ชุดกิจกรรมการอ่านจบั ใจความในรายวิชาภาษาไทย
สาหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3
เพือ่ พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนและทกั ษะการอา่ นจบั ใจความ
ชดุ ที่ 5
การอ่านจบั ใจความจากบทรอ้ ยกรอง
นางสาวเจริญศรี เชตวุ ัน
ครชู านาญการ
โรงเรียนวัดทุง่ เฟอื้
สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ด้านความรู้ (K)
๑.๑ นกั เรียนบอกความหมาย ประเภท และคุณค่าของบทร้อยกรองได้
๑.๒ นักเรียนสรุปใจความสาคัญจากบทรอ้ ยกรองที่อ่านได้
2. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
๒.๑ นักเรียนใชก้ ระบวนการอา่ นจับใจความในการอา่ นเร่ืองทก่ี าหนดใหไ้ ด้
2.2 นกั เรยี นสามารถแยกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากเร่อื งทีอ่ า่ นได้
๒.3 นักเรียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเหน็ ตอ่ เรอ่ื งท่อี ่านอย่างมีเหตผุ ล
๒.4 นักเรียนเขียนสรปุ เรื่องท่ีอ่านด้วยสานวนภาษาของตนเองได้
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
๓.๑ ใฝ่เรียนรู้
๓.๒ มวี นิ ัย
๓.๓ มุง่ ม่ันในการทางาน
๓.๔ รักความเปน็ ไทย
4. ด้านสมรรถนะสาคัญ (C)
๔.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร
๔.๒ ความสามารถในการคิด
๔.๓ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
แบบทดสอบก่อนเรยี น
เรือ่ ง การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
คาชี้แจง นกั เรยี นเลอื กคาตอบทีถ่ กู ต้องเพยี งคาตอบเดยี ว
1. ข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะของบทร้อยกรอง
ก. มีความซับซ้อนกวา่ บทรอ้ ยแก้ว
ข. มุ่งใหผ้ ้อู ่านไดร้ บั สนุ ทรียะทางภาษา
ค. เน้นสั่งสอนดา้ นคณุ ธรรมเพียงอย่างเดยี ว
ง. มีแบบแผนในการบงั คับฉันทลักษณ์อย่างชัดเจน
2. ปัจจบุ นั บทรอ้ ยกรองแตกต่างจากในอดตี ดา้ นใดมากทส่ี ดุ
ก. รูปแบบในการแตง่
ข. ลกั ษณะคาประพนั ธ์
ค. แนวคิดในการนาเสนอ
ง. ความยาวของบทรอ้ ยกรอง
3. บทรอ้ ยกรองประเภทใดท่ีนิยมถา่ ยทอดโดยวธิ มี ขุ ปาฐะ
ก. รา่ ย
ข. กาพย์
ค. กลอน
ง. เพลงพืน้ บ้าน
4. การอา่ นบทร้อยกรองไดร้ ับประโยชนด์ ้านใดมากทีส่ ุด
ก. ผ่อนคลายอารมณ์
ข. เกดิ สุนทรยี ะทางภาษา
ค. เกิดความคดิ สรา้ งสรรค์
ง. เข้าใจวิถีชีวติ ในยคุ สมัยนน้ั ๆ
5. ใครเปน็ นักอ่านบทรอ้ ยกรองได้ดีท่ีสดุ
ก. อาร์มท่องจาบทรอ้ ยกรองไดแ้ มน่ ยาทกุ บรรทดั
ข. แอรเ์ กดิ จินตนาการเกี่ยวกบั บทรอ้ งกรองที่อ่าน
ค. โอมเข้าถงึ เนอ้ื หาและอารมณ์ความรสู้ ึกของบทร้อยกรอง
ง. เอมสามารถรวบรวมศพั ท์จากบทร้อยกรองได้กวา่ หน่ึงร้อยคา
อา่ นบทรอ้ ยกรองทก่ี าหนดให้ แล้วตอบคาถามขอ้ ๖ - ๑๐
“การศึกษาของเดก็ ไทยในวนั หนา้ เน้นความรู้วิชาสง่าศรี
จรยิ ะคณุ ธรรมประจามี เปน็ คนดมี นี า้ ใจให้สงั คม
ปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนา เพือ่ นาพาชีวิตจติ สขุ สม
บคุ ลกิ งามตาน่าชืน่ ชม เพยี รสะสมคณุ ค่าพึง่ พาตน
พูดหรือทาตรึกตรองมองวิเคราะห์ สือ่ สารเหมาะไมตรนี ส้ี ่งผล
ร้ปู ระสานสัมพนั ธก์ ับบุคคล ใฝ่ฝึกฝนสรรพวชิ ากา้ วหน้าไกล...”
ทม่ี า: กรมวชิ าการ, กระทรวงศกึ ษาธิการ
6. บทร้อยกรองน้ไี ม่ไดก้ ลา่ วถึงลักษณะของเดก็ ไทยด้านใด
ก. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มทด่ี งี าม
ข. รู้จักแสวงหาความรแู้ ละใช้ให้เกดิ ประโยชน์
ค. มีความร้แู ละส่ือสารได้อยา่ งหลากหลายภาษา
ง. สามารถปรับตวั และดารงชวี ิตได้อย่างมคี วามสุข
7. บทรอ้ ยกรองข้างตน้ มวี ัตถปุ ระสงค์ใด
ก. ชแ้ี จง
ข. แนะนา
ค. อธิบาย
ง. ส่งั สอน
8. ข้อใดคอื ใจความสาคญั ของบทร้อยกรองน้ี
ก. แนวทางการเปน็ เด็กดี
ข. เด็กไทยท่สี ังคมต้องการ
ค. เดก็ ไทยท่ดี แี ละมีคุณคา่
ง. คุณลักษณะเดก็ ไทยในอนาคต
9. ใครปฏิบัติตนไดส้ อดคลอ้ งกบั บทรอ้ ยกรองข้างตน้ มากที่สดุ
ก. ธาราคดิ กอ่ นพูดเสมอ
ข. สายธารกวาดขยะเพื่อใหค้ รชู ่ืนชม
ค. ชลธถี อื ศลี ห้าตามทโ่ี รงเรยี นกาหนด
ง. วารเี รยี นกวดวิชาเพือ่ ให้สอบได้ทีห่ น่ึง
10. จากบทรอ้ ยกรองขา้ งตน้ ผ้เู ขยี นมคี วามรู้สกึ อยา่ งไร
ก. คาดหวัง
ข. เบือ่ หน่าย
ค. ไมพ่ ึงพอใจ
ง. ชื่นชมยนิ ดี
ใบความรู้
เร่ือง การอ่านจบั ใจความจากบทรอ้ ยกรอง
ความหมายของบทร้อยกรอง
พจนานกุ รมราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ใหค้ วามหมายของคาว่า ร้อยกรอง ไว้ว่า
แตง่ หนงั สือดีให้มคี วามไพเราะ, เรียบเรยี งถ้อยคาใหเ้ ป็นระเบยี บตามบัญญัตแิ ห่งฉันทลกั ษณ์
ศิวกานท์ ปทมุ สูตร (๒๕๕๓) กลา่ วถึงความหมายของร้อยกรอง ว่าเป็นงานเขียนทมี่ ี
ลกั ษณะบังคับในการแต่ง เรยี กวา่ “ฉนั ทลักษณ์” และยังมลี กั ษณะบังคับเฉพาะของร้อยกรอง
แตล่ ะชนิดแตกต่างกันไป
สรปุ ได้วา่ บทรอ้ ยกรอง คือ งานเขยี นที่มลี ักษณะบังคบั ในการแตง่ เรยี กวา่ “ฉนั ทลกั ษณ์”
ประเภทของบทรอ้ ยกรอง
บทร้อยกรองมีหลากหลายรปู แบบ โดยจาแนกจากฉันทลกั ษณ์ที่กาหนด ดงั น้ี
๑. เพลงพน้ื บ้าน เป็นบทร้อยกรองทีส่ ันนษิ ฐานว่าเกิดกอ่ นรอ้ ยกรองทุกประเภท โดยมกี าร
รอ้ งหรือขับกันมาต้งั แต่สมัยยังไมม่ ีตวั อักษรใช้ ท่ีเรยี กกนั ว่าวรรณคดมี ขุ ปาฐะ เชน่ เพลงเรอื เพลง
ปรบไก่ เพลงกลอ่ มลกู ซึง่ มักจะไมค่ ่อยเครง่ ครัดในเรื่องฉนั ทลักษณ์ แตม่ ่งุ ความสนกุ สนานและ
ความไพเราะของนา้ เสยี งเปน็ สาคัญ
๒. กลอน เปน็ บทประพนั ธ์เราร้จู ักกันมากที่สุด โดยตามความหมายตามทั่วไป กลอน
อาจจะหมายถึงบทประพันธร์ ้อยกรองทุกประเภท แต่ในขณะทนี่ จี้ ะหมายถงึ บทรอ้ ยกรองประเภท
หนึ่ง เชน่ กลอนหก กลอนแปด กลอนนิราศ ฯลฯ
๓. กาพย์ เป็นบทประพนั ธ์ทป่ี รากฏเปน็ คร้งั แรกในมหาชาตคิ าหลวง ในสมัยสมเดจ็
พระบรมไตรโลกนาถ มลี ักษณะคลา้ ยฉนั ท์ แตไ่ ม่บงั คบั ครุลหุ ท่นี ยิ ม ไดแ้ ก่ กาพยย์ านี๑๑
กาพย์ฉบัง๑๖ กาพยส์ รุ างคนางค์๒๘
๔. โคลง เปน็ บทประพันธ์ท่ีเก่าแกอ่ กี อนั หน่งึ ปรากฏในวรรณคดสี มัยอยธุ ยาตอนต้น เช่น
โคลงกาสรวล โดยจะกาหนดจานวนคา สัมผัส และคาเอกคาโท แบง่ ออกเปน็ ๓ ประเภทใหญๆ่
ไดแ้ ก่ โคลงสภุ าพ โคลงดน้ั และโคลงโบราณ
๕. ร่าย บทประพนั ธ์ทมี่ รี ูปแบบของร่ายชัดเจน ได้แก่ ลิลิตพระลอ โดยจะมกี ารกาหนด
จานวนคาในวรรค สัมผัส และคาเอกคาโทในตอนท้าย จะแตง่ ด้วยความยาวเท่าไรกไ็ ด้ ประเภท
ของรา่ ย ไดแ้ ก่ ร่ายสภุ าพ รา่ ยด้ันและรา่ ยโบราณ นอกจากนีย้ งั มรี า่ ยยาวทม่ี ิได้กาหนดจานวนคา
เพียงแตม่ ีสัมผสั จากวรรคหนงึ่ กบั วรรคต่อไปใหเ้ ชื่อมกันจนจบเร่ือง เชน่ ร่ายยาวมหาเวสสนั ดร
ชาดก
๖. ลิลิต เป็นบทประพันธ์ที่ประสมระหวา่ งโคลงและรา่ ย คือ เปน็ การแต่งกับโคลงกบั รา่ ย
สลับกนั ไปโดยมีสมั ผสั เกีย่ วเนือ่ งกัน มี ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ลิลติ สภุ าพและลลิ ิตดนั้
๗. ฉนั ท์ เป็นรูปแบบบทประพันธข์ องอนิ เดยี ซ่งึ ไทยเราได้นารบั เอามาใช้ จึงมกี ารบงั คบั ครุ
ลหุและไทยไดเ้ พิ่มสัมผัส เพอ่ื ใหค้ ล้องจองกนั ตามความนิยม ตาราฉันท์ต้งั แตด่ งั้ เดมิ คอื วตุ โตทัย
ต่อมาสมเดจ็ กรมพระปรมานชุ ิตชิโนรส ทรงคิดดัดแปลงแต่งเป็นคาฉันทม์ าตราพฤติและวรรณพฤติ
รวม ๕๘ ชนิด และนายฉนั ท์ ขาวิไล แต่งเพ่ิมอีก ๕๐ ชนดิ รวมเปน็ ๑๐๘ ชนิด
๘. กลบท เป็นการนาเอาโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มาเพ่ิมบังคบั พิเศษหรือเขยี นซอ่ นเง่อื น
ให้ผอู้ า่ นฉงน เช่น กลบทงูกลนื หาง กลบทกบเต้นตอ่ ยหอย ฯลฯ
นอกจากนี้ แววมยรุ า เหมือนนิล (๒๕๕๓) กล่าวถึงบทรอ้ ยกรองไทยปัจจุบัน ว่ามีลกั ษณะ
เดน่ ท่แี ตกตา่ งไปจากบทร้อยกรองไทยแบบเก่าหลายประการ ดังนี้
๑. นิยมแตง่ ส้นั ๆ ประมาณ ๕- ๑๐ บท เพื่อให้เหมาะกับระยะเวลาในการอ่าน เพอ่ื ให้
เหมาะกบั ระยะเวลาท่จี ะอ่าน และการเผยแพรใ่ นสื่อสงิ่ พิมพป์ ัจจบุ ัน แมจ้ ะมแี ต่งขนาดยาวเปน็
เล่มเหมือนๆ วรรณคดแี บบเกา่ มนี อ้ ยมาก
๒. นยิ มแตง่ ด้วยคาประพนั ธง์ ่ายๆ เป็นส่วนใหญ่ เช่น กลอนแปด กาพยย์ านี โคลงสี่
สภุ าพ เป็นต้น
๓. นิยมแตง่ เรือ่ งเก่ยี วกับชีวิตและสังคมใกล้ตวั ของผู้อ่าน จงึ จะสามารถสะท้อนสภาพ
สังคมปัจจบุ นั ได้ดี นับเปน็ ลกั ษณะทส่ี าคัญทีส่ ุดของร้อยกรองปัจจุบนั ในขณะท่รี ้อยกรองไทยแบบ
เก่าใชจ้ ินตนาการไกลตัว เช่น เทวดา นางฟา้ เปน็ ต้น
๔. นิยมแต่งท่ีเน้นคุณค่าทางความคิดและปญั ญาแก่ผูอ้ า่ นมากว่าความไพเราะ หรอื ความ
งดงามของถ้อยคาเหมือนร้อยกรองแบบเกา่ ดงั นนั้ จะเห็นไดว้ า่ วรรณคดแี บบเกา่ ให้ความสาคญั กบั
ศลิ ปะการใชถ้ อ้ ยคาและอารมณส์ ะเทือนใจย่ิงกว่าความสมจรงิ ของเรอื่ ง
๕. รอ้ ยกรองปจั จุบันแมส้ ว่ นจะเคร่งครัดการแต่งให้มีคลอ้ งจองตามแบบฉนั ทลักษณเ์ ดมิ
แต่บางส่วนก็ไมเ่ คร่งครดั ตามแบบแผนทงั้ หมด พยายามแสวงหารปู แบบใหม่ๆ มาใช้เสมอ เช่น
อังคาร กัลป์ยาณพงษ์, จา่ ง แซต่ ้ัง ซงึ่ ไมม่ สี ัมผสั คลอ้ งจองท่ตี ายตวั ไดร้ ับความนยิ มมากขน้ึ ด้วย
ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการอา่ นบทร้อยกรอง
๑. เข้าถงึ รสและเหน็ ความงามของบทรอ้ ยกรองทีอ่ ่าน
๒. ได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซ้งึ
๓. ชว่ ยใหเ้ กิดความสนกุ สนานเพลดิ เพลิน
4. ช่วยกลอ่ มเกลาจิตใจให้เปน็ คนอ่อนโยนและเยือกเย็น
การจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
แววมยุรา เหมอื นนลิ (๒๕๕๓) กล่าวถงึ การอ่านจับใจความบทร้อยกรองให้ถกู ตอ้ งและ
รวดเรว็ โดยมแี นวทางการพิจารณา ดงั น้ี
๑. ชื่อเร่ือง นับเป็นจดุ ช้ีแนะ ใจความสาคัญไวเ้ ป็นอันดับแรก เพียงแตไ่ ม่นยิ มบอก
ตรงไปตรงมาเหมอื นเรอื่ งท่ีมุ่งให้ความร้เู ท่านั้น จงึ ควรพจิ ารณาอย่างรอบคอบประกอบกบั การอ่าน
จับใจความในรายละเอียดดว้ ย
๒. แก่นเร่อื ง แต่ละเร่อื งจงึ มคี วามสาคัญอย่างหนึ่ง เม่ือนาใจความสาคัญแตล่ ะบทมา
รวมกันจะพบแกน่ เรอ่ื ง หรือใจความสาคญั ทส่ี ดุ ของบทรอ้ ยกรอง ร้อยกรองในปัจจุบันมกั เผยแก่น
เรือ่ งหรอื ใจความสาคญั ไว้ท้ายเรอื่ งหรือบทสดุ ทา้ ย หากตอ้ งการจับใจความได้เรว็ อาจพิจารณา
จากชอื่ เร่อื งและคาประพันธท์ ้ายๆ หรอื บทสุดท้ายทันที
๓. ภูมหิ ลัง ผลงานรอ้ ยกรองแตล่ ะช้นิ มกั สะทอ้ นความคดิ อารมณ์สะเทอื นใจของผู้แต่ง
อย่างใดอยา่ งหนงึ่ การเข้าใจภมู หิ ลงั ของเหตกุ ารณ์จะชว่ ยเสริมให้การจบั ใจความสาคัญได้แมน่ ยา
ยิ่งข้นึ
๔. นา้ เสยี ง หรือหางเสียงของผูแ้ ตง่ ผลงานรอ้ ยกรองท่ัวไปผูแ้ ต่งมกั ใช้จนิ ตนาการกลวิธี
ดาเนินเร่ืองในการเขียนงานอย่างอสิ ระและกวา้ งขวาง บางครง้ั ความหมายทแ่ี ทจ้ รงิ อาจไม่ตรงกับ
ความหมายของถอ้ ยคาเสมอไป การพยายามจับน้าเสียงหรือหางเสยี งของผู้แต่งวา่ ดีใจ เสียใจ เศร้า
ใจ เสียดสี เยาะเย้ย จะช่วยจบั ใจความสาคญั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและชดั เจนมากย่ิงขน้ึ
๕. อารมณส์ ะเทอื นใจ งานประพนั ธ์รอ้ ยกรองมเี ปา้ หมายสาคญั เพ่ือใหผ้ อู้ ่านเกิดอารมณ์
สะเทอื นใจเพลิดเพลนิ คล้อยตามความตอ้ งการของผู้แต่ง
ฉะนัน้ หากมงุ่ จับใจความสาคัญมากเกนิ ไป กจ็ ะขาดรสแห่งความงาม ความไพเราะและ
อารมณส์ ะเทอื นใจไปได้ การอ่านร้อยกรองไทยปัจจุบนั ท่ีดีจงึ ควรซมึ ซบั ทง้ั “อรรถ” ซงึ่ ไดแ้ ก่
สาระสาคัญและ “รส” ซงึ่ ไดแ้ กอ่ ารมณส์ ะเทอื นใจไปพรอ้ มๆ กัน
กิจกรรมที่ 1
การอา่ นจบั ใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“เดือนสิบ”
หลงั วนั ส่ง ตายาย ชาวใต้จบ ลูกหลานหลบ กลบั มา ถงึ คราจร
จาตอ้ งจาก แล้วหนา ลาเมืองคอน สู่กรุงเทพ มหานคร ไปทางาน
ทัง้ เพอื่ นพอ้ ง ลงุ ป้า ท้งั อาหลาน
หลบเดอื นสบิ ปนี ี้ พบพน่ี ้อง หลบมาบ้าน พบฉาด ชาดดใี จ
พบญาติมติ ร ท่ีจากไกล ไปเสียนาน แกอายุ ร้อยหวา น้าตาไหล
บอกไมต่ อ้ ง เอาไหร ขอให้มา
พขี่ องโป พแี่ มเ่ ฒา่ นอ้ งสาวย่า แม่เปิดไห ลาทับ ทช่ี ายฝา
เห็นลกู หลาน หลบมา ครัง้ คราใด ยกเอามา ให้ลูกบาว ลูกสาวเรา
สขุ คนเฒ่า คนแก่ โปยา่ เขา
ขา้ งแมพ่ ่อ พอลกู เตรียมตัวกลบั ลองคดิ เอา เถิดหนา น่าช่ืนชม
พ่อเปิดปีบ ลักซอ่ น ช่อนแหง้ นา หน่มุ สาวใต้ กายจิต ใหส้ ุขสม
ฝากคาคม เป็นบทกลอน ยอ้ นตานาน
นีแ่ หละคับ ความสขุ ของพ่อแม่
ประเพณี สืบสาน มานานเนา ผูแ้ ต่ง : วชั ระ บุญหวาน
ขอผลบุญ ท่ีทา นาชีวิต
ให้แจม่ ใส สดชืน่ และรืน่ รมย์
กจิ กรรมฝึกทกั ษะท่ี 1.1
การอ่านจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“เดือนสิบ”
คาช้แี จง นกั เรยี นอา่ นใบกิจกรรมทีก่ าหนดให้ แลว้ ทาเคร่อื งหมาย หน้าขอ้ เทจ็ จริง
และทาเคร่ืองหมาย หนา้ ข้อคิดเห็น (10 คะแนน)
1. ประเพณีบญุ สารทเดอื นสบิ จดั ข้ึนในวนั แรม 1 ค่า ถึง วันแรม 15 ค่า เดอื น 10
2. ชว่ งบญุ สารทเดอื นสิบถอื ไดว้ า่ เป็นวนั รวมญาติ
3. บุญสารทเดือนสิบจัดข้ึนเพ่ือเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและ
ญาติทีล่ ว่ งลับไปแลว้
4. ญาติผูใ้ หญร่ อ้ งไหเ้ สมอเมื่อลูกหลานมาเยยี่ ม
5. บุญสารทเดอื นสิบเปน็ ประเพณีเกา่ แก่และสาคัญ
6. หมรฺ บั เป็นสารบั คาวหวานทใี่ ชใ้ นการทาบญุ
7. พอ่ แม่เตรยี มสิ่งท่ีดีที่สดุ ไว้เพื่อลูก
8. ญาตผิ ูใ้ หญ่มีความสขุ เมื่อลูกหลานมาเยย่ี ม
9. ผ้ทู ่ีมาร่วมประเพณบี ุญสารทเดอื นสิบจะมีความสขุ ชีวติ รงุ่ เรือง
10. การอยู่พร้อมกันท้งั ครอบครัวนับเป็นความสุขทสี่ ดุ
กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.2
การอา่ นจับใจความจากบทร้อยกรอง
“เดือนสบิ ”
คาช้แี จง นกั เรียนอา่ นใบกจิ กรรมทีก่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง (10 คะแนน)
1. บทรอ้ ยกรองน้ี กล่าวถึงใครบา้ ง ( 1 คะแนน )
………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. บทรอ้ ยกรองนี้ เกดิ ขนึ้ ที่ใด ( 1 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
3. บทร้อยกรองน้ี มกี ารทาอะไร และทาอย่างไร ( 2 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
4. ผลที่เกดิ ( 1 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
5. ใจความสาคญั ของบทรอ้ ยกรอง ( 5 คะแนน )
......................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.3
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“เดือนสิบ”
คาช้ีแจง นักเรียนอ่านใบกิจกรรมที่กาหนดให้ แล้วเขียนสรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษา
ของตนเองตามหัวข้อในแผนผงั ความคดิ (๑๐ คะแนน)
ผเู้ ขยี น / ท่ีมา (1 คะแนน) วตั ถปุ ระสงค์ของบทรอ้ ยกรอง
................................................. (2 คะแนน)
................................................. ..........................................................
.................................................
..........................................................
..................................................
..................................................
ลกั ษณะคาประพันธ์ (2 คะแนน) ใจความสาคญั ของบทรอ้ ยกรอง
.............................................................. (5 คะแนน)
...........................................................................
.............................................................. ...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.4
การอ่านจบั ใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“เดอื นสิบ”
คาชี้แจง นักเรียนอา่ นใบกจิ กรรมทีก่ าหนดให้ แลว้ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความคิดเห็น
ในประเดน็ ต่อไปนี้ (๑๐ คะแนน)
๑. นักเรียนคิดว่าผู้แตง่ บทรอ้ ยกรอง “เดือนสบิ ” มคี วามรสู้ กึ อย่างไร (1 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. นกั เรียนคิดว่าบทรอ้ ยกรอง “เดอื นสบิ ” สะทอ้ นภาพสถาบนั ครอบครัวอย่างไรบา้ ง
(2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. จากบทร้อยกรอง “เดือนสบิ ” นกั เรียนคดิ ว่าภาพวิถชี ีวิตทป่ี รากฏยงั คงมีอยู่ในปจั จบุ นั หรอื ไม่
อย่างไร (2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
4. หากกล่าวถึง ประเพณีบญุ สารทเดือนสิบ นักเรยี นจะคิดถึงอะไรบา้ ง ยกตัวอยา่ งพรอ้ มอธิบาย
พอสังเขป (3 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
5. นกั เรียนคดิ ว่าใครมสี ่วนสาคญั ที่สดุ ในการสบื ทอดประเพณบี ุญสารทเดอื นสบิ (2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
กจิ กรรมท่ี 2
การอา่ นจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
มาจะกลา่ วบทไป ถงึ ดนิ แดน ย่ิงใหญ่ ในทกั ษิณ
ใต้รม่ ธง ไตรรงค์ องคภ์ ูมินทร์ นามแดนดนิ ถนิ่ น้ี เมอื งลิกอร์
ชือ่ เติมเต็ม จากองค์ ผู้ทรงยศ ประทานไว้ เปน็ บท กาหนดขอ
นครศรี ธรรมราช อานาจพอ รุ่งเรืองต่อ งามสง่า ทง้ั หล้ายิน
สุดยง่ิ ใหญ่ เจดิ จ้า เป็นค่าชาติ องค์พระ บรมธาตุ สาดแสงศิลป์
ปลียอดทอง ผอ่ งผาด สาดพรหมมินทร์ เคารพสน้ิ ถงึ คาบ มลายนั
มีองค์พ่อ จตุคาม รามเทพ พระพุทธสิหิงค์ สบื เสพ ธรรมมหนั ต์
ทงั้ เกจิ อาจารย์ บันดาลพลนั ใหพ้ ระพทุ ธ พระธรรม นาสงฆไ์ ป
ปวงนกั ปราชญ์ ท้ังเหล่าลุก จากเมอื งนี้ จนเป็นที่ ครน่ั คร้าม งามผ่องใส
ขนึ้ น่งั เมือง ปกครองบ้าน สะท้านไกล สรา้ งศาสตร์ ศลิ ปะไว้ ยง่ิ ใหญม่ า
ทง้ั ผา้ ยก ผ้าทอ ต่อผ้าซิ่น ประจาถิ่น ชน้ิ เลศิ บรรเจิดคา่
ใช้ดิน้ ทอง สอดใส่ ให้เดน่ ตา ลายดารา ดอกพิกลุ ละมุนใจ
อีกทั้งลาย ประจายาม ก้ามปูสวย สลบั ด้วย ด้ายเสน้ สี ทสี่ ดใส
อกี ลายเกลียว ใบเทศ เป็นเฉดไป จับสีสนั รอ้ ยเรียงให้ ละไมตา
เกรด็ พมิ เสน คอื หนึ่ง ในลายหลกั ลายดอกรกั ลายลกู แกว้ เพรศิ แพร้วจ้า
ราชวัตร สลับสี มีบญุ ตา ทอเสน้ ดา้ ย กลายผืนผ้า สง่าเมอื ง
จะกลา่ วถึง ย่านลิเภา เป็นเถาเลอ้ื ย ชาวนคร ประดิษฐ์เรือ่ ย จนลอื เลอ่ื ง
เปน็ ภาชนะ หลากรูป แบบรองเรือง รายละเอยี ด ปราดเปร่อื ง เฟ่ืองบรรจง
แตกต่างสี เขม้ ออ่ น ผ่อนประสาน เกิดเป็นงาน วจิ ิตรเอก เอนกประสงค์
เปน็ เช่ียนหมาก กระเปา๋ ถือ ถงึ ดา้ มธง เปน็ แผน่ รอง เป็นกล่องปลง เกบ็ เงินทอง
งานฝมี อื ทาเคร่ืองถม บรมชาติ ทงั้ ถมเงนิ ถมทองวาด ปราชญ์ทั้งสอง
แกะลวดลาย ผอ่ งผดุ พลว้ิ สดุ มอง ดงั่ เทพไท้ เสกมนต์ต้อง สนองใจ
มีฝีไม้ ลายมอื เล่ืองลือก้อง นาสนอง ผู้ทรงฉัตร ถึงแดนไหน
ตา่ งยกว่า วจิ ิตรบรรจง เทิดธงไทย ทง้ั โลกเห็น บรรเจิดใจ ให้หมายปอง
เมืองรงุ่ เรอื ง ประชาสบาย จึงไดค้ ิด ยามพกั ผ่อน หยอ่ นจิต ไม่ผดิ หมอง
คดิ เล่นเงา เล่านิทาน ลูกหลานจอง ประดิษฐเ์ ปน็ ตวั หนงั ต้อง ส่องแสงมี
ใช้หนงั สตั ว์ วาดระบาย เป็นลายรกั นาตุด๊ ตู่ ตอกสลกั เป็นฤาษี
เป็นองคเ์ จ้า องคร์ าชา ราชินี เปน็ ตวั เท่ง ตัวทองท่ี ฮาดพี ลัน
เมอื งนคร เมอื งพทุ ธ เมืองนกั ปราชญ์ เมืองนกั เขียน นกั วาด นกั สร้างสรรค์
เมอื งสจั จะ รอ้ ยดวงใจ เจริญครนั จีนคริสต์พุทธ มสุ ลิมน้ัน สุขสนั ต์ดี
อดีตกาล ผ่านฟา้ มาหลายยุค ชาวลิกอร์ เจรญิ สขุ เจรญิ ศรี
รงุ่ เรอื งตอ่ ก่อวัฒนธรรม ล้าอารี เปน็ นคร ย่ิงใหญ่ชี้ ศรวี ิชยั
นครศรี ธรรมราช ประกาศแล้ว จะมงุ่ แนว สามคั คี กวา่ ทไี่ หน
จะสรา้ งบา้ น แปงเมือง กระเดื่องไป จวบอสงไขย ยง่ั ยนื น้ัน พนั หมน่ื ปี
ผแู้ ตง่ : สมเกยี รติ ประดู่ เกยี รตนิ คร
กจิ กรรมฝึกทกั ษะที่ 2.1
การอ่านจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“นครศรธี รรมราช”
คาชแี้ จง นกั เรียนอ่านใบกจิ กรรมท่ีกาหนดให้ แล้วทาเครื่องหมาย หนา้ ข้อเทจ็ จริง
และทาเครื่องหมาย หนา้ ข้อคิดเห็น (10 คะแนน)
1. นครศรธี รรมราชเปน็ อาณาจักรท่ียิง่ ใหญ่ทีส่ ุดในภาคใต้
2. ลกิ อร์ คอื ชื่อที่ชาวตะวนั ตกเรยี กนครศรธี รรมราชในอดตี
3. การทอผ้ายกเมืองนคร สามารถสร้างลวดลายต่างๆ ได้มากมาย เช่น ลายประจายาม
ลายก้ามปูสวย ลายเกลยี ว ลายใบเทศ เปน็ ต้น
4. จกั สานย่านลิเพาและเคร่ืองถม เปน็ ภมู ปิ ญั ญาของชาวนครศรธี รรมราช
5. ศลิ ปนิ ท่ีมชี ื่อเสยี งลว้ นเป็นชาวนครศรีธรรมราช
6. นครศรีธรรมราชเปน็ เมอื งแหง่ พทุ ธศาสนา เมอื งแหง่ นกั ปราชญ์
7. การเลน่ หนังตะลุง ตอ้ งอาศยั แสงไฟส่องให้เกดิ เงาในยามคา่
8. ตวั หนังตะลุง สรา้ งขึ้นจากหนังสตั ว์
9. ใครได้อาศยั อยู่ในเมืองนครลว้ นมีแต่ความสุขกายสบายใจ
10. ชาวนครศรีธรรมราชเป็นผู้ทม่ี ีความสามัคคี รกั ใคร่กลมเกลยี วกัน
กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 2.2
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาชีแ้ จง นกั เรียนอา่ นใบกจิ กรรมทก่ี าหนดให้ แล้วตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ กู ต้อง (10 คะแนน)
1. บทรอ้ ยกรองน้ี กล่าวถึงใครบา้ ง ( 1 คะแนน )
………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. บทร้อยกรองน้ี เกดิ ขึ้นทีใ่ ด ( 1 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
3. บทร้อยกรองนี้ มีการทาอะไร และทาอยา่ งไร ( 2 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
4. ผลที่เกดิ ( 1 คะแนน )
.......................................................................................................................................................
5. ใจความสาคญั ของบทร้อยกรอง ( 5 คะแนน )
......................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 2.3
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรธี รรมราช”
คาชี้แจง นักเรียนอ่านใบกิจกรรมที่กาหนดให้ แล้วเขียนสรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษา
ของตนเองตามหัวข้อในแผนผงั ความคิด (๑๐ คะแนน)
ผเู้ ขียน / ทม่ี า (1 คะแนน) วตั ถุประสงค์ของบทร้อยกรอง
................................................. (2 คะแนน)
................................................. ..........................................................
.................................................
..........................................................
..................................................
..................................................
ลกั ษณะคาประพันธ์ (2 คะแนน) ใจความสาคัญของบทรอ้ ยกรอง
.............................................................. (5 คะแนน)
...........................................................................
.............................................................. ...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
กิจกรรมฝึกทกั ษะที่ 2.4
การอา่ นจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาชแี้ จง นักเรียนอ่านใบกิจกรรมทก่ี าหนดให้ แลว้ วเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเหน็
ในประเดน็ ต่อไปนี้ (๑๐ คะแนน)
๑. นักเรยี นคิดว่าผู้แต่งบทรอ้ ยกรอง “นครศรีธรรมราช” มีความรูส้ กึ อย่างไรตอ่ จงั หวัด
นครศรธี รรมราช (1 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. จากบทรอ้ ยกรอง “นครศรธี รรมราช” ผู้แต่งกลา่ วถึงจงั หวัดนครศรีธรรมราชในดา้ นใดบ้าง
(3 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ในฐานะทน่ี ักเรียนเปน็ ชาวจงั หวดั นครศรีธรรมราช นักเรียนเห็นดว้ ยกบั บทร้อยกรองน้ี
หรือไม่ อยา่ งไร (2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
4. นกั เรยี นประทับใจบทรอ้ ยกรอง “นครศรธี รรมราช” บทใดมากทสี่ ดุ เพราะเหตุใดจึงประทบั ใจ
(2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
5. นักเรยี นสามารถมสี ่วนชว่ ยให้จงั หวดั นครศรีธรรมราชเปน็ ทร่ี ้จู กั ของบุคคลทั่วไปได้อยา่ งไรบา้ ง
อธบิ ายพอสังเขป (2 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
..........................................................................................................................................................
แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรือ่ ง การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง
คาช้แี จง นักเรียนเลอื กคาตอบท่ถี กู ต้องเพียงคาตอบเดยี ว
1. บทรอ้ ยกรองประเภทใดท่ีนิยมถ่ายทอดโดยวธิ มี ขุ ปาฐะ
ก. ร่าย
ข. กาพย์
ค. กลอน
ง. เพลงพื้นบา้ น
2. การอ่านบทรอ้ ยกรองได้รบั ประโยชน์ด้านใดมากท่ีสดุ
ก. ผ่อนคลายอารมณ์
ข. เกดิ สุนทรยี ะทางภาษา
ค. เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์
ง. เข้าใจวิถีชีวติ ในยคุ สมยั นั้นๆ
3. ใครเป็นนกั อ่านบทรอ้ ยกรองได้ดีทสี่ ดุ
ก. อารม์ ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรองไดแ้ ม่นยาทกุ บรรทัด
ข. แอรเ์ กดิ จินตนาการเก่ียวกับบทรอ้ งกรองทีอ่ ่าน
ค. โอมเขา้ ถึงเนอื้ หาและอารมณค์ วามรสู้ ึกของบทร้อยกรอง
ง. เอมสามารถรวบรวมศพั ทจ์ ากบทร้อยกรองไดก้ ว่าหนึง่ รอ้ ยคา
4. ปัจจุบันบทรอ้ ยกรองแตกตา่ งจากในอดีตดา้ นใดมากท่ีสุด
ก. รูปแบบในการแต่ง
ข. ลักษณะคาประพนั ธ์
ค. แนวคดิ ในการนาเสนอ
ง. ความยาวของบทรอ้ ยกรอง
5. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะของบทร้อยกรอง
ก. มีความซบั ซ้อนกวา่ บทรอ้ ยแก้ว
ข. มุ่งให้ผ้อู ่านได้รบั สนุ ทรียะทางภาษา
ค. เนน้ ส่ังสอนดา้ นคุณธรรมเพียงอย่างเดียว
ง. มีแบบแผนในการบงั คับฉันทลักษณ์อยา่ งชัดเจน
อ่านบทร้อยกรองที่กาหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๖ - ๑๐
“การศึกษาของเดก็ ไทยในวนั หนา้ เน้นความรู้วิชาสง่าศรี
จรยิ ะคุณธรรมประจามี เป็นคนดมี ีน้าใจให้สงั คม
ปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนา เพือ่ นาพาชีวติ จิตสุขสม
บคุ ลิกงามตาน่าช่ืนชม เพยี รสะสมคุณค่าพง่ึ พาตน
พูดหรอื ทาตรึกตรองมองวิเคราะห์ สอื่ สารเหมาะไมตรีนีส้ ่งผล
ร้ปู ระสานสมั พนั ธ์กับบคุ คล ใฝฝ่ ึกฝนสรรพวิชากา้ วหน้าไกล...”
ท่ีมา: กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ
6. จากบทรอ้ ยกรองขา้ งต้น ผเู้ ขียนมีความรสู้ กึ อยา่ งไร
ก. คาดหวัง
ข. เบ่ือหน่าย
ค. ไมพ่ ึงพอใจ
ง. ชนื่ ชมยนิ ดี
7. ข้อใดคือใจความสาคญั ของบทร้อยกรองน้ี
ก. แนวทางการเป็นเดก็ ดี
ข. เดก็ ไทยที่สังคมตอ้ งการ
ค. เดก็ ไทยที่ดีและมีคุณค่า
ง. คุณลกั ษณะเด็กไทยในอนาคต
8. บทร้อยกรองข้างตน้ มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ ด
ก. ชี้แจง
ข. แนะนา
ค. อธิบาย
ง. ส่ังสอน
9. ใครปฏบิ ตั ิตนไดส้ อดคล้องกับบทร้อยกรองข้างตน้ มากท่ีสดุ
ก. ธาราคิดก่อนพูดเสมอ
ข. สายธารกวาดขยะเพ่อื ให้ครชู ่ืนชม
ค. ชลธถี อื ศลี ห้าตามทโ่ี รงเรียนกาหนด
ง. วารีเรียนกวดวิชาเพอื่ ให้สอบไดท้ ห่ี น่งึ
10. บทร้อยกรองนี้ไม่ไดก้ ลา่ วถงึ ลกั ษณะของเดก็ ไทยดา้ นใด
ก. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทด่ี ีงาม
ข. รู้จกั แสวงหาความรู้และใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์
ค. มคี วามร้แู ละสอ่ื สารไดอ้ ย่างหลากหลายภาษา
ง. สามารถปรบั ตวั และดารงชีวิตได้อยา่ งมคี วามสุข
บรรณานุกรม
กรมวชิ าการ, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๔๔). ทุกวิชามคี ่ายิ่ง. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์การศาสนา กรมการศาสนา.
ราชบณั ฑติ ยสถาน. (๒๕๕๖). พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ : เฉลิมพระเกยี รติ
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว เนื่องในโอกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ
๔ ธนั วาคม ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: นานมีบคุ๊ ส์พบั ลิเคชน่ั ส์.
วชั ระ บญุ หวาน. (ไมป่ รากฏ). บทประพนั ธ:์ เดือนสบิ . คัดลอกเม่ือ ๒๗ มกราคม ๒๕๕9.
แววมยรุ า เหมือนนลิ . (๒๕๕๓). การอา่ นจับใจความ. (พิมพ์ครั้งที่ ๓). กรงุ เทพฯ: ชมรมเด็ก.
ศวิ กานท์ ปทุมสูต.ิ (๒๕๕๓). คู่มอื การอ่านคิดวิเคราะห.์ กรุงเทพฯ: หา้ งหุน้ ส่วนจากดั นวสาสน์ การพมิ พ์.
สมเกียรติ ประดู่ เกียรตินคร. (ไมป่ รากฏ). บทประพันธ์: นครศรีธรรมราช. คดั ลอกเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๕9.
ภาคผนวก
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ
1 ค6 ค
2 ง7ข
3 ง8 ง
4 ข9 ก
5 ค 10 ก
แนวคาตอบกิจกรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1.1
การอ่านจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“เดือนสบิ ”
คาช้แี จง นักเรียนอา่ นใบกจิ กรรมท่ีกาหนดให้ แลว้ ทาเครื่องหมาย หนา้ ขอ้ เท็จจริง
และทาเคร่ืองหมาย หนา้ ข้อคิดเหน็ (10 คะแนน)
1. ประเพณบี ญุ สารทเดอื นสิบจัดขน้ึ ในวนั แรม 1 คา่ ถงึ วันแรม 15 ค่า เดอื น 10
2. ช่วงบญุ สารทเดือนสบิ ถือไดว้ า่ เปน็ วันรวมญาติ
3. บุญสารทเดือนสิบจัดข้ึนเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและ
ญาตทิ ล่ี ว่ งลับไปแล้ว
4. ญาตผิ ใู้ หญ่รอ้ งไหเ้ สมอเมอ่ื ลกู หลานมาเยีย่ ม
5. บญุ สารทเดอื นสบิ เปน็ ประเพณีเกา่ แกแ่ ละสาคัญ
6. หมฺรับ เปน็ สารบั คาวหวานท่ใี ชใ้ นการทาบญุ
7. พอ่ แมเ่ ตรียมสง่ิ ที่ดีที่สุดไวเ้ พือ่ ลูก
8. ญาติผใู้ หญม่ ีความสขุ เม่อื ลกู หลานมาเย่ยี ม
9. ผู้ท่มี าร่วมประเพณีบญุ สารทเดือนสิบจะมคี วามสขุ ชีวิตรุ่งเรอื ง
10. การอยู่พรอ้ มกนั ทง้ั ครอบครวั นับเปน็ ความสขุ ที่สดุ
แนวคาตอบกิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี 1.2
การอา่ นจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“เดือนสบิ ”
คาชแ้ี จง นักเรยี นอ่านใบกิจกรรมทีก่ าหนดให้ แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ ง (10 คะแนน)
1. บทร้อยกรองน้ี กล่าวถึงใครบา้ ง ( 1 คะแนน )
หนมุ่ สาวท่ไี ปทางานในเมืองกรงุ พอ่ แม่ ญาติผูใ้ หญ่ หรือ อยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน
2. บทร้อยกรองนี้ เกดิ ขนึ้ ท่ีใด ( 1 คะแนน )
จงั หวดั ที่มีการจดั ประเพณีบุญสารทเดอื นสิบ หรือ อยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน
3. บทร้อยกรองนี้ มีการทาอะไร และทาอยา่ งไร ( 2 คะแนน )
การกลบั บา้ นของหนมุ่ สาวทไ่ี ปทางานในเมืองกรงุ ในชว่ งประเพณีบุญสารทเดือนสบิ เมอื่
ลูกหลานจะกลับมา พ่อแม่ญาติผ้ใู หญ่ก็ดใี จ เตรียมอาหารท่ีดีๆ ไวร้ อ ญาติผู้ใหญ่กป็ ลื้มใจท่ี
ลกู หลานมาเย่ยี ม หรือ อย่ใู นดุลยพินิจของครูผสู้ อน
4. ผลที่เกดิ ( 1 คะแนน )
เกิดความสขุ ขนึ้ ภายในครอบครวั หรอื อยใู่ นดุลยพินิจของครผู สู้ อน
5. ใจความสาคญั ของบทรอ้ ยกรอง ( 5 คะแนน )
ประเพณบี ญุ สารทเดือนสิบ เปน็ ช่วงเวลาท่ีครอบครัวไดอ้ ยกู่ นั อย่างพร้อมเพรียง พอ่ แม่
ญาตผิ ู้ใหญ่มคี วามสขุ ที่ลกู หลานมาเยีย่ ม มาร่วมกนั ทาบญุ ผลบุญนก้ี จ็ ะสง่ ผลใหช้ วี ิตผาสุข
หรือ อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน
แนวคาตอบกิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี 1.3
การอา่ นจบั ใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“เดอื นสบิ ”
คาช้ีแจง นักเรียนอ่านใบกิจกรรมท่ีกาหนดให้ แล้วเขียนสรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษา
ของตนเองตามหัวขอ้ ในแผนผังความคดิ (๑๐ คะแนน)
ผูเ้ ขยี น / ที่มา (1 คะแนน) วัตถปุ ระสงค์ของบทร้อยกรอง
วชั ระ บญุ หวาน (2 คะแนน)
เพื่อใหเ้ ห็นถงึ ความสัมพนั ธใ์ นครอบครวั
รว่ มกับการสืบสานประเพณที ้องถิ่น
เดือนสิบ
ลักษณะคาประพันธ์ (2 คะแนน) ใจความสาคญั ของบทร้อยกรอง
กลอน (5 คะแนน)
ประเภทกลอนสภุ าพ/ กลอนแปด
ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ เป็นช่วงเวลาท่ี
ครอบครัวไดอ้ ย่กู ันอย่างพรอ้ มเพรียง
พ่อแม่ญาติผูใ้ หญ่มคี วามสุขท่ีลูกหลาน
มาเยีย่ ม มาร่วมกันทาบุญ ผลบญุ นี้ก็จะ
ส่งผลให้ชีวติ ผาสขุ
หรือ อย่ใู นดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน
แนวคาตอบกจิ กรรมฝึกทกั ษะท่ี 1.4
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“เดือนสบิ ”
คาชีแ้ จง นักเรยี นอ่านใบกจิ กรรมทกี่ าหนดให้ แลว้ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความคิดเห็น
ในประเด็นต่อไปน้ี (๑๐ คะแนน)
๑. นักเรยี นคดิ ว่าผู้แตง่ บทรอ้ ยกรอง “เดือนสิบ” มีความร้สู ึกอย่างไร (1 คะแนน)
คดิ วา่ ผแู้ ตง่ บทร้อยกรอง “เดอื นสบิ ” มีความรสู้ กึ ช่นื ชมผทู้ ี่ร่วมประเพณบี ญุ สารทเดอื นสบิ
รวมท้งั การไดอ้ ยู่พร้อมกันภายในครอบครัว หรอื อยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน
2. นักเรียนคดิ ว่าบทรอ้ ยกรอง “เดอื นสบิ ” สะทอ้ นภาพสถาบนั ครอบครัวอยา่ งไรบา้ ง
(2 คะแนน)
จากบทรอ้ ยกรอง “เดือนสิบ” สามารถสะทอ้ นภาพสถาบนั ครอบครวั ท่เี ป็นครอบครวั ใหญ่
มีการอย่รู ่วมกันของปู่ยา่ ตายาย พ่ีปา้ นา้ อา พอ่ แม่ และลกู ๆ ความอบอนุ่ ความรกั ความหว่ งใยท่ี
เกิดขน้ึ ภายในครอบครัว การรอคอยของญาติผู้ใหญท่ ี่รอคอยใหล้ กู หลานกลบั มาบ้านในชว่ ง
ประเพณสี าคัญ หรอื อยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน
3. จากบทรอ้ ยกรอง “เดือนสบิ ” นกั เรยี นคิดว่าภาพวิถีชวี ิตท่ีปรากฏยังคงมอี ยู่ในปจั จุบันหรือไม่
อยา่ งไร (2 คะแนน)
จากบทรอ้ ยกรอง “เดือนสิบ” คิดวา่ ภาพวิถชี ีวติ ทป่ี รากฏแตกตา่ งจากปัจจุบัน เน่ืองจากใน
ปัจจุบนั ความรกั ความผูกพนั ในครอบครัวเร่มิ ลดลง การรวมตัวกนั ของญาตพิ ่ีน้องในชว่ งประเพณี
สาคญั เร่มิ น้อยลง ความสัมพันธแ์ ละความผูกพันในเครือญาติจึงลดลงไปดว้ ย
หรือ อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผูส้ อน
4. หากกลา่ วถึง ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ นกั เรยี นจะคดิ ถงึ อะไรบา้ ง ยกตวั อย่างพร้อมอธิบาย
พอสงั เขป (3 คะแนน)
หากกลา่ วถงึ ประเพณบี ญุ สารทเดอื นสิบ ส่ิงทีจ่ ะคิดถงึ คือ ประเพณีที่แสดงออกถึงความ
กตญั ญูกตเวทตี อ่ บรรพบรุ ุษทล่ี ว่ งลับไปแลว้ สัญลักษณ์ท่จี ะคดิ ถงึ ในประเพณนี ี้ คือ
- เปรต ตามความเชือ่ เปรตจะถูกปลอ่ ยตัวกลับมายงั โลกมนษุ ยเ์ พอ่ื มาขอสว่ นบุญจาก
ลกู หลานญาติพี่น้องทอ่ี ยู่บนโลกมนษุ ย์ และจะเดนิ ทางกลับไปนรกในวนั แรม ๑๕ คา่ เดอื นสิบ
หากไม่มีใครทาบญุ ให้ “เปรต” เหล่านั้นกจ็ ะสาปแช่งลูกหลานในตระกลู ไมใ่ หอ้ ย่เู ยน็ เปน็ สขุ ไม่มี
ความเจรญิ รงุ่ เรอื งเนอื่ งจากถือว่าลกู หลานอกตัญญู ลกู หลานชาวเมืองนครศรีธรรมราชทุกคนจะ
ถกู ปลกู ฝังและสง่ั สอนให้ระลึกถึงงานบุญเดอื นสบิ
- ขนมต่างๆ ที่ใชใ้ นการจัดหมรฺ บั ประกอบด้วย
1. ขนมพอง เป็นสัญลักษณแ์ ทนแพสาหรับผลู้ ่วงลับใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ
2. ขนมลา แทนเครื่องนงุ่ ห่มแพรพรรณ
3. ขนมกง/ไขป่ ลา แทนเครือ่ งประดบั
4. ขนมดีซา แทนเงนิ เบี้ยสาหรับใชส้ อย
5. ขนมบ้า แทนสะบา้ ใชเ้ ลน่ ในงานเทศกาลสงกรานต์
หรอื อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน
5. นักเรยี นคดิ ว่าใครมสี ่วนสาคญั ทสี่ ดุ ในการสบื ทอดประเพณีบุญสารทเดอื นสบิ (2 คะแนน)
ผ้ทู ี่มีสว่ นสาคญั ท่ีสดุ ในการสบื ทอดประเพณบี ุญสารทเดือนสิบ คอื ประชาชนชาวจังหวัด
นครศรีธรรมราชทุกคน เพราะประเพณีดังกล่าวเป็นประเพณขี องทกุ คนทกุ ครอบครัวที่จะรว่ มกัน
สืบทอดวฒั นธรรมอันดงี ามท่ีแสดงออกถงึ ความกตัญญกู ตเวทตี อ่ บรรพบุรษุ ท่ีลว่ งลับไปแล้ว และ
เป็นการสรา้ งความสัมพันธ์อันดใี นระบบเครือญาตใิ ห้มีความผูกพันใกล้ชดิ กนั
หรอื อยูใ่ นดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน
แนวคาตอบกิจกรรมฝกึ ทกั ษะที่ 2.1
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาชีแ้ จง นักเรยี นอา่ นใบกจิ กรรมทีก่ าหนดให้ แล้วทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อเท็จจริง
และทาเครื่องหมาย หนา้ ข้อคิดเห็น (10 คะแนน)
1. นครศรีธรรมราชเป็นอาณาจักรทยี่ ิง่ ใหญ่ทส่ี ุดในภาคใต้
2. ลกิ อร์ คอื ชอ่ื ทช่ี าวตะวันตกเรียกนครศรธี รรมราชในอดตี
3. การทอผ้ายกเมืองนคร สามารถสร้างลวดลายต่างๆ ได้มากมาย เช่น ลายประจายาม
ลายก้ามปสู วย ลายเกลียว ลายใบเทศ เปน็ ต้น
4. จักสานยา่ นลเิ พาและเครือ่ งถม เป็นภูมปิ ญั ญาของชาวนครศรธี รรมราช
5. ศิลปนิ ท่ีมชี ่ือเสียงล้วนเปน็ ชาวนครศรธี รรมราช
6. นครศรีธรรมราชเป็นเมอื งแห่งพุทธศาสนา เมอื งแหง่ นกั ปราชญ์
7. การเลน่ หนงั ตะลงุ ต้องอาศัยแสงไฟส่องใหเ้ กดิ เงาในยามค่า
8. ตวั หนังตะลุง สร้างข้นึ จากหนงั สัตว์
9. ใครได้อาศัยอยใู่ นเมอื งนครลว้ นมแี ต่ความสุขกายสบายใจ
10. ชาวนครศรธี รรมราชเป็นผ้ทู ่ีมคี วามสามคั คี รักใคร่กลมเกลียวกัน
แนวคาตอบกิจกรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 2.2
การอา่ นจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาชี้แจง นกั เรยี นอ่านใบกิจกรรมทีก่ าหนดให้ แลว้ ตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้ถูกต้อง (10 คะแนน)
1. บทร้อยกรองน้ี กล่าวถึงใครบา้ ง ( 1 คะแนน )
ชาวจงั หวัดนครศรีธรรมราช หรอื อยู่ในดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน
2. บทร้อยกรองนี้ เกดิ ขึน้ ที่ใด ( 1 คะแนน )
จงั หวดั นครศรีธรรมราช หรือ อยใู่ นดุลยพินิจของครูผ้สู อน
3. บทรอ้ ยกรองนี้ มีการทาอะไร และทาอยา่ งไร ( 2 คะแนน )
การเปน็ เมอื งท่ียงิ่ ใหญ่ มศี ิลปะ ภูมิปัญญาของตนเอง เช่น การทอผา้ ยกทม่ี ีลวดลายงดงาม
การทาจักสานย่านลเิ พา การทาเคร่อื งถม รวมถงึ การทาตวั หนงั ตะลุง ผูค้ นทีอ่ าศัยในเมืองนคร
ล้วนมคี วามรักความสามคั คเี พื่อร่วมกันสร้างบ้านเมอื งใหย้ งั่ ยืนตลอดไป
หรือ อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน
4. ผลที่เกดิ ( 1 คะแนน )
ผูค้ นมีความสขุ ทัง้ กายใจ หรือ อยู่ในดุลยพินิจของครผู ู้สอน
5. ใจความสาคัญของบทรอ้ ยกรอง ( 5 คะแนน )
จังหวดั นครศรธี รรมราชเป็นเมืองทีย่ ง่ิ ใหญม่ าตงั้ แตอ่ ดีต มศี ิลปะและภมู ปิ ญั ญาของตนเอง
เช่น การทอผ้ายกท่ีมลี วดลายงดงาม การทาจักสานยา่ นลิเพา การทาเครอ่ื งถม รวมถงึ การทาตัว
หนังตะลุง ผ้คู นที่อาศัยในเมืองนครมคี วามสขุ ทัง้ กายใจ และมคี วามรักความสามัคคีเพือ่ ร่วมกนั
สร้างบ้านเมืองใหย้ ง่ั ยนื ตลอดไป หรอื อยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน
แนวคาตอบกจิ กรรมฝึกทกั ษะท่ี 2.3
การอา่ นจบั ใจความจากบทร้อยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาช้ีแจง นักเรียนอ่านใบกิจกรรมท่ีกาหนดให้ แล้วเขียนสรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษา
ของตนเองตามหัวข้อในแผนผังความคิด (๑๐ คะแนน)
ผเู้ ขยี น / ทมี่ า (1 คะแนน) วตั ถุประสงค์ของบทร้อยกรอง
สมเกียรติ ประดู่ เกียรตนิ คร (2 คะแนน)
เพอื่ แสดงถงึ ความภาคภูมใิ จในฐานะ
ของชาวนครศรธี รรมราช
นครศรีธรรมราช
ลกั ษณะคาประพันธ์ (2 คะแนน) ใจความสาคญั ของบทร้อยกรอง
กลอน (5 คะแนน)
ประเภทกลอนสุภาพ/ กลอนแปด จงั หวัดนครศรีธรรมราชเปน็ เมืองที่ย่ิงใหญ่
มาต้งั แต่อดีต มีศิลปะและภมู ิปญั ญาของตนเอง
เชน่ การทอผ้ายกที่มีลวดลายงดงาม การทา
จกั สานย่านลิเพา การทาเคร่ืองถม รวมถึง
การทาตวั หนังตะลงุ ผคู้ นท่อี าศยั ในเมืองนคร
มีความสุขทั้งกายใจ และมีความรกั ความสามัคคี
เพือ่ ร่วมกนั สรา้ งบา้ นเมืองให้ย่งั ยืนตลอดไป
หรอื อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน
แนวคาตอบกิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี 2.4
การอ่านจับใจความจากบทรอ้ ยกรอง
“นครศรีธรรมราช”
คาช้ีแจง นักเรียนอา่ นใบกิจกรรมที่กาหนดให้ แลว้ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความคดิ เหน็
ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ (๑๐ คะแนน)
๑. นกั เรียนคดิ ว่าผแู้ ต่งบทร้อยกรอง “นครศรธี รรมราช” มคี วามรสู้ กึ อย่างไรต่อจงั หวัด
นครศรธี รรมราช (1 คะแนน)
จากบทรอ้ ยกรอง “นครศรธี รรมราช” คิดว่าผ้แู ต่งมคี วามร้สู กึ รกั และภาคภูมิใจตอ่ จงั หวดั
นครศรธี รรมราชเปน็ อยา่ งมาก หรือ อย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน
2. จากบทรอ้ ยกรอง “นครศรธี รรมราช” ผ้แู ตง่ กล่าวถึงจังหวดั นครศรีธรรมราชในด้านใดบา้ ง
(3 คะแนน)
จากบทร้อยกรอง “นครศรีธรรมราช” ผแู้ ตง่ กลา่ วถึงจังหวัดนครศรธี รรมราชในด้านต่างๆ
ดังต่อไปน้ี
- ความยิง่ ใหญข่ องนครศรีธรรมราชในอดีต รวมถึงการตดิ ตอ่ คา้ ขายกับชาวตะวนั ตก จนได้
ชื่อเรียกว่า เมืองลิกอร์
- ความเป็นนักปราชญ์ นกั กวี มีความเก่งในด้านศลิ ปะแขนงต่างๆ
- ภูมิปัญญาทีม่ ชี ่ือเสยี งในด้านหตั ถกรรม คือ การจกั สานย่านลิเพา การทาเครื่องถม และ
การทาตวั หนงั ตะลงุ
- ความรกั ความสามัคคี ความกลมเกลียวของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
หรือ อยู่ในดุลยพินิจของครูผูส้ อน
3. ในฐานะท่ีนกั เรียนเป็นชาวจังหวดั นครศรีธรรมราช นักเรยี นเหน็ ดว้ ยกบั บทรอ้ ยกรองน้ี
หรอื ไม่ อย่างไร (2 คะแนน)
นกั เรยี นสามารถเลือกตอบได้วา่ “เหน็ ด้วย” หรอื “ไม่เห็นดว้ ย” และให้เหตผุ ลประกอบท่ี
เหมาะสม หรือ อยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน
4. นกั เรยี นประทับใจบทรอ้ ยกรอง “นครศรีธรรมราช” บทใดมากที่สุด เพราะเหตุใดจึงประทับใจ
(2 คะแนน)
นักเรียนสามารถเลือกบทร้อยกรองที่ประทับใจไดต้ งั้ แต่ ๑ บท ขึ้นไป โดยการยกตวั อย่าง
บทร้อยกรองที่ประทบั ใจมาเขยี นและให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม หรอื อยู่ในดุลยพินจิ
ของครูผูส้ อน
5. นกั เรียนสามารถมสี ่วนช่วยให้จงั หวัดนครศรีธรรมราชเปน็ ที่รจู้ ักของบุคคลท่ัวไปไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
อธบิ ายพอสังเขป (2 คะแนน)
ในฐานะที่เปน็ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถมีส่วนชว่ ยให้จังหวดั นครศรีธรรมราช
เป็นทรี่ ู้จักของบุคคลท่ัวไปไดโ้ ดยการประชาสมั พนั ธ์สถานท่ีท่องเท่ียว วัฒนธรรมประเพณี หรือ
ผลงานดีเดน่ ของจงั หวดั เพอ่ื ให้บุคคลท่วั ไปได้รู้จักจังหวดั นครศรีธรรมราชมากยง่ิ ขนึ้ ทั้งนี้วิธกี ารท่ี
ประหยดั และรวดเรว็ คือ การประชาสมั พันธผ์ า่ นระบบสงั คมออนไลน์ เช่น Facebook
Youtube Website เป็นตน้ ซ่ึงผู้รับขา่ วสารกส็ ามารถรับขา้ วสารไดร้ วดเร็วและง่ายดายอกี ด้วย
หรือ อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ
1 ง6ก
2 ข7 ง
3 ค8 ข
4 ง9ก
5 ค 10 ค