รายงาน เรื่อ รื่ ง ประวัติ วั ติ คอมพิวเตอร์ จัด จั ทำ โดย ด.ญ.นงนภัส ภั บริบู ริ บู รณ์ ชั้น ชั้ ม.2/2เลขที่2 ที่ 1 วิช วิ า คอมพิวเตอร์ ภาคเรีย รี นที่ 2 ปีการศึก ศึ ษา 2567 นำ เสนอ คุณครู โชษิตา แป้นคง
01 ประวัติ วั ติของ คอมพิวพิเตอร์ 02 ที่มาของ คอมพิวพิเตอร์ 03 ยุคของ คอมพิวพิเตอร์ 04 องค์ประกอบของ คอมพิวพิเตอร์ 05 ประโยชน์ข น์ อง คอมพิวพิเตอร์
คอมพิวพิเตอร์ถูร์กถูประดิษดิฐ์อฐ์อกมาให้ปห้ระกอบไปด้วด้ยความจำ รูปรูแบบต่าง ๆ เพื่อพื่เก็บข้อข้มูล อย่าย่งน้อน้ยหนึ่งนึ่ส่วส่นที่มีหมีน้าน้ที่ดำ เนินนิการคำ นวณเกี่ยวกับตัว ดำ เนินนิการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำ เนินนิการทางคณิตณิศาสตร์ และส่วส่น ควบคุมคุที่ใช้เช้ปลี่ยนแปลงลำ ดับดัของตัวดำ เนินนิการโดยยึดยึสารสนเทศที่ถูกถูเก็บ ไว้เว้ป็นหลัก อุปกรณ์เณ์หล่านี้จ นี้ ะยอมให้นำห้นำเข้าข้ข้อข้มูลจากแหล่งภายนอก และส่งส่ ผลจากการคำ นวณตัวดำ เนินนิการออกไป หน่วน่ยประมวลผลของคอมพิวพิเตอร์มีร์หมีน้าน้ที่ดำ เนินนิการกับคำ สั่งสั่ต่าง ๆ ที่คอย สั่งสั่ให้อ่ห้ อ่าน ประมวล และเก็บข้อข้มูลไว้ คำ สั่งสั่ต่าง ๆ ที่มีเมีงื่อนไขจะแปลงชุดคำ สั่งสั่ให้รห้ะบบและสิ่งสิ่แวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังฟัก์ชันชัที่สถานะปัจจุบันบั คอมพิวพิเตอร์ใร์นสมัยมั ใหม่นี้ม่ผ นี้ ลิตขึ้นขึ้ โดยใช้วช้งจรรวม หรือรืวงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมีคมีวามจุมากกว่าว่สมัยมัก่อนล้านถึงพันพัล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่อรื่งใช้พื้ช้ พื้นพื้ที่เพียพีงเศษส่วส่นเล็กน้อน้ยเท่านั้นนั้คอมพิวพิเตอร์ อย่าย่งง่ายมีขมีนาดเล็กพอที่จะถูกถูบรรจุไว้ใว้นอุปกรณ์โณ์ทรศัพท์มือมืถือ และ คอมพิวพิเตอร์มืร์อมืถือนี้ในี้ ช้พช้ลังงานจากแบตเตอรี่ข รี่ นาดเล็ก และหากจะมีคมีนพูด ถึงคำ ว่าว่ "คอมพิวพิเตอร์"ร์มักมัจะหมายถึงคอมพิวพิเตอร์ส่ร์วส่นบุคคลซึ่งซึ่ถือเป็น สัญสัลักษณ์ขณ์องยุคสารสนเทศ
ที่ม ที่ าของคอมพิวพิเตอร์ ต้นกำ เนิดของคอมพิวพิเตอร์อาจกล่าวได้ว่ามาจาก แนวความคิดของระบบตัวตัเลข ซึ่งได้พัฒพันาเป็นวิธีกธีารคำ นวณต่าต่ง ๆ รวมทั้งทั้ อุปกรณ์ที่ณ์ ที่ช่ที่ ช่วยในการคำ นวณอย่างง่าย ๆ คือ "กระดานคำ นวณ" และ"ลูกลูคิด" ในศตวรรษที่ 17 เครื่อรื่งคำ นวณแบบใช้เฟื่องเครื่อรื่งแรก ได้ก าเนิดขึ้นขึ้จากนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งรั่เศส คือ Blaise Pascal โดยเครื่อรื่งของเขาสามารถ คำ นวณการบวกการลบได้อย่างเที่ยที่งตรง และใน ศตวรรษเดียวกันกันักคณิตศาสตร์ชาวเยอร์ มันมัคือ Gottried Wilhelm von Leibniz ได้ สร้างเครื่อรื่งคิดเลขเครื่อรื่งแรกที่สที่ามารถคูณคู และหารได้ด้วย
ในต้นต้ศตวรรษที่ 19 ชาวฝรั่งรั่เศษชื่อชื่ Joseph Marie Jacquard ได้พัด้ฒพันาเครื่อรื่ง ทอผ้าผ้ที่สที่ามารถตั้งตั้ โปรแกรมได้ โดยเครื่อรื่งทอผ้าผ้นี้ในี้ ช้บัช้ตบัร ขนาดใหญ่ ซึ่งซึ่ได้เด้จาะรูไรูว้เว้พื่อพื่ ควบคุมรูปรูแบบของลายที่จที่ะปักปับัตบัรเจาะรู (punched card) ที่ Jacquard ใช้นี้ช้ ไนี้ ด้ถูด้กถู พัฒพันาต่อต่ๆมาโดยผู้อื่ผู้ นอื่เพื่อพื่ ใช้เช้ป็นป็อุปอุกรณ์ป้ณ์อป้นข้อข้มูลมูและ โปรแกรมเข้าข้เครื่อรื่งคอมพิวพิเตอร์ ในยุคยุแรกๆ ต่อต่มาในศตวรรษเดียวกันกัชาวอังอักฤษชื่อชื่ Charles Babbage ได้ทด้าการสร้าร้ง เครื่อรื่งส าหรับรัแก้สก้มการโดยใช้พช้ลังลังานไอน้ าเรียรีกว่าว่ difference engineและถัดถัจากนั้นนั้ ได้ เสนอทฤษฎีเฎีกี่ยกี่วกับกัคอมพิวพิเตอร์สร์มัยมั ใหม่ เมื่อมื่เขาได้ทด้า การออกแบบ เครื่อรื่งจักจัรส าหรับรัท า การวิเวิคราะห์ (analytical engine) โดยใช้พช้ลังลังานจากไอน้ า
-ซึ่งได้มีการออกแบบให้ใช้ บัตรเจาะรูของJacquardในการป้อนข้อมูลทำ าให้อุปกรณ์ชิ้นนี้มีหน่วยรับรัข้อมูล หน่วยประมวลผลหน่วยแสดงผลและหน่วยเก็บข้อมูลสำ รองครบตามรูปแบบของ คอมพิวเตอร์ สมัยใหม่ แต่โชคไม่ดีที่แม้ว่าแนวความคิดของเขาจะถูกต้องแต่เทคโนโลยีในขณะนั้นไม่ เอื้ออำ นวยต่อการสร้าร้งเครื่อรื่งที่สามารถทำ งานได้จริงริอย่างไรก็ดีCharles Babbage(ชาร์ลร์ส์ แบบเบจ)ก็ได้รับรัการยกย่องว่าเป็นบิดาของคอมพิวเตอร์คร์นแรก และผู้ร่วร่มงาน ของเขาคือ Augusta Ada Byron (เอดา ไบรอน เลิฟเลซ) ก็ได้รับรัการยกย่องว่า เป็นนักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลก 3
1. 3. 2. ยุยุ ยุยุ คคอมพิพิพิพิวเตอร์ร์ ร์ร์ อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ ใช้หช้ลอดสุญญากาศซึ่ง ซึ่ ใช้กำช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงจึมีปัญหาเรื่อง ความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบาย ความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภช้าษาเครื่องซึ่ง ซึ่ เป็นรหัส ตัวเลขที่ยุ่งยากซับซัซ้อซ้น เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มี ขนาดใหญ่โต เช่นช่มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยู นิแวค (UNIVAC) คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วช้งจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสซิเตอร์บรรจุอจุยู่ ภายในมากมายทำ ให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซั ซ้อซ้นมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการ กำ หนดชุดชุคำ สั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบ ควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งทั้ในรูประบบแบ่งเวลาการ ทำ งานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทช้รานซิสซิเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำ รองในรูป ของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่นช่จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้าน ซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรม ด้วยภาษาระดับสูงซึ่ง ซึ่ เป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คน สามารถเข้าใจได้ เช่นช่ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งช้านมาจนถึงปัจจุบัจุบัน คอมพิวพิเตอร์ยุร์คยุที่1ที่ คอมพิวพิเตอร์ยุร์ที่ยุ3ที่ คอมพิวพิเตอร์ยุร์คยุที่2ที่
คอมพิวพิเตอร์ยุร์ค ยุ ที่4 ที่ คอมพิวพิเตอร์ยุร์ค ยุ ที่5 ที่ คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุค ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุ ทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำ ให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำ นักงานหรือพกพาเหมือน กระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้ พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำ เร็จให้เลือกใช้ กันมากทำ ให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำ มาเพื่อ ช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความ รอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้ มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำ ลังสนใจ ค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง
บุคลากร PEOPLEWARE ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูลและ สารสนเทศ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำ หน้าที่ในการใช้และดูแลเครื่อง คอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียน อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็น โครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตา และสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผล ข้อมูล เป็นชุดคำ สั่งที่บอกวิธีการ ทำ งานของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ถูกเก็บ รวบรวมมาประมวลผล เพื่อให้ได้ สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ องค์ ประกอบ องค์ ประกอบ
ประโยชน์ของ คอมพิวพิเตอร์ 1.ประโยชน์ด้น์าด้นการศึกษา ช้าช้เพื่อพื่งานด้าด้นการเรียรีนการสอนในหลายรูปรูแบบ เช่นช่การ นำ บทเรียรีน การ ผลิตสื่อสื่การสอน การใช้ซีช้ดีซีรดีอมสำ หรับรัการเรียรีนรู้ เกมเพื่อพื่การศึกษาหรือรื คอมพิวพิเตอร์ช่ร์วช่ยสอน 2. ด้าด้นความบันบัเทิง เป็นป็การใช้คช้อมพิวพิเตอร์เร์พื่อพื่ความสนุกนุสนานบันบัเทิง เช่นช่เล่นเกม ฟังฟัเพลงชม ภาพยนต์ 3. ด้าด้นการเงิน การธนาคาร ใช้ใช้นการเบิกบิ - ถอนเงินผ่าผ่นเครื่อรื่ง ATM การโอนเงินด้วด้ย ระบบด้วด้ยอัตโนมัติมั ติ โดยโอนเงินจากที่หนึ่งนึ่ไปยังยัอีกที่หนึ่งนึ่โดยผ่าผ่นระบบเครือรืข่าข่ยคอมพิวพิเตอร์ การ ดูข้ดูอข้มูลตลาดหุ้นหุ้การทำ กราฟแสดงยอดขาย 4. ด้าด้นการสื่อสื่สารและคมนาคม ใช้ใช้นการติดต่อสื่อสื่สารผ่าผ่นอินเตอร์เร์น็ตน็สื่อสื่สาร ถ่ายทอดผ่าผ่นดาวเทียมการ ติดต่อสื่อสื่สารผ่าผ่นโทรศัพท์ การคมนาคมทางเรือรืเครื่อรื่งบินบิแ ละรถไฟฟ้าฟ้ 5. ด้าด้นศิลปะและการออกแบบ เป็นป็การใช้คช้อมพิวพิเตอร์เร์พื่อพื่การวาดรูปรูการ์ตูร์นตูออกแบบ งานและการสร้าร้งภาพ กราฟิกฟิหรือรืการตกแต่งภาพในคอมพิวพิเตอร์ 6 .ด้าด้นการแพทย์์ ปัจจุบันบัมีกมีารนำ คอมพิวพิเตอร์มร์าช่วช่ยงานด้าด้นการแพทย์หย์ลายด้าด้น เช่นช่การ เก็บประวัติวั ติคนไข้ การใช้ทช้ดลองประกอบการวินิวิจนิฉันของแพทย์ใย์ช้ใช้นการตรวจ เป็นป็ต้น 7. ด้าด้นวิทวิยาศาสตร์แร์ละเคมี ใช้ใช้นการวิเวิคราะห์สูห์ตสูรทางเคมีกมีารคำ นวณสูตสูรทางวิทวิยาศาสตร์กร์ารค้นคว้าว้ ทดลองในห้อห้งวิทวิยาศาสตร์ การคำ นวณเกี่ยวกับระบบสุริสุยริะ จักจัรวาลและการ เกิดปรากฏการณ์เณ์กี่ยวกับดวงดาวต่างๆ
บรรณานุก นุ รม https://www.mindphp.com/65-archive/4083-computercomposition.html เนื้อหาทั้งหมด รูปภาพทั้งทั้หมด http://www.thaischool1.in.th/_files_sc hool/60104661/document/6010466 1_0_20150720-100402.pdf
About Me ชื่อ : ดู.ญ.นงนภัส บริบูรณ์ อายุ : 14 ปี วันเกิด: 24 พ.ย. 2552 อาชีพที่ใฝ่ฝัน : ตำ รวจ กิจกรรมที่ชอบ : ดูหนัง ฟังเพลง นอนเล่น ช่องทางการติดต่อ : FB:นงนภัส ฯ. IG:b4xnug 0988823417 ชื่อเล่น : แบม!!