บรรทัดฐานภาษาไทย เลม่ 3
ประโยค
ความหมาย
ประโยค คอื หนว่ ยทางภาษาทปี่ ระกอบด้วยคาหรอื
คาหลายคาเรียงตอ่ กนั คาเหล่าน้ันตอ้ งมี
ความสัมพนั ธ์กันทางไวยากรณ์อย่างใดอยา่ งหน่ึง
ประโยคเป็นหนว่ ยทางภาษาท่ีสามารถส่อื ความได้
ว่าเกิดอะไรข้นึ หรอื อะไรมสี ภาพเปน็ อย่างไร
โดยท่ัวไปประโยคประกอบดว้ ยส่วนสาคัญ
๒ สว่ น คือ นามวลกี บั กรยิ าวลี
ลองสังเกตข้อความต่อไปน้ี
- ท่านผมู้ เี กยี รติท้ังหลาย
- พวกเรานักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ทงั้ หมด ๔๐ คน
- เจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยฝึกอบรมที่ตวั ผอม ๆ
**ข้อความขา้ งต้นไม่เป็นประโยคเพราะมีแต่
นามวลีไม่มีกรยิ าวลี
ตามแนวทฤษฎีใหม่
ชนดิ ของประโยค
ประโยค ประโยคตามทฤษฎีใหม่
(บรรทัดฐานภาษาไทย)
ประโยคตามทฤษฎเี ก่า ** ประโยคสามญั
(ทฤษฎีพระอปุ กิตศิลปสาร)
** ประโยคความเดียว ** ประโยครวม
** ประโยคความรวม ** ประโยคซ้อน
** ประโยคความซ้อน
ประโยค ** ประโยคสามญั
** ประโยครวม
** ประโยคความเดยี ว ** ประโยคซ้อน
** ประโยคความรวม
** ประโยคความซอ้ น
ประโยคสามญั
ประโยคสามัญหรือประโยคพืน้ ฐาน - นาม
- สรรพนาม
** ประธาน + กรยิ า + กรรม(ถา้ ม)ี
นามวลี กริยาวลี
(ภาคประธาน) (ภาคแสดง)
-เดก็ ชายแกว้ นงั่ ในห้องเรยี น
-ใบไมข้ ยบั ไปมา
-น้องคนนั้นอ่านหนังสือ
ชนดิ ประโยคสามญั
1. ประโยคสามญั กรยิ าวลีเดยี ว
-นักเรยี นทานขา้ ว
-แมวกระโดด
-น้องจับแมวสีขาว
2. ประโยคสามญั หลายกริยาวลี
-นักเรียนตง้ั ใจเรยี น
-ใบบวั โบกมอื ลาพวกเรา
-ออมสินขับรถข้ามสะพาน
ข้อสงั เกต
(ประโยคย่อย)
1. ประโยคสามญั ตอ้ งไมม่ อี นปุ ระโยค
-แมวทน่ี อนตรงนนั้ คือแมวดา
-คณุ ตาทยี่ ืนอยดู่ ้านหลังล้มลงอย่างแรง
-แหวนเพชรอนั มีค่าสูญหายไป
2. ประโยคสามัญมคี าเชอ่ื มได้
-พ่อและแมไ่ ปตลาด
(น.) (น.)
ข้อสังเกต (ตอ่ )
3. ประโยคสามญั ไม่มีคาเช่อื มกริยาวลี
-วินยั (คกรดิ ิ.)และปร(ะกรดิ.)ษิ ฐเ์ ครอ่ื งตัดผม
-สชุ าตินอนหลับและตื่นในเวลากลางคนื
(กริ.) (กริ.)
4. ประโยคสามญั สามารถบอกเหตกุ ารณต์ อ่ เนือ่ งได้
=(กรรมของประโยคแรกเปน็ ประธานประโยคที่สอง)
-ลมพดั ใบไม้ปลิว
-แมบ่ อกใหน้ อ้ งรดนา้ ตน้ ไม้
-คลื่นซัดบ้านพังหมด
ประโยคซ้อน
คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคหลักกับอนปุ ระโยค
- ประโยคหลกั หรือมขุ ยประโยค คือประโยคทมี่ ีอกี
ประโยคหน่ึงเปน็ ส่วนหนง่ึ ของประโยค ไดแ้ ก่ เปน็ ประธาน
เปน็ หน่วยเตมิ เต็ม หรอื เปน็ สว่ นขยาย
- อนปุ ระโยค คอื ประโยคท่ีข้ึนตน้ ดว้ ยคาเชอ่ื มอนุ
ประโยค ทาหน้าทไ่ี ด้อยา่ งนามวลี คอื เปน็ ประธาน กรรม
หน่วยเติมเตม็ หรือขยายส่วนใดสว่ นหน่ึงของประโยค หรือทา
หน้าที่อยา่ งวเิ ศษณว์ ลี คอื ทาหนา้ ที่ขยายกรยิ าวลี
ประโยคซอ้ น
ตวั อยา่ งประโยคซ้อนทีม่ ีอนุประโยคทาหน้าทีเ่ ป็นประธาน
เชน่
“ ทค่ี ณุ พูดไมเ่ ปน็ ความจริง “
**ท่ีคณุ พูด เปน็ อนปุ ระโยคทาหน้าที่เปน็ ประธานของ
ประโยคหลัก
ประโยคซ้อน
ตวั อยา่ งประโยคซอ้ นท่มี ีอนุประโยคทาหนา้ ท่ีเปน็ กรรม
เชน่
“ ฉนั ไมช่ อบให้น้องนอนดกึ ”
** ให้นอ้ งนอนดึกเปน็ อนุประโยคทาหนา้ ท่ี
เป็นกรรมของกริยา ไม่ชอบ
ประโยคซ้อน
ตวั อย่างประโยคซอ้ นท่ีมีอนปุ ระโยคทาหนา้ ทเ่ี ป็นหน่วยเตมิ เตม็
เชน่
“ ลกู นอ้ งคนใหมเ่ ปน็ ที่โปรดปรานของเจ้านาย”
** ท่ีโปรดปรานของเจา้ นายเปน็ อนุประโยคทาหนา้ ท่ี
เปน็ หนว่ ยเติมเต็มของประโยค
ประโยคซอ้ น
ตวั อยา่ งประโยคซอ้ นทม่ี ีอนุประโยคทาหนา้ ทเ่ี ป็นหนว่ ยเสริมความ
เช่น
“ แพรดใี จทส่ี อบชงิ ทุนรฐั บาลได้ ”
** ที่สอบชิงทุนรัฐบาลได้ เปน็ อนปุ ระโยคทาหน้าที่
เป็นหน่วยเสรมิ ความของกริยา ดีใจ ซง่ึ เปน็ กรยิ าหลัก
ประโยคซอ้ น
ตัวอยา่ งประโยคซ้อนทม่ี ีอนุประโยคทาหน้าทข่ี ยายนาม
เช่น
“คนทไ่ี มม่ ่นั ใจตนเองมกั ชอบถามความเห็นจากคนรอบข้าง”
** ท่ไี ม่มน่ั ใจตนเองเปน็ อนุประโยคทาหนา้ ท่ีขยายคานาม
คนซึ่งทาหนา้ ท่ีเปน็ ส่วนหลักของนามวลีซึง่ เป็นประธานของ
ประโยคหลัก
ประโยคซอ้ น
ตวั อย่างประโยคซอ้ นทม่ี ีอนุประโยคทาหน้าทีข่ ยายกริยา
เช่น
“ เขาทางานหนกั จนล้มป่วย”
** จนลม้ ป่วย เป็นอนุประโยคทาหน้าท่ี ขยายกริยา
ทางานหนักซงึ่ เป็นกริยาของประโยคหลัก
ชนดิ ประโยคซอ้ น
แบง่ ตาม อนปุ ระโยค ได้ 3 ชนดิ คอื
1. ประโยคซ้อนทม่ี นี ามานุประโยค
2. ประโยคซ้อนทมี่ คี ุณานปุ ระโยค
3. ประโยคซอ้ นที่มีวเิ ศษณานปุ ระโยค
ชนดิ ประโยคซอ้ น
1. ประโยคซอ้ นทมี่ ีนามานุประโยค
นามานปุ ระโยค คอื อนปุ ระโยคท่ที าหน้าทีเ่ หมือน
นามวลี กลา่ วคือ อาจทาหน้าทเี่ ปน็ ประธาน กรรม หน่วย
เติมเตม็ หรือหนว่ ยเสริมความ มคี าเชื่อมได้แก่ ท่ี ว่า
ทีว่ า่ ให้ นาหน้า
ตัวอย่างประโยคทม่ี ีนามานปุ ระโยค
- ทเ่ี ขาเล่ามาน้ันถกู ต้องแน่นอน ทาหน้าทเ่ี ป็นประธาน
- ฟ้าไม่ชอบให้ใครมาว่าครขู องเธอ ทาหน้าทเี่ ป็นกรรม
- ครดู ใี จทีน่ ักเรียนสอบผา่ น ทาหน้าทเี่ ป็นหนว่ ยเสรมิ ความ
- นอ้ งในแผนกเป็นท่รี กั ของทกุ คน ทาหนา้ ทเ่ี ป็นหน่วยเตมิ เตม็
ชนดิ ประโยคซอ้ น
2. ประโยคซ้อนท่ีมคี ณุ านุประโยค
คุณานปุ ระโยค คอื อนุประโยคทาหน้าท่ขี ยาย
นามทีน่ ามาข้างหน้า อนุประโยคชนิดนี้มคี าเชือ่ ม
ที่ ซึ่ง อัน และคาเชื่อมน้นั เป็นประธานของ
อนุประโยคด้วย
ตวั อยา่ งประโยคท่ีมคี ุณานุประโยค
- เสือ้ ท่พี ่เี ปาใสอ่ ยสู่ วยมาก ขยายนาม “เสอ้ื ”
- ผลของการกระทาอันชว่ั ร้ายของผบู้ รหิ าร ขยายกลุ่มคานาม
ยอ่ มตกแกส่ ่วนรวม “ผลของการกระทา”
ชนดิ ประโยคซ้อน
3. ประโยคซ้อนท่ีมวี ิเศษณานุประโยค
วเิ ศษณานปุ ระโยค คอื อนปุ ระโยคทท่ี าหน้าที่
อย่างวิเศษณว์ ลี คือ ขยายกรยิ าวลี เช่น
- เขาทางานหามรงุ่ หามคา่ ซึง่ ไมด่ ีตอ่ สขุ ภาพเลย
**ขยายกริยาวลี “ทางานหามรงุ่ หามคา่ ”
ตัวอยา่ งประโยคท่ีมวี ิเศษณานุประโยค
วิเศษณานปุ ระโยคอาจอยหู่ น้าหรอื หลงั ประโยคหลักก็ได้ เชน่
- เมอื่ เขาทจุ ริต เราก็คงต้องใหเ้ ขาออก
- เราคงต้องให้เขาออก เม่อื เขาทจุ รติ
วเิ ศษณานุประโยคอยู่หนา้ ประโยคหลกั มักจะมคี าเชื่อม
ก็ จึง เลย ถึง อยู่ในประโยคหลกั ด้วย เชน่
- เพราะมวั แต่เล่นมือถือเลยเกิดอุบตั ิเหตุ
- เพราะไม่ขยนั ทามาหากนิ ถึงยงั จนอย่จู นถึงทกุ วันน้ี
คาเช่อื มวเิ ศษณานปุ ระโยค มหี ลายกลุ่ม ทพ่ี บบ่อยมดี ังนี้
คาเช่อื มวิเศษณานปุ ระโยคบอกเวลา เชน่ เมอ่ื ขณะ ท่ี
ก่อน หลัง หลังจากท่ี แต่ ตัง้ แต่
ตัวอยา่ ง - แมม่ าเมือ่ เธอหลบั แลว้
- เด็ก ๆ กลบั บ้านหลงั จากงานเลิก
- หลงั เลิกเรยี นนกั เรียนกพ็ ากันเข้าหอ้ งสมดุ
คาเช่อื มวิเศษณานปุ ระโยค มีหลายกลมุ่ ท่ีพบบอ่ ยมีดังนี้
คาเชื่อมวิเศษณานุประโยคบอกเหตุ เช่น เพราะ เน่อื งจาก
ตัวอย่าง
- ลูกโปง่ เปน็ หวัดเนื่องจากตากฝนอยู่นาน
- เขานอนตวั สน่ั เพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง
- เพราะกงั วลเธอจงึ โทรมาปรกึ ษาฉัน
คาเช่อื มวิเศษณานปุ ระโยค มีหลายกลุ่ม ท่ีพบบอ่ ยมดี งั นี้
คาเชอ่ื มวเิ ศษณานุประโยคบอกผล เชน่ จน กระทงั่
จนกระทั่ง
ตัวอยา่ ง - เขาอ้วนจนเดนิ ไม่ไหว
- พี่พูดเร็วกระท่ังฉนั ฟงั ไม่ทัน
คาเช่อื มวิเศษณานปุ ระโยค มหี ลายกลมุ่ ที่พบบอ่ ยมดี งั นี้
คาเชอ่ื มวเิ ศษณานปุ ระโยคบอกความมงุ่ หมาย เช่น เพอ่ื
ตัวอย่าง
- เขาทางานหนกั เพื่อให้ชีวติ ดขี ึน้
- เพ่อื ให้ลกู เพลดิ เพลินเธอจงึ ร้องเพลงกลอ่ ม
คาเช่อื มวิเศษณานปุ ระโยค มหี ลายกลุ่ม ท่ีพบบ่อยมีดงั น้ี
คาเชอ่ื มวเิ ศษณานปุ ระโยคบอกเง่ือนไข เช่น ถ้า หาก
หากวา่ ถา้ หากว่า
ตัวอยา่ ง - เธอจะประสบความสาเรจ็ ถ้าเธอต้ังใจทางานจริง
- หากเขาไม่มาฉนั จะเป็นคนดาเนินการเอง
คาเช่อื มวเิ ศษณานปุ ระโยค มหี ลายกลมุ่ ที่พบบอ่ ยมีดงั น้ี
คาเชื่อมวเิ ศษณานปุ ระโยคบอกความขัดแยง้ เช่น ทง้ั ที่
แม้วา่
ตัวอยา่ ง - แมว้ า่ เขาจะไม่สบายเขาก็พยายามทางานจนเสร็จ
- ท้ังท่ีไมเ่ ห็นด้วยกบั เพือ่ นเขาก็ปฏิบัติตาม
ประโยครวม ทฤษฎเี กา่ มี 4 ชนิดทฤษฎใี หมม่ ี 3 ชนดิ
** ประโยคย่อย + คาเช่ือม + ประโยคยอ่ ย
คาสนั ธาน (เช่อื มกริยา + กรยิ า)
-เขาคดิ และทาในทันที
-เธอชอบแตเ่ ขาไมช่ อบ
-พ่อจะไปทางานหรือนอนอยู่บา้ น
-น้อยหน่าออกแบบและตัดเยบ็ เส้ือผา้ เอง
ชนิดประโยครวม
1. ประโยครวมทีค่ ล้อยตามกนั
-นักเรียนและครทู านขา้ ว
-ชาวสวนปลกู ผักและทาสวนแบบผสมผสาน
-นอ้ งเดินไปปิดไฟและเปิดแอร์
2. ประโยครวมที่ขัดแยง้
-แม่นอนหลบั แตย่ งั ร้สู กึ ตัว
-เขาคิดเลขเรว็ แตเ่ ขยี นช้า
ชนิดประโยครวม
3. ประโยครวมที่เลอื กอย่างใดอย่างหนง่ึ
-เธอจะทานข(้านว.)หรอื กว๋ (นย.)เตย๋ี ว
-เธอจะไปดหู นังหรือนอนอยู่บา้ น
-นอ้ งปดิ เพลงหรือพี่ปดิ เสียง
ประโยครวม
ประโยคยอ่ ยจะเป็นประโยคสามญั หรือประโยคซ้อนก็ได้
และต้องมีคาเชือ่ มประโยค และ และก็ แต่ แต่ทวา่ หรือ
ทาหนา้ ทเ่ี ช่ือมประโยคยอ่ ย
ประโยครวม
ตัวอยา่ งประโยครวมทเ่ี กดิ จากประโยคสามญั รวมกบั
ประโยคสามัญ
- นอ้ ยหนา่ ออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าเอง
- แมค่ รัวผดั กับข้าวเสรจ็ แล้วก็ทาขนมตอ่
- น้องจะดทู ีวีหรอื เล่นเกม
ประโยครวม
ตวั อยา่ งประโยครวมทเี่ กดิ จากประโยคสามัญรวมกบั
ประโยคซ้อน
- ฉนั ไดย้ ินเขาพดู อยู่เหมอื นกนั แต่ไม่ร้วู า่ เขาต้องการอะไร
- เกษตรกรแถวนี้นิยมทานาและเลยี้ งปลาท่ีกินวัชพืชไว้ในนา
ตัวอยา่ งประโยครวมที่เกดิ จากประโยคซอ้ นรวมกับ
ประโยคสามญั
- หลงั คาที่รั่วนนั่ ซอ่ มแล้วแต่นา้ ฝนก็ยงั ซึมลงมาได้
- ครสู ั่งให้นกั เรยี นอ่านบทที่ 5 และทาแบบฝึกทา้ ยบท
ประโยครวม
ตวั อย่างประโยครวมทีเ่ กดิ จากประโยคซ้อนรวมกับ
ประโยคซ้อน
- สดุ ารับประทานแตอ่ าหารท่ีมปี ระโยชน์และด่มื แตน่ ้าทีบ่ รสิ ุทธ์ิ
- เขาบอกว่าจะมาถึงพร่งุ น้ีแต่ไม่ไดบ้ อกวา่ จะถงึ ก่ีโมง
ประโยครวมท่ีมี ประธาน กรรม หน่วยเติมเต็มหรือหนว่ ยเสรมิ
ความเป็นคนหรอื ส่ิงเดยี วกัน มกั ละประธาน กรรม หน่วยเติมเต็ม
- พลอยชอบแตงโมแต่ไม่ชอบทุเรยี น (ละประธาน)
- ผมชอบหมาแต่คุณไม่ชอบน่ี (ละกรรม)
แผนผังสรปุ
ประโยคสามัญกริยาเดยี ว กริยาตวั เดียว
ประโยค ประโยคสามญั หลาย กรยิ าเรยี ง
สามญั กริยา หลายตัว
ประโยค แผนผังสรุป หน้าท่ี
ซ้อน เหมอื นนาม
ประโยคซอ้ น ท่ี วา่ ทีว่ า่ ให้
นามานปุ ระโยค
ขยายนาม
ประโยคซ้อน
คณุ านปุ ระโยค ที่ ซ่ึง อัน
ขยายกริยา
ประโยคซ้อน ซงึ่ ถา้ เพราะ เมื่อ
วิเศษณานุประโยค
แผนผงั สรปุ
ประโยค คาเชื่อมสมภาค กับ แต่
และ หรอื
รวม