The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์อิเหนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Preeyapohn D., 2019-07-15 09:29:57

วิเคราะห์อิเหนา

วิเคราะห์อิเหนา

Keywords: วิเคราะห์อิเหนา

วเิ คราะห์คุณค่า
อเิ หนา ตอนศึกกะหมงั กหุ นิง

แนวคดิ ของเร่ือง

แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อ(ระตูกะหมงั กหุ นิง)
ที่มตี ่อลูก(วหิ ยาสะกา) รักและตามใจลูกทุกอย่าง

แม้กระท่ังตวั ตายกย็ อม

๑. ถ้อยคาและการใช้ภาษา

การใช้อุปมาโวหาร

กรุงกษัตริย์ขอขนึ้ กน็ ับร้อย เราเป็ นเมอื งน้อยกะจิหริด
ดงั ห่ิงห้อยจะแข่งแสงอาทติ ย์ เห็นผดิ ระบอบบุราณมา

ระตูปาหยงั กบั ระตูประหมนั เตอื นระตูกะหมงั กหุ นิง
โดยการเปรียบเทยี บว่าเราเป็ นเมอื งเลก็ ดงั แสงห่ิงห้อย
จะไปแข่งกบั วงศ์เทวาทเ่ี หมอื นดงั แสงอาทติ ย์ได้อย่างไร

ผดิ กท็ าสงครามดูตามที เคราะห์ดกี จ็ ะได้ดงั ใฝ่ ฝัน

พดี่ งั พฤกษาพนาวนั จะอาสัญเพราะลูกเหมอื นกล่าวมา

ท้าวกะหมงั กหุ นิงไม่ฟังคาเตอื นของน้องท้งั สอง
โดยให้เหตุผลว่าหากรบชนะ กจ็ ะได้บุษบามาให้วหิ ยาสะกา
แต่ถ้าหากไม่รบ วิหยาสะกาคงตรอมใจตาย และตนเองคงตายตาม
ลูก เป็ นการเปรียบเทยี บตนเองกบั ต้นไม้บางชนิดทตี่ ายเพราะลูก
เช่น ต้นกล้วยทเ่ี มอื่ มลี ูกแล้วต้นกล้วยกไ็ ม่เจริญอกี ต่อไป รอวนั ตาย

แล้วว่าอนิจจาความรัก พง่ึ ประจักษ์ดงั สายนา้ ไหล
ต้ังแต่จะเช่ียวเป็ นเกลยี วไป ทไ่ี หนเลยจะไหลคนื มา

นางจินตหราวาตีตดั พ้ออเิ หนาทีต่ ้องจากตนไปรบ
ทเ่ี มอื งของบุษบา

โดยการเปรียบเทยี บความรักกบั สายนา้
ท่ีไหลไปแล้วไม่มวี นั ไหลย้อนคนื มา

ใช่นางเกดิ ในปทุมา สุริย์วงศ์พงศาน้ันหาไม่
จะมาช่วงชิงกนั ดงั ผลไม้ อนั จะได้นางไปอย่าสงกา

อเิ หนาบอกกบั กองทพั ทจ่ี ะยกมาสู้กบั จรกา ณ เมอื งดาหา
ว่าจรกาไม่ได้อยู่ทน่ี ี่ และบอกศัตรูไปว่า

“บุษบา เป็ นคน ใช่จะมาแย่งชิงกนั ดงั ผลไม้”

บทสัลลาปังคพสิ ัย ๑. ถ้อยคาและการใช้ภาษา

สตรีใดในพภิ พจบแดน ไม่มใี ครได้แค้นเหมอื นอกข้า
ด้วยใฝ่ รักให้เกนิ พกั ตรา จะมแี ต่เวทนาเป็ นเนืองนิตย์
โอ้ว่าน่าเสียดายตวั นัก เพราะเชื่อลนิ้ หลงรักจงึ ช้าจติ
จะออกช่ือลอื ช่ัวไปทว่ั ทศิ เมอื่ พล้งั คดิ ผดิ แล้วจะโทษใคร

จนิ ตราคร่าครวญเม่อื อิเหนาจาต้องยกทัพไปดาหา ว่า
คงไม่มสี ตรีในบนแผ่นดนิ นี้ ทจ่ี ะเจบ็ ช้าเพราะรักได้เท่านาง
เสียดายตวั ทย่ี อมตกเป็ นภรรยาอเิ หนาท้งั ทยี่ งั ไม่ได้แต่งงาน

เพราะเชื่อในคาว่ารัก จนคนเขารู้กนั ทวั่
จะโทษใครกไ็ ม่ได้เพราะทาตนเอง

๒. จินตนาการของผู้แต่ง

มอี ารมณ์ละเอยี ดอ่อน
พรรณนาให้ผู้อ่านเกดิ จินตภาพ

ด้านอารมณ์ความรู้สึกตาม
เป็ นฉากท่อี เิ หนาคดิ ถึง

ภรรยาท้งั ๓ คน ทตี่ ้องจากมา

ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจบั ไม้องึ มี่
เบญจวรรณจับวลั ย์ชาลี เหมอื นวนั พไี่ กลสามสุดามา

อเิ หนาพูดพลางมองดูนกทบี่ นิ ไปเกาะกงิ่ ไม้จนเกดิ เสียง
นกเบญจวรรณจับเครือตาข่ายเถาวลั ย์
เหมอื นวนั ทอ่ี เิ หนาจากภรรยาท้งั สามมา

นางนวลจบั นางนวลนอน เหมอื นพแ่ี นบนวลสมรจนิ ตะหรา
จากพรากจบั จากจานรรจา เหมอื นจากนางสการะวาตี

นกนางนวลเกาะนอนอยู่ทตี่ ้นนางนวล
กค็ ดิ ถงึ วนั ที่ตนเององิ แอบแนบจินตะหรา
นกจากพรากเกาะต้นจากแล้วส่ งเสียง
เหมอื นตนเองจากนางสการะวาตมี า

แขกเต้าจบั เต่าร้างร้อง เหมอื นร้างห้องมาหยารัศมี
นกแก้วจบั แก้วพาที เหมอื นแก้วพท่ี ้งั สามส่ังความมา

นกแขกเต้าจบั ต้นเต่าร้างส่งเสียงร้อง
เหมอื นตนเองต้องจากนางมาหยารัศมี
นกแก้วจับต้นแก้วส่ งเสียงพูดเจรจา
กค็ ดิ ถงึ ตอนนางท้งั สามสั่งลา

ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมอื นเวรใดให้นิราศเสน่หา

เค้าโมงจบั โมงอยู่เอกา เหมอื นพน่ี ับโมงมาเมอ่ื ไกลนาง

นกตระเวนไพรบนิ ส่งเสียงร้องไปรอบป่ า
เหมอื นเวรกรรมทีต่ นต้องจากชายามา
นกเค้าโมงจับต้นโมงอยู่โดดเดยี่ ว
เหมอื นตนทนี่ ับโมงยามว่าจากชายามานานเท่าไรแล้ว

คบั แคจบั แคสันโดษเดยี่ ว เหมอื นเปล่าเปลย่ี วคบั ใจในไพรกว้าง
ชมวหิ คนกไม้ไปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี

เป็ ดคบั แคจบั ต้นแคอยู่ตวั เดยี ว
เหมอื นตวั เองทก่ี าลงั เปล่าเปลยี่ วใจในป่ าใหญ่แห่งนี้
อเิ หนาชมนกชมไม้ไปตามทาง ก่อนส่ังทหารให้รีบเดนิ ทาง

ฉาก

เรื่องอเิ หนาเป็ นเร่ืองของชวา
ซ่ึงผู้แต่งได้ดดั แปลงให้สอดคล้องกบั ขนบธรรมเนียม

และวฒั นธรรมไทยอย่างกลมกลนื
ดงั น้ันการบรรยายฉากในเร่ืองจงึ เป็ น
สภาพบ้านเมอื งของไทย อนั หมายถงึ ยคุ รัตนโกสินทร์ คอื กรุงเทพฯ

ฉาก

วฒั นธรรมประเพณีทป่ี รากฏในเร่ือง
เป็ นเร่ืองของไทยสอดแทรกไว้อย่างมศี ิลปะ
พระราชพธิ ีการพระเมรุทเ่ี มอื งหมนั หยา

พระราชพธิ ีรับแขกเมอื ง
พระราชพธิ ีโสกนั ต์

ล้วนเป็ นพระราชพธิ ีโบราณของไทย

๓. คุณค่าด้านวถิ ชี ีวติ และวฒั นธรรม

๓.๑ การรับราชสาร จดั ขบวนอย่างราชอสิ ริยยศ

- ทูกว่าท้าวกะหมงั กหุ นิงน้ัน แต่งเคร่ืองสุวรรณบรรณาการ
ให้ทูตถอื มาถงึ ธานี บดั นีย้ งั หยดุ อยู่ทปี่ ลายด่าน
จะขอเข้ามาเฝ้ าบทมาลย์ พระผู้ผ่านเขตขัณฑ์สวรรยา

- จดั เครื่องแห่แหนต่างต่าง ตามอย่างเคยรับราชสาร
คานับรับราชสารพลนั แห่แหนแน่นนันต์เข้าธานี

- พาไปสู่ศาลาทอี่ าศัย ท้งั นายไพร่เป็ นสุขเกษมศรี
จงึ ให้อาลกั ษณ์พนักงาน รับราชสารมาอ่านพลนั

๓.๒ การใช้ภาษาในการสู่ขอ

หวงั เป็ นเกอื กทองรองบาทา พระผู้วงศ์เทวาอนั ปรากฏ

จะขอพระบุตรีมยี ศ ให้โอรสข้าน้อยดงั จนิ ดา

อนั กรุงไกรไอศูรย์ท้งั สอง จะเป็ นทองแผ่นเดยี วไปวนั หน้า

ขอพานักพกั พงึ่ พระเดชา ไปกว่าชีวนั จะบรรลยั

ท้าวกะหมงั กหุ นิงส่งราชสารมาขอบุษบาให้วหิ ยาสะกา
เป็ นการใช้คาพูดอย่างนอบน้อม แสดงความเคารพ

๓.๓ การเกณฑ์ทหารเข้าประจากองทพั

เร่งรัดขนุ หมน่ื สัสดี ทาบาญชีหางว่าวเลกสม
เกณฑ์ทหารพลเรือนเตอื นระดม มาพร้อมกนั ทุกกรมมากมาย
ขุนนางเจ้าตาแหน่งแสงนอก เอาดาบหอกปื นผาออกมาจ่าย
หมวกเสื้อสาหรับรบครบไพร่นาย แจกจาหน่ายลูกดนิ ศิลา

เร่งทาบญั ชีเรียกเกณฑ์กาลงั พลทหาร จากทุก ๆ กรมมารวมกนั
ขุนนางต่างกห็ อบเอา ดาบ หอก ปื นผา หมวกและเสื้อ
เพอื่ ให้สาหรับไพร่พลทจ่ี ะออกศึก รวมถึงลูกกระสุนดนิ

๓.๔ การรักษาเกยี รติยศทตี่ ้องมนั่ คงในคู่หม้นั

อนั อะหนะบุษบาบงั อร คร้ังก่อนจรกาตุนาหงนั
ได้ปลดปลงลงใจให้ปัน นัดกนั จะแต่งการววิ าห์
ซ่ึงจะรับของสู่ระตูนี้ เห็นผดิ ประเพณหี นักหนา
ฝูงคนท้งั แผ่นดนิ จะนินทา สิ่งของทเ่ี อามาจงคนื ไป

บุษบาได้รับหม้นั จรกาแล้ว การรับของสู่ขอจากเมอื งอนื่
เป็ นเร่ืองทไี่ ม่สมควร ผดิ ประเพณี

๓.๕ ความเช่ือโหราศาสตร์

เทยี บดูดวงชะตาพระทรงยศ กบั โอรสถึงฆาตชันษา

ท้งั ช้ันโชคโยคยามยาตรา พระเคราะห์ขดั ฤกษ์พาสารพนั

คนสมยั ก่อนมคี วามเช่ือเรื่องดวงชะตา
เห็นได้จากการตรวจดวงชะตาก่อนทาศึก

๓.๖ การต้งั ค่าย - ชัยภูมกิ ารต้งั ค่าย

เมอ่ื น้ัน ท้าวกะหมงั กหุ นิงเป็ นใหญ่
เร่งรีบรี้พลสกลไกร มาใกล้ทวิ ทุ่งธานี
เห็นละหานธารนา้ ไหลหลง่ั ร่มไทรใบบงั สุริย์ศรี
จงึ ดารัสตรัสสั่งเสนี ให้ต้ังทนี่ าคนามตามตารา

นาคนาม
เป็ นช่ือฐานทพั อนั มชี ัยภูมิ ใกล้คลอง แม่นา้ ลาห้วย

๓.๗ การต้งั ค่าย - ชัยภูมกิ ารต้งั ค่าย

ทาค่ายหน้าค่ายหลงั ต้งั บรรจบ ยกหอรบขนึ้ ปรับสับวหิ ลนั่
ชักปี กกาขึงไปถงึ กนั ผูกราวสามช้ันขนั ชะเนาะ
หว่างป้ อมเป็ นจงั หวะระยะแย่ง ใส่บงั ตางาแซงมนั่ เหมาะ
พูนดนิ เตม็ ตามสนามเพลาะ ไม้ไผ่เจาะรวงปล้องเป็ นช่องปื น

ทหารก่อสร้างทาการปรับพนื้ ทเ่ี พอ่ื ต้งั ค่ายพกั
มคี ่ายหน้ากบั ค่ายหลงั มาบรรจบกนั มหี อรบยกสูงไว้สังเกตดูเหตกุ ารณ์

บางพวกกเ็ ตรียมทาวหิ ลน่ั (คอื ค่ายทเ่ี คลอ่ื นทเ่ี พอ่ื รุกคบื หน้าไปได้)
ระยะห่างระหว่างป้ อมค่ายกจ็ ะทาทก่ี าบงั สายตาและฝังขวากหนามซ่อนไว้

บางกข็ ดุ ดนิ มาถมทาทก่ี าบงั
ส่วนกาแพงไม้ไผ่กเ็ จาะเป็ นช่องให้กระบอกปื นลอดออกมาได้

๓.๘ ความเคารพอ่อนน้อมต่อญาตผิ ู้ใหญ่

ไม่ถือโทษโกรธตอบพระผ่านฟ้ า จะต้งั หน้าหักหาญพาลภัย
เสร็จศึกจะเข้าไปอญั ชลี จะด่าตกี ต็ ามอชั ฌาสัย
เมอ่ื ได้เกนิ แล้วกจ็ นใจ ตามแต่ภูวไนยจะปรานี

อเิ หนารู้ตวั ว่าเป็ นทขี่ ุ่นเคอื ง ยอมรับในสิ่งทตี่ นได้ทาลงไป
จงึ คดิ ทจี่ ะทาความดเี พอื่ ผ่อนโทษทตี่ นก่อไว้

๔. ข้อคดิ ทส่ี ามารถนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั

๔.๑ การเอาแต่ใจตนเอง อยากได้อะไรเป็ นต้องได้

๔.๒ การใช้อารมณ์
ในชีวติ ของมนุษย์ทุกคนน้ัน ย่อมต้องประสบพบกบั
เร่ืองทท่ี าให้เราโมโห หรือทาให้อารมณ์ไม่ดี
ซึ่งเมอ่ื เป็ นดงั น้ัน เราควรจะต้องรู้จักควบคุมตนเอง

๔.๓ การใช้กาลงั ในการแก้ปัญหา อาจจะทาให้เกดิ ผลเสียตามมา
และอาจเป็ นการทาให้ผู้อนื่ เดอื ดร้อน
ดงั น้ันเราควรจะใช้เหตุผลในการแก้การปัญหาแทน

๔.๔ การไม่รู้จักประมาณตนเอง

๔.๕ การทาอะไรโดยไม่ย้งั คดิ หรือคานึงถึงผลทจ่ี ะตามมา


Click to View FlipBook Version