คดีมโนสาเร ่
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๙๓ “ในคดีมโนสาเร่ ให้ศาลก าหนดวันนัดพิจารณาโดยเร็วและออกหมายเรียก
ไปยังจ าเลย ในหมายนั้นให้จดแจ้งประเด็นแห่งคดีและจ านวนทุนทรัพย์หรือราคาที่เรียกร้อง
และข้อความว่าให้จ าเลยมาศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยานในวันเดียวกัน และให้
ศาลสั่งให้โจทก์มาศาลในวันนัดพิจารณานั้นด้วย
ในวันนัดพิจารณา เมื่อโจทก์และจ าเลยมาพร้อมกันแล้ว ให้ศาลไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้
ตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อที่พิพาทนั้นก่อน…”
่
็
็
- ประนประนอมส าเรจ / ไมส าเรจ
ี
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๑. เป็นอิสระและเป็นกลาง
- ผู้ไกล่เกลี่ยต้องมีความเป็นอิสระและเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่หรือ
เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
- หากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝ่ายใด เช่น เป็นญาติพี่น้อง
นายจ้างลูกจ้าง หุ้นส่วน หรือที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น ก็ควรจะ
เปิดเผยข้อเท็จจริงให้ทุกฝ่ายทราบ หรือขอถอนตัวจากการเป็น
ผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อป้องกันปัญหาการครหา
- ไม่เป็นผู้ตัดสิน
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๒. รักษาความลับของคู่พิพาท
- กระบวนการไกล่เกลี่ยมีการด าเนินการที่เป็นความลับ
ผู้ไกล่เกลี่ยต้องรักษาความลับของคู่พิพาทที่ได้มาจากการ
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
- ไม่แพร่งพรายให้บุคคลภายนอกทราบ หากเกิดความ
เสียหายแก่คู่พิพาท ผู้ไกล่เกลี่ยอาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง
และทางอาญา
- ผิดจริยธรรมของผู้ไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๓. มีความอดทนอดกลั้น
- ผู้ไกล่เกลี่ยต้องมีความอดกลั้นและอดทน มีจิตใจที่สงบ
เยือกเย็น ตลอดจนมีความเมตตากรุณาต่อคู่พิพาท พร้อมที่จะ
รับฟังปัญหา
- เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงและแสดงเหตุผลอย่าง
เท่าเทียมกันตามสมควร
- ผู้ไกล่เกลี่ยต้องอยู่เหนือความขัดแย้งไม่เข้าไปโต้เถียงกับ
คู่พิพาท
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๔. ซื่อสัตย์สุจริต
- ผู้ไกล่เกลี่ยต้องเป็นผู้มีจริยธรรม คุณธรรมและ
มีความซื่อสัตย์สุจริต
- ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากคู่พิพาท
อันจะท าให้การปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางหรือ
ไม่เป็นอิสระ
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๕. มีความสามารถในการเจรจาและติดต่อสื่อสาร
- ผู้ไกล่เกลี่ยควรมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความอ่อนโยนในการเจรจา
แต่จะต้องมีความเข้มแข็งในประเด็นที่พิจารณา ไม่ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ครอบง าจนเสียความเป็นธรรมและความเป็นกลาง
- รู้จักพูดในขั้นตอนที่ควรพูด ไม่ควรจะพูดอยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่เปิด
โอกาสให้คู่พิพาทได้พูดคุยกัน
- ผู้ไกล่เกลี่ยควรจะพูดให้น้อยและเป็นผู้รับฟังที่ดี รู้ว่าขั้นตอนใด
ควรจะตัดบทหรือหยุดพัก หรือเลื่อนการเจรจาออกไป เช่น เห็นว่าทั้งสอง
ฝ่ายต่างมีอารมณ์รุนแรง เข้าหากัน อันอาจจะน าไปสู่การทะเลาะวิวาทก็ควร
หยุดพักหรือเลื่อนการเจรจาออกไปก่อน
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๖. มีความรู้และประสบการณ์ในการไกล่เกลี่ย
- ผู้ไกลเกลี่ยที่ดีควรจะมีความรอบรู้ในหลาย ๆ ด้าน
ิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อพพาท หลักจิตวิทยา
การ ไกล่เกลี่ย
- มีประสบการณ์ในการไกล่เกลี่ยและหาประสบการณ์ในการ
ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้มากยิ่งขึ้น จะท าให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถ
แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
- ต้องขยันหมั่นเพียรค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๗. มีความรู้ความสามารถในเนื้อหาและเรื่องที่พิพาท
- แม้ผู้ไกล่เกลี่ยจะไม่มีหน้าที่ต้องชี้ขาดข้อพิพาท แต่ก็ควรเตรียม
ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องที่พิพาทกันทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ิ
ิ
เพื่อเป็นแนวทางในการระงับข้อพพาทให้แก่คู่พพาทได้อย่างถูกตอง
้
- ต้องมีความคิดบวก ปัญหาทุกปัญหามีทางออก
- เป็นผู้สร้างทางเลือกให้การยุติข้อพิพาท
คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย
๗. มีความรู้ความสามารถในเนื้อหาและเรื่องที่พิพาท
- แม้ผู้ไกล่เกลี่ยจะไม่มีหน้าที่ต้องชี้ขาดข้อพิพาท แต่ก็ควรเตรียม
ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องที่พิพาทกันทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ิ
ิ
เพื่อเป็นแนวทางในการระงับข้อพพาทให้แก่คู่พพาทได้อย่างถูกตอง
้
- ต้องมีความคิดบวก ปัญหาทุกปัญหามีทางออก
- เป็นผู้สร้างทางเลือกให้การยุติข้อพิพาท
Thank you