การอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ดำเนินการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา

การอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ดำเนินการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา (สพป.พิจิตร เขต 1) ประจำปี 2566 รุ่นที่ 2 นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1

ก คำนำ รายงานสรุปการอบรมเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้ดำเนินการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา ปีการศึกษา 2566 ประถมศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 ระหว่างวันที่ 7 - 16 พฤษภาคม 2566 (รุ่นที่ 2) ภายในเล่มมีใบงานเอกสารที่สรุปองค์ความรู้ตามหัวข้อการ อบรมตั้งแต่องค์ความรู้ที่ 1-7 ที่ข้าพเจ้าได้รับการอบรม และภาพประกอบการอบรมในแต่ละหัวข้อ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 และคณะทำงานผู้มี ส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้จัดการอบรมที่เป็นประโยชน์ต่อครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และความเท่าเทียมทางการศึกษาของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ข้าพเจ้าจะนำ ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนมากที่สุด นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ

ข สารบัญ หน้า คำนำ สารบัญ รายการภารกิจตามการอบรมเชิงปฏิบัติการ การคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา ปี 2566 วิเคราะห์ข่าว ภาพยนตร์ สรุปองค์ความรู้ที่ 1 การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม โดย ผอ.ธงชัย จันแย้ สรุปองค์ความรู้ที่ 2 กฎหมายและ พ.ร.บ ที่เกี่ยวข้องผู้พิการ สรุปองค์ความรู้ที่ 3 การจัดการเรียนรวมและการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา 9 ประเภท สรุปองค์ความรู้ที่ 4 การใช้แบบคัดกรองสำหรับผู้พิการทางการศึกษา สรุปองค์ความรู้ที่ 5 เขียนแผน IEP/IIP พร้อมทั้งการวัดและประเมินผล สรุปองค์ความรู้ที่ 6 การทำข้อมูลลงระบบ SET และ IEP Online สรุปองค์ความรู้ที่ 7 การจัดการศึกษาเรียนรวมตามโครงสร้าง SEAT แผนการดำเนินการเรียนรวมหลังจากการอบรม บันทึกคลิป ถามมา - ตอบไป คนละ 1 นาที 1 คลิป ภาคผนวก ก ข 1 2 3 6 8 9 14 15 16 18 19

1 รายการภารกิจตามการอบรมเชิงปฏิบัติการการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา ปี 2566 รุ่นที่ 2 สพป. พิจิตร เขต 1 นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ คำชี้แจง แบบตรวจสอบภารงานที่ปฏิบัติระหว่างการอบรม เพื่อขอวุฒิบัตรผู้คัดกรองคนพิการทางการศึกษา ที่ รายการ ภารกิจที่กำหนด ภารกิจเพิ่มเติม ปฏิบัติแล้ว ยังไม่ได้ปฏิบัติ ปฏิบัติแล้ว ยังไม่ได้ปฏิบัติ ๑ วิเคราะห์ข่าว ภาพยนตร์ √ ๒ สรุปองค์ความรู้ที่ ๑ (ผอ.ธงชัย จันแย้) √ ๓ สรุปองค์ความรู้ที่ ๒ กฎหมาย พ.ร.บ. เกี่ยวกับคนพิการ √ ๔ สรุปองค์ความรู้ที่ ๓ ชุดความรู้ผู้พิการทางการศึกษา ๙ ประเภท √ ๕ สรุปองค์ความรู้ที่ ๔ การใช้แบบคัดกรอง ๑ ศึกษา √ ๖ สรุปองค์ความรู้ที่ ๕ เขียนแผน IEP/IIP พร้อมทั้งวัดผล ประเมิน √ ๗ สรุปองค์ความรู้ที่ ๖ การทำข้อมมูลลงระบบ SET และ IEP Online √ ๘ สรุปองค์ความรู้ที่ ๗ การจัดการศึกษาเรียนรวมตาม โครงสร้าง SEAT ถามมา-ตอบไป พาคิดร่วมทำและการ นิเทศติดตามการจัดการเรียนรวม โดย ศน. พรรณพร ศรลัมพ์ √ ๙. ทำแบบทดสอบก่อนการอบรม √ ๑๐ ทำแบบทดสอบหลังอบรม √ ๑๑ ทำแบบประเมินความพึงพอใจ √ ๑๒ แผนดำเนินการเรียนรวมหลังจากการอบรม ๑ แผ่น √ ๑๓ บันทึกคลิป ถามมา - ตอบไป คนละ ๑ นาที ๑ คลิป √ ๑๔ รวมเล่มผลงานตนเอง เป็น PDF e -book (ศน.จะพาทำ) √ รวมเป็นจำนวน รวมรายการภารกิจที่กำหนด (รับวุฒิบัตร) สรุปครบ ๗ องค์ความรู้ ๓ กิจกรรม รวมรายการภารกิจที่กำหนดและภารกิจเพิ่มเติม (รับ วุฒิบัตร (VIP) สรุปครบองค์ความรู้ ๓ กิจกรรม ๔ ภารกิจ เพิ่มเติม

เนื้อหาข่าวโดยสรุป ปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียนไทย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เด็กพิการและเด็กพิเศษต้องออกจาก การศึกษากลางคัน ซึ่งปัญหาการบูลลี่มักเกิดขึ้นในระดับประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนต้น ทำให้เด็กไม่อยากเรียนและออกกลางคันไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ในปี2561-2564 พบว่าเด็กพิการ จำนวนลดน้อยลงในระบบารศึกษา โดยเฉพาะในช่วงระดับปริญญาตรี เราควรให้ความสำคัญกับการ เรียนรวม ให้เด็กได้เข้าสังคมได้อยู่ร่วมกับผู้อื่นมากกว่าการทุ่มงบประมาณสร้างตึกหรือโรงเรียนสำหรับเด็ก พิเศษ ควรเน้นพัฒนาระบบการเรียนรวมเพื่อให้เด็กได้เข้าสังคม ข้อคิดที่ได้ ควรปลูกฝังเรื่องการไม่บูลลี่คนรอบข้างและผู้อื่นตั้งแต่ระดับประถมศึกษาตอนต้น และให้ ความสำคัญของการศึกษามากกว่าการทุ่มงบประมาณในการสร้างตึก เด็กพิการและเด็กพิเศษควรเน้นการ เข้าสังคมและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เนื้อหาภาพยนตร์โดยสรุป เด็กผู้หญิงได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นเด็กออทิสติก แม่ของเธอคอยดูแลเอาใจใส่ ทำให้เธอ ได้เข้าเรียน ใน่ช่วงแรกเพื่อน ๆ ต่างไม่ยอมรับ แต่ครูวิทยาศาสตร์มองเห็นความสามารถพิเศษในตัวเธอ ให้โอกาส ทำให้เธอได้แสดงออกและเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ จนเป็นที่ยอมรับ แม้เธอจะเป็น เด็กออทิสติกแต่มีความสามารถพิเศษและตั้งใจศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเล่าเรียน จนประสบผลสำเร็จและ เป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตให้กับครอบครัวของเด็กออทิสติกคนอื่น ๆ ข้อคิดที่ได้ เด็กพิเศษหรือเด็กพิการนั้นต่างมีความสามารถพิเศษในตัวเอง แต่ต้องได้รับความรัก การเอาใจใส่ จะสามารถที่ผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปได้ และครูเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นในตัวเด็กให้ ประสบความสำเร็จ นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่2 2

3 สรุปองค์ความรู้ที่ 1 ชื่อ-สกุล นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ 2 คำชี้แจง ตอบคำถามจากการฟังบรรยาย 15 ข้อ 10 คะแนน ๑. นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการข้อใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ ทั้งในปี 2565 และ 2566 จงอธิบาย ตอบ ปี 2565 นโยบายที่ 7 การจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ ปี 2566 ได้แก่ 1. Active learning การจัดการศึกษาให้กับผู้เรียนโดใช้กระบวนการเชิงรุก หรือการเรียนรู้ ผ่านการ ลงมือปฏิบัติ 2. โครงการพาน้องกลับมาเรียน ลงพื้นที่ติดตามนักเรียนให้นักเรียนได้กลับมาเรียน 3. Learning Loss จัดการศึกษาให้กับผู้เรียนที่มีความจำเป็นพิเศษ สามารถเรียนรู้ได้เต็ม ประสิทธิภาพของผู้เรียน ๒. ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนรวมของโรงเรียนมีบุคคลใด/ภาคส่วนใดที่เกี่ยวข้องบ้าง ตอบ 1. โรงเรียน / สถานศึกษา (ผอ. ครู และบุคลากร) 2. ครอบครัว ผู้ปกครอง 3. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารสุข ศูนย์การศึกษาพิเศษ ๓. เป้าหมายสูงสุดของการจัดการศึกษาเรียนรวม คืออะไร ใครได้ประโยชน์สูงสุด ตอบ เป้าหมายสูงสุดของการจัดการศึกษาเรียนรวม คือ ผู้เรียน จะต้องจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข เป็นคนเก่ง เป็นคนดี มีคุณภาพ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และนักเรียนได้รับประโยชน์สูงสุด 4.สิ่งใดช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ทางด้านการจัดการศึกษา สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ใน โรงเรียนเรียนรวม ตอบ การที่ให้โอกาสผู้เรียน การจัดหาแหล่งเรียนรู้ สื่อและเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษของเด็กแต่ละประเภท จะช่วยลดตวามเลื่อมล้ำทางด้านการจัด การศึกษา สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ในโรงเรียนเรียนรวม

4 5. ครูการศึกษาพิเศษที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ตอบ เป็นบุคคลที่มีความรู้ มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู มีความเสียสละ มีความเข้าใจและเห็นอก เห็นใจผู้อื่น มีทักษะการพูดและการฟังอย่างลึกซึ้ง และการคิดอย่างมีวิจารญาณ และสามารถจัดการ เรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับนักเรียน 6. การบริหารโรงเรียนเรียนรวมใช้วิธีการ โครงสร้างใดที่โรงเรียนเป็นฐาน จงอธิบาย ตอบ โครงสร้าง SEAT เราจะให้โอกาสเด็กที่มีความต้องการพิเศษอยู่ร่วมกับเราแบบไหน S (Student) ด้านนักเรียน = ความพร้อมของนักเรียน ทั้งตัวนักเรียนและเพื่อนนักเรียน E (Environment) ด้านสภาพแวดล้อม = ความพร้อมของโรงเรียน ห้องเรียน มีอุปสรรคให้น้อย ลดขีดกำจัดการจัดการเรียนรู้ให้มากขึ้น A (Activities) ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน = การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดย คำนึงความ แตกต่างเฉพาะบุคคล T (Tools) เครื่องมือ = นโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรียน รวมไปถึงระบบการบริการ จัดการของโรงเรียน 7. เด็กมีความต้องการจำเป็นพิเศษประเภทใดมีจำนวนมากที่สุด ตอบ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ 8. สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวก ความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ตามบรรยายมีสิ่งใดบ้างจง ยกตัวอย่าง อย่างน้อย 2 ข้อ ตอบ 1. เครื่องช่วยฟัง สำหรับเด็กที่มีบกพร่องทางการได้ยิน 2. ห้องเรียนยืดหยุ่น การจัดให้เรียนที่อาจจะแตกต่างไปจากเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ เด็กที่มีความต้องการพิเศษ 9. โครเป็นประธานโครงการขับเคลื่อนการเรียนรวมของจังหวัดพิจิตร ตอบ สพป.พิจิตร เขต 1 10.ใครเป็นกรรมการโครงการขับเคลื่อนการเรียนรวมของจังหวัดพิจิตร ตอบ 1. ผอ. สพป.พิจิตร เขต 1 ประธานโครงการ 2. ผอ. สพป.พิจิตร เขต 2รองประธานโครงการ 3. ผอ. สพม. พิจิตร รองประธานโครงการ 4. ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดพิจิตร กรรมการและเลขานุการโครงการ

5 11.พี่เลี้ยงเด็กพิการ มีกี่ระดับ ตอบ มี 2 ระดับ 1. ระดับต่ำ 2.ระดับพื้นฐาน 12. พี่เลี้ยงเด็กพิการระดับพื้นฐานมีคุณสมบัติอย่างไร ตอบ คุณสมบัติ วุฒิการศึกษาจบการศึกษาภาคบังคับหรือสูงกว่า มีนิสัยรักเด็ก ใจเย็น ทำหน้าที่ดูแล ช่วยเหลือเด็กพิการไม่ให้ได้รับอันตราย ช่วยเหลือเด็กในการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือเด็กในการ เคลื่อนไหว ช่วยเหลือเด็กที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และสามารถช่วยเหลือครูในการ สอน สอนซ่อมเสริม ผลิตสื่อ ช่วยเหลือครูในการควบคุมชั้น (เด็กบกพร่องทางพฤติกรรม) ปฏิบัติกรรม ฟื้นฟูเด็กภายใต้คำแนะนำ ดูแลของครูผู้สอนหรือนักวิชาการเฉพาะ 13.จงอธิบายแนวทางการมอบหมายหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กพิการ ตอบ แนวทางการมอบหมายหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กพิการ 1. จัดตารางเวลาให้ดูแล ช่วยเหลือนักเรียนที่พิการที่ช่วยเหลือไม่ได้ หรือมีความบกพร่องด้านอื่นๆ 2. จัดตารางเวลา และแบ่งเด็กให้พี่เลี้ยงเด็กพิการสอนเสริมนักเรียนเรียนรวม ภายใต้คำแนะนำของครู ประจำวิชาในห้องเสริมวิชาการ หรือสถานที่ที่โรงเรียนจัดไว้ 3.จัดตารางเวลา ให้พี่เลี้ยงเด็กพิการประกบนักเรียนเรียนรวมในชั้นเรียนขณะที่ครูทำการสอนในชั้น เรียนรวม รวมทั้งเด็กที่ทำลายบรรยากาศในชั้นเรียนโดยเฉพาะวิชาที่เป็นเครื่องมือการเรียนรู้กลุ่ม สาระภาษาไทย กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ หรือวิชาอื่นๆ และสอนเสริมเมื่อมอบหมายให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัดหรือฝึกปฏิบัติ เป็นต้น 4. งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ส่งเสริมนักเรียนพิการและภารกิจที่เป็นงานเฉพาะเป็นครั้งคราว 14.อัตราส่วนเด็กพิเศษ : พี่เลี้ยง แต่ละประเภท มีสัดส่วนเท่าใด ตอบ 1. บกพร่องทางการเห็น 15: 1 2. บกพร่องทางการได้ยิน 15 : 1 3. บกพร่องทางสติปัญญา 8 : 1 4. บกพร่องทางร่างกาย การเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ 15: 1 5. บกพร่องทางการเรียนรู้ 20 : 1 6 บกพร่องทางการพูดและภาษา 15: 1 7. บกพร่องทางพฤติกรรมหรืออารมณ์ 15: 1 8 ออทิสติก 5 : 1 9. พิการซ้อน 8 : 1 15.ข้อคิดที่ได้จากการฟังบรรยายพิเศษ/การนำไปประยุกต์ใช้ ตอบ การให้โอกาส การสร้างความเข้าใจ การเอาใจใส่ เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเด็กที่มีความต้อง พิเศษ ไม่ใช้เฉพาะครูการศึกษาแต่เป็นทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการเรียนรู้ และนำไปสู่จุดสูงสุดของการศึกษา

6 สรุปองค์ความรู้ที่ 2 ตอนที่ 2 กฎหมายและ พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการที่ต้องรู้ ชื่อ-สกุล นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ 2 คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ ๑. บอกชื่อกฎหมายที่ตราขึ้นมาเพื่อรองรับการศึกษาสำหรับคนพิการตามรัฐธรรมนูญ อย่างน้อย 2 ชื่อ (10 คะแนน) ตอบ 1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 และฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 3. พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 และฉบับที่2 พ.ศ. 2556 ๒. บอกสิทธิของคนพิการทางการศึกษา ตามกฎหมายใดก็ได้ โดยบอกชื่อกฎหมายและยกตัวอย่างสิทธิ ตามกฎหมายนั้น (20 คะแนน) ตอบ สิทธิของเด็กพิเศษ (คนพิการ) ตามกฎหมาย 1. รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 43 ระบุวา “ บุคคลยอมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกวาสิบสองปี รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายและจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสเป็นพิเศษ และจะต้องจัดให้กับผู้มีความสามารถพิเศษด้วยรูปแบบอันเหมาะสมกับ ความสามารถของบุคคล 2.พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 คนพิการมีสิทธิทางการศึกษา ดังนี้ (๑) ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พร้อมทั้งได้รับ เทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา (๒) เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคำนึงถึงความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความต้องการจำเป็นพิเศษของบุคคลนั้น (๓) ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ การทดสอบทางการศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละประเภท และบุคคล

7 3. ชี้แจงบทบาทหน้าที่ของตัวท่านและผู้เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการใน หน่วยงานของ ตัวท่านตามกฎหมาย 3.1. ตัวท่าน (10 คะแนน) ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ และทักษะในการจัด การศึกษาสำหรับคนพิการ โดยนำความรู้และทักษะมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนที่มี นักเรียนพิเศษ มาเรียนรวม คอยดูแลใส่ใจและช่วยเหลือเด็กพิเศษที่เรียนร่วมในชั้นปกติ ในด้าน วิชาการตามความจำเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่าเทียมกับเด็กปกติ 3.2. ผู้เกี่ยวข้อง (10 คะแนน) - สถานศึกษาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนผู้ดูแลคนพิการและประสานความร่วมมือจากชุมชน หรือนักวิชาชีพเพื่อให้คนพิการได้รับการศึกษาทุกระดับ หรือบริการทางการศึกษาที่สอดคล้องกับ ความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการ -ผู้อำนวยการโรงเรียน มีความรู้ความเข้าใจ และให้การสนับสนุน การจัดการเรียนร่วมอย่างจริงจัง สร้างขวัญและ กำลังใจ สนับสนุนผู้ดำเนินการและสมาชิกในคณะทำงาน ให้มีความสามารถที่จะ ปฏิบัติการการจัดการเรียนการสอนบริการพิเศษที่จำเป็น การจัดหาและผลิตสื่ออุปกรณ์ที่จำเป็นใน การเรียนร่วม -ครูประจำาชั้นเรียนร่วม เข้ารับการอบรมวิธีการเรียนการสอนของเด็กพิเศษที่มาเรียนร่วมสามารถ ประสานงานกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม ตามความต้องการจำเป็นพิเศษของเด็กแต่ละ คน และใส่ใจดูแลใกล้ชิดผู้เรียน

8 สรุปองค์ความรู้ที่ 3 ตอนที่ 3 การจัดการเรียนรวมและการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา 9 ประเภท ชื่อ-สกุล นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ 2 คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ ๑. ลักษณะเด่นของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน : เด็กหูตึง มีอะไรบ้าง ตอบ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน โดยทั่วไปจะใส่เครื่องช่วยฟัง จะสูญเสียการได้ยินน้อยกว่า 90 เดซิเบล ลงมาถึง 26 เดซิเบล ซึ่งมีลักษณะเด่น ดังนี้ ๑. ไม่ตอบสนองเมื่อใช้เสียงกระตุ้น เช่นการเรียก ๒. ไม่พูดจา มักใช้การแสดงท่าทาง ๓. พูดเสียงต่ำ/ดังกว่าปรกติ หรือพูดไม่ชัดหรือพูดไม่ชัด หรือพูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์ ๔. เวลาฟังมักจะมองปากผู้พูด ๕. มักจะต้องตะแคงหูฟัง ๒. ท่านคิดว่าเด็กมีความบกพร่องทางสติปัญญากับเด็กมีความบกพร่องทางการเรียนรู้แตกต่างกันอย่างไร ตอบ ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา และ ภาวะบกพร่องในการเรียนรู้ เป็นคนละภาวะกัน การ ช่วยเหลือเด็กเหล่านี้จะเน้นที่การประเมินความสามารถของเด็กอย่างละเอียด เพื่อหาจุดเด่นและจุด ด้อยของตัวเด็ก รวมถึงหาแนวทางจัดรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับตัวเด็ก ซึ่งมีความ แตกต่างดังนี้ -ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาจะหมายถึงเด็กที่ทำแบบประเมินเชาวน์ปัญญา หรือ แบบทดสอบ ไอคิว แล้วได้ค่าไอคิวน้อยกว่า 70 ร่วมไปกับการมีความบกพร่องในทักษะต่างๆ และการ ปรับตัวเข้าสังคมร่วมด้วย -ภาวะบกพร่องในการเรียนรู้หรือเรียกว่าภาวะแอลดีซึ่งหมายถึงเด็กที่มีปัญหาใน กระบวนการบางอย่างของสมองที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้การวิเคราะห์ การอ่าน หรือการเขียน อย่าง ใดอย่างหนึ่ง หรือทั้ง 3 ด้าน ๓. ลักษณะเด่นของเด็กออทิสติก มีอะไรบ้าง ตอบ บุคคลออทิสติก คือบุคคลที่มีความผิดปกติของระบบการทำงานของสมองบางส่วน ซึ่งส่งผลต่อ ความบกพร่องทางพัฒนาการทางด้านภาษา ด้านสังคมและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และมีข้อจำกัด ทางพฤติกรรม หรือมีความสนใจเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยความผิดปกตินั้นค้นพบได้ก่อนอายุ 30 เดือน ซึ่งมีลักษณะเด่นดังนี้ -การเข้าสังคม : ชอบเล่นคนเดียวหรืออยู่คนเดียว ไม่สนใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับใคร (ไม่ยิ้ม ไม่พูด ไม่สบตา) -การสื่อสาร : พูดช้า พูดคำซ้ำๆ พูดติดขัด โทนเสียงผิดปรกติ หรือไม่ยอดพูด -ด้านอื่นๆ : ชอบทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

เด็กที่มีความ บกพร่องทาง สติปัญญา ความหมาย เด็กที่มีสติปัญญาต่่ากว่าเด็กปกติทั่วไป เมื่อวัดระดับ สติปัญญาโดยใช้แบบทดสอบมาตรฐาน มีข้อจ่ากัดในทักษะ ด้านการปรับตัวอย่างน้อย 2 ทักษะใน 10 ทักษะ ลักษณะ 1. สติปัญญาต่่ากว่าเกณฑ์เฉลี่ย 2.ข้อจ่ากัดของทักษะการปรับตัวอย่าง น้อย 2 ทักษะ 1.การสื่อความหมาย 2.การดูแลตนเอง 3.การด่ารงชีวิต 4. ทักษะทางสังคม 5. การใช้ทรัพยากร6.การควบคุมตนเอง 7. น่าความรู้มาใช้ 8. การท่างาน 9. การใช้เวลาว่าง 10.สุขภาพความ ปลอดภัย ระดับความรุนแรง ระดับที่ 1 ขั้นเล็กน้อย ระดับ I.Q. 50 – 70 ระดับที่ 2 ขั้นเล็กปานกลาง ระดับ I.Q. 35 – 49 ระดับที่ 3 ขั้นรุนแรง ระดับ I.Q. 20 – 34 ระดับที่ 4 ขั้นรุนแรงมาก ระดับ I.Q. น้อย กว่า 20 9 แบบสรุปองค์ความรู้ที่ 4 การใช้แบบคัดกรองคนพิการทางการศึกษา ๙ ประเภท ตามประกาศคณะกรรมการ พิจารณาให้คนพิการได้รับสิทธิ ช่วยเหลือทางการศึกษา เรื่อง ก่าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ การรับรองบุคคลของสถานศึกษาว่า เป็นคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๖ บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ชื่อ-สกุล นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ 2 คําชี้แจง ให้ท่านสรุปองค์ความรู้ ในลักษณะของการเขียนแผนที่ความคิด (Mind Map) หรือแผนภูมิ ตาราง ฯลฯ

10

11

12

13

14 สรุปองค์ความรู้ที่ 5 การเขียนแผนการจัดการศึกษาพิเศษ (Individaulized Education Program : IEP) การเขียนแผนการสอน (Individaul Implementation Plan : IIP) ชื่อ-สกุล นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ 2 คำชี้แจง ตอบคำถามจากการบรรยายและฝึกประสบการณ์เขียนแผน IEP 1. แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individaulized Education Program : IEP) คืออะไร (2 คะแนน) ตอบ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) คือ แผนการ จัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ซึ่งกำหนดแนวทางการจัดการศึกษา ที่สอดคล้องกับความ ต้องการพิเศษของคนพิการ ตลอดจนกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่น ใดทางการศึกษา 2. แผนการสอน (Individaul Implementation Plan : IIP) (2 คะแนน) ตอบ แผนการสอน(Individual Implementation Plan : IIP) คือ แผนการสอนเฉพาะบุคคล Individaul Implementation Plan เป็นแผนการสอนจัดขึ้นเฉพาะเจาะจงสำหรับนักเรียนคนนั้น เพื่อช่วยให้นักเรียน ผ่านจุดประสงค์และเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ใน IEP 3. องค์ประกอบ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล(Individaulized Education Program : IEP) มี 8 ข้อ อะไรบ้าง (2 คะแนน) ตอบ องค์ประกอบ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ( Individualized Education Program : IEP) มี 8 ข้อ ดังนี้ 1.ข้อมูลทั่วไป 2. ข้อมูลด้านการแพทย์ 3.ข้อมูลด้านการศึกษา 4. ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น 5.กำหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ6. .ความต้องการด้านสิ่งอำนวยความสะดวงกเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลือ อื่นใดทางการศึกษา 7.คณะกรรมการจัดทำแผน 8. ความเห็นของบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้เรียน 4. นักสหวิชาชีพ คือใครบ้าง จงยกตัวอย่าง (2 คะแนน) ตอบ นักสหวิชาชีพ คือ คือ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้องการฟื้นฟูและดูแลเด็กที่มีความ ต้องการพิเศษ เช่น นักจิตวิทยาคลินิก นักแก้ไขการพูด 5. การคัดกรองประเภทความพิการทางการศึกษามีกี่ประเภท ประเภทใดที่มีการแยกระดับชั้น และ ประเภทใดไม่มีแบบคัดกรอง (2 คะแนน) - การคัดกรองประเภทความพิการทางการศึกษาที ๙ ประเภท - ประเภทที่มีการแยกระดับชั้น คือ แบบคัดกรองบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ - ประเภท พิการซ้อน ไม่มีแบบคัดกรอง

15 สรุปองค์ความรู้ที่ 6 การทำข้อมูลลงระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงเรียนเรียนรวม (SET) และ IEP Online (ขอรับคูปอง) ชื่อ-สกุล..............นางสาวชนิสรา...ยอดเถื่อน..........โรงเรียน............บ้านสุขสำราญ..........รุ่นที่........2......... คำชี้แจง ตอบคำถามจากการฟังบรรยายและฝึกประสบการณ์การเขียนแผน IEP 1. ระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงเรียนเรียนรวม (SET) ระดับโรงเรียนมีผู้ดูแลระบบ (แอดมิน) กี่คน/โรงเรียน (1 คะแนน) ตอบ 3 คน/โรงเรียน 2. หากต้องการลบแอดมินระดับโรงเรียนออก เนื่องจากย้าย/ เกษียณ ต้องแจ้งไปที่ใด (1 คะแนน) ตอบ ติดต่อสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ E-mail : [email protected] 3. การตั้งชื่อผู้ใช้ (Username) สามารถตั้งเป็นภาษาไทยได้กี่ตัวอักษร จงอธิบายวิธีการ (2 คะแนน) ตอบ สามารถกรอกชื่อ Username ได้เพียงตัวอักษร a – z และ 0 – 9 เท่านั้น และมีความยาว ระหว่าง 6 – 15 ตัวอักษรหรือตัวเลข 4. ข้อมูลนักเรียนที่ต้องนำมาลงในระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงเรียนเรียนรวม(SET) ต้องเตรียมข้อมูลส่วน ใดบ้าง จงอธิบาย(2 คะแนน) 1. บัตรประจำตัวประชาชนของนักเรียนและผู้ปกครอง สำหรับใช้ในการกรอกข้อมูล รวมทั้งชื่อภาษาอังกฤษ 2. สำเนาทะเบียนบ้าน สำหรับใช้กรอกข้อมูลที่อยู่อาศัย 3. เลขที่ประจำตัวนักเรียน 4. ระยะทางระหว่างบ้านกับโรงเรียน 5. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ผลการเรียน น้ำหนัก ส่วนสูง 5. หากต้องการขอรับคูปองการศึกษา สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ต้อง ดำเนินการอย่างไร และใช้ระบบใด จงอธิบาย (2 คะแนน) 1. ดำเนินการคัดกรองนักเรียน และพานักเรียนเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ 2. จัดทำแผน IEP และ IIP 3. ต้องบันทึกข้อมูล 2 ส่วน คือ 1. บันทึกข้อมูลลงระบบ SET และบันทึกข้อมูลลงโปรแกรม IEP Online 4. นำเอกสารที่ได้จากโปรแกรม IEP Online ส่งไปยังศูนย์การศึกษาพิเศษ 6. หากท่านต้องการสอบถาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงเรียนเรียนรวม (SET) และ IEP Online สามารถสอบถาม/ศึกษาเพิ่มเติมทางช่องทางใดได้บ้าง จงอธิบาย (2 คะแนน) ตอบ สำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ โทร : 0 2288 5547 , 080 948 4445 ประสานงาน้านการบันทึกข้อมูลระบบโปรแกรม SET โทร : 0 2288 5543-4 ประสานงานด้านการคัดกรองและการจัดสรรพี่เลี้ยงเด็กพิการ กลุ่มไลน์ รร.เรียนรวม สพป.พิจิตร เขต 1

16 สรุปองค์ความรู้ที่ 7 การจัดการศึกษาเรียนรวมตามโครงสร้าง SEAT ชื่อ-สกุล......นางสาวชนิสรา...ยอดเถื่อน.........โรงเรียน.......บ้านสุขสำราญ........รุ่นที่........2....... คำชี้แจง ตอบคำถามจากการฟังบรรยาย 5 ข้อ 10 คะแนน 1. การจัดการเรียนร่วม กับ การจัดการเรียนรวม ต่างกันอย่างไร (2 คะแนน) ตอบ การจัดการเรียนร่วม เป็นการศึกษาที่ให้เด็กพิเศษเข้าไปเรียนหรือทำกิจกรรมร่วมกับเด็กปกติ ช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละวัน แต่การจัดการศึกษาเรียนรวม เป็นการจัดการศึกษาที่ให้เด็กพิเศษเข้ามา เรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละ บุคคล เป็นสิทธิของเด็กที่สามารถเข้าเรียนรวมกับเด็กปรกติได้อย่างเต็มที่ เต็มเวลา โดยมีการจัดสิ่งอำนวย ความสะดวก เพื่อสนับสนุนการเรียนให้มีประสิทธิภาพ 2.การเรียนร่วม คือ อะไร จงอธิบาย (2 คะแนน) ตอบ เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนตั้งแต่เริ่ม เข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล 3. การเรียนรวม คือ อะไร จงอธิบาย (2 คะแนน) ตอบ การศึกษาสำหรับคนทุกคน โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มรับการศึกษาและการบริการ พิเศษตามความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล 4. โครงสร้าง SEAT คืออะไร จงอธิบาย (2 คะแนน) ตอบ โครงสร้าง SEAT จะให้โอกาสเด็กที่มีความต้องการพิเศษอยุ่ร่วมกับเราแบบไหน S (Student) ด้านนักเรียน : ความพร้อมของนักเรียน ทั้งตัวนักเรียนและเพื่อน E (Environment) ด้านสภาพแวดล้อม : ความพร้อมของโรงเรียน ห้องเรียน ลดขีดจำกัดการเรียนรู้ A (Activities) ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน : การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยคำนึงถึง ความแตกต่าง T (Tools) เครื่องมือ : นโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรียน ระบบการบริหารจัดการของโรงเรียน 5.พี่เลี้ยงเด็กพิการมีคุณสมบัติอย่างไร และปฏิบัติหน้าที่อะไร (2 คะแนน) ตอบ คุณสมบัติของพี่เลี้ยงเด็กพิการ มีดังนี้ - วุฒิการศึกษา ม.3 หรือเทียบเท่า - เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปี - ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ - ไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ

17 พี่เลี้ยงเด็กพิการปฏิบัติหน้าที่ดังนี้- จัดเตรียมสื่อ อุปกรณ์ตามแผน IEP - ปฏิบัติหน้าที่ดูแลตามที่ได้รับมอบหมาย- รายงานพัฒนาการเด็กพิการตามที่ได้รับมอบหมาย- ประสานการทำงานร่วมกับครู- ให้ความช่วยเหลือในการผลิตสื่อ ดูแลสื่อ สำหรับเด็กพิการ- ร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ- ให้คำปรึกษา แนะนำการเรียนแก่เด็กพิการ- งานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการเด็กพิการ

ก่อนเปิดภาค เรียน 18 แผนดำเนินการจัดการเรียนรวมหลังการอบรม ชื่อ นางสาวชนิสรา ยอดเถื่อน โรงเรียนบ้านสุขสำราญ รุ่นที่ ๒ เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา ปี 2566 (รุ่นที่ 2) ขยายผลความรู้ต่อเพื่อนครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ให้เกิดความเข้าใจในการจัด การศึกษาเรียนรวมและสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ศึกษาและฝึกการคัดกรองนักเรียนที่ต้องพิเศษอีกครั้งก่อนการคัดกรองจริง เพื่อให้เกิด ความชัดเจนและแม่นยำในขั้นตอนวิธีการ คัดกรองนักเรียนโดยให้คุณครูประจำชั้นคัดกรองเบื้องต้นและนำมาคัดกรองอีกครั้ง ด้วยครูที่ผ่านการอบรมเพื่อให้เกิดความถูกต้องและแม่นยำ นำผลการคัดกรองอธิบายให้กับผู้ปกครองในผลนั้นเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและยอมรับ กับผลการคัดกรองนั้นและยินยอม พานักเรียนเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยตามกระบวนการทางการแพทย์ เมื่อได้ผลการวินิจฉัยและใบรับรองจากแพทย์แล้วว่านักเรียนเป็นผู้พิการตามที่คัด กรองไว้ จึงจัดทำแผน IEP และ IIP บันทึกผลลงระบบ SET และ โปรแกรม IEP ส่งแผนแผน IEP และ IIP เพื่อขอรับสื่ออำนวยความสะดวกกับศูนย์การศึกษาพิเศษ ติดตามผลการเรียนและพัฒนาการของนักเรียนที่ต้องการพิเศษ เปิดภาคเรียน

19 บันทึกคลิป ถามมา - ตอบไป คนละ ๑ นาที ๑ คลิป

ภาคผนวก

ภาพกิจกรรมประกอบการอบรม ผลการทดสอบก่อนเข้ารับการอบรม

วิเคราะห์ข่าว ภาพยนตร์

สรุปองค์ความรู้ที่ ๑ การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม โดย ผอ.ธงชัย จันแย้ สรุปองค์ความรู้ที่ ๒ กฎหมายและ พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการที่ต้องรู้

สรุปองค์ความรู้ที่ ๓ การจัดการเรียนรวมและการคัดกรองผู้พิการทางการศึกษา ๙ ประเภท สรุปองค์ความรู้ที่ ๔ การใช้แบบคัดกรองสำหรับผู้พิการทางการศึกษา

สรุปองค์ความรู้ที่ ๕ เขียนแผน IEP/IIP พร้อมทั้งวัดผลประเมิน สรุปองค์ความรู้ที่ ๖ การทำข้อมูลลงระบบ SET และ IEP Online

สรุปองค์ความรู้ที่ ๗ การจัดการศึกษาเรียนรวมตามโครงสร้าง SEAT