หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรอ่ื งการอา่ นจับใจความสำคัญ
โดยใช้รูปแบบการสอน SQ4R สำหรบั นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6
จดั ทำโดย
นางนิภาวรรณ ศรีทาพักตร์
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนอนบุ าลพทั ลุง จงั หวดั พัทลุง
สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาปรถมศึกษาพัทลุง เขต1
การอา่ นจับใจความสำคัญ
ความหมาย
การอ่านจับใจความสำคัญ คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของ
ข้อความ หรอื เรอื่ งที่อา่ น เปน็ ข้อความท่คี ลุมข้อความอ่นื ๆ ในยอ่ หนา้ หนึ่ง ๆ ไว้ท้งั หมด
ใจความสำคัญ หมายถึง ใจความที่สำคัญ และเด่นที่สุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้าท่ี
สามารถครอบคลุมเนื้อความในประโยคอื่นๆ ในย่อหน้านั้นหรือประโยคที่สามารถเป็นหัวเรือ่ งของย่อหนา้
นั้นได้ ถ้าตัดเนื้อความของประโยคอื่นออกหมด หรือสามารถเป็นใจความหรือประโยคเดี่ยวๆ ได้ โดยไม่
ต้องมีประโยคอื่นประกอบ ซึ่งในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคในความสำคัญเพียงประโยคเดียว หรืออย่าง
มากไม่เกิน 2 ประโยค
ใจความรอง หรือพลความ(พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความ หรือประโยคที่ขยายความประโยค
ใจความสำคัญ เป็นใจความสนับสนุนใจความสำคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้รายละเอียด ให้
คำจำกัดความ ยกตัวอย่าง เปรียบเทียบ หรือแสดงเหตุผลอย่างถี่ถ้วน เพื่อสนับสนุนความคิด ส่วนที่มิใช่
ใจความสำคัญ และมิใช่ใจความรอง แต่ช่วยขยายความใหม้ ากข้นึ คอื รายละเอียด
หลกั การจับใจความสำคญั
๑. ต้ังจดุ มุ่งหมายในการอา่ นใหช้ ัดเจน
๒. อา่ นเรอื่ งราวอยา่ งครา่ วๆ พอเขา้ ใจ และเก็บใจความสำคัญของแตล่ ะยอ่ หนา้
๓. เม่อื อา่ นจบให้ตั้งคำถามตนเองวา่ เรอื่ งทอี่ ่าน มใี คร ทำอะไร ที่ไหน เม่ือไหร่ อยา่ งไร
๔. นำส่ิงที่สรปุ ไดม้ าเรียบเรยี งใจความสำคัญใหมด่ ้วยสำนวนของตนเองเพื่อใหเ้ กิดความสละสลวย
การอา่ นจับใจความสำคัญ
วธิ ีจับใจความสำคญั
วธิ ีการจบั ใจความมีหลายอยา่ ง ข้ึนอยู่กบั ความชอบว่าอยา่ งไร เชน่ การขีดเสน้ ใต้ การใช้สีตา่ งๆ
กนั แสดงความสำคัญมากน้อยของขอ้ ความ การบนั ทึกย่อเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการอ่านจับใจความสำคญั ที่ดี
แตผ่ ูท้ ี่ยอ่ ควรยอ่ ดว้ ยสำนวนภาษาและสำนวนของตนเองไม่ควรย่อด้วยการตดั เอาข้อความสำคญั มาเรยี ง
ต่อกัน เพราะอาจทำให้ผอู้ ่านพลาดสาระสำคัญบางตอนไปอนั เปน็ เหตุให้การตีความผดิ พลาดคลาดเคลื่อน
ได้ วิธีจับใจความสำคญั มีหลักดงั นี้
๑. พจิ ารณาทีละย่อหนา้ หาประโยคใจความสำคญั ของแตล่ ะย่อหน้า
๒. ตัดส่วนที่เป็นรายละเอยี ดออกได้ เช่น ตัวอยา่ ง สำนวนโวหาร อปุ มาอุปไมย(การเปรยี บเทียบ)
ตวั เลข สถติ ิ ตลอดจนคำถามหรือคำพดู ของผู้เขียนซึ่งเปน็ ส่วนขยายใจความสำคัญ
๓. สรปุ ใจความสำคัญดว้ ยสำนวนภาษาของตนเอง
การพจิ ารณาตำแหน่งใจความสำคัญ
ใจความสำคัญของข้อความในแตล่ ะยอ่ หน้าจะปรากฏดงั นี้
๑. ประโยคใจความสำคัญอยตู่ อนตน้ ของยอ่ หน้า
๒. ประโยคใจความสำคญั อยตู่ อนกลางของย่อหนา้
๓. ประโยคใจความสำคัญอยูต่ อนทา้ ยของยอ่ หนา้
๔. ประโยคใจความสำคัญอยตู่ อนต้นและตอนท้ายของย่อหน้า
๕. ผ้อู ่านสรปุ ขน้ึ เอง จากการอ่านท้ังย่อหนา้ (ในกรณใี จความสำคัญหรือความคดิ สำคัญ
อาจอยู่รวมในความคิดย่อย ๆ โดยไม่มีความคดิ ที่เป็นประโยคหลกั )
การอ่านจับใจความสำคัญ
บทความ
ความหมายของบทความ
บทความ คือ ความเรียงประเภทหนึ่งที่เขียนเพ่ือเสนอความรู้ ความคิด มีรูปแบบการเขียนคล้าย
กับเรียงความ แตก่ ารเขียนบทความจะต้องมีเรอ่ื งราวมาจากข้อเท็จจริงหรือข่าวประจำวัน มคี วามทันสมัย
ทันต่อเหตุการณ์ อยู่ในความสนใจของผู้อ่านและผู้เขียน และจะต้องสอดแทรกข้อเสนอเชิงวิชาการ
หรอื ความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ไว้ดว้ ย
ประเภทของบทความ
บทความแบ่งออกได้หลายประเภท ทัง้ น้ี ข้นึ อยกู่ ับแนวคิดและเหตุผลว่าจะใชเ้ กณฑ์ใดในการ
แบ่ง โดยทั่วไปนิยมแบ่งบทความเป็น ๒ ประเภทกว้าง ๆตามจุดมุ่งหมายในการนำเสนอและวิธีการเขยี น
ดงั น้ี
๑. บทความวิชาการ หรือกึ่งวิชาการ หรือเชิงวิชาการ บทความวิชาการ เป็นบทความที่
เขียนเพื่อเผยแพร่ความรู้โดยตรง ผู้เขียนจึงต้องค้นคว้าจากเอกสาร จากการสังเกต การสัมภาษณ์ การ
ทดลอง มีการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ และจะต้องมีบรรณานุกรม และ
เอกสารอ้างอิงท้ายเรื่องเสมอ ส่วนบทความกึง่ วิชาการหรือเชิงวิชาการมีลักษณะคล้ายบทความวิชาการ
คือ เขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เป็นสำคัญ แต่มีความต่างกันในเรื่องการใช้ภาษา กล่าวคือ บทความ
วชิ าการมีลักษณะการใช้ภาษาท่เี ป็นทางการ และเป็นภาษาท่ีถูกต้องตามหลกั ภาษา ในขณะที่บทความกึ่ง
วิชาการหรือเชิงวิชาการไม่เน้นในเรื่องความถูกต้องของภาษามากนัก อาจจะใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้อ่าน เกิด
ความรู้สึกสนใจ อย่างไรก็ตาม ทั้งบทความวิชาการและกึ่งวิชาการจะต้องมีการใช้ภาษาคำที่ชัดเจน
กระชับ กะทดั รัด เรยี บเรียงเนือ้ เร่ืองตามลำดบั มเี หตุผล และมขี ้อมูลสนับสนนุ การเขยี น ท้ังนี้อาจมีการใช้
แผนภมู ิหรือตารางประกอบการนำเสนอข้อมูลดว้ ยก็ได้
๒. บทความทั่วไป เป็นบทความที่ให้ความรู้ ความคิด และความเพลิดเพลินแก่ผู้อ่าน โดยเน้น
ความเพลิดเพลินเป็นสำคัญ ความแตกต่างระหว่างบทความวิชาการ หรือกึ่งวิชาการหรือเชิงวิชาการกับ
บทความทั่วไปอยู่ที่บทความทั่วไปเขียนให้คนทั่วไปอ่าน จึงใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และเร้าใจ จูงใจผู้อ่าน
บางครั้งอาจมีการใช้ภาษาพูดปะปนด้วย ส่วนบทความวิชาการเขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ในแวดวง
วชิ าการนัน้ จงึ ใชศ้ พั ท์เทคนคิ หรือศพั ทว์ ชิ าการเฉพาะสาขาทคี่ นท่ัวไปอาจจะอา่ นไมเ่ ขา้ ใจ
กลวธิ ใี นการเขยี นบทความการเขยี นบทความมีกลวิธที ท่ี ำใหบ้ ทความนน้ั นา่ สนใจ ดังน้ี
๑. การตัง้ ช่อื เร่ือง ชอื่ เรอ่ื งนับว่าเป็นสว่ นสำคัญทจ่ี ะดงึ ดูดความสนใจของผูอ้ า่ นเพราะเป็น
งงสง่งิ แรกท่ีผูอ้ ่านจะอ่านก่อนเสมอ ดงั น้ัน จะตอ้ งเลือกคำหรือข้อความท่สี ามารถสื่อสาร หรือแนวคดิ ให้ดี
ท่สี ุด ชวนใหอ้ ยากอ่านเน้ือหาในบทความ
๒. การเขยี นบทนำ บทนำเป็นสว่ นสำคัญอีกสว่ นหน่ึงที่ช่วยสร้างความสนใจจากผู้อา่ น
ดงั นนั้ ผ้เู ขียนบทความจะต้องใชก้ ลวธิ ีการเขียนบทนำ เพราะถ้าสามารถขนึ้ ต้นบทความไดด้ ีก็เท่ากับว่า
ไดร้ บั ความสำเรจ็ ไปแล้วคร่ึงหนงึ่ นักเรยี นสามารถศึกษาวิธกี ารเขยี นบทนำได้จากการเขียนบทนำ
เรยี งความในหนังสือเรียนเล่มกอ่ น เพราะใช้วธิ ีการเดยี วกนั
๓. การเขียนเน้อื เรอ่ื ง เน้ือเรื่องเป็นสว่ นท่ียาวและสำคัญทส่ี ดุ เพราะรวบรวมความคิด
และข้อมลู ท้ังหมด ยอ่ หนา้ แต่ละย่อหน้าในเน้ือเร่ืองจะตอ้ งมสี มั พนั ธภาพ คือ รอ้ ยเรียงเปน็ เรอ่ื งเดียวกัน
และมลี ำดับข้ันตอน ผูเ้ ขยี นอาจจะลำดับเนอ้ื เรื่องตามเวลา ลำดับตามเหตุผล หรือลำดบั ตามความสำคัญ
กไ็ ด้
๔. การเขียนบทสรุป การเขยี นบทสรุปเป็นส่วนท่มี ีความตอ่ เน่ืองจากเนื้อเรื่อง และเปน็
ส่วนทผ่ี ูเ้ ขียนต้องการบอกใหผ้ ู้อา่ นทราบว่าข้อมลู ท้ังหมดเสนอมาได้จบลงแล้ว ผเู้ ขียนควรมีกลวธิ ที ่ีจะทำ
ให้ผู้อา่ นพอใจ ประทบั ใจ และไดร้ ับความคิดท่ีผอู้ ่านสามารถนำไปใช้ได้ การเขียนบทสรปุ ของบทความ
มกี ลวิธีเชน่ เดยี วกับการเขยี นบทสรุปเรยี งความ ซึง่ ไดอ้ ธิบายแล้วในหนงั สอื เรียนเล่มก่อน
การพิจาณาบทความ
๑. ช่ือเรอื่ ง เป็นส่วนแรกของบทความท่สี ร้างความสนใจแก่ผ้อู า่ น บทความใน
หนงั สอื พิมพ์หรือนติ ยสารอาจตีพมิ พช์ ่อื เรื่องดว้ ยตวั อักษรขนาดใหญเ่ พื่อสรา้ งความสนใจ หากชอ่ื เร่อื งมี
ขนาดยาว กอ็ าจตีพมิ พ์ทเ่ี ป็นเร่ืองรอง ด้วยตวั อักษรขนาดเล็กลง
๒. บทนำ คอื สว่ นใหญอ่ ย่ยู อ่ หน้าแรกของบทความ มีลักษณะเปน็ การกลา่ วนำ
เร่ือง โดยใหค้ วามรเู้ บ้ืองต้น บอกเจตนาและผูเ้ ขยี นหรือตง้ั คำถาม ซงึ่ ผเู้ ขยี นจะใช้กลวิธีต่าง ๆในการ
เขียนใหผ้ ู้อา่ นสนใจติดตามเน้ือเร่อื ง
๓. เน้อื หา เป็นสว่ นสำคัญท่ีสดุ ของบทความ เพราะเปน็ สว่ นท่รี วบรวมความรู้ สาระต่าง
ๆ และความคดิ เห็นของผ้เู ขยี น
๔. บทสรุป คือส่วนสดุ ท้ายของบทความทผี่ ู้เขยี นใช้สรุปเนื้อหา และสรา้ งความ
ประทบั ใจแกผ่ ู้อ่าน โดยใชก้ ลวธิ ีหลายประการ เช่น การชกั จูงใจใหด้ ำเนินการอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ การ
ใหข้ อ้ คิดการหาแนวรว่ ม การต้งั คำถามใหผ้ ้อู า่ นนำไปคิดต่อ การเสนอแนะแนวทางการแก้ไข
ปัญหา การให้ทางเลือกเพ่ือนำไปสูก่ ารตดั สินใจ การทำนายเหตุการณ์ทจ่ี ะเกดิ ขึน้ ต่อไป เปน็ ต้น
หลกั การอ่านจบั ใจความสำคัญบทความ
การอ่านจับใจความสำคัญบทความอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ คือการพยายามค้นหา
ความคดิ สำคัญทส่ี ุดทผ่ี ้แู ตง่ ตอ้ งการบอกแกผ่ ู้อา่ นใหไ้ ดว้ า่ คอื อะไร โดยบทความแตล่ ะเรือ่ งจะมี
แนวคดิ สำคัญซ่ึงเป็นใจความสำคัญท่ีสุดของเรื่องเพียงอยา่ งเดียว ผู้แตง่ จงึ นยิ มเปิดเผยใจความ
สำคญั ของเรอื่ งไว้ 2 ลักษณะ ดงั น้ี
1. การบอกใจความสำคัญตอนท้าย เปน็ แบบทนี่ ิยมแตง่ กันมากที่สดุ เพราะการ
กล่าวถงึ สถานการณห์ รือปัญหา แล้วเสนอเหตผุ ลและรายละเอียดขยายความมากอ่ นในตอตน้
จนสรุปให้เหน็ หัวใจหรือแก่นเร่ืองซง่ึ เป็นแนวคิดสำคัญของเร่อื งในตอนทา้ ย
2. การบอกใจความสำคัญตอนต้น เปน็ การดำเนนิ เร่อื งท่ีตรงข้ามกบั แบบแรก คอื
บอกแนวคดิ สำคญั ทส่ี ดุ ของผู้แตง่ ซึง่ เปน็ หัวใจหรือแกน่ เรื่องใหผ้ ู้อ่านรตู้ ้งั แตต่ ้นเร่อื ง จากน้นั จึง
เสนอเหตผุ ลหรือตัวอย่างมาขยายให้เหน็ จรงิ วา่ เพราะเหนุใดผ้แู ตง่ จึงมแี นวคดิ เชน่ นั้น
การอ่านจบั ใจความสำคญั งานเขยี นประเภทบทความใหไ้ ด้ถกู ตอ้ งและรวดเรว็
มขี ้อสงั เกตเปน็ แนวทางเพิ่มเติมดังนี้
1.จุดชแ้ี นะใจความสำคญั ของบทความทส่ี ามารถคน้ หาได้รวดเร็วทสี่ ดุ เปน็ อันดับ
แรก คือช่อื เรอ่ื ง เพราะบทความโดยทั่วไปมงุ่ เสนอทรรศนะและเหตผุ ลอย่างตรงไปตรงมา
ชื่อเร่ืองจงึ มกั ไมซ่ ับซ้อน และบง่ ช้หี ัวใจสำคญั หรอื แก่นเร่อื งไวเ้ ป็นสว่ นมาก
2.บทความเรอื่ งหนึ่ง ถ้ามีหลายย่อหน้า ในแต่ละย่อหน้าจะมีใจความสำคญั อย่าง
หน่งึ เมือ่ นำใจความสำคญั ในแต่ละย่อหนา้ มาพจิ ารณารว่ มกนั จะมองเห็นความสำคญั ท่ีสดุ
ของเรอื่ งไดง้ ่าย
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญบทความ
“การไหว้ วัฒนธรรมไทยท่ตี ้องรักษาไว้”
การไหว้เป็นมารยาทไทย เป็นวัฒนธรรมสำคัญในการทักทาย เมื่อเวลาพบปะกันหรือ
ลาจากกัน “การไหว้” ยังเป็นการแสดงถึง ความมีสัมมาคารวะ และการให้เกียรติกันและกัน
นอกเหนือจากการกล่าวคำว่า “สวัสดี” แล้วยังแสดงออกถึงความหมายของ “การขอบคุณ”
และ “การขอโทษ” การไหว้เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี และยังแสดงออกถึง
ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยยกมือทั้งสองขา้ งประนม นิ้วชิดกนั ปลายนิ้วจรดกัน ไม่
แยกปลายนิ้วออกจากกัน ยกมอื ข้นึ ในระดบั ต่างๆตามฐานะของบุคคล เม่อื มีผทู้ ำความเคารพ
ดว้ ยการไหว้ ต้องรบั ไหว้ทกุ คร้งั การรับไหว้ใช้ประนมมือแค่อก แล้วยกขน้ึ เล็กน้อย ก้มศีรษะ
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เร่ืองการอ่านจบั ใจความสำคัญบทความ
ตอนที่ 1
ขั้นท่ี 1 Survey (S) สำรวจ
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาการอา่ นจับใจความสำคญั บทความ แลว้ อา่ นบทความ เร่ืองการไหว้
วฒั นธรรมไทยท่ีตอ้ งรกั ษาไว้ เพื่อสำรวจองค์ประกอบของเร่อื ง ดงั นี้
ชอื่ บทความ .............................................................................................................................. ...................
สาระสำคัญ ..................................................................................................................................................
ขั้นที่ 2 Question (Q) ตั้งคำถาม
คำชี้แจง : นกั เรียนทำใบกจิ กรรม ตอนที่ 1 โดยต้ังคำถามจากบทความเรื่องการไหว้ วัฒนธรรมไทยท่ตี ้อง
รกั ษาไว้ ในขอบเขตหัวขอ้ ต่อไปนี้ สาระสำคัญ ประโยชน์ทไี่ ด้รบั เจตนาของผ้เู ขียน
โดยตั้งคำถามอย่างนอ้ ย 3 ข้อ
1. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ...................................................................................................................................................... ..........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอ่ื งการอา่ นจับใจความสำคัญบทความ
ตอนที่ 2
ข้ันที่ 3ตอRนeทaี่ d2ing (R1) อ่านอย่างรอบคอบเพ่อื หาคำตอบ
คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทความซำ้ อีกคร้ังอย่างละเอียดเพือ่ ใหเ้ ข้าใจประเด็นสำคัญของเน้ือหาโดยไม่
ตอ้ งบนั ทกึ และในขณะเดียวกันก็ค้นหาคำตอบสำหรับคำถามจาก ตอนที่ 1 ที่ได้ต้ังไวห้ รอื ใน
ขณะที่กำลงั อ่านถา้ นึกคำถามได้อีก ก็อาจจดบันทึกเพมิ่ เติมไว้ในใบกจิ กรรม แล้วตั้งใจอา่ น
จนกว่าจะ ได้รับคำตอบทตี่ อ้ งการ
1. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขัน้ ที่ 4 Record (R2) บันทึก
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นทใบกิจกรรมกล่มุ ตามทนี่ ักเรยี นไดต้ ั้งไว้ มุ่งจดบันทึกในสิ่งทสี่ ำคญั และจำเป็นโดยใช้
ขอ้ ความอย่างรดั กุม ตามความเข้าใจของนักเรยี นเพ่ือให้เขา้ ใจได้งา่ ยข้ึนและสามารถจำคำตอบนั้น
ไดโ้ ดยคำตอบน้ันต้องคงความหมายเดมิ ของเร่อื งเอาไว้และเรียงลำดบั เหตุการณแ์ ลว้ เลา่ ให้เพื่อนใน
กลุม่ ฟัง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เร่อื งการอา่ นจบั ใจความสำคัญบทความ
ตอนท่ี 3
ขั้นท่ี 5 Recite (R3) การจดจำ
คำช้แี จง : ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขียนสรปุ ใจความสำคัญโดยใชส้ ำนวนของตนเอง ถ้ายงั ไม่แน่ใจตอนใดให้
กลับไปอา่ นซำ้ ใหม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขัน้ ที่ 6 Reflect (R4) การอ่านทบทวน
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นทบทวนวเิ คราะห์วิจารณ์บทความท่ีได้อา่ น ในประเดน็ ตา่ งๆ เชน่ ขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากการอา่ น
การใช้สำนวนภาษา ข้อเสนอแนะ เปน็ ต้น
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบย่อย
การอา่ นจับใจความสำคญั บทความ
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนอา่ นบทความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถาม
วถิ ชี ีวติ วัยร่นุ ไทย ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
“เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้จำกัดไว้เพียงแค่เรื่องของเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ควรจะเรียกว่า ปรัชญา
ความพอเพียง และหากขยายความปรัชญาของความพอเพียงแล้ว คือไม่ว่าจะกระทำการใดๆ ก็ตามต้อง
ทำอย่างรู้จักพอประมาณ พอดี รู้เหตุผล เพราะหากปฏิบตั ิตนอยูใ่ นพืน้ ฐานของความพอเพียงแล้วจะอยู่
ได้อย่างมั่นคง หากโยงเข้าพระพุทธศาสนาก็คือทางสายกลางไมส่ ุดโต่ง ไม่ย่อหย่อน เรียกว่าพอดี ความ
พอเพียงสำหรับวัยรุ่นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะปัจจุบันเราเห็นเป็นจำนวนมากที่ผู้คนไม่เข้าใจไม่
ตระหนักไม่เห็นคุณค่าของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งวัยรุ่นเป็นวัยแสวงหา เที่ยวเตร่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่ง
กาย มือถือ เรารู้สึกได้ว่าเขาไม่มีสำนึกตรงน้ี ปัญหาเรื่องความไม่รู้จักพอเพียงที่เกิดขึ้นนั้นจะโทษวัยรุ่น
ไมไ่ ด้ ผูใ้ หญ่ ผู้ปกครอง ครู เป็นบคุ คลทีส่ ำคญั เพราะ ผู้ใหญ่ต้องตระหนักและชัดเจนถึงความพอเพียง ถ้า
ผู้ใหญ่ยงั ไม่รับรู้ รับทราบ ตรงนี้อันตราย เหมือนเรือ่ งแม่ปู กับลูกปู เขาเห็นผู้ใหญเ่ ป็นอย่างไร เขาก็เป็น
แบบนนั้ ดงั นน้ั ทางที่ดที ีส่ ุดก็คอื การทำใหว้ ยั รนุ่ เขา้ ใจเร่ืองความพอเพยี ง แลว้ ก็เรื่องค่าใชจ้ า่ ยของเขา เขา
ก็ต้องมีจิตสำนึก รู้จักการบริหารเงิน รู้จักใช้จ่ายคือเราต้องทำให้เขาเข้าใจ ตระหนักและเห็นคุณค่าของ
เศรษฐกจิ พอเพียง"
1. จากบทความข้างตน้ เกย่ี วข้องกับเรื่องใด
ก. ปญั หาวัยรนุ่ ข. การบรหิ ารเงิน
ค. การใช้ชีวิตในสงั คม ง. ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. จากบทความขา้ งตน้ “ทางสายกลาง” หมายถึง
ก. ความพอดี ข. ความสดุ โต่ง
ค. ความย่อหย่อน ง. ความม่นั คง
3. จากข้อความข้างต้น ข้อใด ตา่ งจากพวก
ก. ความพอดี ข. ความพอประมาณ
ค. ความต้องการ ง. ความรู้เหตุผล
4. เพราะเหตุใด ความพอเพียงสำหรับวยั รนุ่ ถอื เป็นเร่อื งสำคัญ
ก. เพราะผูใ้ หญเ่ ปน็ แบบอย่าง
ข. เพราะวยั ร่นุ อยู่ใกล้กบั เทคโนโลยี
ค. เพราะไมเ่ ขา้ ใจไมต่ ระหนักในคุณค่าของเศรษฐกิจพอเพียง
ง. เพราะผู้ใหญไ่ ม่เคยให้ความสนใจวัยรุน่
5. ปญั หาเรื่องความไม่รจู้ กั พอเพียงของวยั รุ่น สังคมควรโทษใคร
ก. ครู ข. ผูใ้ หญ่
ค. ผูป้ กครอง ง. ทุกคนในสังคม
6. ข้อใดกลา่ วได้ชดั เจนท่สี ดุ ในการสร้างความตระหนักและเหน็ คุณคา่ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ก. การลดเทีย่ วเตร่ ข. การห่างไกลจากถาวรวตั ถุ
ค. การมีจิตสำนกึ ในการบริหารเงนิ ง. เลกิ แต่งกายตามแฟช่ัน
7. จากบทความ เปรยี บกับนทิ านเร่ืองใด
ก. ไก่ไก้พลอย ข. แมป่ กู บั ลูกปู
ค. คางคกข้ึนวอ ง. กิ้งกา่ ไดท้ อง
8. จากบทความ ข้อใดตรงกับข้อความ “เรารู้สกึ ได้ว่าเขาไมม่ ีจิตสำนกึ ของความพอเพยี ง”
ก. การเดนิ ทางสายกลาง
ข. การรจู้ กั ใช้จา่ ย
ค. การรจู้ กั บริหารเงนิ
ง. การเท่ยี วเตร่ การแตง่ กายและการใช้มือถือ
9. ข้อใดมคี วามหมายตรงกับนิทานแมป่ กู บั ลูกปู
ก. ลกู ปเู ดินเซไปเซมา ข. ลูกปชู อบเดินไปเดินมา
ข. ความรกั ของแม่ทมี่ ีต่อลกู ง. เห็นผู้ใหญท่ ำอยา่ งไร กท็ ำแบบน้ัน
10.การสร้างความตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าของเศรษฐกจิ พอเพียง ข้อใดสำคญั ท่ีสดุ
ก. การปฏบิ ตั ิตนตามผ้ใู หญ่ ข. การมจี ติ สำนกึ ทดี่ ีต่อความพอเพียง
ค. การเขา้ ใจในตัวตนของตนเอง ง. งดเว้นการเทีย่ วเตร่ และงดใช้มอื ถือ
เฉลย
แบบทดสอบย่อยการอ่านจับใจความสำคัญบทความ
ขอ้ คำตอบ
1ง
2ก
3ค
4ค
5ง
6ค
7ข
8ง
9ง
10 ข
การอา่ นจบั ใจความสำคญั
นทิ าน
ความหมายของนทิ าน
นิทาน หมายถงึ เร่อื งราวทีเ่ ล่าต่อๆกนั มาเปน็ เรื่องทีเ่ กิดข้นึ จริงหรือมีการผูกเร่ืองขึ้น
โดยใช้วาจาหรือเป็นการเล่าที่มีภาพประกอบการเล่าโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบ
เช่น หนังสือภาพ หุ่น การเล่าปากเปล่าการใช้คนแสดงเพ่ือให้ 16 ผู้ฟังเกิดความสนกุ สนาน
เพลิดเพลินให้ความรู้ เป็นเครื่องบันเทิงใจยามว่างและถ่ายทอดความเชื่อความศรัทธาเสื่อม
ใสในสิ่งศักดส์ิ ิทธบ์ิ างครงั้ ก็สอดแทรกคติหรือคุณธรรมสอนใจลงไปดว้ ย
ประเภทของนิทาน
1.เทพนยิ ายหรือปรัมปรา (Fairy tale) เปน็ เร่ืองเกี่ยวกบั เทวดา นางฟา้ เร่อื งมหัศจรรย์เหนือ
ธรรมชาติ เป็นความฝนั และจินตนาการของผแู้ ต่ง
2. ประเภทชีวิตจริง (Novella) เปน็ เรอ่ื งท่ีดำเนนิ อยู่ในโลกของความจริง มีการบ่งสถานท่ี
และตัวละครชดั เจน อาจมปี าฏหิ ารยิ ์อิทธฤิ ทธิ์แตเ่ ป็นไปในลกั ษณะที่เปน็ ไปได้ โดยใช้สถานท่ี
เวลา ตวั ละครท่มี า จากความจรงิ
3. นิทานวรี บุรุษ (Hero tale) เปน็ เรอ่ื งท่ีมีหลายตอนขนาดยาว อาจคลา้ ยชวี ติ จริงหรือ
จนิ ตนาการ เปน็ เรอื่ งเลา่ ท่ีกล่าวถงึ วรี บรุ ษุ ทต่ี อ้ งผจญภยั ทีม่ ีลักษณะเหนอื มนุษย์
4. นิทานประจำถนิ่ (Sage) มกั เป็นเร่ืองแปลกพิสดารซ่ึงเชือ่ วา่ เคยเกดิ ข้ึนจริง ณ สถานท่ี
ใดสถานทหี่ น่ึง บง่ บอกสถานท่แี ละตวั ละครชัดเจน อาจมาจากประวัติศาสตร์ อาจเปน็ ไปได้
ท้ังมนุษย์ สตั ว์ เทวดา ผี
5. นิทานเล่าอธบิ ายเหตุ (Explanatory tale) เป็นเรอื่ งอธบิ ายกำเนดิ ความเป็นมาของสง่ิ
ทเ่ี กิดขน้ึ ในธรรมชาติ กำเนดิ ของสัตวว์ า่ เหตุใดจงึ มีรปู รา่ งลักษณะ ตา่ ง ๆ กำเนดิ ของพชื
มนษุ ย์ ดวงดาวต่าง ๆ
6. นิทานเทพปกรณัมหรือเทวปกรณ์ (Myth) เปน็ เร่ืองอธบิ ายถงึ กำเนดิ ของจักรวาล มนษุ ย์
สตั ว์ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
7. นทิ านสัตว์ (Animal tale) เปน็ เรือ่ งท่ีมสี ัตวเ์ ป็นตัวเอก โดยจะแสดงให้เหน็ ความฉลาด
และความโงเ่ ขลาของสัตว์ โดยเจตนาจะมุ่งสอนจรยิ ธรรมหรอื คติธรรม ซึ่งจดั เป็นเรื่อง
ประเภทให้คตสิ อนใจ
การอ่านจับใจความสำคญั
นิทาน
หลกั การอ่านจับใจความสำคัญนทิ าน
การอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานอาจใช้หลกั การอ่านจบั ใจความสำคญั เหมือน
การอ่านเร่ืองยาวๆ ทั่วไป คอื เน้นการสรปุ สารสำคญั ของเร่ืองในลักษณะการยอ่ ความซ่งึ มี
ขั้นตอนการอ่าน ดังนี้
1. ต้งั ใจอา่ น มีสมาธใิ นการอ่าน
2. อ่านเรื่องราวนัน้ ๆ ตง้ั แต่ตน้ จนจบเรื่อง
3. สรปุ หรือจับใจความ วา่ เป็นเร่ืองอะไร มใี คร ทำอะไร กับใคร ทีไ่ หน เมอื่ ไหร่ ทำ
อย่างไร
4. ทบทวนความบางตอน หรอื สาระบางเรื่องทีย่ ังไมเ่ ข้าใจ ไม่ชดั เจน ให้เข้าใจ
5. สงั เกตดูว่าผลสุดท้ายของเร่ืองนน้ั ๆ อะไรเกดิ ข้ึนบา้ ง
6. พิจารณาวา่ เรื่องมสี าระหรือความสาคัญอยู่ทใ่ี ด มีแงค่ ิดคตธิ รรมหรือคำสอนแก่
ผอู้ า่ นอยา่ งไรบ้าง
7. สรปุ ความคดิ ทำบนั ทกึ ชว่ ยจำ ยอ่ ความ ตอบคำถาม หรอื ทำกิจกรรมต่างๆตาม
วัตถุประสงค์
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอื่ งการอ่านจบั ใจความสำคัญนิทาน
เมอื งจักขนิ มีความเจริญรุง่ เรืองมาก มีพอ่ ค้าวาณชิ ไปมาค้าขายเนอื งแน่น อย่ตู อ่ มี
พญาฮงุ้ ได้มาจับผู้คนในเมอื งกินทกุ วัน เจ้าเมืองไม่อาจจะต่อกรกบั พญาฮงุ้ ได้ มผี ูว้ ิเศษ
อาสาตอ่ กรกบั พญาฮุ้ง ก็ถูกจับกนิ จนหมดสิ้น เจ้าเมืองจึงนำพระธิดาช่อื นางปทุมมา ซ่อน
ไวใ้ นกลองยักษ์กลางเมือง พญาฮ้งุ ได้มาจบั ผู้คนกินจนกลายเป็นเมืองรา้ ง ประชาชนท่ี
เหลอื อยูต่ า่ งกห็ นีไปอยู่เมืองอื่น
ท้าวจุลนี ครองเมืองปัญจานครออกประพาสปา่ ลา่ สตั ว์ ไดห้ ลงเขา้ มายังเมอื งร้าง
จงึ พาเสนาสำรวจบ้านเมืองพบกลองใบใหญ่อยูก่ ลางเมอื ง จงึ ได้ตกี ลองเพ่อื จะเป็นสญั ญาณ
ให้รวู้ ่ามคี นมา ครน้ั ตีกลองได้ยนิ เสียงหญงิ สาวรอ้ งอยู่ในกลองจึงใช้พระขรรค์ผา่ หนงั หน้า
กลองพบนางปทมุ มาจึงนำออกมาถามไถไ่ ด้ความวา่ พญาฮุ้งจะมากนิ คนเม่ือไดย้ ินเสียง
กลอง พระบดิ านำนางมาไวใ้ นกลองเพราะโหรได้ทำนายวา่ จะมผี ู้วเิ ศษมาปราบพญาฮงุ้ ได้
เม่ือพญาฮุง้ บินมา ท้าวจุลนกี ็ฆา่ ตายต่อหนา้ นางปทุมมา
ท้าวจุลนจี งึ รับนางปทมุ มามาเป็นชายาพากลบั เมอื งปัญจานคร ทา้ วจลุ นีมีเมหสี
ฝา่ ยขวาก่อนแล้วชือ่ ว่า นางอัคคี ทั้งสองกร็ ักใครป่ รองดองกันดี คร้งั เม่ือนางปทุมมา
ต้ังครรภ์ ฝนั วา่ พระอินทร์เอาแกว้ มาให้ 4 ดวง โหรทำนายว่าจะไดโ้ อรสมบี ุญบารมมี าก
นางอคั คีอจิ ฉาเพราะนางไม่มโี อรส แตก่ ระน้ันกต็ าม นางกย็ ังทำดีต่อนางปทุมมาเสมอต้น
เสมอปลาย
ครน้ั เมอ่ื นางปทมุ มา จะประสูติโอรส นางอัคคีก็ออกอุบายเอาผา้ ปิดตาปิดหนู าง
ปทุมมา โดยอา้ งว่าเปน็ พระราชประเพณีของเมืองปัญจานคร นางก็เอาลูกสุนขั มาเปลีย่ น
ลกู นางปทมุ มา แล้วใหน้ างทาสีนำกมุ ารทง้ั สี่ไปลอยแพทิ้งน้ำไป เม่ือท้าวจลุ นที ราบว่านาง
ปทุมมาคลอดบุตรเปน็ สนุ ัขก็กรว้ิ กล่าวหาว่านางสมส่กู ับสนุ ขั จึงขับไล่ไปจากเมือง นาง
ปทุมมาอ้มุ ลกู สุนัขโดยเข้าใจว่าเป็นลกู ของตน
ไปอาศัยอยู่กบั หญิงมา่ ยซ่ึงเป็นคนใจรา้ ย ใช้นางทำงานหนักจนซูบผอม
กลา่ วถงึ กมุ ารทง้ั สท่ี ่ีถูกลอยแพ แพได้ลอยไปติดอยูท่ ่ีท่านำ้ บ้านตายาย ตายายเห็น
เปน็ กุมารหน้าตาดีจึงเลี้ยงไว้ด้วยความเอ็นดู ความทราบถงึ นางอคั ควี า่ กมุ ารทัง้ ส่ยี งั ไม่ตาย
จึงให้นางทาสีนำอาหารใส่ยาพษิ มาให้กมุ าร ตายายกลบั จากนาเห็นกุมารทัง้ ส่ีนอนตายกอด
กนั กลม กโ็ ศกเศรา้ สงสาร จึงนำไปเรยี งฝังกันท้ัง 4 ศพ
กาลเวลาผ่านไปไมน่ านก็เกิดเป็นตน้ จำปาส่ตี ้น ตายายดีใจทีย่ ังเหน็ หลานท้ังสี่มี
ชวี ิตอย่จู ึงหมน่ั รดน้ำพรวนดินตน้ จำปาจนงอกงาม นางอัคคีทราบความอกี จงึ ส่งั ให้เสนามา
โค่นต้นจำปานำ้ ไปทง้ิ น้ำ ต้นจำปาลอยน้ำไปติดอยู่หนา้ อาศรมของฤๅษี ฤๅษีใชม้ ดี ตดั ตน้
จำปาเห็นมีเลือดออกจงึ รู้วา่ ไมใ่ ชต้ ้นจำปาท่ัวไป พระฤๅษจี ึงต่อนิ้วเพชรให้น้ิวเพชรมี
อิทธิฤทธ์ิ “ชเ้ี ป็นชตี้ าย” พระฤๅษสี อนวชิ าอาคมต่าง ๆ แก่กมุ ารท้งั สี่ ตง้ั ชื่อว่า จำปาทอง
จำปาเงนิ จำปานิล และคนเล็กชื่อ เจา้ นล
พระอนิ ทรท์ ราบว่านางปทมุ มาได้รับความลำบากมาก จงึ ปลอมเปน็ ชีปะขาวเลา่
เร่ืองใหก้ ุมารทั้งส่ีฟงั กุมารทง้ั ส่จี งึ ขอลาพระฤๅษตี ิดตามมารดา ระหว่างทางเดินเข้าเมือง
ยกั ษ์ เจ้านลได้ใช้นวิ้ เพชรปราบยักษ์และชบุ ชีวิตยักษจ์ นยักษ์ยกเมืองและธดิ าให้ เจ้านลก็
ใหพ้ ่ี ๆ ได้ครองเมืองได้ พระธิดาเปน็ ชายาทง้ั สามเมอื งท่ผี า่ นมา แต่ก็ได้พำนักอยู่แต่ละ
เมืองไมน่ านก็ลาไปติดตามมารดา
พระอินทรช์ ปี ะขาวมาสง่ ถึงเมืองปญั จานคร และบอกใหส้ ่ีกุมารปลอมตัวเป็นยาจก
ไปอาศยั อยู่กบั ยายเฒ่าเฝา้ สวน และสืบหามารดาและพบว่าเป็นทาสซี บู ผอม เมื่อทราบที่
อยู่ของมารดาแลว้ ก็แต่งเครอื่ งทรงกษัตริย์ส่งั ใหย้ ายเฒา่ เฝ้าสวนพาไปพบมารดา เมื่อแมล่ ูก
พบกนั และเลา่ เรอ่ื งแตห่ นหลงั กโ็ ศกเศรา้ อาดูร สี่กุมารให้ทรัพย์สินตอบแทนยายเฒ่าเฝ้า
สวนจำนวนมาก และลงโทษหญงิ หมา้ ยใจรา้ ยท่ีทารุณกรรมมารดาอย่างสาสม
เจา้ นลยงั คิดแคน้ นางอัคคมี าก จงึ ชวนพอ่ี งค์ทีส่ ามเหาะไปยังปราสาทแล้วเขียน
สารถงึ บิดาไว้ท่ีแทน่ บรรทม ใหส้ ง่ ตวั นางอัคคีและนางทาสีคนสนิทไปลงโทษและบอกความ
จริงทกุ ประการ
ท้าวจลุ นีทราบดงั นนั้ กด็ ีพระทัยทโ่ี อรสทัง้ สยี่ งั มชี ีวิตอยู่ วนั รุ่งขึ้นจึงจับนางอัคคี
และนางทาสีไปให้สก่ี ุมารลงโทษ ส่ีกมุ ารจงึ ตัดสินใจใหล้ อยแพนางอัคคแี ละนางทาสีไปใน
ทะเลตามยถากรรม หลังจากนั้นพระองค์กน็ ำราชรถไปรับนางปทุมมากลับนคร
ส่กี มุ ารก็พาพระมารดาเขา้ เมืองพร้อมกบั ท้าวจุลนแี ละใหไ้ ปรับตายายที่เล้ยี งดตู น
มาอยใู่ นวัง ส่วนพีท่ ั้งสามกล็ าไปปกครองบ้านเมืองกบั พระชายาสว่ นเจ้านลก็ครองเมอื ง
ปัญจานครแทนบิดาสืบไป
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เร่อื งการอ่านจบั ใจความสำคัญนิทาน
กลมุ่ ท่ี ............
สมตาอชนิกทกล่ี 1ุ่ม
ข้นั ที่ 1 Survey (S) สำรวจ
คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาการใอบ่านกิจจับกรใจรคมวกาลมุ่มสำคญั บทความ แล้วอ่านบทความ เรอ่ื งการไหว้
วฒั นธรรมไทยท่ตี อ้ งเรรักอื่ ษงากไาวร้ อเพา่ ่อืนสจำับรใวจจคอวงาคม์ปสรำะคกัญอบนขิทอางนเร่ือง ดงั น้ี
ช่ือบทความ .............................................................................................................................. ...................
สาระสำคัญ ..................................................................................................................................................
ตอนที่ 2
ข้นั ท่ี 2 Question (Q) ตัง้ คำถาม
คำชข้ีแัน้ จทงี่ 3: นRกั eเaรdยี นinทgำใ(บR1กิจ)กอร่ารนมอตยอ่านงรทอ่ี 1บคโอดบยตเพง้ั คอื่ ำหถาาคมำจตาอกบบทความเรอ่ื งการไหว้ วฒั นธรรมไทยทีต่ ้อง
ต้อง12ค..123ำช....…...้แี..…....……….จ..........…..………...งร.....โ.....กัด…..………...:.......ษย...…..ไบใก………........ตดหา.....ำัน…..………...ไงั้ร้.....้นล..ว...ทค…ับ..………...งััก.....้ กึ..ำ...อค…..………...เใ..ถ...แรา่..ำ...น………….....าียลนต.......ข...มน…………..ะ...อถ.....ออ.....ใอ…บา้……….....นบ.....ยา่น.....ท………….....ขเา่น.....ึกข..ีต่...ง…ณ……….....บค..ต...น้อ.....…………ท..ะ...ำหอ้ง..........ถเ…คก………..ัว...ยด.....า..ว...าข…………ีย.....ม3.....าร้อ.....ว…………..ไม...ต.....กด..ข...…ซ……….....่อนั้อ.....้อำ้.....…………ไ.....กีกอ.....ป.....…………็ค.....ีกน..ก........น้…………ค.....็อี้.....หส..ร...…………า.......้งั...าาจ.....…………อ..ร...ค..จ........ะย…………ำ.....ด.....สา่ต.....…………บ.....งำ.....อ.....…นัล………ค.....บ.....ะ..ทัญ...………….....ส..เ...ึก.....…อ………ำ.....ป..เ...หยี.....……พ…….....ร..ด...ร..่มิ...…………ะ.....ับเ.....โเพ.....…………ตค..ย........อ่ื..…...…ิม……ำช.....ใ.....ถนไ..…...………ห.....วา.....ท์ ..้เ…...………ใ้ม.....ขน..ไ่ี.....…จ…...……ดา้.....ใ.....าใ้รบ..……...……..จ...กบั.....ก..……...……ป.......ิตจ...เ…..ร…...…….....จกอ..ะ...…..………...ตรน.....เ.....ดรน…..………...ท.....ม็น.....า……..……่ี........ข1ส.....แ…..………...อำ.....ล.....ทค…………...ง.....้ว..ผ...ี่ัญไ..…………ต.....ดเู้.....ข..ข…้งั...………้ต.....ใ.....อีย..้งั…...………จ.....งนไ.....อ..…..….……วเ.....น..่..า.ห้..……...……..น...อื้ ..ร...…..…..…….หจ..อื........…..น………...าใ.....น.....โก…..………...ด.....ข..ว...……..……...ยณ..่า........ไ……..จ…….....ม...ะ.....ะ…..……...ท่..........………..่ี.......
4. ................................................................................................................................................................
…………………………………………………ใบ…ก…ิจ…กร…ร…ม…กล…ุ่ม…………………………………………………………………………
5. ....................................เ.ร...ื่อ..ง..ก..า..ร..อ...า่..น...จ..บั...ใ..จ..ค..ว...า..ม..ส...ำ..ค...ญั ...น...ทิ ..า...น.................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เร่อื งการอ่านจับใจความสำคัญนทิ าน
ตอนท่ี 2
ขั้นท่ี 3 Reading (R1) อ่านอย่างรอบคอบเพอื่ หาคำตอบ
คำช้แี จง : ให้นักเรียนอ่านบทความซำ้ อีกครงั้ อย่างละเอียดเพื่อใหเ้ ขา้ ใจประเดน็ สำคัญของเน้ือหาโดยไม่
ตอ้ งบันทกึ และในขณะเดียวแกบนั บกท็คด้นสหอาบคยำต่ออยบสำหรับคำถามจาก ตอนที่ 1 ที่ได้ต้ังไว้หรือใน
ขณะท่ีกำลงั อ่านถา้ กนากึ รคอำ่าถนาจมบัไดใ้อจีกควกา็อมาสจำจคดญับันทิ ึกาเนพมิ่ เติมไวใ้ นใบกจิ กรรม แล้วตั้งใจอา่ น
จนกว่าจะ ได้รับคำตอบท่ตี ้องการ
คำชีแ้ จ1ง. : .…ใ..ห…..น้.…..ัก.….เ.ร.….ีย..….น..อ…...่า…..น.….น..….ิท..….า..น…..เ.…ร..่อื.…..ง.….น..…า..ย.…..พ.….ร..…า..น.…..ก.….บั..….ง..แู…..ล.….้ว..…ต...…อ..บ.…..ค.….ำ..…ถ...า…..ม.…...…...…...…...…..…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…..…...…...…...…...…...…...…..
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………น…ทิ …าน…เ…รอ่ื…ง…น…า…ยพ…ร…า…น…กบั…ง…ู …………………………………………………………
เออบพิสยุญื่อร่าค354เะงปุณ...นน็มีข้หันอ..…….…ก...อร...สิก………...างือ...ร็เ...ลทล………...ะ”...ค่...าื้อ………...รน...นแย...………...ั้งล”าข...ห...ย………ะ...้ึน...งน...รพม………...ูอ...อ้ึ่ง...รา………้อ...มง...รา...ไนี………น...ัดนห......วาค………...ถ้ข...อย...อา………อ...นพ...นม...ค………...นร...าว...า………“า...ยา...นย...เพ………ม...จ...พเ...รชด………้า......รา่ว...นิน………...านย...เ่า...น………พ...ขเจ...หใ...้า………ร...จะล...ไ้อ...………อลป...ือ...ม...่อะ………ใ...ข...น“นอ...………ู่ฟ...โป...าส...ป………่อ...ย่าง...ร...ๆ………สใ...ดเ...จา...ข………...ทเบร...มา...………ข่ีง...้าเต...ูห...้า………ง...ตจ...งน็น...………ึางห......ตะชฉ...………ู...้น...“่วนั ฉ...………...ยฉไห...ันม...………นัก...น...เ้ใ...ก………จปห...่อ...ิะ่ง...………็ยนญ...ไก...ม...………ค่โ...ดัช...้คใน...………แ่ว...ห่น...ชยก...………้ง...ล...่ใว”ูด...………ห...งย...ิ้นม...………ง้เช...ปูข...หา………...ีว...ู่น็ล...“ิกต………...อ...ุดอ...ิ่งเ………...ิสจอ...ไอ้ ...รม………้...าอ!...ะ...้ทก………เ...แท...จับ...ม………ต้าี...ตา...แต่...เ………...ไัวจล...อด...………ง้า...้วบ...ู้แ...ก………ฉแ...แล...ลัน...ต………ท...ะ...ับจ่ท...………รง...ะ...มันูกบ……...…ต...าำท...ุญ………...อฆล...ีท...คบ………...ัง่า...ี่งุณ...ดแฉ………...ูเ...ิ้นปทัน...ฉ………......น็นนัน...”……….........
นายพรานต่อว่า แต่งูอกตัญญูกลับไม่รูสำนึก “ฉันจะกัดแก ฉันจะกัดแก” งูย้ำคำเดิม “เดี๋ยวก่อนฉันขอให้
เรียกผตู้ ดั สนิ มาชี้ขาดกอ่ นว่าใครผิด ใครถูก เราจะให้ใครก็ตามทพี่ บเปน็ คนแรกเปน็ ผ้ทู ำหนา้ ท่นี ้ี” งตู กลง
ขัน้ ที่ 4 Rทeั้งcสoอrงdพ(าRก2ัน)ไปบแนั ลทะึกพบสุนัขจิ้งจอก จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง “ช่วยเป็นผู้พิพากษาที่ยุติธรรมให้แก่
คเรำาชทแี้ ีเจถงอะ: ”ใหน้นาักยเพรยีรนานทขใบอกร้อิจกงร“รตมกกลลงมุ่ ฉันตจามะทเป่นี ็นักผเรู้ตยี ัดนสไินดใต้ ห้ัง้ไแวต้ ม่กุง่ อจนดอบื่นันฉทันึกจใะนตส้อิ่งทงร่สี ู้รำาคยญั ลแะลเอะียจดำเทป่ีเ็นกิโดดขยึน้ ใกช่อ้ น
ขอให้กลับไขปอ้ ทค่ีเกวาิดมเหอตยุก่าง่อรนดั กฉุมันจตะาตมดั คสวินามคเวขา้ามใทจน่ีขอัน้ ง”นักเรยี นเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจได้งา่ ยขึน้ และสามารถจำคำตอบน้นั
ทั้งไสดอ้โดงยจคึงพำตาอกบันนไป้ันทตี่บ้องรคิเวงณควเกามิดหเหมตาุย“เดเอิมาขลอะงไเปร่อื งยเู่ตอรางไวท้แี่เลกะิดเรียื่องงลไำดด้แับลเ้วห”ตกุนารยณพแ์รลานว้ เยลก่ากใหิ่งไ้เพม้ขอื่ ึ้นในงู
เลื้อยไปอยกู่ทลี่เด่มุ ิมฟงั นายพรานวางกิ่งไม้ทับลงบนตัวงู “เอาละพยายามดิ้นออกมาให้ได้นะ นี่เป็นคำตัดสินของ
…ฉ…นั ”……ส…นุ …ัข…จิง้…จ…อก…ว…่า…แล…้ว…ก…ช็ …วน…น…า…ยพ…ร…า…น…เด…นิ …จา…ก…ไป………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.………………………………………………………………ท…่ีม…า…: …สำ…น…กั …งา…น…ค…ณ…ะ…กร…ร…ม…กา…ร…กา…ร…ป…ระ…ถ…ม…ศ…กึ ษ…า…แ…ห…ง่ ช…า…ติ……………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เร่อื งการอ่านจับใจความสำคญั นทิ าน
ตอนที่ 3
ขนั้ ท่ี 5 Recite (R3) การจดจำ
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนแต่ละคนเขียนสรุปใจความสำคัญโดยใช้สำนวนของตนเอง ถา้ ยังไม่แนใ่ จตอนใดให้
กลบั ไปอ่านซ้ำใหม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้ันท่ี 6 Reflect (R4) การอ่านทบทวน
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนทบทวนวเิ คราะหว์ จิ ารณ์บทความท่ีไดอ้ ่าน ในประเด็นตา่ งๆ เช่น ขอ้ คิดทีไ่ ดจ้ ากการอา่ น
การใชส้ ำนวนภาษา ข้อเสนอแนะ เปน็ ตน้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเรยี งลำดับเหตุการณ์ในเรื่องใหถ้ กู ต้อง โดยใส่ลำดับทห่ี น้าข้อ
............... 1. นายพรานวางก่งิ ไมบ้ นตวั งู
............... 2. ทัง้ สองพากนั ไปหาผตู้ ดั สินวา่ ใครถกู ใครผดิ
............... 3. กงิ่ ไมท้ ับตวั งดู นิ้ รนเพอื่ ให้ตวั เป็นอสิ ระจากก่ิงไมท้ ี่ทบั ตัวเอง
............... 4. นายพรานชว่ ยยกก่งิ ไม้ออกจากตัวงู
............... 5. งูรอ้ งขอความช่วยเหลอื
............... 6. งเู ล้อื ยข้ึนมารัดคอนายพรานพร้อมกับขู่ทข่ี ้างหู
............... 7. ผตู้ ดั สนิ ให้ท้ังสองพามาท่ีเกิดเหตุ
............... 8. นายพรานเดินทางเข้ามาในป่า
............... 9. ผู้ตัดสนิ ชวนนายพรานเดินออกจากปา่
............... 10. นายพรานตอ่ วา่ งู วา่ อกตัญญู แตง่ ูกลับไม่สำนึก
เฉลย
แบบทดสอบยอ่ ยการอา่ นจบั ใจความสำคญั
นิทาน
........(9)....... 1. นายพรานวางก่งิ ไม้บนตวั งู
........(7)....... 2. ท้งั สองพากันไปหาผู้ตดั สินวา่ ใครถูกใครผดิ
........(2)....... 3. ก่ิงไมท้ ับตวั งูด้นิ รนเพ่ือให้ตวั เปน็ อสิ ระจากกงิ่ ไมท้ ี่ทับตวั เอง
........(4)....... 4. นายพรานชว่ ยยกกงิ่ ไมอ้ อกจากตวั งู
........(3)....... 5. งรู ้องขอความชว่ ยเหลือ
........(5)....... 6. งูเล้ือยข้นึ มารัดคอนายพรานพร้อมกับขู่ท่ีข้างหู
........(8)....... 7. ผูต้ ดั สินใหท้ ัง้ สองพามาที่เกดิ เหตุ
........(1)....... 8. นายพรานเดินทางเข้ามาในปา่
........(10)........ 9. ผู้ตัดสินชวนนายพรานเดินออกจากปา่
........(6)....... 10. นายพรานตอ่ ว่างู ว่าอกตัญญู แตง่ ูกลับไม่สำนกึ
การอา่ นจบั ใจความสำคัญขา่ ว
ความหมายของขา่ ว
ข่าว คือ การรายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนความคิดเห็นของ
บุคคลสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งประชาชนให้ความสำคัญและสนใจ การเขียนข่าว
เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์และต้องมีเทคนิคในการสร้างความเข้าใจและความสนใจให้แก่
ประชาชน
แหล่งท่ีมาของขา่ ว
ขา่ วเกดิ จากเหตกุ ารณแ์ ละกิจกรรมดังตอ่ ไปน้ี
1. เหตกุ ารณ์ที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ
2. กิจกรรมท่วี างแผนไว้
3. ความพยายามของผสู้ ือ่ ข่าว
องคป์ ระกอบของข่าว
1. ใคร (Who) ใครคือบคุ คลท่เี กีย่ วข้องกบั ขา่ ว
2. ทำอะไร (What) เกิดอะไรขึน้ การกระทำหรอื เหตกุ ารณ์ใดที่สำคัญ
3. ท่ีไหน (Where) การกระทำหรือเหตุการณ์นนั้ เกดิ ขน้ึ ทไี่ หน
4. เมือ่ ไหร่ (When) การกระทำหรือเหตุการณน์ นั้ ๆ เกิดข้นึ เวลาใด
5. ทำไมและอย่างไร (Why and How) ทำไมเหตุการณ์นั้นจึงเกิด และเกิดขึ้นได้
อย่างไร
6. ขอ้ มูลประกอบอ่นื ๆ เช่น ความเปน็ มา
องคป์ ระกอบการเขยี นข่าว
1. พาดหวั ข่าว เป็นการบอกประเดน็ สำคญั ของข่าว มกั ใชป้ ระโยคที่เป็นข้อความ
สนั้ ๆ เพ่อื ชว่ ยให้รวู้ า่ เปน็ ข่าวอะไร และมปี ระเดน็ ใดทนี่ า่ สนใจ
2. วรรคนำ เป็นประเด็นสำคัญของเรอ่ื ง คอื ตอ้ งตอบสนองความสนใจของผ้อู า่ น
ว่า Who When Where Why เขียนด้วยประโยคสรุปเรื่องหรือสรุปประเด็นสำคัญและ
กระชับ เพอื่ ขยายพาดหวั ขา่ ว มคี วามยาวประมาณ 3-6 ประโยค
3. ส่วนเชื่อม เป็นตัวเชอ่ื มระหว่างวรรคนำกับเนอ้ื ข่าว สว่ นใหญเ่ ปน็ ขอ้ ความท่ี
ขยายประเดน็ ของเรอื่ ง จะมีหรอื ไมม่ ีกไ็ ด้ มกั ใช้กบั ขา่ วใหญ่
4. เนื้อขา่ ว เป็นการบอกเรื่องทีเ่ หลอื จากทบ่ี อกไว้แลว้ ในวรรคนำ เป็นขอ้ เท็จจรงิ ที่
สนับสนุนหรือขยายความ หรือช่วยให้วรรคนำได้ใจความชัดเจนข้ึน เป็นเรื่องราวทัง้ หมดของ
ขา่ วท่ตี อบคำถาม 5W และ 1H ม2ี – 5 ยอ่ หนา้ ตามความเหมาะสม
5. ทงิ้ ท้ายขา่ ว เปน็ การสรปุ ประเด้นเพื่อดึงดดู ความสนใจ ตอกยำ้ จุดหมาย สว่ น
ใหญม่ คี วามยาวประมาณ 4-6 ประโยค
หลกั การอา่ นจบั ใจความสำคญั ขา่ ว
การรายงานข่าวโดยทั่วไปมุง่ เสนอสาระสำคัญอย่างตรงไปตรงมาเพื่อใหอ้ ่านจับ
ใจความไดร้ วดเรว็ ที่สดุ โครงสรา้ งและรูปแบบของการเขียนขา่ วจะมสี ว่ นชี้แนะการจบั
ใจความให้ถกู ต้องและรวดเร็วได้มาก แนวทางการอ่านจับใจความสำคัญข่าวอย่างมี
ประสิทธิภาพจงึ ควรพจิ ารณาดังน้ี
1. พาดหัวข่าว เป็นจุดบอกใจความสำคัญทส่ี ดุ ของขา่ วได้ชดั เจนและรวดเร็ว
เพราะจะ ประมวลหัวใจของข่าวทงั้ หมดมาเสนอไว้อยา่ งสั้นๆ เปน็ อนั ดับแรก หากได้
ใจความสำคัญชดั เจนเพียงพอแกค่ วามตอ้ งการแลว้ ไม่ตอ้ งอ่านสว่ นอืน่ อกี ก็ได้ เชน่
ไอเดียนกั วชิ าการกนั หวัดแพรเ่ ช้ือ นายกฯถกเครยี ด
“อภสิ ทิ ธ”์ิ เรยี กทมี สาธารณสขุ เขา้ รายงานสรปุ สถานการณ์ไขห้ วัดใหญ่ 2009
ย้ำไมม่ ีความจำเปน็ อะไรท่ีต้องไปพูดเรื่องการปดิ ประเทศ
2. ความนำหรอื วรรคนำข่าวและเนือ้ ข่าว ลกั ษณะของการเขยี นขา่ วมีรปู แบบ
คล้ายกับบทความหรอื สารคดี คอื มีวรรคนำก่อนแลว้ จึงเสนอเน้ือขา่ วไปตามลำดับ เน้ือหา
ข่าวโดยท่ัวไปมกั นำเสนอเรื่องราวว่า ใคร ทำอะไร ท่ไี หน เมอื่ ไหร่ และอย่างไร
การนำเสนอเนือ้ หาขา่ วอาจมีหลายย่อหน้า ยอ่ หน้าแรกเป็นวรรคนำ เป็นการสรปุ
ประเดน็ สำคญั ยอ่ หน้าตอ่ ไปเป็นการขยายความว่า เกดิ เหตทุ ี่ไหน เม่อื ไหร่ เวลาใด อยา่ งไร
ซ่ึงอาจจะมหี ลายยอ่ หนา้ และในยอ่ หนา้ สดุ ทา้ ยเปน็ การสรุปประเดน็ สำคญั ซ้ำอกี ครงั้ หนึ่ง
หรอื กลา่ วถงึ ประเดน็ อ่ืนที่ยังไมไ่ ดก้ ลา่ วถึงมาก่อน
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เรอ่ื งการอา่ นจับใจความสำคัญข่าว
ปรบั ระบบศกึ ษาเพมิ่ ทางเลือกเดก็
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา และคณะกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคประชาสังคม) ในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทาง
การศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า ในโอกาสเทศกาลปีใหม่ไทย ตนอยากให้วงการศึกษามี
มุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งพบว่าไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำมาก
ที่สุดในโลก โดยพบว่า การศึกษาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สร้างฐานะทางสังคม
เศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ โดยพบว่า
แผนการศึกษาชาติ ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ มี
คำหลัก 4 คำ ประกอบด้วย ความเป็นเลิศทางการศึกษา การแข่งขันบนเวทีโลก
มาตรฐานการศึกษา และประสิทธิภาพ ซึ่งท้ัง 4 คำน้ีถือเป็นกระแสหลักของการศึกษาใน
ปัจจุบันในการผลิตคนที่เน้นการแข่งขันระดับโลก การสร้างคนเข้าสู่ตลาดแรงงานที่มี
ความเป็นเลิศ ซ่ึงต้องยอมรับว่าเป็นกระแสหลักของทุกประเทศเช่นกัน
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า กระแสหลักดังกล่าวของการศึกษา ถือเป็นตะแกรงในกา ร
ร่อนเด็กช่วงชั้นต่างๆ ให้หลุดจากระบบ จากระดับอนุบาลขึ้น ป.1 หายไป 4%, ป.6 ขึ้น
ม.1 หายไป 19%, ม.3 ขึ้น ม.4 หายไป 48% และ ม.6 เรียนต่ออุดมศึกษา หายปี
50% ทำให้เรามีคนที่ตกหล่นในสังคม ขาดการศึกษา ขาดทักษะด้านต่างๆ เป็นคนเร่ร่อน
รวมเกือบ 20 ล้านคน และคาดว่าคนกลุ่มน้ีจะเพิ่มมากขึ้นเร่ือยๆ แสดงให้เห็นว่า กระแส
การศึกษาหลักได้ทิ้งคนไว้ข้างหลังเกือบ 20 ล้านคน ดังนั้นระบบการศึกษาจะมีกระแส
หลักเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป ต้องเพิ่มการศึกษาทางเลือก เป็นลู่วิ่งให้กับคนที่หลุด
จากระบบ โดยยึดคำ 4 คำประกอบด้วย การเปิดพื้นที่การเรียนรู้, ความหลากหลายทาง
การศึกษา, ความแตกต่างทางสังคม เพศ และการเรียนรู้ และมีนิเวศการเรียนรู้ที่
เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เพื่อให้เด็กที่หลุดจากตะแกรงร่อนขนาดใหญ่ของสังคม ได้มี
เส้นทางเดินทางในชีวิต ประกอบอาชีพที่ตนเองถนัด เช่น ช่างด้านต่างๆ เชฟ ยูทูบเบ อร์
จิตรกร นักเต้น เป็นต้น โดยระบบโรงเรียนควรเปิดกว้าง ส่วนหนึ่งคัดเลือกเด็กเก่งเข้า
เรียน อีกส่วนหนึ่งก็ต้องรับเด็กอ่อน แต่มีวิชาเลือกจำนวนมากเพียงพอให้เด็กเลือกเรียน
ตามความถนัด เป็นลู่วิ่งที่เหมาะสม ไม่ใช่เข้าสู่การศึกษากระแสหลักแล้วก็เป็นผู้แพ้อยู่
เรื่อยไป ที่สำคัญกระทรวงศึกษาธิการ ต้องปรับวิธีคิดและโครงสร้างการบริหารงาน ปรับ
ระบบโรงเรียน หลักสูตร ให้รองรับด้วย
ท่ีมา:ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 14 เมษายน 2565
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอ่ื งการอ่านจบั ใจความสำคัญข่าว
ตอนท่ี 1
ขน้ั ที่ 1 Survey (S) สำรวจ
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาการอา่ นจับใจความสำคัญบทความ แลว้ อ่านบทความ เร่ืองการไหว้
วัฒนธรรมไทยทตี่ ้องรกั ษาไว้ เพ่ือสำรวจองค์ประกอบของเรื่อง ดงั น้ี
ชื่อบทความ .............................................................................................................................. ...................
สาระสำคัญ ..................................................................................................................................................
ขนั้ ที่ 2 Question (Q) ตัง้ คำถาม
คำชแี้ จง : นักเรยี นทำใบกจิ กรรม ตอนท่ี 1 โดยตง้ั คำถามจากบทความเร่อื งการไหว้ วัฒนธรรมไทยทีต่ ้อง
รกั ษาไว้ ในขอบเขตหัวข้อต่อไปน้ี สาระสำคัญ ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ เจตนาของผเู้ ขยี น
โดยตง้ั คำถามอยา่ งน้อย 3 ขอ้
1. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เรื่องการอา่ นจับใจความสำคญั ขา่ ว
ตอนท่ี 2
ขั้นท่ี 3 Reading (R1) อ่านอย่างรอบคอบเพอ่ื หาคำตอบ
คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นอ่านบทความซำ้ อีกคร้ังอยา่ งละเอียดเพือ่ ให้เขา้ ใจประเด็นสำคัญของเนือ้ หาโดยไม่
ต้องบันทึกและในขณะเดียวกันกค็ ้นหาคำตอบสำหรบั คำถามจาก ตอนที่ 1 ท่ไี ด้ตั้งไวห้ รอื ใน
ขณะท่ีกำลงั อ่านถา้ นึกคำถามได้อกี กอ็ าจจดบันทกึ เพ่มิ เติมไวใ้ นใบกจิ กรรม แลว้ ตัง้ ใจอ่าน
จนกว่าจะ ไดร้ ับคำตอบท่ตี อ้ งการ
1. ...............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ...................................................................................................................................................... ..........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้นั ที่ 4 Record (R2) บนั ทึก
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนทใบกิจกรรมกลมุ่ ตามท่ีนักเรยี นไดต้ ั้งไว้ มุ่งจดบันทึกในส่ิงที่สำคัญและจำเป็นโดยใช้
ข้อความอยา่ งรดั กุม ตามความเขา้ ใจของนักเรยี นเพ่ือใหเ้ ข้าใจได้ง่ายขึ้นและสามารถจำคำตอบน้นั
ไดโ้ ดยคำตอบน้ันต้องคงความหมายเดิมของเร่อื งเอาไว้และเรียงลำดบั เหตุการณ์แลว้ เลา่ ใหเ้ พือ่ นใน
กล่มุ ฟัง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอื่ งการอา่ นจบั ใจความสำคัญขา่ ว
ตอนที่ 3
ขนั้ ที่ 5 Recite (R3) การจดจำ
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นสรปุ ใจความสำคัญโดยใชส้ ำนวนของตนเอง ถา้ ยังไม่แน่ใจตอนใดให้
กลบั ไปอา่ นซ้ำใหม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้ันที่ 6 Reflect (R4) การอา่ นทบทวน
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนทบทวนวเิ คราะห์วจิ ารณบ์ ทความท่ีได้อ่าน ในประเด็นต่างๆ เช่น ขอ้ คิดทไี่ ด้จากการอ่าน
การใชส้ ำนวนภาษา ข้อเสนอแนะ เปน็ ตน้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบย่อย
การอา่ นจับใจความสำคัญข่าว
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนข่าวตอ่ ไปน้ตี ่อไปนี้แล้วตอบคำถาม ขอ้ 1-5
ภาวะใบตองขาดตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดภาวะใบตองขาดตลาดมากว่า 1 สัปดาห์ เป็นผลมาจากภาวะภัย
แลง้ ทำใหต้ น้ กล้วยพงั และกลว้ ยตานีซงึ่ มีใบใหญน่ ิยมนำมาใช้หอ่ อาหารไม่แตกยอดอ่อน หรือแตก
ยอดไม่ได้ขนาดและฉีกขาด ส่งผลกระทบต่อบรรดาร้านอาหารที่จำเป็นต้องใช้ใบตองมาห่อ เช่น
ข้าวเหนียวหมูห่อใบตองโกเล็ก ของนางภัคคิรา คำแป้น ซึ่งเปิดร้านขายบริเวณทางเข้าตลาด
ทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา ที่ใช้ใบตองห่อข้าวเหนียวหมูห่อใบตองมาตั้งแต่เริ่มขาย
กว่า 10 ปี ขระนี้ต้องเปลี่ยนมาใช้กระดาษห่อข้าวเหนียวหมูแทน เนื่องจากตามท้องตลาดไม่มี
ใบตองมาจำหน่าย โดยนางภัคคิรา กล่าวว่า ใบตองขาดตลาดมากกว่า 1 สัปดาห์ โดยผู้ค้าใบตอง
เผยว่าไม่สามารถหาใบตองมาขายได้ เพราะแหล่งปลูกกล้วยในพืน้ ที่ จ.สงขลาเกิดภาวะภัยแล้ง ต้น
กล้วยขาดนำ้ ไมแ่ ตกยอดใหม่ และใบแหง้ เหยี่ วฉกี ขาดจากสภาพอากาศท่ีร้อนจดั
ท่มี า : หนงั สือพมิ พ์ไทยรฐั
1. เนื้อหาในข่าวกลา่ วเกี่ยวกับอะไร
ก. ภาวะใบตองขาดตลาด เพราะผลกระทบจากภยั แลง้
ข. ภาวะใบตองล้นตลาด เพราะมผี ้ปู ลกู ตน้ กลว้ ยมากขึน้
ค. การหอ่ ข้าวเหนียวดว้ ยใบตอง
ง. การรณรงค์ใชใ้ บตองในการห่ออาหาร
2. สาเหตขุ องใบตองท่ขี าดตลาดคอื อะไร
ก. เกดิ ภาวะแล้ง ตน้ กล้วยขาดน้ำไม่แตกยอดใหมแ่ ละใบแห้งเหีย่ วฉกี ขาด
ข. เกษตรกรไมด่ ูแลใสใ่ จต้นกลว้ ยจึงทำให้ต้นกล้วยเหีย่ วเฉาตาย
ค. ผคู้ นสว่ นใหญไ่ มน่ อยมใช้ใบตองในการใสอ่ าหาร
ง. เกษตรกรส่วนใหญ่หนั มาทำสวนยางพารามากขึน้
3. สถานทท่ี ี่ไดน้ รบั ความเสียหายของภยั ธรรมชาตนิ อี้ ยู่จงั หวัดใด
ก. นราธวิ าส ข. สงขลา
ค. ปัตตานี ง. กำแพงเพชร
4. ใครคือผูไ้ ด้รับผลกระทบในคร้ังน้ี
ก. นายวรายุทธ์ ไชยช้อฟา้ ข. นางมณี บุญชว่ ย
ค. นางภัคคริ า คำแป้น ง. นายจกั รพรรดิ เมฆอากาศ
5. นกั เรียนคดิ วา่ มีวิธีใดบ้างทจ่ี ะทำให้ใบตองไม่ขาดตลาด
ก. หาพื้นท่ใี นจงั หวัดอนื่ ปลกู
ข. ไปรับของมาขายจากจงั หวัดอน่ื
ค. ทำใจให้ชนิ แลว้ เปลีย่ นมาใชพ้ ลาสตกิ แทนการใชใ้ บตอง
ง. ควรมแี หลง่ นำ้ สำรองเผ่อื ไว้ใชใ้ นยามวิกฤตอยา่ งภัยแลง้ เป็นต้น
คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นข่าวตอ่ ไปน้ตี ่อไปนี้แลว้ ตอบคำถาม ขอ้ 6-10
นายวสนั กลอ่ มจนิ ดา หัวหน้าเขตรักษาพันธส์ุ ัตวป์ ่าซบั ลังกา อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี
เปิดเผยว่า หลังจากท่ี สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มพี ระราชดำรัสจดั ต้ัง
โครงการนำชา้ งบา้ นคืนสู่ปา่ และเขตรักษาพนั ธุป์ ่าซับลังกาซง่ึ ถือเปน็ ปา่ พ้ืนทส่ี ดุ ท้ายของ
จงั หวดั ลพบรุ ีเปน็ พน้ื ท่หี นึ่งท่ีไดเ้ ข้ารว่ มโครงการคนื ช้างสูป่ า่ ในคร้งั น้ี โดยในช่วงเร่มิ
โครงการนปี้ า่ ซับลงั กามีพื้นทเ่ี หลอื อยู่เพยี ง 9 หมืน่ กว่าไร่ ติดใน 3 จังหวัด คือ จ.ลพบุรี
เพชรบรุ ี และชยั ภูมิ ที่มีความสมบูรณข์ องปา่ โดยครง้ั แรกนำช้างจำนวน 4 เชือกอกมา
ปล่อยในป่าแหง่ นเ้ี ม่อื ปี 2546 และมีการนำมาปลอ่ ยเร่ือยมาตลอดระยะเวลากวา่ 10 ปี
แล้ว จนถงึ ขณะนี้สามารถปล่อยชา้ งคนื สู่ธรรมชาตไิ ด้แลว้ 26 เชอื ก แตส่ ่ิงท่นี ่าดใี จคอื ช้าง
ที่นำมาปลอ่ ยท่นี ี้สามารถปรบั ตัวและกลายเป็นช้างปา่ ได้สมบูรณ์แบบ สามารถผสมพนั ธ์ุ
กนั เองตามธรรมชาตจิ นสามารถตกลกู ในป่าเปน็ สมาชกิ ของเขตรักษาพันธ์สุ ัตวปา่ น้แี ล้ว
ทั้งสิน้ 7 ตวั ทำใหข้ ณะนี้ในป่าซับลงั กามีช้างทั้งหมด 33 ตัวแล้ว
ทมี่ า : www.sarsburi.dnp.go.th
1. ให้นกั เรยี นต้ังชอ่ื ขา่ ว
…………………………………………………………………………………………………………………………………
2. สถานทที่ เี่ ป็นเขตรกั ษาพนั ธส์ุ ัตวป์ ่าแหง่ นม้ี ีช่อื ว่าอะไรและอยใู่ นจังหวัดใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เม่ืออา่ นขา่ วขา้ งตน้ แล้ว นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรเก่ียวกับชา้ งปา่
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เพราะเหตุใดจงึ มีการปลอ่ ยชา้ งคืนส่ปู ่า
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ให้นักเรยี นสรุปใจความสำคญั ของข่าวข้างต้น
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย
แบบทดสอบย่อยการอา่ นจับใจความสำคัญข่าว
ข้อ คำตอบ
1ค
2ง
3ค
4ข
5ข
6 ดุลยพินิจครผู ู้สอน
7 ดุลยพินิจครผู ู้สอน
8 ดลุ ยพนิ จิ ครูผู้สอน
9 ดลุ ยพินจิ ครูผสู้ อน
10 ดลุ ยพนิ ิจครูผูส้ อน
การอา่ นจับใจความสำคญั เรื่องส้ัน
ความหมายของเรอ่ื งสน้ั
เรอ่ื งสัน้ คือ เรอื่ งที่เล่าอย่างสัน้ ๆ มขี นาดความยาวของเรือ่ งที่ไม่กำนดตายตวั แต่ต้องใช้คำไม่
มากนกั โครงเรื่องก็ตอ้ งไม่มีความซับซ้อนจนเกนิ ไป สามารถอ้นจบไดใ้ นเวลาอนั ส้นั แนวคิดของเร่ืองกม็ ี
เพยี งแนวคดิ เดยี ว
ลกั ษณะของเรอ่ื งส้ัน
เร่ืองสัน้ เป็นงานเขียนประเภทบนั เทงิ คดีที่เกิดข้ึนในเมืองไทยประมาณรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั (รัชกาลท่ี ๔) โดยไดแ้ บบอยา่ งมาจากตะวนั ตก
จงึ มลี กั ษณะ ด้งน้ี
1. ความยาว เรอ่ื งสนั้ ตอ้ งมีความยาวพอประมาณ อา่ นจบได้ในเวลาไม่
เกิน ๕๐ นาที ตามขนาดมาตรฐานของเร่ืองสั้นร่นุ เก่าควรมจี ำนวนตำ ๔,๐๐๐ -
๕,๐๐๐ คำ แต่ถา้ เปน็ เร่ืองสั้นสมยั ใหม่ จดั เป็นเรื่องส้ันขนาดยาวอาจมีจำนวนคำได้
ถึง ๑๐,๐๐๐ คำ
2. มคี วามหนาแนน่ หมายถงึ ต้องใช้สำนวนโวหาร การสรา้ งฉาก ตัวละคร บท
สนทนา ฯลฯ ให้กระชับรัดกุมและมีประโยชน์ตอ้ การดำเนินเรือ่ งมากที่สุด
3. โครงเร่อื ง (Plot) เรื่องสั้นควรมโี ครงเรอ่ื งเดยี ว ไม่ซบั ซ้อนเปน็ ขอ้ ขดั แยง้ กัน
ระหว่างตวั ละครและต้องจบลงดว้ ยผลอย่างใดอยา่ งหนึ่ง
4. แก่นของเรื่องหรือแนวคดิ เรอ่ื งส้ันควรมุ่งสอนแนวคิดหรือแกน่ ของเร่ืองเพียง
อยา่ งเดยี ว
5. ตัวละคร เรือ่ งส้นั ควรมีตวั ละครนอ้ ยตัวคือไม่ควรเกนิ ๔ ตวั
6. ฉาก เรื่องสนั้ มีฉากทีเ่ กิดจากพฤติกรรมของตัวละคร คอื เหมาะกับตวั
ละคร และสภาพแวดล้อม
7. ตอนจบของเร่ือง (Climax) ตอนจบของเร่ืองสน้ั มักใหค้ วามรู้แกผ่ ู้อ่านถึงความ
สมบูรณ์ของเนอ้ื หา มี ๒ แบบ คอื จบอยา่ งธรรมดา และจบแบบหลกี ความคาดหมาย
หรือจบแบบห้กมมุ
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เรอ่ื งการอา่ นจับใจความสำคญั เรือ่ งสนั้
หลักการจับใจความสำคัญเรอื่ งสัน้
การจับใจความสำคัญเรื่องสั้นให้ถูกต้องแม่นยำอย่างรวดเร็วนับเป็นเรื่องยากพอสมควร
เพราะเป็นงานเขยี นที่มุ่งให้ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ จึงมักมีโครงเร่อื งท่ีซบั ซอ้ นและไม่นยิ มบอก
เรอ่ื งราวหรือแนวคดิ สำคญั อย่างตรงไปตรงมา ผูอ้ า่ นจงึ ควรใชแ้ นวทางพจิ ารณาดังนี้
1. ช่ือเรอ่ื ง นับเป็นจดุ ชแ้ี นะหัวใจของเรอื่ งไว้เปน็ อนั ดบั แรก เรอื่ งสั้นบางเร่ืองต้งั ช่ือให้
เห็นแก่นเรื่องหรือใจความสำคัญได้ชัดเจน แต่บางเรื่องก็ยากต่อการตีความ จึงควรพิจารณาจาก
ส่วนอ่ืนประกอบดว้ ย
2. แกน่ เรอ่ื ง ผ้อู า่ นควรพจิ ารณาจากขอ้ ขัดแย้งของเรอื่ งแลว้ ติดตามว่าข้อขัดแย้งน้นั มี
การสิ้นสุดอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่มักอยู่ตอนท้ายๆใกล้จบเรื่อง จะทำให้มองเห็นแก่นเรื่องได้ทันที
หลังจากนั้นพยายามสรุปสาระสำคัญ โดยการตอบคำถามให้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่
อยา่ งไร และทำไม ซง่ึ นอกจากจะแสดงว่าผู้อา่ นจับใจความสำคัยของเรื่องไดแ้ ลว้ ยงั เปน็ จุดชี้นำให้
เห็นแกน่ เรอื่ งหรอื ใจความสำคญั ได้งา่ ยดว้ ย
3. ภูมหิ ลัง แมเ้ รอ่ื งสน้ั จะเปน็ เรื่องสมสุติ แตน่ ยิ มทจ่ี ะสรา้ งเร่ืองให้ดูสมจรงิ มากท่ีสดุ
การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั สังคมและเหตกุ ารณ์ในเร่ือง จะชว่ ยใหจ้ ับใจความได้ง่ายย่งิ ขึน้
4. น้ำเสียงหรอื หางเสียงของผู้แตง่ การจบั นำ้ เสยี งหรือหางเสยี งของผแู้ ต่ง ให้ไดจ้ ะช่วย
จับใจความสำคญั ของเรื่องได้แมน่ ยำขน้ึ
5. การอ่านที่ม่งุ จับใจความสำคัญเพียงเพื่อตอบคำถามใคร ทำอะไร ที่ไหน เมอ่ื ไหร่
อย่างไร และทำไม จึงอาจไม่ได้รสชาติและคุณค่าของบันเทิงคดีอย่างเพียงพอ ดังนั้นควบจับ
ใจความยอ่ ยหรอื ใจความประกอบเพ่ือเก็ยรายละเอียดของเรอ่ื งไปพร้อมกนั
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอื่ งการอ่านจับใจความสำคัญเร่อื งสนั้
เร่ือสนั้ ทำดีให้เดก็ เหน็
ครง้ั หนึง่ มบี ้านหลังหนึ่งมีสามี ภรรยา ลกู ชาย และอาม่าแกๆ่ คนหนึ่ง อาม่าแก่มาก
และไม่แข็งแรง มีอาการมือสั่นตลอดเวลา ทำให้ถือของลำบาก โดยเฉพาะเวลาที่อาม่าทาน
ข้าวร่วมกับครอบครัว อาม่าจะถือชามข้าวได้ลำบาก และทำข้าวหกลงบนโต๊ะตลอดเวลา
ลูกสะใภ้อาม่ารำคาญกับเรื่องนี้มาก จึงปรึกษากับสามีว่า เวลาอาม่าทานข้าวเขาจะทำข้าว
หกเกลื่อนโต๊ะ นางทนไมไ่ ดเ้ พราะมันทำใหร้ ้สู ึกกินข้าวไมล่ ง สามีก็ไมร่ จู้ ะทำอย่างไร เพราะ
เขาไม่สามารถทำให้อาม่าหายมือสั่นได้ อีกไม่กี่วัน ลูกสะใภ้ก็พูดกับสามีเรื่องนี้อีกว่าจะไม่
แก้ไขอะไรเลยหรือ นางทนไม่ได้แล้ว หลังจากโต้เถียงกันไปสักพัก สามีก็ยอมตาม
ภรรยา โดยเมอื่ ถงึ เวลาทานขา้ ว เขาจะจดั ให้แมน่ ่งั แยกโตะ๊ ต่างหากเพียงคนเดยี ว และใชถ้ ้วย
ขา้ วถกู ๆบ่ินๆ เพราะอามา่ ทำถ้วยแตกบ่อย ๆ เมอ่ื ถงึ เวลาทานขา้ ว อามา่ เศรา้ ใจมาก เพราะ
อาม่าก็ไม่มีปัญญาจะแก้ไขอะไรได้ นางนึกถึงอดีตที่นางเลี้ยงดูลูกชายด้วยความรักเสมอมา
นางไม่เคยบ่นต่อความเหนื่อยยาก และเวลาที่ลูกชายเจ็บไข้นางก็ดูแลอย่างดี เวลาลูกชายมี
ปัญหาก็ช่วยแก้ไขทุกครั้ง แต่ตอนนี้อาม่ารู้สึกว่าถูกทิ้ง อาม่าเสียใจมาก หลายวันผ่านไป
อาม่ายังเศร้าใจ รอยยิ้มเริ่มจางหายไปจากใบหน้าของเขา หลานชายน้อยๆ ของอาม่าซ่ึง
เฝ้าดูทุกอยา่ งมาตลอดก็เข้ามาปลอบใจ และบอกคุณย่าวา่ เขารู้วา่ คณุ ยา่ เสียใจมากทีพ่ ่อแม่
ของเขาทำแบบน้ี แตห่ ลานชายมีวธิ ีท่ีจะให้อาม่ากลับไปทานข้าวรวมกับทุกคนได้ ความหวัง
เริ่มเกิดขึ้นในหัวใจของหญิงชรา จึงถามหลานชายว่าจะทำอย่างไร หลานก็ตอบว่า เย็นนี้ให้
คุณยา่ แกลง้ ทำชามของคณุ ย่าตกแตกเหมือนกบั ไม่ได้ตั้งใจ
อาม่าได้ฟงั กแ็ ปลกใจ แตเ่ ด็กนอ้ ยยืนยันว่า ให้คุณยา่ ทำตามท่ีบอกทเี่ หลือปล่อยเป็น
หน้าที่ของหลานเอง และแล้วเมื่อได้เวลาอาหารเย็น หญิงชราก็ตัดสินใจลองทำตามที่หลาน
พูด เพื่อจะดูว่าหลานมแี ผนอะไร หญิงชรายกถว้ ยข้าวเก่าท่ีเต็มไปดว้ ยรอยบ่ินขึ้นแล้ว แกล้ง
ปล่อยลงบนพื้นเหมือนกับหลุดมือ ถ้วยข้าวเก่า ๆ แตกกระจายยับเยิน ลูกสะใภ้เห็นถ้วย
แตกเสียหายกล็ ุกข้ึนเตรียมจะด่าว่าอาม่า แต่ลูกชายตวั น้อยของนางกลับชิงพูดข้ึนมาก่อนว่า
“คุณย่า…!! ทำไมทำชามแตกหมดเลยล่ะครับ นี่ผมกะว่าจะเก็บไว้ให้คุณแม่ใช้ตอนแก่นะ
แล้วคณุ แม่จะเอาชามเกา่ ๆทไ่ี หนใชก้ นั ล่ะทนี ี้… คณุ ยา่ นิใช้ไมไ่ ดเ้ ลยนะครับ”
เมื่อลูกสะใภ้ได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ก็หน้าซีดและ ด่าอาม่าไม่ออกอีกต่อไป นางรู้
ทันทีว่า สิ่งที่นางทำจะเป็นตัวอย่าง ให้ลูกชายของนางปฏิบัติต่อนางเมื่อนางแก่ตัวลง นาง
รู้สึกอับอาย และสำนึกกับการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่นั้นมา ทุกคนก็ทานข้าวรวมกันมา
ตลอด
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เรือ่ งการอ่านจบั ใจความสำคัญเร่อื งสัน้
ตอนที่ 1
ขั้นท่ี 1 Survey (S) สำรวจ
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาการอ่านจับใจความสำคัญบทความ แล้วอ่านบทความ เร่ืองการไหว้
วัฒนธรรมไทยทต่ี อ้ งรักษาไว้ เพ่ือสำรวจองค์ประกอบของเร่อื ง ดงั น้ี
ชื่อบทความ .............................................................................................................................. ...................
สาระสำคญั ..................................................................................................................................................
ขัน้ ที่ 2 Question (Q) ตง้ั คำถาม
คำชแี้ จง : นักเรียนทำใบกจิ กรรม ตอนที่ 1 โดยต้ังคำถามจากบทความเร่ืองการไหว้ วฒั นธรรมไทยท่ีต้อง
รกั ษาไว้ ในขอบเขตหวั ขอ้ ต่อไปน้ี สาระสำคญั ประโยชนท์ ี่ได้รับ เจตนาของผเู้ ขียน
โดยต้งั คำถามอย่างน้อย 3 ขอ้
1. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมกลุ่ม
เรอ่ื งการอา่ นจับใจความสำคัญเรอ่ื งสน้ั
ตอนที่ 2
ขนั้ ที่ 3 Reading (R1) อ่านอยา่ งรอบคอบเพ่ือหาคำตอบ
คำช้แี จง : ให้นกั เรยี นอ่านบทความซำ้ อีกครงั้ อยา่ งละเอียดเพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจประเด็นสำคัญของเน้อื หาโดยไม่
ต้องบนั ทึกและในขณะเดยี วกันก็คน้ หาคำตอบสำหรบั คำถามจาก ตอนท่ี 1 ทีไ่ ด้ต้ังไว้หรือใน
ขณะท่ีกำลังอ่านถ้านึกคำถามได้อกี กอ็ าจจดบันทึกเพมิ่ เติมไวใ้ นใบกจิ กรรม แลว้ ต้ังใจอ่าน
จนกว่าจะ ได้รับคำตอบที่ตอ้ งการ
6. ...............................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9. ................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
10. ........................................................................................................................ ........................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขัน้ ที่ 4 Record (R2) บันทึก
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นทใบกิจกรรมกลุม่ ตามที่นักเรยี นได้ตั้งไว้ มุง่ จดบันทึกในสง่ิ ที่สำคัญและจำเปน็ โดยใช้
ขอ้ ความอยา่ งรัดกุม ตามความเข้าใจของนักเรยี นเพื่อใหเ้ ข้าใจได้ง่ายขึน้ และสามารถจำคำตอบนั้น
ได้โดยคำตอบน้นั ต้องคงความหมายเดิมของเรอ่ื งเอาไวแ้ ละเรยี งลำดับเหตุการณแ์ ล้วเล่าใหเ้ พ่ือนใน
กลุม่ ฟงั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมกลุ่ม
เรอื่ งการอา่ นจับใจความสำคัญเรอื่ งสั้น
ตอนท่ี 3
ขนั้ ที่ 5 Recite (R3) การจดจำ
คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นแตล่ ะคนเขียนสรปุ ใจความสำคัญโดยใช้สำนวนของตนเอง ถา้ ยงั ไม่แนใ่ จตอนใดให้
กลบั ไปอ่านซ้ำใหม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขั้นท่ี 6 Reflect (R4) การอา่ นทบทวน
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นทบทวนวเิ คราะห์วิจารณบ์ ทความท่ีไดอ้ า่ น ในประเด็นต่างๆ เชน่ ขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ ากการอา่ น
การใช้สำนวนภาษา ขอ้ เสนอแนะ เปน็ ต้น
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบย่อย
การอา่ นจบั ใจความสำคัญเรื่องสน้ั
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นอ่านเร่ืองส้ันตอ่ ไปนี้ตอ่ ไปนแ้ี ล้วตอบคำถาม ขอ้
เรื่องสนั้ เรือ่ งขาวกบั ดำ
เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนใน
คฤหาสน์ของเขาเป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำ กับสีขาวเศรษฐีบอกชาวนาว่า “ท่านเป็น
หนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง แต่หากท่านยกลูกสาวให้ข้า ข้าจะยกเลิกหนี้สินทั้งหมดให้” ชาวนาไม่ตกลง
เศรษฐจี งึ บอกว่า
“ถ้าเช่นนั้น เรามาพนันกันดีไหม ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผ้าน้ี
ก้อนหนึ่ง สีดำ ก้อนหนึ่งสีขาวให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้ หากนางหยิบได้ก้อนกรวดสี
ขาว ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้อง
แต่งงานกบั ขา้ และแน่นอน ขา้ จะยกหน้ีให้ทา่ นดว้ ย” ชาวนาตกลง เศรษฐหี ยิบกรวดสองก้อนใสใ่ นถงุ ผ้า
หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดทั้งสองก้อนนั้น เป็นสีดำ เธอจะทำอย่างไร? หากเธอไม่เปิดโปงความ
จริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้ แต่
บดิ าของเธอกจ็ ะ ยงั คงเปน็ หนเี้ ศรษฐตี ่อไปอีกนาน เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มองปัญหาแบบขาวกับดำ
แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำเสมอไป ในทางตรงข้าม หากเราลองมองต่างมุม จะ
พบว่าหนทางการแก้ปัญหามีมากกว่าหนึ่งสายเสมอ และการยืดหยุ่นพลิกแพลงไปตามสถานการณ์เป็น
วิธกี ารหนง่ึ บางครั้งในการแก้ปัญหา เราอาจต้องสร้างเคร่อื งมือในการแกป้ ัญหาข้นึ มาใหมใ่ นยุคสงคราม
เยน็ ทก่ี นิ เวลานานหลายปี สญู เสยี ชวี ติ แลพทรัพยากรโลกมหาศาล ไม่มีใครกลา้ เชอ่ื ว่า สงครามเยน็ สา
มารภยุตลิ งได้ หรือเร็วเชน่ น้ี
ในยคุ ของ มิคาอลิ กอร์บาชอฟ เขากลา่ วว่า เปน็ เรื่องเขลาท่ีคิดวา่ ปัญหาท่ีรุมเร้ามนุษย์ในวันน้ี
สามารถแก้ไขไดด้ ว้ ยเคร่ืองมือที่เคยใช้ได้ผลในอดีต หากเขาไม่ได้คิดเช่นน้ี บางทีวันนี้สังคมนิยมโซเวียต
ยงั ไม่เปิดประเทศ และสนั ติภาพระหวา่ งฝ่ายขาว-ฝา่ ยแดงคงลา้ หลังไปอกี หลายปี โลกไมม่ ีได้มีเพียงแค่สี
ขาวกับดำ ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน พลันเธอปล่อยกรวดในมือ
ร่วงลงสู่พื้นกลืนหายไปในสีขาวและดำของสวนกรวด เธอมองหน้าเศรษฐีเอ่ยวา่ 'ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอ
ปล่อยหินร่วงหลน่ แตไ่ มเ่ ปน็ ไร ในเมอ่ื ทา่ นใสก่ รวดสีขาวกับสีดำอยา่ งละก้อนลงไปในถงุ น้ี ดังนั้นเม่ือเรา
เปดิ ถงุ ออกดสู กี รวดก้อนทเ่ี หลือ ก็ยอ่ มรูท้ ันทวี ่า กรวดทข่ี า้ หยิบไปเมอื่ ครู่เปน็ สอี ะไร' ที่กอ้ นถุงเป็นกรวด
สีดำ ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว' ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับ
เศรษฐีข้ีโกงคนน้ัน
1. ใครเปน็ คนเชญิ ชาวนากบั ลูกสาวไปทสี่ วนในคฤหาสน์
ก. เพ่อื นบ้าน ข. คนขับรถ
ค. เศรษฐี ง. เถ้าแกเ่ จา้ ของตลาด
2. เศรษฐผี ูน้ ั้นต้องการอะไรจากชาวนา
ก. ความเช่ือใจของชาวนา ข. เงินทองจากชาวนา
ค. หนีส้ นิ จากชาวนา ง. ลูกสาวจากชาวนา
3. เศรษฐีใชอ้ บุ ายอะไรหลอกชาวนา
ก. ปิดตา ข. เลอื ไพ่
ค. จบั หนิ ง. จับไม้สั้นไม้ยาว
4. ลกู ชาวนาใช้วิธีคดิ แบบใดแก้ปัญหา
ก. บอกความจริงวา่ เศรษฐีโกง ข. แนวความคดิ แบบสงครามเย็น
ค. ไม่ยอมเล่นเกมของเศรษฐี ง. โกงกลบั
5. ลูกชาวนาหยบิ หนิ ได้ก้อนสอี ะไร
ก. สขี าว ข. สดี ำ
ค. สนี ้ำตาล ง. สแี ดง
อา่ นเร่อื งสน้ั ต่อไปนแี้ ลว้ ตอบคำถาม ข้อ 6-10
สายลมแห่งการใหอ้ ภัยและก้อนหนิ แหง่ ความทรงจำ
มีคน 2 คนเป็นเพื่อนรักกันมาก ร่วมเดนิ ทางไปในทะเลทราย ระหว่างทาง เกดิ มีปากเสียงกัน
รนุ แรงทะเลาะกนั เพ่อื นคนหนงึ่ ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ตบหน้าอกี ฝา่ ย เพือ่ นทีถ่ กู ทำรา้ ยเจ็บปวดแต่ไมเ่ อย่
วาจา กลับเขียนข้อความลงบนผืนทรายวา่ “วนั น…้ี ฉนั ถกู เพ่ือนรักตบหนา้ ”
พวกเขายังคงเดนิ ทางต่อไป จนกระทั่งถงึ แหลง่ น้ำ พวกเขากอ็ าบน้ำ เพือ่ นคนท่เี คยถูกตบหน้า
ไดพ้ ลดั ตกแหล่งน้ำ จมนำ้ เพ่ือนอีกคนไมร่ อชา้ รีบลงไปชว่ ยทันที คนรอดตายยงั คงไม่เอ่ยวาจา กลับ
สลกั ข้อความลงไปบนก้อนหินใหญ่ “วันน…้ี เพ่ือนรักชว่ ยชวี ติ ฉันไว”้
อกี คนไม่เขา้ ใจ เลยถามว่า “เมื่อเธอถกู ฉนั ตบหน้า เธอเขียนเรอ่ื งราวลงพืน้ ทราย แลว้ เร่ืองที่
ฉนั ได้ช่วยเธอจากการจมน้ำ ทำไมจงึ ตอ้ งสลักบนก้อนหนิ ”
อีกคนยิ้มพราย กลา่ วตอบ
เม่อื ถูกคนท่รี ักทำร้าย เราควรเขยี นมันไวบ้ นพนื้ ทราย ซงึ่ “สายลมแหง่ การให้อภยั ”
จะทำหน้าท่ีพดั ผ่าน ลบลา้ งไมเ่ หลอื ” แต่เมื่อมีสิง่ ที่ดีมากมายเกดิ ขน้ึ เราควรสลกั ไว้บน “กอ้ นหินแห่ง
ความทรงจำในหวั ใจ” ซง่ึ ตอ่ ให้มสี ายลมพัดแรงเพียงใด ก็ไมอ่ าจ ลบลา้ ง ทำลาย
ทีม่ า : สายลมแหง่ การให้อภยั และก้อนหนิ แห่งความทรงจำ
6. ใจความสำคญั ของเร่อื งท่ีอ่านคอื อะไร
ก. เวลาท่เี ราทะเลาะกัน ใหน้ ึกถึงเรอื่ งราวดๆี ท่ีเคยทำใหก้ ัน จะได้ไม่ดกรธแคน้ กนั
ข. เราควรชว่ ยเหลือเพื่อน เม่ือเพื่อนเดือดร้อน
ค. เราไมค่ วรไปยุ่งกับเพื่อนท่ที ำร้ายเรา
ง. เม่ือเราทะเลาะกนั ควรใชเ้ หตุผลในการพดู คยุ กนั แทนการใช้อารมณ์
7. จากเรอื่ งเพราะเหตใุ ดเม่ือถกู คนทรี่ กั ทำรา้ ย เราควรเขียนมันไว้บนพน้ื ทราย
ก. เพราะจะไดจ้ ดจำไวว้ า่ ใครเคยทำรา้ ยเรา
ข. เพราะบนพ้ืนทรายเขยี นงา่ ยกว่าพืน้ อนื่ ๆ
ค. เพราะลมจะช่วยพดั ผ่าน ลบล้างสิง่ ทเี่ ราไม่ควรจดจำ
ง. เพราะเขียนบนทรายจะสวยกวา่ เขยี นบนพื้นอ่ืน
8. ให้นกั เรียนเขยี นใจความสำคัญของเรื่องสนั้ สายลมแห่งการให้อภยั และกอ้ นหินแห่งความทรง
จำ
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
9. ข้อคิดทไี่ ด้จากการอา่ นเรื่องสั้นขา้ งต้นคืออะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………
10.เราสามารถนำข้อคิดท่ีไดม้ าประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย
แบบทดสอบย่อยการอา่ นจับใจความสำคัญเรื่องส้ัน
ขอ้ คำตอบ
1ค
2ง
3ค
4ข
5ข
6ก
7ค
8 ดลุ ยพนิ ิจครผู สู้ อน
9 ดุลยพินิจครผู ูส้ อน
10 ดลุ ยพินจิ ครผู สู้ อน
ขอบคุณคะ่