ตวั อยา่ งทBี 5 กาํ หนดให้ A = 1 1 B = −1 2 และ C 5 3
วธิ ีคิด 0 3 −2 1 0 −1
จงหาค่า (A + B) + C
หาค่า A + B = 1 1 + −1 2 = 0 3
0 3 2×2 −2 −1 2×2 −2
4 2×2
หา ( A + B) + C = 0 + 5 3 = 5 6
−2 4 2×2 0 −1 2×2 −2
2×2
ตวั อยา่ งทBี 6 กาํ หนดให้ A = 1 2 3 จงหา A + A ตอบ
วธิ ีคิด 0 1 2 ตอบ
หา A + A = 1 2 3 = 1 2 3
0 1 2 2×3 0 1 22×3
= 1 + 1 2+2 3+3
0 + 0 1+1 2 + 22×3
= −2 4 6
0 2 4 2×3
นิยาม การลบเมทริกซ์ กาํ หนดให้ A = aij และ B = bij เป็ นเมทริกซ์ ขนาด m × n เท่ากนั
จะได้ A − B = A + (−B) เพราะวา่ (−B = (−1)B)
เช่น กาํ หนดให้ A= 1 2 B = 2 4 จงหา A−B
3 4 1 3
วธิ คิด A − B = 1 2 − 2 4
3 4 1
2×2 3 2×2
= 1 − 2 2 − 4 = −1 −2 ตอบ
3 − 1 4 − 32×2 2 1 2×2
สรุป การลบเมทริกซ์ไดจ้ ะตอ้ ง 1. มีมิติเท่ากนั
2. จบั สมาชิกตาํ แหน่งเดียวกนั มาลบกนั ได้เลย
3. ผลลพั ธ์มีมิติเหมือนเดิม
ข้อควรจํา คุณสมบตั ิการบวกของเมทริกซ์
กาํ หนดใหเ้ มทริกซ์ A, B,C และ O (เมทริกซ์ศนูย)์ มีขนาดเท่ากนั จะได้
1) A + B = B + A (การสลบั ทBี)
2) A + (B + C) = ( A + B) + C (การมีจดั หม่)ู
3) A + O = O + A = A (การมีเอกลกั ษณ์)
4) A + C = B + C ก็ต่อเมBือ A = B (การตดั ออก)
5) A + (−A) = O = (−A) + A (การมีวนิ เจอร์ส์)
นิยาม กาํ หนดใหเ้ มทริกซ์ A = aij มีขนาดเป็ น m × n และ k ∉ R
จะได้ kA = k aij = [ka]m×n
สรุป การคูณดว้ ยสเกลาร์ ใหน้ าํ สเกลาร์ไปคูณสมาชิกในเมทริกซ์ทุก ๆ ค่า
เช่น กาํ หนดให้ A = 1 2 จงหาค่า 3A และ −2A
−3 0
วธิ ีคิด 3A = 3 1 2 = 3 6
−3 0 2×2 −9 0 2×2
−2 A = −2 1 2 = −2 −4
−3 0 6
0 2×2
ระวงั เคร;ืองหมาย บวก ×บวก ได้ค่าบวก (เครBืองหมายเหมอื นกนั คูณกันได้บวก)
ลบ × ลบ
บวก ×ลบ ได้ค่าลบ (เครืBองหมายต่างกนั คูณกนั ได้ลบ)
ลบ × บวก
ควรจาํ เครืBองหมายเหมือนกนั คูณกนั ไดบ้ วก แต่ถา้ ต่างกนั คูณกนั ไดล้ บ
ตวั อยา่ งทีB 5.7 กาํ หนดให้ A = 1 1 B = −1 2 และ C = 5 3
จงหาค่าของ 0 3 −2 1 0 −1
วธิ ีคิด หาค่าของ 4 A + (2B − 3C)
หาค่าของ
หาค่าของ 4 A = 4 1 1 = 4 4
หาค่าของ 0 3 2×2 0 12 2×2
หาค่าของ
2B = 2 −1 2 = −2 4
−2 −4 22×2
1 2×2
3C = 3 −5 3 = 15 9
−1 2×2 −3 2×2
0 0
(2B 3C ) −2 4 15 9
− −4 2 2×2 = −32×2
0
4 A + (2B − 3C ) 4 4 = 17 −5 ตอบ
0 12 2×2 −4
5 2×2
หมายเหตุ โจทยน์ \ีมีนกั เรียนจะตอ้ งรู้เรBือง การบวก การลบ และ การคูณ ดว้ ยจาํ นวนของเมทริกซ์
กาํ หนดให้ A = aij m×n และ k ∈ R ( R แทน จาํ นวนจริง)
จะไดว้ า่ kA = k aij m×n = kaij m×n
ใหน้ าํ ค่า k คูณสมาชิกทุกตวั ในเมทริกซ์
! คุณสมบตั กิ ารคูณเมทริกซ์ดวั ยจาํ นวนจริง
กาํ หนดให้ A B เป็ นเมทริกซ์ ขนาด mxn และ k,l ∈ R จะได้
1) kA จะมีมิติเป็ น m x n
2) (kl) A = k (lA) = l(kA)
3) k( A + B) = kA + kB
4) (k + l) A = kA + lA
5) 1⋅ A = A
6) (−1) A = − A
ตวั อยา่ งทRี 6.1 กาํ หนดให้ A = 1 8 จงหาค่า 1 A
2 4 4
วธิ ีคิด 1A = 1 1 8
4 4 2 4 2×2
= 12××1414 8 × 1
4 ×
4
1 2×2
4
1 2
= 4 ตอบ
1 12×2 ตอบ
2
ตวั อยา่ งทRี 6.2 กาํ หนดให้ A = −1 3 จงหาค่า (−2)A
2 4
วธิ ีคิด (−2) A = (−2) −1 3
2 4 2×2
= (−1) × (−2) 3× (−2)
2(−2) 4 × (−2)2×2
= 2 −6
−4 −8 2×2
ตวั อยา่ งทRี 6.3 กาํ หนดให้ A = −1 2 จงหาค่า (2 × 4)A
4
3
วธิ ีคิด (2 × 4) A = 8 A = 8 −1 2
3 4 2×2
= 8×1 8× 2
8 × 3 8 × 42×2
= 8 16
24 32 2×2
หรือ (2 × 4) A = 2( 4 A) = 2 4 1 2 (จากคุณสมบตั ิ 2)
3 4 ตอบ
2×2
= 2 4 ×1 4 × 2
4 × 3 4
4 × 2×2
= 2 4 6
12 16 2×2
= 4×2 8×2
12 × 2 16 × 22×2
= 8 16
24 32 2×2
ตวั อยา่ งทRี 6.4 กาํ หนดให้ A = 1 −2 0 3 จงหาค่า − 1 A
0 −1 1 0 2×4 2
วธิ ีคิด (− 1 ) A = − 1 1 −2 0 3
2 2 0 −1 1 0 2×4
1. − 1 −2. − 1 0. − 1 3. − 1
0. − 2 2 2 2
=
1 −1. 1 1. 1 1
2 − 2 − 2 0. − 2
2×4
− 1 1 0 − 3
2 −
= 1 2
2
..0 1 02×4
2
ตอบ
นิยาม กาํ หนดให้ A = aij m×n และ B = bij n×p แลว้
A ⋅ B = aij m×n ⋅ bij n× p = cij m× p
โดยทีR cij = aij ⋅ bij + ai2b2 j + ... + ain ⋅ bnj
แผนภาพอธบิ ายนิยาม
a11 a12 ⋯ a1n bb1211 b12 b1p cc1211 c12 c1p
⋮ b22 c22
A ⋅ B = a21 a22 ⋯ a2n ⋅ ⋮ b2 p = c2 p
⋮ ⋮
⋯⋮ ⋮ ⋮ ⋮ ⋮
am1
am 2 ⋯ amn m×n
bn1 bn2 bnp n× p cm1 cm2 cmp m× p
C1p = a11 ⋅ b1p + a12 ⋅ b2 p + ... + a1n ⋅ bnp
C12 = a11 ⋅ b12 + a12 ⋅ b22 + ... + a1n ⋅ bn2
C11 = a11 ⋅ b11 + a12 ⋅ b21 + ... + a1n ⋅ bn1
จากภาพการคูณเมทริกซ์ดวั ยเมทริกซ์
1) มติ ิของาคอลมั น์ (n) ของเมทริกซ์ เท่ากบั มิตขิ องแถว (n) ของเมทริกซ์หลัง
2) คําตอบของเมทริกซ์ จะมมี ติ ิเป็ น m × p (ส่วนมติ ิทเีM หลอื จากข้อ 1)
3) สมาชิกแต่ละค่าหาได้จากผลบวกของแถวเมทริกซ์แรกคูณกบั คอลมั น์เมทริกซ์สอง
(ทาํ จนครบจํานวนสมาชิกของคําตอบ)
ตวั อยา่ งทีR 6.5 กาํ หนดให้ A = [2 ]4 และ B = 1 2 จงหา A ⋅ B
1×2 4 2 2×2
วธิ ีคิด 1 2
4 22×2
[ ] [ ]=A⋅ B = 2
4 ⋅ c11 c12 1×2
1×2
c12 = (2 × 2) + (4 × 2) = 4 + 8 = 12
จะได้ A ⋅ B = [18 ]12 c11 = (2 ×1) + (4 × 4) = 2 + 16 = 18
1×2
ตอบ
ตวั อยา่ งทRี 6.6 กาํ หนดให้ A = 3 2 B = 1 4 5 จงหา AB และ BA
6 4 2 3 2
วธิ ีคิด 1) หาค่า A⋅ B = 3 2 ⋅ 1 4 =5 c11 c12 c13
6 4 2×2 2 3 c21 c22
2 2×3 c23 2×3
c23 = (6 × 5) + (4 × 2) = 30 + 8 = 38
c22 = (6 × 4) + (4 × 3) = 24 + 12 = 36
c21 = (6 ×1) + (4 × 2) = 6 + 8 = 14
c11 = (3×1) + (2 × 2) = 3 + 4 = 7
c12 = (3× 4) + (2 × 3) = 12 + 6 = 18
c13 = (3× 5) + (2 × 2) = 15 + 4 = 19
A ⋅ B = 7 18 19
14 36 38 2×3
2) หาค่า B ⋅ A = 1 4 5 ⋅ 3 2
2 3 2 2×3 6 42×2
∴ หาค่าไม่ไดเ้ พราะมิติของคอลมั น์ ไม่เท่ากนั มิติของแถวนaนั 3 ≠ 2
ตอบ
คุณสมบัติการคูณเมทริกซ์ด้วยเมทริกซ์
กาํ หนดให้ A = aij m×n และ B = bij n×p จะไดว้ า่
1) มีสมบตั ิปิ ดการคูณ
2) AB ≠ BA (ไม่การสลบั ทRี)
3) ( AB)C = A(BC) (มีการจดั หม่)ู
4) AI = IA = A (มีเอกลกั ษณ์)
5) AO = OA = O (มีอินเวอรส)
6) A(B + C) = AB + AC (มีการแจกแจง)
ตวั อยา่ งทRี 6.7 กาํ หนดให้ A = 3 2 I = 1 0 จงหา AI และ IA
−1 0
0 2×2 1 2×2
วธิ ีคิด หาค่า AI = 3 2 ⋅ 1 0 = 3 2 = A
−1 0 2×2 0 12×2 −1 1 2×2
หาค่า IA = 1 0 ⋅ 3 2 = c11 c12
0 −1 c21
1 2×2 0 2×2 c22 2×2
c22 = (0 × 2) + (1× 0) = 0
c21 = (0 × 3) + (1× −1) = −1
c11 = (1× 3) + (0 × −1) = 3
c12 = (1× 2) + (0 × 0) = 2
= 3 2 =A ตอบ
−1 0
ตวั อยา่ งทRี 6.8 กาํ หนดให้ 1 3
จงหาค่า A = 2 −1
4
0
B = 1 0 −1 0
2 1 3 4
A⋅B
1 3 c11 c12 c13 c14
A ⋅ B = 2 −1 ⋅
วธิ ีคิด 1 0 −1 0 = □ □ □ □
0 4 3×2 2 1 3 4 2×4
□ □ □ □
□ □ □ □ 3×4
c14 = (1× 0) + (3 × 4) = 0 + 12 = 12
c13 = (1× −1) + (3 × 3) = −1 + 9 = 8
c12 = (1× 0) + (3 ×1) = 0 + 3 = 3
c11 = (1×1) + (3 × 2) = 1 + 6 = 7
…… ค่าอืRนๆ หาเหมือนกนั …….
……………………………………
7 3 8 12 ตอบ
= 0 −1 −5 −4
8 4 12 16 3×4
ดเี ทอร์มแิ นนต์ (Determinant)
1) ความหมาย
ดีเทอร์มิแนนต์ หมายถึง ผลการบวกของผลคูณระหวา่ งสมาชิกในแนวเส้นทแยงมุม
กาํ หนดเมทริกซ์ A เป็ นเมทริกซ์จตั ุรัส ดีเทอร์มิแนนตข์ อง A เขียนแทนดว้ ย det A
2) การหาค่าดเี ทอร์มแิ นนต์
กาํ หนดใหเ้ มทรืกซ์ A เป็นเมทริกซ์จตั ุรัสขนาด 2 × 2 การหาค่าดีเทอร์มิแนนต์ ไดด้ งั นLี
ให้ A = a11 a12
a21
a22 2×2
−(a21 ⋅ a12 ) =
หาค่า det A = a11 a12 + ผลลพั ธ์
a21
a22
+(a11 ⋅ a22 ) =
เช่น กาํ หนดให้ A = 3 2 จงหาค่า det A
1 5
−(1× 2) = −2
แนวคิด det A A= 3 2 + 13
1 5
∴ det A = +(3 × 5) = 15
13 ตอบ
เช่น กาํ หนดให้ A = −1 3 จงหาค่า det A
−5 7
−(−5 × 3) = 15
แนวคิด det A −1 3 + 8
−5 7
+(−1× 7) = −7
∴ det A = 8 ตอบ
กาํ หนดใหเ้ มทริกซ์ A เป็นเมทริกซ์จตั ุรัส ขนาด 3×3 การหาดีเทอร์มิแนนต์ ไดด้ งั นLี
a11 a12 a13
ให้ A = a21
a22 a23
a31 a32 a33 3×3
หาค่า =det A a11 a12 a13 a11 a12
a21 a22 a23 a21 a22
a31 a32 a33 a31 a32
1 0 1 จงหา det A
เช่น กาํ หนดให้ A = 3 −1 2 −(2 × −1×1) = +2 −8
−(5 × 2 ×1) = −10
2 5 83×3 −(8 × 3× 0) = 0
1 0 11 0 + −1
แนวคิด det A = 3 -1 2 3 -1
2 5 82 5
+(1× 3× 5) = 15 +7
+(0 × 2 × 2) = 0
+(1× −1× 8) = −8
จะได้ det A = −1 ตอบ
2 1 3
เช่น กาํ หนดให้ A = −1 0 1 จงหาค่า det A
2 4 53×3
−0
−8 −3
+5
แนวคิด 2 1 32 1 + −13
det A = -1 0 1 -1 0
2 4 52 4
จะได้ det A = −13 −12
+2 −10
0
ตอบ
3) คุณสมบตั ขิ องดเี ทอร์มิแนนต์
1) ถา้ A เป็นเมทริกซ์จตั ุรัส ขนาด n × n แลว้ มีแถว หรือ คอลมั น์ใดมีค่าเป็น 0 ทLงั หมด
แลว้ det A = 0
เช่น กาํ หนดให้ 1 0 2
A = 3 2 4
0 0 03×3
แนวคิด จากโจทย์ เมทริกซ์ A มีแถวทีV 3 มีค่าเป็น 0 ทLงั หมด
สรุปวา่ det A = 0 เราพสิ ูจนไ์ ดด้ งั นLี
0
00
0
1 0 31 0 +0
det A = 3 2 4 3 2
0 0 00 0
0 0
0
0
จะได้ det A = 0
2) ถา้ เมทริกซ์ A เป็นเมทริกซ์จตั ุรัส ขนาด n × n ซVึงมี 2 แถว หรือ 2 คอลมั นใ์ ด ๆ เท่ากนั
แลว้ det A = 0
2 −2 1
เช่น A = 2 −2 1
3 1 03×3
แนวคิด จากโจทย์ เมทริกซ์ A มี แถวทีV 1 และ แถวทVี 2 มีค่าเท่ากนั จะได้ det A= 0
(ตามคุณสมบตั ิขอ้ 2) เรามาพสิ ูจน์โดยหาค่าของ det A ดงั นLี
+6
−2 +4
−0
2 -2 1 2 -2 + 0
det A = 2 -2 1 ..2 -2
3 1 031
+2
−6 −4
..0
จะได้ det A = 0 ตอบ
3) ถา้ เมทริกซ์ B เกิดจากการสลบั 2 แถวใด ๆ หรือ 2 คอลมั น์ใด ๆ ของเมทริกซ์ A
แลว้ det B = −det A
1 2 3 2 1 1 (สลบั แถว 1 กบั 2)
เช่น 2 1 1 = 1 2 3
3 3 2 3 3 2
-9 -3 -8 = -20
det B = 1 2 31 2 +6
2 1 1 ..2 1
3 3 23 3
2+6 + 18 = 26
-6 -18 -2 = -26
2 1 121 + −6
det A = 1 2 3 ..1 2
3 3 23 3
+8+9+3 = +20
จะได้ det B = − det A ตอบ
4) ทราสโพสของเมทริกซ์ (Transport)
นิยาม กาํ หนดใหเ้ มทริกซ์ A มีขนาด m× n แลว้ ทรานสโพส์ของเมทริกซ์ A จะมี
ขนาดเป็ น n × m เขียนแทนดว้ ย At
สรุป การหาค่าทรานสโพส์ของเมทริกซ์ใด ๆ ใหเ้ ราเปลVียนค่าของแถวไปเป็ นคอลมั น์ ดงั นLี
เปลVียน แถว → คอลมั น์
เช่น ให้ A = 1 3 2 14
4 5 0 2×3 35
20
1 4
At = 3 5
03×2
2
5) ไมเนอร์ (Minor)
นิยาม กาํ หนดให้ A = aij แลว้ ไมเนอร์ของ aij คือ ดีเทอร์มิแนนตข์ องเมทริกซ์
n×n
ทVีได้ จากการตดั แถวทVี i และคอลมั นท์ Vี j ของเมทริกซ์ A ออก เขียนแทนดว้ ย Mij
สรุป การหาค่าไมเนอร์
1) ตอ้ งเป็นเมทริกซ์จตั ุรัส ขนาด n × n
2) หาไมเนอร์ของ Mij ใหต้ ดั แถวทVี i และคอลมั น์ j ออก
เช่น a11 a12 a13
ให้ A = a21
a22 a23
a31 a32 a33 3×3
a11 a12 a13
หา ใหต้ ดั แถวทVี 1 คอลมั น์ทVี 1 ออก
M11 = a21 a22 a23
a31 a32 a33 3×3
M11 = a22 a23
a32 a33 2×2
3) หาค่า det M11
ตวั อยา่ งทีV 7.1 กาํ หนดให้ A = 2 4 จงหาค่า M11, M12 , M 21 และ M 22
3 1
2×2
วิธีคิด 1) หา M11 ใหต้ ดั แถวทีV 1 คอลมั น์ 1 ออก ดงั นLี
M11 = 2 4
3 1
M11 = 1 det (M11 ) = 1
2) หา M12 ใหต้ ดั แถวทีV 1 คอลมั น์ 2 ออก ดงั นLี
M12 = 2 4
3 1
M12 = 3 det (M12 ) = 3
3) หา M21 ใหต้ ดั แถวทีV 2 คอลมั น์ 1 ออก ดงั นLี
M 21 = 2 4
3 1
M 21 = 4 det (M21 ) = 4
4) หา M22 ใหต้ ดั แถวทีV 2 คอลมั น์ 2 ออก ดงั นLี
M 22 = 2 4
3 1
M 22 = 2 det ( M22 ) = 2 ตอบ
1 4 1
ตวั อยา่ งทีV 7.2 กาํ หนดให้ A = 3 1 −1 จงหาไมเนอร์ของเมทริกซ์ A
2 −2 3 3×3
1 4 1
วธิ ีคิด หา M11 = 3 1 −1 ตดั แถว 1 คอลมั น์ 1 ออก
2 −2 3
M11 = 1 −1
−2 3
-2
det M11 = 1 −1 = 1
−2 3
+3
1 4 1 ตดั แถว 1 คอลมั น์ 2 ออก
หา M12 = 3 1 −1
2 −2 3
M12 = 3 −1
2 3
+2
det M12 = 3 −1 = 11
2 3
+9
1 4 1 ตดั แถว 1 คอลมั น์ 3 ออก
หา M13 = 3 1 −1 −8
2 −2 3
M13 = 3 1
2 −2
-2
det M13 = 3 1 =
2 −2
-6
1 4 1 ตดั แถว 2 คอลมั น์ 1 ออก
หา M21 = 3 1 −1 14
2 −2 3 ตดั แถว 2 คอลมั น์ 2 ออก
M 21 = 4 1 1
−2 3
ตดั แถว 2 คอลมั น์ 3 ออก
+2
−10
det M 21 = 4 1 =
−2 3
+12
1 4 1
หา M22 = 3 1 −1
2 −2 3
M 22 = 1 1
2 3
-2
det M 22 = 1 1 =
2 3
+3
1 4 1
หา M23 = 3 1 −1
2 −2 3
M 23 = 1 4
2 −2
-8
det M 23 = 1 4 =
2 −2
-2
1 4 1 ตดั แถว 3 คอลมั น์ 1 ออก
หา M31 = 3 1 −1 −5
2 −2 3 ตดั แถว 3 คอลมั น์ 2 ออก
M 31 = 4 1 −4
1 −1
-1
det M 31 = 4 1 =
1 −1
-4
1 4 1
หา M32 = 3 1 −1
2 −2 3
M 32 = 1 1
3 −1
-3
det M 32 = 1 1 =
3 −1
-1
1 4 1 ตดั แถว 3 คอลมั น์ 3 ออก
หา M33 = 3 1 −1 −11
2 −2 3 ตอบ
M 33 = 1 4
3 1
-12
det M 33 = 1 4 =
3 1
+1
6. โคแฟกเตอร์ (Cofactor)
นิยาม กาํ หนดให้ A = aij โคแฟกเตอร์ของผลคูณของ aij คือ ผลคูณของ (−1)i+ j
n×n
และ Mij (A) เขียนแทนดว้ ย Cij ดงั นLี
Cij = (−1)i+ j Mij
สรุป การหาโคแฟกเตอร์
1) เป็ นเมทริกซ์จตั ุรัส ขนาด n × n
2) หาไมเนอร์ของ Mij ตามทีVไดศ้ ึกษามาแลว้ นนVั คือ
2.1 หา Mij ใหต้ ดั แถวทVี i และคอลมั นท์ ีV j ออก
2.2 หา det Mij ก็จะไดไ้ มเนอร์ตามตอ้ งการ
3) หาโคแฟกเตอร์จาก Cij = (−1)i+ j Mij
ตวั อยา่ งทVี 7.3 กาํ หนดให้ A = 1 −2 จงหาโคแฟกเตอร์ของเมทริกซ์ A
3
−4 2×2
วธิ ีคิด ขLนั 1 หาค่าไมเนอร์ ก่อนดงั นLี
M 11 = 1 −2 ตดั แถว 1 คอลมั น์ 1 ออก M11 = −4
3 −4 ตดั แถว 1 คอลมั น์ 2 ออก M12 = 3
−2 ตดั แถว 2 คอลมั น์ 1 ออก M 21 = −2
M12 = 1 −4 ตดั แถว 2 คอลมั น์ 1 ออก M 22 = 1
3 −2
−4
M 21 = 1 −2
3 −4
M 22 = 1
3
ขLนั 2 หาค่าโคแฟกเตอร์ จาก Cij = (−1)i+ j Mij
C11 = (−1)1+1 ⋅ M11 = (−1)2 ⋅ (−4) = (1)(−4) = −4
C12 = (−1)1+2 ⋅ M12 = (−1)3 ⋅ (3) = (−1)(3) = −3
C21 = (−1)2+1 ⋅ M 21 = (−1)3 ⋅ (−2) = (−1)(−2) = 2
C22 = (−1)2+2 ⋅ M 22 = (−1)4 ⋅ (1) = (1)(1) = 1
Cof.(A) = −4 −3 ตอบ
2 1 2×2
ข้อสังเกต นกั เรียนจะเห็นวา่ ค่าของ (−1)i+ j จะมีค่าไดเ้ พียง 2 ค่า คือ
−1 ถา้ i + j เป็ น จาํ นวนเลข คVี
+1 ถา้ i + j เป็ น จาํ นวนเลข คู่
ตวั อยา่ งทVี 7.4 1 3 1 จงหาโคแฟกเตอร์ของเมทริกซ์
วธิ ีคิด
กาํ หนดให้ A = 0 −1 −1
1 2 4 3×3
ขLนั 1 หาไมเนอร์ของ Mij ไดด้ งั นLี
+2
1 3 1 −1 −1 = −2
M11 = 0 −1 −1 =2 4
1 2 4
-4
+1
1 3 1 0 −1 =1
M12 = 0 −1 −1 =1 4
1 2 4
0
+1
1 3 1 0 −1 =1
M13 = 0 −1 −1 =1 2
0
1 2 4
-2
1 3 1 31 = 10
M 21 = 0 −1 −1 =2 4
1 2 4
+12
-1
1 3 1 11 =3
M 22 = 0 −1 −1 =1 4
2 4 +4
1
-3
1 3 1 13 = −1
M 23 = 0 −1 −1 =1 2
+2
1 2 4
+1
1 3 1 31 =4
M31 = 0 −1 −1 = −1 1
+3
1 2 4
0
1 3 1 11 = −1
M32 = 0 −1 −1 = 0 −1
-1
1 2 4
0
1 3 1 13 = −1
M33 = 0 −1 −1 = 0 −1
-1
1 2 4
ขLนั 2 หาค่าโคแฟกเตอร์ จาก Cij = (−1)i+ j Mij ได้ ดงั นLี
C11 = (−1)1+1 ⋅ M11 = (−1)2 (−2) = (1)(−2) = −2
C12 = (−1)1+2 ⋅ M12 = (−1)3 (1) = (−1)(1) = −1
C13 = (−1)1+3 ⋅ M13 = (−1)4 (1) = (1)(1) = 1
C21 = (−1)2+1 ⋅ M 21 = (−1)3 (10) = (−1)(10) = −10
C22 = (−1)2+2 ⋅ M 22 = (−1)4 (3) = (1)(3) = 3
C23 = (−1)2+3 ⋅ M 23 = (−1)5 (−1) = (−1)(−1) = 1
C31 = (−1)3+1 ⋅ M 31 = (−1)4 (4) = (1)(4) = 4
C32 = (−1)3+2 ⋅ M 32 = (−1)5 (−1) = (−1)(−1) = 1
C33 = (−1)3+3 ⋅ M 33 = (−1)6 (1) = (1)(−1) = −1
ตอบ
ข้อสังเกต การหาค่าโคแฟกเตอร์ เราจะเห็นวา่ ค่าทีVไดเ้ กิดจากค่าของ (−1)i+ j
(ซVึงมีค่าเป็น +1 หรือ −1) มาคูณกบั Mij จะเห็นวา่ เป็นการเปลีVยน
เครVืองหมาย + หรือ − เท่านLนั
1) ความหมาย
นิยาม กาํ หนดให้ A = aij เป็นจตั ุรัสเทริกซ์ และ A−1 = aij เป็ น
n×n n×n
จตั ุรัสเมทริกซ์ ถา้ A⋅ A−1 = A−1⋅ A = I แลว้ A−1 เป็ น อินเวอร์สของเมทริกซ์ A
A−1 อ่านวา่ อินเวอร์สของ A”
หมายเหตุ เมทริกซ์จตั ุรัสใด ๆ อาจจะไม่มีอินเวอร์สก็ได้ เพราะ A ⋅ A−1 ≠ A−1 ⋅ A ≠ I
เช่น ให้ A = 1 −2 B = −1 2
1 −1 −1 1
ขHนั 1 หาค่า A ⋅ B
A⋅B = 1 −2 ⋅ −1 2 = C11 C12
1 −1 2×2 −1 C21
1 2×2 C22 2×2
C22 = (1)(2) + (−1)(1) = 2 −1 = 1
C21 = (1)(−1) + (−1)(−1) = −1+1 = 0
C12 = (1)(2) + (−2)(1) = 2 − 2 = 0
C11 = (1)(−1) + (−2)(−1) = −1+ 2 = 1
A⋅B = 1 0 = I2
0
1 2×2
ขHนั 2 หาค่า B ⋅ A
B⋅A = −1 2 ⋅ 1 −2 = C11 C12
−1 1 −1 2×2 C21
1 2×2 C22 2×2
C22 = (−1)(−2) + (1)(−1) = 2 −1 = 1
C21 = (−1)(1) + (1)(1) = −1+1 = 0
C12 = (−1)(−2) + (2)(−1) = 2 − 2 = 0
C11 = (−1)(1) + (2)(1) = −1+ 2 = 1
B⋅A = 1 0 = I2
0 1 2×2
จะได้ A ⋅ B = B ⋅ A = I2
นนัL คือ เมทริกซ์ B เป็ นอินเวอร์สของเมทริกซ์ A หรือ A = B−1
เมทริกซ์ A เป็ นอินเวอร์สของเมทริกซ์ B หรือ B = A−1
2×2
กาํ หนดให้ A = a b
c
d 2×2
A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
! ข1นั ตอนการหาอนิ เวอร์ส 2 × 2
1) หา det A
2) หาโคแฟกเตอร์ A (cof ⋅ A)
3) หาแอ็ดจ๊อยของ A (adj A) โดยการทรานสโพส (At) โคแฟกเตอร์ของ A
4) หา A−1 = 1 A .adj.A
det
ตวั อยา่ งทีL 8.1 ให้ A = 2 4 จงหา A−1
1 3 2×2
-4
วธิ ีคิด ขHนั 1 หา det A = 2 4 =2
1 3
+6
ขHนั 2 หา cof ⋅ A
C11 = (−1)1+1 M11 = (−1)2 2 4 = (1)(3) = 3
1 3
C12 = (−1)1+2 M12 = (−1)3 2 4 = (−1)(1) = −1
1 3
C21 = (−1)2+1 M 21 = (−1)3 2 4 = (−1)(4) = −4
1 3
C22 = (−1)2+2 M 22 = (−1)4 2 4 = (1)(2) = 2
1 3
cof .A = 3 −1
−4
2
ขHนั 3 adj.A = [cof .A]t = 3 −4
−1 2
ขHนั 4 หา A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
แทนค่า A−1 = 1 3 −4
2 −1
2
3 −2 ตอบ
A−1 = −212
1
ตวั อยา่ งทLี 8.2 ให้ A = 1 3 จงหา A−1
−4 2 2×2
+12
วธิ ีคิด ขHนั 1 หา det A = 1 3 = 14
−4 2
+2
ขHนั 2 หา cof ⋅ A
C11 = (−1)1+1 M11 = (−1)2 1 3 = (1)(2) = 2
−4 2
C12 = (−1)1+2 M12 = (−1)3 1 3 = (−1)(−4) = 4
−4 2
C21 = (−1)2+1 M 21 = (−1)3 1 3 = (−1)(3) = −3
−4 2
C22 = (−1)2+2 M 22 = (−1)4 1 3 = (1)(1) = 1
−4 2
cof .A = 2 4
−3 1
ขHนั 3 adj.A = [cof .A]t = 2 −3
4 1
ขHนั 4 หา A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
แทนค่า A−1 = 1 2 −3
14 4 1
1 − 3
14
A−1 = 7
2 1
7 14
ตอบ
3×3
1) หา det A
2) หา cof .A
3) หา adj.A = (cof .A)t คือ แอ็ดจ๊อยเมนตข์ องเมทริกซ์ A
4) หา A−1 = 1 A ⋅ adj.A
det
ตวั อยา่ งทีL 8.3 กาํ หนดให้ 1 2 −1
A = 0 จงหา A−1
−3 2
4 −1 0 3×3
-12 +2 0 = -10
1 2 -1 1 2 =6
วธิ ีคิด ขHนั 1 หา det A = 0 -3 2 ..0 -3
4 -1 0 4 -1
0 +16 0 = +16
ขHนั 2 หา cof .A
+2
1 2 −1 −3 2
C11 = (−1)1+1 M11 = (−1)2 0 −3 −1 0
−1 2 = (1) = (1)(2) =2
4
0
0
−8
1 2 −1 0 2
C12 = (−1)1+2 M12 = (−1)3 0 −3 4 0
−1 2 = (−1) = (−1)(−8) =8
4
0
0
+12
1 2 −1 0 −3
C13 = (−1)1+3 M13 = (−1)4 0 −3 4 −1
−1 2 = (1) = (1)(12) = 12
4
0
0
-1
1 2 −1 2 −1
C21 = (−1)2+1 M 21 = (−1)3 0 −3 −1 0
−1 2 = (−1) = (−1)(−1) =1
4
0
0
+4
1 2 −1 1 −1
C22 = (−1)2+2 M 22 = (−1)4 0 −3 4 0
−1 2 = (1) = (1)(4) = 4
4
0
0
-8
1 2 −1 1 2
C23 = (−1)2+3 M 23 = (−1)5 0 −3 4 −1
−1 2 = (−1) = (−1)(−9) = 9
4
0
-1
-3
1 2 −1 2 −1
C31 = (−1)3+1 M31 = (−1)4 0 −3 −3 2
−1 2 = (1) = (1)(1) =1
4
0
4
0
1 2 −1 1 −1
C32 = (−1)3+2 M32 = (−1)5 0 −3 0 2
−1 2 = (−1) = (−1)(2) = −2
4
0
2
0
1 2 −1 1 2
C33 = (−1)3+3 M33 = (−1)6 0 −3 0 −3
−1 2 = (1) = (1)(−3) = −3
4
0
-3
2 8 12
cof .A = 1 4
∴ 9
1 −2 −3
ขHนั 3 หา adj.A = [cofA]t
2 1 1
4 −2
adj.A = 8
12 9 −3
ขHนั 4 หา A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
แทนค่า 1 2 1 1
6 −2
A−1 = 8 4 −3
9
12
1 1 1
3 6 6
4 2
= − 1 ตอบ
3 3 3
2 3 − 1
2 2
ตวั อยา่ งทีL 8.4 ให้ A = 2 1 และ B = 1 −1
1 1 2×2 −1
2 2×2
จงแสดงวา่ B เป็นอินเวอร์สการคูณของ A
วธิ ีคิด โจทยใ์ หห้ าวา่ B เป็ นอินเวอร์สการคูณของ A นนัL คือ A ⋅ B = I
หา A ⋅ B = 2 1 ⋅ 1 −1 = C11 C12
1 1 2×2 −1 C21
2 2×2 C22 2×2
C22 = (1)(−1) + (1)(2) = −1+ 2 = 1
C21 = (1)(1) + (1)(−1) = +1−1 = 0
C12 = (2)(−1) + (1)(2) = −2 + 2 = 0
C11 = (2)(1) + (1)(−1) = +2 −1 = 1
A ⋅ B = 1 0 = I2
0 1 2×2
แสดงวา่ B เป็นอินเวอร์สของการคูณของเมทริกซ์ A ตอบ
นกั เรียนไดเ้ รียนรู้เกี-ยวกบั วธิ ีแกส้ มการเชิงเส้น 2 ตวั แปร มาแลว้ ในคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1
(2000 – 1501) โดยวธิ ีแทนค่า หรือ การกาํ จดั ตวั แปร มาแลว้ สาํ หรับในหน่วยเรียนนSีเราจะใชเ้ มทริกซ์
มาช่วยแกร้ ะบบสมการเชิงเส้น โดยใช้
1) อินเวอร์สการคูณของเมทริกซ์
2) กฎของคราเมอร์
เช่น กาํ หนดให้ 3x + 4 y = −7 ---------------- !
2x + y = −3 ----------------- "
เขียนเป็ นเมทริ กซ์ 3 4 x = −7 (ใชก้ ารคูณเมทริกซ์)
เช่น กาํ หนดให้ 2 1 2×2 y 2×1 −3 2×1
x + y − z = 2 ----------------- !
2x − y − 3z = 5 ----------------- "
x + 2 y + z = 5 ----------------- #
1 1 −1 x 2
2 −1 −3 y = 5
เขียนเป็ นเมทริ กซ์ (ใชก้ ารคูณเมทริกซ์)
1 2 1 3×3 z 3×1 53×1
การแกส้ มการเพ-อื หาคาํ ตอบดว้ ยอินเวอร์สของเมทริกซ์ ไดจ้ าก
X = A−1⋅ B
ตวั อยา่ ง 9.1 จงแกส้ มการโดยใช้ Inverse Matrixของสมการ
x + y = 3 ----------------- !
2x − 3y = −4 ----------------- "
วธิ ีคิด ขSนั 1 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปเมทริกซ์
1 1 x = 3
2 −3 y −4
ขSนั 2 จดั ใหอ้ ยใู่ นรูปของอินเวอร์ส X = A−1 ⋅ B
นนั- คือ x = 1 1 −1 3
y 2 −3 −4
ขSนั 3 หาค่าอินเวอร์สของ 1 1 −1 ซ-ึงมีขนาด 2×2 ดงั นSี
2 −3
-2
3.1 หา det A = 1 1 = −5
2 3
-3
3.2 หา A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
C11 = (−1)1+1 M11 = (−1)2 1 1 = (1)(−3) = −3
2 −3
C12 = (−1)1+2 M12 = (−1)3 1 1 = (−1)(2) = −2
2 −3
C21 = (−1)2+1 M 21 = (−1)3 1 1 = (−1)(1) = −1
2 −3
C22 = (−1)2+2 M 22 = (−1)4 1 1 = (1)(1) = 1
2 −3
จะได้ cof .A = −3 −2
−1
1
3.4 หา adj.A = [cof .A]t = −3 −1
3.5 หา −2 1
A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
แทนค่า = 1 −3 −1
−5 −2
1
3 1
A−1 = 5 5
2
− 1
5 5
ขSนั 4 แทนค่า ต่าง ๆ ใน ขSนั ที- 2 และหาผลคูณของเมทริกซ์ ดงั นSี
3 1 c11
x = 5 5 ⋅ 3 = c12
y 2 −4
− 1 2×1 2×1
5
5 2×2
c12 = ( 2 ⋅ 3) + (− 1 ⋅ −4) = 2
5 5
c11 = ( 3 ⋅ 3) + ( 1 ⋅ −4) = 1
5 5
x = 1
y 2×1 22×1
จะได้ x =1 (การเท่ากนั ของเมทริกซ์)
y=2
ตอบ
ตวั อยา่ งที- 9.2 จงแกส้ มการโดยใชอ้ ินเวอร์สของเมทริกซ์
2x + y + z = 0 ----------------- !
4x + 3y + 2z = 2 ----------------- "
2x − y − 3z = 0 ----------------- #
วธิ ีคิด ขSนั 1 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปของเมทริกซ์
2 1 1 x 0
4 3 2
2 y =
2 −1 −3 z 0
ขSนั 2 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปของอินเวอร์ส x = A−1 ⋅ B
x 2 1 1 −1 0
y 4 ⋅ 2
= 3 2
z 2 −1 −3 0
2 1 1
หาอินเวอร์สของเมทริกซ์ 4
ขSนั 3 3 2 มีขนาด 3×3 ไดจ้ าก
2 −1 −3
A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
-6 +4 +12 = +10
3.1 หา 2 1 1 21 = −8
detA = 4 3 2 ..4 3
2 -1 -3 2 -1
-18 +4 - 4 = - 18
3.2 หา cof .A
2
2 1 1 3 2
C11 = (−1)1+1 M11 = (−1)2 4 3 −1 −3
−1 2 = (1) = (1)(−7) = −7
2
−3
-9
-4
2 1 1 4 2
C12 = (−1)1+2 M12 = (−1)3 4 3 2 −3
−1 2 = (−1) = (−1)(−16) = 16
2
−3
-12
-6
2 1 1 4 3
C13 = (−1)1+3 M13 = (−1)4 4 3 2 −1
−1 2 = (1) = (1)(−10) = −10
2
−3
-4
+1
2 1 1 1 1
C21 = (−1)2+1 M 21 = (−1)3 4 3 −1 −3
−1 2 = (−1) = (−1)(−2) = 2
2
−3
-3
-2
2 1 1 2 1
C22 = (−1)2+2 M 21 = (1)4 4 3 2 −3
−1 2 = (1) = (1)(−8) = −8
2
−3
-6
-2
2 1 1 2 1
C23 = (−1)2+3 M 23 = (−1)5 4 3 2 −1
−1 2 = (−1) = (−1)(−4) = 4
2
−3
-2
-3
2 1 1 1 1
C31 = (−1)3+1 M31 = (1)4 4 3 3 2
−1 2 = (1) = (1)(−1) = −1
2
−3
+2
-4
2 1 1 2 1
C32 = (−1)3+2 M32 = (−1)5 4 3 4 2
−1 2 = (−1) = (−1)(0) = 0
2
−3
+4
-4
2 1 1 2 1
C33 = (−1)3+3 M33 = (1)6 4 3 4 3
−1 2 = (1) = (1)(2) = 2
2
−3
6
−7 16 −10
จะได้ cof ⋅ A = 2 −8 4
−1 0 2
3.3 หาค่า adj ⋅ A = [cof ⋅ A]t
−7 2 −1
adi.A = 16 −8 0
−10 4 2
3.4 หาอินเวอร์สของเมทริกซ์
A−1 = 1 A ⋅ adjA
det
แทนค่า 1 −7 2 −1
−8
A−1 = 16 −8 0
4
−10 2
7 − 2 1 1
−818621 8 4
8
= 81 − 0
8
81
10 5 − 4 1 −4182
8 2
8 4
7 − 1 1
= −82 4
8
1 0
5 − 1 − 1
4 2 4
ขSนั 4 แทนค่าต่าง ๆ ลงในขSนั ตอนที- 2 และหาผลคูณของเมทริกซ์ ดงั นSี
x 7 − 1 1 0 C11
y −82 4 ⋅ 2
8 = C21
= 1 0
z 5 1 1 03×1 C31 3×1
− 2 −
4 4 3×3
c31 = 0 + − 1 ( 2) + 0 = −1
2
c21 = 0 + (1)(2) + 0 = 2
c11 = 0 + − 1 1 + 0 = − 1
4 2
(2)
−−−2112 2
x
y =
z
จะได้ x=−1 (จากการเท่ากนั ของเมทริกซ์)
2
y=2
z = −1
ตรวจคาํ ตอบ ใหน้ าํ ค่า x = − 1 , y = 2, z = −1 ไปแทนในสมการใดสมการหน-ึง ถา้ แทนแลว้ ทาํ ใหไ้ ด้
2
ค่าเท่ากนั แสดงวา่ ค่า x, y, z ที-ไดถ้ ูกตอ้ ง ดงั นSี
จาก สมการ 1 2x + y + z = 0
แทนค่า
2(− 1 ) + 2 + (−1) = 0
2
−1+ 2 −1 = 0
0=0
หรือ จากสมการ 3 2x − y − 3z = 0
แทนคาํ 2(− 1 ) − 2 − 3(−1) = 0
2
−1− 2 + 3 = 0 ตอบ
0=0
กาํ หนดให้ A เป็ นเมทริกซ์ขนาด m× n โดยที- det(A) ≠ 0 แลว้ ระบบสมการท-ีเขียนในรูป
ของเมทริกซ์ Ax = B เม-ือตวั แปร คือ x1, x2,..., xn และ ค่าคงที- คือ b1,b2,...,bn โดยที-
x1 b1
b2
x = x2 และ B = ⋮
⋮
bn
xn
จะไดค้ ่าของตวั แปร คือ x1 = det( A1)
det( A)
x2 = det( A2 )
det( A)
⋮⋮
xn = det( An )
det( A)
เมอื0 Ai คอื เมทริกซ์ทไ0ี ด้จากการแทนหลกั ที0 i ของ A ด้วยหลกั ของ B
ตวั อยา่ ง 9.3 จงแกร้ ะบบสมการโดยใชก้ ฎของคราเมอร์
วธิ ีคิด
3x + 4 y = −2 ----------------- !
5x + 3y = 4 ----------------- "
ขSนั 1 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปของเมทริกซ์
3 4 x = −2
5 3 y
4
ขSนั 2 หาค่าของ det A ดงั นSี
-20
det A = 3 4 = −11
5 3
+9
ขSนั 3 หาค่าของ det A1 โดยนาํ คอลมั น์ของเมทริกซ์ B = −2 ไปแทนคอลมั น์ท-ี 1
4
ของเมทริกซ์ก่อนหา det A1 ดงั นSี
-16
det A1 = -2 4 = −22
3
4
-6
∴ การหา det A2 ก็หาเหมือนขา้ งตน้ ดงั นSี
+10
det A2 = 3 -2 = 22
5 4
+12
ขSนั 4 หาค่า x และ y ดงั นSี
x = det A1 = −22 = 2
det A −11
y = det A2 = 22 = −2
det A −11
จะได้ x = 2
y = −2
ตรวจคาํ ตอบ โดยนาํ ค่า x = 2, y = −2 ไปแทนค่าในสมการ 1
จากสมการ 1 3x + 4 y = −2
แทนค่า x, y 3(2) + 4(−2) = −2
6 − 8 = −2
−2 = −2
หรือ นาํ ไปแทนในสมการ 2 จะได้
จากสมการ 2 5x + 3y = 4
แทนค่า x, y 5(2) + 3(−2) = 4
10 − 6 = 4
4=4
ตอบ
ตวั อยา่ งท-ี 9.4 จงใชก้ ฎของคราเมอร์ หาระบบสมการของ
x − 3z = 2 ----------------- !
2x − y + z = 4 ----------------- "
----------------- #
y − 2z = 1
วธิ ีคิด ขSนั 1 เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปของเมทริกซ์
1 0 −3 x 2
2 4
−1 1 y =
0 1 −2 z 1
สมการ A . X = B
ขSนั 2 หาค่าของ det A
0 -1 0 = −1
1 0 -3 1 0 + จะได้ − 5
det A = 2 -1 1 ..2 -1
0 1 -2 0 1
+2 0 -6 = − 4
ขSนั 3 หาค่าของ det A1, det A2 และ det A3 โดยนาํ ค่าคอลมั น์ 2 ไปแทนใน
B = 4
1
คอลมั น์ที- 1, 2,3 ของเมทริกซ์ A ดงั นSี
-3 -2 0 = -5
จะได้ −13
2 0 -3 2 0
det A1 = 4 -1 1 ..4 -1 = -8
1 1 -2 1 1
4 0 -12
0 -1 8 = +7
1 2 -3 1 2 จะได้ −7
det A2 = 2 4 1 .. 2 4
0 1 -2 0 1
-8 0 -6 = -14
0 -4 0 = -4
1 0 21 0 จะได้ −1
det A3 = 2 -1 4 .. 2 -1
0 1 101
-1 0 4 = 3
ขSนั 4 หาค่าของ x, y, z ดงั นSี
x = det A1 = −13 = 13
det A −5 5
y = det A2 = −7 = 7
det A −5 5
z = det A3 = −1 = 1
det A −5 5
ตรวจคาํ ตอบ โดยนาํ ค่า x = 13 , y = 7 และ z = 1 ไปแทนในสมการใด สมการหน-ึง ดงั นSี
5 5 5
จากสมการ # y − 2z = 1
แทนค่า y, z 7 − 2 1 = 1
5 5
7 − 2 = 1
5 5
5 = 1
5
1=1 ตอบ