การทดลองเรอื่ ง (2 คะแนน) การตรวจสอบแป้งในอาหาร
วตั ถปุ ระสงค์ (5 คะแนน) เพอ่ื ทดสอบหาแป้งในอาหารชนิดต่าง ๆ ได้
สมมตฐิ าน (4 คะแนน) ถา้ หยดสารละลายไอโอดนี ทำให้แป้งเปล่ียนเป็นสนี ำ้เงินอมมว่ ง
ดงั น้นั เมื่อหยดสารละลายไอโอดีนในอาหารท่ีมีแป้งเปน็ ส่วนประกอบจะเปล่ียนเปน็ สีนำ้เงนิ อมม่วง
กำหนดตวั แปร (4 คะแนน) ตวั แปรต้น ชนดิ ของอาหารท่ีทดสอบ
ตวั แปรตาม ผลการเปลี่ยนแปลงเมอื่ หยดสารละลายไอโอดีน
ตวั แปรควบคมุ ปริมาณสารที่หยด
วสั ดอุ ุปกรณ์ (3 คะแนน)
1. ข้าวสวย 2. ข้าวโพดตม้
3. ขนมปงั 4. เนื้อไก่สุก
5. จานหลุมพลาสตกิ 6. สารละลายไอโอดนี 7. หลอดหยด
วธิ กี ารทดลอง (12 คะแนน)
1 นำข้าวสวย ข้าวโพดต้ม ขนมปงั เน้ือไกส่ กุ ปริมาณเท่า ๆ กนั ใส่ลงลงในจานหลุมพลาสติก
สงั เกตสีของอาหารแต่ละชนิดและบันทึกผล
2. หยดสารละลายไอโอดนี จำนวน 2 หยด ลงบนอาหารในแต่ละหลุม สงั เกต การเปลย่ี นแปลง และบันทึกผล
บันทกึ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
ชนดิ อาหารทีท่ ดสอบ สีของอาหารก่อนทดลอง ผลการทดสอบ
ข้าวสวย สขี าว เปล่ยี นแปลงเปน็ สนี ํ้าเงินอมม่วง
ข้าวโพดตม้ สีเหลือง เปลยี่ นแปลงเป็นสีน้าํ เงนิ อมม่วง
ขนมปงั สีขาว เปล่ียนแปลงเป็นสนี ้ําเงนิ อมม่วง
ไก่ตม้ สุก สนี ้ำตาล
ไมเ่ ปลย่ี นแปลง
อภปิ รายและสรปุ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
จากการทดลอง ขา้ วสวย ขา้ วโพด และขนมปัง เปลีย่ นเปน็ สนี ำเ้ งนิ อมมว่ ง แสดงว่ามีแปง้ เปน็ สว่ นประกอบ
สว่ นไกต่ ม้ สุก ไมเ่ ปล่ียนเป็นสีน้ำเงินอมมว่ ง แสดงวา่ ไม่มีแป้งเปน็ ส่วนประกอบ
การทดลองเร่ือง (2 คะแนน) การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน
วตั ถุประสงค์ (5 คะแนน) เพอ่ื ทดสอบการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนานได้
สมมติฐาน (4 คะแนน) ถา้ การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมเปน็ การตอ่ หลอดไฟเรยี งต่อกันทำใหไ้ ฟฟ้าไหล
ผ่านครบวงจร ดังนน้ั หากนำเอาหลอดไฟฟา้ ออก 1 หลอดวงจรทีเ่ หลือจะไม่ทำงาน
กำหนดตวั แปร (4 คะแนน)
ตัวแปรตน้ ชนิดของการตอ่ หลอดไฟฟา้
ตวั แปรตาม ความสว่างของหลอดไฟ
ตัวแปรควบคมุ จำนวนหลอดไฟที่ใช้ จำนวนถา่ นที่ใช้
วัสดุอปุ กรณ์ (3 คะแนน)
1. หลอดไฟฟ้า 2. สายไฟฟ้า 3. ถา่ นไฟฉาย 4. รางถ่าน
วธิ กี ารทดลอง (12 คะแนน)
1. ทดลองตอ่ วงจรไฟฟ้าท้ังแบบอนุกรมและแบบขนาน
2.เปรยี บเทยี บความสวา่ งของหลอดไฟฟ้าและลกั ษณะของวงจรไฟฟ้าทั้งสอง สังเกตและบันทึกผลลงในตาราง
3.จากนั้นถอดหลอดไฟฟ้าทั้งสองวงจรออกหนง่ึ หลอด สงั เกตและบนั ทกึ ผล
บนั ทกึ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
ชนดิ การตอ่ หลอดไฟฟ้า ความสวา่ งของหลอดไฟ ถอดหลอดไฟฟออก 1 หลอด
ต่อหลอดไฟแบบอนุกรม น้อย วงจรเปดิ
ต่อหลอดไฟแบบขนาน มาก วงจรปิด
อภิปรายและสรปุ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
จากการทดลอง สรุปได้ว่า
ถา้ เป็นการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมจะทำให้หลอดไฟฟา้ ในวงจรสว่างน้อยกวา่ การต่อหลอดไฟแบบขนาน
และการต่อหลอดไฟแบบอนุกรมหากนําหลอดไฟออกหนง่ึ หลอด
หลอดท่เี หลือในวงจรจะดับไปด้วยเน่ืองจากกลายเปน็ วงจรเปิด
ส่วนการต่อหลอดไฟแบบขนานหากนําหลอดไฟออกหนึ่งหลอด หลอดทเี่ หลือในวงจรยังคงสว่างอยู่
การทดลองเรือ่ ง (2 คะแนน) การแยกสารผสมโดยการร่อน และการใชแ้ มเ่ หลก็ ดงึ ดูด
วตั ถุประสงค์ (5 คะแนน) เพอื่ ทดสอบการแยกสารผสมโดยการรอ่ น และการใชแ้ ม่เหล็กดึงดดู ได้
สมมติฐาน (4 คะแนน) ถ้าสารทต่ี ้องการแยกนั้นมีขนาดแตกตา่ งหรือเป็นของเหลวหรอื ของแข็ง
ดงั น้นั จะต้องใช้วธิ แี ยกทแ่ี ตกตา่ งกนั
กำหนดตัวแปร (4 คะแนน)
ตวั แปรต้น ชนิดของสารท่ีผสมกนั
ตวั แปรตาม ผลของการแยกสาร
ตัวแปรควบคุม ปริมาณทรายทผี่ สม
วัสดุอุปกรณ์ (3 คะแนน)
1. สารผสมระหวา่ งทรายกับข้าวสาร 2. สารผสมระหวา่ งทรายกับผงตะไบเหลก็
3. ตะแกรงท่ีใชส้ ำหรบั การร่อน 1 ใบ 4. ถาดพลาสตกิ 1 ใบ 5. แมเ่ หลก็ 1 แท่ง
วิธีการทดลอง (12 คะแนน)
1 ออกแบบการทดลองเพ่ือแยกสารผสม ระหวา่ งทรายกับข้าวสาร โดยใช้วธิ ีตะแกรงร่อน
2. ออกแบบการทดลองเพื่อแยกสารผสม ระหวา่ งทรายกับผงตะไบเหล็กโดยใชแ้ มเ่ หล็กดดู
บันทึกผลการทดลอง (10 คะแนน)
ชนิดของสารผสม วธิ ีทใ่ี ชแ้ ยก กอ่ นแยกสาร หลงั แยกสาร
ทรายกับข้าวสาร การรอ่ น สารทั้งสองผสมกันอยู่ ขา้ วสารติดทต่ี ะแกรงร่อน
ทรายกับผงตะไบเหล็ก แม่เหล็กดดู สารทง้ั สองผสมกนั อยู่ แมเ่ หลก็ ดูดผงตะไบเหลก็
อภิปรายและสรปุ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
จากการทดลอง สรปุ ได้วา่ การแยกสารโดยวธิ ีการร่อนใชส้ ำหรบั แยกสารท่เี ป็นของแขง็ กับของแขง็ ท่ีมี
ขนาดแตกตา่ งกันผสมกนั อยู่ เชน่ ทรายกบั ขา้ วสาร สว่ นวธิ กี ารใช้แมเ่ หล็กดึงดดู ใชส้ ำหรับ
แยกสารท่ีมีองค์ประกอบเปน็ สารท่แี ม่เหล็กดงึ ดดู ได้ผสมกันอยู่ เช่น การใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดูด
ผงตะไบเหล็กออกจากทรายและขา้ วสาร
การทดลองเรือ่ ง (2 คะแนน) การเกดิ เสยี งสงู -เสียงต่ำ
วัตถปุ ระสงค์ (5 คะแนน) เพ่อื ทดสอบการเกดิ เสียงสูงเสียงต่ำจากแหลง่ กำเนดิ เสียงแตกต่างกันได้
สมมตฐิ าน (4 คะแนน) ถา้ เสียงสงู เกิดจากการส่นั ของแหลง่ กำเนิดเสียงเร็ว
และเสียงต่ำเกดิ จากการสน่ั ของแแหลง่ กำเนดิ เสยี งช้า ดังน้ันไม้บรรทดั ส้นั ยางรัดส้ัน และขวดนำ้ ครง่ึ ขวด จะให้เสยี งสูง
สว่ นไม้บรรทัดยาว ยางรดั ยาว และขวดน้ำเตม็ ขวดจะใหเ้ สียงตำ่
กำหนดตวั แปร (4 คะแนน)
ตัวแปรต้น ความถี่ในการสัน่ ของแหล่งกำเนดิ เสียง
ตวั แปรตาม การเกดิ เสยี งสูง เสยี งตำ่
ตัวแปรควบคุม แรงท่ีกดปลายไม้บรรทดั แรงท่ีตขี วด แรงท่ีดดี ยาง
วสั ดอุ ุปกรณ์ (3 คะแนน)
1. ไม้บรรทดั พลาสติก 2. ขวดแกว้ 3. กล่องกระดาษ
4. ยางรัดของขนาดใหญ่ 5. ปากกา 6. น้ำ
วิธกี ารทดลอง (12 คะแนน)
1.วางไมบ้ รรทดั พลาสติกย่นื ออกมาจากขอบโต๊ะประมาณ 10 เซนตเิ มตร
ใช้มอื กดที่ปลายไมบ้ รรทดั พลาสตกิ แล้วปล่อย สงั เกตการสั่นของไมบ้ รรทัดพลาสตกิ และเสียงที่ได้ยิน แล้วบันทึกผล
2. วางไม้บรรทดั พลาสติกยื่นออกมาจากขอบโตะ๊ ประมาณ 20 เซนตเิ มตร
ใชม้ อื กดท่ปี ลายไม้บรรทัดพลาสตกิ เทา่ คร้ังแรกแลว้ ปลอ่ ย
สังเกตการส่นั ของไม้บรรทัดพลาสติกและเสยี งที่ไดย้ ินเปรยี บเทียบกับครั้งแรก แลว้ บนั ทึกผล
3. นำขวดแกว้ ใบท่ี 1 ใส่น้ำครึ่งขวด และใบท่ี 2 ใสน่ ้ำเต็มขวด แล้วใช้ไม้บรรทัดพลาสติกเคาะขวดแกว้ ท้งั สองใบ
เปรียบเทียบ และบนั ทึกผล
4. นำยางรดั ของรัดรอบกลอ่ งกระดาษ , รอบ เสียบปากกา 2 ดา้ ม ระหว่างยางรัดของกบั กลอ่ ง ให้ปากกาท้ัง 2
ด้าม ห่างกนั 5 เซนติเมตร ใช้นิว้ ดีดยางรดั ของแลว้ ฟงั เสียงและบันทึกผล
5. ทำการทดลองเหมือนข้อ 4 แตเ่ ล่ือนปากกาใหห้ า่ งกนั 15 เซนตเิ มตร ใช้นวิ้ ดดี ยางรัดของแลว้ ฟงั เสียง
และบันทึกผล
บนั ทึกผลการทดลอง (10 คะแนน)
อภปิ รายและสรปุ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
จากการทดลอง สรปุ ได้ว่า เสียงท่ไี ดย้ นิ มรี ะดับสูง-ต่ำของเสยี งตา่ งกนั ขึ้นกบั ความถ่ขี องการส่ัน
ของแหลง่ กำเนดิ เสยี ง โดยเมื่อแหล่งกำเนิดเสียงส่ันด้วยความถ่ตี ำ่ จะเกดิ เสยี งตำ่ และถา้ ส่ันดว้ ยความถ่สี งู
จะเกดิ เสียงสูง
การทดลองเรอื่ ง (2 คะแนน) การทดลองการคายน้ำของพชื
วตั ถปุ ระสงค์ (5 คะแนน) เพื่อทดสอบการคายนำ้ ของพืชได้
สมมติฐาน (4 คะแนน) ถ้าพชื ใชใ้ บในการคายนำ้ ดงั น้ันถ้าเดด็ ใบพชื ออกพชื จะลดการคายนำ้
กำหนดตวั แปร (4 คะแนน)
ตวั แปรต้น กงิ่ พืชที่มีใบ และกิ่งพชื ทไี่ ม่มใี บ
ตัวแปรตาม ปรมิ าณการคายนำ้ ของพชื
ตัวแปรควบคมุ ขนาดของถงุ พลาสตกิ ใส เวลาในการไว้กลางแดด
วสั ดุอปุ กรณ์ (3 คะแนน)
1. ถงุ พลาสติกใส 2. ต้นไม้ทป่ี ลกู ใส่กระถาง 3.เชอื กสำหรบั รัดปากถงุ
วธิ กี ารทดลอง (12 คะแนน)
1. เลือกก่ิงไม้ที่มขี นาดใกล้เคียงกันและมีใบติดอยู่จำนวนเท่ากัน มา 2 กิง่
2. ครอบกง่ิ ใดก่ิงหนึ่งซ่ึงมีใบด้วยถงุ พลาสติกใส ใช้เชอื กรัดปากถงุ ให้แนน่
3 เดด็ ใบไม้อีกก่ิงหนึ่งออกให้หมด แลว้ ใช้ถุงพลาสตกิ ใสครอบพร้อมรัดปากถุงด้วยเชือกเชน่ เดียวกบั ข้อ 2
4. นำกง่ิ ไม้ไวก้ ลางแดดเป็นเวลา 10-15 นาทสี ังเกต การเปลีย่ นแปลงทเ่ี กดิ ข้ึนท้ัง 2 กิ่ง แล้วบนั ทกึ ผล
บันทึกผลการทดลอง (10 คะแนน)
ส่งิ ที่ทดลอง สังเกตภายในถงุ พลาสติกใส
กิง่ ที่มีใบ มีไอน้ำมาเกาะปริมาณมาก
กิ่งที่ไม่มีใบ
ไม่มีไอนำ้
อภปิ รายและสรปุ ผลการทดลอง (10 คะแนน)
จากการทดลอง พบวา่ ก่ิงที่มีใบหลังทำการทดลอง จะมีไอนำ้ เกาะทีถ่ งุ พลาสติกใสปรมิ าณมาก ส่วนกง่ิ ท่ีไมม่ ใี บ
หลังทำการทดลอง จะไม่มไี อนำ้ เกาะ สรุปไดว้ ่าพืชใช้ใบในการคายน้ำ