๔๗
ประเมินผู้เรียน โดยพิจารณาพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต พฤติกรรมการเรียนการร่วม
กจิ กรรมและการทดสอบ ควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมในแตล่ ะระดับและรูปแบบ
การศึกษา โดยมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Desired Characteristics) เป็นลักษณะท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับ
ผู้เรียน สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่าง มีความสุข ทั้งในฐานะพลเมืองและพลโลก ซึ่งหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ ๘ ประการ
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย
และมีจติ สาธารณะ
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ให้ความสาคัญในการดาเนินการพัฒนาผู้เรียน ด้าน
คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยการสร้างรูปแบบกระบวนการและ
กิจกรรมการการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีความรู้ คู่คุณธรรม มีคุณลักษณะที่ดี
สาหรับการดารงชีวิตในสังคม มีการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยใช้ข้อมูลจากการสังเกตพฤติกรรม
ตามสภาพจริงตามบริบทของโรงเรียน พร้อมทั้งจัดทาคู่มือการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
ครูประจาช้ันได้ใชเ้ ปน็ แนวทางในการประเมินท่ีเป็นรูปแบบและแนวทางอันเดียวกัน และส่งผลให้การประเมนิ
ที่ได้ตรงตามมาตรฐาน ตามตัวชี้วัดตามท่ีหลักสูตรฯ กาหนด อีกทั้งได้ดาเนินโครงการส่งเสริมคุณธรรม
จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ
และโครงการโรงเรียนสุจรติ อยา่ งต่อเนือ่ ง
งานแนะแนวเพือ่ การศึกษาต่อและอาชพี
การจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๕ ยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญ
ท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ โดย
จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน คานึงถึงความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้ใน
การป้องกัน แก้ปัญหาและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กอปรกับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและ
เทคโนโลยี ก่อให้เกิดท้ังผลดีและผลเสียต่อการดาเนินชีวิตในปัจจุบันของบุคคล ทาให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อน
มากยิ่งขึ้น จาเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดาเนินชีวิตให้สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า มีศักด์ศิ รี
และมคี วามสขุ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดให้สถานศึกษาจัดกิจกรรม
แนะแนว ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมท่ีจัดให้ผู้เรียนได้
พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ การเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อื่นอย่างมี
ความสุขกับกิจกรรมท่ีเลือกด้วยตนเองตามความถนัด และความสนใจอย่างแท้จริง การพัฒนาท่ีสาคัญ ได้แก่
การพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม โดยอาจ
จดั เป็นแนวทางหนึ่งที่จะสนองนโยบายในการสร้างเยาวชนของชาตใิ ห้เป็นผู้มศี ลี ธรรม จรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัย
๔๘
และมคี ณุ ภาพเพอื่ พฒั นาองคร์ วมของความเป็นมนษุ ยท์ ่ีสมบูรณ์ ปลูกฝงั และสรา้ งจติ สานกึ ของการทาประโยชน์
เพ่อื สังคม
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีแนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนวครอบคลุมขอบข่าย
งานแนะแนวทงั้ ๓ ด้าน ได้แก่
๑. ดา้ นการศึกษา ใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองในด้านการเรียนอยา่ งเตม็ ตามศักยภาพรจู้ ักแสวงหา และ
ใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวิธีการ
เรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรยี นหรอื การศกึ ษาต่อไดอ้ ย่างเหมาะสม
๒. ดา้ นอาชพี ให้ผเู้ รียนได้รูจ้ กั ตนเองในทุกด้าน รู้และเขา้ ใจโลกของงานอาชีพอยา่ งหลากหลายมีเจต
คติที่ดตี ่ออาชีพสุจริต มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามท่ีตนเองมีความถนัดและ
สนใจ
๓. ด้านส่วนตัวและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น
รกั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม มวี ฒุ ภิ าวะทางอารมณ์ มเี จตคติท่ีดีต่อการมีชวี ติ ท่ีดมี คี ณุ ภาพ มที กั ษะชีวิตและสามารถปรบั ตัว
ดารงชวี ติ อยใู่ นสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ
ในการจัดกิจกรรมแนะแนว โรงเรียนมีการดาเนินการ โดย กาหนดนโยบายการบริหารงานแนะแนว
กาหนดโครงสร้างและบุคลากร มีแผนและโครงการดาเนินงาน ครูประจาช้ันดาเนินการตามแผนและโครงการ
กากับ ติดตาม ประเมินผล จัดทารายงานผลการดาเนินการงานกิจกรรมแนะแนว และนาผลการดาเนินการไป
ปรบั ปรุง พัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง
งานพัฒนาระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
พบว่าการศึกษาในปัจจุบันให้ความสาคัญกับการพัฒนาผู้เรียน โดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญมากข้ึน มุ่งหวังให้
ผู้เรียนมีพัฒนาการแบบองค์รวม กล่าวคือ ให้เป็นคนดี คนเก่ง คนมีความสุข อีกทั้งสภาพสังคมท่ีมีความเป็น
สากลและสลับซับซ้อนมากข้ึน ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ฉับพลัน จึงมีเหตุการณ์ท่ีเป็นปัญหาเข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้เรียนอย่างมากมาย โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรม และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ความปลอดภัยในชีวิต ปัญหายาเสพติดซ่ึงเป็นภัยรอบข้างสาหรับเด็ก
และเยาวชน จึงจาเป็นต้องมีผู้ชี้แนะ ให้คาแนะนา ให้ความรักความไว้วางใจและความเข้าใจแก่เด็กทุกคนเพ่ือ
หวังใหเ้ ยาวชนเติบโตอยา่ งมีคุณภาพ และเปน็ คนดมี ีพฤติกรรมท่ีดอี ยใู่ นสังคมอยา่ งปลอดภัย และมคี วามสุข
โรงเรยี นวัดชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์) จัดใหม้ รี ะบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน ซ่ึงเปน็ กระบวน
การดาเนินงานดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอน มีครูประจาช้ันเป็นบุคลากรหลักในการ
ดาเนินงาน โดยการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้อง ท้ังภายในและนอกสถานศึกษา ได้แก่
คณะกรรมการสถานศึกษา ผปู้ กครอง ชมุ ชน ผ้บู ริหาร และครูทุกคน มีวธิ กี ารและเคร่อื งมือทชี่ ดั เจน มี
มาตรฐานคุณภาพ และมีหลักฐานการทางานท่ีตรวจสอบได้ โดยดาเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนของ
ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนครบทั้ง ๕ องค์ประกอบ คือ ๑) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ๒) การคัด
๔๙
กรองนักเรียน ๓) การป้องกันและแก้ไขปัญหา ๔) การพัฒนาและส่งเสริมนักเรียน และ ๕) การส่งต่อ
ดาเนินการภายใต้กระบวนการ PDCA ได้แก่ วางแผนการดาเนินงานจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ดาเนินการตามแผนที่กาหนด นิเมีการนิเทศ กากับ ติดตาม ประเมินผลสรุปรายงาน และนาผลการดาเนินการ
ไปปรับปรงุ พฒั นาอยา่ งต่อเนอื่ ง
ท้ังนี้ โรงเรียนได้มี การสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline) เป็นการสอนหรือการฝึกผู้เรียนให้
เชื่อฟัง ปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บ แนวทางการปฏิบัติตนตามระเบียบของสังคม ดาเนินการโดยมีการสร้างวินัย
เชิงบวกในห้องเรียน ครูประจาชั้นและครูผู้สอนจะอบรมสั่งสอนผู้เรียนเพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติ ซ่ึงหมายรวมถึง
การต่อรอง และการสร้างระบบการให้รางวัลมากกว่าการลงโทษด้วยการทาร้าย หรือ ใช้วาจาทาร้ายจิตใจ
ยึดหลัก ๗ ประการของการสร้างวินัยเชิงบวก ได้แก่ ๑) เคารพศักดิ์ศรีของเด็ก ๒) พยายามพัฒนาพฤติกรรมท่ี
พึงประสงค์ การมีวินัยในตนเองและบคุ ลกิ ลักษณะที่ดี ๓) พยายามให้เด็กมีสว่ นร่วมมากท่ีสดุ ๔) คานึงถึงความ
ตอ้ งการทางพฒั นาการและคุณภาพชีวิตของเดก็ ๕) คานึงถึงแรงจูงใจและโลกทัศน์ของเด็ก ๖) พยายามให้เกิด
ความยตุ ิธรรม เท่าเทียมกนั และไมเ่ ลอื กการปฏบิ ัติ และ ๗) เสริมสรา้ งความสามัคคีกลมเกลียวในกลุม่
งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามัย
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (เมื่อครั้งดารง
พระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี) ทรงห่วงใยปัญหาการขาดอาหารในเด็ก
นักเรียน เพราะจะส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ของเด็ก จึงมีพระราชดาริดาเนิน
โครงการเกษตรเพือ่ อาหารกลางวนั ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๒๓ เป็นตน้ มา ต่อมาทรงเห็นวา่ การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
ของเด็กควรเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาและเด็กแรกเกิดซึ่งเป็นช่วงวิกฤตท่ีสุดในวงจรชีวิต การขาดสารอาหาร
ของแม่ท่ีตั้งครรภ์จะส่งผลทาให้เด็กในครรภ์และเด็กแรกเกิดมีภาวะโภชนาการบกพร่อง และจะส่งผลต่อการ
เจริญเติบโตและพัฒนาการของเดก็ จึงมีพระราชดาริดาเนินโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่
และเด็กในถิ่นทุรกันดารข้ึนใน พ.ศ. ๒๕๓๙ แม้การดาเนินงานเพ่ือพัฒนาภาวะโภชนาการและสุขภาพของเด็ก
จะมีความก้าวหน้ามาโดยลาดับ แตส่ มเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม
ราชกุมารี ยังทรงพบว่า มีเด็กเล็กจานวนมากท่ีมีพัฒนาการล่าช้า ท้ังน้ีเพราะผู้ปกครองยังขาดความรู้ความ
เข้าใจในการเล้ียงดูแลเด็ก ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไป จึงมีพระราชกระแสเม่ือ
วันท่ี ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ ศูนย์การเรียนตารวจตระเวนชายแดนบ้านทีวะเบยทะ ตาบลแม่ต่ืน อาเภอแม่
ระมาด จังหวัดตาก ให้จัดทาโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยให้ครอบคลุมพื้นท่ีที่มีโรงเรียนใน
โครงการตามพระราชดาริต้ังอยู่ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาของเด็กในชุมชนห่างไกลแล้ว ยังเป็นตัวอย่างแก่
โรงเรียนตา่ ง ๆ ทั่วประเทศ
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) เป็นโรงเรียนในโครงการส่วนพระองค์สมเด็จ
พระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี “โครงการพฒั นาเดก็ และเยาวชน
ในถิ่นทุรกันดาร” โรงเรียนจึงดาเนินการงานส่งเสริมสุขภาพอนามัยของนักเรียน สนองพระราชดาริของ
พระองค์ท่าน โดยมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัย นักเรียนและบุคลากรได้รับการตรวจสุขภาพ
๕๐
อนามัยประจาปี มีการประสานการดาเนินงานในการจัดกิจกรรม ส่งเสริมสุขภาพอนามัยอย่างต่อเน่ือง อกี ท้ังมี
การสง่ ตอ่ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง มกี ารประเมินผลการดาเนินงานการส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัย และนาผลการ
ประเมนิ ไปปรบั ปรงุ พัฒนากระบวนการสง่ เสริมสุขภาพอนามัยของนักเรียนอย่างต่อเนอ่ื ง
หลกั ฐาน/เอกสารอา้ งองิ
๑. รายงานโครงการสถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพติด
๒. รายงานโครงการโรงเรยี นวิถีพุทธ
๓. รายงานโครงการโรงเรียนสจุ ริต
๔. รายงานโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
๕. รายงานโครงการระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน
๖. รายงานโครงการโรงเรยี นส่งเสริมสขุ ภาพ
รายงานโครงการโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. ระดับ ๓ ดาว
๓. ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชงิ กลยุทธแ์ ละนวตั กรรม
๕๑
๓. ด้านการบริหารการเปลยี่ นแปลงเชิงกลยุทธแ์ ละนวัตกรรม
๓.๑ การกาหนดนโยบาย กลยทุ ธ์ การใชเ้ ครื่องมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร
๓.๒ การบริหารการเปลยี่ นแปลงและนวตั กรรมในสถานศกึ ษาเพ่ือพัฒนาสถานศึกษา
มีการดาเนนิ การโดยสรปุ ดังน้ี
ใช้รูปแบบ“Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มีปัญญา พัฒนาคุณภาพการศึกษา ” มี
วตั ถุประสงค์เพ่ือพัฒนาให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นาสู่การปฏิบัติ
ตามแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี
๑. การกาหนด วสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ นโยบายและแผนกลยทุ ธ์
ในการจัดทาแผนพัฒนาพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา ดาเนินการโดย มีการศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการจาเป็นของสถานศึกษา
อย่างเป็นระบบ โดยใช้ข้อมูลตามสภาพจริง กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายด้านต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่
คุณภาพผู้เรียนท่ีสะท้อนคุณภาพความสาเร็จอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ
กาหนดวิธีการดาเนินงานโครงการ กิจกรรมที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาโดยใช้
กระบวนการวิจัย หรือผลการวิจัย หรือข้อมูลท่ีอ้างอิงได้ให้ครอบคลุมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจัด
ประสบการณ์การเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล การพัฒนาบุคลากร
และการบรหิ ารจัดการเพือ่ ให้บรรลเุ ปา้ หมาย มีการกาหนดแหล่งเรียนรู้และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ินจากภายนอกท่ใี ห้
การสนับสนุนทางวิชาการ และกาหนดบทบาทหน้าท่ีอย่างชัดเจนให้บุคคลของสถานศึกษา และผู้เรียนร่วม
รับผิดชอบ และดาเนินงานตามท่ีกาหนดไว้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๕๒
๒. การจดั การระบบการประกนั คุณภาพ
ตามที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
มาตรา ๔๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ เร่ือง ประกาศใช้กฎกระทรวง
การประกันคุณภาพการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๑ ฉบับลงวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษาระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน จานวน ๓ มาตรฐาน ดังน้ี
มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรยี น
มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ
มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ
ประกาศใช้กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๑
เร่ือง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา
ตามประกาศ ณ วนั ท่ี ๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ จานวน ๓ มาตรฐาน ดังน้ี
มาตรฐานท่ี ๑ คุณภาพของเด็ก
มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
มาตรฐานที่ ๓ การจดั ประสบการณท่ีเน้นเด็กเป็นสาคัญ
ตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองท่ีกาหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการพัฒนา
คุณภาพคนไทยและการศึกษาไทยในอนาคตประกอบกบั มีนโยบายใหป้ ฏิรปู ระบบการประเมินและการประกนั
คุณภาพทั้งภายในและภายนอกของทุกระดับ การจัดทามาตรฐานการศึกษาจึงต้องสอดคล้องกันและเพ่ือเป็น
หลักในการเทียบเคียงสาหรับสถานศึกษา โรงเรียนวัดชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีการดาเนินการประกัน
คุณภาพการศกึ ษา ตามกฎกระทรวงดงั กลา่ ว โดยจัดระบบการดาเนินงานอยา่ งเปน็ ข้นั ตอนตามวงจร PDCA
การวางแผน : การดาเนินการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา เริ่มจากการกาหนดมาตรฐาน
การศึกษาของสถานศึกษา โดยสถานศึกษากาหนดมาตรฐานและเป้าหมายความสาเร็จตามบริบทของ
สถานศึกษา ทั้งน้ี มาตรฐานและเป้าหมายความสาเร็จจะระบุเป็นรูปธรรมชัดเจน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
พันธกจิ รวมทัง้ อัตลกั ษณ์ และเอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา จดั ทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา
ท่ีมุ่งคุณภาพตามาตรฐานการศึกษา โดยในแต่ละรอบปีจะมีการดาเนินการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี
ซึง่ ประกอบดว้ ยโครงการ กจิ กรรม ทเี่ ชื่อมโยงไปสู่เป้าหมายความสาเร็จตามมาตรฐานการศกึ ษาทก่ี าหนดไว้
ทั้งนี้แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาผ่านการระดมความคิดจากผู้มีส่วนเก่ียวข้อง และ
มกี ารวเิ คราะห์เชงิ กลยทุ ธ์อยา่ งรอบด้านและรอบคอบ โดยใชว้ ิธี SWOT Analysis , Balanced Scorecard
การดาเนินการ : สถานศึกษาดาเนินการตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาท่ีกาหนด
นาแผนปฏิบัติการประจาปีแต่ละปีสู่การปฏิบัติตามกรอบระยะเวลา โครงการ กิจกรรมที่กาหนดไว้ โดย
ผู้รับผิดชอบและผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีและความรั บผิดชอบตามท่ีได้กาหนดอย่างมี
ประสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธิผลสงู สดุ
๕๓
การตรวจสอบ : ขณะดาเนินการตามแผนท่ีกาหนดไว้ สถานศึกษามีการตรวจสอบ ติดตามผลการ
ดาเนินงานเป็นระยะ ๆ เพ่ือปรับปรุง และ แก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้น มีการประเมินผลการดาเนินงานเมื่อจบ
โครงการ รวบรวมข้อมูล สารสนเทศจากผลการดาเนินงานเพ่ือนาไปจัดทารายงานผลการประเมินตนเอง การ
ตรวจสอบและติดตามการดาเนินโครงการ กิจกรรมช่วยให้งานบรรลุเป้าหมาย ความสาเร็จ ส่งผลให้เกิด
คณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาตามที่สถานศกึ ษากาหนดไว้
การปรับปรุงพัฒนา : เม่ือส้ินปีการศึกษาสถานศึกษามีการประเมินผล สรุป และจัดทารายงานผลการ
ประเมินตนเอง(SAR) จัดส่งหน่วยงานต้นสังกัด โดยสถานศึกษาใช้ข้อมูลจากรายงานผลการประเมินตนเอง
(SAR) เป็นสารสนเทศในการพัฒนาสถานศึกษาในปีการศึกษาถัดไป และนาสารสนเทศจากรายงานผลการ
ประเมินตนเอง(SAR) ของสถานศึกษาไปสังเคราะห์ สรุปประเด็นสาคัญเพ่ือการพัฒนาและส่งให้สานักงาน
รับรองมาตรฐานและประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน) เพอื่ เตรียมรับการประเมินคุณภาพภายนอก
ตอ่ ไป
การดาเนินงานตามวงจร PDCA มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน โดยมีมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษาเปน็ เป้าหมาย ในการขบั เคลอ่ื น การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในสถานศึกษา โดยการมีสว่ นร่วมของ
ทุกภาคภาคส่วน ทั้ง ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรในสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
ผู้ปกครอง และชุมชน ในการกาหนดทิศทางการทางาน ตลอดทั้งสนับสนุนส่งเสริม ให้กาลังใจผู้เก่ียวข้องทุก
ฝ่ายให้ปฏิบตั งิ านอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธิผลอยา่ งเต็มศกั ยภาพ
๓. การนาผลการประเมินไปใช้พฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา
สถานศึกษาจัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดย ส่งเสริมแนวคิดเร่ืองการประกัน
คุณภาพการศึกษาที่มุ่งการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องให้เกิดขึ้นกับครูและบุคล ากรทุกคนใน
สถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ จนเป็นวัฒนธรรมในการทางานปกติของสถานศึกษา นาผลการ
ประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาจากการประเมินตนเอง(SAR) หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมาวิเคราะห์
สังเคราะห์ และเลือกสรรข้อมูลสารสนเทศเพื่อนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
พัฒนาการบริหาร และการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและ
แลกเปลยี่ นเรียนรู้เพอื่ ให้เกดิ การพฒั นา
หลักฐาน/เอกสารอา้ งองิ
๑. ประกาศมาตรฐานและกาหนดคา่ เปา้ หมายระดบั คณุ ภาพของสถานศกึ ษา ระดับปฐมวยั และ
ระดบั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
๒. แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา
๓. แผนปฏิบตั กิ ารประจาปี
๔. รายงานผลการประเมินตนเอง (SAR)
๕๔
ประกาศมาตรฐาน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา แผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปีการศึกษา ๒๕๖๕
SAR ปฐมวยั ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ SAR การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
๔. ด้านการบริหารงานชุมชนและเครอื ข่าย
๔.๑ การสรา้ งและพัฒนาเครอื ขา่ ยเพ่อื พฒั นาการเรยี นรู้
๔.๒ การจัดระบบการใหบ้ ริการในสถานศึกษา
มกี ารดาเนนิ การโดยสรปุ ดงั นี้
การสร้างความสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นร่วมของครู บคุ ลากรในสถานศกึ ษา ผ้ปู กครอง ชุมชน และ
สังคม
การจัดการศึกษาให้เกิดผลดี มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะ
ผู้ปกครอง ตอ้ งอาศัยกระบวนการนากระบวนการมีส่วนร่วมมาใช้ ซ่ึงพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ กล่าวถึงการมีส่วนร่วมไว้ในมาตรา ๘ (๒) ให้สังคมมี
ส่วนร่วมในการจัดการศึกษาซ่ึงสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๕๘ ได้
บัญญัติเร่ืองการมีส่วนร่วมไว้ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิ มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐใน
การปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผล หรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของตน พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาทุกระดับจึงต้องปฏิบัติตาม โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชน
ชมุ ชนเข้ามามีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษา ทั้งน้ี เพราะเม่ือผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาย่อมจะชว่ ย
๕๕
ขับเคล่ือนให้การบริหารจัดการศึกษาดาเนินไปตามความตอ้ งการของผู้ปกครอง และชุมชน ชว่ ยให้สถานศึกษา
ได้รับการยอมรับจากชุมชน ชุมชนรักและหวงแหนสถานศึกษา ซึ่งส่งผลให้ผู้ปกครอง และชุมชนสนับสนุน
ทรัพยากรการศึกษา และให้ความร่วมกบั สถานศกึ ษาในการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ด้วยความเตม็ ใจ
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย(Stakeholder)
เข้ามาร่วมดาเนินกิจกรรม ต้ังแต่การศึกษาปัญหา การวางแผนดาเนินการ การตัดสินใจ การแก้ไขปัญหา และ
การประเมินร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดย
ยดึ หลักการมสี ่วนรว่ ม “หลักร่วมคิด รว่ มทา รว่ มตรวจสอบ ร่วมรบั ผิดชอบ”
หลกั ฐาน/เอกสารอา้ งอิง
๑. วารสารประชาสมั พนั ธ์โรงเรยี น
๒. รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้
๓. รายงานการประชุมครู
๔. รายงานการประชมุ ภาคีเครอื ข่าย
๕. รายงานการประชมุ ผู้ปกครอง / VTR ผู้บริหารพบผปู้ กครอง
๖. รายงานโครงการสัมพันธ์ชุมชน
๗. หนงั สอื ราชการอนญุ าตใช้สถานท่ี บุคลากรร่วมปฏิบตั งิ าน ฯลฯ
๕. ดา้ นการพฒั นาตนเองและวชิ าชีพ
๕.๑ การพัฒนาตนเองและวิชาชพี
๕.๒ การนาความรู้ ทกั ษะทีไ่ ดจ้ ากการพฒั นาตนเองและวชิ าชีพมาใช้ในการพฒั นาการบรหิ ารจดั การ
สถานศกึ ษาทส่ี ง่ ผลต่อคุณภาพผเู้ รยี น ครู และสถานศกึ ษา
มีการดาเนินการโดยสรุป ดังน้ี
๑. การวางแผน และพฒั นาตนเองดา้ นความรทู้ กั ษะ และคณุ ลกั ษณะบุคคลสาหรบั ผดู้ ารงตาแหน่ง
ผ้บู ริหารสถานศึกษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร มุง่ เน้นให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พฒั นาตนเองโดยยดึ หลักการประเมิน
สมรรถนะ (Competency Based Approach ) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้ จุดเด่น จุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของ
หนว่ ยงาน และ ของตนเองอยา่ งแทจ้ ริง ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา จงึ ต้องมีการวางแผนการพฒั นาตนเอง
รายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) เพ่ือเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่
ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา กจ็ ะส่งผลตอ่ สมรรถนะในการปฏบิ ัติหน้าทท่ี ่ีมีประสิทธิภาพ
๕๖
ต่อไป และ เป็นการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิด
ประสิทธผิ ล ในการปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชพี ที่มีมาตรฐานในการปฏิบตั ิงานอย่าง
แท้จริงสามารถตรวจสอบได้ และพฒั นาสูค่ วามเป็นวิชาชพี ตอ่ ไป
ท้ังนี้ เมื่อข้าพเจ้าดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ซ่ึงเป็น
โรงเรียนในโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี “โครงการพฒั นาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” ข้าพเจ้าภูมิใจ มีความพร้อม และมีความมุ่งมั่นท่ี
จะพัฒนาสถานศึกษา ผู้เรียน ครูและบุคลากร รวมทั้งชุมชน ตอบสนองพระราชดาริพระองค์ท่าน จึงกาหนด
ทิศทางการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ผู้เรียน ตามบริบท จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของโรงเรียน
พร้อมทั้งกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ และจัดทาแผน/โครงการเพื่อการพัฒนา
สถานศึกษาและผู้เรียนจากการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น
๒. การส่งเสรมิ และพฒั นาผอู้ ่ืนด้านความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ หมวด ๕ การ
เสริมสร้าง ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ มาตรา ๗๙ ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างท่ีดีแก่ผู้อยู่
ใต้บังคับบัญชา และมีหน้าท่ีพัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม
และจรรยาบรรณ วิชาชีพที่เหมาะสมในอันที่จะทาให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
และความก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และ มาตรา ๘๐ ให้มี
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งบางวิทยฐานะ เพ่ือเพิ่มพูน
ความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสมในอันท่ีจะทาให้การปฏิบัติ
หน้าท่ีราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความเจริญก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์และ
วธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด รวมถึงกรอบ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) กาหนดวิสัยทัศน์
เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ๖ ยุทธศาสตร์ ทีม่ งุ่ เนน้
การสร้างความม่ันคง การพัฒนา ด้านพลังงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การวิจัยและพัฒนา
ตลอดจนการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิตให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
ประการสาคัญ คือ การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพเท่าเทียมและทั่วถึง และมุ่งเน้น
การปลกู ฝงั ระเบียบวินัย จรยิ ธรรม ค่านิยม ท่พี ึงประสงค์รวมไปถงึ การต่อต้านการทุจริตและประพฤตมิ ชิ อบ ซึ่ง
มีความสอดคลอ้ งกับยุทธศาสตรส์ านักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การพฒั นาและ
เสริมสร้างศักยภาพคนลงสู่นโยบาย เพ่ือพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) นโยบายที่ ๓ ด้านการส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ทม่ี ุ่งเนน้ พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใหส้ ามารถจดั การเรยี นรู้อย่างมคี ุณภาพรปู แบบท่ีหลากหลาย เช่น
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการ
ปฏบิ ัตจิ ริง (Active Learning) การพฒั นาครูทั้งระบบที่เช่ือมโยงกบั การเล่อื นวิทยาฐานะ
๕๗
โรงเรียนวัดชนิ วราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์) ไดม้ ีการกาหนดกรอบ ทิศทางในการวางแผนการพัฒนา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้สารวจและรวบรวมข้อมูลความต้องการจาเป็นในการพัฒนา
ตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID PLAN) ของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
เนื่องด้วยตระหนักและเห็นความสาคัญของการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งถือเป็น
ทรัพยากรบุคคลที่มีความสาคัญต่อการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ
เกิดประสิทธิผล และบรรลุวัตถุประสงค์ ส่งผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มีสมรรถนะ
ตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ สู่การบริหารจัดการสถานศึกษาได้อย่างมี
คณุ ภาพ เกิดประโยชน์สงู สุดตอ่ การบริหารจดั การศึกษา อนั จะนาไปสคู่ ุณภาพผู้เรยี นต่อไป
๓. การเป็นผนู้ าในชุมชนการเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ
การเปล่ียนแปลงในยคุ ศตวรรษท่ี ๒๑ ส่งผลตอ่ วถิ ีชีวีติของคนในสังคม ระบบการศึกษาจึงจาเปน็ ต้อง
พฒั นา ตอบสนองตอ่ การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึนนีด้ ว้ ย เดมิ การศกึ ษามุ่งเนน้ ให้ผเู้ รยี นมีทักษะเพยี งอา่ นออกเขียน
ได้เท่านั้น แต่สาหรับในศตวรรษท่ี ๒๑ ตอ้ งมุ่งเน้นให้ผเู้ รียนเกิดการปฏิบัติ และการสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อม
กัน กล่าวคือ จะไม่เป็นเพียงผู้รับ (Passive Learning) อีกต่อไป แต่ผู้เรียนต้องฝึกการเรียนรู้ จากการลงมือ
ปฏิบัติและการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง (Active Learning) โดยมีครูเป็น “โคช” ที่คอย ออกแบบการเรียนรู้
เพื่อช่วยผู้เรียนให้บรรลุผลได้ ประการสาคัญ คือ ครูในศตวรรษที่ ๒๑ จะต้องไม่ต้ังตนเป็น “ผู้รู้” แต่ต้อง
แสวงหาความรู้ไปพร้อมๆ กันกับผู้เรียน ดงั น้ันการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ต้องก้าวข้าม “สาระวิชา” ไปสู่การ
เรียนรู้“ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑” (21st Century Skills) ซ่ึงครูจะเป็นผู้สอน ไม่ได้แต่ต้องให้นักเรียนเป็นผู้
เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนรู้ฝึกฝนให้ตนเองเป็นโค้ช (Coach) และอานวยความสะดวก
(Facilitator) ในการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning : PBL) ของนักเรียนสิ่งที่เป็น
ตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือชุมชนการเรียนรู้ครูเพ่ือศิษย์ (Professional Learning Communities :
PLC) ซง่ึ เกิดจากการรวมตวั กนั ของครเู พื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์การทาหนา้ ท่ขี องครแู ต่ละคนน่นั เอง
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ได้มีการกาหนดกรอบ ทิศทางในการวางแผนการ
ขับเคล่ือน กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สู่การ
ปฏิบัติในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างย่ังยืนต่อไป โดย ดาเนินการให้
ครูและบุคลากรมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับ PLC (Professional Learning Community) ชุมชนการเรียนรู้ทาง
วชิ าชีพ มีการรวมตวั รว่ มใจ ร่วมพลัง ร่วมทา และร่วมเรยี นรูร้ ว่ มกนั ของครู ผบู้ รหิ าร และ นกั เรยี น บนพน้ื ฐาน
วัฒนธรรมความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร สู่คุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่เน้น ความสาเร็จหรือประสิทธิผลของ
ผ้เู รียนเปน็ สาคญั และความสุขของการทางานรว่ มกัน
หลักฐาน/เอกสารอา้ งองิ
๑. Individual Development Plan
๒. เกยี รติบัตร
๓. รายงาน Professional Learning Community
๕๘
ตอนที่ ๒ : ระดบั ความสาเรจ็ ในการพัฒนางานทเ่ี สนอเปน็ ประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ครู และ
สถานศึกษา
๑. วิธีดาเนินการ
ข้อตกลงในการพัฒนางานทเี่ ป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ครู และสถานศึกษา
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามเป้าหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา
แหง่ ชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ฉบับแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และฉบับท่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๕๓ เน้นให้มี
การจัดการบริหารท่ีเป็นระบบและดาเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้สถานศึกษามีการวางแผนพัฒนาให้
บรรลุเป้าประสงค์หลักของสถานศึกษาท่ีจะสร้างผู้เรียนท่ีมีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครอง
และชุมชน โดยให้ความสาคญั กบั การใช้ผลการดาเนินงานท่ีผ่านมาและขอ้ มูลสารสนเทศเปน็ ปัจจัยหลกั ในการ
วางแผนร่วมกันระหว่างบุคลากรทั้งภายในและภายนอกที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น
พื้นฐาน สถานศึกษาจะต้องมีการระดมสมองในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้มีส่วนเก่ียวข้อง
สภาพแวดลอ้ มทัง้ ภายในและภายนอก เพ่ือใหไ้ ด้แนวทางในการพัฒนาหรอื ปรบั ปรุงการศกึ ษาของสถานศกึ ษาท่ี
ตอบสนองและบรรลุเป้าหมายหลักของสถานศึกษา ตลอดจนนโยบายท่ีเกี่ยวข้อง สอดคล้องวิสัยทัศน์ที่ว่า
“โรงเรียนวัดชินวราราม (เจริญผลวิทยาเวศม์) เป็นแหล่งเรียนรู้ ปลูกฝังการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้
ผู้เรียนเป็นคนดมี ีคุณธรรม จริยธรรม มีวิชาความรู้ท่ีได้มาตรฐานการทันกระแสโลกปจั จุบนั สามารถอยู่ในสังคม
อย่างมีความสุขและปลอดภัย ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และตามบริบทของโรงเรียนวัดชินว
ราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ซ่ึงเป็นโรงเรียนในโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถ่ินทุรกันดาร” ซ่ึงมีการ
ดาเนินการใน ๕ ด้าน
ดา้ นที่ ๑ ดา้ นโภชนาการและสขุ ภาพอนามัย
ดา้ นที่ ๒ ดา้ นการศกึ ษา
ดา้ นท่ี ๓ ดา้ นการส่งเสริมอาชีพ
ด้านที่ ๔ ดา้ นการอนรุ กั ษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
ดา้ นท่ี ๕ ดา้ นการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ
ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) สานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ต้ังแต่วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ – ปัจจุบัน ได้บริหารงานตาม
อานาจหน้าที่ใน ๔ กลุ่มบริหารงานหลัก ๑) กลุ่มบริหารวิชาการ ๒) กลุ่มบริหารงานบุคคล ๓) กลุ่มบริหาร
งบประมาณ และ ๔) กลุ่มบริหารท่ัวไป โดยยึดหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ปฏิบัติหน้าที่
ภายใต้ความถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบปฏิบัติ จรรยาบรรณวิชาชีพ ขับเคล่ือนสู่การปฏิบัติเพ่ือบรรลุ
๕๙
เป้าหมายโดยใช้ “Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มีปัญญา พัฒนาคุณภาพการศึกษา” ภายใต้กรอบ
วงจร PDCA ที่มีการบริหารงานอย่างมีประสิทธภิ าพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสถานศึกษา และผู้มีส่วนได้ส่วน
เสีย (Stakeholders)
รูปแบบ“Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มปี ัญญา พัฒนาคุณภาพการศึกษา” มีวัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นาสู่การปฏิบัติตาม
แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏบิ ัติการประจาปี
Smart :สงา่ งาม : งามกาย งามวาจา และงามจิตใจ
W : Wisdom : ความมีปัญญา : ศีลธรรม น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นมิตร
ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม
พฒั นาคุณภาพการศึกษา ดว้ ย CHIn
C : มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ : 3Rs8Cs
ประกอบด้วย ทกั ษะและคุณลกั ษณะต่อไปน้ี
3Rs ประกอบดว้ ย
Reading คือ การอา่ นออก
(W) Writing คือ การเขยี นได้
(A) Arithmetic คอื การคดิ เลขเป็น
8Cs ประกอบดว้ ย
Critical Thinking &Problem Solving คือ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
และทักษะในการแกป้ ญั หา
Creativity & Innovation คือ ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม
Cross-cultural Understanding คือ ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่าง
กระบวนทศั น์
๖๐
Collaboration, Teamwork & Leadership คือ ทักษะด้านความร่วมมือ การ
ทางานเปน็ ทมี และภาวะผูน้ า
Communications Information & Media Literacy คือ ทักษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทันสอื่
Computing & ICT Literacy คือ ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการสอ่ื สาร
Career & Learning Skills คือ ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้
Compassion คือ ความมเี มตตา กรุณา มวี ินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม
H : พฒั นา 4H โดยการจดั กิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกับวยั และศักยภาพผเู้ รยี น
Head : พัฒนาสมอง จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาทักษะการคิด เพื่อให้ผู้เรียนมี
ความสามารถในการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า ตดั สินใจ แก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์
Heart : พัฒนาจิตใจ จัดกิจกรรมส่งเสริม พัฒนา และปลูกฝังค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม
การทาประโยชน์เพ่อื สงั คม เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงคจ์ นเป็นลกั ษณะนิสยั และมีจติ สานึกท่ีดีต่อ
ตนเองและส่วนรวม
Hand : พัฒนาทักษะการปฏิบัติ จัดกิจกรรมสร้างเสริมทักษะการทางาน ทักษะทางอาชีพท่ี
หลากหลาย เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนคน้ พบความสามารถ ความถนดั และศกั ยภาพของตนเอง
Health : พัฒนาสุขภาพ จัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะเพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะทางกายท่ี
สมบูรณ์ แข็งแรง มเี จตคติทด่ี ตี ่อการดแู ลสขุ ภาพ และมีทักษะปฏบิ ัตดิ า้ นสขุ ภาพจนเป็นนสิ ยั
In : STEAM 4 Innovator : ๔ ข้ันตอนสร้าง “นวตั กร” พัฒนาคุณภาพการศกึ ษาไทย
STEAM ประกอบดว้ ย
Science : วทิ ยาศาสตร์
Technology : เทคโนโลยี
Engineering : วศิ วกรรมศาสตร์
Art : ศลิ ปะ
Mathematics : คณิตศาสตร์
นารปู แบบ“Smart W. CHIn. Model : สงา่ งาม มปี ัญญา พฒั นาคุณภาพการศึกษา” ส่กู ารปฏิบัติ
Smart :สง่างาม : งามกาย งามวาจา และงามจิตใจ สู่การปฏิบัติโดยดาเนินโครงการ กิจกรรม ตาม
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจาปกี ารศกึ ษา
W : Wisdom : ความมีปัญญา : ศีลธรรม น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นมิตร
ต่อสง่ิ แวดล้อม สู่การปฏิบตั โิ ดยดาเนนิ โครงการ กิจกรรม ตามแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติ
การประจาปกี ารศกึ ษา
๖๑
CHIn : พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา : 3Rs , 8Cs , 4H , STEAM 4 Innovator สกู่ ารปฏบิ ัติ ดังน้ี
๑. บูรณาการในการจดั การเรยี นการสอนในชั่วโมงเรยี น
๗ นาที 3Rs - Reading สรุปความ
- Writing
- Arithmetic
๓ นาที C - Compassion
4Hs - ลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารู้
๒. STEAM 4 Innovator ดาเนินการ “One Team One Teacher One Project”
การจัดการเรียนร้แู บบ PBL - การเรยี นรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning
- การจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน Project Based Learning
๓. ศนู ยก์ ารเรียนห้องเรยี นคุณภาพ 3Rs 8Cs 4H
๓.๑ ห้องเรยี นคุณภาพภาษาไทย
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
- Heart
๓.๒ ห้องเรยี นคณุ ภาพวิทยาศาสตร์
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
3Hs - Head
- Heart
- Health
๓.๓ หอ้ งเรยี นคุณภาพคณิตศาสตร์
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
๖๒
2Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
- Heart
๓.๔ หอ้ งเรียนคณุ ภาพภาษาองั กฤษ
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
- Heart
- Health
๓.๕ หอ้ งเรยี นคณุ ภาพสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2Rs - Reading
- Writing
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Cross-cultural Understanding
- Compassion
2Hs - Head
- Heart
๓.๖ ห้องเรียนคุณภาพวิทยาการคานวณ
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
3Cs - Creativity & Innovation
- Communications Information & Media Literacy
- Computing & ICT Literacy
2Hs - Head
- Heart
๖๓
๓.๗ หอ้ งเรียนคุณภาพศลิ ปะ ดนตรีไทย นาฏศิลป์
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Cross-cultural Understanding
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๓.๘ ห้องเรียนคณุ ภาพชีวติ ดีมีสุข
2Rs - Reading
- Writing
5Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Career & Learning Skills
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๓.๙ ห้องเรยี นคุณภาพปฐมวัย
2Rs - Reading
- Writing
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๖๔
๓.๑๐ หอ้ งเรยี นคณุ ภาพหอ้ งเรยี นขนาน
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๓.๑๑ ห้องสมุด
ประเดน็ ทา้ ทาย รอบปงี บประมาณ ๒๕๖๕ เรื่อง ตามรอยพระบาท “เจ้าฟา้ นกั อ่าน”
๑. สภาพปญั หาการบริหารจดั การสถานศึกษาและคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ปัญหาการอ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้ของเด็กไทยนับวันจะถึงระดับข้ันท่ีน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น ซึ่ง
ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างมอง และวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า สาเหตุของปัญหาน้ันมีต้นตอมาจากโน่น น่ี
๖๕
น่ันมากมาย บา้ งก็บอกมาจากตัวผู้เรียนเองทีข่ าดความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ อาจจะ เนื่องมาจากส่ือและส่ิงแวดลอ้ มที่
เปล่ียนแปลงไป บ้างก็บอกปัญหาน้ันมาจากครูผู้สอนในระดับประถมศึกษาท่ีสอนไม่เป็น ไม่มีหลักการ ขาด
เทคนิควิธีการสอนที่น่าสนใจ เน่ืองจากไม่ได้จบตรงวิชาเอกภาษาไทย บ้างก็บอกครูผู้สอนไม่สนใจงานสอน
ปล่อยปละละเลยเด็ก บ้างก็บอกโรงเรียนไม่มีระบบรองรับท่ีจะช่วยเหลือผู้เรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านออก
เขียนได้โดยเฉพาะ บ้างก็บอกหนังสือเรียน และส่ือการเรียนรู้ภาษาไทยท่ียังไม่ดีเท่าที่ควร บ้างก็บอกพ่อแม่
ผู้ปกครองไม่มีเวลาใส่ใจดูแลบุตรหลานให้ อ่านหนังสือ หรือทาการบ้าน ซ่ึงเหล่านี้เป็นการมองต่างมุม และคิด
ต่างมิติตามประสบการณ์ของแต่ละคน น่ันเอง แต่ส่ิงที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ น่ันคือ การอ่านหนังสือไม่ออกและ
เขียนไม่ได้ของผู้เรียนน้ันถือเป็น ปัญหาสาคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤติคุณภาพการศึกษาของประเทศ ซ่ึง
ปัจจุบันยังมีผู้เรียนท่ีมีปัญหา อ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้อยู่อีกเป็นจานวนมาก เช่ือว่าทุกท่านคงเห็นพ้อง
ต้องกันว่าการอ่านออก เขียนได้ น้ันถือว่าเป็นพื้นฐานและหัวใจสาคัญในการเรียนรู้ในทุกๆ วิชา ซ่ึงหากผู้เรียน
คนใดอ่านไมอ่ อกเขยี นไม่ได้ ย่อมเป็นอปุ สรรคสาคญั ย่ิงต่อการพัฒนาตนเอง และส่งผลถึงการเรียนรู้ในวชิ าอนื่ ๆ
ให้มีปัญหาด้วย สิ่งที่ต้องคิดและลงมือทาอย่างเร่งด่วน น่ันคือ ทาอย่างไรท่ีจะให้ผู้เรียนทุกคนท่ีอยู่ในระบบ
การศึกษา สามารถอ่านออก เขียนได้ มีความเข้าใจในสิ่งท่ีอ่านและเขียน ซ่ึงเป็นหัวใจสาคัญของการศึกษาใน
ระดบั ขั้นพ้นื ฐาน
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีข้อมูลผู้เรียนส่วนหน่ึงที่มีปัญหาการอ่าน และการเขียน
โดย ปัญหาการอ่าน เกิดจาก ยังจาหลักเกณฑ์ในการสะกดคาต่าง ๆ ไม่ได้ อ่านคาผิด ลักษณะที่อ่านผิด เช่น
อ่านคาที่มีอักษรนาผิด คาพ้องรูป อ่านแยกคาหรืออ่านแบ่งวรรคตอนผิด อ่านออกเสียงผิด ออกเสียง
พยัญชนะตัวหนึ่งเป็นพยัญชนะอีกตัวหนึ่ง ออกเสียงคาควบกล้าผิด อ่านช้า จับใจความสาคัญของเรื่องไม่ได้
สาหรับปัญหาการเขียน เกิดจาก เขียนพยัญชนะ สระ และเขียนคาไม่ได้ สะกดคาผิด วางสระและวรรณยุกต์ไม่
ถูกที่ คาพ้องเสียง เขียนคาที่ใช้ตัวสะกดไม่ตรงมาตราตัวสะกดผิด เขียนคาที่มีการันต์ เขียนคาที่มีสระเสียงส้ัน
และเสียงยาวสลับกัน เขียนคาควบกล้าผิด เว้นวรรคตอนและย่อหน้าไม่ถูก ใช้คาไม่เหมาะสม ลาดับความคิด
ในการเขียนไมไ่ ด้ ลายมอื อา่ นยาก เปน็ ตน้
จากปญั หา ดังกลา่ ว โรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์ จึงกาหนดให้ “ปีงบประมาณ ๒๕๖๕
เปน็ ปีแห่งการตามรอยพระบาท เจา้ ฟ้านกั อา่ น”
วัตถปุ ระสงค์
เพ่ือพัฒนานักเรยี นใหม้ ีความสามารถอ่านออกเขยี นได้ อ่านคล่องเขียนคลอ่ ง และส่อื สารได้
๒. วธิ กี ารดาเนินการให้บรรลุผล การดาเนินการใหบ้ รรลผุ ลตามวตั ถุประสงค์ ภายใตก้ รอบวงจร PDCA
ขน้ั เตรียมการ (P)
๑. วางแผนการดาเนนิ การ “ตามรอยพระบาท เจ้าฟา้ นักอา่ น”
๒. ประชุมสร้างความเขา้ ใจ การดาเนินการ “ตามรอยพระบาท เจา้ ฟา้ นกั อ่าน” และบทบาทหนา้ ที่
๖๖
๓. คดั กรองผเู้ รียน แบง่ กล่มุ
๓.๑ ผ้เู รียนปกติ : อ่านไมอ่ อก เขียนไม่ได้
๓.๒ ผเู้ รยี นปกติ : อ่านไมค่ ลอ่ ง เขียนไมค่ ลอ่ ง
๔. กาหนดรายละเอียดกจิ กรรม“ตามรอยพระบาท เจ้าฟา้ นักอ่าน”
ขน้ั ดาเนินการ (D)
๑. ผู้เรียน ๒ กลุ่ม ไดแ้ ก่
๑) กลมุ่ ผู้เรียนปกติ : อ่านไมอ่ อก เขียนไมไ่ ด้
๒) กลมุ่ ผู้เรียนปกติ : อ่านไม่คลอ่ ง เขียนไมค่ ล่อง
ครูจัดการเรียนการสอนตามตารางลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้
๒. “หนึ่งคน หนง่ึ เร่ือง” สรุปความ ผู้เรียนอา่ นหนงั สือพระราชนิพนธใ์ นสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
๖๗
๓. “๗ นาที Reading Writing สรุปความ”และท่องอาขยาน ครผู ูส้ อนบรู ณาการในการจดั การเรยี น
การสอนในทกุ รายวชิ าทกุ ชั่วโมงเรยี น : บทอาขยานในแตล่ ะระดบั ชัน้
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ : ๒๐ ม้วนจาจงดี
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ : ไก่แจ้ สกั วา
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ : เดก็ เอ๋ย เดก็ น้อย
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ : กาเนิดสุดสาคร
ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ : วชิ าเหมือนสินค้า
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ : กาเนดิ พลายงาม
๔. “๑๐ – ๒๐ นาทที ่ีอา่ นสนุก” สรา้ งแรงจงู ใจและชี้แนะใหพ้ ่อ แม่ ผปู้ กครองส่งเสริมลกู ให้รกั การอ่าน
๕. จดั ห้องศูนยก์ ารเรยี นภาษาไทย และสภาพแวดลอ้ มท่ีส่งเสริมการอา่ นทง้ั ในและนอกห้องเรยี นอยา่ ง
หลากหลายสมา่ เสมอ
๖. ห้องสมุดมชี ีวติ หอ้ งสมุดเคลื่อนที่
กจิ กรรมสื่อประดษิ ฐ์สง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรค์
๖๘
กจิ กรรมนทิ านของหนู คณุ ครอู ยากเลา่
กิจกรรมหุน่ มือแสนสนุก สง่ เสริมจนิ ตนาการ
กิจกรรมบทบาทละคร สอนนอ้ ง ๆพาเพลนิ
ข้นั ตดิ ตามและประเมินผล(C)
นิเทศ สะทอ้ นผลการสอน ประเมินผลตามแผนการดาเนนิ การ
มกี ารนเิ ทศ สะทอ้ นผลการจดั การเรยี นการสอน ประเมินผลการอา่ น การเขียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่
๑ – ๖ ตามนโยบาย
- สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑ และบรบิ ทของโรงเรียน
๖๙
ตามโครงการ “เดก็ ไทยวถิ ีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน”
ขนั้ สรปุ /รายงานผล(A)
สรุปผลการประเมนิ และรายงานเพ่อื ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลสาหรบั การปรับปรงุ พฒั นาการดาเนนิ การตอ่ ไป
๓. ผลลัพธ์การพัฒนาทค่ี าดหวงั
๓.๑ เชงิ ปริมาณ
๑. นกั เรยี นระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ทุกคนต้องอ่านออกเขียนได้
๒. นกั เรยี นระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ – ๖ อา่ นคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง และสอื่ สารได้
๗๐
เปรียบเทยี บระยะที่ ๑ กบั ๒
ความสามารถในการอ่าน
ระดบั ดีมาก และระดับดี สงู ขึ้น
เปรยี บเทยี บระยะท่ี ๑ กับ ๒
ความสามารถในการเขยี น
ระดบั ดีมาก และระดับดี สงู ขึ้น
๓.๒ เชงิ คณุ ภาพ
๑. นักเรียนโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) อ่านออกเขียนได้ และอ่านคล่องเขียนคล่อง
บรรลุตามวัตถุประสงค์
๒. นักเรียนโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ได้รับรางวัลชนะเลิศการเขียนเรียงความ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ และชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ การประกวดแข่งขันทักษะวิชาการในการประชุม
วิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดาริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นตัวแทนสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี
เขต ๑ เข้าแขง่ ขันระดบั ภาคตอ่ ไป
๗๑
ผู้เรยี นไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ อนั ดับ ๑ เขียนเรยี งความ.........
๗๒
องค์ประกอบที่ ๒
การประเมนิ การมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาการศึกษา
ความสาเรจ็ ของงานท่ีไดร้ บั มอบหมายจากผบู้ ังคบั บญั ชา
๑. ปฏบิ ัติหนา้ ที่ตามทไี่ ด้รับมอบจากผู้บังคบั บญั ชา สาเร็จลุล่วงบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ บังเกดิ ผลดแี ก่
ราชการ
ปี พ.ศ. รายการ หน่วยงาน
๒๐ ธันวาคม คณะกรรมการกลมุ่ เครอื ขา่ ยส่งเสริมประสทิ ธภิ าพการจดั การศกึ ษา คาส่ังสานักงานเขตพ้นื ที่
๒๕๖๔ การศึกษาประถมศกึ ษา
ปทมุ ธานี เขต ๑
ท่ี ๒๖/๒๕๖๔ ลงวันที่
๒๐ ธนั วาคม ๒๕๖๔
๗-๑๐ ธันวาคม รว่ มเปน็ วิทยากรให้ความร้ใู นการฝกึ อบรมลกู เสอื จิตอาสาพระราชทาน คาสั่ง สานกั งานเขตพน้ื ท่ี
๒๕๖๔ ในสถานศกึ ษา โรงเรียนวัดเปรมประชากร การศกึ ษาประถมศึกษา
๑๓-๑๖ ธันวาคม รว่ มเปน็ วทิ ยากรใหค้ วามรู้ในการฝึกอบรมลูกเสอื จิตอาสาพระราชทาน ปทุมธานี เขต ๑
๒๕๖๔ ในสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จฯ
๒๐-๒๓ ธนั วาคม รว่ มเปน็ วิทยากรใหค้ วามรู้ในการฝกึ อบรมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน
๒๕๖๔ ในสถานศึกษา โรงเรียนวดั บางพูน
๒๗-๓๐ ธนั วาคม ร่วมเปน็ วทิ ยากรให้ความรู้ในการฝกึ อบรมลกู เสือจติ อาสาพระราชทาน
๒๕๖๔ ในสถานศกึ ษา
๑-๔ กมุ ภาพันธ์ รว่ มเป็นวทิ ยากรให้ความรใู้ นการฝึกอบรมลกู เสือจิตอาสาพระราชทาน
๒๕๖๕ ในสถานศกึ ษา โรงเรยี นชุมชนวดั หนา้ ไม้
๕ มกราคม คณะกรรมการตรวจสภาพอาคารโดมหลังคาคลุมลานเอนกประสงค์ คาส่ัง สานักงานเขตพ้นื ที่
๒๕๖๕ โรงเรียนอนุบาลปทมุ ธานี การศกึ ษาประถมศกึ ษา
ปทุมธานี เขต ๑
ท่ี ๕๑/๒๕๖๕สง่ั ณ วนั ที่
๕ มกราคม ๒๕๖๕
๖ มกราคม คณะกรรมการประเมนิ ความพรอ้ มการเปิดโรงเรียนหรอื สถานบัน ประกาศสานักงานศกึ ษาธิการ
๒๕๖๕ การศึกษาตามข้อกาหนดตามความในมาตรา ๙ แหง่ พระราชกาหนด จังหวดั ปทุมธานี
การบริหาราชการในสถานการณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘(ฉบบั ท่ี ๓๔) ประกาศ ณ วันที่
๖ มกราคม ๒๕๖๕
๗๓
ปี พ.ศ. รายการ หน่วยงาน
๒๖ มกราคม คณะกรรมการกาหนดรายละเอยี ดคณุ ลักษณะเฉพาะของพสั ดแุ ละ คาสง่ั สานกั งานเขตพน้ื ท่ี
กาหนดราคากลาง คณะกรรมการพจิ ารณาผล และคณะกรรมการ การศกึ ษาประถมศกึ ษา
๒๕๖๕ ตรวจรับพัสดุ ปทุมธานี เขต ๑
ที่ ๑๖/๒๕๖๕ ลงวันที่
๘ กมุ ภาพนั ธ์ คณะกรรมการดาเนนิ การทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพนื้ ฐาน ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕
๒๕๖๕ (O-NET) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ระดบั สนามสอบ คาส่งั สานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศกึ ษา
๑๐ กมุ ภาพันธ์ คณะกรรมการรับนกั เรียนระดับโรงเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ปทมุ ธานี เขต ๑
๒๕๖๕ ท่ี ๔๓/๒๕๖๕ส่ัง ณ วนั ที่
คณะกรรมการสอบภาค ค ความเหมาะสมกบั ตาแหน่ง วชิ าชีพ และ ๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕
๑๗ มีนาคม การปฏิบตั งิ านในสถานศึกษาการสอบแขง่ ขนั เพอื่ บรรจุและแตง่ ตั้ง ประกาศ สานักงานเขตพน้ื ที่
๒๕๖๕ บคุ คลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การศึกษาประถมศกึ ษา
ตาแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย สังกดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ปทุมธานี เขต ๑
๑๙ พฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศ ณ วันที่
๒๕๖๕ ประธานคณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างไมร่ า้ ยแรง ๑๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕
คาสง่ั สานกั งานศกึ ษาธกิ าร
๒๙ สิงหาคม คณะกรรมการประเมินเพ่ือยกระดับคณุ ภาพและคัดเลือกผลงาน จงั หวัดปทุมธานี
๒๕๖๕ กิจกรรมโรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. ที่ ๑๒๒/๒๕๖๕สง่ั ณ วนั ท่ี
๑๗ มนี าคม ๒๕๖๕
คาสัง่ สานักงานเขตพนื้ ที่
การศกึ ษาประถมศกึ ษา
ปทุมธานี เขต ๑
ที่ ๑๒๙/๒๕๖๕ส่งั ณ วนั ที่
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕
คาสงั่ สานกั งานเขตพ้นื ที่
การศกึ ษาประถมศกึ ษา
ปทุมธานี เขต ๑
ที่ ๒๕๗/๒๕๖๕ส่ัง ณ วันที่
๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๕
๗๔
๒. ขับเคลือ่ นนโยบายจากหนว่ ยงานต้นสงั กัด สาเร็จลลุ ว่ งบรรลุตามวตั ถุประสงค์ บงั เกิดผลดีแก่
ราชการ
ขับเคลอื่ นนโยบายเรง่ ดว่ นสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน Quick Policy ๒๕๖๕
นโยบายสานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑ ตามบริบทของโรงเรียนวัดชินวราราม
(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
๑. การจดั การเรยี นรู้เชิงรุก (Active Learning) ในการพฒั นาผู้เรยี นสู่ฐานสมรรถนะ
๒. ความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา (MOE Safety Center)
๓. มาตรการฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery)
๔. การพฒั นาคณุ ภาพการอ่านออกเขียนได้ ตามโครงการ “เดก็ ไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน”
๕. การใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพอ่ื การเรียนรทู้ กุ ระดบั
๖. การสง่ เสริมผูเ้ รียน ๑ ดนตรี ๑ กีฬา ๑ อาชพี
๗๕
องคป์ ระกอบที่ ๓
การประเมนิ การปฏิบัติตนในการรักษาวนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ
“งานของครูน้ัน ถือได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เพราะเป็นการวางรากฐานความรู้ ความดี
และความสามารถทุก ๆ ด้านแก่ศิษย์ เพื่อช่วยให้สามารถดารงตนเป็นคนดี มีอาชีพเป็นหลักฐานและเป็น
ประโยชน์ต่อสังคม เพราะเหตุท่ีงานของครูเป็นงานท่ีหนักและเป็นงานสร้างสรรค์ท่ีบริสุทธิ์ ผู้เป็นครูจึงต้อง
ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ด้วยความพากเพียร อดทน และด้วยความเมตตากรุณาอย่างสูง ทั้งต้อง
สารวมระวังตนในเรื่องความประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการที่ไม่
สมควรแก่ฐานะและเกยี รตภิ ูมขิ องครู…”
พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะกรรมการ
คุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และคณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโสในพระบรมราชูปถัมภ์ นาครู
อาวโุ ส ประจาปี ๒๕๕๙ เฝ้าทลู ละอองธุลีพระบาท รบั พระราชทานเคร่ืองหมายเชิดชูเกียรติ และเงินชว่ ยเหลือ
ครูอาวุโสเขา้ รับพระราชทานเคร่อื งหมายเชิดชเู กยี รติ และรบั พระราชทานเงนิ ชว่ ยเหลอื
ณ ศาลาดสุ ดิ าลัย สวนจิตรลดา พระราชวงั ดุสติ
วนั อังคารท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑
ข้าพเจ้า ไดร้ ับการแตง่ ต้ังดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียน วนั ท่ี ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ ปัจจุบันดารง
ตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ประพฤติ ปฏิบัติตน ยึดหลัก “ความถูกต้อง” บริหารสถานศึกษา ตาม
หลักธรรมาภิบาล และการมีส่วนร่วม มีการปฏิบัติตนในการรักษาวินัย ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และ ท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ
พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ รวมทั้งกฎ ระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง โดยมีการ
ปฏบิ ตั ิตน ดังนี้
๑. ยึดม่ันในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ยึดม่ัน
ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมขุ
๒. มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีจิตสานึกที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และต่อผู้เกี่ยวข้อง ในฐานะ
ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
๗๖
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าท่ีราชการดว้ ยความซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคและเที่ยงธรรม มีความวิริยะอุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดแู ลเอา
ใจใส่รักษาประโยชน์ของทางราชการ และปฏิบตั ติ นตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครดั ไม่ให้
อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจและหน้าท่ีราชการ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม หาประโยชน์ให้แก่
ตนเองหรอื ผอู้ น่ื
๓. มีความกลา้ คดิ กลา้ ตัดสนิ ใจ กล้าแสดงออก และกระทาในสงิ่ ท่ถี กู ต้อง ชอบธรรม
ข้าพเจา้ ประพฤติ และปฏิบตั ิตน รกั ษาวินยั ทบี่ ญั ญตั เิ ป็นข้อหา้ ม และขอ้ ปฏิบัตโิ ดยเคร่งครดั ปฏิบัติ
หน้าทร่ี าชการภายใต้ความเช่ือและศรัทธาในสง่ิ ทถี่ กู ต้อง กล้าคิด กลา้ ทาในสงิ่ ท่ีถกู ต้อง ชอบธรรมดว้ ยความ
มุ่งมน่ั และศรทั ธาให้บังเกิดผลสาเรจ็ เกิดประโยชน์สงู สดุ ต่อทางราชการ
๔. มจี ิตอาสา จติ สาธารณะ มุ่งประโยชนส์ ว่ นรวม โดยไมค่ านงึ ถงึ ประโยชน์ส่วนตน หรือพวกพอ้ ง
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด มีจิต
อาสา จิตสานึกสาธารณะท่ีสามารถนาไปปลูกฝัง ส่งเสริมหรือพัฒนาให้นักเรียน ครู ให้มีจิตใจที่เห็นแก่
ประโยชนส์ ่วนรวมกอ่ นประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง ท้งั ยงั อาสาดูแลรับผดิ ชอบสมบตั สิ ว่ นรวม มีการใชส้ มบัติ
สว่ นรวมอยา่ งเหน็ คุณคา่ รจู้ ักการแบ่งปัน นามาสสู่ ังคม ประเทศชาตทิ พ่ี ฒั นาดขี นึ้
๕. มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลังความสามารถ โดยคานึงถึง
คุณภาพการศึกษาเปน็ สาคญั
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าท่ีต้องตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการ และผู้เรียน ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าท่ีราชการโดย
ไม่มีเหตุผลอันสมควรมิได้ มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลังความสามารถ โดย
คานงึ ถึงคณุ ภาพการศึกษาและผลสัมฤทธ์ิของงาน
๖. ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่อย่างเป็นธรรมและไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ข้าพเจ้า
ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือ
เกื้อกูลต่อผู้เรียน และระหว่างข้าราชการด้วยกัน หรือ ผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ต้อนรับ ให้ความสะดวก ให้ความ
เป็นธรรมและไมเ่ ลือกปฏิบตั แิ ก่ผูเ้ รยี น และประชาชนผมู้ าติดตอ่ ราชการ
๗. ดารงตนเปน็ แบบอย่างทด่ี ีและรกั ษาภาพลักษณข์ องขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด รักษา
ชอื่ เสยี งของตนและรกั ษาเกียรติศักดข์ิ องตาแหน่งหนา้ ท่รี าชการของตนมิใหเ้ สอื่ มเสีย โดยไมก่ ระทาการใดๆ อนั
ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติช่ัว ไม่กระทาการ หรือยอมให้ผู้อนื่ กระทาการ หาประโยชน์อันอาจทาให้เส่ือมเสียความ
๗๗
เที่ยงธรรม หรือเสื่อมเสียเกียรติศักด์ิในตาแหน่งหน้าท่ีราชการของตน ยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความ
สามคั คใี นหมู่คณะ
๘. เคารพศกั ดศิ์ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ คานึงถงึ สทิ ธเิ ดก็ และยอมรบั ความแตกต่างของบุคคล
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บญั ญัตเิ ปน็ ข้อห้าม และข้อปฏิบัตโิ ดยเคร่งครัด ตระหนัก
ถึงสิทธิของนักเรียน ดาเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุด และให้ความสาคัญกับความปลอดภยั ของนักเรียน ยอมรับ
ความแตกต่างของบคุ คล และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี ด้วยการแสดงความเคารพต่อสิทธขิ องผอู้ ืน่
๙. ยดึ ถอื และปฏิบตั ติ ามจรรยาบรรณของวชิ าชีพ
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน ตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ และแบบแผนพฤติกรรมตาม
จรรยาบรรณของวิชาชพี ไดแ้ ก่
จรรยาบรรณต่อตนเอง ข้าพเจ้าเป็นผู้มีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และ
วสิ ยั ทศั น์ ใหท้ ันต่อการพฒั นาทางวทิ ยาการ เศรษฐกจิ สังคม และการเมอื งอยเู่ สมอ
จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ข้าพเจ้ามีความรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็น
สมาชิกท่ดี ีขององค์กรวชิ าชีพ
จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ข้าพเจ้ามีความรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กาลังใจแก่
ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า มีการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย ท่ี
ถูกตอ้ งดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าท่ีอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธใ์ิ จ ประพฤติ
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ กระทาตนไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ มีการให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค
โดยไม่เรียกรบั หรอื ยอมรบั ผลประโยชน์จากการใช้ตาแหน่งหน้าทโ่ี ดยมชิ อบ
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ข้าพเจ้า มีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือเก้ือกูลซ่ึงกันและกัน
ระหว่างผู้ร่วมวชิ าชีพอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามคั คีในหมู่คณะ จรรยาบรรณ
ต่อสังคม ขา้ พเจา้ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนเปน็ ผนู้ าในการอนรุ ักษ์ และพัฒนาเศรษฐกจิ สงั คม ศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรม
ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ ของส่วนรวม และยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข
๑๐. มวี ินัยและการรกั ษาวินัย
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติ
คณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือ ประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทาง
ราชการ
ปฏิบัติตามคาสั่งของผู้บังคับบัญชา ซ่ึงส่ังใน หน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของ
ทางราชการ โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเล่ียง แตถ่ ้าเห็นวา่ การ ปฏิบตั ิตามคาสั่งนั้นจะทาให้เสียหายแก่ราชการ หรือ
๗๘
เป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการจะเสนอความเห็น เป็นหนังสือภายในเจ็ดวัน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา
ทวนคาสั่งน้ัน และเมื่อเสนอความเห็นแล้วถ้าผู้บังคับบัญชา ยืนยันเป็นหนังสือให้ปฏิบัติตามคาสั่งเดิม ข้าพเจ้า
จะปฏบิ ัติตาม
หลักฐาน/เอกสารอา้ งอิง
๑. ก.พ. 7
๒. เกียรติบัตร