The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natsurang.2544, 2022-03-18 23:39:38

เอกสารประกอบการเรียน

อาณาจักรมอเนอรา

เอกสารมป.6ระเกทออบมก2ารเรียน

Kingdom Monera
อาณาจักรมอเนอรา

สอนโดย
คุณครูตุ๊กตา
นางสาวณัฐสุรางค์ อ่องไล่

Kingdom Monera 1
อาณาจักรมอเนอรา

ลักษณะเด่นของอาณาจักร

สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอรา (Kingdom Monera) หรือเรียกว่า "แบคทีเรีย"
เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กประมาณ 1 - 5 ไมโครเมตร ผนังเซลล์เป็นสาร
ประกอบเพปทอโดไกลแคน ภายในเซลล์ไม่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรม ไม่มีออร์แกเนลที่มี
เยื่อหุ้มทุกชนิด มีไรโบโซมแบบ 70s สารพันธุกรรมจะเป็นวงแหวนในไซโทพลาสซึม
เรียกว่า Plastid ซึ่งเซลล์ลักษณะนี้ เรียกว่า เซลล์โพรคาริโอต (prokaryotic
cell) แบคทีเรียส่วนใหญ่มีเซลล์เดียวหรืออาจจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นสายมี
หลากหลายรูปแบบ สิ่งมีชีวิตพวกแบคทีเรีย และสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินหรือไซยา
โนแบคทีเรีย แบคทีเรียส่วนใหญ่เป็นพวกเซลล์เดียวซึ่งมีลักษณะดังนี้

รูปร่างของเซลล์ 2

มีรูปร่างของเซลล์(Bacterial shape) อยู่ 3 รูปแบบดังนี้
1.Coccus -> แบคทีเรียทรงกลม
2.Bacillus, Rod -> แบคทีเรียทรงแท่ง
3.Spiral, Spirillum -> แบคทีเรียทรงเกลียว

Coccus Bacillus Spirilum

เซลล์รูปร่างต่าง ๆ มีการเรียงตัวทำให้เกิดลักษณะเฉพาะ

เซลล์ทรงกลม 2 เซลล์เรียงต่อกันเรียก ดิโพลค็อกไค (diplococci)
เซลล์ทรงกลมหลายเซลล์เรียงต่อกันเป็น ลูกโซ่ เรียก สเตรปโตค็อกไค (streptococci)
เซลล์ทรงกลมเรียงเป็นกลุ่ม คล้ายพวงองุ่น เรียก สแตฟิโลด็อกไค (staphylococci)
เซลล์ทรงกลม 8 เซลล์เรียงเป็นลูกบาศก์เรียก ซาร์สินา (sarcina)
ส่วนพวกที่ขดเป็นเกลียวมักไม่อยู่เป็นกลุ่มแต่อยู่เป็นเซลล์เดี่ยว ๆ แต่ละชนิดมีความโค้ง
ของเซลล์มากน้อยต่างกัน

โครงสร้างของแบคทีเรีย 3

1.ผนังเซลล์ (cell wall) มีความแข็งแรงล้อมรอบทำให้เซลล์คง
รูปร่างอยู่ได้ผนังเซลล์ประกอบด้วยสารพอลิแซ็กคาไรด์ โปรตีน
และไขมัน เรียกว่า เพปติโดไกลแคน (peptidoglycans) เกิด
จากสาร 2 ตัวจับกันคือ NAG (N-acetylglucosamine) และ
NAM (N-acetylmuramic acid)

โครงสร้างของแบคทีเรีย 4

2. เยื่อหุ้มเซลล์ (plasma membrane) อยู่ถัดผนังเซลล์ ทำหน้าที่
ลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์โดยกระบวนการแอกทีฟทรานสปอร์ต (active
transport)
3. แคปซูล (capsule) เป็นชั้นล้อมรอบผนังเซลล์อีกที่หนึ่งอาจ
ประกอบด้วยพอลิแซ็กคาไรด์ กาแล็กโทส ฟรักโทส กลูโคส กรดยูโรนิก
และกรดอะมิโน พบแคปซูลในแบคทีเรียบางชนิดเท่านั้น แบคทีเรียที่มี
แคปซูลมักทำให้เกิดโรครุนแรง

Capsule plasma membrane

โครงสร้างของแบคทีเรีย 5

4. แฟลเจลลา (flagella) เป็นโครงสร้างใช้ในการเคลื่อนที่แบคทีเรีย
ส่วนใหญ่เป็นพวกที่เคลื่อนที่ได้ (motile) แฟลเจลลาประกอบด้วยเส้นใย
เล็ก ๆ (fibril) เส้นเดี่ยว ๆ รวมเป็นมัดแบคทีเรียอาจมีแฟลเจลลา 1 เส้น
จนถึงหลายร้อยเส้น ตำแหน่งของแฟลเจลลาอาจอยู่ที่ปลายข้างหนึ่งของ
เซลล์หรือที่ปลายทั้งสองข้างหรืออยู่รอบ ๆ เซลล์

ตำแหน่งของแฟลเจลลา
(a) รอบ ๆ เซลล์ (b) 1 ขั้ว 1 เส้น (c) 1 ขั้ว หลายเส้น (d) มีอยู่ทั้ง 2 ขั้ว

โครงสร้างของแบคทีเรีย 6

5. เอนโดสปอร์ (endospore) เป็นโครงสร้างที่พบในแบคทีเรียบางชนิด
เอนโดสปอร์มีผนังแข็งแรงสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้
เช่นความร้อนความแห้งแล้งสารเคมีต่าง ๆ ในขณะที่เซลล์ปกติ
(vegetative cell) จะตายเสียก่อนเมื่อเอนโดสปอร์ตกในสภาพแวดล้อม
เหมาะสมจะเจริญเป็นเซลล์ปกติได้การสร้างเอนโดสปอร์จะสร้างเพียง 1
เอนโดสปอร์ต่อ 1 เซลล์ ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการสืบพันธุ์ของแบคทีเรีย

โครงสร้างของแบคทีเรีย 7

6. พลาสมิด (plasmid) เป็น DNA ที่อยู่นอกโครโมโซมของแบคทีเรีย
พลาสมิดมีหลายชนิดบางชนิดควบคุมการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมบาง
ชนิดควบคุมการดื้อยาปฏิชีวนะต่าง ๆ เช่น ยาเพนิซิลลิน สเตรปโตมัย
ซิน กานามัยซิน เป็นต้น ลักษณะของพลาสมิดเป็น DNA วงแหวน
และเป็นเกลียวคู่สามารถจำลองตัวเองได้และสามารถถ่ายทอดไปสู่
แบคทีเรียอื่น ๆ ได้ด้วย

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 8

การจำแนกสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอราตามสายวิวัฒนาการจากการ
ศึกษาเปรียบเทียบลำดับเบสของ DNA และรวมทั้งองค์ประกอบของ
ผนังเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอราทำให้นัก
ชีววิทยาจำแนกสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 9

1. อาณาจักรย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย (Subkingdom Archaebacteria)
เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ผนังเซลล์ไม่มีสารเพปทิโดไกลแคนลิพิดที่เป็นองค์
ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์จะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น อาร์คีแบคทีเรีย
แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ
1) มีทาโนเจน (methanogen) เป็นพวกสร้างแก๊สมีเทนเป็นพวกแอนแอ
โรบแท้จริง (strictly anaerobes) ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ย่อยขยะและ
มูลสัตว์เพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงตัวอย่าง Methanobacterium
2) พวกที่เจริญในสภาพทุรกันดาร (extremophile) ยังแบ่งเป็น
2.1 พวกชอบอุณหภูมิสูง (extreme thermophile) ชอบอุณหภูมิ 60-
80 องศาเซลเซียส ตัวอย่าง Sulfolobus พบในน้ำพุร้อน
2.2 พวกชอบความเค็มสูง (halophile) ต้องการเกลือแกง 15-20%
ในการเจริญ
2.3 พวกทนกรดจัดหรือเบสจัด (pH tolerant)
2.4 พวกทนความกดดันสูง (pressure tolerant) พบในทะเลลึก

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 10

3) อาร์คีแบคทีเรียที่เจริญในสภาพปกติ (non extreme archaebacteria)
สามารถเจริญในสภาพแวดล้อมเหมือนพวกยูแบคทีเรีย ดังนั้นอาจแบ่งอาร์คี
แบคทีเรียออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามการเรียงลำดับเบสใน rRNA คือ

- กลุ่มครีนาร์ดีโอตา (Crenarchaeota, Cren, spring ชื่อกลุ่มมาจาก
คำว่า cren หมายถึงน้ำพุร้อน) คือพวกเทอร์โมไฟล์ (ชอบอุณหภูมิสูง)
ส่วนใหญ่ที่พบในบ่อน้ำพุร้อนหรือปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลลึก

- กลุ่มยูริอาร์เคียโอตา (Euryarchaeota, Eury = broad) คือพวกที่
อยู่ในสภาพแวดล้อมช่วงกว้างกว่า ได้แก่ พวกมีทาโนเจนพวกฮาโลไฟล์
(ชอบความเค็มจัด) พวกเทอร์โมแอซิโดไฟล์ (themoacidophile) คืออยู่ได้
ในที่มีอุณหภูมิสูงและกรดจัด เป็นพวกที่ไม่มีผนังเซลล์ เป็นแบคทีเรียที่มีสาร
bacteriorhodopsin ซึ่งเป็นสารสีภายในเยื่อหุ้มเซลล์ทำหน้าที่ดูดกลืน
พลังงานแสง แบคทีเรียกลุ่มนี้สามารถสร้างแก๊สมีเทน (CH4) ได้ดำรงชีวิต
อยู่ในทะเลที่มีความเค็มมาก เช่น ทะเล dead sea

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 11

2. อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย (Subkingdom Eubacteria) เป็นกลุ่ม
แบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในทุกสภาพแวดล้อมทั้งในดิน น้ำ อากาศ และใน
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในน้ำเค็ม น้ำจืด น้ำกร่อย ในธารน้ำแข็ง ในน้ำพุ
ร้อน เป็นต้น
2.1 กลุ่มโพรที่โอแบคทีเรีย (Proteobacteria) เป็นแบคทีเรียแกรมลบ
(gram-negative bacteria) ที่พบมากที่สุด และมีความหลากหลายที่สุด
ตัวอย่างเช่น ไรโซเบียม (Rhizobium) เจริญอยู่ที่รากพืชตระกูลถั่วทำให้เกิดปม
ที่รากพืชและตรึงไนโตรเจนจากอากาศเพื่อสร้างเป็นสารประกอบไนโตรเจน

Neisseria gonorrhoeae เป็นสาเหตุของโรคโกโนเรีย (หนองใน) Neisseria
meningitidis เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 12

2.2 กลุ่มคลาไมเดีย (chlamydias) เป็นแบคทีเรียแกรมลบพบเป็นปรสิตใน
เซลล์สัตว์และเป็นสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของมนุษย์ รูปร่างทรง
กลม ไม่เคลื่อนที่ ผนังเซลล์ไม่มีเพปทิโอไกลแคน (peptidoglycan) แคลมีเดีย
เป็นเชื้อก่อโรคที่สำคัญ เช่น Chlamydia trachomatis ทำให้เกิดโรคริดสีดวง
ตา (trachonna) ตาแดง (inclusion conjunctivitis) กามโรคของต่อมและ
ท่อน้ำเหลือง หนองในเทียม

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 13

2.3 กลุ่มสไปโรคีท (spirochetes) เป็นแบคทีเรียแกรมลบมีรูปร่างโค้งงอเป็น
เกลียวและยืดหยุ่นได้บางชนิดดำรงชีวิตแบบอิสระ บางชนิดทำให้เกิดโรค เช่น
Treponema pallidum ทำให้เกิดโรคซิฟิลิส (Syphilis) Leptospira
interrogans ทำให้เกิดโรคเลปโตสไปโรซิส (leptospirosis) หรือโรคฉีหนู

Treponema pallidum
ทำให้เกิดโรคซิฟิลิส (Syphilis)

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 14

2.4 กลุ่มแบคทีเรียแกรมบวก (gram positive bacteria) เป็นแบคทีเรียที่
ย้อมติดสีม่วงน้ำเงินของคริสทัลไวโอเลตพบทั่วไปทั้งในดินและอากาศบางชนิด
สามารถสร้างเอนโดสปอร์ (endospore) เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
Streptomyces sp. สามารถใช้ผลิตยาปฏิชีวนะ

Lactobacillus sp. เป็นแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกได้จึงมีการนำมาใช้ใน
อุตสาหกรรมอาหาร การทำเนย นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ผักและผลไม้ดอง

การจัดจำแนกแบคทีเรีย 15

2.5 กลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย (cyanobacteria) เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่สามารถ
สังเคราะห์ด้วยแสงได้เพราะมีรงควัตถุพวกคลอโรฟิลล์เอ แคโรทีนอยด์ และไฟ
โคบิลินอยู่ภายในเซลล์ จึงทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตในระบบนิเวศ

หลักการย้อมสีแบคทีเรีย 16

โดยย้อมสีแรกด้วยสีคริสทัลไวโอเลต (crystal violet) เป็นเวลา 1 นาที แล้ว
เทสีทิ้งหยดลูกอลไอโอดีน (Lugol's iodine) เป็นมอร์แดนต์ (mordant) เพื่อ
ช่วยให้เซลล์ติดสีย้อมได้ดีขึ้นเป็นเวลา 1 นาที แล้วล้างออกด้วย 95%
แอลกอฮอล์ทิ้งไว้ประมาณ 15 วินาที ล้างน้ำเพื่อหยุดปฏิกิริยาการล้างสีของ
แอลกอฮอล์ ย้อมสีทับด้วยซาฟรานิน (safranin) ประมาณ 30-60 วินาที
ล้างน้ำ ซับให้แห้ง และส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่า แบคทีเรียแกรมบวกจะ
ติดสีม่วงของคริสทัลไวโอเลติและแบคทีเรียแกรมลบจะติดสีแดงของซาฟรานิน

แบคทีเรียแกรมบวก (สีม่วง)
แบคทีเรียแกรมลบ (สีแดง)

ประโยชน์ของแบคทีเรีย 17

ผลิตยาปฏิชีวนะ เช่น สเตรปโตมัยซิน (streptomycin) ได้จากเชื้อแบคทีเรีย
Streptomyces griseus ใช้รักษาวัณโรคโดยใช้ร่วมกับยาอื่น
คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) ได้จากเชื้อ Streptomyces
venezuelae ใช้ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียและริคเกตเซีย

streptomycin

chloramphenicol

ประโยชน์ของแบคทีเรีย 18

การทำน้ำส้มสายชู(vinegar) เป็นการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี 2 ขั้นตอน คือ
การเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นเอทิลแอลกอฮอล์โดยยีสต์ และการเปลี่ยน
เอทิลแอลกอฮอล์ให้เป็นน้ำส้มสายชู โดยแบคทีเรีย Acetobacter sp.

นมหมัก (fermented milk) โดยเดิมเชื้อแบคทีเรียลงในนมเป็นหัวเชื้อหมัก
starter จะสร้างกรดแลกติกทำให้นมมีรสเปรี้ยว เช่น โยเกิร์ต (yogurt) ได้แก่
Streptococcus lactis, S. thermophilus, Lactobacillus bulgaricus

โทษของแบคทีเรีย 19

ปอดบวม (bacterial pneumonia) เกิดจากเชื้อ Diplococcus pneumoniae

วัณโรค (tuberculosis) เกิดจากเชื้อ Mycobacterium tuberculosis

โรคเรื้อน (leprosy) เกิดจากเชื้อ Mycobaccium leprae

โทษของแบคทีเรีย 20

บาดทะยัก (tetanus) เกิดจากเชื้อ Clostridium tetani

อหิวาตกโรค (cholera) เกิดจากเชื้อ Vibrio cholerae

คอตีบ (diphtheria) เกิดจากเชื้อ Corynebacterium diphtheriae

จบแล้วจ้า
ตั้งใจเรียนนะคะเด็กๆ


Click to View FlipBook Version