The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การสกัดแทนนินจากเศษไม้และการประยุกต์ใช้เป็นฟิล์มแทนนินชีวภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noon.jin.bts, 2022-03-29 03:05:12

การสกัดแทนนินจากเศษไม้และการประยุกต์ใช้เป็นฟิล์มแทนนินชีวภาพ (3)

การสกัดแทนนินจากเศษไม้และการประยุกต์ใช้เป็นฟิล์มแทนนินชีวภาพ

น้ำกลั่น 10% Benomyl 2.5% tannin
(ชดุ ควบคมุ )
ภาพท่ี 4.10 แสดงลกั ษณะของเส้นใยเชอ้ื รา Aspergillus flavus เลยี้ งบนอาหาร PD
Benomylเปน็ เวลา 7 วัน

38

5% tannin 10% tannin 20% tannin

DA ที่มีสารสกัดแทนนนิ ความเข้มขน้ ตา่ ง ๆ เทยี บกับสารฆา่ เชื้อรา

38

39

การทดลองท่ี 3 การประยุกต์ใช้สารสกดั แทนนินมาผสมกับแผ่นฟลิ ม์ ชวี ภาพเพอื่ ยืดอายุการเกบ็
รกั ษากระเทียมภายหลังการเก็บเกี่ยว

4.3.1 การทดสอบคุณสมบัตขิ องแผ่นฟิลม์ แทนนินชีวภาพ
4.3.1.1 ความหนาของแผน่ ฟิล์มชีวภาพ
พบว่าแผ่นฟิล์มชีวภาพที่มีความเข้มข้นของสารสกัดแทนนิน 2 เปอร์เซ็นต์มีความ

หนามากที่สุด เทา่ กับ 0.24 มิลลิเมตร ตอ่ มาคือชดุ ควบคุมเชิงบวก (ผสมสารฆา่ เช้ือรา benomyl) ชุด
ท่ีมีความเข้มข้นของสารสกัดแทนนิน 10 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 0.22 และ 0.16 มิลลิเมตร ตามลำดับ
ชุดการทดลองท่ีมีความเข้มข้นของสารสกัดแทนนิน 5, 2.5 เปอร์เซ็นต์ มีความหนาของแผ่นฟิล์ม
เท่ากัน คือ 0.14 มิลลิเมตร ส่วนชุดควบคุมเชิงลบ (ไม่เติมสารใด ๆ) มีความหนาของแผ่นฟิล์มน้อย
ทสี่ ุด เท่ากบั 0.12 มิลลเิ มตร แสดงผลดงั ตารางที่ 4.4

4.3.1.2 ระยะยืดของแผ่นฟลิ ์มชีวภาพ
จากผลการศึกษาระยะยืดของฟิล์มชีวภาพ โดยขนาดเร่ิมต้นของแผ่นฟิล์มคือ 3×5

เซนติเมตร พบว่า ชุดควบคมุ เชิงลบมีระยะยดื สงู สดุ คอื 6 เซนตเิ มตร ต่อมาคือชุดการทดลองท่ีมีสาร
สกัดแทนนิน 0.25, 0.5, 1, 2 เปอร์เซ็นต์และชุดควบคุมเชิงบวกเท่ากับ 5.7, 5.5, 5.5, 5 และ 4.5
เซนติเมตร ตามลำดบั แสดงผลดังตารางที่ 4.4

ตารางที่ 4.4 ความหนาและระยะยดื เฉลย่ี ของแผ่นฟิล์มที่มคี วามเข้มขน้ ของแทนนินระดับตา่ ง ๆ

ความเขม้ ขน้ ของแทนนนิ ใน ความหนา (มิลลิเมตร) ระยะยดื (เซนติเมตร)

แผ่นฟลิ ม์ เจลาติน

แทนนิน 0 % 0.12 6.0
(ชุดควบคมุ เชงิ ลบ)

สารฆา่ เชอื้ รา Benomyl 0.22 4.5
10 % (ชุดควบคมุ เชงิ บวก)

แทนนิน 2.5 % 0.14 5.7

แทนนนิ 5 % 0.14 5.5

แทนนนิ 10 % 0.16 5.5

แทนนนิ 20 % 0.24 5.0

40

4.3.1.3 คา่ สขี องแผน่ ฟิลม์
จากการวิเคราะห์ค่าสีของแผ่นฟิล์มแทนนินระดับความเข้มข้นต่างๆ แสดงดังตาราง 4.5

พบวา่ ค่า L* (ความสว่าง) ของแผน่ ฟิลม์ ที่ผสมสารสกัดแทนนินมคี า่ ต่ำกวา่ แผน่ ฟิล์มควบคุมเชิงลบ (ไม่
ผสมแทนนิน หรือ ผสม benomyl) ขณะที่ค่า a* (ค่าความเป็นสีแดง) ของแผ่นฟิล์มเพ่ิมสูงขึ้นตาม
ระดับความเข้มข้นของแทนนินที่เพ่ิมข้ึน และค่า b* (ค่าความเป็นสีเหลือง) ของแผ่นฟิล์มจะเพ่ิมขึ้น
อย่างต่อเน่อื งเมื่อระดับความเข้มข้นของแทนนนิ และสารฆ่าเชอื้ รา Benomyl เพิ่มขึ้น ดังนั้นเห็นได้ว่า
คา่ ความสวา่ งของแผ่นฟิลม์ มีค่าลดลงขณะที่ค่าสีของแผ่นฟลิ ์มมีคา่ เพ่ิมขน้ึ ตามระดับของการเติมแทน
นิน สอดคล้องกับสีของแผ่นฟิล์มท่ีมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยการเติมแทนนินเพ่ิมขึ้นมีผลทำให้
แผ่นฟิล์มมสี ีนำ้ ตาลมากข้นึ เนื่องจากผงแทนนินมสี ีน้ำตาลแดงนนั่ เอง

ตารางที่ 4.5 ค่าเฉลีย่ ของคา่ สขี องแผ่นฟลิ ม์ ทม่ี ีความเขม้ ขน้ ของแทนนินระดบั ต่าง ๆ

ความเข้มขน้ ของแทนนินในแผ่นฟิล์ม L* a* b*

เจลาตนิ

แทนนิน 0 % 91.85a -0.83d 5.11d

(ชดุ ควบคุมเชิงลบ)

สารฆา่ เชอ้ื รา Benomyl 85.03c -0.36c 7.10b

10 % (ชดุ ควบคุมเชิงบวก)

แทนนนิ 2.5 % 90.51a 0.04b 5.50cd

แทนนิน 5 % 90.18ab 0.05b 5.88bcd

แทนนิน 10 % 89.87ab 0.31b 6.81bc

แทนนนิ 20 % 88.03b 1.08a 10.34a

หมายเหตุ อักษรกำกับคา่ เฉลี่ยในคอลมั น์ทเ่ี หมอื นกัน แปลวา่ ไมแ่ ตกตา่ งกันทางสถิตทิ ีร่ ะดบั p ≤

0.05

4.3.1.4 ลกั ษณะของแผน่ ฟิลม์ ชวี ภาพ

ลักษณะของแผ่นฟิล์มชีวภาพทั้งท่ีมองด้วยตาเปล่าและตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์

พบว่าฟิล์มที่มองด้วยตาเปล่ามีรพู รุนและสีน้ำตาลเขม้ มากข้ึนและตามระดับความเข้มข้นของแทนนิน

ท่ีเพิ่มขึ้น ขณะที่ฟิล์มท่ีเติม benomyl มีสีขาวขุ่นเนื่องจากลักษณะผงมีสีขาว ส่วนลักษณะของฟิล์ม

ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เห็นได้ว่าฟิล์มที่เติมแทนนินและสารฆ่าเชื้อรา benomyl มีตะกอนของสาร

ปนอยู่ โดยที่ชุดที่เติม benomyl มีตะกอนสารมากท่ีสุด รองลงมาคือชุดการทดลองที่เติมแทนนินท่ี

ระดบั ความเข้มขน้ 20, 10, 5, 2.5 และ 0 เปอรเ์ ซน็ ต์ ตามลำดบั ซ่งึ แสดงดังตารางที่ 4.6

41

ตารางที่ 4.6 ลักษณะทั่วไปและลักษณะของฟิล์มภายใต้กล้องจุลทรรศน์ท่ีมีความเข้มข้นของ
แทนนนิ ระดับต่าง ๆ

ความเขม้ ข้นของแทนนนิ ใน ลักษณะของ ลกั ษณะของแผ่นฟิลม์ เมื่อมองภายใต้
แผ่นฟิล์มเจลาตนิ แผน่ ฟิล์ม กล้องจลุ ทรรศน์กำลังขยาย 40x
แทนนนิ 0 %
(ชดุ ควบคุมเชงิ ลบ)

สารฆา่ เช้ือรา Benomyl
10 % (ชุดควบคมุ เชงิ บวก)

แทนนิน 2.5 %

แทนนนิ 5 %

แทนนิน 10 %

แทนนนิ 20 %

42

จากผลการวเิ คราะห์ความหนา ระยะยืด และลกั ษณะของแผน่ ฟลิ ์มทงั้ ท่มี องเหน็ ด้วยตาเปล่า
และที่ใช้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เห็นได้ว่าแผ่นฟิล์มในชุดควบคุมเชิงลบ (ไม่ผสมแทนนินหรือ
benomyl) มีความหนาน้อยที่สุดและมรี ะยะยืดมากท่ีสุด เม่ือเทียบกับฟิล์มในชุดการทดลองอ่นื เมื่อ
เติมแทนนินหรือ Benomyl ลงไปในฟิล์มพบว่าในชุดการทดลองท่ีแทนนินเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ มีสี
น้ำตาลเข้มมากท่ีสุด รองลงมาคือชุดการทดลองท่ีมีแทนนินเข้มข้น 10, 5 และ 2.5 เปอร์เซ็นต์
ตามลำดบั ขณะทชี่ ุดการทดลองทีเ่ ตมิ สารฆา่ เชื้อรา benomyl มีสีขาวข่นุ เน่อื งจากมีลักษณะเป็นผงสี
ขาว ความหนาและรูพรุนของฟิล์มเพ่ิมมากขึ้นตามระดับความเข้มข้นของแทนนินหรือ benomyl ท่ี
เพมิ่ สูงข้นึ แต่ขณะท่ีระยะยืดมีคา่ ลดลง เม่ือความหนาของแผน่ ฟิลม์ เพ่ิมมากขึน้ ทง้ั นส้ี ันนษิ ฐานว่าเป็น
เพราะการเติมแทนนินหรือ Benomyl ซึ่งมีลกั ษณะเป็นผง ทำให้แผ่นฟิล์มมีเน้ือฟิล์มไม่ตอ่ เนื่องเกิดรู
พรุนเพ่ิมข้ึนตามสารที่เติมทำใหห้ นาข้ึน ระยะยืดน้อยลง เนือ้ สัมผัสมผี ิวขรุขระ และมสี ีน้ำตาลเพ่ิมขึ้น
ตามปริมาณแทนนนิ ท่เี ตมิ

4.3.1.5 การยอ่ ยสลายของแผ่นฟลิ ์มชวี ภาพ
จากการวัดอัตราการย่อยสลายของแผ่นฟิล์มทดสอบเป็นเวลา 1 สัปดาห์ (ความช้ืนสัมพันธ์
เฉลี่ยท่ี 41% และอุณหภูมิเฉลี่ย 32.8 ํC) พบว่ามีการย่อยสลายของแผ่นฟิล์ม ซ่ึงชุดการทดลองท่ีใช้
ระยะเวลาการย่อยสลายน้อยท่ีสุดคือแผ่นฟิล์มท่ีมีแทนนินเข้มข้น 2.5 เปอร์เซ็นต์, 5 เปอร์เซ็นต์, 0
เปอร์เซ็นต์, 10 เปอร์เซ็นต์, 20 เปอร์เซ็นต์ และแผ่นฟิล์มที่มีสารยับยั้งเชื้อสารฆ่าเช้ือรา Benomyl
เข้มข้น 10 เปอรเ์ ซ็นต์ ตามลำดับ แสดงดงภาพที่ 4.11 ดังน้ันเห็นได้ว่าฟิล์มแทนนินชีวภาพที่ระดับ
ความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ ที่สร้างข้ึนสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และมีอายุการใช้งาน
มากกว่า 1 สปั ดาห์

43

ภาพที่ 4.11 การยอ่ ยสลายของแผ่นฟลิ ม์ ชวี ภาพท่ีทดสอบเป็นระยะเวลา 7 วนั 4
หมายเหตุ: ลำดับของฟลิ ์มทีท่ ดสอบในกระบะเพาะ มดี ังน้ี 6
5
52361

31542

23416

หมายเลข 1 คือ แทนนนิ เข้มข้น 0 เปอรเ์ ซ็นต์
หมายเลข 2 คอื สารฆ่าเชื้อรา Benomyl 10 เปอรเ์ ซน็ ต์
หมายเลข 3 คอื แทนนนิ เข้มขน้ 2.5 เปอร์เซน็ ต์
หมายเลข 4 คอื แทนนนิ เข้มขน้ 5 เปอรเ์ ซ็นต์
หมายเลข 5 คือ แทนนินเขม้ ขน้ 10 เปอร์เซน็ ต์
หมายเลข 6 คอื แทนนนิ เข้มข้น 20 เปอร์เซน็ ต์

44

4.4 ผลการยบั ย้ังเชอ้ื รา Aspergillus flavus บนกระเทียมภายหลงั การหุ้มดว้ ยแผ่นฟิลม์ แทนนนิ
ชวี ภาพ

จากการทดลองพบว่าชุดการทดลองท่ีมีความเขม้ ข้นของสารสกัดแทนนิน 20 เปอรเ์ ซ็นต์และ
ชุดทีผ่ สมสารกำจัดเช้อื รา Benomyl สามารถยบั ยั้งการเกิดโรคบนกระเทยี มภายหลังการเก็บเก่ยี วได้
ดกี ว่าความเข้มข้นอ่ืน (ภาพที่ 4.12-4.13) สอดคล้องกับวิจัยของ ชวเลศิ และคณะ (2559) ทรี่ ายงาน
วา่ ประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจรญิ ของเสน้ ใยเชื้อราและการงอกของสปอร์เช้ือราข้ึนอยู่กับระดับ
ความเข้มขน้ ของสารสกัด โดยความเขม้ ข้นสูงสามารถยับย้ังไดด้ กี ว่าความเขม้ ขน้ ต่ำ ซง่ึ ชุดการทดลอง
ท่ีมีความเข้มข้นของสารสกัดแทนนิน 20 เปอร์เซ็นต์และชุดที่ผสมสารกำจัดเชื้อรา Benomyl พบว่า
ไม่มีการเจริญของเชื้อราและยังพบว่าบริเวณท่ีหยดสปอร์ของเช้ือรา Aspergillus flavus นั้น จุดของ
สปอร์จางหายไปบางส่วน ซ่ึงเป็นไปได้ว่าสปอร์เกิดความเสียหาย โดยผู้วิจัยสันนิษฐานว่าเนื่องจากมี
สารแทนนินบางส่วนซึมผ่านเขา้ ไปภายในสปอร์ของเชือ้ รา ซึ่งแทนนินมีคุณสมบัตใิ นการยับยั้งเช้ือรา
สอดคล้องกับรายงานการวิจัยของ Rajendra et al. (2016) พบว่าสารสกดั แทนนินที่สกัดจากเปลือก
ไม้โกงกางโดยใช้เมทานอลเป็นตัวทำละลาย มีฤทธิ์ในการยับย้ังเชื้อรา Aspergillus niger
เช่นเดยี วกับผลวจิ ยั ของกติ ตพิ ัธน์ และคณะ (2553) พบประสทิ ธภิ าพของสารจากเปลือกมังคุดในการ
ควบคุมเชื้อสาเหตุของโรคเมล็ดพันธุซึ่งได้แก Aspergillus flavus, Aspergillus niger และ
Rhizopus sp. โดยวิธีการสกัดท่ีอุณหภูมิต่ำจากการแชเปลือกมังคุด และวิธีการสกัดอย่างหยาบจาก
เปลือกมังคุดที่อุณหภูมิสูง พบวา สามารถควบคุมเช้ือรา Aspergillus flavus และ Aspergillus
niger ได้ดี

น้ำกลนั่ 10% Benomyl PVC 2.5% tanni

(ชดุ ควบคุม)

ภาพที่ 4.12 ภาพแสดงลักษณะกระเทียมท่ยี ดื อายกุ ารเกบ็ รักษาดว้ ยแผ่นฟิลม์ แทนนนิ

หมายเหตุ : PVC คือพลาสตกิ Polyvinyl Chloride ซง่ึ เปน็ พลาสตกิ ท่นี ิยมใชใ้ นการการหอ่ หมุ้ อา

น้ำกล่ัน 10% Benomyl PVC 2.5% tann

(ชดุ ควบคมุ )

ภาพท่ี 4.13 ภาพแสดงลักษณะกระเทียมท่ยี ดื อายกุ ารเกบ็ รักษาด้วยแผน่ ฟิล์มแทนนิน

หมายเหตุ : PVC คือพลาสติก Polyvinyl Chloride ซ่ึงเปน็ พลาสติกที่นิยมใชใ้ นการการห่อหมุ้ อา

45

in 5% tannin 10% tannin 20% tannin

นชีวภาพท่คี วามเขม้ ขน้ ตา่ ง ๆ เป็นเวลา 7 วัน

าหารสำหรบั จำหนา่ ยทางการค้า จงึ นำมาเปรยี บเทียบเพิม่ เติม

nin 5% tannin 10% tannin 20% tannin

นชีวภาพทค่ี วามเขม้ ขน้ ตา่ ง ๆ เป็นเวลา 14 วัน

าหารสำหรับจำหนา่ ยทางการคา้ จึงนำมาเปรียบเทยี บเพ่มิ เติม

45

46

บทท่ี 5
สรุปผลการวจิ ยั

จากงานวิจัย สามารถสรุปได้ดังนี้

1. สภาวะท่เี หมาะสมในการสกดั แทนนินจากเศษไม้ข้ีเลื่อย คือ ใช้ตัวทำละลายชนิด น้ำกลั่น :
95% Ethanol (1:1) โดยใชไ้ มโครเวฟสกดั ทกี่ ำลังไฟ 100 วตั ต์

2. ผงแทนนินสกัดหยาบเม่ือนำมาทดสอบการยับยั้งเชื้อรา Aspergillus flavus ในจานเพาะ
เช้ือ พบว่าสารละลายแทนนินความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นใย
เชอื้ รา Aspergillus flavus ไดด้ ีกวา่ ชดุ อนื่ ยกเวน้ ชดุ ทแี่ ชใ่ นสารกำจัดเชื้อรา Benomyl

3. ผงแทนนินสกัดหยาบเม่ือนำมาผลิตเป็นแผ่นฟิล์มชีวภาพ พบว่าความเข้มข้นของแทนนินท่ี
เพ่ิมมากขึน้ มผี ลต่อสมบัตทิ างกล และสมบตั ิทางกายภาพของฟลิ ม์ กล่าวคอื ความหนาเพม่ิ ขึ้น
ระยะยืดและความสว่างลดลง และใช้ระยะเวลาย่อยสลายมากข้ึน ซ่ึงเมื่อนำมาทดสอบการ
เก็บรักษากระเทียมท่ีผ่านการปลูกด้วยสปอร์เชื้อรา Aspergillus flavus แบบไม่สร้างแผล
พบว่าแผ่นฟิล์มชีวภาพท่ีผสมสารละลายแทนนินความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ยับยั้งการงอก
ของสปอร์ของเชอื้ รา Aspergillus flavus ได้ดกี ว่าชดุ อ่ืน

47

เอกสารอ้างองิ

กมลชนก วงศ์สุขสนิ และปนัดดา ผ่านสำแดง. (2557). สภาะทเ่ี หมาะสมในการสกัดแทนนนิ จาก
ตัวอย่างมันสำปะหลังท่เี กบ็ มาจากอำเภอครบุรี จงั หวัดนครราชสีมา. ในการประชุมวชิ าการ
ระดบั ชาตมิ หาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ งานวิจัยเพอ่ื พฒั นาท้องถิน่ ครงั้ ที่ 4, ณ อาคารเฉลิม
พระเกียรตฉิ ลองศริ ริ าชสมบตั ิ 60 ปี มหาวิทยาลยั ราชภัฏเพชรบรู ณ์. 214-224.

กติ ตพิ ัธน สมนึก, จกั รพงษ หรงั่ เจริญ และมานพ นชะพงษ. (2553). ประสิทธิภาพของสารสกัดจาก
เปลือกมงั คุดในการควบคมุ เชือ้ Aspergillus spp. [ออนไลน์]. เขาถงึ ไดจาก:http://www.
scisoc.or.th/stt/34/sec_g/paper/STT34_G_G0009.pdf.(วันท่สี ืบค้น 1 กันยายน 2563)

ขนิษฐา แพบขุนทด, ปนดิ า เยน็ ใจ และศริ พิ ร แตะกระโทก. (2558). การศึกษาสารแทนนินจากสว่ น
ตา่ งๆ ของทับทมิ . โปรแกรมวชิ าเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยราชภัฎ-
นครราชสมี า. 1: 4-7

เจิมขวญั สังขสุวรรณสพุ ัฒนคําไทย และเปรม ทองชยั . (2554). การใชประโยชนผงเปลือกมังคุด
สำหรบั ผลติ วสั ดุบรรจุภัณฑยบั ยงั้ โรคแอนแทรกโนสในกล้วยหอมทอง. วารสารวทิ ยา
สารเกษตรศาสตร์.42(1) : 579-582

ชรนิ ทร โมฬีและณกัญภัทร จนิ ดา. (2558). สารสกัดแทนนนิ จากเปลอื กเงาะเพอ่ื เปน็ สียอ้ มใน
พลาสตกิ ชีวภาพ.การประชุมทางวิชาการของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ครัง้ ท่ี 53,
กรุงเทพฯ. 914-922

ชวเลศิ ตรีกรณุ าสวสั ด์.ิ (2559).การจัดการโรคและสารพิษจากเช้ือราในผลติ ผลเกษตรหลังการ
เกบ็ เกี่ยวโดยไมใ่ ช้สารเคมี. กรมวชิ าการเกษตร. 116 หนา้

ชิดชม ฮิรางะ และวิภา สุโรจนะเมธากลุ . (2537). การสกดั แทนนนิ จากเปลอื กกล้วย. วารสารวทิ ยา
สารเกษตรศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์. 28(4) : 578-586

ธารทิพยร์ ตั นะ. (2559). ประสทิ ธิภาพของสารสกัดหยาบจากสบั ปะรดและมะละกอในการต่อต้าน
รากอ่ โรคแอนแทรกโนสในพรกิ . วารสารวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3(24):456-468.

พฑิ รู ตรวี ิจติ รเกษม. (2553). มารูจ้ ักพลาสติกชีวภาพกนั เถอะ. วารสาร Plastics Foresight, 2(2),
น. 1-6.

พมิ พ์เพญ็ พรเฉลิมพงศ์ และนธิ ยิ า รตั นาปนนท์. (ม.ป.ป.). Aspergillus flavus. [ออนไลน์]. เข้าถงึ
ไดจ้ าก:http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0568/aspergillus-flavus.
(วนั ที่สบื ค้น 19 พฤษภาคม 2563)

มูลนธิ โิ ลกสเี ขียว. (2554). ขวดพลาสตกิ เปน็ มติ รกับสิ่งแวดลอ้ มมาแลว้ .[ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้
จาก:https://www.sanook.com/campus/935440/. (วนั ทส่ี บื ค้น 19 พฤษภาคม 2563)

48

ศูนยก์ ารเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร.์ (ม.ป.ป.). คุณสมบตั ิของน้ำ.[ออนไลน์].เข้าถึงได้
จาก:http://www.pw.ac.th/emedia/media/science/lesa/7/properties_water.
(วนั ท่สี ืบคน้ 18 พฤษภาคม 2563)

สาขาเทคโนโลยกี ารศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บูรพา. (2559). โครงสรา้ งโมเลกุลของ
น้ำ.[ออนไลน]์ .เข้าถงึ ไดจ้ าก:https://sites.google.com/a/go.buu.ac.th/xuthk-phakh-
Hydrosphere. (วันท่สี ืบค้น 18พฤษภาคม2563)

สำนักงานพฒนาชุมชนจงั หวดั ลำปาง. (2559). บ้านหลกุ ใต้สดุ ยอดหมู่บ้านหตั ถกรรมแกะสลกั ไม้
ลำปาง. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก:http://lampang.cdd.go.th/services/บา้ นหลกุ สุดยอด
หม่บู ้าน. (วนั ทส่ี บื ค้น 18 พฤษภาคม 2563)

Deshpande, S. S., Cheryan, M., and Salunkhe, D. K. (1986). Tannin analysis of food
products.CRC Crit. Rev Food Sci Nutr. 24:401-449.

ElgailaniandChristina YacoubIshak. (2016). Methods for Extraction and Characterization of
Tannins from Some Acacia Species of Sudan. Pak. J. Anal. Environ. Chem.
Vol. 17, No. 1 (2016) 43 – 49

Labieniec, M and Gabryelak, I. (2003). Image of chemistry structure tannic acid.
[online]. Available:http://www.themodernembalmer.com/tannin.html.
(Accessed 22ndMay 2020)

Moosophin, K., T. Wetthaisong, L. Seeratchakot and W. Kokluecha. (2010). Tannin
Extraction from Mangosteen Peel for Protein Precipitation in Wine. KKU
Research Journal 15(5).

O’ Connell, J. E. (2000). Food Chemistry. University College, Cork, Ireland: Product
Technology Department, NIZO Food Research.Sciences. Food College,
Shanghai Ocean University

Ramirez, M.G.L, H.G.O.,Arzate, F.N., Gallegos, M.A.C. and Enriques, S.G. (2012).
Evaluation of fungi toxic activity of tannins and a tannin-copper complex
from the mesocarp ofCocos nucifera Linn. Woodandfiberscience 44(4):357-364.

Rajendra, S., P. Karthick, M.K. Narayana, C. Ramesh, R. Mohanraju, and A. Vijayakumar,
(2016). Evaluation of antimicrobial properties from the mangrove
Rhizophora apiculata and Bruguiera gymnorrhiza of Burmanallah coast,
South Andaman,India. Journal of Coastal Live Medicine 4(6): 475-478.

49

Siamchemi. (ม.ป.ป). เอทานอล.[ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก:https://www.siamchemi.com/
เอทานอล/.(วันท่ีสืบค้น 18 พฤษภาคม 2563)

Thai-thaifood. (2560). กระเทียมไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:https://www.thai-
thaifood.com.(วนั ทีส่ ืบค้น 18 พฤษภาคม 2563)

50

ภาคผนวก

51

การสกดั แทนนิน

1. ชั่งข้ีเลือ่ ย 10 กรมั 2. ตวงนำ้ กลน่ั , นำ้ กลั่น: 95% Ethanol,
95% Ethanol 100 มิลลิลิตร

3. นำเขำ้ ไมโครเวฟเป็นเวลำ 30 วนิ ำที 4. เขยำ่ 2 นำทีท่อี ุณหภมู ิห้องทำซ้ำ 5 ครง้ั
ทค่ี วำมรอ้ น 100, 300 และ 450 วตั ต์

5. วดั อณุ หภูมิสุดทำ้ ย ท้ิงไวใ้ ห้เยน็ 6. อบสำรละลำยในตู้อบลมรอ้ น ท่ีอุณหภูมิ
และกรองผำ่ นกระดำษกรอง 60 องศำเซลเซยี ส

7.เม่ือสำรละลำยตกตะกอน นำไปขดู เอำตะกอนแทนนนิ 8. สำรสกัดแทนนินท่ีสกัดได้
ภาคผนวกที่ 1 ขน้ั ตอนกำรสกัดแทนนิน

52

การทดสอบคุณสมบตั เิ บื้องต้นของแทนนิน

1. ทดสอบกำรตกตะกอนโปรตีน BSA โดยใช้อัตรำส่วนปรมิ ำณสำรสกดั แทนนนิ 1 มิลลิลิตร
ตอ่ สำรละลำย 1% BSA 1 มิลลิลิตร

2. ทดสอบกำรตกตะกอนโปรตีน gelatin โดยใชอ้ ัตรำส่วนปรมิ ำณสำรสกัดแทนนิน 1 มิลลิลติ ร
ต่อ สำรละลำย 1% gelatin 1 มลิ ลลิ ิตร

3. ทดสอบกบั lead acetate 1% โดยใชอ้ ัตรำสว่ นปริมำณสำรสกดั แทนนนิ ต่อสำรละลำย 1%
lead acetate 1 มลิ ลิลิตร
ภาคผนวกท่ี 2 กำรทดสอบคณุ สมบัติเบื้องต้นของแทนนิน

53

การวเิ คราะห์ปรมิ าณแทนนิน

1. นำผงแทนนินเจือจำงในน้ำกล่ันใหม้ ีควำมเข้มขน้ 1% นำไปใสห่ ลอดทดลองจำนวน 3 หลอด
หลอดละ 1มิลลลิ ิตร

2. เติมสำรละลำย 50% Folinciocalteu reagent ปริมำตร 0.5 มิลลิลิตร เก็บไว้ในท่ีมืดเป็น
เวลำ 5 นำที

3. เตมิ 7% Na2Co3 ปริมำตร 2 มิลลิลิตร ลงในหลอดทดลองเขย่ำใหเ้ ข้ำกนั เก็บไวใ้ นท่มี ืดเป็น
เวลำ 1 ชั่วโมง 30 นำที

ภาคผนวกท่ี 3 กำรวิเครำะห์ปริมำณแทนนินโดยวิธีโฟลิน - ชิโอแคลทู รีเอเจนต์ (Folin -
Cocalteu reagent) แ ล ะ เท ค นิ ค ยู วี - วิ สิ เบิ ล ส เป ก โ ท ร โ ฟ โ ต เม ท รี ( UV –visible
spectrophotometry

54

4. นำไปวัดค่ำดูดกลืนแสงที่ 725 นำโนเมตร บันทึกผล จำกน้ันนำไปคำนวณปริมำณ
แทนนินเทยี บกับกรำฟมำตรฐำนกรดแทนนกิ
ภาคผนวกท่ี 3 กำรวเิ ครำะห์ปรมิ ำณแทนนินโดยวิธีโฟลนิ - ชิโอแคลทู รเี อเจนต์ (Folin -
Cocalteu reagent) และเทคนคิ ยวู ี - วิสิเบลิ สเปกโทรโฟโตเมทรี (UV –visible
spectrophotometry (ตอ่ )
คา่ การดดู กลนื แสงที่ 752 นาโนเมตร

ภาคผนวกท่ี 4 กรำฟแทนนินมำตรฐำน

55

การเตรียมสารสกัดแทนนิน

นำสำรสกดั แทนนนิ ทท่ี ำละลำยนำ้ กลน่ั : 95% Ethanol (1:1 v/v) ท่กี ำลงั ไฟ 100 วตั ต์
ระเหยแหง้ ด้วยต้อู บลมร้อนท่อี ณุ หภูมิ 60 องศำเซลเซยี ส
การเตรยี มเช้ือรา

1. นำเชือ้ รำ Aspergillus flavusเลย้ี งในอำหำร PDA ธรรมดำ เปน็ เวลำ 7 วนั

2. ยำ้ ยเช้ือรำไปเลีย้ งบนอำหำรใหม่ทุก ๆ 3 วนั เปน็ จำนวน 7 ครั้งเพ่อื ให้ได้เช้ือบริสุทธิ์
ภาคผนวกท่ี 5 กำรทดสอบสำรสกดั แทนนินตอ่ การยับย้ังเชอ้ื รา Aspergillus flavusเปน็ เชื้อ
ราก่อโรคในกระเทยี มในจานเพาะเชื้อ in vitro

56

1. นำผงแทนนินที่ได้มำปรับควำมเข้มข้นของสำรสกัดแทนนินผสมในอำหำร PDA จนครบปริมำตร
100 มิลลลิ ติ ร แบง่ ออกเปน็ 5 ชดุ กำรทดลอง ดงั น้ี

อำหำร PDA 100 มลิ ลิลติ ร (ชุดควบคมุ เชงิ ลบ) สำรกำจัดเช้ือรำ 10%
(ชดุ ควบคมุ เชิงบวก)

แทนนิน 2.5% แทนนนิ 5 %

แทนนิน 10 % แทนนนิ 20 %

ภาคผนวกที่ 5 กำรทดสอบสำรสกัดแทนนินต่อกำรยับย้ังเชื้อรำ Aspergillus flavus เป็น
เช้อื รำกอ่ โรคในกระเทียมในจำนเพำะเช้อื in vitro (ตอ่ )

57

2. นำเช้อื รำมำทำกำรทดสอบโดยวำงลงบนอำหำรในแต่ละชุดกำรทดลอง โดยให้ส่วนของไมซี
เลียมสัมผสั กับอำหำร

อำหำร PDA 100 มิลลลิ ิตร (ชดุ ควบคุมเชงิ ลบ) สำรกำจดั เช้อื รำ 10%
(ชุดควบคมุ เชิงบวก)

แทนนิน 2.5 % แทนนนิ 5 %

แทนนิน 10 % แทนนิน 20 %

ภาคผนวกที่ 5 กำรทดสอบสำรสกัดแทนนนิ ตอ่ กำรยบั ยัง้ เช้อื รำ Aspergillus flavusเปน็ เช้ือ
รำกอ่ โรคในกระเทียมในจำนเพำะเชือ้ in vitro (ต่อ)

58
3. นำจำนเพำะเช้อื ไวใ้ นอุณหภมู ิห้อง วัดเสน้ ผำ่ นศูนยก์ ลำงของเสน้ ใยไมซีเลยี มทกุ ๆ 24 ชว่ั โมง

ภาคผนวกท่ี 6 เตรียมอำหำรทดสอบท่ีมแี ทนนินที่มคี วำมเข้มขน้ ต่ำง ๆ และกำรทดสอบกำร
ยับยง้ั กำรเตบิ โตของเส้นใยเช้ือรำ

การเตรียมแผน่ ฟิล์มชีวภาพแทนนนิ
1. เตรียมสำรสกัดแทนนินอย่ำงหยำบ 2.5, 5, 10 และ 20 มิลลิกรัมตำมลำดับ และสำรฆ่ำเช้ือรำ
Benomyl 10 มลิ ลกิ รมั ละลำยในน้ำ 100 มิลลลิ ติ ร และชุดควบคมุ เชิงลบ (ไม่ผสมสำรสกัดแทนนนิ )

สกัดแทนนินอยำ่ งหยำบ 2.5 มิลลิกรัม สกดั แทนนนิ อย่ำงหยำบ 5 มิลลิกรมั

สกัดแทนนนิ อย่ำงหยำบ 10 มิลลิกรัม สกดั แทนนินอยำ่ งหยำบ 20 มลิ ลกิ รมั

สำรฆ่ำเชื้อรำ Benomyl 10 มลิ ลกิ รมั
ภาคผนวกท่ี 8 กำรเตรียมแผ่นฟิล์มชีวภำพแทนนิน

59

2. นำเจลำติน 3.5 กรมั ผสมนำ้ กลั่น ผสมผงแทนนิน กวนให้เข้ำกนั ท่ีอณุ หภมู ิ 60 องศำเซลเซยี ส ด้วย
อตั รำเรว็ 2,000 รอบต่อนำที เปน็ เวลำ 30 นำที

3. นำกลีเซอรอล 4 มิลลลิ ิตร กวนผสมใหเ้ ข้ำกันเป็นเวลำ 5 นำที

4. ขึ้นรูปแผน่ ฟลิ ม์ เจลำตนิ โดยเทลงแม่พิมพ์ ปรมิ ำณ 10 มิลลลิ ติ รท้งิ ไว้ให้ขนึ้ รูป
ภาคผนวกท่ี 8 กำรเตรยี มแผน่ ฟลิ ม์ ชวี ภำพแทนนิน(ต่อ)

60

การทดสอบสมบัตขิ องแผน่ ฟลิ ม์

1. ควำมหนำ (Thickness) วัดควำมหนำของฟิล์มแทนนินชีวภำพด้วยเครื่องไมโครมิเตอร์ โดยหำ
ค่ำเฉลยี่ ของกำรวดั ท้งั หมด 5 จุด

2. คำ่ ควำมสว่ำง วัดคำ่ ควำมสว่ำงและสีของฟิล์มแทนนนิ โดยใชเ้ ครอื่ งวดั สี

3. คำ่ ควำมยืด ตดั แผน่ ฟลิ ์มขนำด 3×5 เซนติเมตร ดึงแผ่นฟลิ ม์ จนขำด แล้วนำไปลบกับขนำดเร่มิ ต้น
ภาคผนวกท่ี 9 แสดงกำรทดสอบสมบัตขิ องแผน่ ฟลิ ม์

61

4. กำรย่อยสลำย นำแผ่นฟิล์มแทนนนิ ชีวภำพทีม่ ีควำมเขม้ ขน้ ต่ำงกัน ไปวำงท้งิ ไว้ในบริเวณท่มี ีอำกำศ
ถำ่ ยเทดี โดยทำแปลงสุ่มแบบสมบรู ณ์

ชดุ ควบคุมเชิงบวก (เบโนมลิ ) ชดุ ควบคุมเชงิ ลบ (ไม่ผสม)

ควำมเขม้ ขน้ สำรสกัดแทนนนิ 2.5% ควำมเขม้ ขน้ สำรสกดั แทนนนิ 5%

ควำมเข้มข้นสำรสกัดแทนนนิ 10% ควำมเข้มขน้ สำรสกัดแทนนิน 20%
5. กำรศึกษำสัณฐำนวิทยำของฟิล์มชีวภำพ นำชิ้นตัวอย่ำงแผ่นฟิล์มชีวภำพที่มีควำมเข้มข้นต่ำงกัน
สอ่ งภำยใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์

ภาคผนวกที่ 9 กำรทดสอบสมบตั ิของแผ่นฟิล์ม(ต่อ)

62

การเตรียมกระเทียม

ใช้กระเทียมพนั ธุพ์ ื้นเมือง จำนวน 90 กลีบ (15 กลีบ ต่อ ชุดกำรทดลอง) คดั ขนำดกระเทยี ม
ทีม่ นี ำ้ หนกั ต้งั แต่ 1 กรมั จนถึง 1.50 กรมั มสี ภำพสดไมม่ ีรอยซ้ำปลอกเปลือกออก

การทดสอบการยืดอายกุ ารเก็บรกั ษากระเทียม
นำกลีบของกระเทียมท่ีผ่ำนกำรปลูกด้วยสปอร์เช้ือรำไปหุ้มด้วยแผ่นฟิล์มแทนนินชีวภำพใน
แตล่ ะชุดกำรทดลองโดยในแต่ละถำดจัดกลบี กระเทียมถำดละ 5 กลบี แต่ละชดุ มี 3 ถำดให้บริเวณท่มี ี
เช้ือรำสัมผัสกบั แผ่นฟิล์มแทนนนิ ชีวภำพ

ชุดควบคมุ เชงิ ลบ สำรฆำ่ เชื้อรำ Benomyl 10 เปอรเ์ ซ็นต์
(ชดุ ควบคุมเชงิ บวก)

แผน่ ฟลิ ม์ PVC สำรสกดั แทนนนิ 2.5 เปอรเ์ ซ็นต์
ภาคผนวกที่ 10 กำรเตรยี มกระเทียม

63

สำรสกัดแทนนิน 5 เปอรเ์ ซน็ ต์ สกดั แทนนนิ 10 เปอร์เซน็ ต์

สำรสกดั แทนนนิ 20 เปอรเ์ ซ็นต์

ภาคผนวกท่ี 10 กำรเตรียมกระเทยี ม(ต่อ)

การนบั จานวนสปอร์ของเชือ้ รา Aspergillus flavus
พิจำรณำโดยใช้ Haemocytometer ในกำรนับสปอรข์ องเช้ือรำท่มี ีขนำดเลก็ ควำมหนำแนน่ สูง แล้ว
นำไปคำนวณจำนวนสปอร์เชอ้ื รำ

ภ าค ผ น วก ที่ 11 ก ำรนั บ จำน วน สป อ ร์เช้ือ รำที่ มีขน ำดเล็ก ควำม ห น ำแน่ น สูงโดยใช้
Haemocytometer

64

ประวตั ิผวู้ ิจยั

ชือ่ นางสาว สภุ ัตรา กองตา
วนั เกิด วันที่ 9 ตุลาคม พุทธศกั ราช 2541
สถานท่ีอยูป่ ัจจุบัน บา้ นเลขท่ี 98/1 หมู่ 9 ตำบลส้าน อำเภอเวียงสา จังหวดั นา่ น
รหัสไปรษณยี ์ 55110
ประวัติการศึกษา
พทุ ธศักราช 2553 ศกึ ษาจบระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนบ้านสาลีก จังหวดั น่าน
พุทธศักราช 2556 ศึกษาจบช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสา จงั หวดั นา่ น
พทุ ธศกั ราช 2559 ศกึ ษาจบชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรยี นสา จงั หวัดน่าน
ปจั จุบัน ปริญญาตรี สาขาวิชาชีววิทยา ช้ันปีท่ี 4 คณะวทิ ยาศาสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง จังหวดั ลำปาง

65

ประวตั ผิ วู้ ิจัย

ช่ือ นางสาวอจั ฉราพร กนั ทวงศ์
วนั เกดิ วันที่ 27 ตุลาคม พุทธศักราช 2541
สถานทีอ่ ยปู่ ัจจบุ ัน บา้ นเลขท่ี 76 หมู่ 8 บา้ นท่าข้ามเหนอื ตำบลบ้านกาศ
อำเภอแม่สะเรยี ง จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน รหสั ไปรษณยี ์ 58110
ประวัตกิ ารศึกษา
พุทธศกั ราช 2553 ศึกษาจบระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นดอนชยั วิทยา
อำเภอแม่สะเรยี ง จงั หวดั แม่ฮ่องสอน
พทุ ธศกั ราช 2556 ศกึ ษาจบชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนแมส่ ะเรียง “บริพัตรศกึ ษา”
อำเภอแมส่ ะเรยี ง จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน
พุทธศกั ราช 2559 ศึกษาจบช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนแมส่ ะเรียง “บริพตั รศกึ ษา”
อำเภอแม่สะเรยี ง จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน
ปัจจุบัน ปรญิ ญาตรี สาขาวิชาชีววทิ ยา ชน้ั ปที ่ี 4 คณะวิทยาศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลำปาง จงั หวดั ลำปาง

66

ประวตั ิผวู้ ิจัย

ชอ่ื -สกุล นางสาววรินญา บุตรสักที
วนั เดอื น ปี 9พฤษภาคม พ.ศ. 2541
ท่อี ยู่ 19 หมู่ 3 ต.เจดียช์ ัย อ.ปวั จ.น่าน รหสั ไปรษณีย์ 55120
ประวัตกิ ารศกึ ษา
พ.ศ. 2554 จบการศึกษาระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนบ้านปง
สนกุ
พ.ศ. 2559 จบการศกึ ษาระดับชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลายจากโรงเรยี นปัว
พ .ศ .2563 ปั จ จุ บั น ก ำ ลั ง ศึ ก ษ า อ ยู่ ส า ข า ชี ว วิ ท ย า ชั้ น ปี ที่ 4
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลำปาง จงั หวดั ลำปาง


Click to View FlipBook Version