บทที่ที่ ที่ที่20 ระบบต่ต่ ต่ อ ต่ อมไร้ร้ ร้ร้ ท่ท่ ท่ อ ท่ อ ( ENDOCRINE GLAND ) รายวิวิช วิวิ า ชีชี ชี ว ชี ววิวิท วิวิ ยา
คำ นำ หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมเนื้อหาเรื่อ รื่ ง ระบบต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อ ผู้จัดทำ วัต วั ถุประสงค์ เพื่อจัดทำ วิธี วิธี การเรีย รี นรู้ การจัดทำ e-book เพื่อเป็นสื่อการเรีย รี นรู้ที่ รู้ ที่ใช้ในกลุ่มสาระ การเรีย รี นรู้ร รู้ ายวิช วิ าชีววิท วิ ยา หนังสื่อเล่มนี้ประกอบไปด้วยการทำ งานร่ว ร่ มกันของระบบต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อและระบบ ประสาท ต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อมีหน้าที่ ฮอร์โร์ มนและการทำ งานของฮอร์โร์ มนในร่า ร่ งกาย การรัก รั ษา ดุลยภาพของฮอร์โร์ มน มีความเกี่ยวข้องกับ ระบบต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อ ผู้จัดทำ หวัง วั เป็นอย่างยิ่งว่า ว่ e-book เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาศึกษา รายวิช วิ าชีววิท วิ ยา และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความรู้ใรู้ นกลุ่มสาระวิท วิ ยาศาสตร์ผู้ ร์ ผู้จัด ทำ ขอขอบคุณ คุณครูเเละหน่วยงานอื่นๆในการจัดทำ ไว้ ณ โอกาสนี้
สารบับั บั ญ บั ญ - จุดประสงค์ - การทำ งานร่ว ร่ มกันของระบบต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อและระบบประสาท - ต่อมไร้ท่ ร้ ท่ อ - ฮอร์โร์ มนและการทำ งานของฮอร์โร์ มน - การรัก รั ษาดุลยภาพของฮอร์โร์ มน ก 1 3 5 30 - คำ ถามท้ายบท 35 เรื่อ รื่ ง หน้า
1. อธิบายการทำ งานร่วมกันของระบบต่อมไร้ท่อและระบบประสาท 2. ระบุตำ แหน่งของต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่สำ คัญในร่างกายที่ทำ หน้าที่สร้าง ฮอร์โมน 3. สืบคั้น คั้ ข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับประเภทและหน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ ท่อและเนื้อเยื่อที่สร้างฮอร์โมน 4. ยกตัวอย่างและอธิบายการทำ งานร่วมกันของฮอร์โมนหลายชนิดในการ รักษาดุลยภาพของร่างกาย 5. อธิบายและเขียนแผนผังการจัดกลุ่มฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ ตามการทำ งาน ของฮอร์โมน จุจุ จุ ด จุ ดประสงค์ค์ ค์ ก ค์ การเรีรีย รีรี นรู้รู้ รู้รู้ รู้รู้ 6. อธิบายอาการผิดปกติของร่างกายหรือ รืโรคที่เกิดจากการมีฮอร์โมนปริม ริ าณ มากหรือ รื น้อยเกินไป ก
การทำ งานร่วมกันของระบบ ต่อมไร้ท่อและระบบประสาท การทำ งานร่วมกันของระบบ ต่อมไร้ท่อและระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อและระบบประสาทจะทำ งานร่วมกันใน การควบคุมดุลยภาพของร่างกายโดยมี ไฮโพทาลามัส (hypothalamus) เป็น ป็ ส่วนของสมอง ส่วนหน้าทำ หน้าที่สร้างและหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนประสาทมาควบคุม การหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนของต่อมใต้สมองมีตำ แหน่งอยู่ติดกับต่อม ใต้สมองตัวเชื่อมการทำ งานระหว่า ว่ งระบบประสาทและ ระบบต่อมไร้ท่อตั้ง ตั้ แต่การเจริญ ริ เติบโตในระยะเอ็มบริโริ อมี ความสำ คัญในการสร้างฮอร์โมนหลายชนิดมาควบคุมการ ทำ งานของต่อมใต้สมองสารที่ไฮโพทาลามัสสร้างแบ่งได้ ดังนี้ 1 รูปภาพที่ 1 ตำ แหน่งของไฮโซทาลามัสกับต่อมใต้สมอง เรื่รื่ รื่รื่ อ รื่รื่ งที่ที่ ที่ที่ 1
สารที่ไฮโพทาลามัสสร้าง แบ่งได้ดังนี้ สารที่ไฮโพทาลามัสสร้าง แบ่งได้ดังนี้ 1. สารสื่อประสาท (neurotransmitter) ทำ หน้าที่ เป็น ป็ ตัวกลางถ่ายทอดกระแสประสาทจากเซลล์หนึ่งไป ยังอีกเซลล์หนึ่ง 2. ฮอร์โมนประสาท (neurohormone) สร้างจากเซลล์ ประสาทที่เรีย รี กว่าว่เซลล์นิวโรซีครีท รี อรี (neurosecretory cell) ในไฮโพทาลามัส ทำ หน้าที่ ควบคุมการทำ งานของต่อมใต้สมองส่วนหน้า (anterior pituitary gland) โดยทำ หน้าที่เป็น ป็ ฮอร์โมน กระตุ้น (releasing hormone) หรือ รื ฮอร์โมนยับยั้ง ยั้ (inhibiting hormone) นอกจากนี้เซลล์นิวโรซีครีท รี อรีใรี น ไฮโพทาลามัสยังมีปลายแอกซอนอยู่ในต่อมใต้สมองส่วน หลัง(posterior pituitary gland) ซึ่งทำ หน้าที่หลั่งลั่ ฮอร์โมน ได้แก่ ADH และออกชิโทซิน 2 รูปภาพที 2 การสร้างและหลั่งฮอร์โมน
ต่อมไร้ท่อ (endocrine gland) ต่อมไร้ท่อ (endocrine gland) ต่อมไร้ท่อ (endocrine gland) เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต โครงสร้างของ ต่อมประกอบด้วยเซลล์ที่ทำ หน้าที่สร้าง ฮอร์โมนโดยจะไม่มีท่อสำ หรับลำ เลียงสารแต่ มีการลำ เลียงผ่านระบบหมุนเวีย วี นเลือด ซึ่ง แตกต่างจาก ต่อมมีท่อ (exocrine gland) เช่น ต่อมน้ำ ลาย ต่อมเหงื่อ ต่อมน้ำ ตาและ ต่อมสร้างน้ำ เลี้ยงอสุจิ ต่อมเหล่านี้จะมีท่อ ลำ เลียงสารต่าง ๆ ที่ต่อมสร้างขึ้น 3 รูปภาพที่ 3 ความแตกต่างของต่อมมีท่อและไร้ท่อ เรื่รื่ รื่รื่ อ รื่รื่ งที่ที่ ที่ที่ 2
ต่อมไร้ท่อของมนุษย์มีหลายต่อม แต่ละ ต่อมกระจายอยู่ตามตำ แหน่งต่างๆของ ร่างกาย ซึ่งสร้างและหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนที่มีหน้าที่ แตกต่างกันนอกจากต่อมไร้ท่อยังมีเนื้อเยื่อ ของร่างกายที่สามารถสร้างฮอร์โมนได้เช่น กัน เช่น ไต เนื้อเยื่อชั้น ชั้ ในของกระเพาะ อาหารและลำ ไส้เล็ก ต่ต่ ต่ อ ต่ อมไร้ร้ ร้ร้ ท่ท่ ท่ อ ท่ อ 4 รูปภาพที่ 4 ต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย
1. กลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีน เช่น อินซูลิน FSH LH TRH GH ADH มีสมบัติละลายน้ำ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนและการทำทำทำทำงานของฮอร์ร์ ร์ร์โมน ฮอร์โมน ถูกหลั่ง ลั่ จากต่อมไร้ท่อ มีผลควบคุมการทำ งานของเซลล์เป้า ป้ หมาย โดยจะถูก ลำ เลียงผ่านระบบหมุนเวีย วี นเลือดฮอร์โมนจำ แนกตามโครงสร้างทางเคมี มี3กลุ่มดังนี้ 2. กลุ่มเอมีน เป็นฮอร์โมนที่เป็น ป็ อนุพันธ์ของกรดแอมิโนหรือ รื กรดไขมัน เช่น เอพิเนฟริน ริ นอร์เอพิเนฟริน ริ สมบัติละลายน้ำ ไทรอยด์ฮอร์โมน สมบัติละลายลิพิด 3. กลุ่มสเตอรอยด์ คือถูกสังเคราะห์มาจากคอเลสเตอรอล เช่น อีสโทรเจน โพรเจสเทอโรน เทสโทสเทอโรน มีสมบบัติละลายลิพิด 5 เรื่รื่ รื่รื่ อ รื่รื่ งที่ที่ ที่ที่3
เซลล์ของต่อมไร้ท่อจะส่งสารฮอร์โมนเข้าไปยังระบบหมุน เวีย วี นเลือดและสารฮอร์โมนจะจับกับตัวรับเซลล์เป้า ป้ หมายที่จำ เพาะ กับฮอร์โมนนั้น นั้ ๆจึงจะทำ ให้ฮอร์โมนสามารถออกฤทธิ์ได้แต่หาก ฮอร์โมนไปจับกับเซลล์อื่นที่ไม่ใช่เซลล์เป้า ป้ หมายฮอร์โมนไม่สามารถ ออกฤทธิ์ต่อเซลล์นั้น นั้ ได้ การลำ เลียงฮอร์โมนไปยัง เซลล์เป้าหมาย การลำ เลียงฮอร์โมนไปยัง เซลล์เป้าหมาย ตัวรับเซลล์เป้า ป้ หมายสามารถพบได้ที่เยื่อหุ้มเซลล์และภายในเซลล์ ซึ่งบริเ ริ วณเยื่อหุ้มเซลล์จะรับฮอร์โมนที่ละลายน้ำ ได้เช่น เพปไทด์ โปรตีน เอมีนบางชนิดอย่าง เอพิเฟริน ริ นอร์เอพิเนฟริน ริ ส่วนบริเ ริ วณ ภายในเซลล์จะจับกับฮอร์โมนที่เป็น ป็ สเตอรอยด์และเอมีนบางชนิด เช่น ไทรอยด์ฮอร์โมน เซลล์ล์ ล์ เ ล์ เป้ป้ป้ป้ าหมาย 6 รูปภาพที่ 5 การลำ เลียงฮอร์โมนไปยังเซลล์เป้าหมาย รูปภาพที่ 6 ตัวรับฮอร์ดมนที่เซลล์รับเป้าหมาย
ฮอร์โมนที่ต่างชนิดกันมีการทำ งานประสานกัน ทำ ให้เกิดการตอบสนองเพื่อรักษาดุลยภาพของ ร่างกาย เช่น ถ้าระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ พาราทอร์โมนจะเพิ่มสารสะลายแคลเซียมแต่ เซลล์เป้าหมายหลายชนิดนั้น นั้ จะออกฤทธิ์การ ตอบสนองที่แตกต่างกัน เช่น อินซูลินเมื่อจับกับ เซลล์ตับ จะหลุดการสร้างกลูโคสและกระตุ้น ไกลโคเจนเมื่อจับกับเซลล์กล้ามเนื้อโครงร่าง จะ เปลี่ยนกลูโคสเป็นพลังงานและนำ เข้าเซลล์เพื่อ สร้างไกลโคเจนและเมื่อไปจับกับเซลล์ไขมัน อินซูลินจะใช้กลูโคสไปสังเคราะห์ลิพิด ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ มี ที่ มี มี ผ มี ผลต่ต่ ต่ อ ต่ อเซลล์ล์ ล์ เ ล์ เป้ป้ป้ป้ าหมาย 7 รูปภาพที่ 7 การออกฤทธฺ์อินซูลินต่อเซลล์เป้าหมาย
ฮอร์ร์ ร์โร์ มนประสาท เป็น ป็ สารเคมีที่สร้างขึ้นมาจากเซลล์ประสาท และส่งไปยังเซลล์เป้า ป้ หมายเพื่อใช้ควบคุม การทำ งานของระบบต่างๆภายในร่างกาย สารเคมีที่ใช้สื่อสารระหว่า ว่ งสัตว์ส ว์ ปีชี ปีชี ส์ เดียวกันโดยสารเคมีที่ใช้ในการสื่อสาร ระหว่า ว่ งสัตว์ส ว์ ปีชี ปีชี ส์เดียวกันคือ ฟีโฟี รโมน โดย จะไม่มีผลต่อร่างกายของตัวสัตว์ แต่จะมีผล กับสัตว์ตั ว์ ตั วอื่นในสปีชี ปีชี ส์เดียวกัน ทำ ให้เกิดกาี เปลี่ยนแปลงทางสรีร รี ะและพฤติกรรม 8 รูปภาพที่ 8 การควบคุมดุลยภาพของร่างกาย ด้วยสารเคมีชนิดต่างๆ
การทำทำทำทำงานของฮอร์ร์ ร์โร์ มน ฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตมีหลายชนิด ทำ หน้าที่ต่างกันและออกฤทธิ์ที่เซลล์เป้า ป้ หมาย ต่างกัน สามารถแบ่งฮอร์โมนเป็น ป็ กลุ่มต่างๆตามการทำ งานได้ดังนี้ 1. ฮอร์โมนที่ควบคุมการสร้างและการหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนชนิดอื่น 2. ฮอร์โมนที่ควบคุมและเกี่ยวข้องกับเมแทบอลิซึม 3. ฮอร์โมนที่ควบคุมการสืบพันธุ์และการเจริญ ริ เติบโต 4. ฮอร์โมนที่ควบคุมการรักษาดุลยภาพของน้ำ และแร่ธาตุ 5. ฮอร์โมนที่ทำ หน้าที่อื่นๆ 9
•ไทรอยด์รีลี รีลี สซิงฮอร์โมน (thyroid-releasing hormone;TRH) ทำ หน้าที่กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหน้าและหลั่งลั่ ไทรอยด์สติมิวเลติงฮอร์โมน (thyroid stimulating hormone;TSH) •คอร์ทิโคโทรฟิน ฟิ รีลี รีลี สซิงฮอร์โมน (corticotropin-releasing hormone;CRH) ทำ หน้าที่กระตุ้นต่อมใต้สมอง ส่วนหน้าให้สร้างและหลั่งลั่อะดรีโรี นคอร์ทิโคโทรพิกฮอร์โมน (adrenocorticotropic hormone;ACTH) •โกรทฮอร์โมนรีลี รีลี สซิงฮอร์โมน (growth hormone-releasing hormones;GHRH) ทำ หน้าที่กระตุ้นและหลั่งลั่ โกรทฮอร์โมน (growth hormone;GH) จากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ ค ที่ ควบคุคุ คุ ม คุ มการสร้ร้ ร้ร้ างและหลั่ลั่ ลั่ ง ลั่ ง ลั่ลั่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนชนินิ นิ ด นิ ดอื่อื่ อื่ น อื่ น ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากไฮโพทาลามัมั มั ส มั ส ทำ หน้าที่กระตุ้นและยับยั้ง ยั้ การสร้างและการหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ดังนี้ •โกนาโดโทรฟิน ฟิ รีลี รีลี สซิงฮอร์โมน (gonadotrophin-releasing hormone;GnRH) ทำ หน้าที่ควบคุมการสร้างและ การหลั่งลั่โกนาโดโทรฟิน ฟิ (gonadotrophin;Gn) จากต่อมใต้สมองส่วนหน้า 10
นอกจากนี้ไฮโพทาลามัสยังสร้างและหลั่งลั่ฮอร์โมนประสาทโดยสะสมไว้ที่ ว้ ที่ปลายแอกซอนในต่อมใต้สมองส่วนหลัง เมื่อถูกกระตุ้นจะมีการหลั่งลั่ฮอร์โมนประสาทและมีผลต่ออวัยวะเป้า ป้ หมายโดยตรง ได้แก่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากไฮโพทาลามัมั มั ส มั ส •โกรทฮอร์โมนอินฮิบิทิงฮอร์โมน (growth-inhibiting hormone;GHIH) ทำ หน้าที่ยับยั้ง ยั้ การ สร้างและหลั่งลั่โกรทฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า •โดพามีน (dopamine) หรือ รืโพรแลกทินอินฮิบิทิงฮอร์โมน (prolactin-inhibiting hormone;PIH) ทำ หน้าที่ยับยั้ง ยั้ การสร้างและหลั่งลั่โพรแลกทิน (prolactin) ต่อมใต้สมองส่วนหน้า •แอนติไดยูเรติกฮอร์โมน (antidiuretic hormone;ADH) หรือ รื วาโซเพรสซิน (vasopressin) ทำ หน้าที่ควบคุมดุลยภาพของน้ำ •ออกซิโทซิน (oxytocin) ทำ ให้กล้ามเนื้อเรีย รี บที่มดลูกบีบตัว และกระตุ้นการหลั่งลั่น้ำ นม 11
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมใต้ต้ ต้ ส ต้ สมองส่ส่ ส่ ว ส่ วนหน้น้ น้ า น้ า ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ทำ หน้าที่ควบคุมการสร้างและหลั่ง ลั่ ฮอร์โมน จากต่อมไร้ท่ออื่นๆ ได้แก่ •Gnประกอบด้วย ฟอลลิเคิลสติมิวเลทิงฮอร์โมน (follicle-stimulating hormone;FSH) และลูทิไนทิงฮอร์โมน (luteinizing hormone;LH) ทำ หน้าที่กระตุ้นรังไข่และอัณฑะให้สร้าง ฮอร์โมนเพศ •TSH ทำ หน้าที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้หลั่ง ลั่ ฮอร์โมนเป็น ป็ ปกติ •ACTH ทำ หน้าที่กระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกให้หลั่ง ลั่ ฮอร์โมนเป็น ป็ ปกติ 12 รูปภาพที่ 9 ฮอร์โมนจากไฮโพทาลามัสและต่อมใต้สอง
เมแทบอลิซึมที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต วิ ล้วนส่งผลต่อการรักษาดุลยภาพของ ร่างกายเนื่องจากเป็น ป็ การสลายสารโมเลกุลขนาดใหญ่ให้เป็น ป็ สารโมเลกุล ขนาดเล็ก เช่น การหายใจระดับเซลล์ การสลายโปรตีนเป็น ป็ กรดแอมิโน การสลายคาร์โบไฮเดรตเป็น ป็ กลูโคส การสลายลิพิดให้เป็น ป็ กรดไขมันและ กลีเซอรอล นอกจากนี้เมแทบอลิซึมยังเป็น ป็ การสังเคราะห์สาร เช่น การสังเคราะห์โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และลิพิด ซึ่งการควบคุมฮอร์โมนเหล่า นี้ขึ้นอยู่กับการทำ งานของฮอร์โมน คือกลุ่มต่อมฮอร์โมนจากไทรอยด์ กลุ่ม ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต และกลุ่มฮอร์โมนจากตับอ่อน ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ ค ที่ ควบคุคุ คุ ม คุ มและเกี่กี่ กี่ ย กี่ ยวข้ข้ ข้ อ ข้ องกักั กั บ กั บเมแทบอลิลิ ลิ ซึ ลิ ซึ ซึ ม ซึ ม 13
1. จากต่ต่ ต่ อ ต่ อมไทรอยด์ด์ ด์ ก ด์ กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมน •ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ อยู่บริเ ริ วณปลายลำ คอติดกับ กล่องเสียง มีลักษณะเป็นพู แบ่งออกเป็น 2 แบบ 14 รูปภาพที่ 10 ต่อมไทรอยด์
ต่อมไทรอยด์ประกอบด้วยไทรอยด์ฟอลลิเคิล (thyroid-follicle) เป็น ป็ กลุ่มเซลล์ที่เรีย รี ง เป็น ป็ ชั้น ชั้ เดียว ทำ หน้าที่สร้างไทรอยด์ฮอร์โมนโดยใช้ไอโอดีนเป็น ป็ องค์ประกอบ ส่วนใหญ่ ฮอร์โมนนี้จะอยู่ในช่วงไทรอกซิน (thyroxine) แล้วปล่อยเข้าสู่ระบบหมุนเวีย วี นเลือด นอกจากนี้ยังพบเซลล์ซี (C-Cell) หรือ รื เซลล์พาราฟอลลิคิวลาร์ (parafollicicular cell) อยู่ระหว่างไทรอยด์ฟอลลิเคิล ซึ้งสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสมดุลของ แคลเซียม 15 รูปภาพที่่ 11 ต่อมไทรอยด์แสดงไทรอยด์ฟอลลิเคิล
ตับอ่อน (pancreas) ทำ หน้าที่เป็น ป็ ทั้ง ทั้ ต่อมมีท่อและต่อมไร้ท่อ ส่วนที่เป็น ป็ ต่อมมีท่อ มีหน้าที่สร้างเอนไซม์หลายชนิดแล้วส่งไปย่อย อาหารที่ลำ ไส้เล็ก ส่วนที่เป็น ป็ ต่อมไร้ท่อ คือ ไอส์เลตออฟลังเกอร์ฮันส์ (islets of Langerhans) กระจายอยู่ทั่ว ทั่ ไปในตับอ่อน ซึ่งประกอบด้วยเซลล์แอลฟา (a-cel) และ เซลล์บีตา (B-cel) ทำ หน้าที่สร้างฮอร์โมนที่ เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำ ตาลในเลือด กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากตัตั ตั บ ตั บอ่อ่ อ่ อ อ่ อน 16 รูปภาพที่ 12 ไอส์เลตออฟลังเกอรืฮั รืฮั นส์ในตับอ่อน
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ สำ ที่ สำสำสำคัคั คั ญ คั ญของต่ต่ ต่ อ ต่ อตัตั ตั บ ตั บอ่อ่ อ่ อ อ่ อน เป็น ป็ ฮอร์โมนที่สร้างจากเซลล์บีตาที่บริเ ริ วณส่วนกลางของไอส์เลตออฟลังเกอร์ฮันส์ หน้าที่สำ คัญคือ ลดระดับน้ำ ตาลในเลือดให้เป็น ป็ ปกติ เมื่อร่างกายมีน้ำ ตาลในเลือดสูง อินซูลินจะ หลั่ง ลั่ ออกมามากเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ตับและเซลล์กล้ามเนื้อนำ กลูโคสเข้าไปในเซลล์มากขึ้น และ เปลี่ยนกลูโคสให้เป็น ป็ ไกลโคเจนเพื่อเก็บสะสมไว้ ทำ ให้ระดับน้ำ ตาลในเลือดลดลงสู่ระดับปกติ ถ้าเซลล์ที่สร้างอินชูลินถูกทำ ลาย ระดับน้ำ ตาลในเลือดจะสูงกว่า ว่ ปกติทำ ให้เป็น ป็ โรคเบาหวาน เป็น ป็ ฮอร์โมนที่สร้างจากเซลล์แอลฟาที่บริเ ริ วณส่วนขอบของไอส์เลตออฟลังเกอร์ฮันส์ ทำ หน้าที่ ตรงข้ามกับอินซูลินคือ เมื่อระดับน้ำ ตาลในเลือดต่ำ กลูคากอนจะไปกระตุ้นการสลายตัวของ ไกลโคเจนจากตับและกล้ามเนื้อได้น้ำ ตาลกลูโคสแล้วปล่อยออกมา ทำ ให้เลือดมีระดับน้ำ ตาล เพิ่มขึ้น 17 อิอิ อิ น อิ นซูซู ซู ลิ ซู ลิ ลิ น ลิ น กลูลู ลู ค ลู คากอน
การควบคุคุ คุ ม คุ มระดัดั ดั บ ดั บน้ำน้ำน้ำน้ำตาลในเลืลื ลื อ ลื อดโดยอิอิ อิ น อิ นซูซู ซู ลิ ซู ลิ ลิ น ลิ นและกลูลู ลู ค ลู คากอน 18 รูปที่ 13 การควบคุมระดับน้ำ ตาลในเลือดโดยอินซูลินและกลูคากอน
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ ค ที่ ควบคุคุ คุ ม คุ มการสืสื สื บ สื บพัพั พั น พั นธุ์ธุ์ธุ์แธุ์ ละการเจริริญ ริริ เติติ ติ บ ติ บโต กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากอวัวั วัวั ยวะสืสื สื บ สื บพัพั พั น พั นธุ์ธุ์ธุ์ธุ์ การสืบพันธุ์และการเจริญ ริ เติบโตถูกควบคุมโดยฮอร์โมนหลายชนิด คือ กลุ่มฮอร์โมนจาก อวัยวะสืบพันธุ์ กลุ่มฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนอก กลุ่มฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า และกลุ่มฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ อัณฑะ (testis) และรังไข่ (ovary) นอกจากสร้างเซลล์สืบพันธุ์แล้วยังทำ หน้าที่เป็น ป็ ต่อมไร้ท่อ สามารถ สร้างฮอร์โมนประเภทสเตอรอยด์ได้หลายชนิด ฮอร์โมนเหล่านี้ควบคุมการทำ งานหน้าที่ทำ ให้เพศหญิงโดย ระยะก่อนการตกของอวัยวะสืบพันธุ์อย่างไรสะโพกผาย อวัยวะเพศอีสโทรเจนยังมีส่วนในต่อมใต้สมองส่วน หน้าในเพศชายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มเซลล์อินเตอร์สติเชียล (interstitial cell) หรือ รื เซลล์เลย์ดิกกล้ามเนื้อ มดลูกหดตัว (Leydig cell) ซึ่งแทรกอยู่ระหว่า ว่ งหลอดสร้างอสุจิในอัณฑะ จะได้รับการกระตุ้นโดย LH ท่อนำ ไข่ได้จากต่อมใต้สมองส่วนหน้าให้สร้างฮอร์โมนเพศชายซึ่งเรีย รี กว่า ว่ แอนโดรเจน (androgen) ซึ่ง ประกอบด้วยฮอร์โมนหลายชนิด ที่สำ คัญคือ เทสโทสเทอโรน (testosterone) มีหน้าที่ทำ ให้เพศชายมี ความสามารถในการสืบพันธุ์ กระตุ้นการสร้างสเปิร์ ปิร์ ม และควบคุมการมีลักษณะของเพศชาย 19
ฮอร์ร์ ร์โร์ มนจากอวัวั วั ย วั ยวะเพศ เพศหญิงมีแหล่งสร้างฮอร์โมนเพศ คือ ฟอลลิเคิลแลคอร์ปัสปั ลูเทียมในรังไข่ ดังรูป โดยระยะก่อนการตกไข่เซลล์ฟอลลิเคิลจะสร้างฮอร์โมนเพศหญิง คือ อีสโทรเจน (estrogen) ซึ่งมีทำ ให้เพศหญิงมีความสามารถในการสืบพันธุ์และ มีลักษณะของเพศหญิง 20 รูปภาพที่ 14 ฟอลลิเคิลและคอร์ปัสลูเทียม รูปภาพที่ 15 เซลล์อินเตอร์สติเชียล
กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมหมวกไตส่ส่ ส่ ว ส่ วนนอก แอนโดรเจนนอกจากสร้างจากอัณฑะแล้ว ยังสร้างจากต่อมหมวกไตส่วนนอกของทั้ง ทั้ เพศหญิง และเพศชายซึ่งมีปริม ริ าณเล็กน้อยเท่านั้น นั้ เมื่อเทียบกับที่สร้างจากอัณฑะ จึงมีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของร่างกายไม่มากนัก อย่างไรก็ตามถ้าต่อมนี้สร้างแอนโดรเจนมากเกินปกติ ย่อมทำ ให้เกิดความผิดปกติทางเพศได้ โดยเด็กจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถ สร้างอีสโทรเจนจากต่อมนี้ได้เช่นกัน แต่มีปริม ริ าณน้อยมากเมื่อเทียบกับที่สร้างจากรังไข่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมใต้ต้ ต้ ส ต้ สมองส่ส่ ส่ ว ส่ วนหน้น้ น้ า น้ า เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวต่อมใต้สมองส่วนหน้าจะหลั่ง ลั่ โกนาโดโทรฟิน ฟิ ซี่งประกอบด้วย FSH และ LH ทำ หน้าที่กระตุ้นการเจริญ ริ ของรังไข่และอัณฑะให้สร้างเซลล์สืบพันธุ์และฮอร์โมน เพศในเพศชาย FSH กระตุ้นการเจริญ ริ เติบโตของอัณฑะและหลอดสร้างอสุจิให้สร้างอสุจิ LH กระตุ้นกลุ่มเซลล์อินเตอร์สติเชียลให้หลั่ง ลั่ เทสโทสเทอโรนส่วนในเพศหญิง FSH กระตุ้น การเจริญ ริ ของฟอลลิเคิลในรังไข่ ขณะที่ฟอลลิเคิลเจริญ ริ จะสร้างอีสโทรเจน ส่วน LH จะ กระตุ้นการตกไข่ 21
โกรทฮอร์โมน (growthhormone; GH) จากต่อมใต้สมองส่วนหน้ามีหน้าที่ สำ คัญในการควบคุมการเจริญ ริ เติบโตของร่างกายอาจเรีย รี กฮอร์โมนชนิดนี้อีก ชื่อหนึ่งว่าว่ โซมาโทโทรฟิน ฟิ (somatotrophinหรือ รื somatotrophic hormone;STH) ทำ หน้าที่กระตุ้นให้ตับสังเคราะห์สารไปกระตุ้นการเจริญ ริ เติบโตของร่างกาย โกรทฮอร์ร์ ร์ร์โมน กรณีมี GH มากเกินไปในวัยเด็กจะทำ ให้ร่างกายสูงผิดปกติหรือ รื สภาพร่างยักษ์ (gigantism)หากร่างกายขาดฮอร์โมนนี้ในวัยเด็กจะมีลักษณะ เตี้ยแคระ หรือ รื สภาพแคระ (dwarfism) ถ้ามี GH สูงภายหลังโตเต็มวัยแล้ว ร่างกายจะไม่สูงใหญ่กว่าปกติมากนัก แต่ส่วนที่เป็นกระดูกแขน ขา คาง กระดูกขากรรไกรและกระดูกแก้มยังตอบสนองต่อ GH อยู่ ทำ ให้กระดูกเหล่านี้จะ ขยายใหญ่โดยเฉพาะบริเ ริ วณใบหน้า มือ เท้า นิ้วมือนิ้วเท้ามีขนาดใหญ่ ผิวหยาบ กร้านและหนาขึ้น น้ำ หนักเพิ่มขึ้น บวมตามข้อต่อ เรีย รี กลักษณะดังกล่าวนี้ว่า อะโครเมกาลี (acromegaly) กรณีณี ณีณีGH 22รูปภาพที่ 16 โกรทฮอรืโรื มนควบคุมการเจริญริเติบโตของร่างกาย รูปภาพที่ 17 ผลของโกรทออรืโรื มน
กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมไทรอยด์ด์ ด์ด์ ไทรอกซินในมนุษย์นอกจากทำ หน้าที่ควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกายดังกล่าวแล้วยัง ควบคุมการเจริญ ริ เติบโตของร่างกายและการเจริญ ริ ของสมอง การขาดไทรอกชินในวัยเด็กจะมี ผลให้พัฒนาการทางร่างกายและสมองด้อยลง การเจริญ ริ เติบโตช้ากว่า ว่ ปกติและปัญ ปั ญาอ่อน ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ ค ที่ ควบคุคุ คุ ม คุ มการรัรั รัรั กษาดุดุ ดุ ย ดุ ยภาพของน้ำน้ำน้ำน้ำและแร่ร่ ร่ร่ ธาตุตุ ตุตุ ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำ และสารต่าง ๆ โดยมีน้ำ ประมาณ 2 ใน 3 ของน้ำ หนักตัว น้ำ มีบทบาทสำ คัญในร่างกาย เช่น เป็น ป็ ตัวกลางของการเกิดปฏิกิริย ริ าเคมีของกระบวนการ เมแทบอลิซึม การย่อยอาหาร การหมุนเวีย วี นเลือด การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงการรักษาดุลยภาพของความเป็น ป็ กรด-เบสของเลือดและของเหลวต่าง ๆ ร่างกายจึง ต้องมีการรักษาดุลยภาพของน้ำ และแร่ธาตุซึ่งถูกควบคุมโดยฮอร์โมนหลายชนิด คือ ฮอร์โมน จากต่อมใต้สมองส่วนหลัง ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนอก ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์และ ต่อมพาราไทรอยด์ 23
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมหมวกไตส่ส่ ส่ ว ส่ วนนอก ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมใต้ต้ ต้ ส ต้ สมองส่ส่ ส่ ว ส่ วนหลัลั ลั ง ลั ง ADH หลั่ง ลั่ จากต่อมใต้สมองส่วนหลังทำ หน้าที่ควบคุมดุลยภาพของน้ำ โดย ADH ไป กระตุ้นให้ท่อขดส่วนปลายของหน่วยไตและท่อรวมดูดกลับน้ำ เข้าสู่หลอดเลือด ทำ ให้ปริม ริ าณ น้ำ ในเลือดสมดุลและกระตุ้นให้หลอดเลือดอาร์เทอรีห รี ดตัว มิเนราโลคอร์ทิคอยด์ (mineralocorticoids) สร้างจากต่อมหมวกไตส่วนนอก มีหน้าที่หลักในการควบคุมดุลยภาพของน้ำ และแร่ธาตุในร่างกาย ฮอร์โมนที่สำ คัญในกลุ่มนี้ คือ แอลโดสเทอโรน(aldosterone) ซึ่งควบคุมการทำ งานของไตในการดูดกลับน้ำ และ โซเดียมเข้าสู่หลอดเลือดและขับโพแทสเซียมออกจากท่อหน่วยไตให้สมดุลกับความต้องการ ของร่างกายทั้ง ทั้ ยังควบคุมสมดุลของความเข้มข้นของฟอสเฟตในร่างกายอีกด้วย การขาด แอลโดสเทอโรนจะมีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ไปพร้อมปัสปั สาวะเป็น ป็ จำ นวนมากและส่งผลให้ ปริม ริ าตรของเลือดในร่างกายลดลงอาจเสียชีวิต วิ เนื่องจากมีความดันเลือดต่ำ 24
แคลซิโทนิน (calcitonin) เป็น ป็ ฮอร์โมนที่สร้างจากเซลล์ซีของต่อมไทรอยด์ มีหน้าที่ กระตุ้นการสะสมแคลเซียมที่กระดูก ลดการดูดกลับแคลเซียมที่ไตและลดอัตราการดูดซึม แคลเซียมที่ลำ ไส้เล็ก ฮอร์โมนนี้ทำ งานร่วมกับฮอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์และวิต วิ ามิน D ฮอร์ร์ ร์ร์โมนจากต่ต่ ต่ อ ต่ อมไทรอยด์ด์ ด์ แ ด์ และต่ต่ ต่ อ ต่ อมพาราไทรอยด์ด์ ด์ด์ ฮอร์โมนจากต่อมทั้ง ทั้ สองนี้ทำ หน้าที่สำ คัญในการควบคุมสมดุลของแคลเซียม ร่างกาย นอกจากนี้แคลเซียมยังมีความสำ คัญต่อร่างกาย ดังนั้น นั้ ร่างกายจึงต้องมีการควบคุม แคลเซียมให้อยู่ในดุลยภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน 2 ชนิด คือ แคลชิโทนินและพาราทอร์ โมน พาราทอร์โมน (parathormone) หรือ รื พาราไทรอยด์ฮอร์โมน (parathyroid hormone;PTH) เป็น ป็ ฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมพาราไทรอยด์ (parathyroid gland) ซึ่งเป็น ป็ ต่อมขนาดเล็กติดอยู่ทางด้านหลังของต่อมไทรอยด์ข้างละ 2 ต่อม ต่อมนี้มีความ สำ คัญในสัตว์เ ว์ ลี้ยงลูกด้วยน้ำ นมเท่านั้น นั้ 25
การทำ งานของพาราทอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ในการควบคุมสมดุลของแคลเซียมจะทำ งานร่วมกับ แคลซิโทนินจากต่อมไทรอยด์ ต่ต่ ต่ อ ต่ อมพาราไทรอยด์ด์ ด์ด์ 26 รูปภาพที่ 18 ต่อมพาราไทรรอยด์
การทำ งานของพาราทอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ในการควบคุมสมดุลของแคลเซียมจะทำ งานร่วมกับ แคลซิโทนินจากต่อมไทรอยด์ ต่ต่ ต่ อ ต่ อมพาราไทรอยด์ด์ ด์ด์ 26 รูปภาพที่ 19 การควบคุมสมดุลของแคลเซียม
ฮอร์ร์ ร์โร์ มนที่ที่ ที่ที่ ที่ ทำ ที่ ทำทำทำหน้น้ น้น้ าที่ที่ ที่ที่ ที่ อื่ ที่ อื่ อื่อื่ อื่ น อื่ นๆ ออกซิโทชิน (oxytocin) หลั่ง ลั่ จากต่อมใต้สมองส่วนหลัง ทำ ให้กล้ามเนื้อเรีย รี บ ที่มดลูกบีบตัว นอกจากนี้ฮอร์โมนนี้ยังกระตุ้นกล้ามเนื้อรอบๆต่อมน้ำ นมให้หดตัว เพื่อขับน้ำ นมออกมาเลี้ยงลูกอ่อน โพรแลกทิน (prolactin) สร้างและหลั่ง ลั่ จากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ทำ หน้าที่ กระตุ้นต่อมน้ำ นมให้สร้างน้ำ นม เพื่อเลี้ยงลูกอ่อนหลังการคลอด เอนดอร์ฟิน ฟิ (endorphin) เป็น ป็ สารที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟิน ฟิ สร้างจากต่อมใต้ สมองส่วนหน้าและอาจสร้างจากเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ เป็น ป็ สารที่ทำ หน้าที่ระงับความ เจ็บปวดและช่วยเพิ่มความตื่นตัว มีชีวิต วิ ชีวาและความสุข ซึ่งสารนี้จะหลั่ง ลั่ จาก หลายสาเหตุ 27
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่สที่ ร้ร้ ร้ร้ างจากเนื้นื้ นื้ อ นื้ อเยื่ยื่ ยื่ อ ยื่ อต่ต่ ต่ า ต่ างๆ ฮิวแมนคอริโริ อนิกโกนาโดโทรฟิน ฟิ (human chorionic gonadotrophin; hCG) สร้างจากรก (placenta) จะเริ่ม ริ่ หลั่ง ลั่ หลังจากเอ็มบริโริ อฝัง ฝั ตัวที่ผนังมดลูกแล้ว เพื่อกระตุ้นคอร์ปัสปั ลูเทียมในรังไขให้เจริญ ริ ต่อไปและสร้างโพรเจสเทอโรนเพิ่มขึ้น ไทโมซิน (thymosin) สร้างจากเซลล์บางส่วนของไทมัส (thymus) ทำ หน้าที่ เกี่ยวกับการพัฒนาของลิมโฟไซต์ชนิดที่หรือ รื เซลล์ที่ในไทมัส ไทโมชินจึงเป็น ป็ ฮอร์โมน ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย แกสทริน ริ (gastrin) สร้างจากกระเพาะอาหาร มีหน้าที่กระตุ้นการหลั่ง ลั่ เอนไซม์และ กรดไฮโดรคลอริก ริ จากกระเพาะอาหาร 28
ฮอร์ร์ ร์ร์โมนที่ที่ ที่ ส ที่ สร้ร้ ร้ร้ างจากเนื้นื้ นื้ อ นื้ อเยื่ยื่ ยื่ อ ยื่ อต่ต่ ต่ า ต่ างๆ ชีครีทิ รีทิ น (secretin) สร้างจากลำ ไส้เล็กส่วนดูโอดินัม ขณะที่อาหารที่มีความเป็น ป็ กรดจากกระเพาะอาหารผ่านเข้าไปในดูโอดินัม ซีครีทิ รีทิ นจะกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่ง ลั่ โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต คอลีซิสโทไคนิน (cholecystokinin) สร้างจากลำ ไส้เล็กส่วนดูโอดินัม กระตุ้นการบีบตัวของถุงน้ำ ดีและตับอ่อนให้หลั่ง ลั่ เอนไชม์ อีรีโรี ทรโพอิทิน (erythropoietin) สร้างจากไต ทำ หน้าที่กระตุ้นการสร้างเซลล์ เม็ดเลือดแดงจากไขกระดูก 29
ร่างกายจำ เป็น ป็ ต้องมีการควบคุม การหลั่ง ลั่ ฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อ โดยอาจเป็นปริม ริ าณของฮอร์โมน เช่น คอร์ทิซอล เทสโทสเทอโรน ไทรอกซินหรือ รื การควบคุมระดับ สารเคมีอื่นๆในเลือด เช่น กลูโคส แคลเซียมและการควบคุมโดย ระบบประสาท การรัรั รัรั กษาสมดุดุ ดุ ล ดุ ลของฮอร์ร์ ร์ร์โมน 30 รูปภาพที่ 20 การควบคุมการหลั่งลั่ฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อ เรื่รื่ รื่รื่ อ รื่รื่ งที่ที่ ที่ที่5
แบบป้อ ป้ นกลับยับยั้ง ยั้ (negative feedback) มีผลยับยั้ง ยั้ ต่อมไร้ท่อ ที่กระตุ้นการหลั่ง ลั่ ฮอร์โมน ส่วนใหญ่มีรูปแบบการควบคุมโดยวิธี วิธี การควบคุมแบบป้อ ป้ นกลับ (Feedback control) มีอยู่2แบบ คือ การควบคุคุ คุ ม คุ มการหลั่ลั่ ลั่ ง ลั่ ง ลั่ลั่ ฮอรโมน แบบป้อ ป้ นกลับกระตุ้น (positive feedback) มีผลไปกระตุ้นให้มีการ สร้างหรือ รื หลั่ง ลั่ ฮอร์โมนนั้น นั้ มากขึ้น 31
การควบคุมการหลั่งพาราทอร์โมนแบบ ป้อนกลับยับยั้ง การควบคุมการหลั่งพาราทอร์โมนแบบ ป้อนกลับยับยั้ง เมื่อระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ กว่า ว่ ปกติ ต่อมพาราไทรอยด์จะหลั่ง ลั่ พาราทอร์โมนไปกระตุ้นการสลาย แคลเซียมจากกระดูกเข้าสู่ระบบ หมุนเวีย วี นเลือด เมื่อระดับแคลเซียมปกติ ก็จะยับยั้ง ยั้ การหลั่ง ลั่ พาราทอร์โมน 32 รูปภาพที่ 21 การควบคุมการหลั่่งพาราทอร์โมนแบบป้อนกลับยับยั้ง
การควบคุมการหลั่งไทรออกซิน แบบป้อนกลับยับยั้ง ยั้ การควบคุมการหลั่งไทรออกซิน แบบป้อนกลับยับยั้ง ยั้ เมื่อปริม ริ าณไทรอกซินในเลือดต่ำ กว่า ว่ ปกติ จะทำ ให้ไฮโพทาลามัสหลั่ง ลั่ TRH เพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นต่อมใต้สมอง ส่วนหน้า ให้หลั่ง ลั่ TSH ไปกระตุ้นต่อม ไทรอยด์ให้สร้างและหลั่ง ลั่ ไทรอกซิน เพิ่มขึ้น เมื่อปริม ริ าณไทรอกซินในเลือด อยู่ในระดับปกติ ก็จะยับยั้ง ยั้ การหลั่ง ลั่ ของ TRH และยับยั้ง ยั้ การสร้าง TSH 33 รูปภาพที่ 22 การควบคุมการหลั่งลั่ไทรอกซินแบบป้อ ป้ นกลับยับยั้ง ยั้
เมื่อศรีษ รี ะเด็กมาดันบริเ ริ วณปากมดลูก หน่วยรับความรู้สึกบริเ ริ วณนั้น นั้ ก็จะส่ง กระแสประสาทไปยังต่อมใต้สมองส่วหลัง ให้หลั่ง ลั่ ออกซิโทซินมากระตุ้น การบีบตัว ของกล้ามเนื้อเรีย รี บที่มดลูก เพื่อดันทารก ออกมาทางช่องคลอด โดยแรงกดของ ทารกก็จะเพิ่มระดับการหลั่ง ลั่ ออกซิโทซิน สูงขึ้น จนกระทั่ง ทั่ ทารกคลอดออกมาและ การหลั่ง ลั่ ออกซิโทซินก็จะลดลง การควบคุมการหลั่งไทรอกซิน แบบป้อนกลับยับยั้ง การควบคุมการหลั่งไทรอกซิน แบบป้อนกลับยับยั้ง 34 รูปภาพที่ 23 การควลบคุมการหลั่งลั่ออกซินแบบป้อนกลับกระตุ้น
1. เพราะเหตุตุ ตุ ใ ตุ ใด ฮอร์ร์ ร์ร์โมนกลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ เพปไทด์ด์ ด์ ห ด์ หรืรือ รืรืโปรตีตี ตี น ตี นจึจึ จึ ง จึ งมีมี มี ตั มี ตั ตั ว ตั วรัรั รัรั บอยู่ยู่ยู่บยู่ ริริเ ริริ วณเยื่ยื่ ยื่ อ ยื่ อหุ้หุ้หุ้มหุ้ เซลล์ล์ ล์ล์ คำคำคำคำถามท้ท้ ท้ า ท้ ายบท 35 2. เซลล์ที่มีการสังเคราะห์ฮอร์โมนกลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีนควรจะมี ออร์แกเนลล์ชนิดใดมากเพราะเหตุใด 2. เซลล์ที่มีการสังเคราะห์ฮอร์โมนกลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีนควรจะมี ออร์แกเนลล์ชนิดใดมากเพราะเหตุใด 3. เพราะเหตุตุ ตุ ใ ตุ ใด อีอี อี ส อี สโทรเจนจึจึ จึ ง จึ งเข้ข้ ข้ า ข้ าไปจัจั จั บ จั บกักั กั บ กั บตัตั ตั ว ตั วรัรั รัรั บที่ที่ ที่ อ ที่ อยู่ยู่ยู่ภยู่ ายในเซลล์ล์ ล์ เ ล์ เป้ป้ป้ป้ าหมายได้ด้ ด้ด้
1. เพราะเหตุใด ฮอร์โมนกลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีนจึงมีตัวรับอยู่บริเ ริ วณเยื่อหุ้มเซลล์ เฉลยคำคำคำคำถามท้ท้ ท้ า ท้ ายบท 36 2. เซลล์ที่มีการสังเคราะห์ฮอร์โมนกลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีนควรจะมีออร์แกเนลล์ชนิด ใดมากเพราะเหตุใด 3. เพราะเหตุใด อีสโทรเจนจึงเข้าไปจับกับตัวรับที่อยู่ภายในเซลล์เป้า ป้ หมายได้ เพราะฮอร์โมนกลุ่มเพปไทด์หรือ รืโปรตีนไม่ละลายในลิพิดจึงไม่สามารถลำ เลียงผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ ได้เซลล์เป้า ป้ หมายจึงต้องมีโปรตีนตัวรับอยู่ที่บริเ ริ วณเยื่อหุ้มเซลล์เพื่อจับกับฮอร์โมนกลุ่มนั้น นั้ ๆ RER และกอลจิคอมเพล็กซ์ เพราะที่ผิวของ RER มีไรโบโซมทำ หน้าที่สังเคราะห์โปรตีน เกาะอยู่ เมื่อโปรตีนที่ RER สังเคราะห์แล้วจะถูกส่งมาที่กอลจิคอมเพล็กซ์ ซึ่งจะทำ หน้าที่ รวบรวม โปรตีนแล้วสร้างเวสิเคิลที่บรรจุฮอร์โมนส่งออกนอกเซลล์ เพราะอีสโทรเจนเป็น ป็ ฮอร์โมนในกลุ่มสเตอรอยด์ที่มีสมบัติละลายได้ในลิพิดจึงลำ เลียงเข้าสู่เซลล์ ซึ่งเยื่อหุ้มเซลล์มีฟอสโฟลิพิดเป็น ป็ องค์ประกอบและมีสมบัติเป็น ป็ เยื่อเลือกผ่านที่ทำ ให้สารที่ละลายได้ ในลิพิดสามารถเข้าสู่เซลล์ได้และสามารถจับกับตัวรับที่อยู่ภายในเซลล์เป้า ป้ หมายได้
สมาชิกในกลุ่ม นายธนดล ยี่สุ่นน้อย เลขที่ 2 นายพลสิทธิ์ วงศ์พรนิมิต เลขที่ 7 นางสาวศศินภา บัวหลวง เลขที่ 9 นางสาวละ แสงทอง เลขที่ 13 นางสาวชลธิชา ไผ่หล้า เลขที่ 15 นายรัชชานนท์ เรือนแก้ว เลขที่ 25 นายพงศธร พงพันธ์ เลขที่ 26