มหาเวสสันดรชาดก
ตอน กัณฑ์มัทรี
จัดทำโดย
นางสาวศินภัทร สวนแก้ว
ชั้น ม..๕/๙ เลขที่ ๔๑
ประวัติผู้แต่ง
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เกิดในช่วงปลายสมัยอยุธยารับราชการในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน
กรุงธนบุรีโดยมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสรวิชิตต่อมาในรัชสมัยสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าประวัติผู้แต่งจุฬาโลกมหาราชได้รับการ แต่งตั้งให้เป็น
พระยานิพนโกษาก่อนจะเลื่อนมาเป็นเจ้าพระยาพระคลังเสนาบดี
จตุสดมกรมท่าซึ่งนอกจากผลงานด้านราชการแล้วเจ้าพระยาพระ
คลัง(หน) ยังมีผลงานด้านการประพันธ์จํานวนมาก
เช่น สามก๊ก (ฉบับแปล)
-ราชาธิราช
-บทมโหรีเรื่องกากี
-อิเหนาคําฉันท์
-ร่ายยาวมหาชาต กัณฑ์กุมารและกัณฑ์มัทรี
ลักษณะคำประพันธ์
ร่ายยาว
วิธีแต่งยกคาถาบาลีขึ้นเป็นหลักแล้วแปลแต่งเป็นภาษาไทยด้วยร่ายยาวภาษาบาลี
ที่ยกมานั้นจะยกมาเป็นตอนสั้นบ้างยาวบ้างตามลักษณะเรื่องโดยหนึ่งบทจะมีกี่
วรรคก็ได้ ส่วนใหญ่จะนิยมแต่ง ๕ วรรคขึ้นไปแต่ละวรรคมีจํานวนคํา ๖-๑๐ คํา
และใช้คําสร้อยเช่นนั้นแถแล้วแลดังนี้ ฯลฯ ซึ่งคำสร้อยนี้จะมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้
ที่มาของเรื่อง
มาจากร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกโดยกล่าวถึงเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ซึ่งเสวยพระ
ชาติเป็นพระเวสสันดรเดิมแต่งเป็นภาษาบาลีต่อมามีการแปลเป็นภาษาไทยในสมัยกรุง
สุโขทัยต่อมาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรด เกล้าฯให้ปราชญ์ราชบัณฑิตแห่ง
มหาชาติคำหลวงซึ่งเป็นมหาชาติสํานวนแรกโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้สวดในสมัยพระเจ้า
ทรงธรรมโปรดเกล้าให้แต่งกาพย์มหาชาติเนื่อใช้สําหรับเทศน์ แต่เนื้อความในกาพย์
มหาชาติค่อนข้างยาวไม่สามารถเทศน์ให้จบภายใน ๑ วันจึงเกิดมหาชาติขึ้นใหม่อีก
หลายสํานวนเพื่อให้เทศน์จบภายใน ๑ วันมหาชาติสํานวนใหม่นี้เรียกว่ามหาชาติกลอน
เทศน์หรือร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกต่อ มาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
โปรดเกล้าฯให้มีการทําระและรวบรวมมหาชาติกลอนเทศสํานวนต่าง ๆ แล้วคัดเลือกสํา
นวนที่ดีที่สุดของแต่ละกัณฑ์นำมาจัดพิมพ์เป็นฉบับของหลวง ๒ ฉบับคือฉบับหอพระ
สมุดวชิร ญาณและฉบับกระทรวงศึกษาธิการ
เนื้อเรื่องย่อ
พระนางมัทรีฝันร้ายว่ามีบุรุษมาทำร้ายหลังจากนั้นพระนางมัทรีเสด็จเบ้าป่าเพื่อหาผลไม้
ในป่า แต่พบว่าธรรมชาติผิดปกติไปจากที่เคยพบเห็นเป็นต้นไม้ที่เคยมีผลก็กลายเป็นตันที่
มี แต่ดอกฝันที่เคยมีกิ่งโน้มลงมาให้พอเก็บผลได้ง่ายก็กลับกลายเป็นตินตรงสูงเก็บผลไม่
ถึงทั้งท้องฟ้าก็มืดมิดบรรดาเทพยดาทั้งหลายต่างพากันกังวลว่าหากนางมัทรีออกจากป่า
เร็วและ ทราบเรื่องที่พระเวสสันดรทรงบริจาคพระโอรสธิดาเป็นทานแก่ชูชกพระอินทร์จึง
ส่งเทพบริวาร 3 องค์ให้แปลงกายเป็นสัตว์ร้าย 3 คือราชสีห์เสือโคร่งและเสือเหลืองขวาง
ทางไม่ให้เสด็จกลับจนเวลาดึกแล้วจึงห ล็กทางให้พระนางเสด็จกลับอาศรมเมื่อพระนาง
เสด็จกลับถึงอาศรมไม่พบสองกุมารก็โศกเศร้าพระเวสสันดรจึงตัดความทุกข์โศกด้วยการ
แกล้งกล่าวหานางว่าคิดนอกใจจึงกลับมาถึงอาศรมในเวลาดึกนระนาง ทรงคร่ำครวญหา
ลูกจนสิ้นสติไปครั้นเมื่อฟื้ นขึ้นพระเวสสันดรทรงเล่าความจริงว่าพระองค์ได้ประทานกุมาร
ทั้งสองแก่ชูชกไปแล้วด้วยเหตุผลที่จะทรงบำเพ็ญทานบารมีพระนางมัทรีจึงทรงค่อยหาย
โศกเศร้าและ ทรงอนุโมทนาในการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดร
ถอดความเนื้อเรื่อง
พระนางมัทรีฝันว่ามีบุรุษมาทำร้ายก่อนเข้าป่าฝากลูกไว้กับพระเวสสันดร
ขณะที่เดินอยู่ในป่านางก็พบว่าธรรมชาติดผิดปกตินางเห็นแบบนั้นจึงใจไม่ดี
ทางฝั่ งเทวดาที่คอบมองอยู่ ก็กลัวว่าพระนางจะกลับไปเห็นพระเวสสันดร
ประทานบุตรให้แก่ปบกพระอินทร์จึงให้เทวดาแปลงกายเป็นสิงโตเสือโคร่ง
และเลือเหลืองบวางนางเอาไว้จนล่วงเวลาดึก แต่เมื่อกลับมาแล้วกลับไม่นบ
ลูกของตนจึงถามพระเวสสันดร แต่พระเวสสันดรมากล่าวโทษว่านางนอกใจ
จนกลับมามืดค่ำพระนางโศกเศร้าเสียใจออกตามหาลูกของตนจนหมดสติ
เมื่อตื่นขึ้นมาก็ถามพระเวสสันดรว่าลูกอยู่ที่ใดพระเวสสันดร์จึงบอกความ
จริงว่าได้ ประทานให้แก่ชูชกไปแล้วเพราะจะทรงบำเพ็ญทานบารมีพระนาง
จึงทรงอนุโมทนาในการทำงานครั้งนี้ด้วย
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
-การเป็นคู่สามีภรรยาที่ดี
-การเสียสละ
-ความรักของแม่ที่มีต่อลูก
-การบริจาคทาน
-ความเชื้อเรื่องความฝัน และโชคลาบ