The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุป Trading in the Zone ( ครบจบเล่ม)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Theerayut F Namtep, 2022-12-13 03:00:26

สรุป Trading in the Zone ( ครบจบเล่ม)

สรุป Trading in the Zone ( ครบจบเล่ม)

สรุป Trading in the Zone ( ครบจบเล่ม)

บทที 1 หนทางสคู่ วามสาํ เรจ็

เมือคณุ ได้เรียนรู้เกียวกับเทคนิคการเทรด ไมว่ ่าจะเปนรูปแบบกราฟหรอื วิเคราะห์
ตลาด คุณจะพบว่าโอกาสในการทําเงินนนั มอี ยูต่ ลอด

เทรดเดอร์ทีประสบความสําเรจ็ จะมีทัศนคติทีดีทีเรียนรูท้ ีจะยอมรับความเสียง และคง
ความมีวินัย ความมันใจแมจ้ ะอยูในสถานการณ์ทีเลวรา้ ย เพราะพวกเขาจะไมไ่ หวหวัน
ต่อความกลัวหรอื ความผิดพลาดจากการเทรด ซึงทังหมดนีทําให้มีเทรดเดอร์จํานวน
น้อยมากทีประสบความสําเร็จ

เพราะ การยอมรบั ว่าเราผิดนนั เปนเรอื งทีทําใหเ้ รารู้สกึ เจ็บปวด มนั จึงเปนเรอื งทีเรา
มกั จะทําอะไรก็ได้ เพอื ทีจะหลีกเลียงปจจัยทีทําใหร้ ู้สกึ เจ็บ

และการเรยี นรูท้ ีจะยอมรับความเสยี ง (การขาดทนุ ) ได้อยา่ งสมบูรณ์นนั เปนกุญแจ
สําคัญสกู่ ารคิดอยา่ งเทรดเดอร์ทีประสบความสาํ เรจ็ เพราะการทีเรายอมรบั ความเสียง
และเขา้ ใจถึงความไมแ่ นน่ อน เปนทักษะทีสําคัญทีสดุ ของการเทรด

แต่มนั เปนเรืองทีพบได้นอ้ ยมาก ทีเทรดเดอร์ทีกําลังพฒั นาจะใหค้ วามสนใจและเรียนรู้
ทีจะยอมรบั มนั

เทรดเดอรท์ ีล้มเหลวมักจะไมย่ อมรับความเสียง เชน่ การทีเราไมย่ อมตัดขาดทนุ ซงึ
ผลลัพธก์ ็คือขาดทนุ หนกั กว่าเดิม และความผิดพลาดเหล่านีเกิดจาก “ทัศนคติและมมุ
มองของตัวเทรดเดอร์เอง ”

และเรามักจะแก้ปญหาโดยการ “เรียนรู้เกียวกับตลาด” ใหม้ ากขนึ เพอื กําจัดความ
เสยี งในการเทรด ซึงเปนกับดักในการเทรดมากๆ เพราะ ในตลาดมีตัวแปรมากมาย
เกินไปทีเราจะรูไ้ ด้หมด และบอ่ ยครังทีข้อมลู ขัดแยง้ กันเอง แต่เราก็ยังวนในลูปนันไป
เรอื ยๆ

ซึงในการเทรดแต่ละครังนนั มี “ ผลลัพธท์ ีไมแ่ นน่ อน ” และการวิเคราะหต์ ลาดได้ (ใช้
เทคนิคเปน) ก็ไมใ่ ชห่ นทางทีจะนําไปสูผ่ ลลัพธท์ ีสมาเสมอ เพราะ มนั ไมส่ ามารถแก้
ปญหาการเทรดทีการขาดวินัย การขาดความมันใจ หรอื ขาดการมที ัศนคติทีเหมาะสม

วิธแี ก้ปญหา

- คุณต้องเรยี นรูว้ ิธีการปรับเปลียนทัศนคติในการเทรด
- รกั ษากรอบจิตใจไมใ่ ห้เกิดความรู้สกึ ทีประมาท

บทที 2 การหลอกล่อ (และความอันตราย) ของการเทรด

เรามคี วามอิสระในการเลือกเทรด และสงิ แวดล้อมทีไมม่ ขี ดี จํากัด แต่ผลลัพธ์กลับออก
มาล้มเหลวอยา่ งต่อเนือง

และในการเทรด ไมม่ ีใคร (นอกจากตัวคณุ เอง) ทีจะควบคมุ ความเสยี งในการเทรดได้
ว่าแต่ละครงั เราจะเสยี งเท่าไร ซงึ เทรดเดอร์ทีประสบความสําเร็จ จะกําหนดความเสียง
ก่อนทีจะเทรดทุกครงั

แต่เทรดเดอรท์ ีล้มเหลวจะพยายามหลีกเลียงการยอมรับทีว่า “ไมว่ ่าการเทรดนันจะดูดี
ขนาดไหน มนั ก็มโี อกาสทีจะขาดทนุ ได้ ” ทําให้การกําหนดความเสียงก่อนทีจะเข้าไป
เทรดนันเปนเรืองทีไมจ่ ําเปน

⚠ เราเลือกทีจะเข้าไปเทรดในตลาดทีไมม่ ขี ้อจํากัด
และในขณะเดียวกัน เรากลับหลีกเลียงความรบั ผดิ ชอบ

⚠ ซึงเราจะใหเ้ ครดิตกับตัวเอง ถ้าผลการเทรดออกมาดี
และเราก็เลียงทีจะรบั ผดิ ชอบ ถ้าผลการเทรดครงั นนั ไมอ่ อกมาในแบบทีเราต้องการ

บทที 3 การแสดงความรบั ผดิ ชอบ

เราจะเห็นได้อยา่ งชดั เจนว่า มเี ทรดเดอร์จํานวนมากทีไมป่ ระสบความสําเรจ็
เพราะแทนทีจะเรยี นรูว้ ิธีในการคิดแบบเทรดเดอร์ พวกเขากลับคิดถึงวิธีทีพวกเขา
สามารถทําเงินใหไ้ ด้มากขึนด้วยการเรียนรู้เกียวกับการวิเคราะหต์ ลาดมากขึน
ซึงคณุ จะคิดไปเองว่าสงิ ทีคุณไมร่ ู้เกียวกับตลาดนนั (คิดว่าตัวเองยงั รู้เทคนคิ หรอื ปจจัย
อืนๆในการวิเคราะหต์ ลาดไมม่ ากพอ) เปนสาเหตุของการขาดทนุ และผลลัพธ์ทีไม่
สมาเสมอของคุณ

แต่มันไมไ่ ด้เปนแบบนนั เพราะความสมาทีคณุ มองหาอยูน่ ันคือ “จิตใจ” ไมใ่ ช่
“การเรียนรู้ตลาด” เนืองจากทัศนคติเปนสิงทีสร้างผลลัพธโ์ ดยรวมได้ดีกว่าการ
วิเคราะหต์ ลาดและภาวะทีจิตใจปลอดโปรง่ หรือ “โซน” (Zone) เปนภาวะทีจิตใจของ
คณุ ไมก่ ลัว ซึงคุณกระทําและตอบสนองด้วยสญั ชาตญาณ คุณจะรูส้ ึกว่า “ก็แค่ทํามนั ”
โดยไมต่ ้องคิดเกียวกับการกระทํา เพราะถ้าเราใช้เหตุผลเมือไร คุณก็จะเด้งออกมาจาก
โซนทันที ซงึ วิธที ีจะเขา้ ไปอยูใ่ นโซนได้นนั คือ การแสดงความรบั ผดิ ชอบอยา่ งสมบูรณ์
โดยการเชอื ว่าผลลัพธท์ ังหมดทีเกิดขนึ มาจาก “จิตใจ” ของตัวคณุ เอง

ถ้าไมอ่ ยา่ งนนั เมือคุณเทรดแพ้ คณุ ก็จะโทษตลาดหรือไมก่ ็โทษการวิเคราะห์ที
ผดิ พลาดไปและมองว่าการทีคุณขาดทนุ นัน สามารถแก้ไขด้วยการเรยี นรูเ้ กียวกับการ
วิเคราะหต์ ลาดมากขนึ ไมว่ ่าจะเปน Fibonacci Retracement , Oscillators, RSI ,
คลืนอีเลียตเวฟ และเครืองมอื ทางเทคนคิ อีกมากมาย เพอื ปองกันไมใ่ ห้ตลาดทํารา้ ย
คุณได้อีก

ซงึ การขาดทนุ นนั เปนเรืองธรรมชาติของการเทรด เหมอื นกับการทีเจ้าของร้าน
อาหารต้องมคี ่าใชจ้ ่ายในการซือวัตถดุ ิบมาประกอบอาหารแต่พอเรามีค่าใชจ้ ่ายในการ
เทรด (เทรดขาดทุน) เรามกั จะรูส้ กึ เจ็บปวดเสมอ และนนั คือชว่ งเวลาทีเราสูญเสยี
ภาวะทีจิตใจปลอดโปรง่ ไปแล้ว…

บทที 4 ความสมาเสมอ

การเทรดทีชนะ 2-3 ครังหรือมากกว่านนั สามารถทีจะมองว่าการเทรดนันเปนเรอื ง
ง่ายๆ แต่ถ้าการเทรดเปนเรอื งง่ายๆทําไมถึงยากนักทีจะเชียวชาญ?

เทรดเดอร์ทัวไปพยายามทีจะสรา้ งผลลัพธ์ทีสมาเสมอ แต่ไมม่ ีความเชือและทัศนคติที
เหมาะสม ซงึ ความสมาเสมอนจี ะเกิดขึนได้จากภาวะจิตใจของคณุ เอง

ยกตัวอยา่ งเชน่ ถ้าเราหวังพึงใหส้ ภาพแวดล้อมภายนอกทําให้เรามีความสขุ มนั ก็คงมี
โอกาสน้อยมากทีเราจะมคี วามสขุ อยา่ งสมาเสมอ เพราะความสุขนนั มนั ควรเกิดขึน
จากตัวเราหรือทัศนคติของเราเอง

เชน่ เดียวกับการทีเราไมส่ ามารถพงึ ตลาดเพอื คาดหวังว่าตลาดจะให้กําไรหรือให้ความ
สําเร็จกับเรา เพราะตลาดไมไ่ ด้มีพฤติกรรมในแบบทีเติมเต็มความคาดหวังให้กับใคร
และเมือเราผดิ หวัง เจ็บปวด จิตใจไมป่ ลอดโปรง่ ก็ไมส่ ามารถเกิดความสมาเสมอขนึ ได้

บทที 5 พลวัตรของการรบั รู้

ถ้าเปาหมายของคณุ คือการเทรดได้แบบมอื อาชีพ คุณจําเปนต้องมมี มุ มองทีไมม่ ี
อคติกับตลาด และปราศจากการบิดเบอื นข้อมลู ทีได้รบั มา เพราะตลาดไมไ่ ด้สร้าง
ความเจ็บปวดหรือความสขุ ใหก้ ับคณุ แต่ตลาดมีหน้าทีสร้างข้อมูลให้กับคณุ เท่านนั และ
เมือตลาดใหข้ อ้ มูลมา หน้าทีของเทรดเดอรค์ ือรบั รูถ้ ึงโอกาสในการเทรด ไมใ่ ชร่ ับรูถ้ ึง
ความเจ็บปวดทางอารมณ์

ยกตัวอยา่ งเชน่

เมือราคาหรอื ตลาดทํารูปแบบ A ซงึ เปนรูปแบบเชงิ เทคนคิ ในการเทรด ให้คณุ
ได้รบั รูข้ ้อมลู แต่รูปแบบ A เคยทําใหค้ ณุ ขาดทนุ และเจ็บปวด คณุ ก็จะเกิดความลังเล
ขึนมาว่าจะเขา้ เทรดดีมัย ? เพราะไมอ่ ยากเทรดแล้วโดนตลาดเล่นเหมอื นครังก่อน

เมอื เกิดความลังเลและความขดั แย้งขึนในใจ สดุ ท้ายแล้วคุณก็จะไมไ่ ด้ทําอะไร
เลย และเมือราคาขึนไปสูงกว่าเดิมเรือยๆ คณุ ก็จะบอกว่า “เสยี งเกินไปทีจะไล่ตาม
ราคา” ได้แต่หาเหตผุ ลปลอบตัวเองเพือใหร้ ู้สึกดี แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สกึ เจ็บปวด
ทกุ ๆครังทีราคาขนึ ไปต่อ โดยทีคุณไมไ่ ด้เข้าเทรดในครงั นนั

แต่กลับกัน หากคุณเพงิ เทรดชนะด้วยรูปแบบ A มา 3 ครังติด คณุ จะรู้สึกลังเล
เหมือนตัวอยา่ งเมือกีหรือไม่ ? แนน่ อนว่ามโี อกาสน้อยมากทีคณุ จะลังเล…

ซงึ ทัง 2 สถานการณ์ด้านบนนัน ตลาดสร้างสญั ญาณแบบเดียวกันออกมา (รูป
แบบ A) แต่สงิ ทีแตกต่างกันคือ “ทัศนคติของคณุ ”

บทที 6 มุมมองของตลาด

“เราจะรูส้ กึ อยา่ งไรก็ขนึ อยูก่ ับว่า การเทรด 2 ครงั ก่อนหนา้ เปนอยา่ งไร”
นนั คือมุมมองของเทรดเดอรท์ ัวไปแต่เทรดเดอร์ทีประสบความสาํ เรจ็ จะไมร่ ูส้ ึกอะไร
เลยจากการเทรด 2 ครังทีผา่ นมาเพราะเทรดเดอร์ทีประสบความสําเรจ็ จะกําหนด
ความเสยี งไว้ล่วงหนา้ ก่อนทีเขา้ ไปเทรดเสมอ โดยปราศจากข้อแมห้ รอื ความลังเลใน
เวลาทีตลาดบอกเขาว่า “การเทรดครงั นนั ใช้ไมไ่ ด้ผล” เพราะพวกเขาเขา้ ใจในหลัก
ของความนา่ จะเปน

แต่การไมก่ ําหนดความเสยี งของคณุ ไว้ล่วงหน้า ไมต่ ัดขาดทุน และไมม่ หี ลักการในการ
ทํากําไรอยา่ งเปนระบบนัน เปนความผิดพลาดทีพบได้บอ่ ยทีสุดของเทรดเดอร์ทัวไป

วิธที ีจะสามารถทําใหใ้ จไมอ่ คติได้
ก็คือการคิดว่า “อะไรๆก็สามารถเกิดขนึ ได้”
ซึงเปนความเชือหรือทัศนคติทีมีประสิทธิภาพทีสดุ ในการเทรด

บทที 7 ความได้เปรยี บของเทรดเดอร์ : การคิดในรูปแบบของความนา่ จะเปน

เราจะสร้างผลงานทีสมาเสมอได้อยา่ งไรในเมอื ผลลัพธไ์ มแ่ นน่ อน ? ซงึ จากที
อ่านดู เราก็รูแ้ ล้วว่ามันดขู ัดแย้งกันจึงขอยกตัวอยา่ งการอธิบายเหตุการณน์ ีด้วย “คา
สโิ น”

คาสโิ นสามารถสรา้ งกําไรได้อยา่ งสมาเสมอ จากผลลัพธ์ทีเปนแบบสุม่ อยา่ ง
แท้จรงิ ในขณะทีเทรดเดอรส์ ว่ นใหญเ่ ชือว่า ผลลัพธท์ ีมาจากตลาดไมไ่ ด้เปนแบบสุม่
แต่พวกเขาก็ยงั ไมส่ ามารถทํากําไรได้อยา่ งสมาเสมอซงึ เปนสงิ ทีเทรดเดอร์ทีประสบ
ความสําเรจ็ เขา้ ใจดีว่า “ผลลัพธแ์ บบสมุ่ สามารถเปนผลงานทีสมาเสมอได้
โดยทําใหต้ ัวเองได้เปรยี บ และมจี ํานวนครงั ทีมากพอ”และยังเข้าใจธรรมชาติของ
ความนา่ จะเปนอีกว่า “ผลลัพธข์ องการเทรดในแต่ละครงั ไมม่ ีความเกียวข้องทางสถิติ
กับครงั ถัดไป เพราะเหตกุ ารณค์ รงั นนั ทีเราเลือกเทรดเปนเหตุการณเ์ ฉพาะตัว”

โดยจะแบง่ ความเชือเปน 2 ชนั ดังนี :

ชันที 1 ระดับไมโคร : คณุ จําเปนต้องเชอื ในความไมแ่ นน่ อน และการทีเราไม่
สามารถคาดการณ์ผลลัพธไ์ ด้ในแต่ละครงั ของการเทรด ว่าจะชนะหรอื แพ้ เพราะใน
ตลาดแหง่ นี มันมตี ัวแปรทีเราไมร่ ูเ้ ยอะมาก ทีจะสง่ ผลต่อความสมาเสมอของการเทรด
ในแต่ละครัง

อยา่ งเชน่ ขา่ ว เหตกุ ารณส์ าํ คัญ หรือตัวแปรอีกหลายๆตัว ทีไมร่ ู้จบ

ผลลัพธ์แบบสมุ่ ไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ ับผลลัพธใ์ นครงั ก่อนหน้า หรอื ครงั ถัดไป

ชันที 2 ระดับแมคโคร : คณุ จําเปนต้องเชือว่า ผลลัพธจ์ ากการเทรดในหลายๆครัง
จะค่อนข้างมีความแนน่ อน และสามารถคาดการณไ์ ด้ ซึงระดับของความแนน่ อนนจี ะ
ขนึ อยูก่ ับตัวแปรทีคงที ทีเราสามารถรูล้ ่วงหนา้ ได้ และนีคือ “ความได้เปรยี บของ
เทรดเดอร์ ”

ยกตัวอยา่ งเชน่

การทีเราเข้าเทรดในรูปแบบ B จากเทคนคิ BB เราไมส่ ามารถทราบได้เลยว่า
ตอนนันจะมีขา่ ว หรอื เหตกุ ารณอ์ ะไรทีสําคัญเข้ามาหรอื ไม่ ทําใหเ้ รามองเหน็ ถึงความ
ไมแ่ นน่ อนของผลลัพธ์ (ระดับไมโคร) แต่เราเชือว่าหากเราเทรดในจํานวนครังทีมาก
พอ เราจะสามารถชนะได้ โดยทําการกําหนด Risk to Reward ไว้ก่อน เพราะการจํากัด
ความเสยี ง คือสงิ ทีเราสามารถรู้ล่วงหนา้ ได้ว่า ถ้าเราแพ้ เราจะเสยี เท่าไหร่ และถ้าชนะ
จะได้เท่าไหร่ (ระดับแมคโคร)

(แมเ้ ราจะมผี ลลัพธท์ ีไมแ่ นน่ อน แต่ถ้าหากเราเทรดใน RRR ทีได้เปรยี บ พอร์ตก็
สามารถอยูร่ อดและเติบโตได้)ซึงการทําแบบนี คณุ สามารถรู้ก่อนได้ว่า คุณจะยอมให้
ตลาดสวนทิศกับสถานะการเทรดได้เพียงใด

และถ้าหากขาดทุน มนั ก็เปนเพยี งแค่ “ต้นทุน” ในการทําธุรกิจโดยเทรดเดอร์ทีประสบ
ความสําเร็จจะไมเ่ ครยี ดกับการขาดทนุ เพราะไมม่ อี ะไรเสียงไปมากกว่าจํานวนเงินที
พวกเขาเต็มใจทีจะเสยี ในแต่ละครังซงึ พวกเขาไมพ่ ยายามทีจะเปนคนถกู เพือพสิ ูจน์
หรอื หลีกเลียงการเปนคนผิด เพราะสิงทีพวกเขาทํานนั คือ
“ยอมรบั และรอความได้เปรยี บในการเทรดครงั ถัดไป”

บทที 8 ทํางานกับความเชอื ของคณุ

เราไมส่ ามารถรู้ได้เลยว่าผลลัพธ์จะออกมาชนะหรือว่าแพ้ จนกว่าเราจะสามารถ
อ่านใจเทรดเดอรท์ ังหมดในตลาดได้ว่าคิดอะไรและจะทําอะไรต่อไป ซงึ เปนเรืองทีเปน
ไปไมไ่ ด้เลย…

แต่เราสามารถรู้ได้ว่าความได้เปรียบคืออะไร เชน่ ถ้าเราเสยี เราจะเสียเท่าไหร่
และถ้าหากได้ เราจะปดกําไรทีตรงไหน ซึงตรงนคี ือ “แผนการ” แต่มีแผนการไปก็
เท่านนั ถ้าเราคิดว่าตลาดกําลังจะทําอะไรต่อ และจะมีผลลัพธ์ออกมาเปนอยา่ งไร
จําไว้ว่าตลาดจะสอื สารกับเราในรูปแบบของความนา่ จะเปนเสมอ และการทีเราคิด
ต่อว่าผลลัพธ์จะเปนอยา่ งไรนนั คือความเสียงทางอารมณท์ ีจะสง่ ผลต่อการเทรด

ซงึ การจะคิดในกรอบของความนา่ จะเปนได้นนั คุณจําเปนต้องรู้ความจริงพนื ฐานของ
ความนา่ จะเปนเสียก่อน

โดยจะมี 5 ข้อ ดังนี

1. อะไรก็สามารถเกิดขึนได้ : ตลาดจะมแี รงทีเราไมร่ ูเ้ ขา้ มาทํางานในตลาดเสมอ

2. ในการทีจะทําเงินคณุ ไมจ่ ําเปนต้องรูว้ ่าอะไรจะเกิดขนึ ต่อไป : มีการกระจายแบบ
สมุ่ ระหว่างการแพ้และชนะ
(ซงึ ไมไ่ ด้หมายความว่าเราไมต่ ้องวิเคราะห์หรือไมร่ ู้อะไรเลยเกียวกับการเทรด แต่
หมายถึงว่า อยา่ พยายามคาดการณว์ ่าจะชนะหรือแพจ้ ากการเทรดในแต่ละครัง)
และเมือคุณพยายามทีจะรู้ว่าตลาดจะไปในทิศทางไหนหมายความว่า คุณกําลัง
พยายามทีจะเปนคนถกู

3. มนั มกี ารกระจายแบบสมุ่ ระหว่างการแพแ้ ละชนะ

4.ความได้เปรียบทีตลาดให้เรา คือ รูปแบบการเทรด และกําหนดความเสยี งใหน้ ้อย
กว่าผลตอบแทนเสมอ

5.ทกุ รูปแบบทีเกิดขนึ ในตลาดนัน เปนเรอื งเฉพาะตัว : การทีรูปแบบเกิดขึนครงั นี จะ
ไมเ่ หมือนกับรูปแบบก่อนหนา้ หรือรูปแบบครังไหนๆ

“เมือคุณยอมรบั ความจรงิ จากตลาดได้อยา่ งสมบูรณ์ คณุ ก็จะยอมรบั ความเสยี งในการ
เทรดได้ไปพรอ้ มกัน ”

บทที 9 ธรรมชาติของความเชอื

ถ้าเราพบว่าเราอยูใ่ นภาวะทีเรารู้สึกพงึ พอใจ มคี วามสขุ หรือรู้สึกดีเกียวกับเรือง
ทีเราจะทําใหส้ ําเร็จ เราก็จะเชือว่าสงิ ทีเราทํานันมีประโยชน์ และสามารถใชไ้ ด้ผลจริง
เพราะสงิ ทีเรารบั รูน้ ัน นอกจากมนั จะสอดคล้องกับเปาหมายของเรา มนั ยังสอดคล้อง
กับขอ้ มลู จากตลาดอีกด้วย

เมอื ตลาดให้ข้อมูลมา เราก็ทําการแปลความหมายและตัดสนิ ใจทีจะเขา้ เทรด
ด้วยความรูส้ กึ ทีปลอดโปรง่ ไมเ่ กิดการต่อต้านภายในใจ เพราะเราอยูใ่ นสภาวะทีกําลัง
พึงพอใจและเชอื ว่ามปี ระโยชน์ทีจะทํา

ในทางกลับกัน หากเรากําลังอยูใ่ นภาวะทีรู้สึกไมพ่ ึงพอใจ หงดุ หงิด ผิดหวัง เราก็
จะเชอื ว่าสงิ ทีเราทําอยูน่ นั ใชไ้ มไ่ ด้ผล และไมม่ ปี ระโยชนซ์ งึ เราจะรูส้ กึ อยา่ งไรนนั ก็ขึน
อยูก่ ับความเชอื ของเรา เพราะ “ความเชอื จะเปนตัวกําหนดวิธที ีเรารูส้ กึ กับชวี ิตของ
เรา”

บทที 10 ผลกระทบของความเชอื ทมี ตี ่อการเทรด

หากเรายงั รู้สึกไมพ่ งึ พอใจในขณะทีเทรด เราก็จะรูส้ กึ ได้ว่ามบี างอยา่ งขัดแยง้ กับ
สงิ ทีเรารู้ ไมว่ ่าจะเปนรูปแบบของความนา่ จะเปนหรือความเชืออืนๆ ก็จะเกิดการโต้ง
แยง้ ขนึ ในใจของเราเอง

แต่ถ้าเราเชอื ในรูปแบบของความนา่ จะเปน เราจําเปนต้องเชอื ว่าทกุ ๆรูปแบบที
เกิดขึนในตลาด ณ ตอนนนั มผี ลลัพธท์ ีเฉพาะตัว ซึงเราไมจ่ ําเปนต้องรูว้ ่าผลลัพธจ์ ะ
ออกมาว่าแพห้ รือชนะ ตลาดจะวิงขึน หรือวิงลงและเมอื เราเชอื อยา่ งแท้จรงิ ว่าเราไม่
จําเปนต้องรู้ เราก็จะสามารถคิดในรูปแบบของความนา่ จะเปนได้ เพราะอ้างอิงจาก
ความไมแ่ นน่ อนทีเกิดขึนในตลาด

เมอื เราเชือว่าตลาดคือความไมแ่ นน่ อน ตลาดมผี ลลัพธ์แบบสมุ่ และทกุ ๆรูปแบบ
ทีเกิดขึนในตอนนนั ไมม่ ีความเกียวข้องกับครังก่อนหน้าและครงั ถัดไป ทําใหต้ ้อง
ควบคมุ ความเสยี งหรือใชค้ วามได้เปรียบทีตลาดได้ให้เรามา (ต้องเชือในขอ้ 1-5 ของ
บทที 8 ก่อน)

สง่ ผลใหเ้ ราไมบ่ ดิ เบือนข้อมูลจากตลาดทีพยายามจะสือสารกับเรา ไมห่ งดุ หงิดและผิด
หวังเมือตลาดสวนทางกับสถานะทีเราเปดไว้

บทที 11 วิธคี ิดแบบเทรดเดอร์

อยา่ งแรกต้องเรมิ จากความเชือทีว่า “ฉันเปนเทรดเดอรท์ ีประสบความสาํ เรจ็ อยา่ ง
สมาเสมอ ” โดยเริมสรา้ งความสมาเสมอจากการสงั เกตในสงิ ทีเรากําลังคิด พดู และทํา
อยู่

และแยกความเชือยอ่ ยๆออกจากการเปนเทรดเดอรท์ ีประสบความสําเรจ็ อยา่ ง
สมาเสมอ
จะได้ดังนี :

- ระบุความได้เปรยี บอยา่ งไมม่ อี คติ : ไมว่ ่าจะเปนเชิงเทคนคิ หรอื การกําหนดผล
ตอบแทนต่อความเสยี ง

- กําหนดความเสยี งของทุกๆการเทรดไว้ล่วงหนา้

- ยอมรบั ความเสยี งได้อยา่ งสมบูรณ์

- ทําตามความได้เปรยี บเสมอ โดยปราศจากข้อแมค้ วามลังเลใดๆ

- จะจ่ายเงินใหต้ ัวเองเมือตลาดมอบเงินใหก้ ับเรา

- เฝาติดตามความผิดพลาดอยา่ งต่อเนอื ง เพือปรับปรุงแก้ไข

- เข้าใจในหลักการของการประสบความสําเร็จอยา่ งสมาเสมอ และไมฝ่ าฝน

และต่อมาคือสงิ สาํ คัญทีเทรดเดอรท์ ีสาํ เร็จเลือกทีจะคิดและทําในการเทรด
โดยจะมี 6 ขอ้ ดังนี :

1. การเขา้ ไปเปดการเทรด
เทรดเดอรม์ ืออาชีพจะใชร้ ะบบทีมีความได้เปรียบ และเหมาะสมทีสดุ กับตัวเอง โดยไม่
ใชต้ ัวแปลจากข้างนอกหรือตัวแปรสมุ่ ตัวอืนเขา้ มาพจิ ารณารว่ ม

2.การตัดขาดทุนออกมา
สงิ นเี ปนสงิ ทีจําเปนมากเพราะเราจําเปนต้องทําหากการเทรดทังนนั ไมไ่ ด้ผล โดยจะ
ต้องกําหนดความเสยี งไว้ก่อน
ว่าถ้าต้องตัดขาดทนุ ออกมาคณุ จะเสียเท่าไหรใ่ นครังนัน

3. กรอบเวลา
คณุ จะใชก้ รอบเวลาอะไรก็ได้ทีเหมาะสมกับตัวคณุ

4. การขายทํากําไร
“วิธีทีคุณขายทํากําไรในการเทรดทีเปนชัยชนะจึงมคี วามสําคัญอยา่ งทีสดุ ” เพราะ
หลายหลายครงั เรามกั ปล่อยให้กําไรหายไป

5. ถ้าหากคณุ ไมส่ ามารถรูไ้ ด้ว่าตลาดจะวิงไปอีกไกลแค่ไหน คณุ ควรจะแบง่ ทํากําไร
ออกมา ไมว่ ่าจะเปน 1/4 1/3
หรอื แมแ้ ต่ 1/2 ก็ยังดีกว่าการทีตลาดยอ้ นกลับมาแล้วกําไรแล้วหายไปหมด

และเมอื ราคาขึนไปไกลจากออเดอร์ของคณุ มากพอ ก็ขยบั จุดขาดทนุ (Stop loss) ขนึ
มาบงั หนา้ ทุนทีเราเขา้ ไว้
(Break - even) แล้วเราจะพบว่า ณ ตอนนนั มันไมม่ คี วามเสียง และนนั คือชว่ งทีเรามี
จิตใจทีปลอดโปรง่ อยา่ งแท้จริง

6. การยอมรบั ความเสยี ง
พยายามคิดถึง worth case ไว้เลย ว่าทกุ ๆครังทีเราเทรด ก็มีโอกาสขาดทนุ แล้ว

และไมว่ ่าระบบการเทรดของคณุ จะเปนอยา่ งไรก็ตาม อยา่ พยายามทจี ะกําหนด
ระยะเวลาในการเทรดแต่ละครงั พยายามทําตามแผนของคณุ โดยปราศจากอคติ
อัตตา และขอ้ มูลต่างๆทที ําใหค้ ณุ ไขว้เขว


Click to View FlipBook Version