๔๖ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ครุฑ ภาพที่ ๓๖ ครุฑ “ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุบรรณ กินนรนาคนาคา” สุบรรณ หมายถึง ครุฑ ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะ ของพระนารายณ์ปกติอาศัยอยู่ท่ีวิมานฉิมพลีมีรูปเป็นคร่ึงคนคร่ึงนกอินทรีได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มี อาวุธใดท าลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้ าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงท าให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้น หนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง “ขนวิเศษ” ครุฑเป็นสัตว์ก่ึงโอปปาติกะ หรือก่ึงกายทพิย์กายสิทธ์ิคล้ายชาวลับแล และ พวกพญานาค อยู่อีก มิติหนึ่งจากโลกของเรา นอกจากนี้ ครุฑ ถือเป็นสัตว์หิมพานต์ แต่ไม่ใช่สัตว์สามัญธรรมดา เพราะ พญาครุฑเป็นสตัว์ก่งึเทพกายสทิธ์เิป็นอมตะ ซ่ึงมีอา นาจเทียบเท่าพระผู้เป็นเจ้า ครุฑ จัดเป็นเทวดาประเภทหนึ่ง อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองกุมภัณฑ์เทวดา อยู่ ณ สวรรค์ช้ันจาตุมหาราชิกา ด้านทศิใต้เหตุท่มีาเกดิเป็นครุฑเพราะทา บุญเจือด้วยโมหะ ครุฑ มีก าเนิดทั้ง ๔ แบบ คือ โอปปาติกะ ชลาพุชะ อัณฑชะ และสังเสทชะ มีท่อียู่ต้ังแต่พ้ืนมนุษย์ ป่าหิมพานต์ป่าไม้ง้ิว จนถึงช้ันจาตุมหาราชิกา (ป่าไม้ง้ิวอยู่ช้ันท่ีสองรอบภูเขาสิเนรุส่วนช้ันท่ีหน่ึงอยู่ใน มหาสมุทรสทีนัดร เป็นท่อียู่ของพญานาค) ครุฑ ชั้นสูง เกิดแบบโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรเทพธิดา มีชีวิตอยู่ เหมือนเทวดา แปลงกายได้ จะเสวยสุทธาโภชน์ คืออาหารทิพย์แบบเทวดา
๔๗ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ครุฑ บางประเภทผูกเวรกับนาค ก็จะกินนาคเป็นอาหาร บางประเภทก็กินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ ครุฑบางประเภทผูกเวรกบัสตัว์นรกในยมโลก กจ็ะสมัครใจไปเป็นเจ้าหน้าท่ลีงทณัฑส์ตัว์นรก ครุฑเป็ นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละก าลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญา เฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ สามารถแบ่งได้ ๕ ประเภท ได้แก่ ๑. ตัวเป็นคนอย่างธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่มีปีก ๒. ตัวเป็นคน หัวเป็นนก ๓. ตัวเป็นคน หัวและขาเป็นนก ๔. ตัวเป็นนก หัวเป็นคน ๕. รูปร่างเหมือนนกทั้งตัว ต านานเทพปกรณัมของครุฑในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เล่าว่าครุฑเป็นบุตรของพระกัศยปมุนีเทพบิดร และนางวินตา พระกศัยปมุนีองค์น้ีเป็นฤษีท่มีีฤทธ์เิดชมาก และเป็นผู้ให้กา เนิดเทพอกีหลายองค์ในศาสนา พราหมณ์ พระองค์มีชายาหลายองค์ นอกจากนางวินตาแล้ว ยังมีอีกองค์หนึ่งคือ นางกัทรุ ซึ่งเป็นพ่ีน้องกบั นางวินตาและเป็นมารดาของนาคทั้งปวง ทั้งสองนางได้ขอพรให้ก าเนิดบุตรจากพระกัศยปมุนี โดยนางกัทรุได้ขอพรว่าขอให้มีบุตรจ านวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้ให้ก าเนิดนาคหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอบุตรเพียงสององค์และขอให้ ลูกมีอ านาจวาสนา เมื่อนางคลอดบุตรปรากฏว่าออกมาเป็นไข่สองฟอง นางรออยู่เป็นเวลา ๕๐๐ปี ไข่ก็ยัง ไม่ฟัก นางทนรอไม่ไหวว่าบุตรของตนจะมีหน้าตาอย่างไร จึงทุบไข่ออกมาฟองหน่ึง ปรากฏว่าเป็นเทพบุตรท่ี มีกายแค่คร่ึงท่อนบนช่ือ อรุณ อรุณเทพบุตรโกรธมารดาของตนท่ทีา ให้ตนออกจากไข่ก่อนก าหนด จึงสาปให้ มารดาของตนเป็นทาสนางกัทรุและให้บุตรคนท่สีองของนางเป็นผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้น จึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองท่สีองออกมาดูนางรอต่อไป อีก ๑,๐๐๐ ปีรอให้ถึงกา หนดท่บีุตรคนท่สีองซ่ึงกค็ือพญาครุฑออกมาจากไข่เอง ต านานของครุฑ และการเป็นศัตรูกับนาคมีรายละเอียดมากกว่าน้ีในท่ีน้ีขอกล่าวถึงต านาน การก าเนิดของครุฑไว้พอสังเขปเพียงแค่นี้ ๑๕. ศึกษาเพิ่มเติม
๔๘ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ กินนร ภาพที่ ๓๗ กินนร - กินรี “ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุบรรณ กินนรนาคนาคา” กินนร (ตัวผู้) และกินรี (ตัวเมีย) เป็นสัตว์ในป่ าหิมพานต์ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่าง เป็นนก มีปีกบินได้ ตามต านานเล่าว่าอาศัยอยู่ในป่ าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาศ ต้นก าเนิดแท้จริงของกินนรและกินรีไม่แน่ชัด ยังไม่พบต าราใดบันทึกไว้ชัดเจน แต่ในเทวะประวัติ ของพระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า เมื่อท้าวอิลราชออกประพาสป่ าและพลัดหลงเข้าไปในเขตหวงห้ามของพระศิวะ นั้น ท้าวอิลราชและบริวารทั้งหมดได้ถูกสาปให้กลายเป็นผู้หญิง ต่อมา นางอลิา (ซ่ึงคือท้าวอลิราชท่ถีูกสาป ให้เป็นหญิง) พร้อมด้วยบริวารมาลงเล่นน ้าใกล้อาศรมของพระพุธ เมื่อพระพุธได้เห็นนางเข้าก็นึกหลงรัก จึงรับนางมาเป็นชายา และได้เสกให้บริวารของนางทั้งหมดกลายเป็นกินรี “พวกเจ้าอาศัยอยู่ท่นี่ีข้าจะหาผลาหารมาให้กนิมิให้อดอยาก” พระพุธกล่าวแก่กินรีทั้งหมด “และหากพวกเจ้าเหงา ข้าจะจัดหากิมบุรุษมาให้เป็นสามีพวกเจ้าอีกด้วย” กิมบุรุษ ก็คือ กินนร นั่นเอง ดังนั้นหากจะยึดถือเอาว่า ทั้งกินรีและกินนร ต่างก็มีต้นก าเนิดมาจาก การเสกของพระพุธก็คงไม่ผิดไปนัก
๔๙ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ขณะเดียวกันความเช่ือทางฝ่ังตะวันตกในหนังสือของ พี.ธอมัส ได้กล่าวว่า ท่ีเชิงเขาเมรุเป็นท่อียู่ ของคนธรรพ์กินนร และนักสิทธ์ิและยังบอกว่าคนธรรพ์กับนักสิทธ์ิเป็นเช้ือสายเดียวกัน ดังนั้น กินนร และกินนรี เป็นสัตว์ในป่ าหิมพานต์เช่นเดียวกับครุฑและนาค และถือว่าเป็นสัตว์ทิพย์หรือโอปปาติกะ เช่นเดียวกับเหล่าเทวดา คนธรรพ์และนักสิทธ์ิวิทยาธร อยู่ภายใต้การปกครองของท้าวธตรฐ เป็นผู้ปกครอง คันธัพพเทวดาทั้งหมด ส่วนในภัลลาติยชาดก กล่าวว่า กินนรมีอายุ ๑,๐๐๐ ปีและโดยปกติน้ันกินนรกลัวนา ้เป็นท่ีสุด ซึ่งนิสัยอันนี้ น่าจะขัดแย้งกับอุปนิสัยของกินนรในเรื่องพระสุธน-มโนราห์ท่ีเราคุ้นเคยกัน เพราะ นางมโนราห์ชอบไปเล่นนา ้ท่สีระกลางป่าหิมพานต์จนถูกพรานบุญดักจับตัวไปได้ ภัลลาติยชาดก ได้แบ่งกินนรออกเป็น ๗ ประเภทด้วยกัน คือ ๑. เทวกินนรา เป็นพวกเทพกนินร คร่ึงเทวดาคร่ึงนก เป็นประเภทท่คีนไทยคุ้นเคยกนัดี ๒. จันทกินนรา มาจากนิทานชาดก เรื่อง จันทกินรี มีรูปกายเป็นคนแต่มีปีก ๓. ทุมกนินรา น่าจะเป็นพวกท่อีาศัยอยู่ตามสมุทุมพุ่มไม้ ๔. ทัณฑมาณกินนรา ชนิดนี้น่าจะมีอะไรคล้ายๆ นกทัณฑิมา ซึ่งเป็ นนกปากยาวดุจ มีไม้เท้าอยู่บนใบบัว ๕. โกนตกินนรา ยังเป็นปริศนาอยู่ ไม่มีใครทราบว่ามีลักษณะอย่างใดกันแน่ ๖. สกุณกินนรา เป็นกินนรท่ีมีร่างท่อนบนเป็นคนท่อนล่างเป็นนก แต่ไม่ได้เป็นเทวดา เหมือนประเภทท่หีน่ึง ๗. กัณณปาวรุณกินนรา ยังไม่ทราบว่ามีรูปลักษณะใดเช่นกัน ดังท่ีกล่าวมาข้างต้น กินนรและกินรี เป็นสัตว์พิเศษ อาศัยในป่ าหิมพานต์ซึ่งพบเจอไม่ง่ายนัก อาจจัดเป็นกึ่งคนกึ่งนกและกึ่งเทพ เรื่องราวของกินรีมีอยู่ในวรรณกรรมไทยหลายเร่ือง เร่ืองท่แีพร่หลาย ท่สีดุคือเร่ือง “พระสุธน-มโนราห์” ซ่ึงจะไม่ขอกล่าวถึงรายละเอยีดในท่นี้ี ๑๖. ศึกษาเพิ่มเติม
๕๐ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ นาค ภาพที่ ๓๘ นาค “ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุบรรณ กินนรนาคนาคา” ความเชื่อเรื่อพญานาคนั้น มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพราะปรากฏอยู่ในวรรณคดีศาสนาดังเรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ระบุไว้ว่า นาคมีลักษณะคล้ายงูใหญ่ แต่มีหงอน ดวงตาสีแดง เกล็ดหลายสี อาศัยอยู่ บริเวณบาดาลใต้เขาหิมพานต์ก่ึงสัตว์ก่ึงเทพ มีพละกา ลังและอิทธิฤทธ์ิมาก คือ สามารถแปลงตนและ จ าแลงกายได้ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ถลชะ คือ นาคท่เีกดิบนบก และ ชลชะ คือ นาคท่เีกดิในนา ้ ท้ังน้ีตามต านานแล้ว พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน ท่ีไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จัดอยู่ในฝ่ าย สุคติภูมิ สถิตอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีท้าววิรูปักษ์๑ ใน ๔ ท้าวจตุโลกบาล เป็นผู้ปกครองดูแล นาคะเทวดา ทั้งหมดซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก นาคจึงสามารถพ านักได้สูงสุดเพียงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งถือว่าเป็นสวรรค์ชั้นต้นเท่านั้น พญานาคแบ่งออกเป็นตระกูลได้ ๔ ตระกูลดังนี้ ๑. ตระกูลวิรูปักษ์นาคท่มีีผิวกายเป็นสทีอง เป็นนาคช้ันสงูสดุถือกา เนิดแบบโอปปาติกะ ๒. ตระกูลเอราปถะ ตระกูลท่นีาคมีผิวกายเป็นสีเขียว พญานาคช้ันสูง ถือกา เนิดแบบโอปปาติกะ หรือแบบอัณฑะชะ อาศัยอยู่เมืองบาดาลไม่ลึกมาก เป็นตระกูลท่พีบได้มากท่ีสุดและใกล้ชิดมนุษย์มากท่ีสุด ๓. ตระกูลฉัพพยาปุตตะ ตระกูลนาคท่ีมีผิวกาย หรือเกล็ดเป็นสีรุ้ง ส่วนใหญ่ถือกา เนิดแบบ ชลาพุชะ อาศัยอยู่ในบาดาลหรือป่าลึก มีอทิธฤิทธ์มิาก แต่พบได้ยาก เพราะมักอาศัยอยู่ในท่ลีึกลับ
๕๑ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๔. ตระกูลกัณหาโคตะมะ ตระกูลนาคท่มีีผิวกาย หรือเกลด็เป็นสดีา นิล ถือกา เนิดแบบสงัเสทชะ หรือ แบบอัณฑชะคือ เกดิจากไข่มักมีร่างกายกา ยา บึกบึน มักจะมีหน้าท่เีฝ้าสมบัติของเมืองบาดาล นอกจากนี้ ยังได้แบ่งพญานาคออกเป็นตระกูลย่อย ๆ อีกถึง ๑,๐๒๔ ชนิด คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประเภทงูท้งัท่เีป็นงูเห่า งูจงอาง งูเหลือม และงูทุกชนิดถือว่าเป็นลูกหลานของพญานาคท้งัส้นิ ส าหรับพญานาคท่ีอยู่ในพิภพบาดาลน้ัน ตามต านานกล่าวว่า มีนาคกษัตริย์ปกครองอยู่ ๙ พระองค์ ดังนี้ ๑. พญาอนันตนาคราช เป็นเจ้าแห่งบาดาล ท่ีมี๑,๐๐๐ เศียร เป็นราชาแห่งนาคทั้งปวงใน เกษียรสมุทร มักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม ได้ตามเสดจ็พระนารายณ์เสมอ เป็นพญานาคท่ขีด ร่างเป็นแท่นบัลลังก์เพ่ือให้พระนารายณ์บรรทม เป็นท่มีาของ "พระนารายณ์บรรทมสนิธุ"์ ๒. พญามุจลินท์นาคราช เป็ นพญานาคมีอานุภาพมาก อาศัยอยู่ท่ีสระโบกขรณีใกล้ต้นไม้ มุจลินท์ สายพันธุ์ของพญามุจลินท์นาคราช คือ พญานาค ๗ เศียร ๓. พญาภุชงค์นาคราช เป็นพญานาคท่มีีผิวกายเป็นสเีทา มีหงอนและเศียรสีแดง มีเศียร ๑ เศียร เป็นเจ้าวิสุทธิเทวา เป็นพญานาคราชประจ าองค์พระศิวะเทพ หรือพระอิศวร อยู่ในตระกูลฉัพพะยาปุตตะ ๔. พญาศรีสุทโธนาคราช มีผิวกายสีเขียวมรกต มีเศียรสีทอง ๙ เศียร ผู้ครองเมืองหนองกระแส ทางฝั่งไทย และมีบริวาร ๕,๐๐๐ ตัว เป็นพญานาคท่ชีอบรักษาศีลปฏบิัติธรรม ๕. พญาศรีสัตตนาคราช มีความเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคแม่น ้าโขงด้านฝั่งลาว มีเศียร ๗ เศียร เป็นตระกูลพญานาคท่มีีมาแต่คร้ังพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์และพระพุทธศาสนา ถือว่า เป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหมด มีบริวาร ๕,๐๐๐ ตัว เป็นพญานาคท่ชีอบรักษาศีลปฏบิัติธรรม ๖. พญาเพชรภัทรนาคราช หรือพญาเกลด็แก้วนาคราช เป็นพญานาคท่ีมีผิวกายสีเงินเหมือน แก้ว มีหงอนและเศียรสีแดง มีเศียรเดียว เป็นลูกขององค์อนันตนาคราช ๗. พญานาคด าแสนศิริจันทรานาคราช เป็ นพญานาคาราชตระกูลกัณหาโคตมะองค์สีด า มีผิวกายเป็นสีด า อายุเก้าหมื่นปี ๘. พญายัสมัญนาคราช หรือพญายัสมันรายะนาคราช เป็นพระโอรสในพญาอนันตนาคราช และ เจ้านางสร้อยแสงคีรี ทรงเป็ นสหายร่วมรบกับพญาเพชรภัทรนาคราช พญาภาคินทร์นาคราช และ พญานฤบดินทร์นาคราช พญายัสมันนาคราชเจ้านั้น มีเทพเจ้าแห่งสมุทรเป็นผู้ประสทิธ์วิิชาให้จึงทา ให้เป็น เอกในด้านการรบ ๙. พญาครรตะศรีเทวานาคราช พระองค์เป็นหนึ่งในกองทัพนาคาธิบดี ทรงงดงามปรีชา สามารถโดดเด่น สมเป็นชายชาตินักรบ ทรงเก่งกาจ มีปัญญา ล ้าเลิศท่ีสุด กายของพระองค์มีสีทองล้วน พระเศียร ๙ เศียร ร่างกายก าย า ใหญ่โต พละก าลังมหาศาล ชอบการจ าศีล วิเวก รักสันโดษ ยึดมั่นถือมั่นวาจา เป็นสัจจะ ๑๗. ศึกษาเพิ่มเติม
๕๒ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ฤๅษี ภาพที่ ๓๙ ฤาษี “ปีกซ้ายฤๅษิตวิทยา คนธรรพ์ปีกขวา ตั้งตามต ารับทัพชัย” ฤๅษี หรือ ฤษี ภาษาสันสกฤตอ่านว่า ฤษิ หมายความว่า ผู้แต่งพระเวท หรือผู้เห็น ฤๅษีเป็นนักบวช พวกหน่ึง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบา เพ็ญพรตแสวงหาความสงบ ตามสถานท่สีงัดต่างๆ ในป่ าเขาหรือถ ้า และเดิมมักเป็นหญิง ซึ่งเรียก “ฤษิก” ตามความในคัมภีร์สารวานุกรมนีในบรรดาผู้แต่ง ฤคเวทน้ัน เป็นฤษีหญิงถึงย่ีสบิคน ฤษี อาจหมายถึงมุนี อีกความหมายหนึ่งคือ ฤษีเพศชาย ส่วน “ฤษิณี” หมายถึง ฤษีเพศหญิง ฤษี ท่มีีช่ือเสียงช่ือ ฤษีวยาส ผู้สร้างโศลกเร่ืองมหากาพย์ภารตะ ซ่ึงเป็นมหากาพย์ท่มีีจา นวนโศลกมากจา นวน ประมาณถึง ๑ แสนโศลก ตา นานเล่าว่า ฤๅษีเวทวยฺาส หรือ กฤษณฺไทวฺปายน เป็นปู่ของสองพ่ีน้องตระกูล เการพและปาณฑพ และเป็นเหลนใหญ่ของท้าวภรต คัมภีร์โบราณของฮินดูระบุไว้ว่า ท้าวภรต (ภะ-ระ-ตะ) ผู้นี้เป็นโอรสท้าวทุษยันต์ อันเกิดจากนางศกุนตลา ตามความเชื่อในท่บีางแห่งกล่าวว่า ฤๅษีนั้นแบ่งออกเป็น ๘ จ าพวกด้วยกันคือ ๑. สปุตตภริยา คือ ฤๅษีท่รีวบรวมทรัพย์ไว้บริโภคเหมือนมีครอบครัว ๒. อุญฉาจริยา คือ ฤๅษีท่เีท่ยีวรวบรวมข้าวเปลือกและถ่ัวงาเป็นต้นไว้หุงต้มกิน ๓. อนัคคิปักกิกา คือ ฤๅษีท่รีับเฉพาะข้าวสารไว้หุงต้มกนิ
๕๓ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๔. อสามปักกา คือ ฤๅษีท่รีับเฉพาะอาหารสา เรจ็ (ไม่หุงต้มกนิเอง) ๕. อัสมุฏฐิกา คือ ฤๅษีท่ใีช้ก้อนหินทุบเปลอืกไม้บริโภค ๖. ทันตวักกลิกา คือ ฤๅษีท่ใีช้ฟันแทะเปลือกไม้บริโภค ๗. ปวัตตผลโภชนา คือ ฤๅษีท่บีริโภคผลไม้ ๘. ปัณฑุปลาสิก คือ ฤๅษีท่บีริโภคผลไม้หรือใบไม้เหลืองท่หีล่นเอง บางต ารากล่าวว่าฤๅษีสามารถจ าแนกได้๔ ชั้นหรือ ๔ จ าพวก คือ ช้ันท่ี๑ เรียกว่า ราชรรษีแปลว่า เจ้าฤๅษีชั้นนี้จะมีความเป็นอยู่ตามพื้นธรรมชาติคือ มีความปกติเป็นพ้ืนฐานเพียงแต่มีความริเร่ิมและความพยายามท่ีจะบา เพ็ญเพียรในเบ้ืองต้นและปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง ช้ันท่ี๒ เรียกว่า พรหมรรษีแปลว่า พรพรหมฤๅษี เมื่อปฏิบัติเพียงพอกับความต้องการ ในเบื้องต้นแล้วจึงได้ไปบังเกิดเป็น พระพรหม ช้ันท่ี๓ เรียกว่า เทวรรษี แปลว่า เทพฤๅษีผู้ท่ปีฏิบัติอย่างมุ่งมั่นด้วยตบะ จึงมีบารมีมาก พร้อมทั้งมีอิทธิฤทธ์แิละมีอา นาจมหาศาล ช้ันท่ี๔ เรียกว่า มหรรษีแปลว่า มหาฤๅษีชั้นนี้ นอกจากมีอิทธิฤทธ์ิท่ีเกิดจากบารมีแล้ว ยังมีภูมิปัญญามากมี อาคมแก่กล้าเป็นท่สีดุ นอกจากนี้บางต ารายังแบ่งชั้นฤๅษีออกเป็น ๔ ชั้น ดังนี้ ๑. พระฤๅษีชั้นพรหม พระฤๅษีในชั้นพรหมนั้นมี รายชื่อดังต่อไปนี้ พระฤๅษีพรหมเมศร์ พระฤๅษีพรหมมา พระฤๅษีพรหมมุนี พระฤๅษีพรหมนารถ พระฤๅษีพรหมวาลมีกิ เป็นต้น ๒. พระฤๅษีชั้นเทพ พระฤๅษีชั้นเทพนั้นมีรายชื่อ ดังต่อไปนี้ พระฤๅษีบรมโกฏิ พระฤๅษีประลัยโกฏิ พระฤๅษีนารอด พระฤๅษีนารายณ์ พระฤๅษีนาเรศร์ พระฤๅษีอิศวร พระฤๅษีพิฆเนศ พระฤๅษีเพชรฉลูกัณฑ์ พระฤๅษีปัญญาสด พระฤๅษีตาไฟ พระฤๅษีหน้าวัว พระฤๅษีหน้าเนื้อ พระฤๅษี ปัญจสิขร (หรือพระประคนธรรพ) บางทีเรียกว่า (พระประโคนทัพ) เป็นต้น ๓. พระฤๅษีชั้นมนุษย์ พระฤๅษีชั้นมนุษย์ก็มีมากมายเช่นเดียวกัน เช่น พระฤๅษีโกเมน พระฤๅษี โกเมท พระฤๅษีโกมุท พระฤๅษีสัตตบุตร พระฤๅษีสัตบัน พระฤๅษีสัตบงกช พระฤๅษีโคบุตร พระฤๅษีโคดม พระฤๅษีสมมิตร พระฤๅษีลูกประค า เป็นต้น ภาพที่ ๔๐ พระฤาษีตาไฟ
๕๔ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๔. พระฤๅษีชั้นอสูร พระฤๅษีชั้นอสูรก็มีตามรายชื่อดังนี้ ท้าวคีรีเนศร์ ทท้าวเวสสุวัณ ท้าวหัสกัณฑ์ ท้าวหิรัญฮู พระฤๅษีลาภ พระฤๅษีพิรอด ท้าวพลีหิรัญยักษ์ พระฤๅษีอนันตยักษ์ พระฤๅษีวาณุราช พระฤๅษีวาหุโลม เป็นต้น ตามภาพเขียนสมัยโบราณ ถ้ามีภาพป่ าหิมพานต์มีรูปต้นมักกะลีผล จะเห็นพวกวิทยาธรและ พวกท่ีแต่งตัวคล้ายๆ ฤๅษีเหาะขึ้นไปเชยชมสาวมักกะลีผลกันเป็ นกลุ่มๆ ความจริงไม่ใช่ฤๅษีแท้ เป็นพวกนักสทิธ์ิตามคติอนิเดียถือว่า นักสทิธ์ไม่ใช่ ิ ฤๅษีเป็นแต่ผู้ส าเร็จจ าพวกหนึ่งเท่านั้น ท านองเดียวกับ พวกวิทยาธรหรือพิทยาธร ในหนังสือวรรณคดีไทยเรียกว่า ฤๅสิทธ์ิก็มี มักเรียกรวมๆ กันว่า ฤๅษีฤๅสิทธ์ิ หรือ ฤๅษีสทิธ์วิทยาธร ิ ในวรรณคดีอินเดียกา หนดจา นวนพวกนักสิทธ์ิไว้ตายตัว มีจ านวน ๘๘,๐๐๐ ทางไทยเราดูจะนับ นักสิทธ์ิเป็นฤๅษีไปด้วย ในเอกสารท่ีเก่าท่ีสุดของไทยคือ ไตรภูมิพระร่วง ของพระยาลิไท ก็เรียกฤๅสิทธ์ิ ว่าเป็นอย่างเดียวกับฤๅษีดังความตอนหนึ่งว่า “ครั้นว่านางสิ้นอายุศม์แล้วจึงลงมาเกิดที่ในดอกบัวหลวงดอก ๑ อัน มีอยู่ในสระๆ หนึ่ง มีอยู่แทบ ตีนเขาพระหิมวันต์ฯ เมื่อนั้นยังมีฤๅษีสิทธ์ิองค์ ๑ ธ นั้นอยู่ในป่ าพระหิมพานต์ ธ ย่อมลงมาอาบน ้าในสระ นั้นทุกวัน ธ เห็นดอกบัวทั้งปวงนั้นบานสิ้นแล้วทุกดอก ๆ แลว่ายังแต่ดอกเดียวนี้บมิบานแล ดุจอยู่ดังนี้ บมิบานด้วยทั้งหลายได้ ๗ วัน ฯ พระมหาฤๅษีนั้น ธ ก็ดลยมหัศจรรย์นักหนา ธ จึงหันเอาดอกบัวดอกนั้น มา ธ จึงเห็นลูกอ่อนอยู่ในดอกบัวนั้นแล เป็นกุมารีมีพรรณงามดั่งทองเนื้อสุก พระมหาฤๅษีนั้น ธ มีใจรัก นักหนา จึงเอามาเลี้ยงไว้เป็นพระปิยบุตรบุญธรรม แลฤๅษีเอาแม่มือให้ผู้น้อยดูดกินนม แลเป็นน ้านมไหล ออก แต่แม่มือมหาฤๅษีนั้นด้วยอ านาจบุญพระฤๅษี” ดังนี้จะเห็นว่า ใช้ค า ฤๅสิทธ์ิในความหมายเดียวกับ ฤๅษีและนิยายท านองนี้ดูจะแพร่หลายมาก ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง จึงจัดฤๅษีเป็นเทวดาจา พวกเดียวกับนักสทิธ์ิวิทยาธร และคนธรรพ์ดังปรากฏ ในเรื่องบทพากย์เอราวัณ ๑๘. ศึกษาเพิ่มเติม
๕๕ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ นักสิทธิ์, วิทยาธร ภาพที่ ๔๑ และ ภาพที่ ๔๒ นักสิทธิ์วิทยาธร “ปีกซ้ายฤๅษิตวิทยา คนธรรพ์ปีกขวา ตั้งตามต ารับทัพชัย” จากคา ประพันธ์ในบทพากย์เอราวัณข้างต้น กล่าวถึงเหล่าเทวดาแปลงของอินทรชิตท่ีจัดทัพไป ท าศึกกับกองทัพของพระราม ซึ่งแบ่งเทวดาแต่ละจ าพวกออกเป็นเหล่ากองต่าง ๆ ได้แก่ ทัพหน้า เป็นรุกขเทวดา ทัพหลังเป็นครุฑ นาค กินนร ปีกขวาเป็นคนธรรพ์ และปีกซ้ายเป็นฤๅษีวิทยาธร ค าว่า “ฤๅษิต” มาจากค าว่า “ฤๅษี” หรือรวมถึงคา ว่า “นักสทิธ์”ิท่หีมายถึง เทวดาจา พวกหน่ึงท่ี ส าเร็จวิชาวิทยาคมต่าง ๆ มีการแต่งกายคล้ายฤๅษี ด้วย ส่วนค าว่า “วิทยา” น่าจะตัดค ามาจากค าว่า “วิทยาธร” ซึ่งหมายถึง เทวดาพวกหนึ่งท่ทีรงความรู้ในศาสตร์ต่างๆ โดยรวมแล้วเทวดาในอยู่ในกองทัพ ปีกซ้ายน้ีคือ “นักสทิธ์วิิทยาธร” ท่เีก่งกล้าทางวิชาอาคมคล้ายฤๅษี วิทยาธรเป็นเทวดาท่อียู่ภายใต้การปกครองดูแลของท้าวธตรฐ ๑ ใน ๔ ท้าวจตุโลกบาล ผู้ปกครอง คันธัพพเทวดา ทั้งหมดอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งคันธัพพเทวดาน้ี ได้แก่เทวดาคันธัพพะ ท่ีถือกา เนิด ภายในต้นไม้ท่มีีกล่ินหอม ยังรวมถึง คนธรรพ์และวิทยาธร
๕๖ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ นักสิทธ์ิวิทยาธร เป็นผู้วิเศษจ าพวกหน่ึงท่ีพ านักอยู่ในป่าหิมพานต์“นักสิทธ์ิ” แปลว่า ผู้ส าเร็จ “วิทยาธร” แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งวิทยา ทั้งสองพวกนี้แต่งตัวคล้ายเทวดาแต่สวมชฎาเป็นดอกล าโพง หรือโพกผ้า แบบฤๅษีตามภาพจิตรกรรมท่พีบเหน็ท่วัๆ ไปมักถือพระขรรค์เป็นอาวุธ บรรดาวิทยาธรท้งัหลาย อาศัยอยู่ท่ี เชิงเขาสุทัสน์ อนัเป็นหน่ึงในเจด็ของเขาสตับริภัณฑท์ ่ลี้อมรอบเขาพระสเุมรุคติความเช่ือของไทยแต่โบราณ ในวรรณคดีไทยเม่ือกล่าวถึงนักสิทธ์ิมักมีคา ว่าวิทยาธรต่อท้ายเสมอ เพราะผู้จะเป็นวิทยาธรได้ ต้องผ่านข้ันตอนการเป็นนักสิทธ์ิมาก่อน ตามจิตรกรรมฝาผนังนิยมเขียนภาพนักสิทธ์ิวิทยาธรไว้แถว บนสดุต่อจากภาพเทพชุมนุมบนผนังด้านซ้ายและด้านขวา เช่น จิตรกรรมฝาผนังท่พีระอุโบสถวัดสวุรรณาราม กรุงเทพมหานคร เป็นต้น นักสิทธ์ิหรือผู้สา เรจ็เป็นผู้มีความรู้วิชาไสยศาสตร์ในทางเล่นแร่แปรธาตุสามารถทา ปรอทซ่ึงเป็น โลหะเหลวให้แข็งเป็นก้อนได้ เรียกกันว่าส าเร็จปรอท อานุภาพของก้อนปรอทนี้ท าให้ผู้ส าเร็จเหาะเหิน เดินอากาศได้ ทั้งยังมีร่างกายเป็นหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เมื่อส าเร็จแล้วก็ไม่สามารถอยู่ในแดนมนุษย์ได้อีก ต่อไปเพราะเหม็นสาบมนุษย์ เมื่อส าเร็จต้องเหาะไปยังป่ าหิมพานต์ ครั้นไปถึงแล้วจะพบบ่อน ้าวิเศษบ่อ หนึ่ง น ้าในบ่อน้ันมีสขีาวเหมือนนา ้นมบริสทุธ์ ิ มีนางเทพธิดาชื่อจันทรเทวีเป็นผู้รักษาอยู่ ภาพที่ ๔๓ วิทยาธร เม่ือผู้สา เรจ็ปรอทเหาะไปถึงท่นี่ันจะไปถึงท่นั่นี จะตกลงไปในบ่อ ร่างกายท่เีป็นมนุษย์อยู่แต่เดิม จะสูญสลายไปในทันที แล้วเกิดเป็นฟองน ้าปุดขึ้นมาลอยบนผิวน ้า นางจันทรเทวีผู้รักษาบ่อน ้าจะคอยเอา มือช้อนฟองนา ้น้ัน บัดดลฟองนา ้จะเปล่ียนสภาพเป็นเดก็อ่อน แล้วเติบโตโดยลา ดับเป็นวิทยาธร
๕๗ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ วิทยาธรท่ปีรากฏตามจิตรกรรมฝาผนังมีแต่เพศชาย กล่าวกนัว่ามีอทิธฤิทธ์เิหาะเหินเดินอากาศได้ ใครฆ่าก็ไม่ตาย แม้ต้องศาสตราวุธใด ๆ ก็เป็นแต่สิ้นสติไปชั่วขณะหนึ่ง ครั้นลมพัดมาก็กลับฟื้ นขึ้นได้ มีอายุยืนอยู่คอยท่าพระศรีอาริยเมตไตรยซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ปกติวิทยาธรจะถือกิ่งไม้เป็นอาวุธ ซึ่งกิ่งไม้นั้นจะกลายเป็นพระขรรค์ทันทีเมื่อปรารถนาจะให้เป็น ผิวกายของวิทยาธรมีทั้งสีเหลือง สีขาว สีด า ฯลฯ บางตนมีหน้าตางดงาม แต่บางตนกม็ีหน้าตาเห่ียวย่น หนวดเครารุงรังไม่น่าดูเน่ืองจากผู้ท่ีจะสา เร็จปรอทเป็นบุคคลหลายจ าพวก แม้เมื่อได้รับการชุบให้เป็น วิทยาธรแล้วก็ยังไม่ทิ้งเค้าของชาติก าเนิดเดิม วิทยาธร สามารถแสดงฤทธ์ิได้หลากหลาย เช่น เหาะไปในอากาศเหมือนนก ล่องหนหายตัว แสดงภาพลวงตาเป็ น พลช้างบ้าง พลม้าบ้าง พลรถบ้าง พลราบบ้าง (จตุรงค์-กองทัพทั้ง ๔ เหล่า) แสดงภาพลวงตาเป็นกองทัพตั้งประชิดกันในรูปแบบต่างๆ บ้าง ตั้งประชิดกันในอากาศกลางหาวบ้าง ภาพที่ ๔๔ วิทยาธร ภาพประกอบสมุดไทย ศิลปะรัตนโกสินทร์ ฤทธ์ขิองเหล่าวิทยาธร (ใช้ในการเหาะเป็นหลัก) สามารถแสดงได้ ๓ วิธี คือ ๑. ของวิเศษ (บ้างกเ็ป็นอาวุธวิเศษ เช่น ขรรค์ตรีศูล ฯลฯ เป็นอาวุธท่ทีา อย่างดี สามารถท่จีะท่มิแทง ย่า ยีและประหารสตัว์ได้แล้วไปทางท้องฟ้า) ๒. โอสถวิเศษ(สมุนไพรต่างๆ) ๓. เวทย์วิเศษ(สารพัดเวทย์มนตร์คาถา)
๕๘ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ วิทยาธรมีนิสัยเจ้าส าราญเป็นอาจิณ แต่กย็ังมีความจา เป็นท่จีะต้องแบ่งเวลาไว้สา หรับการบา เพญ็ ตบะเพ่ือฟ้ืนวิชา ดังน้ัน เพ่ือไม่ให้เป็นการเสียเวลา วิทยาธรท้ังหลายจึงเลือกอาศัยในสถานท่ีท่ีมีท้ัง ความสงบและความส าราญรวมอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว คือ แดนหิมพานต์ เมื่อฟื้ นวิชาได้แล้ว เหล่าวิทยาธร มักเหาะเหินเท่ียวชมไปตามสถานท่ีต่างๆในแดนหิมพานต์โดยมีสถานท่ีรวมตัวเหล่าวิทยาธร อันเป็น สถานท่ขี้ึนช่ือ นามว่า ป่านารีวัน อันอุดมไปด้วยต้นไม้ท่มีีดอกรูปร่างคล้ายสตรีหรือท่เีรียกว่า มักกะลีผล หรือ นารีผล ซึ่งเหล่าวิทยาธรจึงนิยมตัดดอกไม้เหล่าน้นักลับไปเชยชมในท่พ านักของตน เมื่อวิชาเสื่อมก็ท า ี สมาธิฟื้ นวิชาใหม่ไปเรื่อย ๆ เพราะวิทยาธรมีอายุยืนยาวเกินมนุษย์ทั่วไป อนึ่ง หากพบเห็นภาพชายแต่งกายคล้ายฤๅษีมีหน้าตาล่อกแล่กอุ้มนารีผลเหาะไปในอากาศอยู่ในภาพ จิตรกรรม นั่นคือ พวกวิทยาธร(วิชาธร,พิทยาธร,เพชรพญาธร) ไม่ใช่นักบวช,สมณะ,ดาบส,ฤๅษีแต่อย่างใด ทว่า วิทยาธรนั้น บางพวกอาจเป็นอมนุษย์แปลงกายเป็นรูปมนุษย์และบา เพญ็ตนเพ่ือเพ่ิมฤทธ์ใิห้ ตนเองจากการถือศีลเช่นวิทยาธร และบางส่วนเป็นกึ่งอมนุษย์ ซึ่งส่วนมากจะมีบิดาเป็นมนุษย์แต่มีมารดา เป็นเทวดา (ส่วนมากเป็นหญิงชาวจาตุมหาราชิกา) เหล่าวิทยาธรเลือดผสมเหล่านี้จึงสามารถเรียนรู้วิชา อาคมต่างๆได้อย่างรวดเร็วเพราะมีความเป็นเทวดาอยู่ในตัว(กึ่งเทพ,ครึ่งเทพ) ๑๙. ศึกษาเพิ่มเติม
๕๙ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ คนธรรพ์ ภาพที่ ๔๕ และ ภาพที่ ๔๖ คนธรรพ์ “ปีกซ้ายฤๅษิตวิทยา คนธรรพ์ปีกขวา ตั้งตามต ารับทัพชัย” คนธรรพ์ เป็นอมนุษย์จ าพวกหนึ่ง ตามคติในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู ในศาสนาฮินดูเชื่อว่า คนธรรพ์มีก าเนิดจากพระพรหม แต่บางทีก็ว่าเป็นโอรสพระกัศยปเทพบิดรกับนางอริษฏา ตามปกติ พวกคนธรรพ์มีบ้านเมืองของตนเองอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ คือ คนธรรพโลก และกล่าวว่าเป็น พวกมีนิสัยเป็นเจ้าชู้ มีเสน่ห์ท าให้ผู้หญิงหลงรัก เป็นผู้มีวาทศิลป์ จึงเป็นผู้ส่งสารระหว่างเทพกับมนุษย์ คนธรรพ์มีหน้าท่ีปรุงนา ้โสม (เหล้าเทวดา) สา หรับเทวดาเสวย และพวกท่อยู่บนสวรรค์ของพระอินทร์ ี มีหน้าท่ขีับร้องและเล่นดนตรีบา เรอเทวดา ดังน้ันวิชาดนตรีจึงได้ช่ือว่าคนธรรพวิทยา และคนธรรพเวท ในทางศาสนาพุทธ ถือว่าคนธรรพ์เป็นเทพชั้นจาตุมหาราชิกาจ าพวกหนึ่ง คนธรรพ์ชั้นสูงอาศัย บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เช่น ปัญจสิขเทพบุตร เป็นบริวารของท้าวธตรฐ คนธรรพ์ชั้นกลางอาศัยอยู่ บนอากาศและป่ าหิมพานต์ คนธรรพ์ชั้นล่างอาศัยบนโลกมนุษย์ โดยสถิตอยู่ภายในส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้
๖๐ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ท่ีมีกล่ินหอม แม้ต้นไม้น้ันจะถูกโค่นลงแล้ว คนธรรพ์กย็ังสิงสถิตภายในไม้น้ันได้เช่น นางไม้นางตานี แม่ย่านาง เป็นต้น บุคคลท้ังหลาย หากทา ทาน รักษาศีล แต่มีจิตผูกพันในกามราคะ ท้ังยังเช่ียวชาญใน ดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ วรรณกรรมทั้งหลาย หรือมีใจชื่นชมยินดี ในเทวดาหมู่คนธรรพ์ ผู้นั้นเมื่อตายแล้ว ย่อมเป็ นสหายของคนธรรพ์ คนธรรพ์ทั้งหมดเป็ นบริวารของท้าวธตรฐผู้เป็ นจตุโลกบาลประจ าทิศ ตะวันออก ในต านานพระพุทธศาสนา กล่าวว่าเม่ือแรกท่พีระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ท้าวผกาพรหมได้ท้าประลอง ฤทธ์ิของพระพุทธเจ้า โดยให้ผลัดกันซ่อนตัวแล้วให้อีกฝ่ ายค้นหา ท้าวผกาพรหมเป็ นฝ่ ายซ่อนก่อน เนรมิตกายเป็นละอองธุลีแล้วหลบลงไปซ่อนอยู่ในก้นสมุทรท่ดีา มืด แต่กไ็ม่อาจหลบพ้นข่ายพระญาณของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้คร้ันถึงคราวท่สีมเดจ็พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นฝ่ายซ่อนบ้าง พระองค์ ทรงเนรมิตพระวรกายให้ย่อเล็กลงเท่าละอองธุลีเช่นเดียวกัน แต่เสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมุ่นมวยผม บนเศียรของท้าวผกาพรหม ซึ่งใช้ทิพยเนตรมองค้นหาจนตลอดทั่วทั้งไตรภพก็ยังไม่สามารถมองเห็นได้ ในท่ีสุดต้องยอมแพ้ พระพุทธเจ้าจึงแสดงพระองค์ให้รู้ว่า ประทับอยู่บนมวยผมของท้าวผกาพรหมนั่นเอง ท้าวผกาพรหมจึงอัญเชิญ ให้ เสด็จลงมาจาก มุ่นมวยผม ทูลอยู่หลายครั้ง ก็ยังทรงนิ่งเฉยอยู่ จนเมื่อ เหล่าคนธรรพ์พากันประโคมบรรเลงเพลงสาธุการขึ้น จึงได้ เสด็จลงมา ดังนั้น ในเวลาต่อมาเพลงสาธุการจึงกลายเป็น เพลงท่ีใช้ประโคมบรรเลงในพิธีเพ่ืออัญเชิญองค์สมเด็จ พระสมัมาสมัพุทธเจ้าโดยเฉพาะ และเคร่ืองดนตรีช้ินแรกท่ี เริ่มบรรเลงเพลงสาธุการก่อนเครื่องดนตรีชนิดอื่นก็คือ ตะโพน นักดนตรีไทยจึงถือว่าตะโพนเป็ นเครื่องดนตรี ศักด์ิสิทธ์ิเป็นตัวแทนของพระประคนธรรพท่ีบรรเลง ประโคมเพลงสาธุการ ภาพที่ ๔๗ ปัญจสิขเทพบุตร (เทพบุรุษคนธรรพ์) ๒๐. ศึกษาเพิ่มเติม
๖๑ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ แบบฝึกหัดตอนที่ ๒ ค าชี้ แจงตอนที่ ๑ : ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วท าเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความท่ถีูก และทา เครื่องหมาย หน้าข้อความท่ผีิด ๑. ค าว่า ไอราพต ไอราวัต ไอราวัณ และ เอราวัณ ชื่อทั้งหมดนี้มีความหมายว่า น ้า เมฆฝน รุ้ง แปลรวมว่า กลุ่มก้อนเมฆท่มีีฟ้าแลบ ๒. บทบาทและหน้าท่อีนัสา คัญย่ิงของช้างเอราวัณ คือ เป็นพาหนะท่นีา เสดจ็พระอนิทร์ไปยง ั สถานท่ตี่าง ๆ ท้งับนสวรรค์และมนุษย์โลก ๓. ชนัก หมายถึง ห่วงท่เีก่ยีวกนัสา หรับโยงสปัคับช้าง ติดห่วงคล้องกบัซองหาง ๔. ผ้าทิพย์ปกตระพอง ค าว่า ตระพอง หมายถึง ส่วนท่นีูนเป็นปุ่มสองข้างหัวช้าง ๕. โยธาจัตุรงค์ หมายถึง กองทัพมีก าลัง ๕ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่ารถ เหล่าม้า เหล่าปืนใหญ่ และเหล่าราบ ๖. การจัดทัพของอินทรชิต ได้จัดให้เทวดาจ าพวกคนธรรพ์เป็นทัพหน้า ๗. รุกขเทวดา หมายถึง เทวดาจา พวกหน่ึงท่มีีความช านาญในด้านดนตรี และขับร้อง ๘. “ทัพหลังสุบรรณ” ค าว่า สุบรรณ หมายถึง ครุฑ ๙. กินนร หมายถึง อมนุษย์ในนิยายชนิดหนึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งนก ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นนก ๑๐. การจัดทัพของอินทรชิต ได้จัดให้เทวดาจ าพวกวิทยาธรเป็นปีกซ้าย ค าชี้ แจงตอนที่ ๒ : ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี้ ๑. เทพบุตรท่เนรมิตกายเป็นช้างทรงของพระอินทร์ ี มีชื่อว่าอะไร ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๒. เคร่ืองคลุมหัวช้าง หรือ แผ่นผ้าท่ปีิดตรงกระหม่อมของช้าง ซ่ึงกระพองคือส่วนท่นีูนเป็นปุ่มสองข้างหัว ช้าง เรียกว่าอะไร ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๓. เคร่ืองคชาภรณ์หรือ เคร่ืองประดบัของช้าง ท่มีีไว้ประดับหูของช้าง เรียกว่าอะไร ตอบ............................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................
๖๒ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๔. โยธาจัตุรงค์หรือ จตุรงคเสนา หรือ จตุงรงคโยธา แบ่งเป็นเหล่าทัพอะไรบ้าง ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๕. ทัพหลังของกองทัพอินทรชิต ประกอบด้วยเทวดาจ าพวกใดบ้าง ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๖. ปีกขวาของกองทัพอินทรชิต ประกอบด้วยเทวดาจ าพวกใด ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๗. รุกขเทวดา อยู่ในกองทัพต าแหน่งใดของกองทัพอินทรชิต ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๘. เทวดาท่แีต่งตัวคล้ายแบบฤๅษีและมักถือพระขรรค์เป็นอาวุธ เป็นเทวดาจ าพวกใด ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๙. เทวดาจ าพวกใดมีหน้าท่ขีับร้องและเล่นดนตรีบา เรอแก้เหล่าเทวดาบนสวรรค์ ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๑๐. นาคท่มีีเกรด็สทีอง เป็นนาคตระกูลใด ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ภาพที่ ๔๘ อินทรชิต
๖๓ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ
๖๔ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ
๖๕ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เครื่องสูงของกษัตริย์ ภาพที่ ๔๙ เครื่องสูง “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อธิบายว่า เครื่องสูง หมายถึง เครื่องแสดง พระอิสริยยศ เช่น ฉัตร พัดโบก จามร สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มท่ี๖ อธิบายถึง เครื่องสูง ว่า เครื่องสูงมีมาแต่โบราณ แต่ไม่ทราบว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด ในหนังสือไตรภูมิพระร่วงก็มีกล่าวถึง เครื่องสูงไว้ ดังนั้นพอจะสันนิษฐานได้ว่า เครื่องสูงคงจะมีขึ้นในรัชกาลพระมหาธรรมราชาลิไทย ซึ่งเป็น ผู้ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วง หรืออาจจะมีมาก่อนหน้านั้นก็ได้ เครื่องสูงสมัยนั้นคงไม่เหมือนกับเครื่องสูงในปัจจุบัน อีกท้ังยังไม่พบต าราใดท่ีได้กา หนดไว้ แน่นอนว่าเคร่ืองสูงประกอบด้วยส่ิงใดบ้าง และน่าจะสันนิษฐานได้อีกอย่างว่าท่ีมาของเคร่ืองสูงน้ีคงจะมี มาในประเทศอินเดีย ตามท่สีมเดจ็กรมพระยาดา รงราชานุภาพ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือ “เร่ือง เท่ียวเมืองพม่า” ในช้ันต้นเคร่ืองสูงของไทยเราคงจะประกอบด้วยของเพียงน้อยสิ่ง แต่ได้วิวัฒนาการ ต่อมาจนในสมัยกรุงศรีอยุธยา และในปัจจุบัน เมื่อมีการแห่พระเจ้าแผ่นดินเป็ นกระบวนใหญ่จะมี เครื่องสูงอีกหลายอย่าง ในเรื่อง “ราชูปโภคและเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศพระมหากษัตริย์” ซึ่งหม่อมราชวงศ์เทวาธิราช ป. มาลากุล เป็นผู้เรียบเรียง และเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ สภาวัฒนธรรมแห่งชาติได้ จัดพิมพ์เรื่องเครื่องสูงไว้ในหนังสือวัฒนธรรมไทยเรื่องกษัตริย์ราชูปโภคและพระราชฐาน ระบุว่าเครื่องสูง
๖๖ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ส าหรับพระราชอิสริยยศพระมหากษัตริย์มีรวม ๘ สิ่ง คือ ฉัตรเจ็ดชั้น ฉัตรห้าชั้น บังแทรก ฉัตรชุมสาย จามร พระกลด บังสูรย์ และพัดโบก เครื่องสูงนี้ใช้ในพระราชพิธีส าคัญซึ่งพระมหากษัตริย์เสด็จเป็ นกระบวนพยุหยาตราทั้งทาง สถลมารคและชลมารค หรือใช้เครื่องสูงในการแห่พระบรมศพหรือพระบรมอัฐิ ส่วนเจ้านายแต่ก่อนเคยมี การแห่เครื่องสูงในพิธีโสกันต์ พิธีทรงผนวชและในการแห่พระศพเป็นต้น แต่พิธีโสกันต์ได้เว้นช่วงมานาน แล้ว และพิธีทรงผนวช แม้จะยังมีการทรงผนวชอยู่ก็ไม่มีกระบวนแห่เหมือนเมื่อก่อน ในปัจจุบันจะมี การแห่เครื่องสูงก็ในเวลาแห่พระศพเป็นกระบวนพระเกียรติยศเท่านั้น “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม” มยุรฉัตร หมายถึง พนมหางนกยูง หรือเครื่องกั้นบังเป็นชั้น ๆ ท าด้วยขนหางนกยูง เป็นเครื่องสูง ใช้ในพิธีโสกันต์ ค าว่า “มยุร” หมายถึง นกยูง, มยูร ค าว่า “ฉัตร” หมายถึง เครื่องสูงชนิดหนึ่ง มีรูปคล้ายร่มซ้อนลดลั่นกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ โดย ชั้นบนเล็กกว่าชั้นล่าง ใช้ส าหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เพื่อเป็นเครื่องประกอบเกียรติยศ เรามักคุ้นเคยกับค าว่า “ฉัตร” ซึ่งมีรูปทรงคล้ายร่มเป็นชั้น ๆ ตั้งแต่ ๕ ชั้น ๗ ชั้น และ ๙ ชั้น ดังภาพท่ี๕๐ ภาพที่ ๕๐ ฉัตร ๙ ชั้น หรือ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร
๖๗ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ในส่วนของมยุรฉัตรน้ัน เป็นฉัตรท่ทีา มาจากหางนกยูงดังช่ือ ซ่ึงในปัจจุบันหาดูได้ยาก ใช้สา หรับ พระราชพิธีโสกันต์ของพระราชโอรส หรือพระราชธิดา ของพระเจ้าแผ่นดิน และเจ้านายระดับพระองค์เจ้า ขึ้นไปเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่ามยุรฉัตรหรือฉัตรหางนกยูง เป็นส่ิงของท่ีทหารถือและโบกในเรือพระท่นี่ัง หรือบนหลังช้างในสมัยอดีต ดังภาพท่ี๕๒, ๕๒ และ ๕๓ ซ่ึงเป็นความคิดท่ไีม่ถูกต้อง ภาพที่ ๕๑, ๕๒, ๕๓ แพนหางนกยูง หากประมวลจากภาพพระราชพิธีโสกันต์ของเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์(รัชกาลท่ี๕) จะเห็นลักษณะ ของมยุรฉัตร ดังภาพท่ี๕๔ และภาพท่ี๕๕ เป็นภาพของนางเชิญมยุรฉัตรในพระราชพิธีโสกันต์ ภาพที่ ๕๔ ภาพนางเชิญมยุรฉัตร ภาพที่ ๕๕ ภาพขยายนางเชิญมยุรฉัตร
๖๘ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ภาพที่ ๕๖ เขาไกรลาสในพระราชพิธีโสกันต์ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ ในภาพท่ี๕๖ เป็นภาพจิตรกรรมพระราชพิธีโสกันต์ซึ่งมีการเขียนไว้จะปรากฎการแห่ และการสมโภชจนกระทั่งเชิญพระเกศาไปลอย ซึ่งในขบวนแห่มีดังนี้ ๑. นางเชิญมยุรฉัตร เด็กหญิงแต่งชุดละครร า คือนุ่งจีบ ห่มผ้าหน้านาง สวมชฎา เดินถือ พุ่มท่ทีา ด้วยหางนกยูง ๒. นางเชิญเครื่อง แต่งตัวแบบเดียวกับนางเชิญมยุรฉัตร แต่เชิญเครื่องสูง เช่น บังสูรย์ บังแทรก ๓. นางแต่งตัวสะ ผู้หญิงแต่งตัวสวมเกี้ยว นุ่งผ้าลาย พื้ นเขียวห่มผ้าแพรพื้ นแดง เดินประนมมือตามขบวนแห่ เดินหน้าน าขบวน ภาพที่ ๕๗ ภาพขยายนางเชิญมยุรฉัตร
๖๙ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ อีกหนึ่งภาพจิตรกรรม ท่ีแสดงให้เหน็ลักษณะของมยุรฉัตรได้อย่างชัดเจน เป็นภาพจากสถาบัน พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติต้ังอยู่ท่ีตึกเดิมของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งแสดงให้เห็นภาพวาดของลักษณะ มยุรฉัตรในขบวนแห่ดังภาพท่ี๕๘ และภาพท่ี๕๙ ภาพที่ ๕๘ ภาพจิตกรรมขบวนแห่ที่มีมยุรฉัตร ภาพที่ ๕๙ ภาพขยายลักษณะมยุรฉัตร จากภาพท่ีปรากฏ สรุปได้ว่ามยุรฉัตรเป็นเคร่ืองสูงชนิดหน่ึง ท่ีใช้ในพระราชพิธีโสกันต์ และมี ลักษณะเป็นพุ่มท าด้วยหางนกยูง ไม่ใช่เป็นฉัตรท่มีีลักษณะคล้ายร่มเป็นช้ัน ๆ อย่างท่เีหน็ท่วัไป และไม่ใช่ แพนหางนกยูงท่ใีช้ส่งสญัญาณบนหลังช้างหรือบนเรือพระท่นี่ัง “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม” จากค าประพันธ์ในเรื่องบทพากย์เอราวัณ นอกจากกล่าวถึง มยุรฉัตรหรือฉัตรหางนกยูง ซึ่งเป็นเครื่องสูงประกอบอิสริยยศของกษัตริย์ แล้ว ยังกล่าวถึงชุมสาย ซึ่งค าว่า “ชุมสาย” หมายถึง เครื่องสูงชนิดหนึ่ง เป็นรูปฉัตร ๓ ชั้น มีสายไหมห้อย ลักษณะของชุมสายหากตีความตามความหมายท่ีให้ไว้จะมี ลักษณะของชุมสาย ดังภาพท่ี๖๐ ซึ่งเป็นฉัตรผ้าท าเป็นชั้น ๆ และมีผ้า ห้อยรยางค์ลงมา ฉัตร เป็นเครื่องสูงท่มีหลายชนิด บางชนิดใช้ ี ส าหรับแขวน ปักตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เป็ นเกียรติยศ สามารถสรุปพอเป็ นสังเขปได้ ดังต่อไปนี้ ภาพที่ ๖๐ ชุมสาย
๗๐ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ฉัตรเป็นเครื่องแสดงพระอิสริยยศของผู้ทรงฉัตร แยกเป็น ๔ ชนิด ได้แก่ ๑. เศวตฉัตร เป็นฉัตรผ้าขาวกว้าง มี ๔ แบบ ดังนี้ ๑.๑ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เป็นฉัตรผ้าขาว ๙ ชั้น ๑.๒ พระสัปตปฎลเศวตฉัตร เป็นฉัตรขาว ๗ ชั้น ๑.๓ เบญจปฎลเศวตฉัตร เป็นฉัตรขาว ๕ ชั้น ๑.๔ เศวตฉัตร 3 ชั้น เป็นฉัตรขาว ๓ ชั้น ๒. ฉัตรขาวลายทอง เป็นฉัตรพื้นสีขาวเขียนลายทอง มี ๕ ชั้น ๓. ฉัตรตาด มี ๓ แบบ ดังนี้ ๓.๑ ฉัตรตาดขาว ๕ ชั้น ๓.๒ ฉัตรตาดเหลือง ๕ ชั้น ๓.๓ ฉัตรตาดทอง ๕ ชั้น ๔. ฉัตรโหมด มี ๕ แบบ ดังนี้ ๔.๑ ฉัตรโหมดขาว ๕ ชั้น ๔.๒ ฉัตรโหมดเหลือง ๕ ชั้น ๔.๓ ฉัตรโหมดทอง ๕ ชั้น ๔.๔ ฉัตรโหมดเงิน ๕ ชั้น ๔.๕ ฉัตรโหมดทอง ๕ ชั้น นอกจากนี้ยังมีฉัตรท่ีตั้งในพิธี หรืออัญเชิญเข้ากระบวนแห่เป็ น เกียรติยศ ได้แก่ ๑. พระมหาเศวตฉัตรกรรภิรมย์เป็นฉัตร ๕ ชั้น ๒. พระอภิรุมชุมสาย หรือ ฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง เป็นฉัตร เครื่องสูงประกอบพระเกียรติยศส าหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ ผู้ทรงสัปตปฎลเศวตฉัตร ๓. ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด เป็ นฉัตรเครื่องสูงประกอบ พระเกียรติยศส าหรับพระบรมวงศ์ชั้น เจ้าฟ้ า ๔. ฉัตรเครื่องสูงวังหน้า เป็นฉัตร ๓ ชั้น ส าหรับเป็นเครื่องสูงของ สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๕. ฉัตรเครื่อง เป็นฉัตร ๕ ชั้น ท าด้วยผ้าปักทองแผ่ลวด ส าหรับใช้เชิญออกในกระบวนแห่ศพ ของพระสงฆ์ทรงสมณศักด์ิช้ันสมเดจ็พระราชาคณะ ขุนนางช้ันเจ้าพระยา (ท้งัช้ันสพุรรณบัฏและหิรัญบัฏ) ๖. ฉัตรเบญจา เป็นฉัตร ๕ สีซ่ึงหมายรวมไปถึงฉัตรท่เีขียนลายท่เีรียกว่า "ฉัตรกา มะลอ" ด้วย ๗. ฉัตรราชวัติเป็นฉัตรท่ใีช้ปักเป็นระยะในงานพระราชพิธสีา คัญของพระมหากษัตริย์ ภาพที่ ๖๒ ฉัตร ๗ ชั้น ภาพที่ ๖๑ ฉัตรตาดเหลือง ๕ ชั้น
๗๑ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม” เคร่ืองสูงอีกชนิดหน่ึงท่ปีรากฏในคา ประพันธ์เร่ืองบทพากย์เอราวัณ คือ พัดโบก หรือพระพัชนี ซึ่งพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อธิบายว่า พัดโบก หมายถึง ชื่อเครื่องสูงชนิดหนึ่ง สา หรับโบกลมถวายพระมหากษัตริย์ซ่ึงประทบัณ ท่สีงู พัดโบก ท าด้วยใบตาลสามารถแบ่งออกได้ ๒ ลักษณะ คือ พัดโบกรูปช้อยกับพัดโบกรูปมน โดย พัดโบกรูปช้อยปลายพัดมีลักษณะงอนช้อยขึ้นใช้ในขบวนเสด็จพระราชด าเนินสถลมารค ขณะท่ีพัดโบก รูปมนใช้ส าหรับพระมหากษัตริย์ประทับ ณ พระท่นี่ังพุดตานกาญจนสงิหาสน์บนพระราชบัลลังก์ ภาพที่ ๖๓ พัดโบกรูปช้อย ภาพที่ ๖๔ พัดโบกรูปมน ๒๑. ศึกษาเพิ่มเติม
๗๒ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ราชรถ ภาพที่ ๖๕ พระมหาพิชัยราชรถ “มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์ ขับรถมากลางจัตุรงค์ เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องก ากง กระทบกระทั่งธรณี” ราชรถ และราชยาน ถือเป็นยานพาหนะท่ีเป็นเคร่ืองประกอบพระราชอิสริยยศของ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการพระราชพิธีต่าง ๆ มาแต่ครั้งโบราณกาล โดยปรากฏ หลักฐานชัดเจนในสมัยกรุงศรีอยุธยาสืบมาจนปัจจุบัน โดยเรียกแยกประเภทยานพาหนะท่ีมีคานหาม เคล่ือนท่ีโดยมีเจ้าพนักงานแบกหามว่า พระราชยาน มีลักษณะต่าง ๆ ทั้งชนิดประทับราบ ประทับห้อย พระบาท และยานพาหนะประเภทมีล้อ เคล่ือนท่โีดยเจ้าพนักงานฉุดชัก เรียกว่า ราชรถ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อธิบายว่า ราชรถ หมายถึง ยานพาหนะชนิด ล้อเลื่อน มีเรือนยอดทรงบุษบก ใช้ประดิษฐานพระบรมโกศและพระโกศ เช่น พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ
๗๓ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ราชรถ มาจากค าว่า ราชา และ รถ หมายถึง พาหนะแห่งองค์พระราชา ในสมัยโบราณน่าจะ พัฒนามาจากเกวียนขนาดเล็กท่ีน่ังได้เพียงคนเดียว และเทียมด้วยม้าหรือสัตว์อ่ืน เช่น วัว ลา หรือ ล่อ หรือแม้แต่คน ตัวรถทา ด้วยไม้ท่ีแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม เพ่ือให้มีความสง่างามสมกับท่ีใช้เป็น พาหนะแห่งองค์พระราชา ได้มีการตกแต่งเพิ่มความสวยงามด้วยการปิ ดทองประดับกระจกและอัญมณี หรือมีการหุ้มด้วยแผ่นทองดุนลายดอกไม้ประดิษฐ์รูปแบบต่าง ๆ แทนการแกะสลักลงในเนื้อไม้โดยตรง ราชรถในสมัยโบราณนั้น นอกจากจะเป็นพาหนะในการใช้เพื่อเดินทาง ยังแสดงถึงต าแหน่งทาง ราชการของผู้เป็นเจ้าของด้วย ซ่ึงมีท้งัราชรถท่เีทยีมด้วยม้า และลากด้วยกา ลังคน ราชรถท่เีทยีมด้วยม้ามัก เป็นรถศึก และรถท่ีพระราชาทรงใช้เม่ือเสดจ็ประพาสในท่ีต่าง ๆ นอกพระราชวัง สา หรับราชรถท่ีลาก ด้วยก าลังคนนั้นจะมีขนาดใหญ่ และใช้ในการพระราชพิธีส าคัญ คือ พระราชพิธีพระบรมศพ ภาพที่ ๖๖ ทศกัณฐ์ขี่ราชรถบนจิตรกรรมผนังที่วัดพระแก้ว จากเร่ืองรามเกียรต์ิราชรถท่ีปรากฏในเร่ืองมักเป็นราชรถท่ีใช้ท าศึก หรือเรียกว่ารถศึก เทียมด้วยม้า ส าหรับฝ่ ายพระราม และเทียมด้วยสิงห์ ส าหรับฝ่ ายทศกัณฐ์ ดังค าประพันธ์จากเรื่อง บทพากย์เอราวัณท่วี่า “เทียมสินธพอาชาไนย เริงร้องถวายชัย ชันหูระเกิดหฤหรรษ์” จากค าประพันธ์เป็นการบรรยายลักษณะราชรถท่ีเทียมด้วยสินธพและอาชาไนย ซ่ึงสองค าน้ี แปลว่า ม้า จากน้ันได้กล่าวถึงลักษณะของราชรถของพระรามท่ปีรากฏในเร่ืองบทพากย์เอราวัณ ดังน้ี
๗๔ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ “เสด็จทรงรถแก้วโกสีย์ ไพโรจน์รูจี จะแข่งซึ่งแสงสุริย์ใส” “เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องก ากง กระทบกระทั่งธรณี” ราชรถของพระรามเป็นราชรถของพระอินทร์มีลักษณะเป็นแก้วระยิบระยิบ สว่างไสวไพโรจน์ ราวกับแสงของพระอาทิตย์ นอกจากตัวราชรถจะเป็นแก้วแล้ว ส่วนประกอบของราชรถ ได้แก่ เพลารถ และดุม ล้วนประดับด้วยพลอย ซ่ึงส่วนประกอบของราชรถท่ปีรากฏในคา ประพันธม์ ีลักษณะ ดังภาพท่ี๖๗ ภาพที่ ๖๗ ส่วนประกอบของราชรถ ๑. กง หมายถึง วง, ส่วนรอบของล้อเกวียนหรือล้อรถม้าเป็นต้น ๒. ก า หมายถึง ซ่ีล้อรถหรือเกวียน ๓. ดุม หมายถึง ส่วนกลางของล้อเกวียนหรือล้อรถท่มีีรูสา หรับสอด ๔. เพลา หมายถึง แกนส าหรับสอดในดุมรถหรือดุมเกวียน (อ่านว่า เพฺลา) ๑. ๒. ๓. ๔.
๗๕ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ภาพที่ ๖๘ กำ, กง, ดุม ภาพที่ ๖๙ เพลา ส่วนประกอบของราชรถ ตรงส่วนล้อเลื่อนมีความเหมือนกับล้อของเกวียน แต่ราชรถมี ความวิจิตรสวยงามมากกว่า ดังภาพท่ี๖๗ ในส่วนของภาพท่ี๖๘ และภาพท่ี๖๙ เป็นภาพแสดงให้ เห็นลักษณะของล้อเลื่อนตามค าเรียก เช่น ก า กง ดุม และเพลา ให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๒๒. ศึกษาเพิ่มเติม ก า กง ดุม เพลา
๗๖ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เขาสัตภัณฑ์ ภาพที่ ๗๐ เขาพระสุเมรุล้อมรอบด้วยเขาสัตภัณฑ์ “สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อธิบายว่า สัตภัณฑ์ หรือ สัตบริภัณฑ์หมายถึง ภเูขาท่ลี้อมเป็นวงกลมรอบเขาพระสเุมรุเป็นช้ัน ๆ รวม ๗ ช้ัน สงูลดหล่ันกนัลงมาตามลา ดับช่ือภเูขาช้ันใน ท่สีุดจากเขาพระสุเมรุออกมา คือ ยุคนธร อิสินธร กรวิก สุทสันะ เนมินธร วินตกะ อัสกัณ ระหว่าง ภูเขาแต่ละชั้นมีทะเลสีทันดรคั่น เขาพระสุเมรุ ถือเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลตามคติความเชื่อของคนอินเดียโบราณ โดยแบ่ง จักรวาลออกเป็ น ๗ ชั้น โดยในความเชื่อนั้นเขาพระสุเมรุเป็ นศูนย์กลางแห่งจักรวาล ล้อมรอบด้วย เทือกเขา ๗ ชั้น ซึ่งแต่ละภูเขานั้นถูกคั่นกลางด้วย “มหานทีสีทันดร” จนถึงชั้นนอกสุดคือก าแพงจักรวาล โดยท่เีทอืกเขาท้ง ๗ นั้น เรียกว่า ั “สัตบริภัณฑ์คีรี”
๗๗ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ สัตตบริภัณฑ์คีรี เป็นชื่อภูเขาในต านานพุทธศาสนา เชื่อว่าตั้งอยู่กลางป่ าหิมพานต์ มีเทือกเขา ๗ เทือกเขารอบเขาพระสุเมรุ ประกอบด้วย ล าดับที่ ชื่อภูเขา ผู้อยู่อาศัย ๑ ยุคลธร พระอาทิตย์ และ พระจันทร์ ๒ อิสินธร มเหศรเทพบุตร ๓ กรวิก นกการเวก ๔ สุทัศน์ ทิพยโอสถ ๕ เนมินธร บัวใหญ่เท่ากงรถ ๖ วินตกะ แม่พญาครุฑ (นางวินตา) ๗ อัสกัณ ก ายาน (ไม้หอม) จากค าประพันธ์ในเรื่องบทพากย์เอราวัณ ดังความว่า “สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย” เป็นการใช้โวหารภาพพจน์แบบบุคลวัตหรือบุคลาธิษฐาน คือ การกล่าวถึงส่ิงต่างๆ ท่ีไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ เช่น โต๊ะ เก้าอ้ีอิฐ ปูน หรือส่ิงมีชีวิตท่ีไม่ใช่มนุษย์เช่น ต้นไม้สัตว์ โดยให้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ แสดงกิริยาอาการและความรู้สึกได้เหมือนมนุษย์ ให้มีคุณลักษณะต่าง ๆ เหมือน สิ่งมีชีวิต ดังค าประพันธ์ในเรื่องบทพากย์เอราวัณในตอนนี้เป็นการน าเสนอความยิ่งใหญ่ของกองทัพ พระราม ท่ีกา ลังเคล่ือนทพัเพ่ือออกทา ศึก เม่ือกองทัพของพระรามเคล่ือนทพัผ่านภเูขาสัตภัณฑ์ซ่ึงเป็น ภูเขาบริวารของภูเขาพระสุเมรุ ภูเขาสัตภัณฑ์ต่างโอนอ่อนโน้มยอดเขาลงมา เหมือนคนก าลังโค้งค านับ เพื่อท าความเคารพกองทัพของพระราม เมื่อเคลื่อนทัพผ่านไป เป็นการใช้โวหารภาพพจน์แบบบุคคลวัต ท าให้เขาสัตภัณฑ์ซึ่งไม่มีชีวิต แสดงอากัปกิริยาโค้งค านับเหมือนมนุษย์ ๒๓. ศึกษาเพิ่มเติม
๗๘ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ศรพรหมาสตร์ ภาพที่ ๗๑ อินทรชิตแผลงศร “เคลิบเคลิ้มหฤทัยใหลหลง จึงจับศรทรง พรหมาสตร์อันเรืองเดชา ทูนเหนือเศียรเกล้ายักษา หมายองค์พระอนุชา ก็แผลงส าแดงฤทธิรณ” ศรพรหมาสตร์ เป็น ๑ ใน ๓ อาวุธวิเศษสา คัญของอินทรชิตท่ไีด้รับประทานมาจาก ๓ มหาเทพ ตอนบ าเพ็ญตบะหลังจากส าเร็จวิชากับพระฤๅษีโคบุตร ซึ่งศรส าคัญ ๓ ชนิดนี้ ได้แก่ ๑. ศรพรหมาสตร์เป็นศรท่พีระอศิวรประทานให้ ๒. ศรนาคบาศ เป็นศรท่พีระพรหมประทานให้ ๓. ศรวิษณปุาณัม เป็นศรท่พีระนารายณ์ประทานให้ อิทธิฤทธ์ิอ านาจของศรพรหมาสตร์นั้น ในรามเกียรต์ิฉบับรัชกาลท่ี๑ กล่าวว่า ศรพรหมาสตร์ สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออก จะเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังบันดาลเป็นลูกศร หรือศัตราวุธนานาชนิดกลาดเกล่ือนเตม็ท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเรว็ไปพิฆาตหมู่ศัตรูในรามเกียรต์ิฉบับ รัชกาลท่ี๑ กล่าวถึง ศรพรหมาสตร์ท่อีนิทรชิตแผลงไป ดังน้ี
๗๙ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ “จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษมณ์รังสรรค์ หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ท าอ านาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว” ในส่วนของเร่ืองบทพากเอราวัณ ของรัชกาลท่ี๒ ได้กล่าวถึงอทิธฤิทธ์ขิองศรพรหมาสตร์ไว้ว่า “เคลิบเคลิ้มหฤทัยใหลหลง จึงจับศรทรง พรหมาสตร์อันเรืองเดชา ทูนเหนือเศียรเกล้ายักษา หมายองค์พระอนุชา ก็แผลงส าแดงฤทธิรณ อากาศก้องโกลาหล โลกลั่นอึงอล อ านาจสะท้านธรณี ศรเต็มไปทั่วราศี ต้ององค์อินทรีย์ พระลักษมณ์ก็กลิ้งกลางพล” จากค าประพันธ์ จะเห็นได้ว่าอา นาจอิทธิฤทธ์ิของศรพรหมาสตร์น้ัน สามารถแผลงศรออกไป กลายเป็นศรเกลื่อนกลาดนับพันเล่มหรือเหมือนห่าฝนตกลงมา หรืออาจบันดาลเป็นลูกศรหรือศัตราวุธ นานาชนิดกลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้ าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปสังหารศัตรู ซึ่งในเรื่องรามเกียรต์ิมีอสูรส าคัญ เช่น กุมภกรรณ อินทรชิต และทศกัณฐ์ ต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม และพระลักษมณ์ เองก็เคยต้องศรพรหมาสตร์จนสลบไปเช่นกัน ภาพที่ ๗๒ พระลักษมณ์ต้องศรพรหมาสตร์
๘๐ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ นอกจากนี้ ศรนาคบาศและศรวิษณุปาณัม กม็ีอา นาจอทิธฤิทธ์ไิม่แพ้ศรพรหมาสตร์ศรนาคบาศ เมื่อแผลงศรออกไปจะกลายเป็นนาคเกลื่อนกลาดและพ่นพิษใส่ศัตรู ยิ่งท าพิธีชุบศรนาคบาศโดยให้นาค มาคายพิษใส่ศรด้วยแล้ว จะท าให้มีพลังในการท าลายล้างสูง เนื่องจากพิษของพญานาคร้ายกาจ รุนแรง ย่ิงนัก จากเร่ืองรามเกยีรต์ิกล่าวถึงอทิธฤิทธ์ขิองศรนาคบาศไว้ดังน้ี “เมื่อนั้น อินทรชิตสุริย์วงศ์ยักษา ครั้นเสร็จอ่านเวทวิทยา อสุราพาดสายแผลงไป ส าเนียงเสียงดั่งลมกรด บรรพตจักรวาลสะท้านไหว เป็นนาคาแผลงฤทธิไกร เกลื่อนกลาดทั้งในอัมพร” อย่างไรก็ตาม ศรนาคบาศ สามารถหักล้างอิทธิฤทธ์ิหรือมีวิธีแก้ด้วยการแผลงศรพลายวาต ซ่ึง สามารถแผลงศรให้กลายเป็นครุฑมาจับนาคกินได้ ดังค าประพันธ์ดังต่อไปนี้ “พลายวาตส าแดงฤทธิรุทร กลายเป็นครุฑราชปักษี เกลื่อนกลาดถาบถาราวี เข้าจิกนาคีวุ่นไป” ภาพที่ ๗๓ อินทรชิตแผลงศรนาคบาศ ศรวิษณปุาณัม ศรวิเศษอกีหน่ึงศรของอนิทรชิตท่มีีอทิธฤิทธ์ไิม่แพ้กนัอทิธฤิทธ์ขิองศรวิษณปุาณัม น้ัน สามารถแผลงศรออกไปเป็นสายฝนก็ได้หรือเป็นไฟก็ได้ดังค าประพันธ์จากเร่ืองรามเกียรต์ิ ของรัชกาลท่ี๑ กล่าวว่า
๘๑ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ “จึ่งชักศรวิษณุปาณัม อันมีอ านาจแผ่นดินไหว พาดสายแล้วผาดแผลงไป ด้วยฤทธิไกรขุนมาร พสุธาอากาศก็หวาดหวั่น เสียงสนั่นไปทั่วทุกสถาน ทศทิศมืดมนอนธการ บันดาลเป็นฝนตกมา” จากค าประพันธ์ข้างต้นเป็นตอนท่ีอินทรชิต เดิมยังมีช่ือว่า รณพักตร์ได้รบกับพระอินทร์ และ พระอินทร์ได้ขว้างจักรออกไปเป็นเพลิงกรดท าลายกองทัพของอินทรชิต อินทรชิตจึงแผลงศรวิษณุปาณัม ให้กลายเป็นฝนดับเพลิงกรดของพระอินทร์ นอกจากน้ีศรวิษณุปาณัมเม่ือแผลงศรออกไปแล้วยังมีอิทธ์ิฤทธ์ิสามารถกลายเป็นเพลิงกรด เผาผลาญก็ได้ ดังค าประพันธ์ตอนท่ีอินทรชิตแผลงศรวิษณุปาณัมเป็นเพลิงกรดทา ลายกองทัพของ พระลักษมณ์ ความว่า “โกรธาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กระทืบบาทสนั่นหวั่นไหว จับวิษณุปาณัมศรชัย พาดสายแผลงไปด้วยฤทธา เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นบรรพต เป็นเพลิงกรดร้อนแรงแสงกล้า ต้องพลวานรมรณา เกลื่อนกลาดดาษป่ าพนาดอน” อย่างไรก็ตาม หากศรวาณุปาณัมแผลงออกเป็นเพลิงกรด สามารถหักล้างได้ด้วยการแผลงศร อัคนิวาต ให้หลายเป็นสายฝนดับไฟได้ ดังคา ประพันธ์ตอนท่ีพระลักษมณ์แผลงศรอัคนิวาตเป็นสายฝน ดับเพลิงกรดของอินทรชิต ความว่า ภาพที่ ๗๔ พระรามแผลงศรพลายวาตเรียกพญาสุบรรณราช
๘๒ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ “จึ่งจับอัคนิวาตพาดสาย หมายล้างอาวุธยักษี น้าวหน่วงด้วยก าลังฤทธี น้องพระจักรีก็แผลงไป เปรี้ยงเปรี้ยงดั่งเสียงฟ้ าฟาด เกลื่อนกลาดไม่นับเล่มได้ เกิดเป็นห่าฝนดับไฟ ไล่ล้างศรชัยอสุรา” ดังนั้น ศรทั้งสามชนิดของอนิทรชิตนับว่ามีอทิธฤิทธ์มิาก โดยเฉพาะศรพรหมาสตร์มีบทบาทอย่างยิ่ง ในเรื่องบทพากเอราวัณ เน่ืองจากเป็นอาวุธสา คัญของอินทรชิตทา ให้ฝ่ายพระลักษมณ์เพล่ียงพลา ้ด้วย กลศึกของอนิทรชิตท่แีปลงกายเป็นพระอนิทร์ และท าให้พระลักษมณ์ต้องศรพรหมาสตร์สลบไปในสนามรบ จนพิเภกได้บอกถึงวิธีแก้พิษศรพรหมาสตร์คือต้องไปน ายาท่ีข้ึนบนเขาอาวุธมารักษา โดยท่ียอดเขา อาวุธนั้น จะมีกงจักรหมุนอยู่รอบๆ เพียงแค่หนุมานบอกว่า เป็นทหารพระราม จะมาเอายาไปรักษา พระลักษมณ์ จักรกรดก็จะหายไป หนุมานจึงท าตามค าบัญชาทันที เมื่อหนุมานเหาะไปถึงเขาอาวุธ ได้บอกว่าเป็นทหารพระราม จะมาเอายา จักรกรดก็หายไป แต่เมื่อ หนุมานจะเด็ดยาสมุนไพรไป เทวดาท่ีดูแลเขาอาวุธกบ็อกว่า พระอิศวรกา หนดว่า หากจะเอายาไปใช้ ก็ต้องยกภูเขาไปทั้งลูก จะเด็ดเอายาไปไม่ได้ หนุมานจึงขยายร่างและแบกเขาอาวุธขึ้นไหล่ไป เม่ือมาถึงสนามรบ หนุมานจะวางเขาอาวุธ เทวดากบ็อกว่า บริเวณกรุงลงกาน้ีไม่เหมาะท่จะวางเขาี อาวุธอันบริสุทธ์ิได้ขอแค่ให้หนุมานเหาะข้ึนไปทางเหนือลม ให้ลมพัดเอาละอองยาไปถูกตัวพระลักษมณ์ กับทหารวานรจนฟื้ นคืนสติอีกครั้ง ๒๔. ศึกษาเพิ่มเติม
๘๓ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ แบบฝึกหัดตอนที่ ๓ ค าชี้ แจงตอนที่ ๑ : ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วท าเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความท่ถีูก และทา เครื่องหมาย หน้าข้อความท่ผีิด ๑. พนมหางนกยูง หรือเครื่องกั้นบังเป็นชั้น ๆ ท าด้วยขนหางนกยูง คือ ชุมสาย ๒. พัดโบก หมายถึง ชื่อเครื่องสูงชนิดหนึ่งส าหรับโบกลมถวายพระมหากษัตริย์ ๓. มยุรฉัตร คือเคร่ืองสงูท่ใช้ในพิธีโสกันต์ ี ๔. ราชรถ คือ ยานพาหนะท่มีีคานหาม เคล่ือนท่โีดยมีเจ้าพนกังานแบกหาม ๕. กง หมายถึง ซ่ีล้อรถหรือเกวียน ๖. ดุม หมายถึง ส่วนกลางของล้อเกวียนหรือล้อรถท่มีีรูสา หรับสอด ๗. เขาสัตภัณฑ์ คือภเูขาท่ลี้อมเป็นวงกลมรอบเขาพระสเุมรุ ๘. ยุคนธร คือ เขา ๑ ใน ๗ เขาสตัภัณฑท์ ่อียู่นอกสดุนับจากเขาพระสเุมรุ ๙. ศรพรหมาสตร์เป็นศรท่พีระอศิวรประทานให้แก่อินทรชิต ๑๐. ศรวิษณุปาณัม สามารถแผลงศรเรียกนาคออกมาได้ ค าชี้ แจงตอนที่ ๒ : ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี้ ๑. “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบ่ีระบายโบกลม” จากคา ประพันธม์ ีเคร่ืองสงูก่ชีนดิ ได้แก่อะไรบ้าง ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๒. เครื่องสูงชนิดหนึ่ง เป็นรูปฉัตร ๓ ชั้น มีสายไหมห้อย เรียกว่าอะไร ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๓. พัดโบกท่ใช้ในขบวนเสด็จพระราชด าเนิน ี มีลักษณะใบพัดเป็นอย่างไร ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๔. ราชรถท่เีทยีมด้วยม้าใช้ในโอกาสใด ............................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................
๘๔ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ใช้ภาพด้านซ้ายมือ ตอบค าถามข้อ ๕-๗ ๕. หมายเลข ๑ คือ ส่วนใดของล้อ ตอบ................................................................................. ........................................................................................ ๖. หมายเลข ๒ คือ ส่วนใดของล้อ ตอบ................................................................................. ....................................................................................... ๗. หมายเลข ๓ คือ ส่วนใดของล้อ ตอบ................................................................................. ....................................................................................... ๘. เขาสัตภัณฑ์ทั้ง ๗ มีทะเลชื่อว่าอะไรคั่นกลางระหว่างภูเขาแต่ละชั้น ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๙. ศรช่ือว่าอะไรของอนิทรชิตท่สามารถแผลงศรเรียกนาคออกมาได้ ี ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ๑๐. พระลักษมณ์ต้องศรชื่อว่าอะไรของอินทรชิตจนสลบไปในสนามรบ ตอบ............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ภาพที่ ๗๕ พระราม ๓ ๑ ๒
๘๕ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ
๘๖ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ
๘๗ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ ค ำชี้ แจง : ให้นักเรียนวิเคราะห์สาเหตุการโดนหลอกลวงและวิธีป้ องกันจากภัยอาชญากรรมออนไลน์จาก ข่าวท่ยีกตัวอย่างให้หรือจากท่นีักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติม และเปรียบเทยีบกบัสาเหตุการเพล่ียงพลา ้ ของพระลักษมณ์ในเรื่องบทพากย์เอราวัณ พำดหัวข่ำว / รูปแบบ อำชญำกรรมออนไลน์ รำยละเอียด สำวตรังเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กดลิงก์แจกตั๋ว เครื่องบินฟรี สูญเงินกว่ำ ๑๐ ล้ำน เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/news/society/2614213 เพื่อนเคำะโลงศพร ่ำไห้ ม.๓ ผูกคอดับ ปมถูกหลอกลงทุนดูคลิปยูทูบ เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/news/1874757/ สำวเล่นโซเชียล ถูกหลอกท ำภำรกิจ สูญเงินเกือบล้ำน เว็บไซต์one31 https://www.one31.net/news/detail/56743 พนันออนไลน์ระบำดหลอกลงทุนปั่นบำคำร่ำ “สำวม.๕” หลงเชื่อสูญเงินกว่ำ๒หมื่น เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/news/597143/ การเปรียบเทียบกลวิธีการหลอกลวง ประเด็นวิเครำะห์ บทพำกย์เอรำวัณ อำชญำกรรมออนไลน์ ๑. ผู้กระท ำ/มิจฉำชีพ ๒. ผู้ถูกกระท ำ/ผู้เสียหำย ๓. วิธีกำรชวนเชื่อ/รูปแบบ กำรหลอกลวง ๔. สำเหตุกำรหลงเชื่อ ๕. ผลกระทบ ๖. วิธีกำรป้ องกัน
๘๘ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ สำวตรังเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กดลิงก์แจกตั๋วเครื่องบินฟรี สูญเงินกว่ำ ๑๐ ล้ำน สาวตรัง เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์พลาดกดลิงก์ปลอมสายการบิน มอบโปรโมชันเท่ยีวบินฟรีสูญเงิน กว่า ๑๐ ล้าน วันท่ี๒๗ ม.ค. ๖๖ จากกรณีท่ีเพจเฟซบุ๊ก “ต ารวจภูธรจังหวัดตรัง” โพสต์ข้อความแจ้งเตือน ประชาชน ระบุว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความว่า มีข้อความ SMS เข้ามาในเครื่องโทรศัพท์ผู้แจ้งเพื่อรับโปรโมชัน จากสายการบินหน่ึง ให้เท่ียวบินฟรีจึงได้โหลดข้อมูลและบอกหมายเลขประชาชน ๑๓ หลัก, วันเดือนปี เกิด พร้อมสแกนใบหน้า แล้วส่งไปให้ในไลน์แอปฯ ของสายการบินดังกล่าว จากนั้นเมื่อผู้แจ้งได้ตรวจสอบข้อมูล เงินในบัญชีธนาคารจ านวน ๔ ธนาคาร ปรากฏว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีผู้แจ้งทั้งหมด เป็นเงินประมาณ ๑๐,๑๕๐,๐๐๐ บาท จึงเข้ามาแจ้งความกบัพนักงานสอบสวน เหตุเกดิเม่ือวันท่ี๒๓ ม.ค. ท่ผี่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตา รวจภธูรจังหวัดตรัง ขอยา ้เตือนพ่ีน้องประชาชน อย่ารับลิงก์โปรโมชันหรือ โหลดแอปฯ ท่ีไม่ผ่าน App Store หรือ Playstore เป็นอันขาด เพราะปัจจุบันนี้มิจฉาชีพมักใช้กลวิธีส่งลิงก์ ปลอมมาชวนเชื่อ โดยปลอมทั้งโลโก้ และชื่อให้ใกล้เคียงของจริง ซึ่งท าให้น่าเชื่อถือและถูกหลอกได้ ประการ ส าคัญ กรณีติดต่อหรือลงทะเบียนผ่านแอปฯ หรือลิงก์ ห้ามบอกเลขประจ าตัวประชาชน/วันเดือนปี เกิด และ สแกนใบหน้าเป็นอันขาด เพราะน่ันคือมิจฉาชีพท่ีหลอกเอาข้อมูลของเรา ไปแจ้งกับธนาคารและเปล่ียนรหัส ถอนเงินออกจากบัญชีจนหมด ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้เสียหายนั้น เป็นสาวตรัง ท างานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลชื่อดังแห่ง หน่ึงจากการสอบถาม นายขจรศักด์ิเจริญโสภา ผวจ.ตรัง ทราบว่า เร่ืองน้ีเกิดข้ึนจริง ซ่ึงตอนน้ีมิจฉาชีพมาใน ทุกรูปแบบ และมีรูปแบบใหม่ๆ เพื่อล้วงเอาข้อมูลส่วนตัว น าไปท าธุรกรรมเก่ียวกับบัญชีซ่ึงหากมีข้อความ ทางไลน์ SMS หรือโทรศัพท์มือถือ ห้ามโหลดแอปฯ แปลก ๆ ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นของฟรี หรือธุรกรรมต่างๆ เพราะของฟรีไม่มีในโลกนี้ ซึ่งสิ่งส าคัญคือ ทุกคนต้องมีสติ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ขณะเดียวกัน สายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊ก “Thai Lion Air” ระบุว่า สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ขอเตือนภัย ระวังอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวง ด้วยการกด ลิงก์ปลอม และส่ง SMS หลอกลวง โดยสายการบินฯไม่มีนโยบายการแจกบัตรโดยสารฟรีผ่านทาง ข้อความ SMS และขอย ้าเว็บไซต์จริงของสายการบินฯ คือ www.lionairthai.com เท่านั้น ทั้งนี้สายการบินฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าสายการบินฯไม่มีนโยบายในการส่ง SMS หรือโทรศัพท์เพื่อ แจ้งสิทธิประโยชน์ต่อลูกค้าแต่อย่างใด กรณีหากลูกค้ามีข้อร้องเรียนหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถาม หรือแจ้งข้อมูลได้ท่ีCall Center 02–529-9999. ท่ีมา : https://www.thairath.co.th/news/society/2614213
๘๙ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เพื่อนเคำะโลงศพร ่ำไห้ ม.๓ ผูกคอดับ ปมถูกหลอกลงทุนดูคลิปยูทูบ กลุ่มนักเรียนชั้น ม.๓ จากโรงเรียนชื่อดัง จ.นนทบุรี เข้าไปเคาะโลงร ่าไห้เรียกเพื่อนนักเรียนชายวัย ๑๕ ปีโรงเรียนเดียวกัน ท่ีก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิต โดยสาเหตุจากเร่ืองเครียด ถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุน ดูคลิปยูทูบ จนสญูเงินนับหม่ืนบาท ขณะท่แีม่วอนตา รวจจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ยืนยันเอาเร่ืองให้ถึงท่สีดุ จากกรณีเหตุ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ ๑๕ ปี นักเรียนชั้น ม.๓ โรงเรียนชื่อดังใน จ.นนทบุรีก่อเหตุ ผูกคอตัวเองเสียชีวิตในป่ า ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด ๓๔ ต.บางพูด อ.ปากเกรด็จ.นนทบุรีสาเหตุจากเครียดเร่ืองท่ี โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปหลายหม่ืนบาท อกีท้งัเงินดังกล่าว เป็นเงินท่ไีด้จากการไปขโมยมาจากพ่อแม่ของ ตัวเอง ถึงขนาดเขียนจดหมายขอโทษ และทิ้งข้อความไว้ในไลน์ ท านองว่า เป็นเพราะความโลภของตัวเอง ท าให้ถูก มิจฉาชีพหลอกเอาเงินไป หลังจากท่ตีัวเองเสยีชีวิตแล้ว ขอให้ติดตามเอาผิดแกง๊มิจฉาชีพเหล่านี้ให้ด้วย และอยาก ให้ลงข่าวบอกเด็ก ๆ อย่าไปหลงเชื่อ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เก่ียวกับเร่ืองน้ีเม่ือวันท่ี๙ ม.ค. นายเอก (นามสมมุติ) อายุ ๕๕ ปี เปิ ดเผยว่า หลังจากสูญเสียลูก ตนได้ตรวจสอบแชตข้อความในไลน์และเฟซบุ๊กแล้ว ท าให้ทราบว่า ลูกชายไปร่วมลงทุนกับกลุ่มมิจฉาชีพ โดยมี การจ่ายเงินสมัครเข้าท างานดูคลิปยูทูบ เริ่มแรก ได้เงินหลักร้อย ก่อนจะอีกฝ่ายจะหลอกล่อให้ลงทุนเพิ่ม แล้วจะได้ เงินเพ่ิมข้ึนด้วย ซ่ึงสุดท้ายได้เสียเงินนับหม่ืนบาท ปกติลูกชายเป็นคนร่าเริง แต่ไม่ค่อยพูด เหตุท่คีิดส้ันคงเพราะ โดนหลอก แต่ไม่อยากบอกพ่อแม่ทางเจ้าหน้าท่ีต ารวจบอกว่าจะติดตามให้หลังจากน้ีจะน าศพน้องไปไว้ท่ีวัด บางพูดใน ๓ วัน ตนอยากให้คนท่ีมาหลอกน้องไปลงทุน หยุดการกระทา เพราะมันเป็นภัยต่อสังคม และเดก็ๆ ยังไม่รู้จักโลกกว้าง น้องอายุเพียง ๑๕ ปี เรียนอยู่ ม.๓ ก าลังจะขึ้น ม.๔ ท่โีรงเรียนปากเกร็ด และเป็นเด็กเรียนดี ขณะเดียวกัน ท่ีวัดบางพูดใน ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีสถานท่ีจัดงานศพ นายเอ บรรยากาศ ท่ตี้ังศาลาศพ ต่างเตม็ ไปด้วยนักเรียนและครูจากโรงเรียนของ นายเอ โดยเหล่าเพ่ือนสนิทและเพ่ือนร่วมช้ันเรียน ต่างเดินทางมาเคารพศพกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณข้างโลง มีกลุ่มเพื่อนนักเรียนเข้าไปเคาะโลงศพ ร้องไห้เสียใจเป็ นอย่างมาก ภายหลังกล่าวว่า นายเอ เป็ นคนเรียนเก่งมาก ได้เกรดเฉล่ียเกือบ ๔ ทุกเทอม อยากให้ต ารวจจับกุมแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ให้ได้ และขอให้พ่อแม่ของเพื่อน เอาเร่ืองให้ถึงท่สีดุด้วย ด้าน นางเก๋ (นามสมมุติ) อายุ ๕๐ ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายน่าจะ มาเล่าปัญหาให้ฟัง เพราะจะได้ช่วยกันหาหนทางแก้ไข รวมทั้งปลอบใจไม่ให้คิดสั้น แบบนี้ อยากให้ต ารวจติดตามจับกุมแก๊งมิจฉาชีพให้ได้ ขอให้ด าเนินคดีตามกฎหมาย ให้ถึงท่ีสุด ยอมรับว่า ตอนน้ียังทา ใจไม่ได้เช่นเดียวกับพ่ีสาวของ นายเอ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุยังเห็นน้องชายนั่งดูยูทูบ ในอาการสนุกสนาน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เคยเห็นน้องโอนเงินไปให้เพจของแก๊งมิจฉาชีพ จึงได้เตือนว่า การลงทุนมีความเส่ียง คงไม่ใช่กา ไรแบบท่ีเขาโฆษณาอย่างแน่นอน แต่เพราะน้อง ไม่เชื่อ เห็นอีกฝ่ ายโพสต์ว่าลงทุนหลักร้อยได้หลักพัน ลงทุนหลักพันได้หลักหมื่น สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ท่มีา : https://www.dailynews.co.th/news/1874757/ ๒๕. ศึกษาเพิ่มเติม
๙๐ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ สำวเล่นโซเชียล ถูกหลอกท ำภำรกิจ สูญเงินเกือบล้ำน สาวหลงเช่ือทา ภารกิจ จากโฆษณาท่ีโผล่ในเฟซบุ๊ก เผยช่วงแรกได้เงินจริง ท าให้ตายใจ ก่อนตุกติก ช่วงหลัง จนสูญเงินไปเกือบล้าน ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องจาก นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ ๒๗ ปี ผู้เสียหายชาวจังหวัดตราด ถูกแอปพลิเคชัน ท่ีอ้างว่า มีงานทา สบาย ทา อยู่ท่ีบ้านได้รายได้วันละ ๕๐๐-๑,๘๐๐ บาท เป็นโฆษณาขึ้นวิดีโอในเฟซบุ๊ก โดยรับ สมัครพนักงานออนไลน์ตรวจสอบค าสั่งซื้อสินค้า ซึ่งมีรายได้จริงในช่วงแรก ก่อนจะหลอกให้โอนเงินต่อเนื่อง สุดท้ายสูญเงินเกือบ ๑ ล้านบาท นางสาวบีเปิดเผยกับผู้ส่ือข่าวว่า เม่ือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมท่ีผ่านมา ได้น่ังเล่นเฟซบุ๊กอยู่ในห้อง ก่อนจะมีโฆษณามาขั้นวิดีโอ เป็ นการเปิ ดรับสมัครพนักงานออนไลน์ตรวจสอบค าสั่งซื้อสินค้า ชื่อเว็บไซต์ https://missinos-malls.com/h5/index.html# โดยโฆษณาดังกล่าวใช้โลโก้ของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ตนจึงกด เข้าไปตามลิงก์ ก่อนจะเด้งเข้าไปในแอปพลิเคชันไลน์ให้เพิ่มเพื่อน และมีคนอ้างว่าเป็นพนักงานสอบถามข้อมูล รายละเอียดและชี้แจงขั้นตอนการท างาน ขั้นแรกต้องฝากเงินครั้งแรก ๑๐๐ บาท เพื่อท าภารกิจโดยการเพิ่ม ยอดขายให้ร้านท่กีา หนด เป็นการกดออเดอร์ส่งัซ้ือสนิค้าในเวบ็เพ่ือเพ่ิมตัวเลขยอดขายของร้านดังกล่าว หลังจาก เสร็จสิ้นภารกิจแรก จะได้เงินคืนพร้อมค่าคอมมิชชั่นจ านวน ๑๑๒ บาท ขั้นสองเพิ่มขึ้นเป็น ๔๑๒ บาท และได้รับ เงินคืนเป็นจ านวน ๕๖๘ บาท โดยขั้นตอนนี้โอนให้ชื่อบัญชี นายป้ าย ดอกบัวตูม ธนาคารออมสิน ซึ่งตอนนั้นตนมองว่าได้เงินจริง ทางพนักงานได้ถามต่อว่า จะท าภารกิจต่อไปหรือเปล่า หลังจากตอบตกลง พนักงานได้ให้เพิ่มเพื่อนพนักงานอีก ๑ คน เพ่ือทา ภารกิจท่สีาม หลังจากกดออเดอร์ช้ินท่ี๔ เป็นโทรทัศน์มูลค่า ๒,๙๐๐ บาท หลังจากโอนเสร็จพนักงานบอกว่าโอนไม่ผ่าน ต้องโอนยอดเดิมอีก ๑ คร้ัง ช้ินท่ี๕ เป็นโทรทัศน์ เครื่องใหญ่ มีมูลค่า ๓๙,๕๐๐ บาท และช้ินท่ี๖ คือเตียงนอน มูลค่า ๘๐,๐๐๐ บาท และก็มีปัญหาอีกต้องโอนซ ้า อีก ๑ ครั้ง ขั้นตอนนี้โอนให้ชื่อบัญชี นางสาวณีรวัลย์ ทุมประดิษฐ์ ธนาคารกรุงเทพ เม่ือทา ภารกจิท่สีามเสรจ็ตนจึงแจ้งถอน พนักงานได้ให้เพ่ิมเพ่ือนอกี๑ คน เพื่อท าการถอน แต่หลังจาก แจ้งถอน พนักงานรายท่ี๓ บอกว่า ตนต้องเสียภาษี ๔๐% จากยอดท้งัหมดท่มีีอยู่ในบัญชีตน ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าภาษีอะไร แต่ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ แล้ว และอยากถอนเงินของตนเองทั้งหมด จึงยอม โอน หลังจากโอนเสร็จ พนักงานแจ้งว่าต้องเสียภาษีเพิ่มอีก ๒ ตัว เป็นจ านวนเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท สุดท้าย พนักงานแจ้งว่า ต้องโอนค่ายืนยันบัญชีอีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท ตนจึงโอนไปจนครบ พนักงานกลับแจ้งว่าให้โอนเพิ่ม ไปอีก แต่ตอนนั้นตนโอนเงินจนหมดไปแล้ว พนักงานก็ยืนยันว่าต้องโอนเพิ่มจึงจะสามารถถอนเงินได้ ก่อนจะมา รู้ว่าถูกหลอกแล้ว ตนตกใจมากจึงรีบโทรศัพทบ์อกแฟน และเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ฐานิต ท่ภีักดีร้อยเวรสถานี ตา รวจภธูรเมืองตราด เม่ือวันท่ี๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ท่ผี่านมา ส าหรับความคืบหน้าในคดียังอยู่ในขั้นตอนของการขออายัดบัญชีปลายทางผ่านธนาคารกรุงเทพ ซึ่งยอด ความเสียหายทั้งหมด ๘๕๐,๐๐๐ บาท จึงขอเป็นกระบอกเสยีงผ่านส่อือยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่มีงานไหนท่ไีด้ เงินมาโดยง่าย ไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อให้กับแก๊งมิจฉาชีพพวกนี้แบบตน ท่มีา : https://www.one31.net/news/detail/56743
๙๑ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ พนันออนไลน์ระบำดหลอกลงทุนปั่นบำคำร่ำ “สำวม.๕” หลงเชื่อสูญเงินกว่ำ ๒ หมื่น อุทาหรณ์ “สาวม.๕” โรงเรียน อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ถูกมิจฉาชีพชักชวนลงทุนปั่นบาคาร่า อ้างได้ผลตอบแทนสูง ภายหลังหลงเชื่อโอนไปให้จ านวนหนึ่ง เจออีกฝ่ายหลอกได้เงินเฉียดหมื่น แต่พอจะ เอาเงินคืนกลับต้องเสียค่าด าเนินการมากมาย สุดท้ายโอนไปกว่า ๒ หมื่นก็ยังไม่คืนสักบาท เม่ือวันท่ี๒๒ ธ.ค. พ.ต.ต.อุทิน ประชานารถ สารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา รับแจ้งความจากครูโรงเรียนแห่งหน่ึงในพ้ืนท่ีอ.โนนไทย และผู้ปกครองของนักเรียนช้ัน ม.๕ ว่าบุตรสาว ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุนโอนเงินร่วมลงทุนเล่นพนันออนไลน์ (ปั่นบาคาร่า) จนสูญเงินไปกว่า ๒๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.๕ ได้เล่นเฟซบุ๊กแล้วมีคนร้ายสร้าง ไอดีเข้ามาขอเป็นเพื่อน จากนั้นก็ชักชวนให้มาลงทุนร่วมกัน โดยอ้างว่าหากลงทุนเพียง ๓๐๐ บาท ให้กลุ่ม ของตนไปเล่นพนันออนไลน์บาคาร่า รับรองจะได้ผลตอบแทน ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ บาทในเวลาไม่นาน ปรากฏว่า ด.ญ.เอ หลงเชื่อ ยอมติดต่อกันทางไลน์ ก่อนจะโอนเงินไปให้จ านวนหนึ่ง ซึ่งอีกฝ่ ายใช้ อุบายหลอกว่าได้เงินเพิ่มขึ้นมาแล้วถึง ๘,๙๐๐ บาท แต่หากจะถอนก็ต้องเสียค่าด าเนินการ ๙๐๐ บาท พร้อมส่งหมายเลขบัญชีธนาคารมาให้ ฝ่ายด.ญ.เอ โอนเงินไปปรากฏว่ายังไม่ได้เงินทั้งหมดคืนมา โดยอีกฝ่ ายระบุว่า ยังต้องมีค่าใช่จ่ายอื่น ๆ ด้วย ฝ่ าย ด.ญ.เอ จึงไปหยิบยืมเงินเพื่อนและญาติ พ่ีน้องรวมกว่า ๒๐,๗๐๐ บาท ก็ยังไม่ได้เงินคืนเพื่อโอนไปให้แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เงินคืนมาแต่อย่างใด ส่งผลให้เกิดอาการเครียดเป็นอย่างมาก เชื่อว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว จึงน าเรื่องทั้งหมดไปบอกพ่อแม่และครู ก่อนจะมาแจ้งความดังกล่าว ทางเจ้าหน้าท่ีจะได้สืบสวนหาตัวแก๊งมิจฉาชีพรายน้ีมาด าเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป ท่มีา : https://www.dailynews.co.th/news/597143/ ๒๖. ศึกษาเพิ่มเติม
๙๒ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ค ำชี้ แจง : ให้นักเรียนเลือกคา ตอบท่ถีูกเพียงคา ตอบเดียว แล้วกากบาทลงในกระดาษคา ตอบ (มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นในระดับที่ยากยิ่งขึ้น) ๑. เรื่องบทพากย์เอราวัณเป็นส่วนหนึ่งของวรรณคดีเรื่องใด ตอนใด ก. รามเกยีรต์ิตอน หนุมานถวายแหวน ข. รามเกยีรต์ิตอน ศึกไมยราพ ค. รามเกยีรต์ิตอน ศึกอนิทรชิต ง. รามเกยีรต์ิตอน พระลักษมณ์ต้องหอกโมกขศักด์ิ ๒. ผู้แต่งบทพากย์เอราวัณคือใคร ก. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ข. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ค. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ง. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๓. บทพากย์เอราวัณแต่งด้วยค าประพันธ์ประเภทใด ก. กาพย์ยานี ๑๑ ข. กาพย์ฉบัง ๑๖ ค. ร่ายยาว ง. กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ๔. บทพากย์ใช้ส าหรับแสดงมหรสพประเภทใด ก. ละครนอก ข. โขน ค. ล าตัด ง. ละครชาตรี ๕. ข้อใดสรุปเนื้อหาเรื่องบทพากย์เอราวัณได้ถูกต้อง ก. พระลักษมณ์ถูกศรพรหมาสตร์ของอินทรชิตกลางสนามรบ ข. อินทรชิตแปลงกายเป็นช้างเอราวัณเพื่อมาท าศึกกับพระลักษมณ์ ค. พระลักษมณ์ตรัสถามหนุมานว่าพระอินทร์มากลางสนามรบด้วยเหตุอันใด ง. ทศกัณฐ์แปลงกายเป็นพระอินทร์เพื่อมาลวงกองทัพของพระรามให้หลงใหล ๖. ข้อใดกล่าวถกูต้องเก่ยีวกบัช้างเอราวัณ ก. ช้างเอราวัณมีงาสีขาว ข. ช้างเอราวัณมีงาทั้งหมด ๗ งา ค. ช้างเอราวัณมีหัวทั้งหมด ๓ หัว ง. ช้างเอราวัณมีกายสีเผือก ๗. จากเรื่องบทพากย์เอราวัณ เหตุใดอินทรชิตจึงต้องแปลงกายเป็นพระอินทร์ ก. เพื่อลวงทศกัณฐ์ ข. เพื่อลวงพระอินทร์ ค. เพื่อลวงสุครีพ ง. เพื่อลวงพระลักษมณ์ ๘. อนิทรชิตมีฤทธ์มิากเพราะได้ศรวิเศษมาจากพระผู้เป็นเจ้าต่อไปน้ียกเว้นข้อใด ก. พระพรหม ข. พระอิศวร ค. พระอินทร์ ง. พระนารายณ์
๙๓ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๙. ข้อใดคือช่ือสระท่อียู่บนงาของช้างเอราวัณ ก. สระอโนดาต ข. สระฉัททันตะ ค. สระโบกขรณี ง. สระรถการะ ๑๐. ตอนสุดท้ายของเรื่องบทพากย์เอราวัณจบลงอย่างไร ก. พระรามสังหารอินทรชิตได้ส าเร็จ ข. สุครีพหักคอช้างเอราวัณได้ส าเร็จ ค. พระลักษมณ์ถูกศรพรหมาสตร์สลบไป ง. อินทรชิตพ่ายแพ้ศึกครั้งนี้แล้วหนีไป (มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๒ วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน) ๑๑. “เมื่อนั้นจึงพระจักรี พอพระสุริย์ศรี อรุณเรืองเมฆา” ค าว่า “พระจักรี” ในท่นี้ีหมายถึงใคร ก. พระราม ข. พระลักษมณ์ ค. ทศกัณฐ์ ง. อินทรชิต ๑๒. “เมื่อนั้นพระศรีอนุชา เอื้อนอรรถวัจนา ตรัสถามสุครีพขุนพล” บทประพันธ์จากเรื่องบทพากย์เอราวัณข้างต้น ค าว่า “พระศรีอนุชำ” หมายถึงใคร ก. อินทรชิต ข. หนุมาน ค. พระลักษมณ์ ง. พระราม ๑๓. “ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุบรรณ กินนรนาคนาคา” บทประพันธ์จากเรื่องบทพากย์เอราวัณข้างต้น ค าว่า “สุบรรณ” หมายความว่าอย่างไร ก. ช้าง ข. เทพารักษ์ ค. กามเทพ ง. ครุฑ ๑๔. ค าประพันธ์ในเรื่องบทพากย์เอราวัณข้อใดกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพพระราม ก. เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน พิภพเพียงท าลาย ข. อากาศบดบังสุริย์ศรี เทวัญจันทรี ทุกชั้นอ านวยอวยชัย ค. เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องก ากง กระทบกระทั่งธรณี ง. บรรดาโยธาจัตุรงค์ เปล่ียนแปลงกายคง เป็นเทพไทเทวัญ
๙๔ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๑๕. ค าประพันธ์ในบทพากย์เอราวัณข้อใดหมายถึงพระอินทร์ ก. ให้องค์อนุชานารายณ์ เคลิบเคลิ้มวรกาย จะแผลงซึ่งศัสตรศรพล ข. เหตุไฉนสหัสนัยน์เสด็จดล สมรภูมิไพรสณฑ์ เธอมาด้วยกลอันใด ค. มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์ ขับรถมากลางจัตุรงค์ ง. โลทันสารถีขุนมาร เป็นเทพบุตรควาญ ขับท้ายท่นี่ังช้างทรง ๑๖. จากเรื่องบทพากย์เอราวัณ บทประพันธ์ในข้อใด ใช้โวหารภาพพจน์แบบบุคคลวัต ก. อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม ประสานเสนาะในไพร ข. เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน พิภพเพียงท าลาย ค. สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย ง. พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ ซุกซ่อนประหวั่นขวัญหนี ๑๗. จากเรื่องบทพากย์เอราวัณ ค าประพันธ์ในข้อใด ไม่ใช่ บทพรรณนาเก่ยีวกบัธรรมชาติ ก. ผี้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ ร่อนราถลาลง แทรกไซ้ในสร้อยสุมาลี ข. ดุเหว่าเร้าเร่งพระสุรีย์ ไก่ขันปีกตี กู่ก้องในท้องดงดาน ค. ปักษาตื่นตาขันขาน หาคู่เคียงประสาน ส าเนียงเสนาะในไพร ง. ตาข่ายเพชรรัตน์ร้อยกรอง ผ้าทิพย์ปกตระพอง ห้อยพู่ทุกหูคชสาร ๑๘. “มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบ่ีระบายโบกลม” คา ประพันธน์ ้ีมีเคร่ืองสงูสา หรับแสดงอสิริยยศ ก่อีย่าง ก. ๑ อย่าง ข. ๒ อย่าง ค. ๓ อย่าง ง. ๔ อย่าง
๙๕ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เกร็ดความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ๑๙. ค าประพันธ์ต่อไปนี้ใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมา ยกเว้น ข้อใด ก. อากาศบดบังสุริย์ศรี เทวัญจันทรี ทุกชั้นอ านวยอวยชัย ข. เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน พิภพเพียงท าลาย ค. จับระบ าร าร่ายส่ายหา ช าเลืองหางตา ท าทีดังเทพอัปสร ง. มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร ดังเวไชยันต์อมรินทร์ ๒๐. ค าประพันธ์ในข้อใดต่อไปนี้ สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมการท าศึกสงครามในสมัยก่อน ก. บ้างเปิดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลัย ซ้องสาธุการบูชา ข. เมื่อนั้นอินทรชิตยักษี ตรัสสั่งเสนี ให้จับระบ าร าถวาย ค. อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม ประสานเสนาะในไพร ง. เสด็จทรงรถแก้วโกสีย์ ไพโรจน์รูจี จะแข่งซึ่งแสงสุริย์ใส (มาตรฐาน ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง) ๒๑. ข้อใดไม่ใช่คา ไวพจน์ท่แีปลว่า "ช้าง" ก. สุบรรณ ข. กุญชร ค. ไอยรา ง. คช ๒๒. “เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องก ากง กระทบกระทั่งธรณี” บทประพันธ์ข้างต้น ให้ความรู้เก่ยีวกบัเร่ืองใด ก. เรื่องช้างเอราวัณ ข. เรื่องเทวดา ค. เรื่องอัญมณี ง. เรื่องราชรถ ๒๓. ปุ่ มนูนสองข้างอยู่บนเศียรช้าง เรียกว่าอะไร ก. ชนัก ข. กระวิน ค. ซองหาง ง. ตระพอง ๒๔. เคร่ืองผูกช้าง ทา ด้วยเชือกเป็นปมหรือห่วงห้อยพาดลงมาเพ่ือให้คนท่ขี่ีคอช้างใช้หัวแม่เท้าคีบกนัตก เรียกกว่าอะไร ก. ชนัก ข. โตมร ค. กระวิน ง. ซองหาง ๒๕. ข้อใดหมายถึง “ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง มีความช านาญการในวิชาดนตรีและขับร้อง” ก. ครุฑ ข. คนธรรพ์ ค. วิทยาธร ง. กินนร