The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดการเรียนรู้เรื่องทักษะชีวิต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattawut Kusolwong, 2020-06-29 00:15:21

ชุดการเรียนรู้เรื่องทักษะชีวิต

ชุดการเรียนรู้เรื่องทักษะชีวิต

ชุดการเรียนรู้

กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต
เรอื่ ง การป้องกันภัยพิบตั จิ ากธรรมชาติและมนษุ ย์

ตามแนวทางการจัดกิจกรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรียน สังกดั สานักงาน กศน.

ชือ่ ............................................................................. รหสั .......................................
กศน.ตาบล .........................................................................ชื่อครูที่ปรกึ ษา .................................................

ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
อาเภอเมืองนครราชสีมา

สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
จังหวัดนครราชสมี า

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่ือง การป้องกันภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 1

ชุดการเรียนรู้

กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต
เรอื่ ง การป้องกันภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาติและมนษุ ย์

ตามแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สงั กดั สานกั งาน กศน.

ชือ่ ............................................................................. รหสั .......................................
กศน.ตาบล .........................................................................ช่อื ครูที่ปรึกษา .................................................

ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
อาเภอเมืองนครราชสมี า

สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกและการศึกษาตามอธั ยาศัย
จังหวัดนครราชสีมา

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เร่ือง การป้องกนั ภยั พบิ ัติจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 2

กาหนดการรับและส่งงาน
เรอื่ ง การปอ้ งกนั ภัยพิบตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์

เรื่อง รับงานวันที่ ลายมือช่ือ ส่งงานวนั ท่ี ลายมือชอ่ื หมายเหตุ
เรอ่ื งท่ี 1
ความหมายสาคญั ของภยั พิบตั ิ

เรอ่ื งท่ี 2
ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ

เรื่องที่ 3
ภัยธรรมชาติทีเ่ กดิ จากมนษุ ย์

เรื่องท่ี 4
การปอ้ งกันภยั พิบัติจากธรรมชาติ

และมนุษย์

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเรื่อง การป้องกนั ภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 3

คานา
ชุดการเรยี นรู้ ภยั พบิ ตั ิ สาหรับนกั ศึกษา กศน.คณะผจู้ ัดทาได้ศกึ ษาวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาปัจจุบนั จาก
การสารวจความต้องการของนักศึกษาหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
โดยออกแบบการเรียนรู้ให้มคี วามหลากหลาย เหมาะสมกับนกั ศึกษาและกรอบการจัดกิจกรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น
มีกระบวนการจดั การเรยี นรู้ ONIE MODEI การวดั และประเมนิ ผลเปน็ ไปตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ซ่งึ ชดุ การเรียนรู้
นี้มีจานวน 3 เรอื่ ง ประกอบด้วยเร่ืองท่ี เรอ่ื งท่ี 1 ความหมายสาคัญของภัยพิบตั ิ เรื่องท่ี 2 ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ
เรอ่ื งที่ 3 ภัยธรรมชาตทิ เี่ กดิ จากมนษุ ย์ เร่ืองที่ 4 การป้องกนั ภัยพบิ ตั ิจากธรรมชาติและมนุษย์
ชุดการเรียนรู้ชดุ นปี้ ระกอบด้วย คาชีแ้ จงสาหรับนกั ศึกษา กศน.คาชแี้ จงสาหรับครบู ทบาทของครผู ู้สอน
บทบาทของนักศึกษาผงั ความคิดการใชข้ ุดการเรยี นรู้ ใบความรู้ ใบงาน และแบบทดสอบ เพอ่ื ให้เกิดความรคู้ วาม
เข้าใจ ที่สามารถตรวจความถูกตอ้ งดว้ ยตนเองได้ ซง่ึ ครู กศน.สามารถนาไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอนท้ังในการ
ปกติ หรือจดั กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน
คณะผ้จู ัดทาหวงั เป็นอย่างยิง่ ว่าชุดการเรียนรู้เลม่ น้ี จะมีคณุ ค่าในการพฒั นาการเรยี นรู้ของนักศึกษา กศน.
ใหเ้ ป็นไปตามจดุ ม่งุ หมายของกรอบการจดั กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตลอดจนมีประโยชน์สาหรบั ครูผสู้ อน
และผสู้ นใจ เพื่อนาไปพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอน ให้มีคณุ ภาพการศึกษาสงู ยง่ิ ขึน้ ไป

คณะผ้จู ัดทา
กศน.อาเภอเมืองนครราชสีมา

สารบญั

ชุดการเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวิตเร่ือง การปอ้ งกันภยั พิบัติจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 4

หนา้
คานา
สารบญั
คาชแี้ จงสาหรบั นกั ศึกษา กศน.
คาช้ีแจงสาหรับครู
บทบาทของครูผู้สอน
บทบาทของนักศึกษา
ผังความคดิ การใช้ขุดการเรียนรู้

เรอ่ื งที่ 1.ความหมายของภัยพิบตั ิ……………………………………..
-บันทึกสรุปการเรยี นรู้
-ใบงานที่ 1.
-แบบทดสอบหลงั เรียน

เรอ่ื งท่ี 2.ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ………………………………………………………………………….
-บันทกึ สรุปการเรียนรู้
-ใบงานท่ี 2
-แบบทดสอบหลังเรยี น

เรอ่ื งท่ี 3.ภยั ธรรมชาติทีเ่ กดิ จากมนุษย์……………………………………………………
-บันทกึ สรุปการเรียนรู้
-ใบงานท่ี 3

-แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรื่องที่ 4 การปอ้ งกนั ภยั พบิ ัติจากธรรมชาติและมนุษย์……………………………………………………

-บันทกึ สรุปการเรียนรู้
-ใบงานที่ 4
-แบบทดสอบหลังเรียน
บรรณานุกรม
แบบประเมนิ การใช้ชดุ การเรียนรู้
คณะทางานชุดการเรียนรู้

ชดุ การเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ เรอื่ ง การปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 5

คาชีแ้ จงสาหรบั นกั ศกึ ษา กศน.
ชดุ การเรยี นรู้เรื่อง การป้องกันภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ สาหรบั นกั ศึกษา กศน. ประกอบด้วยชุดการเรยี นรู้

ทั้งหมด 4 เรอื่ ง ดงั น้ี
เร่อื งท่ี 1 ความหมายของภัยพิบตั ิ
เรอื่ งท่ี 2 ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
เรื่องท่ี 3 ภัยธรรมชาตทิ ี่เกิดจากมนษุ ย์
เร่อื งที่ 4 การป้องกนั ภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเร่ือง การปอ้ งกันภยั พิบตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 6

คาช้แี จงสาหรบั ครู

ข้อปฏิบัตใิ นการใช้ชดุ การเรียนรู้

ชดุ การเรียนรู้เรื่อง ภัยพิบตั ิสาหรับนกั ศกึ ษา กศน. มจี ุดมุ่งหมายเพ่ือชว่ ยให้การดาเนนิ กจิ กรรมการจดั
กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นเรอ่ื ง การป้องกันภัยพบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ บรรลุวัตถุประสงค์การเรยี นร้แู ละมี
ประสทิ ธภิ าพ ครผู สู้ อน ควรดาเนินการดังนี้

1. ขัน้ เตรยี มการสอน
1.1 ศกึ ษาคาช้ีแจงในการใช้ชุดกิจกรรมใหเ้ ขา้ ใจก่อนอย่างละเอียดรอบคอบ
1.2 ศกึ ษาสาระสาคญั และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ท่จี ะดาเนินการจดั กิจกรรมใหเ้ ข้าใจชดั เจนเสียกอ่ น

2. ขัน้ สอน/จดั กระบวนการ
2.1 ดาเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามกระบวนการเรยี นการสอนแบบONIE MODEL4 ข้ันคอื
ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
เปน็ การเรียนรจู้ ากสภาพ ปัญหา หรือความต้องการของผู้เรียน และชมุ ชน สังคม
โดยให้เชอื่ มโยงกับประสบการณเ์ ดมิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรขู้ อง
หลกั สตู ร
ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N: New ways of learning)
การแสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ โดยศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้ และรวบรวม
ข้อมลู ของตนเอง ขอ้ มูลของชมุ ชน สงั คม และข้อมลู ทางวิชาการ จากส่ือและแหลง่
เรยี นรทู้ ห่ี ลากหลายมีการระดมความคิดเห็น วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมูล และสรุป
เป็นความรู้
ขั้นท่ี 3 ปฏิบัตแิ ละนาไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
นาความรู้ทไ่ี ดไ้ ปปฏิบตั ิ และประยุกตใ์ ชใ้ หส้ อดคล้องกบั สถานการณ์ เหมาะสมกับ
วัฒนธรรมและสังคม
ขั้นท่ี 4 ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขข้อบกพร่อง ผลจากการนาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้แลว้ สรุป
เปน็ ความร้ใู หม่ พร้อมกบั เผยแพร่ผลงาน
2.2 ขณะท่นี ักศกึ ษาทากิจกรรม ครูคอยให้ความช่วยเหลอื แนะนากระต้นุ ใหน้ ักศึกษาทากจิ กรรม
อยา่ งกระตือรอื ร้นและตอบข้อสงสยั ต่าง ๆ ระหว่างเรียนพร้อมทง้ั สังเกตและประเมิน
พฤติกรรมการทางานของนักศึกษา
2.3 ประเมินผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน โดยใชแ้ บบทดสอบยอ่ ย

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเรอ่ื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 7

บทบาทของครูผู้สอน
1. ศึกษาชุดการเรยี นรูเ้ ร่ือง การป้องกนั ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ ให้เขา้ ใจก่อนท่ีจะนาไปใช้
2. ครอู ธิบายชแ้ี จงเก่ยี วกับการศกึ ษาและปฏบิ ัตติ ามชดุ การเรียนรู้เร่อื ง การป้องกันภัยพิบตั ิจากธรรมชาตแิ ละ
มนุษย์ และแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั ศึกษาเข้าใจ
3. ครดู าเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการเรยี นการสอนที่กาหนดไว้
4. ครกู ับติดตามการทาใบงาน และให้คาปรึกษาแนะนานักศกึ ษา
5. ครทู ดสอบนกั ศกึ ษาโดยใช้แบบทดสอบหลังจากเรียนเนื้อหาจบเพื่อวัดความรู้ความเข้าใจของนกั ศึกษา

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเรอ่ื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนุษย์ 8

บทบาทนกั ศกึ ษา
1. รับทราบจดุ ประสงค์การเรียนรจู้ ากครผู ู้สอนเพ่ือให้ทราบว่าเมื่อจบกจิ กรรมการเรียนรแู้ ลว้ นกั ศกึ ษา
สามารถเรยี นรูอ้ ะไรได้บ้าง
2. ตง้ั ใจศึกษาใบความรแู้ ละปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามข้ันตอนหรอื คาชีแ้ จงของแตล่ ะเนื้อหาอย่างจริงจงั ตรงตอ่ เวลา
และมีความซื่อสัตย์ รับผดิ ชอบ ในการทากิจกรรมแบบทดสอบและสง่ งานครู
3. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นเพอื่ วดั ความรูค้ วามเข้าใจใหผ้ า่ นเกณท์ร้อยละ 70 ข้ึนไป หากทาได้ไม่ถงึ เกณท์
ใหน้ ักศึกษากลับไปทบทวนเน้ือหา และใบงาน อีกครัง้
4. ชุดการเรียนรเู้ รอ่ื ง ภัยพิบัติ นามาใช้ในการจดั กจิ กรรมการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี น หรือ หากไมม่ เี วลามา
พบกลมุ่ ทากจิ กรรมสามารถนาไปเรยี นรู้ไดผ้ ่านดจิ ิทัลโดยQR CODE น้ี

ชุดการเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เร่อื ง การป้องกนั ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 9

ขนั้ ตอนในการเรยี นด้วยชดุ การเรียนรู้

ศกึ ษารายละเอียดของชดุ การเรยี นรแู้ ตล่ ะเรอื่ ง

ศึกษาผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวัง/จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ดาเนนิ การใชช้ ดุ การเรียนรู้
๑. ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน

- แจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกส่งิ ที่นักศกึ ษาต้องปฏบิ ัติ
- ทดสอบก่อนเรยี น
๒. ขั้นเรยี นรู้
นกั ศกึ ษาปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามที่ระบุไว้ในใบงาน
๓. ขัน้ สรุป
สรุป อภปิ ราย แลกเปลยี่ นเรียนรู้

ทดสอบหลงั เรียนไม่ผา่ น

ผา่ น

ทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หมายเหตุ
ผ่าน หมายถงึ ผ้เู รยี นทาใบงานครบ ทาแบบทดสอบได้รอ้ ยละ 70 และแบบฝึกหดั ครบ

ชดุ การเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวิตเรอ่ื ง การป้องกันภยั พิบตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 10

เรื่องที่ 1 ความหมายของภัยพบิ ัติ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมาย ความสาคญั ของภยั พิบตั ิได้
2. อธิบายประโยชนข์ องการนาภัยพิบตั มิ าใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้
3. ยกตัวอย่างภยั พิบัติมาใช้ในชวี ติ ประจาวันได้

เร่อื ง ภัยพิบัติ
1. ความหมายของภยั พิบตั ิ
ภัยพิบัติ คือ ภยั ท่กี อ่ ให้เกิดความเสียหายต่อชวี ิต และทรัพยส์ ิน โดยสง่ ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกจิ และวิถีชวี ติ

ของผคู้ นในสังคมทั้งในระยะส้ัน และระยะยาว ภัยพบิ ตั ิแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ
2. ภัยพิบตั ิที่มนุษยส์ รา้ งข้ึน

ภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาตสิ ่งผลกระทบต่อมนุษย์และสภาพแวดลอ้ มในท้องถนิ่ แต่ละทอ้ งถิ่นมีโอกาสเกิด
ภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาตแิ ตกต่างกนั ไป น้าทว่ ม พายหุ มุนเขตร้อน ดินโคลนถล่ม สึนามิ แผ่นดินไหว ภยั แลง้ เป็น
ภยั พิบัตทิ างธรรมชาติท่ีมคี วามรนุ แรง มนุษย์ควรเรียนร้วู ธิ ปี ฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ คือ ภัยทม่ี ีสาเหตมุ าจากธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว อุทกภยั อคั คภี ยั พายุการระเบิดที่
กลา่ วถงึ น้ีคือการระเบิดของแก๊สท่ธี รรมชาติปลอ่ ยออกมาสู่ภายนอก นอกจากนภ้ี ัยพบิ ัติทางธรรมชาตยิ งั รวมถึงภยั จาก
นอกโลกด้วย เช่น อุกกาบาต

ชดุ การเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เรื่อง การป้องกันภยั พิบัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 11

โลกและภัยธรรมชาติ

โลกของเราเปน็ แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศัยของมนษุ ยแ์ ละส่ิงมีชีวติ ตา่ งๆการเปลยี่ นแปลงทางสภาวะแวดลอ้ มของโลก

อาจเกดิ ขึน้ เนื่องจากปจั จยั ธรรมชาตหิ รือจากการกระทาของมนุษย์ ได้สง่ ผลใหเ้ กดิ ปัญหาทางกายภาพหรอื ภัยพิบัติ

ตา่ งๆ ท้งั ในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ งๆของโลก อาทิ แผ่นดนิ ไหว สึนามิ อทุ กภัย ตลอดจนภยั พบิ ตั ิอืน่ ๆ ก่อใหเ้ กิด

ผลกระทบท้ังโดยตรงและโดยอ้อมต่อมวลมนุษย์ ลักษณะการเปลย่ี นแปลงมีตง้ั แต่การเกดิ ขึ้นอย่างช้าๆไปจนถึงการ

เกิดอย่างฉับพลนั และรนุ แรง ซ่งึ เปน็ อนั ตรายตอ่ ชวี ิตและความเปน็ อยู่ของส่ิงมชี วี ติ จงึ มคี วามจาเปน็ ท่ีจะต้องศึกษาหา

ความรู้เก่ยี วกับภยั พิบัติทางธรรมชาติและการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตใิ นโลกตา่ งๆ เพอ่ื จะไดป้ รบั วถิ ชี ีวิตให้

สอดคล้องกับสภาวะในขณะน้ีแตก่ ่อนทีจ่ ะไปเรยี นร้เู ก่ยี วกับภยั พบิ ตั ติ า่ งๆ เราควรจะมีความรูเ้ กย่ี วกับลกั ษณะ

โครงสรา้ งของโลกของเรา ซงึ่ ลักษณะโครงสร้างและวงจรธรรมชาติของโลกเรานเ้ี องที่เป็นสาเหตุหลกั ๆ ทท่ี าให้เกิดภยั

พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ เชน่ แผ่นดนิ ไหว ภเู ขาไฟปะทุ ดนิ ถล่ม เปน็ ต้น

1. โครงสรา้ งโลกและการเคล่ือนทีข่ องเปลือกโลกท่ีมาของภยั พบิ ัติ

ภาพที่ 1 ภาพโครงสร้างโลก

ดนยั ไชยโยธา และคณะ (2549, หนา้ 45 -48 ) กล่าววา่ โลกมีรศั มเี ฉลี่ย 6,370 กิโลเมตร
หรือ 4,000 กิโลเมตร แบง่ ออกเปน็ ช้ัน ตามคุณสมบตั ดิ งั น้ี

2.1 ชนั้ เปลอื กโลก (Crust) มีคณุ สมบัติแขง็ เปราะ ประกอบดว้ ยหนิ ทต่ี กผลึก ลึกจากผิวโลก
ประมาณ 35 กิโลเมตร มีสองช้ันบนพืน้ ทวีป และช้ันเดียวบนพนื้ มหาสมุทร ความหนาของเปลือกโลกบนพนื้ ทวปี แปร
เปลย่ี นไปตง้ั แต่ 35 ถงึ 60 กโิ ลเมตร แล้วแต่ว่าเปน็ ภเู ขาหรอื ท่รี าบต่า

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชีวิตเรื่อง การป้องกันภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาติและมนุษย์ 12

2.2 ชนั้ แกนนอก (Outer Core ) เป็นช้ันท่ีแขง็ ทีส่ ดุ ลึกจากผวิ โลกประมาณ 35 ถึง 2,900 เมตร

2.3 ช้ันเนอ้ื โลก (Mantle) เป็นช้นั ท่มี คี วามแขง็ น้อยท่สี ุด สันนฐิ านว่าเปน็ ของเหลว อยู่ลกึ ลงไป
ประมาณ 2,000 ถงึ 5,000 กิโลเมตร

2.4 ชัน้ แกนใน (Inner Core) สันนิษฐานว่าเปน็ ของแข็ง อยูล่ ึกประมาณ 5,000 กโิ ลเมตรลงไปเมอื่ รจู้ ัก
สว่ นประกอบของโลกของเราแลว้ เราก็ตอ้ งเขา้ ใจวา่ โลกของเรามีสว่ นประกอบทีส่ าคัญคือชนั้ เนื้อโลกทม่ี ปี รมิ าณมาก
ท่ีสดุ และเปน็ ของเหลวทีร่ ้อนระอุ มนั สามารถเคล่อื นทไี่ ด้อยูภ่ ายใต้เปลือกโลกของเรา และเปน็ สาเหตสุ าคัญท่ที าให้
แผน่ เปลอื กโลกดา้ นบนสุดมีการเคล่อื นตัว เราจึงต้องมาทาความร้จู ักกับการเคลื่อนตวั ของแผน่ เปลอื กโลก ซึ่งเปน็ ท่ีมา
ของภัยพิบตั ติ า่ งๆ

2. การเคลอ่ื นตัวของแผน่ เปลือกโลก

สถาบันวิจยั สภาวะส่งิ แวดล้อม จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (2551, หน้า 65) กล่าวว่า เปลือกโลกมีการเคลอื่ นท่ี
อยตู่ ลอดเวลาในปี พ.ศ.2455 นกั วิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ช่ือ อลั เฟรดเวเกเนอร์ กลา่ วถงึ การเคล่ือนตวั ของเปลือก
โลกว่าเดมิ โลกเป็นผืนแผน่ ดินกวา้ งใหญ่เรยี กว่าพันเจยี (Pangaea) ตอ่ มาผืนแผน่ ดินใหญ่นี้ได้แยกออกจากกนั กลายเป็น
ทวีปตา่ งๆ ในปจั จบุ นั เขาเชอ่ื ว่าพนั เจยี ได้มีการแตกแยกและเคลื่อนตัวไปตามทศิ ทางตา่ งๆ มาหลายรอ้ ยปี การทีข่ อบ
ของทวีปตา่ งๆ เชื่อมตอ่ กนั ได้อยา่ งภาพปะตดิ ปะต่อกนั น้นั เป็นผลมาจากการแตกและแยกตัวของพนั เจีย

โลกประกอบดว้ ยแผ่นเปลอื กโลกจานวนมาก เปลือกโลกประกอบดว้ ยชน้ิ ส่วนขนาดใหญ่หลายชิน้ สามารถ
เชือ่ มต่อกันได้แบบภาพปะติดปะตอ่ ช้ินส่วนแต่ละช้นิ ส่วนเรียกวา่ แผ่นเปลือกโลก ดงั นนั้ เปลอื กโลกจงึ ประกอบดว้ ย
แผน่ เปลือกโลกหลายแผน่ ซ่งึ ลอยอยเู่ หนือช้ันเนื้อโลก และมีการเคล่ือนท่ีอย่ตู ลอดเวลา

เปลือกโลกของเราประกอบไปด้วยแผน่ เปลอื กโลก 13 แผน่ ไดแ้ ก่

1. แผ่นอเมริกาเหนือ 2. แอนตารก์ ติก 3. แผ่นนาซกา้

4. แผ่นอเมริกาใต้ 5. แผ่นฟิลปิ ปินส์ 6. แผน่ ยูเรเซยี

7. แผ่นอาหรบั 8. แผ่นแอฟริกา 9. แผน่ สกอเทยี

10. แผน่ อินเดยี 11. แผ่นโกโก้ 12. แผน่ แปซิฟกิ

13. แผน่ แครเิ บยี น

ชดุ การเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวติ เรอ่ื ง การป้องกันภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 13

ภาพที่ 2 ภาพรอยตอ่ ของแผ่นเปลือกโลกทัง้ 13 แผน่

ท่ีมา: http://www.thaigoodview.com
บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกทเ่ี รียกว่า ขอบแผน่ เปลือกโลก มลี กั ษณะการเชือ่ มต่อกนั 3 แบบ คือ

ภาพท่ี 3 การเคลื่อนตวั ของแผ่นเปลอื กโลกแบบตา่ งๆ

ทม่ี า:http://www.nongin2379.blogspot.com
2.1 แบบยกตัวออกจากกัน (Divergent Boundary) พบในบรเิ วณท่ีแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัวออกจากกัน
เชน่ บริเวณสันเขากลางมหาสมทุ รอนิ เดีย เปลือกโลกทเี่ กิดขนึ้ ใหมจ่ ะขยายตวั เปน็ บรเิ วณกว้างใหญ่และแยกตวั ออกไป
ตามแนวสันเขากลางมหาสมุทรอินเดีย ใชเ้ วลานานถึง 200 ปี ดงั ท่เี ห็นในปจั จุบนั

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่ือง การป้องกนั ภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 14

2.2 แบบเคลอื่ นตวั เข้าหากัน (Convergent Boundary) เกิดจากแผ่นดินสองสว่ นเคลอ่ื นตวั เข้าชนกัน
สว่ นทอ่ี ยดู่ า้ นหนา้ ของทั้งสองแผ่นดินจะแตก โดยสว่ นใดส่วนหนึง่ ของแผ่นดนิ จะแตกมดุ แทรกอยใู่ ต้แผ่นดนิ อีกแผ่น
หน่ึง บรเิ วณนน้ั จึงเกดิ เป็นร่องตามขอบมหาสมุทรอินเดีย

2.3 แบบเคลอ่ื นตัวออกจากกนั ในแนวราบ(Transform Boundary) เกดิ จากแผน่ ดนิ สองส่วนมีการเล่อื น
เสียดสกี นั และนกี่ ็คอื วงจรธรรมชาติของโลกทีเ่ ราต้องเรียนรู้เพราะมนั จะเปน็ ท่ีมาของการเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ
ตามมา

การเคลอ่ื นตัวของแผ่นเปลือกโลกที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนีเ้ องทเ่ี ปน็ สาเหตทุ ีท่ าใหเ้ กิดภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาตแิ ละ
การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตบิ นโลก เราจึงตอ้ งมาทาความรจู้ กั กับคาว่าภัยพิบตั ิทางธรรมชาตใิ หเ้ ข้าใจ วา่ มันคือ
อะไรและมีประเภทใดบ้าง

3. ภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ
สมทิ ธ ธรรมสโรช (2534,27-30) กล่าวถึงภัยพบิ ัติทางธรรมชาติวา่ เป็นเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้นึ ตามธรรมชาติ เมื่อ
เกิดข้ึนแล้วจะสง่ ผลให้เกิดอันตรายและเกิดความสูญเสียท้ังชีวติ และทรัพยส์ ิน ตา่ ง ๆ ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ
เกดิ ขึ้นใน 3 ลกั ษณะ คือ ภัยพิบัตทิ เี่ กิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุภายในโลก เชน่ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบิด ภยั พิบัติท่ี
เกิดข้ึนบนผวิ โลก เชน่ การเกดิ แผน่ ดนิ ถล่ม อุทกภัย ภัยแลง้ ไฟป่า และภยั พบิ ัติทีเ่ กดิ ขนึ้ ในบรรยากาศ เชน่ วาต
ภัย ภาวะโลกรอ้ น ลูกเห็บ ฟา้ ผ่า เปน็ ต้น

ภาพที่ 4 ภาพตัวอยา่ งความเสยี หายจากภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ

ทม่ี า:http://www.thaigoodview.com

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเร่ือง การป้องกนั ภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 15

3.1 ความหมายของภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ หมายถงึ ภยั อนั ตรายตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดจาก
ธรรมชาติ ทอี่ าจเกดิ ข้นึ อย่างรวดเรว็ หรอื ค่อยๆเกดิ เช่น อุทกภัย วาตภัย แผน่ ดนิ ไหวตลอดจนภยั อน่ื ๆ อนั เปน็
สาธารณะซง่ึ ก่อใหเ้ กิดอันตรายแก่ชีวติ ความเป็นอยู่ของประชาชน หรอื ความเสียหายแก่ทรัพยส์ ินของประชาชนหรือ
รฐั เมือ่ ไหร่กต็ ามท่ีปรากฏการณธ์ รรมชาติเปน็ ภยั คุกคามต่อชวี ิตและทรัพยส์ ิน เราเรยี กวา่ ภยั พิบัติ ( Disaster ) หรอื
หายนะภัยตวั อยา่ งเช่น ในแม่น้าลาธารมีนา้ ไหลล้นตลิง่ เปน็ ประจาทุกๆ ปี ในบริเวณท่มี ผี ู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก ไม่มคี วาม
เสยี หายหรอื เสียหายน้อยไมเ่ รียกวา่ ภยั พิบัติ เราเรียกว่า บรเิ วณเสยี่ งอนั ตราย ( Hazard ) แต่ถ้าวนั หน่ึงนา้ ในแม่นา้
ลาธารจู่โจมเขา้ ทว่ มบ้านเรอื นราษฏรในบริเวณทีม่ ีผคู้ นอยู่อาศัยเป็นจานวนมาก ทาให้เกิดการสญู เสียชวี ติ และ
ทรัพยส์ ินเรียกวา่ ภยั พิบตั ิ หรือหายนะ

3.2 ผลกระทบทีเ่ กดิ จากภัยธรรมชาตผิ ลกระทบทเ่ี กดิ จากภยั ธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ความเสียหายทีเ่ ห็นได้ เช่น
เสียชีวิต บาดเจบ็ พกิ าร ไรท้ อ่ี ยู่ ขาดท่ีทากิน อุปกรณ์การทางานเสยี หาย ยังมีผลกระทบต่อสภาพสงั คม วฒั นธรรม
การดาเนนิ ชีวิต รวมทงั้ มีผลกระทบต่อจติ ใจของผปู้ ระสบภัย

ภาพท่ี 5 ภาพนา้ ทว่ มกรงุ เทพมหานคร

ทีม่ า : http://www.thairath.co.th
ภัยพบิ ตั ิเกิดขนึ้ ไดท้ ้ังในประเทศทีร่ ่ารวยและประเทศยากจน แต่ความหายนะทเ่ี กดิ กับคนในประเทศยากจน
จะสูงกว่า ทัง้ นเี้ น่ืองจากประเทศยากจนขาดแคลนระบบปอ้ งกนั เตือนภัย เครื่องมือช่วยเหลอื ทรี่ วดเรว็ ทนั สมยั
อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมท้งั แผนการเตรียมการฉุกเฉนิ ทเ่ี พียบพร้อม ตลอดจนการส่อื สารและการขนสง่ ที่รวดเร็ว
ประเทศยากจนส่วนใหญม่ ีปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่มนั่ คงอยมู่ าแตเ่ ดมิ เชน่ ถนนหนทาง บา้ นไมถ่ กู สขุ ลักษณะ ห้อง
สว้ มไม่ได้มาตรฐาน สขุ ภาพไมด่ ี ทาใหค้ นรสู้ กึ ไมป่ ลอดภัย ดงั นน้ั ประเทศท่ียากจนมักได้รับผลกระทบ เชน่ เกิดโรค
ระบาด ขาดแคลนอาหาร และส่วนหน่งึ มาจากการขาดประสิทธภิ าพในการทางานของรฐั บาลเพ่อื ชว่ ยเหลือประชาชน
เนอ่ื งจากพืน้ ฐานด้านเศรษฐกิจไมม่ ั่นคง

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเรอ่ื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 16

3.3 ประเภทของภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ เราไมส่ ามารถแบ่งประเภทของภยั พิบัติทางธรรมชาตวิ า่ เกิดจาก
ธรรมชาติโดยตรงหรอื ฝมี อื มนุษยอ์ ยา่ งเดียว เพราะภยั พิบัติทางธรรมชาตติ า่ งๆ ลว้ นเกย่ี วขอ้ งกับการกระทาของมนุษย์
ไม่ทางตรงก็ทางออ้ ม
ภัยธรรมชาตทิ ่ีสาคญั มีดังน้ี

แผน่ ดนิ ไหวภูเขาไฟปะทสุ นึ ามอิ ุทกภัยวาตภัยแผน่ ดนิ ถล่มการกดั เซาะชายฝง่ั ไฟป่าการเปล่ยี นแปลง
ภูมิอากาศของโลก ภัยธรรมชาติอืน่ ๆ เชน่ ปรากฏการณล์ านิญ่า และเอลนโิ ญ

ภยั ธรรมชาติมักจะเกิดขน้ึ โดยท่ีไม่มีใครคาดคิด ดังนัน้ สิง่ ท่ีควรปฏบิ ัตคิ ือ การสงั เกตธรรมชาติ การเรยี นรู้
เกยี่ วกบั วงจรของธรรมชาติ และประวัตกิ ารเกิดภยั ส่วนใหญป่ รากฏการณภ์ ยั ธรรมชาติท่ีเคยเกิดขนึ้ ในอดีตมักจะ
เกิดขึ้นอีก ดงั หลกั ฐานการบันทกึ ข้อมลู การเกดิ ภยั ธรรมชาติต่างๆท่ีปรากฏในหนงั สือพิมพ์ เอกสารหรือวารสาร ฯลฯ
เราจึงควรเรยี นร้เู ก่ียวกบั วงจรการเกดิ ภัยพิบตั ิและการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตบิ นโลก เพอื่ ทีจ่ ะได้ร้เู ทา่ ทันภยั พบิ ตั ิ
และหาทางป้องกนั และระวังภัยได้อย่างมีประสทิ ธิภาพทง้ั ในปจั จุบันและในอนาคต

ชุดการเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ เรือ่ ง การป้องกนั ภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาติและมนุษย์ 17

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้

สรปุ เนื้อหา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ประโยชน์ทไี่ ด้รบั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
การนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเรอื่ ง การปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 18

ใบงาน
ให้นักศึกษาตอบคาถามดังนี้
1. อธิบายความหมาย ความสาคัญของภยั พบิ ัติ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. อธบิ ายประโยชนข์ องการนาภยั พบิ ตั มิ าใชใ้ นชีวติ ประจาวัน

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

3. ยกตัวอย่างภยั พบิ ตั ิมาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ชุดการเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวิตเรื่อง การปอ้ งกันภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 19

แบบทดสอบ

1.ปัจจยั สาคัญที่มผี ลทาใหเ้ กิดแผน่ ดินไหวคืออะไร ?
ก. แรงส่นั สะเทือนของคลน่ื ในมหาสมุทร
ข. เกดิ จากการปะทุของหินหนดื แก๊สและวัสดุ ใต้พิภพ
ค. การเคล่ือนทีข่ องหนิ บนภเู ขาทลี่ าดช้นั อย่างรวดเรว็
ง. การาเคลอื่ นท่ีตัวของเปลือกโลกในรูปของการเคลอื่ นตวั ของหนิ หรือการปะทุของภเู ขาไฟ
2. ข้อใดเปน็ สาเหตุทบ่ี รเิ วณพื้นทรี่ าบล่มุ เกิดปัญหาอุทกภัยประจาทุกปี ?
ก. เปน็ พื้นทตี่ ่า ระบายน้าไมไ่ ด้
ข. แม่น้าต้ืนเขิน
ค. พ้ืนทม่ี ีขนาดกวา้ งขวาง
ง. ประชาชนไม่ใสใ่ จเเก้ไขปัญหา
3. นา้ ท่วมฉบั พลนั ท่ีกรงุ มะนิลา ฟิลปิ ปนิ สท์ หี่ นกั ท่ีสดุ ในรอบ 42 ปเี กดิ จากพายุใด ?
ก. พายุชา้ งสาร
ข. พายุกิสนา
ค. พายไุ หหม่า
ง. พายตุ าลัส
4.การแก้ไขปัญหาน้าชายฝ่ังถูกกดั เซาะในข้อใดเหมาะสมที่สดุ ?
ก. ส่งเสรมิ การประมงนา้ กร่อย
ข. ห้ามชาวประมงจบั ปลาชายฝ่งั
ค. ไมส่ ร้างอาคารสลู ้าไปในบริเวณชายหาด
ง. ปลูกปา่ ชายแลน
5. สึนามิ เปน็ ภยั ธรรมชาติท่มี กั เกดิ เมอ่ื ใด ?
ก. พายหุ มนุ อย่างฉบั พลนั บริเวณกลางมหาสมุทร
ข. แผ่นเปลือกโลกเล่อื นออกจากกนั
ค. แผ่นดนิ ไหวพรอ้ มกบั ภูเขาไฟระเบดิ
ง. แผ่นดนิ ไหวรุนแรง้ ใต้ท้องทะเล

1.ง 2.ก 3.ข 4.ง 5.ง

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ติ เร่ือง การป้องกนั ภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 20

เร่อื งท่ี 2 ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกสาเหตกุ ารเกิดภยั พิบัติทางธรรมชาติได้
2. อธิบายรปู แบบภยั พิบัติทางธรรมชาติ
3. ยกตัวอยา่ งการแกป้ ญั หาภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ เปน็ เหตุการณท์ ่เี กิดขึ้นตามธรรมชาติ เม่ือเกิดข้ึนแล้วจะส่งผลใหเ้ กิดอันตรายและเกิด

ความสูญเสยี ทง้ั ชวี ิตและทรัพย์สนิ ตา่ งๆ ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาตเิ กิดขน้ึ ใน 3 ลกั ษณะ คือ ภยั พบิ ตั ิทีเ่ กดิ ขนึ้ เน่ืองจาก
สาเหตุภายในโลก เชน่ แผ่นดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบิด ภยั พบิ ัติที่เกิดขึ้นบนผิวโลก เชน่ การเกดิ แผ่นดนิ ถลม่ อุทกภยั ภยั
แลง้ ไฟป่า และภยั พิบตั ิที่เกดิ ขน้ึ ในบรรยากาศ เชน่ วาตภยั ภาวะโลกร้อน ลูกเหบ็ ฟ้าผ่า เป็นตน้

ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตแิ ละการเปลยี่ นแปลง
ทางธรรมชาติในโลก

การเปลย่ี นแปลงทางสภาวะแวดล้อมของโลก อาจเกิดข้นึ เนื่องจากปัจจัยธรรมชาตหิ รือจากการกระทาของมนุษย์ ได้
ส่งผลให้เกดิ ปัญหาทางกายภาพหรอื ภัยพิบัตติ า่ งๆ ท้ังในประเทศไทยและภูมภิ าคตา่ งๆของโลก อาทิ แผน่ ดินไหว สนึ า
มิ อทุ กภยั ตลอดจนภัยพบิ ัติอื่นๆ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบท้ังโดยตรงและโดยอ้อมต่อมวลมนุษย์ ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลง
มีตัง้ แต่การเกิดข้ึนอย่างชา้ ๆไปจนถึงการเกิดอย่างฉับพลันและรุนแรง ซึ่งเปน็ อันตรายต่อชีวิตและความเปน็ อยู่ของ
สิ่งมีชวี ิต จงึ มคี วามจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งศกึ ษาหาความรูเ้ กย่ี วกับภัยพิบัติทางธรรมชาตแิ ละการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาติ
ในโลกต่างๆ เพ่ือจะไดป้ รบั วิถึชีวติ ให้สอดคลอ้ งกบั สภาวะในขณะนี้

ชดุ การเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวิตเรือ่ ง การป้องกนั ภยั พบิ ัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 21

ภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ (Natural Disasters) รปู แบบตา่ ง ๆ ทางธรรมชาตทิ ไ่ี ด้มีการศึกษารวบรวม และบนั ทกึ
รายละเอียดไว้ อาจสรุปได้เป็น 10 ประเภท คือ

1. การระเบิดของภูเขาไฟ (Volcano Eruptions)
2. แผ่นดนิ ไหว (Earthquakes)
3. คลื่นใตน้ ้า (Tsunamis)
4. พายใุ นรปู แบบต่าง ๆ (Various Kinds of storms) คอื

ก. พายแุ ถบเสน้ Tropics ท่ีมีแหล่งกาเนดิ ในมหาสมุทร (Tropical Cyclones)
ข. พายุหมุนที่มีแหล่งกาเนิดบนบก (Tornadoes)
ค. พายุฝนฟ้าคะนอง (Thunderstorms)
5. อุทกภัย (Floods)
6. ภัยแล้ง หรอื ทุพภกิ ขภยั (Droughts)
7. อัคคภี ัย (Fires)
8. ดินถล่ม และโคลนถล่ม (Landslides and Mudslides)
9. พายุหิมะและหมิ ะถล่ม (Blizzard and Avalanches) และ
10. โรคระบาดในคนและสัตว์ (Human Epidemics and Animal Diseases)

วดิ โี อให้ความรูเ้ กยี่ วกบั ภยั พิบัติทางธรรมชาติ จาก https://youtu.be/ScCbfZ_Aebw

ชดุ การเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เรื่อง การปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 22

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้

สรปุ เนื้อหา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ประโยชน์ทไี่ ด้รบั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
การนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ชดุ การเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวติ เร่อื ง การปอ้ งกันภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 23

ใบงาน

เรอ่ื งภยั พิบัติทางธรรมชาติ (สึนามิ)
คาชีแ้ จง ให้ผู้เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี

1. บอกสาเหตกุ ารเกิดภยั พบิ ัติทางธรรมชาตไิ ด้

............................................................................................................................. ..........................................
......................................................................................... ..............................................................................
............................................................................................................................. ...........................

2. อธิบายรูปแบบภัยพิบัติทางธรรมชาติ

............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................

3. ยกตัวอย่างการแก้ปัญหาภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ

............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................

แบบทดสอบ เรือ่ งภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ

1.ปจั จัยสาคัญที่มีผลทาใหเ้ กดิ แผน่ ดนิ ไหวคืออะไร ?

ก. แรงส่นั สะเทอื นของคลืน่ ในมหาสมทุ ร

ข. เกิดจากการปะทุของหนิ หนดื แกส๊ และวัสดุ ใต้พิภพ

ค. การเคล่อื นท่ีของหินบนภูเขาที่ลาดช้ันอย่างรวดเรว็

ง. การาเคลอื่ นท่ีตวั ของเปลอื กโลกในรปู ของการเคลือ่ นตัวของหินหรือการปะทุของภูเขาไฟ

2. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุท่ีบรเิ วณพื้นท่รี าบลุ่มเกิดปัญหาอุทกภัยประจาทุกปี ?

ก. เปน็ พน้ื ที่ตา่ ระบายนา้ ไม่ได้

ข. แมน่ า้ ตืน้ เขนิ

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชีวติ เรอื่ ง การป้องกนั ภยั พิบตั จิ ากธรรมชาติและมนษุ ย์ 24

ค. พืน้ ท่ีมขี นาดกว้างขวาง
ง. ประชาชนไมใ่ ส่ใจเเก้ไขปัญหา
3. นา้ ทว่ มฉบั พลันที่กรงุ มะนิลา ฟิลิปปินสท์ ห่ี นักที่สุดในรอบ 42 ปเี กิดจากพายุใด ?
ก. พายุชา้ งสาร
ข. พายุกิสนา
ค. พายุไหหม่า
ง. พายตุ าลสั
4.การแก้ไขปญั หาน้าชายฝง่ั ถูกกัดเซาะในขอ้ ใดเหมาะสมท่ีสดุ ?
ก. ส่งเสริมการประมงน้ากร่อย
ข. หา้ มชาวประมงจบั ปลาชายฝ่งั
ค. ไม่สรา้ งอาคารสูล้าไปในบริเวณชายหาด
ง. ปลูกป่าชายแลน
5. สนึ ามิ เปน็ ภัยธรรมชาตทิ ่ีมกั เกิดเมอ่ื ใด ?
ก. พายหุ มนุ อย่างฉบั พลันบรเิ วณกลางมหาสมุทร
ข. แผน่ เปลอื กโลกเลือ่ นออกจากกนั
ค. แผ่นดนิ ไหวพรอ้ มกับภูเขาไฟระเบิด
ง. แผน่ ดินไหวรุนแรง้ ใตท้ ้องทะเล

เฉลย 1.ง 2.ก 3.ข 4.ง 5.ง

ชุดการเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเรอ่ื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบตั จิ ากธรรมชาติและมนษุ ย์ 25

เร่ืองท่ี 3 ภัยธรรมชาตทิ ่เี กิดจากมนษุ ย์

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายเกี่ยวกับภยั ธรรมชาติทเี่ กดิ จากมนษุ ย์
2. บอกวิธีการป้องกนั ภัยธรรมชาติทีเ่ กิดจากมนุษย์
3. ยกตัวอยา่ งสาเหตุและการป้องกันภัยธรรมชาตทิ เี่ กิดจากมนษุ ย์

ภัยธรรมชาติทีเ่ กดิ จากมนุษย์
ภยั ทางธรรมชาติอาจไม่ใชเ่ ร่อื งของโชคชะตา คณุ อาจจะเคยได้เห็นมาบ้างแลว้ วา่ มนุษย์มีสว่ นในการกอ่ ให้เกดิ

ภยั พบิ ตั ิขน้ึ ไดไ้ ม่ทางตรงกท็ างออ้ มไมว่ ่าจะเป็น น้าท่วม ดนิ ถลม่ หรอื ไฟปา่ ท่เี กดิ มีอตั ราการเกดิ ขน้ึ สูงตามการเตบิ โต
ของสังคมมนุษย์ ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติสามารถทาใหเ้ กดิ การสญู เสยี ทางเศรษฐกจิ หรือ เป็นภัยต่อมนุษย์อย่าง
มหาศาล ตวั อยา่ งต้นเหตุจากนา้ มอื มนุษย์ได้แก่ การระเบิด การเผาไหม้ อุบัติเหตสุ ารเคมีรัว่ ไหลและปนเปอื้ นต่อ
สงิ่ แวดล้อม อย่างไรกต็ ามความแตกต่างระหวา่ งความหายนะทางธรรมชาติกับสงิ่ ที่เกดิ จากนา้ มือมนุษย์นน้ั ไม่ได้มี
ความชดั เจนอย่างทหี่ ลายคนคิด แตเ่ ราสามารถระบุไดไ้ ดน้ ี้
1.นา้ ทว่ ม
การทาการเกษตรขนาดใหญท่ าใหส้ ภาพหน้าดนิ เสอ่ื มโทรมลงอยา่ งมาก มันลดปริมาณของสารอาหารและคณุ ภาพ
ของดนิ สงิ่ นส้ี ่งผลให้พืชโดยรอบเจริญเติบโตได้ไม่ดพี อทจี่ ะชว่ ยป้องกนั นา้ ท่วม เช่นเดยี วกบั การตดั ไม้ทาลายปา่ ซึง่ เปน็
ทาลายดินอนั อดุ มสมบรู ณ์ เหลอื ไว้เพียงดินทแี่ ห้งจนไม่สามารถดดู ซบั ฝนท่ตี กลงมาลงไปในช้นั ดนิ ได้ ผลที่ตามมาคือ
ปริมาณนา้ ท่ีไหลลงสูแ่ ม่นา้ เพ่ิมมากข้นึ จนทาใหเ้ กิดนา้ ท่วม

2.ไฟป่า

ในขณะท่ีไฟปา่ อาจเกิดขึน้ จากสายฟา้ ที่ผ่าลงมา
จนเกิดเพลิงไหม้ ในขณะเดียวกันมนุษย์นีห่ ละที่
ต้องสาเหตหุ ลกั ของไฟไหม้ เช่น ขยะจากขวด
แกว้ ตามถนนท่รี วมแสงแดดจนเกดิ ประกายไฟ
การจุดไฟของเด็กโดยไมต่ ้ังใจ เลกิ ต้งั แคมป์โดยไม่
ดับกองไฟให้สนิท ประกายไฟจากลอ้ รถไฟท่ีติด
บนหญ้ารมิ ทาง จุดพลใุ กลต้ น้ ไม้ เขีย่ บุหร่ีลงบน
พืน้ หญ้า

ชุดการเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเรอ่ื ง การป้องกนั ภยั พิบตั ิจากธรรมชาติและมนษุ ย์ 26

3.ภาวะโลกร้อน
ถือเป็นเร่ืองใหญส่ ดุ ที่มนุษย์เรากาลงั เผชิญในตอนน้ี ภาวะโลกรอ้ นเปน็ เหตุการณท์ โ่ี ลกมีอุณภูมิสูงขึน้ สิง่ ที่

กระทบมากทีส่ ุดคงจะไม่พ้นข้ัวโลกใตใ้ นทวิปแอนตาร์กติกาที่ประกอบไปดว้ ยนา้ แข็ง 90% ของโลก ปกคลุมด้วย
นา้ แขง็ ความหนาเฉลย่ี 2,133 เมตร (7,000 ฟุต) เมื่ออุณภมู ิสงู ข้ึนทาใหน้ ้าแข็งคอ่ ยๆละลายลงอย่างชา้ ๆ หากนา้ แข็ง
ขัว้ โลกใต้ละลายท้งั หมดระดับนา้ ทะเลทั่วโลกจะสูงข้นึ ประมาณ 61 เมตร (200 ฟุต) น้เี ป็นแค่หนึ่งในภยั ธรรมชาติที่เรา
ตอ้ งเจอเทา่ นัน้ ส่งิ ท่ีก่อใหเ้ กดิ โลกร้อนกเ็ กิดจากนา้ มอื มนุษย์แทบท้ังสิ้น ส่วนใหญเ่ กดิ จากปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุ
ตาหากรรมทาใหค้ วามร้อนถูกกักอย่บู นชนั้ บรรยากาศ การตัดไมท้ าลายป่าซงึ่ ในธรรมชาติต้นไม้มหี น้าทดี่ ูดซับ
คารบ์ อนไดออกไซดผ์ า่ นการสังเคราะห์ด้วยแสง และคนื ออกซิเจนสชู่ นั้ บรรยากาศ เช่นเดียวกับมหาสมทุ รอนั เป็น
แหลง่ ดูดซบั ชน้ั เย่ียมไม่แพก้ ัน มันสามารถเกบ็ ได้มากถงึ 50% หากมากกว่าน้ีจะทาใหน้ า้ มคี ณุ สมบัติเปน็ กรดทไ่ี ม่
เอ้อื อานวยต่อสตั ว์ทะเล

ชดุ การเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เร่ือง การปอ้ งกันภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนุษย์ 27

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้

สรปุ เนื้อหา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ประโยชน์ทไี่ ด้รบั
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............
...................................................................................................................... ........................................................
การนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเรอ่ื ง การป้องกันภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 28

ใบงาน

ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามดังนี้
1. อธบิ ายเกี่ยวกับภยั ธรรมชาตทิ ่ีเกดิ จากมนษุ ย์
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........
....................................................................................................................... .......................................................
2. บอกวิธกี ารปอ้ งกนั ภยั ธรรมชาติทเี่ กดิ จากมนุษย์

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

3. ยกตวั อยา่ งสาเหตแุ ละการป้องกนั ภยั ธรรมชาตทิ ่เี กดิ จากมนษุ ย์

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

แบบทดสอบ

คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว

1. ปัจจยั สาคญั ท่ีมผี ลทาให้เกดิ แผน่ ดินไหว คอื อะไร
ก. แรงส่นั สะเทือนของคล่ืนในมหาสมุทร
ข การเคลอื่ นทขี่ องหนิ บนภเู ขาท่ีลาดชันอยา่ งรวดเร็ว
ค เกิดจากการปะทขุ องหินหนดื แก๊ส และวสั ดุใตพ้ ิภพ
ง. การเคลอื่ นตัวของเปลือกโลกในรูปของการเลือ่ นตวั ของหิน หรือการปะทุของภูเขาไฟ

2. การเกดิ ปรากฏการณแ์ ผ่นดนิ ไหวในประเทศไทยค่อนข้างน้อย และผลกระทบไมร่ นุ แรงนั้น
เน่ืองจากเหตุผลในขอ้ ใด
ก พืน้ ทซี่ ่งึ อยู่ตดิ ทะเลมนี ้อย
ข อยูไ่ กลจากมหาสมุทรแปซฟิ ิก
ค. ไมไ่ ด้ตง้ั อยู่บรเิ วณรอยตอ่ ของแผ่นเปลือกโลก
ง. ไมเ่ คยปรากฏวา่ เคยมภี ูเขาไฟระเบดิ ซึ่งจะสง่ ผลกระทบต่อแผ่นดินไหว

ชดุ การเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเรือ่ ง การปอ้ งกันภยั พิบัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 29

3. การที่มีปรากฏการณภ์ ูเขาไฟปะทุอย่างต่อเน่อื งสอดคล้องกับข้อความใด

ก. ภูเขาไฟมรี อยแตกแยกเมือ่ ได้รบั ความร้อนจงึ ระเบิด

ข. ความรอ้ นในโลกมอี ณุ หภมู ิสงู สุด จึงพยายามหาทางออกมาจากภายใน

ค. แกส๊ ภายในโลกได้รบั ความร้อนสงู จงึ เกิดแรงระเบิด ส่งผลใหห้ นิ ชั้นต่างๆ ระเบิดออกมา

ง. ภายในเปลือกโลกยงั มีมวลหินหนดื หลอมละลายอยู่ และพยายามหาทางระบายความร้อน

4. ภูเขาไฟในประเทศไทย ลักษณะอยา่ งไร

ก. เป็นภูเขาไฟรปู ทรงฝาชี เปน็ กรวยมีฐานกว้าง

ข. เปน็ ภเู ขาไฟท่ีมลี ักษณะมีรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก

ค. เป็นภูเขาไฟรปู โล่ มคี ณุ สมบัติของลาวาจะไหลได้ง่าย

ง. เปน็ ภูเขาไฟทด่ี ับแล้ว เป็นหินแกรนติ หินหนืด และมีแก๊สอยรู่ ะหว่างช่องวา่ ง

5. สึนามิ เป็นภัยธรรมชาติ ทีม่ กั เกิดเมื่อใด

ก. แผ่นดนิ ไหวรนุ แรงใตท้ อ้ งทะเล

ข. แผน่ เปลอื กโลกเล่อื นออกจากกนั

ค. แผน่ ดนิ ไหวพรอ้ มกบั ภูเขาไฟระเบดิ

ง. พายุหมุน อย่างฉับพลันบรเิ วณกลางมหาสมุทร

6. บริเวณทมี่ ักเกดิ สึนามิ ไดแ้ ก่บริเวณใด

ก. มหาสมุทรแปซฟิ ิก ข. มหาสมทุ รอนิ เดยี

ค. มหาสมทุ รแอตแลนติก ง. มหาสมุทรอาร์กติก

7. ขอ้ ใดไมจ่ ดั ว่าเป็นปัจจัยสาคัญที่ทาใหเ้ กดิ อทุ กภัย

ก. น้าทะเลหนนุ ข. การสรา้ งเข่อื น

ค. พ้นื ท่ีเปน็ ทรี่ าบลุ่ม ง. ฝนตกหนักและต่อเน่อื งยาวนาน

8. แผน่ ดินถลม่ มสี าเหตุสาคญั หลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด

ก. การดดู ทรายจากแมน่ ้า ข. การขุดบอ่ น้าบาดาล

ค. ฝนตกหนกั อย่างต่อเน่ือง ง. ระดบั น้าทะเลสูงขึ้นอยา่ งรวดเรว็

9. การแก้ไขปัญหาชายฝ่ังถูกน้ากดั เซาะในข้อใด เหมาะสมทส่ี ดุ

ก. ปลกู ป่าชายเลน

ข. ส่งเสรมิ การประมงนา้ กร่อย

ค. หา้ มชาวประมงจับปลาชายฝัง่

ง. ไม่สร้างอาคารสงู ลา้ ไปในบรเิ วณชายหาด

10. การเกิดวาตภัยในข้อใด ไมส่ มั พันธ์กบั แหลง่ ท่ีเกิด

ก. พายไุ ซโคลนเอลลี - ออสเตรเลีย ข. พายไุ ซโคลนนาร์กีส - พม่า

ค. พายุไต้ฝ่นุ กิสนา - ฟิลิปปินส์ ง. พายุไต้ฝนุ่ เกย์ - อนิ เดยี

ชดุ การเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเร่อื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบัติจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 30

11. การเกิดไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาตใิ นข้อใดน้อยที่สดุ

ก. อากาศ ข. กล้าไม้เล็กๆ

ค. ดิน - สตั วป์ ่า ง. น้า - สัตว์เลี้ยง

12. ปัจจัยสาคัญท่ที าให้อณุ หภมู ขิ องโลกสูงข้ึน คอื อะไร

ก. ป่าไม้เหลือนอ้ ย ข. ปรากฏการณ์เรอื นกระจก

ค. ปรากฏการณภ์ เู ขาไฟระเบิด ง. แสงอาทติ ย์แผร่ งั สตี รงมายงั โลกเพ่ิมขน้ึ

13. ขอ้ ใดเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

ก. พายุหมนุ บอ่ ยขน้ึ นา้ ทะเลสูงข้ึน ข. การเกดิ ภูเขาไฟระเบิด

ค. การเกดิ แผ่นดนิ ไหว ง. แผ่นดินถล่มบอ่ ย

14. ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศมีหลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด

ก. ระดับนา้ ทะเลสงู ขึน้ ข. ปริมาณน้าจืดลดลง

ค. ผลผลิตการเกษตรตา่ ลง ง. การอุตสาหกรรมลดลง

15. การกระทาข้อใด จัดว่ามคี วามสาคญั ต่อการลดภาวะเรือนกระจก

ก. ลดการใชโ้ ฟม ใช้ผลิตภณั ฑจ์ ากวัสดุธรรมชาติ

ข. เผาขยะทีไ่ มส่ ามารถนากลบั มาใชใ้ หม่

ค. ใชเ้ คร่อื งปรับอากาศทีผ่ ลติ ได้เอง

ง. สร้างบา้ นดว้ ยไม้

เฉลย

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเรอื่ ง การปอ้ งกนั ภยั พบิ ัติจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 31

เร่ืองท่ี 4 การป้องกนั ภัยพบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. บอกการป้องกนั ภัยพิบัตจิ ากธรรมชาติและมนุษย์ได้
2. อธิบายประโยชน์ของการป้องกันภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ได้
3. ยกตวั อย่างการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ได้

การป้องกันและลดผลกระทบ
การป้องกันและลดผลกระทบ หมายรวมถงึ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ดาเนนิ การ

ลว่ งหน้าก่อนเกดิ ภยั ทั้งทใี่ ช้โครงสร้างและไม่ใชโ้ ครงสร้าง เพ่อื ขจดั หรือลดโอกาส
การได้รับผลกระทบจากสาธารณภยั

การประเมนิ ความเสย่ี งภัยในชมุ ชนอาจทาให้พบว่ายังมโี ครงสร้างทางสังคมและ
เศรษฐกิจบางอยา่ งทีอ่ ยู่ในพนื้ ทลี่ อ่ แหลมและมีความเปราะบาง สง่ ผลกระทบทางลบ
ให้แกช่ มุ ชนโดยรวมหรอื กลุ่มคนบางกลมุ่ ไดห้ ากเกดิ สาธารณภยั หรืออาจทาให้พบว่า
มพี นื้ ท่หี รือสิง่ ก่อสรา้ งบางแห่งในชมุ ชนซ่งึ อาจพงั ทลายหรือไมอ่ าจตา้ นทานภยั ทเ่ี กดิ ขนึ้ ได้
และจะทาให้เกิดอันตรายแก่คนในวงกว้างดงั นั้น ชุมชนและรฐั ควรชว่ ยกนั หาวธิ ใี นการ
ลดความล่อแหลมและลดความเปราะบางของโครงสรา้ งดงั กล่าวผา่ นวิธีการต่าง ๆ

แนวทางปฏิบัตทิ ใ่ี ช้โครงสรา้ งทางกายภาพ
1.การก่อสร้างอาคาร การสร้างเส้นทางคมนาคม ถนน และสะพานท่ีไดม้ าตรฐาน ท่ที นต่อแผน่ ดินไหวและสภาพ
อากาศที่รนุ แรง จะชว่ ยลดความเสียหายทัง้ ชีวิตและทรัพย์สนิ หากเกิดภัยขึ้นได้
2. การเสรมิ สรา้ งความแข็งแรงของตล่ิง รวมถึงการปลูกตน้ ไม้และพุม่ ไมเ้ พื่อป้องกันชุมชนริมน้าหรอื ริมทะเลจาก
ผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัยและสภาพอากาศทรี่ นุ แรง เพอ่ื ไมใ่ หน้ ้าจากแม่น้าหรอื ทะเลไหลเข้าทว่ มชมุ ชน เปน็ การ
ลดผลกระทบที่อาจเกดิ ข้นึ จากภัย
3. การกอ่ สรา้ งเขือ่ น อ่างเก็บนา้ หรือแกม้ ลิงเพื่อกักเกบ็ น้า ระบบผนั นา้ ฝายทดน้า ฯลฯ เพือ่ กักเก็บนา้ เมื่อมีปริมาณ
นา้ จากฝนเปน็ จานวนมาก และช่วยไม่ใหน้ า้ ไหลผา่ นอยา่ งรวดเร็วจนเกดิ ไป ทาให้ไม่ให้เกิดอทุ กภยั ในพน้ื ท่ีใกล้เคยี ง
หรอื พน้ื ที่ในบรเิ วณกวา้ งและขณะเดียวกันก็สามารถนาน้าทก่ี ักเก็บไว้ไปใช้ในชุมชนเมื่อเกดิ ภัยแลง้
4.การสร้างพนงั กันนบริมแมน่ ้าเพ่ือป้องกันอุทกภัยจากน้าท่วมตล่งิ เพื่อชว่ ยลดผลกระทบหากปรมิ าณน้าจากแม่นา้ มี
ระดบั สงู ข้นึ ซงึ่ อาจทาให้ชมุ ชนทอ่ี าศยั อยใู่ นพื้นที่ริมตลิง่ ได้รับความเสยี หาย
5. การเสรมิ สรา้ งความแข็งแรงของพ้นื ท่เี ชิงเขา เม่ือเกดิ ฝนตกน้าจะไม่ซดั หน้าดนิ จนทาให้เกดิ ดินถล่ม และส่งผล
กระทบต่อชุมชนท่ีอาศยั อย่ใู นพนื้ ทีเ่ ชิงเขา
6. การขยายพนื้ ทเี่ สน้ ทางการไหลของน้า การสรา้ งทางและระบบระบายน้าเพื่อเป็นการช่วยระบายน้าหากมีปรมิ าณ
น้าไหลผ่านเปน็ จานวนมากเป็นการชว่ ยปอ้ งกันและลดผลกระทบท่ีอาจเกิดขนึ้ จากอุทกภัย

ชดุ การเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชีวิตเรื่อง การปอ้ งกันภยั พบิ ัติจากธรรมชาติและมนุษย์ 32

ตัวอย่างการป้องกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัยของประเทศเนปาล
โรงเรียนหลายแหง่ ในประเทศเนปาลอยู่ในพ้ืนที่เสยี่ งภัยแผ่นดินไหวอาคารของ
โรงเรยี นเหล่าน้ีสร้างข้นึ อย่างออ่ นแอและไม่สามารถรับภัยแผน่ ดนิ ไหวไดเ้ ม่ือเกิด
แผน่ ดนิ ไหวเม่ือปีพ.ศ.2531องคก์ รความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศของญป่ี ่นุ (JICA) ไดน้ า
เอาเทคโนโลยกี ารสรา้ งอาคารเรยี นใหม้ ีความแข็งแรงต่อแผ่นดินไหวมาสร้างโรงเรียน
ในพน้ื ทเ่ี สยี่ งภยั โดยใช้เวลาทาโครงการท้ังสน้ิ 7 ปแี ต่รัฐบาลก็ไม่ไดใ้ ห้ความสนใจมากนกั
จนเม่อื ปีพ.ศ. 2549 กระทรวงศกึ ษาธิการเริม่ ให้ความสาคัญเร่อื งความปลอดภัย
ในโรงเรียน แต่ในขณะน้นั อาคารในโรงเรยี นต่างๆก็เรม่ิ เก่าลงและทาใหน้ ักเรียนมีความเสยี่ ง
เปน็ อยา่ งย่งิ มากหากเกดิ แผน่ ดนิ ไหวอกี คร้งั องค์กรแอ็คช่นั เอด(ActionAid)จึงจัดทา
โครงสร้างและซ่อมแซมโรงเรียนท่ีมีความเปราะบางโดยเร่ิมจากจัดการสนทนากลุม่ กับ
ผู้มีสว่ นไดเ้ สยี และจัดเวทใี นชุมชนเพ่อื สรา้ งความตระหนกั และให้ความรเู้ ร่ืองการสร้าง
และซอ่ มแซมอาคารเรียนโดยใชเ้ ทคโนโลยีท่ีทนต่อแผ่นดนิ ไหว ในขนั้ แรกกลมุ่ เปา้ หมาย
มีทั้งหมด 8 โรงเรียน แต ่มี6 โรงเรียนทเ่ี ดก็ นักเรียน ครูและผู้ปกครองไดเ้ ข้าร ว่ ม
การอบรมวิธีการซอ่ มแซมโรงเรียน รวมท้ังยงั มกี ารอบรมเรื่องการลดความเส่ยี งจากภยั พิบัติ
การอพยพหนีภยั แผ่นดินไหวการชว่ ยเหลอื ตนเองเม่อื เกดิ แผ่นดินไหวเพ่อื เป็นการอธบิ าย
ใหเ้ ขา้ ใจว่าเพราะเหตุใดการสร้างและซ่อมแซมอาคารให้มคี วามแขง็ แรงตอ่ แผ่นดินไหว
จึงมคี วามสาคัญ หลังจากท่นี ักเรียน ครูผ้ปู กครองจาก6 โรงเรยี น จานวน 3,000คน
ได้รับความร้แู ละทักษะในเรื่องน้ีแล้วกม็ คี วามม่ันใจและไม่กลัวท่ีจะไปโรงเรียน พร้อม
ท้ังรวู้ า่ ต้องทาตวั อย่างไรเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
(ทีม่ า: Action Aid, 2010)

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเรื่อง การป้องกันภยั พิบตั จิ ากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 33

ตัวอย่างการป้องกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัยของจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา
เมือ่ ปพี .ศ. 2554 ได้เกดิ อทุ กภัยครง้ั ใหญใ่ นภาคกลางของประเทศไทย ตาบล

โคกชา้ ง อาเภอบางไทร จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ก็เปน็ พน้ื ท่ีหน่ึงทีไ่ ด้รับผลกระทบ
จากสาธารณภัยครั้งนีแ้ ต่เน่ืองจากผ้นู าคือองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลและสมาชิกชุมชน
รว่ มแรงรว่ มใจกนั เตรียมพร้อมรบั มอื กบั สาธารณภัยความเสียหายจึงไม่รุนแรงสมาชิก
ชุมชนไดร้ ับฟงั ข่าวสารเรือ่ งน้าทว่ มทางภาคเหนือและนา้ กาลงั ไหลมาทว่ มภาคกลาง
นายกอบต.จึงได้ประชุมทีมงาน ตวั แทนชุมชน โรงเรยี นและหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้องทันที
เพ่อื วางแผนเตรียมพร้อมรับมือกบั น้าทว่ มและได้มีมติร่วมกัน ใหน้ ายกอบต. เป็นประธาน
เนอ่ื งจากมอี านาจสามารถตัดสินใจสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉนิ ได้

เมื่อนา้ ได้ขยายวงกวา้ งเขา้ ท่วมพ้ืนทรี่ อบข้างอย่างรวดเร็ว ทีมงานจึงไดเ้ ตรยี ม
ทรายและกระสอบทรายเพอื่ ใหช้ าวบ้านร่วมกนั ทาแนวป้องกันนา้ ทว่ มบ้านของตนเอง
และมีการทาคันดิน โดยคณะกรรมการเตรยี มพร้อมรบั มือกับสาธารณภัยและชาวบา้ น
มมี ตริ ่วมกนั กาหนดพ้นื ทปี่ ลอดภัยสาหรับการใช้ประโยชน์รว่ มกนั ของชุมชน ชาวบ้าน
จึงรว่ มแรงกนั สร้างคันดิน การป้นั คนั ดินก้ันน้าจะแบ่งเป็น 3ชนั้ ชั้นแรกเป็นกระสอบทราย
สูงประมาณ 80เซนติเมตรจัดเรียงเปน็ 4แถวจากนน้ั ประเมินสถานการณเ์ ป็นระยะ
เมือ่ น้าทว่ มประมาณคร่ึงคันดินกจ็ ะปนั้ คนั ดนิ เสริมใหส้ งู ขึ้น โดยปนั้ คันดินทบั กระสอบทราย
ให้สงู ขึ้นมาอกี ประมาณ 1 เมตร 20 เซนติเมตร และสร้างชน้ั ที่ 3 ตอ่ มา รวมแลว้
สูงประมาณ 3เมตรการป้ันคนั ดินจะไมป่ น้ั ให้สงู ในคราวเดียวกันและต้องปั้นต้งั ฉากไว้
กอ่ นเพราะดินจะไหลลงมาตามธรรมชาตใิ นระหว่างท่ีเกดิ น้าทว่ มคณะกรรมการและ
ชาวบา้ นไดช้ ่วยกันเฝา้ ระวังและปัน้ คันดินทั้งคืน ทาใหส้ ามารป้องกนั พื้นท่ปี ลอดภยั ไว้
ได้ประมาณ 80-90 ไร่ โดยน้าไม่สามารถเลด็ ลอดเข้ามาไดเ้ ลย แมจ้ ะมีพื้นทีบ่ างสว่ น
ท่โี ดนนา้ ทว่ มจนเสียหาย
(ทมี่ า: องคก์ ารแพลน อินเตอร์เนชันแนล อิงค์, 2555)

ข้อมูลจากหนังสอื ลดความเส่ียงจากสาธารณภัย ปภ.
https://tinyurl.com/ybjwg32d

ชุดการเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเรือ่ ง การปอ้ งกันภยั พิบัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 34

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้

สรุปเน้ือหา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
การนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ชุดการเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเรื่อง การปอ้ งกนั ภยั พิบตั จิ ากธรรมชาติและมนุษย์ 35

ใบงาน

ให้นักศกึ ษาตอบคาถามดังนี้
1. บอกการป้องกันภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาติและมนุษยไ์ ด้
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. อธิบายประโยชนข์ องการป้องกนั ภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาติและมนษุ ย์ได้

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

3. ยกตัวอย่างการป้องกนั ภัยพิบตั ิจากธรรมชาติและมนุษย์ได้

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

แบบทดสอบ

คาส่ัง จงเลอื ก คาตอบทถี่ ูกต้องทีส่ ุด ง. อยู่ใกลเ้ สาสงู
ข้อท่ี 1)ข้อใดเปน็ ข้อควรปฏิบัติเมอ่ื เกดิ ภยั ธรรมชาตทิ กุ ชนิด

ข. อยูห่ า่ งฝั่งทะเลการณ์
ค. อยู่ในท่สี ูง
ง. เปดิ วิทยุฟังสถานการณ์
ข้อท่ี 2)ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง ในการเตรยี มตัวรบั มือภัยธรรมชาติ
ก. ฝกึ เปน็ ผ้ชู า่ งสังเกตสง่ิ แวดล้อมรอบตัว
ข. เตรียมวทิ ยุแบบใชถ้ า่ นไฟฉาย
ค. เตรียมตัว เตรียมใจ
ง. ถกู ทุกขอ้
ขอ้ ที่ 3)ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. สอนเรอ่ื งภัยธรรมชาตทิ ุกเรือ่ งไม่ต้องเนน้ เร่ืองใดเร่ืองหนึง่
ข. สอนเรื่องภยั ธรรมชาตทิ ุกเรือ่ งเน้นเรื่องท่ีเกิดในท้องถ่ิน
ค. สอนเฉพาะภยั ธรรมชาติท่ีเกิดในทอ้ งถ่นิ
ง. สอนเรอ่ื งภัยธรรมชาตติ ามทหี่ ลกั สูตรกาหนด
ข้อที่ 4)เม่อื เกดิ ฝนตกฟ้าคะนอง ควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร
ก. หลบอยู่ในบา้ น ข. อยใู่ ต้ต้นไมใ้ หญ่ ค. อยใู่ นท่โี ล่งแจง้
ข้อที่ 5)ขอ้ ใดไมใ่ ช่ข้อปฏบิ ตั เิ พอื่ ความปลอดภัยจากสนึ ามิ

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่อื ง การปอ้ งกนั ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาติและมนษุ ย์ 36

ก. ไมป่ ลูกสิ่งก่อสร้างใกลแ้ นวชายฝง่ั ทะเล
ข. เมื่อไดร้ ับเตือน ให้จอดเรือไว้ชายฝ่งั หา้ มนาออกไป
ค. รบั ฟงั ขอ้ มลู ขา่ วสารอยตู่ ลอดเวลา
ง. มีหอเตือนภัย
ข้อที่ 6)เม่อื พายุสงบแล้ว เพอ่ื ให้แนใ่ จวา่ สงบอย่างแน่นอน ควรรออยา่ งน้อยก่ีชัว่ โมง
ก. 1 ชัว่ โมง
ข. 2 ชั่วโมง
ค. 3 ชวั่ โมง
ง. 4 ชวั่ โมง
ขอ้ ที่ 7)ข้อใดไม่ใชส่ าเหตขุ องอทุ กภัย
ก. ฝนตกหนกั
ข. แผน่ ดินไหว
ค. แรงระเบิด
ง. หมิ ะละลาย
ข้อที่ 8)ขอ้ ใดเป็นเป็นข้อควรปฏบิ ตั ิเพ่อื เตรยี มความพร้อมกอ่ นเกิดแผน่ ดินไหว
ก. สมาชกิ ในบ้านรตู้ าแหน่งสะพานไฟฟา้ และรวู้ ิธยี กสะพานไฟฟา้ ในบ้าน
ข. อยู่ในบา้ นใหห้ า่ งประตู หนา้ ต่าง หรือระเบยี ง
ค. ไมค่ วรถอื เครื่องมือเคร่ืองใชท้ ่เี ป็นส่ือไฟฟา้
ง. แจง้ ขอความช่วยเหลอื จากหน่วยงานตา่ ง ๆ
ขอ้ ท่ี 9)ข้อใดเปน็ การป้องกันอุทกภยั
ก. การปลูกพืชพันธุไ์ มป้ กคลุมพื้นดนิ
ข. ปรับปรุงทางนา้ ไหล
ค. มกี ารแบ่งเขตอทุ กภยั
ง. ถกู ทุกข้อ
ข้อท่ี 10)ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง
ก. ทกุ คนควรมีความรู้และรูจ้ ักวิธปี ฐมพยาบาล
ข. ควรมอบหมายใหค้ นใดคนหน่งึ ในบา้ นรบั ผิดชอบเกบ็ กระเป๋าพยาบาล
ค. ไมค่ วรยดึ เครอ่ื งใชห้ รือเครื่องประดับบา้ นท่ีหนกั ๆ ไว้กบั พ้นื
ง. เมอ่ื เกดิ ภัยธรรมชาตติ ้องปดิ วาล์วแกส๊ แตไ่ ม่จาเปน็ ต้องปิดวาล์วนา้

เฉลย.....

ชดุ การเรยี นรู้กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ิตเร่อื ง การปอ้ งกันภยั พบิ ัติจากธรรมชาติและมนุษย์ 37

แบบประเมินความพงึ พอใจชดุ การเรยี นรู้
ชดุ การเรียนรเู้ ร่ือง การป้องกันภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ สาหรับนกั ศกึ ษา กศน. เปน็ ชุดการเรยี นรู้ ที่ไดจ้ ดั ทาข้ึนมา
ใหม่ จงึ ต้องการทจ่ี ะทราบถงึ ผลตอบรับ ความพงึ พอใจและขอ้ บกพร่องตา่ งๆเพอ่ื นาไปปรบั ปรุงแกไ้ ข จงึ ตอ้ งมีการประเมนิ ความพึง
พอใจชุดการเรียนรเู้ รอ่ื ง การป้องกนั ภยั พิบตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์

แบบประเมินชดุ การสอน

ชดุ การเรียนรู้ เร่อื ง การปอ้ งกนั ภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาติและมนุษย์

ขอ้ ความ ระดบั ความคดิ เห็น

มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ท่ีสุด กลาง ทส่ี ดุ

1. เนือ้ หาการนาเสนอ

1.1 เน้ือหามีความสอดคล้องกบั จดุ มุง่ หมายเชงิ พฤติกรรม.. ..... ...... ..... ...... ........
...... ..... ..... .....
1.2 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา ..... ...... ..... ..... .....
...... ..... ..... .....
1.3 ความถูกต้องในการลาดับเน้อื หาตามขัน้ ตอน ..... ...... ..... ..... .....
...... ..... ..... .....
1.4 ความสอดคลอ้ งของเนือ้ หาแตล่ ะตอน .....
...... ..... ...... ........
1.5 ความชัดเจนในการอธบิ ายเนือ้ หา ...... ...... ..... ..... .....
...... ..... ..... .....
1.6 ความชัดเจนในการสรปุ เน้อื หา ......
..... ..... ..... .....
2. ภาพและภาษา ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... .....
2.1 ความถูกตอ้ งของภาพทน่ี ามาใช้ .....
..... ..... ..... .....
2.2 ความถูกต้องของภาษาทีใ่ ช้ ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... .....
2.3 ความสอดคล้องระหวา่ งภาพกบั คาบรรยาย .....

3. เวลา

3.1 ความเหมาะสมของเวลากบั เน้อื หา .....

3.2 ความเหมาะสมของเวลากบั คาบรรยาย .....

3.3 ความเหมาะสมกบั เวลาในการนาเสนอชุดการ .....

เรยี นรู้

4. แบบทดสอบ

4.1 การต้ังคาถามของแบบทดสอบครอบคลุมเนอ้ื หา... .....

4.2 คาถามมคี วามชดั เจนเขา้ ใจง่าย .....

4.3 แบบทดสอบมีความสามารถวัดความรู้ ความเข้าใจ .....

มเี กณฑด์ งั นี้ มีความพึงพอใจ อยูใ่ นระดับ ควรปรบั ปรุง
1.50 – 2.00 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจ อยู่ในระดับ นอ้ ย
2.01 - 2.49 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจ อยูใ่ นระดับ ปานกลาง
2.50 - 3.00 หมายถงึ มีความพงึ พอใจ อย่ใู นระดับ มาก
3.01 - 3.49 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจ อยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ
3.50 - 4.00 หมายถึง

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ติ เร่ือง การป้องกันภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 38

คณะทางาน

ทีป่ รกึ ษา ผู้อานวยการ กศน.อาเภอเมืองนครราชสมี า
นางกรแกว้ แบบกลาง ครูชานาญการพเิ ศษ
นายประสทิ ธิ์ ตั้งประเสรฐิ ครูชานาญการ
นางบาเพญ็ ไทยสะเทือน ครอู าสาสมัคร กศน.
นางงามจิตต์ สว่างพลกรงั ครอู าสาสมัคร กศน.
นางทศั นา พรมหดี ครอู าสาสมัคร กศน.
นายปฐมพล โพธิ์สุ ครูอาสาสมคั ร กศน.
นางนวลถนอม พิขุนทด ครูอาสาสมัคร กศน.
นายเฉลา ชัยฉิมพลี ครู กศน.ตาบล
นางสาวภมร เอนกศิลป์

คณะทางานชุดการเรยี นรู้กิจกรรมพัฒนาทกั ษะชีวิตเร่ือง การปอ้ งกนั ภัยพิบตั ิจากธรรมชาติและมนษุ ย์

นางสาวภมร เอนกศลิ ป์ ครู กศน.ตาบล

นางสาวฐาปนยี ์ จารสั ประเสรฐิ ครู กศน.ตาบล

นางสาวแววดาว ฟอพิมาย ครู กศน.ตาบล

นางสาวธนัญชา สวุ รรณโชติ ครู กศน.ตาบล

นางสาวศิรกิ ัญญา อิทธพิ ิบูล ครู กศน.ตาบล

นางสาวดวงธิดา พรมพันธ์ใจ ครู กศน.ตาบล

นายชัยวฒุ ิ จีระวฒุ ิ ครู ศรช.

นายอธศิ ักด์ิ ศรดี ลิ ก ครู ศรช.

รวบรวมข้อมลู /ต้นฉบับ เรอื่ ง การปอ้ งกันภยั พบิ ตั ิจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์

นางสาวภมร เอนกศิลป์ ครู กศน.ตาบล

นายอธิศกั ด์ิ ศรีดลิ ก ครู ศรช.

ออกแบบปก

นายอธิศักดิ์ ศรีดลิ ก ครู ศรช.

ชุดการเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชวี ิตเรื่อง การปอ้ งกนั ภยั พิบัติจากธรรมชาติและมนุษย์ 39

ชุดการเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิต
เร่ือง การป้องกนั ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาตแิ ละมนุษย์

ชดุ การเรียนรู้กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตเร่อื ง การปอ้ งกันภยั พบิ ัติจากธรรมชาตแิ ละมนุษย์ 40


Click to View FlipBook Version