The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการให้บริการตามมาตรา 33 และมาตรา 35 (คนพิการ)
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2556

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ห้องสมุด AU-NON E-Library, 2021-12-14 04:21:21

คู่มือการให้บริการตามมาตรา 33 และมาตรา 35 (คนพิการ)

คู่มือการให้บริการตามมาตรา 33 และมาตรา 35 (คนพิการ)
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2556

คู่มอื การใหบ้ รกิ ารตามมาตรา 33 และมาตรา 35

แห่งพระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนพิการ พ.ศ. 2550
และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2556

(ฉบบั สมบรู ณ์)

กองพัฒนาระบบบรกิ ารจดั หางาน
กรมการจดั หางาน

คานา

คมู่ ือการให้บริการมาตรา 33 และ มาตรา 35 แหง่ พระราชบญั ญตั ิสง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชีวิต
คนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2556 เล่มนี ้ใช้สาหรับเป็ นแนวปฏิบตั ิ และแนวทาง
การดาเนินงานในด้านการให้บริการประชาชน รวมถึงข้อคาถามในประเด็นตา่ ง ๆ อนั อาจจะเกิดขนึ ้ ระหวา่ ง
การให้บริการ ซ่ึงจะทาให้นายจ้างหรือสถานประกอบการ หน่วยงานของรัฐ และคนพิการหรือผ้ดู แู ลคนพิการ
ได้รับบริการท่ีสะดวกรวดเร็วและมีมาตรฐานเดียวกนั โดยได้แก้ไขปรับปรุงเนือ้ หาให้ทนั สมยั สอดคล้องกบั
ข้อกฎหมายท่ีได้แก้ไขเพ่ิมเติม พร้ อมนีก้ รมการจัดหางานได้แนบแผ่นซีดี-รอมไฟล์ข้อมูล เพื่อให้สามารถ
พิมพ์แบบไปใช้ในการให้บริการแก่ประชาชนได้อยา่ งสะดวกและรวดเร็ว

กรมการจัดหางานหวังเป็ นอย่างยิ่งว่า คู่มือการให้บริการตามมาตรา 33 และ มาตรา 35
แห่งพระราชบญั ญัติส่งเสริมและพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ 2)
พ.ศ. 2556 ดงั กลา่ วจะเป็ นประโยชน์ตอ่ การให้บริการด้านการสง่ เสริมการมีงานทาให้คนพิการตอ่ ไป

กรมการจดั หางาน
กองพฒั นาระบบบริการจดั หางาน

มกราคม 2561

สารบญั หนา้

คานา 1
แนวปฏิบัติ มาตรา 33 และ 35 2
5
- การนบั จานวนลกู จา้ ง 6
- วิธกี ารปฏิบตั ิงานการใหบ้ รกิ ารจดั หางานแก่คนพกิ ารตามมาตรา 33 8
- ผงั การใหบ้ รกิ ารคนหางาน (คนพกิ าร) 9
- วิธีปฏิบตั ิงาน เรอื่ ง การขนึ้ ทะเบียนขอใชส้ ทิ ธติ ามมาตรา 35 ของคนพิการหรือผู้ดแู ลคนพิการ 10
- ผังการให้บรกิ ารขึ้นทะเบยี นขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 ของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ 10
- วธิ ีปฏบิ ตั งิ าน เรอื่ งการแจง้ ขอใช้สทิ ธติ ามมาตรา 35 ของสถานประกอบการหรอื หน่วยงานของรัฐ 11
- วธิ ปี ฏิบตั งิ าน เรอ่ื ง การคัดเลอื กคนพกิ ารหรือผดู้ แู ลคนพิการทีข่ ้นึ ทะเบยี นขอใชส้ ิทธติ ามมาตรา 35 12
- วิธีปฏิบัติงาน เรื่อง การดาเนินการตรวจสอบมูลค่าการขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 ของนายจ้าง 13
16
หรือสถานประกอบการ และหนว่ ยงานของรัฐ 16
- วธิ ีปฏบิ ตั ิงาน เรอ่ื ง การตดิ ตามผลการตกลงเขา้ ทาสัญญาขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 20
- ผังการให้บรกิ ารแจ้งขอใชส้ ทิ ธติ ามมาตรา 35 ของสถานประกอบการหรอื หนว่ ยงานของรฐั 23
- การแจง้ การให้สิทธิของนายจ้างหรอื สถานประกอบการ และหนว่ ยงานรัฐ 26
การดาเนนิ การตามมาตรา 35 29
- การให้สมั ปทาน 33
- การจัดสถานทจี่ าหนา่ ยสินคา้ หรือบริการ 34
- การจดั จ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการ 38
- การฝกึ งาน 40
- การจดั ใหม้ ีอปุ กรณห์ รือสง่ิ อานวยความสะดวก 58
- การจดั ให้มีบรกิ ารล่ามภาษามอื 65
- การใหค้ วามช่วยเหลืออน่ื ใดแกค่ นพกิ ารหรือผดู้ ูแลคนพิการ 67
- การขอใชป้ ระโยชน์ทีร่ าชพสั ดุเพื่อคนพิการ ตามคาสัง่ กรมธนารักษ์ ที่ 7/2561 68
- ประมวลคาตอบ – คาตอบ 69
คู่มอื สาหรับประชาชน 70
- คูม่ อื สาหรบั ประชาชน 71
แบบดาเนนิ การตามมาตรา 35 72
- แบบ กกจ.พก.1 73
- แบบ กกจ.พก.2 74
- แบบ กกจ.พก.2-1
- แบบ กกจ.พก.2-2
- แบบ กกจ.พก.2-3
- แบบ กกจ.พก.2-4
- แบบ กกจ.พก.2-5
- แบบ กกจ.พก.2-6
- แบบ กกจ.พก.2-7

สารบัญ (ต่อ) หน้า
76
- แบบ กกจ.พก.4 77
- แบบ กกจ.พก.5 86
- แบบ กกจ.พก.6 87
รายชอ่ื องค์กรด้านคนพิการ 98
ภาคผนวก 115
- พระราชบญั ญัตสิ ง่ เสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร พ.ศ. 2550 122
- พระราชบญั ญัตสิ ง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพกิ าร พ.ศ. 2550 (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2556
- ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ 136

วธิ ีการ และเงอ่ื นไขการให้สัมปทาน จดั สถานที่จาหนา่ ยสินคา้ หรอื บริการ จดั จา้ งเหมาช่วงงาน 138
หรอื จ้างเหมาบริการโดยวธิ กี รณีพเิ ศษ ฝกึ งาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือส่ิงอานวยความสะดวก 141
ลา่ มภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออนื่ ใดแกค่ นพกิ ารหรือผดู้ ูแลคนพิการ พ.ศ. 2558 144
- ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์
วธิ ีการ และเง่ือนไขการใหส้ มั ปทาน จัดสถานที่จาหน่ายสินคา้ หรอื บริการ จดั จ้างเหมาช่วงงาน 146
หรือจา้ งเหมาบริการโดยวธิ กี รณพี ิเศษ ฝกึ งาน หรือจดั ให้มีอปุ กรณ์หรือสิ่งอานวยความสะดวก 182
ลา่ มภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออนื่ ใดแกค่ นพิการหรอื ผดู้ แู ลคนพกิ าร (ฉบบั ท่2ี ) พ.ศ. 2559
- กฎกระทรวง กาหนดจานวนคนพกิ ารท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงาน
ของรัฐจะต้องรับเข้าทางาน และจานวนเงินท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้อง
นาสง่ เขา้ กองทนุ สง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพิการ พ.ศ. 2554
- กฎกระทรวง กาหนดจานวนคนพิการท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงาน
ของรัฐจะต้องรับเข้าทางาน และจานวนเงินท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้อง
นาสง่ เข้ากองทนุ สง่ เสรมิ และพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2560
- ประกาศกระทรวงแรงงาน เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไขการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ
การให้บริการท่ีมีมาตรฐาน การคุ้มครองแรงงาน มาตรการเพ่ือการมีงานทาตลอดจนได้รับ
การส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ และบริการส่ือ ส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีหรือ
ความชว่ ยเหลืออน่ื ใด เพอ่ื ให้คนพิการสามารถเข้าถงึ และใชป้ ระโยชนไ์ ด้ พ.ศ. 2555
- กฎกระทรวงกาหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ ส่ิงอานวยความสะดวก หรือบริการใน
อาคารสถานที่ หรือบริการสาธารณะอ่ืน เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
พ.ศ. 2555
- หนังสือเวยี นเกี่ยวกับการดาเนินการตามมาตรา 35

1
1

พระราชบัญญัติส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพิการ พ.ศ. 2550
และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556

มาตรา 33 บัญญัติว่า “เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้นายจ้าง
หรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐรับคนพกิ ารเข้าทางานตามลักษณะของงาน ในอตั ราส่วน
ที่เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐ ท้ังน้ี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ออกกฎกระทรวงกาหนดจานวนท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐจะต้องรับ
คนพกิ ารเขา้ ทางาน”

โดยกฎกระทรวงได้กาหนดจานวนคนพิการท่ีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและ
หนว่ ยงานของรฐั จะต้องรบั เขา้ ทางาน และจานวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนาส่งเข้า
กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2554 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ได้กาหนดอัตราส่วนที่
เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐ ไว้ในข้อ 3 ความว่า “ให้นายจ้างหรือ
เจ้าของสถานประกอบการซ่ึงมีลูกจ้างตั้งแต่หนึ่งร้อยคนขึ้นไป รับคนพิการที่สามารถทางานได้ไม่ว่าจะอยู่ใน
ตาแหนง่ ใดในอตั ราส่วนลูกจ้างท่ีมิใช่คนพกิ ารทุกหนึ่งร้อยคนต่อคนพกิ ารหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคนถ้าเกินห้าสิบคน
ตอ้ งรับคนพิการเพม่ิ อีกหนงึ่ คน”

กรมการจดั หางาน ในฐานะหน่วยงานท่ีมีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานคนพกิ าร
ได้ให้บริการจดั หางานแกค่ นพกิ ารท่ปี ระสงคจ์ ะหางานทา และให้บริการแกน่ ายจา้ งหรือเจา้ ของสถานประกอบการ
และหน่วยงานของรัฐที่ต้องการหาคนพิการเข้าทางานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ จึงได้กาหนดวิธีการปฏิบัติงาน
การให้บริการจัดหางานแก่คนพิการตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
พ.ศ. 2550 และท่แี ก้ไขเพมิ่ เติม ดังตอ่ ไปน้ี

การนับจานวนลกู จ้าง

1. กรณหี นว่ ยงานของรฐั มีรายละเอยี ด ดังนี้
(1) กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกช่ืออย่างอ่ืนที่มีฐานะเป็นกรม ให้นับจานวน

ผ้ปู ฏิบัติงานรวมกันเป็นกระทรวง
(2) ราชการส่วนท้องถ่ิน ให้นับจานวนผู้ปฏิบัติงานของแต่ละองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล

องคก์ ารบริหารส่วนตาบล กรุงเทพมหานคร เมอื งพทั ยา และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นอืน่ ท่มี ีกฎหมายจดั ตั้ง
(3) รัฐวสิ าหกิจทต่ี ง้ั ขนึ้ โดยพระราชบญั ญัติหรอื พระราชกฤษฎีกา ให้นับจานวนผู้ปฏิบตั ิงานของแตล่ ะ

รฐั วสิ าหกจิ
(4) หนว่ ยงานอ่นื ของรัฐที่เปน็ นติ ิบคุ คล ใหน้ ับจานวนผู้ปฏิบัตงิ านของแตล่ ะหน่วยงานอนื่ ของรัฐ
(5) ผู้ปฏิบัติงาน หมายถึง ข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานซ่ึง

เรียกชื่ออย่างอ่ืนของหน่วยงานของรัฐและปฏิบัติงานประจาในหน่วยงานของรัฐ รวมถึง ผู้ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ใน
ต่างประเทศ และผู้ซึ่งอยู่ระหว่างการลาโดยได้รับเงินเดือน ยกเว้น ลูกจ้างช่ัวคราว หรือพนักงานจ้างเหมาที่
ปฏบิ ัตงิ านโดยมกี าหนดระยะเวลาตามสัญญาจ้าง

(6) ให้นับทุกวนั ที่ 1 ตลุ าคม ของแต่ละปี

2
2

2. กรณเี อกชน มีวธิ กี าร ดงั นี้
(1) ให้นบั จานวนลกู จา้ งทั้งหมด
(2) หากมีหน่วยงานสาขาใหน้ ับจานวนลูกจ้างทุกสาขาเขา้ ดว้ ยกัน
(3) ให้นบั ทกุ วนั ที่ 1 ตลุ าคม ของแตล่ ะปี

วิธีการปฏบิ ตั งิ านการใหบ้ ริการจดั หางานแก่คนพกิ ารตามมาตรา 33

ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน
(1) เจ้าหน้าทีป่ ระชาสัมพันธ์
(2) เจา้ หน้าทีบ่ ันทึกข้อมลู
(3) เจา้ หน้าที่จดั หางาน
(4) เจา้ หนา้ ทแี่ นะแนวอาชพี

วิธปี ฏบิ ัติงานการให้บริการคนหางาน (คนพิการ)
1. การสมคั รงาน
เอกสารการสมคั รงาน
บัตรประจาตวั ประชาชนหรือบัตรประจาตัวคนพิการ
กรณีเป็นคนหางานใหม่
(1) เจา้ หนา้ ท่ีประชาสัมพนั ธใ์ หค้ าแนะนาเบ้ืองต้น
(2) คนพิการกรอกแบบขึ้นทะเบียนหางาน กรณีคนพิการไม่สามารถกรอกแบบข้ึนทะเบียนหางานได้

ให้เจ้าหน้าท่เี ป็นผูด้ าเนนิ การแทน โดยใหผ้ ู้สมัครงาน (คนพิการ) ลงลายมือชอื่ หรือพิมพ์ลายน้ิวมือ
(3) เจา้ หนา้ ท่ีประชาสมั พันธต์ รวจสอบความถูกตอ้ งของเอกสารการสมคั รงาน
(4) เจ้าหน้าทบ่ี นั ทกึ ขอ้ มลู บันทกึ ประวัติคนหางานในระบบคอมพวิ เตอร์

กรณีเป็นคนหางานเกา่
(1) เจา้ หน้าทปี่ ระชาสัมพนั ธข์ อตรวจบัตรประจาตัวประชาชนหรือบัตรประจาตัวคนพิการ พร้อมสอบถาม

วา่ มีการเปล่ียนแปลงประวตั หิ รือไม่ เชน่ ท่อี ยูท่ ี่สามารถตดิ ต่อได้ หรอื หมายเลขโทรศัพทต์ ดิ ต่อ เปน็ ต้น
(2) กรณมี กี ารเปลย่ี นแปลงประวตั ิ ให้เจ้าหน้าท่ีดาเนินการเปล่ียนแปลงข้อมูลในระบบ โดยให้คนหางาน

(คนพกิ าร) ลงลายมือช่อื หากคนพิการไมส่ ามารถลงลายมือชอื่ ไดใ้ หพ้ มิ พล์ ายน้วิ มอื หรือใช้แกงได หรือตราประทบั
หรือทาเครื่องหมายอน่ื แทนการลงช่ือ แลว้ แต่กรณีลงในแบบที่มีการเปลี่ยนแปลงประวัติ

2. การคัดเลือกตาแหนง่ งาน
(1) เจ้าหน้าที่จัดหางานจะต้องพยายามค้นหาทักษะความสามารถของผู้สมัครงานคนพิการให้ได้

เพ่ือช่วยหางานท่ีเหมาะสม และเป็นประโยชน์ในกระบวนการให้คาปรึกษา นอกจากน้ันเจ้าหน้าที่จะต้องมี
ข้อมูลรายละเอียดของตาแหน่งงานว่าง สภาพแวดล้อมในสถานที่ทางานเพื่อให้ข้อมูลกับผู้สมัครงานคนพิการ
ได้อย่างชัดเจน

3
3

(2) เจ้าหน้าที่จัดหางานให้คาแนะนาเก่ียวกับการเลือกตาแหน่งงานว่างจากฐานข้อมูลในระบบ
คอมพิวเตอร์ Online และข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจเลือกตาแหน่งงานว่างท่ีเหมาะสมกับความรู้
ความสามารถ ทักษะ และความถนดั ของตนเอง

(3) เมื่อคนหางานเลือกตาแหน่งงานว่างได้ตรงตามความต้องการแล้ว ก่อนจะส่งคนหางานไปพบนายจ้าง
ให้เจ้าหน้าที่จัดหางานประสานนายจ้าง/สถานประกอบการ สอบถามตาแหน่งงานและให้ข้อมูลเก่ียวกับคนพกิ าร
ทจี่ ะสง่ ไปสมั ภาษณ์

(4) เจ้าหน้าที่จัดหางานพิมพ์ใบเรียกรายงานตัวให้คนพิการไปพบนายจ้างเพื่อรับการสัมภาษณ์ และการ
พิจารณาบรรจุงาน เพ่ือความสะดวกในการเดินทางไปพบนายจ้างเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์เจ้าหน้าท่ีควรจะจัด
รถไปสง่ ผูส้ มัครงาน หรือประสานใหน้ ายจ้างมาสมั ภาษณค์ นพกิ ารทส่ี านักงาน

(5) กรณีท่ีคนหางานต้องการคาแนะนาเพมิ่ เตมิ ให้เจ้าหน้าทแ่ี นะแนวอาชีพให้บริการแนะแนว และให้
คาแนะนาในดา้ นอ่ืน ๆ เช่น การฝึกทักษะเพมิ่ เติม การส่งเสริมการประกอบอาชีพอสิ ระ การเตรียมตัวก่อนเข้ารับ
การสัมภาษณ์งาน การทดสอบความพรอ้ มทางอาชีพ เปน็ ตน้

หมายเหตุ กรณี สจก. หรือ สจจ. มีคนพิการปฏิบัติงาน ณ สานักงาน ให้เจ้าหน้าท่ีดังกล่าวเป็นผู้ให้บริการ
จดั หางานอย่างครบวงจร

วิธีปฏิบัติงานการใหบ้ ริการนายจา้ งหรอื เจา้ ของสถานประกอบการหรือหน่วยงานของรฐั
1. การรับแจ้งตาแหนง่ งานว่าง
นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประสัมพันธ์เพื่อแจ้ง

ความตอ้ งการหาคนหางาน (คนพิการ) โดยเจา้ หน้าท่ีประชาสมั พนั ธจ์ ะตรวจหลักฐานการเปน็ นายจา้ ง
กรณีเป็นนายจ้างใหม่
(1) นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องยื่นหลักฐานการเป็นนายจ้างให้เจ้าหน้าที่

ประชาสัมพนั ธ์เพื่อขอทาบตั รนายจ้าง ดงั นี้
- บุคคลธรรมดา ไดแ้ ก่ บัตรประจาตัวประชาชนพรอ้ มสาเนา และสาเนาทะเบยี นบา้ น
-นิตบิ คุ คลได้แก่ สาเนาหนงั สือรบั รองการจดทะเบยี นนิตบิ ุคคลหรือทะเบียนพาณิชย์ สาเนาบัตรประจาตวั

ผู้เสียภาษีอากรของสถานประกอบการ หรือสาเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) หนังสือมอบอานาจติดอากรแสตมป์
30 บาท สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชนของผมู้ อบอานาจและผูร้ บั มอบอานาจ (กรณีที่นายจา้ งไมไ่ ด้ดาเนินการด้วยตนเอง)

(2) เมื่อเจา้ หน้าท่ตี รวจสอบหลกั ฐานต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว ให้จดั ทาบัตรนายจ้างให้แก่นายจ้าง
(3) เจ้าหน้าท่ีมอบใบแจ้งตาแหน่งงานว่างให้นายจ้างกรอกรายละเอียดตาแหน่งงานว่างท่ีต้องการ
พรอ้ มทั้งตรวจสอบความถกู ตอ้ งครบถ้วนของขอ้ มูลตาแหน่งงานว่าง
กรณีเปน็ นายจา้ งเดิม
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตรวจสอบบัตรนายจ้างพร้อมบัตรประจาตัวประชาชน และมอบใบแจ้ง
ตาแหน่งงานว่างให้นายจ้างกรอกรายละเอียดตาแหน่งงานว่างท่ีต้องการ เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าท่ี
ประชาสมั พันธต์ รวจสอบความครบถว้ นของข้อมลู ตาแหน่งงานว่างในใบแจ้งตาแหน่งงานวา่ ง

4
4

กรณหี นว่ ยงานของรัฐ
ให้หน่วยงานรัฐมีหนังสือเพ่ือขอความอนุเคราะห์แจ้งตาแหน่งงานว่างที่ต้องการรับสมัครใน

หนว่ ยงานมาแสดงต่อเจ้าหนา้ ที่ประชาสัมพันธ์
2 การบันทึกข้อมูลตาแหน่งงานวา่ ง
(1) เจา้ หนา้ ทบ่ี นั ทึกข้อมลู บันทกึ ตาแหน่งงานว่างท่ีนายจ้างแจง้ ลงในระบบคอมพิวเตอร์
(2) หากนายจ้างต้องการคัดเลือกข้อมูลผู้สมัครงาน ให้ออกบัตรคิวให้แก่นายจ้างเพ่ือรอรับบริการ

คัดเลือกผู้สมัครงานตามลาดับ
(3) กรณีนายจ้างแจ้งตาแหน่งงานว่างด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ หรือโทรสาร ให้เจ้าหน้าที่

ประชาสมั พนั ธต์ รวจสอบความเปน็ นายจา้ งและบคุ คลทีส่ ามารถติดต่อได้ในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมตรวจสอบ
ข้อมูลตาแหนง่ งานว่าง และให้เจ้าหนา้ ทีบ่ ันทกึ ขอ้ มูลบนั ทึกข้อมลู ลงในระบบคอมพิวเตอร์

3. การคัดเลอื กผู้สมัครงาน
เม่อื นายจ้างหรอื เจา้ ของสถานประกอบการ/หนว่ ยงานของรัฐ ได้รบั บตั รควิ จากเจ้าหนา้ ท่ีประชาสัมพันธแ์ ล้ว

ให้เจา้ หน้าท่จี ัดหางานเรียกใหบ้ ริการคดั เลอื กคนหางานตามลาดบั คิว
กรณีคัดเลอื กผสู้ มคั รงานจากระบบคอมพิวเตอร์
(1) เจ้าหน้าที่จัดหางานเรียกข้อมูลนายจ้างจากระบบคอมพิวเตอร์ เพ่ือตรวจสอบตาแหน่งงานว่าง

ลักษณะงานและเงอ่ื นไขการจ้าง
(2) เจา้ หนา้ ท่ีจดั หางานใหค้ าแนะนาเก่ยี วกับการคัดเลอื กคนหางาน (คนพกิ าร) จากข้อมูลคนหางาน

ซึง่ ไดบ้ ันทกึ ไวใ้ นระบบคอมพิวเตอร์
(3) นายจา้ งเลอื กรายชือ่ และประวตั ิคนหางานจากระบบคอมพวิ เตอร์
(4) เจ้าหน้าท่ีจัดหางานพิมพร์ ายชอ่ื คนหางาน

กรณคี ัดเลอื กคนหางานจากแฟม้ ประวตั ิคนหางาน
เมื่อนายจ้างแจ้งความต้องการคนหางานกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัตร

นายจ้างและมอบแฟ้มประวัติคนหางานเพื่อให้นายจ้างคัดเลือกรายช่ือ โดยให้นายจ้างกรอกรายละเอียดในแบบ
คัดลอกประวตั ิคนหางาน และเมื่อนายจ้างคัดลอกรายช่ือเรียบร้อยแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีจัดเก็บสาเนาแบบคัดลอก
ประวัตคิ นหางานเพ่อื เป็นหลักฐานในการตดิ ตามผลการบรรจุงาน

4. การบรรจุงาน
เม่ือนายจ้างหรือสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐพิจารณารับผู้สมัครงาน (คนพกิ าร) เข้าทางาน

ในสถานประกอบการ/หนว่ ยงานรัฐแลว้ จะต้องแจง้ ผลการบรรจุงานให้สานักงานจดั หางานทราบภายใน 15 วนั
5. การติดตามผลภายหลังจากท่คี นพิการไดร้ บั การบรรจงุ าน
ภายหลังท่ีคนพกิ ารไดร้ ับการบรรจุงานในสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ ได้ 7 วัน จะต้องมีการติดตามผล

อย่างใกล้ชดิ เจ้าหน้าที่จัดหางานจะต้องออกเยี่ยมเยียนคนพิการในสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ เพ่ือสอบถาม
สภาพการทางาน ใหค้ าแนะนาในการปรับตวั กับเพอ่ื นรว่ มงาน หลงั จากนนั้ ให้ตดิ ตามเป็นระยะ ๆ

รายใหม่ 5 5
- ยน่ื บตั รประชาชน/ประจาตวั
คนพิการ และรูปถ่าย ผงั การใหบ้ รกิ ารคนหางาน (คนพกิ าร) รายเกา่
- หลักฐานสมคั รงาน (ถ้ามี)* ยื่นบัตรประชาชน/
คนหางาน ประจาตัวคนพกิ าร
แจ้งเปลย่ี นแปลงข้อมูล
เจา้ หนา้ ที่ประชาสัมพันธ์
- คดั กรองคนหางาน ใหม่/เก่า (หากมี)
- ให้คาปรึกษาเบื้องตน้ - แนะแนวอาชีพ
- อธบิ ายข้ันตอนการให้บรกิ าร - ประกอบการอาชพี อสิ ระ
ของสานักงานฯ (อย่างเขา้ ใจงา่ ย) - ส่งอบรมหลกั สตู รของ
กรมพัฒนาฝมี ือแรงงาน
กรอกแบบขน้ึ ทะเบียน ตอ้ งการการแนะแนวเพม่ิ เตมิ
คนหางาน

เจา้ หน้าท่ีบันทกึ ข้อมลู
ข้ึนทะเบยี นคนหางาน

เลอื กดตู าแหนง่ งาน เจ้าหน้าท่ีประสานนายจ้างสอบถาม
รบั ใบเรยี กรายงานตวั /ส่งตวั ตาแหนง่ งานและให้ข้อมูลเกีย่ วกับคนพกิ าร
ท่สี ง่ ไปสมั ภาษณ์

เดนิ ทางไปพบนายจา้ ง - ให้คาปรกึ ษาแนะนาเปน็ พิเศษกบั ผสู้ มัครงาน
ตดิ ตามผลการบรรจุ - อธิบายรายละเอยี ดของสถานประกอบการ
และวิธีการเดนิ ทางไปสมัครงาน
- เอกสารเกยี่ วกบั การสมคั รงาน
- แนะนาวธิ กี ารเข้ารับการสัมภาษณ์ ฯลฯ

บรรจงุ าน ไม่ได้รบั การบรรจุงาน ข้นึ ทะเบยี น
เปน็ ผ้รู องาน/รอนายจา้ งเรยี กตวั

หมายเหตุ 1. กรณคี นพิการไมส่ ามารถกรอกแบบขนึ้ ทะเบียนคนหางานได้ใหเ้ จา้ หนา้ ท่เี ป็นผดู้ าเนินการแทนโดยใหผ้ ูส้ มัครงาน
ลงลายมอื ชือ่ หรอื พิมพล์ ายนว้ิ มือ

2. กรณที ่สี านักงานจดั หางาน มคี นพิการปฏิบัติงานใหเ้ จา้ หน้าที่ดังกล่าวเป็นผู้ใหบ้ รกิ ารจัดหางานอยา่ งครบวงจร
3. หากไม่มคี นพิการปฏิบตั งิ านให้เจ้าหน้าทีบ่ ริการจดั หางานให้บริการคนพิการถอื เปน็ ความสาคญั ลาดบั แรก

4. เพอื่ คววธิ าีปมสฏะบิ ดัตวกิงาในนกาเรรเ่อื ดงนิ ทกาางรไปขพ้ึนบทนะาเยบจีย้านงเขพื่ออเใขช้าส้รบัิทกธาติ รสามัมภมาาษตณรเ์าจ้า3ห5นา้ขทอคี่ งวครจนะพจดักิ ราถรไ/ปผสูด้ ง่ ผแู สู้ลมคคั นรงพากินาร

6
6

พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนพิการ พ.ศ. 2550
และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2556

มาตรา 35 บัญญัติไว้ว่า “ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐไม่ประสงค์จะรับคนพิการเข้าทางานตาม
มาตรา 33 หรือนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการไม่รับคนพิการเข้าทางานตามมาตรา 33 และไม่ประสงค์จะ
ส่งเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34 หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการนั้นอาจให้สัมปทาน
จัดสถานท่ีจาหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงาน หรือให้การช่วยเหลืออ่ืนใดแก่คนพิการหรือ
ผดู้ แู ลคนพิการแทนกไ็ ด้ ทง้ั นี้ ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการที่คณะกรรมการกาหนดในระเบยี บ”

เพ่อื เป็นการสนบั สนุนใหค้ นพิการและผู้ดูแลคนพกิ ารไดใ้ ช้สิทธิตามมาตรา 35 เป็นไปด้วยความสะดวก
และถูกตอ้ งเรียบร้อย กรมการจัดหางานได้กาหนดวิธีปฏิบัติงานในการดาเนินงานตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติ
ส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนพิการ พ.ศ. 2550 และทแี่ ก้ไขเพิ่มเติม ดังตอ่ ไปนี้

วิธปี ฏิบัติงาน เรอ่ื ง การขึ้นทะเบยี นขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 ของคนพิการหรอื ผดู้ แู ลคนพิการ

ผู้ปฏิบตั งิ าน
(1) เจ้าหน้าทป่ี ระชาสมั พันธ์
(2) เจ้าหน้าทจ่ี ัดหางาน
(3) เจา้ หนา้ ท่ีแนะแนวอาชพี

วิธีปฏบิ ตั ิงานแก่ผู้ขอใชส้ ิทธิตามมาตรา 35 (คนพกิ ารหรอื ผดู้ ูแลคนพกิ าร)
(1) เจ้าหน้าท่ีประชาสัมพันธ์หรือเจ้าหน้าท่ีผู้ให้บริการแก่คนพิการ ตรวจสอบหลักฐานการข้ึนทะเบียน

ขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 ของคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ ได้แก่ บัตรประจาตัวคนพิการหรือบัตรประจาตัวประชาชน
พร้อมมอบแบบขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 (คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ) (กกจ.พก.1) ให้แก่คนพิการ
/ผู้ดแู ลคนพิการ

กรณีคนพิการขอใช้สิทธิด้วยตนเอง ให้คนพิการกรอกรายละเอียดในแบบขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิตาม
มาตรา 35 (คนพกิ าร/ผดู้ แู ลคนพกิ าร) (กกจ.พก.1) ในส่วนคนพกิ ารขอใช้สทิ ธิด้วยตนเอง หากคนพิการไม่สามารถ
กรอกรายละเอียดได้ ให้เจ้าหน้าท่ีกรอกรายละเอียดแทนคนพิการ แต่ให้คนพิการเป็นผู้ลงลายมือช่ือหรือประทับ
ลายน้วิ มือในชอ่ ง “ลงช่อื .............ผขู้ น้ึ ทะเบียนขอใช้สทิ ธ”ิ

กรณผี ู้ดูแลคนพิการขอใชส้ ทิ ธแิ ทนคนพกิ าร ใหเ้ จา้ หนา้ ทตี่ รวจสอบวา่ เปน็ ผดู้ แู ลคนพกิ ารท่ีมีชอ่ื อยู่ใน
บัตรประจาตัวคนพิการหรือไม่ (เน่ืองจากผู้ดูแลคนพิการที่จะขอใช้สิทธิแทนคนพิการได้ จะต้องเป็นบุคคลที่มี
ชอ่ื ในบตั รประจาตวั คนพกิ าร แตห่ ากผู้ดแู ลคนพกิ ารไมส่ ามารถเดนิ ทางมาขอใช้สทิ ธิดว้ ยตนเอง อาจมอบอานาจให้
หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรด้านคนพิการที่ดูแลคนพกิ าร ดาเนินการยื่นขอใชส้ ิทธิแทนคนพิการท่ีอยู่ในความดูแลได้)
ท้ังนี้ ให้ผู้ดูแลคนพิการกรอกรายละเอียดในแบบขึ้นทะเบยี นขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 (กกจ.พก.1) เฉพาะในส่วน
ผู้ดูแลคนพกิ ารขอใชส้ ทิ ธิแทนคนพกิ าร

(2) เจ้าหน้าที่จัดหางานให้คาแนะนาแก่คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ เก่ียวกับประเภทการขอใช้สิทธิตาม
มาตรา 35 ไดแ้ ก่ การให้สัมปทาน จัดสถานท่ีจาหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการ
โดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือส่ิงอานวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออ่ืนใด

7
7

ตามความต้องการของคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ จากนั้นจึงให้พิจารณาเลือกประเภทการขอใช้สิทธิ หรือพิจารณา
เลอื กประกาศของนายจา้ งสถานประกอบการ/หนว่ ยงานของรัฐ ท่ไี ด้แจ้งขอใชส้ ิทธติ ามมาตรา 35 ไวแ้ ลว้

(3) เมื่อคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ ได้เลือกประเภทการข้ึนทะเบียนขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 เรียบร้อยแล้ว
กอ่ นสง่ ตัวเข้าทาสญั ญาขอใชส้ ทิ ธิตามมาตรา 35 กับนายจ้างหรือสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ ให้เจ้าหน้าที่
จัดหางานประสานทางโทรศัพท์กับสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐก่อน เพ่ือให้แน่ใจว่าสถานประกอบการ
/หน่วยงานของรัฐยังไม่ได้ตกลงรับหรือเรียกคนพิการรายใดเข้าทาสัญญา จากนั้นจึงประสานส่งตัวคนพิการ
/ผดู้ ูแลคนพิการ เขา้ ทาสญั ญากับนายจ้างหรอื สถานประกอบการ/หนว่ ยงานของรฐั ต่อไป

(4) เจ้าหน้าท่ีจัดหางานจัดทาแบบแจ้งเข้าทาสัญญาขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 (กกจ.พก.3) พร้อมแนบแบบ
กจจ.พก.1 และสาเนาบัตรประจาตวั คนพกิ ารหรือสาเนาบัตรประจาตัวประชาชนของผู้ดูแลคนพิการ และส่งตัว
คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ ไปพบนายจ้างหรือสถานประกอบการ/หน่วยของรัฐ เพื่อตกลงเข้าทาสัญญาขอใช้สิทธิ
ตามท่ีนายจ้างหรือสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐได้แจ้งขอใช้สิทธิไว้ โดยเจ้าหน้าที่จัดหางานจะต้องช่วย
ตรวจสอบมูลค่าการใช้สทิ ธิกอ่ นทีน่ ายจ้างและคนพิการจะลงนาม เพื่อใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมกับทุกฝา่ ย

(5) กรณีที่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการต้องการคาแนะนาเพิ่มเติมให้ไปพบเจ้าหน้าท่ีแนะแนวอาชีพ
เพอื่ ให้เจา้ หน้าทแ่ี นะแนวให้คาแนะนาเก่ยี วกับอาชพี ให้แกค่ นพิการ/ผู้ดแู ลคนพิการต่อไป

(6) กรณีคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการยังไม่สามารถเลือกสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐที่แจ้งขอใช้
สิทธิตามมาตรา 35 ได้ เน่ืองจากไม่มีสถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ ที่แจ้งความประสงค์ขอให้สิทธิตาม
มาตรา 35 ตรงตามที่คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการต้องการ ให้เจ้าหน้าท่ีท่ีจัดหางานทาหนังสือแจ้งผลให้คนพิการ
/ผดู้ แู ลคนพกิ ารทราบเป็นระยะ ๆ

หมายเหตุ ตามระเบียบคณะกรรมการสง่ เสริมและพัฒนาชวี ิตคนพกิ ารแห่งชาติ ฯ พ.ศ. 2558 และที่แก้ไข
เพม่ิ เติม ข้อ 4 นิยาม “ผู้ดูแลคนพกิ ารที่จะขอใช้สิทธิ” หมายความว่า ผู้รับอุปการะหรือผู้ดูแลคนพกิ ารซ่ึงมีช่ือใน
บัตรประจาตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และ ข้อ 11 วรรคสอง
กาหนดว่า กรณีผู้ดูแลคนพิการจะย่ืนคาขอรับสิทธิแทนคนพิการ คนพิการท่ีอยู่ในการอุปการะหรือดูแลต้องไม่
สามารถประกอบอาชีพได้โดยเหตุอย่างใดอย่างหน่ึง ดังตอ่ ไปนี้

(1) เป็นผู้เยาว์ (พิจารณาจาก พ.ศ. เกิด โดยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้กาหนด
เหตุพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะไว้ดังน้ี “มาตรา 19 บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์ และบรรลุนิตภิ าวะ
เม่ืออายยุ ่สี บิ ปีบริบูรณ”์ )

(2) เปน็ ผสู้ ูงอายุ ต้งั แต่ 70 ปีข้นึ ไป (พิจารณาจาก พ.ศ. เกดิ )
(3) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื เสมอื นไรค้ วามสามารถ (พิจารณาจากคาส่งั ศาล)
(4) เป็นคนพิการซ่ึงมีสภาพความพิการถึงข้ันท่ีไม่สามารถประกอบอาชีพได้ โดยมีหนังสือรับรองจาก
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือสานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือ
ศนู ยบ์ รกิ ารคนพกิ ารระดับจงั หวดั เพือ่ ประกอบการย่ืนขอใช้สทิ ธิ

88
ผงั การใหบ้ รกิ ารขึ้นทะเบยี นขอใชส้ ิทธิตามมาตรา 35 ของคนพกิ ารหรือผูด้ แู ลคนพิการ

คนพิการ/ผดู้ ูแลคนพกิ าร/ผ้รู บั มอบอานาจ

เจา้ หน้าทีป่ ระชาสมั พันธ์
ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน

เจา้ หน้าที่ประชาสมั พนั ธ/์ เจ้าหน้าที่จัดหางาน

คนพิการ/ผดู้ ูแลคนพกิ าร (รายใหม)่ คนพกิ าร/ผู้ดูแลคนพกิ าร (รายเกา่ )
ยน่ื บัตรประจาตัวคนพิการ/ ยน่ื บตั รประจาตัวคนพกิ าร/
บตั รประจาตัวประชาชน บัตรประจาตัวประชาชน

รบั ขึ้นทะเบียนขอใชส้ ทิ ธิตาม ม.35 (กกจ.พก.1)
เจา้ หน้าทใ่ี ห้คาแนะนาในการกรอกรายละเอียด

เลือกประเภท
การขอใช้สิทธติ าม ม.35
เจา้ หนา้ ท่ีประสานนายจ้าง
ก่อนสง่ ตัวเข้าทาสัญญา
รับแบบแจง้ เขา้ ทาสัญญา
ขอใช้สิทธติ าม ม.35 (กกจ.พก.3)
พรอ้ มแนบ กกจ.พก.1 และสาเนาบตั รประจาตวั
คนพกิ าร/สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชน

ของผดู้ ูแลคนพกิ าร
เดนิ ทางไปพบนายจ้าง
ติดตามผลการเขา้ ทาสญั ญา

ตกลงทาสญั ญา ไมท่ าสัญญา
บนั ทกึ ในแฟม้ แจง้ ผลใหค้ นพกิ ารทราบ

ประวตั ิ

99

วิธีปฏิบัติงาน เรื่อง การแจ้งขอให้สิทธิตามมาตรา 35 ของนายจ้างหรือสถานประกอบการ
และหนว่ ยงานของรฐั

ผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน
(1) เจา้ หนา้ ท่ปี ระสมั พนั ธ์
(2) เจ้าหน้าท่ีจดั หางาน

วิธีปฏิบตั ิงานการแจง้ ขอให้สิทธิตามมาตรา 35 (นายจ้างหรือสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ)
(1) นายจ้างหรือสถานประกอบการท่ีต้องการขอบัตรประจาตัวนายจ้าง ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่

ประชาสมั พนั ธพ์ รอ้ มย่ืนหลักฐานการเปน็ นายจา้ ง
(2) เจ้าหน้าท่ีประชาสัมพันธ์ตรวจสอบความครบถ้วนของหลักฐานนายจ้างหรือเจ้าของสถาน

ประกอบการในกรณเี ป็นบุคคลธรรมดาหรอื นติ ิบคุ คล ดังน้ี

กรณที ่ี 1 บุคคลธรรมดา กรณีที่ 2 บุคคลธรรมดา กรณที ่ี 3 นติ บิ ุคคล
1.บัตรประจาตัวประชาชน ท่ปี ระกอบกจิ การ 1.สาเนาหนงั สอื รับรองการ
พร้อมสาเนา จดทะเบยี นนติ บิ ุคคล
2.สาเนาทะเบยี นบ้าน 1.บตั รประจาตวั ประชาชน 2.สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชน
หมายเหตุ กรณีมอบอานาจ พรอ้ มสาเนา ของผมู้ ีอานาจลงนามผกู พนั
1.หนังสือมอบอานาจ 2.สาเนาใบจดทะเบียนพาณชิ ย์ นติ ิบคุ คล
ติดอากรแสตมป์ 30 บาท หมายเหตุ กรณีมอบอานาจ หมายเหตุ กรณีมอบอานาจ
2.สาเนาบัตรประจาตวั ประชาชน 1.หนังสอื มอบอานาจ 1.หนังสือมอบอานาจ
ผู้มอบอานาจและผู้รับมอบอานาจ ติดอากรแสตมป์ 30 บาท ตดิ อากรแสตมป์ 30 บาท
2.สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชน 2.สาเนาบัตรประจาตวั ประชาชน
ผู้มอบอานาจและผรู้ ับมอบอานาจ ผ้มู อบอานาจและผู้รบั มอบอานาจ

(3) เมอ่ื เจ้าหน้าทปี่ ระชาสัมพันธต์ รวจสอบหลกั ฐานต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว ให้จัดทาบัตรประจาตัวนายจ้าง
กรณีเป็นนายจ้างหรือสถานประกอบการรายเดิม ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการย่ืนบัตรประจาตัวนายจ้าง
พร้อมบัตรประจาตวั ประชาชน เพ่อื ตดิ ต่อใชบ้ รกิ าร

(4) กรณีเป็นหน่วยงานของรัฐไม่ต้องใช้เอกสารหลักฐานใด ๆ ประกอบคาขอ เพียงทาหนังสือจาก
หน่วยงานแจง้ ขอความอนเุ คราะหข์ อให้สิทธิตามมาตรา 35 มอบใหแ้ กเ่ จ้าหนา้ ท่ปี ระชาสัมพันธ์

(5) เจา้ หนา้ ท่ีประชาสัมพนั ธม์ อบแบบแจ้งขอให้สิทธิตามมาตรา 35 (กกจ.พก.2) และแบบคาขอ (กกจ.
พก.2-1 ถึง 7) ตามกิจกรรมท่ีประสงค์จะขอให้สิทธิ พร้อมคานวณมูลค่าการขอให้สิทธิและแนบเอกสาร
ประกอบตามท่ีกาหนดในแบบคาขอ (กกจ.พก.2-1 ถึง 7) เพ่ือใช้ในการพิจารณาอนุญาต ให้เจ้าหน้าท่ีรับย่ืน
และตรวจสอบเอกสารให้แล้วเสรจ็ ภายใน 1 วัน

(6) กรณีนายจ้างหรือสถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐ ยื่นแบบคาขอและเอกสารไม่ครบถ้วน
และหรือต้องมีการแก้ไข ขอให้เจ้าหน้าที่จัดทาบันทึกข้อตกลงโดยผู้ยื่นคาขอต้องแก้ไขหรือย่ืนเอกสารเพ่ิมเติม
ภายในระยะเวลาท่กี าหนด

10
10

วิธีปฏบิ ตั งิ าน เรือ่ ง การคดั เลอื กคนพกิ ารหรือผู้ดแู ลคนพกิ ารทีข่ ึ้นทะเบียนขอใชส้ ิทธิ
ตามมาตรา 35

ผปู้ ฏิบตั งิ าน
- เจ้าหนา้ ที่จัดหางาน

วธิ ีปฏบิ ตั งิ าน
(1) นายจ้างหรอื สถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐท่ีได้รบั อนุญาตให้ดาเนินการตามมาตรา 35 แจ้งเจ้าหน้าท่ี

ขอคัดลอกรายช่ือคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการท่ีข้ึนทะเบียนขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 โดยกรอกรายละเอียดของ
คนพกิ าร/ผ้ดู ูแลคนพกิ ารในแบบคัดลอกประวัตคิ นพกิ าร/ผู้ดูแลคนพิการ (กกจ.พก.4)

(2) เจ้าหน้าที่จัดเก็บสาเนาแบบคัดลอกประวัติคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ เพ่ือใช้เป็นหลักฐานในการติดตาม
การตกลงเขา้ ทาสัญญาขอใช้สิทธิตามมาตรา 35

(3) ก่อนการคัดลอกรายชื่อคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการในคร้ังต่อไป นายจ้างหรือสถานประกอบการ
/หน่วยงานของรัฐ ตอ้ งแจง้ ผลการเข้าทาสญั ญาให้เจ้าหน้าท่ีทราบก่อนทกุ คร้ัง

วิธปี ฏบิ ัติงาน เรอ่ื ง การดาเนนิ การตรวจสอบมูลค่าการขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 ของนายจ้าง
หรือสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ

ผปู้ ฏบิ ัตงิ าน
- เจา้ หน้าทจ่ี ดั หางาน

วิธีปฏบิ ตั ิงาน
(1) ให้เจ้าหน้าท่ีออกพื้นท่ีเพื่อตรวจสอบมูลค่าการให้สิทธิตามมาตรา 35 ของนายจ้างหรือสถานประกอบการ

และหน่วยงานของรฐั โดยดาเนินการภายใน 10 วนั นบั แตว่ นั ท่ีเอกสารหลักฐานครบถ้วน
(2) เม่ือเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมูลค่าการให้สิทธติ ามมาตรา 35 เรียบร้อยแล้ว ขอให้สรุปความเห็น (กกจ.พก.5)

เสนอจัดหางานจังหวดั /ผอู้ านวยการสานกั งานจัดหางานกรุงเทพมหานครพน้ื ท่ี ภายใน 1 วนั
(3) จัดหางานจังหวดั /ผู้อานวยการสานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพ้ืนท่ี พิจารณาอนุญาตและลงนาม

ในหนังสือใหค้ วามเหน็ ชอบดาเนนิ การตามมาตรา 35 ภายใน 2 วัน
(4) ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทารายงานผลการดาเนินการตามมาตรา 35 (กกจ.พก.6) ให้ผู้อานวยการกองกองทุนและ

ความเสมอภาคคนพกิ าร และพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ ังหวดั เป็นประจาทุกเดือน
(5) ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ จัดส่งสาเนาสัญญาการดาเนินการตามมาตรา 35

ให้สานักงานจัดหางานจังหวัด/สานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพ้ืนที่ ภายในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
โดยสัญญาจะต้องประกอบด้วยเอกสารหลักฐานและแบบ กกจ.พก.1 และสาเนาบัตรประจาตัวคนพิการหรือ
สาเนาบตั รประจาตัวประชาชนของผู้ดูแลคนพิการ

11
11

วิธีปฏิบัตงิ าน เรอื่ ง การติดตามผลการตกลงเขา้ ทาสญั ญาขอใชส้ ทิ ธิตามมาตรา 35

ผปู้ ฏบิ ัตงิ าน
- เจ้าหนา้ ท่จี ัดหางาน

วธิ ปี ฏิบตั ิงาน
(1) เจ้าหน้าที่จดั หางานนารายช่อื คนพกิ าร/ผู้ดูแลคนพกิ าร ท่ีส่งตัวไปพบนายจ้างเพ่ือตกลงเข้าทาสัญญา

ขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 หรือที่นายจ้างหรือสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ คัดลอกรายช่ือไปเพื่อ
เรียกเข้าทาสัญญามาดาเนนิ การตดิ ตามผลการตกลงเข้าทาสญั ญาขอใช้สทิ ธิตามมาตรา 35 ดงั นี้

- เม่ือครบ 7 วันนับจากวันที่ส่งตัวหรือคัดลอกรายช่ือเพอื่ เรียกเข้าทาสัญญา ให้เจ้าหน้าท่ีติดตามผลการ
ตกลงเข้าทาสัญญาของนายจ้างหรือสถานประกอบการและหน่วยงานรัฐ ว่าได้มีการตกลงเข้าทาสัญญากับ
คนพิการ/ผู้ดแู ลคนพิการทสี่ ่งตวั ไปพบหรอื ไม่

- หากยงั ไม่ทราบผลการตกลงเข้าทาสัญญาขอใช้สิทธติ ามมาตรา 35 ให้เจ้าหน้าที่จัดหางานมีหนังสือ
ลงทะเบียนตอบรับ เพื่อสอบถามไปยังนายจ้างหรือสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐ หรือคนพิการ
/ผู้ดูแลคนพิการ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับจากวันท่ีส่งตัวหรือคัดลอกรายชื่อคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ
ซึ่งการสอบถามจะต้องสอบถามเพ่ือให้ทราบว่าได้ตกลงเข้าทาสัญญากันหรือไม่ หรือคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ
ไดไ้ ปพบนายจา้ งหรอื ไม่

- การติดตามผลการตกลงเข้าทาสัญญาขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 หากมีการติดตามมากกว่า 2 คร้ัง
แตย่ งั ไม่ทราบผลการตกลงเข้าทาสญั ญาใหถ้ อื ว่าคนพกิ าร/ผู้ดแู ลคนพิการ ไม่ได้รบั การตกลงเข้าทาสัญญา

(2) หากเจ้าหน้าท่ีไดต้ ิดตามผลแล้วพบว่านายจ้างหรือสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐ ตกลงจะ
เข้าทาสัญญากับคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ ให้มีการจัดทาสัญญาหรือข้อตกลงการใช้สิทธิตามมาตรา 35
กับคนพิการ/ผู้ดูแลคนพกิ าร พร้อมท้ังแจ้งผลการดำเนินการต่อสานักงานจัดหางานจังหวัด หรือสานักงานจัดหางาน
กรุงเทพมหานครพื้นท่ี และแจ้งกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือสานักงานพัฒนาสังคมและ
ความมนั่ คงของมนุษย์จังหวัด แลว้ แต่กรณี ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วนั ทไี่ ด้ดาเนนิ การแลว้ เสร็จ

12
12

ผังการใหบ้ ริการแจ้งขอใหส้ ทิ ธิ มาตรา 35 ของสถานประกอบการและหนว่ ยงานของรัฐ
นายจ้าง/สถานประกอบการ/หนว่ ยงานของรัฐ

เจ้าหน้าท่ปี ระชาสมั พนั ธ์ให้คาแนะนา พรอ้ มรบั บัตรควิ

- นายจ้าง/สถานประกอบการ (รายใหม)่ นายจา้ ง/สถานประกอบการ (รายเดิม) ย่ืนทาบตั ร
ย่นื หลกั ฐานการเป็นนายจ้างใหเ้ จ้าหนา้ ที่ ประจาตัวนายจา้ ง
ประชาสมั พนั ธ์ตรวจสอบเพื่อจัดทาบัตรนายจา้ ง
- หนว่ ยงานของรัฐ ย่ืนหนงั สอื ขอความอนุเคราะห์
ขอให้สิทธิ

รบั แบบแจง้ ขอให้สิทธิตาม ม.35 (กกจ.พก.2)
เพอื่ กรอกรายละเอียด

กรณที ่ีนายจ้าง/ ดาเนนิ การตรวจสอบมลู ค่า กรณที น่ี ายจ้าง/สถานประกอบการ/
สถานประกอบการ/ - กรณผี ่านหลกั เกณฑ์ ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ี หน่วยงานของรัฐ ยงั ไม่มีคนพกิ าร/
หน่วยงานของรัฐ มหี นังสอื อนุญาตให้นายจา้ ง/ ผูด้ แู ลคนพกิ ารเข้ารับสทิ ธิ และ
จับคู่ (Matching) สถานประกอบการ/หน่วยงานของรัฐ ประสงค์จะขอคดั เลือกรายชอ่ื
กันมาแลว้ ดาเนินการและเข้าทาสญั ญา คนพกิ ารทขี่ ึ้นทะเบยี นไวก้ บั
- กรณไี ม่ผา่ นหลกั เกณฑ์ ให้ สานักงานจดั หางานจงั หวัด/
เจา้ หน้าท่ีแจง้ นายจ้าง/สถาน สานกั งานจดั หางานกรุงเทพ
ประกอบการ/หน่วยงานของรฐั เรง่ กรุงเทพมหานครพน้ื ที่
แกไ้ ขและปรบั ปรงุ ให้เป็นไปตาม
หลกั เกณฑ์โดยดว่ น

เจ้าหนา้ ท่ตี ดิ ตามผล
การเขา้ ทาสัญญา

13
13

การแจ้งการใหส้ ทิ ธิของนายจ้างหรือสถานประกอบการ และหนว่ ยงานของรฐั

การแจง้ การใหส้ ทิ ธิ มวี ิธกี าร ดงั นี้
(1) นายจ้างหรือสถานประกอบการแจ้งการให้สิทธิและดาเนินการให้เข้ารับสิทธิภายในวันท่ี

31 ธันวาคมของปกี อ่ นปีท่ีมีหนา้ ท่ี สว่ นหน่วยงานของรฐั แจ้งการให้สทิ ธิและดาเนินการใหเ้ ข้ารับสทิ ธิได้ทุกเม่ือ
(2) ตามระเบยี บคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฯ พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพม่ิ เติม

ข้อ 10 กาหนดให้นายจ้างหรือสถานประกอบการที่ประสงค์จะให้สิทธิมาตรา 35 แก่คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการ
ต้องแจ้งการให้สิทธิและดาเนินการให้เข้ารับสิทธิภายในวันที่ 31 ธันวาคมของปีก่อนปีที่มีหน้าที่ ท้ังนี้
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 64 วรรคสาม กาหนดให้
กรณีที่บุคคลใดต้องทาการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในระยะเวลาที่กาหนดโดยกฎหมายหรือโดยคาส่ังของ
เจ้าหน้าท่ี ถ้าวันสุดท้ายเป็นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าท่ีหรือวันหยุดตามประเพณีของบุคคลผู้รับคาสั่ง
ให้ถือว่าระยะเวลานั้นส้ินสุดในวันทางานท่ีถัดจากวันหยุดน้ัน ดังนั้น จึงถือว่าวันเปิดทางานวันแรกของปีถัดไป
เป็นวันสุดทา้ ยของการให้สทิ ธแิ ละการให้เข้ารบั สทิ ธิ

(3) การแจ้งการให้สิทธิ ให้แจ้ง ณ ท้องที่ท่ีเป็นที่ตั้งของหน่วยงานของรัฐ หรือนายจ้างหรือเจ้าของ
สถานประกอบการ คือ

ในเขตกรุงเทพมหานครให้แจ้ง สานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพนื้ ท่ี 1-10
ในจงั หวัดอืน่ ให้แจง้ ณ สานักงานจดั หางานจงั หวดั ทกุ จงั หวดั
(4) อธิบดีกรมการจัดหางานกาหนดแนวปฏิบัติในการรับแจ้งการให้สิทธิตามมาตรา 35 เพ่ือเป็นการ
อานวยความสะดวกให้หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือสถานประกอบการ ให้สามารถดาเนินการแจ้งการให้สิทธิ
คนพิการหรอื ผูด้ แู ลคนพิการได้ 2 วธิ ี ดังน้ี
วธิ ีที่ 1 กรณีสถานประกอบการประสงค์ดาเนินการมาตรา 35 ในหลายจังหวัด และสถานประกอบการ
มีสานักงานใหญต่ ง้ั อยูใ่ นกรงุ เทพมหานครและมีสานกั งานสาขาในหลายจังหวดั สถานประกอบการสามารถแจ้ง
การให้สทิ ธิตามมาตรา 35 ณ สานกั งานจดั หางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ซ่ึงเป็นท่ตี ั้งของสานักงานใหญ่ โดยเป็น
การยื่นการให้สิทธิในภาพรวมของสถานประกอบการ ในกรณีน้ีให้สานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพ้ืนท่ี
ท่รี บั แจ้งการให้สิทธขิ องสถานประกอบการ ทาหนังสือประสานสานักงานจดั หางานจงั หวดั ซึ่งเปน็ พ้ืนทด่ี าเนนิ การ
ออกตรวจสอบการดาเนนิ การมาตรา 35 โดยมหี ลักเกณฑก์ ารพจิ ารณา คือ

- มูลค่าตอ้ งไม่น้อยกว่าคา่ แรงขน้ั ต่าตามท่ีกฎหมายคุม้ ครองแรงงานกาหนด
- การจัดทาสัญญาขอใชส้ ิทธิของท้ังสองฝา่ ยเปน็ ไปโดยสมคั รใจ
- การดาเนนิ การต้องไม่ขัดต่อพระราชบัญญัตจิ ัดหางานและค้มุ ครองคนหางาน พ.ศ. 2528
- รายชอื่ คนพกิ ารทขี่ อใช้สทิ ธิต้องไม่ซ้าซ้อนกัน
เมื่อดาเนนิ การตรวจสอบเรยี บรอ้ ยแล้ว ให้สานักงานจดั หางานจังหวดั แห่งนั้นมีหนังสือแจ้งผลการ
ตรวจสอบส่งให้สานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นท่ี เพื่อจะได้มีหนังสือให้ความเห็นชอบดาเนินการตาม
มาตรา 35 ตอ่ ไป

14
14

วธิ ีท่ี 2 สถานประกอบการสามารถแจ้งการให้สิทธิตามมาตรา 35 ณ สานักงานจัดหางานจังหวัด
หรือสานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพ้ืนที่ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีดาเนินการ โดยให้สานักงานจัดหางานแห่งน้ันออก
ตรวจสอบ โดยมีหลักเกณฑ์การพจิ ารณา คือ

- มลู คา่ ต้องไม่น้อยกวา่ คา่ แรงข้นั ตา่ ตามทก่ี ฎหมายคุ้มครองแรงงานกาหนด
- การจดั ทาสญั ญาขอใชส้ ิทธิของทัง้ สองฝ่ายเปน็ ไปโดยสมคั รใจ
- การดาเนนิ การตอ้ งไม่ขดั ตอ่ พระราชบัญญัตจิ ัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
- รายช่อื คนพกิ ารทขี่ อใชส้ ทิ ธติ อ้ งไมซ่ า้ ซอ้ นกนั
เมื่อดาเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ให้สานักงานจัดหางานแห่งนั้นมีหนังสือให้ความเห็นชอบ
ดาเนนิ การ ตามมาตรา 35 แก่สถานประกอบการ
เงอื่ นไขในการใหส้ ิทธแิ ละการขอรบั สิทธิ
(1) คนพิการ/ผู้ดูแลคนพกิ าร นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐต้องยินยอม
ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหรือตรวจเยี่ยมสถานท่ีหรือกิจการที่ดาเนินการแล้ว หากพบว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ
ให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือสานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนษุ ยจ์ ังหวัด แลว้ แต่กรณี เพอื่ ดาเนนิ การตามกฎหมายตอ่ ไป
(2) คนพกิ ารหรือผดู้ แู ลคนพกิ ารท่ไี ด้รบั สทิ ธิ จะจาหนา่ ย จา่ ยโอนสิทธิ หรอื ให้บุคคลใดเช่าชว่ งสทิ ธแิ ทนมิได้
(3) กรณผี ู้ดแู ลคนพิการทไี่ ดร้ ับสทิ ธถิ ึงแกค่ วามตาย ให้ผดู้ แู ลคนพกิ ารรายใหม่ทมี่ ีชอื่ เป็นผดู้ แู ลในบตั รประจาตัว
คนพกิ ารเป็นผูร้ ับสทิ ธแิ ทน
(4) กรณีคนพิการทไี่ ด้รบั สิทธิถงึ แกค่ วามตาย สิทธิทีไ่ ด้รับย่อมเป็นอันสิ้นสดุ
(5) การยกเลิกสัญญา การต่อสัญญา การเปล่ียนแปลงสัญญา ให้หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือเจ้าของ
สถานประกอบการต้องแจ้งให้สานกั งานจัดหางานจงั หวัดหรือสานักงานจัดหางานกรงุ เทพมหานครพ้ืนทที่ ราบ
(6) กรณีคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเลิกกิจการก่อนสิ้นสุดสัญญา ให้หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือ
เจา้ ของสถานประกอบการจดั ใหม้ ีคนพกิ ารหรือผดู้ ูแลคนพกิ ารอน่ื เข้ารบั สิทธิแทนที่
กรณีข้อ (2), (3), (4) หรือ (6) ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจัดให้มีคนพิการหรือผู้ดูแลคน
พิการอื่นเข้ารับสิทธิแทนภายใน 45 วัน นับต้ังแต่วันที่การดาเนินการและแจ้งให้สานักงานจัดหางานจังหวัด
หรือสานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นท่ที ราบ
เพ่ือประโยชน์แก่นายจ้างหรือสถานประกอบการในการใชบ้ ริการให้สิทธิตามมาตรา 35 เป็นไป
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงได้กาหนดรูปแบบ “หัวข้อประกอบการพิจารณาตามมาตรา 35
(Template)” เพอ่ื เปน็ แบบตรวจสอบความครบถว้ นของเอกสารในเบ้ืองตน้

15
15

หัวขอ้ ประกอบการพจิ ารณาตามมาตรา 35 (Template)
หน่วยงานของรัฐ นายจา้ ง/สถานประกอบการ คนพกิ ารหรอื ผดู้ แู ลคนพกิ าร
1. ข้อมูลพนื้ ฐาน
ชือ่ หน่วยงานของรัฐ/สถานประกอบการ...........................................................................
ชอ่ื -นามสกลุ คนพิการ.....................................................................................................
ผดู้ ูแลคนพกิ าร (กรณผี ู้ดูแลคนพิการขอใชส้ ทิ ธ)ิ .................................................................
2. ประเภทการขอใชส้ ทิ ธิ
การใหส้ ัมปทาน
การจดั สถานท่จี าหน่ายสนิ คา้ หรือบรกิ าร
การจัดจา้ งเหมาชว่ งงานหรอื จา้ งเหมาบริการ โดยวธิ ีกรณพี ิเศษ
การฝึกงาน
การจัดใหม้ ีอปุ กรณ์หรือสง่ิ อานวยความสะดวก
การจัดใหม้ ีบริการล่ามภาษามือ
การให้ความชว่ ยเหลืออืน่ ใดแก่คนพิการ หรือผู้ดแู ลคนพกิ าร
3. ระยะเวลาดาเนนิ การตามสญั ญา............ป.ี ................เดอื น..................ชว่ั โมง
4. หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณา
เอกสารถกู ตอ้ ง และครบถว้ น
มูลค่าเป็นไปตามท่กี ฎหมายกาหนด
เหน็ ชอบยินยอมทงั้ 2 ฝา่ ย โดยสมัครใจ
การดาเนนิ การไมข่ ดั ต่อพระราชบญั ญตั ิจดั หางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. 2528
รายช่อื คนพกิ ารไม่ซ้าซอ้ นกนั
5. ผลการพจิ ารณา
ผ่านหลกั เกณฑ์
ไมผ่ า่ นเน่อื งจาก.....................................................................................................
.....................................................................................................................................
.....................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................ผู้พจิ ารณา
(...................................................)

ตาแหนง่ .........................................................
วันท่ี................................................................

16
16

การดาเนนิ การตามมาตรา 35
ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่ประสงค์จะรับคนพกิ ารเข้าทางานตามมาตรา 33 หรือนายจ้างหรือเจ้าของ

สถานประกอบการไม่รับคนพกิ ารเข้าทางานตามมาตรา 33 และไม่ประสงค์จะส่งเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34
หนว่ ยงานของรัฐ นายจา้ งหรือเจ้าของสถานประกอบการนั้นอาจดาเนนิ การตามมาตรา 35 ดังนี้

1. การให้สัมปทาน

การให้สัมปทาน หมายความว่า การให้สิทธิแก่คนพกิ ารหรือผู้ดูแลคนพกิ ารได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน
ในการประกอบอาชพี

หลักเกณฑ์
(1) การให้สัมปทานให้ดาเนินการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ต่อไปนี้
(1.1) การใหใ้ ช้ประโยชนจ์ ากอาคาร สถานท่ี หรือทรพั ย์สนิ ท่อี ยใู่ นความดูแลหรือใช้ประโยชน์ของ

หนว่ ยงานรฐั นายจ้างหรือเจา้ ของสถานประกอบการ
(1.2) การให้สิทธิได้จาหน่ายสินค้าหรือบริการภายใต้ลิขสิทธ์ิหรือเครื่องหมายการค้าของ

หนว่ ยงานรฐั นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ
(1.3) การจัดสรรเวลาออกอากาศของสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ เคเบิลทีวี ซ่ึงอยู่ในช่วงเวลา

ท่ีประชาชนสามารถรับฟังหรือรับชมได้อย่างแพร่หลาย และให้หมายความรวมถึงการจัดสรรพ้ืนที่ในเว็บไซต์
หรือเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์

(1.4) การใหส้ ัมปทานอน่ื ๆ ตามทค่ี ณะอนุกรรมการกาหนด
(2) การให้ใช้สิทธิในสัมปทานของนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า
อัตราท่ีกาหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าดว้ ยการกาหนดจานวนคนพิการฯ พ.ศ. 2554 และท่แี กไ้ ขเพ่มิ เตมิ
(3) การให้ใชส้ ิทธิในสัมปทานตอ้ งมีระยะเวลาตามสัญญาต้องไม่น้อยกวา่ 1 ปี กรณีการให้ใช้สิทธใิ น
สัมปทาน มีระยะเวลาตามสัญญามากกว่า 1 ปี ให้หน่วยงานดาเนินการตรวจสอบและคานวณมูลค่าการให้ใช้
สิทธใิ นสมั ปทานเปน็ รายปี
กรณสี ถานประกอบการ
แนวทางการประเมินมลู คา่

(1) ประเมินตามมูลค่าการให้สัมปทานการเช่าหรือการขายขาดทรัพย์สิน (ตามกรณีการให้เช่าหรือ
ขายขาด) โดยไมเ่ กนิ อตั ราทีอ่ งคก์ รคดิ ค่าบริการในปีกอ่ นหน้าปีประเมิน

(2) ในกรณีท่ีทรัพย์สินดังกล่าวมีการซ่อมบารุงให้ประเมินมูลค่าตามกาหนดเวลาและราคาท่ี
องคก์ รคดิ คา่ บรกิ ารในปกี อ่ นหนา้ ปปี ระเมนิ

(3) ประเมินมูลค่าตามราคาของช่องสัญญาณช่วงเวลาและความถี่ในการออกอากาศโดยไม่เกิน
อัตราทอี่ งค์กรคดิ ค่าบริการในปีก่อนหน้าปีประเมนิ

หมายเหตุ ในกรณีท่ีองค์กรไม่มีข้อมูลสถิติให้องค์กรทางการประเมินเปรียบเทียบกับองค์กรในประเภท
เดยี วกนั ในพน้ื ท่ีใกล้เคยี ง

แนวทางการใหส้ ัมปทานใชป้ ระโยชนจ์ ากอาคาร สถานท่ี หรอื ทรพั ยส์ ิน
(1) ควรพิจารณาการจัดอบรมการใช้งานวัสดุ/อุปกรณ์ให้คนพิการได้ประโยชน์จากการสัมปทาน

ดังกล่าวและสามารถดาเนนิ งานไดต้ รงตามความตอ้ งการในเชิงธุรกจิ
(2) ควรกาหนดแนวทางการบ่งใช้ ตลอดจนแนวทางความปลอดภัยจากการใช้งานเป็นพิเศษกับ

กรณีความพิการ

17
17

(3) ควรกาหนดระยะเวลาการประกันทรัพย์สิน แนวทางการซ่อมบารุง/และตรวจสอบสภาพ
การใชง้ านใหเ้ ปน็ ปกติอย่างสม่าเสมอจากองค์กรธุรกจิ เจ้าของทรพั ย์สนิ

(4) ในกรณีท่ีทรัพย์สินเคร่ืองมือหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ได้รับสัมปทานมาน้ัน เกิดปัญหาและทาให้
ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามวัตถุประสงค์ของการให้สัมปทาน องค์กรธุรกิจควรสรรหาอุปกรณ์ทดแทน
เพือ่ ใหก้ ารดาเนนิ งานตามสัญญาสมั ปทานน้ันบรรลุผล

(5) การพิจารณาระยะเวลาในการให้สัมปทานให้พิจารณาถึงช่วงเวลาท่ีเกิดผลผลิตจริง และหาก
เมื่อส้ินสุดเวลาการสัมปทาน ผลผลิตอ่ืนใดท่ียังคงค้างจากการดาเนินงานของคนพิการให้พิจารณาเป็น
กรรมสิทธ์ขิ องคนพิการ

แนวทางการให้สทิ ธไิ ด้จาหน่ายสินคา้ หรอื บรกิ าร
(1) พิจารณาการให้แนวทางสนับสนุนการขาย/การตลาด/การประชาสัมพันธ์ให้แก่คนพิการ

/ผูด้ ูแลคนพกิ าร ตามความเหมาะสมที่จะทาใหเ้ กิดผลสัมฤทธ์ใิ นการขายสินค้าและบรกิ ารดังกลา่ ว
(2) พิจารณาการฝกึ อบรมคนพกิ ารหรอื ผดู้ แู ลคนพกิ ารในทักษะการขายสนิ ค้า/บรกิ าร
(3) ในกรณที ่ีไม่สามารถดาเนนิ การได้ตามเป้าท่กี าหนดนั้น องคก์ รควรมมี าตรการการช่วยส่งเสริม

หรือพัฒนาทักษะ กระบวนการ ตลอดจนโปรแกรมการส่งเสริมการขายอื่นใดที่จะเสริมให้คนพิการหรือผู้ดูแล
คนพกิ ารสามารถพฒั นาผลการดาเนนิ งานขนึ้

แนวทางการจดั สรรคลืน่ ความถี่
(1) ช่องสัญญาณดังกล่าวควรอยู่ในช่วงเวลาที่ประชาชนสามารถรับฟังหรือรับชมได้อย่างแพร่หลาย

เพื่อบรรลุเปา้ หมายในการประชาสัมพนั ธ์สนิ ค้า/บริการและการดาเนนิ งานคนพิการ
(2) ในกรณีที่มีการจัดทารายการหรือส่ือประชาสัมพันธ์ ให้นับรวมค่าใช้จ่ายการจัดทาส่ือ

ประชาสมั พันธ์เพม่ิ เตมิ จากค่าช่องสญั ญาณ
กรณีหนว่ ยงานของรัฐ
หน่วยงานของรัฐอาจดาเนินการภายในองค์กรหรือภายนอกองค์กรซึ่งหน่วยงานของรัฐมีสิทธิ

ครอบครองหรือใช้ประโยชน์โดยการเช่าก็ได้ โดยให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ซึ่งมีอานาจอนุญาตให้ใช้
ประโยชน์จากอาคาร สถานที่ หรือทรัพย์สินแห่งนั้นเป็นผู้อนุญาตและลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงระหว่าง
หน่วยงานของรฐั กับคนพิการหรอื ผู้ดูแลคนพกิ าร

แบบของสัญญาหรือข้อตกลง ให้เป็นไปตามแบบท่ีหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นกาหนด (สาหรับ
หน่วยงานของรัฐ ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการฯ พ.ศ. 2558 และท่ีแก้ไข
เพ่ิมเติม ไม่ได้กาหนดมูลค่าในการให้สัมปทาน แต่ให้เป็นไปตามข้อตกลงของท้ังสองฝ่าย และจะต้องมี
ระยะเวลาการให้สมั ปทานไมน่ อ้ ยกว่า 1 ป)ี

18
18

มูลค่าของสัญญา ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x …..)

ตวั อย่างการใหส้ มั ปทาน

1. ให้สัมปทานตเู้ ครื่องดืม่ อตั โนมัตใิ นบรเิ วณสถานประกอบการ
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ จานวน 1 คน โดย
สถานประกอบการให้สิทธิในการดาเนินกิจการตู้เครื่องจาหน่ายเครื่องด่ืมอัตโนมัติ
จานวน 3 ตู้ เมอื่ ครบกาหนดสัญญาใหส้ ง่ คืน
สถานประกอบการ (ระยะเวลาของสัญญาตอ้ งไม่ตา่ กวา่ 1 ปี)
สถานท่ตี งั้ บริเวณหน้าโรงอาหาร และบา้ นพกั พนกั งานในสถานประกอบการ
รายละเอียด ให้คนพิการดาเนินการโดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเครื่องดื่มที่เติมในตู้จาหน่าย
เครอ่ื งดืม่ ส่วนสถานประกอบการเปน็ ผ้รู บั ผิดชอบคา่ บารุงรักษาตจู้ าหน่ายเคร่อื งด่มื
หรืออุปกรณท์ ี่เกี่ยวข้อง คา่ ไฟฟ้า ตลอดระยะเวลาให้สัมปทาน
ระยะเวลา ตง้ั แต.่ ..ถงึ ... รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงนิ รายได้ท่ีเกดิ จากการจาหน่ายเครือ่ งด่มื ในตใู้ ห้ตกเป็นของคนพกิ าร
มลู ค่าของสญั ญา เป็นเงนิ 120,000 บาท/ปี (ค่าตู้จาหน่ายเครื่องดม่ื อัตโนมัติ 30,000 บาท x 3 ตู้ = 90,000 บาท
ค่าบารุงรักษา 20,000 บาท/ปี คา่ ไฟฟ้า 10,000 บาท/ปี) ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า
อัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วนั x จานวนคนพกิ ารที่ต้องรับ (300 บาท x 365 วัน x 1
= 109,500 บาท)

19
19

2. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลให้สมั ปทานพ้นื ทีท่ าการเกษตร จานวน 1 ไร่ ให้แก่ผูด้ ูแลคนพกิ าร
สัญญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างองค์การบริหารส่วนตาบลกับผู้ดูแลคนพิการ จานวน 1 คน
โดยหน่วยงานให้สิทธิในการดาเนินการด้านการเกษตรในพื้นที่ 1 ไร่ เม่ือครบกาหนด
สญั ญาให้คืนสทิ ธแิ กห่ นว่ ยงาน (ระยะเวลาของสญั ญาต้องไมต่ า่ กวา่ 1 ปี)
สถานท่ีตงั้ พ้นื ทที่ าการเกษตรจานวน 1 ไร่ ซ่งึ เปน็ กรรมสทิ ธ์ขิ ององคก์ ารบริหารสว่ นตาบล
รายละเอยี ด ใ ห้ ผู้ ดู แ ล ค น พิ ก า ร ด า เ นิ น ก า ร โ ด ย เ ป็ น ผู้ รั บ ผิ ด ช อ บ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ใ น ก า ร ล ง ทุ น
ทาการเกษตร ตลอดระยะเวลาให้สมั ปทาน
ระยะเวลา ตั้งแต.่ ..ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงนิ รายได้ที่เกดิ จากการจาหน่ายผลผลติ ทางการเกษตรใหต้ กเป็นของผ้ดู ูแลคนพิการ
มลู คา่ ของสญั ญา เป็นไปตามท่ีหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นกาหนดตามความเหมาะสม (ไม่ต้องกาหนด
จานวนมูลค่าเพราะหน่วยงานของรัฐไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุน แต่ต้องเป็นไปตาม
ความเหมาะสม)

3. สถานีเคเบิ้ลทีวีท้องถ่ินจัดสรรเวลาออกอากาศทางเคเบ้ิลทีวี ให้แก่คนพิการเพื่อทาการประชาสัมพันธ์
ข่าวสาร และส่งเสริมโอกาสการสรา้ งงานคนพิการ
สัญญา สถานประกอบการประกอบกิจการประเภทเคเบ้ิลทีวีในชุมชน จัดสรรเวลาออกอากาศ
ให้แก่คนพิการ จานวน 1 คน เพ่ือประชาสัมพันธ์ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในช่วงเวลา
14.00 – 15.00 น. อาทติ ย์ละ 2 วัน เป็นระยะเวลาทั้งสนิ้ 1 ปี และทาสญั ญากบั คนพิการ
จานวน 1 คน
สถานทีต่ ้งั ออกอากาศทางสถานีเคเบลิ้ ทีวีทอ้ งถ่ิน จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
รายละเอยี ด สถานประกอบการเปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบดาเนนิ การผลิตรายการโทรทัศน์
โดยคนพิการเป็นผู้ประชาสมั พนั ธข์ ายผลติ ภณั ฑ์
ระยะเวลา ตัง้ แต.่ ..ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ รายได้ที่เกดิ จากการขายสนิ คา้ ใหต้ กเป็นของคนพกิ าร
มูลค่าของสัญญา เป็นเงนิ 288,000 บาท/ปี (ค่าผลิตรายการโทรทัศน์ 96 ตอน x 3,000 บาท = 288,000 บาท)
ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกวา่ อัตราค่าจ้างขั้นตา่ x 365 วัน x จานวน คนพิการที่ตอ้ งรับ
(300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

4. สถานประกอบการใหส้ ัมปทานคนพกิ ารเป็นตวั แทนจาหนา่ ยผลิตภณั ฑข์ องบรษิ ทั
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ จานวน 1 คน โดย
สถานประกอบการเป็นผู้ผลิตน้ายาล้างจานส่งมอบผลิตภัณฑ์ขนาด 500 มิลลิลิตร
ให้คนพกิ ารเปน็ ตัวแทนจาหนา่ ยนา้ ยาลา้ งจาน จานวน 200 ขวด/เดือน
สถานทต่ี ้ัง บา้ นพกั คนพิการท่ีเปิดเป็นรา้ นค้าในชุมชน
รายละเอียด สถานประกอบการเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสาหรับผลิตภัณฑ์และค่าใช้จ่ายในการ
จดั ส่งผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาของสัญญา
ระยะเวลา ตง้ั แต่...ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงนิ รายไดท้ ี่เกดิ จากการจาหนา่ ยผลิตภัณฑใ์ ห้ตกเปน็ ของคนพกิ าร

20
20

มูลค่าของสัญญา เป็นเงิน 120,000 บาท/ปี (น้ายาล้างจาน 50 บาท x 2,400 ขวด) ซ่ึงต้องมีมูลค่า
ไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วนั x จานวนคนพิการที่ต้องรับ (300 บาท
x 365 วนั x 1 = 109,500 บาท)

2. การจัดสถานท่จี าหนา่ ยสนิ ค้าหรอื บรกิ าร

หมายความว่า : การจัดสถานที่บริเวณองค์กรหรือสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก
เพอื่ ให้คนพิการหรือผ้ดู แู ลคนพกิ ารไดใ้ ช้ประโยชนใ์ นการประกอบอาชพี

หลักเกณฑก์ ารจดั สถานที่จาหน่ายสนิ ค้าหรือบรกิ ารต้องมีลักษณะและเงือ่ นไข ดังตอ่ ไปน้ี
(1) ตัง้ อย่ใู นสถานท่ีซง่ึ เห็นไดง้ ่าย และสะดวกตอ่ การจาหน่ายสินคา้ หรอื ให้บริการ
(2) มีสาธารณปู โภค และสงิ่ อานวยความสะดวกทคี่ นพิการเขา้ ถึงและใช้ประโยชน์ได้
(3) มีสิ่งปลูกสร้างสาหรับใช้เป็นสถานที่จาหน่ายสินค้าที่มั่นคง ปลอดภัย โดยหน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือ
เจ้าของสถานประกอบการมสี ิทธคิ รอบครองในสถานที่แห่งนน้ั
(4) มขี นาดพน้ื ทเ่ี หมาะสมตามประเภทกจิ การจาหน่ายสินค้าหรอื บริการ
(5) ได้รบั การยกเว้นค่าเช่าพน้ื ทแ่ี ละคา่ ใชจ้ า่ ยอ่ืนที่เกย่ี วข้องตามท่คี ู่สัญญาตกลงกัน
(6) ช่วงเวลาการจาหน่ายสินค้าหรือให้บริการให้เป็นไปตามเวลาเปิดและปิดทาการปกติ ของ

หนว่ ยงานของรฐั หรือสถานประกอบการแหง่ นน้ั หรอื ตามทค่ี ู่สัญญาตกลงกนั
การให้ใช้สิทธิการจัดสถานท่ีจาหน่ายสินค้าหรือบริการนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องมีมูลค่าไม่

น้อยกว่าอตั ราท่กี าหนดไว้ในกฎกระทรวงวา่ ด้วยการกาหนดจานวนคนพิการฯ พ.ศ. 2554 และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เตมิ
แนวทางการประเมนิ มูลคา่
(1) การคานวณมูลค่าให้เป็นไปตามอัตราอ้างอิงในท้องตลาด กรณีไม่มีราคาตามท้องตลาดมา

อ้างอิงให้เป็นไปตามอัตราที่ผู้รับการประเมินย่ืนแบบการชาระภาษีโรงเรือนและท่ีดินของราชการส่วนท้องถ่ิน
แห่งน้ัน หรือตามอัตราที่คณะอนุกรรมการหรือคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ประจาจังหวดั ประกาศกาหนด หรอื กรณนี ายจา้ งหรอื เจา้ ของสถานประกอบการได้ดาเนินกจิ การเก่ียวกับการให้
เชา่ อาคาร สถานที่ หรือมหี ลักฐานการให้เช่าจากผเู้ ช่ารายอน่ื มาแสดงกใ็ หน้ าอตั ราค่าเช่านั้นมาคานวณมูลค่า

(2) ประเมินจากมูลค่าอัตราค่าเช่าพื้นที่ หรือการจัดช่องทางการตลาด ตลอดจนการ
ประชาสัมพันธ์เข้าถึง ตลาดผลิตภัณฑ์/บริการของคนพิการไม่เกินกว่าอัตราที่หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือ
สถานประกอบการคิดในปกี อ่ นหน้าปปี ระเมิน

(3) รวมการประเมินมลู คา่ คา่ ใช้จา่ ยอนั จะเกิดขึน้ โดยหนว่ ยงานของรฐั นายจ้างหรือสถานประกอบการ
เป็นผู้สนับสนุนในการจัดสถานท่ีจาหน่ายสินค้าบริการหรือการจัดช่องทางการตลาดอื่นใด เช่น ค่าน้า ค่าไฟ
คา่ บารงุ รักษาทาความสะอาด ค่าจัดทาสือ่ ประชาสมั พนั ธ์ คา่ สนบั สนุนทางการตลาด เป็นต้น

ในกรณหี นว่ ยงานของรฐั
กรณีหน่วยงานของรัฐ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีอานาจอนุญาตภายใต้เงื่อนไขให้ใช้อาคารหรือ

สถานท่ีของหน่วยงานของรัฐท่ีได้กาหนดไว้ โดยได้รับการยกเว้นค่าเช่าและค่าธรรมเนียมอื่น และมีระยะเวลา
ตามสัญญาไมน่ อ้ ยกว่าหนง่ึ ปี โดยไม่ต้องคานวณมลู คา่

21
21

มูลค่าของสัญญา ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วนั x …..)

ตัวอยา่ งการจัดสถานทจ่ี าหน่ายสินค้าหรือบรกิ าร

1. สถานประกอบการเช่าพืน้ ทใี่ หผ้ ู้ดแู ลคนพิการขายสินค้า
สัญญา มีการจดั ทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับผู้ดูแลคนพิการโดยสถานประกอบการ
เช่าพ้นื ทก่ี ว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร เพอื่ จาหนา่ ยสนิ คา้
สถานท่ตี งั้ จังหวดั สุรนิ ทร์
รายละเอียด ให้คนพกิ ารนาสนิ คา้ มาขายในพ้ืนท่ดี งั กลา่ ว โดยสถานประกอบการเป็นผ้รู บั ผิดชอบ
คา่ เชา่ พื้นที่ และคา่ สาธารณปู โภคตา่ งๆ
ระยะเวลา ต้ังแต.่ ..ถึง...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงินรายได้ทีเ่ กดิ จากการจาหน่ายสินคา้ ใหต้ กเปน็ ของผูด้ ูแลคนพิการ จานวน 1 คน
มูลค่าของสญั ญา เป็นเงิน 182,500 บาท/ปี (ค่าเช่าพนื้ ที่รวมค่าสาธารณูปโภค 500 บาท x 365 วัน)
ซึ่งตอ้ งมีมูลค่าไม่น้อยกวา่ อตั ราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วนั x จานวนคนพิการท่ีตอ้ งรับ
(300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

2. องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดจดั พน้ื ทบ่ี ริเวณโรงอาหารใหค้ นพกิ ารดาเนนิ การจาหนา่ ยอาหารและเคร่ืองดม่ื
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับคนพิการ โดยจัดสรรพ้ืนที่เพื่อ
จาหน่ายสินค้า
สถานทีต่ ้งั พ้ืนที่ขนาด 3 x 3 เมตรบริเวณโรงอาหารขององคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั
รายละเอียด ให้คนพิการนาอาหารและเครื่องด่ืมมาจาหน่ายในวันและเวลาทาการ โดยยกเว้น
ค่าเชา่ พ้นื ทแ่ี ละค่าสาธารณูปโภคตา่ ง ๆ
ระยะเวลา ตั้งแต่...ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี

22
22

ผลประโยชน์ เงินรายได้ที่เกิดจากการจาหน่ายอาหารและเครื่องด่มื ให้ตกเป็นของผู้ดูแลคนพิการ
มูลค่าของสญั ญา จานวน 1 คน
หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเป็นผู้อนุญาตให้ใช้พื้นที่จาหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
โดยยกเวน้ ค่าเช่าและค่าธรรมเนียมอ่ืนๆ

3. หา้ งสรรพสินค้าจัดสรรพ้นื ทใี่ ห้คนพกิ ารเปดิ บรกิ ารร้านนวดแผนไทย
สัญญา มีการจดั ทาสัญญาระหว่างหา้ งสรรพสินค้ากบั คนพิการทางการเหน็ โดยจัดสรรพื้นที่
เปดิ บรกิ ารรา้ นนวดแผนไทยสาหรบั ลกู คา้ ท่ีมาซอ้ื ของในหา้ งสรรพสนิ คา้
สถานทต่ี งั้ บริเวณช้ันล่างของห้างสรรพสินค้าซ่ึงเป็นสถานท่ีท่ีพบเห็นได้ง่าย ขนาด 6 x 3 เมตร
ซึ่งมีความเหมาะสมในการใหบ้ รกิ ารนวดแผนไทย
รายละเอยี ด ใหค้ นพกิ ารเปิดดาเนินการบริการนวดแผนไทยตัง้ แต่เวลา10.30–21.00น.โดยห้างสรรพสินค้า
จะเป็นผรู้ ับผดิ ชอบคา่ สาธารณูปโภคตา่ ง ๆ
ระยะเวลา ตง้ั แต.่ ..ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงินรายได้ที่เกิดจากการให้บริการนวดแผนไทยให้ตกเป็นของคนพิการที่ดาเนินการ
เปดิ ร้านนวดแผนไทยใหค้ นพกิ าร จานวน 3 คน
มลู ค่าของสัญญา เป็นเงิน 342,000 บาท/ปี (ค่าเชา่ พน้ื ที่เปดิ ร้านนวดแผนไทย 9,000 บาท x 12 เดอื น
x 3 คน = 324,000 บาท ค่าไฟฟา้ เดือนละ 500 บาท x 12 เดอื น x 3 คน = 18,000 บาท)
ซึง่ ตอ้ งมีมูลค่าไม่น้อยกวา่ อตั ราค่าจ้างข้ันตา่ x 365 วัน x จานวนคนพกิ ารท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x 3 = 328,500 บาท)

4. เทศบาลเมอื งจัดพืน้ ที่บริเวณชายหาดให้คนพกิ ารเปิดรา้ นขายอาหารและเครอ่ื งดม่ื ใหก้ บั นักทอ่ งเที่ยว
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับคนพิการ โดยจัดสรรพ้ืนที่บริเวณ
ริมชายหาดเพื่อจาหนา่ ยอาหารและเครอ่ื งด่ืม
สถานทตี่ งั้ บริเวณริมชายหาดท่ีมีนักท่องเท่ียวจานวนมาก โดยจัดพ้ืนท่ีบริเวณริมชายหาด
ขนาด 5 x 5 เมตร เพอื่ จาหนา่ ยอาหารและเครอื่ งดืม่ ใหแ้ ก่นักทอ่ งเท่ยี ว
รายละเอียด เทศบาลเมืองจัดพื้นท่ีริมชายหาดให้คนพิการนาอาหารและเคร่ืองดื่มมาจาหน่าย
โดยยกเวน้ ค่าเช่าพ้ืนท่ีและค่าสาธารณูปโภคตา่ ง ๆ
ระยะเวลา ตัง้ แต.่ ..ถึง...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ เงินรายได้ที่เกิดจากการจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้ตกเป็นของคนพิการ
จานวน 1 ราย
มลู คา่ ของสัญญา หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเป็นผู้อนุญาตให้ใช้พื้นที่จาหน่ายอาหารและเคร่ืองดื่ม
โดยยกเวน้ คา่ เชา่ และค่าใชจ้ า่ ยอื่นๆ

23
23

3. การจัดจา้ งเหมาช่วงงานหรอื จา้ งเหมาบริการ

หมายความว่า : การจ้างเหมาชว่ งงานหรือการจา้ งเหมาบรกิ ารจากคนพิการหรือผู้ดูแลคนพกิ ารเพอื่ ประโยชน์
ของหนว่ ยงานของรฐั นายจ้างหรอื เจา้ ของสถานประกอบการแห่งนนั้

หลักเกณฑก์ ารจดั จา้ งเหมาช่วงงานหรือการจ้างเหมาบริการ ตอ้ งมลี ักษณะและเงอื่ นไขดังตอ่ ไปนี้
(1) เป็นการจ้างคนพกิ ารหรอื ผู้ดูแลคนพกิ ารโดยตรง
(2) เป็นการจ้างที่มีลักษณะมุ่งผลสาเร็จของงานที่ว่าจ้างภายใต้ระยะเวลาท่ีกาหนดในสัญญาหรือ

ข้อตกลง เช่น การรักษาความสะอาด งานความปลอดภัย งานสวน งานศึกษาวิจัย งานสารวจ งานติดตาม
ประเมินผล งานข้อมูล งานพิมพ์ งานผลิตเอกสาร งานผลิตส่ือประชาสัมพันธ์ งานผลิตสินค้าหรือบริการ งานก่อสร้าง
หรอื งานปรับปรุงสิง่ อานวยความสะดวก เปน็ ตน้ หรอื ลักษณะอืน่ ตามที่คณะอนุกรรมการประกาศกาหนด

(3) ผู้ว่าจ้างต้องจัดทาเอกสารแนบท้ายสัญญาท่ีมีรายละเอียดเก่ียวกับการประมาณการด้านต้นทุน
ค่าใช้จ่ายในการจัดการ และกาไรเพื่อประกอบการพิจารณาของสานักงานจัดหางานจังหวัดหรือสานักงาน
จดั หางานกรุงเทพมหานครพน้ื ที่

(4) การจัดจ้างเหมาช่วงงานหรือการจ้างเหมาบริการนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องมีมูลค่า
ไมน่ อ้ ยกวา่ อตั ราท่กี าหนดไวใ้ นกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยการกาหนดจานวนคนพกิ ารฯ พ.ศ. 2554 และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ

แนวทางการประเมนิ มลู คา่
(1) กรณีกาหนดให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเป็นผู้จัดหาวัสดุ อุปกรณ์หรือเงินลงทุนตาม

ลักษณะของงานทจี่ ้าง ให้ประเมินมูลคา่ เฉพาะส่วนท่ีเปน็ กาไรที่คนพกิ ารหรือผู้ดแู ลคนพกิ ารจะได้รับ เมื่อครบกาหนด
สัญญาจ้างในปีนัน้

(2) ในกรณีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการเป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์หรือเงินทุนตาม
ลักษณะของงานท่ีจ้างให้ประเมินมูลค่าเฉพาะในส่วนที่เปน็ ค่าตอบแทนหรือค่าแรงงานท่ีคนพิการหรือผู้ดแู ลคนพิการ
จะไดร้ บั เมื่อครบกาหนดสัญญาจา้ งในปีนั้น

ในกรณีหนว่ ยงานของรัฐ
(1) ก่อนดาเนินการในแต่ละปีให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้เก่ียวข้องกาหนด

ลักษณะงานท่ีเหมาะสมภายในองค์กร เพ่ือมอบให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการทาแทนได้ และจัดสรร
งบประมาณตามวงเงินท่ีกาหนดแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีพัสดุของหน่วยงานแห่งน้ันติดต่อกับผู้รับจ้างเป็นราย
กรณโี ดยตรง เพอื่ เสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐนั้นเป็นผู้มีอานาจอนุมัตแิ ละแตง่ ตงั้ คณะกรรมการจัดซ้ือจัดจ้าง
และคณะกรรมการตรวจรับการจา้ งตามระเบยี บวา่ ดว้ ยการพัสดุของหน่วยงาน ของรัฐแห่งน้ันโดยวิธกี รณีพิเศษ

(2) ให้หน่วยงานของรัฐกาหนดวงเงินตามสัญญาหรือข้อตกลงที่จะจ้างในแต่ละคร้ัง โดยพิจารณา
ความจาเปน็ และความเหมาะสมตามลักษณะของงานและจานวนคนพิการที่ตอ้ งรับเข้าทางาน

(3) หน่วยงานของรัฐอาจดาเนินการจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษ โดยดาเนินการภายในปีงบประมาณ
และในกรณีท่มี ีขอ้ ตกลงให้จ้างต่อเนือ่ ง ใหส้ ญั ญาหรือข้อตกลงดังกลา่ วมีผลตั้งแต่วันท่ี 1 ตุลาคมของแต่ละปี

(4) ใหห้ นว่ ยงานของรฐั แจ้งสานักงานจดั หางานจังหวดั หรือสานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพน้ื ท่ี
พรอ้ มส่งสาเนาสัญญาหรอื ขอ้ ตกลงเกย่ี วกบั การจา้ งภายใน 30 วัน นับแตว่ ันทม่ี ีการเข้าทาสญั ญาดงั กลา่ ว

24
24

มูลค่าของสัญญา ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอตั ราค่าจ้างขั้นตา่ x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ต้องรับ
(300 บาท x 365 วนั x …..)

ตัวอยา่ งการจัดจ้างเหมาช่วงงานหรอื จ้างเหมาบริการ

1. บริษัทผลติ นาฬิกาข้อมือจา้ งเหมาผ้ดู แู ลคนพิการประกอบชนิ้ ส่วนนาฬิกาข้อมอื
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างบริษัทกับผู้ดูแลคนพกิ าร โดยสถานประกอบการจ้างเหมาให้
ผู้ดแู ลคนพกิ ารประกอบสายนาฬิกาเข้ากบั ตัวเรอื น
สถานทตี่ ้ัง เป็นไปตามที่ผดู้ ูแลคนพิการสะดวกในการประกอบกิจกรรมดงั กล่าว
รายละเอียด บริษัทจ้างเหมาให้ผู้ดูแลคนพิการประกอบสายนาฬิกาเข้ากับตัวเรือน จานวน
2,000 เรือน โดยบริษัทเป็นผูร้ ับผิดชอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ให้แกผ่ ู้ดแู ลคนพิการ
ระยะเวลา เป็นไปตามท่ีคสู่ ญั ญาตกลงกนั
ผลประโยชน์ บริษัทตกลงจ่ายค่าจ้างเหมาในการประกอบสายนาฬิกาเข้ากับตัวเรือนจานวน
2,000 เรอื น โดยจา่ ยคา่ จ้างเหมาใหแ้ กผ่ ดู้ แู ลคนพกิ ารโดยไมห่ กั ค่าใช้จ่ายใดๆ ท้งั สิน้
มูลคา่ ของสญั ญา เป็นเงิน 160,000 บาท (ค่าแรงประกอบสายนาฬิกาเข้ากับตัวเรือน 80 บาท/เรือน
x 2,000 เรือน) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า อตั ราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวน
คนพกิ ารทตี่ อ้ งรับ (300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

2. โรงพยาบาลของรัฐจ้างเหมาบริการผู้ดูแลคนพิการจัดทาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่ือให้บริการข้อมูล
การดูแลสขุ ภาพสาหรบั ประชาชน
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาจ้างเหมาบริการระหว่างโรงพยาบาลและผู้ดูแลคนพิการ โดยให้
ผู้ดูแลคนพกิ ารจัดทาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
สถานท่ี โรงพยาบาลในจังหวัดกาแพงเพชร

25
25

รายละเอียด โรงพยาบาลจ้างเหมาบริการผู้ดูแลคนพิการซึ่งมีความรู้ และทักษะด้านจัดทา
ระยะเวลา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดทาโปรแกรมสาเร็จรูปให้บริการข้อมูลการดูแลสุขภาพ
ผลประโยชน์ สาหรบั ประชาชน
มูลคา่ ของสญั ญา เป็นไปตามทีค่ ู่สัญญาตกลงกัน
ผดู้ ูแลคนพกิ ารไดร้ ับคา่ แรงในการจดั ทาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
เป็นเงิน 150,000 บาท (กรณีหน่วยงานของรัฐให้กาหนดวงเงินตามสัญญาหรือ
ขอ้ ตกลงทจี่ ะจ้างในแตล่ ะครงั้ โดยพิจารณาความจาเป็นและความเหมาะสม)

3. สถานประกอบการจ้างคนพิการตัดเย็บชดุ ยนู ิฟอรม์ หมวก ถุงมือสาหรับพนกั งานในโรงงาน
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ โดยสถานประกอบการจ้างเหมา
ให้คนพิการตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม หมวก และถุงมือสาหรับพนักงานในโรงงาน
จานวน 500 ชุด
สถานที่ต้งั จังหวัดระยอง
รายละเอยี ด สถานประกอบการจ้างเหมาคนพิการตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม หมวก และถุงมือ
โดยสถานประกอบการเปน็ ผู้จดั เตรียมผ้า วสั ดุ อุปกรณใ์ นการตดั เย็บ
ระยะเวลา เปน็ ไปตามทคี่ ูส่ ญั ญาตกลงกนั
ผลประโยชน์ คนพิการไดร้ ับคา่ แรงในการตดั เยบ็ ชุดยนู ฟิ อรม์ หมวก และถุงมอื จานวน 1 คน
มลู คา่ ของสัญญา เป็นเงิน 125,000 บาท/ปี (ค่าแรงในการตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม หมวก และถุงมือ
ชดุ ละ 250 บาท จานวนทั้งสนิ้ 500 ชุด/ป)ี ซึ่งตอ้ งมีมูลคา่ ไม่น้อยกว่า อัตราคา่ จา้ งข้ันต่า x
365 วนั x จานวนคนพิการท่ีต้องรบั (300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

4. สถานประกอบการจ้างเหมาบริการคนพกิ ารซ่อมเครอ่ื งคอมพวิ เตอรใ์ นโรงพยาบาลของรฐั
สัญญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ โดยให้คนพิการทางาน
สาธารณประโยชน์เป็นเจ้าหน้าท่ีซ่อมเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาลของรัฐ
จานวน 30 เคร่ือง/เดือน
สถานทตี่ ง้ั จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี
รายละเอียด คนพิการทางานเป็นเจ้าหน้าท่ีซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาลจังหวัด
สุราษฎร์ธานี โดยสถานประกอบการซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดพังงามอบหมายให้
ผู้อานวยการโรงพยาบาลเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน และคนพกิ ารต้องรายงานผล
การปฏิบตั ิงานใหส้ ถานประกอบการโดยตรง
ระยะเวลา ต้ังแต่...ถงึ ...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพิการได้รบั ค่าแรงจากการเป็นเจา้ หน้าทซ่ี อ่ มเครื่องคอมพิวเตอร์ จานวน 1 คน
มลู คา่ ของสญั ญา เป็นเงิน 144,000 บาท/ปี (ค่าแรง 400 บาท x 30 เคร่ือง x 12 เดือน) ซึ่งต้องมี
มูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

26
26

4. การฝกึ งาน

หมายความว่า : การเพ่ิมพูนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ หรือการถ่ายทอดวิทยาการหรือเทคโนโลยีท่ี
สามารถนาไปประกอบอาชพี ได้

หลักเกณฑ์การฝกึ งานแกค่ นพิการหรือผดู้ แู ลคนพิการ ต้องมลี ักษณะและเง่อื นไข ดังตอ่ ไปน้ี
(1) หลักสูตรการฝึกงานต้องมีสาระสาคัญเกี่ยวกับการเพม่ิ พนู ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ความชานาญ

การถ่ายทอดวิทยาการ เทคโนโลยี หรือองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการนาไปใช้ในการ
ประกอบอาชพี ได้

(2) ระยะเวลาฝึกงานต้องไม่น้อยกว่าหกเดือน ท้ังนี้ ต้องไม่น้อยกว่าหกร้อยชั่วโมงหรือตามที่
หน่วยงานของรฐั แหง่ น้ันเห็นสมควร และมีการมอบวุฒิบตั รทอ่ี อกโดยหน่วยงานทีร่ ับฝกึ งานแก่ผู้ผา่ นการฝึกงานดว้ ย

(3) หลักสูตรการฝึกงานของนายจ้างหรือสถานประกอบการต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดี
กรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ซ่ึงได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี เว้นแต่หลักสูตรของ
เอกชนซง่ึ ได้รับการเหน็ ชอบจากทางราชการแลว้ ไม่ตอ้ งขอความเห็นชอบตามระเบยี บนอ้ี ีก โดยก่อนดาเนินการ
ให้ผ้แู ทนนายจา้ งหรอื สถานประกอบการเสนอเรื่องตอ่ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือผ้วู า่ ราชการจงั หวัด

(4) นายจา้ งหรือเจ้าของสถานประกอบการอาจจดั ฝกึ งานเอง หรือมอบหมายให้หนว่ ยงานของรัฐหรือ
เอกชนเป็นผจู้ ดั ฝึกงานแทนก็ได้ โดยรับผดิ ชอบค่าใช้จ่ายเกีย่ วกบั การฝึกงาน เชน่ ค่าสถานท่ฝี กึ ทีพ่ กั วสั ดอุ ปุ กรณ์
เอกสาร วิทยากร ค่าพาหนะ และให้จ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าอาหารแก่ผู้เข้ารับการฝึกงานตามท่ีตกลงกัน
ท้ังน้ี การฝึกงานในสถานประกอบการให้คนพกิ ารหรือผู้ดูแลคนพิการไดร้ ับเบย้ี เลี้ยงในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า
ตามกฎหมายว่าดว้ ยการค้มุ ครองแรงงาน และมิให้เรียกเก็บคา่ ใชจ้ า่ ยใดๆ จากคนพกิ ารหรือผู้ดแู ลคนพกิ าร

(5) ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการแจ้งจานวนและรายช่ือคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ
วิทยากร และรายการค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรส่งให้จัดหางานจังหวัดหรือผู้อานวยการสานักงานจัดหางาน
กรุงเทพมหานครพนื้ ที่ เพอื่ ดาเนนิ การตรวจสอบและให้ความเหน็ ชอบกอ่ นการฝกึ งาน

(6) การฝกึ งานต้องมีมูลคา่ ไม่นอ้ ยกว่าอัตราทก่ี าหนดไวใ้ นกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยการกาหนดจานวนคนพิการฯ
พ.ศ. 2554 และที่แกไ้ ขเพิม่ เติม

แนวทางการประเมินมลู ค่า
ประเมนิ มูลคา่ จากค่าใช้จา่ ยเก่ียวกับการฝึกงานตลอดหลักสูตร ตามลักษณะและเงอ่ื นไข รวมถึงจานวน

คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่เข้ารับการฝึกงาน ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าไม่น้อยกว่าอัตราท่ีกาหนดไว้ (อัตราค่าจ้าง
ขัน้ ต่าคณู ด้วยจานวนคนพิการท่ีตอ้ งรับเข้าทางานและคูณด้วยสามรอ้ ยหกสิบห้าวนั )

ในกรณหี นว่ ยงานของรฐั
หน่วยงานของรัฐอาจจัดฝึกงานเองหรือจะสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานของรัฐอ่ืนหรือ

เอกชนเป็นผ้จู ัดฝกึ งานแทนก็ได้ ซ่ึงตอ้ งไม่ใช่ภารกิจตามปกติของหน่วยงานของรัฐแห่งน้ัน โดยให้หน่วยงานของรัฐ
รับผดิ ชอบค่าใช้จา่ ยในการฝึกงาน เชน่ ค่าสถานที่ ท่ีพกั วัสดอุ ุปกรณ์ เอกสาร วิทยากร ค่าพาหนะ และค่าเบยี้ เลี้ยง
หรอื คา่ อาหารแกผ่ ู้เข้ารับการฝกึ งาน ท้งั นี้ ใหน้ าระเบียบวา่ ด้วยการฝกึ อบรมของสว่ นราชการมาใชบ้ งั คับโดยอนโุ ลม

27
27

มูลค่าของสัญญา ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วนั x …..)

ตวั อย่างการฝึกงาน

1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเขียนโปรแกรม
คอมพิวเตอรใ์ ห้คนพกิ ารจานวน 20 คน
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างกระทรวง ICT กับคนพิการ จานวน 20 คน ในการเข้ารับ
การฝึกอบรมหลกั สตู รการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
สถานท่ตี ัง้ ศูนยฝ์ กึ อบรมภายในกระทรวง ICT
รายละเอยี ด กระทรวง ICT รับผิดชอบค่าวิทยากร ค่าท่ีพัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหารว่าง อาหาร
กลางวนั ค่าเอกสารและอปุ กรณต์ ่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้องตลอดหลกั สูตร
ระยะเวลา ตัง้ แต่...ถึง...รวมเวลา 6 เดือน ทง้ั นี้ต้องไม่น้อยกวา่ 600 ชั่วโมง
ผลประโยชน์ คนพิการได้รับความรู้และสามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปประกอบอาชีพการเขียน
โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จานวน 20 คน
มูลค่าของสัญญา กระทรวง ICT รับผิดชอบค่าใชจ้ ่ายในการฝึกงาน เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการฝึกอบรม
ของสว่ นราชการ

28
28

2. สถานประกอบการจดั หลกั สูตรการนวดสปาและนวดแผนไทยให้แก่คนพกิ าร
สัญญา มีการจัดทาสัญญาสถานประกอบการระหว่างกับคนพิการ โดยสถานประกอบการ
จัดหลกั สตู รการนวดสปาและนวดแผนไทยใหแ้ ก่คนพกิ าร จานวน 5 คน
สถานท่ตี ้ัง ร้านนวดสปา จงั หวัดภูเก็ต
รายละเอยี ด สถานประกอบการรับผิดชอบค่าวิทยากร ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าที่พัก
ตลอดหลักสูตร
ระยะเวลา ต้ังแต.่ ..ถึง...รวมเวลา 6 เดอื น และไมน่ อ้ ยกวา่ 600 ชว่ั โมง
ผลประโยชน์ คนพิการมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชพี พนักงานนวดสปา และนวดแผนไทย
จานวน 5 คน
มลู คา่ ของสัญญา เปน็ เงิน 547,500 บาท (ค่าเบย้ี เลี้ยง 15,000 บาท x 5 คน x 6 เดอื น = 450,000 บาท
ค่าวทิ ยากร 36,500 บาท คา่ วัสดุอปุ กรณ์ในการนวด 5,000 บาท x 5 คน = 25,000 บาท
คา่ ทีพ่ ักพร้อมคา่ น้าค่าไฟ 2 ห้อง x 3,000 บาท x 6 เดือน = 36,000 บาท) ซ่ึงต้อง
มีมูลค่าไม่น้อยกว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ต้องรับ
(300 บาท x 365 วนั x 5 = 547,500 บาท)

3. สถานประกอบการใหม้ หาวทิ ยาลัยของรัฐจดั อบรมหลกั สูตรภาษาองั กฤษเพอื่ ประกอบอาชพี แก่คนพกิ าร
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ โดยให้มหาวิทยาลัย
จดั อบรมหลกั สูตรภาษาองั กฤษเพ่อื ประกอบอาชพี แก่คนพิการ จานวน 10 คน
สถานท่ีตั้ง มหาวิทยาลัยของรฐั จังหวดั สงขลา
รายละเอยี ด สถานประกอบการให้มหาวิทยาลัยของรัฐจัดอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อ
ประกอบอาชีพ โดยสถานประกอบการรับผิดชอบค่าสถานที่ ค่าวิทยากร ค่าเบี้ยเล้ียง
คา่ เอกสารประกอบการอบรม ค่าทพ่ี กั ตลอดหลักสูตร
ระยะเวลา ตงั้ แต่...ถึง...รวมเวลา 6 เดือน และไม่น้อยกว่า 600 ชั่วโมง
ผลประโยชน์ คนพิการได้รบั ความรแู้ ละทกั ษะภาษาองั กฤษเพือ่ ประกอบอาชพี จานวน 10 ราย
มลู ค่าของสัญญา เป็นเงิน 1,100,000 บาท (ค่าสถานที่ 10,000 บาท x 6 เดือน = 60,000 บาท
ค่าเบี้ยเล้ียง 15,000 บาท x 10 คน x 6 เดอื น = 900,000 บาท ค่าวทิ ยากร
60,000 บาท ค่าเอกสารประกอบการอบรม 2,000 บาท x 10 คน = 20,000 บาท
ค่าที่พัก 5 ห้อง x 2,000 บาท x 6 เดือน = 60,000 บาท) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อย
กวา่ อัตราคา่ จา้ งขัน้ ตา่ x 365 วนั x จานวนคนพกิ ารท่ีต้องรับ (300 บาท x 365 วัน x 10
= 1,095,000 บาท)

4. สถานประกอบการจดั หลักสตู รการตัดเย็บและซอ่ มรองเทา้ หนังใหแ้ กค่ นพิการ
สัญญา มีการจดั ทาสัญญาระหวา่ งสถานประกอบการผู้ผลิตรองเท้าหนังกับคนพกิ าร เพือ่ ฝึกงาน
หลักสูตรการตัดเย็บและซ่อมรองเท้าหนัง โดยสถานประกอบการจัดฝึกงานให้แก่
คนพิการ จานวน 2 คน
สถานทต่ี ง้ั โรงงานตัดเย็บรองเท้า จังหวัดสมทุ รสาคร
รายละเอยี ด สถานประกอบการรับผิดชอบค่าวิทยากร ค่าเบ้ยี เล้ียง ค่าวัสดอุ ุปกรณ์ และค่าที่พัก
ตลอดหลักสตู ร
ระยะเวลา ต้ังแต่...ถึง...รวมเวลา 6 เดือน และไม่น้อยกว่า 600 ชว่ั โมง

29
29

ผลประโยชน์ คนพิการไดร้ ับความรู้พร้อมทั้งทกั ษะในการประกอบอาชีพ จานวน 2 คน
มลู ค่าของสัญญา เปน็ เงนิ 220,000 บาท (ค่าเบ้ยี เล้ียง 15,000 บาท x 6 เดือน x 2 คน = 180,000 บาท
ค่าวิทยากร 18,000 บาท ค่าวัสดุอุปกรณ์ 5,000 บาท x 2 คน = 10,000 บาท
ค่าที่พัก 2,000 บาท x 6 เดือน = 12,000 บาท) ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตรา
ค่าจ้างข้ันต่า x 365 วนั x จานวนคนพิการที่ต้องรับ (300 บาท x 365 วนั x 1
= 109,500 บาท)

5. การจัดให้มอี ปุ กรณ์หรอื สง่ิ อานวยความสะดวก

การจดั ใหม้ ีอปุ กรณ์ หมายความวา่ : การจัดให้มีเครื่องช่วยอานวยความสะดวกซ่ึงเคล่ือนท่ีหรือเคล่ือนย้ายได้ เพอื่ ให้
คนพิการเข้าถงึ และใช้ประโยชนใ์ นการประกอบอาชพี ไดบ้ นพ้นื ฐานของความตอ้ งการพเิ ศษของคนพกิ ารแต่ละประเภท

การจัดให้มีสิ่งอานวยความสะดวก หมายความวา่ : การจัดให้มีเคร่ืองมือเพ่ือการช่วยเหลือโดยการสร้าง ติดต้ัง
หรือดัดแปลงให้เคร่ืองมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอาคารหรือสถานท่ี เพ่ือให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์
ในการประกอบอาชพี ไดบ้ นพนื้ ฐานของความตอ้ งการพิเศษของคนพิการแตล่ ะประเภท

หลักเกณฑก์ ารจดั ให้มีอุปกรณห์ รอื สิ่งอานวยความสะดวก ต้องมลี ักษณะและเง่อื นไข ดังต่อไปน้ี
(1) หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือสถานประกอบการแห่งน้ันได้รับลูกจ้างคนพิการ ซึ่งมีความ

ต้องการจาเปน็ พเิ ศษเฉพาะบุคคลทตี่ อ้ งการความช่วยเหลือเพอื่ ให้สามารถทางานได้
(2) หน่วยงานของรฐั นายจา้ งหรือสถานประกอบการแห่งนน้ั อาจจัดใหม้ อี ุปกรณ์หรือส่งิ อานวยความสะดวก

ใหแ้ กห่ น่วยงานของรัฐ นายจา้ งหรือสถานประกอบการซง่ึ มีคนพิการเขา้ ทางานเป็นลูกจ้าง
(3) การจัดให้มีอุปกรณ์หรือส่ิงอานวยความสะดวก ได้แก่ การจัดให้มีขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงส่ิงปลูกสร้าง

หรือสิ่งอานวยความสะดวกแก่คนพิการ โดยดาเนินการในสถานที่ของหน่วยงานของรัฐนายจ้างหรือเจ้าของ
สถานประกอบการซ่ึงรับคนพิการเข้าทางาน ท้ังนี้ ตามรายการที่กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามกฎหมายว่าด้วย
การควบคุมอาคาร หรือกฎกระทรวงท่ีออกตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
เวน้ แต่ไมม่ ีการกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวงดังกลา่ ว ใหเ้ ป็นไปตามทค่ี ณะอนกุ รรมการประกาศกาหนด

(4) มิใช่อุปกรณ์หรอื สง่ิ อานวยความสะดวกท่อี าคารสานักงานแห่งน้นั ต้องอยู่ภายใตบ้ งั คบั ของกฎกระทรวงตาม (3)
(5) ต้องดาเนินการให้เสร็จส้ินภายใน 1 ปี
(6) เมื่อดาเนินการเสร็จสิ้นแล้วให้แจ้งกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือสานักงาน
พัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนษุ ย์จงั หวัด แล้วแต่กรณี ภายใน 30 วนั
แนวทางการประเมินมลู ค่า

(1) ก่อนเร่ิมดาเนินการใหห้ น่วยงานของรัฐ นายจ้างหรอื สถานประกอบการดาเนินการสารวจและ
ออกแบบเกี่ยวกับการจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอานวยความสะดวกแก่คนพิการ และเสนอแผนงาน โครงการท่ีมี
รายละเอียดเก่ียวกับอปุ กรณ์ ประมาณการค่าใช้จ่าย วงเงนิ งบประมาณ และประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ ับให้ดหางาน
จงั หวดั หรอื ผอู้ านวยการสานักงานจดั หางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและให้ความเห็นชอบ

(2) การจัดให้มีอุปกรณ์หรือส่ิงอานวยความสะดวกของนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ
ตอ้ งมมี ลู ค่าไม่นอ้ ยกวา่ อตั ราทก่ี าหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการกาหนดจานวนคนพิการฯ พ.ศ. 2554 และท่ี
แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ

กรณีหนว่ ยงานของรฐั การพิจารณาวงเงนิ สาหรบั การจัดให้มีอปุ กรณ์หรือส่ิงอานวยความสะดวก
สาหรับคนพกิ ารให้พิจารณาตามความจาเป็นและเหมาะสมเพ่ือให้คนพกิ ารเขา้ ถงึ และใช้ประโยชนไ์ ด้

30
30

มูลค่าของสัญญา ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x …..)

ตัวอยา่ งการจดั ให้มอี ุปกรณห์ รือสง่ิ อานวยความสะดวก

1. สถานประกอบการตดิ ตง้ั ลิฟต์สาหรบั คนพกิ ารให้พนกั งานซึ่งเป็นคนพิการทางการเคลอ่ื นไหว
สญั ญา สถานประกอบการทาสัญญากับบริษัทรับติดตั้งลิฟต์ เพื่อติดต้ังลิฟต์สาหรับคนพิการ
จานวน 1 ตวั
สถานท่ตี ง้ั สถานประกอบการ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
รายละเอียด สถานประกอบการติดต้ังลิฟต์สาหรับคนพิการท่ีมีลักษณะเป็นไปตามกฎกระทรวง
กาหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอานวยความสะดวก หรือบริการในอาคาร
สถานท่ี หรือบริการสาธารณะอ่ืน เพ่อื ให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
พ.ศ. 2555 โดยสถานประกอบการรับผิดชอบค่าติดตั้งท้ังหมด ก่อนดาเนินการ
สถานประกอบการต้องเสนอแผนงานโครงการ ประมาณการค่าใช้จ่ายวงเงิน
งบประมาณ รายช่ือคนพิการทางการเคล่ือนไหวที่ทางานในสถานประกอบการ และ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ให้สานักงานจัดหางานจังหวัดหรือสานักงานจัดหางาน
กรงุ เทพมหานครพน้ื ท่ี ซึง่ เปน็ ท่ตี ง้ั สถานประกอบการตรวจสอบและให้ความเหน็ ชอบ
ระยะเวลา ต้งั แต่...ถึง...ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพกิ ารได้รบั ความสะดวกและปลอดภยั ระหว่างการทางาน จานวน 1 คน

31
31

มลู ค่าของสัญญา เปน็ เงิน 150,000 บาท (ค่าอปุ กรณ์ 130,000 บาท ค่าติดตัง้ อปุ กรณ์ 20,000 บาท)
ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่น้อยกวา่ อัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ตอ้ ง
รับ (300 บาท x 365 วนั x 1 = 109,500 บาท)

2. สถานประกอบการจดั ให้มีพ้ืนผวิ ตา่ งสัมผัสสาหรบั คนพิการทางการเห็น
สัญญา สถานประกอบการทาสญั ญากบั บรษิ ัทรบั เหมาก่อสร้าง เพื่อจัดให้มีพ้ืนผิวต่างสัมผัส
สาหรับคนพกิ ารทางการเห็น บรเิ วณทางเข้าและภายในอาคารสานกั งาน
สถานท่ีตง้ั สถานประกอบการ จังหวัดชลบรุ ี
รายละเอยี ด สถานประกอบการจัดให้มีพื้นผิวตา่ งสัมผัสสาหรับคนพิการทางการเห็นที่มีลักษณะ
เปน็ ไปตามกฎกระทรวงกาหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอปุ กรณ์ ส่ิงอานวยความสะดวก
หรือบริการในอาคาร สถานท่ี หรือบริการสาธารณะอ่ืน เพ่ือให้คนพิการสามารถ
เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2555 โดยสถานประกอบการรับผิดชอบค่าติดตั้ง
ทั้งหมด ก่อนดาเนินการสถานประกอบการต้องเสนอแผนงานโครงการ ประมาณ
การค่าใช้จ่าย วงเงินงบประมาณ รายช่ือคนพิการทางการเห็นที่ทางานในสถาน
ประกอบการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับให้สานักงานจัดหางานจังหวัดหรือ
สานักจัดหางานกรุงเทพเขตพ้ืนท่ี ซ่ึงเป็นท่ีตั้งสถานประกอบการตรวจสอบและให้
ความเห็นชอบ
ระยะเวลา ตง้ั แต่...ถงึ ...ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพิการได้รับความสะดวก และปลอดภัยระหว่างการทางาน
มูลค่าของสัญญา เป็นเงิน 125,000 บาท (ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่ารับเหมาจัดทาพื้นผิวต่างสัมผัส
125,000 บาท) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอตั ราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวน
คนพิการทต่ี ้องรบั (300 บาท x 365 วนั x 1 = 109,500 บาท)

3. สถานประกอบการสรา้ งหอ้ งน้าสาหรบั คนพกิ ารใหพ้ นักงานซึง่ เป็นคนพกิ ารทางการเคลือ่ นไหว
สัญญา สถานประกอบการทาสัญญากับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพ่ือสร้างห้องน้าสาหรับ
คนพิการทางการเคล่ือนไหว บรเิ วณอาคารสานักงาน
สถานทีต่ ง้ั สถานประกอบการ จังหวัดระยอง
รายละเอยี ด สถานประกอบการสร้างห้องน้าสาหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวท่ีมีลักษณะ
เป็นไปตามกฎกระทรวงกาหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ ส่ิงอานวยความสะดวก
หรือบริการในอาคาร สถานที่ หรือบริการสาธารณะอ่ืน เพื่อให้คนพิการสามารถ
เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2555 โดยสถานประกอบการรับผิดชอบค่าก่อสร้าง
ท้ังหมด ก่อนดาเนินการสถานประกอบการต้องเสนอแผนงานโครงการ และ
ประมาณการค่าใช้จ่าย วงเงินงบประมาณ รายช่ือคนพิการทางการเคล่ือนไหว
ท่ีทางานในสถานประกอบการ และประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับให้สานักงานจัดหางาน
จังหวัดหรือสานักจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ซ่ึงเป็นท่ีตั้งสถานประกอบการ
ตรวจสอบและใหค้ วามเหน็ ชอบ
ระยะเวลา ต้งั แต.่ ..ถงึ ...ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพิการไดร้ บั ความสะดวก และปลอดภยั ในระหว่างการทางาน

32
32

มลู คา่ ของสญั ญา เป็นเงิน 300,000 บาท (ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่ารับเหมาจัดทาห้องน้าสาหรับคนพิการ
ห้องละ 100,000 บาท x 3 ห้อง) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า อัตราค่าจ้างข้ันต่า x
365 วัน x จานวนคนพิการท่ตี อ้ งรับ (300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

4. สถานประกอบการสร้างทางสญั จรใหแ้ ก่พนกั งานซึ่งเปน็ คนพิการทางการเคล่อื นไหว
สญั ญา สถานประกอบการทาสัญญากับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อสร้างทางสัญจรสาหรับ
คนพกิ ารทางการเคลื่อนไหว บรเิ วณอาคารสานักงาน
สถานท่ตี ้งั สถานประกอบการ จงั หวัดชลบรุ ี
รายละเอยี ด สถานประกอบการสร้างทางสัญจรสาหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหว ท่ีมีลักษณะ
เป็นไปตามกฎกระทรวงกาหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ส่ิงอานวยความ
สะดวก หรือบริการในอาคาร สถานท่ี หรือบริการสาธารณะอ่ืน เพื่อให้คนพิการ
สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2555 โดยสถานประกอบการรับผิดชอบค่า
ก่อสร้างทั้งหมด ก่อนดาเนินการสถานประกอบการต้องเสนอแผนงานโครงการ และ
ประมาณการค่าใช้จ่าย วงเงินงบประมาณ รายช่ือคนพิการทางการเคลื่อนไหวที่ทางานใน
สถานประกอบการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ให้สานักงานจัดหางานจังหวัด
หรือสานักจัดหางานกรุงเทพเขตพ้ืนที่ซ่ึงเป็นท่ีต้ังสถานประกอบการตรวจสอบและ
ให้ความเห็นชอบ
ระยะเวลา ตง้ั แต.่ ..ถงึ ...ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพกิ ารได้รับความสะดวก และปลอดภัยในระหว่างการทางาน
มลู ค่าของสญั ญา เป็นเงิน 120,000 บาท (ค่าวัสดุอุปกรณ์และค่ารับเหมาสร้างทางสัญจรสาหรับ
คนพกิ ารห้องละ 100,000 บาท x 3 ห้อง) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอตั ราค่าจ้าง
ข้ันตา่ x365 วนั x จานวนคนพกิ ารทต่ี อ้ งรบั (300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

33
33

6. การจดั ให้มีบรกิ ารล่ามภาษามือ

หมายความว่า : การจ้างบุคคลซ่ึงจดแจ้งเปน็ ล่ามภาษามือต่อกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพกิ าร
เพื่อใหบ้ รกิ ารแกค่ นพกิ ารทางการได้ยนิ หรอื สื่อความหมาย

หลักเกณฑก์ ารจัดให้มบี ริการลา่ มภาษามอื ตอ้ งมลี กั ษณะและเงือ่ นไข ดังตอ่ ไปน้ี
(1) หน่วยงานของรัฐ นายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการแห่งนั้นมีคนพิการซ่ึงมีความต้องการ

จาเป็นพิเศษท่ีจะต้องใช้บริการล่ามภาษามือ เพ่ือสนับสนุนหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้สามารถส่ือสาร
กับผู้บังคับบัญชาและเพ่อื นร่วมงานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

(2) การจดั ใหม้ ลี า่ มภาษามือในสัดส่วนหนง่ึ คนต่อคนพิการทางการไดย้ นิ หรือสื่อความหมายยสี่ บิ คน ( 1 : 20 )
(3) ก่อนเริ่มดาเนินการให้หน่วยงานของรัฐ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการสารวจความต้องการ
จาเป็นพิเศษเฉพาะบุคคลเก่ียวกับการให้บริการล่ามภาษามือและเสนอแผนงาน/โครงการ ท่ีมีรายละเอียด
เกี่ยวกับประมาณการค่าใช้จ่าย วงเงินงบประมาณ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับต่อจัดหางานจังหวัดหรือ
ผอู้ านวยการสานักงานกรงเทพมหานครพ้นื ท่ี เพอ่ื ให้ความเหน็ ชอบ
(4) เม่ือดาเนินการเสร็จสิ้นแล้วให้แจ้งกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือสานักงาน
พฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ งั หวัด แล้วแต่กรณี ภายใน 30 วัน
แนวทางการประเมนิ มูลค่า
(1) มูลค่าของสัญญาจ้างล่ามภาษามือไม่เกินอัตราท่ีกาหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการกาหนด
จานวนคนพิการฯ พ.ศ. 2554 และท่แี กไ้ ขเพม่ิ เติม ตอ่ การจ้างล่ามภาษามือหน่งึ คน
กรณีหน่วยงานของรัฐ ให้พิจารณากาหนดวงเงินในการจัดให้มีล่ามภาษามือตามความจาเป็นและ
ความเหมาะสมเพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบัตหิ นา้ ทข่ี องคนพิการ

มูลค่าของสัญญา ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่เกินกว่าอัตราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วนั x …..)

34
34

ตวั อยา่ งการจัดใหม้ บี ริการลา่ มภาษามือ

1. สถานประกอบการจัดให้มีล่ามภาษามือเพ่ือสื่อสารระหว่างพนักงานที่เป็นคนพิการทางการได้ยินกับ
พนกั งานปกติ
สญั ญา สถานประกอบการมีพนักงานที่เป็นคนพิการทางการไดย้ ินจานวน 20 คน ทาสัญญาจ้าง
ล่ามภาษามือ จานวน 1 คน เพ่อื อานวยความสะดวกในการสื่อสารระหวา่ งทางาน
สถานท่ีตั้ง สถานประกอบการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
รายละเอียด สถานประกอบการเป็นผู้ดาเนินการจัดหาล่ามภาษามือ จานวน 1 คน เพ่ือสื่อสาร
ระหว่างพนักงานท่ีเป็นคนพกิ ารทางการได้ยินกับพนักงานปกติ โดยเสนอแผนงานโครงการ
และประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยวงเงินงบประมาณและประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ
ระยะเวลา ต้งั แต.่ ..ถึง...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพกิ ารได้รับความสะดวกในการสื่อสารขณะทางาน
มูลคา่ ของสัญญา เป็นเงินไม่เกิน 109,500 บาท (ค่าจ้างล่ามภาษามือชั่วโมงละ 300 บาท จานวน
365 ชั่วโมง เปน็ ระยะเวลา 1 ปี) ซ่ึงต้องมีมูลค่าไม่เกนิ อัตราค่าจ้างข้ันตา่ x 365 วนั
x จานวนคนพกิ ารทต่ี อ้ งรบั (300 บาท x 365 วนั x 1 = 109,500 บาท)

7. การให้ความชว่ ยเหลืออ่ืนใดแก่คนพกิ ารหรือผู้ดูแลคนพิการ

หมายความวา่ : การให้ความช่วยเหลือแกค่ นพกิ ารหรอื ผู้ดแู ลคนพกิ ารโดยตรง เพอื่ ใหค้ นพิการหรือผู้ดแู ลคน
พกิ ารสามารถประกอบอาชพี หรอื มีรายได้

หลักเกณฑก์ ารให้ความชว่ ยเหลอื อ่ืนใด
(1) หน่วยงานของรัฐ นายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการ

หรือผู้ดูแลคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนพิการหรือผู้ดแู ลคนพกิ ารไดป้ ระกอบอาชีพ ฝึกอาชีพ เตรียมความพร้อม
ในการทางาน หรือกิจกรรมท่ีเก่ียวเน่ืองกับการประกอบอาชีพ การมีงานทาหรือการมีรายได้ของคนพิการหรือ
ผดู้ แู ลคนพกิ ารตามความจาเป็น สามารถดาเนนิ การได้ 2 วิธี คือ

(1.1) การให้การสนับสนุนด้านการเงิน วสั ดุ อุปกรณ์ ครภุ ณั ฑ์ เครื่องมือ หรอื ทรพั ยส์ นิ อน่ื
(1.2) การซอื้ สินคา้ จากคนพกิ ารหรอื ผดู้ ูแลคนพิการโดยตรง
(2) การให้ความช่วยเหลืออ่ืนใดต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราท่ีกาหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการ
กาหนดจานวนคนพกิ ารฯ พ.ศ. 2554 และท่แี กไ้ ขเพิ่มเตมิ
(3) การซื้อสินค้าหรือบริการจากคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการโดยตรง ต้องให้คนพิการหรือผู้ดูแล
คนพิการมีกาไรจากการขายสินค้าหรือบริการไม่น้อยกว่าอัตราท่ีกาหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการกาหนด
จานวนคนพิการฯ พ.ศ. 2554 และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ

35
35

แนวทางการประเมินมูลค่า
ให้นายจ้างหรือเจา้ ของสถานประกอบการแสดงหลักฐานรายการค่าใช้จ่ายเพื่อประกอบการพจิ ารณา

ของสานกั งานจัดหางานจงั หวดั หรือสานกั งานจดั หางานกรงุ เทพเขตพืน้ ที่ ดงั น้ี
(1) กรณีให้การสนับสนุนด้านการเงิน วัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ เครื่องมือ ทรัพย์สิน ให้ช้ีแจง

รายละเอียดมูลค่าราคาวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ท่ีจะให้กับพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ เพ่ือนามาคานวณมูลค่าตามท่ี
ระเบยี บกาหนด

(2) กรณกี ารซอ้ื สินคา้ จากคนพิการหรือผ้ดู แู ลคนพกิ าร
(2.1) คานวณมลู คา่ จากกาไรท่คี นพิการหรอื ผดู้ แู ลคนพิการได้รับจากการขายสนิ คา้
(2.2) แจงรายละเอยี ดสนิ คา้ ราคา พรอ้ มกาไรต่อช้นิ

มูลค่าของสัญญา ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการที่ต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x …..)

36
36

ตัวอยา่ งการให้ความชว่ ยเหลอื อ่นื ใดแกค่ นพกิ ารหรอื ผูด้ ูแลคนพกิ าร

1. สถานประกอบการให้จักรเย็บผ้าแบบอัตโนมัติและอุปกรณ์ให้คนพิการเพื่อประกอบอาชีพรับตัดเย็บ
เส้ือผ้า
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ โดยสถานประกอบการ
ให้จักรเยบ็ ผ้าแบบอตั โนมัตแิ ละวสั ดอุ ุปกรณแ์ ก่คนพกิ าร จานวน 1 คน
สถานท่ตี ัง้ จังหวดั ตรัง
รายละเอยี ด สถานประกอบการเป็นผู้ซ้ือจักรเย็บผ้าแบบอัตโนมัติ ผ้า และอุปกรณ์เย็บผ้า และ
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบารุงตลอดระยะเวลาสญั ญา
ระยะเวลา ตั้งแต่...ถึง...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ คนพิการมีรายไดจ้ ากการประกอบอาชีพตดั เยบ็ เสอื้ ผ้า จานวน 1 คน
มลู ค่าของสญั ญา เป็นเงิน 110,000 บาท (ค่าจักรเย็บผา้ แบบอัตโนมตั ิ จานวน 1 เครื่องราคา 70,000 บาท
ค่าผ้า เข็ม ด้ายและอุปกรณ์เย็บผ้า 30,000 บาท ค่าซ่อมบารุง 10,000 บาท)
ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่า x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีต้องรับ
(300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

2. สถานประกอบการสนับสนนุ เงินทนุ ในการประกอบอาชีพเลี้ยงไกใ่ หค้ นพิการ
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหวา่ งสถานประกอบการกับคนพิการ โดยสถานประกอบการสนับสนุน
เงนิ ทุนเพ่อื ให้คนพกิ ารประกอบอาชีพเล้ียงไก่ จานวน 1 คน
สถานทต่ี ัง้ จงั หวัดกาฬสินธุ์
รายละเอียด สถานประกอบการสนับสนุนเงินทุนให้คนพิการ โดยคนพิการแจงรายละเอียด
ค่าใชจ้ ่ายในการจัดทาโรงเรือน ค่าแม่พันธุ์ไก่ ค่าอุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้อง และค่าอาหาร
สาหรับเลี้ยงไก่ตลอดระยะเวลาของสัญญาให้สถานประกอบการเพื่อประกอบการ
ยน่ื ขอใช้สิทธิ
ระยะเวลา ตง้ั แต่...ถึง...รวมเวลา 1 ปี
ผลประโยชน์ รายไดจ้ ากการจาหนา่ ยไก่ให้ตกเป็นของคนพกิ าร จานวน 1 คน
มูลคา่ ของสญั ญา เป็นเงิน 150,000 บาท (ค่าโรงเรือนและอุปกรณ์ 50,000 บาท ค่าแม่พันธ์ุไก่
40 บาท x 1,000 ตัว = 40,000 บาท ค่าอาหารไก่ตลอดระยะเวลา 1 ปี 60,000
บาท) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกวา่ อตั ราค่าจ้างข้ันต่า x 365 วัน x จานวนคนพกิ ารที่
ตอ้ งรบั (300 บาท x 365 วนั x 1 = 109,500 บาท)

3. สถานประกอบการซื้อสนิ ค้าจากคนพกิ าร
สญั ญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับคนพิการ จานวน 1 ราย
โดยสถานประกอบการซอื้ สบู่สมุนไพรท่ีคนพิการเป็นผผู้ ลติ
สถานทตี่ ง้ั จังหวดั เชียงราย
รายละเอียด สถานประกอบการซ้ือสบู่สมุนไพรจากคนพิการ จานวน 5,000 ก้อน โดยกาหนด
จัดสง่ 5 ครั้งๆ ละ 1,000 ก้อน
ระยะเวลา ต้ังแต.่ ..ถงึ ...รวมเวลา 5 เดือน
ผลประโยชน์ กาไรจากการขายสบ่สู มนุ ไพรเปน็ ของคนพิการ จานวน 1 คน

37
37

มูลคา่ ของสญั ญา เป็นเงิน 125,000 บาท (ราคาขายสบู่สมุนไพร 80 บาท) – (ต้นทุนการผลิต 50 บาท)
 กาไรต่อชนิ้ = 25 บาท ดงั น้ัน คนพกิ ารมีกาไรจากการขายสบ่สู มุนไพรสุทธิ 25
บาท x 5,000 = 125,000 บาท ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่า
x 365 วนั x จานวนคนพิการทีต่ ้องรบั (300 บาท x 365 วัน x 1 = 109,500 บาท)

4. สถานประกอบการสนับสนนุ ปุ๋ยเคมเี พ่ือใชใ้ นการเกษตรใหผ้ ู้ดูแลคนพกิ าร
สัญญา มีการจัดทาสัญญาระหว่างสถานประกอบการกับผู้ดูแลคนพิการ จานวน 1 คน
โดยสถานประกอบการสนบั สนุนป๋ยุ เคมใี ห้ผูด้ แู ลคนพิการเพ่อื ใช้ในการเกษตร
สถานทต่ี ้งั จงั หวดั อุดรธานี
รายละเอยี ด สถานประกอบการสนับสนุนปุ๋ยเคมีเพ่ือใช้ในการเกษตรให้ผู้ดูแลคนพิการจานวน
130 กระสอบ
ระยะเวลา เป็นไปตามที่ค่สู ญั ญากาหนด
ผลประโยชน์ รายไดจ้ ากการจาหนา่ ยผลผลิตทางการเกษตรให้ตกเป็นของผู้ดูแลคนพิการ จานวน
1 คน
มลู คา่ ของสัญญา เป็นเงิน 110,500 บาท (ปุ๋ยเคมรี าคา 850 บาท x 130 กระสอบ) ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่
น้อยกวา่ อัตราคา่ จ้างขั้นตา่ x 365 วัน x จานวนคนพิการท่ีตอ้ งรับ (300 x 365 วนั
x 1 = 109,500 บาท)

38
38

การขอใช้ประโยชน์ท่ีราชพัสดุเพอ่ื คนพิการ ตามคาสง่ั กรมธนารักษ์ ท่ี 7/2561

เร่ือง หลักเกณฑ์การกาหนดค่าเช่า และค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ
กรณีองค์กรด้านคนพิการ องค์กรอื่นท่ีให้บริการแก่คนพิการท่ีได้รับรองมาตรฐานจากคณะกรรมการส่งเสริม
และพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนพกิ ารแหง่ ชาติ คนพกิ าร และผดู้ แู ลคนพกิ าร

พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา 20/2
บัญญัติว่า “ให้องค์กรด้านคนพิการหรือองค์กรอ่ืนใดที่ให้บริการแก่คนพิการที่ได้รับรองมาตราฐานจาก
คณะกรรมการตามมาตรา 6 (10) มีสิทธิดาเนินการขอใช้ที่ราชพัสดุหรือทรัพย์สินอื่นของทางราชการเพ่ือ
ประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนพิการ และอาจได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอ่ืน
ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ัน” กรมธนารักษ์จึงได้กาหนดแนวทางและวธิ ีปฏิบัติเก่ียวกับการขอใช้ประโยชน์ในที่
ราชพัสดุไว้ดังน้ี

1. กรณีองค์กรด้านคนพิการหรือองค์กรอ่ืนใดท่ีใหบ้ ริการแก่คนพิการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฯ
เช่าท่ีราชพัสดุเพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามมาตรา 20/2 (8)
แห่งพระราชบัญญัตสิ ่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ ให้กาหนดอตั รา
ค่าเช่า และค่าธรรมเนียมเก่ียวกับการจัดหาประโยชน์ในท่ีราชพัสดุ เพื่อเป็นที่ต้ังที่ทาการหรือสานักงาน
ให้เรียกเก็บเท่ากับกิจการอันเป็นสาธารณกุศลที่ไม่ได้หวังมุ่งหากาไร เว้นแต่ท่ีตั้งท่ีทาการหรือสานักงานน้ัน
ใช้เป็นศูนย์บริการคนพิการตามกฎหมายเก่ียวกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้ยกเว้นค่าเช่า
และค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจดั หาประโยชน์ในทรี่ าชพัสดุ

2. กรณีคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ซ่ึงผู้ใช้ที่ราชพัสดุประสงค์จะนาที่ราชพัสดุท่ีอยู่ในความ
ครอบครองและใชป้ ระโยชนใ์ นการจัดสถานที่จาหน่ายสินค้าหรอื บรกิ าร ทดแทนการรับคนพกิ ารเข้าทางานตาม
มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ใหย้ กเวน้ คา่ เชา่ และคา่ ธรรมเนียมเกีย่ วกับการจดั หาประโยชนใ์ นทีร่ าชพสั ดตุ ามที่กฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริม
และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพิการกาหนด
แนวทางปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั การจดั ให้เชา่ ที่ราชพัสดุ กรณีคนพิการหรอื ผู้ดูแลคนพิการ

ผู้ที่ใช้ราชพัสดุใดท่ีอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ซึ่งจะต้องรับคนพิการเข้าทางานในอัตราส่วนตามที่
กฎหมายกาหนด แต่ไม่ประสงค์จะรับคนพิการเข้าทางานทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจะนาที่ราชพัสดุที่อยู่ใน
ความครอบครองและใช้ประโยชน์ไปให้สัมปทาน หรือจัดสถานที่จาหน่ายสินค้าหรือบริการแก่คนพิการหรือ
ผู้ดูแลคนพิการ ทดแทนการรับคนพิการเข้าทางานตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน การให้สิทธิ
ดังกลา่ วจะตอ้ งดาเนินการโดยวธิ กี ารเชา่ ตามกฎหมายเกีย่ วกบั ท่ีราชพสั ดุ โดยมีหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี

(1) การพิจารณาจัดให้เช่า ผู้ใช้ท่ีราชพัสดุตามกฎหมายเก่ียวกับท่ีราชพัสดุ จะต้อง
พิจารณาจัดให้เชา่ ทรี่ าชพัสดุ ดงั น้ี

(1.1) พิจารณาจัดให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเช่าที่ราชพัสดุได้ไม่เกินจานวน
คนพิการท่ีผใู้ ชท้ รี่ าชพสั ดไุ มป่ ระสงคจ์ ะรับเขา้ ทางาน โดยหกั จากจานวนท่ไี ดใ้ ห้สทิ ธปิ ระเภทอนื่ ด้วยแล้ว (ถา้ ม)ี

(1.2) ให้ดาเนนิ การจัดให้เช่าทีร่ าชพัสดุโดยไม่ตอ้ งใชว้ ิธีการประมูล
(1.3) เปน็ การใหเ้ ชา่ ในลกั ษณะดังตอ่ ไปน้ี

1) กรณเี ปน็ การใหส้ ัมปทานการใช้ประโยชนใ์ นที่ราชพัสดุ
- การให้เชา่ ที่ดนิ ทผี่ เู้ ช่าใช้ประกอบเกษตรกรรม
- การให้เชา่ ท่ีดินเพ่อื ประโยชน์อย่างอื่น

39
39

- การใหเ้ ช่าอาคารซึง่ เป็นทรี่ าชพสั ดุ
2) กรณเี ปน็ การจดั สถานที่จาหน่ายสนิ คา้ หรือบรกิ ารในท่รี าชพสั ดุ

- การให้เชา่ ทีด่ ินเพ่ือประโยชนอ์ ยา่ งอ่นื
- การใหเ้ ชา่ อาคารซ่ึงเป็นท่รี าชพสั ดุ
(1.4) วัตถุประสงค์ในการเช่าจะต้องเป็นกิจกรรมท่ีคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการได้
ใชป้ ระโยชนท์ ร่ี าชพสั ดุในการประกอบอาชีพตามกฎหมายเก่ยี วกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร
เทา่ นั้น
(1.5) พื้นที่และจานวนเน้ือที่ท่ีจะจัดให้เช่าต้องคานึงถึงความจาเป็นและเหมาะสม
ในการประกอบอาชีพของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการท่ีจะจัดให้เช่าเท่าน้ัน ท้ังนี้ กรณีองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจ ก่อนจะให้สิทธิคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเช่าท่ีราชพัสดุจะต้องพิจารณาให้ใช้
ประโยชน์จากอาคาร สถานที่ หรือทรัพยส์ นิ ที่เปน็ กรรมสทิ ธข์ิ องตนเองก่อน
(1.6) ระยะเวลาการเช่าจะตอ้ งเกนิ 1 ปี
(1.7) การจัดให้เช่าซ่ึงเป็นการให้สัมปทานการใชป้ ระโยชน์ในท่ีราชพัสดุ จะต้องทา
ความตกลงกบั กรมธนารกั ษ์ก่อน ดงั น้ี
1) ท่รี าชพสั ดทุ ตี่ ้ังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ใหส้ ง่ เรื่องไปยังกรมธนารกั ษ์
2) ที่ราชพัสดุที่ต้ังอยู่ในจังหวดั อ่ืน ให้ส่งเร่ืองไปยังสานักงานธนารักษ์พื้นท่ี เพ่ือ
เสนอผู้ว่าราชการจังหวดั ใหค้ วามยินยอม แล้วส่งเรื่องให้กรมธนารักษ์
(1.8) ผู้ใช้ที่ราชพัสดุที่จัดให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเช่าที่ราชพัสดุ จะต้องไม่
อนญุ าตให้มีการโอนสทิ ธกิ ารเช่าหรือเชา่ ช่วงหรอื เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าแตอ่ ย่างใด
(1.9) ผู้ใช้ที่ราชพัสดุต้องดาเนินการให้เป็นไปตามข้อสัญญาโดยเคร่งครัด เม่ือผู้เช่า
ไม่ปฏิบตั ิตามข้อสญั ญาให้ดาเนนิ การใช้สิทธติ ามสญั ญาหรือบอกเลิกสัญญาแล้วแตก่ รณี โดยไม่ชักช้า

40 40

คาถาม – คาตอบ

คาถาม 1

การปฏบิ ัติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจ้างงานคนพิการมกี ว่ี ธิ ีอะไรบา้ ง

คาตอบ

การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจ้างงานคนพิการตามพระราชบัญญัติ
สง่ เสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชีวิตคนพกิ าร พ.ศ. 2550 และท่ีแก้ไขเพิ่มมี 3 วธิ ไี ดแ้ ก่

1. มาตรา 33 จ้างงานคนพกิ าร
2. มาตรา 34 ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
กรณนี ายจ้างหรอื เจา้ ของสถานประกอบการไมป่ ฏิบัตติ ามมาตรา 33 หรือ 35
3. มาตรา 35 การให้สัมปทาน จัดสถานที่จาหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้าง
เหมาชว่ งงานหรือจา้ งเหมาบรกิ ารโดยวิธกี รณีพเิ ศษ ฝึกงาน จดั ให้มอี ปุ กรณห์ รือ
สิ่งอานวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออ่ืนใดแก่คนพิการหรือ
ผูด้ ูแลคนพกิ าร

คาถาม 2

หากบริษัทไม่ได้ดาเนินการจ้างงานคนพิการ (เน่ืองจากประกาศรับสมัคร
แล้วแต่ไม่มีคนพิการมาสมัคร, ลักษณะงานของบริษัทไม่เอื้อต่อคนพิการ, ไม่
ประสงค์รับคนพิการเข้าทางาน ฯลฯ จะดาเนินการอย่างไรได้บ้าง

คาตอบ

คณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยที่ 146/2554 ว่าบทบัญญัติมาตรา 33
มาตรา 34 ให้อานาจรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงจานวนคนพิการและจานวนเงินที่
นายจ้างจะต้องนาส่งเข้ากองทุน ดังน้ันสาระสาคัญจึงสามารถกาหนดได้เพียงเรื่อง
จานวนคนพกิ ารเข้าทางานตามจานวนท่ีกาหนดจะต้องนาสง่ เขา้ กองทุนเท่านั้น โดย
ไม่สามารถกาหนดข้อยกเว้นให้นายจ้างท่ีประสงค์จะรับคนพิการเข้าทางานแต่ไม่มี
คนพิการมาสมคั รไมต่ อ้ งส่งเงินเข้ากองทนุ ไวใ้ นกฎกระทรวงนไ้ี ด้

เม่ือบริษัทไม่สามารถจ้างงานคนพิการได้ตามมาตรา 33 จึงอาจเลือกวิธี
นาส่งเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34 หรือเลือกวิธีดาเนินการให้สิทธิคนพิการตาม
มาตรา 35 แทนได้

41
41

คาถาม 3

การนับจานวนลกู จ้างของสถานประกอบการมีวิธกี ารนบั อย่างไร

คาตอบ

- การนบั จานวนลกู จา้ งจะนบั ยอด ณ วนั ที่ 1 ตุลาคมของทกุ ปี
- การนับจานวนลูกจ้างให้นับจานวนลูกจ้างของสานักงานสาขาทุกสาขา
รวมเข้ากับสานักงานใหญ่และให้สานักงานใหญ่ย่ืนรายงานผลการปฏิบัติตาม
กฎหมายเพยี งท่เี ดยี ว
- อัตราส่วนลูกจ้าง 100 คน จะต้องจ้างงานคนพิการ 1 คน โดยเศษที่เกิน
100 คนขึ้นไป หากเกิน 50 คน จะต้องจ้างงานคนพิการเพ่มิ ข้ึนอีก 1 คน เช่น บริษัทมี
จานวนลูกจ้าง 250 คน จะต้องจ้างงาน คนพิการ 2 คน แต่หากบริษัทมีจานวนลูกจ้าง
251 คน จะตอ้ งจ้างงานคนพกิ ารจานวน 3 คน เป็นต้น
- ปัจจุบันกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการใช้ฐานข้อมูลจานวน
ลูกจ้างที่สถานประกอบการนาส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นส่วนหน่ึงในการ
ตรวจสอบอตั ราสว่ นคนพิการท่ีตอ้ งจ้างดว้ ย

คาถาม 4

กรณีบริษัทรับคนพิการเข้ามาทางานแล้วเมื่อวันท่ี 1 ตุลาคม 2558 แต่ต่อมา
คนพิการลาออกในวนั ที่ 1 มกราคม 2559 บรษิ ทั สามารถนาคนพิการมาย่ืนรายงานผล
การปฏบิ ัตติ ามกฎหมายตามมาตรา 33 ไดห้ รือไม่

คาตอบ

กรณีการยื่นรายงานผลการปฏิบัติตามกฎหมายโดยวิธีการจ้างงานคนพิการ
ตามมาตรา 33 นั้น บริษัทจะต้องจ้างงานคนพิการ และคนพิการจะต้องทางานอยู่ท่ี
บริษัท ณ วันที่ยื่นรายงาน ดงั นั้น กรณีปัญหาดังกล่าวบริษัทจึงไม่สามารถนาคนพิการ
ที่ลาออกไปแล้วมานบั รวมและย่ืนรายงานได้

ทางแก้ : บรษิ ัทต้องหาคนพิการใหมใ่ หไ้ ดภ้ ายใน 45 วัน นับจากวนั ท่เี ลิกจา้ ง

42
42

คาถาม 5

ถ้าบริษัทรับคนพิการเข้าทางานจากพนักงาน 5,000 คน (ทั่วประเทศ) แต่บริษัท
มคี นพิการทางาน 5 คนถือวา่ ผิดกฎหมายหรอื ไม่

คาตอบ

ตามพระราชบญั ญตั สิ ่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร พ.ศ. 2550 และที่
แก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา 33 กาหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องรับ
คนพิการเข้าทางานตามลักษณะของงานในอัตราส่วนท่ีเหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานใน
สถานประกอบการ ท้ังน้ีตามกฎกระทรวงกาหนดจานวนคนพกิ ารฯ พ.ศ.2554 และ
ท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม กาหนดอัตราไว้ท่ีลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน
ดังน้ัน บริษัทจะต้องรับคนพิการเข้าทางานจานวน 50 คน หากมีคนพิการทางาน
แล้ว 5 คน ถือว่าไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกาหนด ดังน้ันจึงต้องรับเพ่ิมอีก 45 คน
หากไม่สามารถจ้างคนพิการได้ ให้เลือกดาเนินการตามมาตรา 35 หรือเลือกส่งเงิน
เข้ากองทุนตามมาตรา 34 ตามจานวนที่ขาดดังกล่าว (อัตราค่าแรงขั้นต่า x 365
x จานวนคนพิการทต่ี ้องรับเข้าทางาน)

คาถาม 6

กรณีบริษัทที่ทาธุรกิจ Outsource ด้านแรงงานคือจัดส่งแรงงานให้กับหน่วยงานต่าง ๆ
จานวนแรงงานเหล่านถ้ี อื เป็นลูกจา้ งของสถานประกอบการแหง่ นั้น หรือเป็นลูกจ้างของ
บริษัท Outsource

คาตอบ

กรณีพนักงานของบริษัท Outsource ไม่มีฐานะเปน็ ลูกจ้างของนายจ้างในสถาน
ประกอบการแห่งนั้น แต่พนักงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Outsource
เน่อื งจากมีสถานะเป็นนายจา้ ง-ลกู จ้าง กนั โดยตรง

43
43

คาถาม 7

กรณีบริษัทมีลูกจ้างปฏิบัติงานอยู่จังหวัดต่างๆ แต่ไม่มีการจดทะเบียนสาขานั้นๆ
การนับจานวนลูกจ้างจะนับจานวนพนักงานท่ีประจาสานักงานใหญ่ (กทม.) เท่านั้น
หรือนับจานวนลูกจ้างท้ังหมดท่ัวประเทศซ่ึงบางจังหวัดมีไม่ครบ 100 คนจะนับรวม
ดว้ ยหรือไม่

คาตอบ

แนวปฏบิ ัติการจ้างงานคนพกิ ารของกระทรวงแรงงาน เมื่อวันท่ี 22 ตุลาคม 2558
กาหนดวิธีปฏิบัติการนับจานวนผู้ปฏิบัติงานท่ีจะนามาคานวณจานวนคนพิการท่ีต้อง
รับเข้าทางาน ในกรณเี อกชน มวี ธิ ีการ ดงั น้ี

(1) ให้นับจานวนลกู จา้ งท้งั หมด
(2) หากมีหนว่ ยงานสาขาใหน้ บั จานวนลกู จา้ งทุกสาขาเข้าดว้ ยกนั
(3) ใหน้ ับทกุ วันท่ี 1 ตุลาคม ของแต่ละปี
บริษัทได้มีสาขาอ่ืนอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ และเป็นนิติบุคคลเดียวกัน จึงต้องนับ
จานวนลกู จา้ งทง้ั หมดทกุ สาขาทัว่ ประเทศรวมกัน

คาถาม 8

กรณีที่บริษัทมีลูกจ้างหลายประเภท เช่น รายเดือน รายวนั ชว่ั คราว ให้นับเป็น
ลูกจ้างทง้ั หมดของบริษทั ด้วยหรือไม่

คาตอบ

พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่
แก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา 33 กาหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการรับคนพิการ
เข้าทางาน คาว่า “ลกู จา้ ง” ไมม่ ีบทนิยามไว้ จึงต้องตีความตามบทกฎหมายที่ใกล้เคียง
(มาตรา 8 แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) ดงั นั้น คาว่า “ลูกจ้าง” จึงหมายถึง
ลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ได้แก่ ผู้ซึ่งตกลงทางานให้นายจ้าง
โดยรับค่าจ้างไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร ส่วนคาว่า “นายจ้าง” ตามกฎหมายดังกล่าว
หมายถึง ผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างเข้าทางานโดยจ่ายค่าจ้างให้ ดังนั้น หากลูกจ้างประเภท
ต่าง ๆ อยูใ่ นความหมายดังกล่าวข้างต้นยอ่ มเปน็ ลกู จ้างของนายจา้ งท้งั ส้นิ

44
44

คาถาม 9

ถ้ามีการรบั คนพกิ ารเข้ามาทางานแล้ว ยังตอ้ งใชก้ ฎหมายคมุ้ ครองแรงงาน
เหมอื นคนงานทั่วไปหรือมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานสาหรับคนพกิ าร

คาตอบ

พระราชบญั ญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541 และท่แี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ มีเจตนารมณ์
และสาระสาคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานในสถานประกอบการเป็นการท่ัวไป ซ่ึง
รวมถึงแรงงานซ่ึงเป็นคนพิการด้วย ขณะท่ีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม มีสาระสาคัญเกี่ยวกับการ
คุ้มครองสิทธิและการให้โอกาสในการมีงานทาของคนพิการ เช่น กาหนดจานวนใน
การรับคนพิการเข้าทางานท้ังในสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐตามมาตรา
33 การส่งเงนิ เข้ากองทนุ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 การให้สิทธิ
อื่นแทนการจ้างงานตามมาตรา 35 รวมท้ังมาตรการต่างๆ เพื่อให้สิทธิประโยชน์
นายจ้างหรอื สถานประกอบการทรี่ บั คนพิการเขา้ ทางานดว้ ย
เฉพาะ

คาถาม 10

ในธุรกิจบางประเภทอาจไม่เอื้ออานวยต่อการจ้างคนพิการ จะมีข้อยกเว้นไม่ต้อง
จา้ งคนพิการหรือไม่

คาตอบ

ตามพระราชบญั ญตั ิสง่ เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพกิ าร พ.ศ. 2550 และที่
แกไ้ ขเพมิ่ เติม กาหนดแนวทางการปฏบิ ัติตามกฎหมายภายในขอบเขต 3 วธิ ี ไดแ้ ก่ การจ้างงาน
คนพิการตามมาตรา 33 การให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35
หรือการส่งเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34 ท้ังนี้ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ
จงึ ไม่มเี หตทุ ีย่ กเว้นโดยไม่รับคนพิการได้

45
45

คาถาม 11

กรณีคนพิการไม่สามารถทางานได้ บริษัทสามารถจ้างผู้ดูแลคนพิการเข้าเป็น
พนักงานแทนได้หรือไม่

คาตอบ

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และท่ี
แก้ไขเพิม่ เตมิ มาตรา 33 กาหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการรับคนพกิ าร
เข้าทางานตามลักษณะของงานในสถานประกอบการน้ัน ดังนั้น ตามบทบัญญัติของ
กฎหมายในมาตราดังกล่าว จึงหมายถึงการจ้างคนพิการเท่านั้น ไม่ได้หมายความ
รวมถึงผดู้ แู ลคนพิการด้วย

คาถาม 12

การรับคนพิการเข้าทางานไดร้ ับการลดหย่อนภาษี แตก่ ารส่งเงินเข้ากองทุนแทน
การจา้ งคนพิการจะได้รบั การลดหย่อนหรอื ยกเวน้ ภาษหี รอื ไม่

คาตอบ

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพิการ พ.ศ. 2550 และที่
แก้ไขเพิม่ เตมิ มาตรา 34 วรรคสอง ไดก้ าหนดให้นายจ้างหรือเจ้าสถานประกอบการซ่ึง
รับคนพิการเข้าทางานหรือส่งเงินเข้ากองทุน ได้รับยกเว้นภาษีเป็นร้อยละของจานวน
เงินค่าจ้างท่ีจ่ายให้แก่คนพิการหรือเงินท่ีส่งเข้ากองทุนแล้วแต่กรณี ท้ังนี้ตาม ที่
กฎหมายกาหนด


Click to View FlipBook Version