รายงานผลการปฏิบัติงาน ธันวาคม 65

๑

รายงาน

ผลงานผลการปฏิบัตงิ าน
(ประจาเดือน ธนั วาคม 2565)

สงั กดั สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาแมฮ่ อ่ งสอนเขต 1
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

๒

รายงานผลการปฏิบัตงิ าน
เพ่ือประกอบการพจิ ารณาเลอื่ นขนั้ เงนิ เดอื น

ประจาเดอื น ( ธนั วาคม )

ชื่อผูร้ ับการประเมนิ ว่าทรี่ ้อยตรี ทศวัตร สุขอาษา

ตาแหนง่ ครอู ัตราจ้าง เงนิ เดอื น ๘,500 บาท

สงั กดั โรงเรยี นขนุ ยวม สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑

ตอนท่ี ๑ การประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลการปฏบิ ัตงิ าน
๑. ดา้ นการจัดการเรียนรู้
๑.๑ การสร้างและหรือพฒั นาหลักสูตร
ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายจากผู้อานวยการโรงเรียนขุนยวม ให้สอนประจากลุ่มสาระการ

เรียนรู้ศิลปะในละดับอนุบาล ๒ ถึง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ข้าพเจ้าได้ทาการศึกษาหลักสูตรแกนกลาง

การศึกษาข้นั พื้นฐานกล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ พุทธศกั รา ๒๕๕๑ แบ่งออกเป็น 3 วิชา 1.ทัศนะศิลป์ 2.

ดนตรี 3. นาฏศิลป์ พบว่า การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ทาให้ผู้เรียนเกิดความคิด

สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างาน

ทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน

เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก

ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์

อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ช่ืนชม

และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ประกอบด้วย 3 สาระย่อย ดังนี้ สาระท่ี ๑ ทัศนะศิลป์ สาระท่ี ๒ ดนตรี

สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์

๑.๒ การจัดการเรียนรู้
๑.๒.๑ การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้

ข้าพเจ้าไดน้ าสาระทค่ี วรเรยี นรู้ 3 สาระนี้มาจัดแบ่งออกเป็นหน่วยการเรยี นรู้ได้ ดงั นี้
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 จานวน 3 วชิ า 11 หนว่ ยการเรียนรู้

ทศั นะศิลป์
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 รปู รา่ งรอบตวั ในธรรมชาติ และ ส่งิ ทมี่ นุษยส์ ร้างขึ้น
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ความรสู้ กึ ที่มีตอ่ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มรอบตวั
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 การใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ ดินน้ามัน ดนิ สอ กระดาษ ดนิ สอสีสร้าง

งานทศั นศิลป์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 สร้างงานทศั นศิลป์โดยการทดลองใช้สี ดว้ ยเทคนิคง่าย ๆ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การวาดภาพระบายสีตามความร้สู กึ ของตนเอง
ดนตรี
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 การกาเนิดของเสียง
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 7 ลกั ษณะของเสยี งดัง-เบา และความชา้ - เรว็ ของจงั หวะ

๓

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 8 การร้องเพลงประกอบจงั หวะ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 บทเพลงประกอบการละเลน่
นาฏศิลป์
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 การเคล่ือนไหวลักษณะต่าง ๆ
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 11 การแสดงทา่ ทางงา่ ย ๆ เพ่ือสือ่ ความหมาย แทนคาพูด
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน ๑3 หน่วยการเรยี นรู้
ทัศนะศลิ ป์
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 บรรยายรปู รา่ ง รูปทรงท่ีพบในธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ระบทุ ศั นธาตุท่อี ยู่ในส่ิงแวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ โดยเนน้

เร่อื งเส้น สี รปู ร่าง และรปู ทรง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ภาพปะติดจากกระดาษ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การวาดภาพถ่ายทอดเรอ่ื งราว
ดนตรี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 จาแนกแหลง่ กาเนดิ ของเสียงทีไ่ ด้ยิน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 จาแนกคุณสมบัตขิ องเสียง สูง- ตา่ , ดงั -เบา ยาว-สั้น ของ
ดนตรีหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เคาะจงั หวะหรอื เคลือ่ นไหวรา่ งกาย ใหส้ อดคลอ้ งกับเนื้อหา
ของเพลง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 รอ้ งเพลงง่าย ๆ ทีเ่ หมาะสมกับวยั
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 บอกความหมายและความสาคัญของเพลงทไี่ ด้ยิน
นาฏศิลป์
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 แสดงการเคล่ือนไหวทสี่ ะท้อนอารมณ์ของตนเองอย่างอิสระ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 11 แสดงท่าทาง เพ่ือสอื่ ความหมาย แทนคาพูด
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 12 แสดงทา่ ทางประกอบจงั หวะ อยา่ งสร้างสรรค์
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 13 การละเลน่ พื้นบ้าน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ๑3 หน่วยการเรียนรู้
ทัศนศิลป์
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 บรรยายรูปร่าง รูปทรงในธรรมชาติส่งิ แวดล้อม และงานทัศนศิลป์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ระบทุ ศั นธาตุท่ีอยู่ในสงิ่ แวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ โดยเน้น

เรอ่ื งเส้น สี รปู ร่าง และรูปทรง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 วาดภาพ ระบายสีส่ิงของรอบตวั
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 วาดภาพถา่ ยทอดความคดิ ความรสู้ กึ
ดนตรี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ระบุรูปร่างลักษณะของเคร่ืองดนตรีท่เี ห็นและไดย้ ินในชีวิตประจาวัน
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 ใชร้ ูปภาพหรอื สญั ลกั ษณ์แทนเสียง และจังหวะเคาะ
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ขับร้องและบรรเลงดนตรีงา่ ย ๆ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 เคล่ือนไหวทา่ ทางสอดคล้องกับอารมณ์ของเพลงทฟ่ี ัง
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 9 ร้องเพลงโดยใช้ชว่ งเสยี งทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง

๔

นาฏศลิ ป์
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 สรา้ งสรรค์การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ในสถานการณ์สั้น ๆ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 11 แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศลิ ป์

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 บอกประโยชนข์ องการแสดงนาฏศลิ ปใ์ นชวี ติ ประจาวนั
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 13 เล่าการแสดงนาฏศิลป์ท่เี คยเห็น ในทอ้ งถน่ิ
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน ๑3 หน่วยการเรียนรู้
ทัศนศิลป์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เปรียบเทียบรูปลักษณะของรูปรา่ ง รูปทรงในธรรมชาติ

สิ่งแวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 อภิปรายเก่ียวกับอทิ ธพิ ลของสวี รรณะอนุ่ และสวี รรณะเย็นทม่ี ี

ต่ออารมณ์ของมนุษย์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ระบุ และบรรยายเกี่ยวกบั ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ใน

แหล่งเรียนรู้หรือนิทรรศการศิลปะ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 อภิปรายเก่ยี วกับงานทัศนศิลป์ ที่สะท้อนวัฒนธรรมและภมู ิ

ปัญญา ในท้องถ่นิ
ดนตรี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 จาแนกประเภทของเคร่ืองดนตรีท่ีใช้ในเพลงทฟ่ี ัง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 ระบุทศิ ทางการเคล่อื นทขี่ นึ้ – ลงง่าย ๆ ของทานอง รูปแบบ

จังหวะและความเรว็ ของจังหวะในเพลงท่ฟี งั
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 อา่ น เขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 8 การขบั ร้องเพลงในบนั ไดเสียงท่ีเหมาะสมกับตนเอง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 การใช้และการดูแลรักษาเคร่ืองดนตรี
นาฏศิลป์
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 พ้ืนฐานทางนาฏศลิ ป์

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 11 การฝกึ ภาษาท่า
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 การฝกึ นาฏยศัพท์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 13 ราวงมาตรฐาน
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 จานวน ๑3 หน่วยการเรยี นรู้
ทัศนศลิ ป์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ระบุ และบรรยายเกยี่ วกบั ลักษณะรูปแบบของงานทัศนศลิ ป์ใน

แหล่งเรียนรู้หรือนทิ รรศการศิลปะ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 งานทศั นศลิ ป์ท่สี ะท้อนวัฒนธรรมและ ภมู ิปญั ญาในท้องถิ่น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การสรา้ งงานป้นั เพอ่ื ถ่ายทอดจินตนาการดว้ ยการใช้ดินนา้ มัน

หรอื ดนิ เหนยี ว
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของงานทัศนศิลป์

๕

ดนตรี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งดนตรีกับประเพณใี นวัฒนธรรมต่างๆ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 อธบิ ายคุณคา่ ของดนตรีทม่ี าจากวัฒนธรรมทต่ี า่ งกนั

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 ขบั ร้องและบรรเลงดนตรีง่าย ๆ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 8 อ่าน เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสากล

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 ด้นสดง่าย ๆ โดยใช้ประโยคเพลง แบบถามตอบ

นาฏศิลป์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 10 องค์ประกอบนาฏศิลป์

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 การฝกึ ภาษาท่า

หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 การฝึกนาฏยศัพท์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 13 ราวงมาตรฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน ๑3 หน่วยการเรยี นรู้
ทัศนศลิ ป์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 บรรยายรูปร่าง รูปทรงในธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อม และงานทัศนศลิ ป์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ระบทุ ศั นะธาตทุ ี่อยู่ในสิ่งแวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ โดยเนน้

เร่ืองเสน้ สี รูปรา่ ง และรูปทรง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 วาดภาพ ระบายสสี งิ่ ของรอบตัว
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 วาดภาพถา่ ยทอดความคิดความรู้สกึ
ดนตรี
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 บรรยายความรูส้ กึ ที่มตี อ่ ดนตรี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับทานอง จังหวะการประสานเสยี ง

และคณุ ภาพเสยี งของเพลงท่ีฟงั

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 อธบิ ายเรอื่ งราวของดนตรไี ทย ในประวตั ิศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 8 จาแนกดนตรีท่ีมาจากยุคสมัยท่ตี ่างกัน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 อภปิ รายอิทธิพลของวัฒนธรรม ต่อดนตรใี นท้องถน่ิ
นาฏศลิ ป์
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 อธิบายสงิ่ ที่มีความสาคัญต่อการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 ระบุประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการแสดงหรอื การชมการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 12 แสดงความคิดเหน็ ในการชมการแสดง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 13 แสดงนาฏศิลป์และละครงา่ ย ๆ

๖

๑.๒.๒ การจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ / แผนการจดั การเรยี นรู้เฉพาะบคุ คล / แผนการสอน
รายบคุ คล / แผนการจดั ประสบการณ์

ข้าพเจา้ ได้ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้เพื่อสามารถนาไปจัดการเรียนรู้ให้บรรลุตาม
มาตรฐานที่กาหนดไว้ทั้ง ๔ มาตรฐาน นอกจากการเตรียมการสอนโดยการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้
แล้วน้ัน ข้าพเจ้าได้มีการวางแผนในการใช้สื่อการเรียนการสอน วางแผนการจัดทาเครื่องมือวัดผลและ
ประเมนิ ผล พรอ้ มทั้งมีการเตรียมการสอนเพื่อใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ

๑.๒.๓ กลยุทธ์ในการจดั การเรยี นรู้
ขา้ พเจ้าไดม้ ีการเตรยี มการจดั การเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ดังน้ี
๑. เตรยี มตัวใหพ้ ร้อมตามแผนการจดั การเรยี นรู้ทเี่ ตรียมไว้
๒. เตรยี มตัวนกั เรียนให้พร้อม โดยก่อนสอนเนื้อหาใหม่ข้าพเจ้าจะมีการทดสอบ

ความรูพ้ ื้นฐานของนักเรยี นก่อนเรยี น
๓. เตรียมกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ โดยคานงึ ถึงความแตกตา่ งระหว่างบุคคล
๔. เตรยี มกจิ กรรมใหน้ ักเรียนไดฝ้ กึ ปฏิบัติจรงิ เพื่อให้นักเรียนไดน้ าความรู้ไปใช้
ในชีวิตประจาวนั
๕.เตรียมเอกสาร สอ่ื และอปุ กรณเ์ พื่อใช้ประกอบการสอน
๖. มกี ารวดั ผลประเมินผลหลังการทากจิ กรรม

๑.๒.๔ คณุ ภาพผเู้ รียน
๑.๒.๔.๑ ผลสัมฤทธ์ิทางวชิ าการของผเู้ รียน
ข้าพเจ้าได้พัฒนาผู้เรียนในระดับชั้นเรียนที่ได้รับมอบหมายให้จัดการเรียนรู้ใน

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 และระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖
๑.๒.๔.๒ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคข์ องผเู้ รียน
ข้าพเจ้าได้พฒั นาคุณภาพผเู้ รียนในระดับชัน้ เรยี นท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ไดแ้ ก่ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4/๑ จานวน ๑๙ คน ใหม้ ีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดงั น้ี
๑. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั ดี จานวน ๑๙ คน คิดเป็นร้อย

ละ ๑๐๐.๐๐
๒. การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี นส่อื ความ ระดบั ดเี ย่ียม จานวน

๗ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๓๖.๘๔ ระดบั ดี จานวน ๗ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๓๖.๘๔ ระดับผา่ น จานวน

๕ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๒๖.๓๑

๓. ค่านยิ มหลัก 12 ประการ ระดับดี จานวน ๑๙ คน คดิ เป็น
รอ้ ยละ ๑๐๐.00

๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ระดับดีเยี่ยม จานวน ๑ คน คดิ เป็น
ร้อยละ ๕.๘๘ ระดบั ดี จานวน ๑๔ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๘๒.๓๕ ระดบั ผา่ น จานวน ๖ คน คิดเป็นร้อย
ละ ๓๕.๒๙๘

๗

๑.๓ การสร้างและหรือพัฒนาสือ่ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้

ข้าพเจ้าไดจ้ ดั ทาใบงานและแบบฝึกเสริมกลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ลุ่มศิลปะ มกี ารใชส้ อื่ ในการจัด

กิจกรรมการเรียนการสอน ท้ังส่ือที่ผลิตข้ึนเองและจัดหาจัดซื้อ ได้นานักเรียนไปศึกษายังแหล่งเรียนรู้นอก

โรงเรยี น ได้แก่ นานักเรียนศึกษาวฒั นธรรมและประเพณีท้องถิ่น

๑.๔ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

๑. ขา้ พเจ้าได้จัดทาเอกสารเครือ่ งมือการวัดผลประเมินการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ของ

นกั เรียน

๒. ข้าพเจา้ ได้ทาการวดั ผลประเมนิ ผลผ้เู รยี นตามสภาพจริง และมกี ารวดั ผลประเมนิ โดย

องิ ตามมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

๑.๕ ศึกษา วเิ คราะห์ สังเคราะห์และหรอื วิจยั เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อ

คณุ ภาพผูเ้ รยี น

ข้าพเจา้ ไดบ้ นั ทึกพฤตกิ รรมผเู้ รยี นทมี่ ปี ัญหาทางการเรยี นรเู้ ป็นรายบุคคล เพ่ือนาไปเปน็

แนวทางในการพัฒนาการเรียนร้ใู นปีต่อไป วจิ ัยในช้นั เรยี น เรื่องการเพิ่มความสนใจเรยี นศิลปะและดนตรี

โดยใชเ้ กมการศึกษา

๒. ดา้ นการบรหิ ารจดั การชน้ั เรียน

๒.๑ การบริหารจัดการช้ันเรียนและการจดั ทาข้อมลู สารสนเทศ

ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เป็นครูประจาชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 มีนักเรียนจานวน

ทั้งสิ้น ๑6 คน เป็นนกั เรียนชาย 8 คน นักเรียนหญิง 8 คน ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานธุรการชั้นเรียนได้

อย่างถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ได้ดูแลเอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิดในด้านการเรียน และด้านความ

ประพฤติ การแต่งกาย กริ ยิ ามารยาท และใหค้ าปรกึ ษาแก้ไขปัญหาใหก้ ับนักเรียนที่มปี ัญหา

๒.๒ การจดั ระบบดูแลช่วยเหลือผเู้ รียน

ข้าพเจ้าได้พบปะพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียน เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัว

นักเรียน ได้แก่ สภาพความเป็นอยู่ครอบครัว ฐานะทางการเงิน ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและเรื่อง

อ่ืนๆ ทาใหไ้ ด้ทราบสภาพแวดลอ้ มทางบ้านของนักเรียนอย่างแท้จริงและทราบเจตคติของผู้ปกครองที่มีต่อ

นักเรยี นและสถานศกึ ษา

๓. ดา้ นการพฒั นาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ

๓.๑ การพัฒนาตนเอง

ขา้ พเจ้าได้ทาการศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ใหม่ ๆ จากการคน้ ควา้ จากแหล่งความร้ตู า่ งๆ

เช่น หนงั สอื อินเทอร์เนต็ เพ่ือนามาประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรยี นการสอนและงานทรี่ ับผดิ ชอบ

ขา้ พเจา้ ไดเ้ ข้ารบั การพัฒนาตนเองดังน้ี

หลักสูตรอบรม / สัมมนา วนั /เดอื น/ จานวน หน่วยงาน สาระเนอ้ื หา

ปี ชัว่ โมง ทจ่ี ัด

๘

๓.๒ การพัฒนาวิชาชีพ
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตนเพื่อรักษาชื่อเสียงและปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ มีความรักใคร่

สามัคคีในองค์กรของตนเองและองค์กรอ่ืน เข้าร่วมกิจกรรมตามท่ีองค์กรจัดขึ้น และปฏิบัติตาม
จรรยาบรรณวชิ าชีพครโู ดยเคร่งครัด

๔. งานอื่นที่ไดร้ ับมอบหมาย
ขา้ พเจ้าได้รบั มอบหมายงานตา่ งๆในภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ดงั ตอ่ ไปน้ี

1. แตง่ ตั้งเจ้าหนา้ ทอ่ี ย่เู วนรกั ษาการณ์สถานท่ีราชการ คาสงั่ โรงเรยี นท่ี 50/2565

ตอนที่ ๒ การประเมนิ การปฏิบตั ติ นในการรกั ษาวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี
๑. มีความซื่อสัตย์ สจุ ริต รกั ษาประโยชนส์ ว่ นรวม ไมอ่ าศยั หรือยินยอมให้ผู้อน่ื ใชอ้ านาจ

และหน้าทข่ี องตนเพือ่ แสวงหาประโยชน์
ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยไม่เคยคานึงถึงประโยชน์ส่วนตน ใช้

ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไม่นาทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ไม่เอางานส่วนตัวมาทาใน
เวลาราชการ

๒. การปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ กฎหมาย นโยบายและคาสงั่ ของผู้บงั คับบัญชา
ขา้ พเจา้ ไดป้ ฏบิ ัตติ นในดา้ นการรักษาช่ือเสียงของตนและสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด โดยไม่

เป็นผู้ท่ีเคยถูกดาเนินคดีทางวินัยและทางกฎหมาย ไม่เคยถูกว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช้ตาแหน่งหน้าที่รับ
ทรพั ยห์ รือสงิ่ ตอบแทนจากผ้รู บั บรกิ าร รักษาช่อื เสียง เกียรติยศของตนและเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยแอบอ้าง
หรือนาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน รักษาช่ือเสียงและเกียรติศักดิ์ของตนและองค์กรอย่างดีย่ิง ยึดมั่นใน
หลักคุณธรรม จริยธรรม ได้ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาคริสต์ ซ่ึงเป็นศาสนาท่ีตนเองนับถือ ได้
ประพฤติและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมอันดงี ามของไทย เคารพในสทิ ธแิ ละหน้าท่ี ให้ความร่วมมือในการ
ปฏบิ ัติงาน ประสานสมั พนั ธ์กบั บุคคลกบั เพ่ือนรว่ มงาน ชุมชน อยา่ งเต็มกาลงั ความสามารถ รับผิดชอบ
ต่อหน้าที่ในการปฏิบัติงานทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการตามกฎระเบียบแบบแผนของทางราชการอย่าง
เคร่งครัด ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเตม็ ใจและเต็มความสามารถ ตรงตอ่ เวลาและอุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ
และผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง ไม่ละท้ิงหรือทอดท้ิงหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยการอุทิศเวลาให้ทางราชการ ไม่ทา
ให้หน่วยงานได้รับความเสียหาย จัดการเรียนการสอนและการจัดทาโครงการ กิจกรรมของสถานศึกษา
ด้วยความเต็มใจ มัน่ ใจ อดทนไม่ย่อท้อเพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ มีความซื่อสัตย์ สุจริต ปฏิบัติ
หนา้ ที่ด้วยความโปรง่ ใส ถูกต้อง ใหข้ อ้ มลู ตามความเป็นจรงิ รักษาผลประโยชนข์ องทางราชการ
ไมค่ านึงถึงประโยชน์สว่ นตัว ไมก่ ระทาผิดหรือทุจริตตามหลกั ศลี ธรรม จรรยา มีความเกรงกลัวต่อบาป
ไม่เคยใช้อานาจในหน้าท่ีในทางมิชอบ และการแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองอย่างเด็ดขาด รักความ
สามคั คี มีน้าใจ เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ต่อเพื่อนร่วมงาน องค์กรและชุมชน ปฏิบัติตนเป็นผู้ที่ยอมรับในสิทธิของ
บุคคล ให้เกียรติต่อกันในการปฏิบัติงาน ช่วยเหลือเพ่ือนร่วมงานด้วยความเต็มใจ ประพฤติตนเป็นผู้ท่ีทา
คุณประโยชน์ต่อผู้อ่ืน เช่นการเข้าร่วมกิจกรรมของคณะครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน รวมท้ัง
หน่วยงานอืน่ ตามความเหมาะสมดว้ ยความเต็มใจ

๓. มีความวริ ิยะ อุตสาหะ ตรงต่อเวลาและอทุ ิศเวลาให้แกท่ างราชการ
ข้าพเจ้าได้ปฏบิ ัติงานด้วยความวริ ยิ ะ อุตสาหะ ขยนั อดทน ม่งุ ม่ัน ขา้ พเจ้าได้

ปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมของศาสนาทีต่ นนบั ถือ การเข้าร่วมพธิ ที างศาสนาในหมู่บ้านหรือองค์กรทางศาสนา

๙

จัดข้ึน ยดึ หลักคณุ ธรรม ในการปฏบิ ตั หิ น้าที่ในเวลาราชการข้าพเจา้ จะมาทางานก่อนเวลา 08.00 น.
และกลับหลังเวลา 16.30 น. ทกุ วนั ทาการ และปฏิบัตหิ น้าที่พิเศษตามคาส่งั ของโรงเรียน เข้ารว่ มประชมุ
อบรม สัมมนา ตามวนั เวลาที่ทางราชการและหนว่ ยงานจดั สง่ งานและรายงานผลการทางานที่ไดร้ บั
มอบหมายใหร้ ับผิดชอบตามวนั เวลาทสี่ ถานศึกษากาหนด อุทิศตนและเสียสละเวลา เพอื่ ดูแลและติดตาม
นักเรยี น การออกเยี่ยมบ้านนักเรยี นท่ีประจาชน้ั เพือ่ ใหเ้ หน็ ความเปน็ อยู่ท่ีแท้จริงของนักเรยี นและนาข้อมลู ที่
ไดม้ าช่วยเหลือนักเรยี นท่ีมีความจาเป็นท่ตี ้องการความชว่ ยเหลือ

๔. การมีจิตสานกึ ทีด่ ี มุ่งบรกิ ารต่อกลมุ่ เปา้ หมายผูร้ บั บริการโดยไม่เลอื กปฏิบัติ
ขา้ พเจ้า รัก เมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลือ สง่ เสริมให้กาลังใจแก่ศษิ ย์และผู้รับบริการ

ตามบทบาทหนา้ ที่โดยเสมอหน้า ประพฤติปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ท้ังทางกาย วาจา และจติ ใจ
ไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์และ
ผ้รู ับบริการ และให้บริการด้วยความจรงิ ใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการ
ใช้ตาแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ข้าพเจ้ารักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้
กาลังใจในการศึกษาเล่าเรียนโดยเท่าเทียมกัน อบรม ส่งเสริม ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะนิสัยที่ดี
งามใหแ้ กศ่ ิษย์อย่างเตม็ ความสามารถดว้ ยความบรสิ ทุ ธ์ใิ จ ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างท่ดี ีแก่ศิษย์ ไม่แสวงหา
ผลประโยชน์อนั เป็นอามิสสนิ จ้างจากศิษยใ์ นการปฏิบัติหนา้ ท่ีตามปกติ

๕. การรักษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวชิ าชพี
ขา้ พเจ้ามีความมงุ่ มัน่ ในการพัฒนาตนเองอยเู่ สมอ แสวงหาความรหู้ รอื เทคนคิ ใหมๆ่

เพ่อื เพม่ิ พูนความรู้และประสบการณ์ให้ทนั ต่อการเปลีย่ นแปลงของโลกและนามาประยุกต์ใชใ้ นการพัฒนา
งานของตน ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่รี าชการดว้ ยความรกั มงุ่ มัน่ ตัง้ ใจและเต็มใจ เต็มความสามารถ ปฏบิ ตั งิ านด้วย
ความซ่ือสตั ย์ สุจรติ อตุ สาหะ ประพฤตติ นเหมาะสมกบั ความเปน็ ครู อุทิศเวลาและรักษาประโยชน์ของทาง
ราชการใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด สุภาพเรยี บรอ้ ย มคี วามรักใครส่ ามัคคใี นองคก์ รของตนเองและองคก์ รอ่นื
รักษาเกยี รติยศ ช่ือเสยี งของตนเอง

๖. การรักษาภาพลกั ษณแ์ ละความสามัคคีในองค์กร ชุมชน และสังคม
ข้าพเจ้าใหค้ วามเคารพและมีปฏิสัมพันธท์ ่ดี ตี อ่ ผบู้ ังคบั บญั ชา ประพฤติตนในการรักษาความสามัคคี โดยมี
การประชุมปรึกษาหารือในการทางานร่วมกับเพ่ือนร่วมงานทุกครั้ง เคารพและรบั ฟังความคิดเหน็ ของ
เพ่ือนรว่ มงาน โดยไม่มขี ้อโต้แยง้ ยึดหลกั ประชาธปิ ไตยโดยถือเอาเสียงข้างมากมาใช้ในกระบวนการทางาน
ทางานรว่ มกับผู้อื่นอย่างเต็มใจและเตม็ ความสามารถ ไมเ่ อารดั เอาเปรียบเพ่ือนรว่ มงาน ทางานเปน็ ทีม
ตามคาสัง่ ที่ได้รบั มอบหมายอยา่ งเครง่ ครดั ตลอดจนการทางานลว่ งเวลาจนแลว้ เสร็จและบรรลุจดุ มุง่ หมาย
ชว่ ยเหลอื และใหค้ าปรึกษาแก่เพื่อนรว่ มงานที่มปี ัญหาและมีข้อสงสัยในการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเต็มใจและเตม็
ความสามารถ มนี า้ ใจต่อเพื่อนรว่ มงาน เอ้ือเฟ้ือ มีความเมตตาต่อนกั เรียนและบุคคลทัว่ ไป ข้าพเจ้าได้
ประพฤตติ นในการรกั ษาความสามัคคี โดยมีการประชมุ ปรกึ ษาหารือในการทางานร่วมกับเพื่อนรว่ มงานทุก
ครั้ง เคารพและรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน โดยไม่มีข้อโต้แย้ง ยึดหลักประชาธิปไตยโดยถือเอา
เสยี งขา้ งมากมาใชใ้ นกระบวนการทางาน ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ อยา่ งเต็มใจและเต็มความสามารถ ไม่เอารดั
เอาเปรียบเพือ่ นรว่ มงาน ทางานเป็นทมี ตามคาส่ังท่ไี ด้รับมอบหมายอย่างเครง่ ครดั

(ลงชอ่ื ) ...................................... ผเู้ สนอผลงาน
( ว่าทรี่ ้อยตรี ทศวตั ร สขุ อาษา )

ตาแหนง่ ครูอัตราจ้าง โรงเรยี นขุนยวม

๑๐

ภาคผนวก

๑๑

ภาคผนวก

คาสง่ั

๑๒

๑๓

๑๔

ภาคผนวก

ภาพกิจกรรม

รว่ มงานวันคริสต์มาสทโี่ บสถโ์ ปง่ ศลิ ๑า๕

๑๖

รว่ มกิจกรรมถวายโบสถ์ใหม่

กจิ กรรมเย่ียมบ้านนกั เรียนมง้ ๑๗

ท่ี ปางอ๋งุ ปางเก๊ยี ะ อ.แม่แจม่ จ.เชียงใหม่

๑๘

๑๙