The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุป5บทการสานเส้นพลาสติก1-64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattawut Kusolwong, 2021-09-29 20:47:35

สรุป5บทการสานเส้นพลาสติก1-64

สรุป5บทการสานเส้นพลาสติก1-64

-1-

บทที่ ๑
บทนำ
๑. หลกั กำรและเหตุผล

การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมากเพราะจะเป็นการพัฒนาประเทศให้มีความรู้
ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคล และกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและ
ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ ๒๕๕๕ ภายในกรอบ
ระยะเวลา ๒ ปี ทจี่ ะพฒั นา ๕ ศกั ยภาพของพ้ืนทค่ี อื ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพ
ของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทาเลท่ีต้ังของแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของ
ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแต่ละพื้นท่ี และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพ้ืนท่ีใน ๕
กลุ่มอาชีพใหม่คือ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ จัดการและบริกา ร ให้
สามารถแข่งขนั ไดใ้ น๕ ภูมภิ าคหลักของโลก

ดงั นน้ั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา โดย กศน.ตาบลมะเริง
จึงได้จัดทาโครงการส่งเสริมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กับ กศน.ตาบลมะเริง แก่ประชาชนผู้ที่สนใจในพื้นที่ตาบลมะ
เริงได้เรียนรู้และฝึกการทาพรมเช็คเท้า การสานเส้นพลาสติก เพ่ือส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีประชาชน
สามารถฝึก พัฒนาอาชีพและสร้างอาชีพให้กับประชาชนสอดคล้องกับศักยภาพของประชาชนและศักยภาพของ
พ้นื ที่ นาความรู้ สามารถพัฒนาด้านทักษะประกอบอาชีพได้นาไปใช้ประโยชน์และสร้างรายได้จริงนาความรู้ท่ีได้
ไปพฒั นาตนเองและเปน็ ตัวอยา่ งท่ีดีในตาบล
2.วตั ถุประสงค์

๑. เพอื่ ส่งเสริม สนบั สนนุ และจดั ใหม้ ปี ระชาชนสามารถฝกึ พฒั นาอาชพี และสรา้ งอาชพี ให้กับประชาชน
และชุมชน

2 เพ่อื สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนนาความรู้ สามารถพฒั นาดา้ นทักษะประกอบอาชีพได้รบั การ นาไปใช้
ประโยชน์และสร้างรายไดจ้ ริง

3 เพอื่ ให้ประชาชนนาความรทู้ ่ีได้ไปพัฒนาตนเองและเป็นตวั อยา่ งทดี่ ีในตาบล
3. เป้ำหมำย

เชิงปริมำณ
ประชาชนท่ัวไปในเขตพน้ื ทบี่ รกิ าร กศน.ตาบลมะเริง อาเภอเมอื งนครราชสีมา

จังหวดั นครราชสีมา ท่ีสนใจจัดแบบพัฒนาอาชพี ระยะส้นั (กลมุ่ สนใจ ไม่เกนิ 30 ชวั่ โมง) จานวน 7 คน
เชิงคณุ ภำพ
ประชาชนไดร้ บั การส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาอาชพี และสร้างอาชพี ให้กับประชาชน นาความรู้

ความสามารถพฒั นาทักษะประกอบอาชีพนาไปใช้ประโยชน์และสร้างรายไดจ้ ริงนาความรู้ที่ได้ไปพฒั นาตนเอง
และเปน็ ตัวอย่างทดี่ ใี นตาบล
4. ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั

ประชาชนได้รบั การส่งเสริม สนบั สนุน พฒั นาอาชพี และสรา้ งอาชีพให้กบั ประชาชน นาความรู้

ความสามารถไปประกอบอาชีพ พัฒนาด้านทักษะเพื่อนาไปใชป้ ระโยชนแ์ ละสรา้ งรายได้จริงนาความร้ทู ่ีไดไ้ ป

พฒั นาตนเองและเป็นตวั อยา่ งทีด่ ีในตาบล

- รอ้ ยละ ๘๕ ประชาชนไดร้ บั การส่งเสริม สนบั สนนุ สามารถฝกึ พัฒนาอาชพี และสรา้ งอาชพี
ให้กบั ประชาชนและชุมชน

-2-

- ร้อยละ85 ประชาชนนาความรู้ สามารถพัฒนาดา้ นทกั ษะประกอบอาชพี ไดร้ บั การ
นาไปใช้ประโยชนแ์ ละสร้างรายไดจ้ รงิ

- รอ้ ยละ 5 ของประชากรพัฒนาตนเอง และเปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ีในตาบล

การตดิ ตามประเมินผลโครงการ
สงั เกต/แบบสารวจความพึงพอใจ
นิเทศ/ติดตามผลการดาเนนิ งาน ระดบั พ้นื ที่

-3-

บทที่ ๒
เอกสำรท่เี กยี่ วขอ้ ง

ประวัติควำมเป็นมำ
หัตถกรรมเคร่ืองจักสานเปน็ ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ของชมุ ชนที่สาคัญอย่างยงิ่ ต่อการดารงชวี ติ ต้ังแตส่ มัยอยธุ ยา

จนถึงปัจจุบัน หตั ถกรรมเครื่องจกั สานเป็นตวั อยา่ งหน่ึงท่แี สดงให้เหน็ ถึงภมู ิปญั ญาอนั เฉลียวฉลาดของคนไทยใน
ทอ้ งถ่นิ ท่ใี ชภ้ มู ปิ ัญญาสามารถนาสิง่ ท่ีมีอยู่ในชุมชนมาประยกุ ต์ทาเปน็ เคร่ืองมือเครื่องใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ ซ่งึ มี
ประโยชนใ์ นการดารงชีวิต

จะเหน็ ได้วา่ หตั ถกรรมเคร่อื งจักสานมีมานานแลว้ และได้มกี ารพฒั นามาตลอดเวลา โดยอาศยั การถ่ายทอด
ความรูจ้ ากคนร่นุ หนึ่งไปส่คู นอีกรนุ่ หน่งึ การดารงชีวิตประจาวนั ของชาวบา้ นส่วนใหญไ่ ม่ได้เอาความรู้จากหนังสอื
มาเกีย่ วข้อง การเรียนรูต้ ่างๆอาศัยวิธกี ารฝึกหดั และบอกเลา่ ซงึ่ ไมเ่ ป็นระบบในการบันทึกสะท้อนใหเ้ ห็นการเรยี นรู้
ความร้ทู ี่สะสมทีส่ ืบทอดกันมาจากอดีตมาถึงปจั จุบันหรือท่ีเรยี กกนั วา่ ภูมิปัญญาท้องถิน่ ดังน้ันกระบวนถ่ายทอด
ความรจู้ ึงมคี วามสาคญั อย่างย่ิงท่ีทาภูมปิ ัญญาท้องถิ่นน้นั คงอยตู่ อ่ เนื่องและย่งั ยนื

ผ้วู ิจยั สนใจทาการศึกษากระบวนการถ่ายทอดภมู ปิ ญั ญาหตั ถกรรมเครื่องจกั สาน ซึ่งมคี วามสาคัญยงิ่ ทีจ่ ะให้
ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นหตั ถกรรมเคร่ืองจักสานนั้นๆคงอย่ตู ลอดไป ซึง่ ผลจากการศึกษากระบวนถา่ ยทอดภูมปิ ัญญา
ท้องถ่ินหตั ถกรรมเคร่ืองจกั สานนัน้ จะนาไปเป็นข้อมลู ที่จะนาไปไปพัฒนากระบวนการถ่ายทอดภูมิปัญญาในชมุ ชน
มปี ระสทิ ธิภาพย่งิ ขึ้น และดารงอย่คู สู่ งั คมสืบต่อไป

หัตถกรรมเคร่ืองจกั สานผกั ตบชวาจากภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นมรี ปู แบบลวดลายจะไดร้ ับความสนใจ ยอมรบั ของ
คนท่วั ไปทั้งในและตา่ งประเทศการสานลาย ทบ่ี รรพบุรษุ ได้คดิ ค้นไวเ้ หมาะสมกบั ผลิตภัณฑ์เคร่อื งจักรสานที่มีความ
แขง็ แรงทนทาน สอดคลอ้ งกับการใช้ประโยชนไ์ ดเ้ ป็นอยา่ งดี

ปจั จบุ นั ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเครอ่ื งจักสานผกั ตบชวาบ้านบางตาแผ่น มุ่งเนน้ การจาหนา่ ยเชงิ พาณชิ ยแ์ ละ
สนองตลาดผู้บริโภคที่หลากหลายพฒั นาวิธีการผลติ รูปแบบเพ่อื ใหไ้ ด้ชิน้ งานทีม่ ีคุณภาพ คงทนเหมาะสมต่อการใช้
งานมีลวดลายที่สวยงาม ทันสมยั ควบคกู่ ับการอนุรกั ษ์ลวดลายด้งั เดิมท่ีได้รับการถา่ ยทอดสบื ต่อกันมาอย่าง
ยาวนานแต่คร้ังอดีต ผลิตภัณฑ์ไดร้ บั ความสนใจอันเปน็ มูลเหตุจูงใจใหช้ าวบา้ น สร้างสรรคผ์ ลงานทม่ี คี ุณภาพ
เร่ือยมาจนถึงปัจจุบัน

-4-

การสานตะกร้าพลาสติก เกิดจากภูมิปัญญาท่ีมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นในลักษณะของการทาเคร่ืองจัก

ส ลั ก ษ ณ ะ ต่ า ง ๆ ซึ่ ง แ ต่ เ ดิ ม ไ ด้ น า วั ต ถุ ดิ บ จ า ก ธ ร ร ม ช า ติ เ ท่ า ท่ี จ ะ ห า ไ ด้ ใ ก ล้ ตั ว ม า ท า ใ ห้ เ กิ ด

ประโยชน์ เช่น ไผ่ หวาย เป็นต้น ซ่ึงมีอยู่เป็นจานวนมากในพื้นท่ีแถบนี้มาสานเป็นสิ่งของเคร่ืองใช้สาหรับ

ใช้สอยในชีวิตประจาวัน ต่อมาบ้านยอดชาด ม.๒ เห็นว่า ควรจัดทาเครื่องจักสานตะกร้าพลาสติกเน่ืองจาก

ประชาชนส่วนใหญ่ในพ้ืนท่ีมีความรู้เรื่องจักสานอยู่แล้วเพียงแต่ปรับเปลี่ยนวัสดุการสานมาเป็นเส้นพลาสติก

เพ่ือให้เกิดความทนทาน และสามารถออกแบบเคร่ืองจักรสานได้หลากหลายกว่า และหากชาวบ้านคนใดจะ

ยึดเปน็ อาชีพเสรมิ ก็สามารถทาได้และจะเปน็ การอนรุ ักษศ์ ิลปะการจักสานของคนรนุ่ หลงั ได้สบื ทอดต่อไป

ขน้ั ตอนกำรทำ

1. เลือกสายพลาสตกิ และสีสนั ทชี่ อบ เพื่อใหเ้ กดิ ลวดลายสวยงาม ได้พ้นื สีฟา้ (สีสมมติ) กบั ทาลาย

เป็นสเี ขียว (สสี มมต)ิ

2. ตัดเสน้ พลาสตกิ สีฟา้ (สีสมมติ) ยาว 28 นว้ิ จานวน 14 เส้น (วธิ ตี ดั ต้องใหเ้ ปน็ ปลาย

เฉียงๆ เพ่ือง่ายต่อการสอดสานกัน และจานวนเส้นข้นึ อยู่กบั ขนาดของผลติ ภณั ฑท์ จี่ ักสาน)

3. เรม่ิ จากวางเส้นพลาสติก 7 เสน้ เรียงใหเ้ สมอกนั เทคนคิ คอื เอาสมุดหนาๆ มาทับไว้ไม่ใหเ้ สน้

พลาสติกเลอื่ นไปมา และนาอกี 7 เสน้ มาขัดกันเปน็ กากบาท ให้อยกู่ ่ึงกลาง และสลับข้ึนลงบนล่าง และจดั

เสน้ ใหเ้ ท่ากนั

4. นาเสน้ ขา้ งใตเ้ สน้ ประมาณเส้นที่ 3 ทอ่ี ยู่ข้างใต้ นามาสอดและเป็นการลอ็ ค ท้งั 2 ฝัง่

ซา้ ย ขวา และทาการลอ็ คเช่นเดียวกนั ท้ังด้านบนและด้านลา่ ง

5. พับเสน้ ทุกเส้น ตามรอยท่ีเป็นขอบของการสาน เป็นการขึน้ รปู ตะกร้า

6. เริม่ การตัดเสน้ สีเขียว (สีสมมติ) เพอ่ื นาขนึ้ รอบทาลายของตะกร้า ใชค้ วาม

ยาว 18 นิ้ว จานวน 11 เสน้ (วิธตี ัดต้องให้เป็นปลายเฉยี งๆ เพ่ือง่ายต่อการสอดสานกนั จานวนเส้น

ข้นึ อยกู่ ับขนาดของผลติ ภัณฑ์ทจ่ี ักสาน)

7. จากน้นั นาเส้นสีฟา้ (สีสมมติ) ที่ลอ็ คไว้ออกถอยออกมา เพอื่ เปน็ การเตรียมเริ่มการสานขึน้ รปู

8. ทาการขน้ึ เสน้ สีเขียว (สสี มมต)ิ มาขัดไปมายดึ เกณฑจ์ ากตรงกลางของเส้นทงั้ หมดก่อน สลบั ไป

มาเป็นตารางไปเร่ือย ๆ

9. ช้ันที่ 2 ดนั เสน้ ให้ชดิ กส็ านสลบั กนั ไปเป็นช้ันๆ โดยจะต้องมีการล็อคเส้นเพ่ือไมใ่ ห้เลือ่ นไปมา

เสมอ

10. พอสานไปจนใกล้ขอบก็ทาการเหนบ็ เสน้ ให้ไปทางเดียวกัน ทม่ิ ลงไปทางกน้ ตระกร้า เพ่ือเตรยี ม

เอาเส้นสีเขยี วมาทาขอบ

11. เริ่มทาขอบนาเส้นพลาสตกิ สเี ขยี ว (สสี มมติ) 2 เสน้ ประกบกัน แลว้ วางทาบไปกับขอบ

ตระกร้าดึงเสน้ สฟี ้า (สีสมมติ) ทล่ี อ็ คดงึ กลบั มา แล้วก็สานทบั ไปกับขอบเสน้ สเี ขยี ว (สสี มมติ) แตต่ ้องสลับ

ลายสไี ปดว้ ยเพอื่ เปน็ การสร้างขอบตระกรา้ ให้เกิดลวดลาย ทาอยา่ งนี้ทกุ เสน้ รอบตระกร้า

12. ขัน้ ทาการเก็บชาย ตัดชายให้สั้นพอดีกับการซ่อนลายไดแ้ ลว้ กเ็ หนบ็ เก็บเขา้ ไปดา้ นใน ทาทกุ เส้น

เพือ่ ความเรียบร้อย

13. การทาหู ตัดเส้นพลาสตกิ 2 เส้น แล้วนามาตดั ผา่ ครึ่ง

14. เพ่อื นาไปถดั สานขัดกนั ไปมาน้นั ไขว้เส้นพลาสติก 2 เสน้ เข้าหากัน โดยจะเรียง

เป็น 4 เสน้ การถกั คือ นาเสน้ ซา้ ยสุด มาไขว้อ้อมไปด้านหลงั วกกลับของเสน้ ท่ี 3 ตอ่ ด้วยนาเสน้ ขวา

สดุ นบั ถอยหลังไปไขวด้ ้านหลงั วกกลับเสน้ ที่ 3 เชน่ กนั ทาสลับไปมาอย่างนี้จนสุดปลายพลาสติก

15. นามาติดหทู ีต่ ัวตะกรา้ โดยการรวบเส้นของหูเขา้ ด้วยกัน แบ่งแยกเปน็ 2 ข้าง แลว้ รอ้ ยเขา้ กบั

ตวั ตะกร้า สานเป็นลวดลาย แล้วทาการเกบ็ ปลายเสน้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย สาหรับเปน็ หูหว้ิ หรอื แขวนก็ได้ หรือ

นามาสอดใส่ในสายยางพลาสติก แลว้ นาไปติดหูทีต่ วั ตะกร้าแทนก็ได้

-5-

-6-

ท่ีมาและความสาคัญ

จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. บอกความหมายของทักษะอาชีพสานตะกรา้ จากเส้นพลาสตกิ ได้
2. อธบิ ายประเภทของสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกได้
ท่ีมำและควำมสำคญั
การสานตะกรา้ จากเส้นพลาสติก
ถุงพลาสติกท่ใี ช้รองรบั สินค้าและอาหารในปัจจบุ นั ผลิตดว้ ยเม็ดพลาสติกจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ท่ีใช้เชื้อเพลงิ ฟอสซิลเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึง่ สามารถทาได้อยา่ งรวดเร็วในปริมาณมากและดว้ ย

ตน้ ทนุ ทต่ี ่า
เม่ือนามาใช้จะมีอายุการใชง้ านท่ีสั้น และส่วนใหญเ่ ปน็ การใชง้ านเพยี งครง้ั เดียว โดยเฉพาะถงุ ขนาด

เล็กทีผ่ า่ นการใชง้ านแลว้ จะถูกนาไปทิง้ กลายเป็นขยะที่ยากตอ่ การย่อยสลายอยา่ งมาก เนอ่ื งจากคณุ ลกั ษณะท่ี
เบาบาง มปี ริมาณมาก และปะปนกบั ขยะมลู ฝอยประเภทอ่ืนๆ ส่งผลให้การย่อยสลายนั้นเปน็ ไปได้ยากยิ่งขนึ้
เพราะต้องใชร้ ะยะเวลาในการย่อยสลายนานถึง 100 - 450 ปี และหากนาไปเผากจ็ ะก่อใหเ้ กดิ สารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนซง่ึ เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน

ถ้าทกุ คนใหค้ วามรว่ มมือในการใช้ตะกร้าสานทดแทนการใช้ถงุ พลาสตกิ ก็จะสามารถช่วยลด
การใช้ถงุ พลาสติกไดม้ ากถึง 100 ล้านถุงตอ่ ปี ซ่งึ ข้อดีของการใชต้ ะกร้าสานก็มมี ากมาย เชน่ ทาความสะอาด
ไดง้ ่าย สวยงาม แข็งแรง ใชง้ านได้ดีกวา่ ถุงพลาสติก ช่วยลดขยะมูลฝอย ไม่ทาใหเ้ กิดภาวะเรือนกระจก อกี ทั้ง
สามารถยังใช้เปน็ ส่อื รณรงคเ์ สริมสร้างความเขา้ ใจและตระหนักถงึ สิ่งแวดล้อมไดอ้ ย่างกว้างขวาง หรอื เพอ่ื เป็น
การประหยดั ค่าใช้จา่ ยบางสว่ นให้กับกลมุ่ แมบ่ ้านท่ไี ม่อยากเสยี เงนิ ซื้อตะกรา้ ทไ่ี ด้ขนาดไม่ตรงกับความต้องการ
และเป็นการตอบสนองความตอ้ งการใหก้ ลุ่มแม่บา้ นท่ีตอ้ งการสานตะกรา้ ไว้ใช้เองแต่ขาดทกั ษะ ความรูใ้ นการ
สานตะกร้า

จดุ ประสงค์
- เพือ่ การศึกษาคน้ ควา้ หาข้อมูลเกยี่ วกบั ข้ันตอนการสานตะกร้าจากเส้นพลาสติก
- เพื่อจัดอบรมใหค้ วามรู้เกยี่ วกบั ขั้นตอนการสานตะกรา้ จากเส้นพลาสติก
ขอบเขตดำ้ นเน้อื หำ
ศึกษาความรู้เกี่ยวกบั ขน้ั ตอนการสานตะกร้าจากเสน้ พลาสตกิ หาขน้ั ตอนการทาท่ีงา่ ยท่ีสดุ ศกึ ษา
ประโยชนข์ องการใช้ตะกรา้
ขอบเขตดำ้ นวิธกี ำร
สานตะกร้า ซึ่งมีขนั้ ตอนการทาดงั น้ี
1. จดั เรียงเส้นตัง้ ท้งั 9 เส้นใหช้ ิดกนั หันปลายเสน้ เข้าหาตัว (ควรหาแผ่นไม้หรือหนงั สือ มาวางทบั
ปลายเสน้ พลาสตกิ เพื่อไม่ให้เสน้ ดดี ) แลว้ นาเส้นนอน มาสานขัดกบั เสน้ ตง้ั โดยการยก1เว้น1 สานสลับกันไป
เรือ่ ยๆ จนหมดทั้ง 15 เส้น ย้าใหเ้ สน้ ตัง้ ชิดกัน
2. สานจากฝั่งเสน้ นอน (หันปลายเสน้ นอนเขา้ หาตัว) นับเส้นนอนจากขวาไปซา้ ย เริม่ สานจากเส้นท่ี 1
ไปถงึ เสน้ ที่ 10 (เลยกึ่งกลางของกระเปา๋ ไปนดิ หน่อย) สานข้ึนไปเรื่อยๆ จนหมดท้ัง 25 เส้น
3. ทาไปเรื่อยๆจนครบ 4 ดา้ นสว่ นปากกระเป๋า ใหพ้ ับเสน้ ด้านในออกมาสอดไวท้ กุ เส้น ทนี ี้เรากส็ าน
ไปรอบๆทง้ั ใบจนครบทุกเส้น (ระหวา่ งทส่ี านไปรอบๆ ใหห้ มน่ั ดึงเส้นสานบ่อยๆ เพอ่ื ให้กระเปา๋ แนน่ ) แลว้ สอด
เสน้ สานทบั กนั ประมาณ 4-5 ช่อง ทุกเส้นแลว้ ดึงใหแ้ นน่

-7-

4. จากน้นั ใชเ้ ส้นเก็บขอบปาก มาสอดตามชอ่ งทเี่ ราพับไว้ตงั้ แตต่ อนตน้ บนปากกระเปา๋ ให้ครบทุก
ช่อง เมื่อครบแล้วใหพ้ บั เสน้ ที่เหลือลงมาทบั เส้นเกบ็ ขอบปากอีกครงั้ จนครบทกุ เส้น เสร็จแล้วดงึ เส้นทีพ่ ับให้
ปากกระเป๋าดูเรยี บเสมอกันท้ังใบแล้วสอดปลายลงมาประมาณครง่ึ ใบแลว้ ตัดออกใหส้ วยงาม ห้ามเหน็ ปลาย
เสน้ โผล่ออกมานอกตัวงาน

นิยำมศพั ท์เฉพำะ
ตะกรา้ พลาสติก หมายถงึ ตะกรา้ ทสี่ านจากเส้นพลาสติกใช้ทดแทนถุงพลาสติก เพ่ือปัญหาลดภาวะ
โลกร้อน
ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั
1. ผูเ้ ข้าร่วมโครงการไดม้ ีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั ข้ันตอนการสานตะกร้าจากเส้นพลาสตกิ
2. ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมปี ระสบการณใ์ นการสานตะกรา้ จากเส้นพลาสติก และสามารถนาไปตอ่ ยอด
เป็นอาชพี ได้
3. ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการสามารถใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ศึกษาค้นควา้ และให้ความรู้เกีย่ วกบั
ประโยชนข์ องการสานตะกรา้ จากเส้นพลาสติก
4. ลดการใช้ถงุ พลาสติก เนื่องจากตะกร้าท่ีสานจากเส้นพลาสติกสามารถใชซ้ า้ ได้มากกวา่ ถุงพลาสติก
อีกท้ังยังสามารถช่วยลดภาวะโลกรอ้ นได้อกี ดว้ ย

กำรสำนตะกร้ำจำกเสน้ พลำสติก

จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
1. บอกวสั ดุ อุปกรณ์ การสานตะกรา้ จากเสน้ พลาสติกได้
2. อธบิ ายขั้นตอนการสานตะกร้าจากเสน้ พลาสตกิ ได้
3. บอกวิธีการสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกได้

กำรเรยี นรสู้ ำนตะกร้ำจำกเสน้ พลำสตกิ
วสั ดอุ ุปกรณ์ในกำรสำนตะกร้ำจำกเสน้ พลำสตกิ
1. เสน้ พลาสติก
2. กรรไกร
3. ลวด

-8-

ขัน้ ตอนและวิธกี ำร
ขน้ั ตอนท่ี 1. สำนฐำนตะกรำ้

นาเส้นพลาสติกท่เี ตรียมไว้ มาสานสลบั แนวต้ังกบั แนวนอนให้มีลกั ษณะ เป็นรูปสเี่ หลยี่ มจตั ุรัส
จากน้นั สานโดยเพิม่ รอบทลี ะ 1 เสน้ ท้งั 4 ด้านใหค้ รบจานวนเสน้ พลาสตกิ ทเ่ี ตรยี มไวท้ าฐานดึงเส้นพลาสติก
ให้แน่นเมื่อได้ขนาดตามทต่ี ้องการทาการยึดเสน้ พลาสติก โดยใช้วธิ ีการสานเพ่ือบงั คบั ไม่ให้เส้นพลาสติกเคล่ือน
จากน้นั พบั เส้นพลาสตกิ ให้ต้ังเปน็ ส่วนตัวตะกรา้
ขั้นตอนท่ี 2. สำนตวั ตะกรำ้

นาเสน้ พลาสติกท่ีเตรียมไวส้ านตวั ตะกรา้ มาเรม่ิ สานจากสว่ นกลางตะกร้าจนรอบตัวตะกร้า ดึง
เส้นพลาสตกิ ให้แนน่ จากน้นั ก็เรม่ิ สานทลี่ ะ 1 เส้นไปจนครบจานวนเสน้ พลาสติกทเ่ี ตรยี มไว้สาหรับทาตวั
ตะกร้า
ข้ันตอนท่ี 3. สำนปำกตะกรำ้
พับเส้นพลาสติกตวั ฐานลงทุกเสน้ โดยสอดเสน้ พลาสตกิ ตามแนวจานวน 2 ตา แลง้ ดงึ เส้นพลาสติกให้แน่น ทา
การสานวนรอบปากตะกร้าอีกคร้ังโดยใชเ้ สน้ พลาสติกทม่ี ีความยาวเป็น 2 เทา่ ของเส้นตัวตะกรา้

หลกั สตู รกำรสำนตะกร้ำพลำสติก
วัสดอุ ุปกรณ์ 1. เสน้ พลาสติก 2. กรรไกร 3. ลวด
แบบท่ี 1

1. สำนฐำนตะกรำ้
นาเสน้ พลาสตกิ ทเ่ี ตรียมไว้ มาสานสลับแนวตงั้ กบั แนวนอนใหม้ ีลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จากน้ัน

สานโดยเพ่ิมรอบทลี ะ 1 เสน้ ท้ัง 4 ดา้ นใหค้ รบจานวนเส้นพลาสตกิ ท่ีเตรียมไวท้ าฐานดึงเส้นพลาสติก ให้แน่น
เมอ่ื ไดข้ นาดตามท่ตี ้องการทาการยดึ เสน้ พลาสติก โดยใชว้ ิธกี ารสานเพื่อบงั คับไม่ให้เส้นพลาสติกเคล่ือน
จากนัน้ พับเส้นพลาสตกิ ใหต้ ้ังเปน็ ส่วนตวั ตะกรา้
2. สำนตวั ตะกร้ำ

นาเสน้ พลาสตกิ ที่เตรยี มไว้สานตวั ตะกรา้ มาเริ่มสานจากส่วนกลางตะกร้าจนรอบตวั ตะกรา้ ดงึ เส้น
พลาสติกใหแ้ น่น จากนัน้ กเ็ ริ่มสานทีล่ ะ 1 เสน้ ไปจนครบจานวนเส้นพลาสติกท่ีเตรียมไว้สาหรับทาตัวตะกร้า
3. สำนปำกตะกร้ำ

พับเส้นพลาสติกตวั ฐานลงทกุ เส้น โดยสอดเสน้ พลาสติกตามแนวจานวน 2 ตา แลง้ ดงึ เสน้ พลาสติกให้
แน่น ทาการสานวนรอบปากตะกรา้ อกี ครัง้ โดยใช้เสน้ พลาสติกที่มีความยาวเป็น 2 เทา่ ของเสน้ ตัวตะกร้า

-9-

แบบท่ี 2

1. สำนฐำนตะกรำ้
นาเส้นพลาสตกิ ท่เี ตรยี มไว้ มาสานสลับแนวตง้ั กับแนวนอนใหม้ ีลักษณะ เป็นรปู สเ่ี หลยี่ มจัตรุ สั จากนัน้

สานโดยเพมิ่ รอบทีละ 1 เสน้ ทงั้ 4 ด้านให้ครบจานวนเสน้ พลาสตกิ ท่เี ตรียมไว้ทาฐานดึงเส้นพลาสตกิ ใหแ้ นน่
เมื่อได้ขนาดตามที่ต้องการทาการยดึ เสน้ พลาสติก โดยใช้วธิ กี ารสานเพ่ือบังคับไม่ให้เส้นพลาสตกิ เคล่ือน
จากน้นั พบั เส้นพลาสตกิ ให้ต้ังเปน็ ส่วนตัวตะกรา้
2. สำนตัวตะกรำ้

นาเส้นพลาสตกิ ท่เี ตรียมไวส้ านตวั ตะกร้า มาเร่ิมสานจากส่วนกลางตะกร้าจนรอบตัวตะกรา้ ดึงเสน้
พลาสตกิ ใหแ้ น่น จากนนั้ ก็เร่ิมสานท่ลี ะ 1 เสน้ ไปจนครบจานวนเสน้ พลาสติกที่เตรยี มไว้สาหรบั ทาตวั ตะกรา้
3. สำนปำกตะกร้ำ

นาลวดมาวนรอบ เพ่ือเสรมิ ความแข็งแรงและรักษารูปทรงปากตะกรา้ จากนั้นพบั เส้นพลาสติกตวั ฐาน
ลง
ทกุ เส้นโดยสอดเส้นพลาสติกตามแนวจานวน 2 ตา แล้งดงึ เส้นพลาสติกให้แนน่ ทาการสานวนรอบปากตะกรา้
อกี คร้ังโดยใช้เสน้ พลาสติกที่มีความยาวเป็น 2 เท่าของเสน้ ตัวตะกรา้
4. กำรทำหตู ะกร้ำ
นาเสน้ พลาสติก 1 เสน้ ความยาวประมาณ 20 นิว้ มาแบง่ คร่ึงโดยใชก้ รรไกร เรมิ่ พบั เส้นพลาสติกทบั
กันไปมาโดยเหลือปลายไว้ดา้ นละ 5 น้วิ จานวน 2 เสน้ ตดิ หูตะกร้าเข้ากับตัวตะกร้าโดยสอดปลายเสน้
พลาสตกิ ตามแนวเสน้ แล้วมว้ นเกบ็ ให้เรียบร้อยทัง้ 4 เสน้ ทาจนครบจานวนหตู ะกร้าท่ีเตรยี มไว้

แบบท่ี 3

1. สำนฐำนกระเป๋ำ
นาเส้นพลาสตกิ ทเ่ี ตรยี มไว้ มาสานสลบั แนวตั้งกับแนวนอนใหม้ ลี ักษณะ เปน็ รูปส่เี หลยี่ มจัตุรสั จากนั้น

สานโดยเพิ่มรอบทลี ะ 1 เส้นท้งั 4 ด้านใหค้ รบจานวนเสน้ พลาสติกที่เตรยี มไวท้ าฐานดึงเสน้ พลาสติก ใหแ้ น่น
เมอ่ื ได้ขนาดตามทตี่ ้องการทาการยดึ เส้นพลาสติก โดยใชว้ ธิ กี ารสานเพ่ือบงั คับไม่ใหเ้ สน้ พลาสติกเคล่อื น
จากน้ันพับเส้นพลาสตกิ ใหต้ ั้งเป็นส่วนตัวตะกรา้
2. สำนตวั กระเป๋ำ

- 10 -

นาเสน้ พลาสติกท่ีเตรยี มไวส้ านตัวตะกรา้ มาเริ่มสานจากส่วนกลางตะกร้าจนรอบตวั ตะกร้า ดงึ เส้น
พลาสติกให้แน่น จากนน้ั กเ็ ร่ิมสานทล่ี ะ 1 เส้นไปจนครบจานวนเส้นพลาสติกทเ่ี ตรียมไวส้ าหรบั ทาตัวตะกรา้
3. สำนปำกกระเปำ๋

นาลวดมาวนรอบ เพ่อื เสริมความแขง็ แรงและรกั ษารปู ทรงปากตะกรา้ จากนั้นพบั เส้นพลาสติกตวั ฐาน
ลงทกุ เส้นโดยสอดเสน้ พลาสติกตามแนวจานวน 2 ตา แลว้ ดึงเส้นพลาสติกให้แน่น ทาการสานวนรอบปาก
ตะกร้าอีกครัง้ โดยใช้เสน้ พลาสติกที่มคี วามยาวเป็น 2 เท่าของเสน้ ตวั ตะกร้า
4. กำรทำหูกระเปำ๋

นาเส้นพลาสตกิ 2 เสน้ ความยาวประมาณ 20 นว้ิ มาแบง่ ครึ่งโดยใชก้ รรไกร เริม่ สานเส้นพลาสติกไป
มาให้เป็นวงกลมโดยเหลอื ปลายไว้ด้านละ 5 นิ้ว จานวน 2 เส้น ตดิ หกู ระเป๋าเข้ากบั ตัวกระเปา๋ โดยสอดปลาย
เสน้ พลาสตกิ ตามแนวเส้นแล้วม้วนเก็บใหเ้ รยี บรอ้ ยท้งั 4 เสน้ ทาจนครบจานวนหูกระเป๋าทเี่ ตรียมไว้
5. กำรทำตะกร้อ

นาเสน้ พลาสติก 1 เส้น ความยาวประมาณ 12 น้วิ มาแบ่งคร่งึ นาเสน้ พลาสตกิ มาวางไขว้กันพับให้
เปน็ รูปตัววี สอดเส้นพลาสติกไปมา ใหต้ ัวพลาสติกวนเปน็ วงกลมแล้วสอดเส้นพลาสติกทเ่ี หลือเข้ากบั ตัวตะกรอ้
เหลอื ส่วนปลายไว้สอดเขา้ กับตัวตะกร้า
6. กำรทำตัวคล้อง

นาเส้นพลาสตกิ 1 เสน้ ความยาวประมาณ 20 น้วิ มาแบง่ คร่ึงโดยใช้กรรไกร เรม่ิ พับเสน้ พลาสติกทับ
กันไปมาโดยเหลอื ปลายไวด้ ้านละ 5 นวิ้ ติดเข้ากับตวั ตะกรา้ โดยสอดปลายเสน้ พลาสตกิ ตามแนวเส้นแล้วม้วน
เกบ็ ให้เรยี บรอ้ ยทง้ั 4 เส้น โดยใหเ้ สน้ พลาสติกอยูก่ ง่ึ กลางกับตัวตะกรอ้

ประโยชน์ท่ไี ด้รบั

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
1. บอกประโยชน์การสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกได้

2. บอกความสาคัญของการสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกได้

การจักสานเป็นอาชพี ทช่ี าวบ้านพรานหารายไดช้ ่วยจุนเจอื ครอบครัวในยามท่ีเสรจ็ สน้ิ จากการทานา
คนในชุมชนรจู้ กั และมีภมู ปิ ัญญาด้านการจักสานเป็นพนื้ ฐานอยแู่ ล้ว ซ่ึงสบื ทอดมาจากบรรพบุรุษ รู้จกั การนา
หวาย ไม้ไผ่ ก้านลานมาทาตะกรา้ กระบุง ชะลอม ผลิตใชส้ อยในครัวเรอื น สมัยก่อนชาวบา้ นจะทาไวใ้ ช้เอง
การจักสานสืบทอดมาจากบรรพบรุ ุษในถน่ิ ฐานเดิม มผี ู้ทรงภูมปิ ัญญาถ่ายทอดองค์ความรแู้ บบด่งั เดมิ ซง่ึ ยังไมม่ ี
การพฒั นารูปแบบแต่อยา่ งใด

จกั สานเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ หตั ถกรรม ทบ่ี ง่ บอกถงึ ความรุ่งเรือง ประเพณี วัฒนธรรมของพ้ืนบ้าน มีการสบื
ทอดเทคนคิ วิธีการมาหลายชว่ งอายุคน ซ่ึงมีพื้นฐานการพัฒนาลวดลายในแบบตา่ งๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมี
พ้ืนฐานในการออกแบบจากสภาพการดารงชวี ติ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และธรรมชาตทิ ี่
แตกตา่ งกันในแต่ละยคุ สมัย

เดมิ สมยั ก่อนในชมุ ชนมีการปลกู ไม้ไผ่ หวาย ลาน มกี รรมวธิ ีการจกั สานแบบโบราณใชว้ ตั ถดุ บิ ในพ้ืนท่ี
นามาจกั สานเคร่ืองใช้ในครวั เรือน เมอื่ กอ่ นนี้กลุ่มจกั สานมีมาก ผลผลติ ล้นตลาดราคาผลติ ภณั ฑถ์ ูก แต่วัตถดุ บิ
แพง กลุ่มบา้ นพรานจึงมีความคดิ ที่จะเปล่ยี นจากหวาย ไม้ไผ่เป็นจักสานพลาสตกิ ต่อมาเม่อื ทางส่วนราชการ
มาสง่ เสรมิ ใหก้ ารสนับสนนุ ใหม้ กี ารจกั สานเชงิ พาณิชย์ โดยมชี าวบา้ นมาเปน็ สมาชิกกลมุ่ ทาใหม้ ีอาชพี เสริม มี
ศูนยก์ ารเรียนรู้ชุมชน มีสถานทีฝ่ ึกอบรม ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ เกดิ จากความต้องการของลูกคา้ เป็นหลัก
เน้นความสวยงาม ประณีตและเรียบร้อยจากการที่ได้รบั การสนับสนุนจากหนว่ ยงานราชการต่างๆ ทาให้กลุ่มมี

- 11 -

ความเจริญกา้ วหนา้ มากขึ้น ส่งผลให้ชาวบ้านไดม้ ีรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหน่งึ ประจวบกับประธานกลมุ่
นางกลั ยา อนิ ทรโ์ ต เป็นผปู้ ระสานงานดา้ นการตลาด ทาให้กล่มุ ทาการผลติ และจาหน่ายไดม้ ากข้นึ

จกั สานพลาสติก เป็นศิลปะการจักสานทม่ี ีลวดลายสวยงาม การออกแบบ สสี นั ของเส้นพลาสติก
ลวดลายต่าง ๆตามความต้องการของลกู ค้า มีความละเอียดประณตี เรียบร้อย ได้มาตรฐาน คงทน สม
ประโยชน์ ราคาไม่แพง มีการพัฒนารปู แบบทันสมัยอย่างต่อเนื่องและเป็นสากล แต่กระบวนการผลิตยงั ใชแ้ บบ
ดั่งเดมิ ทาให้มองเห็นคณุ ค่าและแสดงถงึ เอกลกั ษณค์ วามเป็นไทย ซง่ึ เปน็ ความภาคภมู ิใจของคนบา้ นพราน
เปน็ ผลงานจากการสร้างสรรค์ช้นิ งานทปี่ ระสานภมู ิปัญญาของคนรนุ่ เกา่ กบั คนร่นุ ใหม่ ใหเ้ ข้ากนั ได้อยา่ งลงตัว
และเหมาะสม

การส่งเสริมและการอนุรักษ์การจักสาน โดยให้มีการผลิตอย่างตอ่ เนื่อง มีการพัฒนารูปแบบ
ตลอดเวลา จงึ มกี ารถา่ ยทอดให้กับผทู้ ต่ี ้องการศึกษา เพื่อเป็นพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพให้กับแมบ่ ้าน
นักเรียน ผเู้ รยี นผทู้ ่สี นใจทั่วไป เพ่ือเป็นการสืบสานภมู ิปัญญาของคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างมีคณุ ภาพและ
เปน็ การอนุรักษ์ และปอ้ งกนั ภมู ิปญั ญามิใหส้ ญู หาย ปจั จบุ ันการจักสานพลาสตกิ ของตาบลศรพี ราน
เปรียบเสมือนเป็นวิถชี ีวติ ของคนในชมุ ชนเน่อื งจากเปน็ อาชพี เสริมท่ีทาให้เกดิ รายไดด้ ีทาให้คนในชมุ ชนมรี ายได้
ท่ีมัน่ คง

- 12 -

กำรบริหำรจัดกำรอำชพี กำรสำนตะกร้ำจำกเส้นพลำสตกิ

จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธบิ ายการบรหิ ารจดั การ การสานตะกร้าจากเสน้ พลาสติก
2. บอกการเคร่อื งมอื สื่อสารการตลาด
3. บอกคณุ ธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชพี

คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในกำรประกอบอำชพี

จรยิ ธรรม เปน็ มาตรฐานความประพฤติของมนษุ ย์จะเกิดขึ้นไดต้ ้องอาศยั ความสัมพันธร์ ะหว่าง
จรรยาคอื ความประพฤติ และธรรม คอื เครื่องรกั ษาความประพฤติ การประกอบอาชพี ใด ๆ กต็ ามผูป้ ระกอบ
อาชีพจะต้องคานึกถงึ ผลกระทบต่อสังคมภายนอกเสมอ ท้ังนี้กค็ ือจะต้องไมใ่ ช้ความรคู้ วามสามารถในทางทีผ่ ดิ
หากประกอบอาชีพโดยไรจ้ รยิ ธรรมผลเสยี หายจะตกอยู่กบั สงั คมและประเทศชาติฉะน้นั จริยธรรมจึงมีบทบาท
สาคัญอย่างย่ิงท่ีจะลดปัญหาทอี่ าจจะเกิดขึ้น ความสาคัญของจริยธรรมในการประกอบอาชพี มดี ังน้ี

1. ชว่ ยใหผ้ ูป้ ระกอบอาชีพแตล่ ะสาขาไดใ้ ช้วชิ าชีพในทางท่ีถกู ต้องเหมาะสมและเป็นประโยชน์ตอ่
สังคมและประเทศชาติ

2. ชว่ ยควบคมุ และส่งเสรมิ ให้ผ้ปู ระกอบอาชีพทางานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โดยมีความสานกึ ในหน้าท่ี
และมีความรับผิดชอบในงานของตน

3. ชว่ ยส่งเสรมิ และควบคมุ การผลิต และการปฏิบัติงานให้มคี ุณภาพเปน็ ที่เชอื่ ถือและไวว้ างใจได้ใน
เร่อื งของความปลอดภยั และการบริการที่ดี

4. ชว่ ยส่งเสริมใหผ้ ูป้ ระกอบอาชีพไม่เอารดั เอาเปรียบผบู้ รโิ ภค และไมเ่ หน็ แก่ตัว ท้ังน้ีตอ้ งยึดหลักโดย
คานึกถึงผลกระทบท่จี ะเกิดแก่ผู้บรโิ ภคเสมอ

5. ชว่ ยใหว้ งการธุรกิจของผปู้ ระกอบอาชีพมีความซอ่ื สตั ย์ ยตุ ธิ รรม และมีความเออ้ื เฟือ้ ตอ่ สงั คม
สว่ นรวมมากขึน้ อาชีพ (Occupation) ดารง ฐานดพี (2536 : 2) ได้ใหค้ วามหมายไว้ ดังนี้ หมายถึง กิจกรรม
ทเ่ี ก่ียวข้องกับงานทกุ ประเภทและเกี่ยวข้องกบั องค์ประกอบทางด้าน เทคนิค เศรษฐกิจ และสังคม ดังนั้นคาวา่
อาชพี จึงครอบคลุมไปถงึ งานทใี่ คร ๆ ก็ทาได้โดยไมต่ ้องอาศยั การฝกึ หัดมาก่อน เชน่ งานท่ีต้องใช้แรงงาน
(Manual works) และเป็นงานท่ีผกู้ ระทาจะต้องไดร้ ับการฝึกฝนเปน็ พิเศษหรอื เปน็ งานที่ใช้ทักษะ และการ
ฝึกหดั ขัน้ สงู (Technic worls)”

- 13 -

อาชีพมสี ่วนเก่ียวข้องกับสงั คมเป็นอย่างมาก ในทศั นะของนกั สงั คมวิทยานน้ั อาชพี อาจก่อใหเ้ กิดผล
ต่อสังคมได้ ดงั น้ี

1. อาชีพสามารถแบ่งแยกกลุ่มคนในสังคมออกเป็นสว่ น ๆ ตามสาขาอาชพี เชน่ ผูป้ ระกอบธรุ กิจ
อุตสาหกรรม ผปู้ ระกอบธุรกจิ การเกษตร ผปู้ ระกอบธุรกิจการบรกิ าร ข้าราชการ เปน็ ต้น ในกลุ่มอาชพี ดงั กลา่ ว
สามารถแยกย่อยออกไปได้อีก เชน่ ข้าราชการกม็ ีท้ังขา้ ราชการครู ข้าราชการทหาร ข้าราชการตารวจ ผู้
ประกอบธุรกจิ การเกษตรกม็ ีท้ังชาวนา ชาวสวน ชาวประมง เปน็ ต้น

2. อาชพี แต่ละอาชีพน้ันก่อใหเ้ กดิ เปน็ แหล่งรวมผู้คนจากถนิ่ ต่าง ๆ เขา้ ด้วยกันทาให้กลายเปน็ กลมุ่ คน
ทม่ี อี ุดมการณ์ และความสนใจไปในแนวเดยี วกนั

3. อาชีพมผี ลตอ่ บคุ ลิกภาพของแตล่ ะบคุ คล
4. อาชีพมสี ่วนเชือ่ มโยงบุคคลรวมกันเป็นสังคม
5. อาชพี ก่อให้เกิดความสามารถและความชานาญแกผ่ ้ปู ระกอบอาชพี นั้น ๆ วิธีการสรา้ งจรยิ ธรรมใน
การประกอบอาชพี วิธีการสร้างจรยิ ธรรมตอ้ งอาศัยการฝึกฝนเปน็ หลกั ปัจจบุ นั นี้โลกเรากาลังมีปญั หาด้าน
ศีลธรรม ปญั หาการขาดคุณธรรม จรยิ ธรรม ในหลาย ๆ อาชพี ฉะน้นั จะต้องมีการพฒั นาสิ่งทมี่ ีอยู่แลว้ ให้ดี
ยิง่ ขึ้น และสรา้ งเสรมิ เตมิ ต่อสิง่ ทยี่ ังขาดอยูใ่ ห้มีข้ึน
วธิ ีกำรที่นำมำใชส้ ร้ำงจริยธรรมสำมำรถทำได้ ดังน้ี
1. การอบรมตามหลักของศาสนา
2. การปลูกฝังพฤติกรรมท่ีพงึ ประสงค์
3. การสอนให้รู้จักความเมตตาตอ่ ผ้อู น่ื
4. การสรา้ งค่านิยมท่ีพงึ ประสงค์
5. การใชอ้ ิทธิพลของกลุ่มให้เกดิ ความคลอ้ ยตาม
6. การใชห้ ลกั มนุษยสัมพนั ธ์
7. การจดั สิ่งแวดลอ้ มและประสบการณ์ในทางท่ดี ี จรยิ ธรรมท่ผี ปู้ ระกอบอาชพี ควรประพฤติ
หลกั ในกำรยดึ ถือปฏิบตั ขิ องผู้ประกอบอำชีพท่ัวไปพึงกระทำเพ่ือควำมเจริญกำ้ วหนำ้ ในอำชพี ของ
ตน และรว่ มรับผิดชอบในสังคม ควรมดี ังนี้
1. ความซ่ือสัตย์สุจรติ และมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม
2. การมจี ริยธรรมต่อส่ิงแวดล้อม
3. ความน่าเชอื่ ถอื และความปลอดภัยในบริการ
4. การมจี รรยาอาชีพและดาเนนิ กิจการอยา่ งมีคณุ ภาพ
5. การสร้างสัมพันธภาพทด่ี ีต่อลกู ค้า
6. การเคารพสิทธแิ ละรักษาผลประโยชนข์ องผู้อน่ื
7. การใช้จริยธรรมในการติดตอ่ สื่อสาร
8. การสรา้ งสัมพนั ธภาพกับชุมชน
9. การสร้างวินยั ในการประกอบอาชีพ
10. การดาเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
11. การให้แหล่งข้อมลู ข่าวสารอย่างถูกต้อง
12. การประกอบอาชพี ด้วยความขยนั หมน่ั เพียร

- 14 -

บทที่ 3
วิธีดำเนนิ งำน

การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชนอาชีพระยะสัน้ หลักสูตรการสานเสน้ พลาสติก
ระหวา่ งวันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หมู่ที่ 6 ตาบลมะเรงิ อาเภอเมือง
นครราชสีมา จังหวดั นครราชสมี า มวี ธิ ีดาเนินการดังนี้

1. การประชุมวางแผน
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
3. การติดตามและประเมินผล
4. สรุปผล/รายงานผลการดาเนินงาน
กำรประชุมวำงแผน
ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ครู ครูอาสาสมัคร ครู กศน.ตาบล และตัวแทนนกั ศึกษา ไดจ้ ดั ประชมุ วาง
แผนการจดั กิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้นั หลกั สตู รการสานเสน้ พลาสติกระหวา่ งวันที่
10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6ตาบลมะเรงิ อาเภอเมืองนครราชสมี า จงั หวดั
นครราชสมี า มวี ธิ ีดาเนนิ การดงั น้ี
- มกี ารรับลงทะเบยี นของผู้เข้ารับการเรียนรู้ และมีพิธีเปดิ โครงการโดยผู้นาชมุ ชน รับฟังคากล่าว
รายงานจากครู กศน. ตาบล มีการแนะนาวิทยากรผู้สอนใหค้ วามรใู้ นเร่อื ง ความเปน็ มาของการเสน้ พลาสติก
มกี ารฝกึ ปฏิบตั กิ ารสานเส้นพลาสตกิ และมีการสอนช่องทางการประกอบอาชพี โดยการใช้โทรศพั ท์มือถอื เพอื่
การค้าขายออนไลน์
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา โดยกศน.
ตาบลมะเริง ได้วัดและประเมินผลกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตร
การสานเส้นพลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่
6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลจาก
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และแจกแบบสอบถามจานวน 7 และได้แบบสอบถามกลับคืนมาจานวน 7 ชุด
คิดเป็นร้อยละ 100
เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นกำรประเมนิ
1. เกณฑ์การตดั สนิ และพิจารณาแบบสอบถามประเมินความพงึ พอใจ โดยใช้ scale 5 ระดบั หรือที่
เรียกว่าวดั เจตคตติ ามเทคนิคของของลิเคิร์ท (Likert technique) หรอื แบบสอบถามมาตราสว่ นประมาณค่า
5 ระดับของลเิ คิรท์ สเกล ถือเกณฑ์พิจารณาจากระดับคะแนนเฉล่ียจากคา่ คะแนนดังน้ี
4.21 – 5.00 หมายถงึ ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมมีความพึงพอใจระดบั มากทส่ี ดุ
3.41 – 4.20 หมายถงึ ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมมีความพึงพอใจระดับ มาก
2.61 – 3.40 หมายถงึ ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจระดบั ปานกลาง
1.81 – 2.60 หมายถงึ ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมมีความพึงพอใจระดับ น้อย
1.00 – 1.80 หมายถงึ ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมมีความพึงพอใจระดับ น้อยที่สดุ

- 15 -

2. ใช้แบบประเมินการวดั ทักษะการปฏบิ ัติและการวัดคุณภาพของผลงาน ผลการปฏบิ ัติงานและเจตคตทิ ี่ดตี ่อ

กิจกรรม โดยมคี า่ เกณฑก์ ารให้คะแนนดังนี้

เกณฑ์คะแนนการวัดระดับการวัดพฤติกรรม สรุประดับค่าคะแนน

0 -4 = ไม่ผ่าน 0 - 9 = ไม่ผ่าน

5 - 6 = พอใช้ 10 - 29 = พอใช้

7 = ปานกลาง 30 - 49 = ปานกลาง

8 = ดี 50 - 69 = ดี

10 = ดีมาก 70 - 80 = ดีมาก

- ผลกำรวิเครำะห์ข้อเสนอแนะเพิม่ เติม ดังน้ี

โดยกำรวัดผลประเมินผล ตำมกรอบประเมินกำรจดั กำรศกึ ษำตอ่ เนื่อง คะแนนเต็ม (100)

1. เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นกำรวัดควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจในเนื้อหำสำระ (20 คะแนน)

เครอื่ งมือที่ใช้ในการวัดความรู้ความเข้าใจในโครงการฯน้ีเป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน

ของผู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 20 ขอ้ ตามเน้ือหาในหลกั สูตร การจดั ชัน้ เรยี นดงั นี้

1) เนื้อหาเรือ่ งการสานเส้นพลาสตกิ จานวน 20 ข้อ

2. เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นกำรวัดทกั ษะกำรปฏิบัติ (40 คะแนน)

2) แบบประเมนิ พฤตกิ รรมผ้เู รียนดา้ นทกั ษะการปฏบิ ัติงาน มที ้ังหมด 4 ข้อ ๆละ 10 คะแนน

3. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นกำรวัดคณุ ภำพของผลงำน ผลกำรปฏิบตั งิ ำน (40 คะแนน)

3) แบบประเมนิ การวดั คุณภาพของผลงาน ผลการปฏิบัติงาน มีท้ังหมด 4 ข้อๆละ 10 คะแนน

สรปุ ผล/รำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมาโดย กศน.มะเรงิ

ไดว้ ดั และประเมนิ ผลกจิ กรรม และได้สรปุ ผลการดาเนนิ งานใหแ้ ล้วเสร็จภายในเดอื น กันยายน 2564

สรุปได้ดงั น้ี

1. มผี ู้เขา้ รว่ มกิจกรรม เปน็ ประชาชน ตาบลมะเรงิ จานวนท้ังส้นิ 7 คน

2. ทกุ คนมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมครั้งน้ี

3. ศึกษารายละเอียดของผลการวัดและประเมินผลความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่างวันที่10-13

กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา

จังหวัดนครราชสีมา ปรากฏอยู่ในบทท่ี 4 – บทท่ี 5

กำรนำผลกำรศึกษำไปใช้

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองนครราชสมี าโดยกศน.ตาบลมะเริง

จะนาผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชนอาชพี ระยะสั้น หลกั สูตรการสานเสน้ พลาสติก

ระหว่างวนั ที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมือง

นครราชสมี า จงั หวดั นครราชสมี า มาพฒั นาการการศึกษาตอ่ เนื่องผูร้ ับการอบรมในกจิ กรรมตอ่ ๆ ไป ให้ดีย่ิงข้นึ

- 16 -

กำรจัดกำรศึกษำตอ่ เนอ่ื ง โครงกำรศนู ย์ฝกึ อำชีพชมุ ชนอำชพี ระยะสน้ั

หลักสตู รกำรสำนเสน้ พลำสตกิ

ระหว่ำงวนั ที่ 10-13 กนั ยำยน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตำบลมะเรงิ หมทู่ ี่ 6 ตำบลมะเรงิ
อำเภอเมืองนครรำชสีมำ จังหวัดนครรำชสีมำ

ลงทะเบียน

พิธเี ปิดโครงกำร

กลุม่ ผู้เข้ำอบรมไดเ้ รยี นร้เู กีย่ วกบั กำร
กำรสำนเส้นพลำสตกิ

อธบิ ำยอปุ กรณ์ในกำรปฎิบัตงิ ำน

- 17 -

กศน.อำเภอเมอื งนครรำชสีมำไดม้ กี ำรนเิ ทศตดิ ตำมโครงกำรฯ

ฝกึ ปฏิบตั กิ ำรสำนเสน้ พลำสติก

- 18 -

บทที่ 4
ผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู

ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล โครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนอาชีพระยะสน้ั หลกั สูตรการสานเส้นพลาสตกิ
ระหวา่ งวนั ท่ี 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา
จงั หวดั นครราชสีมา จานวน 7 คน สรปุ ไดด้ งั นี้

ตอนที่ 1 ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลตำมกรอบประเมินกำรจดั กำรศกึ ษำตอ่ เนื่อง

1.1 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลควำมร้คู วำมเข้ำใจของผู้เรียนในเนอื้ หำสำระ
ตำรำงที่ 1.1 เปรยี บเทียบคะแนนความร้คู วามเขา้ ใจของผเู้ รียนก่อนและหลงั อบรมโครงการศูนย์
ฝกึ อาชพี ชุมชนอาชพี ระยะส้ัน หลักสตู รการสานสานเส้นพลาสตกิ จานวน 7 คน

ผ้เู รียนคนที่ คะแนนก่อนอบรม คะแนนหลงั อบรม คะแนนควำมกำ้ วหนำ้
1 5 15 10
2 7 16 9
3 8 17 9
4 9 18 9
5 10 19 9
6 11 18 7
7 12 18 6
รวม 62 121 59
8.43
คะแนนเฉล่ยี 8.86 17.28

ตำรำงที่ 1.2 คะแนนความกา้ วหนา้ ของผ้เู รยี นทรี่ ่วมตามโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลกั สตู ร
การแปรรปู ผลติ ภัณฑจ์ ากปลา ระหวา่ งวนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบล
มะเรงิ อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า จานวน 7 คน

รำยกำร จำนวนนักเรียน คำ่ เฉล่ีย
(N) (X )
ทดสอบก่อนเรยี น 7 8.86
ทดสอบหลังเรยี น
7 17.28

จากตารางท่ี 1.2 พบว่า ความรู้ความเขา้ ใจของผเู้ รียนที่เข้ารว่ มตามโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชนอาชพี ระยะ
สัน้ หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่างวนั ที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หมู่ท่ี 6
ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า จานวน 7 คน จากการทดสอบ 2 ครัง้ กอ่ นการอบรม
คะแนนเฉลย่ี เท่ากับ 8.86 แต่หลงั การอบรม คะแนนเฉล่ยี เท่ากบั 17.28 ซึง่ แสดงให้เห็นอย่างชดั เจนวา่ ผู้เรียนมี
ความรู้ความเข้าใจเพม่ิ สูงขึ้น

- 19 -

1.2 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู กำรวัดทักษะกำรปฏิบัติงำน
ตำรำงท่ี 1.2 ผู้เรยี นตำมโครงกำรมีทกั ษะกำรปฏิบัติงำน

ระดบั คะแนนด้ำนทกั ษะกำรปฏบิ ตั /ิ ทำกจิ กรรมตำมเนือ้ หำหลักสูตร (40 คะแนน)

ปฏบิ ัติไดถ้ ูกตอ้ ง ปฏิบตั ไิ ด้ทันเวลำ คัดเลอื กอุปกรณ์/วัสดุ ชนิด อธิบำยหรอื สำธติ ระดบั กำร

ผู้เรียนคนที่ ตำมข้นั ตอน (10) ตำ่ งๆมำใช้ไดเ้ หมำะสมกับ กำรนำไปใช้ใน ประเมิน

1 (10) อปุ กรณ์ทีต่ อ้ งกำร ชวี ิตประจำวันได้ (ผ่ำน/ไม่ผำ่ น)
2
/กำรแก้ปัญหำได้ (10) (10)

8 9 7 7 ผ่าน

8 9 8 7 ผ่าน

39 9 7 7 ผา่ น

47 9 8 7 ผา่ น

58 9 7 7 ผา่ น

69 9 7 8 ผ่าน

79 9 7 7 ผ่าน

รวม 58 63 51 50

คะแนนเฉลยี่ 8.29 9 7.29 7.14

จากตารางที่ 1.2 พบว่า ผเู้ รยี นมีความพึงพอใจด้านการวัดทักษะการปฏบิ ตั งิ านตาม โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพ

ชมุ ชนอาชีพระยะสัน้ หลักสตู รการสานเสน้ พลาสตกิ ระหวา่ งวันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบล

มะเรงิ หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา มีทักษะการปฏิบัติงาน โดยภาพรวม

ผู้เรยี นจะผ่านประเมนิ ผลตามโครงการ จานวน 7 คน ซ่ึงเกณฑก์ ารให้คะแนนจะปรากฏอยูใ่ นภาคผนวก

1.3 ผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ด้ำนกำรวัดคุณภำพของผลงำน ผลกำรปฏิบตั งิ ำน

ตำรำงที่ 1.3 ผูเ้ รียนมกี ารวดั คณุ ภาพของผลงาน ผลการปฏิบัตงิ าน

ระดับคะแนนดำ้ นด้ำนคณุ ภำพของผลงำน/ผลกำรปฏบิ ัติ (40 คะแนน)

มีชิ้นงำน/ผลงำนท่ี ควำมแข็งแรงคงทน/ ควำม ควำมเหมำะสม ระดบั กำรประเมนิ

ผเู้ รียนคนท่ี ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ (10) ควำมสวยงำมประณีต ประหยัด(10) กกั ลมุ่ เป้ำหมำย (ผำ่ น/ไมผ่ ำ่ น)

(10) สภำพพืน้ ที่ฯลฯ

(10)

18 9 99 ผ่าน

28 8 99 ผ่าน

38 8 99 ผา่ น

48 9 99 ผา่ น

58 9 99 ผา่ น

68 9 99 ผ่าน

78 9 99 ผา่ น

รวม 56 61 63 63

คะแนนเฉลยี่ 8 8.71 9 9

จากตารางที่ 1.3 พบว่า ผเู้ รยี นมีความพึงพอใจด้านการวัดคุณภาพของผลวานผลการปฏิบตั งิ าน

ตามโครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนอาชีพระยะสน้ั หลกั สูตรการสานเส้นพลาสตกิ ระหวา่ งวันท่ี 10-13 กันยายน

พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมทู่ ี่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสีมา มผี ลของ

การปฏิบตั งิ านของผเู้ รยี นโดยภาพรวมผู้เรยี นจะผ่านประเมินผลตามโครงการ จานวน 7 คน ซ่งึ เกณฑก์ ารให้คะแนน

จะปรากฏอยู่ในภาคผนวก

- 20 -

ตอนที่ 2 ผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ดำ้ นควำมพึงพอใจของผเู้ รยี น

ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มพอใจ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชนอาชพี ระยะสน้ั
หลกั สตู รการสานเสน้ พลาสติก ระหว่างวันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6
ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสมี า จงั หวัดนครราชสมี า ดังนี้

๑. ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู เบื้องตน้ ของผตู้ อบแบบสอบถาม
๒. ผลการวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมพอใจ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชนอาชีพระยะส้นั
หลักสูตรการสานเสน้ พลาสติก ระหว่างวันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หม่ทู ี่ 6
ตาบลมะเรงิ อาเภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั นครราชสมี า ดังน้ี

2.1 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู เบ้ืองตน้ ของผู้ตอบแบบสอบถำม

ตำรำงที่ 2.1 ข้อมูลเบื้องต้นของผตู้ อบแบบสอบถำม

ประเภทของขอ้ มลู จำนวน ร้อยละ

1. เพศ

- หญิง 7 100

- ชาย - -

รวม 7 100

2. อายุ

- 15 – 39 ปี 1 14.29

- 40 – 59 ปี 5 71.42

- 60 ปขี ้นึ ไป 1 14.29

รวม 7 100

3. ระดบั การศึกษา

- ประถมศึกษา 4 57.14

- มธั ยมศึกษาตอนต้น 1 14.29

- มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2 28.57

รวม 7 100

จากตารางท่ี 2.1 พบวา่ ผู้เรยี นที่เข้ารว่ มตาม โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะสน้ั หลกั สูตรการ

สานเสน้ พลาสตกิ ระหวา่ งวนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง

อาเภอเมืองนครราชสมี า จงั หวดั นครราชสีมา เปน็ เพศหญิงทัง้ หมด 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 และมีอายุระหว่าง

มอี ายุระหว่าง 15-39 ปี คิดเปน็ ร้อยละ 14.29 อายรุ ะหว่าง 40-59 ปี คดิ เปน็ ร้อยละ 71.42 อายรุ ะหว่าง60ปี

ข้ึนไป คิดเป็นร้อยละ 14.29 มกี ารศึกษาอยใู่ นระดับประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 57.14 ระดับมัธยมศึกษา

ตอนต้น คดิ เป็นร้อยละ 14.29 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คิดเป็นร้อยละ 28.57

2.2 ผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจผเู้ ขา้ ร่วมพอใจ ตามโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชพี ระยะสน้ั

หลักสูตรการสานเสน้ พลาสติก ระหว่างวนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเรงิ หมู่ที่ 6 ตาบล

มะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

- 21 -

2.2 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู ด้ำนควำมพงึ พอใจดำ้ นเนอื้ หำ

ตำรำงที่ 2.2 ผูร้ ับเรยี นตำมโครงกำรมีควำมพึงพอใจด้ำนเนอ้ื หำ

ด้ำนเนอื้ หำ ระดบั ควำมพึงพอใจ
μ S.D. กำรแปลผล

1. เน้ือหาตรงตามความต้องการ 4.71 0.49 มากที่สุด

2. เนอื้ หาเพยี งพอต่อความต้องการ 4.71 0.49 มากทส่ี ุด

3. เนอื้ หาปจั จบุ ันทันสมัย 4.71 0.49 มากที่สุด

4. เน้ือหามีประโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ 4.71 0.49 มากทสี่ ดุ

4.71 0.49 มากที่สุด

จากตารางท่ี 2.2 พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจด้านเนื้อหาตาม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะ
ส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6
ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีความพึงพอใจด้านเนื้อหา โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มากที่สดุ (μ = 4.71, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดับมากที่สุด
เท่ากนั ท้งั หมดเรยี งตามหัวขอ้ เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ เนือ้ หาเพยี งพอต่อความต้องการ เนือ้ หาปัจจบุ นั ทนั สมยั
เนือ้ หามีประโยชนต์ ่อการนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชีวิต(μ = 4.71, S.D. = 0.49)

2.3 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู ด้ำนควำมพึงพอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรม

ตำรำงท่ี 2.3 ผเู้ รยี นมีควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรจัดกระบวนกำรจดั กิจกรรม

ด้ำนกระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรอบรม ระดบั ควำมพึงพอใจ
μ S.D. กำรแปลผล

1. การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม 4.71 0.49 มากที่สุด

2. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 4.71 0.49 มากทส่ี ุด

3. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.71 0.49 มากท่ีสดุ

4. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 4.71 0.49 มากท่สี ุด

5. วธิ กี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 4.71 0.49 มากที่สดุ

รวม 4.71 0.49 มำกท่สี ุด

จากตารางท่ี 2.3 พบว่า ผู้เรียนท่ีเข้าร่วมตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะสั้น หลักสูตรการ
สานเส้นพลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง
อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยภาพ
รวมอยู่ในระดบั มากทีส่ ดุ (μ = 4.71, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากท่ีสุดอยู่ใน
ระดบั ดมี ากที่สุดเทา่ กันทุกขอ้ เรียงตามลาดับ การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับ
วัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และวิธีการวัดผล/
ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์(μ = 4.71, S.D. = 0.49)

- 22 -

2.4 ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ด้ำนควำมพึงพอใจตอ่ วทิ ยำกร
ตำรำงท่ี 2.4 ผู้เรยี นมีควำมพงึ พอใจต่อวิทยำกร

ดำ้ นวทิ ยำกร ระดบั ควำมพึงพอใจ
μ S.D. กำรแปลผล
1. วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถา่ ยทอด
2. วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใช้สอื่ เหมาะสม 4.71 0.49 มากท่สี ุด
3. วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม 4.71 0.49 มากทส่ี ุด
4.71 0.49 มากที่สุด
รวม
4.71 0.49 มำกท่ีสุด

จากตารางท่ี 2.4 พบว่า ผู้เรียนท่ีเข้าร่วมตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตร
การสานเสน้ พลาสติก ระหวา่ งวนั ท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง
อาเภอเมืองนครราชสมี า จังหวัดนครราชสมี า มีความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมากทสี่ ดุ
(μ = 4.71, S.D.=0.49) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากท่ีสุดอยู่ในระดับมากท่ีสุด เท่ากัน
ทงั้ หมด 3 ข้อเรียงตามลาดับคือ วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองที่ถ่ายทอด วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอด
ใชส้ ือ่ เหมาะสม และวิทยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม(μ = 4.71, S.D.=0.49)
2.5 ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก

ตำรำงท่ี 2.5 ผู้เรยี นทีเ่ ข้ำร่วมกจิ กรรมมคี วำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก

ดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก ระดบั ควำมพึงพอใจ
μ S.D. กำรแปลผล
๑. สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณแ์ ละส่ิงอานวยความสะดวก
๒. การสือ่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ให้เกดิ การเรียนรู้ 4.71 0.49 มากท่สี ดุ
๓. การบริการ การชว่ ยเหลือและการแกป้ ัญหา 4.71 0.49 มากทส่ี ุด
4.71 0.49 มากท่ีสุด
รวม
4.71 0.49 มำกทส่ี ดุ

จากตารางที่ 2.5 พบวา่ ผเู้ รยี นที่เข้าตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชนอาชพี ระยะสั้น หลักสตู รการสาน
เสน้ พลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมทู่ ี่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมือง
นครราชสมี า จงั หวดั นครราชสมี า มีความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก โดยภาพรวมอยใู่ นระดับมากที่สุด
(μ = 4.71, S.D. = 0.49) เมือ่ พจิ ารณาเปน็ รายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ
เท่ากนั ทั้ง 3 ข้อคือ คือ สถานที่ วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ อานวยความสะดวก การสอื่ สาร การสร้างบรรยากาศเพอ่ื ให้เกดิ
การเรียนรู้ และการบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ัญหา (μ = 4.71, S.D. = 0.49)

- 23 -

ตอนที่ 3 ข้อมูลผลกำรดำเนินงำนโครงกำร/กจิ กรรม
ดำ้ นท่ี 1 ควำมรู้ควำมเข้ำใจและทกั ษะในกำรเรยี นรู้
ตำรำงท่ี 3.1 ตำรำงวิเครำะห์ดำ้ นควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและทักษะในกำรเรยี นรู้

ดำ้ นควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและทักษะในกำรเรียนรู้ ระดบั ควำมพึงพอใจ
μ S.D. กำรแปลผล
1. ความรู้เก่ยี วกับการสานเส้นพลาสตกิ 5.00 0.00 มากทีส่ ดุ
2. ความรูเ้ กย่ี วกับการฝึกปฎิบตั ิ 5.00 0.00 มากทส่ี ุด
3. เรยี นร้ปู ระโยชนข์ องอาชีพในชมุ ชน และศึกษากลมุ่ อาชีพ 4.71 0.49 มากทสี่ ุด
4. เรียนรูด้ ้านการสร้างอาชพี จากเทคโนโลยกี ารสอื่ สารและการ 4.29 0.76 มากที่สุด
ใช้ระบบออนไลนเ์ พือ่ การประชาสัมพันธอ์ าชพี
4.75 0.31 มำกที่สุด
รวม

จากตารางที่ 3.1 พบวา่ ผเู้ รยี นท่ีเข้ารว่ มตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชนอาชพี ระยะสัน้ หลกั สูตรการสาน

เสน้ พลาสติก ระหวา่ งวนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6ตาบลมะเริง อาเภอเมือง

นครราชสมี า จงั หวัดนครราชสีมา มีความพึงพอใจดา้ นความรู้ความเข้าใจและทักษะในการเรยี นรู้โดยภาพรวมอยู่ใน

ระดบั มากท่ีสดุ (μ = 4.75, S.D. = 0.31) เมือ่ พิจารณาเปน็ รายขอ้ พบวา่ ความพึงพอใจมากทส่ี ุดอยูใ่ นระดับมาก

ทสี่ ดุ มี 2 ขอ้ คือ ความรูเ้ ก่ยี วกับการสานเส้นพลาสตกิ และความรเู้ กี่ยวกับการฝึกปฎบิ ัติ (μ = 5.00, S.D. = 0.00)

รองลงมา คือเรียนร้ปู ระโยชน์ของอาชพี ในชมุ ชน และศึกษากลุม่ อาชีพ (μ = 4.71, S.D. =0.49) รองลงมา คือ

เรียนรูด้ ้านการสร้างอาชพี จากเทคโนโลยีการส่อื สารและการใชร้ ะบบออนไลน์เพ่ือการประชาสมั พันธอ์ าชีพ

(μ = 4.29, S.D. =0.76)

ด้ำนที่ 2 กำรนำควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ตำรำงท่ี 3.2. ตำรำงวิเครำะหด์ ้ำนกำรนำควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ดำ้ นกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ระดับควำมพึงพอใจ

μ S.D. กำรแปลผล

1. ผเู้ รยี นต้องการมรี ายได้ 4.43 0.79 มากทีส่ ดุ

2. ผ้เู รยี นตอ้ งการมอี าชีพ 4.00 1.00 มาก

3. ผเู้ รยี นต้องการไดร้ ับการพฒั นา 4.43 0.79 มากที่สุด

4. ผ้เู รยี นใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 4.71 0.49 มากทีส่ ดุ

5. อน่ื ๆ โปรดระบุ --

รวม 4.39 0.71 มำกทสี่ ดุ

จากตารางท่ี 3.2 พบวา่ ผ้เู รียนท่ีเข้ารว่ มตามโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชนอาชพี ระยะสั้น หลกั สตู รการสานเสน้
พลาสติก ระหวา่ งวนั ที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมูท่ ่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมือง
นครราชสีมา จังหวัดนครราชสมี า พบว่า มีความพึงพอใจด้าน การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มากท่สี ดุ (μ = 4.39, S.D. = 0.71) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดับมากท่ีสดุ
ผเู้ รยี นใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์(μ = 4.71, S.D. = 0.49) รองลงมาเทา่ กนั ท้ัง 2 ขอ้ คอื คือผู้เรยี นตอ้ งการมีรายได้
ผ้เู รยี นต้องการได้รบั การพัฒนา(μ = 4.43, S.D. = 0.79) และความพงึ พอใจมากอยู่ในระดับมา คือผู้เรยี นต้องการมี
อาชีพ(μ = 4.00, S.D. = 1.00)

- 24 -

บทท่ี 5
สรุปผล อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ

สรุปผลการดาเนินงานและความพงึ พอใจของผูเ้ ข้าร่วมพอใจ โครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชนอาชพี ระยะสนั้
หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบล
มะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวดั นครราชสมี า สรุปผลได้ดงั น้ี

สรุปผล
ผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู ควำมร้คู วำมเขำ้ ใจของผู้เรยี นในเนื้อหำสำระ

เปรียบเทียบคะแนนความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนกอ่ นและหลังอบรมโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชนอาชพี
ระยะสั้น หลักสตู รการสานเส้นพลาสตกิ จานวน 7 คน พบว่า ความรคู้ วามเขา้ ใจของผูเ้ รยี น
จากการทดสอบ 2 ครง้ั กอ่ นการอบรม คะแนนเฉลย่ี เท่ากับ 8.86 แตห่ ลงั การอบรม คะแนนเฉลย่ี เท่ากบั 17.28
ซงึ่ แสดงให้เห็นอยา่ งชดั เจนวา่ ผูเ้ รียนมีความร้คู วามเข้าใจเพมิ่ สูงขึน้

ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมูลกำรวัดทกั ษะกำรปฏิบัติงำน
พบว่า ผเู้ รียนมีความพึงพอใจด้านการวดั ทักษะการปฏบิ ัตงิ านตาม โครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชนอาชพี

ระยะสั้น หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหวา่ งวนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมทู่ ่ี
6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสมี า จังหวัดนครราชสมี า มที ักษะการปฏิบตั ิงาน
โดยภาพรวมผู้เรียนจะผา่ นประเมินผลตามโครงการ จานวน 7 คน ซ่งึ เกณฑ์การให้คะแนนจะปรากฏอยู่ในภาคผนวก

ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูลดำ้ นกำรวัดคุณภำพของผลงำน ผลกำรปฏิบตั งิ ำน
พบว่า ผเู้ รยี นมคี วามพึงพอใจด้านการวดั คณุ ภาพของผลวานผลการปฏิบัติงานตามโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพ

ชุมชนอาชีพระยะสน้ั หลกั สตู รการสานเสน้ พลาสตกิ ระหวา่ งวันที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบล
มะเรงิ หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสมี า จงั หวัดนครราชสีมา มผี ลของการปฏิบัติงานของผ้เู รียนโดย
ภาพรวมผู้เรยี นจะผ่านประเมินผลตามโครงการ จานวน 7 คน ซึง่ เกณฑ์การใหค้ ะแนนจะปรากฏอยู่ในภาคผนวก

ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ด้ำนควำมพึงพอใจของผเู้ รียน
ผเู้ รยี นทเ่ี ข้ารว่ มตาม โครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะสัน้ หลกั สตู รการสานเสน้ พลาสติก ระหวา่ ง

วนั ที่ 10-13 กนั ยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หม่ทู ี่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั
นครราชสีมา เป็นเพศหญิงท้ังหมด 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 และมอี ายรุ ะหวา่ ง มอี ายุระหวา่ ง 15-39 ปี คดิ เป็น
ร้อยละ 14.29 อายุระหวา่ ง 40-59 ปี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 71.42 อายุระหว่าง60ปขี ึน้ ไป คดิ เปน็ ร้อยละ 14.29 มี
การศกึ ษาอยูใ่ นระดับประถมศึกษา คดิ เป็นรอ้ ยละ 57.14 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 14.29
มธั ยมศึกษาตอนปลาย คดิ เป็นร้อยละ 28.57

ถ้ำพิจำรณำแยกเป็นด้ำนได้ดังนี้
ด้ำนเน้ือหำ

ผู้เรียนมีความพึงพอใจด้านเน้ือหาตาม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะสั้น หลักสูตรการสานเส้น
พลาสติก ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมือง
นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีความพึงพอใจด้านเน้ือหา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็น
รายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากท่ีสุดอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากันทั้งหมดเรียงตามหัวข้อ เน้ือหาตรงตามความ
ต้องการ เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ เนื้อหาปัจจุบันทันสมัยเนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนา
คุณภาพชีวิต

- 25 -

ด้ำนกระบวนกำรจัดกจิ กรรมกำรอบรม
ผู้เรียนท่ีเข้าร่วมตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่าง

วันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสมี า มคี วามพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เม่ือ
พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากท่ีสุดอยู่ในระดับดีมากท่ีสุดเท่ากันทุกข้อเรียงตามลาดับ การเตรียม
ความพร้อมก่อนอบรม การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา การจัด
กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย และวิธกี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์

ดำ้ นวิทยำกร
ผู้เรียนทเ่ี ขา้ รว่ มตามโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนอาชีพระยะสั้น หลักสูตร การสานเสน้ พลาสติก ระหว่าง

วันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสีมา มีความพึงพอใจด้านวิทยากร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ
พบว่า ความพึงพอใจมากท่ีสุดอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากันทั้งหมด 3 ข้อเรียงตามลาดับคือ วิทยากรมีความรู้
ความสามารถในเร่อื งทถี่ ่ายทอด วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอด ใช้ส่ือเหมาะสม และวิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วน
รว่ มและซกั ถาม

ด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก
ผู้เรียนท่ีเข้าตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่างวันท่ี

10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ท่ี 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัด
นครราชสมี า มคี วามพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นราย
ข้อพบว่า ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดับมากท่ีสุดเท่ากันท้ัง 3 ข้อคือ คือ สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวย
ความสะดวก การสอ่ื สาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือให้เกดิ การเรียนรู้ และการบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ญั หา

ดำ้ นควำมรคู้ วำมเข้ำใจและทักษะในกำรเรยี นรู้
ผู้เรียนท่ีเข้าร่วมตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่าง

วันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัด
นครราชสีมา มีความพึงพอใจด้านความรู้ความเข้าใจและทักษะในการเรียนรู้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อ
พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดับมากที่สุดมี 2 ข้อ คือ ความรู้เกี่ยวกับการสานเส้น
พลาสติก และความรู้เก่ียวกับการฝึกปฎิบัติ รองลงมา คือเรียนรู้ประโยชน์ของอาชีพในชุมชน และศึกษากลุ่มอาชีพ
รองลงมา คือเรียนรู้ด้านการสร้างอาชีพจากเทคโนโลยีการสื่อสารและการใช้ระบบออนไลน์เพ่ือการประชาสัมพันธ์
อาชพี

ด้ำนกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
ผู้เรียนที่เข้าร่วมตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้ัน หลักสูตรการสานเส้นพลาสติก ระหว่าง

วันท่ี 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัด
นครราชสีมา พบว่า มคี วามพงึ พอใจด้าน การนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด เมื่อพิจารณา
เป็นรายข้อพบว่า ความพึงพอใจมากที่สุดอยู่ในระดับมากท่ีสุดผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์รองลงมาเท่ากันทั้ง
2 ข้อคือ คือผู้เรียนต้องการมีรายได้ ผู้เรียนต้องการได้รับการพัฒนาและความพึงพอใจมากอยู่ในระดับมาก คือผู้เรียน
ตอ้ งการมีอาชีพ

- 26 -

อภิปรำยผล
1. ตัวช้วี ดั ผลผลิต ประชาชนทวั่ ไปทเี่ ขา้ ร่วมโครงการมีความรูค้ วามเขา้ ใจอาชพี การแปรรปู ผลติ ภัณฑ์จากปลา

ไดฝ้ ึกทักษะการแปรรูปผลติ ภัณฑจ์ ากปลา และสามารถนาความรู้ที่ได้รบั ไปเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพได้
2. ตัวชี้วดั ผลลพั ธ์
- ร้อยละ 85 ของประชาชนท่วั ไปที่เข้าร่วมโครงการมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจอาชีพการสานเส้นพลาสติก

จากการทดสอบก่อนและหลังการอบรม จะเห็นได้ชัดเจนว่าผู้เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจสงู ขึน้
- ร้อยละ 85 ประชาชนท่ัวไปทเี่ ขา้ รว่ มโครงการได้ฝึกทักษะอาชพี การสานเส้นพลาสติก ซ่ึงกาหนดไวใ้ น

ระดบั มาก และเมอื่ ปฏิบตั ิแล้วสามารถวดั ได้ในระดับมากที่สดุ ซึ่งถอื วา่ บรรลเุ ปา้ หมาย
- ร้อยละ 5 ประชาชนทวั่ ไปที่เข้าร่วมโครงการนาความรทู้ ี่ได้รับไปเปน็ ชอ่ งทางในการประกอบ

คือนางนภาวดี ฤทธ์เิ ดชและนางกญั ญา ไทยมณี
ข้อเสนอแนะ

ควรนาผลการประเมินพอใจ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะสั้นการสานเส้นพลาสติก
ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน พ.ศ. 2564 ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเริง อาเภอ
เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ไปปรับใช้ในโครงการหรือกิจกรรมท่ีเก่ียวข้องต่อไป

- 27 -

ภำคผนวก

- แบบทดสอบก่อนเร่ิมโครงการ-หลังดาเนิน
โครงการ

- แบบประเมินการวัดทักษะการปฏิบัติและการวัด
คุณภาพของผลงานผลการปฏิบัติงานและเจตคติ
ที่ดีต่อกิจกรรม

- แบบประเมนิ ผลโครงการ
- แบบจัดต้ังกลุ่ม
- โครงการ

- 28 -

ชดุ ท่ี 1 ข้อมูลผลการดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรม

คาชีแ้ จง โปรดใส่เคร่ืองหมาย / ลงในชอ่ งวา่ งระดับความคิดเห็นตามความคดิ เหน็ ของทา่ นเพยี งช่องเดียว

ระดับความพึงพอใจ หมาย
เหตุ
ข้อ รายการประเมนิ ความพงึ พอใจ มาก มาก ปาน น้อย น้อย

ท่ีสุด กลาง ทีส่ ุด

ดา้ นท่ี ๑ ความรู้ความเขา้ ใจและทักษะในการเรียนรู้

1 ความรูเ้ ก่ยี วกบั การแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากปลา 7

2 ความรูเ้ ก่ียวกบั การฝกึ ปฏบิ ตั ิ 7

3 เรยี นรปู้ ระโยชนข์ องอาชพี ในชมุ ชน และศกึ ษากลุ่มอาชพี 5 2

4 เรยี นรดู้ า้ นการสรา้ งอาชพี จากเทคโนโลยกี ารสื่อสารและ 3 3 1

การใชร้ ะบบออนไลนเ์ พื่อการประชาสมั พันธอ์ าชีพ

ด้านท่ี ๒ การนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

5 ผู้เรียนตอ้ งการมรี ายได้ 42 1

6 ผ้เู รยี นตอ้ งการมอี าชีพ 31 3

7 ผู้เรยี นต้องการได้รับการพัฒนา 42 1

8 ผู้เรียนใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 52

9 อน่ื ๆ โปรดระบุ

ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ข้อคิดเห็นอื่น
จากการสารวจข้อมูลของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯได้รับความรู้ด้านเนื้อหาตรงกับความต้องการ

ของผู้เข้าร่วมโครงการจากการถ่ายทอดของวิทยากร ครอบคลุมหลักสูตร โดยได้มีการจัดหาวัสดุอุปกรณ์,
สถานที่ในการบรรยาย ระยะเวลาในการฝึกอมและการลงมือปฏิบัติ ได้อย่างเหมาะสม และสามารถนาความรู้ท่ี
ได้รับไปเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพได้

หมายเหตุ สถานศึกษาอาจปรับเปล่ียนตามความเหมาะสมกับโครงการฯ/กิจกรรมท่จี ดั อบรม

- 29 -

ขอขอบคณุ
กศน.อาเภอเมืองนครราชสมี า

- 30 -

แบบประเมนิ ผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชนอาชีพระยะส้นั หลกั สูตรการสานเส้นพลาสติก
ระหวา่ งวนั ท่ี 10-13 เดอื น กันยายน พ.ศ.2564

สถานทีจ่ ดั ณ กศน.ตาบลมะเริง หมู่ที่ 6 ตาบลมะเรงิ อาเภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสีมา

คาชีแ้ จง ใสเ่ ครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ ง  ทตี่ รงกับข้อมูลของทา่ นเพยี งช่องเดียว

สว่ นท่ี 1 ข้อมลู ท่ัวไป

1.1 เพศ  ชาย  หญิง

1.2 อายุ  ต่ากวา่ 15 ปี  15 - 39 ปี  40 - 59 ปี  60 ปขี ้ึนไป

1.3 ระดับการศกึ ษา  ประถม  มธั ยมศึกษาตอนตน้  มธั ยมศึกษาตอนปลาย

1.4 อาชีพ  รบั จ้าง  ค้าขาย  เกษตรกรรม  รับราชการ

 อืน่ ๆ ระบุ……………………………………………..

ส่วนที่ 2 ความคิดเหน็ ของผู้เขา้ รับการอบรม

คาชแ้ี จง ใส่เครื่องหมาย / ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ความคิดเห็นของทา่ นเพยี งช่องเดยี ว

ระดบั ความคิดเหน็

ข้อท่ี รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย

ท่ีสุด กลาง ทสี่ ุด

ด้านเน้ือหา

1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ

2. เน้ือหาเพียงพอต่อความตอ้ งการ

3. เน้อื หาปัจจบุ ันทันสมัย

4. เนอ้ื หามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต

ด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม
5. การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นอบรม

6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์

7. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา

8. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย

9. วิธกี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์

ด้านวทิ ยากร

10. วทิ ยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรือ่ งทถ่ี า่ ยทอด

11. วทิ ยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใชส้ อ่ื เหมาะสม

12. วิทยากรเปดิ โอกาสให้มสี ่วนร่วมและซักถาม

ด้านการอานวยความสะดวก

13. สถานท่ี วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ อานวยความสะดวก

14. การสอ่ื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้

15. การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแกป้ ญั หา

- 31 -

-3

แบบประเมินการวัดทักษะการปฏบิ ัติและการวดั คณุ ภาพ
คาช้แี จง ใหค้ รผู สู้ อน/วิทยากรประเมนิ การวัดทกั ษะการปฏบิ ัตแิ ละกา

ในระหวา่ งทเ่ี รยี นตลอดหลักสูตร

ดา้ นทกั ษะการปฏบิ ตั /ิ ทากิจกรรมตามเน้อื หาหล

ที่ ชื่อ-สกลุ ปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ ง ปฏบิ ตั ไิ ด้ คดั เลือกอปุ กรณ/์ วัสดุ อ
ตามข้นั ตอน ทันเวลา ชนดิ ตา่ งๆมาใช้ได้ ก
1 นางส้มแป้น ยอดวงค์กอง (10) (10) เหมาะสมกบั อปุ กรณท์ ่ี ช
2 นางนภาวดี ฤทธ์ิเดช ต้องการ/การแก้ปญั หา (1
3 นางจิราภา สุขทะเล ได(้ 10)
4 น.ส.เพชรน้าหน่ึง ศรีมะเริง 89
5 นางวันเพ็ญ หล้าทู 89 7
6 นางกัญญา ไทยมณี 99
7 นางรัตนพร ม่ันเขตกร 79 8
89
99 7
99
8

7

7

7

เกณฑ์คะแนนการวดั ระดับการวัดพฤตกิ รรม
0 - 4 = ไม่ผา่ น
5 - 6 = พอใช้
7 = ปานกลาง
8 = ดี
10 = ดีมาก

32 -

พของผลงาน ผลการปฏบิ ัติงานและเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ กิจกรรม
ารวัดคุณภาพของผลงาน /ผลการปฏบิ ตั งิ านและเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ กจิ กรรม
ร (สอดคลอ้ งกบั แบบ กศ.ตน. (1))

ลกั สตู ร ดา้ นคณุ ภาพของผลงาน/ผลการปฏิบัติ

อธิบายหรอื สาธติ มชี ้นิ งาน/ ความแขง็ แรง ความ ความเหมาะสม รวม สรปุ ผล
การนาไปใชใ้ น ผลงานท่ี คงทน/ความ ประหยดั (10) กับกล่มุ เปา้ หมาย
ชีวติ ประจาวนั ได้ ถกู ตอ้ ง สวยงามประณตี สภาพพ้นื ที่ฯลฯ 80
10) สมบรู ณ์ (10) (10)
(10) คะแนน
7
7 8 99 9 66 ดี
7 89 9 66 ดี
7 8 89 9 66 ดี
7 99 9 66 ดี
8 8 99 9 66 ดี
7 99 9 68 ดี
8 99 9 67 ดี

8

8

8

สรปุ ระดบั ค่าคะแนน
0 - 9 = ไมผ่ า่ น
10 - 29 = พอใช้
30 - 49 = ปานกลาง
50 - 69 = ดี
70 - 80 = ดมี าก

- 33 -

คณะทำงำน

ทป่ี รกึ ษำ แบบกลาง ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอเมืองนครราชสีมา
นางกรแกว้ ตงั้ ประเสรฐิ ์ ครชู านาญการพเิ ศษ
นายประสิทธ์ิ ไทยสะเทือน ครู
นางบาเพญ็ แสนจันแดง ครผู ชู้ ่วย
นายอนิ ทัช สวา่ งพลกรัง ครอู าสาสมัคร
นางงามจติ ต์ พรหมดี ครอู าสาสมัคร
นางทัศนา

คณะทำงำน

นางเตือนใจ โพธส์ิ ุ ครู กศน.ตาบลมะเริง คณะทางาน
นายณัฐวฒุ ิ กุศลวงษ์
ครู ศรช. คณะทางาน

- 34 -

คานา

จากการทร่ี ฐั บาลมีนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการ ได้เล็งเห็นความสาคัญประชาชนในเร่ืองการประกอบอาชีพ
สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(สานักงาน กศน.ได้เล็งเห็นความสาคัญท่ี
กระทรวงศึกษาธิการ มอบให้ประชาชนมีเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนักมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจาวันเพ่ิมมากข้ึน จึงเห็นว่าควร
จะไดม้ ีการจดั ฝึกอาชีพใหก้ ับประชาชนทส่ี นใจท่วั ประเทศเพอ่ื ให้ประชาชนที่ว่างงาน หรือมีอาชีพอยู่แล้วต้องการต่อยอด
อาชีพเดิม หรือประชาชนท่ีได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และค่าครองชีพในการดารงชีวิตประจาวันให้มีรายได้
เพม่ิ ขน้ึ จะทาให้ประชาชนมคี วามมนั่ คงในชวี ติ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น และท่ีสอดคล้องกับศักยภาพ
ของแต่ละพื้นที่ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ ความสามารถ เจตคติท่ีดีต่อการประกอบอาชีพ และทักษะท่ี
พัฒนาข้ึนไปใช้ประโยชน์ สามารถสร้างรายได้จรงิ

กศน.ตาบลมะเริง ได้จัดทาสรุปรายงานผลการประเมินโครงการ ในวันที่ 10-13 กันยายน ๒๕64 ณ กศน.
ตาบลมะเรงิ ตาบลมะเริง อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และหวังเป็นอย่างย่ิงว่ารายงานผลการประเมินอาชีพระยะ
สั้น วชิ าการทาดอกไม้จนั ทน์เล่มนคี้ งจะเปน็ ประโยชน์กบั ผทู้ ่ีเกี่ยวข้องตอ่ ไป

นางเตอื นใจ โพธิ์สุ
หวั หน้ากศน.ตาบลมะเริง

- 35 - หนา้

สารบัญ ก

คานา ๑
บทคัดยอ่
บทที่ ๑ บทนา 1
บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง
บทที่ ๓ วธิ ีการประเมินโครงการ 3
บทท่ี ๔ ผลการประเมนิ โครงการ 14
บทที่ ๕ สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 18
24


Click to View FlipBook Version