1
แนวทางปฏบิ ตั ิเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั โรคโควดิ -19 ในสถานศกึ ษา
สาหรบั นกั เรยี น ครู และบคุ ลากรท่ีเกยี่ วขอ้ ง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นอย่างมาก มีแนวโน้ม
พบผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นและขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ต้ังแต่ระดับประเทศไปจนถึงระดับพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างย่ิง
ในสถานศกึ ษา เช่น โรงเรยี น สถานพฒั นาเด็กเลก็ เปน็ ตน้ ซง่ึ เปน็ สถานทที่ ม่ี ีผคู้ นรวมตวั กันเป็นจานวนมาก หากมี
นักเรียนหรือบุคลากรของสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงป่วยด้วยโรคโควิด-19 แล้วเข้ามาทากิจกรรมร่วมกัน อาจเกิด
การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บุคคลที่ป่วยและผู้สัมผัสใกล้ชิด ต้องหยุดเรียน หยุด
ปฏบิ ัติงาน รวมถึงสง่ ผลกระทบตอ่ พฒั นาการด้านการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายและการเรียนร้ขู องนักเรยี น ปัจจุบัน
ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคและไม่มียารักษาเฉพาะ ดังน้ันการป้องกันการติดเช้ือและยับยั้งการแพร่เชื้อจึงเป็นหัวใจ
สาคัญที่จะช่วยลดการเจบ็ ป่วย สถานศึกษาจาเป็นต้องเฝ้าระวัง คัดกรอง และป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเน่ือง
ซ่ึงต้องอาศัยความร่วมมอื ของทกุ คนในสถานศึกษา จึงจะสามารถป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคได้ กรมควบคุมโรค
ได้จัดทาแนวทางปฏิบัติสาหรับสถานศึกษาข้ึน เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง ครู ตลอดจนบุคลากรในสถานศึกษา
สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิเพื่อป้องกนั โรคโควิด-19 ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
คาแนะนาสาหรบั ผทู้ าหนา้ ทค่ี ดั กรองบรเิ วณทางเขา้ สถานศกึ ษา
1. ผู้ทาหน้าที่คัดกรองต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาท่ีทาการคัดกรอง กรณีสวม
Face Shield ต้องสวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั ร่วมดว้ ย
2. ล้างมือด้วยสบู่และน้าสะอาด หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้ง ก่อน-หลังทาการคัดกรอง
และหลีกเลยี่ งการนามือมาสมั ผัสใบหน้าใหม้ ากท่สี ดุ
3. ควรเวน้ ระยะหา่ งจากผู้ท่ีถกู คัดกรองประมาณ 1 เมตร
4. วัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์ชนิดมือถือ (Hand held thermometer) หากพบนักเรียน ครู หรือบุคลากรมีไข้
(อณุ หภูมิ ≥ 37.5 °C) ให้ผู้คัดกรองสวมถุงมืออนามัยแล้วทาการวัดอุณหภูมิซ้าด้วยปรอทวัดไข้ท่ีรกั แร้ และเช็ด
ปรอทวัดไขด้ ้วยแอลกอฮอล์ทกุ คร้ังหลงั ใช้งาน
5. หากวัดซ้าพบมีไข้ หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ ต้องให้ผู้มีอาการกลับบ้านหรือส่งไปตรวจรักษาที่
สถานพยาบาล
6. ควรทิง้ ถงุ มือและสาลีท่ใี ชแ้ ล้ว ในถังขยะท่ีจัดเตรียมไวเ้ สมอ
7. แนะนาใหน้ ักเรียน ครู และบคุ ลากรทกุ คนสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามยั ก่อนเขา้ สถานศึกษา
8. บันทึกข้อมูลของนักเรียน ครู หรือบุคลากร ที่มีไข้หรืออาการของระบบทางเดินหายใจ (ไอ น้ามูก เจ็บคอ
ไม่ได้กลิน่ หายใจเรว็ หายใจเหน่อื ย หรือหายใจลาบาก) เพอื่ ใช้ในการตรวจสอบการป่วยเป็นกล่มุ กอ้ น
(ดูแผนผังที่ 1 และ 2 ประกอบ)
2
แนวทางปฏบิ ตั เิ มอื่ พบผู้มอี าการปว่ ยระหวา่ งท่อี ยใู่ นสถานศกึ ษา
1. แยกผู้มอี าการป่วยออกจากคนปกติ และให้อยู่ในห้องหรือพืน้ ท่ีท่ีจัดเตรยี มไว้
2. ตดิ ต่อผปู้ กครองให้มารบั นักเรยี นกลบั บ้าน หรือสง่ ไปสถานพยาบาล
3. กรณีทราบวา่ ผู้ป่วยมปี ระวัตเิ ส่ียงต่อการติดเชอ้ื โควิด-19 ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสขุ ทราบ ภายใน 3 ช่ัวโมง
เพ่ือทาการควบคุมป้องกันโรค
4. กรณีมีผู้ป่วยมากกว่า 1 คน และจาเป็นต้องอยู่ในห้องแยกเดียวกัน ต้องจัดเตียงให้ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร
และควรมีฉากก้ันระหว่างเตยี ง
5. บนั ทกึ ขอ้ มลู ของนักเรยี น ครู หรือบุคลากร ท่ีมีปว่ ยเพื่อใช้ในการตรวจสอบการปว่ ยเปน็ กลุ่มกอ้ น
แนวทางปฏบิ ตั เิ มอ่ื ไดร้ ับแจง้ วา่ มนี กั เรยี น ครู หรอื บคุ ลากร เป็นผปู้ ว่ ยยนื ยนั โรคโควดิ -19
1. ให้ปิดห้องเรียนท่ีมีผู้ป่วยยืนยันเพื่อทาความสะอาดเป็นเวลา 3 วัน กรณีมีผู้ป่วยหลายห้องเรียนอาจพิจารณา
ปิดสถานศึกษาเพือ่ ทาความสะอาด 3 วัน
2. ให้ความรว่ มมือเจา้ หน้าท่สี าธารณสขุ ในการสอบสวนควบคุมโรค
3. ผสู้ ัมผสั ผปู้ ่วยยนื ยัน ตอ้ งกักตวั สงั เกตอาการทบ่ี ้าน ไมอ่ อกไปในที่ชุมชนเป็นเวลา 14 วัน
4. หากผู้สัมผัสมีไข้ ไอ น้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ต้องแจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขทราบ และไป
ตรวจรักษาที่สถานพยาบาล
5. เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ จะพจิ ารณาตรวจหาเชอื้ โควิด-19 หากผู้สัมผสั มคี วามเสี่ยงสงู ตอ่ การติดเช้ือ
6. เพ่ิมความเข้มข้นในการคัดกรอง การทาความสะอาด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลมากย่ิงข้ึน ตลอดจน
ส่อื สารให้ทกุ คนในสถานศกึ ษาปอ้ งกนั ตนเอง โดย สวมหน้ากากอนามัยและล้างมอื บ่อยๆ
(ดูแผนผงั ท่ี 3 ประกอบ)
แนวทางปฏบิ ตั เิ มอื่ พบนักเรยี น ครู หรอื บคุ ลากร ปว่ ยดว้ ยโรคระบบทางเดินหายใจเปน็ กลมุ่ กอ้ น
1. หากพบว่า มีนักเรียน ครู หรือบุคลากรที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกัน มีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ อย่างใด
อย่างหนึ่ง เช่น ไอ น้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ภายในสัปดาห์เดียวกัน ต้ังแต่ 5 รายขึ้นไป
ใหแ้ จ้งเจา้ หน้าทสี่ าธารณสุขทราบ เพอื่ ทาการสอบสวนควบคมุ โรค
2. ให้ทาความสะอาดห้องเรียนดังกล่าว และพ้ืนท่ีท่ีมีการใช้งานร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู โต๊ะเรียน
หอ้ งนา้ โตะ๊ อาหาร ฯลฯ ทัง้ น้สี ถานศึกษาควรทาความสะอาดพ้นื ผิวสัมผสั ทีใ่ ชร้ ว่ มกันบ่อยครั้งมากขนึ้
3. เพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรอง การทาความสะอาด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลมากยิ่งข้ึน ตลอดจน
ส่ือสารใหท้ กุ คนในสถานศึกษาปอ้ งกันตนเอง โดย สวมหนา้ กากอนามยั และล้างมือบอ่ ยๆ
4. ใหค้ วามรว่ มมอื เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ ในการสอบสวนควบคมุ โรค
(ดูแผนผงั ที่ 4 ประกอบ)
3
คาแนะนาสาหรบั ผปู้ กครอง
1. สังเกตอาการบุตรหลานทุกเช้าก่อนพาไปสง่ สถานศึกษา หากพบว่า มไี ข้ หรืออาการของระบบทางเดินหายใจ
เช่น ไอ น้ามูก เจ็บคอ หายใจเร็ว หายใจลาบาก หรือจมูกไม่ได้กลิ่น ต้องให้เด็กหยุดเรียน แล้วดูแลรักษา
ตามอาการเบือ้ งตน้ หากอาการไม่ดีข้นึ ให้พาไปพบแพทย์
2. ใหเ้ ดก็ สวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามยั ก่อนออกจากบา้ นทุกคร้งั
3. เมื่อได้รบั แจง้ จากทางสถานศกึ ษาว่า บตุ รหลานป่วยตอ้ งไปรบั กลับบ้านและดูแลปฐมพยาบาล หากบุตรหลาน
อาการไม่ทุเลาให้พาไปพบแพทย์
4. หากบุตรหลานมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 ต้องให้บุตรหลานกักตัวและสังเกตอาการที่บ้าน 14 วัน
และตอ้ งแจง้ ใหส้ ถานศึกษาทราบ รวมทัง้ ต้องปฏิบัติตามคาแนะนาของเจา้ หน้าทสี่ าธารณสุขอยา่ งเครง่ ครดั
แผนผังที่ 1 แนวทางปฏบิ ตั ิคดั กรองนกั เรยี นในสถานศึกษา เพ่อื เฝา้ ระวงั ป้องกนั ก
คดั กรองนักเรยี นทกุ คน ทกุ
วัดไข้ (ดว้ ยเครอื่ งวดั อณุ หภมู ทิ างหนา้ ผาก) และสงั เกตอาการของระบบทางเดินหายใจอยา่
ปกติ มไี ข้ (≥ 37.5 °C) หรอื มอี าการขอ
ติดสญั ลักษณ์ (ผ่าน) - แยกเด็กในหอ้ งท่จี ดั เตรยี มไว
- แจ้งผปู้ กครองรบั เด็กกลบั บ้า
- เขา้ เรียนตามปกติ เบ้ืองต้น หากอาการไม่ดีขึน้ ให้พ
- ปฏิบัตติ ามมาตรการการป้องกนั โรค - หยุดเรยี น จนกว่าจะหายปกต
หมายเหตุ
1. การคดั กรองไข้ ให้ใชเ้ ครอ่ื งวดั อณุ หภมู ทิ างหน้าผาก แต่การวัดยนื ยันให้ใช้ปรอทวดั ทางรัก
2. ควรแยกห้องสาหรับผู้มอี าการไขร้ ว่ มกบั อาการทางเดนิ หายใจ ออกจากผูป้ ว่ ยดว้ ยอาการ
3. หากมีจานวนผู้ป่วยตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป หอ้ งท่จี ดั เตรียมไว้สาหรับแยก ควรมฉี ากก้นั และเว
4. กรณพี บเด็กปว่ ยระหวา่ งวนั ใหแ้ ยกเดก็ ในห้องที่จดั เตรยี มไว้ และแจ้งผ้ปู กครองรบั เดก็ กล
4
การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19
กครง้ั กอ่ นเขา้ สถานศกึ ษา
างใดอยา่ งหนง่ึ (ไอ นา้ มกู เจ็บคอ ไมไ่ ดก้ ลนิ่ หายใจเรว็ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลาบาก)
ถ้าวดั ไข้ ≥ 37.5 °C ให้นั่งพัก 5 -10 นาที และวัดซา้ (ดว้ ยปรอทวดั ไข้ )
องระบบทางเดนิ หายใจ มไี ข้ (≥ 37.5 °C) รว่ มกบั มอี าการของระบบทางเดนิ หายใจ
บันทกึ ขอ้ มลู อาการปว่ ย
เพื่อตรวจสอบการปว่ ยเปน็ กลมุ่ กอ้ น
ว้ - แยกเด็กในห้องท่ีจัดเตรยี มไว้
าน เพ่อื ปฐมพยาบาล - แจง้ ผปู้ กครองให้พาเดก็ ไปพบแพทย์ หรอื ส่งตอ่ เด็กไปยงั
พาไปพบแพทย์ สถานพยาบาลที่ตดิ ต่อไว้
ติ - กรณีพบวา่ เดก็ มปี ระวตั เิ สี่ยงตอ่ การสัมผสั ผูป้ ่วยยนื ยัน
โรคโควดิ -19 ใหแ้ จง้ เจา้ หน้าที่สาธารณสขุ ภายใน 3 ช่ัวโมง
กแร้
รอื่น
วน้ ระยะหา่ งระหว่างเตียงอยา่ งน้อย 2 เมตร
ลบั บา้ น เพอื่ ปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น หากอาการไมด่ ีขน้ึ ใหไ้ ปพบแพทย์
* สามารถศกึ ษารายละเอียดเพ่มิ เตมิ ได้ท่ี https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/g_srrt.php
แผนผงั ที่ 2 แนวทางปฏบิ ตั ิคดั กรองครแู ละบคุ ลากรในสถานศกึ ษา เพือ่ เฝา้ ระวงั ป้อง
คดั กรองครแู ละบคุ ลากรทกุ คน ท
วัดไข้ (ดว้ ยเครอ่ื งวดั อณุ หภมู ทิ างหนา้ ผาก) และสังเกตอาการของระบบทางเดินหายใจอยา่ งใด
ปกติ บนั ท
ติดสญั ลักษณ์ (ผา่ น) เพอ่ื ตรวจส
- เข้าปฏบิ ตั งิ านตามปกติ 1
- ปฏบิ ัตติ ามมาตรการการป้องกนั โรค 2
3
ภ
หมายเหตุ
1. การคดั กรองไข้ ใหใ้ ช้เคร่ืองวดั อณุ หภมู ทิ างหนา้ ผาก แต่การวดั ยนื ยันให้ใชป้ รอทวัดทางรักแ
2. ควรแยกห้องสาหรับผูม้ ีอาการไข้รว่ มกบั อาการทางเดนิ หายใจ ออกจากผู้ป่วยด้วยอาการอ
3. หากมีจานวนผู้ปว่ ยตง้ั แต่ 2 รายขึ้นไป หอ้ งทจี่ ัดเตรียมไวส้ าหรบั แยก ควรมฉี ากกัน้ และเว้น
4. กรณมี อี าการปว่ ยระหว่างวนั ให้รีบไปพบแพทยห์ รอื แยกอย่ใู นหอ้ งท่จี ัดเตรียมไว้ เพ่อื รอกา
5
งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19
ทกุ ครง้ั กอ่ นเขา้ สถานศกึ ษา
ดอย่างหนึ่ง (ไอ นา้ มูก เจ็บคอ ไมไ่ ด้กลน่ิ หายใจเรว็ หายใจเหน่ือย หรอื หายใจลาบาก)
ถา้ วดั ไข้ ≥ 37.5 °C ให้นงั่ พัก 5 -10 นาที และวดั ซา้ (ดว้ ยปรอทวดั ไข้)
มไี ข้ (≥ 37.5 °C) หรอื มอี าการของระบบทางเดนิ หายใจ
ทึกขอ้ มูลอาการปว่ ย
สอบการปว่ ยเป็นกลมุ่ กอ้ น
1. ให้รีบไปพบแพทย์
2. ระหวา่ งรอการสง่ ไปตรวจรกั ษาทส่ี ถานพยาบาลให้อยูใ่ นห้องแยกท่ีเตรยี มไว้
3. กรณีพบวา่ มีประวัตเิ ส่ยี งตอ่ การสมั ผสั ผปู้ ว่ ยยืนยันโรคโควดิ -19 ใหแ้ จง้ เจา้ หนา้ ทส่ี าธารณสขุ
ภายใน 3 ชั่วโมง
แร้
อ่นื
นระยะหา่ งระหว่างเตยี งอยา่ งน้อย 2 เมตร
ารส่งตอ่ ไปยงั สถานพยาบาล
* สามารถศกึ ษารายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ ได้ท่ี https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/g_srrt.php
แผนผังที่ 3 แนวทางปฏบิ ตั ิเมอื่ พบผปู้ ว่ ยยนื ยนั โรคโควดิ -19 ในสถานศกึ ษา
ไดร้ บั แจง้ จากเจ้าหนา้ ที่สาธารณสขุ วา่ มนี กั เรยี น/คร
ให้ความร่วมมือเจา้ หน้าท่สี าธารณสขุ ป
และร่วมค้นหาผู้สมั ผัสใกล้ชิดผู้ปว่ ยยืนยนั เชน่ ผ้บู ริห
ดาเนนิ การตามคาแนะนาของเจา้ หนา้ ท่สี
6
ร/ู บคุ ลากรเป็นผปู้ ว่ ยยนื ยนั - พบผู้ป่วยยืนยันตั้งแต่ 1 ราย ให้ปิดห้องเรียน
เปน็ เวลา 3 วัน เพอ่ื ทาความสะอาด
- พบผู้ป่วยยืนยันในหลายห้องเรียน ให้พิจารณา
การปิดสถานท่ี (โดยขึ้นกับข้อมูลการสอบสวนโรค)
เป็นเวลา 3 วนั เพ่อื ทาความสะอาด
ประสานผู้เกย่ี วข้องเพื่อเตรยี มการควบคุมการแพร่เชอ้ื ในโรงเรียน
หารสถานศกึ ษา ครู สมาคมผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา เป็นตน้
สาธารณสุข
* สามารถศึกษารายละเอยี ดเพิ่มเตมิ ได้ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/g_srrt.php
แผนผงั ที่ 4 แนวทางปฏบิ ตั ิเมอื่ พบผปู้ ว่ ยมอี าการติดเชอื้ ระบบทางเดนิ หายใจเป็นกลุ่มก
สถานศึกษาไดร้ บั แจ้งว่านักเรียน/ครู/บุคลากร
ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและหยดุ มาโรงเรยี น
บนั ทกึ และรวบรว
พบผู้ป่วยดว้ ยโรคระบบทา
ในหอ้ งเดยี วกัน
1. แจ้งผ้บู รหิ ารสถานศึกษาหรือคณะกรรมการ
2. แจ้งเจา้ หน้าทส่ี าธารณสขุ ทราบ เพ่อื ดาเนิน
3. ทาความสะอาดหอ้ งเรยี นดังกล่าวและพื้นที่ส
4. คัดกรองเฝา้ ระวังอาการปว่ ยของนกั เรยี น ค
เพ่มิ ความถใ่ี นการทาความสะอาดพน้ื ทสี่ ่วนกล
7
กอ้ น (Cluster) ในสถานศกึ ษา
สถานศกึ ษาพบนักเรยี น/คร/ู บคุ ลากร
ปว่ ยดว้ ยโรคระบบทางเดินหายใจในระหวา่ งวนั
วมขอ้ มลู ผมู้ อี าการป่วย
างเดินหายใจ ตั้งแต่ 5 รายข้ึนไป
ในช่วงสปั ดาห์เดียวกัน
รสถานศึกษาทราบ
นการสอบสวนควบคมุ ป้องกันโรค
ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกนั
ครูและบุคลากรในสถานศึกษาเข้มข้นข้ึนพร้อมท้ัง
ลางที่ใชร้ ว่ มกัน
* สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/g_srrt.php