-1-
มาตรฐานและเครอื่ งมือ
งานสงั คมสงเคราะหท์ างการแพทย์
-2-
เคร่ืองมอื การทางานกับผปู้ ่วยระดบั เบือ้ งตน้
เอกสารชุดเครอ่ื งมือประเมนิ วนิ จิ ฉัย และจดั การทางสงั คม
(Social Diagnosis and Management Assessment)
S.D.M.A.
-3-
คาอธิบาย เครื่องมอื ประเมนิ วนิ จิ ฉัย และจดั การทางสงั คม
(Social Diagnosis and Management Assessment) ตัวย่อ S.D.M.A.
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่อื ใช้ในการคน้ หาข้อเท็จจรงิ ของผู้ปุวย
2. เพอ่ื ประเมินและวนิ ิจฉยั ทางสังคม
3. เพ่ือวางแผนการปฏิบัตงิ านสงั คมสงเคราะห์
4. เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ การช่วยเหลือทั้งในระยะส้นั และระยะยาว
5. เพอ่ื ตดิ ตาม ประเมินผลการใหบ้ รกิ ารทางสังคมสงเคราะห์
กลุม่ เป้าหมาย
ผ้ปู ุวยรายบคุ คลทกุ กลุ่มเปาู หมายทางสงั คม (ศึกษาจากหวั ข้อ “ประเภทผปู้ วุ ย” ในแบบประเมิน หน้า ๔ หรอื
ในคูม่ ือฯ หนา้ ๗ - ๘)
ประโยชน์
1. นักสงั คมสงเคราะหส์ ามารถใช้เปน็ เครือ่ งมอื ในการค้นหาข้อเท็จจริง ประเมิน วินจิ ฉยั และวางแผนให้บริการ
ทางสังคมสงเคราะห์
2. นกั สงั คมสงเคราะหส์ ามารถดาเนนิ การชว่ ยเหลอื ตดิ ตามและประเมินผลการให้บริการทางสงั คมสงเคราะห์
3. นกั สังคมสงเคราะหไ์ ดข้ ้อวินิจฉัยทจี่ ะนาไปสู่การประเมนิ ทางวชิ าชพี เชงิ ลึกด้านตา่ ง ๆ ต่อไป
4. ผู้ปวุ ยไดร้ ับการประเมนิ ตามหลักวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และได้รับการบริการตรงตามความต้องการที่แทจ้ ริง
วธิ ีใช้เครื่องมอื
นักสังคมสงเคราะหท์ างการแพทยส์ ามารถนาไปใช้ตงั้ แตข่ ้นั ตอนการรบั เรอ่ื ง วินิจฉัยปัญหา ดาเนนิ การ จนสิน้ สดุ
กระบวนการทางสงั คมสงเคราะห์เพื่อประกอบการตดั สนิ ใจเชงิ วชิ าชพี สังคมสงเคราะหใ์ นการให้บริการ ในกรณีผู้ปวุ ยทม่ี ี
ปัญหา ยุ่งยาก ซบั ซ้อน นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์พิจารณาใชแ้ บบประเมนิ เชิงลกึ ต่อไป
ทั้งนี้ เครื่องมือประเมิน วนิ จิ ฉยั และจดั การทางสังคม ไดแ้ สดงให้เหน็ ถึงกระบวนการทางสังคมสงเคราะหท์ ่ี
นักสงั คมสงเคราะห์ไดท้ างานรว่ มกับผู้ปวุ ยในทุกขน้ั ตอน เรมิ่ ต้ังแต่ขนั้ ตอนการรบั เร่อื งทนี่ ักสงั คมสงเคราะห์เขา้ ไปศกึ ษา
ข้อเท็จจริงเพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มลู ประวตั ิบุคคล ประวัติครอบครัว วิเคราะห์สภาพปญั หาและความตอ้ งการ โดยใช้หลักการวินจิ ฉยั
ทางสังคมตามแบบบญั ชีปัญหาทางสังคม ( Social Problem List) ที่แยกลกั ษณะสภาพปัญหาต่าง ๆ อันสอดคลอ้ งกับ
สงั คมไทย นาไปสูก่ ารวางแผนช่วยเหลอื ท้ังระยะเฉพาะหนา้ และระยะยาวเพอื่ ปอู งกันการเกิดปัญหาซา้ สบื เนือ่ งไปถึงการ
ดาเนนิ การทางสงั คมสงเคราะหโ์ ดยคานึงถึงการใชท้ รพั ยากรทางสงั คมทมี่ อี ยูม่ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดต่อผปู้ ุวยและญาติ
จนถงึ กระบวนการทต่ี ้องติดตามและประเมนิ ผลการใหบ้ รกิ ารแต่ละรายกอ่ นท่ีจะยุตกิ ารใหบ้ ริการ
-4-
เคร่ืองมอื ประเมิน วนิ จิ ฉยั และจดั การทางสงั คม
(Social Diagnosis and Management Assessment) ตวั ยอ่ S.D.M.A.
คาชีแ้ จง เครอื่ งมอื ประเมนิ วินจิ ฉัย และจัดการทางสงั คม เป็นเครื่องมอื ในระดบั เบ้อื งตน้ ทใ่ี ช้ทางานกับผปู้ วุ ยทุกราย
และทกุ กล่มุ เปูาหมายการทางานของนกั สงั คมสงเคราะหท์ างการแพทย์ เน้อื หามีรายละเอียดดังนี้
ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป
รหสั สถานบริการ......................................... วันทีร่ บั CASE ว/ด/ป/.............................HN. ……..........……..…… เลข สค.(SN)………………..…...
คานาหน้า ................ ชอื่ -สกุล ..............................................เลขบตั รประชาชน _ -_ _ _ _ - _ _ _ _ - _ _ _ - _ ว/ด/ป เกดิ .........................
อายุ..................ปี สัญชาติ.................... เชอื้ ชาติ .................. ศาสนา...............สถานภาพสมรส…………........การศึกษา ....................................
สิทธิการรักษา..................................................................... อาชพี ........................................................ หมายเลขโทรศัพท…์ ……………………………
ทอ่ี ยู่ปัจจบุ ัน/ที่ตดิ ตอ่ ได้บ้านเลขท่ี.................. หมู่ ..... ชื่อชมุ ชน ......................... ตาบล....................................... อาเภอ..................................
จังหวดั /ประเทศ............................................. รหสั ไปรษณยี …์ …………………..…….
ส่วนท่ี 2 ขอ้ มลู การคน้ หาขอ้ เท็จจริงเบื้องต้น (Intake and Fact Finding)
2.1 การรบั เรอื่ ง ☐ 1.มาด้วยตนเอง 2. หน่วยงานภายใน แผนก.........................................Admit วนั ท่ี ........................AN………………….
☐ 3. หนว่ ยงานภายนอก .ระบุ................................................ ☐ 4. ในชุมชน.................................................
2.2 กลมุ่ เปาู หมาย/ประเภทผู้ใชบ้ รกิ าร(เลือกตอบ 1 ข้อ) ขอ้ 3-10 กลมุ่ เปาู หมายสงั คมสงเคราะหท์ างการแพทย์ ตาม ICD 10 ระบุ
โรค.ICD10 7 ผู้พิการ/78.ผู้พกิ ารซา้ ซ้อน (เลือกตอบหลายข้อ) 9 ผ้ปู วุ ยอบุ ัตเิ หตจุ ากรถ
1 ผู้ใชบ้ ริการทว่ั ไป.................
2 ผปู้ วุ ยท่ัวไป ระบุ โรค.............. 71 ผพู้ กิ ารทางการมองเหน็ /สายตา 11 ผู้ไมม่ ีหลกั ประกัน/มปี ัญหาการใช้สิทธ์ิ
3 ผปู้ วุ ยโรคเร้อื รงั ระบุ โรค........... ๗๒ ผู้พกิ ารการได้ยิน/การสอื่ ความหมาย 111 คนไทยไมม่ ีเลข 13 หลัก/ตกหลน่
4 OSCC. ระบุประเภท.................... 73 ผู้พิการทางการเคล่ือนไหว/ทางกาย 112 ต่างด้าวหลบหนเี ข้าเมือง
5 ผตู้ ิดสารเสพติด ระบุ .......... 74 ผพู้ ิการทางจิตหรอื พฤติกรรม 113 สิทธกิ ารรกั ษาไมค่ ุ้มครอง
6 ผู้ปุวยประสบอบุ ตั ิเหตุจากการทางาน 75 ผู้พกิ ารประเภทออทสิ ตกิ 114 ข้ามเขต/มาผดิ ข้ันตอน
8 ผู้ปุวยจิตเวช ระบุอาการ........... 76 ผูพ้ ิการทางสติปญั ญา(พฒั นาการ) 115 ไมม่ ีพ.ร.บ.รถ
10 ผู้ติดเช้อื เอชไอวี/เอดส์ 77 พกิ ารทางการเรยี นรู้ 116 อืน่ ๆ ระบุ....../กลมุ่ เสีย่ งต่อการร้องเรียน
ค่ารกั ษาพยาบาล.................................บาท ชาระเงินได้...............................................บาท อนุเคราะห์.............................................บาท
2.3 ผใู้ หข้ ้อมูล ☐ 1. ผูใ้ ช้บริการ ☐ 2. ผู้อนื่ ระบุชื่อ..................................................................... เก่ยี วขอ้ งเปน็ .......................................
2.4 ทอี่ ย่ผู ใู้ หข้ อ้ มูลปัจจุบนั /ทตี่ ดิ ตอ่ ได้................................................................................................. หมายเลขโทรศพั ท์.......................................
2.5 รายไดเ้ ฉล่ยี ต่อเดือน จานวน ............................ บาท แหล่งที่มาของรายได้ ☐ จากการทางาน ☐จากผู้อน่ื ระบุ
2.6 การมีหน้สี นิ ☐ ไมม่ ี ☐ มี จานวน ............................ บาท แหลง่ หนสี้ ิน ☐ ในระบบ ☐ นอกระบบ
ส่วนท่ี 3 ขอ้ มูลทางสงั คม / ปญั หาท่ีสง่ มารบั บริการ/การประเมนิ วินจิ ฉัยปัญหาทางสงั คม ตามแบบบัญชปี ญั หาทางสงั คม (Problem
Social List) ระบปุ ัญหาไดม้ ากกว่า 1 ปญั หา
00 ไมม่ ปี ัญหาสังคม 09 ปญั หาท่ีเกดิ จากบคุ คลอื่นนอกครอบครัว.......................................
01 ปญั หาค่สู มรสและการครองเรอื น……………………………………………. 10 ปัญหาการเงิน.................................................................................
02 ปญั หาระหว่างบิดา มารดา บตุ ร……………………………………………… 11 ปัญหาการศึกษา.............................................................................
03 ปัญหาความแตกแยกในครอบครวั .................................................. 12 ปญั หาการประกอบอาชพี ……………………………………………………..
04 ปัญหาความสมั พันธร์ ะหวา่ งเครือญาต.ิ ........................................... 13 ปัญหาทางกฎหมาย.......................................................................
05 ปัญหาความรกั ................................................................................ 14 ปัญหาท่ีเปน็ อปุ สรรคตอ่ การดแู ลสขุ ภาพของผปู้ วุ ..ย............................
06 ปญั หาทางเพศ................................................................................ 15 ปัญหาความเช่อื วัฒนธรรมและการเมือง…………………………………..
07 ปัญหาภาระในการดูแลผู้เจบ็ ปวุ ย / ผพู้ กิ ารฯ................................. 16 ปัญหาสารเสพติด/ สารทอ่ี อกฤทธติ์ ่อจติ ประสาท............................
08 ปัญหาท่ีอยู่อาศยั /สภาพแวดลอ้ มทีเ่ ป็นภยั ตอ่ สุขภา…พ………………… 17 ปัญหาทเี่ ปน็ ปรากฏการณ์ทางสังคม/ ปญั หาอน่ื ๆ.................................
3.1 สภาพปญั หาทีพ่ บและบันทึกเพิม่ เตมิ ถ้ามี (อธบิ ายพอสงั เขป)....................................................................................................................
3.2 การวางแผนการชว่ ยเหลือระยะสั้น………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓.๓ การวางแผนช่วยเหลอื ระยะยาว.....................................................................................................................................................................
-5-
4 การชว่ ยเหลอื ตามสภาพปัญหาและความต้องการของผปู้ ่วย สามารถระบุไดม้ ากกวา่ 1 หัวข้อ / ประเด็นความตอ้ งการ
0.ไมม่ ีความตอ้ งการ 1. การเสรมิ พลังอานาจ…………………….………………………………………………….……………………...
2. การฟ้นื ฟูสมรรถภาพทางสงั คม......................................................................... ......................... 3. การจัดการทรัพยากรทางสงั คม....................................................................................
4. การบรกิ ารทางสงั คม........................................................................................ ...................................
5. การประเมินความเสีย่ งของผปู้ ว่ ย สามารถระบุไดม้ ากกว่า 1 ประเดน็ ความเสี่ยง / ปจั จยั ความเสยี่ ง
0. ไม่มคี วามเสี่ยง 1. การหลบหนี / ปฏเิ สธการรักษา…………………..……………………………………………………
2. การเจ็บปุวยซ้า………………………………………………………….…………………………………………………………… 3. การมปี ัญหาครอบครวั …………………….………………………………………………………….….……
4. การทาแทง้ / ทอดทง้ิ บตุ ร………………………………………………………………………………………….. 5. การติดสารเสพติด / เสพซา้ ………………………………………………….…….……………………..
6. การทารา้ ยผูอ้ นื่ ………………………………………..………………………………………….…………………………..….… 7. การฆ่าตวั ตาย………………………………………………………………………….…….……………………………
8. การถกู ลว่ งละเมิด / กอ่ อาชญากรรม / การเปน็ เหยอ่ื การคา้ มนษุ ย…์ ……………………… 9. การถูกกีดกนั /ถกู เลอื กปฏิบตั ิจากชุมชนหรือสงั คม / ไม่ไดร้ บั ความเ…ป…็น…ธ…ร…ร…ม
10. การรบั และแพร่เช้ือ HIV…………………………………………………………………………………………….… 11. การไดร้ บั การเล้ียงดู / ดูแลไมเ่ หมาะสม…………….…………….……………….……
12. การเกิดปญั หาสขุ ภาพจติ / จิตเวช……………………..………………………………………….……… 13. การถกู ญาติทอดท้ิง / ไมย่ อมรบั ..........................................................................
6 การใช้แหลง่ สนบั สนนุ ทางสังคมของผูป้ ว่ ย / ครอบครัว ระบุ.......................................................................................................................
7. การติดตามและประเมินผล (Follow up and Evaluation)
☐ 7.1 ได้ติดตาม วนั .....เดอื น...............ป.ี ......... ระบผุ ล...........................................................................................................................
☐ ผ้ใู ช้บริการสามารถดารงชวี ิตได้อย่างปกติ ☐ ส่งตอ่ ไปรับบริการยงั หนว่ ยงานอื่น ระบุ ......................................................
☐ ผู้ใช้บรกิ ารถงึ แก่กรรม ☐ ผู้ใช้บรกิ ารปฏเิ สธการบริการ ☐ ย้ายทอี่ ยู่
☐ 7.2 ไม่ไดต้ ดิ ตาม ☐ 7.3 นดั ตดิ ตามครัง้ ตอ่ ไป วัน..........เดือน................ป.ี ........................
8.ยุติการใหบ้ ริการ (Termination) เพราะ
☐ 8.1 ผใู้ ช้บรกิ ารสามารถดารงชีวิตไดอ้ ย่างปกติ ต้นทนุ การให้บริการ.................บาท
☐ 8.2 ส่งต่อไปรับบริการยงั หน่วยงานอื่นระบุ.................................................................................
☐ 8.3 ผูใ้ ช้บริการถงึ แก่กรรม ☐ 8.4 ผูใ้ ชบ้ รกิ ารปฏเิ สธการบริการ ☐ 8.5 ยา้ ยที่อยู่
9. มีการประเมินความพร้อมครอบครวั หรอื ไม่ 9.1☐ ไม่มี 9.2 ☐ มี ผลการประเมนิ ................................. คะแนน
ผู้ประเมนิ /นักสังคมสงเคราะห์ ...................................................................................
๑๐. แผนผงั ครอบครวั (Family Map) / แผนที่บ้านผูป้ ่วย พอสงั เขป
= เพศหญงิ = เพศชาย = CASE เพศหญิง = CASE เพศชาย × = เสยี ชวี ติ
= สัมพันธห์ า่ งเหนิ
= มคี วามสมั พันธท์ ีด่ ี = มีปัญหาความสัมพันธท์ ะเลาะ/ ขดั แย้ง
= สมั พนั ธ์แนบแนน่
= สมั พันธแ์ ตกแยก
-6-
คูม่ อื การใช้เคร่อื งมือประเมิน วินิจฉยั และจดั การทางสังคม
(Social Diagnosis and Management Assessment) ตัวย่อ S.D.M.A.
คาชแ้ี จง
เครอ่ื งมือประเมิน วนิ จิ ฉัย และจัดการทางสงั คม เป็นเคร่ืองมอื ในระดับเบือ้ งต้นทใ่ี ชท้ างานกับผ้ปู วุ ยทุกราย และ
ทกุ กลมุ่ เปาู หมายการทางานของนกั สังคมสงเคราะหท์ างการแพทย์ เน้อื หามีรายละเอียดดังน้ี
หัวข้อ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
1. ข้อมูลทว่ั ไป หนว่ ยงานทมี่ าใชบ้ รกิ าร ระบโุ รงพยาบาล หรอื รหัส หนว่ ยงาน ตาม สปสช
รหัสสถานบรกิ าร/หนว่ ยงาน วันทีร่ บั เร่อื งสง่ ปรึกษาและมกี ารประเมินทางสังคมสงเคราะหเ์ บอ้ื งตน้ ระบุวนั เดอื น ปี
วันท่ีรับ CASE เลขท่ีผู้ปุวยโรงพยาบาล / ศนู ยบ์ ริการสาธารณสขุ
HN. (Hospital Number) เลขท่ีผ้ใู ช้บรกิ ารสังคมสงเคราะห์
SN. (Social Work Number) (นาย/นาง/นางสาว/สมณะ) เป็นคานาหนา้ ชื่อ สกลุ ระบทุ กุ ครงั้ เพอ่ื ระบุ สถานภาพทาง
คานาหน้า เพศแต่กาเนิดวา่ เป็นหญิงหรอื ชาย
ชื่อ – สกลุ ชือ่ และนามสกุลตามทะเบยี นราษฎร หรือ เอกสารทีท่ างราชการออกให้
เลขท่บี ตั รประชาชน เลขทบ่ี ตั รประชาชนตามฐานขอ้ มูลทะเบยี นราษฎร์
วัน / เดอื น / ปี เกิด วัน / เดือน / ปี เกดิ ตามหลักฐานราชการ
อายุ อายปุ จั จุบนั นับจากปที ี่เกดิ
สัญชาติ / เชอ้ื ชาติ สถานภาพของสัญชาติ/เชอื้ ชาตติ ามหลักฐานราชการ
ศาสนา ระบุตามที่ผูใ้ ชบ้ ริการนับถอื
สถานภาพสมรส สถานภาพของบุคคล ได้แก่
โสด - บุคคลทีย่ งั ไมแ่ ต่งงานมคี รอบครวั
การศึกษา คู่ - บุคคลท่ีอยรู่ ว่ มกนั ฉนั ท์สามีภรรยา ครอบคลมุ ถงึ การจดและไมจ่ ดทะเบียนสมรส
หมา้ ย – บคุ คลทีเ่ คยสมรส หรือเคยอยู่กนิ ฉนั ท์สามี ภรรยา แต่อกี ฝาุ ยเสียชีวิตแลว้
สิทธิการรกั ษา หยา่ / แยกกนั อยู่ – บคุ คลทจ่ี ดทะเบยี นหยา่ หรอื แยกกันอยกู่ ับคโู่ ดยไม่มคี วามสัมพนั ธ์
อาชพี ได้แก่ ฉันทส์ ามีภรรยา
ระดับการศึกษาทีผ่ ูป้ วุ ยยังคงศกึ ษาอย่หู รือจบได้วุฒกิ ารศึกษา ได้แก่ ยงั ไม่เขา้ เรียน ไม่ได้
เรียน ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย ปวช./อนุปริญญา
ปรญิ ญาระดบั ตา่ ง ๆ เป็นตน้
สทิ ธกิ ารรกั ษาพยาบาล ไดแ้ ก่
บัตรประกนั สขุ ภาพ – ผทู้ ่ีมีสทิ ธิตามพระราชบญั ญตั ิหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติพ.ศ.2545
บัตรประกนั สงั คม – ผทู้ ี่มสี ทิ ธติ ามพระราชบญั ญัตปิ ระกันสงั คม พ.ศ.2533
เบกิ ต้นสังกดั – ผทู้ ่ีมีสิทธเิ บกิ จา่ ยจากต้นหนว่ ยงานที่สังกัด
เบิกจา่ ยตรง กรมบัญชกี ลาง – ผ้สู มัครเบกิ จ่ายตรง ตามพระราชกฤษฎีกาเงนิ สวัสดิการ
เก่ยี วกบั การรกั ษาพยาบาล พ.ศ.2523
รฐั วสิ าหกิจ – ผมู้ สี ทิ ธติ ามระเบยี บของหน่วยงานรัฐวสิ าหกจิ
ไมม่ ีหลักประกันสขุ ภาพ – ผูท้ ่ไี ม่มีหลักประกนั สุขภาพใดๆ
ผูใ้ ชส้ ทิ ธิอ่นื ๆ เช่น พระราชบญั ญัติกองทนุ เงนิ ทดแทน พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองผปู้ ระสบภยั
จากรถ ประกันอบุ ตั ิเหตุ ประกนั ชีวิต เป็นตน้
การประกอบอาชีพของผ้ปู วุ ย และเปน็ แหล่งท่มี าของรายได้ ได้แก่ นกั เรียน/นกั ศกึ ษา
เกษตรกร ข้าราชการ พนกั งานของรฐั รัฐวสิ าหกจิ รบั จา้ ง พนักงานบรษิ ทั ค้าขาย
ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ เปน็ ต้น
-7-
หวั ข้อ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศพั ท์ที่สามารถตดิ ต่อได้ท้งั ของผู้ปวุ ยหรือผ้เู กย่ี วข้อง
ทีอ่ ยู่ปัจจุบนั / ท่ตี ิดตอ่ ได้ ที่อย่ตู ามทะเบยี นบ้านที่อยูต่ ามบัตรประชาชน หรือ ทะเบยี นราษฎร หรอื ทอ่ี ยปู่ ัจจบุ นั ท่พี ัก
อาศัยซ่ึงผู้ปวุ ยอาศยั ในปัจจบุ ันที่สามารถติดต่อได้ เพอ่ื สะดวกตอ่ การตดิ ตามและตดิ ตอ่ และ
สามารถสบื ค้นสภาพแวดลอ้ มทางสังคมของผใู้ ชบ้ รกิ ารได้
2. ข้อมูลการค้นหาข้อเท็จจริงเบือ้ งตน้ (Intake and Fact Finding )
๒.๑ การรบั เร่อื ง การรบั เรอ่ื งเก่ียวกับผใู้ ช้บริการสังคมสงเคราะห์ท่มี าด้วยตนเอง หนว่ ยงานภายใน –
ภายนอกส่งมา โดยระบชุ ื่อหน่วยงาน และผู้ใชบ้ รกิ ารทพี่ บในชุมชน โดยระบชุ ือ่ ชุมชน
๒.๒ กลุ่มเปูาหมาย / ประเภท กลมุ่ เปูาหมาย / ประเภทผู้ใช้บริการในงานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ ตาม ICD ๑๐
ผูใ้ ชบ้ รกิ าร และให้ระบโุ รคตาม ICD ๑๐ ไดแ้ ก่
๑ ผใู้ ช้บรกิ ารทั่วไป ประชาชนทเ่ี ขา้ มาใชบ้ ริการสงั คมสงเคราะห์
๒ ผู้ปุวยท่ัวไป ผปู้ ุวยโรคท่วั ไปทเี่ ขา้ รบั การรักษาในโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสขุ โดยไมม่ ภี าวะ
เจบ็ ปวุ ยดว้ ยโรคเรอ้ื รัง
๓ ผปู้ วุ ยโรคเร้ือรัง ผปู้ วุ ยที่ปวุ ยเปน็ โรคท่ีตอ้ งรักษาระยะยาว การรักษาเปน็ เพยี งการพยงุ ไมใ่ ห้มกี ารสญู เสียการ
ทางานของร่างกายมากขึน้ ระบุ โรค เชน่ โรคเบาหวาน โรคอว้ น โรคความดนั โลหิตสูง
โรคหัวใจ โรคไตวาย โรคข้อเส่ือม เปน็ ตน้
๔ ผปู้ วุ ย oscc ผู้ที่ถกู ปฏบิ ตั ิกามกจิ ทุกรปู แบบ รวมถงึ ถกู ขม่ ขน่ื ซ่งึ ผิดกฎหมาย ผ้ทู ี่ถกู กระทาจนเกิด
อันตรายแกร่ ่างกาย จิตใจ หรอื สุขภาพ แตไ่ ม่รวมถงึ การถกู กระทาโดยประมาท และผูถ้ ูก
ลว่ งละเมดิ ทางเพศ หญงิ ท่ีกาลังต้ังครรภอ์ ยแู่ ต่เป็นการตัง้ ครรภเ์ น่อื งจากไม่ปูองกนั ขณะมี
เพศสมั พนั ธ์และไมต่ อ้ งการให้เด็กเกิดมา การตั้งครรภใ์ นระหว่างทีย่ งั อยู่ในวยั เรยี น
ตงั้ ครรภ์โดยพ่อของเดก็ ไมร่ บั ผดิ ชอบ มีความยากจนไม่มเี งินพอหรอื ปจั จัยอื่นจนไมพ่ ร้อมท่ี
จะเลีย้ งดเู ดก็ ทก่ี าลงั จะเกิดมา หญิงท่กี ระทาการด้วยวิธตี า่ ง ๆ เพ่ือยุติการตัง้ ครรภ์ก่อนท่ี
เดก็ จะสามารถดารงชวี ิตอยู่ นอกครรภ์มารดา ผู้ถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ ผู้ถูกกระทาด้วย
ความรนุ แรง หญิงต้ังครรภไ์ มพ่ งึ ประสงค์ / ไมพ่ ร้อม รวมหญงิ ทาแทง้
๕ ผ้ตู ิดสารเสพตดิ ผทู้ ี่เสพสารเสพติดประเภทต่าง ๆ เปน็ เวลานานหรอื ช่วงระยะเวลาหนง่ึ กอ่ ใหเ้ กิดผลเสยี ตอ่
สขุ ภาพของผเู้ สพและสังคม ระบุ ประเภทสารเสพตดิ
๖ ผู้ประสบอนั ตรายจากการ ผูท้ ปี่ ระสบอันตรายหรอื เจบ็ ปวุ ยอันเนอ่ื งมาจากการทางาน
ทางาน
๗ ผพู้ ิการ บคุ คลที่มขี อ้ จากัดในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในชีวติ ประจาวัน หรือเขา้ ไปมีสว่ นรว่ มทางสงั คม
เนอื่ งจากมคี วามบกพรอ่ งในลกั ษณะดงั ตอ่ ไปนี้
๗๑ ผพู้ กิ ารทางการมองเห็น / สายตา
๗๒ ผูพ้ ิการทางการไดย้ ิน / การสือ่ ความหมาย
๗๓ ผ้พู ิการทางการเคลื่อนไหว / ทางกาย
๗๔ ผ้พู กิ ารทางจิตหรอื พฤตกิ รรม
๗๕ ผู้พิการประเภทออทสิ ติก
๗๖ ผู้พิการทางสตปิ ญั ญา (พัฒนาการ)
๗๗ ผูพ้ กิ ารทางการเรยี นรู้
๗๘ ผูพ้ ิการซ้าซ้อน
๘ ผ้ปู ุวยจิตเวช บคุ คลทขี่ าดความสามารถในการปรับตัว เปน็ ผลใหเ้ กดิ ความแปรปรวนท้ังด้านความคดิ
อารมณ์ และพฤตกิ รรม อยใู่ นสภาพทป่ี ุวยเรื้อรังมผี ลกระทบต่อการดารงชวี ติ ของผู้ปุวย
และครอบครัว
๙ ผู้ปุวยอุบัตเิ หตจุ ากรถ ผูท้ ่ปี ระสบภยั จากการจราจรจนได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชวี ิต
๑๐ ผตู้ ิดเชอ้ื HIV / ผู้ปุวยโรคเอดส์ ผ้ปู ุวยที่รบั เชื้อไวรัส HIV หรือผู้ท่มี อี าการของโรคเอดส์
-8-
หวั ข้อ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
๑๑ ผไู้ ม่มหี ลักประกันประกนั ผ้ไู ม่มีหลักประกนั ประกันสขุ ภาพ / มปี ัญหาการใช้ สทิ ธิระบบประกนั สขุ ภาพ ไดแ้ ก่
สุขภาพ / มีปญั หาการใช้ 111 กลุ่มคนไทยที่ไม่มี 13 หลกั หมายถึง คนไทยท่ไี มม่ หี ลกั ฐานทางทะเบยี นราษฎร์
สิทธริ ะบบประกนั สขุ ภาพ หรอื รอพสิ จู นส์ ถานะ หรอื เปน็ บุคคลตกหลน่
1๑2 ตา่ งชาติหลบหนเี ข้าเมอื ง หมายถึง ตา่ งชาติที่ไมม่ หี ลกั ฐานการแสดงตนหรอื
เอกสารทางราชการในการเข้าเมอื ง
113 กลุม่ ท่มี ีปญั หาการใชส้ ทิ ธิ หมายถงึ สทิ ธิการรกั ษาไมค่ ้มุ ครอง หรือข้อยกเว้น
ตามขอ้ ตกลงหรือระเบียบการใช้สทิ ธิการรกั ษา ในระบบประกนั สขุ ภาพ ทกุ สทิ ธิ
114 กลุ่มทีม่ ปี ัญหาการใชส้ ทิ ธิ หมายถึง ข้ามเขต/ผิดขั้นตอน ตามข้อตกลงหรือ
ระเบยี บการใช้สทิ ธกิ ารรักษา ในระบบประกันสุขภาพ ทกุ สทิ ธิ
115 ผปู้ ระสบภยั จากรถท่ีไมม่ ี พรบ. หมายถึง ผู้ทป่ี ระสบภัยจากการจราจรจนได้รบั
บาดเจ็บ พกิ าร หรอื เสยี ชีวติ ไมไ่ ดจ้ ัดทา พรบ.รถ หรอื เขา้ มาตรา 23 (1)
116 อน่ื ๆ ทม่ี ปี ัญหาดา้ นหลักประกนั สุขภาพ เชน่ กล่มุ เส่ียง ม.41 ฯลฯ
คา่ รักษาพยาบาล จานวนยอดค่ารกั ษาพยาบาลทั้งหมดของผปู้ วุ ยในครั้งของการดาเนนิ การ
ชาระเงนิ ได้ จานวนค่ารกั ษาพยาบาลทีผ่ ปู้ วุ ยหรือญาตชิ าระในครั้งของการดาเนนิ การ
อนเุ คราะห์ จานวนคา่ รกั ษาพยาบาลท่นี ักสังคมสงเคราะห์ขออนุเคราะห์งบประมาณจากทางโรงพยาบาล
เพ่ือใหก้ ารช่วยเหลือผูป้ ุวยในครง้ั ของการดาเนินการ
๒.๓ ผใู้ หข้ ้อมลู ผู้ใช้บรกิ าร หรือผอู้ น่ื เชน่ ญาติ / เพ่ือนบ้าน / ผู้นาส่งโดยระบคุ วามสัมพันธก์ ับผู้ปุวย
๒.๔ ที่อยู่ผู้ให้ข้อมลู ปัจจุบนั / ท่ตี ดิ ต่อ ทอ่ี ยูบ่ ุคคลท่ีอ้างถงึ หรือ ผู้ท่มี ีความเกยี่ วขอ้ งกบั ผูใ้ ชบ้ รกิ ารทส่ี ามารถตดิ ต่อบคุ คลผ้นู ้แี ทน
ได้ ตวั ผูใ้ ชบ้ ริการได้
๒.๕ รายได้เฉล่ยี ต่อเดอื น รายไดเ้ ฉลยี่ ของผูใ้ ช้บรกิ ารต่อเดือน โดยระบุจานวนเงนิ และแหล่งที่มาของรายได้ว่าไดร้ ับ
จากการทางานของตนเอง หรือได้รบั จากบคุ คล/หนว่ ยงาน โดยระบชุ อื่ บคุ คล/หน่วยงานท่ี
ใหร้ ายได้
๒.๖ การมีหนสี้ ิน กรณีทม่ี ใี หร้ ะบจุ านวนเงิน และแหล่งท่มี าของหนี้สนิ วา่ เปน็ หนใ้ี นหรือนอกระบบ
3. ข้อมลู ทางสงั คม/ ปญั หาทสี่ ง่ มารบั บรกิ าร / การประเมินและวินจิ ฉัยปญั หาทางสงั คม (Social Assessment and Diagnosis)
ระบปุ ัญหาได้มากกว่า 1 ปญั หา / รหสั
การประเมินและการวนิ จิ ฉัยทาง การวินิจฉยั ปญั หาทางสังคม ( Social diagnosis ) ท่ีเป็นความเดือดร้อน/ความทกุ ข์ของ
สังคม (Social Assessment ผู้ใชบ้ ริการในสิ่งทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับชวี ติ ความเป็นอยู่ ซ่ึงตารางบญั ชปี ญั หาทางสังคม (Social
and Diagnosis) Problem List) ฉบบั น้ี ไดด้ ัดแปลงเนอ้ื หาจากตารางบญั ชปี ญั หาทางสงั คมขององคก์ าร
อนามัยโลกเพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั การปฏบิ ตั งิ านจริง โดยวินิจฉัยต่อเมื่อปญั หาน้ีมี
ความสัมพันธช์ ัดเจนกับสาเหตขุ องการมาใชบ้ รกิ าร
โดยทาเครือ่ งหมาย ในหมายเลขหมวด และระบหุ มายเลขรหสั ต่างๆ ลงในช่องว่าง
................... ซึง่ สามารถระบไุ ด้มากกว่า 1 ปญั หา / รหสั
(ศึกษาตารางบัญชปี ญั หาทางสังคม (Social Problem List) ไดใ้ นหนา้ ๑๖ - ๒๐)
3.๑ สภาพปัญหาที่พบ การประเมินปัญหาเชิงอธิบายตามสภาพปญั หาทีพ่ บและบนั ทึกเพม่ิ เติม อธิบายพอสังเขป
๓.๒ การวางแผนชว่ ยเหลือระยะส้ัน ระบุ แผนการใหค้ วามชว่ ยเหลือตามสภาพปญั หาที่มคี วามเร่งดว่ น วกิ ฤติ เช่น การคุ้มครอง
สวสั ดิภาพผถู้ ูกกระทาด้วยความรนุ แรง การให้การปรึกษา/ชว่ ยเหลือในภาวะวกิ ฤติ การ
เจรจาตอ่ รอง การไกล่เกลย่ี เปน็ ต้น
๓.๓ การวางแผนช่วยเหลอื ระยะยาว ระบุ แผนการใหค้ วามช่วยเหลือในระยะยาว เพื่อปูองกันไม่ให้เกดิ ปญั หาซ้า เชน่ การบาบดั
ทางจติ สงั คม การฟืน้ ฟสู มรรถภาพทางสงั คม การเฝูาระวงั ทางสงั คม เปน็ ต้น
-9-
หวั ขอ้ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
๔. การช่วยเหลอื ตามสภาพปญั หาและความตอ้ งการของผูป้ ่วย
การชว่ ยเหลือตามสภาพปญั หา การช่วยเหลือตามสภาพปญั หาและความต้องการของผปู้ ุวย เป็นการประเมินความต้องการ
และความตอ้ งการของผ้ปู วุ ย ท่แี ทจ้ ริง (Real Need) ของผ้ใู ชป้ วุ ย เพ่ือใหก้ ารช่วยเหลือตามความเหมาะสม ซึ่งมีการ
แบง่ แยกประเภทความต้องการ ได้แก่ การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสงั คม การจดั การทรพั ยากร
ทางสงั คม และการใหบ้ รกิ ารทางสังคม
โดยทาเครือ่ งหมาย ในหมายเลขหัวขอ้ และระบหุ มายเลขประเดน็ ความต้องการ
ต่างๆ ลงในชอ่ งว่าง................... ซึ่งสามารถระบไุ ด้มากกวา่ 1 หัวข้อ / ประเดน็ ความ
ต้องการ
๐ ไม่มคี วามตอ้ งการ ผู้ปวุ ยไมม่ ีความต้องการการชว่ ยเหลือทางสงั คม
๑ การเสรมิ พลงั อานาจ ผูป้ ุวยต้องการการเสริมพลงั อานาจ (Empowerment) ในด้านตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่
(Empowerment)
111 การให้แนะนา/ความรู้ (Advice,Guidance) ดา้ นสวสั ดกิ ารสังคม
112 การใหค้ วามรทู้ างกฎหมาย / พรบ.ทเี่ กี่ยวขอ้ ง
113 การให้ความรู้เกย่ี วกบั เพศศกึ ษา (Sex Education)
114 การให้ความรเู้ ก่ยี วกับการดูแลทางสังคมของผปู้ วุ ย
115 การใหก้ ารปรกึ ษา (Counseling) ของนักสงั คมสงเคราะห<์ 30 นาที
116 การให้คาปรึกษา (Counseling) ของนักสงั คมสงเคราะห์ > 30นาที
117 การใหป้ รกึ ษาเก่ียวกบั บทบาทครอบครัว< 30 นาที
118 การใหป้ รกึ ษาค่สู มรส > 30 นาที
119 การให้ปรกึ ษาคสู่ มรส < 30 นาที
120 การใหก้ ารปรกึ ษาและช่วยเหลือทางสังคม
121 จดั ทากลมุ่ เสริมพลังครอบครวั /ญาติ/ผูด้ ูแล
122 จดั ทากลมุ่ เพอื่ นชว่ ยเพอื่ น (Peer Group)
123 จดั ทากลุ่มเสริมกาลงั ใจ (Group Support)
124 จัดทากล่มุ สนั ทนาการ
125 จดั ทากลุ่มบาบัด
126 จัดทากลุ่ม กลุ่มบาบัด (ครอบครัวบาบดั )
127 จัดทากลุ่มกล่มุ บาบัด( ศลิ ปะบาบัด )
128 จัดทากลมุ่ กลุม่ บาบดั (จิตบาบัด )
129 จัดทากลมุ่ ให้คาปรกึ ษาครอบครัว (Family Group Counseling)
130 จดั ทากลุ่มพิทักษส์ ิทธิ เชน่ หลักประกันสขุ ภาพ ฯลฯ
131 จัดทากลุม่ คุ้มครองสิทธิ เชน่ ค้มุ ครองเดก็ ตามพรบ.
132 การเจรจาต่อรองในภาวะวิกฤติ (MCC )
๑๓๓ การเจรจาต่อรอง/ไกล่เกล่ยี
- 10 -
หัวข้อ ประเภท รายละเอยี ด ความหมาย
๒ การฟนื้ ฟสู มรรถภาพทาง ผู้ปวุ ยตอ้ งการการฟืน้ ฟูสมรรถภาพทาง สังคม (Social Rehabilitation) ในดา้ นต่าง ๆ
สังคม (Social ได้แก่
Rehabilitation)
211 การฟน้ื ฟูสมรรถภาพทางสงั คมรายกล่มุ
212 การฟน้ื ฟสู มรรถภาพทางสงั คมรายบุคคล
213 จัดทากลุม่ ฝึกทักษะทางสงั คม ( Social skills)
214 จดั ทากลมุ่ ฝึกทักษะชวี ติ ( Life Skills)
215 สรา้ งทกั ษะ/วิธกี ารปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรม/ปรับทัศนคติท่ีดี รายบุคคล
216 การสรา้ งสมั พนั ธภาพและการเสรมิ แรงจูงใจในการรกั ษา รายบุคคล
217 การสรา้ งเสริมสขุ อนามัยสว่ นบุคคล
218 สขุ ภาพจติ ศึกษา รายบคุ คล
219 การฟ้นื ฟูทักษะชีวิต รายบคุ คล
220 การเพิ่มทักษะชีวติ ในการดแู ลสุขภาพ
221 ฝึกทักษะการแกไ้ ขปญั หา รายบุคคล
222 ฝกึ ทักษะการดารงชวี ติ เช่น การอาบน้า การแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร รายบุคคล
223 ฝึกทกั ษะพืน้ ฐานในการประกอบอาชพี รายบุคคล(pre-vocational training, individual)
224 ฝกึ ทกั ษะพื้นฐานในการประกอบอาชพี แบบกล่มุ (pre-vocational training, group)
225 ฝึกทดลองงานทั้งในสถานพยาบาลและสถานประกอบการ
226 การใหก้ ารปรึกษาแนะนาในระหว่างประกอบอาชพี (job coach)
227 ทกั ษะพืน้ ฐานการทางานและส่งเสรมิ การประกอบอาชพี อสิ ระ (ฝกึ อาชีพ)
228 ส่งต่อเครือขา่ ยทางสงั คมให้มสี ่วนร่วมในการฟืน้ ฟูฯ
๓ การจัดการทรัพยากรทางสงั คม ผู้ปุวยต้องการการจัดการทรพั ยากรทางสงั คม (Social Resources Management) ใน
(Social Resources ดา้ นตา่ ง ๆ ได้แก่
Management)
311 พิจารณาคา่ รกั ษาพยาบาล ระบุ จานวนค่ารกั ษาพยาบาลท้ังหมด จานวน ชาระได้
..................บาท จานวน อนเุ คราะห…์ …………… บาท
312 จัดหาคา่ พาหนะเดนิ ทางกลับบ้าน/มารบั บรกิ าร ระบุจานวน.....................บาท
313 จดั หาค่าครองชีพชว่ั คราว ระบุ............................. จานวนบาท
314 จัดหาเคร่อื งอุปโภค/บรโิ ภค ระบจุ านวน......................บาท
315 สงเคราะหค์ รอบครัว ระบุ จานวนเงิน................. บาท
316 จดั หา/สงเคราะห์เงนิ ซอื้ กายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ ระบุ ประเภท จานวนเงนิ
.....บาท
317 จดั หา/สงเคราะหเ์ งินซ้ืออุปกรณท์ างการแพทย์/วสั ดุการแพทย์ ระบุ ประเภท จานวนเงิน
318 จัดหา/สงเคราะห์เงินทนุ ประกอบอาชพี ระบุ............................บาท
319 จัดหา/สงเคราะห์เบ้ยี ยงั ชพี ระบุ..........................บาท
320 จัดหา/สงเคราะหท์ นุ การศกึ ษา ระบุ............................บาท
321 จดั หาท่อี ยอู่ าศยั ช่ัวคราว / ถาวร
322 จดั หาสถานทีด่ ูแล/คนดแู ล (หลงั จาหนา่ ยออก โรงพยาบาลแล้ว)
323 การจัดสิ่งแวดล้อมเพ่ือการบาบัด รายบุคคล
324 ประสาน/ส่งต่อศูนย์สุขภาพชุมชนและอาสาสมัครดแู ลกนั เองในชมุ ชน
325 การสง่ ต่อหน่วยงานอน่ื /ประสานงานเครือข่ายด้านสวัสดิการสังคม
- 11 -
หวั ขอ้ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
๔ จดั บริการทางสงั คม (Social ผปู้ วุ ยตอ้ งการการจัดบริการทางสงั คม (Social Service) ในดา้ นตา่ ง ๆ ได้แก่
Service)
411 การประเมนิ ครอบครัว
412 เตรยี มครอบครวั เพอ่ื ฟื้นฟสู มรรถภาพในครอบครัว/ชุมชน
413 ประเมนิ ความเสย่ี ง/เฝูาระวังปญั หาทางสงั คม(Social Surveillance)
414 การพทิ ักษส์ ิทธิในการรักษาพยาบาล
415 การเยยี่ มบา้ นร่วมกบั ทีมสหวิชาชพี
416 การเยยี่ มบา้ น
417 การคุม้ ครองและพิทักษ์สทิ ธต์ิ ามกฎหมาย (Rights Protection and Advocacy)
418 การจัดการรายกรณี(case management)
491 การประเมนิ ทางสงั คม/จดทะเบียนผูพ้ กิ าร
420 การตดิ ตอ่ /ติดตามญาติ
421 การประเมนิ ทางสงั คมอ่นื ๆ
๕. การประเมนิ ความเส่ียงของผปู้ ่วย
การประเมนิ ความเสี่ยงของผูป้ วุ ย การวเิ คราะห์สภาพการณ์และองค์ประกอบทมี่ แี นวโน้มใหเ้ กิดความเส่ยี งของผ้ปู ุวยเพ่ือ
นาไปสกู่ ารเฝาู ระวงั และปอู งกันปัญหาทางสังคม
โดยทาเครอื่ งหมาย ในหมายเลขประเด็นความเสยี่ ง และระบุหมายเลขปจั จยั ความ
เสีย่ งต่างๆ ลงในชอ่ งว่าง................... ซ่งึ สามารถระบไุ ดม้ ากกว่า 1 ประเด็นความเสยี่ ง /
ปัจจยั ความเส่ยี ง
ประเดน็ ความเสย่ี ง ปจั จยั ความเสย่ี ง
หมายเลข รายละเอยี ด
๐ ไมม่ ีความเสีย่ ง ผูป้ วุ ยไมม่ ีความเสยี่ งทางสงั คม
๑ การหลบหนี / ปฏเิ สธการรักษา เปน็ คนตา่ งชาติ แรงงานอพยพ กลมุ่ ชาตพิ นั ธุ์ ผู้ไมม่ สี ถานะบคุ คล
ไมม่ ีญาติเฝาู ดแู ล
มีอาการทางจิตรุนแรง
ผู้ปวุ ยคดี เชน่ ผ้ปู ุวยคดีอาญา ผู้ปุวยท่ีไมม่ ี พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยทางรถ
ไมใ่ ห้ข้อมลู ท่เี ป็นจรงิ / ไม่ใหเ้ อกสารทางราชการแสดงสถานะบคุ คล
ไมส่ มัครใจรกั ษา เช่น ผูป้ วุ ยยาเสพตดิ ท่ถี ูกบงั คบั บาบดั ผ้ปู ุวยจติ เวช
ไม่มาตามนัดการรกั ษา
ไม่ใหค้ วามรว่ มมอื ในการรกั ษา
2. การเจ็บปุวยซา้ ไม่มญี าติ หรอื ผดู้ ูแล
ไม่มาพบแพทยต์ ามนัด
ขาดความรู้ ความเขา้ ใจในการดูแลตนเอง
ไม่ปฏิบัติตามคาแนะนาของทีมผ้รู กั ษา
ไมส่ ามารถสอื่ สารขอ้ มลู ได้ เชน่ ผู้ปวุ ยจิตเวช ผพู้ ิการ แรงงานอพยพไม่รู้ภาษา
สภาพแวดลอ้ มของที่พกั อาศยั ไม่เหมาะสม
- 12 -
หัวขอ้ ประเภท หมายเลข รายละเอียด ความหมาย
ประเด็นความเสี่ยง ปจั จัยความเสีย่ ง
รายละเอียด
3 การมปี ญั หาครอบครวั
ใชค้ วามรนุ แรงในครอบครวั
การไม่ทาตามบทบาทหนา้ ท่ี / ความไม่รบั ผดิ ชอบ
มีความผูกพันกับครอบครวั เดมิ มากเกนิ ไป
มปี ญั หาทางเพศสมั พันธ์
มกี ารส่อื สารไมเ่ หมาะสม
สมาชิกในครอบครัวพิการ / เสยี ชีวติ
สมาชกิ ในครอบครวั เกีย่ วข้องกบั อบายมุข
๔ การทาแทง้ / ทอดทิง้ บุตร มีเพศสัมพันธ์กอ่ นวยั อนั ควร
ไมม่ าฝากครรภ์ หรือฝากครรภ์ต่ากวา่ 2 คร้งั
บตุ รมอี าการเจ็บปุวย / พกิ าร
ไม่แสดงบทบาทความเป็นมารดา เช่น ไม่สมั ผสั ไมใ่ ห้นมบตุ ร
แยกกบั สามี
ถกู ข่มขืน
ญาตผิ ใู้ หญไ่ มย่ อมรับ
5. การตดิ สารเสพติด / เสพซา้ ⑧ มปี ญั หาสขุ ภาพจติ / จติ เวช
⑨ ตดิ สารเสพติด
⑩ เคยมีประวัตทิ อดท้ิงบตุ ร / ยกบุตรใหญ้ าติ ผู้อื่น สถานสงเคราะหเ์ ลีย้ งดู
⑪ อยู่เพยี งลาพัง
⑫ สามีบงั คับใหท้ าแท้ง
มีปญั หาสขุ ภาพจติ
มีปญั หาภายในครอบครวั
ขาดทักษะการดารงชวี ติ เช่น การปฏิเสธ การปรับตัว
อยู่ในสภาพแวดลอ้ มท่ีเส่ยี ง
มปี ระวัติเคยเสพยาเสพติด
เคยถกู บังคับหรอื ถกู หลอกให้เสพ / จาหน่ายยาเสพตดิ
- 13 -
หัวข้อ ประเภท หมายเลข รายละเอยี ด ความหมาย
ประเดน็ ความเสีย่ ง ปจั จยั ความเส่ียง
๖ การทารา้ ยผูอ้ ืน่ รายละเอียด
7 การฆ่าตัวตาย ใช้ยา / สารเสพตดิ
๘ การถกู ลว่ งละเมดิ / พบความผิดหวัง / เสยี ใจอยา่ งรนุ แรง เช่น อกหกั ตกงาน ตดิ เชือ้ HIV ถกู
กอ่ อาชญากรรม / ตกเปน็ เหยื่อ ข่มขืน
การคา้ มนุษย์
ประชดชวี ิต - สงั คม / ถกู ปฏเิ สธจากสงั คม
ปญั หาสขุ ภาพจติ / จติ เวช
ภาวะการเจบ็ ปุวย เรอื้ รงั
นยิ มใชค้ วามรุนแรงในการแก้ไขปญั หา
มีประวัตกิ ารทาร้ายผูอ้ ่ืน
มีปัญหาสุขภาพ ปุวยเรือ้ รัง รุนแรง
พบความผิดหวงั / เสยี ใจอย่างรุนแรงเชน่ อกหกั ตกงาน สอบตก ฯลฯ
มปี ญั หาสุขภาพจติ / จติ เวช เช่น ซึมเศร้า
ใชย้ า / สารเสพตดิ
มปี ัญหาในครอบครวั
มปี ระวตั ิพยายามฆา่ ตัวตาย
มีปัญหาทางเศรษฐกจิ
มีความบกพรอ่ ง หรอื มขี อ้ จากัดทางจติ และสติปญั ญา
ใชส้ ารเสพติด
ขาดทักษะการดารงชวี ิต
เคยถกู ชักจงู ไปในทางไม่ดีจากบคุ คลใกลช้ ิด
อยใู่ นสภาพแวดล้อมท่เี ส่ียง
ไมม่ ีอาชพี / ไมม่ รี ายได้
ถูกกระทาทารณุ กรรมทางกาย จิตใจ อารมณ์ ทางเพศ / ถกู บงั คบั ขเู่ ข็ญ
เป็นคนต่างชาติ / กลมุ่ คนชาตพิ นั ธ์ุ ไมเ่ ขา้ ใจภาษาไทย
- 14 -
หวั ข้อ ประเภท หมายเลข รายละเอียด ความหมาย
ประเด็นความเสีย่ ง ปัจจัยความเสี่ยง
รายละเอียด
9. การถกู กีดกนั / เลอื กปฏบิ ัติ
จากชุมชนหรอื สงั คม การเจบ็ ปุวยด้วยโรคเรื้อรัง โรคติดเช้ือ เช่น เอดส์ วัณโรค โรคติดต่อรา้ ยแรง
จิตเวช
การใช้ยา / สารเสพติด
การไม่เปดิ เผยตนเอง เชน่ ผตู้ ดิ เชื้อ HIV
การถูกละเมิดสทิ ธจิ ากระบบ / การปฏบิ ัตขิ องเจา้ หนา้ ที่ เช่น การประกาศ
ชื่อผู้ปวุ ยเอดส์ตอ่ ทส่ี าธารณะ
การไดร้ บั การปฏบิ ัตอิ ย่างไมเ่ ทา่ เทยี ม
การถกู ปฏิเสธการใหบ้ รกิ ารจากหน่วยงาน
๑๐ การรับและแพร่เชอ้ื HIV ใชย้ า / สารเสพติด
มีพฤตกิ รรมเส่ยี งทางเพศสมั พนั ธ์ เชน่ ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ใช้ถุงยางอนามยั
ไม่ถกู วธิ ี การเปลี่ยนค่นู อน
มีปญั หาสขุ ภาพจติ / จติ เวช
การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ เชน่ ถูกขม่ ขืน ถูกรุมโทรม
ขาดความรู้ความเข้าใจ
ไม่เปิดเผยผลเลือดกับคเู่ พศสมั พันธ์
ความตอ้ งการมีบตุ ร
11 การไดร้ ับการเลี้ยงดู / ดูแล ความเจ็บปุวยของโรคที่รนุ แรง เร้ือรงั
ไม่เหมาะสม ผู้ดแู ลขาดความรู้ / ความเข้าใจ / ทักษะในการดูแล
ผูด้ ูแลมีพฤติกรรมไมเ่ หมาะสม ตดิ สรุ า ยาเสพติด เลน่ การพนนั ทะเลาะ
เบาะแวง้
ผดู้ แู ลไม่มีเวลา มีทศั นคตไิ มด่ ี รงั เกยี งอับอาย ไม่สนใจ
ผดู้ แู ลมีทีอ่ ยไู่ ม่แนน่ อน / ไม่เปน็ หลักแหล่ง
พัฒนาการไมส่ มวยั เชน่ ภาวะโภชนาการ นา้ หนกั ผิดปกติ
การถูกปล่อยปละละเลย
๑๒ การเกิดปญั หาสุขภาพจิต / มีความเครียดในระดับสงู
จิตเวช ไม่สามารถควบคุม / จัดการอารมณ์ / มพี ฤตกิ รรมรุนแรง
สมาชิกในครอบครัวเจ็บปวุ ย / เสียชวี ติ
กรรมพันธุ์ / มีประวัติบุคคลในครอบครวั เจบ็ ปวุ ยทางจิตเวช
ประสบภยั พิบตั ิ
ติดยา / สารเสพติด
เป็นผู้กระทา / ผ้ถู ูกกระทาดว้ ยความรนุ แรง
- 15 -
หัวข้อ ประเภท หมายเลข รายละเอยี ด ความหมาย
ประเด็นความเส่ยี ง ปัจจยั ความเสย่ี ง
รายละเอียด
13 การถกู ญาติทอดทิง้ / ไม่
ยอมรับ เจบ็ ปุวยดว้ ยโรคเรื้อรงั
ความพกิ ารทางกาย / จิต
ไมส่ ามารถช่วยเหลอื ตนเองได้
อย่เู พียงลาพงั / โดดเด่ียว
ไมม่ ีญาติมาเยย่ี ม
มีปญั หาอารมณ์และพฤติกรรม เช่น กา้ วรา้ ว พฤติกรรมรนุ แรง ไมส่ ามารถ
ปรบั ตวั ได้
มปี ัญหาในครอบครวั
ญาตไิ มพ่ รอ้ มท่จี ะดูแล
๖. การใช้แหล่งสนับสนุนทางสังคมของผู้ปว่ ย / ครอบครัว
การใช้แหลง่ สนบั สนุนทางสงั คม ผปู้ ุวยและครอบครัวไดร้ ับการช่วยเหลือ/สวัสดิการสงั คม จาก บคุ คลหรือหน่วยงานใดเพือ่
ของผปู้ วุ ย / ครอบครวั การแกไ้ ขปญั หา
7 การตดิ ตามและประเมนิ ผล (Follow Up and Evaluation)
การตดิ ตามและประเมนิ ผล การดาเนนิ การเพื่อตดิ ตามผลที่เกิดขึ้นจากการให้บริการมีความเปล่ียนแปลงทเ่ี กิดขน้ึ กบั
ผู้ปวุ ยและครอบครวั รวมท้งั ปญั หาอปุ สรรค โดยเปน็ การตดิ ตามในระหว่าง ภายหลงั หรือยุติ
การให้บริการ ระบคุ ร้ังท่ี วันเดือนปที ่พี บผู้ปวุ ย
๘. ยตุ กิ ารใหบ้ รกิ าร (Termination)
ยุตกิ ารใหบ้ รกิ าร การสิ้นสุดการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ปุวยและครอบครวั เช่น ผู้ปวุ ยและครอบครวั สามารถ
ดารงชวี ิตอยูใ่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งปกติ ส่งตอ่ ผ้ปู วุ ยไปยงั หนว่ ยงานอื่น ผูป้ วุ ยเสียชีวติ เป็นตน้
๑๐. แผนผังครอบครวั (Family Map) / แผนท่บี ้านผ้ปู ว่ ย
ประวัติครอบครัว อธบิ ายประวตั ิ และใช้แผนผังครอบครัว (Family Map) เพ่อื อธิบายความสัมพนั ธข์ อง
สมาชิกในครอบครัวที่ผู้ปุวยมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ดว้ ย เพื่อนาไปใชป้ ระเมนิ สภาพ
ครอบครัวของผู้ปุวย โดยใชเ้ ส้นสญั ลกั ษณอ์ ธบิ ายความสมั พันธ์ ดงั นี้
1) สญั ลักษณ์ เพศหญิง โดยระบชุ อื่ – อายุ
2) สญั ลกั ษณ์ เพศชาย โดยระบุช่ือ – อายุ
3) สัญลกั ษณ์ CASE เพศหญิง โดยระบชุ ่อื – อายุ
4) สญั ลกั ษณ์ CASE เพศชาย โดยระบุชือ่ – อายุ
5) สัญลกั ษณ์ × เสยี ชีวติ โดยระบุ อายุและสาเหตุการเสยี ชวี ติ
6) สญั ลักษณ์ มคี วามสมั พันธ์ทดี่ ีระหวา่ งกนั
7) สัญลักษณ์ สมั พันธ์ห่างเหนิ
8) สญั ลกั ษณ์ มีปัญหาความสัมพันธท์ ะเลาะ /ขดั แยง้
9) สญั ลักษณ์ ความสมั พนั ธ์แตกแยก ใช้กบั สามี – ภรรยา
10) สญั ลักษณ์ มีความสมั พันธ์แนบแนน่ พง่ึ พามากเกินไป
แผนท่บี า้ นผใู้ ช้บริการ แผนทที่ างไปบ้าน / ท่ีอย่อู าศัยของผู้ใช้บรกิ าร
- 16 -
แบบบัญชปี ญั หาทางสงั คม (Social Problem List)
หมวด รหสั รายละเอียด
00 ไมม่ ีปัญหาทางสงั คม (No Social Problem) หรือยังไมพ่ บปัญหาในวันท่ีเขา้ เยี่ยมผ้ใู ชบ้ ริการ
01 ปัญหาคสู่ มรสและการครองเรือน
นยิ าม คสู่ มรสฝ่ายใดฝา่ ยหนึง่ ไมป่ ฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ที่ความรบั ผิดชอบของตนเอง ทาใหเ้ กิดภาระหรอื ปญั หาแก่อกี ฝ่าย
หน่ึงทง้ั ท่เี จตนา หรอื เกิดความเจ็บป่วย
0101 ปญั หาการสอ่ื สาร สอื่ สารไม่เหมาะสม ไมส่ ามารถสอ่ื สารความต้องการของแต่ละฝุายได้ สื่อสารไม่ชดั เจน ทะเลาะ
เบาะแว้งกันเป็นประจา พูดประชดประชนั ตาหนติ เิ ตียน การดา่ วา่ ใชว้ าจารนุ แรง หยาบคาย การออกคาสง่ั
บงั คบั ขเู่ ข็ญ เจา้ กีเ้ จา้ การ เฉยเมย ไมพ่ ูด ต่างคนต่างอยู่ ไมส่ นใจกันและกัน
0102 การใชค้ วามรนุ แรง เช่น ทุบตี มีการกระทาทารุณระหว่างกัน
0103 ความคิด ความเชือ่ ทศั นคติ จารตี ประเพณี วฒั นธรรมแตกตา่ งกนั ไมส่ ามารถปรบั ตัวเข้าหากัน ไม่ยอมรบั
หรือขาดความภูมใิ จในคสู่ มรส
0104 ฝุายใดฝุายหน่ึงไม่รับผดิ ชอบครอบครวั ผูกพันกบั ครอบครัวเดมิ หรือญาตเิ ข้ามาวนุ่ วายมากเกินไป
0105 สามีหรอื ภรรยามีความสัมพนั ธก์ ับชายหรอื หญงิ อื่นทไ่ี ม่ใช่สามีหรือภรรยาตนเอง
0106 ปัญหาเพศสัมพันธ์ เช่น ความตอ้ งการทางเพศลดลง ปญั หาการร่วมเพศ ความเย็นชา หมดสมรรถภาพทาง
เพศ หรอื มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นต้น
0107 อนื่ ๆ
หมวด รหสั รายละเอยี ด
02 ปัญหาระหว่างบิดา มารดา บุตร
นยิ าม ปัญหาเร่อื งการอบรมเลยี้ งดูบุตร และปญั หาสัมพนั ธภาพทท่ี าให้เกดิ ความแตกแยก บาดหมางกนั ระหว่างบดิ า
มารดา บตุ ร
0201 บดิ า มารดา บตุ รมีพฤตกิ รรมไม่เหมาะสม เชน่ ตดิ สรุ า ยาเสพตดิ เลน่ การพนนั ทะเลาะเบาะแว้ง ดดุ ่ากัน
เป็นประจา หนีโรงเรียน มีเพศสมั พันธ์กอ่ นวัยอันควร รวมถึงบตุ รถูกปล่อยปละละเลยหรือก้าวรา้ วบิดา มารดา
เป็นตน้
0202 การอบรมเลย้ี งดู เช่น ไม่มีเวลาให้บตุ ร ให้ความสนใจนอ้ ย เลีย้ งดบู ตุ รอยา่ งไม่คงเส้นคงวา ขัดแยง้ กนั เองในการ
เลยี้ งดู เปรียบเทยี บความสามารถหรอื พฤตกิ รรมของบตุ รกบั เดก็ อื่น ๆ ปกปอู งหรือตามใจบตุ รมากเกนิ ไป
0203 ทัศนคติ เชน่ ไม่ยอมรับ มีการรังเกียจหรืออับอายสังคม เนอ่ื งจากโรคภัยไขเ้ จ็บ อาชีพ การศึกษาของฝุายใดฝาุ ย
หนงึ่ บิดาหรือมารดาอจิ ฉาบตุ ร รสู้ ึกวา่ บุตรมาแยง่ ความรกั ความเอาใจใส่ไปจากตน รักบุตรไมเ่ ทา่ กนั จนเกดิ
ความลาเอียง ไม่เต็มใจไม่พรอ้ มและไม่ต้องการบตุ ร ขาดความสนใจ รวมถึงมุง่ หวงั ในตัวบตุ รมากเกนิ ไปจนเกนิ
ความสามารถของเดก็ เป็นต้น
0204 เพศสัมพันธ์ในสายเลอื ดเดียวกนั
0205 ปัญหาเก่ยี วกบั การเปน็ บตุ รบุญธรรม
0206 การกระทาทารุณกรรมต่อกนั ท้งั ทางร่างกาย จติ ใจอารมณ์ หรือทางเพศ การทอดทงิ้ ปลอ่ ยปละละเลย บงั คบั ขู่
เขญ็ ดุด่าหรือทาโทษบุตรเกนิ กวา่ เหตุ ใช้งานเกินความสามารถ เขม้ งวดหรือควบคุมบตุ รมากเกินไป
0207 บดิ าหรอื มารดาขาดความรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะเร่ืองพฒั นาการตามวยั เพศ การสอื่ สาร และกรณีเด็กพเิ ศษ
0208 บิดา มารดา บุตรมีความผดิ ปกตทิ างด้านบุคลิกภาพ อารมณ์ หรอื มคี วามเจบ็ ปวุ ยทางจิต
0209 อน่ื ๆ
- 17 -
03 ปญั หาความแตกแยกในครอบครัว
นิยาม ปญั หาทีท่ าใหส้ ภาพของครอบครัวซ่ึงหมายถงึ บิดา มารดา บุตร เกดิ การแยกกันอยทู่ ั้งโดยยนิ ยอมและไมย่ นิ ยอม
0301 ปัญหาการหย่า / รา้ ง
0302 การแยกกนั อยูเ่ พราะเหตุผลต่าง ๆ เช่น โรคภัยไขเ้ จ็บเร้อื รงั หนา้ ท่ีการงาน ฝาุ ยใดฝุายหนง่ึ ไม่ปฏบิ ัติตามบทบาท
หนา้ ทท่ี ร่ี บั ผดิ ชอบ จนทาให้อีกฝุายตอ้ งรบั ภาระเกนิ ความสามารถ หรอื อยูใ่ นภาวะทีเ่ กดิ ความทกุ ข์ สามีมีภรรยา
น้อย ภรรยามีชู้ ถกู กฎหมายลงโทษ ฝุายใดฝุายหนึง่ ทอดท้ิงไป เช่น ไปศึกษาต่อเป็นเวลานาน ๆ หรอื
บุตรนอกสมรส เป็นตน้
0303 การเสยี ชีวิตของสมาชกิ ในครอบครวั
0304 การสูญหายของสมาชกิ ในครอบครัว
0305 อ่นื ๆ
04 ปญั หาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเครอื ญาติ
นิยาม ปัญหาความสมั พนั ธ์ที่เกิดข้ึนระหว่างพ่ีน้อง และวงศ์ญาตใิ นครอบครวั แต่ไม่ใช่บิดา มารดา บตุ ร
0401 การไมเ่ ขา้ ใจกนั ระหว่างญาติพ่นี อ้ ง มีการทะเลาะกนั เป็นประจา ไมไ่ วว้ างใจกนั จนทาใหเ้ กิดความแตกรา้ วระหว่าง
ญาติพี่น้อง
0402 การหวงั ผลประโยชน์ เชน่ แยง่ ชิงทรพั ย์สินมรดา กลนั่ แกล้งใส่รา้ ย ข่มขู่ทารา้ ยกัน
0403 ปญั หาระหว่างญาติของสามหี รือภรรยา เชน่ แม่สามีกบั ลูกสะใภ้ แมย่ ายกับลกู เขย
0404 อน่ื ๆ
05 ปัญหาความรัก
นยิ าม ปัญหาท่ีเกดิ จากความไมส่ มหวังเรอื่ งความรกั เช่น ผดิ หวัง / ขดั แย้งกบั คนรกั / การสูญเสียพลดั พราก
0501 ผิดหวงั ในความรัก เชน่ ถกู ปฏเิ สธ / ตัดสมั พนั ธ์ ถูกหลอกลวง ปดิ บัง ทาให้ผิดหวังจากความรัก
0502 ขดั แย้งกบั คนรกั
0503 การสญู เสีย พลัดพรากจากคนรกั
0504 แอบรักเขาข้างเดยี ว อยากมคี นรัก / คชู่ ีวติ
0505 รกั สามเส้า / มคี นรกั หลายคนในเวลาเดียวกัน (มีกกิ๊ )
0506 กลัว วิตกกังวลเรือ่ งความรกั และการมีชวี ิตคู่
0507 อ่นื ๆ
06 ปัญหาทางเพศ
นิยาม ปญั หาเก่ยี วกับความผิดปกตหิ รอื ไมเ่ หมาะสมทางเพศ (ตัวบุคคล)
0601 ถกู ขม่ ขืน / ถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ
0602 เพศสมั พันธไ์ ม่เหมาะสม เช่น มีเพศสมั พันธ์ก่อนวยั อันควร เพศสมั พนั ธห์ มู่ มีพฤตกิ รรมทางเพศ
รุนแรงกวา่ ปกติ
0603 ไมพ่ อใจในเพศของตนเอง
0604 ความผิดปกตทิ างเพศ เชน่ ถ้ามอง ลกั ขโมยชดุ ช้ันใน ชอบโชวอ์ วยั เพศ
0605 อน่ื ๆ
07 ปญั หาภาระในการดูแลผเู้ จบ็ ปุวย / ผพู้ กิ าร / ผู้สูงอายุในครอบครัว
นิยาม ปัญหาการเจบ็ ปว่ ยทางจติ ท่เี กดิ จากการต้องรบั ภาระในการดแู ลผเู้ จ็บปว่ ย / ผู้พิการ / ผสู้ ูงอายใุ นครอบครัว
0701 มีสมาชิกในครอบครวั สูงอายุทต่ี ้องดูแล จนทาให้เกดิ ปัญหาสขุ ภาพจิต
0702 มีสมาชกิ ในครอบครวั เจ็บปุวยเร้อื รงั พิการทางกาย / จติ หรอื สารเสพตดิ
0703 อื่น ๆ
- 18 -
08 ปัญหาทอ่ี ยอู่ าศัย / สภาพแวดลอ้ มทีเ่ ป็นภยั ต่อสุขภาพ
นิยาม สภาพของทอี่ ย่อู าศัยที่ทาให้เกิดปญั หาและการเปลยี่ นท่อี ยอู่ าศัย รวมทั้งสภาพแวดลอ้ มท่เี ป็นภัยต่อสุขภาพ
0801 ไมม่ บี ้าน
0802 สภาพบา้ นทอ่ี ยูไ่ ม่เหมาะสมและไมถ่ ูกสุขลักษณะ ไดแ้ ก่ คับแคบ แออดั ยดั เยยี ด ไม่เปน็ สัดสว่ น สกปรก
รงุ รัง อากาศไมถ่ า่ ยเท หรืออุปกรณ์ก่อสรา้ งไมถ่ ูกสขุ ลักษณะ ใชว้ สั ดซุ ึง่ มีโอกาสเป็นพาหะนาเช้ือโรคได้ง่ายหรอื มี
สารพิษ วสั ดผุ ุพงั วัสดุจากกองขยะ
0803 สภาพแวดลอ้ มในบ้านกอ่ ใหเ้ กดิ การยว่ั ยุทางกามารมณ์ เช่น ตดิ รูปโปฺ VDO โปฺ อยใู่ นแหล่มเสอื่ มโทรม แหลง่ ยา
เสพตดิ สถานเรงิ รมย์ มีเสยี งรบกวน เพือ่ นบา้ นรังแก
0804 สภาพแวดล้อมเป็นพิษ เช่น กล่ินเหม็นจากโรงงาน นา้ เปน็ พษิ สารพิษ เสยี งรบกวน
0805 การเปลีย่ นทอี่ ยอู่ าศยั โดยสมคั รใจ เชน่ มีโรคภัยไขเ้ จบ็ เกรงเพ่อื นบา้ นรงั เกียจ เปล่ยี นอาชพี เชน่ ไปหางานทา ไม่
อยากอยู่บ้าน กลัวเกดิ คดีฆ่าล้างแคน้ ถูกเพ่อื นบา้ นรังแก
0806 การเปล่ียนที่อยู่อาศยั โดยไม่สมคั รใจ เชน่ ถกู ไลอ่ อกจากบา้ น ถกู ไล่ท่ี / ทอ่ี ยอู่ าศัย เวนคนื ทดี่ ิน
0807 ผู้ปุวยเร่รอ่ นท่ีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมไปถงึ ผปู้ วุ ยตาม พรบ.สุขภาพจติ ปี 2551 (มีญาตแิ ละไมม่ ีญาติ)
0808 อน่ื ๆ
09 ปัญหาท่ีเกดิ จากบุคคลอื่นนอกครอบครัว
นยิ าม ปญั หาทเ่ี กิดจากบคุ คลอืน่ นอกครอบครัวซง่ึ สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพจิต เช่น ความไมเ่ ขา้ ใจกนั ไม่ยอมรบั ไมล่ งรอยกนั
การสูญเสยี การจากไปของเพือ่ นฝูงหรอื เพ่อื นบา้ น
0901 การไมส่ ามารถเขา้ กับเพ่ือน เพอ่ื นบา้ น ผ้พู กั ร่วม และเจ้าของบ้านเชา่ ได้
0902 ถกู แสดงความรงั เกียจ หลอกลวง ถูกเอารดั เอาเปรียบ กลน่ั แกล้ง ยงุ ยงใส่รา้ ย ข่มขู่ทาร้ายจนทาใหร้ ้สู กึ เป็นศตั รู
กัน ถูกสงั คมรังเกยี จ ดถู ูก ล้อเลยี น กลน่ั แกล้ง ถกู นนิ ทา วา่ รา้ ย ถูกปรักปรา ใสร่ า้ ย
0903 ถูกปฏิเสธหรอื ตดั ความสัมพันธ์จากคนที่รกั ใคร่สนิทสนม ไมใ่ ช่คนรักในข้อที่ 05
0904 การเสียชวี ติ หรือพลดั พรากจากคนที่รักใคร่สนิทสนม ไม่ใช่คนรกั ในขอ้ ท่ี 05
0905 อื่น ๆ
10 ปัญหาการเงนิ
นิยาม การขาดแคลนทุนทรพั ย์ สาหรับการใช้จ่ายเพือ่ การดารงชพี ด้านต่าง ๆ
1001 ไมม่ รี ายได้ / รายได้ไม่เพยี งพอต่อการครองชีพ คา่ เลา่ เรียน ค่าเช่าบ้าน คา่ ทพ่ี กั รวมถึงขาดแคลนเงินทุนในการ
ประกอบอาชพี
1002 มีหน้ีสิน
1003 ปญั หาค่าใช้จา่ ยในการรกั ษาพยาบาล เชน่ ค่าตรวจรักษาพยาบาล คา่ พาหนะ เป็นต้น
1004 ถูกโกง ถกู หลอกลวงให้เสยี ทรัพย์
1005 อ่นื ๆ
11 ปญั หาการศกึ ษา
นิยาม การขาดการศกึ ษาหรือได้รับการศึกษาไม่ต่อเน่อื ง อนั เนื่องจากอุปสรรคตา่ ง ๆ และประสทิ ธภิ าพการศกึ ษาตา่ ลง
1101 พฤติกรรมไมส่ นใจเรียน เช่น เดก็ ตดิ เกมส์ หนเี ที่ยว ตดิ ยาเสพตดิ
1102 มีปัญหาการเรียนอนั เกดิ จากความเจบ็ ปวุ ย เช่น สมาธิสน้ั สติปญั ญาไม่ดี มีปัญหาทางสมอง ไดร้ บั อบุ ตั เิ หตุ ฯลฯ
1103 ไม่ประสบความสาเรจ็ ทางดา้ นการศึกษาตามทีห่ วังไว้ เชน่ สอบตก เอนทรานซ์ไมต่ ดิ เป็นตน้
1104 ขาดโอกาสทางการศึกษา เนือ่ งจากไม่มคี า่ อปุ กรณ์ หรือค่าเลา่ เรยี น การคมนาคมไมส่ ะดวก ระบบการศกึ ษาไม่
เอือ้ อานวย ปญั หาเร่อื งระบบการจัดการเงินทนุ เพ่อื การศึกษา สถานการศกึ ษาไม่สามารถทาหน้าทีไ่ ดต้ ามปกติ
การก่อการ้าย ภัยพิบตั ติ า่ ง ๆ บิดา มารดาไมส่ นับสนนุ หรอื ไม่เห็นความสาคัญการศึกษาของบตุ ร
1105 มีปัญหากบั ครู / เพ่ือน / รุ่นพ่ี เช่น ครูไมเ่ ข้าใจเดก็
1106 อื่น ๆ
- 19 -
12 ปัญหาการประกอบอาชีพ
นยิ าม สภาวะปญั หาทีเ่ กย่ี วกับการทางานหรือการประกอบอาชพี
1201 ไม่มงี านทา เนื่องจาก เลอื กงาน เปล่ยี นงานบ่อย ตกงาน ไมอ่ ยากทางาน หรอื ต้องเล้ียงดูบุตรในครอบครวั
1202 ไมส่ ามารถปรบั ตวั เข้ากับเพ่ือนร่วมงาน / นายจ้าง / งานได้
1203 รายไดไ้ มเ่ ปน็ ธรรม สวสั ดิการไมด่ ี งานหนกั เกินไป การเอาเปรยี บแรงงาน ถกู หลอกขายแรงงาน
1204 ความไมม่ นั่ คง หรือล้มเหลวในการประกอบอาชพี เช่น ขาดทนุ ลม้ ละลาย ประสบภัยพบิ ัติ ไมม่ ที ีท่ ากนิ งาน
ไม่ตรงกบั ความสามารถ เป็นต้น
1205 อน่ื ๆ
13 ปญั หาทางกฎหมาย
นิยาม การเปน็ ความกนั ทางกฎหมาย ไดแ้ ก่ การฟ้องร้อง ถกู ไตส่ วน ถกู ดาเนนิ คดี ถูกจาคุกหรือกาลงั อยูใ่ นระหว่าง
อุทธรณ์หรอื ฎีกา หรือการเสียสทิ ธทิ างกฎหมายจนทาให้เกดิ ปญั หา
1301 ปัญหาเก่ียวกบั กฎหมายแพง่ และกฎหมายอาญา เช่น การถกู จบั การฟอู งรอ้ ง การดาเนินคดี การขอเปน็ ผ้พู ทิ กั ษ์
ผอู้ นบุ าล การถกู หลอกลวงให้สญู เสยี ทรพั ย์สนิ อวัยวะ ชอ่ื เสียง การละเมดิ สิทธิผู้ปวุ ยในการรักษาพยาบาล เปน็
ตน้
1302 ไมไ่ ดร้ บั สทิ ธิการคุ้มครองตามกฎหมายประกนั สังคม คมุ้ ครองความปลอดภัย และสขุ ภาพอนามยั ของผ้ทู างานทเ่ี อา
ประกนั หรอื ผูท้ างานเส่ียงบางประเภท รวมถึงคา่ เสียหาย ค่าตอบแทนเงนิ ชดเชยอุบตั เิ หตจุ ากการทางาน ทาให้
เสียผลประโยชนห์ รอื เดือดร้อน การถกู หลอกมาใช้งานหรอื เป็นโสเภณี
1303 ไมไ่ ด้รับสิทธแิ ละคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ฟน้ื ฟคู นพกิ าร / พ.ร.บ.สขุ ภาพจติ ปี 2551 / พ.ร.บ.สง่ เสรมิ คุณภาพชีวติ คน
พกิ าร ฯลฯ
1304 ไม่ได้รบั สทิ ธคิ ุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลตามหลกั ประกันสุขภาพ
1305 ไม่ไดร้ บั สิทธิและความคมุ้ ครองตามกฎหมายอาญา ไม่มสี ถานภาพทางกฎหมาย เช่น ไมม่ ีบัตรประชาชน ไมม่ ี
ทะเบียนบ้าน ไม่มที ะเบยี นสมรส ไมม่ สี ูติบัตร
1306 ผู้ปวุ ยเข้าเมอื งผดิ กฎหมาย / ตา่ งดา้ ว / ตา่ งชาติ
1307 อน่ื ๆ
14 ปัญหาทีเ่ ป็นอุปสรรคตอ่ การดแู ลสขุ ภาพของผูป้ ุวย
นยิ าม อปุ สรรคต่าง ๆ ทท่ี าให้เกดิ ปัญหาในการดแู ลรักษาสขุ ภาพของผูป้ ่วย
1401 ผู้ปวุ ยหรือญาตขิ าดความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับโรคและการดูแลรกั ษาทีเ่ หมาะสม เช่น ไม่ยอมรบั การเจ็บปุวย ไม่
ร่วมมือในการฝึกฟื้นฟสู ขุ ภาพตนเอง ไม่ไดร้ บั ประทานยาตามแพทย์สงั่ ไม่ไดร้ ับการรกั ษาต่อเน่อื ง เป็นต้น
1402 การส่ือภาษา การแปลความหมายของภาษาท้องถ่ินไมเ่ ข้าใจ หรือเข้าใจผดิ
1403 ผู้ปุวยหรือญาติกลัวถูกสังคมรงั เกียจ อับอาย ถูกตตี รา
1404 ไมไ่ ด้รบั ความสะดวกในการขอรบั บริการสาธารณสุข เช่น การให้ขอ้ มูลบรกิ ารไม่ชัดเจน / ไมใ่ ห้ขอ้ มูล มปี ญั หาใน
การขอใบสง่ ตอ่ ไม่มีการนัดต่อ การนัดหมายครงั้ ต่อไปนานเกินไปหรอื ไม่ตอ่ เนอ่ื ง มาผดิ วนั / ผิดเวลาทาใหไ้ ม่ได้
รบั การรักษา เป็นต้น
1405 การขาดผดู้ แู ลหรอื ไมพ่ ร้อมในการดูแล เชน่ ผู้ดแู ลเปน็ ผู้สูงอายุ ผู้ดแู ลตอ้ งทางาน เป็นตน้
1406 ญาตปิ ฏิเสธการดแู ล รูส้ กึ เปน็ ภาระ / เก่ียงกนั ดแู ล คนท่ีไมม่ อี านาจต่อรองหรือสมยอมจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบ / รังเกยี จ
หวาดกลวั ผู้ปุวย
1407 ผูป้ ุวยสมองเสอื่ ม / ผูป้ ุวยจิตเวชยุ่งยากซับซ้อนเรือ้ รัง / ผปู้ ุวยพกิ าร / ต่างด้าว / ต่างชาติ จาหน่ายยาก / ไม่ได้
1408 อื่น ๆ
- 20 -
15 ปัญหาความเชือ่ วัฒนธรรม และการเมือง
นยิ าม การปฏบิ ตั ิตามสงั คม วฒั นธรรม ความเช่ือทท่ี าใหเ้ กดิ ปัญหาท้ังทางรา่ งกายและจิตใจ
1501 มีความเช่อื ท่ีมีผลตอ่ การเจบ็ ปุวยทางจติ และการรกั ษา เชน่ เชอ่ื ว่าถูกกระทาทางไสยศาสตร์ เชื่อว่าตนเองเปน็
ร่างทรง รวมท้งั ความเชื่อให้การรักษาทางดา้ นไสยศาสตรต์ า่ ง ๆ
1502 มีความขดั แย้งทางการเมอื ง
1503 การถูกปฏเิ สธและไม่ได้รับการยอมรบั จากสังคม เชน่ รกั เพศเดยี วกัน กลวั สงั คมรังเกียจ (ขนึ้ อยู่กับบรบิ ทของ
แตล่ ะสงั คม)
1504 การปรบั ตวั เขา้ สู่สงั คมและวฒั นธรรมใหม่ เช่น การย้ายถ่ินไปประกอบอาชีพ การศกึ ษาทอ่ งเทย่ี ว
1505 อนื่ ๆ
16 ปัญหาสารเสพติด / สารท่ีออกฤทธ์ติ ่อจิตประสาท
นยิ าม การเกยี่ วขอ้ งกบั สารเสพตดิ / สารที่ออกฤทธิท์ ีม่ ีอนั ตรายต่อสขุ ภาพทั้งเตม็ ใจและไมเ่ ต็มใจ
1601 การใช้สุรา และแอลกอฮอล์
1602 การใชส้ ารเสพติด เชน่ ยาบา้ เฮโรอนี กญั ชา ดมกาว ฯลฯ
1603 การใช้ยาลดความอ้วน
1604 การถกู บังคับหรอื ถกู หลอกใหใ้ ช้ / จาหนา่ ยสารเสพติด
1605 กลบั ไปเสพซา้
1606 อื่น ๆ
17 ปญั หาทเ่ี ปน็ ปรากฏการณท์ างสังคม ปญั หาอื่น ๆ เกี่ยวกบั สภาวะทางจติ และสังคม
นิยาม ปญั หาตา่ ง ๆ ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ สภาวะจติ ใจ ซงึ่ ไมอ่ ย่ใู นหมวด 1 - 16
1701 ตั้งครรภ์ไมพ่ ึงประสงค์
1702 ตัง้ ครรภ์ในวยั ร่นุ (ต่ากวา่ 18 ป)ี
1703 การถูกหลอกใชแ้ รงงาน (แรงงานเดก็ , แรงงานขา้ มชาติ)
1704 ปญั หาการคา้ ประเวณี / คา้ มนษุ ย์
1705 เจบ็ ปุวยด้วยโรคทางกายทีต่ ้องการปิดบงั / เร้อื รงั ทมี่ ผี ลตอ่ สภาพจิตใจ เชน่ โรคเอดส์ โรคเรอ้ื น โรคมะเร็ง
โรคเบาหวาน วณั โรค ฯลฯ
1706 ภัยพิบตั ติ า่ ง ๆ (วกิ ฤตทิ างเศรษฐกิจ – การเมอื ง , วิกฤตสิ ขุ ภาพจิต เช่น ภยั ธรรมชาติ ภัยจากน้ามือมนษุ ย์)
1707 สถานการณ์การกอ่ การร้าย เชน่ การวางระเบดิ ตามสถานทตี่ า่ ง ๆ
1708 อบุ ตั ิเหตทุ รี่ ุนแรง เชน่ เคร่ืองบินตก ตกึ ถลม่ รถชน ฯลฯ
1709 อน่ื ๆ
- 21 -
ที่มา : แบบบัญชปี ญั หาทางสังคม พฒั นาจากองคก์ ารอนามยั โลก โดย คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพงานสังคมสงเคราะห์จิตเวช กรม
สขุ ภาพจติ และปรบั ปรงุ เม่อื พ.ศ. ๒๕๕๑ หน่วยงานในสงั กัดกรมสุขภาพจิตไดน้ ามาใช้ในการคัดกรอง และประเมนิ ผลการ
บาบดั ทางสงั คม เพ่อื การ Continuous Quality Improvement ตามแนวทางการพฒั นาคุณภาพโรงพยาบาล
พงศ์เทพ ววิ รรธนะเดช. การประเมนิ ความเสยี่ งด้านสขุ ภาพ , ๒๕๔๗.
สานักมาตรฐานการพฒั นาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์. ตวั ชี้วดั คณุ ภาพ
ชวี ิต , ๒๕๔๘.
Bowman, R.A. (2001). Quality of life assessment for young children with developmental disabilities and
their families: development of a quality of life questionnaire. Thesis (PhD), West Virginia University.
Bullinger, M., Anderson, R., Cella, D., & Aaronson, N. (1993). Developing and evaluating cross-cultural
instruments from minimum requirements to optimal models. Quality of Life Research, 2, 451-459.
Claes, C., Van Hove, G., van London, J., Vandevevelde, S. & Schalock, R.L. (2009). Quality of life measurement
in the field of intellectual disabilities : Eight principles for assessing quality of life-related personal
outcomes. Social indicators Research, 98, 61-72.
Patrick, D.L. & Erickson, P. (1993) Health status and health policy: Quality of life in health care evaluation
and research allocation. New York: Oxford University Press.
Repley, M. (2003). Quality of life research: A critical introduction. London: SAGE.
- 22 -
เครื่องมือการทางานกับผปู้ ่วยระดบั เชงิ ลกึ
เอกสารชุด
เครอื่ งมือประเมินความพรอ้ มของครอบครวั
(Family Readiness Assessment :F.R.A.)
- 23 -
คาอธิบายเครือ่ งมอื ประเมินความพรอ้ มของครอบครวั
(Family Readiness Assessment) ตัวยอ่ F.R.A.
วัตถุประสงค์
1. เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประเมินความพรอ้ มของครอบครวั ผู้ปวุ ยในการดแู ลผู้ปวุ ย
2. เพ่ือนาไปสู่การวางแผนและการชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
กลมุ่ เปา้ หมาย
ครอบครวั หลกั ของผ้ปู วุ ย รวมไปถึงครอบครวั อ่ืนท่ีผู้ปุวยไปอาศัยอยูด่ ว้ ย
ประโยชน์
1. นักสงั คมสงเคราะห์สามารถใช้เป็นเครือ่ งมอื ในการประเมินความพรอ้ มของครอบครวั ผู้ปุวยในการ
ท่จี ะดูแลผ้ปู วุ ยท่ีมปี ญั หาได้
๒. นกั สังคมสงเคราะห์สามารถนาข้อมลู ไปวางแผนและใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ วุ ยและครอบครวั ในกรณี
ดูแล ผปู้ ุวยท่ีมีปญั หาทางจติ สังคมที่ซบั ซ้อน
วธิ ใี ชเ้ คร่ืองมอื
นกั สังคมสงเคราะหส์ ามารถนาไปใชต้ ั้งแตข่ น้ั ตอนการรบั เรอื่ งจนสนิ้ สุดกระบวนการทางสังคม
สงเคราะห์ เพ่อื ประกอบการตัดสินใจเชิงวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในการใหบ้ รกิ าร ในกรณผี ูป้ ุวยทมี่ ปี ัญหายงุ่ ยาก
ซบั ซ้อน เชน่ มีปญั หาความรุนแรงในครอบครัว มีปัญหาสุขภาพจิต ไมม่ คี วามรู้ในการดูแลผูป้ วุ ย ขาดทักษะใน
การดูแลผู้ปุวย การเจ็บปุวยด้วยโรคเร้อื รงั เปน็ ต้น
แบบประเมนิ มี 10 ขอ้ ครอบคลุมเนื้อหา ดงั นี้ เรื่องรายได้ของครอบครวั สภาพแวดล้อมภายในบ้าน
ความรกั ใครผ่ กู พนั ในครอบครวั ความสามารถในการแก้ไขปญั หาของสมาชกิ ในครอบครวั ความสามารถของสมาชกิ
ในครอบครวั ตอ่ การจดั การพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมของผปู้ วุ ย การยอมรับและให้อภัยของสมาชกิ ในครอบครัวเม่อื
ผปู้ ุวยทาผิดหรือมพี ฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม การสอ่ื สารระหวา่ งกันของสมาชกิ ในครอบครวั การตระหนกั และสามารถ
ทาหนา้ ท่ีตามบทบาทของตนอยา่ งเหมาะสมของสมาชิกในครอบครัว ความรู้ ความเข้าใจของสมาชกิ ในครอบครวั ตอ่
การดูแลผปู้ วุ ย และการมเี ครอื ข่ายทางสังคมของสมาชิกในครอบครวั เพื่อขอรบั การชว่ ยเหลอื
- 24 -
เคร่อื งมือประเมินความพรอ้ มของครอบครัว (Family Readiness Assessment) ตวั ยอ่ F.R.A.
ชอ่ื – นามสกุลของผู้ให้ขอ้ มูล ................................................................ อายุ ........... ปี เกีย่ วขอ้ งเป็น ........................
ชื่อ – นามสกลุ ของผู้ปวุ ย ...........................................................................HN. ............................... อายุ ................. ปี
คาช้แี จง ใสเ่ ครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่อง □ ตามการประเมินครอบครัว ทัง้ นแี้ บบประเมินน้ไี มส่ ามารถใช้โดยการซกั ถาม
/ สมั ภาษณข์ อ้ มลู จากผูป้ วุ ยหรอื ผ้ใู ห้ข้อมลู โดยตรง แตต่ ้องมาจากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู รอบด้านในกระบวนการปฏิบตั ิงาน
ของ นกั สงั คมสงเคราะห์ทางการแพทย์
1. ระดบั รายไดข้ องครอบครวั คะแนนท่ีได้**
□ 0. ไม่มีรายได้ทง้ั จากตนเองหรือได้รบั จาก □ 1. ไมม่ ีรายไดข้ องตนเอง (มหี น้ีสิน ไม่มีเงนิ ออม) 1 คะแนน นับคะแนนตาม
ตัวเลขหน้าขอ้ ทีต่ อบ
ผ้อู ่นื □ 2. มีรายได้น้อยกวา่ รายจ่าย (มีหน้สี นิ ไม่มีเงินออม)
……………คะแนน
2 คะแนน
□ 3. มรี ายไดเ้ ท่ากบั รายจา่ ย (ไม่มเี งินออมและไมม่ ปี ญั หา
หน้สี นิ ) 3 คะแนน
□ 4. มรี ายได้สงู กว่ารายจ่าย แต่ไม่มเี งนิ ออม (ไมม่ เี งินออม
และไมม่ ปี ญั หาหน้สี นิ ) 4 คะแนน
□ 5. มรี ายได้สูงกว่ารายจ่าย (มีเงนิ ออม ไม่มีปัญหา
หน้สี นิ ) 5 คะแนน
2. สภาพแวดล้อมภายในบ้าน (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ ) ขอ้ ละ 1 คะแนน ……………คะแนน
□ 0. ไมม่ ที ่อี ยู่แนน่ อน เร่รอ่ น ไรบ้ ้าน □ 1. มที ี่อยู่แน่นอน แต่สภาพแวดลอ้ มไม่เหมาะสม
□ 2. ท่อี ยูม่ คี วามเป็นสัดสว่ น
□ 3. ทอี่ ยู่ถูกสขุ ลกั ษณะ สะอาด อากาศถา่ ยเท
□ 4. ทอ่ี ยมู่ ีความปลอดภัยทางกายภาพ
□ 5. ที่อยู่มพี ้นื ท่ีวา่ งในการทากิจกรรม
3. ความรักใคร่ผูกพนั ในครอบครัว (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) ข้อละ 1 คะแนน ……………คะแนน
□ 0. ไมไ่ ดร้ ับความรกั □ 1. ดูแลเอาใจใส่ เออ้ื อาทร
□ 2. ส่งเสริม สนับสนุนทางจิตใจ กล่าวชน่ื ชม
□ 3. มกี ารสมั ผสั ทางกาย
□ 4. ทากจิ กรรมร่วมกนั สมา่ เสมอ
4. ความสามารถในการแก้ไขปญั หาของสมาชิกในครอบครัว (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) ข้อละ 1 คะแนน ……………คะแนน
□ 0. ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา □ 1. เผชญิ ปญั หารว่ มกนั
□ 2. รบั รปู้ ัญหาและหารอื ร่วมกนั
□ 3. รบั ผดิ ชอบปัญหาร่วมกนั
□ 4. ช่วยกนั แก้ไขปัญหา
□ 5. ยอมรบั ความเจ็บปวุ ย
5. ความสามารถของสมาชิกในครอบครวั ต่อการจดั การพฤติกรรมท่ไี มเ่ หมาะสมของผปู้ ว่ ย ……………คะแนน
(ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) ข้อละ 1 คะแนน
□ 0. ไมม่ คี วามสามารถจดั การพฤติกรรม □ 1. มีทักษะการควบคมุ พฤติกรรม
□ 2. การใหแ้ รงเสริมท่ีเหมาะสม
□ 3. ฝึกระเบยี บวนิ ยั
□ 4. สมาชิกในครอบครัวรวู้ ิธีการดแู ลเม่อื ผูป้ ุวยมีปญั หา พฤติกรรม
□ 5. ยอมรับกฎ กติกาของครอบครัว
- 25 -
6. การยอมรับและใหอ้ ภยั ของสมาชิกในครอบครัวเมื่อผู้ป่วยทาผดิ หรอื มพี ฤติกรรมไม่เหมาะสม ……………คะแนน
……………คะแนน
(ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ ) ข้อละ 1 คะแนน ……………คะแนน
……………คะแนน
□ 0. ไมม่ กี ารยอมรับหรอื ใหก้ าลังใจ □ 1. ยอมรบั ความแตกตา่ งสว่ นบุคคล ……………คะแนน
……………คะแนน
□ 2. ใหอ้ ภยั และใหโ้ อกาสแก้ไข
□ 3. ยอมรบั โดยไม่มีเงื่อนไข
□ 4. ให้กาลังใจ
7. การสื่อสารระหวา่ งกนั ของสมาชกิ ในครอบครัว (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) ขอ้ ละ 1 คะแนน
□ 0. ไม่มกี ารสอ่ื สารใดๆ □ 1. มีการรบั รคู้ วามรู้สึก
□ 2. พดู คุย/แสดงความรู้สึกและความตอ้ งการได้อย่าง เปิดเผย
□ 3. มอี ิสระในการแสดงความคิดเหน็
□ 4. มสี มั ผัส โอบกอดระหว่างสมาชิก
□ 5. มกี ารส่ือสารเพ่ือลดการขัดแยง้
8. การตระหนักและสามารถทาหน้าทีต่ ามบทบาทของตนอยา่ งเหมาะสมของสมาชกิ ในครอบครวั
(ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) ข้อละ 1 คะแนน
□ 0. ไมม่ ีการทาหน้าทต่ี ามบทบาท □ 1. ตระหนักรู้ มีความชัดเจนในบทบาทของตน
□ 2. การแบง่ เบาภาระ
□ 3. การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมของครอบครัว
□ 4. การมอบหมายหนา้ ท่ีในครอบครัว
□ 5. รับผดิ ชอบตามบทบาท หน้าที่
9. ความรู้ ความเข้าใจของสมาชิกในครอบครัวต่อการดแู ลผปู้ ว่ ย (ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) ขอ้ ละ 1 คะแนน
□ 0. ไมม่ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการดแู ล □ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจเรอื่ งโรคที่ผู้ปุวยเป็น
□ 2. มีความรู้ ความเข้าใจในการดแู ลผ้ปู ุวย
□ 3. มคี วามสามารถในการดูแลผปู้ วุ ย
□ 4. มีความสามารถในการสงั เกตอาการเปลยี่ นแปลง อาการ
กาเรบิ ของผ้ปู ุวยได้
□ 5. มคี วามเข้าใจในสภาพจติ ใจของผูป้ ุวย
10. การมเี ครอื ขา่ ยทางสังคมของสมาชกิ ในครอบครวั เพอื่ ขอรับการช่วยเหลือ (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ )ข้อละ 1
คะแนน
□ 0. ไม่มีเครอื ขา่ ย □ 1. ญาติ (ท่ไี ม่ไดอ้ ย่ใู นครอบครัว)
□ 2. เพ่ือนบา้ น
□ 3. ผ้นู าชมุ ชน / อาสาสมัครในชุมชน
□ 4. หน่วยงานภาครัฐ / เอกชน
รวมคะแนนที่ได้
** การให้คะแนนการประเมินขอ้ ท่ี 2 - 10 นบั คะแนนตามจานวนข้อทีเ่ ลอื กตอบ ความพร้อมของครอบครัวอย่ใู นระดับ ...............................
นักสังคมสงเคราะหผ์ ปู้ ระเมิน .......................................................วันที่ ...............................................
หมายเหตุ คะแนนน้อยกวา่ หรือเท่ากับ 10 หมายถงึ ระดบั ความพร้อม น้อยทีส่ ดุ ใช้วิธี Family Therapy
คะแนน 11 – 20 หมายถึง ระดบั ความพร้อมนอ้ ย ใช้วธิ ี Family Therapy / Family Counseling
คะแนน 21 – 30 หมายถึง ระดบั ความพร้อมปานกลาง ใชว้ ิธี Counseling
คะแนน 31 – 40 หมายถึง ระดบั ความพรอ้ มมาก ใช้วิธี Psycho – Social Support
คะแนน 41 – 47 หมายถึง ระดับความพร้อมมากท่ีสุด ใชว้ ธิ ี Psycho – Social Education
ถ้าคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง – มากทส่ี ุด (21 คะแนนขน้ึ ไป) หมายถึง ครอบครวั มีความพรอ้ มในการดแู ลผู้ปุวย
ถ้าคะแนนอยใู่ นระดับนอ้ ย – น้อยทีส่ ดุ (น้อยกวา่ หรอื เทา่ กบั 20 คะแนน) หมายถงึ ครอบครัวไมม่ คี วามพร้อมในการดแู ลผ้ปู ุวย
นักสังคมสงเคราะหต์ อ้ งพจิ ารณาใหค้ วามช่วยเหลอื ตามขอ้ ทีม่ ีคะแนนการประเมินน้อย
- 26 -
ค่มู ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ ความพร้อมของครอบครวั
(Family Readiness Assessment) ตัวย่อ F.R.A.
คาช้ีแจง
คูม่ ือการใช้เครอื่ งมือประเมินความพร้อมของครอบครัว เปน็ เครอ่ื งมอื ในการประเมินครอบครวั ซ่ึงหมายถึง
ครอบครวั ท่ีมีความพรอ้ มในการทาบทบาทหน้าท่ีที่เหมาะสม เพื่อใหค้ รอบครวั ไปสูค่ วามอยดู่ ีมสี ุข และมลี กั ษณะหรือปัจจยั
ดงั นี้ ระดับรายไดข้ องครอบครวั สภาพแวดล้อมภายในบา้ น ความรกั ใครผ่ กู พันในครอบครัว ความสามารถในการแกป้ ญั หา
ของสมาชกิ ในครอบครวั เช่น เผชญิ ปัญหารว่ มกนั รับรปู้ ญั หาและหารอื ร่วมกนั รบั ผิดชอบปญั หารว่ มกนั ชว่ ยกนั แก้ปัญหา
ยอมรับความเจ็บปวุ ย เปน็ ตน้ ความสามารถของสมาชกิ ในครอบครัวต่อการจดั การพฤตกิ รรมไม่เหมาะสม การส่ือสารระหว่าง
สมาชิกในครอบครัว การตระหนกั และสามารถทาหนา้ ทต่ี ามบทบาทของตนอยา่ งเหมาะสมของสมาชกิ ในครอบครัว ความรู้
ความเขา้ ใจของสมาชกิ ในครอบครัวตอ่ การดูแลผู้ปุวย และการมีเครือขา่ ยทางสงั คมของสมาชิกในครอบครัวเพื่อรับการ
สนับสนุน
หวั ข้อ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
1. ระดับรายได้ของครอบครวั
ตนเองและสมาชิกในครอบครัวไม่มรี ายได้
0) ไมม่ ีรายได้ทงั้ จากตนเอง
หรอื ไดร้ ับจากผู้อื่น ไม่มรี ายได้ของตนเอง แต่ไดร้ ับจากผอู้ ่ืนช่วยเหลือแต่ยงั คงมหี นี้สนิ และไม่มเี งินออม
รายไดท้ ่ไี ด้รบั น้อยกวา่ รายจ่ายจนเกดิ มหี นีส้ นิ และไมม่ ีเงนิ ออม
1) ไมม่ รี ายไดข้ องตนเอง มรี ายได้และรายจ่ายท่เี ท่ากัน แต่ไม่มีเงินออม และไมม่ ปี ญั หาหนส้ี นิ
2) มีรายไดน้ ้อยกวา่ รายจ่าย มีรายไดส้ ูงกวา่ รายจา่ ย แตไ่ มม่ เี งนิ ออม และไมม่ ปี ญั หาหน้สี นิ
3) มรี ายได้เทา่ กบั รายจา่ ย
4) มรี ายได้สงู กวา่ รายจ่าย มีรายได้สูงกวา่ รายจ่าย จนมีเงนิ ออม ไมม่ ปี ัญหาหนส้ี ิน
แต่ไมม่ เี งนิ ออม ครอบครัวไมม่ ที พี่ ักอาศยั เป็นของตนเอง เร่ร่อนอาศยั ตามท่สี าธารณะตา่ ง ๆ ซึ่งขาด
5) มีรายไดส้ งู กว่ารายจา่ ย สขุ อนามัย
2. สภาพแวดล้อมในบา้ น ครอบครวั มีทพ่ี ักอาศยั เปน็ หลกั แหล่ง แตข่ าดคุณสมบัติที่เอื้อใหเ้ กิดสขุ อนามัยที่ดี
0) ไมม่ ที ี่อยแู่ น่นอน เรร่ อ่ น ไดแ้ ก่ ขาดความเปน็ สดั สว่ น สกปรก อากาศถ่ายเทไมส่ ะดวก ไม่มคี วามปลอดภยั
ทางกายภาพ และขาดพ้ืนท่วี า่ งในการทากิจกรรม
ไร้บา้ น ครอบครัวมที ่พี ักแยกจากครอบครัวอน่ื ภายในที่พกั มกี ารจัดแบง่ หอ้ งตาม
1) มที ีอ่ ย่แู น่นอน แตไ่ มม่ ี ประโยชนข์ องพืน้ ที่ใช้สอยของสมาชิก
ทพ่ี กั มคี วามสะอาดทง้ั โครงสร้างภายนอก และอปุ กรณใ์ ช้สอยในบา้ น มีการจดั
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สง่ิ แวดลอ้ มทีเ่ อือ้ ใหส้ มาชกิ มสี ุขภาพแข็งแรง ไมม่ ีแหล่งทเ่ี ปน็ บ่อเกิดของเช้อื โรค
มีชอ่ งเปดิ รับแสงแดงและอากาศถ่ายเทได้ดี
2) ที่อย่มู คี วามเปน็ สัดสว่ น ท่ีพกั ปลกู สรา้ งมนั่ คง แข็งแรง บริเวณทางเดนิ ไมม่ ีส่ิงกดี ขวางหรอื ล่นื สิง่ ของหรอื
อปุ กรณ์ภายในบา้ นสามารถใชง้ านได้ดไี มก่ ่อใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สมาชกิ
3) ท่ีอยู่ถกู สขุ ลกั ษณะ สะอาด บริเวณทพี่ กั มีพน้ื ท่ใี ช้สอยทส่ี มาชกิ สามารถทากจิ กรรมตา่ ง ๆ รว่ มกันได้
อากาศถา่ ยเท
4) ทอ่ี ยู่มีความปลอดภัยทาง
กายภาพ
5) ทอ่ี ยมู่ ีพ้นื ทว่ี า่ งในการทา
กจิ กรรม
- 27 -
หัวขอ้ ประเภท รายละเอียด ความหมาย
3. ความรักใคร่ผกู พนั ในครอบครัว
0) ไม่ไดร้ บั ความรกั ไมไ่ ด้รบั ความรกั จากสมาชิกในครอบครัว
1) ดูแลเอาใจใส่ เอ้ืออาทร สมาชกิ ในครอบครัวมกี ารดูแลซ่งึ กนั และกนั ตามพัฒนาการของวยั รว่ มกนั ปกปูอง
ช่วยเหลอื อบรมแนะนา แบง่ ปันทรัพยากรต่างๆ ระหว่างกัน
2) ส่งเสรมิ สนับสนนุ ทาง สมาชิกในครอบครวั มีการส่งเสริมความสามารถ ผลกั ดนั ให้กาลังใจ แสดงกริยา ต่าง
จิตใจกลา่ วชนื่ ชม ๆ หรือกล่าวชื่นชมระหว่างกัน เพอ่ื สร้างความอบอนุ่ ทางจิตใจ
3) มีการสมั ผสั ทางกาย สมาชิกในครอบครัวมีการแสดงออกทางกายที่ชัดเจนเพื่อแสดงถงึ ความรสู้ กึ ท่ดี ีระหวา่ ง
กัน เชน่ การสัมผสั โอบกอด ฯลฯ
4) ทากิจกรรมร่วมกนั สมาชกิ ในครอบครัวมีเวลา และโอกาสในการทากจิ กรรมสม่าเสมอ เชน่ ทานอาหาร
สมา่ เสมอ ท่องเทยี่ ว เล่นกฬี า หรือทากจิ กรรมทีส่ นใจต่าง ๆ รว่ มกัน เป็นตน้
4. ความสามารถในการแกไ้ ขปัญหาของสมาชกิ ในครอบครัว
0) ไม่มีความสามารถในการ สมาชิกในครอบครวั ไมม่ ีความสามารถในการร่วมกันคดิ และร่วมมอื แก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ
แกไ้ ขปญั หา
๑) เผชิญปัญหาร่วมกัน สมาชิกในครอบครวั มคี วามกล้าทีจ่ ะเผชิญปัญหาร่วมกนั
2) รบั รปู้ ัญหา และหารือ สมาชิกในครอบครวั สามารถรับรูถ้ งึ ปญั หาทเี่ กดิ ข้นึ และมีการปรึกษาหารอื เพื่อแก้ไข
ร่วมกนั ปัญหารว่ มกนั
3) รับผดิ ชอบปญั หาร่วมกัน สมาชิกในครอบครัวมสี ว่ นรว่ มรับผดิ ชอบในการแกไ้ ขปญั หารว่ มกัน
4) ช่วยกันแก้ไขปัญหา สมาชิกในครอบครัวมีความร่วมมอื ร่วมใจในการแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้อย่างมีระบบ
5) ยอมรบั ความเจบ็ ปุวย สมาชิกในครอบครวั ยอมรบั ถงึ สภาพความเจ็บปุวยท่เี กิดขึ้นกับผ้ปู วุ ยไดเ้ ปน็ อย่างดี
5. ความสามารถของสมาชกิ ในครอบครัวตอ่ การจัดการพฤตกิ รรมทไ่ี ม่เหมาะสมของผปู้ วุ ย
0) ไม่มคี วามสามารถในการ สมาชกิ ในครอบครวั ไม่มีความสามารถในการจดั การกบั พฤตกิ รรมที่ไม่เหมาะสมของ
จัดการพฤตกิ รรม ผ้ปู ุวย
1) ทกั ษะการควบคมุ พฤติกรรม สมาชกิ ในครอบครัวสามารถควบคมุ หรือจดั การกบั พฤตกิ รรมท่ไี ม่เหมาะสมของผปู้ ุวยได้
2) การให้แรงเสริมทเี่ หมาะสม สมาชกิ ในครอบครัวรวู้ ิธีการท่ีทาใหผ้ ปู้ วุ ยเปล่ยี นพฤติกรรมไปในทางท่เี หมาะสมได้
3) ฝกึ ระเบยี บวนิ ยั สมาชกิ ในครอบครวั สามารถฝกึ ใหผ้ ปู้ ุวยมรี ะเบียบวินัยในตนเองได้
4) สมาชิกในครอบครวั รู้ สมาชิกในครอบครัวมคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถดแู ล แกไ้ ขปญั หา เมอื่ ผู้ปวุ ยมี
วธิ ีการดแู ลเมือ่ ผปู้ ุวยมี พฤตกิ รรมท่ีไมเ่ หมาะสมได้
ปัญหาพฤตกิ รรม
5) ยอมรับกฎ กตกิ าของ สมาชกิ ในครอบครัวมีความเข้าใจและยอมรบั ในกฎ กติกาของครอบครัวทว่ี างไว้ได้
ครอบครัว
6. การยอมรับและใหอ้ ภยั ของสมาชิกในครอบครวั เม่ือผูป้ ุวยทาผดิ หรือมพี ฤติกรรมไม่เหมาะสม
0) ไม่มีการยอมรบั หรือให้ สมาชกิ ในครอบครวั ไม่มีการยอมรับหรอื ใหก้ าลังใจซึง่ กันและกัน
กาลงั ใจ
1) ยอมรบั ความแตกต่าง สมาชกิ ในครอบครัวยอมรับในตัวตนของผ้ปู วุ ยได้ โดยไม่ใช้อคตสิ ่วนตัวตัดสนิ
ส่วนบุคคล พฤติกรรมการแสดงออกของผปู้ วุ ย
2) ใหอ้ ภยั และให้โอกาสแกไ้ ข สมาชิกในครอบครัวไม่ซา้ เตมิ ผ้ปู ุวยท่กี ระทาพฤติกรรมในทางท่ีไม่เหมาะสม และได้ให้
โอกาสในการแกไ้ ขข้อผิดพลาดทีเ่ กดิ ขนึ้
3) ยอมรบั โดยไม่มีเงอื่ นไข สมาชิกในครอบครัวยอมรับในตัวตนและพฤติกรรมการแสดงออกทุกประการของผปู้ วุ ย
4) ใหก้ าลังใจ สมาชิกในครอบครวั ส่งเสรมิ และสนับสนุนใหผ้ ปู้ ุวยแสดงพฤตกิ รรมที่พงึ ประสงค์ หรอื
ส่งเสรมิ กาลงั ใจ พดู คุยเมื่อสมาชิกในครอบครวั เผชิญกับความผิดหวงั ทอ้ แท้
- 28 -
หัวข้อ ประเภท รายละเอยี ด ความหมาย
7. การส่อื สารระหวา่ งกนั ของสมาชกิ ในครอบครัว
0) ไมม่ ีการสือ่ สารใด ๆ สมาชกิ ในครอบครัวไม่มกี ารสอ่ื สารระหว่างกนั
1) มกี ารรบั ร้คู วามรูส้ กึ สมาชกิ ในครอบครัวมกี ารพดู คุย ส่ือสารระหว่างกัน โดยการสื่อสารนน้ั เกีย่ วข้องกบั
สภาพอารมณ์ จติ ใจ วิถชี ีวติ ความเปน็ อยู่ สถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีสมาชิกในครอบครวั
กาลงั เผชิญ
2) พดู คยุ / แสดงความรู้สึก สมาชกิ ในครอบครัวสามารถสื่อสารบอกความร้สู กึ ความตอ้ งการของตนเองได้อยา่ ง
และความตอ้ งการได้อยา่ ง เปดิ เผย
เปิดเผย
3) มอี สิ ระในการแสดงความ สมาชิกในครอบครวั สามารถแสดงความคดิ เหน็ ระหว่างกนั ได้อยา่ งอิสระ
คดิ เห็น
4) มีสัมผัส โอบกอดระหว่าง สมาชกิ ในครอบครวั แสดงออกซ่งึ การสมั ผัสทางกาย การโอบกอดเพอ่ื ส่งเสริม
สมาชิก สนับสนนุ ทางอารมณจ์ ติ ใจระหวา่ งกัน ไดแ้ ก่ การแสดงความรักระหว่างกนั การโอบ
กอดเพื่อแสดงความยนิ ดี การสัมผัสทางกายเม่อื สมาชิกในครอบครัวทอ้ แท้ สิ้นหวงั
เป็นตน้
5) มีการสอื่ สารเพือ่ ลดความ เมอื่ เกดิ ความขัดแยง้ ขึ้นสมาชกิ ในครอบครวั สามารถสือ่ สารเพือ่ ลดความขัดแย้ง
ขัดแย้ง
8. การตระหนกั และสามารถทาหนา้ ทีต่ ามบทบาทของตนอยา่ งเหมาะสมของสมาชกิ ในครอบครัว
0) ไมม่ กี ารทาหน้าทีต่ าม สมาชิกในครอบครวั ไม่มีการทาหนา้ ท่ีตามบทบาทของตนอย่างเหมาะสม
บทบาท
1) ตระหนักรู้ มคี วามชดั เจน สมาชิกในครอบครวั รู้จักบทบาทของตนเองและแสดงบทบาทน้ัน ๆ ของตนเองได้
ในบทบาทของตน
2) การแบ่งเบาภาระ สมาชิกในครอบครัวมกี ารช่วยเหลอื แบง่ เบาหนา้ ทก่ี ารงานในบ้านระหว่างกนั
3) การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรม สมาชกิ ในครอบครวั ในวิถชี ีวิตประจาวนั หรอื กิจกรรมทจ่ี ัดข้นึ เป็นพเิ ศษของ
ของครอบครวั ครอบครวั
4) การมอบหมายหนา้ ทใี่ น สมาชกิ ในครอบครวั มีการกาหนดหน้าทคี่ วามรบั ผิดชอบตามบทบาทของตนเองได้
ครอบครวั
5) รบั ผิดชอบตามบทบาท สมาชกิ ในครอบครัวดาเนินการตามหนา้ ที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
หน้าท่ี
9. ความรู้ ความเขา้ ใจของสมาชิกในครอบครวั ตอ่ การดูแลผปู้ วุ ย
0) ไมม่ คี วามรู้ ความเข้าใจใน สมาชิกในครอบครวั ไมม่ ีความรู้ ความเขา้ ใจตอ่ การดูแลผู้ปวุ ย
การดแู ลผปู้ วุ ย
1) มีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง ครอบครัวมคี วามรู้ ความเข้าใจเรอื่ งโรค อาการและสขุ ภาพของผปู้ วุ ย
โรคที่ผปู้ วุ ยเปน็
2) มคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน ครอบครวั มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การดูแลผูป้ วุ ย
การดแู ลผปู้ วุ ย
3) มคี วามสามารถในการดูแล ครอบครัวมคี วามสามารถในการดูแลผูป้ วุ ยตามลักษณะอาการเจ็บปุวย และมาพบ
ผปู้ ุวย แพทย์เมือ่ มีอาการผิดปกติ
4) มคี วามสามารถในการ ครอบครัวสามารถประเมนิ การเปลี่ยนแปลง รวมถงึ อาการผดิ ปกตหิ รอื อาการรุนแรง
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลง ของผู้ปุวยได้
อาการกาเริบของผู้ปุวยได้
5) มคี วามเขา้ ใจในสภาพจติ ใจ ครอบครัวมีการดแู ลเอาใจใสเ่ ม่อื ผู้ปวุ ยมปี ญั หาทางจติ ใจ
ของผ้ปู ุวย
- 29 -
หวั ข้อ ประเภท รายละเอยี ด ความหมาย
10. การมีเครอื ข่ายทางสงั คมของสมาชิกในครอบครัว เพื่อขอรบั การชว่ ยเหลือหลังจากจาหนา่ ยแลว้
0) ไมม่ ีเครอื ขา่ ย สมาชกิ ในครอบครวั ไมม่ ีเครือขา่ ยทางสงั คม เพอ่ื ขอรับความชว่ ยเหลอื
1) ญาติ (ทไี่ ม่ไดอ้ ยูใ่ น ผปู้ ุวยมญี าติในการดแู ลช่วยเหลอื เมือ่ มีปัญหา
ครอบครวั )
2) เพือ่ นบ้าน ผู้ปวุ ยมสี ัมพนั ธภาพทดี่ กี บั เพ่ือนบ้าน และสามารถพึ่งพากันได้
3) ผู้นาชมุ ชน / อาสาสมคั ร สมาชิกในครอบครัวร้จู ัก และสามารถขอความชว่ ยเหลอื จากผู้นาชมุ ชน อาสาสมคั รใน
ในชมุ ชน ชมุ ชน
4) หน่วยงานภาครัฐ / เอกชน สมาชกิ ในครอบครวั ร้จู ักแหล่งสนับสนนุ ทางสังคม และสามารถไปใชบ้ รกิ ารได้
5) รจู้ ักหาข้อมลู เพมิ่ เติมจาก สมาชิกในครอบครวั สามารถเขา้ ถงึ ข้อมลู ความรู้จากแหลง่ ขอ้ มูลและสอ่ื ตา่ ง ๆ
ทอ่ี ่ืน
ทม่ี า : พฒั นามาจาก Structional-functional Theory. Parson&Bales. Friedman,M.M. (1998). Family nursing research : Theory
and practice(4th ed.). Stamford: Appleton&Lange. อุมาพร ตรงั คสมบตั ิ. Mc Master Model : จิตบาบดั และการให้คาปรึกษาครอบครวั
(Family therapy of family counseling). กรุงเทพมหานคร : ศนู ยว์ ิจัยและบาบัดครอบครัว, 2544. สดใส ค้มุ ทรัพย์อนันต์. คมู่ ือครอบครวั
บาบดั สาหรบั ผปู้ ฏบิ ัติงานด้านครอบครวั และเด็ก. สานักพมิ พ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 2554
- 30 -
เอกสารชุด
เครื่องมือแบบประเมินทักษะพื้นฐานในการทางาน
และทกั ษะการปรบั ตัวทางสังคม
(Prevocational and Social Skill Assessment: P.S.S.A.)
- 31 -
คาอธิบายเคร่ืองมือทักษะพืน้ ฐานในการทางานและทักษะการปรับตวั ทางสังคม
(Prevocational and Social Skill Assessment) ตัวยอ่ P.S.S.A.
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการประเมนิ ทักษะพ้ืนฐานในการทางานและทักษะการปรบั ตัวทางสังคม
2. เพ่อื ใหก้ ารประเมินทกั ษะทางสังคมและทกั ษะพืน้ ฐานในการทางาน เป็นไปในทศิ ทางเดียวกนั
กลุ่มเปา้ หมาย
ผ้บู กพรอ่ งทางพฒั นาการและสติปัญญา และผูป้ วุ ยจิตเวช
ประโยชน์
1. การประเมินทักษะทางสังคมและทกั ษะพน้ื ฐานการทางานมีแนวทางเดียวกัน และมมี าตรฐานในการปฏิบัตงิ าน
2. ผปู้ ฏบิ ตั ิงานเกดิ ความเขา้ ใจและง่ายในการนาไปใชป้ ระเมินทักษะทางสงั คมและทกั ษะพื้นฐานการทางาน
3. ผปู้ วุ ยไดร้ ับการประเมนิ ทกั ษะทางสังคมและทักษะพนื้ ฐานการทางาน เพ่ือเตรียมความพร้อมในการทางานใน
กจิ การครอบครวั และสถานประกอบการ
วิธีใช้แบบประเมิน
๑. สงั เกตพฤตกิ รรมผ้ปู ุวยระหว่างการฝกึ ปฏิบัตงิ านตามหน่วยงานตา่ งๆหรือกอ่ นสง่ ไปทางานทีส่ ถาน
ประกอบการจริง
๒. ประเมนิ ทักษะทางสงั คมและทกั ษะพืน้ ฐานการทางาน โดยครูผู้ฝึกสอนงาน (Job Coach)
๓. รวบรวมผลคะแนนการประเมนิ
๓.๑ หากคะแนนอย่ใู นเกณฑร์ ะดับดขี ้ึนไป แสดงวา่ ผู้ปวุ ยมที ักษะทางสังคมและทกั ษะพืน้ ฐานการ
ทางานที่ เหมาะสม สามารถสง่ ต่อเข้ารบั การจา้ งงานในสถานประกอบการจรงิ หรอื ชว่ ยเหลอื
กิจการ ครอบครวั ได้
๓.๒ หากคะแนนอยู่ในเกณฑร์ ะดับปานกลางลงมา ต้องฝกึ เพิม่ เตมิ ในทักษะท่มี ีระดับคะแนนนอ้ ยหรือ
ทกั ษะทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ นน้ั ๆ
๓.๓ กรณปี ระเมินหลงั จากจบโปรแกรม พบว่า มคี ะแนนระดบั ปานกลางลงมา แนะนาการช่วยงานบา้ น
หรอื กิจการในครอบครัว
- 32 -
เครื่องมอื ประเมนิ ทักษะพ้นื ฐานในการทางานและทักษะการปรบั ตัวทางสงั คม
(Prevocational and Social Skill Assessment) ตวั ยอ่ P.S.S.A.
ช่ือผรู้ ับการประเมิน ................................................................... อายุ...............ปี..........................................
H.N………………………....………...AN……………………………….SN…………………………….
Job Coach ผู้ประเมนิ ................................................................วันทป่ี ระเมนิ .............................................
คะแนนรวม (รอ้ ยละ) …………………………………………………………………………...................................................
1. ทกั ษะพนื้ ฐานในการทางาน
รายการประเมนิ 5 4 3 2 1 คะแนนรวม
ความสามารถในการทางานให้สาเร็จ
1. อดทนในการทางาน
2. ทางานเสร็จทนั เวลา
3. ทางานทท่ี าอยปู่ ระจาได้โดยไมต่ ้องตักเตอื น
4. ทางานไดเ้ รว็ ขนึ้ หลังจากผ่านงานนั้นแล้วระยะหนึ่ง
5. เมอื่ มีปญั หาในการทางานรูจ้ กั ขอคาแนะนา
6. แก้ไขปัญหาง่าย ๆ ในการทางาน
7. มีน้าใจ ให้ความร่วมมอื และทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื ได้
8. รจู้ ักระมดั ระวังในการใชเ้ ครื่องมอื
9. รูจ้ ักสถานทีต่ ่าง ๆ ในหน่วยงาน
10. มีความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์
11. มคี วามตั้งใจและขยนั ขันแข็งในการทางาน
12. รอบคอบในการทางาน
13. สุภาพ ออ่ นนอ้ ม รู้จกั กาลเทศะ
14. รจู้ ักวางแผนการทางานตามลาดบั ก่อน – หลัง
15. ปฏิบัตติ ามคาสั่ง และรับผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รับมอบหมาย
16. มีความซ่ือสตั ย์ สจุ รติ
คะแนนรวม
ทักษะ 5 4 3 2 1 คะแนนรวม
ความสามารถในการปฏิบัติตามกฏระเบยี บในการทางาน
1. มาทางานตรงตอ่ เวลา
2. กลับมาทางานหลังจากหมดเวลาพกั โดยไมต่ อ้ งเตอื น
3. บอกหัวหนา้ งาน /เจ้าหน้าท่ีเมอื่ ตอ้ งการอุปกรณใ์ นการ
ทางาน
4. ยมื อุปกรณใ์ นการทางานแลว้ รจู้ ักคืน
5. ปฏิบัติตามกฎระเบยี บในการทางานได้
6. บอกเหตผุ ลที่ลางานมีความเหมาะสม
7. รจู้ กั มาตามเวลานัดหมาย
คะแนนรวม
- 33 -
2. ทกั ษะการปรับตวั ทางสงั คม 5 4 3 2 1 คะแนนรวม
5 4 3 2 1 คะแนนรวม
ทักษะ 5 4 3 2 1 คะแนนรวม
5 4 3 2 1 คะแนนรวม
ทักษะการสอ่ื ความหมาย
1. รบั โทรศัพท์และจาข้อความง่าย ๆ ไปบอกได้
2. ทกั ทายลกู ค้าอย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม
3. เดินทางไปตดิ ตอ่ งานภายนอกสานกั งานเองได้
4. รบั คาส่งั และปฏิบัตงิ านไดถ้ ูกต้อง
5. รจู้ ักชอ่ื นายจา้ งและเพ่ือนร่วมงาน
6. ยอมรบั คาวิจารณ์และพยายามปรบั ปรงุ
คะแนนรวม
ทกั ษะ
ทักษะการอา่ น-เขยี น-คานวณ
1. ความสามารถในการอ่าน
2. ความสามารถในการเขียน
3. ความสามารถในการนบั จานวนสิ่งของ
4. ความสามารถในการนับ/คานวณเงิน
คะแนนรวม
ทักษะ
ทกั ษะการใช้ชีวิตประจาวนั
1. แต่งกาย เรยี บรอ้ ย เหมาะสม
2. รกั ษาความสะอาดรา่ งกาย
3. ดแู ลสขุ ภาพตนเองเมอื่ เจ็บปุวยและสามารถบอกอาการได้
4. มาทางานสม่าเสมอไมข่ าดงานบ่อย
คะแนนรวม
ทกั ษะ
ทักษะการมสี มั พนั ธภาพกบั ผอู้ น่ื
1. รจู้ ักทักทายผูอ้ นื่ อยา่ งเหมาะสม
2. รจู้ กั กลา่ วคาขอโทษ
3. รู้จกั กลา่ วคาขอบคณุ
4. สามารถควบคมุ อารมณไ์ ดเ้ มื่อไม่พอใจ
5. รู้จักรอควิ
6. แสดงกรยิ า มารยามทางสังคมท่เี หมาะสม
คะแนนรวม
ขอ้ คดิ เห็นเพ่ิมเตมิ ………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- 34 -
เกณฑก์ ารประเมิน
4.50-5.0 มีทกั ษะทางสังคมและทกั ษะพื้นฐานการทางานอยู่ในระดบั ดีมาก
3.50-4.49 มที กั ษะทางสังคมและทกั ษะพน้ื ฐานการทางานอย่ใู นระดับดี
2.50-3.49 มที กั ษะทางสังคมและทกั ษะพน้ื ฐานการทางานอยู่ในระดบั ปานกลาง
1.50-2.49 มที กั ษะทางสงั คมและทกั ษะพืน้ ฐานการทางานอยใู่ นระดับนอ้ ย
1.00-1.49 มที กั ษะทางสังคมและทักษะพื้นฐานการทางานอยู่ในระดบั ทาไมไ่ ด้
หมายเหตุ ผ้ปู ุวยท่ผี า่ นการประเมิน สามารถออกไปทางานในสถานประกอบการได้ จะต้องไดร้ บั คะแนนอยู่ในเกณฑ์
ระดับดขี นึ้ ไป
ผลการประเมนิ ทักษะคานวณจาก
-คา่ เฉล่ียทกั ษะแต่ละดา้ น = ผลรวมของคะแนนทักษะแตล่ ะดา้ น
จานวนข้อทั้งหมดของทกั ษะน้นั
-คา่ เฉลี่ยรวมทกุ ทกั ษะ = ผลรวมของคา่ เฉลย่ี ทักษะแตล่ ะดา้ น
จานวนทกั ษะแตล่ ะดา้ น (6ดา้ น)
- 35 -
ค่มู อื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ ทักษะพื้นฐานในการทางานและทกั ษะการปรบั ตัวทางสงั คม
(Prevocational and Social Skill Assessment) ตัวย่อ P.S.S.A.
คาชี้แจง
เพ่อื เป็นแนวทางในการใชแ้ บบประเมนิ ทักษะทางสงั คมและทักษะพื้นฐานการทางานของผูบ้ กพรอ่ งทางพัฒนาการ
และสตปิ ัญญา และผูป้ ุวยจิตเวช
เกณฑ์การใหค้ ะแนนในกจิ กรรมแตล่ ะทักษะ มีรายละเอยี ด ดังน้ี
1. ทักษะพน้ื ฐานในการทางาน
หวั ขอ้ ทกั ษะ คะแนน รายละเอยี ด
ความสามารถ 1.อดทนในการทางาน 1 ไม่มคี วามอดทนในการทางาน ไม่สามารถทางานให้สาเร็จได้
ในการทางานให้
2 มคี วามอดทนในการทางานน้อย ต้องคอยแนะนา ตกั เตือนตลอด
สาเรจ็
3 มีความอดทนในการทางาน แตต่ ้องให้คาแนะนาตักเตอื นบางคร้ัง
4 มีความอดทนในการทางาน โดยได้รบั คาแนะนาตกั เตอื นเล็กนอ้ ย
5 มีความอดทนในการทางาน โดยไม่ต้องแนะนาตักเตือน
2.ทางานเสร็จทนั เวลา 1 ไม่สามารถทางานไดเ้ สร็จทันเวลา
2 สามารถทางานไดเ้ สรจ็ ทนั เวลา แตต่ อ้ งใหค้ าแนะนาตักเตือนตลอด
3 สามารถทางานไดเ้ สร็จทันเวลา แตต่ ้องให้คาแนะนาตกั เตือนบางครั้ง
4 สามารถทางานได้เสรจ็ ทนั เวลา โดยไดร้ บั คาแนะนาเลก็ น้อย
5 สามารถทางานได้เสร็จทันเวลา โดยไมต่ อ้ งตักเตือน
3.ทางานที่ทาอยปู่ ระจาได้ 1 ไมส่ ามารถทางานที่ทาอยูป่ ระจาได้
โดยไม่ต้องตักเตอื น 2 สามารถทางานท่ที าอยู่ประจาได้ แตต่ อ้ งคอยแนะนาทกุ ขน้ั ตอน
3 สามารถทางานที่ทาอยู่ประจาได้ โดยได้รับคาแนะนาบางข้นั ตอน
4 สามารถทางานที่ทาอยปู่ ระจาได้บางงาน โดยไมต่ ้องตักเตือน
5 สามารถทางานที่ทาอยู่ประจาได้ทุกงาน โดยไม่ตอ้ งตกั เตอื น
4.ทางานได้เรว็ ขึ้นหลงั จาก 1 ไมส่ ามารถทางานไดเ้ รว็ ขึ้นหลงั จากผา่ นงานนั้นแล้วระยะหนึง่
ผ่านงานน้ันแลว้ ระยะหนงึ่ 2 สามารถทางานไดเ้ ร็วข้นึ แต่ตอ้ งคอยแนะนาตกั เตือนตลอด
3 สามารถทางานไดเ้ ร็วขน้ึ แต่ต้องให้คาแนะนาตักเตือนบางครง้ั
4 สามารถทางานไดเ้ ร็วขน้ึ โดยได้รับคาแนะนาเลก็ น้อย
5 สามารถทางานไดเ้ ร็วขนึ้ หลังจากผา่ นงานน้นั แลว้ ระยะหน่ึง โดยไม่ตอ้ งตักเตอื น
- 36 -
หวั ขอ้ ทกั ษะ คะแนน รายละเอยี ด
ความสามารถ 5.เม่ือมีปัญหาในการ 1 ไมร่ จู้ ักขอคาแนะนาเมอื่ มีปญั หาในการทางาน
ในการทางานให้
ทางานรู้จกั ขอคาแนะนา 2 รู้จักขอคาแนะนาเม่ือมีปัญหาในการทางาน แตต่ อ้ งได้รับคาแนะนา
สาเร็จ
3 รู้จกั ขอคาแนะนาเม่ือมปี ญั หาในการทางานไดเ้ ปน็ บางครัง้
4 รจู้ กั ขอคาแนะนาเมอ่ื มีปญั หาในการทางานได้
5 รจู้ กั ขอคาแนะนาเมอ่ื มีปัญหาในการทางานได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
6.แกไ้ ขปญั หางา่ ย ๆ ใน 1 ไมส่ ามารถแกไ้ ขปัญหางา่ ยๆในการทางาน
การทางาน 2 สามารถแก้ไขปญั หาง่ายๆได้นอ้ ย ตอ้ งคอยแนะนา ชว่ ยเหลอื ตลอด
3 สามารถแก้ไขปญั หางา่ ยๆได้ แตต่ อ้ งให้คาแนะนาช่วยเหลือบางคร้งั
4 สามารถแกไ้ ขปัญหางา่ ยๆได้ โดยได้รบั คาแนะนาช่วยเหลือเลก็ น้อย
5 สามารถแกไ้ ขปญั หางา่ ยๆได้ โดยไม่ตอ้ งแนะนาชว่ ยเหลอื
7. มนี า้ ใจ ให้ความร่วมมอื 1 ไมม่ ีนา้ ใจ ไม่ให้ความรว่ มมอื และไมส่ ามารถทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืนได้
และทางานรว่ มกบั ผ้อู ่นื ได้ 2 มที า่ ทางหงุดหงดิ เม่ือตอ้ งให้ความรว่ มมอื และทางานร่วมกบั ผู้อื่น
3 ใหค้ วามร่วมมือในการทางานกับผู้อ่ืนได้ โดยไมม่ ีทา่ ทางหงุดหงดิ
4 ให้ความรว่ มมอื และทางานร่วมกับผูอ้ ืน่ ไดด้ ี
5 ใหค้ วามรว่ มมือและทางานร่วมกับผอู้ นื่ ได้ดี และมนี ้าใจต่อผู้อืน่
8. รจู้ กั ระมัดระวงั ในการ 1 ไม่ร้จู ักระมัดระวังในการใช้เครอื่ งมือ
ใช้เครือ่ งมือ 2 รจู้ กั ระมัดระวังในการใช้เครอ่ื งมือไดแ้ ตต่ อ้ งกระตุ้น
3 รู้จกั ระมดั ระวังในการใชเ้ ครื่องมือได้ เมื่อได้รับคาแนะนา
4 รจู้ ักระมัดระวงั ในการใชเ้ คร่ืองมือ
5 รจู้ ักระมดั ระวังในการใช้เคร่ืองมือและสามารถแนะนาผอู้ ่นื ได้
9.ร้จู ักสถานท่ตี า่ งๆใน 1 ไมร่ ู้จกั สถานทตี่ ่างๆในหน่วยงาน
หนว่ ยงาน 2 รจู้ กั สถานทีต่ ่างๆในหน่วยงาน แต่ตอ้ งคอยแนะนาช่วยเหลอื ทกุ คร้งั
3 รจู้ ักสถานท่ีต่างๆในหนว่ ยงาน แตต่ อ้ งใหค้ าแนะนาชว่ ยเหลือบางครัง้
4 รู้จกั สถานที่ตา่ งๆในหน่วยงาน โดยได้รบั คาแนะนาเล็กนอ้ ย
5 รู้จกั สถานท่ตี า่ งๆในหนว่ ยงาน โดยไมต่ อ้ งให้คาแนะนา
10.มคี วามคดิ ริเริ่มสร้าง 1 ไมม่ คี วามคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์
สรรค์ 2 มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ แต่ต้องคอยแนะนากระตุ้นตลอด
3 มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ แตต่ อ้ งใหค้ าแนะนากระตุน้ บางครั้ง
4 มีความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ โดยไดร้ ับคาแนะนาเลก็ น้อย
5 มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ โดยไม่ต้องใหค้ าแนะนา
11.มคี วามตั้งใจและขยัน 1 ไมม่ ีความตั้งใจและไมข่ ยนั ขันแข็งในการทางาน
ขันแข็งในการทางาน 2 มคี วามตง้ั ใจและขยันขันแขง็ ในการทางานน้อย ตอ้ งคอยแนะนาและตักเตอื น
ตลอด
3 มีความต้ังใจและขยันขนั แข็งในการทางาน แตต่ อ้ งใหค้ าแนะนาตกั เตอื นบางครง้ั
4 มีความตั้งใจและขยันขันแข็งในการทางาน โดยได้รบั คาแนะนาเล็กน้อย
5 มีความตั้งใจและขยนั ขันแข็งในการทางาน โดยไมต่ ้องแนะนาหรือตกั เตือน
- 37 -
หัวขอ้ ทักษะ คะแนน รายละเอียด
ความสามารถ 12.รอบคอบในการทางาน 1 ไมม่ คี วามรอบคอบในการทางาน
ในการทางานให้
2 มีความรอบคอบในการทางานน้อย ตอ้ งคอยแนะนา ตกั เตือนตลอด
สาเร็จ
3 มีความรอบคอบในการทางาน แตต่ อ้ งใหค้ าแนะนาตกั เตอื นบางครง้ั
ความสามารถใน
การปฏบิ ตั ิตาม 4 มีความรอบคอบในการทางาน โดยไดร้ บั คาแนะนาเล็กนอ้ ย
กฎระเบยี บ
ในการทางาน 5 มคี วามรอบคอบในการทางาน โดยไม่ต้องแนะนาชว่ ยเหลอื
13.สภุ าพ อ่อนนอ้ ม รู้จกั 1 ไมม่ ีความสภุ าพออ่ นนอ้ ม ไมร่ ้จู ักกาลเทศะ
กาลเทศะ 2 มีความสภุ าพ อ่อนน้อม รจู้ กั กาลเทศะน้อย ไมเ่ หมาะสม
3 มคี วามสภุ าพ ออ่ นน้อม รู้จักกาลเทศะ ไม่เหมาะสมบางครงั้
4 มคี วามสุภาพ ออ่ นน้อม รู้จักกาลเทศะ
5 มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จกั กาลเทศะอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
14.รู้จกั วางแผนการ 1 ไม่ร้จู กั วางแผนการทางานตามลาดบั กอ่ น – หลงั
ทางานตามลาดับก่อน – 2 ยงั ไม่สามารถวางแผนการทางานตามลาดบั กอ่ น-หลงั ได้ถูกต้อง
หลงั 3 สามารถวางแผนการทางานตามลาดับกอ่ นหลงั ไดถ้ ูกต้องเมื่อได้รบั คาแนะนา
4 รู้จกั วางแผนการทางานตามลาดับก่อน – หลัง
5 รู้จักวางแผนการทางานตามลาดบั ก่อน–หลงั และสามารถแนะนาผอู้ ่นื ได้
15. ปฏิบัติตามคาสง่ั และ 1 ไมป่ ฏิบัตติ ามคาส่ังและไมส่ ามารถรับผดิ ชอบงานได้
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ดร้ บั 2 ปฏบิ ตั ิตามคาสัง่ และรบั ผดิ ชอบต่องานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายได้ แตต่ ้องคอยแนะนา
มอบหมาย
ทกุ ข้ันตอน
3 ปฏบิ ัตติ ามคาส่ัง และรบั ผดิ ชอบตอ่ งานทไ่ี ด้รับมอบหมายได้ แตต่ อ้ งไดร้ ับ
คาแนะนาบางข้นั ตอน
4 ปฏบิ ัติตามคาสง่ั และรับผิดชอบต่องานท่ไี ดร้ ับมอบหมายได้ดบี างงาน
5 ปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั และรบั ผิดชอบต่องานท่ีได้รับมอบหมายไดด้ ีทุกงาน
16. มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1 ไมม่ คี วามซือ่ สตั ย์ สจุ รติ
2 มคี วามซอื่ สตั ย์ สุจรติ นอ้ ย ต้องคอยแนะนาตักเตือนตลอด
3 มีความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ แตต่ อ้ งคอยแนะนาตกั เตือนบางครั้ง
4 มคี วามซือ่ สตั ย์ สุจริต โดยได้รบั คาแนะนาตกั เตือนเลก็ นอ้ ย
5 มีความซือ่ สตั ย์ สจุ รติ ตลอดเวลา
1. มาทางานตรงตอ่ เวลา 1 ไม่สามารถมาทางานตรงต่อเวลาได้
2 มาทางานตรงตอ่ เวลาเป็นบางคร้ัง โดยตอ้ งกระตุ้น ตักเตือนตลอด
3 มาทางานตรงตอ่ เวลาได้ โดยต้องกระตนุ้ ตกั เตือนเปน็ บางครงั้
4 มาทางานตรงตอ่ เวลา โดยกระตนุ้ ตักเตือนเล็กน้อย
5 มาทางานตรงตอ่ เวลา โดยไม่ตอ้ งกระตุ้น ตกั เตอื น
- 38 -
หวั ขอ้ ทักษะ คะแนน รายละเอยี ด
ความสามารถใน 2.กลบั มาทางานหลงั จาก
การปฏบิ ตั ิตาม หมดเวลาพักโดยไม่ตอ้ ง 1 ไม่สามารถกลบั มาทางานหลงั จากหมดเวลาพักโดยไมต่ ้องเตอื น
เตอื น
กฎระเบยี บ 2 กลบั มาทางานหลงั จากหมดเวลาพักโดยไม่ต้องเตอื น แตต่ อ้ งคอยแนะนา
ในการทางาน 3. บอกหัวหน้างาน/
เจ้าหนา้ ท่ีเมื่อต้องการ ตักเตือนตลอด
ความสามารถใน อุปกรณ์ในการทางาน
การปฏิบัตติ าม 3 กลับมาทางานหลงั จากหมดเวลาพกั โดยไม่ต้องเตอื น แต่ตอ้ งให้คาแนะนา
กฎระเบียบ 4. ยืมอปุ กรณ์ในการ
ในการทางาน ทางานแล้วรจู้ ักคืน ตกั เตอื นบางครงั้
5. ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบ 4 กลับมาทางานหลังจากหมดเวลาพกั โดยไม่ต้องเตอื น แต่ต้องได้รบั คาแนะนา
ในการทางานได้
เล็กน้อย
6. บอกเหตุผลท่ลี างานมี
ความเหมาะสม 5 กลับมาทางานหลงั จากหมดเวลาพกั โดยไม่ต้องเตอื น
7. รู้จักมาตามเวลานัด 1 ไม่สามารถ บอกหวั หนา้ งาน/เจ้าหนา้ ที่เมื่อตอ้ งการอุปกรณ์ในการทางานได้
หมาย
2 สามารถ บอกหัวหน้างาน/เจ้าหนา้ ท่ีเมือ่ ต้องการอุปกรณ์ในการทางานได้ แต่
ต้องแนะนา ชว่ ยเหลอื ตลอด
3 สามารถ บอกหัวหน้างาน/เจ้าหน้าที่เมื่อตอ้ งการอุปกรณ์ในการทางานได้ แต่
ต้องแนะนา ชว่ ยเหลอื บางครง้ั
4 สามารถ บอกหัวหน้างาน/เจา้ หน้าทเ่ี ม่อื ต้องการอุปกรณใ์ นการทางานได้ แต่
ตอ้ งแนะนา ช่วยเหลือเล็กน้อย
5 สามารถ บอกหัวหนา้ งาน/เจ้าหนา้ ที่เมอ่ื ต้องการอปุ กรณใ์ นการทางานได้ โดย
ไม่ตอ้ งแนะนา ชว่ ยเหลอื
1 ไม่รจู้ กั การขอยมื อุปกรณ์ในการทางานแลว้ ร้จู ักคนื
2 ยมื อปุ กรณ์ในการทางานแล้วรจู้ กั คืนเมื่อได้รับคาแนะนา
3 ยมื อุปกรณ์ในการทางานแลว้ รู้จักคนื ได้ เปน็ บางครง้ั
4 ยมื อุปกรณ์ในการทางานแล้วรู้จักคืนได้
5 ยืมอุปกรณ์ในการทางานแลว้ รู้จกั คืนได้อยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์
1 ปฏิบัติตามกฎระเบยี บในการทางานไมไ่ ด้
2 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบในการทางานได้ แตต่ ้องแนะนา ตักเตือนตลอด
3 ปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บในการทางานได้ แตต่ ้องแนะนาตกั เตอื นบางครง้ั
4 ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บในการทางานได้ โดยแนะนาเลก็ น้อย
5 ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบในการทางานได้ โดยไมต่ อ้ งแนะนาตักเตือน
1 ไม่สามารถบอกเหตผุ ลที่ลางานได้อยา่ งเหมาะสม
2 สามารถบอกเหตผุ ลทล่ี างานได้เหมาะสมบางครั้ง ต้องแนะนาตกั เตอื นตลอด
3 สามารถบอกเหตผุ ลทล่ี างานไดเ้ หมาะสม โดยต้องแนะนาตักเตอื นบางคร้ัง
4 สามารถบอกเหตผุ ลท่ลี างานได้เหมาะสม โดยแนะนาเลก็ นอ้ ย
5 สามารถบอกเหตผุ ลทล่ี างานไดเ้ หมาะสม โดยไม่ตอ้ งตกั เตอื น
1 ไมส่ ามารถมาตามเวลานดั หมายได้
2 รูจ้ ักมาตามเวลานัดหมายเป็นบางครัง้ โดยตอ้ งกระตุ้น ตักเตอื นตลอด
3 รูจ้ ักมาตามเวลานัดหมายได้ โดยตอ้ งกระตุ้นตกั เตอื นเป็นบางครง้ั
4 รจู้ ักมาตามเวลานัดหมาย โดยกระต้นุ ตักเตือนเล็กนอ้ ย
5 รจู้ กั มาตามเวลานดั หมาย โดยไมต่ ้องกระตุน้ ตักเตือน
- 39 -
2. ทักษะการปรับตัวทางสังคม คะแนน รายละเอียด
1 ไมส่ ามารถรับโทรศพั ท์และจาขอ้ ความง่าย ๆ ไปบอกได้
หวั ขอ้ ทกั ษะ 2 รบั โทรศพั ท์และจาข้อความงา่ ย ๆ ไปบอกได้ เม่อื ถูกกระตุน้
3 รบั โทรศัพทแ์ ละจาข้อความง่าย ๆ ไปบอกได้ เมื่อได้รบั คาแนะนา
ทักษะ 1. รบั โทรศพั ทแ์ ละจา 4 รบั โทรศัพทแ์ ละจาขอ้ ความง่าย ๆ ไปบอกได้
การสื่อความหมาย ข้อความง่าย ๆ ไปบอกได้ 5 รบั โทรศพั ท์และจาขอ้ ความงา่ ย ๆ ไปบอกได้ และแนะนาผอู้ ่ืนได้
1 ไมส่ ามารถทกั ทายลูกคา้ อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมได้
2. ทักทายลูกคา้ อยา่ ง 2 ทกั ทายลกู ค้าอย่างถกู ต้อง เหมาะสมได้ เมอ่ื ถกู กระตุ้น
ถกู ต้อง เหมาะสม 3 ทกั ทายลกู คา้ อย่างถูกต้อง เหมาะสมได้ เมื่อได้รบั คาแนะนา
4 ทักทายลกู คา้ อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมได้
3. เดินทางไปติดต่องาน 5 ทกั ทายลกู ค้าอย่างถูกต้อง เหมาะสม และแนะนาผูอ้ ืน่ ได้
ภายนอกสานักงานเองได้ 1 ไม่สามารถเดนิ ทางไปติดตอ่ งานภายนอกสานกั งานเองได้
2 เดนิ ทางไปตดิ ตอ่ งานภายนอกสานกั งานเองได้ เม่ือถกู กระต้นุ
4. รับคาสัง่ และปฏิบตั งิ าน 3 เดนิ ทางไปตดิ ตอ่ งานภายนอกสานกั งานเองได้ เม่อื ได้รบั คาแนะนา
ไดถ้ ูกต้อง 4 เดนิ ทางไปตดิ ต่องานภายนอกสานกั งานเองได้
5 เดนิ ทางไปตดิ ตอ่ งานภายนอกสานกั งานเอง และแนะนาผอู้ ื่นได้
5. รู้จกั ชอ่ื นายจ้างและ 1 ไมส่ ามารถรับคาสง่ั และไม่สามารถปฏบิ ัติงานได้
เพอื่ นร่วมงาน 2 รับคาสง่ั และปฏิบตั ิงานไดถ้ กู ตอ้ ง เม่ือถูกกระตนุ้
3 รับคาสัง่ และปฏิบัตงิ านได้ถกู ตอ้ ง เม่ือไดร้ บั คาแนะนา
6. ยอมรับคาวจิ ารณแ์ ละ 4 รับคาสงั่ และปฏบิ ตั งิ านได้ถกู ตอ้ ง
พยายามปรบั ปรุง 5 รบั คาส่งั และปฏิบัตงิ านได้ถกู ต้อง และแนะนาผู้อนื่ ได้
1 ไม่รู้จกั ช่ือนายจ้างและเพ่ือนรว่ มงาน
ทกั ษะการ 1. ความสามารถในการ 2 รจู้ ักช่อื นายจ้างและเพอ่ื นร่วมงาน เมือ่ ถูกกระตุน้ ชว่ ยเหลือ
อ่าน-เขียน- อา่ น 3 รู้จักชื่อนายจา้ งและเพ่อื นร่วมงาน เมื่อไดร้ ับคาแนะนา
คานวณ 4 รจู้ กั ชอ่ื นายจ้างและเพอื่ นร่วมงาน
5 รจู้ กั ชื่อนายจา้ งและเพอ่ื นร่วมงาน และบอกแนะนาผูอ้ ื่นได้
1 ไม่สามารถยอมรับคาวจิ ารณแ์ ละไม่พยายามปรับปรุง
2 ยอมรับคาวจิ ารณ์และพยายามปรับปรุง เมือ่ ถกู ตกั เตือน
3 ยอมรับคาวจิ ารณ์และพยายามปรบั ปรุง เมื่อถูกตกั เตือนบางคร้งั
4 ยอมรบั คาวิจารณ์และพยายามปรับปรงุ โดยแนะนาเลก็ น้อย
5 รบั คาสง่ั และปฏิบตั งิ านได้ถูกตอ้ ง โดยไม่ต้องแนะนา
1 ไมม่ คี วามสามารถในการอา่ น
2 มีความสามารถในการอ่าน แตต่ อ้ งคอยแนะนาช่วยเหลอื ทกุ ครั้ง
3 มีความสามารถในการอา่ น แตต่ ้องให้คาแนะนาช่วยเหลือบางครั้ง
4 มีความสามารถในการอา่ น โดยได้รบั คาแนะนาเลก็ นอ้ ย
5 มคี วามสามารถในการอ่านได้ถูกต้องสม่าเสมอ
- 40 -
หวั ข้อ ทักษะ คะแนน รายละเอยี ด
2. ความสามารถในการ 1 ไมม่ คี วามสามารถในการเขยี น
ทกั ษะการใช้ เขียน 2 มีความสามารถในการเขียน แต่ตอ้ งคอยแนะนาช่วยเหลือทกุ ครงั้
ชีวติ ประจาวัน 3 มคี วามสามารถในการเขยี น แต่ตอ้ งให้คาแนะนาชว่ ยเหลอื บางครงั้
3. ความสามารถในการ 4 มีความสามารถในการเขียน โดยไดร้ บั คาแนะนาเลก็ นอ้ ย
นับจานวนส่งิ ของ 5 มคี วามสามารถในการเขยี นได้ถกู ตอ้ งสมา่ เสมอ
1 ไม่มีความสามารถในการนับจานวนส่ิงของ
4. ความสามารถในการ 2 มคี วามสามารถในการนับจานวนสง่ิ ของ แตต่ ้องคอยแนะนาช่วยเหลือทุกครัง้
นบั /คานวณเงิน 3 มีความสามารถในการนบั จานวนสง่ิ ของ แตต่ ้องใหค้ าแนะนาชว่ ยเหลือบางครัง้
4 มีความสามารถในการนบั จานวนสิง่ ของ โดยไดร้ บั คาแนะนาเล็กน้อย
1. แตง่ กาย เรียบร้อย 5 มคี วามสามารถในการนับจานวนสิ่งของได้ถกู ตอ้ งสม่าเสมอ
เหมาะสม 1 ไมม่ ีความสามารถในการนับ/คานวณเงนิ
2 มีความสามารถในการนับ/คานวณเงิน แต่ต้องคอยแนะนาชว่ ยเหลือทุกคร้ัง
2. รักษาความสะอาด 3 มีความสามารถในการนับ/คานวณเงนิ แตต่ ้องให้คาแนะนาชว่ ยเหลือบางครั้ง
ร่างกาย 4 มคี วามสามารถในการนบั /คานวณเงิน โดยไดร้ บั คาแนะนาเล็กนอ้ ย
5 มคี วามสามารถในการนับ/คานวณเงินไดถ้ กู ตอ้ งสมา่ เสมอ
3. ดแู ลสขุ ภาพตนเองเมอ่ื 1 แตง่ กายไม่เรยี บรอ้ ย เหมาะสม
เจ็บปวุ ยและสามารถบอก 2 แต่งกาย เรียบร้อย เหมาะสม แต่ตอ้ งคอยแนะนาช่วยเหลอื ทกุ ครง้ั
อาการได้ 3 แตง่ กาย เรียบรอ้ ย เหมาะสม แต่ต้องให้คาแนะนาชว่ ยเหลือบางครง้ั
4 แต่งกาย เรียบรอ้ ย เหมาะสม โดยไดร้ บั คาแนะนาเลก็ น้อย
4. มาทางานสม่าเสมอไม่ 5 แต่งกาย เรยี บรอ้ ย เหมาะสม โดยไมต่ อ้ งแนะนา
ขาดงานบอ่ ย 1 ไมส่ ามารถรกั ษาความสะอาดร่างกายได้
2 รักษาความสะอาดร่างกายได้ แตต่ อ้ งคอยแนะนาชว่ ยเหลือทุกครง้ั
3 รักษาความสะอาดร่างกายได้ แต่ต้องให้คาแนะนาช่วยเหลอื บางครัง้
4 รักษาความสะอาดรา่ งกายได้ โดยได้รับคาแนะนาเลก็ น้อย
5 รักษาความสะอาดรา่ งกายได้ โดยไมต่ อ้ งแนะนา
1 ไม่สามารถดูแลสขุ ภาพตนเองเม่อื เจบ็ ปุวยและสามารถบอกอาการได้
2 ดูแลสุขภาพตนเองเมอื่ เจ็บปุวยและสามารถบอกอาการได้ แตต่ ้องคอยแนะนา
ช่วยเหลือทุกครั้ง
3 ดแู ลสขุ ภาพตนเองเมื่อเจ็บปวุ ยและสามารถบอกอาการได้ แต่ตอ้ งใหค้ าแนะนา
ชว่ ยเหลือบางคร้ัง
4 ดูแลสขุ ภาพตนเองเมื่อเจ็บปุวยและสามารถบอกอาการได้ โดยได้รับคาแนะนา
เลก็ นอ้ ย
5 ดแู ลสุขภาพตนเองเม่ือเจ็บปวุ ยและสามารถบอกอาการได้ โดยไม่ต้องแนะนา
1 มาทางานไมส่ มา่ เสมอ และขาดงานบ่อยเป็นประจา
2 มาทางานไม่สม่าเสมอ และขาดงานบ่อยครั้ง โดยไม่มคี วามจาเป็น
3 มาทางานไม่สม่าเสมอ และขาดงานบ่อยครง้ั โดยมคี วามจาเปน็
4 มาทางานสม่าเสมอ ไม่ขาดงานน้อยครั้ง
5 มาทางานสมา่ เสมอและไม่เคยขาดงาน สามารถเป็นตวั อย่างแกผ่ ูอ้ ่นื ได้
- 41 -
หวั ข้อ ทกั ษะ คะแนน รายละเอยี ด
ทกั ษะการ 1. รู้จักทกั ทายผ้อู ่นื อยา่ ง 1 ไม่รู้จกั ทกั ทายผอู้ ่ืน
มสี มั พนั ธภาพ เหมาะสม 2 ร้จู ักทกั ทายผู้อน่ื เมื่อถูกกระตุ้น
กบั ผู้อืน่ 3 รจู้ ักทักทายผอู้ น่ื ได้เปน็ บางครั้ง
2.รู้จกั กลา่ วคาขอโทษ 4 รู้จักทักทายผู้อ่นื ได้
ทักษะการ 5 รจู้ กั ทกั ทายผูอ้ ื่นอย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์
มีสัมพนั ธภาพ 3. รจู้ กั กล่าวคาขอบคุณ 1 ไม่รู้จักกล่าวคาขอโทษ
2 รู้จักกล่าวคาขอโทษ เมื่อถูกกระตุ้น
กับผอู้ ื่น 4.สามารถควบคมุ อารมณ์ 3 รู้จักกล่าวคาขอโทษไดเ้ ป็นบางคร้งั
ได้เมื่อไม่พอใจ 4 รจู้ กั กล่าวคาขอโทษได้
5 รจู้ กั กล่าวคาขอโทษได้อย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์
5.รูจ้ ักรอควิ 1 ไม่รู้จักกล่าวคาขอบคุณ
2 รจู้ กั กลา่ วคาขอบคณุ เมื่อถูกกระตุ้น
6. แสดงกรยิ า มารยาท 3 รจู้ กั กลา่ วคาขอบคุณได้เป็นบางคร้ัง
ทางสังคมที่เหมาะสม 4 รู้จักกล่าวคาขอบคณุ ได้
5 รู้จักกลา่ วคาขอบคุณไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับสถานการณ์
1 ไม่สามารถควบคุมอารมณไ์ ด้เม่อื ไม่พอใจ
2 สามารถควบคุมอารมณไ์ ดน้ ้อย เม่อื ไมพ่ อใจ ตอ้ งชว่ ยเหลอื แนะนา
3 สามารถควบคมุ อารมณ์ได้ เมอื่ ไมพ่ อใจ แต่ตอ้ งแนะนาบางครัง้
4 ควบคุมอารมณ์ไดแ้ ละรจู้ ักฟังความคิดเหน็ ของผูอ้ ่ืน
5 ควบคมุ อารมณไ์ ด้ ร้จู กั ฟังความเหน็ ผ้อู น่ื และแสดงอารมณไ์ ด้เหมาะสมกับ
สถานการณ์
1 ไม่รู้จักการรอคิว
2 รจู้ ักรอควิ นอ้ ย ตอ้ งคอยแนะนา ตักเตอื นตลอด
3 รู้จักรอคิว แต่ตอ้ งใหค้ าแนะนาตักเตอื นบางคร้ัง
4 รจู้ กั รอคิว โดยได้รับคาแนะนาตักเตือนเล็กนอ้ ย
5 รู้จักรอควิ โดยไม่ตอ้ งแนะนาตกั เตือน
1 แสดงกรยิ า มารยาททางสังคมไม่เหมาะสม
2 แสดงกริยามารยาททางสังคมได้เหมาะสม แตต่ อ้ งแนะนา ตกั เตือนตลอด
3 แสดงกรยิ ามารยาททางสงั คมไดเ้ หมาะสม แต่ตอ้ งแนะนา ตกั เตือนบางครง้ั
4 แสดงกรยิ ามารยาททางสังคมไดเ้ หมาะสม โดยแนะนาเลก็ นอ้ ย
5 แสดงกริยามารยาททางสังคมไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ โดยไมต่ ้องแนะนา
ที่มา : พัฒนามาจาก สดใส คุม้ ทรพั ยอ์ นันต์. วจิ ยั ประเมินผลโครงการทดลองจา้ งงานผูบ้ กพร่องทางสตปิ ัญญา,
รายงานการวิจัย สถาบันราชานุกลู กรมสุขภาพจิต กรงุ เทพฯ, 2551 . สขุ ุมาล เกษมสขุ . (2535). การสอนทกั ษะทางสังคม
ในชนั้ ประถมศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ.Babara Murray. Basic Principle in job training and job
placement for people with intellectual disability, 2000. DSM-IV Diagnostic and Statistical Manual of
mental disorders, Fourth Edition, Text Review (American psychiatric association : APA, 2000. Peter
Westwood. (1993). Commonsense Methods for Children with Special Needs. 2nd ed. London: Routledge.
- 42 -
เอกสารชุด
เครื่องมือประเมนิ การดูแลสขุ ภาพจิตตนเอง
(Mental Health Self Care Assessment: M.H.S.C.A.)
- 43 -
เครอ่ื งมือประเมินการดแู ลสขุ ภาพจิตตนเอง
(Mental Health Self Care Assessment: M.H.S.C.A.)
คาช้ีแจง : โปรดกาเครื่องหมาย ลงในช่อง ทตี่ รงกับความเป็นจรงิ ของท่านมากทีส่ ุด
ระดบั
ขอ้ คาถาม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย
ทสี่ ดุ 4 กลาง 2 ท่ีสดุ
5 31
1 ท่านรู้สึกภูมิใจในตนเอง เม่ือนึกถงึ สิ่งดๆี ทที่ าได้สาเรจ็
2 ทา่ นสามารถทาส่ิงต่างๆไดด้ ตี า่ งจากคนอ่นื และรู้สกึ เท่าเทียมกบั ผอู้ ่นื
3 ทา่ นแก้ไขคล่ีคลายเร่อื งราวยุ่งยากลาบากใจได้
4 ทา่ นเคารพและเชอื่ มน่ั ในศกั ดศิ์ รีตนเองและผู้อื่น
5 ท่านเลือกแนวทางดาเนินชีวติ ได้ด้วยตนเอง
6 ท่านมที างเลือกในการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาได้หลายทาง
7 ท่านสามารถวางแผนดาเนนิ ชีวติ ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
8 ท่านสามารถยอมรับเรือ่ งราวท่เี กดิ ข้นึ ในชีวติ ไมว่ ่าดหี รอื ไมด่ ไี ด้
9 ท่านเปน็ ผสู้ ร้างความสุขความทกุ ขใ์ หต้ นเอง
10 ทา่ นร้สู กึ จิตใจสงบ เปน็ สขุ และอิสระ
11 ทา่ นเคารพการตัดสนิ ใจของตนเองและผู้อน่ื
12 ทา่ นใชช้ ีวิตอยา่ งเหมาะสมตามความตอ้ งการแท้จรงิ ของตนเอง
13 ท่านมีความหวงั ในการแก้ไขปัญหาเสมอ
14 ทา่ นยอมรับความรสู้ กึ ไม่ดขี องตนเองและผู้อืน่ ได้
15 ท่านชน่ื ชมตนเอง รู้สึกมีคณุ ค่า ให้กาลงั ใจตนเองและผ้อู นื่ ได้
รวม...................... คะแนน อยู่ในระดับ.................. ผู้ประเมนิ ........................................................
วัน/เดือน/ปีทป่ี ระเมิน........................................................
หมายเหตุ
15-27 คะแนน หมายถึง ดูแลสขุ ภาพจิตได้น้อยทส่ี ุด ใชว้ ิธี Family Therapy
28-39 คะแนน หมายถึง ดแู ลสุขภาพจิตไดน้ ้อย ใชว้ ิธี Family Therapy
40-51 คะแนน หมายถงึ ดูแลสุขภาพจติ ไดป้ านกลาง ใชว้ ิธี Empowerment, Education , Counseling, Support
52-63 คะแนน หมายถงึ ดแู ลสุขภาพจิตไดม้ าก ใชว้ ธิ ี Empowerment, Education , Counseling, Support
64-75 คะแนน หมายถึง ดแู ลสขุ ภาพจติ ไดม้ ากทีส่ ดุ ใชว้ ธิ ี Empowerment, Education , Counseling, Support
*คะแนนการดแู ลสุขภาพจติ ต่ากวา่ ระดบั ปานกลางลงไป (การดแู ลสขุ ภาพจิตตั้งแต่ 39 คะแนนลงมา ให้นดั ทาครอบครวั
บาบดั อกี คร้งั )
- 44 -
คมู่ อื การใชเ้ คร่อื งมือการประเมินการดแู ลสขุ ภาพจติ ตนเอง
การดูแลสุขภาพจิตของผ้ปู กครองผบู้ กพร่องทางสตปิ ญั ญา หมายถึง การที่ผ้ปู กครองสามารถพฒั นาการดแู ล
สขุ ภาพจติ ตนเองใน4 ประเดน็ หลกั ของการทาครอบครัวบาบดั โดยใช้แนวคดิ แซทเทียร์ ได้แก่
1. ความรูส้ ึกมคี ุณคา่ ในตนเอง (Self-esteem) คอื มีความภาคภมู ใิ จในตนเอง มองตวั เองในแง่บวก มีความม่ันใจ
ในตนเอง รูส้ ึกตนเองเป็นคนมปี ระโยชน์ พอใจในตนเอง ยอมรบั ตนเองมากข้ึน
2. ความสามารถในการเลอื กและตดั สินใจด้วยตนเอง (Making choice) คอื มองเหน็ ทางเลือกหลายๆทาง ในแต่
ละเรอื่ งที่ตัดสนิ ใจ ทาให้รู้สึกตนเองมอี านาจ (Empowered) เปน็ เจา้ นายตนเอง เลือกได้ แม้กระทั่งการตอบโต้หรือ
ตอบสนองตอ่ สถานการณต์ ่างๆ
3. ความสามารถในการรบั ผิดชอบและยอมรบั จิตใจของตนเอง (Responsible) คือ มีอสิ รภาพ ไมต่ ้องคอยพึ่งพงิ
คนอืน่
4. ความเปน็ คนท่ีสอดคล้องกลมกลืน (Congruent) คอื มีจติ ใจอยใู่ นภาวะสมดุล มคี วามรู้ตัว สามารถเปดิ เผย
เชอ่ื มโยงกบั คนอ่ืน กลมกลืน ไมข่ ัดแยง้ ยอมรับ และร้สู ึกสงบในจิตใจได้ ไมใ่ ห้ อารมณ์มาเปน็ ใหญ่ในการใช้ชวี ิต
ยอมรับตนเอง คนอน่ื และบริบทตา่ งๆ รอบขา้ ง ไว้วางใจตนเอง
- 45 -
หวั ข้อ รายละเอียด ความหมาย
ความร้สู ึกมีคุณคา่ ในตนเอง (Raise-Self esteem)
1. ร้สู ึกภมู ใิ จในตนเองเมอ่ื นึกถงึ ส่งิ ดีๆทีท่ าไดส้ าเร็จ
1) น้อยทส่ี ุด ไม่รสู้ กึ ภมู ใิ จในตนเองและไมส่ ามารถนกึ ถึงส่งิ ดๆี ทีท่ าสาเรจ็ ได้
2) น้อย ร้สู ึกภมู ใิ จในตนเองน้อยและนึกถึงส่ิงดีๆที่ทาสาเรจ็ ได้ยาก
3) ปานกลาง รู้สกึ ภูมิใจในตนเองเม่อื นกึ ถงึ ส่งิ ดๆี ทีท่ าสาเรจ็ ได้ในบางครัง้
4) มาก รู้สึกภมู ิใจในตนเองเม่อื นกึ ถึงสิ่งดๆี ท่ที าสาเร็จไดบ้ ่อยครง้ั
5) มากที่สุด รู้สกึ ภมู ิใจในตนเองเมื่อนกึ ถงึ สง่ิ ดีๆท่ที าสาเรจ็ ได้ทกุ คร้ัง และสามารถรูส้ ึกถงึ ความมีคณุ ค่าในตนเอง
2. สามารถทาสิ่งตา่ งๆไดด้ ีแตกตา่ งจากคนอืน่ และร้สู ึกเท่าเทยี มกบั ผอู้ ่ืน
1) นอ้ ยที่สุด ไม่สามารถทาส่ิงตา่ งๆได้ดเี หมือนผู้อ่ืนและรสู้ กึ ไมเ่ ท่าเทยี มกับผอู้ ื่น
2) น้อย สามารถทาส่ิงตา่ งๆได้เหมือนผอู้ ืน่ แต่ไมร่ ู้สกึ เท่าเทียมกับผ้อู ่ืน
3) ปานกลาง สามารถทาสิ่งตา่ งๆได้แตกต่างจากคนอ่ืน แตไ่ มร่ ู้สกึ เทา่ เทียมกบั ผู้อ่นื
4) มาก สามารถทาส่งิ ตา่ งๆได้ดีแตกตา่ งจากคนอน่ื และร้สู ึกเทา่ เทียมกบั ผู้อน่ื ในบางสถานการณ์
5) มากท่ีสดุ สามารถทาสง่ิ ตา่ งๆไดด้ ีแตกตา่ งจากคนอื่นและร้สู ึกเทา่ เทยี มกบั ผอู้ ่นื เสมอ
3. สามารถแกไ้ ขคลค่ี ลายเรอื่ งราวยงุ่ ยากลาบากใจได้
1) น้อยทส่ี ุด ไม่สามารถแก้ไขคล่ีคลายเรอื่ งราวยุ่งยากลาบากใจได้
2) น้อย สามารถแก้ไขคลี่คลายเรอ่ื งราวยุง่ ยากลาบากใจไดน้ ้อย
3) ปานกลาง สามารถแก้ไขคลค่ี ลายเรื่องราวยงุ่ ยากลาบากใจได้ในบางครั้ง
4) มาก สามารถแกไ้ ขคลค่ี ลายเรอ่ื งราวยุ่งยากลาบากใจไดบ้ อ่ ยครง้ั
5) มากทีส่ ดุ สามารถแก้ไขคล่ีคลายเรือ่ งราวยุ่งยากลาบากใจได้ทุกครง้ั
4. เคารพและเช่ือมัน่ ในศกั ด์ศิ รตี นเองและผูอ้ น่ื
1) นอ้ ยท่สี ุด ไมเ่ คารพและเชือ่ ม่นั ในศักดศ์ิ รีตนเองและผ้อู ่นื
2) นอ้ ย เคารพและเชื่อมน่ั ในศกั ดิ์ศรีตนเองและผอู้ ่ืนได้น้อย
3) ปานกลาง เคารพและเชือ่ มนั่ ในศกั ดศิ์ รตี นเองและผู้อ่ืนไดใ้ นบางครั้ง
4) มาก เคารพและเชอ่ื มน่ั ในศักดศ์ิ รตี นเองและผู้อน่ื บอ่ ยครัง้
5) มากที่สดุ เคารพและเช่ือมนั่ ในศักดิ์ศรตี นเองและผอู้ ่ืนไดท้ กุ คร้งั
สามารถตัดสนิ ใจเลอื กไดด้ ว้ ยตนเอง (Making choice)
5. เลือกแนวทางดาเนนิ ชีวติ ได้ด้วยตนเอง
1) น้อยท่สี ดุ ไม่สามารถเลือกแนวทางดาเนินชีวิตไดด้ ้วยตนเอง
2) น้อย เลอื กแนวทางดาเนินชวี ิตได้ด้วยตนเองไดน้ ้อย ตอ้ งพง่ึ พิงผอู้ ่ืน
3) ปานกลาง เลอื กแนวทางดาเนินชวี ิตไดด้ ้วยตนเอง ต้องพงึ่ พิงผูอ้ ่นื ในบางครัง้
4) มาก เลือกแนวทางดาเนินชีวิตไดด้ ว้ ยตนเอง
5) มากที่สดุ เลือกแนวทางดาเนินชีวติ ได้ด้วยตนเอง และวางแผนการดาเนนิ ชีวิตได้อยา่ งเหมาะสม
- 46 -
หวั ข้อ รายละเอยี ด ความหมาย
6. มีทางเลอื กในการตัดสินใจแก้ปญั หาไดห้ ลายทาง
1) น้อยทส่ี ุด ไมม่ ีทางเลือกในการตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาดว้ ยตนเอง
2) น้อย มที างเลอื กในการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาด้วยตนเองไดน้ อ้ ย
3) ปานกลาง มที างเลือกในการตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาด้วยตนเองไดใ้ นบางครัง้
4) มาก มีทางเลือกในการตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาด้วยตนเองได้หลายทาง
5) มากทส่ี ุด มีทางเลือกในการตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาด้วยตนเองได้หลายทาง และสามารถเลอื กทางท่ีดีที่สุดได้
7. สามารถวางแผนดาเนินชีวติ ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม
1) น้อยทส่ี ดุ ไมส่ ามารถวางแผนดาเนินชีวติ ตนเองได้
2) น้อย สามารถวางแผนดาเนนิ ชวี ิตตนเองได้ แต่ไม่เหมาะสม
3) ปานกลาง สามารถวางแผนดาเนนิ ชวี ิตตนเองได้อย่างเหมาะสมในบางครง้ั
4) มาก สามารถวางแผนดาเนินชีวติ ตนเองได้อย่างเหมาะสม
5) มากทส่ี ดุ สามารถวางแผนดาเนินชีวติ ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม และดาเนนิ ชีวิตตามแผนทวี่ างไวไ้ ด้
สามารถรับผิดชอบตนเองได้ (Responsible)
8. สามารถยอมรับเร่อื งราวทเ่ี กิดขึ้นในชวี ติ ไมว่ า่ ดีหรือไมด่ ีได้
1) น้อยที่สดุ ไมส่ ามารถยอมรับทกุ เรื่องราวท่ีเกดิ ขึน้ ในชีวิตได้
2) นอ้ ย สามารถยอมรบั เร่อื งราวท่เี กิดขนึ้ ในชีวิตไดเ้ ฉพาะเรือ่ งทีด่ ี
3) ปานกลาง สามารถยอมรับเร่ืองราวทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ิตไมว่ า่ ดหี รอื ไม่ดไี ด้ในบางคร้ัง
4) มาก สามารถยอมรบั เรื่องราวทีเ่ กิดขนึ้ ในชีวติ ไม่วา่ ดีหรอื ไม่ดไี ด้ในทุกครง้ั
5) มากท่ีสดุ สามารถยอมรับเรอ่ื งราวทีเ่ กดิ ข้ึนในชีวติ ไม่วา่ ดีหรือไมด่ ีได้ และมวี ธิ รี ับมอื ได้อย่างเหมาะสม
9. เป็นผสู้ รา้ งความสุขความทกุ ข์ให้ตนเอง
1) น้อยท่ีสุด คดิ ว่าความสขุ ความทกุ ขข์ องตนเอง เกิดขน้ึ จากคนอ่นื กาหนด
2) น้อย คดิ ว่าตนเองและผูอ้ ื่นเปน็ ผสู้ ร้างความสขุ ความทกุ ข์ใหต้ นเอง
3) ปานกลาง คิดว่าตนเองเปน็ ผู้สรา้ งความสุขความทุกขใ์ หต้ นเองไดเ้ ฉพาะเมื่อไมม่ เี หตกุ ารณม์ ากระทบจติ ใจ
4) มาก คิดว่าตนเองเปน็ ผู้สร้างความสขุ ความทกุ ข์ใหต้ นเองเสมอ
5) มากทีส่ ุด คดิ วา่ ตนเองเปน็ ผูส้ รา้ งความสุขความทกุ ข์ให้ตนเองเสมอ และต้องรับผิดชอบต่อความสุขความทกุ ข์นน้ั
10.ร้สู ึกจิตใจสงบ เปน็ สุข และอิสระ
1) น้อยท่ีสุด จติ ใจไมส่ งบ ไมร่ ้สู กึ เปน็ สขุ ไม่เป็นอิสระ
2) น้อย จติ ใจสงบ เป็นสุขและอิสระน้อย
3) ปานกลาง จติ ใจสงบ เปน็ สุขและอสิ ระเมือ่ ไม่มีเหตุการณม์ ากระทบ
4) มาก จิตใจสงบ เป็นสขุ และอิสระตลอด
5) มากทส่ี ดุ จติ ใจสงบ เปน็ สุข เป็นอิสระตลอด และสามารถเขา้ ใจ ยอมรับเมอื่ มเี หตกุ ารณ์มากระทบไดด้ ี
- 47 -
หวั ข้อ รายละเอียด ความหมาย
11.เคารพการตดั สินใจของตนเองและผู้อ่นื
1) น้อยทส่ี ุด ไม่เคารพการตัดสนิ ใจของตนเองและผู้อืน่
2) น้อย เคารพการตดั สนิ ใจของตนเองและผู้อืน่ ไดน้ อ้ ย
3) ปานกลาง เคารพการตัดสนิ ใจของตนเองและผูอ้ ่ืนไดบ้ างครง้ั
4) มาก เคารพการตดั สนิ ใจของตนเองและผอู้ น่ื ไดท้ ุกคร้ัง
5) มากทส่ี ุด เคารพการตดั สนิ ใจของตนเองและผ้อู ืน่ ได้ รวมท้งั รบั ผดิ ชอบตอ่ การกระทาท่ีเกิดขนึ้ ได้
มคี วามสอดคล้องกลมกลนื (Congruent)
12.ใชช้ ีวติ อยา่ งเหมาะสมตามความตอ้ งการท่แี ท้จริงของตน
1) น้อยท่ีสดุ ไมส่ ามารถใชช้ ีวติ อยา่ งเหมาะสมตามความต้องการของตนได้
2) นอ้ ย สามารถใช้ชวี ติ อยา่ งเหมาะสม โดยมีผอู้ นื่ กาหนด ควบคุม
3) ปานกลาง สามารถใช้ชีวติ อย่างเหมาะสม ตามความตอ้ งการของตนเองไดใ้ นบางเรอื่ ง
4) มาก สามารถใช้ชีวิตอยา่ งเหมาะสมตามความตอ้ งการท่ีแทจ้ ริงของตนได้
5) มากท่สี ุด สามารถใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมตามความตอ้ งการท่แี ทจ้ รงิ ของตนไดแ้ ละสอดคล้องกลมกลืมกับผู้อ่ืน
13.มีความหวังในการแกไ้ ขปัญหาเสมอ
1) น้อยทส่ี ุด ไมม่ คี วามหวังในการแกไ้ ขปญั หา
2) นอ้ ย มีความหวังในการแกไ้ ขปญั หาน้อย
3) ปานกลาง มีความหวงั ในการแก้ไขปัญหาไดด้ ้วยตนเอง แต่ยังมีความคาดหวงั
4) มาก มคี วามหวงั ในการแก้ไขปัญหาไดด้ ว้ ยตนเองบางครง้ั แต่ยังมคี วามคาดหวงั บา้ ง
5) มากทส่ี ดุ มคี วามหวังในการแกไ้ ขปญั หาเสมอ และไม่คาดหวัง
14.ยอมรบั ความรู้สึกไม่ดตี ่อตนเองและผ้อู ่นื ได้
1) นอ้ ยท่สี ุด ไมส่ ามารถยอมรับความรู้สกึ ไมด่ ีต่อตนเองและผอู้ น่ื
2) น้อย สามารถยอมรบั ความรู้สกึ ไม่ดีต่อผู้อื่นได้น้อย
3) ปานกลาง สามารถยอมรบั ความรสู้ กึ ไมด่ ีต่อตนเองไดน้ อ้ ย แต่ยอมรับความรูส้ กึ ไม่ดตี อ่ ผอู้ ื่นไดม้ าก
4) มาก สามารถยอมรับความรู้สึกไม่ดตี ่อตนเองและผอู้ น่ื ได้ แต่มีการเปรยี บเทียบ
5) มากที่สุด สามารถยอมรับความรู้สกึ ไม่ดีต่อตนเองและผอู้ ่นื ไดโ้ ดยไม่มีการเปรียบเทยี บ
15.ช่นื ชมตนเอง รสู้ กึ มีคุณค่า ให้กาลังใจตนเองและผ้อู น่ื ได้
1) น้อยทส่ี ดุ ไม่สามารถชนื่ ชมตนเองได้ ไมร่ ู้สกึ ว่าตนเองมีคณุ คา่
2) นอ้ ย สามารถชื่นชมตนเองได้น้อย รสู้ ึกมีคุณคา่ นอ้ ย
3) ปานกลาง สามารถชื่นชมตนเองได้ และรู้สกึ มคี ุณคา่ บางคร้งั
4) มาก สามารถชน่ื ชมตนเอง และรู้สกึ มคี ุณค่าเสมอ
5) มากที่สดุ สามารถชน่ื ชมตนเอง รู้สึกมีคุณค่า สามารถให้กาลงั ใจตนเองและผูอ้ ่นื ได้
ทม่ี า : พฒั นามาจาก Virginia Satir. The Satir Model: Family Therapy and Beyond.USA:Science and Behavior Books,
1991. และ รายงานการวจิ ัยการใชโ้ ปรแกรมครอบครัวบาบัดแนวแซทเทียร์ในการดูแลสุขภาพจิตของผู้ปกครองผบู้ กพรอ่ งทาง
สติปญั ญา โดย สดใส ค้มุ ทรัพยอ์ นนั ต์ และคณะ ,สถาบันราชานกุ ลู กรมสุขภาพจติ . กรงุ เทพ, 2553.