The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชาวรรณกรรมปัจจุบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sinza_narak, 2022-03-14 02:31:52

แผนรายวิชาวรรณกรรมปัจจุบัน

แผนรายวิชาวรรณกรรมปัจจุบัน

แผนการจัดการเรียนรู้

วชิ า วรรณกรรมปัจจบุ นั (ท๓๓๒๐๒)
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

นางสาวบุญญาดา พรหมยก
ครู คศ.๒

โรงเรยี นวงั วเิ ศษ อำเภอวังวเิ ศษ จังหวดั ตรัง

สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาตรงั -กระบี่

คำอธิบายรายวชิ า
วิชาวรรณกรรมปัจจุบนั ท ๓๓๒๐๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลาเรียน ๔๐ ชม./ภาค
เวลา๒ ชม./สปั ดาห์ ๑.๐ หน่วยการเรียน อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาค:ปลายภาค ๘๐:๒๐
........................................................................................................................................................

ศึกษาวรรณกรรมประเภทชวี ประวตั ิ บทความ บทละครพดู เรอื่ งส้นั นวนิยาย บทรอ้ ยกรองขนาดสน้ั และ
กวีนพิ นธ์ พจิ ารณาการใชภ้ าษาขอ้ ความ สำนวนโวหาร ประเดน็ สำคญั ของเร่อื ง วเิ คราะหเ์ น้อื หาทแี่ สดงอารมณ์
แสดงข้อเท็จจรงิ และความคิดเห็นเพื่อให้เขา้ ใจสารของผู้แต่ง เกดิ จนิ ตนาการ เขา้ ใจความไพเราะและความงามของ
วรรณกรรม

โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษา ฟังพูด อา่ น เขียน เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการวเิ คราะห์
องค์ประกอบของเรื่องสน้ั นวนิยาย กวนี ิพนธ์ จำแนกประเภทบทความ ตคี วามเรอื่ งส้ัน นวนิยาย กวีนิพนธ์ ประเมนิ
คณุ ค่าของเรอื่ งสั้น นวนยิ าย กวีนพิ นธ์

เพอื่ ให้เกิดสมรรถนะดา้ นการคดิ การสอ่ื สาร การพูดและใช้เทคโนโลยแี กป้ ญั หาต่างๆ เกดิ ความรู้ ความ
เขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่าของวรรณกรรมไทย สามารถนำความรไู้ ปใชว้ ิเคราะหภ์ าษาไทยได้อยา่ งถกู ต้อง อันจะนำไปสูก่ าร
อนรุ ักษแ์ ละพฒั นาภาษาไทย
ผลการเรียนรู้
๑.อธิบายความหมายคำศพั ทท์ เ่ี กีย่ วข้องกับ “วรรณกรรมปจั จบุ ัน”และวิวัฒนาการของวรรณกรรม
๒.วิเคราะห์เรอ่ื งสัน้ และนวนิยาย
๓. วิเคราะหว์ รรณกรรมประเภทกวนี พิ นธ์
๔.วเิ คราะหว์ รรณกรรมประเภทบทความและชวี ประวตั ิ
๕.วเิ คราะห์วรรณกรรมประเภทบทละครพูด
๖.นำเสนอจากวรรณกรรมเลือกอา่ นและผลติ วรรณกรรมไดด้ ้วยตัวเอง

โครงสรา้ งรายวชิ า วรรณกรรมปัจจุบนั รหัส ท ๓๓๒๐๒
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ จำนวน ๑.๐ หน่วยการเรยี น ภาคเรียนที่ ๒

ลำดับ ชื่อหนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนัก

ท่ี เรยี นรู้ (ชม) คะแนน

๑ ลักษณะ อธิบายความหมายคำศพั ท์ท่ี ๑.คำศพั ทท์ ่ีเกี่ยวข้องกับ ๒๕

“วรรณกรรม เก่ียวข้องกบั “วรรณกรรม “วรรณกรรมปจั จุบนั ”

ปัจจบุ ัน” ปัจจบุ นั ” ๒.ววิ ัฒนาการของวรรณกรรม

และวิวฒั นาการของ ไทย

วรรณกรรม

๒ พินจิ เร่ืองสนั้ และ วเิ คราะห์เรื่องสนั้ และ ๑.ลักษณะของเรื่องสนั้ และ ๑๒ ๓๐

นวนิยาย นวนยิ าย นวนิยาย

๒.การวเิ คราะห์และประเมิน

คณุ ค่าเรือ่ งสั้นและนวนยิ าย

๓ พนิ จิ กวนี ิพนธ์ วเิ คราะหว์ รรณกรรมประเภท ๑.อธิบาย ๘ ๒๐

กวีนิพนธ์ ลักษณะกวนี ิพนธ์

๒.การวเิ คราะห์

และประเมนิ คุณคา่ ของกวี

นิพนธ์

๔ พนิ ิจสารคดี วิเคราะหว์ รรณกรรม ๑.ลักษณะของสารคดปี ระเภท ๙ ๒๐

ประเภท ประเภทบทความและ บทความและชีวประวตั ิ

บทความและ ชวี ประวตั ิ ๒.การวเิ คราะห์

ชวี ประวตั ิ และประเมนิ คณุ คา่ ของสารคดี

ประเภทบทความและชวี ประวตั ิ

๕ พินจิ บทละครพดู วเิ คราะห์วรรณกรรม ๑.ลักษณะบทละครพดู ๕ ๑๕

ประเภทบทละครพดู ๒.การวเิ คราะห์

และประเมนิ คณุ ค่าของบท

ละครพูด

๖ วรรณกรรมท่รี กั มีนิสัยรักการอา่ นและสามารถ ๑.พูดนำเสนอวรรณกรรมที่มี ๔ ๑๐

เลือกอ่านและผลติ วรรณกรรม คณุ ค่าที่เลอื กอา่ นดว้ ยตวั เอง

ได้ดว้ ยตัวเอง ๒. ผลิตวรรณกรรม

ของตัวเอง

การแบ่งนำ้ หนกั คะแนน วิชา วรรณกรรมปจั จุบัน รหัส ท ๓๓๒๐๒

ลำดับ ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน จำนวน กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม

คาบ

๑ อธบิ ายความหมายคำศพั ท์ท่เี ก่ยี วขอ้ ง ท๕.๑ ๒ ๕ - - - ๕

กับ “วรรณกรรมปัจจุบนั ”

และวิวัฒนาการของวรรณกรรม

๒ วเิ คราะห์เรื่องสั้นและ ท๕.๑ ๑๒ ๑๕ ๑๕ - - ๓๐

นวนยิ าย

๓ วิเคราะหว์ รรณกรรมประเภทกวนี ิพนธ์ ท๕.๑ ๘ ๑๐ ๕ - ๕ ๒๐

๔ วเิ คราะหว์ รรณกรรม ท๕.๑ ๙ - - ๑๐ ๑๐ ๒๐
ประเภทบทความและชีวประวตั ิ

๕ วิเคราะหว์ รรณกรรม ท๕.๑ ๕ - - ๑๐ ๕ ๑๕

ประเภทบทละครพูด

๖ มนี ิสัยรักการอา่ นและสามารถเลือก ท๕.๑ ๔ - - ๑๐ - ๑๐

อ่านและผลติ วรรณกรรมได้ดว้ ยตวั เอง

รวม ๔๐ ๓๐ ๒๐ ๓๐ ๒๐ ๑๐๐

แบบวิเคราะหต์ วั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้สู่แผนการจดั การเรียนรู้

รหัส ท ๓๒๒๐๒ รายวิชา วรรณกรรมปจั จบุ ัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖

สาระท่ี ๕ :วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ : เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็นวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย

อยา่ งเห็นคุณคา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง

ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ สาระความรู้ กระบวนการ/ เจตคติ/ สมรรถนะผเู้ รยี น

K ทกั ษะ P/S คุณลักษณะ C

A

๑.อธิบายความหมาย -ความหมายคำศัพท์ที่ เขียนอธบิ าย -ใฝ่เรียนรู้ ความสามารถใน

คำศัพทท์ ่ีเกี่ยวข้องกับ เกย่ี วขอ้ งกับ วิวัฒนาการ -ความมุ่งมั่น การสื่อสาร

“วรรณกรรมปัจจุบนั ” “วรรณกรรม วรรณกรรม ในการทำงาน

และววิ ฒั นาการของ ปัจจบุ ัน”-วิวัฒนาการ ไทย

วรรณกรรม ของวรรณกรรม

๒.วิเคราะห์เร่อื งสั้น -อธบิ ายลกั ษณะเร่ือง เขียนวิเคราะห์ -ใฝเ่ รียนรู้ ความสามารถใน

และนวนิยาย ส้ันและนวนิยาย เร่อื งสั้นและนว -ความมงุ่ มั่น การส่อื สาร

-อธบิ ายหลกั การ นิยาย ในการทำงาน

พิจารณาเร่ืองสั้น

และนวนยิ าย

๓.วเิ คราะห์ -อธิบายลักษณะกวี เขียนวิเคราะห์ -ใฝ่เรยี นรู้ ความสามารถใน

วรรณกรรมประเภทกวี นพิ นธ(์ ร้อยกรอง บทกวีนิพนธ์ -ความมุ่งมน่ั การสอ่ื สาร

นิพนธ์ ปจั จบุ นั ) (รอ้ ยกรอง) ในการทำงาน

-อธบิ ายลกั ษณะหรอื

ฉันทลักษณ์ของ

วรรณกรรมประเภทกวี

นิพนธ์(รอ้ ยกรอง)

-อธบิ ายหลักการ

พจิ ารณากวนี ิพนธ์

(รอ้ ยกรอง)

ตัวช้วี ัด/ผลการ สาระความรู้ กระบวนการ/ เจตคติ/ สมรรถนะ
เรยี นรู้ K ทักษะ P/S คณุ ลักษณะ ผู้เรียน C

๔.วเิ คราะห์ -อธิบายลกั ษณะของ A
วรรณกรรม สารคดี วรรณกรรมสารคดี เขียนวิเคราะห์ -ใฝเ่ รียนรู้ ความสามารถ
ประเภทบทความ ประเภทบทความ สารคดีประเภท -ความมงุ่ มน่ั ในการสื่อสาร
และ ชีวประวตั ิ ชีวประวัติ บทความ ในการทำงาน
-อธิบายหลักการ ชีวประวตั ิ
๕.วิเคราะห์ พจิ ารณาสารคดี
วรรณกรรม ประเภท เขยี นวเิ คราะห์ -ใฝ่เรียนรู้ -ความสามารถ
ประเภทบทละครพดู บทความ ชวี ประวัติ บทละครพดู -ความม่งุ ม่ัน ในการสอื่ สาร
-อธิบายลกั ษณะ
วรรณกรรมประเภท ในการทำงาน
บทละครพูด
-อธบิ ายหลักการ
พจิ ารณาบทละครพดู

๖.มนี ิสยั รักการอา่ น -พดู นำเสนอ -พูดนำเสนอ -ใฝ่เรียนรู้ -ความสามารถ

วรรณกรรมที่มีคุณคา่ ที่ วรรณกรรมทีม่ ี -ความมงุ่ ม่ัน ในการสื่อสาร

เลอื กอา่ นด้วยตัวเอง คุณค่าที่เลอื ก ในการทำงาน -ความสามารถ

-ผลติ วรรณกรรมของ อ่านดว้ ยตัวเอง - ในการคิด

ตัวเอง -ผลติ

วรรณกรรม

ของตัวเอง

\ ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร

รหสั ท ๓๒๒๐๒ รายวิชา วรรณกรรมปจั จุบนั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๖

สาระท่ี ๕ :วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ : เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทย

อยา่ งเห็นคุณคา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง

ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

K/P/A/C

๑.อธิบายความหมายคำศัพท์ -อธิบายความหมายคำศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วข้องกับ -คำศัพทเ์ กย่ี วกบั

ทเ่ี กยี่ วข้องกับ “วรรณกรรม “วรรณกรรมปัจจบุ นั ”วิวฒั นาการของวรรณกรรม วรรณกรรมปจั จุบนั

ปัจจุบัน”และววิ ฒั นาการ -ใฝเ่ รียนรู้ -ววิ ฒั นาการ

ของวรรณกรรม -ความม่งุ มัน่ ในการทำงาน วรรณกรรมปัจจบุ นั

-ความสามารถในการสอ่ื สาร

๒.วิเคราะห์เรอ่ื งสั้นและนว -อธิบายลักษณะเรอ่ื งสั้นและนวนยิ าย -ลักษณะของเรื่องสั้น

นยิ าย -อธบิ ายหลกั การพิจารณาเรอ่ื งสัน้ และนวนิยาย และนวนิยาย

-เขียนวเิ คราะหเ์ ร่ืองสน้ั และนวนิยาย การพจิ ารณาเรื่องส้ัน

-ใฝเ่ รียนรู้ และนวนิยาย

-ความมุ่งม่ันในการทำงาน

๓.วิเคราะห์วรรณกรรม -อธิบายลกั ษณะหรือฉนั ทลักษณ์ของวรรณกรรม -ลกั ษณะบทร้อยกรอง

ประเภทกวีนพิ นธ์ ประเภทร้อยกรอง(กวนี ิพนธ์) ประเภทต่างๆ

-อธิบายหลักการพิจารณาบทร้อยกรอง(กวีนพิ นธ์) การพิจารณาบทรอ้ ย

-เขียนวิเคราะหบ์ ทรอ้ ยกรองปจั จบุ นั กรอง(กวนี พิ นธ์)

-ใฝ่เรยี นรู้

-ความมงุ่ ม่ันในการทำงาน

๔.วเิ คราะหว์ รรณกรรมสาร -อธิบายลกั ษณะของวรรณกรรมสารคดี การพิจารณาบทความ

คดปี ระเภทบทความ ประเภทบทความ ชีวประวตั ิ สารคดปี ระเภท

ชวี ประวัติ -อธบิ ายหลกั การพิจารณาสารคดีประเภทบทความ บทความ ชีวประวัติ

ชวี ประวตั ิ

-เขยี นวเิ คราะหส์ ารคดี

ประเภทบทความ ชวี ประวัติ

๕.วิเคราะหว์ รรณกรรม อธิบายลกั ษณะวรรณกรรม การพิจารณา

ประเภทบทละครพูด ประเภทบทละครพูด ชีวประวัติ วรรณกรรมประเภทบท

-อธิบายหลักการพิจารณาบทละครพูด ละครพูด

-เขียนวเิ คราะห์บทละครพูด

ตัวชี้วัด/ผลการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

เรยี นรู้ K/P/A/C -ลกั ษณะและประเภท
ของ
๔.วเิ คราะหว์ รรณกรรม -อธิบายลกั ษณะของวรรณกรรมสารคดี บทความ ชีวประวตั ิ
-การพิจารณาสารคดี
สารคดีประเภทบทความ ประเภทบทความ ชีวประวัติ ประเภทบทความ
ชีวประวตั ิ
ชีวประวัติ -อธบิ ายหลักการพจิ ารณาสารคดปี ระเภท -ลกั ษณะวรรณกรรม
ประเภท
บทความ ชีวประวตั ิ บทละครพูด
-การพิจารณา
-เขียนวิเคราะหส์ ารคดี วรรณกรรมประเภทบท
ละครพดู
ประเภทบทความ ชีวประวตั ิ -การนำเสนอ
วรรณกรรมทมี่ ีคุณค่าท่ี
๕.วเิ คราะห์วรรณกรรม -อธิบายลักษณะวรรณกรรม เลือกอ่านด้วยตัวเอง
-การผลิตวรรณกรรม
ประเภทบทละครพูด ประเภทบทละครพดู ของตวั เอง

-อธิบายหลักการพิจารณาบทละครพดู

-เขียนวเิ คราะห์บทละครพดู

๖. มีนสิ ยั รักการอา่ น -พูดนำเสนอวรรณกรรมท่ีมีคณุ คา่ ที่เลอื ก
อ่านด้วยตวั เอง
-ผลติ วรรณกรรมของตัวเอง

ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
๔.วิเคราะหว์ รรณกรรม
สารคดปี ระเภทบทความ K/P/A/C
ชีวประวัติ
-อธบิ ายลักษณะของวรรณกรรม
๕.วิเคราะหว์ รรณกรรม
ประเภทบทละครพดู สารคดี -การพิจารณาบทความสารคดี
๖. มนี ิสัยรักการอ่าน
ประเภทบทความ ชีวประวตั ิ ประเภทบทความ ชีวประวัติ
๖.มนี สิ ยั รกั การอา่ น
-อธบิ ายหลักการพิจารณาสารคดี

ประเภทบทความ ชีวประวตั ิ

-เขียนวิเคราะห์สารคดี

ประเภทบทความ ชวี ประวัติ

อธิบายลักษณะวรรณกรรม การพิจารณาวรรณกรรม

ประเภทบทละครพดู ชีวประวตั ิ ประเภทบทละครพดู

-อธิบายหลกั การพิจารณาบท

ละครพูด

-เขียนวิเคราะหบ์ ทละครพดู

พูดนำเสนอวรรณกรรมท่มี ีคุณค่า การนำเสนอวรรณกรรมท่มี ี

ท่ีเลอื กอา่ นด้วยตัวเอง คุณคา่ ทเี่ ลอื กอา่ นด้วยตวั เอง

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวังวเิ ศษ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖

รหสั ท ๓๓๒๐๒ รายวชิ า วรรณกรรมปัจจบุ ัน ภาคเรยี นที่ ๒

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ การพินจิ ชีวประวัติ(ช่ัวโมงท่ี ๑-๒) จำนวน ๔ ชั่วโมง

สอนวนั ท.่ี ..................................................................................................................

..........................................................................................................................................

๑. มาตรฐาน

ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่าง

เห็นคณุ ค่าและนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ

๒. ตวั ช้วี ัด
ท ๕.๑(ม.๔-๖/๑)

๓.สาระสำคัญ
งานสารคดีประเภทชวี ประวัติ ได้รบั แนวการเขียนจากต่างประเทศ เป็นงานเขยี น

ยกยอ่ งบคุ คลท่มี ีชีวติ ที่น่าสนใจ ต้ังแต่ข้อมลู พ้นื ฐาน การทำงาน อุดมคติ นสิ ัย คุณประโยชนห์ รอื
คณุ งามความดีต่อ ผ้อู ่านสามารถนำขอ้ คิดจากการอ่านมาเปน็ แนวทางปฏิบัติใช้ชวี ิตประจำวัน
ดังนน้ั การพิจารณาชีวประวัติตามแนวทางพิจารณาจะทำให้ผู้อา่ นได้ประโยชนแ์ ละเห็นคุณค่า
ของวรรณกรรมประเภทน้ี

๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๔.๑ อธบิ ายลักษณะของชีวประวัตแิ ละหลกั การพิจารณาชีวประวัติ(K)
๔.๒ พจิ ารณาชวี ประวัตติ ามหลักการพจิ ารณา(P)
๔.๓ ใฝ่เรยี นรู้ /มุ่งม่นั ในการทำงาน(A)

๕.สาระการเรียนรู้
๕.๑ ความรู้
๕.๑.๑ สาระการเรียนรปู้ ระจำแผนการเรียนรู้
- ลักษณะของ ชีวประวัติ

- หลักการพจิ ารณาชีวประวตั ิ

๕.๑.๒ สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ -

๕.๒ ทกั ษะกระบวนการ
- ทักษะกระบวนการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ

๕.๓ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
-ใฝ่เรยี นรู้ /ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

๕.๔ สมรรถนะผู้เรียน
-ความสามารถในการส่อื สาร

๖. หลักฐานการเรียนรู้/ภาระงาน/ชิ้นงาน
๖.๑ ภาระงาน
- ทำแบบทดสอบ
๖.๒ ชนิ้ งาน
- แบบทดสอบ

๗. การวัดและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมอื วัดผล เกณฑ์การ
ประเมินผล

ดา้ นความรู้ ตรวจ แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ ๖๐%
๑.อธิบายลักษณะของชีวประวตั ิ แบบทดสอบ แบบตรวจ ขึน้ ไป
รวมทัง้ หลกั การพิจารณา แบบทดสอบ

ด้านทักษะกระบวนการ

๒.พิจารณาชวี ประวัติตามหลกั การ ตรวจ แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ ๖๐%
แบบตรวจ ขน้ึ ไป
พจิ ารณา แบบทดสอบ

ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกต แบบสังเกต ผา่ นเกณฑร์ ะดบั
-ใฝเ่ รยี นรู้ /มงุ่ มั่นในการทำงาน ๒ ขน้ึ ไป

ดา้ นสมรรถนะ ตรวจ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั
-ความสามารถในการสือ่ สาร แบบทดสอบ แบบตรวจ ๒ ข้ึนไป

๘. กระบวนการจดั กจิ กรรม/รูปแบบการจดั กิจกรรม
- เทคนคิ เธอถามฉนั ฉนั ถามเธอ(ช่ัวโมงที่ ๑)
- การสอนแบบโมเดล ซิปปา CIPPA MODEL(ชั่วโมงที่ ๒)

๙. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี ๑

ขน้ั ท่ี ๑ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูกระตนุ้ สมองนกั เรียน Brain gym ด้วยการใชน้ วิ้ ซ้ายขวาชีส้ ลับนับเลข
๒.ครูอ่านประวัตขิ องตนู บอดีส้ แลม นกั รอ้ งทีเ่ ปน็ ทร่ี ู้จักของประชาชนทัว่ ไป ให้
นักเรียนฟังและถามนกั เรียนว่า ประวัตินกั ร้องคนนน้ี ่าเอาเป็นตวั อยา่ งด้าน
ใดบ้าง
๓. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้

ขน้ั ที่ ๒ ขน้ั กิจกรรมการเรียนรู้ (เทคนคิ การสอนแบบเธอถามฉนั ฉันถามเธอ)
๑. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
๒. ให้นกั เรยี นศึกษาลกั ษณะของชีวประวัติและหลกั การพิจารณาชวี ประวตั ิ
จากใบความรู้
๓. แจกใบงานใหน้ กั เรียนอา่ นประวัตขิ องศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พีระศรี
หลังจากนัน้ ใหต้ ง้ั คำถามจากเร่อื งที่อา่ นคนละ ๓ ข้อ เขียนลงในกระดาษ
และจับคกู่ บั เพอ่ื นเปลยี่ นกนั ตอบคำถามของกันและกนั และเจ้าของคำถาม
เป็นผตู้ รวจคำตอบพร้อมแจ้งคะแนนทีเ่ พือ่ นทำได้
๔. ใหน้ กั เรียนคดั คำถามที่ดีที่สุดคนละ ๑ ขอ้ ออกไปถามเพ่อื นหน้าชั้นเรยี น

ข้ันท่ี ๓ ขน้ั สรุป

๑.ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปความถกู ต้อง
๒.ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน

ชั่วโมงที่ ๒
ขน้ั ที่ ๑ ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน
๑. ครกู ระตนุ้ สมองนักเรียน Brain gym (บริหารสมองกดนิว้ ต่างๆเปน็
จงั หวะ)
๒. ครแู จ้งผลการเรียนรู้
ขน้ั ที่ ๒ ขน้ั กิจกรรมการเรียนรู้ (การสอนแบบโมเดล ซิปปา CIPPA MODEL)
๑.ครถู ามนกั เรียนถึงหลกั การพจิ ารณาชีวประวตั ทิ เ่ี รียนในคาบท่ีผ่านมา
(ขนั้ ทบทวนความรเู้ ดมิ เพอ่ื เชอื่ มโยงความรูใ้ หม)่

๒.ใหน้ กั เรียนอา่ นและพิจารณาชวี ประวัติ สืบ นาคะเสถยี ร โดย
แบง่ กลมุ่ ชว่ ยกนั ระดมสมองตอบคำถาม
- สบื นาคะเสถียร ไดช้ ื่อวา่ วีรบุรุษแห่งราวปา่ และชอ่ื นยี้ ังอยใู่ นใจคนไทย
เพราะเหตใุ ด
(ข้นั แสวงหาความรู้ใหม่/ทำความเข้าใจความร้ใู หม่ใช้กระบวนการกลมุ่ /
แลกเปลี่ยนเรียนรู้/สรุป จัดระเบียบความรู้)

๓. ตวั แทนกลุ่ม รายงานผลการอภปิ รายกลุ่ม
(ขน้ั เสนอผลงาน)

ขั้นท่ี ๓ ขนั้ สรปุ
๑.ครูและนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ ความถกู ต้อง
๒.ให้นักเรียนทำแบบทดสอบ

๑๐. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
-ใบความรู้ ลักษณะและหลกั การพจิ ารณาชวี ประวัติ
-ใบงาน(การพิจารณาชีวประวัตศิ าสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรแี ละ
สืบ นาคะเสถยี ร แบบทดสอบ)

๑๑. การบรู ณาการสู่ศตวรรษที่ ๒๑
……. R๑ Reading การอ่านออก

……. R๒ Writing การเขียนได้
. …… R๓ Rithmethich การคิดเลขเป็น
.......... C๑ Critical thinking & problem solving(ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมี

วจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา
.......... C๒ Creativity & innovation(ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
.......... C๓ Cross-cultural understanding(ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ ง

วัฒนธรรมต่างกระบวนทศั น์)
.......... C๔ Collaboration, teamwork & leadership(ทักษะด้านความ

ร่วมมือการทำงานเป็นทีมและ ภาวะผูน้ ำ )
.......... C๕ Communications,information&media literacy (ทกั ษะด้าน

การสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันสอ่ื )
.......... C๖ Computing& ICT literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และ

เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร)
.......... C๗ Career &Learning(ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้)

๑๒.ความคิดเห็นของผู้บรหิ ารหรือผ้ไู ด้รับมอบหมาย
-ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางสาวบุญญาดา พรหมยก

แลว้ มคี วามเห็นดังน้ี
๑๒.๑ เป็นแนวการจดั การเรยี นรูท้ ี่
--------------- ดีมาก ------------------- ดี
----------------พอใช้ ------------------- ตอ้ งปรบั ปรงุ
๑๒.๒ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ได้เอากระบวนการเรียนรู้
...................เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ --------------ถา้ ไมเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั ควร
ปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
๑๒.๓ เปน็ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี
--------- นำไปใชส้ อนได้ ................ควรปรบั ปรุงกอ่ นใช้
๑๒.๓ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................
(นายวรากร บัวกง่ิ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ลงชือ่ ............................................................
(นางจีราภา บัวดำ)

รองฯฝา่ ยบรหิ ารงานวชิ าการ

ลงชอื่ ..................................................................
(นายปราโมทย์ สทุ ธิรักษ์)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวังวเิ ศษ

แผนการจดั การเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนวังวเิ ศษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖

รหัส ท ๓๓๒๐๒ รายวิชา วรรณกรรมปจั จุบนั ภาคเรียนท่ี ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ การพินิจชีวประวตั (ิ ชั่วโมงท่ี ๓-๔) จำนวน ๔ ช่ัวโมง

สอนวนั ท่ี...................................................................................................................

................................................................................................................................................

๑. มาตรฐาน

ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่าง

เหน็ คุณคา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ

๒. ตัวชวี้ ดั
ท ๕.๑(ม.๔-๖/๑)

๓.สาระสำคัญ
งานสารคดีประเภทชวี ประวัติ ไดร้ ับแนวการเขยี นจากตา่ งประเทศ เป็นงานเขยี น

ท่ยี กยอ่ งบุคคลที่มีชวี ิตที่น่าสนใจ ต้งั แต่ข้อมลู พนื้ ฐาน การทำงาน อดุ มคติ นสิ ยั คณุ ประโยชน์
หรอื คุณงามความดตี อ่ ผู้อ่านสามารถนำข้อคดิ จากการอ่านมาเปน็ แนวทางปฏบิ ัตใิ ช้
ชีวิตประจำวัน ดงั นนั้ การพิจารณาชวี ประวัตติ ามแนวทางพจิ ารณาจะทำใหผ้ ้อู ่านได้
ประโยชนแ์ ละเห็นคุณค่าของวรรณกรรมประเภทน้ี

๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้

๔.๒ พิจารณาชวี ประวตั ติ ามหลักการพิจารณา(P)
๔.๓ ใฝเ่ รยี นรู้ /มุ่งม่นั ในการทำงาน(A)
๕.สาระการเรียนรู้
๕.๑ ความรู้
๕.๑.๑ สาระการเรียนรปู้ ระจำแผนการเรียนรู้
- ลกั ษณะของ ชวี ประวัติ

- หลักการพจิ ารณาชีวประวัติ

๕.๑.๒ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น -

๕.๒ ทักษะกระบวนการ
- ทกั ษะกระบวนการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ

๕.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
-ใฝ่เรียนรู้ /มุ่งม่นั ในการทำงาน

๕.๔ สมรรถนะผเู้ รียน
-ความสามารถในการสอ่ื สาร

๖. หลักฐานการเรียนรู/้ ภาระงาน/ชิน้ งาน
๖.๑ ภาระงาน
- ทำแบบทดสอบ
๖.๒ ชน้ิ งาน
- แบบทดสอบ

๗. การวัดและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การ
ประเมินผล
ดา้ นความรู้
แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ ๖๐%
๑.พิจารณาชวี ประวัติตามหลกั การ ตรวจ ข้นึ ไป

พจิ ารณา แบบทดสอบ

ด้านทักษะกระบวนการ

๒.พิจารณาชวี ประวัติตามหลกั การ ตรวจ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ ๖๐%
ข้นึ ไป
พจิ ารณา แบบทดสอบ

ด้านคุณลกั ษณะ สังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดบั
๒ ข้ึนไป
-ใฝเ่ รียนรู้ /มุ่งมน่ั ในการทำงาน

ดา้ นสมรรถนะ ตรวจ แบบทดสอบ ผ่านเกณฑร์ ะดบั
-ความสามารถในการสื่อสาร
แบบทดสอบ ๒ ขน้ึ ไป

๘. กระบวนการจัดกิจกรรม/รปู แบบการจดั กิจกรรม
- เทคนิคเธอถามฉัน ฉนั ถามเธอ(ช่วั โมงท่ี ๑)
- การสอนแบบโมเดล ซิปปา CIPPA MODEL(ชวั่ โมงที่ ๒)

๙. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ ๑

ขนั้ ที่ ๑ ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน
๑. ครูกระตนุ้ สมองนกั เรยี น Brain gym ดว้ ยการใชน้ ้วิ ซ้ายขวาช้ีสลับนบั เลข
๒.ครอู ่านประวัตขิ องตูน บอดส้ี แลม นักรอ้ งทเ่ี ปน็ ทรี่ ้จู ักของประชาชนทั่วไป ให้
นกั เรยี นฟงั และถามนกั เรียนวา่ ประวัตินักร้องคนนี้นา่ เอาเป็นตวั อยา่ งด้าน
ใดบ้าง
๓. ครแู จง้ ผลการเรยี นรู้

ขนั้ ที่ ๒ ขนั้ กิจกรรมการเรียนรู้ (เทคนิคการสอนแบบเธอถามฉนั ฉนั ถามเธอ)
๑. ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
๒. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาลักษณะของชีวประวตั แิ ละหลกั การพจิ ารณาชวี ประวัติ
จากใบความรู้
๓. แจกใบงานให้นักเรียนอ่านประวตั ขิ องศาสตราจารย์ศิลป์ พรี ะศรี
หลงั จากนั้นให้ตง้ั คำถามจากเรื่องท่ีอ่านคนละ ๓ ขอ้ เขยี นลงในกระดาษ
และจับคูก่ ับเพอื่ นเปล่ยี นกนั ตอบคำถามของกันและกัน และเจา้ ของคำถาม
เป็นผูต้ รวจคำตอบพรอ้ มแจ้งคะแนนท่เี พ่ือนทำได้
๔. ใหน้ กั เรียนคัดคำถามที่ดีท่ีสดุ คนละ ๑ ข้อ ออกไปถามเพื่อนหน้าชั้นเรยี น

ข้นั ที่ ๓ ขนั้ สรปุ
๑.ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ ความถูกต้อง

๒.ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน

ชั่วโมงที่ ๒
ขน้ั ที่ ๑ ขนั้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน
๑. ครูกระตุ้นสมองนักเรียน Brain gym (บริหารสมองกดนวิ้ ต่างๆเปน็
จงั หวะ)
๒. ครแู จ้งผลการเรียนรู้
ข้ันท่ี ๒ ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้ (การสอนแบบโมเดล ซิปปา CIPPA MODEL)
๑.ครูถามนักเรียนถึงหลกั การพิจารณาชวี ประวตั ทิ ี่เรียนในคาบที่ผา่ นมา
(ข้ันทบทวนความรเู้ ดมิ เพื่อเชอื่ มโยงความรใู้ หม่)

๒.ใหน้ กั เรียนอา่ นและพิจารณาชีวประวตั ิ สืบ นาคะเสถียร โดย
แบง่ กลมุ่ ช่วยกนั ระดมสมองตอบคำถาม
- สบื นาคะเสถียร ไดช้ ่ือว่า วีรบรุ ษุ แหง่ ราวป่าและชื่อนยี้ ังอยใู่ นใจคนไทย
เพราะเหตใุ ด
(ข้นั แสวงหาความรใู้ หม่/ทำความเขา้ ใจความรใู้ หมใ่ ช้กระบวนการกล่มุ /
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้/สรุป จัดระเบยี บความรู้)

๓. ตัวแทนกลมุ่ รายงานผลการอภิปรายกลุ่ม
(ขนั้ เสนอผลงาน)

ขั้นที่ ๓ ขน้ั สรุป
๑.ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ความถูกต้อง
๒.ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบ

๑๐. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
-ใบความรู้ ลกั ษณะและหลักการพิจารณาชีวประวตั ิ
-ใบงาน(การพิจารณาชีวประวตั ศิ าสตราจารย์ศลิ ป์ พรี ะศรีและ
สืบ นาคะเสถียร แบบทดสอบ)

๑๑. การบรู ณาการส่ศู ตวรรษที่ ๒๑
……. R๑ Reading การอา่ นออก
……. R๒ Writing การเขยี นได้

. …… R๓ Rithmethich การคิดเลขเปน็
.......... C๑ Critical thinking & problem solving(ทักษะด้านการคิดอยา่ งมี

วิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา
.......... C๒ Creativity & innovation(ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม)
.......... C๓ Cross-cultural understanding(ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ ง

วฒั นธรรมตา่ งกระบวนทศั น์)
.......... C๔ Collaboration, teamwork & leadership(ทักษะด้านความ

ร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีมและ ภาวะผู้นำ )
.......... C๕ Communications,information&media literacy (ทักษะดา้ น

การสอ่ื สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันสื่อ)
.......... C๖ Computing& ICT literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และ

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
.......... C๗ Career &Learning(ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)

๑๒.ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหารหรือผไู้ ด้รบั มอบหมาย

-ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางสาวบุญญาดา พรหมยก

แลว้ มีความเห็นดงั น้ี

๑๒.๑ เป็นแนวการจัดการเรียนรูท้ ่ี

--------------- ดมี าก ------------------- ดี

----------------พอใช้ ------------------- ตอ้ งปรับปรุง

๑๒.๒ การจัดกิจกรรมการเรียนร้ทู ่ไี ด้เอากระบวนการเรียนรู้

...................เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั --------------ถ้าไม่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควร

ปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป

๑๒.๓ เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี

--------- นำไปใช้สอนได้ ................ควรปรับปรุงกอ่ นใช้

๑๒.๓ ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ

.................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................
(นายวรากร บวั ก่ิง)

หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ลงช่ือ............................................................
(นางจรี าภา บัวดำ)

รองฯฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ

ลงชอ่ื ..................................................................
(นายปราโมทย์ สทุ ธิรกั ษ์)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวังวเิ ศษ

๑๕. บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรียนรู้

๑. ด้านผลการเรียนรู้

๑.๑ ด้านความรู้(K)

ตารางที่ ๑ แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน

ระดบั ผลสัมฤทธ์ิ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ด(ี ๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๑ พบว่า ผู้เรียนร้อยละ.............................อยู่ในระดับ...............
รองลงมาร้อยละ....................อย่ใู นระดับ........................... รองลงมาร้อยละ........................
อยู่ในระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P)

ตารางท่ี ๒ แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน

ระดับคุณภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดมี าก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ด(ี ๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางท่ี ๒ พบว่า ผ้เู รียนร้อยละ.............................อยู่ในระดับ...............
รองลงมาร้อยละ....................อย่ใู นระดบั ........................... รองลงมาร้อยละ........................
อยู่ในระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ตารางท่ี ๓ แสดงค่าร้อยละระดบั คุณภาพของคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ระดับคุณภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ
ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)
ดี(๗๐-๗๙ คะแนน)
พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)
ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๓ พบว่า ผู้เรียนร้อยละ.............................อย่ใู นระดับ...............

รองลงมาร้อยละ....................อยู่ในระดบั ........................... รองลงมาร้อยละ........................

อย่ใู นระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๔ ด้านสมรรถนะ ความสามารถในการส่ือสาร

ตารางที่ ๔ แสดงค่าร้อยละระดบั คุณภาพทางการส่ือสาร

ระดบั คณุ ภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ดี(๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๔ พบว่า ผ้เู รียนร้อยละ.............................อยู่ในระดบั ...............

รองลงมาร้อยละ....................อย่ใู นระดับ........................... รองลงมาร้อยละ........................

อย่ใู นระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๒. บรรยากาศการเรียนรู้

......................................................................................................................................................................

................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................

................................................................................................................................

๓. การปรับเปลยี่ นแผนการจัดการเรียนรู้

............................................................................................................................................

...........................................................................................................................................

๔. ข้อค้นพบพฤตกิ รรมการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

๕. อื่นๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................

๖.ปัญหา/สิ่งท่ีพฒั นา/แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางพฒั นา

ปัญหา/สิ่งทพี่ ฒั นา สาเหตขุ องปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ ผลการแก้ไข/พฒั นา
พฒั นา พฒั นา

ลงช่ือ...............................................ผ้สู อน
(นางสาวบุญญาดา พรหมยก)

รับทราบผลการดาเนินการ
ลงช่ือ........................................หวั หน้ากล่มุ สาระ
(นายวรากร บวั กง่ิ )

ลงชื่อ..........................................รองฯฝ่ ายบริหารงานวชิ าการ
(นางจีราภา บวั ดา)

ลงชื่อ...................................................ผู้อานวยการโรงเรียนวงั วเิ ศษ
(นายปราโมทย์ สุทธิรักษ์)

วชิ าวรรณกรรมปัจจุบนั เฉลย เร่อื ง การพนิ ิจชวี ประวัติ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ แบบทดสอบ

เฉลย

แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน(ดา้ นความร)ู้

๑. ชวี ประวัตคิ ืองานเขยี นลกั ษณะใด(๒ คะแนน)
ตอบ ชีวประวัตคิ อื งานเขียนร้อยแกว้ ที่กลา่ วถึงชีวติ ของบุคคล ทัง้ วนั เดือน ปีเกดิ
การศึกษา เหตกุ ารณ์ตา่ งๆในชวี ิต

๒. อัตชีวประวตั ิ มคี วามแตกต่างจากชวี ประวัตอิ ย่างไร(๒ คะแนน)
ตอบ อัตชวี ประวตั ิ เปน็ งานเขียนที่เจ้าของประวัติเป็นผเู้ ขยี นเอง

๓. หลกั การพิจารณาชีวประวตั ิ พจิ ารณาส่วนใดบ้าง(ตอบ ๓ ข้อ)(๖ คะแนน)
ตอบ พจิ ารณาว่าเปน็ เร่ืองราวของใคร มีความเป็นมาอยา่ งไร มหี ลักในการดำเนินชวี ิตอย่างไร
มีความสำคัญอย่างไร ชวี ติ ราบร่นื หรือมีอปุ สรรคหรือไม่ ผ้อู า่ นนำมาใช้ประโยชน์ดา้ นใด

เกณฑใ์ นการตรวจคำตอบแตล่ ะข้อ(ข้อ ๓ เอา ๓ คณู คะแนนทีไ่ ด)้

ลำดบั ลักษณะคำตอบ ๒ คะแนน ๐
๑.๕ ๑

๑ เขยี นคำตอบถกู ต้องทง้ั หมด ใชภ้ าษาถกู ต้อง
๒ เขยี นคำตอบถูกต้องเกือบทัง้ หมด ใชภ้ าษา

ถกู ตอ้ งเกือบทง้ั หมด
๓ เขียนคำตอบถกู ต้องเป็นสว่ นมาก ใช้ภาษา

บกพรอ่ งบา้ ง
๔ เขียนคำตอบถูกต้องเป็นส่วนนอ้ ย ใชภ้ าษา

บกพรอ่ ง

เกณฑ์การใหค้ ะแนน
๘-๑๐ คะแนน ระดบั ดมี าก ๗ คะแนน ระดบั ดี

๖ คะแนน ระดบั พอใช้ ๐-๕ คะแนน ปรบั ปรงุ

วิชาวรรณกรรมปัจจุบนั ใบงาน เรอื่ ง การพินจิ ชีวประวตั ิ

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๖ เฉลย (สืบ นาคะเสถยี ร)

เฉลย

๑. “สืบ นาคะเสถียร เป็นคนดีต้ังแต่วัยเยาว”์ จงอธบิ ายขอ้ ความนี้

ตอบ ตอนเปน็ เด็กตง้ั ใจเรียนมีผลการเรยี นดี ใชเ้ วลาวา่ งชว่ ยเหลอื ครอบครัวทำไรไ่ ถนา มี

การยกเสรมิ คันนาเพ่ือไมใ่ ห้เกดิ ขอ้ พพิ าทกับเพื่อนบา้ น

๒. สบื นาคะเสถียร มีหลักการหรืออุดมคติในชีวติ อยา่ งไร จงอธิบาย

ตอบ ทำความดี ทำงานเพ่ือสว่ นรวมมาตลอด รกั ปา่ รักสัตวป์ า่ เช่น ชว่ ยเหลอื สตั ว์ปา่

ป้องกันตอ่ ต้านการบุกรกุ ทำลายปา่

๓. อุปสรรคทีย่ ่งิ ใหญข่ องการทำงานของสืบ นาคะเสถียร มอี ะไรบ้าง

ตอบ ในขณะทีท่ ่านมุง่ อนุรกั ษ์ป่าและสัตวป์ ่าแตร่ ัฐบาลไม่ให้ความสำคญั กบั การอนรุ กั ษป์ า่

ชาวบา้ นบกุ รกุ ปา่ รวมทั้งผมู้ อี ิทธิพลกบ็ กุ รุกปา่

๔. ชีวิตในทางท่รี าบรื่นของสืบ นาคะเสถยี รคือสง่ิ ใดบา้ ง

ตอบ ประวตั ชิ วี ิตส่วนตวั คอื ทา่ นมีผลการเรียนดี ได้ศึกษาในสถาบนั ระดบั สูง ได้ประกอบ

อาชีพท่ีใจรกั ประเทศองั กฤษ สนับสนุนให้ทนุ การศึกษา

๕. การฆ่าตัวตายของสืบ นาคะเสถียร เป็นเร่อื งท่ีนา่ เศร้าเสยี ใจ แต่ความตายของเขา เรยี กวา่

ไม่ตายเปล่า เพราะอะไร

ตอบ เปน็ การปลุกกระแสให้ผูห้ ลักผใู้ หญ่ต่ืนตัวประชมุ อยา่ งเอาจริงเอาจงั เพือ่ อนรุ กั ษป์ า่

เกณฑ์ในการตรวจคำตอบแตล่ ะข้อ คะแนน
ลำดบั ลักษณะคำตอบ ๒ ๑.๕ ๑ ๐

๑ เขียนคำตอบถูกตอ้ งทง้ั หมด ใชภ้ าษาถกู ต้อง
๒ เขยี นคำตอบถูกต้องเกือบท้ังหมด ใช้ภาษาถกู ตอ้ งเป็นส่วนมาก
๓ เขยี นคำตอบถูกต้องเปน็ ส่วนมาก ใช้ภาษาบกพรอ่ งบ้าง
๔ เขยี นคำตอบถกู ตอ้ งเป็นสว่ นน้อย ใช้ภาษาบกพรอ่ ง
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
๘-๑๐ คะแนน ระดับดมี าก ๗ คะแนน ระดับดี
๖ คะแนน ระดับพอใช้ ๐-๕ คะแนน ปรบั ปรุง

วิชาวรรณกรรมปัจจุบัน ใบงาน เร่อื ง การพินิจชีวประวัติ

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ( เฉลย ) (ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พีระศร)ี

เฉลย

จงตอบคำถามต่อไปนี้(๑๐ คะแนน)

๑. ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พรี ะศรี รกั เมืองไทย จงอธบิ ายและยกตวั อยา่ งประกอบข้อความน้ี

ตอบ ท่านเปน็ ชาวอติ าลมี ผี ลงานเปน็ ท่ียอมรับในประเทศเจรญิ อิตาลีแตท่ า่ นเลือกอยู่

เมอื งไทยทีส่ งบ ท่านเปน็ ผู้สร้างงานศลิ ปะใหเ้ ป็นที่ประจักษ์ในไทยจำนวนมาก ทา่ นรา่ ง

หลกั สตู รสอนศิลปะในไทยจนโรงเรียนศิลปะกลายเปน็ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร

๒. ศาสตราจารย์ศิลป์ พรี ะศรี เป็นสดุ ยอดของชาวต่างชาติท่สี รา้ งศลิ ปกรรมล้ำคา่ ไว้ใหช้ าวไทย

จงอธิบาย

ตอบ มงี านปั้นซ่ึงเปน็ ผลงานลำ้ ค่าใหค้ นไทยประจกั ษ์ เช่น รปู ปัน้ ที่อนสุ าวรียช์ ัยสมรภมู ิ

รูปปัน้ ย่าโม รปู ปนั้ รัชกาลที่ ๑ทเี่ ชงิ สะพานพุทธ รูปปนั้ เจดยี ย์ ุทธหตั ถี

๓. ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พีระศรี ศิลปินจากอิตาลีทำอยา่ งไรสามารถเอาชนะอปุ สรรคทำให้ผูม้ ี

อำนาจของบ้านเมืองสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั ยอมรับท่าน

ตอบ ทา่ นใช้ผีมอื ปั้นพระบรมรปู พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว(รชั กาลที่ ๖)

๔. คณุ สมบัตคิ วามเปน็ “ครทู ีด่ ี”ของศาสตราจารย์ศลิ ป์ พรี ะศรี ท่ที ำให้ลูกศษิ ย์รกั ทา่ นมี

อะไรบา้ ง จงอธิบาย

ตอบ ท่านรักศิษย์ เอาใจใสศ่ ษิ ย์ รา่ งหลักสตู รให้โรงเรียนศิลปะ ได้ฝึกฝนเยาวชนช่วยปนั้

อนุสาวรยี ์

๕. นกั เรียนคิดวา่ ชีวประวตั ขิ องศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี เปน็ ตัวอยา่ งให้นักเรยี นนำไป

เป็นข้อคิดเร่ืองใด จงอธิบาย

ตอบ ความดี ความขยนั หมนั่ เพยี ร เอาจริงเอาจงั รักในงานศลิ ปะ เปน็ ครเู อาใจใสศ่ ิษย์ ฯลฯ

เกณฑ์ในการตรวจคำตอบแตล่ ะขอ้

คะแนน

ลำดบั ลักษณะคำตอบ ๒ ๑.๕ ๑ ๐

๑ เขียนคำตอบถูกตอ้ งทัง้ หมด ใชภ้ าษาถกู ต้อง
๒ เขยี นคำตอบถกู ต้องเกือบทงั้ หมด ใช้ภาษาถูกตอ้ งเกอื บท้งั หมด
๓ เขยี นคำตอบถูกต้องเป็นสว่ นมาก ใช้ภาษาบกพรอ่ งบา้ ง
๔ เขยี นคำตอบถกู ตอ้ งเปน็ สว่ นน้อย ใช้ภาษาบกพรอ่ ง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
๘-๑๐ คะแนน = ระดับดมี าก ๗ คะแนน ระดบั ดี ๖ คะแนน = ระดบั พอใช้
๐-๕ คะแนน = ปรับปรุง

วชิ าวรรณกรรมปจั จบุ ัน เฉลย เร่อื ง การพนิ ิจชวี ประวัติ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ แบบทดสอบ

เฉลย

แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน(ดา้ นความร)ู้

๑. ชวี ประวัตคิ ืองานเขยี นลกั ษณะใด(๒ คะแนน)
ตอบ ชีวประวัตคิ อื งานเขียนร้อยแก้วท่กี ลา่ วถึงชีวติ ของบุคคล ทัง้ วนั เดือน ปีเกดิ
การศึกษา เหตกุ ารณต์ ่างๆในชวี ติ

๒. อัตชีวประวตั ิ มคี วามแตกต่างจากชวี ประวัตอิ ย่างไร(๒ คะแนน)
ตอบ อัตชวี ประวัติ เป็น งานเขียนทเี่ จ้าของประวัติเป็นผเู้ ขยี นเอง

๓. หลกั การพิจารณาชีวประวัติ พจิ ารณาส่วนใดบ้าง(ตอบ ๓ ข้อ)(๖ คะแนน)
ตอบ พจิ ารณาวา่ เป็นเรอ่ื งราวของใคร มีความเป็นมาอยา่ งไร มหี ลักในการดำเนินชวี ิตอย่างไร
มีความสำคัญอย่างไร ชวี ติ ราบรื่นหรือมอี ปุ สรรคหรือไม่ ผ้อู า่ นนำมาใช้ประโยชน์ดา้ นใด

เกณฑใ์ นการตรวจคำตอบแตล่ ะขอ้ (ขอ้ ๓ เอา ๓ คณู คะแนนทีไ่ ด)้

ลำดบั ลกั ษณะคำตอบ ๒ คะแนน ๐
๑.๕ ๑

๑ เขยี นคำตอบถกู ต้องทง้ั หมด ใชภ้ าษาถกู ต้อง
๒ เขยี นคำตอบถูกตอ้ งเกือบท้งั หมด ใชภ้ าษา

ถกู ตอ้ งเกือบท้ังหมด
๓ เขียนคำตอบถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก ใช้ภาษา

บกพรอ่ งบ้าง
๔ เขียนคำตอบถูกตอ้ งเปน็ ส่วนนอ้ ย ใชภ้ าษา

บกพรอ่ ง

เกณฑ์การใหค้ ะแนน
๘-๑๐ คะแนน ระดบั ดมี าก ๗ คะแนน ระดบั ดี

๖ คะแนน ระดบั พอใช้ ๐-๕ คะแนน ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวงั วเิ ศษ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖

รหสั ท ๓๓๒๐๒ รายวชิ า วรรณกรรมปจั จุบนั ภาคเรียนที่ ๒

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒(ชว่ั โมงที่ ๕-๖)การพนิ จิ บทกวนี ิพนธ์ จำนวน ๘ ชั่วโมง

สอนวันท่ี..........................................................................................

........................................................................................................................................

๑. มาตรฐาน

ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่าง

เห็นคณุ ค่าและนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง

๒. ตัวชีว้ ดั

ท ๕.๑(ม.๔-๖/๑)

๓.สาระสำคัญ

กวีนพิ นธ์หรอื บทร้อยกรองปัจจุบนั มุง่ การแสดงความคดิ อยา่ งอิสระเสรี จึงไมไ่ ดม้ ่งุ

ความไพเราะ ความงามของการใช้คำ ไม่นิยมธรรมเนียมนิยมในการแต่งแบบเดิม และอาจไม่

เคร่งครดั ฉนั ทลกั ษณ์ เนอ้ื เร่ือง จุดประสงค์เพ่อื สะท้อนชวี ิตจริง สงั คม การเมอื ง ให้แง่คดิ แก่

ผู้อ่าน ดังน้นั การศึกษาบทกวนี พิ นธห์ รือบทรอ้ ยกรองปัจจบุ ัน จะต้องเขา้ ใจลักษณะท่ี

เปล่ียนแปลงดงั กลา่ ว จะทำให้เห็นคุณค่าจากการอ่านรอ้ ยกรองปัจจบุ นั อยา่ งแทจ้ รงิ

๔. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

-พิจารณาร้อยกรองตามหลักพิจารณา(K)(P)

- ใฝ่เรียนร/ู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน(A )

๕.สาระการเรียนรู้

๕.๑ ความรู้

๕.๑.๑ สาระการเรียนรู้ประจำแผนการเรียนรู้

- การพิจารณาร้อยกรอง

๕.๑.๒ สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ -

๕.๒ ทกั ษะกระบวนการ

- ทักษะกระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและเขยี นส่ือสาร

๕.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
-ใฝเ่ รียนรู้/มุ่งมน่ั ในการทำงาน

๕.๔ สมรรถนะผเู้ รียน
-ความสามารถในการส่อื สาร

๖. หลักฐานการเรียนร/ู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน
๖.๑ ภาระงาน
- ทำแบบทดสอบ
๖.๒ ชน้ิ งาน
- แบบทดสอบ

๗. การวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์การ
วดั ผล ประเมินผล
ด้านความรู้ ทำแบบทดสอบ แบบทดสอบ
การวิเคราะหแ์ ละประเมินคณุ ค่า ผ่านเกณฑ์
ของกวีนพิ นธต์ ามหลักการ ทำแบบทดสอบ แบบทดสอบ ๖๐%ขึ้นไป
พจิ ารณา สงั เกต
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ทำแบบทดสอบ แบบสังเกต ผ่านเกณฑ์
-วเิ คราะหแ์ ละประเมินคุณค่า แบบทดสอบ ๖๐%ข้ึนไป
กวีนพิ นธ์
ด้านคณุ ลักษณะ ผา่ นระดับ๒ ขึน้
-ใฝ่เรียนร/ู้ มุ่งมุน่ ในการทำงาน ไป
ดา้ นสมรรถนะ ผา่ นระดบั ๒ ขึ้น
-ความสามารถด้านส่ือสาร ไป

๘. กระบวนการจดั กจิ กรรม/รูปแบบการจดั กิจกรรม
-กระบวนการสืบเสาะหาความร(ู้ Inquiry) 5ES (ช่ัวโมงที่ ๑)

-เรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน (ชั่วโมงที่๒)

๙. กิจกรรมการเรยี นรู้
ช่วั โมงท่ี ๑
ข้ันท่ี ๑ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครนู ำเบรนยิมด้วยท่าสลับมือไขว้กันแตะจมูกและแตะใบหูสลบั กัน ๑๐ คร้งั
๒. ครนู ำสนทนาว่า ประเทศไทยมนี กั เขยี นร้อยกรองปัจจบุ ันคนหนึ่งมีชื่อเสยี งโดง่
ดังเรอื่ ง การแตง่ ร้อยกรองเพราะใชค้ วามสามารถในการแตง่ ร้อยกรอง
โดยเฉพาะประเภทกลอนยงั คงความงาม ความไพเราะของการใชถ้ ้อยคำ
ให้นักเรียนตอบว่าหมายถึงใคร(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบลู ย)์ และเรากำลังจะ
ศึกษางานของนกั เขียนท่านนี้(ข้นั กระตุ้นความสนใจ engagement)
๓. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้
๑. ใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
๒. ครูถามนักเรียนถงึ ความรเู้ ดมิ เรื่อง ฉันทลักษณ์โคลงสี่สภุ าพ ทำความ
เข้าใจกนั อกี ครง้ั
๓. ครแู จกใบงานบทร้อยกรองประเภทโคลงสสี่ ภุ าพ เรอ่ื ง การะเกด
กำหนดให้นักเรยี นสังเกตฉันทลักษณ์บทโคลงคนละ ๑ บทและนำเสนอ
ว่าบทโคลงที่ไดร้ ับมอบหมายให้สังเกตมฉี ันทลักษณ์ถกู ตอ้ งหรือไม่
(ขนั้ สำรวจคน้ หา exploration ขน้ั อธบิ ายความรู้ explanationและ
ขน้ั ขยายความรคู้ วามเข้าใจ Elaboration)
ขัน้ ที่ ๓ ข้ันสรปุ
๑.ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรปุ ความถกู ต้องจากการสังเกตฉันทลกั ษณ์ของบท
โคลงทีพ่ จิ ารณา
๒. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบ(ขัน้ ตรวจสอบผล evaluation)

ชวั่ โมงท่ี ๒
ข้ันที่ ๑ ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน
๑. ครูนำเบรนยิมด้วยเทคนคิ นบั ๑-๕ มอื สองขา้ งผลดั กนั ช้ผี ลัดกนั ยกนว้ิ ตาม
จำนวน

๒. ครูทบทวนความรูเ้ ก่าเมือ่ ชว่ั โมงที่ผา่ นมาว่าไดศ้ ึกษาฉันทลักษณ์ของโคลง
ไปแลว้ ชั่วโมงนใ้ี หศ้ ึกษาเนอื้ เรอ่ื งของบทโคลงเร่ือง การะเกด

๓. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้

ขน้ั ที่ ๒ ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้
๑. ครูแจกใบงาน(คำถามเกย่ี วกับเน้ือเรื่อง การะเกด) ๑๐ ขอ้ ให้นกั เรียน
อา่ นออกเสียงดงั ๆ(ขั้นกำหนดปัญหา)
๒. ครแู จกใบงาน(บทโคลงเร่ือง การะเกด)ให้นกั เรียนศกึ ษาเนื้อเรื่อง
(ขัน้ ทำความเข้าใจ ดำเนนิ การศึกษาคน้ คว้า สงั เคราะห์ความรู้เดมิ )
๓. เขยี นคำตอบลงในใบงาน

ข้ันท่ี ๓ ขน้ั สรุป
๑. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สรุปความถูกต้องของคำตอบจากใบงาน
๒. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นตอนที่

๑๐. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
-ใบความรู้ ไม่มี
-ใบงาน บทโคลงเร่ือง การะเกด จากหนังสือ ชักมา้ ชมเมอื ง

๑๑. การบูรณาการสู่ศตวรรษที่ ๒๑
……. R๑ Reading การอา่ นออก
……. R๒ Writing การเขียนได้
. …… R๓ Rithmethich การคิดเลขเป็น
.......... C๑ Critical thinking & problem solving(ทักษะด้านการคิดอย่างมี
วจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา
.......... C๒ Creativity & innovation(ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
.......... C๓ Cross-cultural understanding(ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม
ตา่ งกระบวนทศั น)์
.......... C๔ Collaboration, teamwork & leadership(ทักษะด้านความรว่ มมอื
การทำงานเป็นทมี และ ภาวะผู้นำ )
.......... C๕ Communications,information&media literacy (ทักษะด้านการ
สื่อสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันส่ือ)

.......... C๖ Computing& ICT literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่ือสาร)

.......... C๗ Career &Learning(ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)

๑๒.ความคดิ เห็นของผ้บู ริหารหรือผู้ไดร้ ับมอบหมาย

-ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวบุญญาดา พรหมยก

แลว้ มคี วามเหน็ ดังนี้

๑๒.๑ เปน็ แนวการจดั การเรียนรูท้ ี่

--------------- ดมี าก ------------------- ดี

----------------พอใช้ ------------------- ตอ้ งปรบั ปรุง

๑๒.๒ การจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ได้เอากระบวนการเรียนรู้

...................เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ --------------ถ้าไม่เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ ควร

ปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป

๑๒.๓ เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่

--------- นำไปใชส้ อนได้ ................ควรปรบั ปรงุ กอ่ นใช้

๑๒.๓ ข้อเสนอแนะอื่นๆ

.................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .......................................................
(นายวรากร บวั กง่ิ )

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ลงช่ือ............................................................
(นางจีราภา บวั ดำ)

รองฯฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ

ลงชอ่ื ..................................................................
(นายปราโมทย์ สุทธิรักษ์)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวงั วเิ ศษ

๑๕. บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรียนรู้

๑. ด้านผลการเรียนรู้

๑.๑ ด้านความรู้(K)

ตารางที่ ๑ แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน

ระดบั ผลสัมฤทธ์ิ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดมี าก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ด(ี ๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๑ พบว่า ผู้เรียนร้อยละ.............................อย่ใู นระดับ...............
รองลงมาร้อยละ....................อย่ใู นระดบั ........................... รองลงมาร้อยละ........................
อย่ใู นระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ(P)

ตารางท่ี ๒ แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน

ระดับคณุ ภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ด(ี ๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๒ พบว่า ผู้เรียนร้อยละ.............................อย่ใู นระดับ...............
รองลงมาร้อยละ....................อยู่ในระดับ........................... รองลงมาร้อยละ........................
อย่ใู นระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ตารางท่ี ๓ แสดงค่าร้อยละระดบั คุณภาพของคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ระดบั คณุ ภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ
ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)
ดี(๗๐-๗๙ คะแนน)
พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)
ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๓ พบว่า ผู้เรียนร้อยละ.............................อยู่ในระดับ...............

รองลงมาร้อยละ....................อยู่ในระดับ........................... รองลงมาร้อยละ........................

อยู่ในระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๑.๔ ด้านสมรรถนะ ความสามารถในการส่ือสาร

ตารางที่ ๔ แสดงค่าร้อยละระดบั คุณภาพทางการส่ือสาร

ระดบั คุณภาพ จานวนนักเรียน ร้อยละ

ดีมาก(๘๐-๑๐๐ คะแนน)

ด(ี ๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้(๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรับปรุง(๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๔ พบว่า ผ้เู รียนร้อยละ.............................อยู่ในระดับ...............

รองลงมาร้อยละ....................อยู่ในระดบั ........................... รองลงมาร้อยละ........................

อย่ใู นระดบั ...........................และพบว่าร้อยละ..........................ต้องปรับปรุง

๒. บรรยากาศการเรียนรู้

......................................................................................................................................................................

................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................

................................................................................................................................

๓. การปรับเปลย่ี นแผนการจดั การเรียนรู้

............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................

๔. ข้อค้นพบพฤตกิ รรมการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

๕. อื่นๆ
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................

๖.ปัญหา/สิ่งที่พฒั นา/แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางพฒั นา

ปัญหา/สิ่งทพ่ี ฒั นา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ ผลการแก้ไข/พฒั นา
พฒั นา พฒั นา

ลงช่ือ...............................................ผ้สู อน
(นางสาวบุญญาดา พรหมยก)

รับทราบผลการดาเนินการ
ลงช่ือ........................................หวั หน้ากล่มุ สาระ
(นายวรากร บวั กงิ่ )

ลงชื่อ..........................................รองฯฝ่ ายบริหารงานวชิ าการ
(นางจีราภา บวั ดา)

ลงชื่อ...................................................ผู้อานวยการโรงเรียนวงั วเิ ศษ
(นายปราโมทย์ สุทธิรักษ์)

วชิ าวรรณกรรมปจั จุบัน ใบงาน เรอ่ื ง การพินิจบทร้อยกรอง

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๖

จงบอกความหมายของร้อยกรองต่อไปน้ี

๑. เปิบข้าวทกุ คราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ

เหง่ือกทู ี่สกู ิน จึงกอ่ เกดิ มาเปน็ คน

ขา้ วนนี้ ะมีรส ใหช้ นชิมทกุ ชั้นชน

เบือ้ งหลังสิทุกขท์ น และขมข่ืนจนเขียวคาว

จากแรงมาเปน็ รวง ระยะทางน้ันเหยยี ดยาว

จากรวงเป็นเมล็ดข้าว ล้วนทกุ ข์ยากลำบากเขญ็

๒. ทสี่ ุดงานประกวดควายหมายคุณคา่

ตรี าคาความงามว่างามไฉน

ยอ่ มประกวดกรรมการพรอ้ มกันไป

ว่างามใจงามปัญญาคา่ เทียมความ

๓. มึงใหก้ ูฟุง้ เฟ้อเหอ่ เหิม

เพมิ่ เติมคอื ความสาไถย

เดยี๋ วนก้ี เู หี้ยแลว้ เป็นไง

มงึ โทษกจู ญั ไรในทันที

เรียกร้องให้กูรกั มึง

ศวิ ลงึ คเ์ อาไหมล่ะคณุ พ่ี

มึงจะตายกต็ ายอย่ารอรี

ตายห่าเสียกด็ ี ไอ้“สงั คม”

๔. หน้าเขาหนาหน้าเขาด้านงานเขาหนัก

งานเขาเหนื่อยงานเขาหนัก(หนักชบิ หา-)

“ถือคนั ไถถือเตารดี เดินกรดี กราย”

ฃบารม!ี กระจายครอบคลมุ เมอื ง

๕. สอบเอย๋ สอบคดั เลือก รอ่ นทงิ้ เปลือกเลือกแต่เนอ้ื เหลือหลกี เล่ียง

คัดแตค่ นเรยี นเกง่ ก็พอเพียง หวงั ชอ่ื เสยี งเกียรติก้องสิ่งต้องการ

แล้วเปลือกละ่ ทิง้ ไหนใครรับบ้าง ตอ้ งปลิวควา้ งร่อนไปไกลสถาน

ก่อคดกี อ่ ปปปัญหาเหลือประมาณ นักวชิ าการชว่ ยดว้ ยเถดิ เอย


Click to View FlipBook Version