ของเล่นภูมิปัญญาไทยจะช่วยพัฒนาความคิด และการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับเด็กและ สามารถช่วยส่งเสริมทักษะทางร่างกายและสติปัญญา ช่วยทำให้เด็กมีพัฒนาการเหมาะสมกับวัย ทำ ให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการทำของเล่นด้วยตนเอง จะทำให้เด็กรู้สึกสนุกไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ ฝึกให้ เด็กๆคิดอย่างเป็นระบบ มีแบบแผน นอกจากนี้ ของเล่นภูมิปัญญาไทย บางอย่างช่วยทำให้เด็กได้ฝึก เรียนรู้เป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่เด็กๆ ฝึกให้เด็ก คิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการประยุกต์ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือสิ่งที่เหลือใช้มาดัดแปลงทำเป็นของเล่นได้ เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านไทย นอกจากนี้ยังได้นำเสนอหลักการและทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ อธิบายการทำงานของของเล่นเหล่านี้
1. บทนำ 1 2. ลูกข่าง 5 3. ของเล่นที่เกี่ยวกับความเฉื่อย 8 4. ขอลเล่นที่ใช้สปริง 10 5. ของเล่นประเภทเสียง 12 6. ของเล่นที่เกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ 1 6 7. ของเล่นที่เกี่ยวกับสมดุล 19 8. ของเล่นประเภทการแก้ใข 2 0 9. ของเล่นที่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง 2 1 10.ของเล่นเชื่อมโยงอาชีพ 2 3 11.สัตว์จำลอง 2 5
บทนำ การเล่น เรียนรู้ ของเล่นภูมิปัญญาไทย หมายถึง ของเล่นที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ มีการ ประดิษฐ์ คิดค้นผ่านการเล่นและถ่ายทอดการทำในอดีต หรือเป็นของเล่นที่ทำขึ้นใหม่ตามความคิด และจินตนาการของคนทำ เพื่อทำให้ผู้เล่นเกิดการเรียนรู้ พัฒนาการ และความคิดสร้างสรรค์ “ของเล่น” จึงไม่ใช่เพียงสิ่งประดิษฐ์เพื่อความเพลิดเพลิน แต่ได้บันทึกพัฒนาการความ เปลี่ยนแปลงในท้องถิ่น ความหมายของชิ้นงานแต่ละชิ้นสามารถสร้างความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับชีวิต ในอดีต เด็ก ๆ รู้จักเปรียบเทียบกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน 1
แนวคิดการประดิษฐ์และพัฒนาของเล่นภูมิปัญญาไทย เริ่มจากการสังเกตสภาพแวดล้อม ธรรมชาติ และทรัพยากรรอบตัว ผสานนกับจินตนาการของคนไทย และการเลือกวัสดุ เครื่องมือ นำมาประดิษฐ์ เป็นของเล่นประเภทต่าง ๆ ผลผลิตในท้องถิ่นสู่ภูมิปัญญาอันล้ำเลิศ วัสดุในการทำของเล่นภูมิปัญญาไทย นำมาจากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ ผลผลิตจาก ต้นมะพร้าว ต้นกล้วยที่มีอยู่เกือบทุกที่ และพืชเฉพาะถิ่นบางชนิดเช่น ลูกยางทางภาคใต้ ลูกสะบ้าใน ป่าทางภาคเหนือ และไม้ไผ่ซางที่พบมากในภาคอีสาน ไม้ไผ่ ลูกยาง ไม้ไผ่ผ่าซีก 2
วัสดุจากธรรมชาติ -ไม้ไผ่ เช่น ไผ่สีสุก ไผ่ซาง ไผ่ไร่ และไผ่บ่ง -ไม้ เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ประดู่ ไม้แดง ไม้ชิงชัน ไม้มะขาม และไม้มะม่วง -ผลผลิตจากต้นมะพร้าว เช่น ทางมะพร้าว ใบมะพร้าว กาบมะพร้าว และกะลามะพร้าว -ผลผลิตจากต้นกล้วย เช่น ลำต้นกล้วย ใบกล้วย ทางกล้วย และเชือกกล้วย -เมล็ดของต้นไม้ในท้องถิ่น เช่น ลูกสะบ้า ลูกยาง ลูกยางนา เมล็ดมะม่วง กะล่อน และเมล็ดมะกล่ำตาแดง ลูกสะบ้า ใบมะพร้าว ไม้สัก 3
เครื่องมือทุ่นแรง ไทย เครื่องมือทุ่นแรง หมายถึง เครื่องมือที่ช่วยลดความยากลำบากในการทำงาน หรือลดการออกแรง ให้น้อยลง ในอดีต ไฟฟ้ายังไม่อาจเข้าถึงในท้องถิ่น การทำของเล่นจึงทำด้วยมือทุกขั้นตอนกับ เครื่องมือทุนแรงบางชนิดที่ช่วยในการทำของเล่นเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น มีด เลื่อย และเหล็กแหลม ผสานกับฝีมือความประณีต และอุตสาหะ จนกลายเป็นของเล่นภูมิปัญญา ความคิดและจินตนาการ เป็นการนึกคิด การสร้างภาพในสมอง จินตนาการอาจรับมาจากการบอกเล่า ได้คิดเอง การได้ยิน จินตนาการจึงเป็นตัวช่วยให้เกิดการคิด การเรียนรู้ และอาจนำความรู้ไปใช้งานหรือใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ความช่างสังเกตธรรมชาติรอบตัวของคนไทยสมัยก่อน นำไปสู่จินตนาการที่กลั่นกรองออกมาเป็น ของเล่นภูมิปัญญาไทย เช่น ของเล่นที่ทำให้เกิดเสียง การเคลื่อนที่ การหมุน หรือการลอยสู่ท้องฟ้า ของเล่นบางชนิดทำเลียนแบบอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เช่น ประมง เกษตร และช่างไม้ ขณะที่ บางชนิดทำเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนในสมัยก่อน เช่น นก หนู เต่า และไก่ เป็นต้น 4
ลูกข่าง ลูกข่างถือเป็นการละเล่นไทยชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นโดยการผูกด้วยเชือกหรือการหมุนด้วยมือ และขว้าง ลูกข่างลงพื้นให้เกิดการหมุน ความสนุกของการเล่นลูกข่างให้มีความเร็วมากที่สุดเพื่อแข่งขันว่าลูกข่าง ของใครหมุนได้นานที่สุด ลูกข่างส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ที่เหลาจนเป็นรูปร่าง ลูกข่างไม้ ลูกข่างโว้ ลูกข่างสตางค์ ลูกข่างโว้ลูกข่างโว้จะมีเสียงดัง โว้ เวลาที่หมุนซึ่งจะต้องมีเชือกและไม้ยิงลูกข่าง แต่ละปล้องของไม้ไผ่ จะเจาะเป็นรู เมื่อหมุนด้วยความเร็ว อาการศจะผ่านเข้าไปในช่องนี้เกิดเสียงคล้ายการเป่าขลุ่ย ลูกข่างสตางค์สมัยก่อนสตางค์รูมาทำลูกข่างให้เด็กๆ เล่น แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้ไม้ โดยนำเชือก มาพันที่แกนลูกข่าง ให้เหลือปลายเชือกไว้พอที่จะจับได้ถนัดมือมืออีกข้างหนึ่งจับที่สลักลูกข่างดึงเชือก ออกแล้วปล่อยลูกข่างลงพื้น ลูกข่างก็จะหมุน 5
ลูกข่าง ลูกข่างไม้ชาวเขา ทําจากลำต้นไม้ ถากเป็นรูปทรงกระบอกปลาย แหลมเวลาเล่นใช้เชือกที่ผูกกับ แท่งไม้พันรอบเพื่อเหวี่ยง ลูกช้างให้ หมุนสําหรับชาวเขา บางเผ่าจะมีการเล่นลูกข่าง ชนิด ทุกวันขึ้นปีใหม่ ลูกข่างสะบ้า ทำจากลูกสะบ้า ใส่ไม้ไผ่ เป็นแกนกลางสําหรับ หมุนลูกสะบ้ามีสีน้ำตาลผิวเรียบมาจากฝักดันสะบ้าที่มักออก ฝักในฤดูฝน และแก่จัด ในต้นฤดูหนาว ลูกข่างไม้ ทำจากไม้กลึงเป็นรูปลูกข่าง ชาลูกข่างทําด้วยไม้หรือ เหล็กปลายแหลม เวลา เล่นใช้เชือกพันแล้วเหวี่ยง ให้ลูกข่างหมุน นิยมเล่น แข่งขันกันเพื่อความสนุกสนาน 6
ลูกข่าง ลูกข่างหมุนได้อย่างไร ลูกข่างหมุนจากแรงที่เราใช้หมุนลูกข่าง แรงนี้ทำให้เกิดโมเมนตัมเชิงมุม คือ การหมุนรอบแกนด้วยแรงที่เท่ากันทุกทิศทาง ทำให้ลูกข่างหมุนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีแรงอื่นมา กระทำเป็นไปตามกฎของนิวตันข้อที่หนึ่ง ที่กล่าวว่า “วัตถุจะรักษาสภาพการเคลื่อนที่ให้คงที่จนกว่า จะมีแรงอื่นมากระทำ” ทําไม ลูกข่างจึงหยุดหมุน ลูกข่างหยุดหมุนเพราะแรงต้านอากาศในทิศ ตรงข้ามกับการหมุน แรง เสียดทานของพื้นกับปลาย ลูกข่าง และแรงดึงดูดของโลก ซึ่งจะเปลี่ยนแกนหมุนให้เอียง ทำให้ แรง ต้านอากาศและแรงเสียดทานทํางานมากขึ้น ส่งผลให้ลูกข่างหมุน ช้าลง และหยุดหมุนในที่สุด แรงต้านของอากาศ น้ำหนักของลูกข่างดึงลูกข่างลงเนื่องจากแรงดึงดูดโลก 7
ของเล่นที่เกี่ยวข้องกับความเฉื่อย ของเล่นที่เกี่ยวข้องกับความเฉื่อย ได้แก่ กำหมุน หรือบางพื้นที่เรียก กังหันหมุน ชื่อ กำหมุน มาจาก วิธีการเล่น คือ ที่กระบอก ไม้ไผ่แล้วดึงเชือกให้ใบพัดหมุน กำหมุนประกอบด้วยใบพัดและลำตัวทำ จากกระบอกไม้ไผ่ กะลามะพร้าว หรือลูกยางโดยมีเชือกผูกกับแกนไม้เมื่อดึงเชือกใบพัดจะหมุนอย่าง ต่อเนื่อง กำหมุน หรือ กังหันหมุนมีหลายชนิดโดยเรียกตามวัสดุที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่อง เล่น เช่นหากทำมาจากไม้ไผ่ ก็เรียกว่า กำหมุนไม้ไผ่ หากทำมาจากลูกยางก็เรียกว่า กำหมุนลูกยาง เป็นต้น กังหันกะลา กำหมุนลูกยาง 8
ของเล่นที่เกี่ยวข้องกับความเฉื่อย ทำไมกำหมุนจึงหมุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราดึงเชือกที่ยึดติดกับแกนกลางใบพัดจะทำให้ใบพัด หมุน เมื่อปล่อยมือ ใบพัดจะหมุนอย่างต่อเนื่องเพราะ ความเฉื่อย เมื่อดึงแล้วผ่อนเป็นจังหวะ ใบพัดจะ เคลื่อนที่ ต่อเนื่องตลอดเวลา เกิดจากการมีอยู่ของโมเมนต์ ความเฉื่อย นั่นคือ การที่วัตถุรักษา สภาพ การหมุนอย่างต่อเนื่อง หลักการ ของกำหมุนนี้ใช้อธิบายการปั่นจักรยาน แล้วปล่อยให้ล้อหมุนเองโดย ไม่ต้องถีบ แต่จักรยานก็เคลื่อนที่ไปได้ในช่วง เวลาหนึ่งโดยไม่ต้องออกแรง กำหมุน 9
ของเล่นที่ใช้สปริง ของเล่นที่ใช้สปริง (Toy using springs) หนูกะลา หนอนดิน รถหลอดด้าย ควายชนกัน และด้วงชน กัน คือตัวอย่างของของเล่นที่ใช้สปริง ที่พบในทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยใช้หลักการของหนังยาง หดบิดเป็นเกลียว และคลายตัวเพื่อเป็นสปริงในการเคลื่อนที่ ของเล่นเหล่านี้มีที่มาจากรูปแบบการ ดำเนินชีวิต การละเล่น และประเพณีในท้องถิ่น เช่นการชนวัวชนควายของไทย และการเล่นด้วงชนใน ภาคเหนือ หนอนดิน หนูกะลา ควายกะลา เต่ากะลา ช้างกะลา ด้วงชนกัน 10
ของเล่นที่ใช้สปริง หนอนดินและหนูกะลา วิ่งได้อย่างไร เมื่อดึงเชือกหนอนดิน หรือหนูกะลา หนังยางจะบิดเป็นเกลียว ทำให้หนอนและหนูวิ่งไปข้างหน้า เมื่อผ่อนเชือก หนังยางจะคลายตัวทำให้วิ่งถอยหลัง และเมื่อดึง เชือกต่อเนื่องกันจะดูคล้ายกับว่ามันวิ่งตลอดเวลา การบิดเป็นเกลียวเป็นหลักการเดียวกับสปริง เมื่อ สปริงหดตัวจะเก็บพลังงาน ไว้เรียกว่า "พลังงานศักย์" และเมื่อสปริงคลายตัว จะเกิดแรงบิดที่เปลี่ยน พลังงานในการเคลื่อนที่เป็น “พลังงานจลน์” หนังยางจะบิดเป็นเกลียว 11
ของเล่นประเภทเสียง ของเล่นภูมิปัญญาไทยที่เกี่ยวกับเสียงมี มากกว่าของเล่นชนิดอื่น เพราะเสียงท้าทายการเรียนรู้และ ความสนใจของเด็ก อีกทั้งเป็นการเลียน เสียงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เช่นเสียงสัตว์ ทำให้เด็ก ได้เรียนรู้ ถึงที่มาของการเกิดเสียงที่เกิดจากการ เป่าเคาะ หรือครูบนของเล่น เช่น ปืน ปีน ปี ไม้ไผ่ โหวด แคน ที่พบในภาคอีสาน นกหวีด นก ลูก และนกหวีดร้าง พบในภาคเหนือ ของเล่นที่ใช้ เคาะ หรือครู เช่น กล่องหนังกบ กลอง ใน ภาคกลาง กบ กระต่าย หมู ตั๊กแตนไม้ ป๋องแป้ง และป๊อกแป๊ก ในภาคเหนือ และกลองกะลาใน ภาคใต้ สัตว์เสียงก้อง ทำจากไม้แกะสลัก มีหลายชนิด เช่น กบ หมู ปลา กระต่าย แมว วาฬ หนอน ตามจินตนาการของผู้ทำ 12
ของเล่นประเภทเสียง ของเล่นประเภทเสียงหลายชนิดประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องดนตรีสำหรับเด็ก เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง เสียง จังหวะ และ โน้ตดนตรี เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้เครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ต่อไป เช่น กลอง หนังกบ และกลองกะลา ทำให้เรียนรู้เรื่องจังหวะ และโน้ต ในเครื่องดนตรีไทย เช่น กลองเปิงมาง กลองทัด และตะโพน ปี่นก และปี่ไม้ไผ่ เชื่อมโยงกับ ขลุ่ย โหวด และแคน กลองกะลา กลองทัด กลองหนังกบ กลองเปิงมาง แคน 13
ของเล่นประเภทเสียง ทำไมครูดกบไม้จึงมีเสียงก้อง เมื่อใช้ไม้ครูดที่หลังกบไม้ จะมีเสียงเฉพาะตัวของกบ ตัวนั้นกังวาน ออกมาเพราะ ภายในลำตัวกบเป็นช่องกลวง เป็นพื้นที่ให้คลื่นเสียงสะท้อนกลับไปมาได้แบบเดียวกับ เสียงที่ก้องในห้องน้ำ หรือเสียงตอนที่เปล่งตะโกนใส่หน้าผา เสียงจะสะท้อนกลับมาเช่นกัน ลักษณะ ช่องว่างของกบไม้จะเป็นตัว กําหนดว่าเสียงใดบ้างจะกังวานออกมาโดยมีความถี่ของ เสียงเป็นสําคัญ (เสียงยิ่งสูงจะยิ่งมีความถี่มาก) กบตัวเล็ก จะมีเสียงสูงกว่ากบตัวใหญ่ กบไม้ เสียงก้องในลำตัวกบ 14
ของเล่นประเภทเสียง เสียงในของเล่นจักจั่นเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อแกว่งจักจั่นเชือกจะไปเสียดสีกับยางสน (ที่มีความฟิด จึง เกิดแรงเสียดทานมาก) ที่อยู่ปลายไม้ทำให้เกิดเสียง เสียงนี้จะสั่นสะเทือนผ่านเชือกไปยังกระดาษและ ท่อดิน ทำให้เกิดการสั่นเช่นกัน เกิดเสียงที่ดังขึ้น เราเรียกว่า “การสั่นพ้อง การสั่นพ้องของเสียง เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุสองอย่างที่มี ความถี่ในการสั่นที่เท่ากัน ทำให้ การสั่นสะเทือนนั้นรุนแรง มากขึ้น หรือทำให้เกิดเป็นเสียงที่ดังขึ้น การสั่นพ้องใน จักจั่นเสียงใสก็คือ การสั่นสะเทือนของ กระดาษที่ปิดอยู่ปลายท่อ กับการ สั่นของท่อดิน หรือ กระบอกไม้ไผ่ จักจั่น เป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีช่วงอายุนานถึง 18 ปี ช่วง 17 ปีเป็นตัวอ่อนอยู่ในดินลึก 1 เมตรโดยดูต น้ำเลี้ยงจากรากไม้ จากนั้นขึ้นมาจากดินประมาณ 4 เดือน ร้องและผสมพันธ์กัน เมื่อออกไข่แล้วก็ตาย 15
ของเล่นทีเกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ ของเล่นทีเกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ มีหลายชนิด ของเล่นที่เคลื่อนที่ โดยใช้ล้อ ของเล่นชนิดนี้ใช้ข้อในการ เคลื่อนที่โดยใช้แรงของผู้เล่น เช่น ลาก จูง หรือปล่อยให้วิ่งไปตามทางลาด ทำให้ผู้เล่นเรียนรู้เรื่องแรงล้อและเพลา ที่ช่วยในการผ่อนแรงเช่น รถบรรทุกไม้ ล้อไม้ รถชาวเขา บางพื้นที่ก็ทำเป็นรูปสัตว์ เช่น กวาง ม้า ช้าง ส่วนใหญ่พบ ทาง ภาคเหนือ ของเล่นที่เคลื่อนที่จากแรงยก คอปเตอร์ไม่ไผ่ กำหมุนบิน และว่าวชนิดต่างๆ เป็นของเล่น ที่เคลื่อนที่ จากแรงยก โดยคอปเตอร์ไม้ไผ่ กำหมุนบิน จะลอยขึ้นสู่ฟ้าเพราะแรงยก ที่เกิดจากใบพัดที่บิดเกลียว เหมือนใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ สำหรับชาวเมื่อได้รับลมมา ปะทะด้านหน้า จะทำให้ ด้านหลังตัวว่าว โค้ง มีความเร็วลมมากกว่าด้านหน้า จึงเกิดแรงยกได้ตัวว่าว จึงทำให้ว่าวลอยขึ้นสู่อากาศ 16
ของเล่นทีเกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ ของเล่นที่เกี่ยวกับแรงดัน อีโบ๊ะ หรือ กระบอกโต๊ะเป็นเครื่องเล่นที่พบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ทําด้วย ไม้ไผ่ที่อุดปลายทั้งสองข้าง ด้วยลูกปอหรือ เรียกอีกชื่อว่า ลูกโต๊ะ ที่อาจทำมาจาก กระดาษ หนังสือพิมพ์ชุบน้ำ ก็ได้ ที่มาของชื่อเครื่องเล่น ได้จากเสียงดังตอนลูกโต๊ะ กระเด็นออกจากล่าไม้ไผ่ ด้วยแรงดันจากไม้ อีโบ๊ะ แรงยกจากใบพัด ใบพัดของคอปเตอร์ไม้ไผ่และกำหมุนบินมีลักษณะบิดเกลียวคล้ายใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ความเอียงของ ใบพัดเมื่อหมุนจะผลักอากาศลงด้านล่างทำให้เกิดแรงยกจากกฎข้อที่สามของนิวตัน ดันวัตถุให้ลอยขึ้น เฮลิคอปเตอร์มีใบพัดที่ต่อกับเครื่องยนต์เพื่อทำให้หมุน เรียกว่า ใบพัดโรเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการ สร้างแรงยกคล้ายปีกเครื่องบิน โดยปีกเครื่องบินจะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เพื่อให้กระแสอากาศไหล ผ่านอีกจนเกิดแรงยก ส่วนใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ทำให้กระแสอากาศไหลผ่านด้วยการหมุนใบพัดโร เตอร์เพื่อทำให้เกิดแรงยก ปัจจุบันใบพัดของเฮลิคอปเตอร์มีตั้งแต่สองใบขึ้นไป และบางชนิดมีเครื่องยนต์มากถึง 3 เครื่อง มี ใบพัดขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกสัมภาระได้จำนวนมาก 17
ของเล่นทีเกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ คอปเตอร์ไม้ไผ่และกำหมุนบิน ลอยได้อย่างไร ใบพัดของคอปเตอร์ไม้ไผ่และกำหมุนปืนมีลักษณะ บิดเกลียวคล้ายใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ของเล่นทั้งสองชนิด สามารถเคลื่อนที่ขึ้นสู่อากาศเพราะแรงยกที่ เกิดจากรูปทรงของใบพัด เมื่อใช้มือหมุนใบพัดคอปเตอร์ไม้ไผ่ หรือ ใช้เชือกหมุนใบพัดกําหมุนบิน ความเร็วจากการหมุน ทำให้เกิดแรงดันใต้ใบพัดสูงกว่าด้านบน เกิดแรงยกจึง ทําให้ใบพัดลอยได้ 18
ของเล่นทีเกี่ยวกับสมดุล ความสมดุล (Balance) หมายถึง การจัดวางตำแหน่งให้มีน้ำหนักเท่ากัน ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง โดยของเล่นที่ เกี่ยวกับสมดุล ได้แก่ โมบายปลาตะเพียน โมบายนก ส่วนแมลงปอไม้ไผ่ นกไม้ไผ่และ ควายสมดุล นอกจากจะส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องสมดุลแล้ว ยังแทรกเรื่องราวการดำรงชีวิต และ ธรรมชาติวิทยา เช่น ธรรมชาติของแมลงปอที่มักจะเกาะต่อไม้นิ่งๆ เป็นต้น แมลงปอไม้ไผ่ แมลงปอไม้ไผ่ นกไม้ไผ่ และควายสมดุล ของเล่นประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้เด็กได้เรียน รู้เรื่อง สมดุลโดยจะออกแบบให้มีจุดหมุน (สําหรับวาง) โดยผู้เล่นจะต้องวาง นก หรือ แมลงปอ บนแท่นให้ ทรงตัวให้ได้ โดยไม่ตก ส่วน ควายสมดุล ผู้เล่นจะต้องพยายามวางตำแหน่ง ของหญ้าและหางให้ตรง กับปากและก้นของตัวควาย 19
ของเล่นประเภทการแก้ปัญหา พญาลืมแลง และพญาลืมงาย หรือเสือลอดถ้ำ เป็นของเล่นพื้นบ้านประเภทการแก้ปัญหา พบมากใน ภาคเหนือโดย "แสง" ในภาษาล้านนาหมายถึงเวลาเย็น และ “ง่าย” หมายถึง เวลาเช้า พญาลืมแลง และพญาลืมงาย จึงหมายถึงของเล่นที่เพลิดเพลิน จนลืมเวลาเย็นจนถึงรุ่งเช้า ของเล่นทั้งสองนี้ทำให้ เราเรียนรู้เรื่องการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พญาลืมแลง และพญาลืมงาย พญาลืมแลงและพญาลืมงาย ท้าทายอย่างไร ความท้าทายของพญาลืมแลง คือการนำเชือกออก จากโครงไม้ไผ่ และใส่กลับคืนให้ได้ ส่วนพญาลืมงาย คือการนำลูกปัดจากด้านใดด้านหนึ่งมาอยู่รวมกัน และ แยกออกจากกันอีกครั้ง ซึ่งผู้เล่นจะต้องทดลองเล่นสังเกต และหาวิธีที่ถูกต้อง จนนำไปสู่ กระบวนการแก้ ปัญหา เพื่อให้ได้ค่าตอบอย่างเป็นขั้นตอน กระบวนการ ดังกล่าวเป็นทักษะหนึ่งของ กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ 20
ของเล่นที่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ของเล่นที่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลก เข้ามาเป็นส่วนช่วยให้เกิดความสนุกสนาน มีหลายชนิด เช่นของ เล่นที่โยนขึ้นไปบนอากาศแล้วสังเกตการร่วงหล่นของของเล่นนั้น ได้แก่ ลูกยางชนิดต่างๆ ที่พบในทุก ภาคของประเทศไทย เช่น ลูกยางนา ลูกยางกราด ลูกยางยูง ลูกยางกล่อง และลูกย่าง เหียง เป็นต้น โดยลูกยางดังกล่าวจะมีปีกหมุนเป็นเกลียว ซึ่งเป็นการแบ่งพลังงานศักย์ส่วนหนึ่ง ให้กลายเป็นพลังงาน จลน์ในการหมุน ซึ่งทำให้พลังงานจลน์ในการตกลดลงและเมื่อโยนขึ้นไป บนอากาศจะทําให้ชะลอการ ร่วงหล่นลงมา และของเล่นที่เรียกว่า นกบิน และปลาว่ายน้ำ ที่สานจากใบลาน และยึดติดกับเชือกหรือเอ็น เมื่อ ปล่อยให้ตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง ของโลกก็จะเกิดแรงเสียดทาน ระหว่างปากนกหรือปากปลากับ เส้นเอ็นทําให้นกและปลาค่อยๆ ตกลงมาอย่างช้าๆ 21
ของเล่นที่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง นกบิน และปลาว่ายน้ำ เคลื่อนที่ลงมาได้อย่างไร นกและปลาสานถูกร้อยไว้กับเส้นเอ็นที่ผูกติดกับ โครงไม้ไผ่รูปโค้ง เมื่อปล่อยให้นกและปลาตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก นกและปลาจะค่อยตกลง มาอย่าง ช้าๆ เพราะ แรงเสียดทานระหว่างนกและ ปลาสานกับเส้นเอ็นทำให้ดูเหมือนนกกำลังบินลง และ ปลากําลังว่ายนํ้า แรงโน้มถ่วงของโลก (Gravity) เป็นแรงที่โลกกระทำต่อทุกวัตถุที่มีมวล โดยแรงนี้จะดึงดูดวัตถุ เข้า หาโลก เซอร์ไอแซก นิวตันคนเดียวกับที่เขียนกฎการเคลื่อนที่ สามข้อ อันได้แก่ กฎความเฉื่อย กฎที่ เชื่อมแรงและความเร่ง และกฎของคู่แรง เป็นผู้คิดสูตรให้กับแรงดึงดูดนี้ แรงเสียดทาน (Friction) คือแรงที่ด้านการเคลื่อนที่เชิงสัมพัทธ์ หรือการเคลื่อนของพื้นผิวสองอย่าง ที่สัมผัสกัน มักจะเกิดในทิศทางตรงข้ามกับทิศที่วัตถุพยายามจะเคลื่อนที่เสมอ 22
ของเล่นเชื่อมโยงอาชีพ เพราะวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตเกี่ยวข้องกับการทำกินด้วยวิถีการเกษตร การประมง หรือ ช่างไม้ของ เล่นที่ทำให้เด็กเล่นในสมัยก่อนจึงเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตประจำวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ของเล่น เหล่านี้ทำให้ เด็กเรียนรู้วิธีการของอาชีพต่างๆ เช่น เครื่องมือทอผ้า เครื่องมือประมง เครื่องมือ การเกษตร เครื่องมือช่างไม้ ของใช้ในบ้าน หรือแบบจําลองอาชีพต่างๆ เช่น คนตำข้าว และ คนเลื่อยไม้ เป็นต้น คนตำข้าว คนเลื่อยไม้ 23
ของเล่นเชื่อมโยงอาชีพ คนตำข้าวและนักยิมนาสติกทำงานอย่างไร คนตำข้าว ใช้ครกกระเดื่องเป็นอุปกรณ์กะเทาะ ข้าวเปลือก โดยการค้า ประกอบไปด้วยครกไม้ขนาดใหญ่และคานไม้ สําหรับด้ามสากและไม้สำหรับตำ โดยใช้คานที่มีจุดหมุนอยู่ใกล้กับตำแหน่งเท้าเหยียบมากกว่า ปลายสาก เวลาใช้จะเหยียบคานให้ กระดกแล้วปล่อยสารที่มีนํ้าหนัก ตำลงในครกเป็นการผ่อนแรงมากกว่าการยกสากด้วยมือ คนตำข้าว นักยิมนาสติก เมื่อหมุนที่มือหมุนด้านข้างจะทำให้ นักยิมนาสติกเคลื่อนที่ขึ้นลงด้วยแรงโน้มถ่วงของ โลก เมื่อหมุนแล้วหยุดจะดูเหมือนนักยิมนาสติกกำลังเล่นบาร์สูง การออกแบบของบาร์ของเล่น ประเภทนี้จะแตกต่างกันออกไป เช่น บาร์เดี่ยว บาร์โค้ง หรือบาร์ตั้งพื้น หรือบางทีก็ออกแบบ เป็นลิง ห้อยโหนบนกิ่งไม้ 24
สัตว์จําลอง สัตว์จำลอง ทำมาจากไม้ที่แกะสลักเป็น ช้าง ม้า วัว ควาย กบ หรือเต่า และบางส่วนทำจาก การสาน วัสดุต่างๆ เช่น ใบลาน ใบไผ่ ให้เป็นปลา นก เป็นต้น ของเล่นประเภทนี้ช่วยส่งเสริมจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้เรื่องธรรมชาติและระบบนิเวศน์ ควายกะลา ช้าง สัตว์บนล้อ เป็นของเล่นง่ายๆ ที่ทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปช้าง ม้า กวาง แล้วติดล้อเพื่อให้เด็กๆ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ การเคลื่อนที่ของสัตว์บนล้อ ทำให้เด็กเรียนรู้เรื่องล้อ และเพลา ที่ช่วย ในการผ่อนแรง โดยล้อจะลดแรงเสียดทานกับพื้น ด้วยการลดการเคลื่อนที่ที่สีกันที่ผิว และการหมุน ท่าให้เคลื่อนที่ได้สะดวก ควายบนล้อ 25
บรรณานุกรม กรมการศึกษานอกโรงเรียน. เรียนรู้หลักการทางวิทยาศาสตร์จาก ของเล่น พื้นบ้านไทย. กรุงเทพ:โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544. คณะกรรมการโครงการพัฒนาความรู้เพื่อการสื่อสารเพื่อสุขภาพ. ของเล่น พื้นบ้าน สื่อเพื่อชีวิต สื่อเพื่อสุขภาพ.กรุงเทพ: สถาบันวิจัยและ พัฒนาแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์, 2547. คณาจารย์ชมรมเด็ก.การละเล่นของเด็กไทย.กรุงเทพ:สุวีริยาสาส์น, 2545. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ของเล่นเคยเห็นเมื่อเป็นเด็ก. กรุงเทพ โรงพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554. พีรนุช กัณหดิลก. คู่มือกิจกรรมของเล่นภูมิปัญญาไทย. ปทุมธานี:องค์การ พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ, 2555. รักษพล ธนานุวงศ์. รายงานสรุปเชิงปฏิบัติการ STEM Education. กรุงเทพฯ:สสวท. 2556. วีระพงษ์ กังวานนวกุล. ของเล่นพื้นบ้าน. เชียงใหม่: สันติการพิมพ์, 2548. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ในของเล่นพื้นบ้าน ไทย. กรุงเทพ: ไทยเอฟเฟคสตูดิโอ, พิมพ์ครั้งที่ 2, 2553
บรรณานุกรม Kanhadilok, P. and Watts, D.M. (2012) 'Family play-learning Some learning outcomes from make-and-play activities with toys at a science museum'. Literacy Information and Computer Education Journal, Special Issue, 1(2) pp. 879-885. Kanhadilok, P. and Watts, D.M. (2013) 'Western science and Thai local wisdom: using museum toys to develop bi-gnosis', Canadian Journal of Science Mathematics and Technology Education, 13 (1), pp. 33-48. Kanhadilok, P. (2013). Family play-learning: Through informal Education: Make and Play Activities with Traditional Thai toy activities at a Science Museum. PhD. Thesis Brunel University, London, UK. Macdonald Education. Science from toys. UK:Macdonald&Co, 1989. Marzollo,J and Lloyd, J. Learning Through Play. London:Guernsey Press Co Ltd, 1984.