โครงสรา้ งรายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน ม.1 และกำหนดการสอน
สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชีว้ ดั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ
คิดเห็นอยา่ งมเี หตุผล
ต 1.1 ม. 1/1 ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชแี้ จงง่าย ๆ ทีฟ่ ังและอ่าน
ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้น ๆ ถูกต้องตาม
หลักการอา่ น
ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text
information) ทีอ่ ่าน
ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟัง
และอ่านบทสนทนา นทิ าน และเรอ่ื งสัน้
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจำวนั
ต 1.2 ม. 1/2 ใชค้ ำขอรอ้ ง ใหค้ ำแนะนำ และคำชีแ้ จงตามสถานการณ์
ต 1.2 ม. 1/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วาม
ช่วยเหลือในสถานการณต์ า่ ง ๆ อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเรื่องท่ีฟังหรืออ่าน
อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 1/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเก่ยี วกบั เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว
กจิ กรรมตา่ ง ๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องตา่ ง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ
ส่งิ แวดล้อมใกลต้ ัว
ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ (theme) ที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/
เหตกุ ารณ์ท่อี ยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 1/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรือเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว พร้อมทั้งให้
เหตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ
นำไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม. 1/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม. 1/2 บรรยายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของ
ภาษา
ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่าง
ประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ม. 1/2 เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ
และชวี ิตความเปน็ อย่ขู องเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่นและเป็น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
ต 3.1 ม. 1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานที่ศึกษา ชุมชน และ
สังคม
ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและ
สถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ ับสังคมโลก
ต 4.2 ม. 1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้าความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่ง
การเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี
คุณภาพผู้เรยี น
จบช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3
ปฏบิ ัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธบิ ายทีฟ่ ังและอา่ น อ่านออกเสียงข้อความ
ขา่ ว โฆษณา นิทาน และบทร้อยกรองสนั้ ๆ ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น ระบ/ุ เขยี นสอ่ื ท่ีไม่ใช่ความเรียง
รูปแบบต่าง ๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ
รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งท่ฟี งั และอ่านจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ พร้อม
ทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว เร่ือง
ที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ใช้คำขอร้อง คำชี้แจง และ
คำอธิบาย ใหค้ ำแนะนำอย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลอื
ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย
เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทีฟ่ งั หรืออ่านอย่างเหมาะสม พูดและเขียนบรรยาย
ความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็นต่าง ๆ ที่
อยู่ในความสนใจของสังคม พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการ
วิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็น
เกยี่ วกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ พรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบ
เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของ
เจ้าของภาษา เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
เปรียบเทียบ และอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิด
ต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบ
และอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยูแ่ ละวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ของไทย และนำไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจริงท่ีเกีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหลง่
การเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน
ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
ชุมชน และสงั คม
ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากส่ือ
และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ข้อมูล
ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถน่ิ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ
มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับ
ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและ
สวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเที่ยว การบริการ สถานที่
ภาษา และวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภายในวงคำศพั ทป์ ระมาณ ๒,๑๐๐-๒,๒๕๐ คำ (คำศัพทท์ ีเ่ ป็น
นามธรรมมากข้นึ )
ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน (Complex Sentences) สื่อความหมายตามบริบท
ตา่ ง ๆ ในกาสนทนาทงั้ ท่ีเปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ
รายวชิ าพ้นื ฐาน คำอธิบายรายวิชา
รหัสวิชา อ21101
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
วชิ า ภาษาอังกฤษ 1
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน เข้าใจภาษา ท่าทาง น้ำเสียงความรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำ
ขอร้อง คำแนะนำ คำอธบิ าย อา่ นออกเสยี งบทอา่ นไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการออกเสียง
โดยใช้กระบวนการฟัง การอ่านตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจำวันอย่างมีวิจารณญาณ แลกเปลี่ยนขอ้ มูลแสดงความคิดเห็น ความต้องการ เสนอขอความ
ช่วยเหลือและบริการ แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และสิ่งที่ตนสนใจใน
อดีต ปัจจุบันและอนาคต ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในและนอกสถานศึกษาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ได้
ถูกต้องตามกาลเทศะ ใช้กระบวนการพูดการเขียน นำเสนอข้อมูล เรื่องราวสั้น ๆ กิจวัตรประจำวัน
บทเพลง ความคิดรวบยอดที่มีตอ่ ประสบการณส์ ว่ นตัว เหตุการณต์ ่าง ๆ ในทอ้ งถ่ินไดอ้ ย่างสร้างสรรค์
เข้าร่วมกจิ กรรมทางวัฒนธรรมประเพณี และวันสำคญั ของเจา้ ของภาษา ใชภ้ าษาเปน็ เครอื่ งมือในการ
เรียนรู้ในสถานศึกษา เทคโนโลยีและการจัดการที่เหมาะสม แสวงหาความรู้เพิ่มเติมตามความสนใจ
เพอ่ื เป็นพื้นฐานในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ
มาตรฐานและตวั ชี้วดั (20 ตัวช้วี ัด) ต. 1.1 ม.1/4 ต. 1.2 ม.1/5
ต. 1.1 ม.1/1 ต. 1.1 ม.1/2 ต. 1.1 ม.1/3 ต. 1.2 ม.1/4
ต. 1.2 ม.1/1 ต. 1.2 ม.1/2 ต. 1.2 ม.1/3
ต. 1.3 ม.1/1 ต. 1.3 ม.1/2 ต. 1.3 ม.1/3
ต. 2.1 ม.1/1 ต. 2.1 ม.1/2 ต. 2.1 ม.1/3
ต. 2.2 ม.1/1 ต. 2.2 ม.1/2
ต. 3.1 ม.1/1
ต. 4.1 ม.1/1
ต. 4.2 ม.1/1
โครงสรา้ งเวลาเรยี น ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
เวลาเรียน 60 ชั่วโมง/ภาค
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 1 รหัสวิชา อ21101
ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง /สัปดาห์
หน่วย ชือ่ หนว่ ย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ภาระ เวลา นำ้ หนัก
ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด งาน (ชว่ั โมง) คะแนน
Orientation
หลกั สตู รภาษาองั กฤษ ม.1 -แบบทดสอบ 1
Pre test -Vocabularies 2
-Grammar
-Expression and
Conversation
-Wants and Needs in
English Classroom
1 Getting to ต 1.1 ม.1/1 Vocabulary -คำพดู ทักทาย 12 10
know you ต 1.1 ม.1/2 -Names and Jobs และแนะนำ
and me ต 1.1 ม.1/3 -Country and Nationality ตนเอง
ต 1.1 ม.1/4 -Alphabet -แสดงบทบาท
ต 1.3 ม.1/1 -Greetings สมมุติ
ต 2.1 ม.1/1 Structure -การแสดง
ต 2.1 ม.1/3 -Present simple tense with กริ ิยาทา่ ทาง
ต 3.1 ม.1/1 “be” ในการพดู
ต 4.1 ม.1/1 -Possessive Adjectives ทักทายและ
Function แนะนำตนเอง
-Greeting and introductions -แบบฝกึ หัด
-How to say and spell your เขียนเก่ียวกบั
name ตนเอง
-Asking and giving
information
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ช้นิ งาน/ภาระ เวลา น้ำหนัก
ท่ี การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวช้ีวัด งาน (ชั่วโมง) คะแนน
2 Getting to ต 1.1 ม.1/3 Vocabulary -ตอบคำถามจาก 12 10
การอา่ นบท
know my ต 1.1 ม.1/4 -Family words สนทนาเก่ยี วกบั
สมาชกิ ใน
family ต 1.3 ม.1/1 -Family relation ครอบครัว
-ใบงาน
ต 2.1 ม.1/3 Structure -แบบฝกึ หัด
ต 3.1 ม.1/1 -Present simple tense with
ต 4.1 ม.1/1 “have”
Function
-Talk about family
-Asking and giving
information
3 Getting ต 1.1 ม.1/1 Vocabulary -อา่ นออกเสียง 11 10
ประโยค
to know my ต 1.1 ม.1/2 -Electronic -ใบงานคำศพั ท์
และสัญลักษณ์
school ต 1.1 ม.1/3 -Location -แบบฝึกหดั
-แบบทดสอบ
ต 1.1 ม.1/4 -Sports
ต 1.2 ม.1/1 -Signs
ต 1.2 ม.1/2 Structure
ต 1.3 ม.1/1 -Definite and Indefinite
ต 2.1 ม.1/1 articles “a , an, the”
ต 2.2 ม.1/1 Function
ต 2.1 ม.1/2 -Talking and giving the
ต 3.1 ม.1/1 names of objects
Mid Term Examination 1 20
10 10
4 Getting to ต 1.1 ม.1/3 Vocabulary -การอ่านออก
เสยี งประโยค
know my ต 1.1 ม.1/4 -Places -ใบงานคำศพั ท์
สถานที่
town ต 1.2 ม.1/1 -Location -ใบงาน
สัญลกั ษณ์
ต 1.2 ม.1/2 -Attractive places -แบบฝกึ หัด
ต 1.2 ม.1/3 -Signs
ต 1.2 ม.1/5 -Famous people
ต 2.1 ม.1/1
หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ช้นิ งาน/ภาระ เวลา นำ้ หนกั
ท่ี การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั งาน (ชว่ั โมง) คะแนน
ต 2.2 ม.1/2 Structure
5 Getting to ต 3.1 ม.1/1 -Let’s + verb -แบบทดสอบ 10 10
know my ต 4.1 ม. 1/1 -Prepositions of places
neighbor -Prepositions of time -ใบงาน 1
ต 2.2 ม.1/1 Function -แบบฝกึ หัด 30
Review ต 3.1 ม.1/1 -Talking about places -แบบทดสอบ
60 100
Vocabulary
-Name of country
-Nationality
-My friends
-Numbers
Structure
-Verb.to.be : Plural
-negative
-Question Words : How old
Where
Function
-Saying where you are from
Final Examination
Total
แผนการจดั การเรียนรู้ รหสั วชิ า อ22201
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
ชือ่ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ1 เรื่อง Preposition of place
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 Getting to know my town เวลา 50 นาที
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ
คดิ เห็นอย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text
information) ทอี่ า่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 ม. 1/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเร่ืองที่ฟังหรืออ่าน
อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 1/5 พดู และเขยี นแสดงความร้สู ึก และความคดิ เห็นของตนเองเกย่ี วกับเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว
กิจกรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ
นำไปใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ต 2.1 ม. 1/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื และเป็น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ต 3.1 ม. 1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานที่ศึกษา ชุมชน และ
สงั คม
ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
รู้คำศัพท์เกี่ยวกับคำบุพบทบอกตำแหน่ง ช่วยให้สามารถพูดขอและให้ข้อมูลเรื่องที่อ่านและ
สอ่ื สารตามโครงสรา้ งภาษาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง โดยใชศ้ พั ทส์ ำนวนทีเ่ หมาะสมกับกาลเทศะและวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกคำศัพทต์ ำแหน่งของสถานท่ีไดถ้ ูกตอ้ ง (K)
2. นักเรยี นออกเสยี งคำศพั ท์ ประโยค ได้ถกู ต้องตามหลกั การอา่ นออกเสยี ง (P)
3. นักเรยี นพดู ถาม-ตอบเกย่ี วกับตำแหนง่ ของสถานที่ได้ (P)
4. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผอู้ ่นื ได้ (A)
5. นักเรยี นเหน็ คณุ คา่ ในการสอื่ สารโดยใช้ภาษาอังกฤษเปน็ สื่อกลาง (A)
4. สาระการเรยี นรู้
Vocabulary in / on / under / in front of / opposite / behind / next to / between
Sentence Where is the ....................? It is ................... the............... .
5. ทกั ษะของผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรยี นรู้ 3R 8C 2Ls
1. ทักษะในสาระวิชาหลัก (3Rs)
Reading (ทกั ษะการอา่ น)
(W) Riting (ทกั ษะการเขียน)
(A) Rithmetics (ทักษะการคำนวน)
2. ทักษะการเรยี นรู้และนวตั กรรม (8Cs)
ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา
(Critical Thinking & Problem Solving)
ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity & Innovation)
ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผูน้ ำ
(Collaboration, Teamwork & Leadership)
ทักษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์
(Cross-cultural Understanding)
ทกั ษะดา้ นการสอื่ สาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอื่
(Communications, Information & Media Literacy)
ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
(Computing & Media literacy)
ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง
(Career & Learning Self-reliance)
คณุ ธรรม เมตตา กรุณา ระเบยี บวนิ ยั (Compassion)
3. ทักษะชวี ิตและอาชพี (2Ls)
Learning Skills (ทกั ษะการเรียนร้)ู
Leadership (ภาวะผนู้ ำ)
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอน
2. PowerPoint
3. วิดีโอประกอบการสอน
4. แบบฝึกหัด
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
9.1 ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน (Introduction)
1. ครูให้นกั เรยี นดวู ิดีโอ (ทบทวนบทเรียน)
https://www.youtube.com/watch?v=EfD2k9beP-4&ab_channel=EnglishSingsing
2. ครูตั้งคำถามเกีย่ วกับคลปิ วิดีโอ
Teacher: How many places in this video, there are?
Teacher: Can you tell where the supermarket is?
9.2 ขั้นนำเสนอเนอ้ื หา (Presentation)
1. ครูบอกความหมายของ Preposition of place
2. ครูนำเสนอบตั รคำศัพท์ใน PowerPoint
3. นักเรยี นอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศพั ท์
Vocabularies: in / on / under / in front of / opposite / behind /
next to / between
4. ครนู ำเสนอประโยคการบอกตำแหนง่
Sentence: The supermarket is …………………………. the police station.
5. ครูนำเสนอประโยคสนทนาการถาม-ตอบ
Sentence: A: Excuse me. Where is the …………………………., please?
B: It is …………………………... the ................................ .
A: Thank you.
9.3 ข้นั ฝกึ (Practice)
1. ครูนำเสนอรปู ภาพแผนท่ีทตี่ ้ังของสถานท่ี
2. นักเรยี นช่วยกันตอบคำถามให้พรอ้ มกนั
3. ครูส่มุ นกั เรียนตอบและครูเฉลยคำตอบทถ่ี ูกต้อง
9.4 ข้ันนำไปใช้ (Production)
1. นกั เรียนทำแบบฝึกหัด
2. ครูให้ความชว่ ยเหลอื และตรวจสอบว่านกั เรียนเขา้ ใจและทำได้ ถูกตอ้ งตามคำสัง่
3. นกั เรียนจบั คู่สนทนาหนา้ ชน้ั เรยี น
9.5. ขน้ั สรปุ (Production)
1.นักเรยี นสรปุ บทเรียนร่วมกับครูผู้สอน
10. การวดั และการประเมนิ ผล
ส่ิงทว่ี ัด วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
1.ความเข้าใจใน
บทเรียน 1. ตรวจคำตอบจาก แบบฝึกหดั ระดบั คณุ ภาพ ดี ข้นึ
1. การถาม-ตอบ
อธิบายตำแหน่งของ คำถาม ไป
สถานท่ี
2. สงั เกตการพดู แบบประเมินการพูด ระดับคณุ ภาพ ดี ข้ึน
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้ สนทนา การออก ไป
3. มุง่ มั่นในการ
ทำงาน เสยี ง และการใช้
ประโยคของนกั เรยี น
3. การประเมนิ แบบประเมินพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ ดี ขนึ้
พฤติกรรม ทำงานรายบคุ คล คุณลกั ษณะอัน ไป
พงึ ประสงค์ สมรรถนะ
11. บันทึกหลงั การสอน
1. ผลการจดั การเรียนรู้
จากการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง Preposition of Place นักเรียน
จำนวน……….คน ผลปรากฏ ดังน้ี
1) นักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมใน กจิ กรรมท่ี 1
ผ่านคดิ เป็นรอ้ ยละ.....................และไมผ่ า่ นคิดเปน็ ร้อยละ...........................
2) นักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมใน กจิ กรรมท่ี 2
ผ่านคดิ เป็นรอ้ ยละ.....................และไมผ่ า่ นคดิ เป็นรอ้ ยละ...........................
3) นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมใน กิจกรรมที่ 3
ผา่ นคิดเป็นรอ้ ยละ.....................และไมผ่ ่านคดิ เปน็ ร้อยละ...........................
4) นกั เรยี นผ่านการประเมนิ สมรรถนะท่ีสำคญั
ผ่านคิดเป็นร้อยละ.....................และไมผ่ ่านคิดเป็นร้อยละ...........................
5) นกั เรียนผ่านการประเมินทักษะผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 21
ผ่านคิดเปน็ รอ้ ยละ.....................และไม่ผา่ นคิดเป็นรอ้ ยละ...........................
6) นกั เรียนผ่านการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ผ่านคิดเป็นร้อยละ.....................และไม่ผ่านคดิ เปน็ ร้อยละ...........................
2. เวลาในการจดั การเรยี นรู้
ตรงตามแผน ฯ นอ้ ยกว่าแผน ฯ มากกว่าแผน ฯ
3. การใชส้ อ่ื /แหลง่ เรียนรู้
ตรงตามแผน ฯ
ไมต่ รงตามแผน ฯ เพราะ .....................................................................................
4. ปัญหาและอุปสรรค
1) นกั เรียนท่ีไม่ผา่ นการทดสอบ การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ไดด้ ำเนินการแก้ไขโดย
...............................................................................................................................................................
..........................................................................................................ผลการแก้ไข ผ่าน ไมผ่ ่าน
2) นกั เรียนไมผ่ ่านการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ไดด้ ำเนินการแก้ไขโดย
...............................................................................................................................................................
..........................................................................................................ผลการแก้ไข ผา่ น ไมผ่ า่ น
3) นักเรยี นไมผ่ า่ นการประเมนิ ทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 ได้ดำเนินการแก้ไขโดย
...............................................................................................................................................................
..........................................................................................................ผลการแก้ไข ผา่ น ไมผ่ า่ น
4) นกั เรยี นไมผ่ ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ดำเนินการแก้ ไขโดย
...............................................................................................................................................................
..........................................................................................................ผลการแก้ไข ผา่ น ไมผ่ ่าน
5. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………...
ลงช่ือ.......................................................
(นางสาวอัสมานี ดือราฮิง)
ตำแหนง่ .....................................
ความเห็นของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ.......................................................
(...............................................)
ตำแหน่ง หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ
ความเหน็ ของฝา่ ยวชิ าการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ.......................................................
(..................................................)
ตำแหนง่ หวั หนา้ ฝา่ ยวชิ าการ
ความเห็นของผบู้ ริหาร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ .......................................................
(.................................................)
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น
ภาคผนวก
ใบงานที่ 1 เรือ่ ง Where is the places…
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง Preposition of place
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1 อ21101 ภาคเรียนท่1ี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1
Direction: Look at the map and read the sentences.
If the sentence is true ✓(T) or the sentence is false ✓(F).
School car park library bus station mosque park
------------------------------------------------------------------------------------------------
Train station restaurant zoo cinema café mart
Sentences TF
Example: The zoo is near the restaurant. ✓
1. The mosque is opposite the supermarket.
2. The café is between the cinema and the library.
3. The school is next to the car park.
4. The zoo is next to the restaurant.
5. The restaurant is in front of the zoo.
6. The train station is opposite the mosque.
7. The mart is next to the café.
8. The park is left side of the mosque.
9. The mosque is opposite the supermarket.
10. The bus station is near the school.
ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง Tell me where……
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง Preposition of place
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1 อ21101 ภาคเรียนท่1ี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
Direction: Look at the map and complete the sentences with preposition of place.
1. The zoo is ………………………………..……………………. the cinema.
2. The park is ………………………………………………….. the clothes shop.
3. The cinema is…………………………………………………… the school.
4. The car park is …………………………………………… the cinema and Green restaurant.
5. The Green restaurant is ……………………………………………….. Athena restaurant.
6. The hospital is ………………………..………………..…… the sport shop.
7. The café Blue is ……………………………………………..the school.
8. The stadium is ………………………………………….…………..…… the ice rink.
9. The swimming pool is ……………………….……………….. the sport centre.
10. The coco café is …………………………………………………. computer shop and clothes shop.
ใบงานที่ 3 เร่อื ง Where is it?
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง Preposition of place
รายวิชา ภาษาองั กฤษ 1 อ21101 ภาคเรียนที่1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
Direction: Look at the map and make a conversation by using the following sentences.
(work in pair)
A: Excuse me. Where is the ……………………………….……………., please?
B: It is …………………………………... .................................................. .
A: Thank you.
เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเด็นการ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรบั ปรงุ )
ประเมิน ใชค้ ำศพั ทใ์ นการ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) ไม่สามารถใช้
เขียนไดอ้ ย่าง ใชค้ ำศพั ทใ์ นการ ใช้คำศัพท์ในการ คำศพั ทใ์ นการ
ความถกู ต้องของ เหมาะสมและ เขียนส่วนใหญ่ ได้ เขยี นผิดเป็นส่วน เขียนได้
คำศัพท์ ถกู ตอ้ ง อยา่ งเหมาะสมและ ใหญแ่ ต่ยังเขา้ ใจ
ถูกตอ้ ง ความหมาย
การพดู พูดสนทนาได้ พูดสนทนาได้ พูดสนทนายงั ไม่ พดู สนทนาขาด
ถูกต้อง ถกู ต้อง ออกเสยี ง ถกู ตอ้ ง ความคลอ่ งแคลว่
ออกเสยี งถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ งชดั เจน ออกเสียงไมค่ อ่ ย ออกเสียงไม่
ชดั เจน และใช้ประโยค ชดั เจน และใช้ ชดั เจน และใช้
และใชป้ ระโยค ถูกตอ้ งตาม ประโยคไมค่ อ่ ยได้ ประโยคไม่ได้
ถูกต้องตาม โครงสรา้ ง เป็นส่วน
โครงสรา้ ง ใหญ่
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง Preposition of place
คําช้แี จง
ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมนักเรียนเกี่ยวกับความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน
โดยพิจารณาจากเกณฑ์ทีก่ ำหนดแลว้ เขียนผลการประเมนิ เป็นตัวเลขใสล่ งในช่องตามหวั ข้อที่ประเมิน
กรณีทีต่ อ้ งการบันทึกพฤตกิ รรมทสี่ ังเกตพบเพ่มิ เตมิ ให้บนั ทึกในชอ่ งหมายเหตุ
เลขที่ ช่อื - สกุล มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการ หมายเหตุ
ทำงาน
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คณุ ลกั ษณะอนั พึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงค์ 321
1.1 ตรงตอ่ เวลา
1. มีวนิ ยั 1.2 ปฏบิ ัติงานเรียบรอ้ ยเหมาะสม
1.3 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง
2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 กระตอื รอื รน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู
2.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ
3. มงุ่ มนั่ ในการ 2.3 สรุปความร้ไู ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
ทำงาน 3.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั
มอบหมาย
3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพอื่ ใหง้ าน
สำเร็จ
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิบางคร้ัง