เครื่องมือวัดผลด้านจิตพิสัย เสนอ อาจารย์ ดร.รอง ปัญสังกา
คณะผู้จัดท า 2 นายพายุ อุปพงษ์ รหัสนักศึกษา 6620811105 นางสาวกิรนันต์ จ าเริญ รหัสนักศึกษา 6620811110 นางสาวฐิติพร จิราธนทัต รหัสนักศึกษา 6620811131 นายเกรียงไกร แสงไผ่แดง รหัสนักศึกษา 6620811136 นายทวิช แก้วชิน รหัสนักศึกษา 6620811137
ความหมายของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 3 จิตพิสัย (Affective Domain) เป็นหนึ่งในด้านพฤติกรรม การเรียนรู้ของ Bloom โดย Bloom ได้กล่าวว่า การเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากเดิมไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ค่อนข้างถาวร และพฤติกรรมใหม่นี้เป็นผลมาจากประสบการณ์หรือการฝึกฝน มิใช่ เป็นผลจากการตอบสนองตามธรรมชาติหรือสัญชาตญาณ วุฒิภาวะ หรือความบังเอิญ
ความหมายของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย หากบุคคลเกิดการเรียนรู้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้ 1. การเปลี่ยนแปลงทางด้านความรู้ความเข้าใจ และความคิด (Cognitive Domain) 2. การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ทัศนคติค่านิยม (Affective Domain) 3. ความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย (Psychomotor Domain) **โดยในที่นี้ จะเน้นในเรื่องของ การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ทัศนคติค่านิยม 4
ความหมายของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย จิตพิสัย (Affective Domain) เป็นพฤติกรรมทางด้านจิตใจ ซึ่งจะ เกี่ยวกับค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจ และ คุณธรรม พฤติกรรมด้านนี้อาจไม่เกิดขึ้นทันที ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสม และสอดแทรกสิ่งที่ดีงามอยู่ตลอดเวลา จะท าให้พฤติกรรมของผู้เรียน เปลี่ยนไปในแนวทางที่พึงประสงค์ได้ จะประกอบด้วย พฤติกรรมย่อยๆ 5 ระดับ ได้แก่ 1)การรับรู้ 2)การตอบสนอง 3)การให้ค่านิยม 4)การจัดรวบรวม และ 5)การพัฒนาลักษณะนิสัยจากค่านิยม 5
ความส าคัญของเครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 6 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ระบุไว้ในหมวด 1 มาตรา 6 ว่า การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่ สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ และ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการด ารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข จากค ากล่าวนี้ท าให้การพัฒนาด้านจิตพิสัยเป็นสิ่งส าคัญ ที่จะเป็น พื้นฐานให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่ระบุไว้
ความส าคัญของเครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 7 ดังนั้น ครูผู้สอนจึงต้องมีการวัดและประเมินพฤติกรรมของผู้เรียน ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย เพื่อจะวัดพฤติกรรมที่แสดงออกของผู้เรียนได้ อย่างเหมาะสมและถูกต้อง
8 รับ-ตอบสนอง-นิยม -จัดรวบรวม-พัฒนานิสัย
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 1.การรับรู้เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น ต่อปรากฏการณ์ หรือสิ่งเร้าอย่างใดอย่าง หนึ่ง ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการแปล ความหมายของสิ่งเร้านั้นว่าคืออะไร แล้ว จะแสดงออกมาในรูปของความรู้สึกที่ เกิดขึ้น 9
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย ตัวอย่างการสร้างการรับรู้ : ครูอาจสร้างการรับรู้โดยการบรรยาย เล่านิทาน หรือใช้สื่อดิจิทัล เช่น การเปิดการ์ตูน คุณธรรม จาก Youtube ให้นักเรียนดู การเปิด คลิปสร้างแรงบันดาลใจ แล้วครูถามค าถามว่า รู้สึกอย่างไร ได้ข้อคิดอะไร จากคลิปวิดีโอนี้ หรือ ให้นักเรียนค้นหาความรู้จาก Google เช่น การสืบค้น “มารยาทในชั้นเรียน” 10
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 2. การตอบสนอง เป็นการกระท า ที่แสดงออกมาในรูปของความเต็มใจ ยินยอม และพอใจต่อสิ่งเร้านั้น ซึ่งเป็น การตอบสนองที่เกิดจากการเลือกสรรแล้ว 11 “ผมชอบการจัดระเบียบสิ่งของครับ ที่ผม ชอบเพราะว่าจะได้หยิบใช้สิ่งของได้ง่ายครับ”
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย ตัวอย่างการให้นักเรียนตอบสนอง : ค รูอ า จ ก า ห น ด หั ว ข้ อ “ คุ ณ ธ ร ร ม จริยธรรม” แล้วให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่ตนชอบ แล้วน ามาสร้างชิ้นงาน เช่น ให้นักเรียนอัดคลิปสั้น ตนเองที่ก าลังท ากิจกรรมงานบ้านที่ชื่นชอบลง TikTok พร้อมพูดบอกเหตุผลว่าท าไมถึงชอบ 12
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 3. การเกิดค่านิยม การเลือกปฏิบัติ ในสิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคม การ ยอมรับนับถือในคุณค่านั้นๆ หรือปฏิบัติ ตามในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนกลายเป็น ความเชื่อ แล้วจึงเกิดทัศนคติที่ดีในสิ่งนั้น 13 การประกวดหนังสั้นคุณธรรม
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย ตัวอย่างการให้นักเรียนแสดงถึงค่านิยมของตน : อาจให้นักเรียนสร้างหนังสั้นคุณธรรม โดยใช้ App ในมือถือตัดต่อ เช่น Kinemaster พร้อมบอก ข้อคิดในละคร และเหตุผลว่านักเรียนมีความเชื่อ อย่างไร ท าไมเลือกท าละครหัวข้อนี้ 14 การประกวดหนังสั้นคุณธรรม
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 4.การจัดรวบรวม เป็นการจัดระบบ การสร้างแนวคิด จัดระบบของค่านิยมที่ เกิดขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ ถ้าเข้ากัน ได้ก็จะยึดถือต่อไปแต่ถ้าขัดกันอาจไม่ ยอมรับ หรืออาจจะยอมรับค่านิยมใหม่ โดยยกเลิกค่านิยมเก่า 15
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 16 ตัวอย่างการให้นักเรียนแสดงขั้น การจัดรวบรวม: ครูอาจให้ท า Mind Mapping ด้วยโปรแกรม ส านักงานหรือ CANVA เกี่ยวกับ ทัศนคตินักเรียน ที่มีต่อค่านิยม ต่างๆ (แต่ครูต้องใจกว้างในการ รับความคิดเห็นด้วย)
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 5.การพัฒนาลักษณะนิสัยจากค่านิยม บุคลิกภาพการน าค่านิยมที่ยึดถือ มาแสดงพฤติกรรมที่เป็นนิสัยประจ าตัว ให้ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดี งาม พฤติกรรมด้านนี้ จะเกี่ยวกับความรู้สึกและจิตใจ ซึ่งจะเริ่มจากการได้ รับรู้จากสิ่งแวดล้อม แล้วเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ ขยายกลายเป็นความรู้สึก ด้านต่างๆ จนกลายเป็นค่านิยม และยังพัฒนาต่อไปเป็นความคิด อุดมคติ ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมทิศทาง พฤติกรรมของคน คนจะรู้ดีรู้ชั่วอย่างไรนั้น ก็ เป็นผลของพฤติกรรมด้านนี้ 17
ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัย ตัวอย่างการให้นักเรียนแสดงลักษณะนิสัยจาก ค่านิยม : ครูอาจสร้าง “ระบบสมุดบันทึกความดี ออนไลน์” แล้วก าหนดกิจวัตรประจ าวันเป็นข้อๆ ให้นักเรียนเข้าไปติ๊กเช็คพฤติกรรมของตนเอง ก็จะ สามารถเช็คได้ว่า นักเรียนท าพฤติกรรมใดเป็น ประจ า หรืออาจให้โพสต์กิจวัตรอันใดอันหนึ่งที่ อยากสร้างนิสัย โดยให้นักเรียนโพสต์รูปส่งในกลุ่ม ใน Facebook หรือ LINE 18
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยมีหลายประเภท เช่น แบบตรวจสอบ รายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบวัดเชิง สถานการณ์ เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือแต่ละประเภทมีลักษณะ คุณสมบัติ และความ เหมาะสมกับพฤติกรรมที่จะวัด ต่างกัน อีกทั้งการวัดประเมินด้านจิตพิสัยเพียง ครั้งเดียวไม่สามารถสรุปพฤติกรรมของผู้เรียน ได้ ต้องอาศัยระยะเวลาในการวัด อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมอย่างเป็น ประจ า จึงจะถือว่าเป็น พฤติกรรมที่แท้จริงของผู้เรียน 19
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 1. แบบตรวจสอบรายการ (Checklist) คือ รายการที่ก าหนดไว้เกี่ยวกับ พฤติกรรม ที่ต้องการให้กระท าหรือวิธีการที่มีจุดประสงค์ว่าจะให้ท าตามนั้น การ ใช้แบบส ารวจเป็นการ ก าหนดเป็นน้ าหนักคะแนนว่า ได้ หรือ ไม่ได้ ถ้าผ่านหรือ ได้แสดงว่าผู้ปฏิบัติได้กระท าตาม รายการนั้นถูกต้อง แต่ถ้า ไม่ได้ ก็แสดงว่าท า ไม่ถูกต้อง (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2553; มลิวัลย์ ผิวคราม,2559) 20
ตัวอย่างแบบตรวจสอบรายการ 21
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 2. มาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) มีลักษณะคล้ายแบบส ารวจ รายการ แต่ก าหนดระดับคะแนนให้แก่รายการตามความคิดเห็นของผู้สังเกตว่า รายการนั้นๆ ผู้เรียน มีพฤติกรรมตามข้อความหรือรายการนั้นอยู่ในระดับใด นิยมใช้แบบวัดแบบลิเคิร์ท(Likert scales) สามารถระบุระดับของความรู้สึกได้ เช่น เห็นด้วยน้อยที่สุด เห็นด้วยน้อย เห็นด้วย เห็นด้วยมาก เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยใช้เป็นคะแนน 1 2 3 4 5 หากค าถามเป็นลักษณะลบให้กลับการให้คะแนน แล้วน ามา แปลผลให้ถูกต้อง ซึ่งมาตราส่วนประมาณค่ามีหลายรูปแบบ เช่น แบบตัวเลข แบบสัญลักษณ์ เป็นต้น (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2553) 22
ตัวอย่างแบบมาตราส่วนประมาณค่า 23
24 ตัวอย่างแบบมาตราส่วนประมาณค่า
25 ตัวอย่างแบบมาตราส่วนประมาณค่า
26 ตัวอย่างแบบตรวจสอบรายการ
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 3. แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นเครื่องมือวัดผลชนิดหนึ่งที่ผู้ท าหน้าที่ในการ วัด ใช้ประสาทสัมผัสเป็นเครื่องมือ ในการเรียนการสอนสิ่งที่ครูผู้สอนจะสังเกต ผู้เรียน คือ ผลงานและพฤติกรรมของผู้เรียน เช่น สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน ในขณะที่เรียนว่ามีความสนใจใน บทเรียนเพียงไรมีความขยันหมั่นเพียรหรือ ไม่ให้ความร่วมมือในการท างานกลุ่มเพียงใด เป็นต้น 27
28 ตัวอย่างแบบสังเกตพฤติกรรม
29 ตัวอย่างแบบสังเกตพฤติกรรม
30 ตัวอย่างแบบสังเกตพฤติกรรม
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 4. แบบสอบถาม คือ แบบวัดที่มีค าถามเป็นชุดๆ ที่รวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ เป็นเครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูลที่ให้ผู้ตอบเขียนตอบเอง มีหลายประเภท เช่น การเขียนตอบสั้นๆ ให้ท าเครื่องหมายเพื่อตอบ เป็นต้น โดยมีส่วนประกอบ คือ (1) ค าชี้แจงในการตอบแบบสอบถาม โดยระบุจุดมุ่งหมายของการ สอบถาม ค าถามมีกี่ตอนกี่ข้อ แสดงความรับผิดชอบ(ถ้ามี) เช่น “การตอบ แบบสอบถามครั้งนี้ถือเป็นความลับ จะไม่เกิดผลเสียหายแก่ตัวท่าน และจะ วิเคราะห์โดยภาพรวม” เป็นต้น และตอนสุดท้ายของค าชี้แจงควรกล่าวขอบคุณใน ความร่วมมือ 31
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย (2) ข้อมูล ทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เช่น อายุ เพศ ระดับ การศึกษา อาชีพ เป็นต้น (3) ประเด็น ค าถามเกี่ยวกับพฤติกรรมที่จะวัด อาจจะแบ่งเป็นด้าน หรือค าถามวัดพฤติกรรมย่อย ๆ ก็ได้ 32
33 ตัวอย่างแบบสอบถาม
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 5. แบบสัมภาษณ์ คือ แบบวัดที่ประกอบด้วยกลุ่มของค าถาม ที่ใช้ถามด้วย การสนทนาอย่างมีจุดมุ่งหมาย ที่ผู้สัมภาษณ์เป็นผู้ถามและผู้ฟังเป็นผู้ตอบค าถาม ด้วยภาษาพูด นิยมใช้เป็นเครื่องมือวัดผลการศึกษาเกี่ยวกับคุณลักษณะด้าน ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ เช่น เกี่ยวกับบุคลิกภาพ การปรับตัว เจตคติ ความสนใจ รวมทั้งคุณลักษณะเกี่ยวกับการปฏิบัติใน ด้านวิธีการปฏิบัติ การใช้การสัมภาษณ์ เพื่อวัดความสามารถในด้านความรู้ความคิดทาง สติปัญญาก็สามารถใช้ได้ แต่ต้อง ระมัดระวังในกรณีที่ผู้ถูกสัมภาษณ์มีหลายคน และใช้ค าถาม คนละชนิดคนละเรื่อง ซึ่งจะท าให้เกิดปัญหาในเรื่องการเปรียบเทียบคะแนน (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2553) 34
35 ตัวอย่างแบบสัมภาษณ์
เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 6. แบบวัดเชิงสถานการณ์ เป็นการจ าลองหรือสร้างเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น แล้วให้ บุคคลแสดงความรู้สึกว่าตนเองจะกระท าหรือมีความเห็นอย่างไรต่อ สถานการณ์นั้น ซึ่งอาจจะใช้วิธีการเขียนตอบ หรือบอกความเห็น หรือให้เลือก ตัวเลือกที่ก าหนดให้ 36
37 ตัวอย่างแบบวัดเชิงสถานการณ์
การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย โดยทั่วไปมักจะมีขั้นตอนการสร้างดังต่อไปนี้ 1. ก าหนดคุณลักษณะ หรือ เป้าหมายที่จะวัด หรือตัวแปรที่จะวัด 2. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3. นิยามศัพท์เฉพาะ 4. เลือกเครื่องมือวัดจิตพิสัย 5. สร้างข้อความ 6. ตรวจสอบความเที่ยงตรง 7. ทดลองเครื่องมือ 8. ปรับปรุงคุณภาพของเครื่องมือตามผลการวิเคราะห์ 9. สร้างเกณฑ์ในการให้คะแนน 38
การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย โดยทั่วไปมักจะมีขั้นตอนการสร้างดังต่อไปนี้ 1. ก าหนดคุณลักษณะ หรือ เป้าหมายที่จะวัด หรือตัวแปรที่จะวัด โดยระบุให้ชัดเจนว่า ต้องการวัดอะไรเช่น ความสนใจต่อการเรียน วิทยาศาสตร์ เจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เป็นต้น 2. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบว่าเจตคติที่ต้องการศึกษา เกี่ยวข้องกับ อะไร มีองค์ประกอบย่อยๆ อะไรบ้าง และ มีตัวแปรหลัก ตัวแปรย่อย อะไรบ้าง 39
การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย 3. นิยามศัพท์เฉพาะ เป็นการก าหนดความหมายของสิ่งที่จะวัดให้ชัดเจน โดยการศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับคุณลักษณะ วิเคราะห์คุณลักษณะของสิ่งที่จะวัดว่า แต่ละคุณลักษณะเหล่านั้นเป็นอย่างไร สิ่งที่ จะวัดคืออะไร มีองค์ประกอบ อะไรบ้าง มีรายละเอียดอย่างไร แล้วจึงนิยามศัพท์เฉพาะ 4. เลือกเครื่องมือวัดจิตพิสัย เครื่องมือที่จะใช้วัดจิตพิสัยต้องเหมาะสมกับ คุณลักษณะที่จะวัด ได้แก่ แบบสอบถาม แบบมาตรประมาณค่า แบบทดสอบ แบบส ารวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต เป็นต้น 40
การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย 5. สร้างข้อความ โดยเขียนให้ครอบคลุมคุณลักษณะทุกด้าน และใน คุณลักษณะแต่ละด้านควร มี หลาย ๆ ข้อด้วยการสร้างข้อความเพื่อเป็น เครื่องมือในการวัด 6. ตรวจสอบความเที่ยงตรง ด้วยการน าข้อความดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญ จ านวน 3 ท่าน ตรวจสอบข้อความแต่ละข้อความว่า เขียนได้ตรงกับนิยามศัพท์ เฉพาะหรือไม่ หากข้อความไม่มีความเที่ยงตรงก็ท าการปรับปรุงหรือเขียน ข้อความใหม่เพิ่ม 41
การสร้างเครื่องมือวัดจิตพิสัย 7. ทดลองเครื่องมือ น าเครื่องมือที่สร้าง ไปทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายว่ามี ความรู้สึกหรือความ คิดเห็นอย่างไร เช่น เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง หรือ ยอมรับ ไม่ยอมรับ แล้วน าผลที่ได้มา ท าการวิเคราะห์ตามเทคนิควิธีของ แต่ละชนิดของเครื่องมือวัด 8. ปรับปรุงคุณภาพของเครื่องมือตามผลการวิเคราะห์แล้วน าไปทดลองใช้ แล้วน ามาวิเคราะห์จนแน่ใจในคุณภาพ 9. สร้างเกณฑ์ในการให้คะแนน พร้อมทั้งเขียนคู่มือการใช้เครื่องมือ ดังกล่าว 42
สรุปการสร้างเครื่องมือวัดผลด้านจิตพิสัย ล าดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัยตามทฤษฎีของบลูม มี 5 ระดับขั้น ได้แก่ การรับ การตอบสนอง การให้ค่านิยม การจัดรวบรวม การพัฒนา ลักษณะนิสัยจากค่านิยม เครื่องมือที่จะใช้วัดจิตพิสัยต้องเหมาะสมกับ คุณลักษณะที่จะวัด ได้แก่ แบบสอบถาม แบบมาตรประมาณค่า แบบทดสอบ แบบส ารวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต เป็นต้น โดยมีขั้นตอนในการสร้าง เครื่องมือคือ ก าหนดคุณลักษณะสิ่งที่จะวัด นิยามความหมายของสิ่งที่จะวัด สร้างข้อความ การตรวจสอบความเที่ยงตรง ทดลองเครื่องมือ ปรับปรุง เครื่องมือ และสร้างเกณฑ์ให้คะแนน 43
44 Q&A เชิญทุกท่านซักถาม และให้ข้อเสนอแนะ
45 เครื่องมือวัดผลด้านจิตพิสัย ขอขอบพระคุณทุกท่าน