การรอคอย…ที่ที่ ที่มีที่มีมีคุมีคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ า PeaandFamilystory ผู้แผู้ ต่ง/ผู้เผู้รียรีบเรียรีงภาพ : อัมนี เจะมะ นักนัศึกษาชั้นชั้ ปีที่ปี ที่4 หลักสูตสูรสังสัคมสงเคราะห์ศาสตรบัณบัฑิต มหาวิทวิยาลัยสงขลานครินริทร์ วิทวิยาเขตปัตปัตานี เรื่อรื่งราว…ถอดความจากเรื่อรื่งจริงริ “ของเด็กในสหทัยมูลนิธินิ”ธิภายใต้ผลความสำ เร็จร็ของการวิเวิคราะห์นโยบาย “การสร้าร้งครอบครัวรัอุปการะ (FOSTER CARE) สำ หรับรัเด็กที่ต้องหลุดลุออกจากครอบครัวรั ”
ด้วยทางสหทัยมูลนิธิมีเจตนารมณ์ที่เชื่อมั่นว่า…เด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่ในชุมชนที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม มีสถาบัน ครอบครัวและชุมชนเป็นแกนหลัก พัฒนา หล่อหลอม อบรม บ่มนิสัยให้เด็กๆ เจริญเติบโตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้เรียนรู้ถึงความรัก ความผูกพัน ความเอื้ออาทร และการเกื้อกูล มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจให้มุ่งมั่นสร้างความดี เพื่อครอบครัว เพื่อชุมชน และสามารถดำ เนินชีวิตสืบต่อไปได้อย่างมีคุณค่า สำ หรับเด็กกำ พร้า เด็กที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวโดยกำ เนิด หรือมารดาตั้งครรภ์ไม่พร้อม ไม่พึงประสงค์ในการเลี้ยงดูบุตร ด้วยเหตุผลในหลายด้าน ที่มีความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของเด็ก แม้ว่าเด็กจะได้รับการเลี้ยงดูให้เจริญเติบโตตามวัยในสถานสงเคราะห์…แต่ทางสหทัยมูลนิธิมองว่าเด็กยังคงขาด องค์ประกอบสำ คัญคือ “ครอบครัว” ที่ทำ หน้าที่ดูแลให้มีพัฒนาการทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และสังคม ไปพร้อมๆกัน ครอบครัวเป็นสถาบันแรกให้เด็กเรียน รู้กฎเกณฑ์ทางสังคม การให้เด็กได้เติบโตในครอบครัวทดแทนซึ่งมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนอันดีงาม “ครอบครัวอุปการะ” จึงทำ หน้าที่เป็นครอบครัว ทดแทนให้กับเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของสังคมที่มีต่อเด็ก ระหว่างดำ เนินการหาทางออกในการให้การช่วยเหลือเด็ก นำ ไปสู่การ วางแผนเฉพาะราย โดยมุ่งคืนเด็กสู่ครอบครัวโดยกำ เนิด หากครอบครัวโดยกำ เนิดมีความจำ เป็น ยกมอบเด็กให้กับสหทัยมูลนิธิ ด้วยความไม่พร้อมในการ เลี้ยงดู ทางสหทัยจะดำ เนินการหาครอบครัวบุญธรรมให้กับเด็กต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่่เด็กในอนาคต การจัดทำ หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้ล่าเรื่องราว โดยยึดเรื่องสะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นจริงในสังคม ชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่เข้าสู่กระบวนการให้การช่วย เหลือ และะการทำ งานภายใต้นโยบาย “โครงการสร้างครอบครัวอุปการะ (FOSTER CARE) สำ หรับเด็กที่ต้องหลุดออกจากครอบครัว”จนบรรลุผลสำ เร็จ ซึ่งได้ดำ เนินการให้การช่วยเหลือโดยนักสังคมสงเคราะห์สหทัยมูลนิธิ ตั้งแต่วันแรกกที่เด็กเข้ามารับบริการ นำ ไปสู่ผลสำ เร็จในปัจจุบันของเด็กที่สามารถอยู่ ในสังคม เป็นเด็กดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นกำ ลังสำ คัญของสังคมต่อไปได้ (ผลสำ เร็จจากการวิเคราะห์นโยบาย) เรื่องราวที่เล่าสะท้อนออกมาเป็นเรื่องเล่าที่ใช้นามสมมุติในการสร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจจะศึกษาข้อมูล หรือสนใจเป็นครอบครัวอุปการะ ให้กับเด็กๆอีกหลายคนที่กำ ลังรอคอย สามารถอ่านเรื่องราวแรงงบันดาลใจนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจครั้งใหญ่ในการช่วยเหลือสังคม สนับสนุนเด็กให้ เด็กเติบโตในสังคมต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์ บทนำ
ผมชื่อ “เด็กชายเป้” ครับ ผมอายุ 4 ปี ครับ นี่คือเรื่องราวชีวิตของเป้เองครับ ผมชื่อ “เด็กชายเป้” ครับ ผมอายุ 4 ปี ครับ นี่คือเรื่องราวชีวิตของเป้เองครับ สวัวั วั ส วั สดีดี ดี ค ดี ครัรั รั บ รั บทุทุ ทุ ก ทุ กคน สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์ เด็กตัวนิดนิกับหัวใจดวงน้อ น้ ยๆ เด็กเฝ้า ฝ้ คอย คนใส่ใส่ จและดูแ ดู ล ร้อ ร้ งเรียรีกหา คุณ คุ พ่อ พ่ จ๋า จ๋ คุณ คุ เเม่จ๋ ม่ า จ๋ หนูอ นู ยู่นี่ ยู่ นี่ หนูอ นู ยู่นี่ ยู่ นี่… ผู้แผู้ ต่ง/เล่าเรื่อรื่งโดย : อัมนี เจะมะ นักนัศึกษาชั้นชั้ ปีที่ปี ที่4 หลักสูตสูรสังสัคมสงเคราะห์ศาสตรบัณบัฑิต มหาวิทวิยาลัยสงขลานครินริทร์ วิทวิยาเขตปัตปัตานี
โรงพยาบาล สหทัยมูลนิธินิ ธิ จุดเริ่มริ่ต้นของเด็กชายเป้… ป้ ในการเข้า ข้ รับ รั การคุ้ม คุ้ ครองสวัส วั ดิภาพที่สหทัยมูลนิธินิ ธิ เด็กชายเป้ •••• •••• •••• สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์ สหทัยมูลนิธินิ ธิได้รับรัการประสานงานจากทีมสหวิชวิาชีพชี ในการช่วช่ยเหลือเด็กชายเป้ ที่เข้าข้รับรั การรักรัษาอยู่โยู่รงพยาบาลแห่งหนึ่งนึ่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อพื่เข้าข้รับรัการคุ้มคุ้ครองสวัสวัดิภาพที่สห ทัยมูลนิธินิเธินื่อนื่งจาก…แพทย์วิย์นิวิจนิฉัยฉัว่าว่เด็กชายเป้ถูป้กถูทำ ร้าร้ยทารุณกรรมทางร่าร่งกาย ทีมสหวิชวิาชีพชีจึงจึมีมมีติให้ส่งส่เด็กเข้าข้รับรัการคุ้มคุ้ครองสวัสวัดิภาพที่สหทัยมูลนิธินิ ธิ นักนัสังสัคมสงเคราะห์สหทัยมูลนิธินิรีธิบรีดำ เนินนิการให้การช่วช่ยเหลือเด็กชายเป้เป้พื่อพื่เข้าข้รับรัการคุ้มคุ้ครอง สวัสวัดิภาพ จึงจึได้มีกมีารประชุมวางแผนนการช่วช่ยเหลือเด็กชายเป้ โดยให้การช่วช่ยเหลือตามนโยบาย หลักของสหทัย ภายใต้โครงการสร้าร้งครอบครัวรัอุปการะ (foster care) สำ หรับรัเด็กที่ต้องหลุดลุออก จากครอบครัวรั
ให้การช่วช่ยเหลือตามนโยบายหลักของสหทัยมูลนิธินิคืธิ คือ “ป้อป้งกันการทอดทิ้งเด็กและส่งส่เสริมริ ให้เด็กทุกทุคนเติบโตอย่าย่งผาสุกสุในครอบครัวรัของตนเอง ภายใต้โครงการสร้าร้งครอบครัวรัอุปการะ (foster care) สำ หรับรัเด็กที่ต้องหลุดลุออกจากครอบครัวรั นัก นั สัง สั คมสงเคราะห์ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
วัน วั เเรกของเด็กชายเป้… ป้ ในการเดินทางเข้า ข้ สู่คสู่ รอบครัว รั อุปการะ วันวัแรกเข้าข้ครอบครัวรัอุปถัมภ์ เด็กชายเป้ใป้ส่เส่ ฝือฝืกที่แขนข้าข้งขวา และมีร่มีอร่งรอยการบาดเจ็ดจ็ตามตัว นักนัสังสัคมสงเคราะห์ วันวันี้พี่นั พี่ กสังสัคมสงเคราะห์กำ ลังพา เด็กชายเป้ ไปหาครอบครัวรัอุปการะ เมื่อมื่แรกเข้าข้ นักสังสัคมสงเคราะห์ประเมินมิว่าว่ เด็กชายเป้ มีพัมีฒพันาการที่ไม่สม่มวัยวัและมีปัมีญปัหาเรื่อรื่งภาวะอารมณ์ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
ภายหลังเด็กชายเป้เ ป้ ข้า ข้ อยู่ กับครอบครัว รั อุปการะ หลังจาก เด็กชายเป้ อยู่ใยู่นบ้าบ้นครอบครัวรัอุปการะ เด็กชายเป้ก็ป้ ก็สามารถปรับรัตัวเข้าข้กับครอบครัวรัอุปการะได้อย่าย่งดี ได้ทำ กิจกรรมต่างๆ ร่วร่มกัน และเด็กชายเป้ได้ถอดเฝือฝืกแล้ว แต่ยังยัคงมีนัมีดนั พบแพทย์คย์ลินิคนิเป็นป็ระยะๆ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
เด็กชายเป้… ป้ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์ เด็กชายเป้ ได้รับรัการฝึกฝึ ฝนเรื่อรื่งการช่วช่ยเหลือตนเองในชีวิชีตวิ ประจำ วันวั โดยเด็กสามารถช่วช่ยเหลือตัวเองได้ดี ได้พบแพทย์อย์ย่าย่งสม่ำ เสมอ อีกทั้งทางสหทัยให้เด็กชายเป้มป้าพบครอบครัวรัโดยกำ เนิดนิ ซึ่งซึ่จะมาพบกันที่ “สหทัยมูลนิธินิ”ธิ เพื่อพื่สร้าร้งความสัมสัพันพัธภาพระหว่าว่งเป้กัป้ กับครอบครัวรัโดยกำ เนิดนิ อีกทั้งมีทีมี ทีมสหวิชวิาชีพชีร่วร่มประเมินมิความเสี่ย สี่ ง ความต้องการ ของครอบครัวรัโดยกำ เนิดนิและของเด็กชายเป้ด้ป้ ด้วย เพื่อพื่ประกอบการประเมินมิเแผนนการให้การช่วช่ยเหลือในขั้นขั้ตอนต่อไปได้ เป้ไป้ด้รับรัการกระตุ้นตุ้พัฒพันาการในด้านต่างๆ ให้สมวัยวั เด็กชายเป้มีป้ ปัมีญปัหาเรื่อรื่งพัฒพันา การทางการพูดที่ล่าช้าช้มารดาอุปการะพยายามกระตุ้นตุ้พัฒพันาการ ด้านการพูดตามคำ แนะนำ ของแพทย์จย์นเด็กชายเป้ มีพัมีฒพันาการที่ก้าวหน้าน้ขึ้นขึ้
เป้ไป้ ด้ไปโรงเรีย รี นเเล้วน่ะ เมื่อมื่เด็กชายเป้ ครบอายุตามเกณฑ์ที่ต้องเข้าข้โรงเรียรีน นักนัสังสัคมสงเคราะห์สหทัยมูลนิธินิ ธิจะจัดจัหาโรงเรียรีน ตามความเหมาะสม ทั้งสภาพเเวดล้อม เเละความต้องการของเป้ ภายหลังจากเด็กชายเป้ไป้ด้ไปโรงเรียรีน เด็กชายเป้ปรับรัตัวได้ดี ชอบกิจกรรมกลางแจ้งจ้เช่นช่การเตะฟุตบอล วิ่งวิ่เล่น เป็นป็ต้น เด็กชายเป้สป้ามารถเข้าข้สังสัคมได้ดีมากขึ้นขึ้ เข้าข้กับคุณคุครูและเพื่อพื่นๆ ในห้องเรียรีนได้ดี สามารถสื่อสื่สารได้เป็นป็ ประโยค แต่เด็กชายเป้บป้อกว่าว่ผมไม่ชม่อบกิจกรรมที่ต้องขีดขีเขียขีนมาก สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
วัน วั ที่เป้ร ป้ อคอย เด็กชายเป้ ได้กลับคืนสู่คสู่ รอบครัวรัโดยกำ เนิดนิของตนเองเมื่อมื่เดือน มกราคม 2567 โดยการประเมินมิของทีมสหวิชวิาชีพชีว่าว่ครอบครัวรัโดยกำ เนิดนิจะสามารถ ปกป้อป้งคุ้มคุ้ครองเด็กชายเป้ไป้ด้ สามารถเลี้ยงดูเดูด็กได้อย่าย่งเหมาะสม รอดปลอดภัยได้ โดยมารดาอุปการะมีคมีวามยินยิดีที่ เด็กชายเป้ ได้กลับสู่คสู่ รอบครัวรัของตนเอง สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
การเลือกครอบครัว รั อุปการะ มีค มี วามสำ คัญอย่า ย่ งไรกับเด็ก สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์ นักนัสังสัคมสงเคราะห์จะประเมินมิบ้าบ้นครอบครัวรัที่จะอุปการะเด็ก สามารถรับรัผิดผิชอบเด็กไดั หากเด็กคนไหนต้องดูเดูเลเป็น ป็ “พิเพิศษ” เช่นช่เด็กที่มีปัมีญปัหาทางพฤติกรรม หรือรืมีปัมีญปัหาด้านสุขสุภาพ ด้านพัฒพันาการ นักนัสังสัคมสงเคราะห์จะดำ เนินนิการจัดจั ให้เด็กอยู่กัยู่ กับครอบครัวรัอุปการะ ที่มีคมีวามรู้ มีปมีระสบการณ์ สามารถรับรัมือมืเเละร่วร่มช่วช่ยอุปการะรับรัผิดผิชอบเด็กได้ดี
ข้อ ข้ ควรรู้ การอุปการะ 1) การอุปการะยะสั้นสั้ (Short-term Foster Care) หมายถึง การดูแดูลเด็กในครอบครัวรั ที่มีคมีวามพร้อร้มอุปการะเด็กระหว่าว่งที่เด็กอยู่ใยู่นกระบวนการก่อนที่จะไปอยู่กัยู่ กับครอบครัวรัโดยกําเนิดนิครอบครัวรับุญธรรม หรือรืครอบครัวรัอุปการะระยะยาว ซึ่งซึ่อาจเป็นป็ระยะเวลาไม่กี่ม่ กี่ สัปสัดาห์จนถึงหลายเดือนตามแผนการสงเคราะห์ และ คุ้มคุ้ครองสวัสวัดิภาพของเด็กที่กําหนดไว้ 2) การอุปการะยะยาว (Long-term Foster Care) หมายถึง การดูแดูลเด็กในครอบครัวรั ที่มีคมีวามพร้อร้มในการอุปการะเด็กเป็นป็ระยะเวลายาว กรณีที่เด็กไม่สม่ามารถกลับไปอยู่คยู่รอบครัวรัโดยกําเนิดนิญาติ หรือรื ครอบครัวรับุญธรรมได้ ครอบครัวรัจะอุปการะเด็กจนอายุครบ18 ปี หรือรืสามารถดําเนินนิชีวิชีตวิ ได้ด้วยตนเอง 3) การอุปการะแบบชั่วชั่คราว (Respite or Short Break Foster Care) หมายถึง การดูแดูล เด็กในครอบครัวรัที่สามารถอุปการะเด็กแทนผู้ปผู้ กครองโดยให้มีกมีารดูแดูลเด็กกลางวันวัตอนเย็นย็วันวัหยุด สุดสุสัปสัดาห์หรือรื ระยะสั้นสั้เป็นป็ ประจําจํหรือรืสามารถใช้เช้พื่อพื่ ให้ครอบครัวรัอุปการะ (ระยะยาว) ได้พักพัจาก ความรับรัผิดผิชอบในระยะเวลาใดเวลา หนึ่งนึ่ครอบครัวรัดังกล่าวจะได้รับรัการประเมินมิจากเจ้าจ้หน้าน้ที่ผู้ปผู้ ฏิบัติบั ติงาน เช่นช่เดียวกับครอบครัวรัอุปการะในรูปแบบอื่นๆ 4) การอุปการะแบบฉุกฉุเฉินฉิ (Emergency Foster Care) หมายถึง การดูแดูลเด็กในครอบครัวรัที่มีคมีวามสามารถและ มีคมีวามพร้อร้มรับรัเด็กได้ ภายใน 24 ชั่วชั่โมง หลังจากที่ได้รับรัการร้อร้งขอจากเจ้าจ้หน้าน้ที่ โดยไม่มีม่ มี การวางแผนล่วงหน้าน้ซึ่งซึ่ปกติจะรับรัดูแดูลเด็ก ระยะเวลา 2 – 3 วันวัและไม่เม่กิน 2 สัปสัดาห์ เด็กที่ต้องการ การดูแดูลต่อควร ย้าย้ยไปอยู่ใยู่นครอบครัวรัที่พร้อร้มอุปการะเด็กระยะสั้นสั้ถึงระยะยาวต่อไป 5) การอุปการะแบบเฉพาะทาง (Treatment/specialized Care) หมายถึงครอบครัวรัที่ มีคมีวามสามารถในการอุปการะเด็กที่มีคมีวามพิกพิาร มีคมีวามต้องการพิเพิศษ ซึ่งซึ่จําจํเป็นป็ต้องมีปมีระสบการณ์ ด้านการดูแดูล เด็กหรือรื ได้รับรัการอบรมทางการแพทย์จย์ากผู้เผู้ชี่ย ชี่ วชาญ 6) การอุปการะแบบแม่แม่ละเด็กทารกหลังคลอด (Parent and Baby FosterCare) หมายถึง การดูแดูลเด็กและมารดาหรือรืบิดบิาของเด็ก เพื่อพื่ ให้มารดาหรือรืบิดบิาของเด็กสามารถเลี้ยงดูเดูด็กได้ด้วยตนเอง ได้รับรัคํา แนะนํานํและการสนับนัสนุนนุอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อข้ง สหทัยมูลนิธินิ ธิ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
ข้อ ข้ ควรรู้ จากการวิเวิคราะห์นโยบาย ผลสำ เร็จ ร็ คือ (1) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการศึกษาตามกฎหมายว่าว่ด้วยการศึกษาภาคบังบัคับ ตามความเหมาะสม ตามวัยวัและพัฒพันาการของเด็ก โดยให้รับรั ฟังฟัความประสงค์ของเด็กด้วย (2) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรับริกริารทางด้านสาธารณสุขสุและได้รับรัความคุ้มคุ้ครองตามกฎหมายว่าว่ด้วย หลักประกันสุขสุภาพแห่งชาติ ทั้งการตรวจสุขสุภาพ การได้รับรัวัควัซีนซีตามวัยวัการดูแดูลรักรัษายามเจ็บจ็ ป่วป่ย การเข้าข้ถึงเวชภัณฑ์ที่จําจํเป็นป็รวมทั้งการดูแดูล สุขสุภาพกาย ได้แก่ดูแดูลสุขสุอนามัยมัของร่าร่งกาย การได้รับรัอาหารที่มี คุณคุค่าและมีปมีริมริาณที่เหมาะสม การนอนหลับอย่าย่ง เพียพีงพอ การมีเมีวลานันนัทนาการที่เหมาะสม การมีร่มีาร่งกายที่ สะอาด มีเมีสื้อสื้ผ้าผ้เครื่อรื่งนุ่งนุ่ ห่มอย่าย่งเพียพีงพอ (3) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการดูแดูลและส่งส่เสริมริ ให้การเจริญริเติบโตตามพัฒพันาการสมวัยวั ได้แก่ มีน้ํมี น้ํ าหนักนัและส่วส่นสูงสูตามเกณฑ์ การทํางานของกล้ามเนื้อนื้การใช้สช้ายตา การได้ยินยิและการรับรัรู้ภรู้าษาเป็นป็ ไป ตามพัฒพันาการตามวัยวัทักษะทางอารมณ์แณ์ละสังสัคม (4) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการมีที่มี ที่ อยู่อยู่าศัยที่ถูกถูสุขสุลักษณะและเป็นป็หลักแหล่ง และสิ่งสิ่แวดล้อมที่ ปลอดภัย อยู่ใยู่นสภาพแวดล้อมทางสังสัคมและได้รับรัการให้บริกริารสาธารณะ ที่ไม่เม่ ป็นป็ผลร้าร้ยต่อชีวิชีตวิและความ เป็นป็อยู่ขยู่องเด็ก (5) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการดูแดูลทางด้านสุขสุภาพจิตจิ และเข้าข้ถึงบริกริารสนับนัสนุนนุทางด้านจิตจิสังสัคม (6) มีสิมีทสิธิเธิข้าข้ไปมีส่มีวส่นร่วร่มในกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนและสังสัคม เด็กมีสิ มี ทสิธิ…ธิ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
ข้อ ข้ ควรรู้ จากการวิเวิคราะห์นโยบาย ผลสำ เร็จ ร็ คือ (7) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการส่งส่เสริมริเอกลักษณ์แณ์ห่งตน การรับรัรู้ตรู้นเอง ข้อข้มูลที่เกี่ยวกับครอบครัวรัรวมถึงเหตุผตุลที่ได้รับรั การเลี้ยงดูใดูนครอบครัวรัอุปการะ เช่นช่การรู้จัรู้กจัชื่อชื่นามสกุลกุเพศ อายุ เชื้อชื้ชาติ สัญสัชาติ ความสามารถ จุดอ่อน จุดแข็งข็ รูปลักษณ์ และมีคมีวามเป็นป็ตัวของตัวเองและความภูมิภูใมิจในสิ่งสิ่ที่ตนทำ โดยมีอิมี อิสรภาพในการปฏิบัติบั ติามวัฒวันธรรมชาติพันพัธุ์ และศาสนาของเด็ก (8) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการเรียรีนรู้แรู้ละส่งส่เสริมริทางด้านจริยริธรรมและคุณคุธรรม ได้แก่การเรียรีนรู้ ตนเอง สังสัคมและสิ่งสิ่ แวดล้อม การเรียรีนรู้ด้รู้ ด้านจริยริธรรม เช่นช่การมีเมีงื่อนไขและปัจปัจัยจัภายนอกที่เอื้อด้าน คุณคุธรรมของเด็ก รวมทั้งมีกมีาร สร้าร้งแรงจูงใจให้เด็กประพฤติปฏิบัติบั ติในทางที่ดีและงดเว้นว้พฤติกรรมที่ไม่เม่หมาะสม (9) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการส่งส่เสริมริการเรียรีนรู้แรู้ละการฝึกฝึวินัวิยนั ในเรื่อรื่งเกี่ยวกับตนเองสังสัคม และสิ่งสิ่แวดล้อม รวมทั้งปลูกลูฝังฝั ให้เด็กรักรัการอ่านหนังนัสือสื (10) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการเสริมริสร้าร้งความรู้แรู้ละความเข้าข้ใจในขอบเขตระหว่าว่งตนเองและผู้อื่ผู้ อื่น ของเด็ก ได้แก่ ขอบเขต ทางกาย จิตจิ ใจ และสังสัคม และการเป็นป็แบบอย่าย่งเช่นช่การฝึกฝึ ให้เด็กรู้จัรู้กจัการรอคอยให้เหมาะสมตามวัยวัการสอนให้ รู้จัรู้กจัการปฏิเสธการสัมสัผัสผัร่าร่งกาย และการสอนให้รู้จัรู้กจั ปกป้อป้งสิทสิธิส่ธิวส่นตัวของตน และเคารพสิทสิธิส่ธิวส่นตัวของผู้อื่ผู้ อื่น (11) มีสิมีทสิธิใธินความเป็นป็ส่วส่นตัวในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับอายุพัฒพันาการ และวัฒวันธรรมเดิมของเด็ก ได้รับรัการสวมเสื้อสื้ผ้าผ้ของตนเอง การเก็บรักรัษาและใช้สิ่ช้งสิ่ของส่วส่นบุคคล การเก็บและ อนุญนุาตให้ใช้จ่ช้าจ่ยเงินของเด็กอย่าย่งสมเหตุสตุมผล (12) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัการส่งส่เสริมริ ให้เด็กแสดงออกซึ่งซึ่ความคิดเห็นและความสามารถ โดยได้รับรั การพิจพิารณาความคิดเห็น ความรู้สึรู้กสึและความประสงค์ของเด็ก เมื่อมื่มีกมีารตัดสินสิ ใจใดๆ ที่มีผมีลกระทบต่อเด็ก (13) มีสิมีทสิธิไธิด้รับรัความปลอดภัยจากการถูกถูทําร้าร้ยร่าร่งกายหรือรืการปล่อยปละละเลย และการปฏิบัติบั ติที่ไร้มร้นุษนุยธรรม และปลอดภัยจากการแสวงหาประโยชน์ทน์างเพศในทุกทุรูปแบบ (14) มีสิมีทสิธิใธินการติดต่อสื่อสื่สารกับบุคคลสําสํคัญอื่นๆ นอกเหนือนืจากครอบครัวรัอุปถัมภ์ เช่นช่บิดบิามารดาโดยกําเนิดนินักนัสังสัคมสงเคราะห์ แพทย์ เด็กมีสิ มี ทสิธิ…ธิ สหทัยมูลนิธินิ ธิกรุงเทพมหานคร / สังสัคมสงเคราะห์สงขลานครินริทร์
การรอคอย ที่ที่ ที่มีที่มีมีคุมีคุ คุ ณ คุ ณค่ค่ ค่ า ค่ า PeaandFamilystory