รายงานประจําป 2562
Annual Report 2019
กองนโยบายและแผนการใชท ด่ี นิ
กรมพัฒนาที่ดนิ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ
สารบัญ 3
4
คํานํา 5
ผบู ริหาร 7
อตั รากําลงั 7
แนะนาํ หนวยงาน 10
หนาที่รบั ผิดชอบ 44
ผลการดาํ เนินงาน
ผลงานและกจิ กรรมเดน
คํานํา
ในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐-
๒๕๖๔) ภายใตยุทธศาสตรเกษตรและสหกรณ (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙) และภายใตแผน
ยุทธศาสตรกรมพัฒนาที่ดิน (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) กองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน
ไดดาํ เนินการขับเคล่ือนและผลักดนั ผลการดาํ เนนิ งานของกองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน
ใหบรรลุเปาหมายและมีความสอดคลองเช่ือมโยงกับแผนยุทธศาสตรตางๆ เพื่อใหการ
พัฒนาการเกษตรของประเทศบรรลุเปาหมายตามวิสัยทัศน “กําหนดแผนการใชที่ดินให
เหมาะสมกับศักยภาพของทดี่ นิ สูการพฒั นา การเกษตรแบบย่ังยืน”
กองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน นับเปนหนวยงานหน่ึงของกรมพัฒนา
ที่ดิน ไดดําเนินการขับเคลื่อนและผลักดันผลการดําเนินงานใหบรรลุเปาประสงค
และเพื่อใหมีความสอดคลองเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตรตางๆ โดยมีภารกิจในการ
ดําเนนิ การคือ ๑) ศกึ ษาและวเิ คราะหน โยบายท่ีดินของประเทศ นโยบายการใชท่ีดิน
ของรัฐ นโยบายดานเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอม ๒) ติดตามสถานการณการ
เปลี่ยนแปลงการใชท่ีดินเพ่ือสนับสนุนการวางแผนการใชท่ีดิน ๓) เสนอแนะการ
กําหนดนโยบายการใชท่ีดินทางการเกษตร วิจัยและวางแผนการจัดการที่ดินในพ้ืนที่
เสีย่ งภัยทางการเกษตร ๔) ศึกษา สํารวจ จําแนก วิเคราะห จัดทําแผนท่ีและขอมูล
พื้นท่ีชุมนํ้า เพื่อจัดทําแผนบริหารจัดการพ้ืนที่ชุมน้ํา ๕) ศึกษา วิเคราะห วิจัยการ
ประยกุ ตใ ชขอ มูลระยะไกลและระบบสารสนเทศภมู ิศาสตรเพ่ือการพฒั นาท่ีดนิ
ในปง บประมาณ ๒๕๖๒ กองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน ไดจัดทํารายงานประจําป
เพื่อรวบรวมผลการปฏบิ ัตงิ านในรอบปที่ผา นมา การปฏิบตั ิงานตามแผนงานและโครงการตา งๆ พรอมภาพกิจกรรม
เพื่อเปนขอมูลเผยแพรประชาสัมพันธ ใหกับสวนราชการและ เอกชน ตลอดจนผูท่ีสนใจ ไดทราบถึงขอมูล
เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของกองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน อาทิ การดําเนินงานขับเคลื่อนการจัดทํา
แผนการใชท่ีดินระดับตําบล การจัดทําแผนที่ความเหมาะสมของท่ีดินสําหรับการปลูกพืชสมุนไพร
การบริหารจัดการพ้ืนท่ีเกษตรตามแผนท่ีการเกษตรเชิงรุก การวิเคราะหทางเศรษฐกิจเพื่อจัดเขตการใชท่ีดิน
พืชเศรษฐกิจ การวางแผนการใชท่ีดินเพื่อบริหารจัดการพ้ืนที่ชุมน้ําที่มีความสําคัญระหวางประเทศ
อุทยานแหงชาตเิ ขาสามรอยยอด การปรับปรุงแผนการใชที่ดินระดับลุมน้ําสาขาเพ่ือการบริหารพื้นท่ีชุมน้ํา
โดยใชแบบจําลองภูมิสารสนเทศ : กรณีศึกษาลุมนํ้าหลักแมนํ้ายม การศึกษากระบวนการดําเนินงานเพื่อรองรับ
การประกาศเขตอนุรักษดินและนํ้าตามพระราชบัญญัติพัฒนาท่ีดิน พ.ศ.๒๕๕๑ กรณีศึกษาลุมนํ้าหวยไคร
ตําบลวาวี อําเภอแมส รวย จงั หวดั เชียงราย และการจดั ทําฐานขอมูลและวางแผนพัฒนาพื้นทเี่ สี่ยงภัย เปน ตน
(นายสมศกั ดิ์ สขุ จนั ทร)
ผอู าํ นวยการกองนโยบายและแผนการใชท ่ีดิน
กันยายน 2562
ผอู าํ นวยการกองนโยบายและแผนการใชทด่ี นิ
ผูเชย่ี วชาญดา นการสํารวจการใชทด่ี ินดวยเทคโนโลยรี ะยะไกล
ผูเชย่ี วชาญดานวางแผนการใชทด่ี ิน
ผูเชย่ี วชาญดานเศรษฐกิจท่ีดิน
นางมินตรา ตรัยรตั นพนั ธ นายสมศกั ด์ิ แจงเพียร
หวั หนา ฝา ยบรหิ ารท่ัวไป ผอู ํานวยการกลมุ วเิ คราะหส ภาพการใชท ด่ี นิ
นางสาวนงนภัส ประสิทธว์ิ ัฒนชยั นายนนั ทพล หนองหารพทิ กั ษ
ผอู ํานวยการกลมุ เศรษฐกจิ ทีด่ ินทางการเกษตร ผอู ํานวยการกลุมนโยบายและวางแผนการใชทด่ี นิ
นางผกาฟา ศรจรัสสุวรรณ นางสาวพมิ พิลยั นวลละออง
ผอู ํานวยการกลุม วางแผนบรหิ ารจัดการพ้นื ทช่ี ุมนํ้า รกั ษาการผูอํานวยการกลมุ วางแผนการจดั การท่ีดิน
ในพน้ื ทีเ่ ส่ียงภยั ทางการเกษตร
กองนโยบายและแผนการใชท่ีดนิ
ผอู าํ นวยการ
กองนโยบายและแผนการใชที่ดนิ
ฝานบริหารทว่ั ไป - ผูเช่ียวชาญดานการสํารวจการใชที่ดิน
- ดวยเทคโนโลยรี ะยะไกล
• ชํานาญการพิเศษ 1 ผเู ชีย่ วชาญดานวางแผนการใชท ีด่ ิน
• ชาํ นาญการ 1
• ปฏบิ ัตกิ าร 1 ผูเชยี่ วชาญดา นเศรษฐกิจทีด่ ิน
• อาวโุ ส 1
• ชาํ นาญงาน 2 กลุม วเิ คราะหสภาพการใชท่ีดนิ
• ลกู จา งประจาํ 13
• พนกั งานราชการ • ชาํ นาญการพเิ ศษ 8
• จา งเหมาเอกชน • ชาํ นาญการ 3
• ปฏิบตั กิ าร 5
กลมุ เศรษฐกิจท่ดี ินทางการเกษตร • อาวุโส -
• ชาํ นาญงาน -
• ชํานาญการพิเศษ 3 • ลกู จา งประจาํ 2
• ชาํ นาญการ 3 • พนักงานราชการ 8
• ปฏิบตั กิ าร 1 • จา งเหมาเอกชน 54
• อาวุโส -
• ชํานาญงาน - กลมุ นโยบายและวางแผนการใชท่ีดนิ
• ลูกจางประจํา 1
• พนักงานราชการ 4 • ชํานาญการพิเศษ 9
• จางเหมาเอกชน 13 • ชํานาญการ 7
• ปฏบิ ตั ิการ 2
กลุมวางแผนบรหิ ารจดั การพน้ื ท่ีชมุ น้ํา • อาวุโส -
• ชํานาญงาน -
• ชาํ นาญการพเิ ศษ 4 • ลกู จางประจาํ 3
• ชาํ นาญการ 2 • พนักงานราชการ 12
• ปฏิบตั กิ าร 2 • จางเหมาเอกชน 24
• อาวโุ ส -
• ชํานาญงาน - กลุมวางแผนการจดั การท่ดี ิน
• ลกู จางประจํา 1 ในพ้ืนท่เี ส่ยี งภยั ทางการเกษตร
• พนกั งานราชการ 7 • ชาํ นาญการพิเศษ 2
• จา งเหมาเอกชน 8 • ชาํ นาญการ 2
• ปฏิบัติการ 2
• อาวุโส -
• ชํานาญงาน -
• ลูกจางประจํา 2
• พนกั งานราชการ 11
• จา งเหมาเอกชน 2
อํานาจหนาที่
- ศึกษาขอมูลทรัพยากรดิน สํารวจภาวะเศรษฐกิจสังคม วิเคราะหสภาพการใชท่ีดิน เพ่ือการวางแผน
การใชท่ีดิน การจัดทําเขตพัฒนาท่ีดิน การจัดทําเขตความเหมาะสมของท่ีดินสําหรับพืชเศรษฐกิจ และสนับสนุน
การขับเคล่ือนการบรหิ ารจดั การพื้นทเ่ี กษตรกรรม (Zoning)
- ศึกษาและวิเคราะหยุทธศาสตรการบริหารจัดการท่ีดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศ นโยบาย
ดานเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดลอม เพื่อสนับสนุนการจัดทําแผนการใชที่ดิน การติดตามสถานการณ
การเปลย่ี นแปลงการใชที่ดินทางการเกษตร และการวางแผนการใชทีด่ นิ บนพน้ื ที่สงู
- วางแผนและพัฒนาการจัดการที่ดนิ ในพื้นทีเ่ ส่ียงภยั ทางการเกษตร ดานภยั แลง ภัยน้ําทว ม และดินถลม
- ศึกษา สํารวจ จําแนก วิเคราะห การจัดทําแผนท่ีและขอมูลพ้ืนที่ชุมน้ํา เพื่อจัดทําแผนบริหาร
จดั การพืน้ ท่ีชุม นํา้
- วิเคราะหและวิจัยการประยุกตใชขอมูลระยะไกล ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และคาดการณ
การเปลย่ี นแปลงการใชท ่ีดิน เพอ่ื การพัฒนาท่ีดนิ
- ถายทอดเทคโนโลยีใหบริการทางวิชาการแกหนวยงานที่เกี่ยวของและเกษตรกร และความรวมมือ
ทางวชิ าการระหวา งประเทศ ดานการวางแผนการใชทีด่ ิน
- ปฏิบตั ิงานรว มกับหรือสนับสนนุ การปฏิบัติงานของหนว ยงานอืน่ ที่เกย่ี วของหรือไดรับมอบหมาย
การแบง สว นราชการ
- ฝายบรหิ ารทัว่ ไป
- กลุมวเิ คราะหส ภาพการใชท ี่ดิน
- กลุมเศรษฐกจิ ที่ดนิ ทางการเกษตร
- กลุมนโยบายและวางแผนการใชท ด่ี นิ
- กลุมวางแผนบริหารจดั การพื้นทช่ี ุม นาํ้
- กลมุ วางแผนการจัดการทด่ี นิ ในพ้นื ทเ่ี สยี่ งภัยทางการเกษตร
หนาทรี่ บั ผดิ ชอบ
ฝา ยบริหารทัว่ ไป
- ดาํ เนินการเก่ยี วกบั งานบรหิ ารท่ัวไป
- จัดทําแผนงาน งบประมาณประจําป ควบคุมการเบิกจายงบประมาณ ติดตามผลการปฏิบัติงาน
ของกลุมตา งๆ ภายในกอง
- อํานวยการและประชาสัมพันธงานกอง
- ตรวจสอบและกล่ันกรองเร่ืองตางๆ กอนนําเสนอผูอํานวยการกอง รวมท้ังประสานงานระหวาง
กองกบั หนวยงานอน่ื ๆ
- จัดทําทะเบียนวจิ ัย ตดิ ตามงานวจิ ัยและรวบรวมผลงานวิจยั
- ปฏบิ ตั ิงานอืน่ ๆ ตามทไ่ี ดรบั มอบหมาย
กลุมวิเคราะหส ภาพการใชท ีด่ นิ
- วิเคราะหแผนท่ีรูปถายทางอากาศ และขอมูลจากดาวเทียม เพ่ือการสํารวจและจัดทํา
แผนท่สี ภาพการใชท ีด่ นิ และติดตามสถานการณส ภาพการใชทดี่ นิ และการเปลยี่ นแปลงการใชทด่ี นิ
- สํารวจ วิเคราะหจัดทําแผนท่ีปลูกพืชเศรษฐกิจ และจัดทําขอมูลสารสนเทศภูมิศาสตรเพื่อ
ใชในการกาํ หนดการใชทดี่ ิน
- ศึกษา วิเคราะหและวิจัยการประยุกตใชขอมูลระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร เพื่อการ
พฒั นาที่ดนิ
- ประสานงานและประสานความรวมมือทางวิชาการกับหนวยงานอื่นที่เก่ียวของท้ังในและระหวาง
ประเทศ
- ปฏิบตั ิงานอ่ืน ๆ ตามทไ่ี ดร บั มอบหมาย
กลุมเศรษฐกิจทีด่ นิ ทางการเกษตร
- ศึกษา สํารวจ วิเคราะหวิจัย ดานเศรษฐกิจที่ดินตามประเภทการใชประโยชนที่ดินทางการเกษตร
รวมถงึ ปญ หาและทศั นคติของชมุ ชนหรือเกษตรกร เพื่อสนับสนุนงานวางแผนและการกําหนดเขตการใชท่ีดิน
- ศึกษา สํารวจ วิเคราะหขอมูลภาวะเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดลอม เพื่อสนับสนุนการจัดทํา
แผนการใชทด่ี ินตามนโยบายการใชท ่ดี ินในระดับตา งๆ
- ศึกษา วิจัย ประเมินผลผลิตและแนวโนมการเปลี่ยนแปลงสภาพการผลิตเพ่ือเปนแนวทางในการ
ผลิตทางการเกษตร
- ประสานงาน และประสานความรวมมือทางวิชาการกับหนวยงานอื่นที่เก่ียวของ ท้ังในและระหวาง
ประเทศ
- ปฏบิ ัตงิ านอ่นื ๆ ตามท่ีไดร บั มอบหมาย
กลมุ นโยบายและวางแผนการใชท่ีดิน
- ศึกษา วิเคราะหขอมูลทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม นโยบายและขอกฎหมายท่ีเก่ียวของ เพื่อ
จดั ทาํ แผนและกาํ หนดเขตการใชทีด่ ินในระดบั ตางๆ
- ศึกษาและวจิ ัยรูปแบบการใชท ่ดี ินที่เหมาะสมตามภูมิสังคม
- ประสานงาน และประสานความรวมมือทางวิชาการกับหนวยงานอื่นท่ีเกี่ยวของท้ังในและระหวาง
ประเทศตลอดจนติดตามการดําเนนิ งานในโครงการความรว มมือทางเศรษฐกิจ
- ศึกษา วิเคราะหขอมูลทางกายภาพและนโยบายการใชที่ดิน เพื่อกําหนดเขตและวางแผนการใช
ทด่ี ินบนพนื้ ทีส่ ูง พรอมทง้ั ประสานงานพัฒนาพน้ื ทีส่ ูงรว มกบั องคกรภาครัฐและเอกชน
- ศึกษาและวิเคราะหขอมูลทางกายภาพของที่ดินและดานเศรษฐกิจที่ดิน เพื่อใชเปนขอมูลในการ
พิจารณาประกาศเขตตามพระราชบัญญตั ิกรมพัฒนาทด่ี ิน พ.ศ.2551
- ใหคําปรึกษาและขอเสนอแนะดา นการใชท ่ีดนิ ท่ีเหมาะสมแกเ กษตรกร องคก รภาครฐั และเอกชน
- ปฏิบัติงานอนื่ ๆ ตามท่ไี ดรบั มอบหมาย
กลมุ วางแผนบริหารจดั การพน้ื ที่ชมุ นา้ํ
- ศึกษา สํารวจ จําแนก วิเคราะหและจัดทําแผนที่และขอมูลพื้นที่ชุมน้ําเพื่อจัดทําแผนบริหาร
จัดการพ้นื ที่ชมุ น้ํา
- ศกึ ษาและวิจยั รปู แบบการใชท่ีดินทเ่ี หมาะสมตามภมู ิสงั คม
- ประสานงาน และประสานความรวมมือทางวชิ าการกับหนว ยงานอื่นท่ีเกีย่ วของท้ังในและระหวาง
ประเทศ
- ใหคาํ ปรกึ ษาและขอ เสนอแนะดานการใชท่ดี นิ ที่เหมาะสมแกเกษตรกร องคก รภาครัฐและเอกชน
- ปฏบิ ตั งิ านอ่นื ๆ ตามทไ่ี ดร ับมอบหมาย
กลมุ วางแผนการจดั การท่ีดินในพื้นทเี่ สี่ยงภยั ทางการเกษตร
- ศึกษา วิเคราะห เพ่ือวางแผนการจัดการทด่ี ินในพืน้ ท่เี สยี่ งภยั ทางการเกษตร
- ศึกษา คนควา และสังเคราะหองคความรู มาตรการ/วิธีการที่เหมาะสม นํามาประยุกตใชในการ
ปองกัน และฟนฟูพ้ืนทเี่ กษตรทไี่ ดรบั ความเสยี หายจากภัยธรรมชาติ
- ศึกษา วิเคราะหผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ีมีตอสภาพพื้นท่ีดิน ระบบ
การเกษตรและส่ิงแวดลอม
- พัฒนาเทคโนโลยีการปองกันและเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกี่ยวกับดินถลม พื้นที่น้ําทวมและ
แหงแลงซํ้าซาก เพ่ือใหเกษตรกรและประชาชนทั่วไปไดรับขอมูลขาวสารดานภัยธรรมชาติท่ีถูกตอง ทันตอ
สถานการณ เพอื่ ลดความสญู เสียที่จะเกดิ ขน้ึ
- ประสานงาน และประสานความรวมมือทางวิชาการกับหนวยงานอื่นที่เก่ียวของท้ังใน และระหวาง
ประเทศ
- ปฏิบตั ิงานอนื่ ๆ ตามท่ไี ดร ับมอบหมาย
เกษตรอัจฉรยิ ะ (Smart Agriculture)
โดย : นางจฬุ าลกั ษณ สทุ ธิรอด
ผเู ชีย่ วชาญดานการสาํ รวจการใชทีด่ นิ ดว ยเทคโนโลยรี ะยะไกล
ในปจจุบันแรงงานในภาคเกษตรลดลง คนมีอายุมากขึ้น คนรุนใหมสนใจการทําเกษตรนอยลง ภาค
เกษตรจึงตองปรับตัวโดยการนําเอาเทคโนโลยีเขามาปรับปรุงการผลิตใหมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกษตร
อจั ฉริยะ (Smart Agriculture) เปนการทําเกษตรสมัยใหมดวยการใชเทคโนโลยีหรือหุนยนต เครื่องจักร ฯลฯ
ที่มีความแมนยําสูงเขามาชวยในการทํางาน โดยมีแนวคิด คือ การเกษตรแมนยําสูง (Precision Agriculture
หรือ Precision Farming) การทําเกษตรที่เขากับสภาพพ้ืนที่ เนนประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ต้ังแตการ
คัดเลือกเมล็ดพันธุจนถึงกระบวนการปลูกโดยนําเอาเทคโนโลยีเขามาชวย จากนโยบาย Thailand 4.0 และ
ยุทธศาสตรชาติ ๒๐ ป รวมท้ังนโยบายการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) กระทรวงเกษตรและ
สหกรณไ ดแ ตง ต้ังคณะกรรมการขับเคล่ือนการพัฒนาเกษตรอัจฉริยะข้ึน มีหนาที่กําหนดนโยบายและแผนการ
พัฒนาเกษตรอัจฉรยิ ะ ตลอดจนขับเคล่ือนการพฒั นาเกษตรอจั ฉรยิ ะของกระทรวงฯ
ในปงบประมาณ 2562 กรมพฒั นาที่ดิน โดยการนําของ ผูเช่ียวชาญจุฬาลักษณ สุทธิรอด ผูเชี่ยวชาญ
ดานการสํารวจการใชที่ดินดวยเทคโนโลยีระยะไกล กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน รวมการขับเคล่ือนการ
พัฒนาเกษตรอัจฉริยะโดยจัดสัมมนาวิชาการดาน Smart Agriculture เพ่ือใหผูเขารวมประชุมไดรับทราบ
เกี่ยวกับเทคโนโลยี ท่ีใชในการทําเกษตรอัจฉริยะสําหรับนํามาประยุกตใชในประเทศ รวมทั้งแลกเปล่ียน
ประสบการณในการทําเกษตรอัจฉริยะของภาครัฐและเอกชน นอกจากน้ีมีการจัดทําแปลงเรียนรูเกษตร
อัจฉริยะในการผลิตขาว ออย ขาวโพดเล้ียงสัตว มันสําปะหลัง และสับปะรด โดยใชเทคโนโลยีที่เหมาะสมใน
กระบวนการการผลิต มีการประสานความรวมมือจากหนวยงานทั้งในและตางประเทศ เพ่ือนําเทคโนโลยีดาน
ตาง ๆ มาประยุกตใช และมีการจัดเก็บขอมูลดานตาง ๆ เพ่ือเชื่อมโยงไปสูการจัดทํา Big Data ดานเกษตร
อัจฉริยะ สําหรับใชเปนเคร่ืองมือประกอบการตัดสินใจ และชวยกําหนดแนวทางการทําการเกษตรอัจฉริยะ
ตอ ไปในอนาคต
การสัมมนาเกษตรอจั ฉริยะและการประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ เร่ืองการจดั การฐานขอมูล (Big Data)
สําหรบั เกษตรอัจฉรยิ ะ 25-26 เมษายน 2562 ณ โรงแรมมริ าเคิลแกรนด
งานรณรงคการใชเ ทคโนโลยีเกษตรอัจฉรยิ ะเพ่ือเพิ่มประสิทธภิ าพและลดตนทุนการผลิตขา วในนาแปลงใหญ
อาํ เภอสวนแตง จังหวัดสุพรรณบรุ ี 30 พฤษภาคม 2562
การสํารวจภาวะเศรษฐกิจและสงั คมของจงั หวดั นครนายก
เพือ่ วางแผนการการใชท ด่ี นิ ปการผลติ 2561/62
โดย : นางสาวปรกั มาศ อิ่มเอบิ เศรษฐกรชาํ นาญการ
กลมุ เศรษฐกจิ ทีด่ นิ ทางการเกษตร
ดินเปนทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสําคัญ เปนสวนหน่ึงของการผลิตปจจัย 4 ไดแก อาหาร ที่อยู
อาศัย เครื่องนุงหม และยารักษาโรค นอกจากนี้ยังมีความสําคัญตอการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเปนประเทศเกษตรกรรม แตในปจจุบันประชากรเพ่ิมมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศ ทําใหทรัพยากรดินถูกนําไปใชโดยไมระมัดระวัง หรือขาดความรูความเขาใจ สงผลใหดินเกิด
ความเสื่อมโทรม
กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน ไดตระหนักถึงความสําคัญของปญหาดังกลาว จึงไดทําโครงการวาง
แผนการใชที่ดินระดับจังหวัดขึ้น และมอบหมายใหกลุมเศรษฐกิจท่ีดินทางการเกษตร ซึ่งเปนหนวยงานที่มี
หนา ทีส่ ํารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคม เขาไปดําเนินการสํารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดนครนายก
ซึ่งเปนจังหวัดหน่ึงในภาคกลาง มีพื้นที่ทําการเกษตรประมาณ 708,983 ไร หรือรอยละ 53.48 ของพ้ืนท่ีจังหวัด
มีพืชที่ปลูกมากที่สุดไดแก ขาว รองลงมาไดแก ไมผลไมยืนตน ไมดอกไมประดับ และพืชผักสมุนไพร เพื่อใช
เปนขอมูลประกอบในการวางแผนการใชที่ดิน สําหรับเปนทางเลือกใหเกษตรกร สามารถนําทรัพยากรดินไปใชให
เกิดประโยชนสูงสุด สอดคลองกับความตองการของตนเอง สภาพเศรษฐกิจ และภูมิสังคม ซ่ึงผลการสํารวจได
ดังน้ี
ประชากรสวนใหญ มีอายเุ ฉล่ีย 59.12 ป สวนใหญจบการศึกษาระดับประถมศึกษา รอยละ 66.67 มี
ที่ดินถือครองเฉล่ีย 30.01 ไร โดยเปนท่ีดินของตนเองเฉล่ีย 13.59 ไร และเชา 16.42 ไร มีหนังสือสําคัญในท่ีดิน
ของตนเองมากที่สุด คือ โฉนด เฉล่ีย 12.85 ไร มีหนี้สินเฉลี่ย 36,790.12 บาทตอครัวเรือน ประสบปญหาดานการ
ผลิต รอยละ 65.43 ของเกษตรกรที่สาํ รวจ ปญหาท่ีประสบมากท่ีสุด คือศัตรูพืชรบกวน รอยละ 43.40 ของ
เกษตรกรที่ประสบปญหาดานการผลิต รองลงมาคือ ราคาผลผลิตตกตํ่า รอยละ 35.85 และสภาพดินเสื่อมโทรม
รอยละ 22.64 ประสบปญหาภัยธรรมชาติ ไดแก ปญหาภัยแลง รอยละ 14.81 ของเกษตรกรที่สํารวจ ปญหา
อทุ กภัย รอ ยละ 7.41 และปญ หาวาตภัย รอยละ 4.94
มีความตอ งการใหร ัฐบาลชวยเหลือ รอ ยละ 95.06 ของเกษตรกรท่ีสํารวจ โดยเกษตรกรตองการใหรัฐชวยเหลือมาก
ที่สุด คือ จัดหาปจจัยการผลิตคุณภาพดี ราคาตํ่ากวาทองตลาด รอยละ 50.65 ประกันราคาพืชผลการเกษตร รอย
ละ 37.66 และสงเสริมและแนะนําทําเกษตรแบบอินทรีย สงเสริมและแนะนําการทําปุย สารปองกันและกําจัด
ศัตรพู ชื ใชเ อง รอ ยละ 10.39 เทา กัน
หนวย ประเภท ผลผลิต ราคาเฉลยี่ มูลคาผลผลติ ผลตอบแทนเหนอื ตน ทุน (บาท/ไร) B/C
ท่ดี ิน การใชป ระโยชนท ดี ิน (กก./ไร) (บาท/ไร) (บาท/ไร) เงินสด ผนั แปร ทง้ั หมด Ratio
4,433.00 1,027.30 1,224.50 320.54 1.08
2I ขาวนาปรงั นาหวา นน้ําตม ครัง้ ที่ 1 650.00 6.82 3,532.85 -153.78 328.42 -683.79 0.84
26,437.64 24,752.53 19,306.59 17,875.70 3.09
2I ขา วนาปรังนาหวานนํ้าตม ครั้งท่ี 2 505.88 6.82 5,482.38 1,439.74 1,552.04 545.51 1.11
5,378.73 1,333.08 1,400.80 394.26 1.08
2I มะยงชิด 136.94 193.06 2,962.88 857.97 923.80 446.84 1.18
3,348.01 729.23 690.37 110.75 1.03
11I ขาวนาปน าหวานนาํ้ ตม 807.42 6.79 4,753.00 1,061.73 787.39 54.82 1.01
3,229.39 889.09 866.09 32.04 1.01
11I ขาวนาปรงั นาหวา นนา้ํ ตม 788.67 6.82 3,849.69 1,438.32 1,166.39 638.80 1.20
50,160.85 47,885.97 44,383.57 42,929.11 6.94
11I ขา วนาปน าหวา น 436.36 6.79 9,860.74 4,570.73 3,085.79 1,889.99 1.24
11I ขาวนาปรงั นาหวา นนา้ํ ตม 490.91 6.82
16 ขา วนาปนาหวา นนาํ้ ตม 700.00 6.79
16I* ขาวนาปน าหวาน 475.61 6.79
16I* ขา วนาปรงั นาหวา นนํ้าตม 564.47 6.82
36I* มะยงชิด 259.82 193.06
36BI ไผตง 532.15 18.53
หมายเหต:ุ ไผต ง จํานวน 50 ตน ตอไร (ป 1- ปที2่ 2)
มะยงชดิ จํานวน 25 ตน ตอไร (ป 1- ปท ่ี 20 ขน้ึ ไป)
เอกสารอา งอิง
สํานักงานจังหวัดนครนายก. 2561 แผนพัฒนาจังหวดั นครนายก 4 ป ปงบประมาณ พ.ศ. 2561-2564
ฉบับสมบูรณ. กลมุ งานยุทธศาสตรจ ังหวัด จงั หวัดนครนายก กระทรวงมหาดไทย
การวเิ คราะหทางเศรษฐกจิ เพอ่ื จดั ทาํ เขตการใชท่ดี นิ
พืชเศรษฐกจิ สละปการเพาะปลกู 2561/62
โดย :นายณฐั ภาส ศรเี ลศิ เศรษฐกรปฏิบัตกิ าร
กลุมเศรษฐกิจทดี่ ินทางการเกษตร
ในขณะที่ไมผลเศรษฐกจิ ทส่ี าํ คญั เชน ทุเรยี น เงาะ และมังคุด กําลังประสบปญหาในหลาย ๆ ดาน เชน ปญหาราคา
ของปจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกป แรงงานหายากและมีราคาแพง ปญหาการใชเทคโนโลยีการผลิต
ที่ยุงยากและซับซอนในการท่ีจะผลิตใหไดมากที่สุด ปญหาความไมแนนอนทาง
การตลาด โดยเฉพาะในชวงท่ีมีผลไมหลายชนิดออกสูตลาดในเวลาไลเลี่ยกัน
จะทําใหราคาของผลผลิตต่ํามาก จากปญหาดังกลาว ทําให“สละ”
เปน พืชที่นาจบั ตา เน่อื งจากเปนพืชที่ปลูกงาย ตายยาก ขั้นตอนการ
ผลิตไมยุงยาก ไมตองการแรงงานท่ีมีฝมือ ใหผลผลิตไดตลอดทั้งป
สามารถขายไดราคาดี ท้ังผลสดและแปรรูปมีตลาดรองรับท้ัง
ในประเทศ และตา งประเทศมรี สชาติหอมหวานเฉพาะตัวเปนท่ีนิยม
ของผูบริโภค ในประเทศไทยจะปลูกกันมากในภาคตะวันออก
โดยทั่วไปสามารถปลูกไดดีเกือบทุกสภาพพ้ืนที่ แตพ้ืนท่ีที่เหมาะสมควร
ไมมีนํ้าทวมขัง ลักษณะดินควรเปนดินรวนปนทรายหรือดินรวนปนเหนียวท่ีมี
ความอุดมสมบูรณสูง ระบายนํ้าไดดี อุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 20-40 องศาเซลเซียส มีแหลงนํ้าเพียงพอตลอด
ชวงฤดูแลง สายพันธสุ ละทป่ี ลูกในประเทศไทยมีหลายสายพนั ธุ เชน พนั ธเุ นนิ วง พนั ธหุ มอ พันธุสุมาลี
กรมพัฒนาที่ดินมีภารกิจหลักในการกําหนด
นโยบายและวางแผนการใชท่ีดินในพื้นท่ีเกษตรกรรม
โดยคํานึงถึงการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีอยูอยาง
จาํ กดั ใหเหมาะสมและเปนธรรมโดยใหค วามสาํ คัญกับการ
บริหารจัดการทรัพยากรการผลิตแบบย่ังยืน โดยเฉพาะ
ท รั พ ย า ก ร ที่ ดิ น แ ล ะ ท รั พ ย า ก ร น้ํ า ท่ี เ ป น ร า ก ฐ า น ข อ ง
การเกษตรการจัดทําเขตการใชท่ีดินสําหรับพืชเศรษฐกิจสละ
จงึ ตองทําการสาํ รวจขอ มูลท่ัวไปดานเศรษฐกิจ สังคม และ
ภาวการณผลิตพืช ใหถ ูกตองและเปน ปจ จุบัน เพื่อสามารถ
นําไปวางแผนการใชที่ดิน โดยทําการสํารวจในพื้นท่ี
ภาคตะวนั ออกประกอบดวย 2 จังหวัด ไดแก จังหวัดจันทบุรี
และจังหวัดตราด วัตถุประสงคของการสํารวจคือ 1) ศึกษา
ขอ มูลพ้ืนฐานดา นเศรษฐกิจและสงั คมของครวั เรือนเกษตร 2) เพื่อศึกษาการใชปจจัยการผลิตที่สําคัญ เชน
ปุย ยา และแรงงาน เปนตน 3) เพื่อวิเคราะหตนทุนและผลตอบแทนในการผลิตพืชเศรษฐกิจสละ
ตามระดับความเหมาะสมทางกายภาพของดิน
ผลการศึกษาโครงสรางตนทุนการผลิตพืชเศรษฐกิจสละ ปการเพาะปลูก 2561/62 พบวา
พน้ื ทดี่ ินทมี่ ีความเหมาะสมทางกายภาพปานกลาง (S2) มตี นทนุ ทัง้ หมดเฉลยี่ ตอไร 23,305.43 บาท แบงเปนตนทุน
ผันแปรเฉลี่ยตอไร 20,500.25 บาท และตนทุนคงท่ีเฉล่ียตอไร 2,805.18 และพ้ืนท่ีดินที่มีความเหมาะสม
ทางกายภาพเล็กนอย (S3) มีตนทุนท้ังหมดเฉลี่ยตอไร 23,232.96 บาท แบงเปนตนทุนผันแปรเฉลี่ยตอไร
20,759.65 บาท และตนทุนคงที่เฉล่ียตอไร 2,473.31 บาท จากตารางจะเห็นไดวาพื้นท่ีดินท่ีมีความเหมาะสม
ทางกายภาพปานกลาง (S2) มีตนทุนทั้งหมดสูงกวาพ้ืนที่ดินที่มีความเหมาะสมทางกายภาพเล็กนอย (S3)
เนื่องจาก มีตนทุนคงท่ีสูงกวา (คาเสื่อมอุปกรณการเกษตร และคาเสียโอกาสเงินลงทุนในอุปกรณการเกษตร)
เพราะ มีการใชเ ครือ่ งมือและอุปกรณทางการเกษตรในการผลิตท่ีมากกวา
ตารางโครงสรางตนทนุ การผลติ พืชเศรษฐกิจสละปการเพาะปลกู 2561/62
รายการ S2 S3
ตนทนุ ทง้ั หมด (บาท/ไร) บาท รอยละ บาท รอ ยละ
23,305.43 100.00 23,232.96 100.00
ตน ทนุ ผันแปร (บาท/ไร) 20,500.25 87.96 20,759.65 89.35
ตน ทุนคงท่ี (บาท/ไร) 2,805.18 12.04 2,473.31 10.65
ตนทุนตอกโิ ลกรมั (บาท) 22.53 26.03
ท่ีมา : กลุม เศรษฐกิจทีด่ นิ ทางการเกษตร,จากการสาํ รวจ,2562
ดานผลตอบแทนการผลิตสละ ที่ราคาเฉล่ีย 32.31 บาทตอกิโลกรัม พบวา พ้ืนท่ีดิน
ทีม่ คี วามเหมาะสมทางกายภาพปานกลาง (S2) ผลผลิตเฉล่ียตอไร 1,034.24 กิโลกรัม มีมูลคาผลผลิตเฉลี่ยตอ
ไร 33,416.29 บาท ผลตอบแทนเหนอื ตน ทนุ ท้งั หมดเฉลี่ยตอ ไร 10,110.86 บาท ระดับผลผลิตคุมทุน 721.31
กิโลกรัมตอไร และอัตราสวนรายไดตอตนทุนทั้งหมด (B/C) เทากับ 1.43 พื้นท่ีดินท่ีมีความเหมาะสม
ทางกายภาพเล็กนอย (S3) ผลผลิตเฉลี่ยตอไร 892.62 กิโลกรัมตอไร มีมูลคาผลผลิตเฉล่ียตอไร 28,840.55
บาท ผลตอบแทนเหนือตนทุนท้ังหมดเฉลี่ยตอไร 5,607.59 บาท ระดับผลผลิตคุมทุน 719.06 กิโลกรัมตอไร
และอตั ราสว นรายไดต อ ตนทุนทงั้ หมด (B/C) เทากบั 1.24
จากผลการศึกษา เกษตรกรผูปลูกสละในพ้ืนที่ดินท่ีมีความเหมาะสมทางกายภาพปานกลาง (S2)
มี ป ริ ม า ณ ผ ล ผ ลิ ต แ ล ะ ไ ด รั บ ผ ล ต อ บ แ ท น จ า ก ก า ร ผ ลิ ต ที่ สู ง ก ว า ใ น พื้ น ที่ ดิ น ท่ี มี ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม
ทางกายภาพเล็กนอย (S3) และในทั้ง 2 พ้ืนที่มีความคุมคาในการลงทุนเพราะมีอัตราสวนรายได
ตอตนทนุ ท้ังหมด (B/C) มากกวา 1 และมปี ริมาณผลผลติ ทม่ี ากกวาระดับปริมาณผลผลิตคมุ ทุน
ตารางผลตอบแทนการผลติ พชื เศรษฐกิจสละ ปการเพาะปลูก 2561/62
รายการ S2 S3
บาท บาท
ผลผลติ เฉลย่ี (กโิ ลกรัม/ไร) 1,034.24 892.62
ราคาผลผลติ เฉลี่ย (บาท/กโิ ลกรัม) 32.31 32.31
มูลคาผลผลิต (บาท/ไร) 33,416.29 28,840.55
ผลตอบแทนเหนือตน ทนุ ทั้งหมด (บาท/ไร) 10,110.86 5,607.59
ระดับปริมาณผลผลติ คมุ ทนุ (กิโลกรัม/ไร) 721.31 719.06
B/C Ratio 1.43 1.24
ท่มี า : กลุมเศรษฐกจิ ที่ดินทางการเกษตร,จากการสาํ รวจ,2562
การบรหิ ารจัดการพนื้ ทเ่ี กษตรกรรมตามแผนทีก่ ารเกษตรเชิงรุก
(Zoning by Agri-Map)
โดย : กลุมนโยบายและวางแผนการใชทด่ี ิน
ปจจุบันปญ หาสําคญั ดานการเกษตรของประเทศไทย คอื ตน ทนุ การผลิตสูง สินคาการเกษตร
ลนตลาดในบางชวงทําใหเกิดปญหาราคาสินคาตกต่ํา เกิดความไมสมดุลระหวางผลผลิตของสินคาเกษตรกับ
ความตองการของตลาด ซ่ึงเปนปญหาที่เกิดข้ึนอยางตอเน่ืองเปนเวลานาน สาเหตุสําคัญอยางหน่ึงท่ีทําใหเกิด
ปญหาดังกลาว คือเกษตรกรจํานวนมากท่ีผลิตสินคาเกษตรในพ้ืนที่ไมเหมาะสม กระทรวงเกษตรและสหกรณ
จึงใหความสําคัญกับการบริหารจัดการพ้ืนท่ีไมเหมาะสม (S3 และ N) โดยเฉพาะในพื้นท่ีท่ีปลูกขาวและพืช
เศรษฐกิจอื่นๆ รวม 13 ชนิด ใหเกิดการปรับเปล่ียนการผลิตในพ้ืนที่ไมเหมาะสมไปสูการผลิตสินคาชนิดใหมที่
มคี วามเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการเพาะปลูกอยางย่ังยืน จึงเปนที่มาของโครงการบริหารจัดการพื้นที่
เกษตรกรรมตามแผนที่การเกษตรเชิงรุก (Zoning by Agri-Map) ซึ่งเปนการสนับสนุนการปรับเปลี่ยน
โครงสรางการผลิตตามแผนท่ีเกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agricultural Map for Adaptive
Management: Agri-Map) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ ซ่ึงเปนแผนท่ีสําหรับบริหารจัดการพ้ืนท่ีเกษตร
รายจงั หวดั ใหส อดคลอ งกับสถานการณปจ จุบนั และในอนาคต โดยพิจารณาจากปจ จัยทางกายภาพ สังคม และ
เศรษฐกจิ เพ่ือแสดงใหเห็นถึงการใชพื้นท่ีในการเพาะปลูกพืชในแตละพื้นท่ีวามีความเหมาะสมกับชนิดของดิน
และปรมิ าณนาํ้ หรือไม หากพบวาไมม ีความเหมาะสมจึงจะสนบั สนุนใหเกษตรกรปรับเปล่ียนการผลิตตามความ
เหมาะสมของพ้นื ทีแ่ ละความตองการของตลาด โดยมีแนวทางการพจิ ารณาพน้ื ท่ีดาํ เนินการ ดังน้ี
1. เปนพ้ืนท่ีปลูกพืชเดิมในพ้ืนท่ีไมเหมาะสม (S3 และ N) การผลิตมีความเสี่ยงที่จะเกิดความ
เสยี หายสูง และผลผลติ ตํ่า
2. ระบบการเกษตรใหม มีโอกาสทางการตลาดสูงสอดคลองกับดานเศรษฐกิจ สังคม และ
สง่ิ แวดลอ ม
3. เกษตรกรมีความประสงคจะเขารวมดวยความสมคั รใจ
4. ภาครัฐสรางแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยน โดยความรวมมือของหนวยงานในกระทรวงเกษตร
และสหกรณ ระบบประชารัฐ และเกษตรกร
5. บริหารจัดการปรับเปลี่ยนการผลิตในรูปแบบการรวมกลุม เพ่ือพัฒนาจาการปลูกพืชในพื้นที่
ไมเ หมาะสม (S3 และ N) นําไปสกู ารปลกู พชื ชนดิ อ่นื ในพน้ื ท่เี หมาะสม (S1, S2) และนําไปสรู ูปแบบแปลงใหญ
6. หนวยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณในจังหวัดรวมบูรณาการ ตั้งแตการพิจารณา
คัดเลือกพนื้ ท่ี รูปแบบการปรับเปลย่ี นการผลิต แผนการปฏิบตั ิ งบประมาณ และหนวยงานรบั ผิดชอบ
7. สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด เปนหนวยงานหลักในการนําเสนอพื้นท่ีไมเหมาะสมจาก Agri-Map
เพื่อใหคณะทํางานระดบั จังหวดั พจิ ารณาพืน้ ทด่ี ําเนินการ
8. การปรับเปล่ียนการผลิตเปนสนิ คา ชนดิ ใหม จะดําเนินการใหความรูความเขาใจแกเกษตรกรท่ี
เขารวมโครงการ ในดานการปลูกพืช เล้ียงสัตว ประมง และระบบการเกษตรสมัยใหม เพื่อมุงสูเกษตร 4.0
ตามนโยบายยกกระดาษ A4 เพ่ือใหเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน โดยขับเคล่ือนผานศูนยเรียนรูการเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพการผลิตสนิ คาเกษตร (ศพก.)
กระทรวงเกษตรและสหกรณใหความสําคัญและสงเสริมการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการ
พน้ื ที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) อยา งตอเนือ่ ง โดยกําหนดเปาหมายในยุทธศาสตรชาติ ระยะ 20 ป
ยุทธศาสตรที่ 2 : การสรางความสามารถในการแขงขัน ใหมีการปรับเปลี่ยนกิจกรรมในพ้ืนที่ไมเหมาะสม (S3
และ N) เปา หมาย 6 ลา นไร โดยมแี ผนการดําเนินงานปละ 300,000 ไร การขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการ
พื้นทีเ่ กษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) ในระดับกระทรวงฯ ต้ังแตป 2559 - 2561 ดําเนินการปรับเปลี่ยน
พืน้ ที่ไมเหมาะสมแลว กวา 460,000 ไร ครอบคลุมพืน้ ท่ี 68 จงั หวัด เกษตรกรไดรับประโยชนกวา 85,000 ราย
สําหรับในป 2562 มเี ปา หมายดําเนินการ 252,775 ไร เนน ดําเนินการในพ้นื ทีศ่ ูนยเ รียนรูการเพิ่มประสิทธิภาพ
การผลติ สินคาเกษตร (ศพก.) และเกษตรแบบแปลงใหญ โดยใชแผนที่ความเหมาะสมในการปลูกพืชสําคัญใน
ระดับตําบล เปนเคร่ืองมือในการสรางความรูเร่ืองความเหมาะสมของพ้ืนที่ทําการเกษตรใหเกษตรกร กําหนด
ระดบั ความเหมาะสมในการปลูกพืชแตละชนิดเปน 4 ระดับ คือ S1 เหมาะสมมาก S2 เหมาะสมปานกลาง S3
เหมาะสมนอย และ N ไมเหมาะสม ซึ่งเกษตรกรท่ีปลูกพืชเหมาะสมพื้นท่ีอยูแลว (S1 และ S2) จะไดรับการ
ถายทอดความรูเพิ่มเติมดานการลดตนทุนการผลิต สวนเกษตรกรที่ปลูกพืชไมเหมาะสมกับพ้ืนท่ี (S3 และ N)
มีมาตรการสนับสนุนใหดําเนินการปรับเปลี่ยนมาผลิตสินคาเกษตรที่เหมาะสม เชน การเสนอทางเลือกในการ
ผลติ พชื ทเี่ หมาะสม การปศุสตั ว การเล้ยี งสตั วน้ํา การปลูกหมอ นเล้ยี งไหม การทําเกษตรผสมผสาน เปนตน
ในสวนของกรมพัฒนาท่ีดิน ในป 2562 มีการปรับเปล่ียนในพื้นที่ไมเหมาะสม (S3 และ N) โดย
การจดั ทาํ ระบบอนุรักษดนิ และนํา้ ในพน้ื ทีป่ รบั เปล่ียนเพ่ือปรับโครงสรางของพื้นท่ีใหเหมาะสมสําหรับการผลิต
พืชชนิดใหม ในพื้นท่ีปลูกขาวเพ่ือปรับเปลี่ยนเปนทําเกษตรผสมผสานและปลูกพืชชนิดอื่น 90,000 ไร ใน 52
จังหวัด อีกท้ังปรับปรุงและเพ่ิมศักยภาพการผลิตในพ้ืนที่ดินปญหาโดยการสนับสนุนวัสดุปรับปรุงบํารุงดินใน
พ้นื ทป่ี รบั เปลยี่ นดว ย
ปรับเปลีย่ นพ้ืนที่ปลูกขา วในพ้ืนที่ไมเ หมาะสมเปน เกษตรผสมผสาน
ตัวอยา งเกษตรกร
ปรบั เปลีย่ นพ้ืนท่ปี ลูกขาวเพื่อทําการเกษตรแบบผสมผสาน
นางสาํ เนียง แสงสอี อน 337 หมทู ี่ 8 บานโนนดู ตําบลบานฝาง อาํ เภอสระใคร จงั หวัดหนองคาย
พ้นื ทท่ี ้งั หมด 25.34 ไร พิกดั แหลง น้ําในไรนานอกเขตชลประทาน 48N 254969 E 1956862 N (S3)
การดาํ เนนิ งานขบั เคลอ่ื นการจดั ทาํ แผนการใชท่ดี นิ ระดับตําบล
โดย : กลุมนโยบายและวางแผนการใชทด่ี นิ
กองนโยบายและแผนการใชท่ีดินไดรวมดําเนินงานขับเคลื่อนการจัดทําแผนการใชท่ีดินระดับตําบล
ตามยุทธศาสตรชาติ 20 ป (พ.ศ.2561-2580) และแผนการปฏิรูปประเทศดานทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอม (ดานทรัพยากรดิน) ป 2561-2565 เพ่ือใหสามารถใชเปนกรอบแนวทางในการกําหนดทิศทาง
กิจกรรมในการพัฒนาพื้นท่ีตําบลใหสอดคลองกับศักยภาพของพื้นที่และความตองการของชุมชน โดยนํารอง
ดําเนนิ การ จังหวัดละ 1 ตําบล รวม 77 ตําบล เพ่ือพรอมนําสูการปฏิบัติงานแบบบูรณาการกับภาคสวนตางๆ
ที่เก่ียวของในปงบประมาณ 2563 ในการจัดทําแผนพัฒนาการเกษตรและแผนงบประมาณรวมกับองคการ
บริหารสวนตําบล และจังหวัด นําไปสูการปฏิบัติไดอยางรวดเร็ว เพ่ือใหเกิดประโยชนสูงสุดในการจัดการ
ทรพั ยากรท่ีดิน
การดําเนินการกรมพัฒนาที่ดินไดมอบใหกองการเจาหนาที่ และกองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน
อบรมเจาหนาที่ สํานักงานพัฒนาที่ดินเขตและเจาหนาที่สถานีพัฒนาท่ีดินทั่วประเทศ 178 คน หลักสูตร การ
วางแผนการใชท่ีดินระดับตําบล จํานวน 3 รุน รุนที่ 1 วันที่ 22-24 มกราคม 2562 จัดฝกอบรมท่ีจังหวัด
พิษณุโลก รุนท่ี 2 วันที่ 28-30 มกราคม 2562 จัดฝกอบรมท่ีจังหวัดรอยเอ็ด และรุนที่ 3 วันท่ี 11-13
กุมภาพันธ 2562 จัดฝกอบรมท่ีจังหวัดสุราษฎรธานี พรอมจัดทําแผนการใชท่ีดินระดับตําบลนํารองเปน
ตัวอยางใน 3 จังหวดั
ขั้นตอนการจัดทําแผนการใชที่ดินระดับตําบลดําเนินการโดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดรวมกับ
สํานักงานพัฒนาท่ีดินเขต และหนวยงานสวนกลางของกรมพัฒนาท่ีดิน มีขบวนการจัดทําที่สําคัญโดยอาศัย
การประสานของหนวยงานของรัฐในพื้นที่ และการมสี ว นรวมของชุมชน (Participatory Rural Appraisal:
PRA) เพื่อใหชุมชนเจาของพื้นที่มีสวนรวมในการ
กําหนดแนวทางการพัฒนาของตนเองท่ีสอดคลอง
ตรงกับสภาพปญหา และความตองการท่ีแทจริง
ของชุมชน บนพ้ืนฐานศักยภาพของทรัพยากรใน
พื้นท่ี เพ่ือกอใหเกิดการใชที่ดินของตําบลที่มีความ
มน่ั คง และเกดิ ความมงั่ คั่งยงั ยนื ของชุมชนตอไป
ประโยชนข องแผนการใชที่ดินระดับตาํ บล
1. เพื่อใชเปนแนวทางในการวางแผนการใชท่ีดิน
ของตําบลใหตรงตามศักยภาพของทรัพยากรและมี
ความยั่งยนื
2. หนวยงานท่ีเก่ียวของในการพัฒนาพ้ืนที่สามารถ
ใชแผนการใชที่ดินที่มีขอมูลสนับสนุนตามหลัก
วิชาการประกอบการเขยี นแผนพัฒนาทองท่ี
3. แผนการใชท่ีดินระดับตําบลเปนการวิเคราะห
ขอมูลดานกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ประกอบ
กบั ขอ มูลเชิงพ้ืนที่ ผูมีสวนไดสวนเสียในการใชที่ดิน
สามารถใชส นบั สนุนการตัดสินใจในการพัฒนาพ้ืนที่
ไดอ ยางแมน ยาํ และสอดคลอ งกบั สภาพท่เี ปนจรงิ
4. ผูท่ีมีสวนไดสวนเสียในการใชที่ดิน และชุมชน
สามารถมองภาพของพ้ืนท่ีตําบลเปนภาพรวม
เดยี วกนั อันจะกอใหเกิดการพัฒนาอยางเปนระบบ
ในทศิ ทางเดียวกัน
การจดั ทําแผนทีค่ วามเหมาะสมของที่ดิน
สําหรบั การปลกู พชื สมุนไพร
โดย : กลุมนโยบายและวางแผนการใชท ่ดี ิน
ประเทศไทยเปนประเทศท่ีมีความหลากหลายในการผลิตสินคาเกษตร สามารถที่จะสงออกพืช
อาหารสตู ลาดโลกมาเปนเวลานาน นอกจากพืชอาหารและพืชพลงั งานแลว พืชสมุนไพรก็ยังเปนสินคาเกษตรมี
ศักยภาพสูงในการผลิตเพ่ืออุตสาหกรรมทางการแพทย ซ่ึงขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนา
การแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ไดดําเนินการจัดทํารางแผนแมบทแหงชาติวาดวยการพัฒนา
สมุนไพรไทยฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ในการน้ีการจัดทําเขตการใชที่ดินที่เหมาะสมกับการปลูกพืช
สมุนไพรจะสามารถชวยสนับสนุนใหการจัดทําแผนแมบทฯ มีความสมบรูณมากย่ิงขึ้น โดยจะสามารถกําหนด
พ้ืนท่ีที่เหมาะสมในการผลิตพืชสมุนไพร ใชวางแผนการจัดหาวัตถุดิบสําหรับอุตสาหกรรมพืชสมุนไพรสําหรับ
การแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก รวมท้ังอตุ สาหกรรมตอเนอ่ื งอน่ื ๆ
ประกอบกับปจจุบันนโยบายการพัฒนาการ
เกษตรของประเทศ มีนโยบายสําคัญในการวางแผนการ
ใชที่ดินเพื่อใหทางเลือกในการใชที่ดินท่ีเหมาะสมแก
เกษตรกรผานโครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม
(Zoning) ดังน้ันการจัดทําเขตการใชที่ดินที่เหมาะสมกับ
การปลูกพืชสมุนไพรจึงเปนการเพิ่มทางเลือกหนึ่งท่ีจะ
ชวยสงเสริมใหการพัฒนาการเกษตรของประเทศมี
ประสิทธิภาพมากยิ่งข้นึ
ในสวนของกรมพัฒนาท่ีดิน ปงบประมาณ
2562 กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน ไดมอบหมาย
ใหกลุมนโยบายและวางแผนการใชที่ดินจัดทําแผนที่
ความเหมาะสมของที่ดินสําหรับการปลูกพืชสมุนไพร 10
ชนิด ไดแก กระเจี๊ยบแดง เกกฮวย ดีปลี บอระเพ็ด พญา
ยอ เพชรสังฆาต มะระข้ีนก มะลิ มะแวงเครือ และ
มะแวงตน เพื่อสนับสนุนแผนแมบทแหงชาติวาดวยการ
พัฒนาสมนุ ไพรไทย ฉบบั ท่ี 1 พ.ศ. 2560 – 2564
การจัดทําแผนท่ีความเหมาะสมของท่ีดินสําหรับการปลูกพืชสมุนไพร 10 ชนิด ทําใหเจาหนาท่ีและ
เกษตรกรมีแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสําหรับปลูกพืชสมุนไพรเปนเคร่ืองมือและทางเลือกท่ีเหมาะสม
สําหรับการปรบั เปลยี่ นการผลิตสนิ คา เกษตรกรรมจากสินคาเกษตรท่ีลน ตลาดหรือไมเหมาะสมกับพื้นท่ี มาเปน
พืชสมนุ ไพรทีเ่ หมาะสมกวา โดยดาํ เนินการ
1. ศกึ ษารวบรวมขอ มลู พืน้ ฐานและจดั กลุม พืชสมุนไพร เพือ่ ใชในการประเมนิ คุณภาพทีด่ ินสาํ หรบั พืชสมุนไพร
2. สํารวจขอมูลภาคสนาม เพื่อศึกษาความตองการของพืชสมุนไพร การตลาด ของศูนยรวมขอมูล
สมนุ ไพรในแตละภาคของประเทศ รวมทั้งศึกษาขอมูลจากมหาวิทยาลัยตางๆ ท่ีสงเสริมการปลูกและวิจัยดาน
พืชสมุนไพร
3. กําหนดคา ปจจยั ในการเจรญิ เตบิ โตของพชื สมุนไพร (CROP REQUIREMENT)
4. จดั ทําแผนทคี่ วามเหมาะสมของท่ดี นิ สาํ หรบั ปลกู พืชสมุนไพร
นอกจากนี้กรมพัฒนาท่ีดิน ยังไดรวมจัดนิทรรศการ
ในงานมหกรรมสมุนไพรแหงชาติ และการประชุมวิชาการ
ประจําปการแพทยแผนไทย การแพทยพ้ืนบาน และ
การแพทยทางเลือกแหงชาติ คร้ังท่ี 16 ระหวางวันที่ 6 –
10 มีนาคม 2562 ณ ศูนยแสดงสินคาและการประชุมอิม
แพ็ค เมืองทองธานี โดยกองนโยบายและแผนการใชที่ดินจัด
นิทรรศการในการจัดทําแผนที่ความเหมาะสมของที่ดิน
สําหรบั ปลกู พชื สมนุ ไพร (Land Suitabality)
และเพื่อใหสามารถดําเนินการจัดทํา
แผนที่ความเหมาะสมของท่ีดินสําหรับปลูกพืช
สมนุ ไพรไดอ ยางถกู ตอง เหมาะสม และใชประโยชน
ไดสูงสุด กองนโยบายและแผนการใชที่ดินจึงได
จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการข้ึน เพ่ือรับฟงความ
คิดเห็น และขอเสนอแนะ ตอการจัดทําแผนที่ความ
เหมาะสมของที่ดินสําหรับปลูกพืชสมุนไพรจาก
หนวยงานที่เก่ียวของ เมื่อวันท่ี 5 เมษายน 2562
ณ โรงแรมทีเค พาเลซ กรุงเทพฯ
การจดั ทาํ ฐานขอ มลู และรา งแผนการใชประโยชนทด่ี ิน
พนื้ ทีศ่ ูนยโ ครงการหลวงเลอตอ จงั หวดั ตาก
โดย : กรรณสิ า สฤษฎศิริ นกั วเิ คราะหน โยบายและแผนชาํ นาญการพเิ ศษ
กลุมนโยบายและวางแผนการใชที่ดนิ
ตามท่มี ลู นิธิโครงการหลวงไดเรม่ิ งานพฒั นาชมุ ชนชาวเขาในเขตพ้ืนท่ศี นู ยพฒั นาโครงการหลวงเลอตอ
ซึ่งมีพื้นที่ดําเนินการ 126,970 ไร อยูในเขตอําเภอทาสองยาง และอําเภอแมระมาด จังหวัดตาก ในป พ.ศ.
2558 ซึ่งมีพนื้ ท่ีดาํ เนินการ 126,970 ไร จํานวน 14 หยอมบาน โดยเปา หมายหลักเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและ
ความเปนอยูของชาวเขา สงเสริมการปลูกพืชท่ีเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ทดแทนการปลูกฝน รวมท้ังฟนฟูและ
อนุรักษทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะปาไมเนื่องจากเปนแหลงตนนํ้าลําธารที่สําคัญ จากเหตุผลดังกลาว
ขางตนจึงมีความจําเปนตองจัดทําฐานขอมูลและรางแผนการใชประโยชนท่ีดินในพ้ืนที่ศูนยโครงการหลวงเลอตอ
ตามหลักวิชาการที่ถูกตอ ง สอดคลองกับหลกั ยทุ ธศาสตรแ ละนโยบายของชาติดา นตาง ๆ เพ่ือนําไปสูการพัฒนา
อยา งยง่ั ยนื และสมดลุ ตอ ไป
การดําเนินงานเปนการจัดทําและรวบรวมฐานขอมูลที่ใชสําหรับการดําเนินงานประกอบดวย ขอมูล
ชน้ั คณุ ภาพลมุ น้ํา ขอมูลดินซึง่ มคี าํ อธบิ ายคุณลกั ษณะของดินที่พบแตละแหง เชน ความลึก ความอุดมสมบูรณ
คาความเปนกรดเปนดาง เนื้อดิน เปนตน ขอมูลสภาพการใชท่ีดินปจจุบัน ลงรายละเอียดถึงชนิดพืช ขอมูลความ
ลาดชนั ของพน้ื ที่ ความเหมาะสมของทดี่ นิ สําหรับการปลกู พืชเศรษฐกจิ ท่ีสําคญั และเปนท่ียอมรับของเกษตรกร
เชน ไมผลเมืองหนาว จุดท่ีต้ังของชุมชน เปนตนโดยทุกชั้นขอมูลจัดเก็บในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร เพ่ือ
นําไปสูการเช่ือมโยงความสัมพันธของแตละขอมูล สรางเงื่อนไข วิเคราะหและประมวลผลเพื่อจัดทําราง
แผนการใชทด่ี นิ ในพน้ื ท่ีศูนยพ ัฒนาฯ ตอ ไป
พื้นท่ีศึกษาของศูนยพัฒนาโครงการหลวงเลอตออยูในเขตปาสงวนแหงชาติประเภทเขตปาเพ่ือการ
อนุรักษ (โซน C) ทั้งพ้ืนท่ีศูนยพัฒนาฯ สภาพการใชท่ีดินสวนใหญยังเปนปาไมซ่ึงยังคงสภาพสมบูรณ การทํา
เกษตรกรรมที่พบมากท่ีสุดคือ ขาวโพดเลี้ยงสัตวประเภทไรหมุนเวียน และสภาพภูมิประเทศสวนใหญในพื้นท่ีเปน
พ้ืนท่ีสูงชัน มีความลาดชันระหวางรอยละ 35-50 มีเน้ือที่คิดเปนรอยละ 33.26 ของเนื้อท่ีศูนยพัฒนาฯ มีการ
กระจายตัวของลาํ นาํ้ ดี
รางแผนการใชท่ดี ินประกอบดวย 5 เขตหลัก ไดแกเขตพ้ืนท่ีปาไมเพื่อการอนุรักษ เขตรักษาสมดุลเพื่อการ
อนรุ กั ษแ ละการใชประโยชนอ ยา งยั่งยืน เขตแหลง นาํ้ เขตชมุ ชนบนพ้ืนที่สูง และเขตพ้ืนที่อ่ืน ๆโดยพบวาเขตที่
มีเน้ือที่มากทีส่ ุดคอื เขตพ้ืนทป่ี า ไมเพอื่ การอนรุ ักษ มีเนื้อท่ีคิดเปนรอยละ 56.02 ของเนื้อที่ศูนยพัฒนาฯ รองลง
ไปเปน เขตรักษาสมดลุ เพื่อการอนุรักษและการใชประโยชนอยางย่ังยืนมีเนื้อท่ีคิดเปนรอยละ 42.89 ของเน้ือท่ี
ศูนยพฒั นา ฯ ตามลาํ ดับ
รา งแผนการใชท ีด่ ินทจี่ ัดทําขนึ้ เปน ไปในลกั ษณะฟนฟูและอนรุ กั ษท รัพยากรธรรมชาติท่ีสําคัญ
โดยจําแนกเปนเขตตาง ๆ ใหสอดคลองกับสภาพพื้นที่ เนนการทําการเกษตรกรรมแบบยังชีพไมทําลาย
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม สอดคลองกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-
2564) โดยสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ มีหลักการพัฒนาประเทศที่สําคัญใน
ระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ยึดหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”“การพัฒนาที่ยั่งยืน”และ“คนเปน
ศูนยกลางการพัฒนา”และยุทธศาสตรสถาบันวิจัยและพัฒนาพ้ืนท่ีสูง (องคการมหาชน) ระยะท่ี 3 (พ.ศ.
2560-2564) เพื่อนาํ รางแผนการใชท่ดี ินท่ีจัดทาํ ขึ้นนีเ้ ปน เคร่ืองมือเพื่อดําเนินงานรวมกันระหวางหนวยงานที่มี
ภารกิจหลักเก่ียวของ โดยมีเปาหมายดานการพัฒนาพ้ืนที่และคุณภาพชีวิตของประชาชนเปนสําคัญ โดยไม
ละเลยมิติเชิงพ้ืนท่ีในดานการคุมครองและอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมควบคูกันไป ราง
แผนการใชที่ดินที่จัดทําขึ้นสามารถนําไปสูการสงเสริมใหมีการปลูกพืชเหมาะสมกับสภาพพ้ืนท่ี สําหรับใชเปน
แนวทางในการพฒั นาชุมชนบนพ้ืนทสี่ ูง ทางดา นสิ่งแวดลอม เศรษฐกิจ สังคม โดยมีความสอดคลองกับศักยภาพ
ของแตล ะพื้นทเ่ี พือ่ นาํ ไปสูการแกปญหาในการลดพื้นท่ีปลกู ฝน อยางย่ังยืนตอไป
โครงการวางแผนการใชท ่ีดนิ เพ่อื บริหารจดั การพน้ื ทชี่ ุมนาํ้
ท่มี ีความสาํ คญั ระหวางประเทศ “อทุ ยานแหงชาติเขาสามรอ ยยอด”
ณฐมน ผอ งแผว นกั วิเคราะหน โยบายและแผนชาํ นาญการพิเศษ, ปรยี ารตั น ชยั ลงั กา นกั สาํ รวจดนิ ปฏบิ ัตกิ าร
อสุ มุ า ชะแลวรรณ นกั สํารวจดนิ , จันจริ า องอาจ นกั วชิ าการเกษตร, อนสุ รณ ศุภศรี เศรษฐกร
กลมุ วางแผนบรหิ ารจดั การพนื้ ที่ชมุ นาํ้
โครงการวางแผนการใชท่ีดินเพ่ือบริหารจัดการพื้นท่ีชุมน้ําที่มีความสําคัญระหวางประเทศอุทยานแหงชาติ
เขาสามรอยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ จัดทําข้ึนโดยมีวัตถุประสงคเพื่อกําหนดแผนการใชที่ดินในพื้นที่ชุมน้ํา
โดยรอบ และศึกษาความรูความเขาใจของชุมชนโดยรอบพ้ืนที่ชุมนํ้าตอการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจาก
ปจจุบันความหลากหลายทางชีวภาพรอบๆ พ้ืนที่ชุมนํ้าอุทยานแหงชาติเขาสามรอยยอดเริ่มเปล่ียนแปลงไป สัตวน้ํา
และนกน้ํา ในบริเวณดังกลาวคอยๆ สูญพันธุไปหลายชนิด ทั้งนี้เพ่ือเปนการศึกษาแนวทางในการอนุรักษและฟนฟู
พ้ืนที่ชุมนํ้าระหวางประเทศแหงนี้ คณะทํางานจึงมีการกําหนดพ้ืนที่กันชนเพ่ือจัดทําโครงการวางแผนการใชท่ีดิน
เพ่อื บริหารจดั การพื้นทีช่ ุมนาํ้ ท่มี คี วามสาํ คญั ระหวางประเทศอทุ ยานแหงชาตเิ ขาสามรอยยอด
ขอบเขตพ้ืนท่ีศึกษาของโครงการ ครอบคลุมพ้ืนที่
อําเภอสามรอยยอด อําเภอปราณบุรี และอําเภอกุยบุรี จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ มีเน้ือที่ประมาณ 257,982 ไร ประกอบดวย
ระบบนิเวศท่ีหลากหลาย เชน ระบบนเิ วศบก ไดแก เทือกเขา ปาไม
ท่ีอยูอาศัย และพ้ืนท่ีการเกษตร เชน พืชไร ไมผล และไมยืนตน
ระบบพ้ืนท่ีชุมน้ํา ไดแก บึงนํ้าจืด ปาชายเลน และหาดทราย
รวมถึงนาขาวซึ่งอยูบริเวณใกลปาชายเลน พันธุไมข้ึนอยูเปนแนว
ตามชายคลองบริเวณชวากทะเล
กระบวนการในการทํางานโครงการวางแผนการใชที่ดินเพ่ือบริหารจัดการพื้นที่ชุมนํ้าท่ีมีความสําคัญ
ระหวางประเทศอุทยานแหงชาติเขาสามรอยยอด มีข้ันตอนตางๆ ไดแก การรวบรวมขอมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ
ที่เกี่ยวของ ท้ังดานกายภาพ เศรษฐกิจ และนโยบายตางๆ การวิเคราะหขอมูล และการวางแผนการใชท่ีดิน เพ่ือ
บริหารจัดการพน้ื ทชี่ มุ นาํ้ ทม่ี คี วามสําคัญระหวางประเทศอุทยานแหงชาติเขาสามรอยยอด ในพื้นท่ีรัศมี 5 กิโลเมตร
โดยรอบพืน้ ที่ชุมน้ําดังกลา ว
ประโยชนที่ไดรับจากการดําเนินโครงการ คือ สามารถนําแผนการใชท ดี่ ินท่ีไดไ ปกาํ หนดขอบเขตการใชที่ดิน
ใหเหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่ ภายใตนโยบายและความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ และสามารถนําขอมูล
ที่ไดไปสนับสนุนการวางแผนระดับประเทศ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน และทรัพยากรนํ้าอยางบูรณาการ
รวมท้ังสามารถสนับสนุนแนวทางการกําหนดกรอบการดําเนินงานและแนวทางการดูแลรักษาส่ิงแวดลอมในพื้นที่ชุมน้ํา
อยางย่งั ยนื ภายใตความรวมมือระหวา งประเทศ
การปรับปรุงแผนการใชท ี่ดินระดับลมุ น้ําสาขา
เพอื่ การบริหารพ้ืนทีช่ มุ น้ําโดยใชแ บบจาํ ลองภูมิสารสนเทศ
: กรณีศึกษาลุม น้ําหลักแมนํ้ายม
โดย : นายดิเรก คงแพ นักวิเคราะหนโยบายและแผนชาํ นาญการพิเศษ
กลมุ วางแผนบรหิ ารจดั การพ้ืนทชี่ ุมน้าํ
นโยบาย ประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ทางสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ
(สศช.) ไดนําไปใชเปนสวนหนึ่งในการจัดทําแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 12 ที่จะใชบังคับ
ระหวางป 2560-2564 ซ่ึงนโยบาย Thailand 4.0 ไปบรรจุไวในแผนยุทธศาสตรชาติ รัฐบาลตองการผลักดัน
ประเทศเขาสูเศรษฐกิจดิจิทัลพ่ือใหประเทศพนจากกับดักรายไดปานกลาง แตเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงคอนขางเร็ว
ซ่ึงปจจุบัน Transform or Perish (ปรับตัวหรือแตกดับ) ถูกนํามากระตุนใหองคกรตระหนักถึงความสําคัญ
ของการปรับตัว เน่ืองจากปจจุบันเทคโนโลยีไดเขามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ของผูคนอยางมาก ศัพทคําวา
Digital Transformation (DT) จึงถูกนํามาใชบอยคร้ัง DT หมายถึงการนํา Digital Technology เขามาปรับใช
กับทกุ สวนของธุรกจิ เปน ผลใหเ กดิ การเปลยี่ นแปลงต้ังแตร ะดบั รากฐาน กระบวนการทํางาน จนถึงกระบวนการ
สง มอบคณุ คา ใหกบั ลกู คา และมากกวา นั้นอาจถงึ ข้นั เปน การเปลี่ยนวัฒนธรรมขององคกรใหสามารถทาทายกับ
ส่งิ เดมิ ๆ กลา ลองผิดลองถูกมากขนึ้ และไมกลัวความลม เหลว DT นั้นเกี่ยวของกับ “คน” เปนหลัก เพราะถาคน
ไมยอมเปล่ียน จะมีเทคโนโลยีที่ดีแคไหนก็คงไมมีประโยชน ซึ่งแตละองคกรก็มีระดับความ “ดุดัน”
ในการเปล่ียนที่แตกตางกันไป องคกรท่ีดุดันหนอยก็อาจจะทําการลดคน ลดจํานวนสาขา องคกรท่ีดุดันนอย
ก็จะคอยๆ รอใหคนเปล่ียนตาม ท้ังนี้และท้ังน้ัน การท่ีจะทําใหคนเปล่ียน ระบบการทํางานเปล่ียนแปลงไป
จากการศึกษาของ DTI (2015) (Digital Transformation Initiative) พบวากลุมเทคโนโลยีสําคัญ
ประกอบดวย 7 กลุมเทคโนโลยี ไดแก 1) Artificial intelligence (A.I.) 2) Autonomous vehicle 3) Big data
analytics and cloud 4) Custom manufacturing and 3D printing 5) Internet of Things (IoT) and
connected devices 6) Robots and drones และ 7) Social media and platforms ซ่ึงทั้ง 7 กลุม
เทคโนโลยนี ้ี ไมร วมถงึ เทคโนโลยอี ุบัติใหม (Emerging technologies) เชน Block chain ที่มีบทบาทสําคัญใน
ปจจุบันน้ีเชนกัน การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information technology) เปนการใชเทคโนโลยีเพื่อใชใน
การบริหารจัดการฐานขอมูลภายในองคกร เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการวางแผนการใชท่ีดิน
เพ่ือใหการดําเนินการวิเคราะหกระบวนการดังกลาวโดยใชแบบจําลองภูมิสารสนเทศ การศึกษากระบวนการ
วิเคราะหแ บบจําลองภูมสิ ารสนเทศเพ่ือใชในการวิเคราะหแบบอัตโนมัติดวย Model Builder กับการพัฒนา scrip
ดว ยภาษาไพธอน (Python)
ดังน้ัน กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาท่ีดิน จึงไดจัดทําการศึกษากระบวนการปรับปรุง
แผนการใชท่ีดินระดับลุมนํ้าสาขาโดยใชแบบจําลองภูมิสารสนเทศ และการจัดทําฐานขอมูลเพ่ือสนับสนุน
แบบจําลองข้ึน การพัฒนาแบบจําลอง Model Builder เพ่ือใชวิเคราะหฐานขอมูล ในการจัดลําดับการใชคําส่ัง
Geo-processing และ โปรแกรมทางดาน GIS รวมกับการเขียนโปรแกรมภาษา Python เปนภาษาโปรแกรม
ทีส่ ามารถสรางงานไดหลากหลายกระบวนทัศน (Multi-paradigm language) โดยจะเปน การนําเอาหลักการ
ของกระบวนทัศน แบบ Object-oriented programming, Structured programming, Functional
programming และ Aspect-oriented programming กระบวนการปรับปรุงแผนการใชที่ดินระดับลุมน้ําสาขา
ไดพัฒนาฐานขอมูลและระบบการจัดการฐานขอมูล (Database and database management system)
ตามองคการมาตรฐานอุตสาหกรรมนานาชาติท่ีเรียกวา ISO/TC211 ตามโครงสรางพ้ืนฐานขอมูล
ภูมิสารสนเทศของประเทศไทย หรือ Thailand Spatial Data Infrastructure (ThaiSDI) (UN-GGIM, 2016)
เพื่อสรางองคความรูนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Innovation Knowledge:-DIK) ดานการวางแผนการใชท่ีดิน
ในอนาคต โดยใชแบบจําลองภูมิสารสนเทศและการจัดทําฐานขอมูลเพ่ือสนับสนุนแบบจําลอง :กรณีศึกษาลุม
นา้ํ หลกั แมน ํา้ ยม
ผลการวิเคราะหขอ มลู เขตการใชท ี่ดนิ ลมุ นํา้ หลกั แมนา้ํ ยม
การสาํ รวจ จาํ แนก และจัดทาํ ฐานขอ มูล
ทะเบยี นรายชือ่ พน้ื ท่ีชมุ นาํ้ ทีม่ คี วามสําคัญระดบั ทอ งถ่นิ
โดย : กลุมวางแผนบริหารจดั การพ้ืนที่ชมุ นาํ้
กลุมวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ชุมนํ้า ปฏิบัติงานเพ่ือสนับสนุนการดําเนินงาน
ดานส่ิงแวดลอมเก่ียวกับพ้ืนที่ชุมนํ้ามาอยางตอเนื่อง โดยดําเนินการสํารวจ จําแนกและจัดทําฐานขอมูล
ทะเบียนรายชื่อพื้นท่ีชุมน้ําที่มีความสําคัญระดับทองถิ่นตั้งแตปงบประมาณ 2554 เพ่ือสํารวจพื้นท่ีชุมน้ํา
ที่มีความสาํ คญั ระดบั ทองถิ่นและจัดทําเปน ฐานขอ มูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร ใหสามารถนําไปสนับสนุน
ขอมูลดานการวางแผนการใชที่ดินเพื่อการบริหารจัดการพ้ืนท่ีตามความเหมาะสมลักษณะทางกายภาพ
เศรษฐกิจและสังคม ขอกฎหมาย นโยบายและส่ิงแวดลอม ท้ังนี้ฐานขอมูลดังกลาวยังเปนขอมูลสําคัญที่ใช
ในการดําเนินงานภายใตอนุสัญญาวาดวยพ้ืนท่ีชุมนํ้าตอไป (อนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมนํ้าไดใหคําจํากัดความ
ของพืน้ ท่ีชมุ น้ําวา พ้ืนท่ีลุม พนื้ ท่ีราบลุม พ้ืนท่ีลุมชื้นแฉะ พื้นที่ฉํ่าน้ํา มีนํ้าทวม มีน้ําขัง พ้ืนท่ีพรุ พ้ืนท่ีแหลงน้ํา
ท้ังท่ีเกิดข้นึ เองตามธรรมชาติและท่ีมนุษยสรางข้ึน ท้ังท่ีมีนํ้าขังหรือทวมอยูถาวร และชั่วคร้ังชั่วคราว ทั้งท่ีเปน
แหลงน้ําน่ิง และนํ้าไหล ท้ังที่เปนนํ้าจืด นํ้ากรอย และน้ําเค็มรวมไปถึงพื้นท่ีชายฝงทะเล และพื้นที่ของทะเล
ในบรเิ วณซึ่งเมือ่ น้ําลดลงตํา่ สุดมีความลกึ ของระดบั นาํ้ ไมเ กิน 6 เมตร)
การดําเนนิ งานสาํ รวจจาํ แนก จดั ทาํ ฐานขอมูลทะเบียนรายช่ือพ้ืนที่ชุมน้ําที่มีความสําคัญระดับทองถิ่น
ป 2562 ไดด าํ เนนิ งานในพ้ืนทจี่ ังหวดั ฉะเชงิ เทรา จาํ นวน 601 จุด ชลบุรี 631 จุด ปราจีนบุรี 750 จุด ระยอง 457 จุด
และสระแกว 457 จุด ผลการสํารวจพบวา พ้ืนที่ชุมนํ้าหลายแหงกําลังประสบปญหาความเส่ือมโทรมจากการบุก
รุกพ้ืนที่ เน่อื งจากไมมีแนวเขตที่ชดั เจน การเปลย่ี นแปลงพ้ืนทเ่ี พ่อื ทําการเกษตร การตืน้ เขนิ ของแหลงนา้ํ
โครงการศึกษา กระบวนการดําเนนิ งาน
เพื่อรองรบั การประกาศเขตอนรุ ักษดินและน้าํ
ตามพระราชบญั ญตั พิ ฒั นาทีด่ นิ พ.ศ. 2551 กรณศี กึ ษาลมุ นํา้ หว ยไคร
โดย : นางผกาฟา ศรจรสั สุวรรณ นกั วิเคราะหนโยบายและแผนชาํ นาญการพเิ ศษ
นางสาวนรนิ ทรพ ร นาเมือง นกั วิชาการเกษตรชาํ นาญการพเิ ศษ
กลมุ วางแผนบรหิ ารจดั การพ้ืนทช่ี มุ นํ้า
กลุมวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ชุมน้ํา ไดทําการศึกษา
กระบวนการดําเนินงานเพ่ือรองรับการประกาศเขตอนุรักษดินและนํ้า
ตามพระราชบัญญัติพัฒนาท่ีดิน พ.ศ. 2551 กรณีศึกษาลุมน้ําหวยไคร
ตําบลวาวี อําเภอแมสรวย จังหวัดเชียงราย มีเปาหมายการศึกษา เปนการ
ดําเนนิ งานออกแบบจัดระบบอนุรกั ษดนิ และน้ํา เพอื่ ใหสามารถแกไ ขปญหา
หรือปองกันบรรเทาผลกระทบจากการชะลางพังทลายของดิน และพ้ืนที่
เสี่ยงภัยดินถลม ในการดําเนินงานครั้งนี้ แบงเปน 2 ข้ันตอน คือ ขั้นตอนที่
1 การดําเนินการประกาศเขตสํารวจที่ดิน และขั้นตอนท่ี 2 ดําเนินการ
ประกาศเขตอนุรักษด นิ และน้าํ
ซึ่งผลของการศึกษาลุมนํ้าหวยไคร เนื้อท่ี 14,434 ไร และพ้ืนท่ีจัดระบบอนุรักษดินและนํ้ามีเน้ือท่ี 2,181 ไร พบวาสภาพ
พนื้ ทล่ี มุ นํ้าหวยไครมีลักษณะพน้ื ท่ตี ั้งแตล กู คลื่นลอนลาดถงึ สงู ชนั มาก มีสภาพดินเปนดินลึกปานกลาง ถึงลึกมากและสภาพดินต้ืนถึง
ช้ันเศษหนิ พุ การประกอบอาชีพสว นใหญท าํ การเกษตร และบางสว นมรี ายไดจากการทาํ เปน แหลงทองเท่ียว เน่ืองจากพื้นที่ลุมน้ําหวย
ไคร ประกอบไปดวย บานหวยธาตุ บานปาซาง บานหวยไคร และบานดอยชาง ซึ่งเปนแหลงพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ นั่น
คอื กาแฟ แมคคาเดเมยี รวมถงึ ไมผ ลเมอื งหนาวอนื่ ๆ
ผลจากการศกึ ษาความรูค วามเขาใจและความคดิ เหน็ ของเกษตรกรในพ้ืนท่ลี มุ นํา้ หวยไคร พบวา เกษตรกรมีความรู
ความเขา ใจในระดับดแี ละเห็นดว ยมาก ในการนํามาตรการอนุรักษดินและนํ้า ทั้งวิธีกลและวิธีพืช มาใชในการแกไขปญหาการชะลาง
พงั ทลายของดนิ และบา นดอยชางเปน พนื้ ท่ที ป่ี ระสบปญ หาเสี่ยงภัยตอดินถลม จึงเปนพื้นท่ีนํารองการปองกันและบรรเทาผลกระทบ
จากภยั ธรรมชาตทิ ่ีเกิดจากดินถลมในพื้นที่ โดยมี รศ.ดร.สุทธศิ กั ด์ิ ศรลมั พ และทีมคณะมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ทําการศึกษาและ
ออกแบบโครงสรางทางวิศวกรรม ใหแกชุมชนท่ีตั้งบานเรือนอยูบนพ้ืนท่ีเส่ียงตอดินถลม สําหรับกรมพัฒนาที่ดินเปนหนวยงาน
ท่อี อกแบบงานจัดระบบอนรุ กั ษด ินและนาํ้ เพ่ือแกไขปญหาทางดานการเกษตรใหกับชุมชนโดยมีการกําหนดเขตการใชที่ดินใหตรงกับ
หลักวิชาการและโครงสรา งของดิน โดยขอมลู การวางแผนการใชท ด่ี นิ และการออกแบบระบบอนรุ ักษด นิ และน้ําน้ัน กรมพัฒนาท่ีดินได
สง มอบขอมลู ใหก บั องคการบริหารสว นตาํ บลวาวี ดําเนินการพฒั นาตอ ไป
การสาํ รวจและการจดั ทาํ แผนทสี่ ภาพการใชท ด่ี นิ
(มาตราสว น 1:25,000)
โดย : กลมุ วเิ คราะหส ภาพการใชท ่ีดิน
กลุมวิเคราะหสภาพการใชที่ดินกองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน มีหนาที่รับผิดชอบในการสํารวจและ
จัดทําแผนที่สภาพการใชท่ีดิน มีการศึกษาและติดตามสถานการณการใชที่ดิน ตลอดจนการเปล่ียนแปลงการใช
ที่ดินของประเทศไทยเปนรายจังหวัด ในระดับมาตราสวน 1:25,000 เพื่อใชเปนฐานขอมูลในการกําหนดแผนการ
จัดการทรัพยากรท่ีดิน โดยนําขอมูลจากดาวเทียมมาใชในการวิเคราะหสภาพการใชท่ีดินรวมกับการตรวจสอบ
ขอมูลภาคสนาม
ในป 2562 มีการดาํ เนนิ งาน ในพนื้ ท่ี 36 จังหวัดประกอบไปดวยภาคกลาง 16 จังหวัด และภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนอื 20 จงั หวัด มีเนือ้ ทร่ี วมท้ังสิน้ 128,936,964 ไร
ภาคกลาง
1. จังหวัดกรุงเทพมหานคร มเี นอ้ื ทีร่ วม 978,263 ไร
2. จังหวัดชัยนาท มีเน้ือทร่ี วม 1,543,591 ไร
3. จังหวัดนครนายก มีเนอ้ื ท่ีรวม 1326,250 ไร
4. จังหวัดนครปฐม มีเน้อื ทรี่ วม 1,355,210 ไร
5. จังหวัดนนทบรุ ี มเี น้ือทร่ี วม 388,939 ไร
6. จังหวดั ปทุมธานี มเี น้ือทีร่ วม 953,660 ไร
7. จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา มีเนอ้ื ท่ีรวม 1,597,900 ไร
8. จงั หวัดราชบุรี มเี น้อื ที่รวม 3,247,787 ไร
9. จังหวดั ลพบรุ ี มเี นือ้ ท่ีรวม 3,874,846 ไร
10. จงั หวัดสมทุ รปราการ มเี นอ้ื ท่รี วม 627,557 ไร
11. จังหวัดสมุทรสงคราม มีเนื้อทร่ี วม 260,442 ไร
12. จังหวัดสมทุ รสาคร มีเน้อื ท่ีรวม 545,217 ไร
13. จังหวัดสระบุรี มีเนอื้ ทีร่ วม 2,235,304 ไร
14. จงั หวัดสงิ หบ ุรี มีเนอ้ื ท่รี วม 514,049 ไร
15. จงั หวัดสุพรรณบุรี มีเน้ือที่รวม 3,348,755 ไร
16. จังหวัดอางทอง มีเน้ือที่รวม 605,233 ไร
รวม 23,403,003 ไร
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื
1.จังหวดั กาฬสินธุ มเี นอ้ื ท่รี วม 4,341,716 ไร
2.จังหวดั ขอนแกน มเี นอ้ื ที่รวม 6,803,744 ไร
3.จงั หวดั ชัยภูมิ มเี น้อื ทร่ี วม 7,986,429 ไร
4.จังหวดั นครพนม มีเนอื้ ท่ีรวม 3,445,418 ไร
5.จังหวดั นครราชสมี า มีเนือ้ ที่รวม 12,808,727 ไร
6.จังหวัดบึงกาฬ มเี น้อื ทร่ี วม 2,691,091 ไร
7.จงั หวัดบุรรี ัมย มเี นื้อทร่ี วม 6,451,178 ไร
8. จงั หวัดมหาสารคาม มเี นอื้ ทร่ี วม 3,307,302 ไร
9. จงั หวัดมุกดาหาร มีเนื้อท่รี วม 2,712,394 ไร
10.จังหวัดยโสธร มีเนือ้ ท่ีรวม 2,601,040 ไร
11.จงั หวัดรอยเอด็ มีเนือ้ ท่รี วม 5,187,156 ไร
12.จังหวัดเลย มเี นอ้ื ท่รี วม 7,140,382 ไร
13.จงั หวัดศรสี ะเกษ มีเนื้อที่รวม 5,524,984 ไร
14.จงั หวดั สกลนคร มีเนื้อที่รวม 6,003,602 ไร
15.จังหวัดสุรินทร มีเนื้อท่รี วม 5,077,535 ไร
16.จงั หวัดหนองคาย มีเนือ้ ที่รวม 1,891,584 ไร
17.จงั หวดั หนองบัวลําภู มเี น้ือทีร่ วม 2,411,929 ไร
18.จงั หวดั อํานาจเจรญิ มีเน้ือทีร่ วม 1,975,780 ไร
19.จงั หวดั อดุ รธานี มีเนือ้ ที่รวม 7,331,439 ไร
20.จังหวดั อบุ ลราชธานี มเี นือ้ ที่รวม 9,840,531 ไร
รวม 105,533,961 ไร
รวมเน้ือทที่ ง้ั ส้ิน 128,936,964 ไร
พนื้ ที่ปลกู พืชเศรษฐกิจ 5 ชนดิ พชื ป 2562
(ขอมูลจากการสํารวจสภาพการใชที่ดินป 2559-2561)
โดย : กลมุ วเิ คราะหส ภาพการใชที่ดนิ
1. ฝรงั่ มีเนือ้ ท่ีปลกู ทัง้ หมด 77,913 ไร แบง ออกเปน
ฝรัง่ รวมกับพืชชนิดอน่ื 29,845 ไร
ฝรั่ง 48,068 ไร
2. มะเขอื เทศ มีเนอ้ื ทีป่ ลกู ทง้ั หมด 47,187 ไร แบง ออกเปน
มะเขอื เทศหลังนา 400 ไร
มะเขือเทศรวมกับพชื ชนิดอ่ืน 9,964 ไร
มะเขอื เทศ 11,049 ไร
มะเขือเทศไรหมุนเวยี นรว มกับพชื นิดอนื่ 11,569 ไร
มะเขอื เทศไรหมุนเวยี น 14,205 ไร
3. ลองกอง มเี นอื้ ท่ปี ลกู ท้งั หมด 960,262 ไร แบง ออกเปน
ลองกองรว มกบั พชื ชนดิ อน่ื 867,311 ไร
ลองกอง 10,120 ไร
ลองกองในหมูบ าน 82,811 ไร
4. ระกาํ สละ มเี นือ้ ทปี่ ลกู ทง้ั หมด 16,574 ไร แบงออกเปน
ระกํา สะละ รวมกับพชื ชนิดอืน่ 10,0391 ไร
ระกาํ สะละ 6,467 ไร
ระกํา สะละในหมบู าน 68 ไร
5. หนอไมฝ รง่ั มีเนอ้ื ทป่ี ลูกท้งั หมด 2,704 ไร แบง ออกเปน
หนอไมฝ ร่งั หลังนา 5 ไร
หนอไมฝรัง่ รว มกบั พืชชนดิ อ่นื 27 ไร
หนอ ไมฝ ร่งั 2,672 ไร
การตรวจสอบความถกู ตองเนอื้ ท่ียนื ตนยางพารา
จากการแปลและวิเคราะหผลจากภาพถา ยดาวเทียม
โดย : กลุมวเิ คราะหส ภาพการใชท่ดี ิน
ตามที่ไดมีการจัดทําขอมูลเนื้อที่ยืนตนยางพาราของ
ประเทศไทย ป 2561 ตามขอสั่งการรัฐมนตรีวาการกระทรวง
เกษตรและสหกรณ โดยมีรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ
นายสุรจิตต อินทรชิต เปนหัวหนาคณะทํางาน และสํานักงาน
เศรษฐกิจการเกษตร เปนฝายเลขานุการ โดยหนวยงาน
ท่ีเก่ียวของ 8 หนวยงาน ประกอบดวย กรมพัฒนาท่ีดิน(พด.)
สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) กรมสง เสริมการเกษตร(กสก.)
สํานักงานการปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) การยางแหงประเทศไทย(กยท.) กรมปาไม กรมอุทยานแหงชาติ
สัตวปา และพันธุพืช และสานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องคการมหาชน) : GISTDA
ประชุมหารือรวมกันรวม 3 ครั้ง ไดแก การประชุมคร้ังท่ี 1 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 ครั้งที่ 2 เม่ือวันท่ี 15
กุมภาพันธ 2562 และคร้ังท่ี 3 เม่ือวันท่ี 9 เมษายน 2562 และไดมีการประชุมยอย 3 หนวยงาน (พด. สศก. และ
GISTDA) รวม 3 คร้ัง และการออกตรวจสอบความถูกตองของขอมูลภาคสนาม (Ground truth) รวมกันทั้ง 8
หนวยงาน ระหวางวันท่ี 25 กุมภาพันธ – 6 มีนาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงคเพ่ือตรวจสอบความถูกตองของเน้ือท่ี
ยนื ตนยางพาราจากการแปลและวเิ คราะหผลจากภาพถา ยดาวเทียม และเนือ้ ที่ใหผ ลผลติ ของยางพารา
จากการตรวจสอบสามารถสรุปไดวาความถูกตอง
ขอมูลที่แปลและจําแนกในแตละประเภท หากขอมูลมีความถูกตอง
ตํ่ากวารอยละ 80 จะตองทําการแปล และวิเคราะหขอมูลใหม
เพื่อใหไดความถูกตองมากย่ิงข้ึน ซ่ึงในการประชุม คร้ังที่ 3/2562
ท่ีประชุมไดพิจารณาผลการออกตรวจสอบความถูกตองของขอมูล
ภาคสนาม รวมกันท้ัง 8 หนวยงาน พบวา จากเน้ือท่ียืนตนยางพารา
ท่ี 3 หนว ยงาน เหน็ รวมกนั จาํ นวน 28,542,248 ไร แยกเปน เห็นตรงกัน
23,475,616 ไร และเหน็ ตางกนั 5,066,632 ไร โดยผลการออกตรวจสอบ
ความถูกตองของขอมูลภาคสนามคงเหลือเนื้อท่ียืนตนยางพารา
4,696,448 ไร ดังนั้น เน้ือที่ยืนตนยางพาราของไทยในป 2561 ท่ี 8
หนวยงาน บรู ณาการจัดทํารว มกนั ณ เดือนเมษายน 2562 มีจํานวนท้ังส้ิน
28,172,065 ไร และใหท ้งั 8 หนวยงานใชข อมลู เนอ้ื ท่ียืนตน ยางพารา
ประเทศไทย ใหต รงกนั
การจดั ทาํ แผนทพ่ี ื้นท่เี สยี่ งตอ การเกดิ ดินถลม และนา้ํ ปาไหลหลาก
มาตราสวน 1: 4000
โดย : นายสิริธรรม เรขะรจุ ิ นกั วิชาการเกษตรปฏิบตั ิการ
กลมุ วางแผนการจดั การทีด่ นิ ในพนื้ ท่เี สย่ี งภยั ทางการเกษตร
การเกิดดินถลมและนํ้าปาไหลหลากเปนปรากฏการณ
ท่ีมักเกิดข้ึนควบคูกัน สวนใหญเกิดขึ้นบริเวณภูมิประเทศ
ที่เปนพื้นที่สูงชัน มีสาเหตุเน่ืองมาจากฝนตกหนักในพื้นที่รับนํ้า
ในปริมาณท่ีมากเกินกวาที่พ้ืนที่รับน้ําจะสามารถรับได ทําให
ปริมาณนา้ํ สว นเกินนีไ้ หลหลากจากพื้นที่รับนํ้าลงสูพื้นท่ีท่ีตํ่ากวา
ความเร็วในการไหลของกระแสนํ้าจะข้ึนอยูกับสภาพภูมิประเทศ
เชน ความลาดชนั ของพน้ื ท่ี ขนาดของลาํ นาํ้ เปนตนถากระแสน้ํา
มีความเร็วมากจะพัดพาทุกสิ่งที่ขวางทางนํ้าใหไหลไปตามกระแสนํ้า กอใหเกิดความเสียหายทั้งตอชีวิตและ
ทรัพยสินเปนมูลคามหาศาล นอกจากน้ีการตัดไมทําลายปาหรือเปลี่ยนแปลงสภาพการใชประโยชนท่ีดิน
ในพนื้ ท่ีรับนา้ํ ถือเปน ปจจัยกระตนุ ที่เรงทาํ ใหด นิ ถลมและน้ําปาไหลหลากเกิดเร็วขน้ึ กวา ที่เคยเกิดในสภาพปกติ
เน่ืองจากสภาพการอุมน้ําของดินนอยลง นํ้าท่ีไหลอยูบริเวณพื้นผิวดินมากขึ้นรวมตัวกันในลําน้ําสาขาเร็วขึ้น
มีปริมาณมากในระยะเวลาส้ันลง ประกอบกับดินซึ่งขาดรากไมใหญยึดเกาะเสริมความแข็งแรงก็จะพังถลม
เคลื่อนตัวลงปนกับนํ้า ทําใหเปนนํ้าโคลนซ่ึงมีความหนาแนนสูงมีกําลังพัดพาตนไมก่ิงไมมากขึ้นและพลังงาน
ในการทําลายตามลํานํา้ ที่ไหลผานสงู ขนึ้
การจัดทําแผนที่พ้ืนที่เสี่ยงตอการเกิดดินถลมและน้ําปาไหลหลาก มาตราสวน 1: 4000 เพื่อใชเปน
ขอมูลพ้ืนฐานในการวางแผนปองกันและลดผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากเหตุการณดินถลมและนํ้าปาไหลหลาก
โดยดําเนินการต้ังแตป 2553-2561 ซ่ึงดําเนินการไปแลวรวม 190 ลุมนํ้าสาขา และในป 2562 จัดทําแผนที่
พืน้ ทเ่ี สีย่ งตอการเกดิ ดนิ ถลม และประเมนิ พ้นื ทท่ี จี่ ะไดร ับความเสยี หายจากดินถลมจํานวน 14 ลุม นํา้ สาขา
โครงการปรบั ปรงุ ฐานขอ มูลแผนทพี่ ืน้ ทนี่ ํา้ ทว มซา้ํ ซาก
โดย : นางอารรี ัตน เรอื นทอง นักวิชาการเกษตรชาํ นาญการพเิ ศษ
กลมุ วางแผนการจัดการทีด่ นิ ในพืน้ ทีเ่ สยี่ งภยั ทางการเกษตร
ปงบประมาณ 2562 ไดดําเนินการจัดทําแผนที่น้ําทวมซํ้าซาก เพื่อใชเปนฐานขอมูลในการ
วางนโยบายการพัฒนาพื้นที่การเกษตรและแนวทางการใชประโยชนท่ีดินเชิงพ้ืนที่ โดยไดดําเนินการในพ้ืนท่ี
เปาหมายภาคกลาง 10 จังหวัด ไดแก จังหวัด สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธานี อยุธยา อางทอง นครปฐม
สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ซ่ึงไดมีการวิเคราะหและสํารวจพ้ืนท่ีภาคสนามเพ่ือสุมเก็บขอมูลจาก
เกษตรกรท่ีในพ้ืนที่ พรอมทั้งนําเขาขอมูลและปรับแกไขขอมูลใหมีความถูกตอง ซ่ึงจากการวิเคราะหขอมูล
ไดจาํ แนกการเกดิ นํา้ ทวมซํ้าซาก ตามระดบั ความรนุ แรงออกเปน 3 ระดับ คอื
ระดับ 1 พื้นท่ีน้ําทว มซ้ําซากเปน ประจํา มีนํา้ ทวมขังมากกวา 8 ครั้งในรอบ 10 ป
ระดบั 2 พ้นื ท่นี ้ําทวมซํา้ ซากบอ ยมีน้ําทวมขัง 4-7 ครงั้ ในรอบ 10 ป
ระดับ 3 พนื้ ที่นํ้าทว มซาํ้ ซากเปนครั้งคราวมีนํ้าทว มขงั ไมเ กิน 3 คร้งั ในรอบ 10 ป
แตเนอ่ื งจากในปจจุบันมีการเปล่ียนแปลงประเภทการใชประโยชนที่ดินประกอบกับการเปล่ียนแปลง
สภาพภูมิอากาศ ทําใหเกิดน้ําทวมข้ึนบอยครั้งและทวีความรุนแรงมากข้ึนทุกป ดังน้ันการนําเทคโนโลยีท่ี
ทันสมัย เชน ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร การสํารวจขอมูลระยะไกล และการใชแบบจําลองทางคณิตศาสตร
มาปรบั ปรุงแผนท่ีนํา้ ทวมซาํ้ ซาก จึงทําใหฐานขอมูลดังกลาวมีความเปนปจจุบัน และมีความถูกตองมากย่ิงขึ้น
เพื่อใหสามารถนําไปใชประโยชนในการแกไขปญหานํ้าทวมซ้ําซาก การวางแผนการเพาะปลูกกอนการทํา
การเกษตร ใหมีความเหมาะสมตามสถานการณท่ีอาจเกิดขึ้น ซึ่งจะชวยปองกัน และลดผลกระทบ รวมทั้งลด
ความเส่ยี งท่ีจะเกิดข้นึ จากการทาํ การเกษตรในพื้นทีน่ ํา้ ทวมซ้ําซากตอไปได
โครงการปรบั ปรุงฐานขอ มูลแผนทพี่ ืน้ ท่แี ลง ซํ้าซาก
โดย : นางสาวอจั ฉรี สงิ หโต นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ
กลุม วางแผนการจัดการทดี่ ินในพืน้ ท่เี สีย่ งภยั ทางการเกษตร
ฝนเปนปจจัยสําคัญท่ีสงผลใหเกิดภัยแลงในพื้นที่
แลงซํ้าซาก โดยปญหาจากการเกิดสภาวะความแหงแลง
ในปจจุบันที่พบคือ การขาดแคลนน้ําเพ่ือการอุปโภคและ
ทําการเกษตรในพื้นท่ีตางๆ ซึ่งภัยแลงเปนภัยธรรมชาติท่ีสําคัญ
และกอใหเกิดความเสียหายดานการเกษตรของประเทศ
สภาวะความแหงแลงนอกจากจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แลวยังอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลอม
ท่ีเปนผลจากการกระทําของมนุษย ซึ่งสงผลกระทบโดยตรง
ตอปริมาณนํ้าในพื้นที่ลุมนํ้า อีกทั้งยังมีผลกระทบทางออม
กับปริมาณน้ําฝน ประกอบกับสภาวะของการเปล่ียนแปลง
สภาพภูมิอากาศโดยรวมของโลก (Climate Change) ดังนั้น
เพื่อเปนการปองกันและบรรเทาความเสียหาย จึงไดมีการ
พัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร เพ่ือนํามาประยุกตใชใน
การติดตาม และตรวจสอบพ้ืนท่ีประสบภัยแลงเพื่อนําไปใช
ประโยชนในการแกไ ขปญหาภยั แลงของประเทศตอไป
โดยในปงบประมาณ ๒๕๖๒ นี้ มีพื้นท่ีเปาหมาย คือ
ภาคใต ๑๔ จังหวัด ซ่ึงไดแก ชุมพร สุราษฎรธานี ระนอง
พังงา ภูเก็ต นครศรธี รรมราช ตรัง กระบี่ พัทลุง สตูล สงขลา
ยะลา ปต ตานี และนราธิวาส ซึง่ สามารถแบงพ้นื ท่แี ลงซ้ําซาก
ออกเปน 3 ระดบั ดังน้ีคือ
ระดับที่ 1 พนื้ ท่ีแลง ซา้ํ ซากต้ังแต 6 ครั้งขึ้นไปในรอบ 10 ป
ระดบั ท่ี 2 พื้นทีแ่ ลงซํ้าซาก 4-5 ครั้งในรอบ 10 ป
ระดับที่ 3 พื้นทแี่ ลงซํา้ ซากไมเ กิน 3 คร้ังในรอบ 10 ป
เฝาระวัง เตือนภัย
ดินถลม นํา้ ปาไหลหลาก นํา้ ทว ม และความแหงแลง
โดย : กลุมวางแผนการจัดการทีด่ นิ ในพื้นทีเ่ ส่ยี งภยั ทางการเกษตร
การเตอื นภัยในชวงเกิดภัยเฉพาะหนา หรือ Early warning เปนการเตือนเม่ือมีสัญญาณของการจะเกิดภัย
ท้ังกอน และเร่ิมเกิดขึ้นแลว ซึ่งจะตองอาศัยฐานขอมูลเบ้ืองตนคือพื้นท่ีที่มีโอกาสหรือศักยภาพในการเกิดภัย
ประกอบกับขอมูลจากการตรวจวัดท่ีเที่ยงตรง ที่ตรวจวัดไดจริงในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะแตกตางกันออกไปในแตละ
ประเภทของภัย และจะตองมีระบบรับ-สงขอมูล เพื่อการประมวลผลท่ีรวดเร็ว เชื่อมโยงไปยังศูนยเตือนภัย
และแจง เตอื นไปยังพื้นท่เี ปา หมาย เพ่อื เตรียมการและบรรเทาความสูญเสียที่จะเกดิ ขน้ึ
การเตือนภัย และ การแจงขาวสารตามชวงเวลา ระยะเวลาการเตือนในชวงท่ีมีโอกาสสูงที่จะเกิดภัย
เชน ชวง 3 วัน หรือ 1 สัปดาห เปนตน ดําเนินการโดยการวิเคราะหปจจัยตางๆ ท่ีเก่ียวของกับการเกิดภัย
แผนที่พ้ืนที่ที่มีศักยภาพในการเกิดภัยตางๆ วิเคราะหรวมกับขอมูลสภาพภูมิอากาศ ซ่ึงเปนขอมูล real time
เชน ปริมาณน้ําฝนรายช่ัวโมง จากขอมูลดาวเทียม ซึ่งจะไดขอมูลพ้ืนที่ที่อาจจะเกิดภัยพิบัติ และทําการ
เผยแพรขอมูล พรอมแจงขาวสารผานชองทางท่ีเขาถึงไดงาย เชน website ของกรมพัฒนาท่ีดิน ผานส่ือ
โทรทัศน วิทยุ ส่ือสังคมออนไลน เปนตน เพื่อใหเจาหนาที่ของรัฐทั้งในสวนกลาง สวนภูมิภาค และประชาชน
ไดท ราบลวงหนา สามารถวางแผนเตรียมการรับสถานการณไดทันทวงที ซึ่งจะชวยลดและบรรเทาผลเสียหาย
จากการเกิดภยั ไดสว นหน่ึง
เครอื ขาย
เฝา ระวงั ผา นทาง website ของกรมพฒั นาที่ดิน
http://ldd.go.th/ldd หรอื http://irw101.ldd.go.th/
โครงการการจัดทําแผนทเ่ี ตือนภยั จากนาํ้ ทว มและภัยแลง
ในพ้ืนทีท่ าํ การเกษตรกอ นฤดูกาลเพาะปลูก
โดย : กลุมวางแผนการจดั การทด่ี ินในพน้ื ท่เี สย่ี งภัยทางการเกษตร
การปองกันและลดผลกระทบ โดยการประเมินความเส่ียง เปนวิธีการระบุลักษณะความรุนแรงและ
โอกาสในการเกิดผลกระทบทางลบจากภยั โดยวิเคราะหภ ยั ทอ่ี าจเกิดขึน้ ความลอแหลมที่มีในพ้ืนที่ศึกษา และ
ประเมนิ สภาพความเปราะบาง ณ ขณะน้นั ซึ่งมีความเปนไปไดท่ีจะทําใหเกิดอันตรายตอคน ทรัพยสิน บริการ
การดํารงชีวิต และสิ่งแวดลอม (UNISR 2009) เปนกระบวนการท่ีมีลําดับขั้นตอนชัดเจน เปนระบบ และ
โปรงใส เปนขอมูลพื้นฐานสําคัญสําหรับการวางแผนพัฒนาและตัดสินใจท่ีมีการคํานึงถึงความเส่ียง สามารถ
นําไปปฏิบตั ิไดใ นหลายระดบั เชน ระดับภูมิภาค ระดับชาติ ระดับทองถ่นิ และระดับชมุ ชน
การเกิดน้ําทวมภัยแลงน้ันอาจมีความรุนแรงมากนอยแตกตางกันออกไปในดานพ้ืนท่ี และ
ความเสียหายท่ีเกิดขึ้น ดังนั้นปจจัยท่ีเปนตัวบงช้ีในเชิงพ้ืนท่ี ก็คือ พื้นท่ีที่เกิดข้ึนเปนประจํา และพื้นท่ีหรือ
ชุมชนท่ีไดรับความเสียหายนั่นเอง “การการจัดทําแผนที่เตือนภัยจากนํ้าทวมและภัยแลงในพื้นที่
ทําการเกษตรกอนฤดูกาลเพาะปลูก” เพ่ือใชเปนฐานขอมูลในการเตรียมรับสถานการณภัยธรรมชาติ
ดานการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ โดยจัดทําแผนที่ 3 ชนิด ไดแก แผนท่ีคาดการณความแหงแลง
ในพื้นที่ทําการเกษตร แผนที่คาดการณนํ้าทวมในพื้นท่ีทําการเกษตร และแผนท่ีคาดการณฝนท้ิงชวงในพื้นที่
ทําการเกษตร
โครงการการประยุกตใชระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร
และขอมลู สาํ รวจระยะไกลเพอื่ ปรบั ปรงุ ขอ มูล
การชะลา งพังทลายของดนิ ในพื้นที่เสย่ี งทางการเกษตร
โดย : นางสาวลิขติ พลยศ นักสาํ รวจดินชํานาญการ
กลุม วางแผนการจัดการท่ีดนิ ในพ้ืนท่ีเสย่ี งภัยทางการเกษตร
การประยุกตใชระบบสารสนเทศภูมิศาสตรและขอมูลสํารวจ
ระยะไกลเพ่ือปรับปรุงขอมูลการชะลางพังทลายของดินในพ้ืนท่ีเสี่ยง
ทางการเกษตรมีวัตถุประสงคเพื่อประยุกตใชขอมูลจากระบบสารสนเทศ
ภูมิศาสตรในการปรับปรุงขอมูลการชะลางพังทลายของดินในพ้ืนท่ี
ทําการเกษตร และเพื่อเสนอแนวทางในการวางแผนอนุรักษดินและน้ํา
ในพื้นท่ีเกษตรกรรมท่ีมีการสูญเสียหนาดิน โดยใชวิธีการประเมินการชะลาง
พังทลายของดิน ซ่ึงใชเทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตรรวมกับสมการ
การสญู เสียดนิ สากล Universal Soil Loss Equation (USLE)
จากผลการประเมินการชะลางพังทลายของดินโดยใชเกณฑการวัดและประเมินตามการประเมินการ
สูญเสียดินในประเทศไทย ไดมาซ่ึงแผนท่ีแสดงการสูญเสียดินภาคเหนือ (17 จังหวัด) แลวเสร็จในปงบประมาณ
2561 และในป 2562 ไดดาํ เนนิ การในพื้นท่ีภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน
ผลทีไ่ ดรับ
มีขอมูล และแผนที่การชะลางพังทลายของดิน
ทีเ่ ปน ปจ จบุ ัน ทราบถงึ ปญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก
การใชประโยชนที่ดินท่ีไมเหมาะสมในดานของปริมาณ
การชะลางพังทลายของดิน และเปนขอมูลสนับสนุนการ
ตัดสนิ ใจในการวางแผนการอนุรักษดินและนํ้าในพื้นที่ท่ีมี
ความเสยี หายจากการชะลางพงั ทลายของดิน
โครงการฝก อบรมเชงิ ปฏิบัติการหลักสูตร
“มาตรการปองกันภัยดินถลม ดวยวิธีการอนุรักษดินและนํ้า”
โดย : นางสาวลขิ ติ พลยศ นักสํารวจดินชํานาญการ
กลุมวางแผนการจดั การท่ีดินในพ้นื ทเี่ ส่ยี งภัยทางการเกษตร
โครงการฝกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร
“มาตรการปองกันภัยดินถลมดวยวิธีการอนุรักษดินและน้ํา”
ปง บประมาณ 2562 มีวตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื ใหค วามรูแกเกษตรกร
และชุมชนเรื่องมาตรการปองกนั ภัยดินถลมดวยวิธีการอนุรักษดิน
และน้ํา รวมท้ังเสริมสรางใหเกษตรกรและชุมชนมีสวนรวมใน
การปองกันการเกิดดินถลมดวยวิธีการอนุรักษดินและน้ํา
ซึ่งมีเปาหมายเปนเกษตรกรและประชาชนท่ัวไปที่สนใจเขารวม
โครงการฯ ในพื้นทเ่ี ส่ียงตอการเกิดดินถลม จํานวน 90 คน
โดยทําการจัดฝกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ จํานวน 2 รุน ดังน้ี
รนุ ที่ 1 ไดท าํ การจัดฝก อบรม ณ ศาลาเอนกประสงค หมูที่ 8
ตําบลควนทอง อําเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และ
รนุ ที่ 2 จดั ฝก อบรม ณ หอ งประชุมองคการบริหารสวนตําบลกรุงชิง
หมูท่ี 4 ตําบลกรุงชิง อาํ เภอนบพติ ํา จังหวดั นครศรธี รรมราช
จากการฝกอบรมพบวาผูเขารับการฝกอบรมสวนใหญเปนเกษตรกร รอยละ 91 มีความพึงพอใจใน
ภาพรวมของการจัดโครงการฝกอบรมในคร้ังน้ี ระดับดีมากรอยละ 29 ระดับดีรอยละ 61 และระดับปานกลาง
รอ ยละ 8 โดยเหน็ วา โครงการนี้มปี ระโยชนในเร่ืองของการใหความรูเรื่องระบบการอนุรักษดินและน้ํา การเกิด
ดินถลม การสรางความตระหนักถึงภัยดินถลม และสามารถนําความรูจากการฝกอบรมมาปรับใชในพ้ืนท่ี
เกษตรของตนเองและในชีวิตประจําวนั ได
โครงการฝกอบรม เรือ่ ง “ ขอมลู อตุ ุนยิ มวิทยากบั การวางแผนการ
จัดการทีด่ นิ ในพ้ืนทีเ่ สีย่ งภัยทางการเกษตร”
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2561 กองนโยบายและแผนการใชท่ีดินจัดโครงการฝกอบรม เร่ือง
“ขอมูลอุตุนิยมวิทยากับการวางแผนการจัดการท่ีดินในพ้ืนท่ีเสี่ยงภัยทางการเกษตร” โดยมีการอบรม
ทางไกลผานทางจอภาพ (VDO Conference) เพ่ือเพิ่มองคความรู ความเขาใจในการนําขอมูลและแปล
ความหมายขอมลู ดา นอุตุนยิ มวิทยา เพอื่ ใชในการเตรียมรับสถานการณภัยธรรมชาติและประยุกตใชในการ
ปฏบิ ตั ิงาน
รว มสมั มนาภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรป 2561 และแนวโนมป 2562
"โลกเปลย่ี น เกษตรปรับ เกษตรกรปรบั เปลยี่ น
วันศุกรที่ 21 ธันวาคม 2561รวมสัมมนาภาวะเศรษฐกิจการเกษตรป 2561 และแนวโนมป 2562
"โลกเปล่ยี น เกษตรปรบั เกษตรกรปรับเปลีย่ น จัดโดยสาํ นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร เพ่ือรับฟงการรายงาน
ผลการวิเคราะหภาวะเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงแนวโนมการเปลี่ยนแปลงและแนวทางการพัฒนาภาค
การเกษตรในอนาคต
การประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการ เร่ือง
"การรับฟงความคดิ เหน็ และขอ เสนอแนะตอ การจัดทาํ แผนที่
ความเหมาะสมของที่ดินสาํ หรบั ปลูกพืชสมุนไพร"
วันศุกรที่ 5 เมษายน พ.ศ.2562 นายสมศักดิ์ สุขจันทร ผูอํานวยการกองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน
เปนประธานและรวมประชุม การประชุมเชิงปฏิบัติการ เร่ือง "การรับฟงความคิดเห็น และขอเสนอแนะตอการ
จัดทําแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสําหรับปลูกพืชสมุนไพร" ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แจงวัฒนะ กรุงเทพ
โดยกลมุ นโยบายและวางแผนการใชท ีด่ นิ กองนโยบายและแผนการใชท่ีดิน จัดการประชุมฯ ครั้งน้ีข้ึนเพื่อ รับฟง
ความคิดเห็น และขอเสนอแนะตอการจัดทําแผนที่ความเหมาะสมของท่ีดินสําหรับปลูกพืชสมุนไพร
จากหนวยงานที่เก่ียวของ เพ่ือปรับปรุงแกไขใหมีความถูกตองแมนยํา และสามารถเผยแพรไปใชใหเกิด
ประโยชนส งู สดุ โดยมีผูสนใจเขา รวมประชุมฯ ทั้งส้นิ 6 กระทรวง 21 หนวยงาน รวม 50 คน
พืน้ ท่ีตัวอยางการสํารวจและจัดทําแผนทดี่ นิ 1 : 4,000
และการวิเคราะหช มุ ชนแบบมีสวนรวม (PRA)
วันท่ี 26 -27 มีนาคม 2562 นายโสภณ ชมชาญ อดีตผูเช่ียวชาญดานวางแผนการใชท่ีดิน
นายเสรี จงึ นจิ นิรนั ดร และนายชุมพล คงอินทร ท่ีปรึกษากรมพัฒนาท่ีดิน พรอมดวย เจาหนาที่กองสํารวจ
ดินและวิจัยทรพั ยากรดิน และกองนโยบายและแผนการใชที่ดิน ลงพ้ืนที่ตรวจสอบและแนะนําการสํารวจและ
จัดทําแผนที่ดิน 1 : 4,000 เพื่อประกอบการวางแผนการใชที่ดินระดับตําบล ณ สถานีพัฒนาที่ดิน
กาญจนบุรี โดยมีนายภิญโญ สุวรรณชนะ ผูอํานวยการสํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 10 ผูอํานวยการสถานี
พัฒนาที่ดินในพื้นที่ เจาหนาท่ีในสังกัดสํานักงานพัฒนาท่ีดินเขต 10 ใหการตอนรับและรวมรับฟงแนว
ทางการดาํ เนินการโครงการวางแผนการใชทดี่ นิ ระดับตาํ บล
และวนั ท่ี 22 - 24 เมษายน 2562 นายสมศักดิ์ สุขจันทร ผอู ํานวยการกองนโยบายและแผนการใช
ท่ีดิน พรอมดวยนายโสภณ ชมชาญ อดีตผูเช่ียวชาญดานวางแผนการใชที่ดิน นายเสรี จึงนิจนิรันดร และ
นายชุมพล คงอินทร ที่ปรึกษากรมพัฒนาท่ีดิน ไดลงพื้นที่ตรวจสอบ ใหขอคิดเห็นและเสนอแนะ
การดําเนินงาน การวิเคราะหชุมชนแบบมีสวนรวม หรือ PRA (Participatory Rural Appraisal) โดยมี
นายสากล ณ ฤทธิ์ ผูอํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินกาญจนบุรี วิเคราะหชุมชนแบบมีสวนรวม เพื่อรวบรวม
ขอมูลบริบทชุมชน ปญหา ความตองการ แนะนําแนวทาง การแกไข ปรับปรุงเพื่อพัฒนาการใชที่ดิน
ประกอบการจัดทําแผนการใชท่ีดินตําบลหนองสาหรายของสถานีพัฒนาท่ีดินกาญจนบุรี สําหรับเปนตนแบบ
การวางแผนการใชที่ดินในพื้นท่ีและพ้ืนที่ใกลเคียง ณ ศูนยการเรียนรูบานหนองทราย ตําบลหนองสาหราย
อําเภอพนมทวน จงั หวดั กาญจนบรุ ี