The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แสงและเงา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 61100143110, 2022-10-05 09:29:07

แผนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แสงและเงา

แผนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แสงและเงา

แผนการจัด
การเรียนรู้

วิชา วิทยาศาสตร์ ว16101
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง แสงและเงา
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 โพศรี






นางสาวสุภัสสร แก้วสุวรรณ
รหัสนักศึกษา 61100143110
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สาขาวิทยาศาสตร์




การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1
รหัสวิชา ED18501 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรียนรู้

วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ว16101
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง แสงและเงา
ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นเทศบาล 1 โพศรี

นางสาวสภุ ัสสร แกว้ สวุ รรณ
รหสั ประจำตัวนกั ศกึ ษา 61100143110

สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์

การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา 1
รหัสวชิ า ED18501 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)

คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานี
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว16101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม 3 นี้
จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และให้นักเรียนบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง 2560) ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการสอน การวัดและประเมินผล
มาจดั ทำแผนการจดั การเรยี นร้ใู นคร้งั น้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่ม 3 นี้ ประกอบไปด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
เร่อื ง แสงและเงา เพอื่ ให้ผ้เู รยี นบรรลมุ าตรฐานการเรียนรู้ ได้เต็มศักยภาพอยา่ งแทจ้ รงิ

จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จะสามารถนำไปใช้ประกอบการจัดการเรียน
การสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ นำไปสู่การพฒั นาที่ถูกตอ้ งและเกิดผลแกผ่ เู้ รียนเปน็ อย่างดี

สุภสั สร แกว้ สวุ รรณ
3 ตลุ าคม 2565



สารบัญ

เรือ่ ง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง แสงและเงา
1
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง การเกิดเงามืดและเงามวั 13
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง การเขยี นแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิดเงามดื และ
เงามัว

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑ 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ แสงและเงา เวลา ๕ ช่ัวโมง
เรอื่ ง การเกิดเงามืดและเงามัว
ผ้สู อน นางสาวสุภัสสร แกว้ สุวรรณ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
ภาคเรยี นที่ ๑

๑. มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชวี้ ดั
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอน

พลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เก่ียวข้องกบั เสยี ง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ัด ป.๖/๗ อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามวั จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
๒. สาระสำคญั

เมอ่ื นำวัตถุทบึ แสงมาก้นั แสงจะเกิดเงาบนฉากรับแสงที่อยู่ด้านหลังวตั ถโุ ดยเงามรี ปู รา่ งคลา้ ยวตั ถทุ ที่ ำ
ใหเ้ กิดเงา เงามัวเปน็ บรเิ วณท่ีมีแสงบางส่วนตกลงบนฉาก ส่วนเงามดื เป็นบรเิ วณท่ีไมม่ ีแสงตกลงบนฉากเลย
๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๓.๑ อธบิ ายการเกดิ เงามดื เงามวั จากหลกั ฐานเชิงประจักษไ์ ด้ (K)
๓.๒ ทดลองการเกิดเงาตา่ ง ๆ ได้ (P)
๓.๓ รบั ผดิ ชอบและมุ่งมน่ั ในการทำงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (A)
๔. สาระการเรยี นรู้
การเกิดเงามดื และเงามวั
๕. กิจกรรมการเรียนรู้
จดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (๕Es) ซึง่ มขี นั้ ตอนดังนี้
ขน้ั ท่ี ๑ สร้างความสนใจ (Engagement)
1. ใหน้ กั เรียนสังเกตภาพในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 1 หนา้ 116 แล้วบอกวา่ เห็นอะไรบ้างใน
ภาพน้ี
(แนวคำตอบ เชน่ เหน็ หนุ่ ลูกบอล และเงา)
2. นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

- เงาเกิดขน้ึ ได้อยา่ งไร
(แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนกั เรยี น)

- การเกดิ เงามีประโยชน์ตอ่ ชีวติ ประจำวนั หรือไม่ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเห็นของนักเรียน)

2

3. นักเรียนอ่านกิจกรรม ชวนอ่านชวนคิดก่อนเรียนตอน ไดโนเสาร์ตัวโต ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ
ป.6 แล้วตอบคำถามชวนตอบ ต่อไปนี้
- เงา คือ บรเิ วณมืดทีเ่ กิดข้ึนหลังวตั ถุ โดยจะมีทั้งเงามดื และเงามวั นกั เรียนคดิ วา่ เงามืดและ
เงามวั เกดิ ข้นึ ได้อยา่ งไร
(แนวคำตอบ เมอื่ แสงเดินทางเปน็ เสน้ ตรง แล้วนำวัตถุมากั้นแสงไมส่ ามารถเดินทางผ่านวตั ถุ
ไดห้ รอื เดนิ ทางผา่ นได้บางส่วน ทำใหเ้ กดิ เงามืดและเงามวั )

4. ครูแจกบัตรภาพจิกซอว์ให้คนละ 1 ชิ้น จากนั้นให้นักเรียนตามหาเพื่อนที่ได้บัตรภาพเดียวกัน นำมา
ตอ่ กัน จนเปน็ ภาพที่สมบรู ณ์

5. นกั เรยี นสงั เกตภาพจิกซอวท์ ี่ต่อสำเรจ็ แล้วว่า ในภาพมเี งามืดและเงามวั หรือไม่ ถา้ มีคือบริเวณใด
6. ครูสนทนากับนักเรียนว่า ถ้านักเรียนอยากรู้ว่าเงามืดและเงามัวคืออะไร นักเรียนจะได้เรียนรู้จาก

กิจกรรมตอ่ ไปน้ี

ขั้นท่ี ๒ สำรวจและคน้ หา (Explanation)

1. นักเรียนแบ่งกลุ่มโดยใช้กลุ่มเดิมในขั้นกระตุ้นความสนใจ แล้วศึกษาขั้นตอนการทำกิจกรรมที่ 1 การ

เกดิ เงามดื และเงามัว ในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า 116

2. นกั เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่ 1 การเกิดเงามดื และเงามัว โดยปฏบิ ตั ิดังนี้

1) ส่งตวั แทนกลุ่มมารบั วัสดุ-อุปกรณใ์ นการทำกจิ กรรมท่ี 1 การเกดิ เงามดื และเงามัว ดังน้ี

- ไม้เสยี บลกู ชน้ิ 1 อัน - ไฟฉาย 1 กระบอก

- ดนิ นำ้ มนั 1 ก้อน - กระดาษสขี าวแผน่ ใหญ่ 1 แผ่น

2) ปั้นดินน้ำมันให้เป็นทรงกลมขนาดเท่าลูกปิงปอง และเสียบเข้ากับปลายไม้เสียบลูกชิ้นด้านหนึ่ง

จากนน้ั ปนั้ ดนิ น้ำมนั เป็นฐาน เพอื่ เสียบเขา้ กับไม้เสยี บลกู ชน้ิ อีกดา้ นหน่ึงติดไวก้ บั พ้นื โต๊ะ

3) ให้สมาชิก 2 คน ช่วยกนั ถือกระดาษขาวแผน่ ใหญ่เปน็ ฉากรับแสงไว้ด้านหลังดินนำ้ มันลูกทรงกลม

ทีอ่ ยู่บนโต๊ะ

4) ทำให้ห้องมืด แล้วให้สมาชิก 1 คน ถือและเปิดไฟฉายส่องไปที่ดนิ น้ำมันที่เสียบกับไม้เสียบลกู ชิน้

สังเกตเงามืดและเงามัวที่เกิดขึ้น แล้วบันทึกผลลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า

80

5) เลือ่ นแผ่นกระดาษสีขาวแผน่ ใหญเ่ ขา้ ใกล้หรอื ออกหา่ งจากดินน้ำมัน สงั เกตและบนั ทกึ ผล

6) เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดและเงามัว จากนั้นร่วมกนั อภิปรายและสรุปความ

แตกตา่ งระหวา่ งการเกดิ เงามืดและเงามวั

3

ข้นั ท่ี ๓ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Exploration)
1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการทำกจิ กรรม
2. นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
- เงามืดเกิดข้นึ ไดอ้ ย่างไร
(แนวคำตอบ แสงไม่สามารถผา่ นวตั ถุทกี่ ัน้ ได้ ทำให้บรเิ วณน้ันมืดสนทิ )
- เงามัวเกิดขึน้ ไดอ้ ย่างไร
(แนวคำตอบ แสงสามารถผา่ นวัตถุไดบ้ างส่วน ทำให้บรเิ วณนัน้ มดื ไม่สนิท)
- หากฉากรับอยใู่ กลว้ ตั ถุ เงามดื และเงามัวจะมีลักษณะอย่างไร
(แนวคำตอบ เงามืดจะมีขนาดใหญ่แต่เงามวั จะมีขนาดเลก็ ลง)
3. นกั เรยี นร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมวา่ เมื่อนำวตั ถตุ ่าง ๆ ขวางกั้นทางเดนิ แสงไว้ แสงจงึ ไม่สามารถ
เดินทางไปถึงหรือไปถึงได้เพียงบางสว่ น ทำให้เกดิ เงา โดยลกั ษณะของเงาท่เี กิดข้นึ แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ
ได้แก่ เงามืด และเงามัว ขนาดของเงามืดและเงามัวเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับระยะห่างของวัตถุกับ
แหล่งกำเนิดแสง และระยะหา่ งของวัตถกุ บั ฉากรับแสง
4. นกั เรยี นตอบคำถามวา่ ชนดิ ของวัตถมุ ีผลตอ่ การเกิดเงาหรือไม่ อยา่ งไร

(แนวคำตอบ ชนดิ ของวัตถมุ ผี ลตอ่ การเกิดเงา วัตถุทบึ แสงจะทำให้เกดิ เงามดื เงามวั วตั ถุที่เป็นตัวกลาง

โปรง่ ใสและโปรง่ แสงจะทำใหเ้ กิดเงามวั )

5. นักเรียนนำภาพจิกซอว์มาติดลงในใบงาน เงามืดเงามัว พร้อมชี้บอกบริเวณใดคือเงามืดเงามัว

และเขียนอธิบายการเกดิ เงา

6. นักเรียนทำกิจกรรมหนตู อบได้ ทำในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 1 หนา้ 81

ข้ันที่ ๔ ขยายความรู้ (Elaboration)

1. ครูทำให้ห้องเรียนมืดสนิท แล้วให้ตัวแทนนักเรียน 1 คน เอามือประสานกันทำเหมือนนกบิน และให้

อีกคนมาถือและเปิดไฟฉาย ส่องไปที่มือของนักเรียนที่กำลังทำนกบิน จากนั้นครูให้นักเรียนที่ทำนก

บินเดินเข้ามาใกล้ๆ ไฟฉายเรอื่ ย ๆ

2. ครตู ั้งประเด็นปญั หาให้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคิดเหน็ วา่ ลกั ษณะของเงาจากมือที่เกิดขึ้น

มีลักษณะอย่างไร และเมื่อนักเรียนคนที่ทำมือเป็นรูปนกบินเดินเข้ามาใกล้ไฟฉายผลเป็นอยา่ ง เพราะ

อะไร ถึงเปน็ เชน่ นน้ั

3. ครูสนทนากับนักเรียนว่า เราสามารถนำความรูเ้ ร่ือง แสงและการเกิดเงามาใช้ประโยชน์ได้หลายเร่ือง

เช่น การบอกเวลาโดยใช้นาฬิกาแดด การเล่นหนังตะลุง แสดงละครเงา ซึ่งวันนี้ครูจะให้นักเรียน

แสดงละครเงา

4. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน เพอ่ื ทำกจิ กรรมสร้างสรรค์ผลงาน โดยปฏบิ ตั ิ ดังน้ี

1) แต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมารับอปุ กรณ์ดังน้ี

- กลอ่ งกระดาษ - เทปกาว 2 หนา้

4

- ดินสอหรือปากกา - ไฟฉาย

- ไม้เสียบลกู ชิน้ - กรรไกรหรือคตั เตอร์

- กระดาษสขี าวบางๆ เช่นกระดาษไข กระดาษลอกลาย กระดาษวา่ ว

2) นกั เรียนแตง่ นิทานเร่อื งสน้ั กลมุ่ ละ 1 เรือ่ ง และออกแบบตัวละครบันทึกลงในใบงาน ละครเงา

3) นกั เรยี นสร้างตวั ละครโดยเลือกใชว้ สั ดตุ ่างๆ ทคี่ ำนึงถึงลกั ษณะเงาทจ่ี ะเกิดขึ้น แล้วนำไมเ้ สยี บ

ลูกช้ินมาติดกับตัวละคร หรืออาจใช้วัสดุอืน่ ๆ สร้างตัวละครแทนการใชก้ ระดาษ

4) นำกระดาษลงั ท่เี ตรียมมาทำโรงละคร วาดโครงรา่ งของโรงละครตรงโถงกลางของโรงละครให้วาด

ขนาดเท่าประมาณขนาดของกระดาษ A4

5) ใช้คัตเตอร์ตัดตามรอยทว่ี าดไว้โดยตัดเฉพาะสว่ นบนที่โครงสร้างหลงั คาโรงละครและโถงกลางของ
โรงละคร นำกระดาษสีขาวมาติดทีช่ อ่ งว่างตรงโถงกลางของโรงละคร แลว้ ระบายสตี กแตง่ โรง
ละครโถงกลางของโรงละครเพื่อเปน็ ฉากรบั เงา

6) ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มซ้อมละครเงาก่อนนำเสนอ
7) จากนั้นใหแ้ ตล่ ะออกมาแสดงละครเงา

ขนั้ ที่ ๕ ประเมิน (Evaluation)
1. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ความร้จู ากกจิ กรรมวา่ เมอื่ นำวตั ถทุ บึ แสงมากน้ั แสงจะเกิดเงาบนฉากรับแสงท่ีอยู่
ดา้ นหลงั วตั ถุ โดยเงามรี ปู รา่ งคล้ายวัตถทุ ี่ทำให้เกิดเงา เงามวั เป็นบริเวณทม่ี ีแสงบางส่วนตกลงบนฉาก
สว่ นเงามืดเปน็ บริเวณท่ไี มม่ แี สงตกลงบนฉากเลย

๖. ส่อื การเรียนรู้
1. ไม้เสียบลูกชิ้น 1 อัน
2. ไฟฉาย 1 กระบอก
3. ดนิ นำ้ มัน 1 ก้อน
4. กระดาษสขี าวแผน่ ใหญ่ 1 แผ่น
5. บัตรภาพจิกซอว์
6. แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1
7. หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6
8. กลอ่ งกระดาษ
9. เทปกาว 2 หน้า
10. ดนิ สอหรือปากกา
11. กรรไกรหรือคัตเตอร์
12. ใบงาน เรอ่ื งเงามดื เงามัว

5

๗. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์
การประเมินผล
ด้านความรู้ (K) - สังเกตการตอบคำถาม - ข้อคำถาม ทำได้ถกู ต้องไมน่ ้อย
- ตรวจใบงาน เรอ่ื งเงา กวา่ ร้อยละ ๗๐
- อธิบายการเกิดเงามืดเงามัว - ใบงาน เรือ่ งเงามืดเงามัว มดื เงามวั
ผา่ นเกณฑ์
จากหลักฐานเชิงประจักษ์ได้

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) - สงั เกตการตอบคำถาม - ขอ้ คำถาม ทำได้ถกู ต้องไม่น้อย

- ทดลองการเกิดเงาตา่ ง ๆ ได้ - กิจกรรมท่ี 1 การเกิดเงามืด - ปฏิบตั ิกิจกรรมที่ 1 กว่ารอ้ ยละ ๗๐

และเงามัว การเกิดเงามดื และเงามัว ผา่ นเกณฑ์

ด ้ า น ค ุ ณ ล ั ก ษ ณ ะ อ ั น พึ ง - สังเกตคณุ ลกั ษณะอันพึง - แบบประเมนิ ไดค้ ะแนนในระดับ
คุณลักษณะอันพึง 3 (ด)ี ขึ้นไป
ประสงค์ (A) ประสงค์ ประสงค์

- รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการ

ทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

6

7

8

ภาคผนวก

9

ใบงาน
เรื่อง เงามืดและเงามวั

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นระบุตำแหน่งเงามืดและเงามวั แล้วอธิบายการเกิดเงามดื และเงามัว

สำหรับตดิ จกิ ซอว์

เงามดื และเงามัวเกิดข้นึ
ไดอ้ ย่างไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10

บตั รภาพจิกซอว์



11

บตั รภาพจิกซอว์



12

บตั รภาพจิกซอว์



แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ 13

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ แสงและเงา เวลา ๕ ชว่ั โมง
เรื่อง การเขยี นแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกดิ เงามดื และเงามัว
ผสู้ อน นางสาวสุภสั สร แกว้ สวุ รรณ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
ภาคเรียนท่ี ๑

๑. มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชี้วดั
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอน

พลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เกีย่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมท้งั นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วดั ป.๖/๗ อธิบายการเกิดเงามดื เงามัวจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ป.๖/๘ เขียนแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิดเงามดื เงามัว

๒. สาระสำคญั
เม่ือนำวัตถุทบึ แสงมาก้นั แสงจะเกิดเงาบนฉากรบั แสงท่ีอยู่ด้านหลังวัตถโุ ดยเงามีรูปร่างคล้ายวัตถุที่ทำ

ให้เกดิ เงา เงามวั เปน็ บรเิ วณท่มี แี สงบางสว่ นตกลงบนฉาก ส่วนเงามืดเปน็ บรเิ วณทีไ่ ม่มแี สงตกลงบนฉากเลย
๓. จุดประสงค์การเรียนรู้

๓.๑ อธิบายการเขียนแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามวั ได้ (K)
๓.๒ เขยี นแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงามวั ได้ (P)
๓.๓ รบั ผิดชอบและมุ่งมน่ั ในการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย (A)
๔. สาระการเรยี นรู้
การเขียนแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการเกิดเงามดื และเงามัว
๕. กิจกรรมการเรยี นรู้
จดั กิจกรรมการเรยี นร้โู ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (๕Es) ซ่งึ มีข้ันตอนดังน้ี
ข้นั ท่ี ๑ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับการเกดิ เงามดื เงามัว จากช่ัวโมงท่ีแล้ว โดยใชค้ ำถามดังน้ี

- เงา เกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ เมื่อนำวตั ถุทึบแสงมากั้นแสงจะเกิดเงาบนฉากรับแสงท่ี

อยดู่ า้ นหลงั วตั ถุโดยเงามรี ูปร่างคล้ายวัตถทุ ี่ทำใหเ้ กิดเงา)

- เงามีกปี่ ระเภท อะไรบา้ ง (แนวตอบ เงามี 2 ประเภท คือ เงามืด และเงามัว)

- เงามืด และ เงามวั เกิดขึ้นไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ เงามืด เกดิ เม่ือ เงาที่ปรากฏบนฉากเป็น

บรเิ วณที่ไม่มีแสงตกกระทบทำใหเ้ งามืดจะมสี ีดำ และเงามัว เกดิ เม่อื เงาทปี่ รากฏบนฉากเปน็ บริเวณทมี่ ีแสง

บางสว่ นตกกระทบทำให้เงามัวมีสเี ทา)

14

1.2 นกั เรียนสงั เกตภาพ ดงั นี้

1.3 จากนั้นครูใช้คำถามกระตุ้นคิด เพ่ือเชือ่ มโยงสู่กจิ กรรมขั้นต่อไป ดังน้ี

- เขียนแนวรงั สีของแสงท่ตี กกระทบผนังท้งั สองดา้ นได้อย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ
ของตนเอง)

- จะเกดิ เงาข้ึนทผ่ี นังดา้ นใดและเกิดขึน้ ท่ีบริเวณใด (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
ขัน้ ท่ี ๒ สำรวจและคน้ หา (Explanation)

2.1 ครูเปิดวดิ โิ อ การเขยี นแผนภาพรังสขี องแสงใหน้ ักเรียนดู https://youtu.be/ZFytfGAv0JI
2.2 จากนน้ั ให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ พัฒนาการเรียนรูท้ ่ี 1 ในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.6 หนา้ 124
และทำแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.6 หนา้ 84
ขนั้ ท่ี ๓ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Exploration)
3.1 ครสู ุ่มนักเรยี นออกมานำเสนอ การวาดเสน้ รงั สีของแสง หน้าชั้นเรียน
3.2 จากนน้ั นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้

- นักเรียนเปรียบเทียบการเขียนแผนภาพแสดงรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัวของ
ตนเองกับของเพอ่ื นวา่ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของ ตนเอง)

- จากการแบบฝึกรูปแบบในการเขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัวมีกี่
รูปแบบ อะไรบ้าง (แนวตอบ 3 รูปแบบคือ 1. แหล่งกำเนิดแสงมีขนาดเป็นจดุ 2. แหล่งกำเนิดแสงมีขนาดเล็ก
หรือเทา่ กบั วตั ถุ 3. แหล่งกำเนดิ แสงมีขนาดใหญ่กวา่ วตั ถ)ุ

- แหลง่ กำเนดิ แสงทั้ง 3 รูปแบบ มลี กั ษณะเงามืดเงามัวจะเปน็ อย่างไร (แนวตอบ เปน็ จุด จะ
เกิดเงามัวล้อมเงามดื เล็กหรือเท่ากับวตั ถุ จะเกิดเงามัวล้อมเงามืด และขนาดใหญ่ จะเกิดเฉพาะเงามัวเท่านน้ั
เพราะเงามีลักษณะเปน็ จดุ )

- การเขียนรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัวของแหล่งกำเนิดแสงทั้ง 3 รูปแบบ มี
ลกั ษณะ เหมือนหรอื แตกตา่ งกันอย่างไร

15

- อธิบายการเขียนแผนภาพรังสีของแสงท่ีแสดงการเกิดเงามืดเงามวั (แนวตอบ วาด
เสน้ รังสขี องแสงออกจากแหล่งกำเนดิ แสง 2 จดุ คือ

เสน้ ที่ 1 : ลากจากจดุ บนของแหล่งกำเนดิ แสงไปยังผวิ บนของวัตถุจนถงึ ฉากรบั แสง
เสน้ ท่ี 2 : ลากจากจุดล่างของแหล่งกำเนดิ แสงไปยงั ผิวลา่ งของวตั ถุจนถึงฉากรบั แสง
เสน้ ท่ี 3 : ลากจากจดุ บนของแหล่งกำเนิดแสงไปยังผวิ ล่างของวตั ถุจนถงึ ฉากรบั แสง
เสน้ ท่ี 4 : ลากจากจดุ ล่างของแหล่งกำเนิดแสงไปยังผิวบนของวัตถุจนถึงฉากรับแสง
ยกเวน้ แหล่งกำเนิดแสงเปน็ จุด จะลากเพียงเส้นที่ 1 และเสน้ ท่ี 2)
- เพราะเหตุใดในการเขยี นแผนภาพแสดง การเกิดเงาจึงใช้การวาดเสน้ รงั สขี องแสง
เพยี ง 4 เส้น (แนวตอบ เพอ่ื ทำให้สะดวก และรวดเร็วขึ้น โดยละเสน้ รงั สอี ื่นไว้ไมต่ ้องเขยี น)
3.3 ครูและนักเรยี นรว่ มกันอธบิ ายและสรุปองคค์ วามรู้
ขัน้ ท่ี ๔ ขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูสนทนากับนักเรียนว่า เราสามารถนำความรู้เรื่องการเกิดเงามาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ (แนว
ตอบ : ได)้
4.2 นักเรียนยกตัวอย่างประโยชน์ของการเกิดเงาในชีวิตประจำวัน (นักเรียนยกตัวอย่างตามความคดิ
ของตนเอง) ครอู ธิบายประโยชน์ทีน่ ักเรยี นยกตัวอยา่ งเพมิ่ เติม
4.3 จากน้ันครูใช้คำถามวา่ เราจะเขียนเส้นรงั สีของแสงท่ีนกั เรยี นยกตวั อยา่ งนี้ได้อยา่ งไร
ข้นั ท่ี ๕ ประเมนิ (Evaluation)
5.1 ครตู รวจสอบหนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.6 หน้า 124
5.2 ครตู รวจสอบแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.6 หน้า 84
5.3 ครสู งั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม

๖. สอ่ื การเรียนรู้
6.1 หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.6
6.2 แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.6
6.3 วิดิโอ การเขยี นแผนภาพรงั สีของแสง https://youtu.be/ZFytfGAv0JI

๗. การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมอื วดั เกณฑ์

ด้านความรู้ (K) - สงั เกตการตอบคำถาม - ขอ้ คำถาม 16
- อธบิ ายการเขยี นแผนภาพรังสี - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั
ของแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงา วทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 การประเมินผล
มวั ได้ ทำได้ถกู ต้องไมน่ อ้ ย

กว่าร้อยละ ๗๐
ผา่ นเกณฑ์

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - สงั เกตการตอบคำถาม - ข้อคำถาม ทำได้ถูกต้องไม่นอ้ ย
- เขียนแผนภาพรังสีของแสง - ตรวจแบบฝกึ หัด
แสดงการเกิดเงามืดเงามวั ได้ วทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 - แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ กวา่ ร้อยละ ๗๐

ฯ ป.6 ผ่านเกณฑ์

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตคุณลักษณะอนั พงึ - แบบประเมิน ได้คะแนนในระดบั
3 (ดี) ขึ้นไป
(A) ประสงค์ คณุ ลักษณะอันพึง

- รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการ ประสงค์

ทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย

17

18


Click to View FlipBook Version