หนว่ ยท่ี 3
พันธแุ์ ละลกั ษณะประจำพนั ธ์ุ
ครูคัธรยี ำ มะลิวลั ย์
แผนกวชิ ำสตั วศำสตร์ วทิ ยำลยั เกษตรและเทคโนโลยฉี ะเชงิ เทรำ
หนว่ ยที่ 3
พันธุ์และลักษณะประจำพนั ธุ์
หวั ข้อเร่อื ง
1. การสร้างสายพันธุ์สตั ว์ปีกในเชิงการคา้
2. พันธ์ุและลักษณะประจาพันธุ์ไกเ่ น้ือ
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
1. อธบิ ายการสรา้ งสายพนั ธุส์ ัตวป์ กี ในเชิงการค้าได้
2. อธิบายพนั ธ์ุและลกั ษณะประจาพันธุ์ไกเ่ น้ือได้
เนื้อหำกำรสอน
1. กำรสรำ้ งสำยพนั ธสุ์ ตั ว์ปีกในเชงิ กำรคำ้
ในปัจจุบันสัตวป์ ีกลูกผสมนับวา่ เป็นท่ีนิยมสาหรับการเล้ียงในทางการค้าเป็นอย่างมาก ท้ังสัตว์ปีก
ลูกผสม สายพันธุ์ให้เนื้อและสายพันธ์ุให้ไข่ การสร้างสายพันธ์ุสัตว์ปีกจะทาการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์
เพื่อวัตถุประสงค์ของการให้ผลผลิตเน้ือและการให้ผลผลิตไข่เป็นสาคัญ ทั้งนี้การผลิตสัตว์ปีกสายพันธุ์
ลูกผสมจะนิยมทาในไก่เน้ือ และไก่ไข่ รวมท้ังเป็ดเนื้อและเป็ดไข่ก็นิยมผลิตเป็นสายพันธ์ุลูกผสมเช่นกัน
แต่ยังคงมีการเลี้ยงเป็ดเนื้อและเป็ดไข่ทั้ง แบบพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมร่วมด้วย ดังน้ัน ในเร่ืองนี้จะขอ
กล่าวถงึ การสร้างสายพันธุไ์ กเ่ น้อื ในเชงิ การค้า
สายพันธุ์ไก่เน้ือลูกผสมในเชิงการค้า การสร้างสายพันธ์ุไก่เนื้อลูกผสมในเชิงการค้า มีวัตถุประสงค์
เพื่อผลิตสายพันธ์ุไก่ที่ให้ปริมาณเนื้อมากและมีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็ว ทั้งน้ีลักษณะของการให้เน้ือ
และการให้ไข่มีความสัมพันธ์ในเชิงผกผันกัน ทาให้การปรับปรุงพันธ์ุเพื่อสร้างสายพันธ์ุไก่ทางการค้าจึงไม่
สามารถสร้างสายพันธุ์ไก่ที่ให้ทั้งเนื้อมากและไข่ดกพร้อมกันได้ ดังน้ันในการท่ีจะผสมพันธ์ุจึงต้องคัดเลือก
สายพันธุ์ไก่เน้ือเพศเมียหรือสายแม่ และสายพันธุ์ไกเ่ น้ือเพศผู้หรือสายพ่อที่มีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างกัน
ดงั น้ี
สายแม่ เป็นสายพันธุ์ไก่ท่ีมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ให้ผลผลิตไข่ดก ขนาดตัวใหญ่ และ
มีอัตราการ ฟักออกสูง พันธ์ุไก่ที่นิยมใช้เป็นสายแม่ เช่น พันธุ์ไวท์พลีมัทรอค พันธ์ุโรดไอส์แลนด์เรด และ
พันธุ์นิวแฮมเชยี ร์ เป็นต้น
สายพ่อ เปน็ สายพันธไ์ุ กท่ ่ีมีการเจรญิ เติบโตเร็ว ประสิทธิภาพการเปลยี่ นอาหารเปน็ เนือ้ ดี ขนาดตัว
ใหญ่ มีปริมาณเนื้อสูง ในขณะท่ีให้ผลผลิตไข่ท่ีมีปริมาณน้อยและอัตราการฟักออกไม่ดี ดังนั้นจึงต้อง
นาไปใช้สาหรับการผสมขา้ มพนั ธ์ุกบั สายแมท่ ่มี ีลกั ษณะเด่นในดา้ นการให้ผลผลิตไข่สูงและอัตราการฟักออก
ที่ดกี วา่ พนั ธ์ไุ ก่ทนี่ ยิ มใชเ้ ปน็ สายพอ่ เชน่ พนั ธุ์ไลทซ์ สั เซก พนั ธคุ์ อร์นิช และพนั ธุบ์ าร์พลมี ัทรอค เปน็ ต้น
ในการสร้างสายพันธ์ุไก่เน้ือลูกผสมนั้น เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ (cross breeding) ระหว่างสาย
แม่และสายพ่อต้ังแต่ 2 สายพันธุ์ขึ้นไป โดยเริ่มจากการสร้างสายพ่อและสายแม่ที่เกิดจากการผสมพันธุ์
แบบเลือดชิด (inbreeding) อย่างน้อย 3 ช่ัวอายุ จากนั้นจึงนาลูกไก่ท่ีได้จากชั่วอายุที่ 3 ของสายพ่อท้ัง
2 สายพันธม์ุ าผสมพันธกุ์ ันเชน่ เดียวกบั สายแม่ และทาการคัดเลือกลกู ไก่เพศผู้จากสายพอ่ และลูกไก่เพศเมีย
จากสายแมม่ าเพ่ือผสมพนั ธ์ผุ ลติ เปน็ ไกล่ ูกผสม 4 สายพนั ธุ์
2. พันธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่เนอื้
มนุษย์ได้รู้จกั นาเอาสตั วป์ ีกมาเปน็ อาหารหรือผลิตผลท่ไี ด้จากสัตว์ปกี เช่น ไขม่ าเป็นอาหารมานาน
แล้วจากหลักฐานยืนยันว่าไก่ป่า (Red Jungle fowl) ได้ถูกนามาเล้ียงเป็นไก่บ้านในประเทศอินเดีย
มาตั้งแต่เม่ือประมาณ 3,200 ปีก่อนคริตศักราช และในประเทศจีนและอียิปต์เม่ือประมาณ 1,500 ปีก่อน
คริตศักราช ปัจจุบันน้ีประมาณว่ามีไก่พันธุ์ต่าง ๆ ที่มนุษย์ได้พยายามผสมพันธ์ุและ คัดเลือกสายพันธุ์ให้มี
พนั ธุต์ ่าง ๆ ออกมามากกว่า 60 สายพันธุ์
2.1 พันธไุ์ กเ่ นือ้
ไก่เป็นสัตว์ปีกที่มนุษย์เล้ียงเป็นสัตว์เลี้ยงมานานแล้ว มีการคัดเลือกพันธ์ุ ผสมพันธ์ุ และปรับปรุง
พันธุ์เพื่อให้ได้ลักษณะดีเด่นตามที่ต้องการ ซ่ึงไก่ที่เล้ียงในปัจจุบันสามารถจาแนกออกเป็นกลุ่ม (Class)
ตามถิ่นกาเนิดไดเ้ ป็น 4 กลุ่ม ไดแ้ ก่ ไก่เมดิเตอรเ์ รเนียน (Mediterranean class) ไก่เอเชีย (Asiatic class)
ไก่อังกฤษ (English class) และไก่อเมริกัน (American class) หรืออาจจะมีการจัดแบ่งกลุ่มไก่ออกตาม
วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงได้เป็น 3 พวก ได้แก่ ไก่ไข่ (Egg type ไก่เนื้อ (Meat type) และไก่ทวิประสงค์
(Dual purpose)
1) ไก่เมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean class) ไก่ในกลุ่มน้ีมีถิ่นกาเนิดแถบเมดิเตอร์เร
เนียน เป็นไก่ท่ีมขี นาดลาตัวเลก็ ที่สุด จัดอยใู่ นจาพวกไก่ไข่ ลักษณะเฉพาะของไก่ประเภทน้ีได้แก่ เปลือกไข่
สีขาว ตุ้มหูสีขาว แข้งไม่มีขน นิสัยข้ีต่ืนตกใจ ไม่มีนิสัยฟักไข่ ไก่ในกลุ่มเมดิเตอร์เรเนียนมีอยู่ด้วยกันหลาย
สายพันธ์ุ แต่ปัจจุบนั นคี้ งเหลือเพียง 3 พันธ์ุเท่านั้นที่ยังคงมีความสาคัญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ พนั ธุ์เล็กฮอร์น
(Leghorn) พันธ์ุแอนโคนา (Ancona) และพนั ธ์ุมินอร์กา (Minorca)
2) ไกเ่ อเชีย (Asiatic class) ไก่ในกลุ่มน้มี ีถิ่นกาเนิดทางเอเชีย เป็นไกท่ ่ีมีขนาดลาตัวใหญ่
มาก ทั้งนี้เพราะคนทางทางเอเชยี สว่ นใหญ่จะเลย้ี งไก่ไวบ้ รโิ ภคเน้ือมากกว่าบริโภคไข่ ลกั ษณะเฉพาะของไก่
กลุ่มนี้ได้แก่ โครงร่างใหญ่ แข้งมีขน ตุ้มหูสีแดง ไก่พันธุ์แท้ในกลุ่มเอเชียเร่ิมจะหมดความสาคัญในด้านการ
ผลิตเพื่อการค้าแล้ว ยังคงเล้ียงกันอยู่บ้างก็เป็นไปในลักษณะงานอดิเรก หรือเป็นส่วนประกอบของไร่นา
สวนผสม พนั ธ์ไุ กท่ สี่ าคัญในกลุ่มเอเชยี น้ี ได้แก่ พนั ธ์ุโคชนิ (Cochin) พันธแ์ุ ลงชาน (Langchan)
3) ไก่อังกฤษ (English class) เป็นไก่พันธ์ใุ หม่ทไี่ ด้รับการปรับปรุงพนั ธใ์ุ นประเทศอังกฤษ
ไก่ในกลุ่มนี้ที่เคยมีชื่อเสียงในการผลิตเป็นการค้า ได้แก่ ออสตราลอป (Australop) คอร์นิช (Cornish) ซัส
เซก็ (Sussex)
4) ไก่อเมริกัน (American class) เป็นไก่พันธ์ุใหม่ที่ได้รับการผสมและปรับปรุง พันธ์ุข้ึน
ในประเทศอเมริกา ไก่ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนี้ ได้แก่ โรดไอส์แลน (Rhode Island) นิวแฮมเชียร์ (New
Hamshire) พลมี ทั ร๊อค (Plymouth Rock) วายยันดอท (Wyandotte) เจอรซ์ ี่ไจแอนท์ (Jersey Giant)
2.2 ลักษณะประจำพนั ธุ์ของไก่เน้อื
ปัจจุบันพันธ์ุไก่เนื้อได้พัฒนาไปมากแล้ว ไม่เหมือนในอดีตที่นาไก่พ้ืนเมืองมาเล้ียงเป็นไก่เน้ือ
พันธ์ุไก่เนื้อที่เล้ียงในเมืองไทยแบ่งออกเป็น 2 พันธุ์ด้วยกัน คือ ไก่เน้ือพันธุ์แท้และไก่เนื้อพันธุ์ลูกผสม
นับเป็นปัจจัยที่สาคัญในการผลิตไก่เนื้อ เล้ียงไก่เน้ือจะต้องมีความรู้และความเข้าใจในลักษณะประจาพันธ์ุ
เพอ่ื ท่ีจะสามารถเลอื กพันธุ์ไกเ่ น้ือมาเลย้ี งไดอ้ ย่างเหมาะสม
ไก่กระทง (Broilers) หมายถึง ไก่ที่เลี้ยงเพ่ือบริโภคเนื้อเป็นหลักและมีอายกุ ารเล้ียงสัน้ ปัจจุบันไก่
กระทงได้ถูกปรับปรุงพันธุ์ให้มีการเจริญเติบโตเร็ว ให้เนื้อมาก อายุการเลี้ยงส้ันลง คือ สามารถนามา
บริโภคไดต้ ัง้ แต่อายุ 28-60 วัน
ไก่เน้ือ (Meat type chickens) หมายถึง ไก่ที่เลี้ยงขุนเพ่ือบริโภคเนื้อเป็นหลัก ไก่เนื้อเป็นคาที่
เรียกรวมๆ ซ่ึงจะประกอบด้วย ไก่กระทง ไก่ไข่ตัวผู้ขุน และไก่พื้นเมืองขุน ฯลฯ ดังนั้น ไก่กระทงจึง
หมายถงึ ไกเ่ นอื้ แตไ่ ก่เนอื้ มิไดห้ มายถึงไก่กระทงเสมอไป
2.2.1 ไก่เนอื้ พนั ธ์แุ ท้ (Meat type chickens)
ไก่เนื้อที่ได้รับการคัดเลือกและปรับปรงุ พันธ์ุมาอย่างต่อเนือ่ งและมีลักษณะประจาพันธุ์ท่ีคงท่ี โดย
ไก่เน้อื ในรุ่นลกู หลานจะมีลักษณะเช่นเดยี วกับร่นุ พ่อและแม่พนั ธุ์
ไกเ่ นอ้ื พันธแ์ุ ท้ทน่ี ิยมเลย้ี งในสมยั แรกของอตุ สาหกรรมการเลยี้ งไก่เน้อื ท้ังในและตา่ งประเทศ ได้แก่
พันธ์ุพลีมัทร็อคขาว (White Plymouth Rock) พันธุ์คอร์นิช (Cornish) พันธุ์ซัสเซ็ก (Sussex) และพันธุ์
นวิ แฮมเชียร์ (New Hampshire)
1) ไก่พันธุ์ไวท์พลีมัทร็อค (White Plymouth Rock) มีขนสีขาวทั้งตัว หงอนจักร
ผิวหนังมีเหลอื ง ให้ไข่เปลือกสนี ้าตาล นิยมเลย้ี งเป็นไก่เน้ือเพราะมีขนสีขาวเม่ือชาแหละแล้ว จะได้ซากไก่ท่ี
ผิวสะอาดกว่าไก่เน้ือท่ีมีขนสีอ่ืนๆ สายพันธ์ุดั้งเดิมเป็นพวกขนงอกช้าแต่ในปัจจุบันได้รับการผสมคัดเลือก
พันธุใ์ หม้ ีขนงอกเรว็ ขนาดใหญ่ เติบโตเรว็ นิยมใชเ้ ปน็ พันธ์ุเรม่ิ ตน้ ในการผสมข้ามเพื่อผลติ แม่พนั ธุไ์ ก่กระทง
ภำพท่ี 3.1 ไกพ่ นั ธ์ไุ วทพ์ ลมี ทั รอ็ ค (White Plymouth Rock)
2) ไก่พนั ธ์ุคอรน์ ชิ (Cornish) มหี งอนแบบหงอนถัว่ ไข่เปลอื กสีน้าตาลใหไ้ ขป่ ีละประมาณ
150 ฟอง ผวิ หนงั สีเหลือง ขาสน้ั ลาตวั กว้าง อกกว้าง กลา้ มเนอ้ื เตม็ จดั เปน็ พวกไกเ่ น้ือ น้าหนักเมอื่ โตเต็มที่
เพศผู้จะหนักประมาณ 4.4 กโิ ลกรัม เพศเมยี หนักประมาณ 3.3 กิโลกรัม ให้ไข่ฟองเล็ก จะเริ่มให้ไขเ่ มื่ออายุ
ประมาณ 6.5-7 เดือน เปอร์เซ็นต์การฟักออกต่า ปัจจุบันใช้เป็นพันธุ์เร่ิมต้นในโปรแกรมการผสมพันธ์ุเพื่อ
ผลติ ไก่กระทงเป็นการค้า เมื่อนาเอาไกพ่ ันธ์ุคอร์นชิ เพศผ้ผู สมกับไกพ่ ันธุ์บาร์พลีมัทร็อคเพศเมีย หรอื ไก่พนั ธุ์
นิวแฮมเชียร์หรือไก่พันธ์ุไวท์พลีมัทร็อค ไก่ลูกผสมเพศเมียที่ได้จะเป็นไก่ไข่ที่ให้ไข่ฟองใหญ่ เปอร์เซ็นต์ฟัก
ออกดี และคณุ ภาพเน้ือดีด้วย
ภำพที่ 3.2 ไก่พันธ์ุคอร์นชิ (Cornish)
3) ไก่พันธ์ุนิวแฮมเชียร์ (Newhampshire) ขนมีสีน้าตาลอ่อน ผิวหนังสี เหลือง
หงอนจักร เป็นพันธุ์ท่ีให้ไข่ดกและให้เนื้อคุณภาพดี มักนิยมใช้เป็นพันธ์ุเริ่มต้นในการผลิตไก่กระทง โดยใช้
ไก่พันธ์ุนิวแฮมเชียร์เพศเมียผสมกับไก่เพศผู้ของไก่พันธ์ุอื่น เน่ืองจากเป็นไก่พันธุ์ที่ให้ไข่ดกและมีอัตราการ
ฟักออกสงู
ภำพท่ี 3.3 ไก่พันธุ์นิวแฮมเชียร์ (Newhampshire)
4) ไก่พันธ์ุซัสเซ็ก (Sussex) เป็นไก่พันธ์ุที่นิยมเลี้ยงในประเทศอังกฤษ มีหลายสายพันธ์ุ
จัดเป็นไก่พันธ์เุ นื้อ ผิวหนังสีขาว เปลือกไข่สีน้าตาล ให้เนื้อคุณภาพดี ประชาชนในประเทศอังกฤษและบาง
ประเทศในทวีปยุโรปจะนิยมบริโภคไก่ท่ีมีผิวหนังสีขาวมากกว่าสีเหลือง ตัวผู้โตเต็มท่ีมีน้าหนัก 4 กิโลกรัม
ตวั เมยี มนี า้ หนกั เฉลีย่ 3.2 กิโลกรมั
ภำพที่ 3.4 ไกพ่ ันธ์ซุ ัสเซ็ก (Sussex)
5) ไก่พนื้ เมืองไทย (Thai native chickens) การเรียกชื่อพนั ธไุ์ ก่พน้ื เมืองของไทยมักจะเรยี กชอ่ื
ตามลักษณะสขี นและลกั ษณะเด่นเมอ่ื มองจากภายนอกเพื่อใหเ้ ขา้ ใจและจดจาได้ง่าย เช่น ไก่เหลืองหางขาว
ไกป่ ระดู่หางดา เป็นต้น
(1) ไกเ่ หลืองหำงขำว
ตวั ผู้มีรูปร่างสูง คอยาว ไหลก่ ว้าง อกเป็นเตม็ สมสว่ น จะงอยปากใหญ่ปลายงองุ้มเล็กน้อย
สีเหลือง นัยนต์ าสีเหลืองอ่อน หงอนเลก็ เปน็ หงอนถั่วหรือหงอน หินสีแดงสดใส ขนพื้นลาตัวสดี า ขน
สร้อยคอ สรอ้ ยปีก สรอ้ ยหลังและระย้าสีเหลืองสดใส ขนหางพดั มสี ีดา ขนกระรวยมีสีขาวตลอดทงั้ เสน้ ขน
ปีกท่อนในสีดาส่วนท่อนนอกมีสีขาวแซมขนสร้อยปีกสี เหมือนสร้อยหลังและสร้อยคอ เกล็ดแข้ง เกล็ดนิ้ว
และเดือยสีขาวอมเหลือง
ตัวเมยี มีลักษณะ เด่นที่สาคญั คือ ขนพื้นตัวเป็นสดี าตลอดหรือบางตวั อาจมีจุดกระขาวอยู่ 5 หยอ่ ม
หรือจุด คือ หัวหนึ่ง หัวปีกสอง ข้อขาอีกสองรวมเป็นห้าหย่อมเหมือนตัวผู้ จะงอยปาก แข้ง ปุ่มเดือย เล็บ
และเกล็ด เป็น สีขาวอมเหลืองตลอด แบบสีงาช้าง จะงอยปากมีร่องน้า ลักษณะอื่นๆ จะเหมือนกับไก่
เหลืองหางขาวตวั ผู้
(2) ไก่ประดหู่ ำงดำ
ตัวผู้มีรูปร่างหนาสมส่วน ไหล่กว้าง ลาตัวยาวล่าสัน หงอนเป็นหงอนถ่ัวหรือหงอนหิน
จะงอยปากใหญ่ ปลายงองุ้มเล็กน้อย สีน้าตาลแก่หรือสีดา ดวงตาสีเหลืองไพลแก่ เกล็ดแข้ง เกล็ดนิ้วและ
เดือยมีสีน้าตาลแก่หรือสีดาเหมือนกับสีปาก ขนพ้ืนลาตัวสีดา ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง และ
ขนระยา้ เป็นสปี ระดู่ ขนหางพดั และขนหางกระรวยสีดาสนทิ
ตัวเมีย ขนพื้นตัวสีดา ขนปีกสีดา ยาวถึงก้นเป็นปีกตอนเดียว ขนคอจะมีสีประดู่แซม
ปลายเล็กน้อย ขนสั้นละเอียด หางยาวดาสนิท จะงอยปากม่ันคง ปาก แข้ง เล็บ ปุ่มเดือยจะมีสีน้าตาล
ตาสีไพล ถา้ ประดูแ่ สมดา ปาก แข้ง เลบ็ ปุม่ เดือย สเี ขียวหยก ตาลายดา ลกั ษณะอนื่ ๆ เหมือนตัวผู้
(3) ไก่เขียวแมลงภู่
ตัวผู้มีรูปร่างเพรียวยาวสูง ลาตัวยาว จะงอยปากใหญ่ ปลาย ปากงองุ้มเล็กน้อย ปากสี
เขียวอมดา ดวงตาสีเขียวอมดา หงอนเป็นหงอนถ่ัวหรือหงอนหิน ขนพื้นลาตัวมีสีดาตลอด ขนหางพัด
ขนหางกระรวยมีสีดาสนิท ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง และขนระย้ามีสีเขียวอมดาแบบสีแมลงภู่
(เหลือบเขียว) เกล็ดแข้ง เกลด็ นิ้ว และเดือยสีเขยี วอมดาเหมือนกบั สปี าก
ตวั เมีย มีขนพื้นลาตัว ขนหาง ท้ังหมดเป็นสีดา ขนคอ ขนหลัง ปลายขนเป็นสีเขียวอมดา
เล็กน้อยตามสีตัวผู้ จะเป็นเขียวอะไรก็ให้สังเกตท่ีปลายขนสร้อยคอจะออกสีเขียวเล็กน้อย ปาก แข้ง เล็บ
เดือย ตา สีเขียวอมดา ยกเว้น ไก่เขียวนิลสาริกา และเขียวแมลงทับ ปาก แข้ง เล็บ เดือย จะมีสีขาว
ตาสขี าวปลาหมอตาย
(4) ไก่ประดู่แสมดำ
ตัวผู้มีรูปร่างเพรียวยาวสูง ลาตัวยาว จะงอยปากใหญ่ ปลายปากงองุ้มเล็กน้อยสีดาสนิท
นัยน์ตาสีดาคล้า หงอนเป็นหงอนถ่ัวหรือหงอนหิน ขนพ้ืนลาตัวมีสีดาตลอด ขนหางพัด ขนหางกระรวยมีสี
ดาสนิท ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลัง และขนระย้ามีสีประดู่ดา (สีน้าตาลเงาเข้ม) เกล็ดแข้ง เกล็ดนิ้ว
และเดือยสเี ขียวอมดาเหมอื นกบั สีปาก
(5) ไกป่ ระดูแ่ ดง
ตัวผู้มีรูปร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้าง หลังยาว ปีกใหญ่และยาว มีสีอ่อนกว่าประดู่เม็ดมะขาม
ไหม้ ปลายจะงอยปากงองุ้มเล็กน้อยสีขาวอมเหลือง นัยน์สีขาวอมเหลือง หงอนเป็นแบบหงอนถ่ัวหรือ
หงอนหนิ ขนพื้น สร้อย ปีก หาง มีลักษณะใกลเ้ คียงกบั ไก่นกกรดหางดา แต่ต่างกันที่ไก่นกกรดหางดามีปาก
แข้ง เดือย เลบ็ มีสขี าว เกล็ดนิว้ เกลด็ แข้งและเดอื ย สีขาวอม เหลือง เหมือนกบั กับสปี าก
(6) ไก่เขียวเลำหำงขำว เป็นไก่ทรงปลีกล้วย ไหล่หนาใหญ่ ลาตัวกลมยาว ปลายปากงองุ้ม
เล็กน้อย ปากสีขาวอมเหลือง หรือขาวงาช้าง นัยน์ตาสีขาวอมเหลือง หงอนเป็นหงอนถั่ว หรือหงอนหิน
สีแดงสดใส
ตัวผู้มีขนพื้นพ้ืนตัวสีดาและขนปีกสีดา ขนหางกระรวยคู่กลางสีขาว ส่วนขนหางคู่อ่ืนๆ สี
ขาวปลายดา ขนสร้อยคอ สร้อยปกี และสรอ้ ยหลังมสี เี ขยี วเลา คอื บรเิ วณโคนขนสรอ้ ยมีสขี าว ส่วนปลายมี
สีเขียวบางชนิดปลายขนสร้อยมีขลิบสีทองหรือมีขนขาวขึ้นแซม หรือปลาย ขนสร้อยมีจุด เกล็ดนิ้ว เกล็ด
แข้งและเดอื ย สีขาวอมเหลอื งเหมอื นกบั กบั สปี าก
ตัวเมียมีลักษณะเด่นประจาพันธ์ุที่สาคัญ ได้แก่ ขนพ้ืนตัวสีดา ขนปีกสีดายาวถึงก้นเป็น
ปีกตอนเดยี ว ขนคอจะสน้ั ละเอียด หางยาวดาสนทิ ปาก แขง้ และเล็บ มีสีน้าตาลอมเหลือง
(7) ไก่นกแดง เป็นไก่ทรงปลีกล้วย ลาตัวกลม ไหล่หนา และใหญ่ จะงอยปาก ใหญ่สี
เหลืองอมแดง ขอบตา 2 ชั้น ดวงตาแจม่ ใสสแี ดง หงอนเปน็ แบบหงอนถ่วั หรอื หงอนหิน 3 แฉก
ตวั ผู้มีขนพ้ืนลาตัว หน้าคอ หน้าท้อง ใต้ปีกสแี ดงตลอด ขนสร้อยคอ สร้อยปีก และสร้อย
หลังมี ก้านขนสีแดง ขนหางพัดและขนหางกระรวย มีก้านขนสีแดง เกล็ดแข้ง เกลด็ นิ้วและเดือยมีสีเหลือง
อมแดง
ตัวเมียมีขนบริเวณลาตัวมีสีแดงเหมือนตัวผู้เพียงแต่สีไม่แดงเข้มเท่า ปาก แข้ง เล็บ
มีสีเหลืองอมแดงเหมอื นตวั ผู้
(8) ไก่ขำวหรือไก่ชี เป็นไก่ขนสีขาวปลอดทั้งตัว เข้าใจว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ จากไก่
พ้ืนเมืองไทยเลาหางขาว เมื่อนาพ่อพันธุ์ขนสีขาวผสมกับแม่พันธุ์ขนสีขาว ลูกท่ีได้ขนสีขาวสวยงาม จะงอย
ปากใหญ่ปลายงองุ้มเล็กน้อย สีขาวอมเหลือง นัยน์ตาสีดารอบตาสีเหลือง หงอนเป็นแบบหงอนถั่วหรือ
หงอนหิน สีแดงสดใส ขนพื้นลาตัว ขนสร้อยคอ สร้อยปีก และสร้อยหลัง ขนหาง พัดและขนหางกระรวยสี
ขาวปลอด เกลด็ นว้ิ เกล็ดแข้ง และเดือยมสี ีขาวอมเหลอื งรับกบั สีปาก
(9) ไกข่ ำวเผือกหรือขำวมกุ เป็นไกส่ ูงใหญ่ ไหล่กว้าง อกกวา้ ง บั้นทา้ ยกวา้ ง หางยาวสง่า
งาม ปีกใหญ่ยาวถึงก้น สีขาวอมเหลือง จะงอยปากใหญ่ ปลายงองุ้มเล็กน้อย มีร่องปาก สีขาวอมเหลือง
นยั น์ตาสีดารอบตาสีเหลืองอ่อน หงอนเป็นแบบหงอนถั่วหรือหงอนหิน สีแดงสด ขนพื้นลาตัว ขนสร้อยคอ
สร้อย ปีก และสร้อยหลัง ขนหางพัดและขนหางกะรวยสีขาวอมเหลือง เกล็ด น้ิว เกล็ดแข้ง และเดือยมีสี
ขาวอมเหลือง
(10) ไก่เบญจรงค์ เป็นไก่สูงใหญส่ งา่ งาม ไหล่กว้าง อกกว้าง จะงอยปากใหญ่ ปลายปาก
งมุ้ เล็กน้อยมสี ีขาวอมเหลือง หงอนเล็กเป็นแบบหงอนถัว่ หรอื หงอนหิน สีแดงสด นัยนต์ าสีดา ตารอบนอกสี
เหลือง ขนพ้ืนลาตวั ลายตลอด อาจเป็นลายขาว ดา เหลือง แดง เขียว ขนปีก ขน หางพดั ลายเหมือนขนพ้ืน
ตวั ขนหางกระรวยสีขาวปลอด ขนสร้อยคอ สร้อยปีก สร้อยหลงั มีสแี ดง สลับขาว เกล็ดนว้ิ เกล็ดแข้ง และ
เดอื ยสีขาวอมเหลอื งเชน่ เดียวกบั ปาก
(11) ไก่ฟ้ำหลวง เป็นไก่พื้นเมืองในท้องถิ่นท่ีชาวเขาในเขตอาเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัด
เชียงราย เลี้ยงกันในหมู่บ้านต่างๆ ในเขตที่สูง ตัวผู้มีรูปร่างอ้วน ทรงส่ีเหล่ียม จะงอยปากสั้น แข็งแรง
มีสดี า หงอนจกั ร หงอนและต้มุ หสู แี ดงคลา้ เกอื บดา นัยน์ตาสดี า
ตัวผู้มีขนพื้นลาตัวเป็นสีดา มีขนสร้อยคอ สร้อยหลัง สร้อยปีก และขนระย้าสี เหลืองเข้ม
หรือนา้ ตาลแดง ขนปกคลุมลาตัวและหางมสี ดี าสนิท ผวิ หนังมสี ดี า แขง้ น้ิวและเล็บสีดา
ตัวเมียมีขนพ้ืนลาตัวและขนหางเป็นสีดา มีขนสร้อยคอสีเหลืองเข้มหรือน้าตาลแดง
หงอนจกั ร หงอน ขอบตา ต้มุ หูสแี ดงออกดา ปาก แขง้ นวิ้ และเล็บสีดา ผวิ หนงั มสี ีดา
(12) ไก่ช้ีฟ้ำ เป็นไก่พันธ์ุพ้ืนเมืองในท้องถิ่นท่ีชาวไทยภูเขาในเขต อาเภอแม่ฟ้าหลวง
อาเภอเมอื ง อาเภอเวียงแก่น จงั หวดั เชยี งราย เล้ียงกนั ในหมูบ่ ้านต่างๆ ในเขตทีส่ ูง
ตัวผมู้ รี ปู รา่ งอ้วนทรงส่ีเหลย่ี มเป็นลกั ษณะของไก่เนื้อ จะงอยปากสน้ั แขง็ แรงสดี า หงอน
จกั ร หงอนและตุ้มหูสแี ดงอมดา นยั นต์ าสีดา ขนพ้ืนลาตัวสีดาอมเทา ขนบริเวณหน้าอกมีขอบสีเหลอื งอ่อน
มีขนสร้อยคอ สร้อยหลัง สร้อยปีก และขนระย้าสีเหลืองออ่ น ขนหางพัดและขนหางกระรวยมีสดี า ผวิ หนัง
และเนื้อมสี ดี า แข้ง นวิ้ และเลบ็ สีดา
ตัวเมียมีขนพื้นลาตัว และขนหางสีดา มีขนสร้อยคอสี เหลืองอ่อน หงอนจักร หงอน ขอบตา หู
และเหนียงสแี ดงอมดา ปาก แขง้ นวิ้ และเลบ็ สีดา ผวิ หนงั และเนอ้ื มีสดี า
(13) ไก่คอล่อน เปน็ ไก่พ้ืนเมืองทางภาคใต้ พบเล้ียงกันมากใน 3 จังหวดั ชายแดน ภาคใต้
คอื ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เน้ือมีรสชาตอิ ร่อย ไก่คอล่อนพทั ลุง เปน็ ไก่ลกู ผสมระหวา่ งไก่คอล่อนของ
ฝรั่งเศสกับไก่ชนของจังหวัดพัทลุง ไก่คอล่อนของฝร่ังเศสเป็นไก่คอล่อนที่นามาเลี้ยงในอินโดจีน และเมื่อ
สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ทหารญ่ีปนุ่ ได้นาเข้ามาในประเทศไทยเป็นอาหารของทหารทาใหไ้ ก่คอลอ่ นแพร่หลาย
ในพื้นท่ีจังหวัดพัทลงุ เป็นไก่ท่ีมีลาตัวใหญ่ ไหล่กว้าง ลาตัวยาวล่าสัน จะงอยปากใหญ่สีเหลือง ปลายงองุ้ม
เล็กน้อย หงอนเป็นแบบหงอนจักรสีแดงสดใส ขนลาตัวสีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองทองท้ังเพศผู้และเพศเมีย
บริเวณกระเพาะพกั จนถงึ หวั ไมม่ ีขน จึงเรียกวา่ “คอลอ่ น” เกล็ดแขง้ นว้ิ เท้าและเดือย สีเหลือง
2.2.2 ไก่เนอ้ื ลูกผสม (Hybrid chicken) คือ ไก่เนือ้ ที่ไดร้ บั การปรบั ปรงุ พนั ธ์ใุ ห้มปี ระสิทธภิ าพการ
ผลิตท่ีสูงข้ึนมากกว่ารุ่นพ่อแมพ่ ันธ์ุ ไก่เนื้อลูกผสมเกิดจากการนาเอาไก่เน้ือรุ่นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์แทต้ ั้งแต่
สองพนั ธ์ุมาผสมร่วมกนั ซง่ึ ลกั ษณะท่แี สดงออกของพันธุกรรมท่ีไดใ้ นรนุ่ ลกู นี้ อาจจะมลี ักษณะท่เี หมือนหรือ
แตกต่างจากรุ่นพ่อแม่พันธ์ุได้ แต่โดยปกติรุ่นลูกผสมท่ีเกิดขึ้นจะได้ลักษณะที่ดีจากพ่อและแม่พันธุ์รวมกัน
รวมทง้ั มีลักษณะทีแ่ ตกต่างโดด เด่นกว่าร่นุ พ่อแมพ่ ันธ์ุ ลักษณะดังกลา่ วนี้ เรียกวา่ Hybrid vigor
ปั จ จุ บั น ไ ก่ เ นื้ อ ที่
เล้ียงเพื่อการค้าในประเทศไทยเป็นไก่เนื้อลูกผสมท้ังหมด ไก่เนื้อลูกผสมท่ีมีขาย มีช่ือทางการค้า
มากมายขึ้นกับบริษัทผู้ผลิตไก่แต่ละพันธ์ุ เช่น พันธุ์อาร์เบอร์เอเคอร์ (Arbor Acres) พันธุ์รอส
(Ross) พันธค์ุ อบบ์ (Cobb) และพันธ์ุฮับบารด์ (Hubbard) เป็นต้น
ภำพที่ 3.5 ไก่เนื้อลูกผสมพันธร์ุ อส (Ross) ภำพท่ี 3.6 ไก่เน้ือลกู ผสมพนั ธ์คุ อบบ์ (Cobb)