๔๗
๔. ดา้ นการบรหิ ารงานชมุ ชนและเครอื ขา่ ย
๔.๑ การสรา้ งและพัฒนาเครือขา่ ยเพ่อื พัฒนาการเรยี นรู้
๔.๒ การจดั ระบบการให้บริการในสถานศึกษา
มีการดาเนนิ การโดยสรุป ดงั น้ี
การสร้างความสัมพันธ์ และการมีสว่ นร่วมของครู บคุ ลากรในสถานศกึ ษา ผ้ปู กครอง ชมุ ชน และ
สังคม
การจัดการศึกษาให้เกิดผลดี มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะ
ผู้ปกครอง ต้องอาศัยกระบวนการนากระบวนการมีส่วนรว่ มมาใช้ ซึ่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ กล่าวถึงการมีส่วนร่วมไว้ในมาตรา ๘ (๒) ให้สังคมมี
ส่วนร่วมในการจัดการศึกษาซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๕๘ ได้
บัญญัติเรื่องการมีส่วนร่วมไว้ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิ มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐใน
การปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผล หรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของตน พระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาทุกระดับจึงต้องปฏิบัติตาม โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชน
ชมุ ชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา ทง้ั นี้ เพราะเมื่อผปู้ กครองมีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษาย่อมจะช่วย
ขับเคล่ือนให้การบรหิ ารจัดการศึกษาดาเนินไปตามความต้องการของผู้ปกครอง และชุมชน ช่วยให้สถานศึกษา
ได้รับการยอมรับจากชุมชน ชุมชนรักและหวงแหนสถานศึกษา ซึ่งส่งผลให้ผู้ปกครอง และชุมชนสนับสนุน
ทรัพยากรการศึกษา และใหค้ วามรว่ มกับสถานศึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ด้วยความเตม็ ใจ
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย(Stakeholder)
เข้ามาร่วมดาเนินกิจกรรม ตั้งแต่การศึกษาปัญหา การวางแผนดาเนินการ การตัดสินใจ การแก้ไขปัญหา และ
การประเมินร่วมกัน เพ่ือขับเคล่ือนให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดย
ยึดหลักการมีส่วนรว่ ม “หลักรว่ มคดิ ร่วมทา ร่วมตรวจสอบ ร่วมรับผดิ ชอบ”
หลกั ฐาน/เอกสารอา้ งอิง
๑. วารสารประชาสมั พนั ธโ์ รงเรียน
๒. รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้นื
๓. รายงานการประชมุ ครู
๔. รายงานการประชุมภาคเี ครือขา่ ย
๕. รายงานการประชมุ ผู้ปกครอง / VTR ผู้บรหิ ารพบผู้ปกครอง
๖. รายงานโครงการสัมพนั ธช์ ุมชน
๗. หนังสอื ราชการอนุญาตใชส้ ถานท่ี บุคลากรร่วมปฏบิ ัติงาน ฯลฯ
๔๘
๕. ด้านการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ
๕.๑ การพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ
๕.๒ การนาความรู้ ทกั ษะท่ีได้จากการพฒั นาตนเองและวิชาชพี มาใชใ้ นการพัฒนาการบรหิ ารจดั การ
สถานศึกษาที่สง่ ผลต่อคุณภาพผ้เู รยี น ครู และสถานศึกษา
มกี ารดาเนนิ การโดยสรปุ ดังนี้
๑. การวางแผน และพัฒนาตนเองดา้ นความรทู้ กั ษะ และคณุ ลกั ษณะบุคคลสาหรบั ผดู้ ารงตาแหนง่
ผู้บริหารสถานศึกษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มุ่งเนน้ ใหค้ รูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมิน
สมรรถนะ (Competency Based Approach ) จะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้ จุดเด่น จุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของ
หน่วยงาน และ ของตนเองอย่างแท้จริง ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา จึงตอ้ งมีการวางแผนการพฒั นาตนเอง
รายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่
ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวธิ ีการพัฒนา ก็จะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีทมี่ ปี ระสิทธิภาพ
ต่อไป และ เป็นการพัฒนาที่ต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิด
ประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชพี ท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบตั ิงานอย่าง
แทจ้ ริงสามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาสคู่ วามเปน็ วิชาชีพตอ่ ไป
ท้ังน้ี เมื่อข้าพเจ้าดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ซ่ึงเป็น
โรงเรียนในโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี “โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” ข้าพเจ้าภูมิใจ มีความพร้อม และมีความมุ่งม่ันที่
จะพัฒนาสถานศึกษา ผู้เรียน ครูและบุคลากร รวมทั้งชุมชน ตอบสนองพระราชดาริพระองค์ท่าน จึงกาหนด
ทิศทางการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ผู้เรียน ตามบริบท จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของโรงเรียน
พร้อมทั้งกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ และจัดทาแผน/โครงการเพ่ือการพัฒนา
สถานศกึ ษาและผู้เรยี นจากการมีสว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น
๒. การสง่ เสรมิ และพัฒนาผู้อืน่ ด้านความรู้ ทักษะ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ หมวด ๕ การ
เสริมสร้าง ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ มาตรา ๗๙ ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่
ใต้บังคับบัญชา และมีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติท่ีดี คุณธรรม จริยธรรม
และจรรยาบรรณ วิชาชีพที่เหมาะสมในอันที่จะทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
และความก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และ มาตรา ๘๐ ให้มี
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งบางวิทยฐานะ เพื่อเพิ่มพูน
ความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสมในอันท่ีจะทาให้การปฏิบัติ
๔๙
หน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความเจริญก้าวหน้าแก่ราชการ ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์และ
วธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด รวมถึงกรอบ ยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) กาหนดวสิ ัยทัศน์
เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ท่เี ก่ยี วข้องกบั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ๖ ยทุ ธศาสตร์ ท่ีม่งุ เน้น
การสร้างความม่ันคง การพัฒนา ด้านพลังงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การวิจัยและพัฒนา
ตลอดจนการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิตให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
ประการสาคัญ คือ การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพเท่าเทียมและท่ัวถึง และมุ่งเน้น
การปลูกฝังระเบยี บวินัย จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ที่พึงประสงคร์ วมไปถึงการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่ง
มีความสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรส์ านักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ยุทธศาสตรท์ ่ี ๓ การพัฒนาและ
เสริมสร้างศักยภาพคนลงสู่นโยบาย เพ่ือพัฒนาการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) นโยบายท่ี ๓ ด้านการส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ท่มี ่งุ เนน้ พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาให้สามารถจดั การเรียนร้อู ยา่ งมคี ุณภาพรูปแบบท่ีหลากหลาย เชน่
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการ
ปฏิบตั จิ ริง (Active Learning) การพัฒนาครูทง้ั ระบบทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั การเลอื่ นวทิ ยาฐานะ
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ได้มีการกาหนดกรอบ ทศิ ทางในการวางแผนการพัฒนา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้สารวจและรวบรวมข้อมูลความต้องการจาเป็นในการพัฒนา
ตนเองรายบคุ คล (Individual Development Plan : ID PLAN) ของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
เนื่องด้วยตระหนักและเห็นความสาคัญของการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซ่ึงถือเป็น
ทรัพยากรบุคคลท่ีมีความสาคัญต่อการขับเคล่ือนการบริหารจัดการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ
เกิดประสิทธิผล และบรรลุวัตถุประสงค์ ส่งผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มีสมรรถนะ
ตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ สู่การบริหารจัดการสถานศึกษาได้อย่างมี
คุณภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจดั การศกึ ษา อันจะนาไปสู่คุณภาพผู้เรยี นต่อไป
๓. การเปน็ ผูน้ าในชมุ ชนการเรียนร้ทู างวชิ าชีพ
การเปลีย่ นแปลงในยุคศตวรรษที่ ๒๑ สง่ ผลต่อวถิ ีชวี ีตขิ องคนในสังคม ระบบการศึกษาจึงจาเป็นต้อง
พฒั นา ตอบสนองตอ่ การเปลยี่ นแปลงท่เี กดิ ข้ึนนี้ด้วย เดมิ การศกึ ษามงุ่ เน้นใหผ้ เู้ รียนมีทักษะเพียงอ่านออกเขียน
ได้เทา่ น้นั แตส่ าหรับในศตวรรษที่ ๒๑ ตอ้ งมุ่งเนน้ ให้ผู้เรียนเกิดการปฏบิ ตั ิ และการสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อม
กัน กล่าวคือ จะไม่เป็นเพียงผู้รับ (Passive Learning) อีกต่อไป แต่ผู้เรียนต้องฝึกการเรียนรู้ จากการลงมือ
ปฏิบัติและการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง (Active Learning) โดยมีครูเป็น “โค้ช” ท่ีคอย ออกแบบการเรียนรู้
เพื่อช่วยผู้เรียนให้บรรลุผลได้ ประการสาคัญ คือ ครูในศตวรรษที่ ๒๑ จะต้องไม่ต้ังตนเป็น “ผู้รู้” แต่ต้อง
แสวงหาความรู้ไปพร้อมๆ กนั กับผเู้ รยี น ดังน้นั การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ต้องก้าวข้าม “สาระวชิ า” ไปสู่การ
เรียนรู้“ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑” (21st Century Skills) ซึ่งครูจะเป็นผู้สอน ไม่ได้แต่ต้องให้นักเรียนเป็นผู้
เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนรู้ฝึกฝนให้ตนเองเป็นโค้ช (Coach) และอานวยความสะดวก
(Facilitator) ในการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning : PBL) ของนักเรียนส่ิงท่ีเป็น
๕๐
ตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือชุมชนการเรียนรู้ครูเพ่ือศิษย์ (Professional Learning Communities :
PLC) ซึง่ เกิดจากการรวมตัวกนั ของครูเพื่อแลกเปล่ยี นประสบการณ์การทาหนา้ ทขี่ องครูแตล่ ะคนน่ันเอง
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ได้มีการกาหนดกรอบ ทิศทางในการวางแผนการ
ขับเคล่ือน กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สู่การ
ปฏิบัติในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างย่ังยืนต่อไป โดย ดาเนินการให้
ครูและบุคลากรมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับ PLC (Professional Learning Community) ชุมชนการเรียนรู้ทาง
วชิ าชพี มีการรวมตัว รว่ มใจ ร่วมพลงั ร่วมทา และรว่ มเรยี นรรู้ ว่ มกนั ของครู ผูบ้ รหิ าร และ นกั เรียน บนพนื้ ฐาน
วัฒนธรรมความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร สู่คุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่เน้น ความสาเร็จหรือประสิทธิผลของ
ผเู้ รยี นเป็นสาคญั และความสุขของการทางานร่วมกนั
หลกั ฐาน/เอกสารอา้ งอิง
๑. Individual Development Plan
๒. เกยี รตบิ ัตร
๓. รายงาน Professional Learning Community
ตอนท่ี ๒ : ระดับความสาเร็จในการพัฒนางานท่เี สนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และ
สถานศึกษา
๑. วธิ ดี าเนนิ การ
ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานทีเ่ ป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ครู และสถานศึกษา
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามเป้าหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พทุ ธศักราช ๒๕๔๒ ฉบบั แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และฉบบั ท่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๕๓ เน้นให้มี
การจัดการบริหารท่ีเป็นระบบและดาเนินการอย่างต่อเน่ือง โดยส่งเสริมให้สถานศึกษามีการวางแผนพัฒนาให้
บรรลุเป้าประสงค์หลักของสถานศึกษาที่จะสร้างผู้เรียนท่ีมีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครอง
และชมุ ชน โดยใหค้ วามสาคัญกับการใช้ผลการดาเนินงานท่ีผา่ นมาและข้อมูลสารสนเทศเป็นปัจจัยหลักในการ
วางแผนร่วมกันระหวา่ งบคุ ลากรท้ังภายในและภายนอกท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง รวมถึงคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั
พื้นฐาน สถานศึกษาจะต้องมีการระดมสมองในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้มีส่วนเก่ียวข้อง
สภาพแวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก เพ่ือให้ไดแ้ นวทางในการพฒั นาหรือปรับปรุงการศึกษาของสถานศึกษาท่ี
ตอบสนองและบรรลุเป้าหมายหลักของสถานศึกษา ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องวิสัยทัศน์ที่ว่า
“โรงเรียนวัดชินวราราม (เจริญผลวิทยาเวศม์) เป็นแหล่งเรียนรู้ ปลูกฝังการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้
๕๑
ผู้เรียนเป็นคนดีมคี ุณธรรม จริยธรรม มีวิชาความรู้ท่ีได้มาตรฐานการทันกระแสโลกปจั จุบันสามารถอยใู่ นสงั คม
อย่างมีความสุขและปลอดภัย ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และตามบริบทของโรงเรียนวัด
ชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการส่วนพระองคส์ มเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถ่ินทุรกันดาร” ซึ่งมีการ
ดาเนนิ การใน ๕ ดา้ น
ด้านท่ี ๑ ดา้ นโภชนาการและสขุ ภาพอนามยั
ดา้ นท่ี ๒ ด้านการศึกษา
ด้านที่ ๓ ดา้ นการสง่ เสรมิ อาชีพ
ดา้ นท่ี ๔ ด้านการอนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม
ด้านที่ ๕ ดา้ นการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมท้องถิน่
ท้ังน้ี ในการปฏิบัติหน้าท่ีผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) สานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ตั้งแต่วันท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ – ปัจจุบัน ได้บริหารงานตาม
อานาจหน้าที่ใน ๔ กลุ่มบริหารงานหลัก ๑) กลุ่มบริหารวิชาการ ๒) กลุ่มบริหารงานบุคคล ๓) กลุ่มบริหาร
งบประมาณ และ ๔) กลุ่มบริหารทั่วไป โดยยึดหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ปฏิบัติหน้าที่
ภายใต้ความถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบปฏิบัติ จรรยาบรรณวิชาชีพ ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อบรรลุ
เป้าหมายโดยใช้ “Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มีปัญญา พัฒนาคุณภาพการศึกษา” ภายใต้กรอบ
วงจร PDCA ที่มีการบริหารงานอยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชนส์ ูงสดุ ต่อสถานศึกษา และผู้มสี ว่ นได้ส่วน
เสีย (Stakeholders)
รูปแบบ“Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มีปัญญา พัฒนาคุณภาพการศึกษา” มีวัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นาสู่การปฏิบัติตาม
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจาปี
๕๒
Smart :สง่างาม : งามกาย งามวาจา และงามจติ ใจ
W : Wisdom : ความมีปัญญา : ศีลธรรม น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นมิตร
ต่อสงิ่ แวดล้อม
พัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้วย CHIn
C : มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : 3Rs8Cs
ประกอบดว้ ย ทักษะและคุณลักษณะต่อไปนี้
3Rs ประกอบดว้ ย
Reading คอื การอา่ นออก
(W) Writing คือ การเขยี นได้
(A) Arithmetic คือ การคิดเลขเป็น
8Cs ประกอบด้วย
Critical Thinking &Problem Solving คือ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
และทกั ษะในการแก้ปญั หา
Creativity & Innovation คือ ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม
Cross-cultural Understanding คือ ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่าง
กระบวนทัศน์
Collaboration, Teamwork & Leadership คือ ทักษะด้านความร่วมมือ การ
ทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา
Communications Information & Media Literacy คือ ทักษะด้านการสื่อสาร
สารสนเทศและการรเู้ ท่าทนั สอ่ื
Computing & ICT Literacy คอื ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสือ่ สาร
Career & Learning Skills คอื ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้
Compassion คอื ความมีเมตตา กรุณา มีวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม
H : พฒั นา 4H โดยการจดั กจิ กรรมให้สอดคล้องกบั วัยและศกั ยภาพผเู้ รยี น
Head : พัฒนาสมอง จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาทักษะการคิด เพ่ือให้ผู้เรียนมี
ความสามารถในการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมินคา่ ตัดสินใจ แกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์
Heart : พัฒนาจิตใจ จัดกิจกรรมส่งเสริม พัฒนา และปลูกฝังค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม
การทาประโยชนเ์ พ่ือสงั คม เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์จนเปน็ ลักษณะนิสัย และมีจติ สานึกท่ีดีต่อ
ตนเองและส่วนรวม
Hand : พัฒนาทักษะการปฏิบัติ จัดกิจกรรมสร้างเสริมทักษะการทางาน ทักษะทางอาชีพท่ี
หลากหลาย เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนคน้ พบความสามารถ ความถนดั และศักยภาพของตนเอง
๕๓
Health : พัฒนาสุขภาพ จัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะเพ่ือให้ผู้เรียนมีสมรรถนะทางกายที่
สมบรู ณ์ แขง็ แรง มีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ การดูแลสขุ ภาพ และมีทักษะปฏิบัตดิ า้ นสุขภาพจนเป็นนสิ ัย
In : STEAM 4 Innovator : ๔ ขนั้ ตอนสร้าง “นวตั กร” พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาไทย
STEAM ประกอบด้วย
Science : วิทยาศาสตร์
Technology : เทคโนโลยี
Engineering : วิศวกรรมศาสตร์
Art : ศิลปะ
Mathematics : คณิตศาสตร์
นารปู แบบ“Smart W. CHIn. Model : สง่างาม มปี ัญญา พัฒนาคุณภาพการศกึ ษา” สู่การปฏิบตั ิ
Smart :สง่างาม : งามกาย งามวาจา และงามจิตใจ สู่การปฏิบัติโดยดาเนินโครงการ กิจกรรม ตาม
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจาปีการศกึ ษา
W : Wisdom : ความมีปัญญา : ศีลธรรม น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นมิตร
ต่อส่ิงแวดล้อม ส่กู ารปฏิบตั ิโดยดาเนนิ โครงการ กจิ กรรม ตามแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏบิ ตั ิ
การประจาปกี ารศกึ ษา
CHIn : พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา : 3Rs , 8Cs , 4H , STEAM 4 Innovator สูก่ ารปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
๑. บรู ณาการในการจัดการเรยี นการสอนในช่ัวโมงเรียน
๗ นาที 3Rs - Reading สรุปความ
- Writing
- Arithmetic
๓ นาที C - Compassion
4Hs - ลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้
๒. STEAM 4 Innovator ดาเนินการ “One Team One Teacher One Project”
การจดั การเรียนรู้แบบ PBL - การเรียนร้โู ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning
- การจดั การเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน Project Based Learning
๓. ศูนยก์ ารเรยี นห้องเรยี นคุณภาพ 3Rs 8Cs 4H
๓.๑ หอ้ งเรยี นคุณภาพภาษาไทย
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
๕๔
- Heart
๓.๒ หอ้ งเรยี นคณุ ภาพวทิ ยาศาสตร์
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
3Hs - Head
- Heart
- Health
๓.๓ หอ้ งเรียนคณุ ภาพคณติ ศาสตร์
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
2Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
- Heart
๓.๔ ห้องเรียนคณุ ภาพภาษาองั กฤษ
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
2Hs - Head
- Heart
- Health
๓.๕ ห้องเรียนคุณภาพสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2Rs - Reading
- Writing
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Collaboration, Teamwork & Leadership
๕๕
- Cross-cultural Understanding
- Compassion
2Hs - Head
- Heart
๓.๖ หอ้ งเรยี นคุณภาพวิทยาการคานวณ
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
3Cs - Creativity & Innovation
- Communications Information & Media Literacy
- Computing & ICT Literacy
2Hs - Head
- Heart
๓.๗ หอ้ งเรียนคณุ ภาพศิลปะ ดนตรีไทย นาฏศิลป์
2Rs - Reading
- Writing
3Cs - Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Cross-cultural Understanding
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๓.๘ หอ้ งเรียนคณุ ภาพชีวติ ดีมีสขุ
2Rs - Reading
- Writing
5Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Career & Learning Skills
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
๕๖
- Hand
- Health
๓.๙ ห้องเรยี นคณุ ภาพปฐมวยั
2Rs - Reading
- Writing
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๓.๑๐ หอ้ งเรยี นคุณภาพหอ้ งเรียนขนาน
3Rs - Reading
- Writing
- Arithmetic
4Cs - Critical Thinking &Problem Solving
- Creativity & Innovation
- Collaboration, Teamwork & Leadership
- Compassion
4Hs - Head
- Heart
- Hand
- Health
๕๗
ประเด็นทา้ ทาย รอบปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เร่ือง ตามรอยพระบาท “เจ้าฟา้ นักอา่ น”
๑. สภาพปญั หาการบริหารจัดการสถานศกึ ษาและคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ปัญหาการอ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้ของเด็กไทยนับวันจะถึงระดับข้ันท่ีน่าเป็นห่วงมากย่ิงข้ึน ซ่ึง
ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างมอง และวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า สาเหตุของปัญหาน้ันมีต้นตอมาจากโน่น น่ี
นั่นมากมาย บ้างกบ็ อกมาจากตัวผู้เรียนเองท่ีขาดความสนใจใฝ่เรียนรู้ อาจจะ เนื่องมาจากสื่อและส่งิ แวดล้อมท่ี
เปล่ียนแปลงไป บ้างก็บอกปัญหาน้ันมาจากครูผู้สอนในระดับประถมศึกษาที่สอนไม่เป็น ไม่มีหลักการ ขาด
เทคนิควิธีการสอนท่ีน่าสนใจ เน่ืองจากไม่ได้จบตรงวิชาเอกภาษาไทย บ้างก็บอกครูผู้สอนไม่สนใจงานสอน
ปล่อยปละละเลยเด็ก บ้างก็บอกโรงเรียนไม่มีระบบรองรับที่จะช่วยเหลือผู้เรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านออก
เขียนได้โดยเฉพาะ บ้างก็บอกหนังสือเรียน และสื่อการเรียนรู้ภาษาไทยท่ียังไม่ดีเท่าที่ควร บ้างก็บอกพ่อแม่
ผู้ปกครองไม่มีเวลาใส่ใจดูแลบุตรหลานให้ อ่านหนังสือ หรือทาการบ้าน ซ่ึงเหล่านี้เป็นการมองต่างมุม และคิด
ต่างมิติตามประสบการณ์ของแต่ละคน น่ันเอง แต่ส่ิงที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ น่ันคือ การอ่านหนังสือไม่ออกและ
เขียนไม่ได้ของผู้เรียนนั้นถือเป็น ปัญหาสาคัญท่ีสะท้อนให้เห็นถึงวิกฤติคุณภาพการศึกษาของประเทศ ซึ่ง
ปัจจุบันยังมีผู้เรียนท่ีมีปัญหา อ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้อยู่อีกเป็นจานวนมาก เชื่อว่าทุกท่านคงเห็นพ้อง
ต้องกันว่าการอ่านออก เขียนได้ นั้นถือว่าเป็นพ้ืนฐานและหัวใจสาคัญในการเรียนรู้ในทุกๆ วิชา ซึ่งหากผู้เรียน
คนใดอ่านไม่ออกเขยี นไมไ่ ด้ ย่อมเป็นอปุ สรรคสาคญั ย่งิ ต่อการพฒั นาตนเอง และสง่ ผลถึงการเรยี นรู้ในวชิ าอื่นๆ
ให้มีปัญหาด้วย สิ่งท่ีต้องคิดและลงมือทาอย่างเร่งด่วน น่ันคือ ทาอย่างไรท่ีจะให้ผู้เรียนทุกคนท่ีอยู่ในระบบ
การศึกษา สามารถอ่านออก เขียนได้ มีความเข้าใจในส่ิงที่อ่านและเขียน ซ่ึงเป็นหัวใจสาคัญของการศึกษาใน
ระดบั ขน้ั พื้นฐาน
โรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) มีข้อมูลผู้เรียนส่วนหนึ่งที่มีปัญหาการอ่าน และการเขียน
โดย ปัญหาการอ่าน เกิดจาก ยังจาหลักเกณฑ์ในการสะกดคาต่าง ๆ ไม่ได้ อ่านคาผิด ลักษณะท่ีอ่านผิด เช่น
๕๘
อ่านคาท่ีมีอักษรนาผิด คาพ้องรูป อ่านแยกคาหรืออ่านแบ่งวรรคตอนผิด อ่านออกเสียงผิด ออกเสียง
พยัญชนะตัวหน่ึงเป็นพยัญชนะอีกตัวหนึ่ง ออกเสียงคาควบกล้าผิด อ่านช้า จับใจความสาคัญของเรื่องไม่ได้
สาหรบั ปัญหาการเขียน เกดิ จาก เขียนพยัญชนะ สระ และเขยี นคาไม่ได้ สะกดคาผดิ วางสระและวรรณยุกต์ไม่
ถูกท่ี คาพ้องเสียง เขียนคาท่ีใช้ตัวสะกดไม่ตรงมาตราตัวสะกดผิด เขียนคาที่มีการันต์ เขียนคาที่มีสระเสียงสั้น
และเสียงยาวสลับกัน เขียนคาควบกล้าผิด เว้นวรรคตอนและย่อหน้าไม่ถูก ใช้คาไม่เหมาะสม ลาดับความคิด
ในการเขียนไม่ได้ ลายมืออ่านยาก เป็นต้น
จากปัญหา ดงั กลา่ ว โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์) จึงกาหนดให้ “ปงี บประมาณ ๒๕๖๕
เปน็ ปีแห่งการตามรอยพระบาท เจ้าฟา้ นักอ่าน”
วัตถุประสงค์
เพ่ือพฒั นานักเรยี นให้มีความสามารถอา่ นออกเขยี นได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง และส่ือสารได้
๒. วธิ กี ารดาเนนิ การให้บรรลุผล การดาเนนิ การให้บรรลุผลตามวตั ถุประสงค์ ภายใตก้ รอบวงจร PDCA
ข้ันเตรียมการ (P)
๑. วางแผนการดาเนินการ “ตามรอยพระบาท เจ้าฟา้ นกั อา่ น”
๒. ประชุมสร้างความเข้าใจ การดาเนนิ การ “ตามรอยพระบาท เจา้ ฟา้ นักอ่าน” และบทบาทหน้าที่
๓. คัดกรองผเู้ รียน แบง่ กลมุ่
๓.๑ ผ้เู รยี นปกติ : อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
๓.๒ ผู้เรยี นปกติ : อ่านไม่คล่อง เขียนไมค่ ล่อง
๓.๓ ผู้เรียนพิเศษ(พิการ) : อา่ นไม่ออก เขียนไมไ่ ด้
๓.๔ ผเู้ รียนพิเศษ(พิการ) : อา่ นไม่คล่อง เขยี นไมค่ ล่อง
๔. กาหนดรายละเอียดกิจกรรม“ตามรอยพระบาท เจา้ ฟา้ นกั อ่าน”
ขนั้ ดาเนินการ (D)
๑. ผูเ้ รียน ๒ กลมุ่ ไดแ้ ก่
๑) กลุ่มผู้เรยี นปกติ : อ่านไมอ่ อก เขียนไม่ได้
๒) กลมุ่ ผู้เรยี นปกติ : อ่านไม่คลอ่ ง เขยี นไม่คลอ่ ง
๕๙
ครจู ดั การเรยี นการสอนตามตารางลดเวลาเรียนเพิม่ เวลารู้
๒. “หนึ่งคน หนึ่งเรื่อง” สรุปความ ผู้เรียนอ่านหนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราช
เจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี
๓. “๗ นาทีReading Writing สรปุ ความ” และทอ่ งอาขยาน ครผู ้สู อนบูรณาการในการจัดการเรียน
การสอนในทุกรายวิชาทุกชว่ั โมงเรียน : บทอาขยานในแต่ละระดบั ชั้น
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ : ๒๐ มว้ นจาจงดี
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ : ไก่แจ้ สกั วา
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ : เด็กเอ๋ย เด็กนอ้ ย
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ : กาเนิดสุดสาคร
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ : วิชาเหมอื นสนิ ค้า
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ : กาเนดิ พลายงาม
๔. “๑๐ – ๒๐ นาทีที่อ่านสนุก” สร้างแรงจูงใจและชี้แนะให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองส่งเสริมลูกให้รักการ
อา่ น
๖๐
๕. จดั ห้องศนู ย์การเรียนภาษาไทย และสภาพแวดลอ้ มที่สง่ เสรมิ การอา่ นทง้ั ในและนอกห้องเรยี นอย่าง
หลากหลายสม่าเสมอ
๖.หอ้ งสมดุ มีชวี ติ ห้องสมุดเคลอื่ นที่
กิจกรรมส่ือประดษิ ฐส์ ่งเสริมความคดิ สร้างสรรค์
กจิ กรรมนิทานของหนู คณุ ครูอยากเลา่
กจิ กรรมหุ่นมือแสนสนกุ ส่งเสรมิ จนิ ตนาการ
๖๑
กจิ กรรมบทบาทละคร สอนน้อง ๆพาเพลนิ
ข้นั ตดิ ตามและประเมนิ ผล(C)
นิเทศ สะทอ้ นผลการสอน ประเมินผลตามแผนการดาเนินการ
มกี ารนเิ ทศ สะท้อนผลการจดั การเรียนการสอน ประเมนิ ผลการอา่ น การเขยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี
๑ – ๖ ตามนโยบาย
– สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
- สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑ และบรบิ ทของโรงเรยี น
ตามโครงการ “เดก็ ไทยวถิ ีใหม่ อ่านออกเขียนไดท้ ุกคน”
ขั้นสรุป /รายงานผล(A)
สรปุ ผลการประเมิน และรายงานเพือ่ ใช้เปน็ ข้อมลู สาหรบั การปรบั ปรุง พัฒนาการดาเนินการต่อไป
๓. ผลลพั ธ์การพฒั นาท่ีคาดหวัง
๓.๑ เชิงปริมาณ
๑. นักเรยี นระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ทุกคนตอ้ งอ่านออกเขียนได้
๒. นักเรียนระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ขึ้นไปอา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง และสอ่ื สารได้
๖๒
เปรยี บเทยี บระยะท่ี ๑ กับ ๒
ความสามารถในการอ่าน
ระดับดีมาก และระดับดี สงู ข้นึ
๖๓
เปรยี บเทยี บระยะท่ี ๑ กบั ๒
ความสามารถในการเขียน
ระดบั ดีมาก และระดบั ดี สูงขนึ้
๓.๒ เชงิ คณุ ภาพ
๑. นักเรียนโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) อ่านออกเขียนได้และอ่านคล่องเขียนคล่อง
บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์
๒. นักเรียนโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) ได้รับรางวัลชนะเลิศการเขียนเรียงความ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ และช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ การประกวดแข่งขันทักษะวิชาการในการประชุม
วิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถ่ินทุรกันดาร ตามพระราชดาริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นตัวแทนสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี
เขต ๑ เขา้ แข่งขันระดบั ภาคตอ่ ไป
ผเู้ รยี นได้รบั รางวลั ชนะเลศิ อันดบั ๑ เขียนเรยี งความ.........
๖๔
๖๕
๖๖
องคป์ ระกอบที่ ๒
การประเมินการมสี ่วนร่วมในการพัฒนาการศกึ ษา
ความสาเรจ็ ของงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากผู้บังคับบญั ชา
ปี พ.ศ. รายการ หนว่ ยงาน
๒๐ ธนั วาคม คณะกรรมการกลมุ่ เครอื ข่ายส่งเสริมประสทิ ธิภาพการจดั การศึกษา
คาส่งั สานักงานเขตพื้นท่ี
๒๕๖๔ คณะกรรมการฝ่ายพธิ ีการ พธิ ีกร ดาเนนิ งานพิธีมอบเงนิ พระราชทาน
พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หวั การศกึ ษาประถมศึกษา
23 พฤศจกิ ายน
2564 คณะกรรมการดาเนนิ การ การวิจัยและพฒั นานวตั กรรมการนเิ ทศ ปทุมธานี เขต ๑
ตดิ ตาม โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
9 สงิ หาคม ท่ี ๒๖/๒๕๖๔ ลงวันท่ี
2564 คณะกรรมการดาเนนิ การสอบคัดเลอื กบุคคลเพ่ือบรรจแุ ละแต่งต้ังเข้า
รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๖๔
9 ธนั วาคม ผูช้ ว่ ย กรณีทม่ี ีความจาเปน็ หรอื มเี หตุพิเศษ สังกัดสานักงาน
2564 คณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาปทุมธานเี ขต 1
ที่ 10 /2564 สัง่ ณ วันท่ี
23 พฤศจกิ ายน 2564
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา
ประถมศกึ ษาปทุมธานเี ขต 1
ท่ี 188/2564 สั่ง ณ วันท่ี
9 สิงหาคม 2564
คาส่ัง สานกั งานศึกษาธกิ าร
จงั หวัดปทุมธานี
ท่ี 800/๒๕๖4 สัง่ ณ วนั ท่ี
9 ธันวาคม 2564
26 ธันวาคม คณะกรรมการดาเนนิ การสอบแข่งขัน ภาค ก และ ภาค ข ในการ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา
2564 สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นขา้ ราชการครูและ ประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1
บุคลากรทางการศึกษา ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย สังกดั สานกั งาน ท่ี 18/๒๕๖5 สง่ั ณ วันที่
คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ปี พ.ศ. 2564 26 ธนั วาคม 2565
8 มนี าคม 2565 คณะกรรมการฝ่ายพิธีกร พิธกี าร คณะทางานเตรียมรับการประเมนิ สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษา
สมั ฤทธผิ ลการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ท่ีตาแหนง่ ผู้อานวยการสานักงานเขต ประถมศึกษาปทุมธานเี ขต 1
พน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานีเขต 1 ครงั้ ที่ 1 ที่ 70/๒๕๖5 สง่ั ณ วนั ท่ี
8 มีนาคม 2565
12 กันยายน คณะกรรมการฝ่ายพิธีกร พธิ กี าร คณะทางานเกษียณอายรุ าชการ
2565 ประจาอาเภอเมืองปทุมธานี ณ โรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมุนบี ารงุ ” ประกาศกลมุ่ เครอื ข่ายส่งเสริม
ประสิทธิภาพการจดั
การศึกษา กลุ่มท่ี 1
๖๗
๒. ขบั เคลือ่ นนโยบายจากหน่วยงานตน้ สังกัด สาเร็จลลุ ว่ งบรรลุตามวตั ถุประสงค์ บงั เกดิ ผลดีแกร่ าชการ
ขับเคล่ือนนโยบายเร่งด่วน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน Quick Policy ๒๕๖๕
นโยบายสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ตามบริบทของโรงเรียนวัดชินวราราม
(เจริญผลวิทยาเวศม์)
๑. การจัดการเรียนรู้เชงิ รกุ (Active Learning) ในการพัฒนาผเู้ รยี นส่ฐู านสมรรถนะ
๒. ความปลอดภยั ในสถานศึกษา (MOE Safety Center)
๓. มาตรการฟ้ืนฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรู(้ Learning Loss Recovery)
๔. การพฒั นาคณุ ภาพการอ่านออกเขียนไดต้ ามโครงการ “เด็กไทยวถิ ีใหม่อา่ นออกเขียนไดท้ ุกคน”
๕. การใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั เพือ่ การเรยี นรู้ทุกระดบั
๖. การสง่ เสรมิ ผู้เรยี น ๑ ดนตรี ๑ กีฬา ๑ อาชีพ
๖๘
องคป์ ระกอบท่ี ๓
การประเมินการปฏบิ ตั ติ นในการรกั ษาวินยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
“งานของครูนั้น ถือได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เพราะเป็นการวางรากฐานความรู้ ความดี
และความสามารถทุก ๆ ด้านแก่ศิษย์ เพ่ือช่วยให้สามารถดารงตนเป็นคนดี มีอาชีพเป็นหลักฐานและเป็น
ประโยชน์ต่อสังคม เพราะเหตุที่งานของครูเป็นงานท่ีหนักและเป็นงานสร้างสรรค์ท่ีบริสุทธิ์ ผู้เป็นครูจึงต้อง
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความต้ังใจท่ีแน่วแน่ ด้วยความพากเพียร อดทน และด้วยความเมตตากรุณาอย่างสูง ทั้งต้อง
สารวมระวังตนในเร่ืองความประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการที่ไม่
สมควรแก่ฐานะและเกยี รติภูมิของครู…”
พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะกรรมการ
คุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และคณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโสในพระบรมราชูปถัมภ์ นาครู
อาวุโส ประจาปี ๒๕๕๙ เฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาท รับพระราชทานเคร่อื งหมายเชิดชูเกยี รติ และเงนิ ชว่ ยเหลือ
ครอู าวโุ สเข้ารบั พระราชทานเคร่ืองหมายเชดิ ชูเกยี รติ และรับพระราชทานเงินช่วยเหลอื
ณ ศาลาดสุ ดิ าลัย สวนจติ รลดา พระราชวังดสุ ิต
วันอังคารที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑
ข้าพเจ้า ได้รับการแต่งตั้งดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียน วันท่ี ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ –
ปัจจุบัน ดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม์) สังกัดสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ประพฤติ ปฏิบัติตน ยึดหลัก “ความถูกต้อง” ได้รับมอบหมายจาก
ผู้อานวยการสถานศึกษาช่วยบริหารสถานศึกษา ตามหลักธรรมาภิบาล และการมีส่วนร่วม มีการปฏิบัติตนใน
การรักษาวินัย ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และ
ท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัติ สภาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖
รวมทงั้ กฎ ระเบยี บท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยมีการปฏบิ ัตติ น ดังน้ี
๑. ยึดม่ันในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ยึดมั่น
ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข
๖๙
๒. มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีจิตสานึกที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีและต่อผู้เก่ียวข้อง ในฐานะ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าท่ีราชการด้วยความซ่ือสัตย์สจุ ริต เสมอภาคและเที่ยงธรรม มีความวิริยะอุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอา
ใจใส่รกั ษาประโยชนข์ องทางราชการ และปฏบิ ตั ติ นตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชพี อย่างเครง่ ครดั ไมใ่ ห้
อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจและหน้าท่ีราชการ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม หาประโยชน์ให้แก่
ตนเองหรอื ผอู้ ืน่
๗๐
๓. มคี วามกลา้ คิด กลา้ ตดั สินใจ กลา้ แสดงออก และกระทาในสงิ่ ท่ถี กู ต้อง ชอบธรรม
ขา้ พเจา้ ประพฤติ และปฏบิ ัตติ น รักษาวินยั ที่บญั ญตั ิเป็นขอ้ ห้าม และข้อปฏบิ ัติโดยเคร่งครัด ปฏบิ ตั ิ
หนา้ ทีร่ าชการภายใต้ความเชอื่ และศรทั ธาในสิ่งท่ีถูกต้อง กลา้ คิด กล้าทาในสิ่งที่ถกู ต้อง ชอบธรรมดว้ ยความ
มุ่งม่นั และศรัทธาให้บังเกดิ ผลสาเร็จ เกดิ ประโยชนส์ ูงสุดตอ่ ทางราชการ
๔. มีจิตอาสา จิตสาธารณะ ม่งุ ประโยชนส์ ่วนรวม โดยไม่คานงึ ถึงประโยชน์ส่วนตน หรือพวกพ้อง
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด มีจิต
อาสา จิตสานึกสาธารณะที่สามารถนาไปปลูกฝัง ส่งเสริมหรือพัฒนาให้นักเรียน ครู ให้มีจิตใจที่เห็นแก่
ประโยชนส์ ่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตนหรอื พวกพอ้ ง ท้ังยังอาสาดูแลรบั ผดิ ชอบสมบัติส่วนรวม มีการใชส้ มบตั ิ
ส่วนรวมอยา่ งเห็นคุณคา่ รู้จักการแบง่ ปนั นามาสู่สงั คม ประเทศชาตทิ พี่ ฒั นาดขี ้ึน
๗๑
๕. มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลังความสามารถ โดยคานึงถึง
คณุ ภาพการศกึ ษาเปน็ สาคญั
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าท่ีต้องตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการ และผู้เรียน ไม่ละทิ้งหรือทอดท้ิงหน้าท่ีราชการโดย
ไม่มีเหตุผลอันสมควรมิได้ มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกาลังความสามารถ โดยคานึงถึงคุณภาพการศึกษา
และผลสัมฤทธ์ิของงาน
๖. ปฏิบัตหิ นา้ ทอ่ี ยา่ งเป็นธรรมและไม่เลอื กปฏิบัติ
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ข้าพเจ้า
ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือ
เกื้อกูลต่อผู้เรียน และระหว่างข้าราชการด้วยกัน หรือ ผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ต้อนรับ ให้ความสะดวก ให้ความ
เปน็ ธรรมแกผ่ เู้ รียน และประชาชนผูม้ าตดิ ตอ่ ราชการ
๗๒
๗. ดารงตนเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีและรกั ษาภาพลกั ษณข์ องข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยท่ีบัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด รักษา
ชื่อเสยี งของตนและรกั ษาเกยี รตศิ ักด์ิของตาแหนง่ หนา้ ท่รี าชการของตนมิใหเ้ สื่อมเสีย โดยไมก่ ระทาการใดๆ อนั
ได้ช่ือว่าเป็นผู้ประพฤติช่ัว ไม่กระทาการ หรือยอมให้ผู้อื่นกระทาการ หาประโยชน์อันอาจทาให้เส่อื มเสียความ
เท่ียงธรรม หรือเส่ือมเสียเกียรติศักด์ิในตาแหน่งหน้าท่ีราชการของตน ยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความ
สามคั คใี นหมคู่ ณะ
๘. เคารพศักด์ิศรคี วามเปน็ มนุษย์ คานึงถึงสิทธิเดก็ และยอมรับความแตกต่างของบคุ คล
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัตเิ ป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเครง่ ครัด ตระหนัก
ถึงสิทธิของนักเรียน ดาเนินการเพ่ือประโยชนส์ ูงสดุ และให้ความสาคัญกับความปลอดภัยของนักเรียน ยอมรับ
ความแตกตา่ งของบคุ คล และเปน็ แบบอย่างทด่ี ี ด้วยการแสดงความเคารพต่อสิทธิของผอู้ ่นื
๗๓
๙. ยึดถอื และปฏิบตั ติ ามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน ตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ และแบบแผนพฤติกรรมตาม
จรรยาบรรณของวิชาชีพ ได้แก่
จรรยาบรรณต่อตนเอง ข้าพเจ้าเป็นผู้มีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และ
วสิ ยั ทัศน์ ใหท้ นั ตอ่ การพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมอื งอยู่เสมอ
จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ข้าพเจ้ามีความรัก ศรัทธา ซ่ือสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็น
สมาชกิ ที่ดีขององค์กรวิชาชพี
จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ข้าพเจ้ามีความรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กาลังใจแก่
ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าท่ีโดยเสมอหน้า มีการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย ที่
ถกู ตอ้ งดีงามแก่ศิษย์ และผูร้ บั บรกิ าร ตามบทบาทหน้าที่อยา่ งเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ประพฤติ
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี ท้ังทางกาย วาจา และจิตใจ กระทาตนไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ มีการให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค
โดยไมเ่ รยี กรบั หรอื ยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตาแหนง่ หนา้ ท่โี ดยมชิ อบ
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ข้าพเจ้า มีความเอ้ืออาทร ช่วยเหลือเก้ือกูลซ่ึงกันและกัน
ระหว่างผ้รู ว่ มวิชาชีพอย่างสรา้ งสรรค์ โดยยึดม่ันในระบบคุณธรรม สรา้ งความสามัคคีในหมู่คณะ จรรยาบรรณ
ตอ่ สังคม ข้าพเจ้าประพฤตปิ ฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนรุ ักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรม
๗๔
ภูมิปัญญา ส่ิงแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ ของส่วนรวม และยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ
๑๐. มีวินยั และการรักษาวินัย
ข้าพเจ้าประพฤติ และปฏิบัติตน รักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติโดยเคร่งครัด ปฏิบัติ
หน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติ
คณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือ ประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทาง
ราชการ
ปฏิบัติตามคาส่ังของผู้บังคับบัญชา ซ่ึงส่ังใน หน้าท่ีราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของ
ทางราชการ โดยไมข่ ดั ขืนหรือหลีกเล่ียง แตถ่ า้ เหน็ ว่าการ ปฏิบัติตามคาสั่งนน้ั จะทาให้เสยี หายแก่ราชการ หรอื
เป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการจะเสนอความเห็น เป็นหนังสือภายในเจ็ดวัน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา
ทวนคาส่ังนั้น และเมื่อเสนอความเห็นแล้วถ้าผู้บังคับบัญชา ยืนยันเป็นหนังสือให้ปฏิบัติตามคาสั่งเดิม ข้าพเจ้า
จะปฏิบตั ติ าม
หลกั ฐาน/เอกสารอ้างอิง
๑. ก.พ. 7
๒. เกยี รติบตั ร
๗๕
ขอรบั รองวา่ รายงานดงั กล่าวข้างตน้ เป็นความจรงิ ทุกประการ
(ลงช่อื )
(นางสาวไอลดา สีสาลี)
ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการโรงเรยี นวดั ชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม)์
วันท่ี 30 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2565
การตรวจสอบและรบั รองของผบู้ ังคบั บญั ชาชนั้ ตน้
ไดต้ รวจสอบแล้วรับรองวา่ การายงานผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบัติหนา้ ทถี่ กู ต้องและเปน็ ความจรงิ
(ลงชอื่ )
(นางฉฐั อตพิ า แชม่ ชมดาว)
ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
วันท่ี 30 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2565
๗๖
ภาคผนวก
ดา้ นการบรหิ ารวชิ าการและความเปน็ ผนู้ าทางวชิ าการ ๗๗
ด้านการบริหารจดั การสถานศกึ ษา ๗๘
๗๙
ด้านการบริหารการเปลย่ี นแปลงกลยทุ ธ์และนวตั กรรม
๘๐
ด้านการบรหิ ารชมุ ชนและเครอื ข่าย
๘๑
ดา้ นการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพ
๘๒
การนาเสนอวดี โี อ นางสาวไอลดา สีสาลี
การประเมินสมั ฤทธผิ ลการปฏิบตั งิ านในหนา้ ท่ีตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา
ตามตวั ชีว้ ัดในระยะเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๒)
แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของ แผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี ๒๕๖๔ แผนปฏบิ ัติการประจาปี ๒๕๖๔
รองผอ.ไอลดา
ประกาศมาตรฐานและคา่ เป้าหมายปี 256๔ ประกาศมาตรฐานและค่าเปา้ หมายปี 2565
รายงาน SAR การศึกษาปฐมวยั ปี 2564 รายงาน SAR การศึกษาปฐมวยั ปี 2565
๘๓
๘๔
๘๕
๘๖
๘๗
๘๘
๘๙
โรงเรียนทส่ี ง่ เสริมนกั เรียนดา้ นความซ่ือสตั ย์ สจุ ริต “โรงเรียนสจุ ริต” ร่นุ ท่ี ๑
ในโครงการเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จริยธรรม ธรรมาภบิ าลในสถานศึกษา
(โครงการโรงเรียนสจุ ริต) ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๓
๙๐
โรงเรียนไดร้ บั การประกนั คณุ ภาพภายนอก(พ.ศ.2565-2569)
จากสานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศึกษา(องคก์ ารมหาชน)
การศึกษาปฐมวยั และระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน
ตงั้ แตว่ นั ที่ 27 พฤษภาคม 2565
๙๑
๙๒
๙๓
๙๔