The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการเรียนการแสดงโขนสำหรับเผยแพร่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จักรภัทร ศิลากิจ, 2024-01-12 11:39:11

เอกสารประกอบการเรียนการแสดงโขนสำหรับเผยแพร่

เอกสารประกอบการเรียนการแสดงโขนสำหรับเผยแพร่

เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ (ศ32104) เรื่อง การแสดงโขน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นายจักรภัทร ศิลากิจ 6411120008 สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2566


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน ก คำนำ เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง การแสดงโขน ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อ ประกอบการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มาของการแสดโขน องค์ปรกอบของการแสดงโขน การเปลี่ยนแปลงของวิวัฒนาการของการแสดงโขน การสื่อสารหรือการชมโขน และเห็นคุณค่าทางด้าน นาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และภูมิปัญญาไทยและสากล ตลอดจนถึงผู้ที่สนใจ ใน การเรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงโขน สำหรับการใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สาระสำคัญในเล่ม เนื้อหาสาระในเอกสารการเรียนรู้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการแสดงโขน ประกอบด้วย เนื้อหาประจำบทมีรายละเอียดดังนี้ การแสดงโขน วิวัฒนาการของการแสดงโขน องค์ประกอบของการแสดง โขน ตัวแสดง การแต่งกาย เครื่องดนตรีประกอบการแสดงโขน การพากย์การเจรจา เพลงประกอบการแสดง โขน โอกาสที่แสดงโขน จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน คำถามทบทวน/ แบบฝึกหัด แบบทดสอบหลังเรียน บรรณานุกรม ภาคผนวก ตามรูปแบบของเอกสารประกอบการเรียนที่มี คุณภาพ ขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรวัฒน์ ช่างสาน อาจารย์ประจำวิชาการพัฒนาวิจัยและ นวัตกรรมทางการศึกษา ที่ชี้แนะการพัฒนาเอกสารจนสมบูรณ์เป็นสื่อที่ดีมีประโยชน์ ที่เป็นกำลังใจในการ พัฒนาสร้างผลสัมฤทธิ์ที่ดีของงานเอกสารครั้งนี้ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ นายจักรภัทร ศิลากิจ 17 / พฤศจิกายน / 2566


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน ข สารบัญ หน้า คำนำ .............................................................................................................................. ก สารบัญ ..................................................................................................................... ..... ข สารบัญภาพ ....................................................................................................... ............. ค คำชี้แจงสำหรับครู............................................................................................................ ง คำชี้แจงสำหรับนักเรียน................................................................................................... จ มาตรฐานที่ ศ 3.2 ......................................................................................................... 1 ตัวชี้วัด ............................................................................................................................ 1 เนื้อหาประจำบท............................................................................................................. . 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ..................................................................................................... 2 วิธีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน............................................................................ 2 สื่อการจัดการเรียนรู้............... ....................................................................................... 2 การวัดผลและประเมินผล ............................................................................................. 2 กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน........................................................................... 4 แบบทดสอบก่อนเรียน..................... ............................................................................... 5 การแสดงโขน................................................................................................................... 8 วิวัฒนาการของการแสดงโขน.......................................................................................... 10 องค์ประกอบของการแสดงโขน……………………………………………………………………………. 13 วงดนตรีประกอบการแสดงโขน………………………………………………………………………. 17 เพลงประกอบการแสดงโขน........................................................................................... 19 การพากย์การเจรจา....................................................................................................... 20 โอกาสที่แสดงโขน…………………………………………………………………………………………….. 23 หลักกาชมกาแสดงโขน................................................................................................... 23 สรุป…………………………………………………………………………………………………………………. 25 คำถามทบทวน/แบบฝึกหัด ........................................................................................... 26 แบบทดสอบหลังเรียน ................................................................................................... 31 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน........................................................................... 34 บรรณานุกรม ................................................................................................................. 35 ภาคผนวก....................................................................................................................... 37


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน ค สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า ภาพที่ 1 การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์.......................................................................... 9 ภาพที่ 2 การเชิดหนังใหญ่..............................……………………………………………………. 9 ภาพที่ 3 การเล่นกระบี่กระบอง.................................................................................. 10 ภาพที่ 4 การแสดงโขนกลางแปลง.............................................................................. 10 ภาพที่ 5 การแสดงโขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว........................................................... 11 ภาพที่ 6 การแสดงโขนหน้าจอ................................................................................... 11 ภาพที่ 7 การแสดงโขนโรงใน..................................................................................... 12 ภาพที่ 8 การแสดงโขนฉาก........................................................................................ 12 ภาพที่ 9 ตัวพระ......................................................................................................... 13 ภาพที่ 10 ตัวนาง......................................................................................................... 14 ภาพที่ 11 ตัวยักษ์........................................................................................................ 14 ภาพที่ 12 ตัวลิง......................................................................................................... . 15 ภาพที่ 13 การแต่งกายตัวพระ.................................................................................... 15 ภาพที่ 14 การแต่งกายตัวนาง.................................................................................... 16 ภาพที่ 15 การแต่งกายตัวยักษ์................................................................................... 16 ภาพที่ 16 การแต่งกายตัวลิง...................................................................................... 17 ภาพที่ 17 วงดนตรีปี่พาทย์........................................................................................ 18 ภาพที่ 18 วงดนตรีปี่พาทย์เครื่องคู่............................................................................ 18 ภาพที่ 19 วงดนตรีปี่พาทย์เครื่องใหญ่....................................................................... 19


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน ง คำชี้แจง การใช้เอกสารประกอบการเรียนสำหรับครู การใช้เอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ กรณีที่ครูผู้สอนประจำวิชาไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติการ สอนได้ ในชั่วโมงนั้น ๆ และเพื่อให้ครูที่สอนแทนมีความมั่นใจในการสอน และใช้นวัตกรรมได้อย่างมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควรปฏิบัติตามขั้นตอนการใช้เอกสารประกอบการเรียน ดังนี้ 1. ศึกษาเอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ และทำความเข้าใจเนื้อหาสาระตั้งแต่ต้นจนจบเล่มก่อน ล่วงหน้า 2. ศึกษามาตรฐาน ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ ให้เข้าใจก่อนปฏิบัติการสอน 3. อ่านคำชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการเรียน สำหรับนักเรียนทุกข้อ และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ในแต่ละข้อ เพื่อปฏิบัติการสอนได้ตามขั้นตอน 4. ครูควรดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ในขณะที่นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน และทำ กิจกรรมท้ายหน่วย เพื่อคอยให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา 5. ควรกำกับ ติดตามการใช้เอกสารประกอบเรียน เป็นระยะๆ และคอยกำชับปลูกฝังคุณธรรมเรื่อง ความซื่อสัตย์ และการตรงต่อเวลาของนักเรียน ในขณะที่ทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนและ คำถาม ทบทวน / แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ของแต่ละเรื่อง โดยไม่อนุญาตให้เปิดดูเฉลยก่อน


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน จ คำชี้แจง การใช้เอกสารประกอบการเรียนสำหรับนักเรียน การใช้เอกสารประกอบการเรียนสำหรับนักเรียนเล่มนี้ เพื่อให้การใช้เอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ ได้ผลตามจุดประสงค์และเจตนารมณ์ของครูผู้สอน ให้นักเรียนทำความเข้าใจโดยอ่านคำชี้แจง และปฏิบัติตาม ข้อกำหนดข้างล่างนี้อย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. ให้นักเรียนใช้เอกสารประกอบการเรียน 1 เล่ม ต่อนักเรียน 1 คน 2. นักเรียนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง โดยไม่เปิดดูเฉลยก่อนและตรงต่อเวลา 3. นักเรียนต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของคำสั่งอย่างเคร่งครัด และตั้งใจจริง 4. ห้ามมิให้ขีดเขียน หรือทำเครื่องหมายใด ๆ ลงในเอกสารประกอบการเรียน 5. ให้นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนตามที่ครูกำหนดทีละเรื่องและกิจกรรมท้ายเล่ม ควบคู่ กันไปตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยใช้สมุดของนักเรียน หรือกระดาษที่ครูแจกให้ 6. ก่อนลงมือศึกษาเอกสารประกอบการเรียน ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน จำนวน 10 ข้อและทำแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ 7. เมื่อศึกษาเอกสารประกอบการเรียน ต้องทำแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ เมื่อเรียนจบตรวจสอบ ว่ามีความรู้ผ่านจุดประสงค์ทุกข้อหรือไม่ 8. หากนักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์ใด ให้กลับไปศึกษาเรื่องนั้น ๆ อีกครั้งหนึ่ง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 1 มาตรฐาน มาตรฐาน ศ 3.2 เข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า ทางด้านนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และภูมิปัญญาไทยและสากล ตัวชี้วัด บรรยายวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ม. 3/3 เนื้อหาประจำบท 1. การแสดงโขน 1.1 โขนมาจากชักนาคดึกดำบรรพ์ในพิธีอินทราภิเษก 1.2 โขนมาจากการแสดงหนังใหญ่ 1.3 โขนมาจากการแสดงกระบี่กระบอง 2. วิวัฒนาการของการแสดงโขน 2.1 โขนกลางแปลง 2.2 โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว 2.3 โขนหน้าจอ 2.4 โขนโรงใน 2.5 โขนฉาก 3. องค์ประกอบของการแสดงโขน 3.1 ตัวแสดง 3.2 การแต่งกาย 3.3 เครื่องดนตรีประกอบการแสดงโขน 3.4 การพากย์การเจรจา 3.5 เพลงประกอบการแสดงโขน 3.6 โอกาสที่แสดงโขน 4. หลักการชมการแสดงโขน 41. เข้าใจบทบาทของผู้แสดง 4.2 เข้าใจการแต่งกายของผู้แสดง 43. เข้าใจเนื้อร้องที่ใช้ในการแสดง 4.4 เข้าใจดนตรีที่ใช้บรรเลงในการแสดง 4.5 เข้าใจฉาก แสง สี เสียง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายและที่มาของการแสดงโขนได้ได้ถูกต้อง 2. นักเรียนสามารถแจกแจงการเปลี่ยนแปลงของวิวัฒนาการของการแสดงโขนได้ถูกต้อง 3. นักเรียนมีความรู้เข้าใจความสัมพันธ์ขององค์ปรกอบของการแสดงโขนได้ถูกต้อง 4. นักเรียนสามารถวิจารณ์การแสดงโขนผ่านการวิเคราะห์การชมการแสดงโขนได้ถูกต้อง 5. นักเรียนเห็นคุณค่าทางด้านนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และภูมิปัญญา ไทยและสากล วิธีสอนและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 1. วิธีสอน ใช้วิธีสอนแบบบรรยายเนื้อหา การศึกษาด้วยตนเอง การทำแบบทดสอบ ก่อนเรียน/หลัง เรียน และการทำแบบฝึกหัดท้ายบท 2. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ปฏิบัติกิจกรรมตามคู่มือการใช้นวัตกรรม สื่อการจัดการเรียนรู้ สื่อวีดิทัศน์ สื่อคาราโอเกะ การวัด และประเมินผล 1. วิธีการวัดผล 1.1 ตรวจงานแบบฝึกหัดท้ายบท 1.2 ตรวจงานที่มอบหมายเพิ่มเติม 1.3 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 1.4 สังเกตพฤติกรรม 2. เครื่องมือวัดผล 2.1 คำถามทบทวน / แบบฝึกหัด 2.2 แบบตรวจสอบงานเพิ่มเติม 2.3 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 2.4 แบบสังเกตพฤติกรรม


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 3 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 แบบฝึกหัด คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 80 คะแนน 3.2 แบบทดสอบ คะแนนอย่างน้อยร้อยละ 80 คะแนน 3.3 การปฏิบัติท่ารำ รวมคะแนนเฉลี่ยอย่างน้อยร้อยละ 80 คะแนน 3.4 สังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีคุณภาพเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าระดับ 3 3.5 สังเกตพฤติกรรมสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มีคุณภาพเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าระดับ 3


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 4 ชื่อ.................................สกุล....................................ชั้น.................เลขที่............... ข้อที่ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 5 แบบทดสอบก่อนเรียน คำชี้แจง 1. ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท (×) ลงในช่องว่างที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด 2. แบบทดสอบนี้มีจำนวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน 3. ให้เวลาทำแบบทดสอบก่อนเรียน 10 นาที 1. คำตอบใดตรงกับความหมายของโขนมากที่สุด ก. การแสดงมหรสพของไทย ข. การแสดงมหรสพประเภทประณีตศิลป์ ค. การแสดงมหรสพที่มีนักแสดงไม่ใช่มนุษย์ ง. การแสดงมหรสพหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์ 2. จากความหมายของโขนนักเรียนคิดว่าเป็นการแสดงที่เหมาะกับงานชนิดใด ก. งานศพของคนที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ข. งานทอดผ้าป่าสามัคคีที่ชาวบ้านไปร่วมงานเยอะ ๆ ค. งานทอดกฐินของหลวงที่มีพระมหากษัตริย์ไปร่วมงาน ง. งานบวชนาคลูกแก้วของคนภาคเหนือ 3. ตัวเลือกใดไม่ใช่ที่มาของโขน ก. การชักนาคดึกดำบรรพ์ ข. การแสดงหนังตะลุง ค. การแสดงหนังใหญ่ ง. การเล่นกระบี่กระบอง 4. โขนใช้วิธีการต่อสู้กันระหว่างตัวแสดงเข้าใจว่าเอามาจากการละเล่นชนิดใด ก. การชักนาคดึกดำบรรพ์ ข. การแสดงละครใน ค. การแสดงละครพันทาง ง. การเล่นกระบี่กระบอง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 6 5. ศิลปะการพากย์การเจรจาของโขนมาจากการแสดงของไทยชนิดใด ก. หนังตะลุง ข. หนังใหญ่ ค. รำวง ง. ลิเก 6. คำตอบใดตรงกับลักษณะของ“โขนนั่งราว” มากที่สุด ก. โขนโบราณที่เกิดขึ้นราว ๆ กรุงศรีอยุธยา ข. โขนที่มีการเอาราวมาให้นักแสดงเกาะขึ้นเวที ค. ที่กลางเวทีมีราวไม้พาดไว้สำหรับให้นักแสดงนั่ง ง. เป็นโขนที่กำกับจำนวนผู้แสดงไว้ราว ๆ 5 ตัว 6. วงดนตรีโขนนิยมใช้วงดนตรีใดมากที่สุด ก. วงชาตรี ข. วงเครื่องสาย ค. วงปี่พาทย์ ง. วงมโหรี 7. อยากรู้ว่านักแสดงตัวนี้เป็นใคร มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นอย่างไรควรดูจากตัวเลือกใด ก. การแต่งหน้า ข. เครื่องแต่งกาย ค. ท่ารำ ง. ลำดับการนั่งบนเวที 8. “พระราม” กำลังจะเปิดตัวนั่งอยู่กลางเหล่าเสนา อำมาตย์ลิงควรใช้พากย์ใด ก. พากย์เมือง ข. พากย์รถ ค. พากย์โอ้ ง. พากย์ชมดง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 7 9. ถ้าพระรามเป็น“พระเอก”ของเรื่องรามเกียรติ์ในการแสดงโขน“นางเอก”ควรเป็นใคร ก. นางมณโฑ ข. นางมณฑา ค. นางสีดา ง. นางสำมักขา 10. ถ้าพระรามเป็นตัวแทนของฝ่ายธรรมทศกัณฐ์น่าจะเป็นตัวแทนของฝ่ายใด ก. ฝ่ายอสูร ข. ฝ่ายยักษ์ ค. ฝ่ายอธรรม ง. ฝ่ายพระญาติ


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 8 การแสดงโขน โขน เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย การแสดงประเภท หนึ่งที่ใช้ท่ารำตามแบบละครใน แตกต่างเพียงท่ารำที่มีการเพิ่มตัวแสดง เปลี่ยนทำนองเพลงที่ใช้ในการดำเนิน เรื่องไม่เหมือนกับละคร แสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับก่อนหลังเหมือนละครทุกประการ ซึ่งโขนเป็นการแสดง นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยที่มีเอกลักษณ์ การศึกษาการแสดงโขนเพื่อความเข้าใจ ควรตรวจสอบ เรื่องความหมาย ที่มาของการแสดงโขน วิวัฒนาการของการแสดงโขน องค์ประกอบของการแสดงโขน หลักการช มโขน มีดัง รายละเอียดต่อไปนี้ ความหมาย โขน เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย การแสดงประเภท หนึ่งที่ใช้ท่ารำตามแบบละครใน แตกต่างเพียงท่ารำที่มีการเพิ่มตัวแสดง เปลี่ยนทำนองเพลงที่ใช้ในการดำเนิน เรื่องไม่ให้เหมือนกับละคร แสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับก่อนหลังเหมือนละครทุกประการ ซึ่งไม่เรียกการแสดง เหล่านี้ว่าละครแต่เรียกว่าโขนแทน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐานจดหมายเหตุ ลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการกล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็น การเต้นออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ตนเองและถืออาวุธ (ราชบัณฑิตยสภา , 2545) ได้กล่าวไว้ว่า โขนเป็นการเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละครรํา มักเล่น เรื่องรามเกียรติ์ โดยผู้แสดงสวมหัวจําลองต่าง ๆ ที่เรียกว่า หัวโขน ดังนั้น โขน จึงเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยที่มาตั้งแต่โบราณ จัดว่าเป็นมหรสพหลวง และเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย ซึ่งยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่มาของการแสดงโขน ที่มาของการแสดงโขน มาจากการแสดง 3 ประเภท ของไทย คือ การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ การ แสดงหนังใหญ่ และการเล่นกระบี่กระบอง ดังนี้ 1. โขนมาจากชักนาคดึกดำบรรพ์ในพิธีอินทราภิเษก การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ได้กล่าวไว้ในกฎมณเฑียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนพระราชพิธี อินทราภิเษกว่า ให้ตั้งภูเขาพระสุเมรุและภูเขาอื่นๆกลางสนามและใช้ตำรวจเล็กแต่งตัวเป็นอสูร มหาดเล็ก แต่งตัวเป็นเทวดา วานรอย่างละร้อยและแต่งสุครีพ พาลี มหาชมพูอีกอย่างละตัวเข้าขบวนแห่ทำพิธีชักนาค โดยให้อสูรชักข้างหัวเทวดาและวานรชักหาง พร้อมด้วยพิธีต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้โขนจึงได้เอากระบวนการแต่งตัว มาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 9 ภาพที่ 1 การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์, (2562 : ออนไลน์) 2. โขนมาจากการแสดงหนังใหญ่ การแสดงหนังใหญ่จะประกอบไปด้วยการเชิดหนัง ซึ่งจะต้องเต้นไปตามจังหวะดนตรี ปี่พาทย์ที่บรรเลงประกอบและยังต้องมีคนพากย์และเจรจาด้วย ซึ่งการแสดงโขนนั้นจะต้องมีการพากย์การ เจรจา การขับร้อง การเต้นและรำ ทำท่าตามบทพากย์และตามเพลงหน้าพาทย์ จึงเห็นได้ว่า การแสดงโขนรับ ไปจากการแสดงหนังใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ 2.1 ท่าทางของการเล่นโขน มีวิวัฒนาการมาจากท่าเต้นของคนเชิดหนัง 2.2 คำพากย์และเจรจาของหนังใหญ่มีลักษณะเดียวกับที่โขนใช้อยู่ 2.3 หน้าพาทย์เพลงดนตรีต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการเล่นหนังใหญ่ได้ถูกนำมาใช้ในการเล่นโขน 2.4 โกร่งเป็นเครื่องดนตรีสำคัญที่ใช้กับการแสดงหนังใหญ่ก็นำมาใช้กับการแสดงโขน 2.5 การแสดงโขนหน้าจอก็มีลักษณะแบบเดียวกับจอของการแสดงหนังใหญ่ ภาพที่ 2 การเชิดหนังใหญ่ ที่มา : สถาบันไทยศึกษา จุฬา, (2562, ออนไลน์)


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 10 3. โขนมาจากการแสดงกระบี่กระบอง เนื่องจากการแสดงโขนเน้นศิลปะการต่อสู้ฉะนั้นลีลาการต่อสู้ของคนสมัยก่อนในเชิง กระบี่ กระบอง พลองและอื่น ๆ จึงได้รับการปรับปรุงและนำมารวมไว้ในการแสดงโขน สรุป คือ การแสดงโขนนั้นได้รวมเอาการแต่งกายมาจากการแสดงชักนาคดึกดำบรรพ์ นำเรื่องรามเกียรติ์และ การเชิดมาจากหนังใหญ่ และการต่อสู้มาจากกระบี่กระบองการแสดงโขน การแสดงอีกอย่างหนึ่งที่ใช้ท่ารำ และ แสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับ วิธีการทุกอย่างเหมือนละคร แต่ไม่เรียกว่าละคร การแสดงที่จะกล่าวนี้เรียกว่า “โขน” ที่ใช้ท่ารำตามแบบละครในแต่เพิ่มท่ารำที่มีตัวแสดงแปลกออกไป กับเปลี่ยนทำนองเพลงที่ดำเนินเรื่อง ไม่ให้เหมือนละคร ภาพที่ 3 การเล่นกระบี่กระบอง ที่มา : ติวฟรี, (2023, ออนไลน์) วิวัฒนาการของการแสดงโขน วิวัฒนาการของการแสดงโขน สามารถจำแนกประเภทของโขนตามวิวัฒนาการ เช่น โขนกลางแปลง โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว โขนหน้าจอ โขนโรงใน และโขนฉาก ดังนี้ ภาพที่ 4 การแสดงโขนกลางแปลง ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, (2562 : 16, 77, 82, 118)


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 11 โขนกลางแปลง เป็นการเล่นโขนกลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรง ใช้ภูมิประเทศ ธรรมชาติเป็นฉากใน การแสดง โขนกลางแปลงนี้ปรากฏว่า เมื่อ พ.ศ. 2339 ในรัชกาลที่ 1 มีการเล่นโขนในงานฉลองอัฐิสมเด็จพระ ปฐมบรมชนกาธิราช โดยโขนวังหน้าเป็นทัพทศกัณฐ์และโขนวังหลังเป็นทัพพระราม แล้วยกทัพมาเล่นรบกัน ในท้องสนามหน้าพลับพลา โขนกลางแปลงนิยมแสดงตอนยกทัพ เป็นพื้น ดนตรีมีเพียงวงปี่พาทย์ต้องใช้ อย่างน้อย 2 วง ในการบรรเลงบทก็มีเพียงแต่คำพากย์ คำเจรจา ภาพที่ 5 การแสดงโขนโรงนอกหรือโขนนั้งราว ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, (2562 : 16, 77, 82, 118) โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว เป็นการแสดงโขนบนโรงไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาด ตามส่วนยาวของโรง ตรงหน้าฉากออกมา มีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา เมื่อตัวโขน แสดงบทของตนแล้วก็จะไปนั่งบนราว สมมติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง ไม่มีการขับร้อง มีแต่การพากย์- เจรจา ดนตรีก็บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ในส่วนผู้แสดงเป็นเสนาหรือวานรยังคงนั่งพื้นแสดงปกติ ภาพที่ 6 การแสดงโขนหน้าจอ ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, (2562 : 16, 77, 82, 118)


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 12 โขนหน้าจอ เป็นโขนที่เล่นตรงหน้าจอหนังใหญ่ แล้วเจาะผ้าดิบทั้งสองข้างของจอ ทำเป็นช่อง ประตูเข้าออก แล้วทำเป็นซุ้มประตู ด้านหนึ่งเป็นปราสาทราชวัง สมมติเป็นกรุงลงกา อีกด้านหนึ่งเป็นค่าย พลับพลาพระราม แล้วโขนก็ขึ้นไปแสดงบนโรง ข้างหลังเป็นจอหนังใหญ่ จึงเรียกว่า “โขนหน้าจอ” ภาพที่ 7 การแสดงโขนโรงใน ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, (2562 : 16, 77, 82, 118) โขนโรงใน เป็นศิลปะการผสมผสานระหว่างโขนกับละครใน คือมีการออกท่ารำเต้น ผู้ที่แสดงเป็น ตัวพระเริ่มที่จะไม่ต้องสวมหัวโขน และมีการพากย์ เจรจา ตามแบบโขนและนำ เพลงขับร้อง และเพลง ประกอบอากัปกิริยาอาการ ของดนตรีแบบละครใน และมีระบำ รำ ฟ้อน เข้าผสมด้วย จึงเรียกว่า “โขนโรง ใน” ภาพที่ 8 การแสดงโขนฉาก ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, (2562 : 16, 77, 82, 118) โขนฉาก เข้าใจว่าเกิดขึ้นราวรัชกาลที่ 5 โดยมีผู้คิดสร้างฉากมาประกอบการแสดงโขนบนเวทีคล้าย กับการแสดงละครดึกดำบรรพ์ วิธีเล่นวิธีแสดงก็แบ่งเป็นฉากแบบเดียวกับละคร ดึกดำบรรพ์แต่แสดงแบบ โขนโรงใน มีการขับร้อง มีกระบวนรำ มีท่าเต้นและมีเพลงหน้าพาทย์ การสร้างฉากขึ้นประกอบให้เข้ากับ เหตุการณ์และสถานที่ที่สมมติไว้ในท้องเรื่อง ด้วยเหตุนี้จึงเรียกศิลปะแห่งการแสดงชนิดนี้ว่า “โขนฉาก”


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 13 องค์ประกอบของการแสดงโขน องค์ประกอบของการแสดงโขน สามารถจำแนกองค์ประกอบการแสดงโขน เช่น ตัวแสดง การแต่งกาย ดนตรี บทพากย์ และโอกาสที่ใช้แสดง มีรายละเอียดดังนี้ ตัวแสดง ตัวละครในการแสดงโขนมี 5 ประเภท คือ ตัวพระ ผู้แสดงที่เป็นมนุษย์ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเทวดา ซึ่งได้แก่ พระราม พระลักษณ์ พระพรต พระสัตรุต พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม ในปัจจุบันนี้มักสวมเพียงชฎา ไม่ได้สวมหัวโขนปิดหน้าดังสมัยโบราณ เพียงแต่ชฎาของเทพเจ้าต่าง ๆ นั้นจะสามารถสังเกตได้จากลักษณะของชฎานั้นๆ เช่น พระพรหมจะสวมชฎาที่ มีพระพักตร์อยู่ 4 ด้าน พระอินทร์จะสวมชฎายอดเดินหน เป็นต้น ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวพระ จะคัดเลือกผู้มี ลักษณะใบหน้าสวย จมูกเป็นสัน ลำคอโปร่งระหง ไหล่ลาดงาม ช่วงอกใหญ่ ลำตัวเรียว เอวเล็ก ตามแบบชาย งามในวรรณคดีไทย ภาพที่9 แสดงตัวพระ ที่มา : sites.google.com, (2560 : ออนไลน์) ตัวนาง ตัวละครตัวนางในเรื่องรามเกียรติ์นั้นมีทั้งที่เป็นมนุษย์ ปลา นาค แต่ละตัวจะบอกชาติกำเนิดด้วยการ สวมศีรษะ และหางเป็นสัญลักษณ์ ตัวนางในโขน และละครรำนั้นมี 2 ประเภท คือนางกษัตริย์ ซึ่งมีลีลาและ อิริยาบถแสดงถึงความนุ่มนวล แลดูเป็นผู้ดี กับนางตลาด ซึ่งจะมีบทบาทท่าทางกระฉับกระเฉง ว่องไว สะบัดสะบิ้ง ผู้ที่จะรับบทนางตลาดได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางนาฏศิลป์มากกว่าผู้ที่แสดงเป็นนาง กษัตริย์ ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวนาง จะคัดเลือกผู้ที่มีลักษณะคล้ายตัวพระ แต่ต้องมีใบหน้างาม กิริยาท่าทาง นุ่มนวลอย่างผู้หญิง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 14 ภาพที่ 10 แสดงตัวนาง ที่มา : sites.google.com, (2560 : ออนไลน์) ตัวยักษ์ ตัวยักษ์จะต้องมีลักษณะสูง วงเหลี่ยมตลอดจนการทรงตัวต้องดูแข็งแรง บึกบึน ลีลาท่าทางมีสง่า ซึ่ง ต้องได้รับการฝึกหัดมาอย่างดีเพราะถือกันว่าหัดยากกว่าตัวอื่น ๆ ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวยักษ์ คัดเลือกผู้ที่มี ลักษณะคล้ายตัวพระ แต่ไม่ต้องเลือกหน้าตา รูปร่างต้องใหญ่ และท่าทางแข็งแรง ภาพที่ 11 แสดงตัวยักษ์ ที่มา : sites.google.com, (2560 : ออนไลน์) ตัวลิง ตัวลิงจะต้องมีท่าทางลุกลี้ลุกลน กระโดดโลดเต้นตามลักษณะธรรมชาติของลิง โดยเฉพาะตัวหนุมาน ทหารเอกซึ่งจะต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ผู้ที่จะหัดแสดงเป็นตัวลิง คัดเลือกผู้ที่มีลักษณะป้อม ๆ ท่าทาง หลุกหลิกคล่องแคล่วว่องไว


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 15 ภาพที่ 12 แสดงตัวลิง ที่มา : sites.google.com, (2560 : ออนไลน์) ตัวเบ็ตเตล็ต นอกจากที่ปรากฏทั้ง 4 ประเภทนี้แล้ว ยังมีตัวแสดงที่เป็นตัวตลก ส่วนใหญ่จะเป็นตลกยกเตียง และ ตัวแสดงเบ็ดเตล็ดที่เป็นทั้งยานพาหนะ และสัตว์ การแต่งกาย การแต่งกายของการแสดงโขน แบ่งตามลักษณะของผู้แสดงได้ คือ ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ และตัว ลิง ดังนี้ 1. ตัวพระ ตัวพระ สวมเสื้อ แขนยาวปักดิ้น และเลื่อม มีอินทรธนูที่ไหล่ ส่วนล่างสวมสนับเพลา (กางเกง) ไว้ ข้างในนุ่งผ้ายกจีบโจงไว้หางหงส์ทับสนับเพลาด้านหน้ามีชายไหวชายแครงห้อยอยู่ศีรษะสวมชฎาสวม เครื่องประดับต่างๆ เช่น กรองคอ ทับทรวง ตาบทิศ ปั้นเหน่ง ทองกร กำไลเท้าเป็นต้น แต่เดิมตัวพระจะสวม หัวโขนแต่ภายหลังไม่นิยมเพียงแต่แต่งหน้าและสวมชฎาแบบละครในเท่านั้น ภาพที่ 13 แสดงการแต่งกายตัวพระ


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 16 2. ตัวนาง ตัวนาง สวมเสื้อแขนสั้นเป็นชั้นในแล้วห่มสไบทับ ทิ้งชายไปด้านหลังยาวลงไปถึงน่อง ส่วนล่างนุ่ง ผ้ายกจีบหน้า ศีรษะสวมมงกุฎ รัดเกล้า หรือกระบังหน้าตามแต่ฐานะของตัวละคร ตามตัวสวมเครื่องประดับ ต่าง ๆ เช่นกรองคอ สังวาล พาหุรัด เป็นต้นแต่เดิมตัวนางที่เป็นตัวยักษ์เช่น นางสำมนักขา นางกากนาสูร จะ สวมหัวโขน แต่ภายหลังมีการแต่งหน้าไปตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ โดยไม่สวมหัวโขนบ้าง ภาพที่ 14 แสดงการแต่งกายตัวนาง 3. ตัวยักษ์ ตัวยักษ์ เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายตัวพระ จะแตกต่างกันที่การนุ่งผ้า คือตัวยักษ์จะนุ่งผ้าไม่มี หางหงส์ แต่มีผ้าปิดก้นลงมาจากเอวส่วนศีรษะสวมหัวโขนตามลักษณะของตัวละคร ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยชนิด ภาพที่ 15 แสดงการแต่งกายตัวยักษ์


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 17 4. ตัวลิง ตัวลิง เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่คล้ายตัวยักษ์ แต่มีหางลิงห้อยอยู่ใต้ผ้าปิดก้นอีกที สวมเสื้อตามสี ประจำตัวในเรื่องรามเกียรติ์ ไม่มีอินทรธนู ตัวเสื้อปักลายขดเป็นวง สมมุติว่าเป็นขนตามตัวลิง ส่วนศีรษะสวม หัวโขนตามลักษณะของตัวละคร ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 ชนิด ภาพที่ 16 แสดงการแต่งกายตัวลิง วงดนตรีและเพลงประกอบการแสดงโขน วงดนตรีและเพลง ที่ใช้ประกอบการแสดงโขน มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้ 1. วงดนตรี วงดนตรี หมายถึง เครื่องกำกับจังหวะหน้าทับให้แตกต่างกันไปตามความเหมาะมกับการบรรเลง และการแสดงมหรสพนั้น ๆ สำหรับวงดนตรีที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดงโขน คือวงปี่พาทย์ไม้แข็ง การแสดง โขนจะใช้วงปี่พาทย์ หรือวงพิณพาทย์ ของไทยได้ 3 ชนิด คือ วงปี่พาทย์เครื่องห้า วงปี่พาทย์เครื่องคู่ และวงปี่ พาทย์เครื่องใหญ่ ดังนี้ 1.1 วงปี่พาทย์เครื่องห้า หมายถึง วงดนตรีที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะที่จะนำไปใช้ในงานหรือ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งที่เป็นมงคลและอวมงคลต่าง ๆ คือ 1.1.1 ใช้บรรเลงประกอบพิธีกรรม เช่น พิธีไหว้ครู พิธีเปิดสถานที่ใหม่ พิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธีเจริญพระพุทธมนต์ การเทศน์มหาชาติ หรือแม้กระทั่งงานบำเพ็ญกุศลศพต่างก็นิยมใช้วงปี่พาทย์ เครื่องห้าด้วย


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 18 1.1.2 ใช้บรรเลงประกอบการแสดง เช่น การแสดงโขน และละครต่าง ๆ หรือแม้กระทั่ง การแสดงลิเกของภาคกลางก็สามารถใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าบรรเลงประกอบได้ 1.1.3 ใช้บรรเลงเพื่อความบันเทิงทั่วไป เช่น บรรเลงประกอบการขับร้อง หรือ บรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรีล้วน ๆ ไม่มีการขับร้องร่วมก็ได้ประกอบด้วยเครื่องดนตรีปี่ใน ฆ้องวงใหญ่ กลอง ทัด ระนาดเอก ตะโพน ฉิ่ง วงปี่พาทย์เครื่องห้า ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ปี่ใน ระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก กลองทัด ฉาบ ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน ฉิ่ง โหม่ง กรับ (ปัจจุบันปี่นอกไม่ได้ใช้) ภาพที่ 17 แสดงวงดนตรีปี่พาทย์เครื่องห้า 2. วงปี่พาทย์เครื่องคู่ หมายถึง วงปี่พาทย์ที่ได้พัฒนามาจากวงปี่พาทย์เครื่องห้า จึงได้เป็นเครื่อง ดนตรีที่เข้าคู่กันดังนี้ ระนาดเอกคู่ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่คู่ฆ้องวงเล็ก ปี่ในคู่ปี่นอก และตะโพนคู่กลองทัดจึง เป็นที่มาของการเรียกชื่อว่า วงปี่พาทย์เครื่องคู่ สามารถนำไปใช้บรรเลงประกอบพิธีกรรม และบรรเลงเพื่อ ความบันเทิง ได้เช่นเดียวกับวงปี่พาทย์เครื่องห้าทุกประการ เช่นน 2.1 ใช้บรรเลงประกอบพิธีกรรม เช่น พิธีไหว้ครู พิธีเปิดสถานที่ใหม่ พิธีกรรมทางศาสนาเช่น พิธี เจริญพระพุทธมนต์ การเทศน์มหาชาติ หรือแม้กระทั่งงานบำเพ็ญกุศลศพต่าง ๆ 2.2 ใช้บรรเลงประกอบการแสดง เช่น การแสดงโขน และละครต่าง ๆ หรือแม้กระทั่ง การ แสดงลิเกของภาคกลางก็สามารถใช้วงปี่พาทย์เครื่องคู่บรรเลงประกอบได้ด้วย 2.3 ใช้บรรเลงเพื่อความบันเทิงทั่วไป เช่น บรรเลงประกอบการขับร้องหรือบรรเลงเฉพาะเครื่อง ดนตรีล้วน ๆ ไม่มีการขับร้องร่วมก็ได้ ที่สำคัญยังมีความเหมาะสมกว่าวงปี่พาทยเครื่องห้าอีกด้วยทั้ง เนื่องจากวงปี่พาทย์เครื่องคู่มีขนาดของวงในระดับกลาง ๆ ไม่เล็ก หรือไม่ใหญ่จนเกินไป การทำเพลงประกอบ กิจกรรมต่าง ๆ ข้างต้นนั้นจะทำให้ได้เสียงที่ผสมกลมกลืนกันดีกว่าวง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 19 ภาพที่ 18 แสดงวงดนตรีปี่พาทย์เครื่องคู่ 3. วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ หมายถึง วงดนตรีที่พัฒนามาจากวงปี่พาทย์เครื่องคู่อีกต่อหนึ่งเกิดขึ้นในสมัย ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่เป็นวงดนตรีที่มีขนาดใหญ่ สามารถนำไปใช้บรรเลงประกอบในงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับวงปี่พาทย์เครื่องห้าและวงปี่พาทย์ เครื่องคู่ แต่เนื่องจากวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่มีจำนวนเครื่องดนตรีที่มากชิ้น อีกทั้งบางชิ้นมีน้ำหนักมาก เช่น ระนาดเอกเหล็ก และระนาดทุ้มเหล็ก การเคลื่อนย้ายจึงทำได้ไม่สะดวกทำให้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับ นำไปใช้บรรเลงประกอบในพิธีกรรม หรือประกอบการแสดง เหมือนวงปี่พาทย์เครื่องห้าและเครื่องคู่ แต่จะพบ เห็นว่านิยมนำไปใช้มากในการบรรเลงเพื่อความบันเทิงทั่วไปเสียเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ปี่ใน ปี่นอก (ปัจจุบันไม่นิยมใช้) ฉาบเล็ก ฉาบใหญ่ ฉิ่ง กรับ โหม่ง ฆ้องวงเล็ก ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ระนาดเอก ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้ม ระนาดทุ้มเหล็ก ภาพที่ 19 แสดงวงดนตรีปี่พาทย์เครื่องใหญ่


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 20 2. เพลง เพลง หมายถึง เพลงที่ใช้บรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรีอย่างเดียว หรือ “เพลงหน้าพาทย์” ซึ่งครู มนตรี ตราโมท (มนตรี ตราโมท,2545:45-46) ได้อธิบายความหมายและคำจำกัดความไว้ว่า เพลงหน้าพาทย์ คือ เพลงที่บรรเลงสำหรับประกอบกิริยาอากรใช้ประกอบการแสดงโขนละคร พอจะสรุปตามประเภทของ เพลงหน้าพาทย์ได้ดังนี้ 2.1 เพลงที่เกี่ยวกับการร่ายเวทมนต์คาถาและแปลงตัว เป็นหน้าพาทย์ชั้นสูงเพราะเป็นเรื่องของ ขลังไสยศาสตร์เกี่ยวกับการร่ายเวทมนต์แปลงตัว ทำนองเพลงต้ององอาจ สง่า น่าเกรงขาม ดังเช่นเพลงตระ นิมิตใช้บรรเลงประกอบในท่าแปลงตัวพระหรือนางผู้สูงศักดิ์ 2.2 เพลงที่เกี่ยวกับการแผลงฤทธิ์ หรือแสดงอาการโกรธเคืองของผู้มีฤทธิ์เดช เช่น เพลงรัวสามลา คุกพาทย์ เช่น ตอนที่สุครีพถอนต้นรังหรือตอนที่หนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน ก็ใช้เพลงหน้าพาทย์นี้บรรเลง ประกอบทำนองเพลงพิลึกพิลั่นน่าเกรงขาม 2.3 เพลงที่เกี่ยวกับการจัดทัพและตรวจพล ในการจัดทัพใช้เพลงปฐม ตัวละครที่จะรำเพลงหน้า พาทย์เพลงนี้ได้มีอยู่ 2 ตัวเท่านั้น คือ สุครีพ ผู้จัดทัพฝ่ายพลับพลาและมโหทร ผู้จัดทัพฝ่ายลงกา เมื่อจัด ทัพเสร็จแล้วก็จะมีการตรวจพล โดยใช้เพลง กราวนอก สำหรับตรวจพลฝ่ายพลับพลาซึ่งเป็นพลลิง และ กราวใน ใช้ตรวจพลทางฝ่ายลงกา จังหวะกลองกราวในเป็นไปเนิบๆไม่มีสะดุดหรือยั้งเหมาะสมกับทัพยักษ์ซึ่ง ตึงตังแต่เนิบนาบ 2.4 เพลงที่เกี่ยวกับการไปมาหรือเดินทาง เช่น เพลงเสมอ ประกอบกิริยาไปมาในระยะใกล้ๆ เช่น ออกจากฉากมานั่งบนบัลลังก์ ยังแบ่งย่อยได้อีกตามฐานะของตัวละคร เช่น เสมอมาร สำหรับพญายักษ์ เสมอตีนนก สำหรับพระราม พระลักษมณ์ เสมอเข้าที่ สำหรับเชิญฤาษีขึ้นสู่อาศรมหรือเข้าที่ประทับ และ เสมอสมุทร สำหรับพระรามยกพลข้ามสมุทรไปลงกา เพลงเชิดฉิ่ง ใช้ในการแผลงศรหรือการแสดงที่ลึกลับ เพลงเชิด ประกอบกิริยาที่โลดไล่ติดตามกัน 2.5 เพลงที่เกี่ยวกับการเยาะเย้ยหรือดีใจ เช่น จับข้าศึกได้หรือชนะสงคราม หรือเป็นต่อ จะทำท่า ยั้วเย้าฝ่ายตรงข้ามใช้เพลง กราวรำ เช่น ตอนที่หนุมานได้กล่องดวงใจของทศกัณฐ์ไป จะชูให้ทศกัณฐ์ดูแล้วเต้น ยั่วเยาะเย้ยด้วยเพลงกราวรำ 2.6 เพลงอื่น ๆ เช่น เกี่ยวกับการนอน เช่น เพลงตระนอน ใช้สำหรับตัวละครที่สูงศักดิ์จะ เข้าที่บรรทม เกี่ยวกับการอาบน้ำ เช่น ลงสรง ลงสระโทน เพลงเกี่ยวกับความภาคภูมิใจ ได้แก่ เพลงฉุยฉาย ต่าง ๆ


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 21 การพากย์การเจรจา การแสดงโขนนั้นผู้แสดงจะต้องสวมศีรษะ ดังนั้นเมื่อมีการสื่อสาร จำเป็นต้องใช้การพากย์ หรือบท บรรยายตำแหน่งแหล่งที่ว่าตัวแสดงอยู่ที่ใด และการเจรจา คือการพูดเพื่อการสื่อสารของตัวละคร มาเป็นตัว นำเสนอ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องจะให้รายละเอียดของ การพากย์ และการเจรจา ดังนี้ 1. การพากย์ การพากย์ เป็นศิลปะการใช้เสียงที่ใช้ประกอบการแสดงโขนโดยเฉพาะชาวบ้านในสมัยโบราณเรียกว่า “โขนใบ้” เพราะโขนมเจราจาเอง จะต้องมีคนพากย์ต่าง ๆ พากย์และเจรจาให้ “บทพากย์” เป็นลักษณะคำ ประพันธ์ที่ใช้ในบทพากย์ มีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทกาพย์ต่าง ๆ เช่น กาพย์ยานี กาพย์ฉบัง และบท ประพันธ์ประเภทร่ายยาว ผูกสัมผัสให้ติดต่อกันเรื่อยไป ใช้ประกอบการพากย์เจรจา และดำเนินเรื่อง การ พากย์แบ่งเป็นประเภท ได้ 6 ประเภท คือ 1.1 พากย์เมือง กล่าวถึง ตัวแสดงที่ออกท้องพระโรงหรือที่รโหฐาน เช่น กล่าวถึงบททศกัณฐ์ออกท้อง พระโรงว่า “ ปางนั้นองค์ท้าวทศศรี ออกมุข ธ มนตรี ธ ตรัชประพาท ราชการ เสนามาตยานองเนียน นอบน้อมนบเศียร พระองค์พรหมเมศอสุรา” ถ้าเป็นบทของพระราม เรียก “ พากย์พลับพลา ” อยู่ในประเภทพากย์เมืองเช่นเดียวกัน “ ปางพระบัลลังก์นาค ผู้แบ่งภาคจากวารี สถิตแท่นอันผ่องศรี ณ สุวรรณพลับพลา เสนาพลวานร สองนครล้วนศักดา หมอบเฝ้าพระจักรา ทั้งขวาซ้ายอยู่รายเรียง” 1.2 พากย์รถ ใช้เสมอในเวลายกทัพ เพราะจะต้องทรงพาหนะต่าง ๆ โดยมากจะเป็นรถ เช่น “ เสด็จทรงรถสงคราม แสงแก้วแวววาม สว่างกระจ่างพร่างพราย พระที่บัลลังก์เลิศเฉิดฉาย งอนระหงธงชาย ปลิวคว้างมากลางเมฆา ” 1.3 พากย์ชมดง ใช้พากย์ชมนกชมไม้ และธรรมชาติต่างๆ เช่น “ เค้าโมงจับโมงมองเมียง คู่เคล้าโมงเคียง เคียงคู่อยู่ปลายไม้โมง ลางลิงลิงเหนี่ยวถลาโยง ค่อยยุดฉุดชโลง โลดไล่ในกลางลางลิง ชิงชันนกชิงกันสิง รักใครใครชิง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 22 ชิงกันจับต้นชังชัน ” ทำนองพากย์บทพากย์ชมดง มีวิธีพากย์เหมือนกับการพากย์เมือง แต่ใช้ทำนองชมดงในเข้าร่วมด้วย ในตอนต้นใช้ตะโพนและกลองตีรับ มีเสียงร้อง “ เพ้ย ” ต่อท้าย 1.4 พากย์โอ้ ใช้พากย์ในตอนที่ใช้แสดงอารมณ์โศกเศร้า เช่น ตอนที่พระรามลงสรง แล้วเห็นศพของ นางสีดาซึ่งนางเบญกายแปลงกายลอยน้ำมาติดใกล้ที่สรงของพระรามในบทที่ว่า “ ผวาวิ่งประหวั่นจิต ไม่ทันคิดก็โศกา กอดแก้วขนิษฐา ฤดีดิ้นอยู่แดดัน ” 1.5 พากย์บรรยาย เป็นบทพากย์ที่มีเนื้อหาบรรยายความเป็นมาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น บรรยาย ข้อความในสาร ตอนองคตอ่านสารของพระรามให้ทศกัณฐ์ฟัง “ อันดาสีดายุพาพักตร์ คือองค์นงลักษณ์พระลักษมี ท้าวทศเสียรอสุรี ไปลักเทวีมาไว้ จึงยกแสนยาพลากร ข้ามมหาสาครสมุทรใหญ่ จึงแต่งร่างราชทูตถือสาร หวังประทานชีวิตยักษา จงเชิญนางทูนเศียรอสุรา ไปถวายบาทพระจักรี ” หรือการพากย์บรรยายตำนานรัตนธนูหรือตอนพาลีสอนน้องก็จัดว่าเป็นพากย์บรรยายเช่นเดียวกัน 1.6 พากย์เบ็ดเตล็ด สำหรับใช้ในโอกาสทั่ว ๆ ไป เช่น การพากย์เบิกหน้าพระที่เรียกว่า “พากย์สาม ตระ” ในการแสดงหนังใหญ่หรือในเรื่องการแสดงโขนตอนใดตอนหนึ่ง ซึ่งไม่สังกัดอยู่ในการพากย์เมือง พากย์ รถ พากย์ชมดงและพากย์โอ้ 2. การเจรจา การเจรจา เป็นสิ่งที่ควบคู่กันไปกับพากย์ การเจรจาของโขนต่างกับการเจรจาของละคร การ เจรจาในบทโขนนั้นจะเป็นคำประพันธ์ร่ายยาว แบ่งออกเป็น เจรจา กระทู้ ส่วนมากเป็นบทเจรจาที่ ปรมาจารย์แต่งไว้และมีความไพเราะประณีต มีข้อความว่าแก้ความกัน ตัวอย่างในตอนที่ทัพของพระรามและ ทัพของทศกัณฐ์มาพบกัน ทศกัณฐ์ – เริ่มด้วยการพากย์ทำนองเทพลึก “ สมเด็จพระเจ้าพระนครลงกา ยืนอยู่บนพิชัยราชรัชถา งามสง่าดังแรกอโณทัย งามพลไกรดังดาวล้อมพระจันทรา ทอดทัศนาทะมนุษย์ คุมโยธาวายุบุตรสุดสายตา จึงนิ่งนึกตรึกตราในพระทัย ถ้ามาดแม้นจะขับพลตลุยไล่ เหล่าลิงไพร่ก็จะตายหมด หาเป็นเกียรติยศกษัตริย์ไม่ เข้ากระทู้ ดำริพลางทางสั่งนายใหญ่สารถี ให้เลื่อนรถรัตมณีเข้าไปใกล้ แล้วจึงปราศรัยตามนุสนธ์ ตัวท่านหรือคือนายพลกระบี่ศรี


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 23 ยกจาตุรงค์สงครามมาตามตีพิฆาตยักษ์ ท่านทำท่าเหมือนโจรจน ท่านต้องการสมบัติสิ่งใดในลงกาธานี หรือต้องการอสุรีตัวเอกๆ ไปใช้เล่นเช่นพิเภกอีกหรือเจ้า ” พระราม – ตอบแก้ พระจักฤษณ์ฤทธิราช ได้ฟังอรรถตรัสประภาสตามนุสนธ์ ตัวเราหรือคือนายพลศักดาเดช มิใช่โจร ปล้นอาณาเขตจังหวัด เป็นเหตูให้ทศกัณฐ์ขัดน้ำใจเรา ไปลักพาสีดานงเยาว์มาไว้ในสวนศรี เราไม่อยากได้ สมบัติในธานีกรุงลงกา อยากจะได้แต่สีดาคืนดง แล้วจะได้เลิกพนัสจัตุรงค์ กลับไปขอบคืนไปเขต ไม่ขอกวน ให้เกิดเหตุทุกสิ่งศรี สองเวียงชัยก็จะเป็นไมตรีสิ้น ขับเคี่ยวไปขัดข้อง เราจะเป็นทองแผ่นเดียวเจียวน่ะ ทศกัณฐ์การเจรจาทำนองซึ่งแบ่งเป็นสองทำนอง คือ 1. เดินทำนอง เช่น ตอนบรรยายก่อนการพูด “ สมเด็จพระนครลงกา เมื่อเพลาสเด็จออกนอกท้องพระโรงชัย ภายใต้นภดลมหาเศวตฉัตร แน่น ขัดด้วยอำมาตย์มาตยา พระองค์ทรงนิ่งนึก ตรึกตราแต่สงครามรามลักษมณ์ ” 2. ทำนองด้น เป็นบททำนองเจรจาโต้ตอบกัน เช่น “ หน่อยแน่ะพระลักษมณ์ อย่ามาพักพูดดีตีประจบเนื้อความ พระรามนายพี่เจ้าสิร้าย เจ้าเป็นน้องชายอย่ามาพูดแก้ตัว ” คนพากย์และเจรจานี้ใช้ผู้ชาย คนหนึ่งต้องทำหน้าที่ทั้งพากย์และเจรจา และต้องมีไม่น้อยกว่า 2 คน จะได้โต้ตอบกันทันท่วงที เมื่อพากย์หรือเจรจาจบกระบวนความแล้ว ต้องการจะให้ปี่พาทย์ทำเพลงอะไรก็ร้อง บอกไป เรียกว่า "บอกหน้าพาทย์" และถ้าการแสดงโขนนั้นมีขับร้อง คนพากย์และเจรจายังจะต้องทำหน้าที่ บอกบทด้วย การบอกบทจะต้องบอกให้ถูกจังหวะ โอกาสที่แสดงโขน 1. แสดงเป็นมหกรรมบูชา เช่น ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ หรือพระศพ พระบรมอัฐิ หรือ อัฐเจ้านาย ตลอดจนศพขุนนาง หรือผู้ใหญ่เป็นที่เคารพนับถือทั่วไป 2. แสดงเป็นมหรสพสมโภช เช่น ในงานฉลองปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ พระพุทธบาท พระแก้ว มรกต พระอาราม หรือสมโภชเจ้านายทรงบรรพชา สมโภชในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมโภชในงานเฉลิม พระชนม์พรรษา สมโภชวันประสูติเจ้านายที่สูงศักดิ์ เป็นต้น 3. แสดงเป็นมหรสพเพื่อความบันเทิง ในโอกาสทั่ว ๆ ไป หลักการชมการแสดงโขน หลักการชมการแสดงโขนเพื่อการศึกษา และซึมซับความงาม ผู้ชมจะต้องมีองค์ความรู้ในหลายด้าน สืบเนื่องจากโขนเป็นประณีตศิลป์ชั้นสูงของไทย ที่มีองค์ประกอบเป็นอัตลักษณ์ ดังนั้นผู้ชมโขนเพื่อการวิจารณ์ และเข้าใจการแสดง จะต้องตรวจสอบ ในประเด็นต่อไปนี้


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 24 1. ต้องเข้าใจบทบาทขอผู้แสดง การเข้าใจบทบาทของตัวแสดง จะเป็นมูลเหตุให้รู้ถึงเนื้อที่กำลังชม บทบาทของผู้แสดง โขนจะแบ่งตามตามประเภท คือ คือ ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ ตัวลิง และยังแบ่งตามยศถาบรรดาศักดิ์หรือฐานะ ของตัวละครอีกด้วยเช่น พระราม พระลักษณ์ ทศกัณฑ์ นางศูรปนขา เป็นต้น บทบาทของแต่ละตัว ในแต่ละ ตอนของการแสดงโขนจะไม่เหมือนกัน จึงต้องตรวจสอบเป็นเบื้องต้น 2. ต้องเข้าใจการแต่งกายของผู้แสดง การเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งกายของผู้แสดง จะสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ชาติพันธุ์ของตัว แสดงโขนได้ถูกต้องสวยงาม เพราะการแต่งกาย สามารถบอกถึงประเภทของการแสดงได้ การแสดงนั้นแบ่ง ออกหลายแบบ หลายประเภท ผู้ชมควรดูให้เข้าใจว่าการแต่งกายเหมาะสมกับบรรยากาศและประเภทของการ แสดง เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการแสดง ตลอดทั้งการแต่งหน้าด้วยว่าเหมาะสม กลมกลืนกันเพียงใด เช่น เหมาะสมกับฐานะหรือบทของผู้แสดงหรือไม่ 3. ต้องเข้าใจเพลงและดนตรีที่ใช้ในการแสดง เพลงและดนตรีมีความสำคัญหลักของการแสดงโขน ผู้ชมจะต้องฟังเพลงให้เข้าใจทั้งลีลา ทำนอง สำเนียงของเพลง ตลอดจนจังหวะ อารมณ์ด้วย จึงจะชมโขนได้เข้าใจและได้รสของการแสดงอย่างสมบูรณ์เช่น เข้าใจว่าเพลงที่เกี่ยวกับการจัดทัพ เพลงที่เกี่ยวกับการเดินทาง เพลงที่เกี่ยวกับการแผลงฤทธิ์ฯลฯ สามารถ นอกจากนี้ จะต้องรู้จักถึงชื่อของเครื่องดนตรีและวงดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงอีกด้วย 4. ต้องเข้าใจเนื้อเรื่องที่ใช้แสดง การเข้าใจเนื้อเรื่องที่ใช้แสดง จะทำให้เข้าใจบทบาท เข้าใจพฤติกรรมของผู้แสดงโขนไดด้อย่าง ชัดเจน เนื้อเรื่องจะปรากฏที่เนื้อร้องคำร้องหรือภาษาท่าทางการสื่อสารหรือบทพากย์ของต่าง ๆ เข้าใจอารมณ์ ของผู้แสดงอย่างแจ่มชัด สร้างความงามให้เกิดแก่ผู้ชมอย่างดี 5. ต้องเข้าใจฉาก แสง สี เสียง การเข้าใจถึงการออกแบบฉากและการใช้แสงและเสียงผู้ชมที่ดีต้องมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องฉาก สถานที่ และสถานการณ์ต่าง ๆ ของการแสดง ปัจจุบันนี้การแสดงโขนที่ได้รับความนิยมนั้นเป็นประเภทของ โขนฉาก ที่จะต้องเปลี่ยนฉากตามท้องเรื่อง ที่นำเสนอ และอาจใช้เครื่องช่วย การดึง การยก การเหาะของตัว ละคร ซึ่งจะสร้างความสมจริงให้เกิดแก่การแสดง อย่างไรก็ตาม หลักการชมโขนที่ดีจะต้องผสมผสานกับการชมการแสดงลักษณะอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น จะต้องไม่พูดกับระหว่างชม ต้องมีสมาธิในการชมเพราะจะได้เกิดปัญญาที่ดี ต้องไม่ขบเคี้ยวรับประทาน อาหารขณะชมการแสดง ไม่ทำเสียงรบกวนใด ๆ ทั้งที่อาจจะเกิดจากเครื่องมีสื่อสาร หรืออื่น ๆ ผสมผสานกับ ประเด็นที่จะต้องตรวจสอบดังได้กล่าวข้างต้น


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 25 สรุป โขนเป็นการแสดงชั้นสูงแบบประณีตศิลป์ของไทย มาจากการแสดง 3 ประเภท ของไทย คือ การ เล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ การแสดงหนังใหญ่ และการเล่นกระบี่กระบอง วิวัฒนาการของการแสดงโขน สามารถจำแนกประเภทของโขนตามวิวัฒนาการ เช่น โขนกลางแปลง โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว โขนหน้าจอ โขนโรงใน และโขนฉาก โดยมีองค์ประกอบสำคัญของการแสดงโขน สามารถจำแนกองค์ประกอบการแสดง โขน เช่น ตัวแสดง ที่ประกอบด้วยตัวพระ ตัวยักษ์ ตัวนาง ตัวลิง และตัวเบ็ดเตล็ด การแต่งกาย แบ่งได้ตาม ประเภทของผู้แสดง คือ การแต่งกายตัวพระ การแต่งกายตัวนาง การแต่งกายตัวยักษ์ และการแต่งกายตัวลิง โดยใช้ ดนตรีปี่พาทย์สร้างเสียงเพลงประกอบการแสดง สามารถใช้ได้ทั้งวงปี่พาทย์เครื่องห้า วงปี่พาทย์เครื่อง คู่ และวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ เพลงที่ใช้ประกอบการแสดงโขนเป็นเพลงปี่พาทย์ใช้ประกอบอากัปกิริยาของผู้ แสดง ทั้งการแปลงกาย การเดิน การยกทัพและอื่น บทพากย์ประกอบการแสดงโขน มี 2 ลักษณะ คือพากย์ ทำนอง และพากย์โอ้ และเจราจาเป็นการสื่อสารของตัวละครขณะแสดง โอกาสที่ใช้แสดงเป็นมหกรรม บูชา แสดงเป็นมหรสพสมโภช และแสดงเป็นมหรสพเพื่อความบันเทิง ในโอกาสทั่ว ๆ ไป หลักการชมการ แสดงโขนเพื่อการศึกษา และซึมซับความงาม ผู้ชมจะต้องมีองค์ความรู้ในหลายด้าน ต้องเข้าใจบทบาทขอผู้ แสดง ต้องเข้าใจการแต่งกายของผู้แสดง ต้องเข้าใจเพลงและดนตรีที่ใช้ในการแสดง ต้องเข้าใจเนื้อเรื่องที่ใช้ แสดง ต้องเข้าใจฉาก แสง สี เสียงดังได้กล่าวข้างต้น


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 26 คำถามทบทวน/แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดที่ 1 ที่มาของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายหมายและความเป็นมาของการแสดงโขน มาอย่างละเอียด 1. โขน หมายถึง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................... 2. ที่มาของโขนมี...........ประเภท อธิบายแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง อธิบายอย่างละเอียด ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ......................................


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 27 แบบฝึกหัดที่ 2 เรื่องวิวัฒนาการของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง โปรดแจกแจงการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของโขนทั้ง 5 ประเภท มีรายละเอียออะไรบ้าง อธิบายมา อย่างละเอียด 1. โขนกลางแปลง หมายถึง .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................ 2. โขนนั่งราว .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................ 3. โขนหน้าจอ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 28 4. โขนโรงใน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................ 5. โขนฉาก ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 29 แบบฝึกหัดที่ 3 เรื่ององค์ประกอบของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง ให้นักเรียนไปศึกษาองค์ประกอบเกี่ยวกับการแสดงโขนและทำแผนผังความคิดดังต่อไปนี้


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 30 แบบฝึกหัดที่ 4 เรื่อง วิจารณ์การแสดงโขนผ่านการวิเคราะห์การชมการแสดงโขน คำชี้แจง ให้นักเรียนไปศึกษาการแสดงโขนมา 1 ตอน แล้ววิเคราะห์ตามหัวข้อดังต่อไปนี้ 1. เรื่องย่อ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................. 2. ตัวละคร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................... 3. การแต่งกาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................... 4. องค์ประกอบของการแสดงโขน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 31 แบบทดสอบหลังเรียน คำชี้แจง 1. ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(×) ลงในช่องว่างที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด 2. แบบทดสอบนี้มีจำนวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน 3. ให้เวลาทำแบบทดสอบก่อนเรียน 10 นาที ****************************************************************************************** 1. จากความหมายของโขนนักเรียนคิดว่าเป็นการแสดงที่เหมาะกับงานชนิดใด ก. งานศพของคนที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ข. งานทอดผ้าป่าสามัคคีที่ชาวบ้านไปร่วมงานเยอะ ๆ ค. งานทอดกฐินของหลวงที่มีพระมหากษัตริย์ไปร่วมงาน ง. งานบวชนาคลูกแก้วของคนภาคเหนือ 2. คำตอบใดตรงกับความหมายของโขนมากที่สุด ก. การแสดงมหรสพของไทย ข. การแสดงมหรสพประเภทประณีตศิลป์ ค. การแสดงมหรสพที่มีนักแสดงไม่ใช่มนุษย์ ง. การแสดงมหรสพหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์ 3. ตัวเลือกใดไม่ใช่ที่มาของโขน ก. การชักนาคดึกดำบรรพ์ ข. การแสดงหนังตะลุง ค. การแสดงหนังใหญ่ ง. การเล่นกระบี่กระบอง 4. โขนใช้วิธีการต่อสู้กันระหว่างตัวแสดงเข้าใจว่าเอามาจากการละเล่นชนิดใด ก. การชักนาคดึกดำบรรพ์ ข. การแสดงละครใน ค. การแสดงละครพันทาง ง. การเล่นกระบี่กระบอง


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 32 5. ศิลปะการพากย์การเจรจาของโขนมาจากการแสดงของไทยชนิดใด ก. หนังตะลุง ข. หนังใหญ่ ค. รำวง ง. ลิเก 6. คำตอบใดตรงกับลักษณะของ“โขนนั่งราว” มากที่สุด ก. โขนโบราณที่เกิดขึ้นราว ๆ กรุงศรีอยุธยา ข. โขนที่มีการเอาราวมาให้นักแสดงเกาะขึ้นเวที ค. ที่กลางเวทีมีราวไม้พาดไว้สำหรับให้นักแสดงนั่ง ง. เป็นโขนที่กำกับจำนวนผู้แสดงไว้ราว ๆ 5 ตัว 6. วงดนตรีโขนนิยมใช้วงดนตรีใดมากที่สุด ก. วงชาตรี ข. วงเครื่องสาย ค. วงปี่พาทย์ ง. วงมโหรี 7. อยากรู้ว่านักแสดงตัวนี้เป็นใคร มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นอย่างไรควรดูจากตัวเลือกใด ก. การแต่งหน้า ข. เครื่องแต่งกาย ค. ท่ารำ ง. ลำดับการนั่งบนเวที 8. “พระราม” กำลังจะเปิดตัวนั่งอยู่กลางเหล่าเสนา อำมาตย์ลิงควรใช้พากย์ใด ก. พากย์เมือง ข. พากย์รถ ค. พากย์โอ้ ง. พากย์ชมดง 9. ถ้าพระรามเป็น“พระเอก”ของเรื่องรามเกียรติ์ในการแสดงโขน“นางเอก”ควรเป็นใคร ก. นางมณโฑ ข. นางมณฑา ค. นางสีดา ง. นางสำมักขา


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 33 10. ถ้าพระรามเป็นตัวแทนของฝ่ายธรรมทศกัณฐ์น่าจะเป็นตัวแทนของฝ่ายใด ก. ฝ่ายอสูร ข. ฝ่ายยักษ์ ค. ฝ่ายอธรรม ง. ฝ่ายพระญาติ


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 34 ชื่อ.................................สกุล....................................ชั้น.................เลขที่............... ข้อที่ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 35 บรรณานุกรม


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 36 บรรณานุกรม ราชบัณฑิตยสภา. (2545). โขน. สืบค้นเมื่อ 2566, พฤศจิกายน : 10 จาก https://wwwknowledges..com ติวฟรี. (2023). ประวัติกระบี่กระบอง. สืบค้นเมื่อ 2566, พฤศจิกายน : 10 จาก https://www.tewfree.com มติชนสุดสัปดาห์. (2562). สุจิตต์ วงษ์เทศ / ชักนาคดึกดำบรรพ์ ต้นทางโขน ศาสนา-การเมือง ใน อินทราภิเษก. สืบค้นเมื่อ 2566, พฤศจิกายน : 10 จาก https://www.matichonweekly.com/column/article_193715 สถาบันไทยศึกษา จุฬา. (2562). หนังใหญ่. สืบค้นเมื่อ 2566, พฤศจิกายน : 10 จาก https://www.facebook.com/ThaiStudiesCU/photos/a.195761767229440/16087080326 01466/?type=3 วลัญช์ สุภากร, (2560). การแสดงโขนพระราชทาน. ค้นเมื่อ มิถุนายน. 2561, 5 จาก http://www.judprakai.com/entertainment/768 sites.google.com. (2560). โขน Thai Performance Art. สืบค้นเมื่อ 2566, พฤศจิกายน : 10 จาก https://www.pinterest.com/pin/987695762001915011/


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 37 ภาคผนวก


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 38 ภาคผนวกภาค ก เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ข้อที่ ก ข ค ง 1 ข 2 ค 3 ข 4 ง 5 ข 6 ค 7 ข 8 ก 9 ค 10 ค เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ข้อที่ ก ข ค ง 1 ค 2 ข 3 ข 4 ง 5 ข 6 ค 7 ข 8 ก 9 ค 10 ค


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 39 ภาคผนวกภาค ข เฉลยแบบคำถามทบทวน/แบบฝึกหัดทบทวน คำถามทบทวน/แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดที่ 1 ที่มาของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายหมายและความเป็นมาของการแสดงโขน มาอย่างละเอียด แนวการตอบ 1. โขน หมายถึง เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย การแสดงประเภท หนึ่งที่ใช้ท่ารำตามแบบละครใน แตกต่างเพียงท่ารำที่มีการเพิ่มตัวแสดง เปลี่ยนทำนองเพลงที่ใช้ในการดำเนิน เรื่องไม่ให้เหมือนกับละคร แสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับก่อนหลังเหมือนละครทุกประการ ซึ่งไม่เรียกการแสดง เหล่านี้ว่าละครแต่เรียกว่าโขนแทน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐานจดหมายเหตุลาลู แบร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการกล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็นการเต้น ออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตนเอง และถืออาวุธ (ราชบัณฑิตยสถาน,2545) ได้กล่าวไว้ว่า โขนเป็นการเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละครรํา มักเล่นเรื่อง รามเกียรติ์ โดยผู้แสดงสวมหัวจําลองต่าง ๆ ที่เรียกว่า หัวโขน แนวการตอบ 2. ที่มาของโขนมี.....3......ประเภท อธิบายแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง อธิบายอย่างละเอียด 1. โขนมาจากชักนาคดึกดำบรรพ์ในพิธีอินทราภิเษก การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ได้กล่าวไว้ในกฎ มณเฑียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนพระราชพิธีอินทราภิเษกว่า ให้ตั้งภูเขาพระสุเมรุและภูเขาอื่นๆกลางสนาม และใช้ตำรวจเล็กแต่งตัวเป็นอสูร มหาดเล็กแต่งตัวเป็นเทวดา วานรอย่างละร้อยและแต่งสุครีพ พาลี มหาชมภู อีกอย่างละตัวเข้าขบวนแห่ทำพิธีชักนาคโดยให้อสูรชักข้างหัวเทวดาและวานรชักหาง พร้อมด้วยพิธีต่าง ๆ ด้วย เหตุนี้โขนจึงได้เอากระบวนการแต่งตัวมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ 2. โขนมาจากการแสดงหนังใหญ่การแสดงหนังใหญ่จะประกอบไปด้วยการเชิดหนัง ซึ่งจะต้องเต้นไป ตามจังหวะดนตรีปี่พาทย์ที่บรรเลงประกอบและยังต้องมีคนพากย์และเจรจาด้วย ซึ่งการแสดงโขนนั้นจะต้อง มีการพากย์การเจรจา การขับร้อง การเต้นและรำ ทำท่าตามบทพากย์และตามเพลงหน้าพาทย์ จึงเห็นได้ว่า การแสดงโขนรับไปจากการแสดงหนังใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ 3. โขนมาจากการแสดงกระบี่กระบอง เนื่องจากการแสดงโขนเน้นศิลปะการต่อสู้ ฉะนั้นลีลาการต่อสู้ ของคนสมัยก่อนในเชิง กระบี่กระบอง พลองและอื่น ๆ จึงได้รับการปรับปรุงและนำมารวมไว้ในการแสดง โขน สรุป คือ


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 40 แบบฝึกหัดที่ 2 เรื่องวิวัฒนาการของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง โปรดแจกแจงการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของโขนทั้ง 5 ประเภท มีรายละเอียออะไรบ้าง อธิบายมา อย่างละเอียด แนวการตอบ 1. โขนกลางแปลง โขนกลางแปลง เป็นการเล่นโขนกลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรง ใช้ภูมิประเทศ ธรรมชาติเป็น ฉากในการแสดง มีการเล่นโขนในงานฉลองอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมชนกาธิราช โดยโขนวังหน้าเป็นทัพทศกัณฐ์ และโขนวังหลังเป็นทัพพระราม แล้วยกทัพมาเล่นรบกันในท้องสนามหน้าพลับพลา โขนกลางแปลงนิยมแสดง ตอนยกทัพ เป็นพื้น ดนตรีมีเพียงวงปี่พาทย์ ต้องใช้อย่างน้อย 2 วง ในการบรรเลงบทก็มีเพียงแต่คำพากย์ คำเจรจา 2. โขนนั่งราว โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว เป็นการแสดงโขนบนโรงไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาด ตามส่วนยาวของโรง ตรงหน้าฉากออกมา มีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา เมื่อตัวโขน แสดงบทของตนแล้วก็จะไปนั่งบนราว สมมติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง ไม่มีการขับร้อง มีแต่การ พากย์- เจรจา ดนตรีก็บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ ในส่วนผู้แสดงเป็นเสนาหรือวานรยังคงนั่งพื้นแสดงปกติ 3. โขนหน้าจอ โขนหน้าจอ เป็นโขนที่เล่นตรงหน้าจอหนังใหญ่ แล้วเจาะผ้าดิบทั้งสองข้างของจอ ทำเป็นช่อง ประตูเข้าออก แล้วทำเป็นซุ้มประตู ด้านหนึ่งเป็นปราสาทราชวัง สมมติเป็นกรุงลงกา อีกด้านหนึ่งเป็นค่าย พลับพลาพระราม แล้วโขนก็ขึ้นไปแสดงบนโรง ข้างหลังเป็นจอหนังใหญ่ จึงเรียกว่า “โขนหน้าจอ” 4. โขนโรงใน โขนโรงใน เป็นศิลปะการผสมผสานระหว่างโขนกับละครใน คือมีการออกท่ารำเต้น ผู้ที่แสดง เป็นตัวพระเริ่มที่จะไม่ต้องสวมหัวโขน และมีการพากย์ เจรจา ตามแบบโขนและนำ เพลงขับร้อง และ เพลงประกอบอากัปกิริยาอาการ ของดนตรีแบบละครใน และมีระบำ รำ ฟ้อน เข้าผสมด้วย จึงเรียกว่า “โขนโรงใน” 5. โขนฉาก โขนฉาก เข้าใจว่าเกิดขึ้นราวรัชกาลที่ 5 โดยมีผู้คิดสร้างฉากมาประกอบการแสดงโขนบนเวที คล้ายกับการแสดงละครดึกดำบรรพ์ วิธีเล่นวิธีแสดงก็แบ่งเป็นฉากแบบเดียวกับละคร ดึกดำบรรพ์ แต่แสดง แบบโขนโรงใน มีการขับร้อง มีกระบวนรำ มีท่าเต้นและมีเพลงหน้าพาทย์ การสร้างฉากขึ้นประกอบให้ เข้ากับเหตุการณ์และสถานที่ที่สมมติไว้ในท้องเรื่อง ด้วยเหตุนี้จึงเรียกศิลปะแห่งการแสดงชนิดนี้ว่า “โขนฉาก”


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 41 แบบฝึกหัดที่ 3 เรื่ององค์ประกอบของการแสดงโขน *************************************************************************** คำชี้แจง ให้นักเรียนไปศึกษาองค์ประกอบเกี่ยวกับการแสดงโขนและทำแผนผังความคิดดังต่อไปนี้


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 42 แบบฝึกหัดที่ 4 เรื่อง วิจารณ์การแสดงโขนผ่านการวิเคราะห์การชมการแสดงโขน คำชี้แจง ให้นักเรียนไปศึกษาการแสดงโขนมา 1 ตอน แล้ววิเคราะห์ตามหัวข้อดังต่อไปนี้ 1. เรื่องย่อ โขน ชุด ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ ทศกัณฐ์ เจ้ากรุงลงกา ทรงทราบข่าวสมเด็จพระเจ้าหลาน คือ แสงอาทิตย์และมังกรกัณฐ์เสียทีแก่ทัพพระราม จึงตรัสให้กาลสูรไปทูลอินทรชิตให้เร่งชุบศรพรหมาศ แล้วยกทัพไปรบกับกองทัพพระลักษมณ์ อินทรชิตแสร้ง แปลงกายเป็นองค์อมรินทรา ให้การุณราชแปลงเป็นคชาเอราวัณ แล้วให้โยธาทั้งหลายกลายร่างเป็นเทพบุตร และเทพธิดา ออกไปจับระบำรำฟ้อนกลางเวหา พระลักษมณ์และพลวานรหลงกลคิดว่าองค์อมรินทรา เทพบุตร เทพธิดา มาจับระบำรำฟ้อนด้วยความหรรษา จึงพิศเพลินด้วยความจำเริญตา จนเสียทีให้อินทรชิต แผลงศรพรหมาศต้ององค์พระลักษมณ์ และพลวานรสลบไสลทั้งกองทัพ เว้นเพียงหนุมานไม่ต้องศรศิลป์อินทร ชิตจึงขึ้นราญรอนกับอินทรชิต หนุมานตีควาญท้ายคชาอาสัญ แล้วง้างหักคอพญาเอราวัณได้สำเร็จ แต่ก็ต้อง คันศรอินทรชิตฟาดสลบอยู่กลางสนามรบ ฝ่ายอินทรชิตและโยธาทั้งหลายก็เลิกทัพกลับพระนครลงกาด้วย ความหรรษา เมื่อความทราบถึงพระรามจึงทรงรีบรุดไปช่วยเหลือ ครั้นเสด็จมาถึงสนามรบ ก็พบหนุมานที่เพิ่ง กลับฟื้นคืนสติมาเมื่อต้องพระพายพัดถูกกาย หนุมานทูลความทั้งหมดให้พระรามทรงทราบ เมื่อพระรามตรัส ถามวิธีแก้ไขกับพิเภก ภิเภกโหราจารย์จึงกราบทูลว่ามีสรรพยาที่จะแก้ไขให้กลับฟื้นคืนมาได้อยู่ในภูผาชื่ออาวุธ พระรามจึงตรัสสั่งให้หนุมานเดินทางไปเอาสรรพยามาแก้ไข กองทัพพระลักษมณ์จึงกลับฟื้นคืนมา 2. ตัวละคร ทศกัณฐ์ แสงอาทิตย์ มังกรกัณฐ์ อินทรชิต พระลักษณ์ ช้างเอราวัณ อินทรชิต หนุมาน พระราม 3. การแต่งกาย แต่งกายชุดยืนเครื่องพระนาง 4. ลักษระการแสดง แสดงลักณะโขนฉากประกอบการแสดงโขนเวที การสร้างฉากขึ้นประกอบให้เข้ากับ เหตุการณ์และสถานที่ที่สมมติไว้ในท้องเรื่อง ด้วยเหตุนี้จึงเรียกศิลปะแห่งการแสดงชนิดนี้ว่า “โขนฉาก”


เอกสารประกอบการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่องกรแสดงโขน 43 ภาคผนวกภาค ค ประวัติผู้เขียน ประวัติผู้เขียน ประวัติ นายจักรภัทร ศิลากิจ เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน 2545 สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ อายุ 21 ปี การศึกษา จบประถมศึกษาปีที่1จากโรงเรียนสุเหร่าราชบัวขาว จ.กรุงเทพมหานคร จบประถมศึกษาปี่ที่6 จากโรงเรียนชุมชนบ้านไทรห้อง จ.นครศรีธรรมราช จบชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่6 จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์19 จ.นครศรีธรรมราช ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับอุดมศีกษาชั้นปีที่3 สาขานาฏศิลป์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช ประสบการณ์ทำงาน ตัวแทนจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าร่วมการแข็งขันทูบีนัมเบอร์วัน ณ จ.กรุงเทพมหานคร พิธีกรในงงานต่าง ๆ จัดทำโครงการเผยแพร่นาฎศิลป์ไทย ณ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จัดทำโครงการสัมมนาออนไลน์เรื่องผ้าลายโบราณแนวทางการพัฒนาอย่างยั้งยืน การแสดงในนาฏศิลป์ในงานต่าง ๆ จัดทำนาฏยประดิษฐ์โดยนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นลูกปัดมโนราห์มาสร้างารรค์งาน


Click to View FlipBook Version