บทท่ี 1
บทนำ
1. หลกั กำรและเหตุผล
เพ่ือเปน็ การส่งเสริมการพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ของนักเรียน ใหม้ ที ักษะการเรยี นร้บู รรลตุ าม
จุดมงุ่ หมายของ พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2 ) พ.ศ. 2554 ท่ี
ระบวุ า่ การจัดการศกึ ษาต้องยึดหลกั ท่ีวา่ ผู้เรยี นทกุ คนมีคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตวั เองได้ ถือว่า
ผู้เรียนสาคัญทส่ี ุด กระบวนการจดั การศึกษาต้องส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นสามารถพฒั นาตนเองไดต้ าม ธรรมชาตแิ ละ
เต็มศกั ยภาพ รวมท้ังเพ่ือเป็นการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาด้านผู้เรยี นท้ัง 7 มาตรฐานใหม้ พี ฤติกรรม
ตามตัวบ่งชี้ในแตล่ ะมาตรฐานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ โดยสง่ เสรมิ ให้นักเรยี นมีพัฒนาการดา้ นรา่ งกาย จิตใจ
และอารมณ์ ด้านสังคม และดา้ นสตปิ ัญญา ทเี่ นน้ การฝึกปฏิบตั จิ รงิ ตอบสนองความสามารถ ความถนัดและ
ความสนใจของผเู้ รียน การสร้างองค์ความรู้และคน้ พบความสามารถของตนเอง
กจิ กรรมค่ายวชิ าการ เป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นการสอนในกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ กุ กล่มุ สาระเพ่ือ
ต้องการเพ่มิ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน และเพ่ิมแนวทางในการศึกษาเรียนรู้ของนกั เรยี น ท่ีครูและนกั เรียนรว่ มกัน
กาหนดเรือ่ งราวทจี่ ะจดั กิจกรรมคา่ ยใหส้ อดคลอ้ งกับ มาตรฐานการเรยี นรู้ในแต่ละกลมุ่ สาระ โดยยึดถอื ความ
แตกต่างระหว่างบคุ คล และถือว่าผู้เรยี นสาคญั ที่สุด ผู้เรยี นทกุ คนมีความสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเอง
ได้ กระบวนการจดั การศึกษาตอ้ งสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็ม ศกั ยภาพ การจดั
กระบวนการเรยี นรู้ ตอ้ งสอดคล้องกบั ความสนใจ ความถนัดของผ้เู รียน โดยคานึงถึงความแตกต่างระหวา่ ง
บุคคล การพัฒนาประเทศให้ทันตอ่ การเปล่ยี นแปลงของกระแสโลก ตอ้ งพฒั นาคนของประเทศเปน็ สาคัญ โดย
ใชก้ ารศกึ ษาเปน็ เครื่องมอื ของการพัฒนา และมุ่งใหเ้ ยาวชนของชาตมิ ีภูมคิ ุ้มกันต่อกระแสการเปลยี่ นแปลง
ดังกลา่ ว ประกอบกบั การสนับสนุนงบประมาณด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นของรฐั ตามโครงการเรยี นฟรี 15 ปี
อยา่ งมีคุณภาพ ทีป่ ระกาศใชใ้ นปีการศึกษา 2552 ทาให้สถานศกึ ษาทุกแห่งไดร้ ับงบประมาณอยา่ งจากดั จาก
กระทรวงศกึ ษาธิการ เพื่อใช้ในกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นแทนการเกบ็ คา่ ใช้จา่ ยจากนักเรียนและผู้ปกครองนัน้ ทา
ใหเ้ กดิ ข้อจากัดในการจดั กิจกรรมพัฒนาตนเองของโรงเรยี น โครงการส่งเสรมิ และพัฒนาการเรยี นการสอน
“ค่ายวิชาการ” จงึ เปน็ กจิ กรรมเสนอแนะที่สามารถช่วยนกั เรียน ได้พฒั นาตนเองตามวัตถุประสงค์แบบบรูณา
การหลายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามความถนัดและความสามารถของผู้เรยี น ทาใหเ้ กิดการฝกึ ทักษะ
กระบวนการคิด การทางานร่วมกับผูอ้ ืน่ การจดั การ การเผชิญสถานการณแ์ ละการประยุกตค์ วามรู้มาใชใ้ นการ
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
2. วัตถปุ ระสงค์
2.1 เพอื่ ให้ผู้เรียนไดร้ ับประสบการณ์ทหี่ ลากหลาย คน้ พบความสนใจ ความถนัด พัฒนาความสามารถ
พเิ ศษเฉพาะตวั ให้เหมาะสมกับตนเอง มนี สิ ยั รักการอ่านและแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง
2.2 เพอ่ื ให้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรยี นมคี วามสมารถในการคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ คิดสร้างสรรค์
แกป้ ัญหาได้อย่างมเี หตุผล และสร้างสรรคผ์ ลงานของตนเองดว้ ยความภมู ิใจ
2.3 เพือ่ ส่งเสรมิ และสนับสนุนให้ผู้เรยี นนาความรู้จากทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
รจู้ ักวางแผนการทางาน ฝกึ การทางานเป็นทีมโดยการระดมสมอง และฝกึ การเปน็ ผนู้ า-ผูต้ ามทีด่ ี
2.4 เพ่ือให้ผู้เรียนมคี า่ นยิ มทดี่ ีงามในการดาเนนิ ชีวิต เสรมิ สรา้ งวนิ ัย คณุ ธรรมและจริยธรรม แก่ผเู้ รยี น
3. เป้ำหมำย
3.1 เชงิ ปริมำณ(ร้อยละ)
นกั เรียนโรงเรียนลมศักด์วิ ทิ ยาคม ระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 จานวน 128 คน
3.2 เชงิ คุณภำพ(ระดับ)
3.2.1 ผู้เรียนได้รบั ประสบการณท์ ี่หลากหลาย คน้ พบความสนใจ ความถนัด พัฒนาความสามารถ
พเิ ศษเฉพาะตวั ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง มีนสิ ยั รักการอ่านและแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง
3.2.2 ผู้เรยี นมีความสมารถในการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ คดิ สร้างสรรค์ แก้ปญั หาได้อย่างมีเหตุผล และ
สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเองด้วยความภมู ิใจ
3.2.3 ผู้เรยี นนาความรู้ความรู้จากทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ไปใช้ในชวี ิตประจาวัน รู้จกั วางแผนการ
ทางาน ฝกึ การทางานเปน็ ทมี โดยการระดมสมอง และฝกึ การเปน็ ผูน้ า-ผตู้ ามที่ดี
3.2.4 ผเู้ รยี นมีคา่ นิยมที่ดีงามในการดาเนนิ ชวี ิต เสริมสรา้ งวนิ ยั คุณธรรมและจรยิ ธรรม แก่ผู้เรยี น
4. ระยะเวลำ
มนี าคม 2564
5. ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะได้รับ
1. ผเู้ รยี นได้รบั ประสบการณ์ทีห่ ลากหลาย ค้นพบความสนใจ ความถนัด พฒั นาความสามารถพเิ ศษ
เฉพาะตัวให้เหมาะสมกับตนเอง มีนสิ ัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
2. ผู้เรียนมคี วามสมารถในการคดิ อย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหาไดอ้ ย่างมเี หตุผล และ
สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเองด้วยความภูมิใจ
3. ผูเ้ รียนนาความรู้จากทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ร้จู ักวางแผนการทางาน ฝึก
การทางานเป็นทมี โดยการระดมสมอง และฝึกการเป็นผ้นู า ผู้ตามที่ดี
4. ผู้เรยี นมีค่านยิ มทด่ี ีงามในการดาเนนิ ชวี ิต เสรมิ สรา้ งวินัย คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม แก่ผเู้ รยี น
บทที่ 2
เอกสำรทเ่ี กีย่ วข้อง
กจิ กรรมค่ำย
เป็นกิจกรรมทมี่ นษุ ย์รเิ ริ่มทาและทากนั อย่างต่อเนื่องมานบั ร้อยปี เริ่มจากการไปเปลี่ยนบรรยากาศ
ดว้ ยการออกไปพักแรมนอกบ้านธรรมดา แลว้ มีการคดิ เกมการละเลน่ คิดแตง่ เพลงมาร้องรากนั ให้ครน้ื เครงเพื่อ
เป็นการสรา้ งบรรยากาศ ต่อมากน็ ารปู แบบกจิ กรรมนัน้ มาจัดเป็นค่ายแลว้ มาปรบั ใชใ้ นการจัดการเรียนรู้
กลายเปน็ รูปแบบการศกึ ษา อันมีขนั้ ตอนการเรียนรู้ท่ีการมีพฒั นาข้นึ มาเรือ่ ย ๆ และจากการรวบรวม
ประสบการณ์การ การจัดกจิ กรรมคา่ ยหลายๆ ครง้ั ทาใหเ้ กิดกิจกรรมค่ายทม่ี คี ุณภาพซ่ึงสามารถพฒั นาเดก็ ๆ
ให้มีศักยภาพในด้านตา่ ง ๆ ได้อยา่ งชัดเจน เพราะเกือบทุกค่ายลว้ นแล้วแตม่ ีเปา้ หมายในการพัฒนาและสง่ เสรมิ
ทกั ษะกระบวนการทางการคิด วิเคราะห์ สงั เคราะห์ จากประสบการณจ์ ริง ซึง่ ได้จัดใหเ้ รียนรูต้ ามความถนดั และ
ความสนใจ และเมื่อไดท้ าการประเมนิ ก็สามารถเหน็ ผลสัมฤทธิ์ทเ่ี กิดขึ้นได้ในชว่ งเวลาสน้ั ๆ
กิจกรรมค่าย จึงเปน็ กิจกรรมการเรยี นรู้ ทจี่ ัดอยใู่ นลักษณะของ กำรเปล่ียนผ่ำนกำรศกึ ษำ (
Education Transformation ) อนั หมายถึง การเปล่ียนแนวทางการจดั การศึกษา เพื่อพฒั นาผ้เู รยี นในสังคม
วัฒนธรรมร่วมสมัย ให้เปน็ ผทู้ ม่ี ศี ักยภาพในการเรยี นรูท้ ัง้ เปน็ รายบุคคลและเรียนร้รู ว่ มกัน โดยใชแ้ นวคดิ จาก
ความรว่ มมือขององค์กรต่าง ๆในสังคม เพือ่ ให้เกดิ ผลอันพึงประสงค์
และเมื่อพจิ ารณาถึงประเดน็ ที่จะตอ้ งเปลีย่ นผ่านการศึกษาในโรงเรียน คือ
1. คุณลักษณะของผเู้ รียนท่ีพึงประสงค์
2. การจัดหลกั สูตรทีเ่ น้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั
3. การออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอน
4. การสร้างโอกาสการเรยี นรู้
5. การเสริมสร้างการเรยี นรสู้ ารสนเทศสาหรับสงั คมไทย
6. รูปแบบของระบบการบรหิ ารการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการ
7. แนวทางการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาที่มีการปฏิบัตเิ ป็นเลศิ
กจิ กรรมค่ายนบั เปน็ กจิ กรรมการเรียนรู้ ท่ีจดั อยู่ในประเด็น การสร้างโอกาสการเรียนรู้ ทคี่ รแู ละ
ผปู้ กครองควรสรา้ งความตระหนักให้นักเรยี นเห็นความสาคัญ และสง่ เสริมให้มีการจัดค่ายวชิ าการและค่าย
พฒั นาคุณลักษณะผู้เรยี น ภายในโรงเรยี น แลว้ ควรมีการต่อยอดดว้ ยการสง่ เสริมให้นกั เรียนตดิ ตามขอ้ มูล
ขา่ วสารเพ่อื ใหม้ โี อกาสได้ไปเข้าค่ายในระดบั ท้องถนิ่ และในระดับประเทศอย่างต่อเน่ือง การสร้างโอกาสการ
เรียนรดู้ ว้ ยการเข้าค่าย ก็จะกลายเปน็ วฒั นธรรมแห่งการเรียนร้ทู ดี่ ี มีผลลพั ธ์เป็นทรพั ยากรบุคคลอันมี
คุณลักษณะทีส่ งั คมพึงประสงค์ได้อยา่ งแท้จริง
ประเภทของคำ่ ย
1. คำ่ ยวิชำกำร
คา่ ยวิชาการ กิจกรรมวิชาการจดั ไดห้ ลากหลายรปู แบบ แต่ควรเป็นกิจกรรมท่ีแตกต่างจากการเรียนใน
หลกั สูตรปกติ กลา่ วคือ กจิ กรรมมคี วามนา่ สนใจ สนุก ท้าทาย มคี วามอสิ ระทางความคิด เปิดโอกาสให้ปฏิบตั ิ
มากท่สี ดุ และผ้เู ขา้ คา่ ยทุกคนได้แสดงออกถึงศักยภาพของตนองอย่างเต็มที่ ซึ่งมลี กั ษณะทีส่ าคญั ดงั นี้
1. มีการกาหนดวตั ถุประสงค์และแนวปฏบิ ตั ิทีช่ ัดเจนเปน็ รูปธรรม
2. บูรณาการวชิ าการกบั ชีวติ จริง ให้ผเู้ ขา้ คา่ ยไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคัญของการเรียนร้ตู ลอดชีวิตและ
สนุกสนานกับการใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น
3. เน้นการเรยี นรเู้ ร่ืองราวต่าง ๆ ทีจ่ าเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ เปน็ เร่ืองราวทเ่ี ปน็ ปัญหาสาคัญของสงั คม
ในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขนึ้ ในท้องถน่ิ ทีท่ ุกคนควรรบั รู้ถงึ ความรุนแรงของปญั หาและรว่ มมือกนั
หาทางแก้ไข โดยใชช้ มุ ชนเปน็ แหลง่ เรยี นรู้ ใช้ภมู ปิ ญั ญาในชุมชนเป็นครูผสู้ อน
4. เป็นกิจกรรมท่ผี ู้เขา้ ค่ายมีโอกาสใช้ความคิดของตนเองอยา่ งอิสระ และไดร้ ับประสบการณ์ตรงจาก
การปฏิบัติด้วยตนเอง
5. เป็นกิจกรรมทีส่ ง่ เสริมความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ การเข้าคา่ ยนอกจากผู้เขา้ คา่ ยจะได้รับความรูแ้ ละ
ความสนุกสนานแลว้ ควรจะส่งเสรมิ ให้ผู้เข้าค่ายมีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ รจู้ กั คดิ และสามารถนาเอาความรู้ที่
ไดร้ ับไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้
6. ใช้แหลง่ เรยี นรูใ้ นชุมชนเป็นแหลง่ คน้ คว้า เปน็ ห้องสมุดธรรมชาตทิ ีม่ ีคุณค่า ทาใหเ้ กิดการเรียนรู้จาก
ประสบการณ์ตรง ผเู้ ขา้ คา่ ยแสวงหาคาตอบจากการสงั เกต สมั ผัส รบั รเู้ กิดความเขา้ ใจ เป็นประสบการณท์ ีม่ ี
ความหมาย นาไปสูก่ ารสร้างองค์ความรู้ ข้อสรุปทีจ่ าได้ดีและคงทน ถ้าสิง่ นน้ั ผูเ้ รยี นค้นพบดว้ ยตนเอง โดยมี
กจิ กรรม/ใบงาน มอบหมายให้แตล่ ะคนหรือกล่มุ ย่อยไปค้นหาคาตอบ
7. ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ฝกึ ใหค้ ิดวเิ คราะห์ สร้างสรรค์ จินตนาการท่ี
เปน็ ประโยชน์และสัมพนั ธ์กับวถิ ีชวี ติ
8. มีการประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม ด้วยวิธที ่หี ลากหลายและสอดคล้องกบั กิจกรรมอยา่ งเป็น
ระบบและต่อเนื่อง
การบรรยายทางวชิ าการ เน้นวทิ ยากรที่มีความรคู้ วามสามารถมาถา่ ยทอดความรู้ เพื่อให้ ผู้เขา้ คา่ ย
ไดร้ ับความรู้และทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาอย่างถอ่ งแท้ มกี ิจกรรมภาคปฏิบัตไิ ปพร้อมกนั เช่น การระดม
พลงั สมอง การตอบปญั หา การแข่งขัน เปน็ ต้น
2 คำ่ ยนันทนำกำร
ค่ายนันทนาการ การจัดค่ายพกั แรมและกิจกรรมนนั ทนาการเป็นของค่กู นั การที่คนจานวนมากไปอยู่
รว่ มกนั เปน็ เวลาหลายวนั หลายคืน และมีกิจกรรมหลักท่จี ะต้องทาใหเ้ สรจ็ ในเวลาท่จี ากัด ความเหนด็ เหน่ือย
เมื่อยล้าและความเครียดย่อมมีเป็นธรรมดา จึงมีความจาเป็นที่จะต้องหากจิ กรรมทีเ่ ป็นส่ือสมั พนั ธ์และสรา้ ง
มติ รภาพตลอดจนคลายความเครียด ซึ่งกิจกรรมทชี่ ่วยได้ดีที่สดุ ก็คือ กิจกรรมนนั ทนาการนอกจากจะช่วยผ่อน
คลายความตงึ เครียดแล้ว กิจกรรมนันทนาการ ยังช่วยสร้างเจตคติท่ีดีต่อการอยู่ค่ายไม่วา่ จะเปน็ เนือ้ หาหรือ
กระบวนการ ช่วยฝึกใหม้ วี ินยั ความมนี ้าใจ ความเสยี สละ ความอดทน ความสนุกสนาน สง่ เสรมิ การแสดงออก
ความสามคั คแี ละความเป็นผู้นา ผเู้ ขา้ ค่ายจะมีความรสู้ กึ ประทับใจมากน้อยเพยี งใดในการอย่คู ่าย ขึ้นอยู่กับการ
จดั กิจกรรมนนั ทนาการ หากไดม้ กี ารจัดกจิ กรรมทเ่ี หมาะสมแลว้ ผู้เข้าคา่ ยจะเกดิ ความประทับใจต่อการอยู่ค่าย
กิจกรรมนันทนาการในค่ายปฏิบัติการงา่ ย ๆ คลายโลกร้อน กาหนดไว้ 6 ประเภท ไดแ้ ก่
1. กจิ กรรมละลายพฤติกรรม
2. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
3. กจิ กรรมกลุม่ สัมพันธ์
4. กจิ กรรมประกอบเพลง
5. กิจกรรมวอรค์ แรลลี่ (Walk rally)
6. กจิ กรรมรอบกองไฟ
ในการจดั กิจกรรมนนั ทนาการ ควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เชน่ ก่อนหรอื หลงั กิจกรรมวิชาการหรอื
แทรกระหวา่ งกจิ กรรมวชิ าการ เพื่อผอ่ นคลายความเครยี ดหรือจัดช่วงเวลาไวส้ าหรับกิจกรรมนนั ทนาการ
โดยเฉพาะ เช่น ในเวลากลางคนื หลังรับประทานอาหารเย็นแลว้ อยา่ งไรก็ตาม การจัดกิจกรรมนนั ทนาการนน้ั
สามารถปรับปรุงเปลย่ี นแปลงและแก้ไขให้เหมาะสมกบั สภาพในแตล่ ะวนั ได้ ไมค่ วรมีการกาหนดตายตวั เพราะ
ในทางปฏบิ ตั ิจริง อาจมีการเปลยี่ นแปลงแก้ไขได้
บทที่ 3
วิธกี ำรดำเนนิ งำน
รายงานผลการจัดกิจกรรมค่ายวิชาการ โรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม โดยฝ่ายบริหารงานวิชาการ
ประจาปกี ารศึกษา 2563 ได้นาวงจรคณุ ภาพของเดม่ิง PDCA มาใช้ในการดาเนินการ 4 ข้ันตอนดังนี้
1. ข้นั ตอนการรว่ มกันวางแผน ( Plan )
2. ขน้ั ตอนการร่วมกนั ปฏิบตั ิ ( Do )
3. ขัน้ ตอนการว่ มกันประเมนิ ( Check )
4. ขั้นตอนการร่วมปรบั ปรุง ( Act )
1. ขัน้ ตอนกำรร่วมกนั วำงแผน (Plan)
ข้ันตอนน้ีเป็นการวางแผนการดาเนนิ การโดยมีข้ันตอน ดงั น้ี
1.1 ประชมุ ปรึกษาร่วมกันระหวา่ งฝา่ ยบริหารงานวิชาการ แล้วขยายผลสคู่ ณะครูทุกคน
1.2 จดั ทาโครงการค่ายวชิ าการ โรงเรยี นลมศักดิว์ ิทยาคม ประจาปีการศกึ ษา 2563 เสนอผู้บริหาร
เพือ่ พิจารณาเห็นชอบ
1.3 แตง่ ต้ังคณะกรรมการผรู้ ับผิดชอบเกยี่ วกบั การจดั กิจกรรมแตล่ ะงานแต่กจิ กรรมตามความ
เหมาะสม
1.4 สร้างความเขา้ ใจกับนกั เรียนเพ่ือกาหนดแนวทางในการดาเนนิ การ
1.5 ตดิ ตอ่ ประสานงานเตรยี มความพร้อม ทั้งด้านสถานที่ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
1.6 กาหนดระยะเวลาในการดาเนินการ และวธิ ีประเมนิ ผล
2. ขน้ั ตอนกำรรว่ มกันปฏิบัติ ( Do)
การปฏิบตั งิ านตามแผนงานที่วางไว้โดยมขี ้นั ตอนในการดาเนินงาน ดังนี้
2.1 บันทกึ เสนอผบู้ รหิ ารเพอ่ื ขออนุญาตดาเนนิ การโครงการค่ายวชิ าการ โรงเรยี นลมศักดว์ิ ิทยาคม
ประจาปกี ารศึกษา 2563
2.2 ดาเนนิ การตามโครงการค่ายวิชาการ โรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม ประจาปีการศกึ ษา 2563 ในชว่ ง
เวลาตามปฏิทินโครงการ
โดยมกี ล่มุ เปา้ หมายเปน็ นักเรียนและบคุ ลากรภายในโรงเรยี นทุกคน โดยมกี ิจกรรมดาเนินการดงั นี้
* กจิ กรรมนันทนาการ
* กจิ กรรมความรู้ 9 ฐานกิจกรรม
3. ขน้ั ตอนกำรร่วมกันประเมนิ ( Check )
3.1 ดาเนนิ การประเมินผลการจัดกจิ กรรมตามโครงการคา่ ยวิชาการ โรงเรียนลมศกั ดิว์ ิทยาคม โดยใช้
แบบบนั ทกึ กจิ กรรม และแบบสอบถามความพึงพอใจของบคุ คลทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
3.2 ข้อมูลทเ่ี ป็นมาตราส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) ใช้วธิ ีแจกแจงความถี่ หาค่าเฉล่ยี ( )
และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (SD) ทง้ั ในรายขอ้ และภาพรวมเทยี บกับเกณฑ์ ดังน้ี
4.51-5.00 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏบิ ัติอยใู่ นระดับมากที่สุด
3.51-4.50 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏิบตั ิอย่ใู นระดับมาก
2.51-3.50 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั ปานกลาง
1.51-2.50 หมายถงึ มีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยใู่ นระดับนอ้ ย
1.00-1.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสม/การปฏบิ ัติอยู่ในระดับน้อยท่สี ดุ
3.3 สถิติท่ใี ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู
1. ค่าเฉลย่ี (Arithmetic: X )
2. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( Standard Deviation : S.D. )
3.4 รายงานผลการดาเนนิ งานตอ่ ผูบ้ รหิ ารและบุคลากรโรงเรียนลมศักด์ิวิทยาคม
4. ข้นั ตอนกำรรว่ มปรับปรุง ( Act )
เมือ่ คณะกรรมการฝา่ ยประเมินผล สรปุ ผลการดาเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะกลมุ่
งานผูร้ บั ผดิ ชอบจงึ ไดน้ าสารสนเทศท่ีได้มาปรบั ปรุง พฒั นาการงานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขึ้น
บทที่ 4
ผลกำรดำเนนิ งำน
ผลการจดั กจิ กรรมตามโครงการคา่ ยวิชาการ “Lomsak Academic Skill Camps” โรงเรียนลมศกั ดิ์
วทิ ยาคม ประจาปีการศึกษา 2563 สามารถสรุปตามขั้นตอนในการดาเนนิ งาน ดงั น้ี
ขัน้ ตอนกำรร่วมกันวำงแผน (Plan)
ขัน้ ตอนน้ีเป็นการวางแผนการดาเนินการโดยมีข้ันตอน พบวา่ การประชมุ ปรกึ ษารว่ มกันระหว่าง ฝ่าย
บริหารงานวิชาการ แล้วขยายผลสู่คณะครูทุกคนได้รับความร่วมมือและสนับสนุนการทาโครงการเป็นอย่างดี
และนาเสนอผู้บริหารเพื่อพิจารณาเห็นชอบโครงการได้รับการอนุมัติโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการจึงได้
ดาเนินการแต่งต้ังคณะกรรมการผู้รับผิดชอบเก่ียวกับการจัดกิจกรรมแต่ละงานแต่ ละกิจกรรมตามความ
เหมาะสม แล้วสร้างความเข้าใจกับนักเรียนเพ่ือกาหนดแนวทางในการดาเนินการ ติดต่อประสานงานภายใน
โรงเรียน และกาหนดระยะเวลาในการดาเนินการ และวิธปี ระเมนิ ผล ตามลาดับ
ข้ันตอนกำรร่วมกนั ปฏิบตั ิ ( Do)
การปฏิบัติงานตามแผนงานท่ีวางไวโ้ ดยมีขั้นตอนในการดาเนนิ งาน คือ การบันทึกเสนอผู้บริหารเพอื่
ขออนุญาตดาเนินการ พบว่า ได้รับการอนุญาตและให้ดาเนินการ และผลการดาเนินการตามโครงการ ค่าย
วิชาการ โรงเรียนลมศักด์ิวิทยาคม ประจาปีการศึกษา 2563 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน คณะครู
บุคลากรทางการศึกษาภายในโรงเรียนทุกคน พบว่า ทกุ ฝ่ายทเี่ ก่ียวข้องใหค้ วามรว่ มมือในการดาเนนิ กิจกรรม
ด้วยดี ผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรมใหค้ วามสนใจเปน็ อย่างมาก
ขนั้ ตอนกำรว่ มกนั ประเมิน ( Check )
การประเมินผลการจดั กจิ กรรมตามโครงการค่ายวชิ าการ โรงเรียนลมศกั ดิ์วทิ ยาคม โดยใช้
แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการจดั กจิ กรรมตามโครงการ พบวา่
วิเคราะหข์ ้อมลู โดยการหาค่าเฉลีย่ (X) และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D) จากแบบสอบถาม โดยแปล
ความหมายดงั ต่อไปน้ี
4.51 - 5.00 หมายความวา่ ระดบั ความคิดเหน็ ในระดบั มากที่สดุ
3.51 – 4.50 หมายความว่า ระดบั ความคดิ เหน็ ในระดับ มาก
2.51 - 3.50 หมายความว่า ระดับความคิดเห็น ในระดับ ปานกลาง
1.51 - 2.50 หมายความวา่ ระดับความคดิ เหน็ ในระดับ พอใช้
1.00 - 1.50 หมายความวา่ ระดับความคดิ เหน็ ในระดบั ปรับปรงุ
การประเมนิ กิจกรรมโครงการค่ายวชิ าการ ประจาปีการศึกษา 2563 โรงเรียนลมศักด์ิวิทยาคม ใช้
รปู แบบการประเมิน มีรายละเอยี ดดังนี้
วัตถปุ ระสงคข์ องกำรประเมิน
1. เพ่อื ประเมินประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรียนโรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม สานกั งานเขตพื้นท่ี
การศกึ ษามธั ยมศึกษา ศรสี ะเกษ ยโสธร
2. แบบประเมนิ ความพึงพอใจ ของคณะครูโรงเรียนลมศักดว์ิ ิทยาคม สานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา
มธั ยมศึกษา ศรสี ะเกษ ยโสธร ตอ่ การเข้าร่วมโครงการกิจกรรมคา่ ยวชิ าการ ประจาปีการศึกษา 2563
ขอบเขตของกำรประเมนิ โครงกำร
1 ประชำกร
1) ประชำกร ไดแ้ ก่ – นกั เรยี นโรงเรยี นลมศักด์ิวทิ ยาคม จานวน 128 คน
- ครูโรงเรียนลมศักดิว์ ิทยาคม จานวน 18 คน
2. วธิ ีดำเนินกำร ประเมินผลการดาเนินงาน ได้ดาเนนิ การดังน้ี
2.1 เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมนิ
1) แบบตรวจสอบรายการ แบบ Check List
2) แบบประเมนิ ความพึงพอใจ ประเภทประเมินคา่ (Rating Scale)
2.2 กำรวิเครำะห์ข้อมูล
การประเมินความพึงพอใจในโครงการกิจกรรมค่ายวชิ าการ ประจาปกี ารศึกษา 2563 ได้สารวจโดย
ใช้แบบสารวจท่ีมีหัวข้อในการประเมิน และมีคาถามปลายเปิดในส่วนท้ายของแบบสอบถาม โดยสารวจจาก
นักเรียนโรงเรียนลมศักด์ิวิทยาคม จานวน 128 คน และคณะครูโรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม จานวน 18 คน
เกณฑก์ ารให้คะแนนความพงึ พอใจ ดงั นี้
ระดบั ความพงึ พอใจ มากทส่ี ุด 5 คะแนน
ระดับ ความพึงพอใจ มาก 4 คะแนน
ระดบั ความพึงพอใจ ปานกลาง 3 คะแนน
ระดับ ความพึงพอใจ น้อย 2 คะแนน
ระดบั ความพึงพอใจ นอ้ ยทสี่ ดุ 1 คะแนน
การสรปุ ผลการประเมนิ เม่อื ไดค้ ่าเฉล่ียของคะแนนแต่ละข้อแลว้ นามาเทยี บกับเกณฑ์การประเมินผล
ซงึ่ มกี ารแปลผลตามระดบั คา่ เฉลี่ยจากอนั ตรภาคชนั้ ดงั นี้
คะแนนเฉลี่ยสงู กวา่ 4.50 นกั เรยี นมีความพงึ พอใจในระดับมากที่สุด
คะแนนเฉล่ยี ระหว่าง 3.50 – 4.49 นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก
คะแนนเฉลีย่ ระหว่าง 2.50 – 3.49 นกั เรียนมีความพึงพอใจในระดบั ปานกลาง
คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 1.50 – 2.49 นักเรียนมคี วามพึงพอใจในระดบั น้อย
คะแนนเฉลย่ี ต่ากวา่ 1.50 นกั เรยี นมีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยทสี่ ุด
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู สัญลักษณท์ ี่ใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู
กาหนดความหมายของสัญลักษณท์ ่ใี ชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมูลดงั น้ี
X แทน ค่าเฉลย่ี ของคะแนน
S.D. แทน คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน
ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู
ตำรำงที่ 1 ข้อมูลจำนวนนักเรียน และคณะครูโรงเรยี นลมศักดิว์ ทิ ยำคม ทเี่ ขำ้ รว่ มกิจกรรม ผลกำร
วิเครำะหแ์ สดงค่ำเฉลี่ย ควำมพึงพอใจตอ่ กำรเขำ้ ร่วมในโครงกำรกิจกรรมคำ่ ยวิชำกำร ประจำปกี ำรศึกษำ
2563
จำนวน
สถำนภำพ เป้ำหมำย เขำ้ รว่ ม ร้อยละทเี่ ขำ้ รว่ ม
นกั เรียน 128 119 92.97
ครู 100
18 18
จากตารางท่ี 1 แสดงใหเ้ ห็นว่าผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม มีสถานภาพ
นักเรียน จานวน 128 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 92.97
ครู จานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
ตำรำงที่ 2 ผลกำรวเิ ครำะห์แสดงคำ่ เฉลีย่ คำ่ เบ่ยี งเบนมำตรฐำนของควำมพึงพอใจของนกั เรยี น และคณะ
ครโู รงเรยี นลมศกั ดวิ์ ทิ ยำคม ควำมพึงพอใจต่อกำรเขำ้ ร่วมในโครงกำรกิจกรรมค่ำยวิชำกำร ประจำปี
กำรศกึ ษำ 2563
ข้อท่ี รำยกำร ค่ำเฉล่ีย ค่ำ S.D. ระดับควำม
พึงพอใจ
1. การประชาสัมพนั ธ์เก่ียวกบั กิจกรรม 0.63
2. สถานทีท่ ่ีใช้ในการดาเนนิ กจิ กรรม 0.73 มาก
3. ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการจดั กจิ กรรม 4.40 0.69 มาก
4. รูปแบบของกจิ กรรมมคี วามน่าสนใจ 4.43 0.69 มาก
5. ลาดับข้ันตอนของการดาเนนิ กิจกรรม 4.36 0.66 มาก
6. ความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการเขา้ รว่ มกิจกรรม 4.49 0.66 มาก
7. คณะวิทยากรทด่ี าเนินการจัดกิจกรรม 4.45 0.61 มากท่สี ดุ
8. การอานวยความสะดวกระหวา่ งการทากิจกรรม 4.55 0.62 มากท่ีสุด
9. ความรัก ความสามคั คีจากการเข้ารว่ มกิจกรรม 4.61 0.66 มาก
10. อาหารและสวัสดกิ ารต่าง ๆ ของการจัดกจิ กรรม 4.44 0.63 มากที่สดุ
11. ภาพรวมท้งั หมดของการจัดกิจกรรมค่ายวิชาการ 4.53 0.62 มากทส่ี ดุ
12. ควรจัดกิจกรรมในปีต่อ ๆ ไป 4.59 0.62 มาก
4.49 0.65 มากที่สดุ
รวม 4.64 มากทสี่ ดุ
4.50
จากตารางที่ 2 แสดงใหเ้ หน็ ว่านกั เรียน และคณะครโู รงเรยี นลมศักดวิ์ ิทยาคม มีความพึงพอใจตอ่ ต่อการการ
เข้ารว่ มในโครงการกจิ กรรมค่ายวชิ าการ ประจาปีการศึกษา 2563 ในภาพรวมอยใู่ นระดบั คุณภาพ ความพึง
พอใจระดบั มากที่สดุ ( =4.50 )
เมื่อพจิ ารณารายด้านพบวา่ ด้านที่มากท่ีสดุ อยใู่ นขอ้ คาถามท่ีว่า ควรจัดกจิ กรรมในปตี อ่ ๆ ไป อยูใ่ น
ระดับคุณภาพ ความพึงพอใจระดับมากทส่ี ุด ( = 4.64 ) และ คณะวทิ ยากรท่ีดาเนินการจัดกิจกรรมอย่ใู น
ระดบั คุณภาพ ความพึงพอใจมากท่ีสดุ ( = 4.61 ) และด้านทีน่ ้อยทีส่ ุดอยู่ในข้อคาถามที่ว่า ระยะเวลาทใ่ี ช้ใน
การจัดกจิ กรรม อย่ใู นระดับคุณภาพ ความพึงพอใจมาก ( =4.36)
ข้ันตอนกำรรว่ มปรับปรงุ ( Act)
เม่ือคณะกรรมการฝ่ายประเมินผลแล้วจึงได้จัดทาสรุปผลการดาเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และ
ข้อเสนอแนะกลุ่มงานผู้รับผิดชอบและได้นาสารสนเทศที่ได้นาเสนอต่อผู้บริหารและเผยแพร่ให้ผู้มีส่วน
เกยี่ วขอ้ งรับทราบและนาผลการทาเนินงานมากปรับปรงุ พฒั นาการงานให้มปี ระสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น
บทที่ 5
สรปุ ผล และข้อเสนอแนะ
ผลการจดั กจิ กรรม ตามโครงการกจิ กรรมคา่ ยวชิ าการ โรงเรียนลมศักดวิ์ ทิ ยาคม ประจาปกี ารศกึ ษา
2563 ไดผ้ ลสรปุ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์
2. เปา้ หมาย
3. เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
5. สรปุ ผลการดาเนินการ
6. ขอ้ เสนอแนะ
1. วตั ถุประสงค์
- เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นไดร้ บั ประสบการณท์ ีห่ ลากหลาย ค้นพบความสนใจ ความถนดั พัฒนาความสามารถ
พิเศษเฉพาะตวั ให้เหมาะสมกับตนเอง มนี สิ ยั รักการอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง
- เพอื่ ใหส้ ่งเสริมและสนบั สนุนให้ผู้เรยี นมคี วามสมารถในการคดิ อยา่ งเป็นระบบ คิดสรา้ งสรรค์
แก้ปญั หาไดอ้ ย่างมเี หตุผล และสร้างสรรค์ผลงานของตนเองดว้ ยความภูมใิ จ
- เพื่อส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ใหผ้ ้เู รยี นนาความรู้จากทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
ร้จู กั วางแผนการทางาน ฝกึ การทางานเปน็ ทีมโดยการระดมสมอง และฝกึ การเป็นผนู้ า-ผูต้ ามท่ีดี
- เพ่ือให้ผู้เรียนมีคา่ นิยมท่ีดงี ามในการดาเนินชีวติ เสริมสรา้ งวินยั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม แก่ผเู้ รยี น
2. เป้ำหมำย
2.1 เชงิ ปริมำณ(ร้อยละ)
นกั เรยี นโรงเรียนลมศักด์วิ ทิ ยาคม ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6 จานวน 128 คน
2.2 เชิงคุณภำพ(ระดับ)
- ผเู้ รยี นได้รับประสบการณท์ ี่หลากหลาย คน้ พบความสนใจ ความถนัด พัฒนาความสามารถพิเศษ
เฉพาะตวั ให้เหมาะสมกับตนเอง มนี ิสัยรกั การอ่านและแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง
- ผู้เรยี นมีความสมารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ แก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล และ
สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเองด้วยความภูมใิ จ
- ผู้เรยี นนาความรู้ความรู้จากทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั รจู้ ักวางแผนการทางาน
ฝึกการทางานเป็นทมี โดยการระดมสมอง และฝึกการเปน็ ผู้นา-ผตู้ ามทดี่ ี
- ผูเ้ รียนมีคา่ นิยมที่ดีงามในการดาเนินชีวิต เสรมิ สร้างวินัย คุณธรรมและจรยิ ธรรม แก่ผูเ้ รยี น
3. เครื่องมือทีใ่ ช้ในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
- แบบประเมินความพึงพอใจโครงการกิจกรรมค่ายวชิ าการ ประจาปีการศึกษา 2563 ระหวา่ งวันที่
11-12 เดือนมนี าคม พ.ศ.2564
4. กำรเก็บรวบรวมข้อมลู
มีขัน้ ตอนในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดงั นี้
1. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการแจกจัดทาแบบสอบถามความคิดเห็นให้นักเรยี น คณะครู ผูม้ ีส่วนเก่ยี วของ
แตล่ ะกจิ กรรม สแกน QR CODE ประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรมต่าง ๆ ตามโครงการ
2. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการรายงานผลการจดั กจิ กรรม
5. สรปุ ผลกำรดำเนินกำร
- ผูเ้ รยี นได้รบั ประสบการณ์ที่หลากหลาย ค้นพบความสนใจ ความถนัด พฒั นาความสามารถพิเศษ
เฉพาะตวั ให้เหมาะสมกบั ตนเอง มนี ิสยั รกั การอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ผูเ้ รยี นมีความสมารถในการคดิ อย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ แก้ปญั หาไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล และ
สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเองด้วยความภูมิใจ
- ผเู้ รยี นนาความรู้จากทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ร้จู ักวางแผนการทางาน ฝึกการ
ทางานเปน็ ทีมโดยการระดมสมอง และฝึกการเป็นผนู้ า ผูต้ ามท่ีดี
- ผูเ้ รยี นมคี า่ นิยมทีด่ ีงามในการดาเนินชวี ิต เสริมสรา้ งวนิ ัย คุณธรรมและจรยิ ธรรม แกผ่ ้เู รยี น
6. ขอ้ เสนอแนะ
จดุ เด่นของกจิ กรรม
มีกจิ กรรมท่ีใหน้ ักเรยี นมสี ว่ นร่วม ในการเขา้ ฐานการเรยี นรู้ ทัง้ 9 ฐานการเรียนรู้ การทากิจกรรม
ร่วมกันเป็นหมคู่ ณะ มีความสามัคคี สนุกสนาน เพลิดเพลนิ และได้รบั ความรู้
จุดท่ีควรพัฒนำของกิจกรรม
1. เพมิ่ กิจกรรมให้มากกวา่ น้ี
2. ควรมกี ารจัดกจิ กรรมแบบเปดิ โอกาสใหโ้ รงเรียนในเขตพื้นทีบ่ ริการมาร่วมด้วย
ภำคผนวก
ภำคผนวก ก
โครงกำรคำ่ ยวิชำกำร
ภำคผนวก ข
แบบประเมนิ ควำมพึงพอใจกจิ กรรมค่ำยวชิ ำกำร
ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563
แบบสอบถามความพึงพอใจกิจกรรมคา่ ยวิชาการ
ประจาปีการศึกษา 2563
ภำคผนวก ค
คำส่งั กิจกรรมคำ่ ยวิชำกำร
ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563
กำหนดกำรคำ่ ยวชิ ำกำร
“Lomsak Academic skills Camp.” ปกี ำรศึกษำ 2563
วนั ที่ 11 - 12 มีนำคม 2564
โรงเรียนลมศักด์วิ ิทยำคม อำเภอขขุ ันธ์ จงั หวัดศรีสะเกษ
วนั พฤหสั บดีที่ 11 มนี ำคม 2564 เขา้ แถวเคารพธงชาติ
08.00-08.30 ลงทะเบยี น
08.30-09.00 พธิ เี ปดิ
09.00-09.30 รับฟงั การชแ้ี จงกจิ กรรมและกิจกรรมสนั ทนาการ (รวม)
09.30-10.00 พกั รับประทานอาหารว่าง
10.00-10.15 เข้าฐานการเรยี นรู้ (ครง้ั ท่ี 1)
10.15-11.15 เขา้ ฐานการเรียนรู้ (ครงั้ ที่ 2)
11.15-12.15 พกั รบั ประทานอาหารกลางวัน/พกั ผ่อนตามอัธยาศยั
12.15-13.00 เข้าฐานการเรียนรู้ (ครั้งท่ี 3)
13.00-14.00 พักรบั ประทานอาหารวา่ ง
14.00-14.15 เขา้ ฐานการเรียนรู้ (ครงั้ ที่ 4)
14.15-15.15 พกั ผ่อนตามอัธยาศัย
15.15-16.00
วนั ศกุ ร์ที่ 12 มีนำคม 2564 เขา้ แถวเคารพธงชาติ
08.00-08.30 รบั ฟังการชแ้ี จงกจิ กรรม
08.30-08.45 เข้าฐานการเรียนรู้ (ครั้งที่ 5)
08.45-09.45 พักรบั ประทานอาหารวา่ ง
09.45-10.00 เข้าฐานการเรยี นรู้ (คร้งั ที่ 6)
10.00-11.00 เขา้ ฐานการเรียนรู้ (ครั้งที่ 7)
11.00-12.00 พักรบั ประทานอาหารกลางวัน/พกั ผอ่ นตามอธั ยาศยั
12.00-13.00 เข้าฐานการเรียนรู้ (ครั้งที่ 8)
13.00-14.00 พกั รับประทานอาหารวา่ ง
14.00-14.15 เขา้ ฐานการเรียนรู้ (ครั้งท่ี 9)
14.15-15.15 พิธีปดิ
15.15-16.00
หมำยเหตุ กาหนดการอาจเปลย่ี นแปลงตามความเหมาะสม
คำกลำ่ วรำยงำน
กิจกรรมคา่ ยวชิ าการ“Lomsak Academic skills Camp.” ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๓
วนั ที่ ๑๑ – ๑๒ มีนำคม ๒๕๖๔
โรงเรียนลมศักดวิ์ ิทยำคม อำเภอขขุ ันธ์ จังหวดั ศรีสะเกษ
เรยี น ทา่ นประธานที่เคารพ
ดิฉัน ................................................................. ในนามคณะครูและนักเรียนโรงเรียน
ลมศักด์ิวิทยาคม ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูง ที่ท่านให้เกียรติ
มาเป็นประธานเปิดการเข้าค่ายวิชาการในวันนี้ ในโอกาสนี้ดิฉันขอกราบเรียนให้ทราบถึง
รายละเอยี ด และวตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดการเข้าคา่ ยฯ ครั้งนี้
วัตถุประสงค์กำรเขำ้ ค่ำย
๑. เพ่ือให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ท่ีหลากหลาย ค้นพบความสนใจ ความถนัด พัฒนา
ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวให้เหมาะสมกับตนเอง มีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วย
ตนเอง
๒. เพื่อให้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความสมารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิด
สรา้ งสรรค์ แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล และสร้างสรรคผ์ ลงานของตนเองด้วยความภมู ิใจ
๓. เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนนาความรู้จากทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ไปใช้ใน
ชีวิตประจาวัน รู้จักวางแผนการทางาน ฝึกการทางานเป็นทีมโดยการระดมสมอง และฝึกการเป็น
ผู้นา-ผู้ตามที่ดี
๔. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมท่ีดีงามในการดาเนินชีวิต เสริมสร้างวินัย คุณธรรมและ
จรยิ ธรรม แกผ่ เู้ รียน
คณะวิทยำกร
ประกอบด้วยคณะครูบคุ ลากรโรงเรียนลมศกั ดิ์วทิ ยาคมจานวน ๑๘ คน
นกั เรียนผ้เู ข้ำค่ำย
ประกอบด้วยนกั เรียนโรงเรียนลมศักด์ิวทิ ยาคม ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ จานวน ๑๒๘ คน
การจัดกิจกรรมในวันน้ี โรงเรียนได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ผู้นาชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะครู-นักเรียน โรงเรียนลมศักดิ์
วิทยาคม คณะบุคคลดังกล่าวสมควรได้รับการขอบคุณ และเพื่อเป็นเกียรติและขวัญกาลังใจแก่
นักเรียน ดิฉันขอเรียนเชิญท่านประธาน กล่าวเปิดกิจกรรมค่ายวิชาการ “Lomsak Academic
skills Camp.” ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๓ และใหโ้ อวาทกับสมาชิกคา่ ยทุกคน ขอขอบพระคณุ ค่ะ
คำกล่ำวเปิด
ในพธิ ีเปิดกจิ กรรมคา่ ยวชิ าการ“Lomsak Academic skills Camp.” ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓
วนั ที่ ๑๑ – ๑๒ มีนำคม ๒๕๖๔
โรงเรียนลมศกั ดิ์วทิ ยำคม อำเภอขขุ นั ธ์ จงั หวัดศรีสะเกษ
ท่านคณะกรรมการดาเนินการจัดการเข้าค่ายวิชาการ“Lomsak Academic skills
Camp.” ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๓ และนักเรยี นท่เี ข้าค่ายที่นา่ รักทุกคน
กระผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างย่ิงท่ีได้มาเป็นประธานและร่วมเป็นเกียรติในการ
จัดค่ายวชิ าการในวนั น้ี
จากคากล่าวรายงาน ทาให้ทราบถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ
ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอน “ค่ายวิชาการ” จึงเป็นกิจกรรมเสนอแนะท่ีสามารถช่วย
นักเรียน ได้พัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์แบบบรูณาการหลายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามความ
ถนัดและความสามารถของผู้เรียน ทาให้เกิดการฝึกทักษะกระบวนการคดิ การทางานร่วมกับผอู้ ื่น
การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกตค์ วามรมู้ าใชใ้ นการแกป้ ญั หาเฉพาะหน้า
เพราะฉะน้ันในการจัดค่ายวิชาการคร้ังน้ี ใคร่ขอให้นักเรียนทุกคนได้ต้ังใจและฝึกปฏบิ ัติให้
เต็มศักยภาพของตนเอง และขอขอบคุณคณะกรรมการทุกฝ่ายท่ีทาให้การเข้าค่ายวิชาการคร้ังนี้
สาเร็จไปไดด้ ว้ ยดี
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว กระผมขออวยพรให้การจัดการเข้าค่ายครั้งนี้ดาเนินไปได้ด้วย
ความเรียบร้อย สาเร็จตามวัตถุประสงค์ครั้งนี้และขอกล่าวเปิดการเข้าค่ายวิชาการประจาปี
การศึกษา ๒๕๖๓ ณ บดั นี้
****************
ภำคผนวก ง
รำยช่อื นักเรียนท่เี ข้ำรว่ มกิจกรรม
คำ่ ยวชิ ำกำร ประจำปกี ำรศึกษำ 2563
ภำคผนวก จ
ภำพกจิ กรรม
คำ่ ยวิชำกำร ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2563
พธิ เี ปดิ
ฐานการเรยี นรู้
ฐานการเรยี นรู้
ฐานการเรยี นรู้
ฐานการเรยี นรู้
ฐานการเรยี นรู้
ภำพกิจกรรมเพ่ิมเตมิ
ภำคผนวก ฉ
ควำมรสู้ กึ ตอ่ กิจกรรม
คำ่ ยวิชำกำร ประจำปกี ำรศึกษำ 2563