-leis-hla-nphalay

45

ภาคผนวก

46

ประวตั ิยอ่ นกั ศึกษา

ชอ่ื -สกุล นางสาวธนพร มูลเมอื ง
ช่อื เล่น แนน
วนั เดือน ปี เกดิ 24 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2542
อายุ 21 ปี
สถานท่ีเกิด อำเภอ ศรีราชา จงั หวัด ชลบุรี
สถานทอ่ี ย่ปู ัจจบุ ัน บา้ นเลขที่ 100/2 หมู่ 1 ตำบล ห้วยคต อำเภอ หว้ ยคต จังหวดั อุทัยธานี
กำลังศกึ ษา อยชู่ น้ั ปีที่ 3 สาขาวชิ านาฏยศิลปศ์ ึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏบ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา


Click to View FlipBook Version