1 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
2 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ คำนำ เอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสุรินทร์โดยรายงานถึงความเป็นมาของ Best Practice จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน กระบวนการปฏิบัติงานหรือขั้นตอนการทำงาน โดยประยุกต์ใช้ใช้รูปแบบการบริหาร SANGKHA MODEL ร่วมกับ วงจร PDCA อันประกอบด้วย ขั้นวางแผน (P) ขั้นวางแผน (D) ขั้นดำเนินงาน (C) ขั้นติดตามตรวจสอบ ประเมินผล (A) ขั้นพัฒนา แก้ไข / ปรับปรุง รวมทั้งได้รายงานผลการดำเนินการผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ที่ได้รับ ปัจจัยความสำเร็จ บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned) ข้อเสนอแนะ การเผยแพร่ผลงานการได้รับการยอมรับ และภาพกิจกรรม เพื่อ เป็นเอกสารประกอบกิจกรรมคัดเลือก ผลงานที่ปฏิบัติเป็นเลิศ ในรายงานเล่มนี้ ผู้ศึกษาในนำเสนอ “การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของ นักเรียนโรงเรียนสังขะโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก(Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL” มาออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ผู้นำเสนอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้คงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคณะกรรมการ ประเมินผลงานที่ปฏิบัติเป็นเลิศ (Best Practice) ได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณ นายพิศิษฐ์ ไพรสินธุ์ผู้อำนวยการโรงเรียนสังขะ คณะผู้บริหาร คณะครู ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมสุรินทร์ คณะกรรมการทุกท่านและขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ สนับสนุน ช่วยเหลือ และให้กำลังใจ จนผลงานประสบผลสำเร็จในครั้งนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ก
3 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข - ความสำคัญของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ 1 - เหตุผลที่เกิดแรงบันดาลใจ ความจำเป็น ปัญหาหรือความต้องการที่จะทำผลงาน/นวัตกรรม 1 - แนวคิด หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลงานหรือนวัตกรรม สามารถอ้างอิงถึงแนวคิดฯ 6 - จุดประสงค์และเป้าหมาย 9 - วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ 11 - ผลการดำเนินการ/ประโยชน์ที่ได้รับ 31 - ปัจจัยความสำเร็จ 33 - บทเรียนที่ได้รับ ( Lesson Learned ) 38 - การเผยแพร่ผลงาน/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ 39 - บรรณานุกรม 42 ภาคผนวก 44 - แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 45 - ภาพประกอบการจัดการเรียนการสอน 46 - ผลงานนักเรียน 47 - การเผยแพร่ผลงาน/ประชาสัมพันธ์ 49 - รายงานการประชุมชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) 50 - รางวัลเกียรติบัตรงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนฯ 51 - ภาพกิจกรรม 63 - รางวัลเกียรติบัตรครูสอนดีเด่น 80 ข
1 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice ) ชื่อผลงาน การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนสังขะ โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL โรงเรียน/หน่วยงาน โรงเรียนสังขะ เครือข่าย สหวิทยาเขต 8 (ศรีนครอัจจะ) สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ชื่อผู้เสนอผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนสังขะ โทรศัพท์มือถือ e-mail 1. ความสำคัญของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ 1.1 เหตุผลที่เกิดแรงบันดาลใจ ความจำเป็น ปัญหาหรือความต้องการที่จะทำผลงาน/นวัตกรรม ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ได้ความความนิยมและยอมรับในปจจุบันวาเป็นภาษาสากลที่ใชในการติดตอสื่อ สารกันระหว่างประเทศ เพราะในโลกยุคปจจุบันเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีความเจริญก้าวหนาของวิทยาการและ เทคโนโลยี ความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมซึ่งมีผลกระทบไปทั่วโลกอย่าง รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างงยิ่งความเจริญก้าวหนาทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพรหลาย ทั่วโลกสามารถติดต่อกันง่ายขึ้น การสร้างความเขาใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศนของชุมชนโลก และตระหนัก ถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก จะช่วยพัฒนาผู้เรียนใหมีความเขาใจตนเองและผู้อื่นได้ ดีขึ้น เรียนรูและเขาใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีตอการใชภาษาต่างประเทศ และใชภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้รวมทั้ง เขาถึงองคความรูต่างๆ ได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศนในการดำเนินชีวิต (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : เว็บ ไซต) อีกประการหนึ่งภาษาอังกฤษถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยมี จุดมุ่งหมายเพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ทั้ง ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งทักษะทั้ง 4 ล้วนมีความสำคัญเท่า ๆ กัน ดังนั้นในการจัดทำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่ผู้เรียนทุกคนต้องเรียนรู้ ภาษาอังกฤษได้รับการกำหนดให้เรียนในทุกช่วงชั้น โดยสถานศึกษาสามารถจัดการเป็น สาระการเรียนรู้พื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียนตามความถนัดความต้องการ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ตั้งแต่ช่วงชั้น ที่ 2 ขึ้นไปเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะกระบวนการทั้ง 4 ทักษะ เมื่อผู้เรียนเรียนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องจาก ประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ผู้เรียนจะเกิดเจตคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษและสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารใน
2 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สถานการณ์ต่างๆ แสวงหาความรู้ในระดับสูง เข้าใจเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลกและ สามารถถ่ายทอดความคิด วัฒนธรรมไทยสู่สังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ (กระทรวงศึกษาธิการ. 2554 : 2) ภาษาอังกฤษมีความสำคัญในทุกมิติ รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวและได้มีการกำหนด นโยบายและยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คนไทยมีสมรรถนะและทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารได้จริงในชีวิตประจำวัน นำไปสู่ขีดความสามารถ ในการแข่งขันและพัฒนาประเทศตามที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้กeหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ประกอบด้วย6 ยุทธศาสตร์ โดยส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาษาอังกฤษ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้ เป็นคนดี เก่งและมีคุณภาพ โดยคนไทยต้องมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษา ที่ 3 (สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ,2561) ซึ่งสอดรับกับแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 – 2579) ในยุทธศาสตร์ที่ 2 คือการผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดงาน และการพัฒนาประเทศนั้นจำเป็นต้องมีการสร้างเสริมทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และทักษะดิจิทัล โดยผู้เรียนจะต้องมีระดับความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ (CEFR) ที่สูงขึ้น (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 2560) กระทรวงศึกษาธิการได้มีการกำหนดนโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยมีการปรับจุดเน้นการ เรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเรียนรู้ภาษาโดยเน้นการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) และส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถด้านภาษาอังกฤษ รวมถึงยกระดับความสามารถ ของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเรียนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) และเป็นไปตาม กรอบความคิดหลัก CEFR (กระทรวงศึกษาธิการ, 2557) การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) เป็น แนวทางการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวคิดในการสอนภาษาที่มุ่งเน้นความสำคัญของตัวผู้เรียนให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในชีวิตประจ าวันได้จริง มีการจัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียนเอง (Richards, 2006) ซึ่งในการจัดการเรียนการสอนครูผู้สอนต้องคำนึงถึงการให้ผู้เรียนได้สื่อสารในชีวิตจริง ออกแบบ กิจกรรมและมอบภาระงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารจริง ใช้สื่อการเรียนการสอนจริง แต่ไม่ละเลยความรู้ด้าน ไวยากรณ์และหลักการใช้ภาษา (Wilkins, 1984) ซึ่งการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางการสอนภาษาเพื่อการ
3 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สื่อสารนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษาในทุกทักษะไปพร้อม ๆ กัน ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน ภาษาของผู้เรียน ไม่เกิดความกดดันในการเรียน ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นในสถานการณ์จริงได้อย่าง เป็นธรรมชาติ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหงขาติพุทธศักราช 2542 ในหมวดที่ 4 แนวทางการจัดการศึกษา มาตรา 22 ที่กล่าวไววา“การจัดการศึกษาตองยึดหลักวาผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรูและพัฒนาตนเองได้และถือวา ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาตองสงเสริมใหผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็ม ศักยภาพ”ซึ่งเป็นนิยามเกี่ยวกับ “การเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)” ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรูใน ศตวรรษที่ 21 ที่เนนการจัดการเรียนรูใหมีทักษะและความพรอมทางการเรียนรูตลอดไปการจัดการเรียนรูตาม หลักสูตรสถานศึกษาตองมุงส่งเสริมการเรียนรูเชิงรุกใหครูสามารถบูรณาการความรูและประสบการณที่ได้จากการ จัดการเรียนรูมาใชในการพัฒนาผู้เรียนใหมีคุณภาพมากขึ้น การจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) เป็นการจัดการเรียนรูใหผู้เรียนมีสวนร่วมในกระบวนการคิด การได้รับการปรึกษาชี้แนะ การนําความรูไปใช การถอดบทเรียน การสะทอนคิดรวมทั้งการมีปฏิสัมพันธและการ แลกเปลี่ยนเรียนรูกับผู้อื่น เกิดแรงบันดาลใจ เกิดทักษะในการเรียนรูด้วยตนเองสามารถสร้างความรูความเขาใจ ความเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตน ทั้งนี้โดยคำนึงถึงการจัดการเรียนรู้ตามระดับชวงวัย จะเห็นได้วาการ จัดการเรียนรูเชิงรุก(Active Learning เป็นกระบวนการเรียนรูของผู้เรียนที่จะตองใชทั้งการคิด การลงมือทำ การ แลกเปลี่ยนเรียนรูกับผู้อื่น ผู้เรียนไม่ได้อยู่ในฐานะผู้รับความรูจากครูเทานั้น แต่จะตองเป็นผู้มีบทบาทหรือมีสวนร่วม ในกระบวนการเรียนรูอย่างตื่นตัว (Active Participation) และการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning นั้น มี ความสำคัญอยู่ที่กระบวนการเรียนรู้เพราะการเรียนรู้ส่งกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความตื่นตัวในการเรียนอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนจะได้ร่วมทำงาน ได้ฝึกกระบวนการคิด เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียน ส่งเสริม ให้เกิดการคิด การที่ผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์ที่เป็นกลุ่มจะทำให้ผู้เรียนเปิดใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อได้รับรู้แง่มุมมองต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นประสบการณ์เพิ่มเติมที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน (Siliberrman, 1996) จากรายงานประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ ปีการศึกษา 2565 ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน สังขะ พบว่า ผลการประเมินการจัดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Education Testing, O-NET) มีค่าเฉลี่ยรวมร้อยละ 32.05 และรายวิชาภาษาอังกฤษ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 31.35 และของชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยรวมร้อยละ 23.44 และรายวิชาภาษาอังกฤษ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 25.59 เมื่อพิจารณา แนวโน้มระดับคุณภาพรายวิชาภาษาอังกฤษพบว่า ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนไม่ถึงร้อยละ 50 ซึ่งไม่ผ่าน เกณฑ์ของสำนักงานการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติและเมื่อพิจารณาด้านสาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร ได้แก่ มาตรฐาน ต 1.1 เขาใจและตีความเรื่องที่ฟังและอานจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ปรากฏผลว่าความสามารถในการอ่านของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนมีพัฒนาการ
4 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ด้านการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาอังกฤษลดน้อยลงจากการสังเกตในชั้นเรียนและการเกิดภาวะการทดถอยทางการ เรียนของนักเรียนอันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ในประเทศตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจ การแพทย์ การค้า การท่องเที่ยวและ รวมถึงระบบการศึกษาอีกด้วย ในด้านการศึกษานั้น ทำให้การดำเนินการจัดการเรียนการสอนยากลำบาก ทำให้ ผู้เรียนไม่สามารถเรียนรู้ได้ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดที่กำหนดในหลักสูตร และทำให้ผู้เรียนเกิดภาวการณ์เรียนรู้ทด ถอย (Learning Loss) ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการสื่อสารทั้ง 4 ทักษะ โดยเฉพาะทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร ผู้เรียนขาดทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนการคิดและวิเคราะห์ และส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนในข้อจำกัดหลายประการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้ทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกรายวิชาตลอดจนถึงรายวิชาภาษาอังกฤษ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ตามวิถี ใหม่ (New Normal) เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดการเรียนรู้และพัฒนาความรู้ความสามารถของผู้เรียนได้อย่าง เหมาะสม แม้ว่ามีสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบ On Line On Hand On Demand เป็นต้น (พงศ์ทัศ วนิชานันท์. 2564 : ออนไลน์) ดังนั้น การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และทักษะการเรียนรู้อื่นๆของผู้เรียนเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนที่เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษและ ปัญหาที่เกิดในห้องเรียนและปัญหาของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัลโคโรนาเพื่อนำมาพัฒนา ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและสร้างแรงจูงใจในการเรียนภาษาเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ในปัญหาการ จัดการเรียนการสอนสามารถจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยพิจารณาถึงความ แตกต่างระหว่างความรู้ของผู้เรียน ในด้านเทคนิคและวิธีการสอน กิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไข ปัญหาการเรียนการสอนของผู้เรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนและผู้เรียนสามารถประสบความสำเร็จในการ เรียนภาษาอังกฤษ สื่อการเรียนการสอนก็เป็นเทคนิควิธีการสอนประเภทหนึ่งที่ประยุกต์ใช้ในกระบวนการเรียนการ สอนที่สามารถพัฒนาความสามารถในด้านภาษาของผู้เรียนซึ่งเทคนิควิธีการสอนและสื่อจะกล่าวดังนี้ Active Learning คือ การจัดการเรียนรูที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขา ได้กระทำลงไป (Bonwell, 1991) เป็นการจัดการเรียนรูภายใตสมมติฐานพื้นฐาน 2 ประการคือ 1) การเรียนรูเป็น ความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์และ 2) แต่ละบุคคลมีแนวทางในการเรียนรูที่แตกต่างกัน (Meyers and Jones, 1993) โดยผู้เรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู(Receive) ไปสู่การมีสวนร่วมในการสร้างความรู (Co-creators) (Fedler and Brent, 1996) และการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) ทำใหผู้เรียนสามารถ รักษาผลการเรียนรูใหอยู่คงทนได้มากและนานกวากระบวนการเรียนรูPassive Learning เพราะกระบวนการเรียน รูActive Learning สอดคลองกับการทำงานของสมองที่เกี่ยวของกับความจํา โดยสามารถเก็บและจำสิ่งที่ผู้เรียน
5 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เรียนรูอย่างมีสวนร่วม มีปฏิสัมพันธกับเพื่อน ผู้สอน สิ่งแวดลอม การเรียนรูที่ได้ผ่านการปฏิบัติจริงจะสามารถเก็บ จำในระบบความจําระยะยาว (Long Term Memory) การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นหนึ่งในวิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่มีคุณประโยชน์ที่ ช่วยพัฒนาความสามารถในการสื่อสารของผู้เรียน ตามที่พอลตัน (1993) อ้างถึงในเพ็ญนภา เลิศกิตติไพบูลย์ (2559, น.13) ได้กล่าวว่า การพูดเป็นปฏิสัมพันธ์ของผู้พูดในการใช้ภาษาตามกาลเทศะ มีการโต้ตอบตั้งแต่บุคคลสองบุคคล ขึ้นไป ซึ่งเป็นการโต้ตอบสิ่งที่ได้ยิน โดยการพูดต้องเหมาะสมกับกฎเกณฑ์ในทางสังคม การเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นเครื่องมือวิธีการสอนประเภทหนึ่งที่ใช้ในการจัดเรียนการสอนภาษาอังกฤษใน ปัจจุบัน วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและภาษาที่ สองโดยใช้ในบริบททางการศึกษาและยังเป็นเทคนิคที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเน้นการปฏิบัติกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้เรียนที่มีความสามารถ ความรู้ที่หลากหลาย ความแตกต่างร่วมกัน ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ดี มีทักษะทาง สังคมและร่วมกันคิดแก้ปัญหาไปด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ (Nelson, Gallagher and Coleman. 1993 : 117-121 ; Tsai. 1998 ; Wei. 1993 ; Underhill. 2000) เทคนิคการสอนแบบวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R SQ5R SQ6R วิธีการสอนแบบ 5E วิธีการสอน GPAS 5 Steps วิธีการสอนแบบ 2W3P และวิธีการสอนแบบเชิงรุกอื่นๆ เป็นวิธีการสอนที่คุณประโยชน์ที่นำมาประยุกต์ใช้ ในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ ได้ประยุกต์ใช้บริหารงานโดยใช้หลักคุณภาพ PDCA และนวัตกรรม “SANGKHA Model” ในการปฏิบัติงาน มีการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา มีการ ตรวจสอบผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย S : Success (ความสำเร็จ) A : All Unity (น้ำหนึ่งใจ เดียวกัน) N : Network (เครือข่าย) G : Goals (ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมีเป้าหมาย) K : Knowledge Management (การจัดการความรู้) H : Happiness (ความสุข) และA : Accountability (ความรับผิดชอบ) รูปแบบการบริหารดังกล่าว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ ได้ประยุกต์ใช้ในการบริหาร จัดการการเรียนการสอนของครูกำกับติดตาม นิเทศการเรียนการสอน พัฒนาทักษะการเรียนรู้ พัฒนานวัตกรรม การสอน และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน จากความสำคัญและสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและเห็นควรให้ครูได้รับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบดังกล่าว เพื่อพัฒนาครูให้ สามารถจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจศึกษา เรื่องการ พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนสังขะโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาความรู้ความเข้าใจ และ ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของครู และจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะ
6 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ พัฒนานวัตกรรมการสอน และความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของ ผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 1.2 แนวคิด หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลงานหรือนวัตกรรม สามารถอ้างอิงถึงแนวคิด หลักการ ทฤษฎี รูปแบบ วิธีการ ฯลฯ ที่นำมาใช้ในการออกแบบผลงานหรือนวัตกรรม จากความสำคัญและเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ครูผู้สอนเห็นว่า ความสำคัญของทักษะภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร วิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือและวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R และ วิธีการสอนแบบอื่นๆ วิธีการเรียนรู้ดังกล่าวเป็นวิธีการที่มีประโยชน์ที่มีประประสิทธิภาพในห้องเรียนภาษาอังกฤษที่ เป็นภาษาต่างประเทศ ผู้วิจัยเชื่อว่าการใช้วิธีการสอนเชิงรุก เป็นเทคนิคการสอนที่มีคุณประโยชน์และมีประสิทธิผล และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่มและพัฒนาทักษะ ภาษาอังกฤษของผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์และสร้างความพึงพอใจที่ดี ในการสื่อสารภาษาเป้าหมาย การแสดงความคิดและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนได้อย่างสร้างสรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้บทเรียนที่ครูสร้างขึ้นมาในห้องเรียนเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นผู้วิจัยได้สนใจในการศึกษาการใช้วิธีการเรียนรู้เชิงรุก วิธีการสอนภาษาอังกฤษการสื่อสาร วิธีการสอนอ่าน แบบต่างๆในห้องเรียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในโรงเรียนสังขะโดยประยุกต์ รูปแบบการบริหาร SANGKHA MODEL ร่วมกับวงจร PDCA มาใช้ในการบริหารจัดการและพัฒนาครูสอนรายวิชา ภาษาอังกฤษ พัฒนาสื่อและนวัตกรรมและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ ในงานศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด หลักการ ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องวิธีการเรียนรู้แบบเชิง รุก วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (CLT) และวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R SQ5R SQ6R วิธีการสอนแบบ5E วิธีการสอนอ่านแบบโมด็อค (MIA) เป็นต้น จากนักการศึกษาและนักวิชาการทั้งในและ ต่างประเทศ ดังต่อไปนี้ Slavin (1987 : 7-13) ได้ให้ความหมายของการเรียนแบบร่วมมือกันว่า เป็นวิธีการสอนอีก แบบหนึ่ง ซึ่งกำหนดให้นักเรียนที่มีความสามารถต่างกันทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยปกติจะมี 4 คน เป็น นักเรียนที่เก่ง 1 คน เรียนปานกลาง 2 คน และเรียนอ่อน 1 คน มีการร่วมมือกันขณะเรียนรับผิดชอบงานของกลุ่ม ร่วมกัน โดยที่กลุ่มจะประสบผลสำเร็จได้ เมื่อสมาชิกทุกคนได้เรียนรู้บรรลุตามจุดประสงค์เช่นเดียวกัน นั้นคือการ เรียนเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ Richards และ Rodgers (2001) กล่าวว่า การเรียนรู้แบบร่วมมือ (CLL) มีลักษณะคล้ายกับ วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและเน้นการปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียน วิธีการเรียนรู้ แบบร่วมมือให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนในห้องเรียนและช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภาษาเป้าหมายในสถานการณ์ จริงเพราะผู้เรียนสามารถทำงานกับเพื่อนในกลุ่มอย่างเป็นกลุ่ม บรรยากาศในชั้นเรียนไม่ควรตึงเครียดและสร้างแรง จูงให้ผู้เรียน Kagan (1994) กล่าวว่า ให้ผู้เรียนได้มีทักษะทางสังคมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ คือ การ เรียนรู้แบบร่วมมือได้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจ เคารพและส่งเสริมกันและกัน ซึ่งในงานวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้
7 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แบบร่วมมือก็กล่าวไว้ว่า การเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นวิธีการพัฒนาผู้เรียนด้านการเคารพตัวเอง สามารถทำให้ผู้เรียน สร้างการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและส่งเสริมการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างเพื่อนสมาชิกภายในกลุ่ม วิทย์ มูลคำ และคณะ (2545 : 134) ได้ให้ความหมายของการเรียนแบบร่วมมือว่าหมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือ และช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถ ต่างกันออกเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะการรวมกลุ่มอย่างมีโครงสร้างที่ชัดเจนมีการทำงานร่วมกัน มีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน และกันมีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตน และ ส่วนรวม เพื่อให้ตนเอง และสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ดังนั้นวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นวิธีการที่ดีส่งเสริมการพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียน ทักษะทางสังคมผ่านกระบวนการทำงานกลุ่มและสร้างความมั่นใจการอ่านภาษาอังกฤษและสุดท้ายของ กระบวนการเรียนการสอนทุกคนสามารถบรรลุจุดประสงค์และประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ สุคนธ สินธพานนท(2551 : 45) ได้ให้ความหมายว่าวิธีการสอนแบบ SQ4R ถูกพัฒนาขึ้นโดย Walter Puak ในป 1984 มาจากวิธีการสอนแบบ SQ3R (Survey, Question, Read, Recite, Review) ซึ่งเป็น แนวคิดของ Francis P. Robinson โดยมีการเพิ่มขั้นตอนการจดบันทึก (Record) และขั้นสุดท้ายเป็นขั้นวิเคราะห์ (Reflect) เป็นเทคนิคการสอนอ่านอย่างคราวๆ เพื่อสํารวจหาขอมูลสำคัญของเรื่อง เป็นวิธีอ่านที่สามารถช่วยให้ ผู้เรียนเลือกสิ่งที่ตองรูจากเรื่องที่อ่าน เขาใจแนวคิดของเรื่องที่อ่านรวดเร็ว และจดจําได้ดี พัชราพรรณ จันสม (2559: 23) การจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบ SQ4R เป็นวิธีการสอนอ่านที่ดีมี ขั้นตอนการสอนที่เป็นระบบที่ชัดเจน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใหนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองมากที่สุดฝกให ผู้เรียนรูจักคิดฝกตั้งคําถาม และหาคําตอบจากคําถาม โดยครูมีบทบาทในการกระตุน ยั่วยุใหนักเรียนคิดและใช ความสามารถในการอ่าน เมื่อนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนการอ่านทั้ง 6 ขั้น แลวจะทำใหนักเรียนสามารถจับใจความ สำคัญจากเรื่องที่อ่านได้ในที่สุด ประทุมวรรณ จันทร์ศร (2558 : 24)การจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบ SQ4R ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก ขั้นสํารวจ ขั้นตั้งคําถาม ขั้นอ่าน ขั้นบอกคําตอบอีกครั้ง ขั้นเขียนสรุปใจความสำคัญ และ ขั้นทบทวน เป็นการ สอนอ่านที่ดี มีขั้นตอนการสอนที่เป็นระบบที่ชัดเจน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใหผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง มากที่สุดฝึกให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์คิดสังเคราะห์โดยครูผู้สอนมีบทบาทในการกระตุน ยั่วยุให ผู้เรียนคิดและใช ความสามารถในการอ่าน เมื่อผู้เรียนปฏิบัติตามขั้นตอนการอ่านทั้ง 6 ขั้น แลว จะทำใหผู้เรียนสามารถจับใจความ สำคัญจากเรื่องที่อ่านได้ในที่สุด Robinson (1961 : 29-30) ได้ให้คำอธิบายถึง เทคนิคการสอนแบบ SQ4R ประกอบ ด้วย 6 ขั้นตอน ประกอบด้วยSurvey ขั้นสำรวจ Question ขั้นตั้งคำถาม Read ขั้นอ่าน Record ขั้นอ่านหาคำตอบเดิม Recite ขั้นสรุปใจความสำคัญและ Reflect ขั้นสะท้อนความคิด) ได้เสนอ เทคนิคการอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนา มาจากการสอนอ่าน SQ3R (SQ3R : Survey, Question, Read, Recite, Review) ผู้อ่านสามารถจับใจความ
8 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สำคัญจากเรื่องได้ดี และยังช่วยให้ผู้อ่านสามารถคาดเดาเรื่อง จากเรื่องที่อ่าน เข้าใจแนวคิดของเรื่องที่อ่านได้อย่าง รวดเร็วและจดจำเรื่อง ตลอดจนสามารถทบทวนเรื่องที่อ่านได้อย่างมีเหตุผล กันนิ่ง (Gunning. 1996 : 196-197) ได้ให้ความหมายการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R ว่า หมายถึง วิธีการสอนอ่านที่เป็นระบบ เป็นวิธีการสอนเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่าน การตีความ ขยายความ สรุป และจับใจความสำคัญจากการอ่านด้วยตนเอง ซึ่งการสอนแบบ SQ4R เน้นการอ่านซ้ำๆจนกว่าจะเข้าใจและ จดจําเรื่องราวที่อ่านได้ ถึงแม้จะเป็นการสอนเน้นทักษะการอ่าน แต่ผู้สอนจะต้องสอนแบบการสอนภาษาเพื่อการ สื่อสารคือ ประกอบด้วยการฟัง พูด อ่าน และเขียนและในชีวิตประจำวันของเราจะอ่านสิ่งใดก็จะอ่านอย่างมี จุดประสงค์ และมักจะอ่านจากสื่อต่างๆ ดังนั้นผู้ศึกษาได้สรุปความหมายของแนวคิดเทคนิคการสอนอ่านแบบ SQ4R หมายถึง กระบวนการอ่าน อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพมี 6 ขั้นการอ่าน ประกอบด้วย ขั้นสำรวจ (Survey) ขั้นตั้งคำถาม (Question) ขั้นอ่าน (Read) ขั้นอ่านหาคำตอบเดิมและตอบคำถามโดยใช้เขียนสรุปใจความสำคัญลงเป็นแผนผัง ความคิด (Record) ขั้นสรุปใจความสำคัญ(Recite) และ ขั้นสะท้อนความคิด(Reflect) ที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้วิธีการอ่านเพื่อความเข้าใจอย่างเป็นขั้นตอน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ สามารถตีความ ขยาย ความ วิเคราะห์และสรุปใจความสำคัญด้วยตนเองได้อย่างมีเหตุมีผลและผู้เรียนสามารถอ่านได้ในที่สุด ดีส และดีส (Deese and Deese, 1979: 42, อ้างถึงใน ฉวีวรรณ คูหาภินันทน์, 2542:169) กล่าวถึง วิธีการสอนแบบ SQ3R ว่า วิธีสอนแบบ SQ3R เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1940 โดยฟรานซิสพี โรบินสัน (Francis P. Robinson) ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio State University) ได้ให้นักเรียน สำรวจ ตั้ง คำถาม อ่าน เล่าและทบทวน บทเรียนต่าง ๆ ในหนังสือเรียนซึ่งกลยุทธ์นี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อน ามาใช้ในงาน เขียนเชิงอธิบาย ซึ่งต่อมาฟรานซิส พี โรบินสัน(Francis P. Robinson) ได้พัฒนาวิธีสอนแบบ SQ3R ให้น ามาใช้ใน ด้านการอ่านของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา อุษาวดี ชูกลิ่นหอม (2560 : 32-36) กล่าวว่า วิธีสอนแบบ SQ5R เป็นวิธีการสอนที่เปิดโอกาสให้ นักเรียนได้ฝึกอ่าน ทำความเข้าใจ สรุปใจความสำคัญ และวิเคราะห์ วิจารณ์ เรื่องที่อ่านแล้วแสดงความคิดเห็นโดย ใช้หลักฐานและเหตุผลมาสนับสนุนเรื่องที่อ่าน อีกทั้งวิธีสอนแบบ SQ5Rยังเป็นการเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อฝึก ให้นักเรียนได้ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยครูผู้สอนคอยชี้แนะแนวทางการเรียนให้แก่นักเรียน วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม (2541 : 170) ได้ให้ความหมายของการสื่อสารไว้ว่า การติดต่อการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน การแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างบุคคลโดยใช้สื่อจำพวกโทรศัพท์โทรเลข วิทยุ โทรทัศน์ กรมวิชาการ (2545 : 5) ได้ให้ความหมายของภาษาเพื่อการสื่อสารไว้ว่าเป็นการใช้ ภาษาต่างประเทศเพื่อทำความเข้าใจแลกเปลี่ยน นำเสนอข้อมูลข่าวสารแสดงความ คิดเห็น เจตคติอารมณ์และ ความรู้สึกในเรื่องต่าง ๆ ทั้งที่เป็นภาษาพูดและภาษาเขียน
9 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เบอเดสัน (Bergeson, 2008 : 1) ได้ให้ความหมายของการสื่อสารไว้ว่าเป็นกระบวนการที่ถูก กำหนดขึ้นและถ่ายทอดความหมายให้เข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งกระบวนการนี้ต้องการความรู้ความชำนาญของทักษะ ในการถ่ายทอดของแต่ละบุคคลเช่น กระบวนการฟังการสังเกต การพูด การตั้งคำถาม การวิเคราะห์ และการ ประเมินผล เครก (Craig, 2007) ได้ให้ความหมายของการสื่อสารไวว้า่ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและ ก้นผ่านถ้อยคำ ที่มีวิธีสื่ออย่างหลากหลายวิธีเทคนิคในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อการก็คือการมีปฏิสัมพันธ์ทางการ โต้ตอบจากการถาม และตอบคำถาม กล่าวสรุปได้ว่า ภาษาเพื่อการสื่อสาร คือเป็นการใช้ภาษาเพื่อทำความเข้าใจแลกเปลี่ยน นำเสนอข้อมูล ข่าวสารแสดงความคิดเห็นโดยใช้กระบวนการของการถ่ายทอดสาร (Massage) จากบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกวา่ ผู้ส่งสาร (Sources) ไปยังอีกบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า ผู้รับสาร (Receivers) อย่างหลากหลายวิธีโดยเทคนิคในการใช้ภาษาเพื่อ การสื่อสาร การสื่อสารก็คือการมีปฏิสัมพันธ์ทางการโต้ตอบจากการถาม และตอบคำถาม ซึ่งรวมไปถึงภาษาเขียน ด้วย ทิศนา แขมมณี (2553, หน้า 141) ได้ให้ความหมายของ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถึง การดำเนินการเรียนการสอน โดยผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดคำถาม เกิดความคิด และลงมือเสาะแสวงหา ความรู้ เพื่อนำมาประมวลหาคำตอบหรือข้อสรุปด้วยตนเอง โดยที่ผู้สอนช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ใน ด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียนกู๊ด (Good, 1973, p. 303) ได้ให้ความหมายของ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถึง เทคนิคในการจัดการเรียนรู้ โดยการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็น และพยายามค้นหา คำตอบด้วยตนเอง นากลาสกี้ (Nagalski, 1980) ได้ให้ความหมายของ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถึง การแสวงหาคำตอบ โดยอาศัยการแก้ปัญหาวิทยาศาสตร์อย่างเป็นระบบ จากการศึกษาสรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนที่เน้น ให้ผู้เรียนเกิดข้อสงสัยหรือคำถามแล้วแสวงหาความรู้หรือคำตอบอย่างเป็นกระบวนการด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนช่วย อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน 2. จุดประสงค์และเป้าหมาย 2.1 จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษาผลของการใช้วิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนสังขะ รายวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL
10 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 2. เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนสังขะ รายวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ 75/75 3. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนโรงเรียนสังขะ รายวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการบริหาร SANGKHA MODEL 4. เพื่อตรวจสอบความพึงพอใจของนักเรียนต่อการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของ นักเรียนโรงเรียนสังขะ รายวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ตามรูปเเบบการ บริหาร SANGKHA MODEL 2.2 เป้าหมาย 2.2.1 เชิงปริมาณ 1. นักเรียนโรงเรียนสังขะ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 2,242 คน เด็กร้อยละ 70 ได้พัฒนาทักษะ การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ดีขึ้น 2. ได้แผนการจัดการเรียนรู้โดยโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) ที่มีประสิทธิภาพ นำไปใช้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้นักเรียน ผ่านการประเมินตามเกณฑ75/75 3. นักเรียนโรงเรียนสังขะ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 2,242 คน เด็กร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอยู่ในระดับดี ทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารสูงขึ้น 4. นักเรียนโรงเรียนสังขะปีการศึกษา 2566 จำนวน 2,242 คน เด็กร้อยละ 70 มีความพึงพอใจ ต่อการเรียนการสอน โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) มีแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารดีขึ้น 2.2.1 เชิงคุณภาพ 1. นักเรียนโรงเรียนสังขะ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 2,242 คน ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning)ดีขึ้น 2. ได้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning)ที่มีประสิทธิภาพ นำไปใช้ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้กับนักเรียน 3. นักเรียนโรงเรียนสังขะ ปีการศึกษา 2566 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ใน ระดับดี ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสูงขึ้น 4. นักเรียนมีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) มีแรงจูงใจที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนและครูในชั้นเรียนดีขึ้น
11 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 2.3 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2.3.1 ผู้วิจัยได้แผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning)โดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning)ที่มีประสิทธิภาพ 2.3.2 ผู้วิจัยได้แนวทางในการใช้การเรียนการสอนเพื่อใช้ขยายผลในการเรียนการสอนในหัวข้อเรื่องอื่น ๆ ต่อไป 2.3.3 นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก(Active Learning) 2.3.4 นักเรียนมีความพึงพอใจที่ดีในทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้วิธีการสอนเเบบเชิงรุก (Active Learning) 3. วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ 3.1 วิธีการดำเนินงาน/กระบวนการ วิธีการดำเนินงาน/กระบวนการ ลำดับขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความ เข้าใจระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังต่อไปนี้ 3.1.1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องได้แก่ 1. หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563) 1.1 ความสำคัญของการเรียนภาษาต่างประเทศ 1.2 สาระสำคัญของภาษาต่างประเทศ 1.3 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 1.4 คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3และ6 1.5 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง 2. ทักษะการฟัง 2.1 ความหมายของการฟัง 2.2 ความสำคัญของการฟัง 2.3 องคประกอบและกระบวนการฟัง 2.4 ความมุ่งหมายในการฟัง 2.5 ความสามารถในการฟัง 2.6 ระดับความเขาใจในการฟัง 2.7 การวัดและประเมินผลการฟัง 2.8 วิธีการวัดการฟัง
12 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 2. ทักษะการพูด 2.1 ความหมายของการพูด 2.2 ความสำคัญของการพูด 2.3 องคประกอบและกระบวนการพูด 2.4 ความมุ่งหมายในการพูด 2.5 ความสามารถในการพูด 2.6 ระดับความเขาใจในการพูด 2.7 การวัดและประเมินผลการพูด 2.8 วิธีการวัดการพูด 2. ทักษะการอ่าน 2.1 ความหมายของการอ่าน 2.2 ความสำคัญของการอ่าน 2.3 องคประกอบและกระบวนการอ่าน 2.4 ความมุ่งหมายในการอ่าน 2.5 ความสามารถในการอานเพื่อความเขาใจ 2.6 ระดับความเขาใจในการอ่าน 2.7 การวัดและประเมินผลการอ่าน 2.8 วิธีการวัดการอานเพื่อความเขาใจ 2. ทักษะการเขียน 2.1 ความหมายของการเขียน 2.2 ความสำคัญของการเขียน 2.3 องคประกอบและกระบวนการเขียน 2.4 ความมุ่งหมายในการเขียน 2.5 ความสามารถในการเขียน 2.6 ระดับความเขาใจในการเขียน 2.7 การวัดและประเมินผลการเขียน 2.8 วิธีการวัดกาการเขียน 3. วิธีการเรียนรู้แบบภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Learning Approach) 3.1 ความหมายของวิธีการเรียนรู้แบบภาษาเพื่อการสื่อสาร 3.2 องค์ประกอบสำคัญของวิธีการเรียนรู้แบบภาษาเพื่อการสื่อสาร
13 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 3.3 กิจกรรมในห้องเรียนของวิธีการเรียนรู้แบบภาษาเพื่อการสื่อสาร 4.4 ประโยชน์ของวิธีการเรียนรู้แบบภาษาเพื่อการสื่อสาร 3. วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ 3.1 ความหมายของวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ 3.2 องค์ประกอบสำคัญของวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ 3.3 กิจกรรมในห้องเรียนของวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ 4.4 ประโยชน์ของวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ 4. วิธีการสอนอานแบบ SQ4R 4.1 ความหมายของการสอนอานแบบ SQ4R 4.2 ขั้นตอนการสอนอานแบบ SQ4R 4.3 เทคนิคการสอนอานแบบ SQ4R 4.4 ประโยชนและขอจำกัดของการสอนอานแบบ SQ4R 4. วิธีการสอนอานแบบ SQ5R 4.1 ความหมายของการสอนอานแบบ SQ5R 4.2 ขั้นตอนการสอนอานแบบ SQ5R 4.3 เทคนิคการสอนอานแบบ SQ5R 4.4 ประโยชนและขอจำกัดของการสอนอานแบบ SQ5R 4. วิธีการสอนอานแบบ SQ6R 4.1 ความหมายของการสอนอานแบบ SQ6R 4.2 ขั้นตอนการสอนอานแบบ SQ6R 4.3 เทคนิคการสอนอานแบบ SQ6R 4.4 ประโยชนและขอจำกัดของสอนอานแบบ SQ6R 4. วิธีการสอนแบบ 5E 4.1 ความหมายของวิธีการสอนแบบ 5E 4.2 ขั้นตอนการสอนแบบ 5E 4.3 เทคนิคการสอนแบบ 5E 4.4 ประโยชนและขอจำกัดของการสอนแบบ 5E 5. ความพึงพอใจ 4.1 ความหมายของความพึงพอใจ 4.2 ทฤษฎีความพึงพอใจ
14 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 4.3 การวัดความพึงพอใจ 3.1.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน ในขั้นตอนการดำเนินงาน ผู้ศึกษาได้ดำเนินงานโดยใช้รูปแบบบริหาร SANGKHA MODELที่ เน้นกระบวนงาน PDCA สำหรับการวางแผน ปฏิบัติงาน ติดตาม ประเมินผลและสะท้อนข้อมูลย้อนกลับ ดังจะ อธิบายต่อไปนี้ นวัตกรรมการบริหารงาน SANGKHA MODELร่วมกับวงจร PDCA 1. ขั้นการวางแผน P (Plan) ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตร/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด / เนื้อหารายวิชากลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ปัญหานักเรียนรายบุคคลเพื่อ สังเคราะห์ประเด็นปัญหาทำไปใช้ในการวางแผนและออกแบบกิจกรรมการเรียนและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของ นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกระบวนการนี้ ผู้ศึกษาได้ดำเนินการประชุม PLC เพื่อเสนอข้อประเด็นปัญหาที่พบ และประเด็นที่ต้องการนำมาพัฒนาให้ผู้บริหาร หัวหน้าวิชาการโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และคณะครูทราบ ได้ เสนอข้อคิดเห็นและทฤษฎี แนวคิด หลักการ วิธีการ เทคนิคและกิจกรรมที่สร้างสรรค์นำมาใช้ในการออกแบบ กิจกรรม พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้พัฒนา ทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารและสร้างเจตคติหรือความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในห้องเรียนและ อนาคตต่อไป
15 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ S : Success คือ ความสำเร็จ การบรรลุผลตามเป้าประสงค์ขององค์กร กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรง เรียนสังขะ ได้ดำเนินการสำรวจปัญหา ความต้องการของผู้เรียน มีการวิเคราะห์หลักสูตร สร้างโครงสร้างรายวิชา ภาษาอังกฤษ ส่งผลให้บรรลุผลในการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งประสบความสำเร็จมาจากหลักสูตรที่มี ประสิทธิภาพ เน้นพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สภาพแวดล้อมที่เน้นปฏิบัติจริง มีโครงการ กิจกรรม ตามแผนงานที่กำหนดไว้ และนอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมในการทำงานหรือศึกษาต่อโดยใช้ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร ส่งนักเรียนเข้าแข่งขั้น Storytelling ระดับภาค 2. ขั้นการดำเนินงาน D (Do) ผู้ศึกษาได้นำข้อมูลจากขั้นการวางแผน (P) มาดำเนินการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดย นำเอาทฤษฎีแนวคิด หลักการ และงานวิจัยที่เกี่ยววิธีการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) การเรียนรู้แบบ ร่วมมือ (Cooperative Learning Approach) วิธีการสอนแบบภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Approach)และวิธีการสอนอ่าน SQ4R , SQ5R, SQ6R เป็นต้น ของนักวิชาการต่างประเทศและในประเทศ ได้แก่ Kagan (1994) Slavin (1987 : 7-13) Johnson และ Johnson (1994) ทิศนา แขมณ (2545: 98) พิมพันธ์เดชะ คุปต์ (2544: 37) ธีระศักดิ์ สินชัย (2559 : 35) และโนรี เกษมจิตร (2560 : 27) สุคนธ สินธพานนท (2545 : 287) และ กันนิง(Gunning, 1996, pp. 196-197) Learning Centre of Vancouver Community College (2013) รัตนภัณฑ เลิศคําฟู (2547 : 5) เป็นต้น จากนั้น จัดทำกำหนดการสอน/แผนการจัดการเรียนรู้โดยอิงจากหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง 2563)ของโรงเรียนสังขะ จัดทำสื่อ/
16 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ นวัตกรรมประกอบการเรียนการสอน นำสื่อไปใช้ในห้องเรียนกับผู้เรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสื่อการเรียนการ สอนมีความสร้างสรรค์ส่งผลให้ผู้เรียนมีความพึงพอใจที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับแผนการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) ผู้ศึกษา ได้ดำเนินการแบ่งกลุ่มการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ร่วมกันทำกิจกรรมและแก้ปัญหาไปด้วยกัน ในแต่ละกลุ่มคละ เด็กเรียน ดี เรียนดีปานกลางและเป็นเรียนอ่อน อยู่ด้วยกัน เด็กทุกคนมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และช่วยกัน ปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุโดยมีครูเป็นมีค่อยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ อีกทั้งกลุ่มเด็กเรียนดีก็จะช่วยเหลือเด็กกลุ่ม เรียนดีปานกลางและกลุ่มอ่อน เด็กกลุ่มเรียนปานกลางก็จะช่วยเหลือเด็กกลุ่มเรียนดีในการสนับสนุน ช่วยเหลือและ กระตุ้นเด็กกลุ่มอ่อนในการเรียนรู้และร่วมปฏิบัติกิจให้ลุล่วงสำเร็จไปพร้อมกัน โดยในแต่ละขั้นการสอนอ่าน นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมช่วยกันทำหน้าที่ผ่านการพูดคุย แบ่งบัน รับผิดชอบ และสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรภาพใน การเรียนรู้ ไม่ถูกแบ่งชนชั้นความสามารถการเรียนรู้ และสร้างพลังบวกในการเรียนรู้ให้กันและกัน ตามที่ Robinson (1961 : 29-30) ได้อธิบายขั้นการสอนอ่านดังต่อนี้
17 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 1. ขั้นนําเขาสู่บทเรียน เป็นขั้นที่จัดทำใหบรรยากาศรูสึก สบาย ไม่เคร่งเครียดเสนอสิ่งเร้าเพื่อใหผู้เรียนพรอมที่จะเรียน บทเรียนใหม่การเสนอเนื้อหาใหม่ สำหรับการอ่านผู้สอนอาจกำหนด ใหผู้เรียนเตรียมมาเองหรือผู้สอนจะเป็นผู้จัดเตรียมก็ได้เพราะการ สอนมีวัตถุประสงคเพื่อใหผู้อ่านได้นําไปใชในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นสื่อที่นํามาใชเป็นของจริง 2. ขั้นสอน ซึ่งกระทำการสอนตามระบบ วิธีการสอนแบบ SQ4R มี6 ขั้นตอน คือ 2.1 ขั้นสํารวจ (Survey) ผู้สอนใหนักเรียนสํารวจเรื่องราวที่ได้อ่านอย่างคราวๆ เพื่อหา จุดสำคัญของเรื่อง การอ่านขั้นนี้ไม่ควรใชเวลานานเกินไป 2.2 ขั้นตั้งคําถาม (Question) ผู้สอนควรตั้งคําถามเกี่ยวกับบทอ่านกับนักเรียนเพื่อฝ กการตอบคําถาม คําถามจะช่วยใหผู้อานมีความอยากรูอยากเห็น และทำใหผู้อ่านเขาใจเรื่องได้เร็ว 2.3 ขั้นอ่าน (Read) การอ่านข้อความในบทหรือตอนนั้นๆ ซ้ำอย่างละเอียดและใน ขณะเดียวกันก็คนหาคําตอบสำหรับคําถามที่ได้ตั้งไวในขั้นนี้เป็นการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญโดยแท้จริง และตอบ คําถามที่ตั้งไว 2.4 ขั้นบอกคําตอบอีกครั้ง (Record) เมื่อได้คําตอบแลว ใหผู้เรียนจดบันทึกข้อมูล ต่างๆที่ได้อ่านจากขั้นตอนที่3 โดยใชภาษาของตนเองเพื่อใหเขาใจได้ง่ายขึ้นและสามารถจำคําตอบนั้นได้โดยคําตอบ นั้นตองคงความหมายเดิมของเรื่องเอาไว 2.5 ขั้นเขียนสรุปใจความสำคัญ (Recite) ใหผู้เรียนเขียนสรุปใจความสำคัญซึ่ง ประกอบด้วยใจความหลักและใจความรอง โดยพยายามใชภาษาของตนเอง ถายังไม่แน่ใจบทใดหรือตอนใดให กลับไป 2.6 ขั้นทบทวน (Reflect) ใหผู้เรียนวิเคราะห์วิจารณบทอ่านที่ผู้เรียนได้อ่านแลวแสดง ความคิดเห็นในประเด็นที่ผู้เรียนมีความคิดเห็นสอดคลองหรือความคิดเห็นไม่สอดคลองเป็นการทบทวนเรื่องที่อ่าน ทั้งหมดในขั้นตอนนี้เป็นการตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนวาจดจําหรือเขาใจเรื่องราวทั้งหมดได้มากน้อยแคไหน หากสวนไหนที่ยังจดจําไม่ได้ก็กลับไปอ่านซ้ำและทบทวน ซึ่งจะช่วยใหนักเรียนเขาใจแนวคิดที่ชัดเจนและมีความ คงทนในการจดจําอีกด้วย 3. ขั้นสรุปและประเมินผล เมื่อจบขั้นตอนการสอนแบบ SQ4R แลว ผู้สอนจะตองมีการวัดผล และประเมินผลวาผู้เรียนได้ความรูตามจุดประสงคหรือไม่เป็นการประเมินความสามารถเพื่อนําผลมาพัฒนาผู้เรียน
18 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ และช่วยผู้เรียนออน โดยอธิบายเพิ่มเติมใหทำแบบฝกมากขึ้น หรือสำหรับผู้เรียนดีก็อาจจะใหแบบฝกเพื่อเสริมใหมี ทักษะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ บายบีและคณะ (Bybee et al., 2006, p. 2) ได้นิยามความหมายในแต่ละขั้นตอนการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นไว้ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ครูเข้าถึงความรู้เก่าของนักเรียนและช่วยให้ นักเรียนสนใจในมโนมติใหม่ด้วยกิจกรรมสั้น ๆ ที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและตรวจสอบความรู้เดิม กิจกรรม ควรเชื่อมระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ แสดงมโนมติก่อนหน้าออกมา และจัดระเบียบความคิดที่มีต่อผลการ เรียนรู้ของกิจกรรม ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) ครู เตรียมกิจกรรมให้นักเรียนสำรวจและค้นหาอาจจะเป็นการทดลองที่ช่วย นักเรียนได้ใช้ความรู้เก่าในการสร้างความคิดใหม่ สำรวจและค้นหาข้อ สงสัย และออกแบบวิธีการหาคำตอบ ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุปจะมุ่งไปที่มุมมองของนักเรียนหลังจากผ่านการ สร้างความสนใจและการสำรวจค้นหาโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดง ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการ หรือพฤติกรรม ในขั้นนี้ครูคอยช่วย แนะนำให้นักเรียน รวมไปถึงครูอธิบายให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ลึกมาก ขึ้นซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญของขั้นนี้ ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ครูเปิด โอกาสให้นักเรียนนำความเข้าใจและทักษะไปใช้กับสถานการณ์ใหม่ด้วย กิจกรรมเพิ่มเติมเพื่อนักเรียนจะได้มีความเข้าใจข้อมูลและทักษะที่มากขึ้น ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) ขั้นการประเมินเป็นขั้นที่นักเรียนจะถูกประเมินความ เข้าใจและความสามารถเพื่อครูจะได้ทราบถึงความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนว่าเป็นไปตามของ วัตถุประสงค์ในการเรียนหรือไม่ วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ตามที่สำนักศึกษานิเทศก์และพัฒนามาตรฐานการศึกษา (2542, น. 25) ได้อธิบายถึงการจัดการ เรียนรู้แบบ 2W3P ว่าเป็นวิธีการสอนภาษาตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนี้
19 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมหรือขั้นเข้าสู่บทเรียน (Warm up) เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียน เนื้อหาใหม่ อาจจะเป็นการทบทวนเนื้อหาที่เรียนผ่านมาแล้ว หรืออาจเป็นการนำเข้าสู่เนื้อหาใหม่ที่กำลังจะเรียนต่อไป กิจกรรมที่ใช้ในขั้นตอนนี้อาจจะเป็นเพลงเกม นิทาน การ สนทนา หรือการแสดงต่าง ๆ เป็นต้น ขั้นที่ 2 ขั้นการนำเสนอ (Presentation) เป็นการให้ ตัวป้อนภาษา(Language Input) แก่ผู้เรียนที่เป็นตัวอย่างภาษา ที่ใช้ในชีวิตจริงและตัวอย่างภาษาที่ครูผู้สอนเลือกใช้ในห้องเรียนครูผู้สอนแสดงบทบาทเป็นผู้ให้ข้อมูล (Informant) และให้ผู้เรียนมีหน้าที่ฟังและสังเกต ขั้นที่ 3 ขั้นฝึก (Practice) เป็นการฝึกภาษาในสถานการณ์เดียวกันกับที่ครูผู้สอนนำเสนอ ในขั้นที่นำเสนอ (Presentation) ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษาในสถานการณ์ที่เสมือนจริง ครูผู้สอนแสดงบทบาท เป็นผู้ควบคุม (Conductor) ในการฝึกภาษาของผู้เรียน และผู้เรียนมีหน้าที่ในการฝึกและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการ เรียนการสอน ขั้นที่ 4 ขั้นนำไปใช้ (Production) ต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ภาษาในการสื่อสารใน สถานการณ์เหมือนจริง และเป็นสถานการณ์ใหม่ (New Situation)อาจจะคล้ายคลึงกับสถานการณ์ที่ครูสอนได้ นำเสนอไปแล้วทั้งนี้เพื่อส่งเสริมผู้เรียนได้เรียนรู้ภาษาที่เขาได้เรียนรู้มาแล้วทั้งในส่วนที่ได้เรียนรู้แล้วในชั่วโมงก่อนๆ และในชั่วโมงที่กำลังเรียนอยู่ ครูผู้สอนแสดงบทบาทเป็นผู้ให้คำแนะนำ (Advisor) คอยแนะนำและช่วยเหลือผู้เรียน ในการนำภาษาไปใช้ ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป (Wrap up) เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้สรุปสาระสำคัญของบทเรียน กิจกรรมที่ จัดขึ้นในขั้นตอนนี้อาจเป็นเพลง เกม การทำแบบฝึกหัดต่างๆ หรือการมอบหมายงาน เป็นต้น
20 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ วิธีการสอน SQ6R ตามที่ Williams (2005) ได้พัฒนาแนวคิดมาจาก Robinson, Feldt and Moore, and Whittaker and Shaughnessy และแนะนำให้ผู้เรียนนั้นใช้เทคนิค SQ6R เพื่อใช้ในการอ่านงานวิจัยหรือบทอ่าน โดยมีขั้นตอน ในการอ่านทั้งหมด 8 ขั้นตอนดังนี้ 1.Survey (สำรวจ) ขั้นตอนการสำรวจเป็นการกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว เพื่อจดชื่อเรื่องของ บทความอ่านบทสรุปที่อยู่ใกล้กับชื่อเรื่อง 2.Question (ตั้งคำถาม) เป็นการตั้งคำถามว่าเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับอะไรทำไมหัวข้อจึงมี ความสำคัญ ในขั้นตอนนี้จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็นรวมทั้งเป็นการชี้ให้เห็นถึง ความสำคัญและประโยชน์ของเนื้อหาที่มีต่อผู้เรียนโดยตรงช่วยให้ผู้เรียนนั้นมีความกระตือรือร้นที่อยากจะอ่าน บทความมากขึ้น 3.Read (อ่าน) เป็นขั้นตอนของการอ่านบทความแล้วสรุปเอาใจความสำคัญของแต่ละหัวข้อให้ อยู่ในรูปแบบหัวข้อย่อยหรือสรุปย่อของแต่ละส่วนให้เหลือเพียงประโยคเดียวช่วยให้ผู้เรียนทราบว่าอะไรคือใจความ สำคัญของแต่ละย่อหน้าหรือจดบันทึกและหาคำศัพท์ใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนนั้นมั่นใจมากขึ้น 4.Reflect (การสะท้อน) เป็นขั้นตอนของความสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมให้ความสนใจกับ รายละเอียดเพื่อนำไปสู่ภาพรวมได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 5.Review (ทบทวน) ในขั้นนี้เป็นการทบทวนหัวข้อเรื่องสรุปย่อหรือสรุปใจความสำคัญสำรวจ ตารางและแผนภูมิต่างๆเพื่อหาความสำคัญเตรียมตัวสำหรับการอภิปรายในชั้นเรียน 6.Rehash (ปรับปรุงใหม่) ในขั้นนี้ผู้เรียนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนรับฟัง ความคิดเห็นซึ่งกันและกันในชั้นเรียน 7.Rethink (คิดอีกรอบ) ขั้นนี้จะเป็นขั้นที่ให้ผู้เรียนนั้นคิดทบทวนและเขียนสิ่งที่เพื่อนแนะนำ 8.Reevaluate (ประเมินผลอีกครั้ง) เป็นขั้นที่ผู้เรียนนั้นสามารถแก้ไขหัวข้อเรื่องบทสรุปและ สามารถเตรียมข้อมูลนั้นเพื่อใช้ในสถานการณ์จริงได้ วิธีการสอน SQ5R ในปี 1984 วอลเตอร์ พอค (Walter Pauk, 2002) ได้พัฒนากลวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R โดยใช้ ขั้นตอนเช่นเดียวกับกลวิธีการสอนอ่านแบบ SQ3R ของฟรานซิส โรบินสันและแกไขข้อบกพร่องโดยการเพิ่มขั้นการ จดบันทึก (Record) และข้นัการวิเคราะห์ (Reflect) แต่ตัดขั้นตอนการทบทวนออก (Review) กลวิธีการสอนอ่าน แบบ SQ4R จึงประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ (สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. 2545) 1. ขั้นสำรวจ (Survey: S) คือการอ่านอย่างคร่าวๆ เพื่อให้รู้ถึงวัตถุประสงค์ของการอ่าน 2. ขั้นตั้งคำถาม (Question: Q) คือการตั้งคำถามเพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการอ่าน 3. ขั้นอ่าน (Read: R1) คือการอ่านเนื้อหาอย่างละเอียด เพื่อค้นกาคำตอบของคำถาม
21 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 4. ขั้นจดบันทึก (Record: R2) คือการจดบันทึกโดย ย่อด้วยข้อความสั้น ๆ เป็นสำนวนภาษาของตนเอง หรือขีดเส้นใต้ ข้อความที่มีความสำคัญ 5. ขั้นท่องจำ (Recite: R3) คือ การจดจำคำตอบ และประเด็นสำคัญที่ได้จากการจดบันทึกหรือขีดเส้นใต้ไว้ 6. ขั้นสะท้อนความคิด (Reflect: R4) คือการ วิเคราะห์บทอ่านโดยการแสดงความคิดเห็น หรือเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับ ความรู้เดิมของตนเองด้วยภาษาที่เหมาะสม วิธีสอนการสอนอ่านของเมอร์ด็อค (MIA) ขั้นสอน ตามระบบโดยวิธีสอนการสอนอ่านของเมอร์ด็อค (MIA) มี 7 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นการถามนำก่อนการอ่าน (Primming Questions) ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องอย่างคร่าวๆ จะช่วยให้นักเรียนเรียบเรียง แนวความคิดต่าง ๆ ได้ ในขั้นนี้นักเรียนค้นหาคำศัพท์ วลีที่แสดงถึงความหมายของ Wh-questions โดยนักเรียนใน กลุ่มช่วยกันทำงาน ระดมความคิดสำรวจบทความที่อ่านในใบงานที่ 1 2. ขั้นการทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding Vocabulary) คือ การศึกษาคำศัพท์ที่ปรากฎอยู่ในเรื่องและหา ความหมายของคำศัพท์เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจในการอ่านเนื้อเรื่อง มากขึ้น ในขั้นนี้นักเรียนได้สำรวจคำศัพท์จากบทความคร่าวๆ และ นักเรียนฝึกอ่านคำศัพท์ในใบความรู้ที่ครูแจกให้ 3. ขั้นการอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) คือ การ อ่านเนื้อเรื่องแล้ววิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคำถามกับคำสรรพนาม ในเรื่อง ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมความ เข้าใจในการอ่าน ในขั้นนี้ นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงบทความพร้อมกัน จากนั้นนักเรียนเข้ากลุ่มและช่วยกันอ่านบทความและสำรวจ ค้นหา คำตอบที่ตั้งไว้ลงในใบงานที่ 1 และแต่ละกลุ่มทำความเข้าใจบทความ อย่างละเอียดที่แต่ละกลุ่มได้รับ และทบทวนคำถาม คำตอบอย่าง ละเอียด ซึ่งนักเรียนได้อธิบายเนื้อหาของบทความให้เพื่อนสมาชิกใน กลุ่มได้ฟัง
22 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 4. ขั้นทำความเข้าใจเรื่อง (Understanding the Text) คือ การตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน ของนักเรียนโดยให้นักเรียนตอบคำถามหรือเติมข้อความปลายเปิดให้สมบูรณ์โดยใช้ภาษาของตนเอง ในขั้นนี้ นักเรียนได้ช่วยกันอ่านบทความเรื่อง Saint Valentine’s day อีกครั้ง จากนั้นนักเรียนทบทวนบทความที่ครูแจกให้ และค้นหาความหมายของคำศัพท์ เลือกคำศัพท์เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้องลงในใบงานที่ 2 5. ขั้นการถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) คือ กิจกรรมที่นักเรียนนำ ความรู้ที่ได้รับจากการอ่าน มาเขียนในรูปแบบอื่น เช่น ตาราง แผนภูมิ ในขั้นนี้ นักเรียนทบทวนบทความอีกครั้ง จากนั้นเขียนสรุปความสำคัญลงเป็นแผนผังความคิด ลงในใบงานที่ 3 และนักเรียนได้พูดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลกับ เพื่อนสมาชิกในกลุ่มและต่างกลุ่ม จากนั้นตัวแทนกลุ่ม 2 กลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน 6. ขั้นการทำแบบฝึกหัดต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างอนุเฉท (Jigsaw Exercise and Paragraph Structure) คือ กิจกรรมที่นักเรียน ต้องเรียงประโยค เรื่องราว หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง และนำประโยคมาเรียงต่อกันในรูปแบบของอนุเฉทให้ได้เนื้อเรื่องที่มีใจความสมบูรณ์ต่อเนื่อง ในขั้นนี้ นักเรียนได้ ทำแบบฝึกหัดร่วมกัน โดยนักเรียนเรียงลำดับประโยคว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนและหลังตามลำดับให้ถูกต้อง จากนั้นนักเรียนนำประโยคที่เรียงได้ถูกต้อง และนำมาเขียนโครงสร้างอนุเฉทให้สมบูรณ์ ลงในใบงานที่ 4 7. ขั้นการประเมินและการแก้ไข (Evaluation and Correction) คือ การประเมินผลงาน หลังจากที่ได้ทำการประเมินผลในเกือบทุกขั้นตอนก่อนนี้แล้ว และเป็นการแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องของภาษาที่ผู้เรียนใช้ ในการอภิปรายและเขียนในแบบฝึกหัด เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่ดีแก่ผู้เรียนต่อไป ในขั้นนี้ ครูพูดสรุปอธิบาย บทความให้นักเรียนได้เข้าใจทั้งหมดอีกครั้ง และนักเรียนแต่ละคนทำแบบทดสอบท้ายบท วิธีการสอน GPAS 5 Steps ตามที่ ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ชูโมเดลการคิดขั้นสูงเชิงระบบ 5 ขั้น (GPAS 5 Steps เน้นกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้แบบแอคที่ฟเลินนิ่ง พร้อมทั้งเป็นเจ้าของการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1. แสวงหาข้อมูลรอบด้านเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ (Gathering) ผู้เรียนเกิดการสังเกต หรือตั้งข้อสงสัย ในปัญหาจากการกระตุ้นของครูผู้สอนผ่านกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น การสร้างสถานการณ์เพื่อฝึกให้ผู้เรียนตั้ง คำถามกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในชุมชน ทำให้ผู้เรียนต้องการหาคำตอบด้วยตัวเองด้วยการสืบค้นความรู้ จากแหล่งข้อมูลรอบตัว 2. คิด-วิเคราะห์-สรุปความรู้เพื่อวางแผนเตรียมปฏิบัติ (Processing) ผู้เรียนนำข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่ รวบรวมได้มาร่วมกันวิเคราะห์ ว่าจะสามารถนำไปแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร จากนั้นจึงจัด จำแนกข้อมูล และนำไปวางแผนการปฏิบัติ เช่น การคิดสร้างนวัตกรรมเพื่อนำไปแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน
23 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 3. ลงมือทำจริง แก้ปัญหาจริง เพื่อพัฒนาหาแนวทางที่ดีที่สุด (Applying 1) ผู้เรียนนำองค์ความรู้ที่ผ่าน การวิเคราะห์และวางแผนแล้วไปปฏิบัติและลงมือทำ โดยจะเกิดการเรียนรู้จากการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง กระบวนการปฏิบัติจริง การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนาให้เกิดผลสำเร็จที่ดียิ่งขึ้นต่อไป 4. สื่อสารและนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย (Applying 2) ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในองค์ความรู้ที่ เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานและการแก้ปัญหา จนสามารถสรุปออกมาเป็นหลักการ สื่อสารผ่านการนำเสนอในรูปแบบ แผนภาพความคิด นำเสนอเป็นรายงาน การอภิปราย การบรรยาย หรือจัดทำเป็นสื่อต่างๆ 5. สร้างคุณค่าให้ผลงาน ต่อยอดประโยชน์สู่สังคม (Self-Regulating) ผู้เรียนมีจิตสาธารณะและเห็น คุณค่าในผลงาน สามารถขยายผลหรือต่อยอดองค์ความรู้นั้น เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม หรือแก้ไข ปัญหาสั่งคมในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงกับบริบทของแต่ละ ชุมชน All unity น้ำหนึ่งใจเดียวกัน หมายถึง ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนสู่มาตรฐานสากล ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการประชุม วางแผนร่วมกันผ่าน กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างต่อเนื่อง มีการนิเทศภายในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครูและแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียน มีการสะท้อนผลความคิดเห็นที่ แตกต่างกันหลากหลายเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
24 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ N : Network (เครือข่าย) หมายถึง มีการประสานเครือข่ายที่ดี ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการร่วมมือบูรณาการหลักสูตรกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นในโรงเรียน มีการเผยแพร่ผลงาน ต่างๆ การมีเครือข่ายส่งผลให้นักเรียนได้รับประสบการณ์เรียนรู้ที่หลากหลาย มีการเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียน และยังร่วมมือกับภาคเอกชน ส่งผลให้นักเรียนได้รับการสนับสนุนและแรวงจูงใจส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อย่างมีประสิทธิผล กลุ่มสาระมีการประชุม รับการนิเทศ และส่งนักเรียนเข้าร่วมการอบรม 3. ขั้นการตรวจสอบประเมินผล C (Check) ผู้ศึกษาดำเนินการศึกษาทฤษฎี หลักการ แนวคิด งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการประเมิน ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ นำเอาหลักการมาประยุกต์ใช้ในการสร้างแบบทดสอบ แบบสอบถาม และแบประเมินเพื่อนำมาใช้ในการวัดและประเมินผลการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจจากการทำแบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียนในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ ประเมินจากการสังเกตการณ์เรียนรู้ในชั้นเรียน ประเมินจาก การทำกิจกรรมกลุ่ม ประเมินจากการนำเสนอหน้าชั้นเรียน ประเมินจากแบบสอบถาม และประเมินจากแบบวัด ความพึงพอใจของนักเรียน จากนั้นนำผลที่ได้จากการประเมินผลไปวิเคราะห์ค่าทางสถิติและสังเคราะห์ข้อมูลนำไป วางแผน ปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนต่อไป สำหรับการวัดผลประเมินผล ผู้ศึกษาได้ใช้สถิติทางการวิจัยพื้นฐาน ประกอบด้วย (1) สูตรการหาความเที่ยงตรง (Validity) ของแบบทดสอบทักษะการพูดภาษาอังกฤษ (English Speaking Skill Test) ใช้สูตร IOC (สมนึก ภัทธิยธานี. 2546 : 221) (2) สูตรที่ใช้หาค่าร้อยละ ใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด. 2552 : 104) (3) สูตรค่าเฉลี่ย ใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด.2552 : 103) โดย คาเฉลี่ยจากแบบ มาตราสวนประมาณ คา (Rating Scale) ตามวิธีของลิเคอรท (Likert)
25 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 4.51 - 5.00 คะแนน หมายถึง มีคุณภาพและความเหมาะสมมากที่สุด 3.51 - 4.50 คะแนน หมายถึง มีคุณภาพและความเหมาะสมมาก 2.51 - 3.50 คะแนน หมายถึง มีคุณภาพและความเหมาะสมปานกลาง 1.51 - 2.50 คะแนน หมายถึง มีคุณภาพและความเหมาะสมน้อย 1.00 - 1.50 คะแนน หมายถึง มีคุณภาพและความเหมาะสมน้อยที่สุด (4) สูตรค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. 2552 : 45) (5) สูตร t - test (Dependent Samples) (บุญชม ศรีสะอาด. 2552 : 112) (6) การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบร่วมมือที่เน้นที่สอน อ่านเอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R)ตามเกณฑ 75/75 (ชวลิต ชูกําแพง. 2553 : 131 - 132) (7) การหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบร่วมมือที่เน้นที่ สอนอ่านเอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R) (เผชิญ กิจระการ. 2545 : 1- 3) โดยใช้สูตร ดังนี้ ดัชนีประสิทธิผล = ผลรวมของคะแนนหลังเรียนทุกคน–ผลรวมของคะแนนกอนเรียนทุกคน (จำนวนนักเรียน x คะแนนเต็ม)–ผลรวมของคะแนนกอนเรียนทุกคน ผลของการใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านเอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R)ที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนในห้องเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านเอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R)ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีการสอนที่มี ประสิทธิภาพ เน้นการทำงานช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างแรงจูงใจในแก้ไขปัญหาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และ สามารถพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ มีกระบวนการกระตุ้นการพัฒนาทักษธการอ่านเป็นขั้นตอนทำให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหาที่อ่าน และส่งผลการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน สูงขึ้น ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ Getting around the world เรื่อง Finding a hotel in London โดยใช้วิธีการ เรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านแบบ เอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R) พบว่า ได้คะแนนการประเมินพฤติกรรม ระหว่างเรียนคะแนนจากใบงานและการทดสอบย่อยท้ายแผน มีคะแนนเทากับ 1,676 จากคะแนนเต็ม 2,000 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.80 แสดงวาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1 ) เทากับ 83.80 และ ได้คะแนน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีคาเฉลี่ยเทากับ 24.75 จาก คะแนนเต็ม 30 คะแนนคิดเป็นร้อย ละ 82.50 แสดงวาประสิทธิภาพของผลลัพธ์(E2 ) เทากับ 82.50 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ เรื่อง My holidays โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านแบบ เอส คิว โฟร์ อาร์ (SQ4R) พบว่า พบวาประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1 ) เทากับ 86.54 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์(E2 ) เทากับ
26 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 76.00 ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรูการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้น วิธีการสอนอ่านแบบ เอส คิว ไฟว์อาร์ (SQ5R) วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 มีประสิทธิภาพเทากับ 83.80/82.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ 75/75 ที่กำหนดไว ครูผู้สอนใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ SQ5R ในชั้นเรียน เป็นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารในด้านทักษะ การอ่านเพื่อความเข้าใจ ผลจากการศึกษา พบว่า ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านแบบ เอส คิว โฟร์ อาร์ (SQ5R) ดังตารางต่อไปนี้ ความสามารถการอ่าน ภาษาอังกฤษ จำนวนคน (39) คะแนน เต็ม (10) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน ( S.D) ก่อนเรียน 39 110 2.82 0.72 หลังเรียน 39 379 9.72 0.45 การใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่านแบบเอส คิว ไฟว์ อาร์ (SQ5R) ส่งผลให้ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ก่อนเรียนนักเรียนมีคะแนนจากการวัดทักษะการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ อยู่ในระดับต่ำ ( = 2.82, S.D = 0.72) และกรณีหลังเรียนนักเรียนมีคะแนนจาก การวัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจอยู่ในระดับดี ( = 9.72, S.D = 0.45) x x x
27 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แบบประเมินวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครู G : Goals (ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมีเป้าหมาย) หมายถึง ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายหลักสูตรสถานศึกษา และเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสาร 2 ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบสังคมโลก กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนสังขะ มีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร พัฒนานวัตกรรม พัฒนาสื่อการจัดการเรียนรู้ มีการวัดผลที่หลากหลาย มีการกำกับติดตาม เพื่อนำผลมาพัฒนาและ ต่อยอด ส่งผลให้นักเรียนมีความเป็นเลิศทางวิชาการ สามารถสื่อสาภาษาอังกฤษได้ ครูผู้สอนมีนวัตกรรมที่เป็นเลิศ (Best Practice) มีแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ที่มีประสิทธิภาพและสามารภประยุกต์ใช้ในการ เรียนสอนสอนและพัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารของนักเรียนได้ครูผู้สอนในกลุ่มสาระฯภาษาต่างประเทศได้ สร้างนวัตกรรมการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบเชิงรุกมาใช้ในการพัฒนาทักษาภาษาเพื่อการสื่อสารของนักเรียน นำ ผลงานส่งขอเลื่อนวิทยฐานะในระบบ DPA ปรากฏว่า ครูได้เกณฑ์การประเมินจากระบบ DPA ได้รับเลื่อนวิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 4 คน และครูชำนาญการ 1 คน โรงเรียนสังขะได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ปกครองและชุมชนใน การส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาต่อ โรงเรียนได้รับความชื่นชมจากการได้รับรางวัลต่างๆ ทั้งในจังหวัด ภูมิภาค และ ระดับประเทศในอนาคต
28 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้รับรางวัล และรับเลื่อนวิทยฐานะฯ โดยใช้นวัตกรรมการ จัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร K : Knowledge Management (การจัดการความรู้) หมายถึง โรงเรียนมีการพัฒนาหลักสูตรและนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนได้อย่างเต็ม ศักยภาพ กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการวางแผน ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร ให้มี มาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน มีการใช้วิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (CLT) วิธีการ สอนแบบเชิงรุก และวิธีการสอนอื่นๆที่หลากหลาย มีการกำกับติด และมีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง ส่งผล ให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
29 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนสังขะ H : Happiness (ความสุข) หมายถึง ความสุขที่เกิดขึ้นนั้นก่อให้เกิดกระบวนการทางความคิด ทำให้งานมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการวัดความพึงพอใจของผู้เรียนในด้านจัดการเรียนการ สอนรายวิชาภาษาอังกฤษ นำผลมา วางแผน ปรับปรุง พัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความถนัด เละความสนใจของผู้เรียน และผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้ นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ
30 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แบบสรุปวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่ความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนของครู 4. ขั้นการการพัฒนา / ปรับปรุงแก้ไข A (Act) จากการจัดกิจกรรมและศึกษาดังกล่าว ผู้ศึกษาได้ดำเนินการวิเคราะห์ผลการประเมินเพื่อ เป็นข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ต่อไป ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ดำเนินการทำ แบบสอบถามวัดความพึงพอใจสำหับการจัดกิจกรรมการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ดำเนินการส่งแบบถามแสดงความคิดเห็นสำหรับการจัดการเรียนการสอน การสัมภาษณ์ผู้เรียน รวมทั้งการสังเกต ชั้นเรียนและพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนในชั้นเรียน นำข้อมูลดังกล่าวไปสังเคราะห์และนำผลไปวางแผนและ สร้างประเด็นท้าทายในการพัฒนาผู้เรียน สร้างนวัตกรรมขึ้นใหม่ และสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ ต่อไปเพิ่มเติมในเรื่องของการส่งเสริมทักษะทาง A : Accountability (ความรับผิดชอบ) หมายถึงความเอาใจใส่ มุ่งมั่นต่อการศึกษาเล่าเรียนและการทำงาน ความเป็นอยู่ของตนเอง ตลอดจนการเข้าสังคมอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการจัดการเรียนสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยให้ความสำคัญคุณลักษณะอันพึงประสงค์ควบคู่กับ การเรียนรู้ในห้องและนอกห้องเรียน เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรับผิดชอบ เอาความใจใส่ในการเรียนรู้และ บริการสังคม อย่างเต็มความสามารถเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
31 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4. ผลการดำเนินการ/และประโยชน์ที่ได้รับ ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้รูปแบบการบริหารงาน SANGKHA MODEL ใช้ในการบริหารงาน และดำเนินการจัดการเรียนการสอน โดยมีวงจร PDCA กำกับและตรวจสอบการบริหารงานในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ การศึกษานี้ได้แผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ บูรณาการวิธีการเรียนรู้ทางภาษาต่างประเทศ เทคนิคการทำงานกลุ่มและวิธีการสอนอ่าน ส่งผลให้ผู้เรียนมี พฤติกรรมการเรียนรู้ทางภาษาที่ดีขึ้น นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีการสื่อสาร การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน มีพฤติกรรมการช่วยเหลือและเกื้อกูลกันระหว่างเพื่อนสมาชิกในกลุ่มและต่างกลุ่ม และที่สำคัญนักเรียนมีเจตคติที่ดี ต่อการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศและความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจนองนักเรียนดีขึ้น
32 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ วงจรบริหารงาน SANGKHA MODEL ที่ใช้ในการบริหารงานและดำเนินการกำกับติดตาม นิเทศ วัดผล ประเมินผล ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ในการศึกษาครั้งนี้ กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ ได้นำเสนอในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การ พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบร่วมมือที่เน้นวิธีการสอนอ่าน เอส คิว ไฟว์อาร์ (SQ5R) เป็นการประยุกต์ใช้และบูรณาการ เทคนิคการสอนที่มีคุณประโยชน์มาใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้แบบ Passive Learning ให้เป็นการรู้ แบบ Active learning ผ่านการเรียนรู้ การแก้ไขปัญหา และการ ช่วยเหลือกันเป็นกลุ่ม โดยบูรณาการการสอนอ่านที่มีขั้นตอน ทั้ง 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย Survey (S) ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องอย่างคร่าว ๆ Question (Q) การตั้งคำถาม Read (R) การอ่านข้อความในบทหรือตอน นั้น ๆ ซ้ำอย่างละเอียด Record (R) ให้นักเรียนจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ ได้อ่าน Recite (R) ให้นักเรียนสรุปใจความสำคัญ Review (R) เป็นการ อ่านทบทวนหัวข้อหรือประเด็นสำคัญและReflect (R) ให้นักเรียน วิเคราะห์ วิจารณ์ บทอ่านที่นักเรียนได้อ่าน ในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร กลุ่มสาระฯ ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสังขะ ได้ดำเนินการออกแบบแผนการจัดการเรียนเชิงรุก ( Active Learning) ร่วมกับวิธีการสอนทางภาษาต่างประเทศและวิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ( CLT) ประกอบด้วย วิธีการสอนแบบ 2W3P วิธีการสอนแบบร่วมมือ วิธีการสอนแบบ 5E วิธีการสอน
33 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนมีความคงทนในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ครู ควรหาเทคนิค วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและสร้างสรรค์โดยบูรณาการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการจัดการ เรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 5. ปัจจัยความสำเร็จ 5.1 ครูผู้สอนมีความพร้อมและความตั้งใจที่จะแสวงหาความรู้มาพัฒนาปรับปรุงผลงานอย่างมีระบบ 5.2 ได้รับการส่งเสริม สนับสนุนด้านการจัดการศึกษาจากผู้บริหาร และให้ความสำคัญสนับสนุนการ พัฒนางาน 5.3 ได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์มหาวิทยาลัย ภาควิชาภาษาต่างประเทศจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ สุรินทร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเพื่อนร่วมงาน เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษและวิธีการวิจัยทางการสอนภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี 5.4 ได้รับความร่วมมือจากนักเรียนระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นอย่างดี ส่งผลให้เด็กมี พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นอย่างดี และที่สำคัญนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษดีขึ้น 5.5 การประยุกต์ใช้รูปแบบการบริหาร SANGKHA MODEL มาใช้ในการดำเนินการบริหารจัดการ เรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ในการดำเนินการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยใช้วิธีการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ส่งผลให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร นักเรียนได้รับรางวัลเกี่ยวกับการแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในระดับสห วิทยาเขต ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและระดับชาติตามลำดับ สำหรับครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ได้ส่งผลงานประกวดแข่งขั้นต่างๆในระดับสหวิทยาเขต ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและระดับชาติตามลำดับ ประกอบด้วย ด้านนักเรียน 1.นางสาวพิราอร พงษ์เกตุศิริพัฒนา 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง (ระดับภาค) การแข่งขันเล่านิทาน (Story telling) ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ณ จ.ร้อยเอ็ด 2.เด็กหญิงกมลพร เนริกุล 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษประกอบ ภาพ ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70
34 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 3.นางสาวอัจจิมา บุญมี 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษ ประกอบภาพ ม.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70 4.นางสาวพิราอร พงษ์เกตุศิริพัฒนา 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันการเล่านิทาน (Story telling) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70 5.นางสาวเบญจมาศ นาคนวล 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 การแข่งขันการเล่านิทาน (Story telling) ม.4-6งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70 6.เด็กหญิงนาวารียา มะโนศรี 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ (impromptu speech) ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70 7.นางสาวเพชราภรณ์ ทองภาพ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ (impromptu speech) ม.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 70 รางวัลนักเรียน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 1.เด็กหญิงนาวารียา มะโนศรี 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ (impromptu speech) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 2.นางสาวเพชราภรณ์ ทองภาพ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ (impromptu speech) ม.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 3.เด็กชายพชรดนัย อยู่นาน 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การแข่งขันเล่านิทาน (Story Telling) ม.1-3งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 4.นางสาวเบญจมาศ นาคนวล 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 การแข่งขันเล่านิทาน (Story Telling) ม.4-6งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 5.เด็กหญิงพิมพ์พิชชา ลวดเงิน
35 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันประกวดเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษประกอบ ภาพ(Pictorial Writing) ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 6.นางสาวอัจจิมา บุญมี 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันประกวดเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษประกอบภาพ (Pictorial Writing) ม.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 7.เด็กหญิงทาริกา เดือนขาว 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 8.เด็กชายชวนากร จารัตน์ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 9.นางสาวช่อรดา ศาลางาม 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 10.นางสาวหนึ่งฤทัย พุ่มลา 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 11.นางสาวนัทธิดา สมบูรณ์ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.1-3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 12.นายพัสกร วรญาณ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.4-6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 13.นางสาวกรวรรณ พันศิริ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.4-6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 14.นางสาวฐิติวรา ไชยสาร 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.4-6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 15.นางสาวนิธิตรา คำแสน
36 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.4-6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 16.นางสาวอภิศรา อย่าลืมดี 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันละครสั้นภาษาอังกฤษ (Skit) ม.4-6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 17.นายพลณพรรค มุมทอง 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 การแข่งขันต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ครอสเวริ์ด) ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 18.นางสาวภัทริดา สิงห์เกิด 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 การแข่งขันต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ครอสเวริ์ด) ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 19.นางสาวสโรชา เทพเบตร 1.ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ครอสเวริ์ด) ม.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน สพม.สุรินทร์ ครั้งที่ 71 ด้านครูผู้สอน 1. นางสาวมะลิวรรณ อะนุติ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2565 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. นางเอื้อมจิต ถิ่นแถว ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 3. นางภักษร มหาเทียนธำรง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. ได้รับรางวัลครูดีเด่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับอำเภอสังขะ จากสมาคมครู และบุคลากรทางการศึกษาอำเภอสังขะ ปี 2565 4. นางฐิติรัตน์ ไตรรัตน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 5. นางสาวพรรษสรณ์ ดาสั่ว ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2565 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 6. นายธีระกุล ศรีน้อย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
37 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 7. นางสาวอารียา บุญยงค์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2565 3. ได้รับรางวัลครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ) จาก สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ ปี 2566 8. นายธีระศักดิ์ สินชัย ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. ได้รับรางวัลครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ) จาก สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ ปี 2566 3. ได้รับรางวัลครูและคณาจารย์ เป้นผู้ที่ส่งเสริมสนับสนุน และจัดสวัสดิการและสวัสดิภาพให้แก่ผู้ ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษาจนเป็นที่ประจักษ์ จาก สำนักงานส่งเสริม สวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ปี 2565 9. นางสาวพลอยนิศา ศิลป์บุญกล้า ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. ได้รับรางวัล เป็นครูผู้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2565 10 นางกุลจิรา เทียนชัย ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ปี 2565 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ปี 2566 11. นางสาวกัญญ์จิรา ทองอ้ม ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ปี 2565 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ปี 2566 3. ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การนําเสนอผลงานการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning Best Practice (วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ) ศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 4. ได้รับรางวัลระดับ ดีเยี่ยม การประกวดคัดเลือกผลงานนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) ครูผู้พัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC)ผ่านการพัฒนา บทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ประจำปีการศึกษา 2566 12. นางสาวกัญญาภัทร บริบูรณ์ตำแหน่ง ครู 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566
38 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2565 13. นางสาวศุภกาญจน์ เชื้อเจริญ ตำแหน่ง ครู 1. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2566 2. ได้รับรางวัล Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์ ปี 2565 ด้านโรงเรียน 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ได้ดำเนินจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษเน้นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร บูรณาการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะให้นักเรียนอย่าง สม่ำเสมอ เน้นการสร้างแรงจูงใจและทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ผ่านกิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้เชิง รุก (Active Learning) และจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารผ่านกิจกรรมในชั้นเรียนและ นอกชั้นเรียน โดยกิจกรรมในชั้นเรียน ครูดำเนินจัดกิจกรรมการพูดสื่อสารผ่านกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมคู่และให้ นักเรียนใช้เทคโนโลยีพื้นฐานอย่างง่ายมาใช้กับการจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมนอกชั้นเรียน กลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จัดกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อสร้างเจตคติที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและพัฒนา ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จัดกิจกรรมวันคริสต์มาส จัดกิจกรรมภาษาอังกฤษวันละคำหน้าเสาธง เป้นต้น 2. ในฝ่ายบริหารงานวิชาการ ในห้องเรียนพิเศษ (SME) ดำเนินการจัดค่ายเพื่อพัฒนาทักษะ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างทัศนคติหรือความพึงพอใจที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอก ชั้นเรียน 6. บทเรียนที่ได้รับ ( Lesson Learned ) จากการดำเนินงานการศึกษาครั้งนี้ บทเรียนและคุณประโยชน์ที่ได้จากการศึกษา ดังต่อไปนี้ 6.1 ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้นักเรียนผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ เชิงรุก (Active Learning) และกิจการเรียนการสอนที่หลากหลายและสร้างสรรค์ 6.2 ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และได้สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในสถานศึกษาและสถานศึกษาอื่นๆ ผ่านกิจกรรมประชุมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อนำเสนอผลงานที่ประสบความสำเร็จจากการศึกษา และเสนอประเด็นพัฒนาให้ครูในสถานศึกษาหรือสถานศึกษาอื่นๆที่สนใจได้รับทราบแล้วนำไปประยุกต์ใช้ในการ จัดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพนักเรียนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.3 ได้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุกที่สร้างสรรค์ สร้างแรงจูงใจและสร้างความพึงพอใจ ที่ดีให้นักเรียนในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 6.4 เด็กนักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้และส่งผลพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ดีของนักเรียนต่อไป 6.5 ได้รูปแบบการบริหารงาน SANGKHA MODEL ที่มีประสิทธิภาพ โดยเป็นรูปแบบการ บริหารงาน พัฒนาการเรียนการสอนและกำกับติดตามผลเพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาครู พัฒนานวัตกรรมการ
39 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สอน พัฒนาการวัดผลประเมิน พัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของ ผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ 7. การเผยแพร่ผลงาน/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระภาษาต่างประเทศโรงเรียนสังขะ เป็นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร บูรณาการทักษะทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เพื่อให้ผู้เรียนได้รับพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อกาสื่อสารทั้ง 4 ทักษะ ผู้เรียนได้เรียนรู้เทคนิคการพูด ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ได้เรียนรู้คำศัพท์ วลี และสำนวนต่างๆผ่านการจัดกิจกรรมแบบเชิงรุก และผู้เรียนได้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนักเรียนในกลุ่มและในชั้นเรียนผ่านกิจกรรมการทำงานกลุ่ม และมีทักษะทาง สังคมที่ดีขึ้น ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาก็นำประเด็นที่ได้รับจากการศึกษามาประชุมแลกเปลี่ยนผลงานระหว่าง ครูในโรงเรียน และเผยแพร่เป็นเอกสารและไฟล์ไปยังโรงเรียนในสหวิทยเขต และครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศต่างโรงเรียนผ่าน Facebook Line และ E-mail เป็นต้น ในการศึกษาครั้งนี้ คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)โรงเรียนสังขะ ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดการแข่งขันผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice ) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และ ได้รับรางวัล Smart Teacher เกียรติบัตรผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศดีเด่น (ภาษาอังกฤษ)
40 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เกียรติบัตรการปฏิบัติเป็นเลิศ (Best Practice) เกียรติบัตร Smart Teacher จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ 7.1 การนำรูปแบบ วิธีการพัฒนาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ และเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษารายงานผลการศึกษาให้ผู้บริหารทราบเป็นเบื้องต้น จากนั้น ดำเนินประชุมกลุ่ม PLC เพื่อนำเสนอผลการศึกษาในหัวหน้าวิชาการทราบและนำเสนอผลการศึกษาให้คณะครู ทราบกระบวนการศึกษา และเผยแพร่เป็นเอกสารและไฟล์ไปยังโรงเรียนในสหวิทยาเขต และครูผู้สอนในกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโรงเรียนอื่นๆที่สนใจผ่าน Facebook Line และ E-mail เป็นต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)โรงเรียนสังขะ ได้รับโอกาที่ ทรงคุณค่าจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ คัดเลือกผลงาน การปฏิบัติที่เป็นเลิศเข้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งผลให้คณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ได้มีนวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ แผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก สื่อและนวัตกรรมมีความ หลากหลายและสร้างสรรค์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารให้นักเรียนได้อย่างดี
41 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เผยแพร่ผลงานให้ผู้สนใจและส่งเข้าประกวด
42 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 8.บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. http://www.curriculum51.net/upload/cur-51.pdf 8 พฤษภาคม 2556. กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, จีราภรณ์ ขำมณี. (2562). การพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความและการเขียนสรุปความด้วย กิจกรรมการเรียนรู้แบบSQ4R ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์. ปริญญาการศึกษา มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. จุฑาทิพย์ มัชฌิโม. (2559). การเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่าน การเขียน และเจตคติต่อการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ชวลิต ชูกำแพง. (2553). การประเมินการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพ ฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น. บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. (2552). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา. พิมพ์ครั้งที: 5. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์. พัชราพรรณ จันสม. (2559). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่าน ทักษะในการเขียนภาษาอังกฤษและ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการสอนแบบ เอส คิว โฟร์ อาร์ (SQ4R) และ เค ดับเบิ้ลยู แอลพลัส (KWL-Plus). วิทยานิพนธ์. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ผจงกาญจน ภูวิภาดาวรรธน. (2540). ภาษาและการสอน : รวมบทความวิชาการ.คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. รัตนภัณฑ์ เลิศคำฟู. (2547) การใช้วิธีการสอนแบบเอสคิวโฟร์อาร์ ในการสอนอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 . วิทยานิพนธ์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. (2554). วิธีสอนตามแนวปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพของ เยาวชน. กรุงเทพฯ: 9119เทคนิคพริ้นติ้ง. สุพรรณี ไกยเดช. (2557). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การอานเพื่อความเขาใจ และการทำงานเป็น ทีม เรื่อง Love Our Environment ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ระหว่างการจัดกิจกรรมการ เรียนรูแบบร่วมมือแบบ CIRC กับแบบ SQ4R. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. สมนึก ภัททิยธนี. (2546). การวัดผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กาฬสินธุ์ :ประสานการพิมพ์. พัชราพรรณ จันสม (2559). การเปรียบเทียบความเขาใจในการอาน ทักษะในการเขียนภาษาอังกฤษและ แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ระหวางการสอนแบบ เอส คิว โฟรอาร
43 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ (SQ4R) และ เค ดับเบิ้ลยู แอลพลัส (KWL-Plus). วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ประทุมวรรณ จันทรศร (2558). การเปรียบเทียบความสามารถดานการอานเพื่อความเขาใจ ความคงทน ในการ เรียนรูและแรงจูงใจในการอานภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 โดยการใชสื่อแบบ อรรถฐาน ระหวาง การจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบ MIA และการจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบ SQ4R. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. Gray, W.S and Robinson H. (2004). Innovation and Change in Reading instruction. Illinoi : The National Society for the Study of Education, Goodman, Kenneth S. (1982). Language and Literacy. Boston : Routh edge and Regan Paul. Johnson, D. W., R. T. Johnson and E. J. Holubec. Cooperation in the Classroom. 6 th ed. Minnesota : Interaction Book Company, 1994. Kagan, Spencer. (1994). Cooperative Learning. San Clemente, CA : Kagan Publishing. Nelson, S. M., J. J. Gallagher and M. R. Coleman. (1993). “Cooperative learning from two different perspectives,” Roeper Review. 16(4) : 117-121, . Slavin, S. (1987) “Learning Cooperative and the Cooperative School,” Educational Leadership. 45(5) : 7-13 ; November. Tsai, S. (1998). The effects of Cooperative learning on Teaching English as a Foreign language to Senior High School Students. Master’s Thesis, Normal : National Kaohsiung Normal University. Underhill, Nick. (2000).Testing Spoken Language. Oxford : Oxford University Press. Wei, C. and Y. Chen. (1993). “A Study of Taiwanese College Students’ Perceptions About 177 Cooperative learning in English Class,” in Proceedings of the 10th International Symposium on English Teaching. p. 175-191. Taipei : Taiwan Crane, ลงชื่อ ............................ ผู้รับรอง (นายพิศิษฐ์ ไพรสินธุ์) ตำแหน่ง ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสังขะ
44 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ภาคผนวก
45 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก https://shorturl.asia/hgGux QR Code และ ลิงค์ เพื่อสแกนดูแผนการจัดการเรียนรู้และคลิปการสอน
46 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ภาพประกอบการจัดการเรียนการสอน
47 Best Practice โรงเรียนสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เขียนสรุปใจความสำคัญเป็นแผนผังความคิดดของนักเรียน