The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการบริหารจัดการสำหรับโรงเรียนเอกชน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wimgaraya, 2021-06-18 04:10:47

แนวทางการบริหารจัดการเรียนการสอน covid19

แนวทางการบริหารจัดการสำหรับโรงเรียนเอกชน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

Keywords: โควิด



สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน



คานา

แนวทางการบริหารจัดการสาหรับโรงเรียนเอกชน เพื่อปูองกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ
โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโควิด ๑๙ (COVID 19) ฉบับน้ี สานักงานคณะกรรมการส่งเสริม
การศึกษาเอกชน จัดทาขึ้นเพ่ือเป็นแนวทางการบริหารจัดการของโรงเรียนในสังกัด ในการปูองกันการแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตามมาตรการและข้อปฏิบัติเพ่ือให้โรงเรียนเอกชนได้นาไปเป็น
แนวทางในการวางแผนและแนวการปฏิบัติในการบริหารจัดการโรงเรียน ประกอบด้วย ๔ ส่วน ดังน้ี ส่วนท่ี ๑
การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ส่วนที่ ๒ แนวปฏิบัติระหว่างเปิดภาคเรียน ส่วนที่ ๓ รูปแบบ
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ส่วนที่ ๔ บทบาท
ผู้บริหารโรงเรยี น ครู ผู้สอนบคุ ลากรทางการศกึ ษา นักเรียน ผู้ปกครอง สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั และสานักงาน
การศึกษาเอกชนจังหวัด สามารถนาไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับสภาพ บริบท
ของโรงเรียน ในการส่งเสริมร่วมแรงร่วมใจกันทาให้โรงเรียนปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อที่
สอดคล้องกับ คู่มือการปฏิบัติสาหรับสถานศึกษาในการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ทั้งน้ีเนื้อหาในเอกสาร
ฉบับน้ีจะมีการปรับปรุงเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปล่ียนแปลงการแพร่ระบาดของโรคติด
เชอื้ ไวรัสในระยะตอ่ ไป

สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า
แนวทางการบริหารจัดการสาหรับโรงเรียนเอกชนเพื่อปูองกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จะช่วยให้โรงเรียน สานักงานศึกษาธิการจังหวัด และสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด
สามารถบริหารจัดการศึกษาในโรงเรียนไดอ้ ย่างปลอดภยั และมปี ระสทิ ธภิ าพ

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน
กระทรวงศึกษาธิการ
๑๙ มถิ ุนายน ๒๕๖๓

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน



สารบัญ

คานา ............................................................................................................................. .............................. ๒
สารบัญ ....................................................................................................................................................... ๓
สว่ นท่ี ๑ การเตรียมความพรอ้ มก่อนเปดิ ภาคเรยี น................................................................................... ๔

- ดา้ นสถานที่และสง่ิ แวดล้อมในโรงเรียน…………………………………………………………….….…..…. ๔
- ดา้ นหอ้ งเรียน ห้องปฏิบตั ิการ และสถานที่จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนอ่ืน ๆ….…………….... ๕
สว่ นท่ี ๒ แนวการปฏิบตั ิระหว่างเปิดภาคเรยี น………………………………………………………....……………….…. ๑๗
- แนวปฏิบตั ใิ นการประเมนิ ความพรอ้ มก่อนเปดิ เรียน............................................................. ๑๗
- แนวปฏบิ ัตขิ องกรมอนามัย.................................................................................................... ๑๘
- แนวปฏบิ ัตใิ นการปูองกันโรคของโรงเรียน………………………………………………………….……..… ๑๙
- แนวปฏบิ ัติกรณที ่มี นี ักเรยี นหรอื บคุ ลากรปุวย……………………………………………………………… ๒๓
ส่วนที่ ๓ รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั
โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ………………………………………………………………………………..………. ๒๕
- การพจิ ารณารปู แบบการจดั การเรียนการสอน……………………………………………………………... ๒๖
- แนวทางการจัดการเรยี นการสอนของโรงเรยี น……………………………………………………………... ๒๖
- รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของโรงเรยี น …………………………………………………….……... ๒๗
- การจดั การเรียนการสอนแบบปกติ (On-Site) ………….............………………..…………….….….. ๒๙
- การจดั การเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)…………………………………............ ๓๐
ส่วนท่ี ๔ บทบาทของผบู้ ริหาร ครูผ้สู อนและบคุ ลากรทางการศึกษา นกั เรียน และผ้ปู กครอง…......…. ๓๔
- บทบาทของผบู้ รหิ าร............................................................................................................ ๓๔
- บทบาทของครแู ละบุคลากรทางการศึกษา………………………….......……………………….…….…. ๓๕
- บทบาทของนักเรียน............................................................................................................. ๓๗
- บทบาทของผปู้ กครอง.......................................................................................................... ๓๘
ข้อเสนอแนะ............................................................................................................................. ................. ๔๐
การตดิ ตามและประเมนิ ผล ..................................................................................................................... ๔๒
เอกสารอา้ งองิ ……………………………………………………………………………………………………………………...….. ๔๔
ภาคผนวก............................................................................................................................. ..................... ๔๕

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน



สว่ นที่ ๑

การเตรยี มความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้มีการหารือ
รว่ มกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย องค์การอนามัยโลกประเทศ
ไทย ยูนิเซฟ และเครือขา่ ยที่เกยี่ วข้อง เพ่อื กาหนดมาตรการก่อนเปดิ ภาคเรยี นร่วมกัน

สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีโรงเรียนในสังกัดที่มีนักเรียน ครู
หรือผู้ดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง เจ้าหน้าท่ี แม่ครัว และผู้ปฏิบัติงานจานวนมากอยู่ร่วมกัน จึงมีโอกาสเส่ียง
ต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย การให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหลักการพ้ืนฐานอย่างเคร่งครัด
และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขสามารถช่วยให้นักเรียน ครูบุคลากรและแม่ครัว หยุดย้ัง
การแพร่กระจายของโรคโควิด-๑๙ นี้ได้ โดยมีคาแนะนาในการเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียน
สาหรบั โรงเรียน ๔ ดา้ น ดังนี้

๑. ดา้ นสถานท่ีและสิ่งแวดลอ้ มในโรงเรียน

 ตรวจสอบสถานที่ ซ่อมแซม ปรับปรุง ทาความสะอาด
อาคารเรียน ห้องเรียน ตู้ โต๊ะ เก้าอ้ี อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์
กีฬาเครื่องเด็กเล่น ห้องน้า ห้องส้วม ห้องครัวและอุปกรณ์ โรงอาหาร
สถานท่ีรับประทานอาหาร และอ่ืนๆ ท่ีครู นักเรียน อยู่ร่วมกัน
และมพี นื้ ที่สัมผสั

 ตรวจสอบอ่างล้างมือให้มีเพียงพอ อยู่ในสภาพดี
พรอ้ มใช้งาน รวมถึงสบู่ลา้ งมอื ท่เี พยี งพอ

 จั ด ส ถ า น ที่ เ พ่ื อ เ ว้ น ร ะ ย ะ ห่ า ง ร ะ ห ว่ า ง บุ ค ค ล
เช่น การเข้าแถว การเข้าคิว การจัดท่ีนั่งเรียน การจัดท่ีน่ังรับประทาน
อาหาร ตามมาตรการ เว้นระยะหา่ งทางกายภาพ (Physicial Distancing)

 องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) แนะนาระยะห่างทางสังคม
(Social Distancing) หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า ระยะห่างทางกายภาพ
ถ้าอยู่ในท่ีสาธารณะ ควรเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย ๑.๕ เมตร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผทู้ ไี่ อ จาม และมีไข้ เพ่ือปูองกันการรบั เชื้อโรค

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน



 ตวั อยา่ งมาตรการระยะห่างปลอดภยั
✓ จัดโ ต๊ะเรียน โ ต๊ะรับประทานอาหารกลางวัน
และโต๊ะทางานครูให้มีระยะห่าง
✓ ท า สั ญ ลั ก ษ ณ์ เ พ่ื อ เ ว้ น ร ะ ย ะ ห่ า ง ร ะ ห ว่ า ง บุ ค ค ล
เช่น จดุ ตรวจวัดไข้กอ่ นเข้าโรงเรยี น แถวรับอาหารกลางวนั จดุ ล้างมอื เปน็ ต้น
✓เหลื่อมเวลาพกั รบั ประทานอาหารกลางวนั

 สาหรับเด็กเล็กท่ียังต้องนอนกลางวัน หรือโรงเรียน
ในพ้ืนที่ห่างไกลที่มีโรงนอน ให้รักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย
๑.๕ เมตร โดยไม่เอาศีรษะชนกันและแยกอุปกรณ์เครื่องใช้
เป็นของส่วนตวั ไม่ใช้ร่วมกนั กรณหี ากมีเดก็ ปุวยให้หยดุ อยูก่ ับบ้าน

 แจ้งผู้ปกครองที่นักเรียนมีอาการเจ็บปุวย เช่น มีไข้
ไอจาม มีน้ามูก เหน่ือยหอบ หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน
ให้หยุดเรียน รวมท้ังขอความร่วมมือ กรณีท่ีมีคนในครอบครัวปุวย
ด้วยโรคติดเช้ือโควิด-๑๙ หรือกลับจากพื้นท่ีเสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน
ใหป้ ฏบิ ตั ิตวั ตามคาแนะนาของเจ้าหนา้ ทส่ี าธารณสขุ อยา่ งเคร่งครัด

๒. ดา้ นหอ้ งเรียน ห้องปฏบิ ตั กิ าร และสถานทจ่ี ัดกจิ กรรมการเรียนการสอนอนื่ ๆ

 หอ้ งเรียน ห้องเรียนรวม เชน่ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ ห้องดนตรี
๑. จัดโต๊ะเก้าอ้ีหรือท่ีน่ังให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย ๑.๕ เมตร
ควรคานึงถึงสภาพบริบทและขนาดพ้ืนท่ี และจัดทาสัญลักษณ์แสดงจุดตาแหน่งชัดเจน กรณีห้องเรียน
ไม่เพียงพอในการจัดเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ควรจัดให้มีการสลับวันเรียนแต่ละช้ันเรียน แบ่งจานวน
นักเรียน หรือการใช้พื้นท่ีใช้สอยบริเวณโรงเรียนตามความเหมาะสม ท้ังน้ีอาจพิจารณาวิธีปฏิบัติอ่ืน
ตามบรบิ ทความเหมาะสม โดยปฏบิ ัติตามมาตรการเวน้ ระยะห่างทางสงั คม (Social distancing)
๒. การจัดนักเรียนในห้องเรียน ให้โรงเรียนจัดนักเรียนเข้าชั้นเรียน ห้องเรียนละ ๒๐ - ๒๕ คน
เว้นแต่โรงเรยี นใดมขี นาดห้องเรยี นกว้างขวางเพยี งพอให้จัดนักเรยี นเขา้ ชัน้ เรยี นได้ไม่เกนิ ๓๐ คน
๓. จัดให้มีการเหลื่อมเวลาเรียนการเรียนกลุ่มย่อยหรือวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมตามบริบท
สถานการณ์ และเนน้ ใหน้ กั เรียนสวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามัยขณะเรียนตลอดเวลา

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน


๔. จัดให้มีการระบายอากาศท่ีดี ให้อากาศถ่ายเท เช่น เป็ดประตูหน้า ต่าง หลีกเลี่ยงการใช้
เคร่ืองปรับอากาศหากจาเป็นต้องใช้เคร่ืองปรับอากาศ กาหนดเวลา เปิด – ปิด เครื่องปรับอากาศ
เปิดประตูหน้าตา่ งระบายอากาศ ทกุ ๑ ช่วั โมง และทาความสะอาดอยา่ งสมา่ เสมอ
๕. จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับนักเรียนและครูใชประจาทุกห้องเรียน
อย่างเพียงพอ
๖. ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอ้ี อุปกรณ์และจุดสัมผัสเส่ียง เช่น ลูกบิดประตู เคร่ืองเล่น
ของใช่ร่วมกัน ทุกวันอย่างน้อยวันละ ๒ ครั้ง เช้าก่อนเรียนและพักเท่ียง กรณีการย้ายห้องเรียน
ต้องทาความสะอาดโต๊ะเกา้ อ้ีก่อนและหลังใช่งานทกุ ครั้ง

การจัดห้องเรยี นใหม้ กี ารเว้นระยะห่างทางสงั คม (Social distancing)

 ห้องสมุด
๑. จัดโต๊ะเก้าอ้ีหรือท่ีน่ังให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร และจัดทา
สัญลกั ษณแ์ สดงจดุ ตาแหน่งชดั เจน
๒. จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีให้อากาศถ่ายเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หากจาเป็นต้องใช้
เคร่ืองปรับอากาศ กาหนดเวลา เปิด-ปิด เคร่ืองปรับอากาศ เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศทุก ๑ ช่ัวโมง
และทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ
๓. จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือ สาหรับครูบรรณารักษ์ นักเรียน
และผูใ้ ช้บริการ บรเิ วณประตูทางเขา้ และภายในห้องสมุดอยา่ งเพียงพอ
๔. ให้มีการทาความสะอาดโตะ๊ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเส่ียง เช่น ลูกบิดประตู ช้ันวางหนังสือทุก
วนั ๆ ละ ๒ คร้ัง (เช้ากอ่ นใหบ้ ริการ พักเทย่ี ง)
การจากัดจานวนคน จากัดเวลาในการเข้าใช้บริการห้องสมุด และให้นักเรียนและผู้ใช้บริการทุกคน
สวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการหอ้ งสมดุ ตลอดเวลา

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน



 ห้องประชุม หอประชุม
๑. จัดให้มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าห้องประชุม หอประชุม หากพบ
ผู้มีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ให้แยกนักเรียน
ไว้ท่ีห้องที่จัดเตรียมไว้ บันทึกรายช่ือและอาการปุวย ประเมินความเสี่ยง แจ้งผู้ปกครองดาเนินการ
ตามขั้นตอนการคัดกรอง
๒. จัดโตะ๊ เก้าอี้ หรอื ที่นั่งให้มกี ารเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ๑.๕ เมตร และจัดทาสัญลักษณ์
แสดง จดุ ตาแหน่งชัดเจน
๓. ผเู้ ข้าประชมุ ทุกคนสวมหนา้ กากผ้าหรือหน้ากากอนามัยขณะประชุมตลอดเวลา
๔. จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับผู้เข้าประชุม บริเวณทางเข้า
ภายในอาคาร หอประชุม บริเวณทางเข้าด้านหน้าและดา้ นในของห้องประชมุ อยา่ งเพียงพอและทัว่ ถงึ
๕. งดหรือหลกี เลีย่ งการให้บริการอาหารและเครอื่ งดมื่ ภายในห้องประชุม
๖. ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเสี่ยงร่วม เช่น ลูกบิดประตู รีโมท
อุปกรณ์ สอ่ื ก่อนและหลงั ใช้ห้องประชมุ ทุกครงั้
๗. จดั ใหม้ ีการระบายอากาศทีด่ ี ให้อากาศถ่ายเท เชน่ เปิดประตู หน้าต่าง ก่อนและหลังใช้ห้อง
ประชุม ทุกครั้ง หากจาเป็นต้องใช้เคร่ืองปรับอากาศ กาหนดเวลาเปิด - ปิดเคร่ืองปรับอากาศ
เปิดประตู หน้าตา่ ง ระบายอากาศ ทุก ๑ ชัว่ โมง และทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ

 สถานที่แปรงฟนั
โ ร ง เ รี ย น ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ มี กิ จ ก ร ร ม แ ป ร ง ฟั น ห ลั ง อ า ห า ร ก ล า ง วั น อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง เ ห ม า ะ ส ม
ตามสถานการณ์และบริบทพ้ืนท่ี หลีกเล่ียงการรวมกลุ่ม ควรจัดเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในการแปรงฟัน
และใหม้ ีอปุ กรณ์การแปรงฟนั สว่ นบคุ คล ดงั นี้

- การจดั เตรยี มวสั ดุอปุ กรณก์ ารแปรงฟัน และแปรงสีฟัน
๑. นกั เรยี นทุกคนมแี ปรงสีฟันเปน็ ของตนเอง หา้ มใชแ้ ปรงสีฟันและยาสีฟนั ร่วมกนั
๒. ทาสัญลักษณ์หรือเขียนชื่อบนแปรงสีฟันของแต่ละคน เพื่อให้รู้ว่าเป็นแปรงสีฟัน
ของใคร ปูองกันการหยบิ ของผ้อู ่ืนไปใช้
๓. ควรเปลีย่ นแปรงสีฟนั ให้นักเรยี น ทุก ๓ เดือน เม่อื แปรงสีฟันเส่ือมคุณภาพ โดยสงั เกต ดงั น้ี

- บรเิ วณหัวแปรงสีฟันมีคราบสกปรกตดิ คา้ ง ลา้ งได้ยาก
- ขนแปรงสีฟันบานแสดงว่าขนแปรงเสื่อมคุณภาพใช้แปรงฟันได้ไม่สะอาด และอาจ
กระแทกเหงอื กให้เป็นแผลได้
ยาสีฟัน ให้นักเรียนทุกคนมียาสีฟันเป็นของตนเอง และเลือกใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
ซึ่งมปี ริมาณฟลอู อไรด์ ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ ppm. (มิลลกิ รัม/ลิตร) เพือ่ ปูองกนั ฟนั ผุ
แก้วน้า จัดให้นักเรียนทุกคนมีแก้วน้าส่วนตัวเป็นของตนเอง จานวน ๒ ใบ ผ้าเช็ดหน้า
สว่ นตวั สาหรับใชเ้ ช็ดทาความสะอาดบริเวณใบหนา้ ควรซกั และเปล่ียนใหมท่ กุ วนั

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน



- การเกบ็ อุปกรณก์ ารแปรงฟัน และแปรงสฟี นั
๑. เก็บแปรงสีฟนั ในบรเิ วณทมี่ อี ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก ไมอ่ บั ชนื้ และปลอดจากแมลง
๒. จัดทาที่เก็บแปรงสีฟัน แก้วน้า โดยเก็บของแต่ละคนแยกจากกัน ไม่ปะปนกัน เว้นให้มี
ระยะห่างเพียงพอ ท่ีจะไม่ให้แปรงสีฟันสัมผัสกัน เพื่อปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
และควรจดั วางหัวของแปรงสีฟนั ตั้งขน้ึ เพือ่ ปอู งกันไมใ่ ห้นา้ ท่คี า้ งตามด้ามแปรงสีฟันหยดลงใส่หัวแปรงสฟี นั
- การจัดหลงั อาหารกลางวัน
ครูประจาช้ันควรดูแลและจัดให้มีกิจกรรมการแปรงฟันในห้องเรียน ให้นักเรียนทุกคน
แปรงฟันหลังอาหารกลางวันทุกวันอย่างสม่าเสมอ โดยหลีกเล่ียงการรวมกลุ่ม และเว้นระยะห่าง
ในการแปรงฟนั
๑. ให้นักเรียนแปรงฟันในห้องเรียน โดยนั่งที่โต๊ะเรียน เพ่ือปองกันการแพร่กระจาย
ของนา้ ลาย ละอองน้า หรอื เช้อื โรคสผู่ อู้ ่ืน กรณหี ้องเรียนแออดั ใหเ้ หลือ่ มเวลาในการแปรงฟนั
๒. ก่อนการแปรงฟันทุกคร้ังให้ล้างมือด้วยสบู่และน้าเสมอ เป็นเวลาอย่างน้อย ๒๐ วินาที หรือ
เจลแอลกอฮอล์ท่ีมีความเข้มข้น ๗๐-๗๔ % หลีกเล่ียงการรวมกลุ่ม และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่าง
นอ้ ย ๑.๕ เมตร
๓. ครปู ระจาช้นั เทนา้ ให้นกั เรียนใส่แก้วน้าใบที่ ๑ ประมาณ ๑/๓ แกว้ (ประมาณ ๑๕ มิลลลิ ิตร)
๔. นักเรียนน่ังท่ีโต๊ะเรียนแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกซ่ี ทุกด้าน
นานอย่างน้อย ๒ นาที เมื่อแปรงฟันเสร็จให้บ้วนยาสีฟันและน้าสะอาดลงในแก้วน้าใบท่ี ๒ เช็ดปาก
ให้เรยี บร้อย
๕. นักเรียนทุกคนนาน้าท่ีใช้แล้วจากแก้วใบที่ ๒ เทรวมใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ และให้ครูประจาช้ัน
นาไปเททิง้ ในที่ระบายนา้ ของโรงเรยี น ห้ามเทลงพืน้ ดิน
๖. นักเรียนนาแปรงสีฟันและแก้วน้าไปล้างทาความสะอาด และนากลับมาเก็บให้เรียบร้อย
หลีกเลีย่ งการรวมกล่มุ และเว้นระยะห่างระหวา่ งบคุ คล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร
๗. มีการตรวจความสะอาดฟันหลังการแปรงฟันด้วยตนเองทุกวัน นักเรียนอาจมีกระจก
ของตวั เองในการตรวจดูความสะอาด เสรมิ ด้วยกจิ กรรมการย้อมสีฟัน อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน



 หอ้ งนอนเดก็ เลก็
๑. ทาความสะอาดเคร่ืองนอน เปลี่ยนผ้าปูท่ีนอน ปลอกหมอน และผ้ากันเปื้อนทุกวัน
รวมถงึ ทาความสะอาดอปุ กรณ์ของใชข้ องเล่น ตู้เก็บของส่วนบคุ คลและจุดสัมผสั เสีย่ งร่วม เปน็ ประจาทกุ วนั
๒. จัดให้มีพื้นท่ีสาหรับการเรียนรู้ของเด็กรายบุคคล เช่น เรียนบนเสื่อ ใช้สัญลักษณ์
แทนขอบเขต รวมถึงการจดั ท่นี อน สาหรับเด็ก ตอ้ งเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร
๓. มีและใชข้ องใช้สว่ นตวั ไม่ใชข้ องใช้รว่ มกัน เชน่ ผา้ กนั เปื้อน ผ้าเช็ดหน้า ผา้ เชด็ ตวั แก้วน้า
๔. จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับครูและนักเรียน บริเวณทางเข้า
และภายในหอ้ งอยา่ งเพียงพอ
๕. มีการระบายอากาศที่ดี อากาศถ่ายเทสะดวก เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หลีกเล่ียง
การใช้เครื่องปรับอากาศ หากจาเป็นใช้เคร่ืองปรับอากาศต้องกาหนดเวลา เปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศ
และเปดิ ประตู หนา้ ตา่ ง ระบายอากาศทกุ ๑ ช่ัวโมง และตอ้ งทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ
๖. จัดอุปกรณ์การส่งเสริมพัฒนาการเด็กอยา่ งเพียงพอ
๗. อัตราส่วนของครู ผดู้ ูแลเดก็ หรือพ่เี ลยี้ งตอ่ เดก็ เลก็ ๑ : ๕-๘ ในการดูแลเดก็ ตลอดทั้งวัน

 สนามเด็กเล่น
๑. ให้มีการทาความสะอาดเคร่ืองเล่นและอุปกรณ์การเล่นทุกวัน อย่างน้อยวันละ ๒ คร้ัง
ทาความสะอาดดว้ ยน้ายาทาความสะอาด
๒. จัดเครื่องเล่น อุปกรณ์การเล่น และนักเรียนให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล
อยา่ งน้อย ๑.๕ เมตร และกากับดแู ลใหเ้ ดก็ สวมหนา้ กากผ้าหรอื หนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาการเล่น
๓. จากัดจานวนนักเรียน จากัดเวลาการเล่นในสนามเด็กเล่น โดยอยู่ในความควบคุมดูแล
ของครูในชว่ งเวลาพักเท่ียง และหลงั เลกิ เรยี น
๔. ให้ล้างมอื ด้วยสบูแ่ ละน้าหรือเจลแอลกอฮอล์ ทาความสะอาดมือก่อนและหลังการเลน่ ทุกครั้ง

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๑๐

 หอ้ งส้วม
๑. จัดเตรียมอุปกรณ์ทาความสะอาดอย่างเพียงพอ ได้แก่ น้า ยาทาความสะอาด
หรอื น้ายาฟอกขาว อุปกรณก์ ารตวง ถงุ ขยะ ถังนา้ ไมถ้ ูพนื้ คีบด้ามยาวสาหรับเกบ็ ขยะ ผ้าเช็ดทาความสะอาด และ
อุปกรณ์ปูองกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงาน เช่น ถุงมือ หน้ากากผ้า เสื้อผ้า
ทจ่ี ะนามาเปล่ียนหลังทาความสะอาด
๒. การทาความสะอาดห้องน้า ห้องส้วม ควรทาความสะอาดอย่างน้อยวันละ ๒ คร้ัง
ด้วยน้ายาทาความสะอาดทั่วไป พื้นห้องส้วม ให้ฆ่าเชื้อโดยใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเช้ือท่ีมีส่วนผสมของโซเดียม
ไฮโปคลอไรท์ (รู้จักกันในชื่อ “น้ายาฟอกขาว”) โดยนามาผสมกับน้า เพ่ือให้ได้ความเข้มข้น ๐.๑ %
หรือ ๑,๐๐๐ สว่ นในล้านส่วน หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเช้ือท่ีมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนามาผสมกับน้า
เพ่ือให้ได้ความเข้มข้น ๐.๕ % หรือ ๕๐๐๐ ส่วน ในล้านส่วน ราดน้ายาฆ่าเช้ือ ท้ิงไว้อย่างน้อย
๑๐ นาที เน้นเช็ดบริเวณที่รองนั่งโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ท่ีกดชักโครก สายชา ระ ราวจับ ลูกบิด
หรือกลอนประตู ที่แขวนกระดาษชาระ อ่างล้างมือ ขันน้า ก๊อกน้า ที่วางสบู่ ผนัง ซอกประตู
ด้วยผา้ ชุบนา้ ยาฟอกขาว หรอื ใช้แอลกอฮอล์ ๗๐ % หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ๐.๕๙ %
๓. หลังทาความสะอาด ควรซักผ้าเช็ดทาความสะอาดและไม้ถูพ้ืน ด้วยน้าผสมผงซักฟอก
หรือนา้ ยาฆา่ เชอื้ แล้วซกั ดว้ ยนา้ สะอาดอกี คร้ังและนาไปฝง่ั แดดใหแ้ ห้ง

 ห้องพักครู
๑. จัดโต๊ะ เก้าอี้ หรือท่ีนั่ง ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร
ควรคานึงถึงสภาพบริบทและขนาดพ้ืนที่ อาจพิจารณาใช้ฉากก้ันบนโต๊ะเรียน และจัดทาสัญลักษณ์
แสดงจุดตาแหนง่ ชัดเจน โดยถือปฏบิ ตั ติ ามหลัก Social distancing อย่างเครง่ ครัด
๒. ใหค้ รูสวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทอี่ ยู่ในโรงเรยี น
๓. จัดให้มีการระบายอากาศท่ีดี ให้อากาศถ่ายเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หลีกเลี่ยง
การใช้เคร่ืองปรับอากาศ หากจาเป็นต้องใช้เคร่ืองปรับอากาศ กาหนดเวลา เปิด – ปิด เครื่องปรับอากาศ
เปิดประตู หนา้ ตา่ ง ระบายอากาศ ทุก ๑ ชัว่ โมง และทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๑๑

๔. ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเส่ียง เช่น ลูกบิดประตู อุปกรณ์
คอมพวิ เตอร์ โทรศพั ท์ เป็นต้น เป็นประจาทุกวัน อยา่ งน้อยวันละ ๒ คร้งั

๕. จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับครูและผู้มาติดต่อ บริเวณทางเข้า
ดา้ นหน้าประตู และภายในหอ้ งอย่างเพยี งพอและท่วั ถึง

 ห้องพยาบาล
๑. จดั หาครูหรือเจา้ หน้าที่ เพื่อดแู ลนกั เรยี น ในกรณีที่มีนกั เรียนปุวยมานอนพกั รอผ้ปู กครองมารับ
๒. จัดให้มีพื้นที่หรือห้องแยกอย่างชัดเจน ระหว่างนักเรียนปุวยจากอาการไข้หวัดกับนักเรียน
ปุวยจากสาเหตุอน่ื ๆ เพือ่ ปูองกนั การแพรก่ ระจายเช้ือโรค
๓. ทาความสะอาดเตยี งและอปุ กรณข์ องใชท้ ุกวัน
๔. จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือ บริเวณทางเข้าหน้าประตูและภายใน
ห้องพยาบาลอยา่ งเพียงพอ
 โรงอาหาร
การจัดบริการภายในโรงอาหาร การนั่งกินอาหารร่วมกันของผู้ใช้บริการ รวมถึงอาหาร ภาชนะ
อุปกรณ์ ตู้กดน้าดื่ม ระบบกรองน้าและผู้สัมผัสอาหาร อาจเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค
จึงควรมีการดแู ล เพือ่ ลดและปูองกนั การแพร่กระจายเชอื้ โรค ดังน้ี
๑. หน่วยงานที่จัดบริการโรงอาหาร กาหนดมาตรการการปฏิบัติให้สถานท่ีสะอาด
ถูกสขุ ลักษณะ ดังนี้

(๑) จัดให้มีอ่างล้างมือ พร้อมสบู่ สาหรับให้บริการแก่ผู้เข้ามาใช้บริการโรงอาหาร
บริเวณก่อนทางเข้าโรงอาหาร

(๒) ทกุ คนทจี่ ะเข้ามาในโรงอาหาร ต้องสวมหน้ากากผา้ หรือหน้ากากอนามัย
(๓) จัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร ในพ้ืนท่ีต่าง ๆ
เช่น ทน่ี ง่ั กินอาหารจดุ รับอาหาร จุดซอ้ื อาหาร จุดรอกดนา้ ดืม่ จดุ ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั ของผสู้ มั ผัสอาหาร
(๔) จดั เหลอ่ื มช่วงเวลาซอื้ และกนิ อาหาร เพือ่ ลดความแออดั พน้ื ทภ่ี ายในโรงอาหาร
(๕) ทาความสะอาดสถานท่ีปรุง ประกอบอาหาร พ้ืนที่ตั้งตู้กดน้าด่ืม และพื้นท่ีบริเวณ
ท่ีน่ังกินอาหารให้สะอาด ด้วยน้ายาทาความสะอาดหรือผงซักฟอก และจัดให้มีการฆ่าเชื้อด้วยโซเดียม
ไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) ท่ีมีความเข้มข้น ๑,๐๐๐ ส่วนในล้านส่วน (ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ๖ %
อัตราสว่ น ๑ ช้อนโต๊ะต่อน้า ๑ ลติ ร)
(๖) ทาความสะอาดโต๊ะและท่ีนั่งให้สะอาด สา หรับนั่งกินอาหาร ด้วยน้ายา
ทาความสะอาดหรือจัดให้มีการฆ่าเช้ือด้วยแอลกอฮอล์ ๗๐ % โดยหยดแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาด
พอหมาด ๆ เช็ดไปในทศิ ทางเดียวกนั หลงั จากผ้ใู ชบ้ รกิ ารทกุ ครัง้
(๗) ทาความสะอาดภาชนะ อุปกรณ์ และเคร่ืองใช้ให้สะอาด ด้วยน้ายาล้างจาน
และให้มีการฆ่าเช้ือด้วยการแช่ในน้าร้อน ๘๐ องศาเซลเซียส เป็นเวลา ๓๐ วินาที หรือแช่ด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๑๒

(น้ายาฟอกขาว) ที่มีความเข้มข้น ๑๐๐ ส่วนในล้านส่วน นาน ๑ นาที (ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ๖ %
อตั ราสว่ นครงึ่ ช้อนชาต่อนา้ ๑ ลติ ร) แลว้ ล้างน้าใหส้ ะอาด และอบหรอื พ่ึงใหแ้ หง้ กอ่ นนาไปใช้ใสอ่ าหาร

(๘) ทาความสะอาดตู้กดน้าด่ืม ภายในตู้ถังน้าเย็น อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง และเช็ด
ภายนอกตู้และก๊อกน้าด่ืมให้สะอาดทุกวัน และฆ่าเชื้อด้วยการแช่โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว)
ที่มีความเข้มข้น ๑๐๐ ส่วนในล้านส่วน นาน ๓๐ นาที ทุกครั้งก่อนบรรจุน้าใหม่ ในกรณีท่ีมีเครื่องกรองน้า
ควรทาความสะอาดดว้ ยการลา้ งยอ้ น (Backwash) ทุกสปั ดาห์ และเปล่ียนไส้กรองตามระยะเวลากาหนดของ
ผลิตภัณฑ์ และตรวจเช็คความชารุดเสียหายของระบบไฟฟูาท่ีใช้สายดิน ตรวจเช็คไฟฟูาร่ัวตามจุดต่าง ๆ
โดยเฉพาะบรเิ วณก๊อกน้าท่ีถือเปน็ จดุ เสย่ี ง เพื่อปูองกนั ไฟฟาู ดูดขณะใช้งาน

(๙) จัดบริการอาหาร เน้นคูปอง กันการปนเป้ือนของเชื้อโรค เช่น อาหารปรุงสาเร็จ
สุกใหม่ทุกครั้งหลีกเลี่ยงการจาหน่ายอาหารเสี่ยง เช่น อาหารประเภทกะทิ หรืออาหารปรุงข้ามวัน
การปกปดิ อาหารปรงุ สาเร็จ การใชภ้ าชนะทเ่ี หมาะสมกับประเภทอาหาร และจัดให้มีภาชนะอุปกรณ์สาหรับ
การกนิ อาหารอย่างเพยี งพอเป็นรายบคุ คล เช่น จาน ถาดหลุม ชอ้ น ส้อม แกว้ นา้ เป็นตน้

(๑๐) ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ภายในโรงอาหาร เช่น การสวมหน้ากากที่ถูกวิธี
ข้ันตอนการลา้ งมือท่ถี ูกต้องการเว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล การเลือกอาหารปรุงสุกใหมส่ ะอาด เป็นตน้

(๑๑) กรณีมีการใช้บริการร้านอาหารจากภายนอก จัดส่งอาหารให้กับโรงเรียน ควรให้ครู
หรือผู้รับผิดชอบตรวจประเมินระบบสุขาภิบาลอาหารของร้านอาหาร โดยกาหนดข้อตกลงการจัดส่งอาหาร
ปรงุ สุกพรอ้ มกินภายใน ๒ ชัว่ โมง หลงั ปรุงเสรจ็ และมีการปกปิดอาหาร เพื่อปูองกันการปนเปื้อนสิ่งสกปรกลง
ในอาหาร

(๑๒) พิจารณาทางเลือกให้ผู้ปกครองสามารถเตรียมอาหารกลางวัน (Lunch box)
ใหน้ กั เรยี นมารบั ประทานเอง เพ่อื ปูองกันเชือ้ และลดการแพร่กระจายเชอื้

๒. ผูส้ ัมผสั อาหารตอ้ งดแู ลสขุ ลักษณะส่วนบุคคลมีการปูองกันตนเอง และปูองกันการแพร่กระจาย
เชือ้ โรค ดังนี้

(๑) หากมอี าการปุวย ไข้ ไอ มนี า้ มกู เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส
ให้หยุดปฏบิ ตั งิ านและแนะนาให้ไปพบแพทยท์ นั ที

(๒) ดูแลสุขลักษณะส่วนบคุ คล มีการปูองกันตนเอง แต่งกายให้สะอาด สวมใส่ผ้ากันเปื้อน
และอปุ กรณป์ อู งกนั การปนเปอ้ื นสู่อาหารในขณะปฏบิ ัติงาน

(๓) รกั ษาความสะอาดของมอื ด้วยการลา้ งมอื บอ่ ย ๆ ดว้ ยสบูแ่ ละน้า ก่อนปฏิบัติงาน และ
ขณะเตรียมอาหารประกอบอาหาร และจาหน่ายอาหารรวมถึงหลังจากการจับเหรียญหรือธนบัตร หรือสัมผัส
สง่ิ สกปรก อาจใชเ้ จลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือร่วมด้วย หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก
โดยไมจ่ าเปน็

(๔) สวมใสห่ นา้ กากผ้า หรือหนา้ กากอนามัย ตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๑๓

(๕) มีพฤติกรรมขณะปฏิบัติงานปูองกันการปนเปื้อนของเช้ือโรค เช่น ใช้อุปกรณ์
ในการปรงุ ประกอบอาหาร เช่น เขยี ง มดี การหยิบจับอาหาร แยกระหว่างอาหารสุก อาหารประเภทเนื้อสัตว์
สดผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงการปรุงประกอบอาหารบนพื้นโดยตรง

(๖) จัดเมนูอาหารที่จาหน่าย โดยเน้นอาหารปรุงสุกด้วยความร้อน โดยเฉพาะเนื้อสัตว์
ปรุงใหส้ ุกด้วยความร้อนไม่นอ้ ยกว่า ๗๐ องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงการจาหน่ายอาหารบูดเสียง่าย เช่น อาหาร
ประเภทกะทิ และอาหารท่ีไมผ่ า่ นความรอ้ น เชน่ ซูชิ เปน็ ต้น

(๗) อาหารปรุงสาเร็จ จัดเก็บในภาชนะสะอาด มีการปกปิดอาหารจัดเก็บสูงจากพื้น
ไม่น้อยกวา่ ๖๐ เซนตเิ มตร กรณอี าหารปรุงสาเรจ็ รอการจาหน่ายใหน้ ามาอ่นุ ทุก ๒ ชวั่ โมง

(๘) การใช้ภาชนะบรรจุอาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งต้องสะอาดมีคุณภาพเหมาะสม
กบั การบรรจุอาหารปรงุ สาเรจ็ และไมค่ วรใช้โฟมบรรจุอาหาร

(๙) ระหวา่ งการปฏบิ ัติงาน ให้มกี ารเว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคล อยา่ งนอ้ ย ๑.๕ เมตร
(๑๐) ควรพจิ ารณาให้มรี ะบบชาระเงนิ ออนไลน์สาหรับผ้บู รโิ ภค
๓. ผทู้ ่ีเขา้ มาใชบ้ ริการโรงอาหารต้องดาเนินการปูองกันตนเอง และปูองกนั การแพร่กระจายเชื้อโรค ดังนี้
(๑) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือทุกครั้ง
ก่อนเขา้ ไปในโรงอาหาร ก่อนกนิ อาหารภาย หลังซอื้ อาหาร หลังจากจับเหรียญหรือธนบัตร หลังจากสัมผัสสิ่ง
สกปรก หรือหลังออกจากหอ้ งส้วม
(๒) ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาท่ีอยู่ในโรงอาหาร
หรอื เขา้ ไปในสถานทจี่ าหน่ายอาหาร
(๓) เลอื กซือ้ อาหารปรงุ สาเร็จสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์
ท่ีปรุงไมส่ กุ และตรวจสอบคณุ ภาพของอาหารทันที เชน่ สภาพอาหาร กลิ่น ความสะอาด และความเหมาะสม
ของภาชนะบรรจุ มีการปกปิดอาหารมดิ ชดิ ไม่เลอะเทอะ ไมฉ่ ีกขาด เปน็ ต้น
(๔) ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร ในการซ้ืออาหารขณะรอ
อาหารนง่ั กินอาหาร ขณะรอกดนา้ ดม่ื
(๕) พิจารณาเลือกใช้ระบบการชาระเงนิ แบบออนไลน์

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๑๔

 รถรับ - ส่งนักเรยี น
๑. ทาความสะอาดรถรับนักเรียนและบริเวณจุดสัมผัสเสี่ยง เช่น ราวจับ ท่ีเปิดประตู เบาะน่ัง
ท่ีวางแขน ด้วยน้าผสม ผงซักฟอก หรือน้ายาทาความสะอาดท่ีมีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์
(น้ายาฟอกผ้าขาว) และปฏิบัติตามคาแนะนาบนฉลากผลิตภัณฑ์ (เช่น ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรท์
ความเขม้ ข้น ๖ % ปริมาณ ๒๐ มลิ ลิลติ ร ตอ่ น้า ๑ ลิตร)
๒. นักเรียนที่ใช้บริการรถรับนักเรียน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ที่อยบู่ นรถ ลดการพูดคุยกนั เลน่ หยอกลอ้ กัน รวมถงึ กาหนดจุด รบั – ส่ง นกั เรยี นสาหรบั ผู้ปกครอง
๓. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของนักเรียนก่อนข้ึนรถรับนักเรียน หากตรวจพบอุณหภูมิร่างกาย
เท่ากับหรอื สูงกว่า 37.5 องศา ไม่อนุญาตให้ขึน้ รถ
๔. ก ารจัด ท่ีนั่งบ นรถรั บนัก เรียน คว รจั ดให้มี การเ ว้นร ะยะห่ างระ หว่าง บุคค ล
อย่างน้อย ๑.๕ เมตร ท้ังนี้ควรคานึงถึงขนาดพ้ืนที่ของรถ จานวนท่ีน่ัง พิจารณาตามบริบทคุณลักษณะ
ของรถและความเหมาะสม จัดทาสัญลักษณ์แสดงจุดตาแหน่งชัดเจนโดยปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะหาง
ทางสงั คม (Social distancing) อยา่ งเครง่ ครัด
๕. ก่อนและหลังให้บริการรับนักเรียนแต่ละรอบควรเปิดหน้าต่าง ประตู ระบายอากาศ
ใหอ้ ากาศถ่ายเทได้สะดวก
๖. จดั ให้มเี จลแอลกอฮอล์สาหรับใช้ทาความสะอาดมือบ่อย ๆ บนรถรับนักเรยี น

 สระว่ายน้า
หลีกเล่ียงหรืองดการจัดการเรียนการสอนในสระว่ายน้า กรณีรัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการ
ควบคมุ โรคให้สามารถใช้สระวา่ ยนา้ ได้ และควรปฏิบตั ิ ดังน้ี
๑. ให้มีการคัดกรองเบ้ืองต้นหรือเฝูาระวังมิให้ผู้มีอาการเจ็บปุวย เช่น ไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ
หายใจลาบาก เหนอื่ ยหอบ ไมไ่ ด้กลิ่น ไม่รรู้ ส กอ่ นลงสระวา่ ยนา้ ทุกครง้ั เพ่ือปูองกนั การแพร่เชอื้ โรค
๒. กากับดูแลและปฏิบัติตามคาแนะนาของระบบฆ่าเช้ืออย่างเคร่งครัด เพ่ือให้ระบบ
มีประสิทธิภาพในการฆ่าเช้ือตลอดเวลาการให้บริการ (คลอรีนอิสระคงเหลือ (Free Residual Chlorine)
ใน ระดับ ๑ - ๓ ส่วน ในล้านสว่ น (ppm)
๓. ตรวจสอบคุณภาพนา้ ในสระทกุ วัน และดูแลความสะอาดของสระน้าไมใ่ หม้ ีขยะมูลฝอย
๔. กาหนดมาตรการก่อนลงสระว่ายน้า เช่น นักเรียนต้องชาระร่างกายก่อนลงสระ
ตอ้ งสวมหนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามัยกอ่ นลงและขึ้นจากสระว่ายน้า สวมแว่นตา – หมวกว่ายน้า ระหว่าง
การว่ายน้า ห้ามบ้วนน้าลาย ห้ามปัสสาวะ ห้ามสั่งน้ามูกลงในน้า ห้ามพูดคุยกับเพ่ือน ผู้สอนว่ายน้า (โค้ช)
หรอื ผูด้ แู ลสระนา้ ตอ้ งสวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาที่อยบู่ ริเวณสระวา่ ยน้า
๕. ทาความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอน แบ่งรอบการสอน จากัดจานวนคน และให้มี
การเว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล อยา่ งนอ้ ย ๑.๕ เมตร
๖. ควรเตรียมอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวสาหรับการว่ายน้า เช่น แว่นตา – หมวกว่ายน้า
ชุดวา่ ยนา้ ผ้าเชด็ ตวั เปน็ ต้น

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๑๕

 หอพักนกั เรียน
๑. มีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายของนักเรียนทุกคนก่อนเข้าหอพัก และสังเกตอาการ
เสี่ยง หากพบผู้มีอาการเสี่ยงต้องรีบแจ้งครูหรือผู้ดูแลหอพัก และแจ้งประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ดาเนินการต่อไป
๒. จัดใหม้ ที ล่ี า้ งมอื พร้อมสบู่และน้า หรือเจลแอลกอฮอล์สาหรับทาความสะอาดมือไว้บริการใน
บรเิ วณตา่ ง ๆ อยา่ งเพียงพอ เช่น บริเวณทางเข้าออกอาคาร หนา้ ลิฟท์ หอ้ งนั่งเลน่ สว่ นกลาง เปน็ ต้น
๓. ให้มีการทาความสะอาดในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเน้นจุดที่มีผู้สัมผัสร่วมกันเป็นประจา อย่างน้อย
วันละ ๒ ครั้ง และอาจเพ่ิมความถี่มากข้ึนหากมีผู้ใช้งานจา นวนมากด้วยน้ายาทาความสะอาด
และอาจฆา่ เชอื้ ดว้ ยแอลกอฮอล์ ๗๐ % หรือ โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (นา้ ฟอกขาว) ๐.๑ % ในพืน้ ท่ี ดังน้ี

- บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง พื้นผิวสัมผัส อุปกรณ์ เครื่องใช้ เช่น เคาวน์เตอร์ ราวบันได
ท่ีจับประตู ปุมกดลิฟท์ จุดประชาสัมพันธ์ โต๊ะ ท่ีน่ัง สิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ เช่น เคร่ืองซักผ้า
หยอดเหรยี ญ ต้นู า้ ดม่ื หยอดเหรยี ญ ตู้จาหน่ายสนิ ค้าอตั โนมัติ เคร่ืองด่ืมหยอดเหรียญ โดยเน้นจุดที่มีผู้สัมผัสร่วม เช่น
ปมุ กดรายการ ฝาช่องรับสนิ ค้า

- ห้องส้วมส่วนกลาง เน้นบริเวณจุดเส่ียง ได้แก่ กลอนหรือลูกบิดประตู ก๊อกน้า
อ่างล้างมือ ท่รี องนั่งโถสว้ ม ที่กดโถส้วมหรอื โถปัสสาวะ สายฉดี น้าชาระ และพน้ื หอ้ งส้วม

๔. ควรกาหนดมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร และลดความแออัด
ในบริเวณพ้ืนที่ต่าง ๆ เช่น การจัดระยะห่างของเตียงนอน ช้ันวางของใช้ส่วนตัว จากัดจานวนคน
ในการใชล้ ฟิ ท์ จดั ทาสญั ลักษณ์แสดงจดุ ตาแหนง่ ท่ีมกี ารรอชดั เจน เปน็ ตน้

๕. จัดให้มีการระบายอากาศที่เหมาะสม ให้อากาศถ่ายเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หลีกเล่ียง
การใช้เครื่องปรับอากาศ หากจา เป็นต้องใช้เคร่ืองปรับอากาศ ควรตรวจสอบประสิ ทธิภาพ
ของเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในสภาพดี กาหนดเวลา เปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศ และเปิดประตู หน้าต่าง
ระบายอากาศ และต้องทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ

๖. กาหนดแนวทางปฏบิ ัตสิ าหรับผูพ้ ักในหอพัก เชน่
- ให้ผู้ท่ีพักในหอพักประเมินตนเองก่อน หากพบว่ามีใช้ไอ จาม มีน้ามูก หรือเหนื่อยหอบ

หรือมีอุณหภูมิร่างกาย เท่ากับหรือมากกว่า ๓๗.๕ องศาเซลเซียส ข้ึนไป หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ
ใหร้ ายงานหัวหน้าหอพกั เพ่ือเข้าสรู่ ะบบ การดแู ลของโรงพยาบาล ต่อไป

- มีการดูแลตนเอง โดยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง
ระหว่างบุคคล ๑.๕ เมตร หลีกเลี่ยงการพูดคุยในระยะใกล้ชิด และไม่ใช้ส่ิงของเครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
(เช่น ผา้ เช็ดตวั ชอ้ น จาน ชาม แก้วนา้ เป็นต้น) ล้างมือด้วยสบู่และน้าสะอาด หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์อย่าง
สม่าเสมอ (เช่น ทุกคร้ังก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังการทา ความสะอาดห้องพัก
หลงั การใชส้ ้วม เป็นตน้ ) หลีกเลย่ี งการสมั ผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไมจ่ าเปน็ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และ
ดูแลรกั ษาสุขอนามยั ส่วนบุคคล

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๑๖

- ดูแลภายในหอ้ งพักให้สะอาด และทาความสะอาดบรเิ วณที่ต้องสมั ผสั บ่อย เช่น ลูกบิดหรือ
กลอนประตู โต๊ะ เก้าอ้ี ควรเปิดประตู หน้าต่างห้องพัก เป็นประจาทุกวัน เพื่อระบายอากาศ
หากมีการใช้เครื่องปรับอากาศ ให้มีการทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ รวมทั้ง คัดแยกขยะ รวบรวมใส่ถุงขยะ
มัดปากถุงใหแ้ นน่ และนาไปทงิ้ ตามเงือ่ นไขทหี่ อพกั กาหนด ก่อนนาไปกาจัดอย่างถกู ตอ้ ง

๗. ภาชนะบรรจุน้าดม่ื เช่น ถังน้า เหยือกน้า คูลเลอร์ ต้องสะอาด มีฝาปิด ควรมีทางเทรินหรือ
ก๊อกน้า ไม่ควรใช้การจ้ว งตักโดยตรง และต้องล้างทา ความสะอาดด้วยน้า ยาล้างภาช นะ
ภายในและภายนอกทุกวนั

๘. มีมาตรการกากับดูแลพนักงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง เช่น แม่บ้าน พนักงานทาความสะอาด
โดยหากพบว่า มีไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ เหน่ือยหอบ ให้หยุดงานและแนะนาให้พบแพทย์ ให้สวมหน้ากากผ้า
หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในอาคาร ล้างมือด้วยสบู่และน้า หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
และต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย ๑.๕ เมตร หากรับผิดชอบด้านการทาความสะอาด
ให้สวมถุงมือ ผ้ากันเปื้อน รองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง ใช้ท่ีคีบด้ามยาวเก็บขยะใส่ถุงมัดปากถุงให้มิดชิด
นาไปรวบรวมไวท้ ีพ่ กั ขยะ เมือ่ เสร็จสนิ้ การปฏบิ ตั งิ านให้ล้างมือใหส้ ะอาด เม่อื ปฏิบตั ิงานเสร็จในแต่ละวัน หาก
เปน็ ไปได้ควรอาบนา้ และเปล่ยี นเสื้อผา้ ทันที

๙. หากมีบริการอื่นๆ ภายในหอพัก เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม สถานที่รับประทานอาหาร
ร้านเสรมิ สวย หรอื กิจการอ่นื ๆ ให้ปฏิบัตติ ามแนวทางปฏบิ ตั ิในด้าน น้ัน ๆ

๑๐. มีการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ข่าวสารความรู้โรคโควิด ๑๙ เก่ียวกับอาการของโรค
คาแนะนาการปฏิบัติตนเพื่อลดการเสี่ยงต่อโรค เช่น เสียงตามสาย ติดปูายประชาสัมพันธ์ตามจุดต่าง ๆ
ไลน์กล่มุ หอพกั

๑๑. กากับดูแลตรวจสอบการปฏบิ ัตติ นให้เปน็ สุขนิสยั กจิ วตั ร โดยจัดใหม้ จี ติ อาสาควบคุมดแู ลทกุ วนั
๑๒. หากพบผปู้ วุ ยยนื ยันหรอื มขี ้อมูลบง่ ชวี้ ่าหอพักอาจเปน็ จุดแพร่เชื้อได้ ให้ผู้รับผิดชอบร่วมมือ
กับเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อในการดาเนินการต่าง ๆ เช่น การสอบสวนโรค การทาความสะอาด พื้นที่
ตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
๑๓. มาตรการอ่ืนๆ นอกจากน้ี ให้เป็นไปตามระเบียบของหอพัก และให้มีลักษณะเพื่อปูองกัน
การแพร่เช้ือและสามารถติดตามสอบสวนโรคได้ เช่น กิจกรรมการรวมตัวสังสรรค์ การกาหนด
ให้บุคคลภายนอกเข้าพักหรือผู้มาติดต่ออ่ืน ๆ มีการลงทะเบียน เพ่ือการติดตาม ตรวจสอบกรณีพบผู้ปุวย
ท่ีเก่ียวข้องกบั หอพัก

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๑๗

ส่วนที่ ๒

แนวการปฏบิ ัตริ ะหว่างเปดิ ภาคเรียน

โรงเรียนต้องกาหนดมาตรการปฏิบัติระหว่างเปิดเรียน อย่า งเคร่งครัดเพ่ือปูองกัน
และหยุดยังการแพร่ระบาดของโควิด -๑๙ โดยขอความร่วมมือผู้ปกครอง สภานักเรียน อาสาสมัคร
สาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.) หรือประสานโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบล
(รพ.สต.) เป็นที่ปรึกษาของโรงเรียนในการช่วยคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน กรณีการคัดกรอง
พบนักเรียนมีไข้ตั้งแต่ ๓๗.๕ องศาเซลเซียส จาม มีน้ามูก หายใจเหน่ือยหอบ ให้ผู้ปกครองรับนักเรียน
ไปพบแพทย์ และโรงเรยี นสามารถนาแนวทางดงั ตอ่ ไปน้ไี ปกาหนดมาตรการปฏิบตั ิของโรงเรยี นได้

 แนวปฏบิ ตั ิในการประเมินความพรอ้ มก่อนเปดิ เรยี น

โรงเรียนต้องประเมินตนเองในการเตรียมความพร้อมก่อนปิดภาคเรียน ในสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรงติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ควรคานงึ ถึงประโยชน์สูงสุดของนักเรียนเป็น
สาคัญ พิจารณาด้านสาธารณสุขโดยรวม บนพื้นฐานของการประเมินคุณประโยชน์และความเส่ียง คานึงถึง
ประโยชนข์ องการจดั การเรียนการสอนในห้องเรยี น การจดั การเรียนการสอนทางไกล (ความรู้พื้นฐาน ความรู้
ทีถ่ ่ายทอดได้ ความรูด้ ิจทิ ัล ความรู้เฉพาะสาขาอาชพี ) การมปี ฏสิ มั พันธโ์ ดยตรงกับครูในการเรียนรู้ผ่านการเล่น
ของเดก็ เล็ก และการพัฒนาทักษะพื้นฐาน ความสามารถในการเข้าถงึ และความพร้อมในการเรียนการสอนทางไกล
ท่ีมีคุณภาพมีมากน้อยเพียงใด (ท้ังในด้านผลการเรียนรู้ และความเหมาะสมกับกลุ่มอายุต่าง ๆ รวมท้ังกลุ่ม
เด็กด้อยโอกาส) รูปแบบการเรียนการสอนทางไกลในปัจจุบัน รวมถึงผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ และสุขภาวะ
ทางอารมณ์ และสังคม จะย่ังยืนเพียงใด โดยใช้แบบประเมินของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข “คู่มือ
การปฏิบัตสิ าหรับสถานศึกษาในการปูองกนั การแพร่ระบาดของโรค โควดิ ๑๙” ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

๑. แบบประเมินตนเองสาหรับนกั เรียนในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนเพ่ือเฝูาระวังการ
แพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙

๒. แบบประเมินตนเองสาหรับโรงเรียนในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน
เพื่อเฝาู ระวงั การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ผลการประเมินสามารถแบ่ง ออกได้เป็น ๓ ระดบั ไดแ้ ก่

สีเขยี ว หมายถงึ โรงเรียนสามารถเปิดเรยี นได้
สีเหลอื ง หมายถึง โรงเรียนสามารถเปดิ เรยี นได้ แตต่ ้องดาเนินการ

ปรับปรงุ ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานที่กาหนด
สีแดง หมายถึง โรงเรียนไม่สามารถเปิดเรียนได้ ต้องดาเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตาม

มาตรฐานทก่ี าหนด และ/ หรือประเมินตนเองซา้

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๑๘

ในกรณีที่โรงเรียนทาการประเมินตนเองแล้ว และได้ผลการประเมินระดับสีเหลืองข้ึนไปให้
โรงเรียนรายงานผลการประเมินตนเอง พร้อมท้ังนาเสนอรูปแบบการจัดการเรียนการสอนต่อศึกษาธิการจังหวัด
หรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด หรือสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน แล้วแต่กรณี
เพื่อเสนอขออนญุ าตตอ่ ศึกษาธกิ ารจังหวดั ท่ีโรงเรยี นต้งั อยู่ เพือ่ แจง้ ตอ่ โรงเรียนทราบ

 แนวปฏบิ ัตขิ องกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ

กระทรวงสาธารณาสุข โดยกรมอานามัยได้ออกแนวทางในการปฏิบตั เิ พื่อปูองกนั การแพร่ระบาด
ของโรงติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) มรี ายละเอียด ๘ ขอ้ ดังนี้

๑. มีมาตรการคดั กรองครู นักเรยี น บคุ ลากร และผู้มาติดต่อราชการทุกคน เช่น การวัดไข้ สวม
ใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองร่วมให้ประวัติ หากนักเรียนมีความเส่ียง นักเรียน
มีอาการไข้ไม่สบาย ต้องให้นักเรียนหยุดเรียนทันที (ร่วมมือกับสาธารณสุขในพื้นที่ในการคัด กรอง
ในกรณีนกั เรยี นปวุ ย)

๒. ครู นักเรียน บุคลากร และผู้มาติดต่อราชการทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เมื่ออยูใ่ นโรงเรียน

๓. จดั ใหม้ จี ุดล้างมือดว้ ยสบู่เหลว หรือเจลแอลกอฮอลอ์ ย่างเพยี งพอ
๔. การเว้นระยะห่างในห้องเรียน เน้นจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนเดียวกันตลอดท้ังวัน
๕. เน้นการทาความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ท่ีใช้ร่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่น
ลกู บิดประตู ห้องน้าร่วมกับการจัดกลมุ่ สลับกันใช้งานเพ่อื ชว่ ยลดการสัมผัสรว่ มกนั จานวนมาก
๖. ลดความแออดั ไม่จัดกิจกรรมทเี่ กิดการรวมกลุ่มของนักเรียน
๗. จัดอบรมครู “รอบรู้สุขอนามัย” ในโรงเรียนเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19
โดยบุคลากรสาธารณสุข
๘. ขอความร่วมมือกับผู้ปกครองให้เข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนในการปูองกันโรค
และการปฏบิ ัตติ ัวเพอ่ื ปูองกนั การแพรก่ ระจายเช้ือ

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๑๙

 แนวปฏบิ ัติในการปอ้ งกนั โรคของโรงเรียน

โรงเรียนต้องมีแนวปฏิบัติของโรงเรียนเพ่ือปูองกันการแพร่ระบาดของโรงติดเชื้อ และความปลอดภัย
ของนักเรียน บุคลากร ผปู้ กครอง ตามมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

๑. การดาเนินการเมอื่ นกั เรยี นมาถงึ โรงเรยี น
ครู ต้ อ ง ดู แ ล ใ ห้ นั ก เ รี ย น ใส่ ห น้ า ก า ก อ น า มั ย ทุ ก ค น ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ ดิ น เ ป็ น แ ถ ว

ผ่านจุดคัดกรองของโรงเรียน จุดท่ี ๑ ผ่านกระบะที่มีน้ายาฆ่าเชื้อ จุดที่ ๒ วัดอุณหภูมิ จุดที่ ๓ ล้างมือ
ด้วยเจลแอลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่างตามทางเดิน กรณีโรงเรียนขนาดนักเรียนใหญ่ท่ีมีนักเรียน
จานวนมาก อาจเพ่ิมจานวนแถวจุดตรวจคัดกรอง เพ่ือลดความแออัดของนักเรียนบริเวณหน้าโรงเรียน
โรงเรยี นสามารถขอความร่วมมือผู้ปกครอง สภานักเรียน อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.) หรือ
ประสานโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบล (รพ.สต.) เป็นท่ีปรึกษาของโรงเรียน
กรณีการคัดกรองพบนกั เรยี นท่มี ีไข้ จาม มนี ้ามูก หายใจเหน่ือยหอบ ให้ผูป้ กครองรับนักเรยี นไปพบแพทย์

๒. การดาเนนิ การตรวจคัดกรองนกั เรยี น
เมื่อนักเรียนผ่านจุดตรวจคัดกรอง นักเรียนอนุบาล และชั้นประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑-ป.๓) ให้

ครูนานักเรียนไปยังห้องเรียน สาหรับห้องเรียนที่มีครูประจาช้ันให้ครูประจาชั้นรอรับนักเรียน
เข้าห้องเรียนนักเรียนช้ันประถมศึกษาตอนปลาย (ป.๔-ป.๖) และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาให้นักเรียน
เดินไปยังห้องเรยี นได้เอง

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๒๐
๓. การดาเนนิ กิจกรรมหน้าเสาธง

การจัดกิจกรรมหน้าเสาธง โรงเรียนขนาดเล็กมีพื้นท่ีกว้างสามารถจัดให้นักเรียน
เข้าแถว และทากิจกรรมหน้าเสาธงได้ตามปกติแต่ต้องมีมาตรการ การเว้นระยะทางสังคม (Social Distancing)
ให้มีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย ๑.๕ เมตร โรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่จากัดสามารถจัดให้นักเรียน
เข้าแถวที่โต๊ะเรียนในห้องเรียน หน้าห้องเรียน ลานอเนกประสงค์ ลานสนามกีฬา โรงยิม หอประชุม เป็นต้น
ควรลดระยะเวลาการจัดกิจกรรมหนา้ เสาธง กิจกรรมหน้าเสาธงสามารถดาเนินการผ่านทางอินเทอร์คอม ทีวี
ในห้องเรียน หรือไมโครโฟน ได้

๔. การจดั โตะ๊ เรียน
โรงเรียนควรจัดโต๊ะเรียน ไม่เกินห้องเรียนละ ๒๐ - ๒๕ ตัว เว้นแต่โรงเรียนใดมีขนาด

หอ้ งเรียนกว้างขวางเพยี งพอให้จดั ไดไ้ มเ่ กนิ ๓๐ ตัว แต่ตอ้ งจดั ให้มีการเว้นระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๑.๕ เมตร
และบนโต๊ะเรียนต้องมฉี ากพลาสติกใสกั้น (การดาเนินการติดต้ังฉากพลาสติกใสก้ันขึ้นอยู่กับบริบทและความ
พรอ้ มของโรงเรยี น)

๕. การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรยี น
โรงเรียนต้องทาความสะอาดห้องเรียน โต๊ะเรียน และเก้าอ้ีทุกคร้ังด้วยน้ายาฆ่าเช้ือ

ทงั้ กอ่ นเรียน พกั กลางวนั และหลังเรยี น โดยมีการบันทึกขอ้ มลู ไวอ้ ยา่ งเคร่งครดั ตงั้ จุดวางเจลแอลกอฮอล์ล้าง
มอื ในหอ้ งเรียน (บริเวณโต๊ะคร)ู ในขณะทาการสอน ครผู ู้สอน และนักเรียนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ครูต้องพ่ึงระวังให้นักเรียนเลี่ยงการยืมอุปกรณ์การเรียน และของเล่น สิ่งของต่าง ๆ จากเพ่ือน งดการสัมผัส
ร่างกายซ่งึ กันและกันของนกั เรียน

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๒๑

๖. การใช้หอ้ งนา้ โรงเรยี น
โรงเรียนต้องจัดให้ครู และเจ้าหน้าท่ีคอยดูแลนักเรียนในการใช้ห้องน้า ทั้งใน

ช่วงเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน ให้นักเรียนสลับกันใช้ห้องน้าตามความเหมาะสมของโรงเรียน โดยรอคิว
และมีจุดเว้นระยะอย่างชัดเจน โรงเรียนต้องมีมาตรการในการทาความสะอาด ฆ่าเช้ือและบันทึกเวลา
ในการทาความสะอาดห้องน้าโรงเรียนทุก ๆ ชั่วโมง โดยมอบหมายครูเวรประจาวัน แม่บ้าน นักการ
ดาเนนิ การอย่างเครง่ ครดั

๗. การลา้ งมอื ของนักเรยี น
โรงเรียนให้นักเรียนล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่เหลว หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังการ

รับประทานอาหาร หลังการเข้าห้องน้าและก่อนกลับบ้านจนติดเป็นนิสัย คุณครูต้องสอนนักเรียนล้างมือโดยเน้น
วิธีการล้างมือ ๗ ข้ันตอน เวลา ๒๐ วนิ าที ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ และให้คุณครูเตือนนักเรียนให้
มกี ารล้างมือทกุ ครัง้ หลงั คาบเรียน

๘. การบรหิ ารจัดการโรงอาหาร
โรงเรียนควรจดั โต๊ะรบั ประทานอาหารของนักเรียน โดยให้มีระยะห่างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร

กรณีไม่สามารถจัดให้มีระยะห่างตามกาหนดได้ ให้จัดให้มีฉากพลาสติกใสก้ัน (การดาเนินการติดต้ังฉาก
พลาสติกใสกั้นข้ึนอยู่กับบริบท และความพร้อมของโรงเรียน) และให้มีมาตรการอย่างเข้มงวดในการทา
ความสะอาดอุปกรณ์ภาชนะในการรับประทานอาหาร เช่น หลังจากการล้างภาชนะควรมีการนาไปตาก
แสงแดดหรืออบด้วยตู้อบให้แห้งสนิท เพื่อเป็นการฆ่าเช้ือโรคและจัดเก็บให้มิดชิด วัตถุดิบในการทาอาหาร
จะต้องมีความสดใหม่และปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ ทาความสะอาดอย่างเคร่งครัดก่อนนามาปรุงอาหารทุกคร้ัง
แม่ครัว ผู้ช่วยแม่ครัว พนักงานล้างจาน ต้องใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือตลอดเวลาในขณะปฏิบัติงานอย่าง
เคร่งครัด และตอ้ งทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ พื้นโรงอาหารด้วยน้ายาฆ่าเชื้อ ทั้งก่อนและหลังการรับประทาน
อาหารของนกั เรียนในแต่ละรอบ โรงเรียนต้องมีมาตรการการคัดแยกขยะก่อนท้ิงอย่างชัดเจน เช่น ขยะเปียก
ขยะแห้ง และมีการกาจดั หลงั เลิกเรียนในทุกวัน จัดครูตรวจสอบความสะอาดประจาวัน และประสานงานกับ
หน่วยงานราชการ เช่น อาเภอ สานักงานศึกษาธิการจังหวัด สานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ในพื้นท่ี
จัดส่งเจ้าหน้าท่ีด้านอนามัยมาตรวจสอบเป็นระยะ ๆ จัดให้มีครู เจ้าหน้าที่คอยดูและอานวยความสะดวกใน
การกดน้าดมื่ จากต้ตู ามมาตรการของ ศบค.กาหนด

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๒๒

๙. การรับประทานอาหารกลางวันของนกั เรยี น
โรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลาง จัดให้รับประทานอาหารกลางวันท่ีห้องเรียน

หรือรับประทานอาหารท่ีโรงอาหาร โรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดใหญ่พิเศษ อาจจะต้องแบ่งสัดส่วน
การรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องเรียนและโรงอาหารตามมาตรการ การเว้นระยะห่างทางสังคม
(Social Distancing) เพื่อลดความแออัดของนักเรียนในเวลารับประทานอาหารกลางวัน โรงเรียนสามารถ
จัดเวลาการรับประทานอาหารกลางวันของนักเรียนให้เหลื่อมเวลา โดยมีระยะห่างของรอบเวลา
รอบละ ๓๐ นาทีได้

๑๐. อปุ กรณ์การแปรงฟนั และแกว้ น้าสว่ นตวั นกั เรยี น
ครูประจาช้ันต้องจัดระเบียบการเว้นระยะในการจัดวางอุปกรณ์ งดการใช้ของร่วมกัน

ของนักเรียนหลังรับประทานอาหารกลางวัน ครูประจาชั้น ครูเวรประจาวัน นานักเรียนแปรงฟัน
ตอ้ งปฏิบัตติ ามมาตรการ การเว้นระยะหา่ งทางสังคม (Social Distancing)

๑๑. การนอนของนกั เรยี นระดบั เตรียมอนุบาลและอนบุ าล
โรงเรียนที่มีนักเรียนระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ต้องจัดให้นักเรียนนอนในห้องท่ีมี

อากาศถ่ายเทสะดวก งดใชเ้ ครือ่ งปรับอากาศ (อาจใช้พัดลมแทน) เว้นระยะท่ีนอนของนักเรียนห่างกันประมาณ
๑.๕ เมตร และมีฉากพลาสตกิ ใสกน้ั ครูประจาช้ัน ครูพเ่ี ล้ยี ง ต้องกากบั ไม่ให้นักเรยี นเล่นกนั ขณะนอน

๑๒. การมารบั นกั เรยี นกลับบ้าน
โรงเรียนจัดให้ผู้ปกครองรับนักเรียน ณ จุดรับ – ส่ง ที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้ (จุดที่ส่ง

นักเรียนในตอนเช้า) โดยผ่านจุดคัดกรองของโรงเรียนที่มีครูเวรประจาวันทาหน้าที่ตรวจคัดกรอง
และโรงเรียนสามารถจัดเวลากลบั บ้านของนักเรยี นโดยการเหลื่อมเวลา และเหล่ือมหอ้ งเรยี น เช่น

• ชน้ั เตรียมอนบุ าลและอนุบาล เวลา ๑๔.๓๐ น. ครปู ระจาช้ัน ครูพเ่ี ล้ียงนา
นักเรยี นเดนิ เปน็ แถวเว้นระยะจากห้องเรียนมาส่งใหก้ ับผู้ปกครอง หลกั ฐานใน
การรบั นักเรียน อาจเปลีย่ นจากการลงชื่อเป็นการถ่ายรูปผู้ปกครองกบั นักเรียน
เพอื่ ลดการสัมผสั

• ช้ันประถมศึกษา เวลา ๑๕.๓๐ น. ครูประจาช้ันนานักเรียนเดินเป็นแถว
เว้นระยะจากห้องเรยี นมาสง่ ให้กบั ผปู้ กครอง (กรณผี ปู้ กครองมารับ)

• ช้ันมัธยมศึกษา นักเรียนต้องเข้าแถวโดยการเว้นระยะห่างทางสังคมในการเดิน
ออกจากโรงเรยี น

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๒๓

๑๓. การทาความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียน
โรงเรียนต้องกาหนดมาตรการการทาความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียน ๓ เวลา

คือ ช่วงเช้าก่อนเรียน พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน เม่ือทาความสะอาดแล้วต้องปิดอาคารเรียน
และไม่อนญุ าตใหข้ ้นึ อาคารเรียน

 แนวปฏบิ ัติกรณที ี่มีนักเรียนหรือบุคลากรป่วย

ในกรณที มี่ ีนกั เรยี นหรอื บุคลากรในโรงเรียนมไี ข้ เท่ากับหรือมากกว่า ๓๗.๕ องศา ใหแ้ ยกนกั เรียน
ไว้ทห่ี ้องท่ีจดั เตรียมไว้ บนั ทกึ รายชือ่ และอาการปวุ ยประเมนิ ความเสย่ี งแจง้ ผู้ปกครอง โดยดาเนินการ ดงั นี้

กรณที ี่ ๑ ไมม่ ีประวัตเิ สี่ยง
ให้พานกั เรยี นไปพบแพทย์
ใหห้ ยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ

กรณีท่ี ๒ พบประวัติเส่ียง
มีประวัติเสีย่ งต่า
แยกนักเรียนไวท้ ่หี อ้ งจดั เตรียมไว้
บันทึกรายชือ่ และอาการปุวยแจ้งผปู้ กครองมารบั ไปพบแพทย์
แจ้งเจ้าหนา้ ทส่ี าธารณสขุ ประเมินสถานการณส์ อบสวนโรค
กักตวั อยู่บา้ นตดิ ตามอาการใหค้ รบ ๑๔ วนั
มปี ระวตั ิเสย่ี งสงู
แยกนกั เรยี นไว้ทหี่ ้องจดั เตรียมไว้
บันทกึ รายชื่อและอาการปุวยแจง้ ผูป้ กครองมารบั ไปพบแพทย์
แจ้งเจ้าหนา้ ที่สาธารณสุขประเมนิ สถานการณ์สอบสวนโรค
ใหส้ ่งตรวจหาเช้อื โควคิ -๑๙
กกั ตัวอยู่บ้านติดตามอาการใหค้ รบ ๑๔ วนั

ในกรณีที่พบนักเรยี นและบุคลากรตดิ เชื้อโควิด-๑๙ ผู้มีอานาจส่ังปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ
คือ หัวหน้าสถานศึกษา ส่ังปิดได้ไม่เกินเจ็ดวัน และผู้อนุญาต สั่งปิดได้ไม่เกินสิบห้าวัน ตามระเบียบ
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน วา่ ดว้ ยปกี ารศกึ ษา การเปิดและปิดสถานศกึ ษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๓

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๒๔

ท่มี า : สานักงานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ (๒๕๖๓). “คู่มือการปฏิบตั สิ าหรบั สถานศกึ ษา
ในการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙”. หน้า ๑๘

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๒๕

ส่วนที่ ๓

รปู แบบการจัดการเรยี นการสอน
ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ ๑๙

โรงเรียนควรจัดการเรียนการสอนให้ครบหลักสูตร ตามความเหมาะสม เช่น กรณีมาเรียน
ที่โรงเรียนเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีเน้ือหาซับซ้อน และภาคปฏิบัติท่ีต้องใช้อุปกรณ์และมีครูดูแล
กรณีเรียนอยู่ที่บ้าน เน้นเน้ือหา ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และปฏิบัติงานตามท่ีครูมอบหมาย
เชน่ เรียนรจู้ ากแบบเรยี น ใบความรู้ DLTV สอ่ื การสอนทางไกลผา่ นโทรทัศน์ หรอื ทาง Online กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ เช่นกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้
กับผู้ปกครอง และนักเรียน อาจเรยี นรู้จากการช่วยผู้ปกครองทางานบ้านหรือประกอบอาชีพเท่าท่ีทาได้ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา อาจให้นักเรียนดูแลสุขภาพ และออกกาลังกายที่บ้าน
แล้วบันทึกการปฏิบัติส่งครู และกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ บางภาระงานให้นักเรียนปฏิบัติที่บ้าน เป็นต้น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคม
และสาธารณประโยชน์ อาจปรบั วิธกี ารจัดกิจกรรมหรือบูรณาการ กับกจิ กรรมการเรยี นการสอน

ท้ังน้ี การเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น การเรียนด้วยระบบการสอนทางไกล ผ่านโทรทัศน์
หรือชอ่ งทางการเรยี นอน่ื ๆ เช่น การเรยี น Online จากแพลทฟอร์ม และคอนเทนต์ ผ่านทางศูนย์การเรียนรู้
ด้วยระบบดิจิทัล สช ที่ครูผู้สอนมอบหมาย การศึกษาจากแบบเรียน หรือใบความรู้ ท้ังนี้ โรงเรียนสามารถ
นามานับเวลาเรยี นใหแ้ กน่ กั เรยี นได้

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๒๖

 การพจิ ารณารูปแบบการจดั การเรยี นการสอน

ผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาร่วมกันวางแผนเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอน
ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน บนพื้นฐานของความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร
ในโรงเรียน ภายใต้ “ความปกติใหม่” (New Normal) โดยโรงเรียนต้องประเมินตนเอง พร้อมทั้งนาเสนอ
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนต่อศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด หรือสานักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน แล้วแต่กรณี เพ่ือเสนอขออนุญาตต่อศึกษาธิการจังหวัดท่ีโรงเรียน
ตัง้ อยู่ พจิ ารณาเหน็ ชอบให้เปดิ เรียน และดาเนินการจดั การเรียนการสอนได้

 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียน

การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ให้นากระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นฝึกกระบวนการคิด
ให้นักเรียนเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติมากกว่าการฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว จากเดิมเร่ิมที่ครูสอน
ในห้องเรียนแล้วมอบการบ้านให้ไปทาที่บ้าน อาจเปล่ียนเป็นครูกาหนดประเด็นหรือหัวข้อ พร้อมท้ังให้
แหล่งขอ้ มลู นักเรยี นไปศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเองลว่ งหน้า เม่ือมาเรียนในห้อง เป็นการอภิปราย ถกแถลง และ
แลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยครูเป็นผู้อานวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ การตรวจสอบความเข้าใจการ
เรียนรู้ของนักเรียนเป็นสิ่งสาคัญ ควรดาเนินการเป็นระยะสามารถดูจากการแสดงความคิดเห็น การทา
กิจกรรมระหว่างเรยี น การทาแบบฝกึ การสรปุ การเรียนรู้ เชน่ Mind Map เปน็ ต้น

การจัดประสบการณ์สาหรับนักเรียนระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ครูสามารถออกแบบ
กจิ กรรมตามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย และอาจเลือกใช้เทคโนโลยใี นการจัดกิจกรรม หรอื ผสมผสานกิจกรรม
แบบบูรณาการเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการนักเรียนทุกด้าน โดยมีครูผู้สอนเป็นผู้สนับสนุน และอานวยความสะดวก
สาหรับการกาหนดตารางหรือกิจวัตรประจาวันและสิ่งแวดล้อมในห้องเรียน ให้คานึงถึงการรักษาความปลอดภัย
ของนกั เรียนเปน็ สาคัญ

ทง้ั นี้ ครูยังสามารถนารูปแบบและกระบวนการต่าง ๆ มาออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนให้
เหมาะสมกบั สภาพบริบทของโรงเรียน นกั เรยี น และสถานการณ์ได้ ดงั น้ี

๑. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (Active learning)
ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ผู้เรียนได้มีโอกาสลงมือกระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว
จดั กจิ กรรมให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้ โดยการอ่าน การเขียน การโต้ตอบ และการวิเคราะห์ปัญหา อีกท้ังให้ผู้เรียนได้
ใชก้ ระบวนการคิดขนั้ สูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า
๒. การสอนแบบ “พลกิ กลบั ” (Flipped classroom)
ค รู ส า ม า ร ถ ป รั บ เ ป ล่ี ย น รู ป แ บ บ วิ ธี ก า ร ส อ น จ า ก แ บ บ เ ดิ ม ที่ เ ร่ิ ม จ า ก ค รู ผู้ ส อ น ใ น ห้ อ ง เ รี ย น
ผู้เรียนกลับไปทาการบ้านส่ง เปล่ียนเป็นผู้เรียนเป็นผู้ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองผ่านเทคโนโลยี
และมาทากิจกรรม โดยมคี รูคอยแนะนาในช้นั เรียนแทน

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๒๗
๓. กระบวนการ PLC
ผู้บริหารโรงเรียนและครูยังสามารถร่วมกันแลกเปล่ียนเรียนรู้ จากประสบการณ์ตรง
ในการวางแผน และแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนได้ เพ่ือให้นักเรียนมีทักษะแห่งการเรียนเรียนรู้
ในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยประสมประสานองค์ความรู้เฉพาะด้าน ความชานาญและความรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อ
ความสาเร็จของผูเ้ รยี นทงั้ ด้านการทางานและการดารงชวี ิต

 รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรยี น

กระทรวงศึกษาธิการ ได้กาหนดรูปแบบการจัดการเรียนการสอนสาหรับโรงเรียน ในสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) มี ๓ รูปแบบ ซ่ึงโรงเรียนต้องวางแผน
การจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน และสอดคล้อง หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
โดยคานึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรเป็นสาคัญ เลือกใช้ตามบริบทของโรงเรียน
และข้อตกลงร่วมกันของผู้บริหารโรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ทั้งนี้โรงเรียนควรจัดหาส่ือความรู้ปูองกัน
ควบคุมโรคโควิด ๑๙ สาหรับใช้ในการเรียนการสอนและสร้างความเข้มแข็งของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
โรงเรียนต้องเตรียมแผนรองรับด้านการเรียนการสอนสาหรับนักเรียนท่ีปุวยหรือกรณีปิดโรงเรียนช่ัวคราว
ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา วางแผนการจัดการเรียนการสอนเรียนที่บ้าน จัดเตรียม
เอกสาร ส่อื ใบงาน ร่วมทงั้ ช่องทางการเรียนการสอนของครแู ละนักเรียน

๑. การเรยี นการสอนในชนั เรียน (On-Site)
การเรียนการสอนท่ีเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในโรงเรียนหรือในช้ันเรียนเป็นหลัก โดยครูผู้สอน
สามารถนารูปแบบการเรียนการสอนอ่ืน ๆ มาบูรณาการใช้กับการเรียนการสอนในชั้นเรียนได้ เช่น การเรียนผ่าน
โทรทัศน์ (on-air) หรือการเรยี นผา่ นอินเทอรเ์ นต็ และแอปพลเิ คชัน (online)

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๒๘
๒. การเรียนผ่านโทรทศั น์ (On-Air)
เป็นกรณีท่ีไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้หรือไม่สามารถจัดการเรียนการสอน
ให้นักเรียนมาเรียนที่โรงเรียนพร้อมกันได้ทุกคน การเรียนรู้ท่ีใช้ส่ือวีดิทัศน์การเรียนการสอนของ
มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ช้ันอนุบาลปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
และใช้สื่อวีดิทัศน์การเรียนการสอนของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
ถึงมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ โดยมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดาเนินการออกอากาศให้
มที ัง้ หมด ๔ ระบบ ไดแ้ ก่

๑.๑ ระบบดาวเทียม (Satellite) ทัง้ KU-Band (จานทบึ ) ชอ่ ง ๑๘๖ – ๒๐๐
และ C-Band (จานโปร่ง) ช่อง ๓๓๗ – ๓๕๑

๑.๒ ระบบดิจิทัลทวี ี (Digital TV) ชอ่ ง ๓๗ – ๕๑
๑.๓ ระบบเคเบ้ลิ ทวี ี (Cable TV) และ
๑.๔ ระบบ IPTV

๓. การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ (Online)
การเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชัน การจัดการเรียนการสอนแบบน้ี สาหรับครูและ
นักเรียนท่ีมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์ และมีการเช่ือมต่อสัญญาณ
อินเทอร์เนต็ มที ้ังหมด ๔ ช่องทาง ได้แก่

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๒๙

๓.๑ เว็บไซต์ ODLC - www.odlc.go.th

๓.๒ เวบ็ ไซต์ DEEP - www.deep.go.th
๓.๓ เว็บไซต์ DLTV - www.dltv.ac.th
๓.๔ เวบ็ ไซต์ Youtube - www.youtube.com DLTV๑ Channel – DLTV๑๕ Channel
๓.๕ แอปพลเิ คชนั DLTV บน Smartphone/Tablet

 การจัดการเรยี นการสอนแบบปกติ (On-Site)

สาหรับโรงเรียนท่ีมีผลการประเมินตนเอง ตามแบบประเมินตนเองสาหรับสถานศึกษา
ในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน เพ่ือเฝูาระวังและปูองกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ในระดับ “สีเขียว” หรือ “เหลือง” สามารถจัดการเรียนการสอนแบบปกติในชั้นเรียนได้ ท้ังน้ีจะต้องปฏิบัติ
ตามมาตรการ 6 ข้อปฏิบัติในสถานศึกษา ได้แก่ ๑) วัดไข้ ๒) ใส่หน้ากาก ๓) ล้างมือ ๔) เว้นระยะห่าง

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๓๐

๕) ทาความสะอาด ๖) ลดแออัด รวมถึงโรงเรียนจะต้องนาเสนอ รูปแบบการจัดการเรียนการสอน (ตามที่
โรงเรียนประเมินตนเอง) ต่อศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด หรือสานักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน แล้วแต่กรณี เพ่ือเสนอขออนุญาตต่อศึกษาธิการจังหวัดท่ีโรงเรียน
ต้ังอยู่

 การจัดการเรยี นการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)

การจัดการเรียนแบบผสมผสาน คือการจัดการเรียนรู้ ท่ีใช้รูปแบบการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ผสมผสานกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ครูและนักเรียนไม่ได้
เผชิญหน้ากัน หรือใช้แหล่งเรียนรู้ท่ีมีอยู่อย่างหลากหลาย ซ่ึงมีเปูาหมายอยู่ท่ีการเรียนรู้ของนักเรียน
เป็นสาคัญ โดยโรงเรียนสามารถเลือกรปู แบบการจัดการเรยี นการสอนได้ตามตวั อย่าง ดงั นี้

รปู แบบที่ ๑ การสลับช้ันมาเรยี นของนกั เรยี น แบบสลับชน้ั มาเรยี น
กรณีนี้ เช่น โรงเรียนที่เปิดสอนต้ังแต่ระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ถึงระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลาย สามารถจัดให้นักเรียนระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑ – ป.๓) และระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ม.๓) มาเรียนในวันอังคาร และวันพฤหัสบดี และนักเรียนระดับประถมศึกษา
ตอนต้น (ป.๔ – ป.๖) และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๔ – ม.๖) มาเรียนในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์
สลับกันไปทุกสัปดาห์ ในวันท่ีนักเรียนอยู่ท่ีบ้านสามารถให้นักเรียนเรียนรู้โดยการเรียนการสอนทางไกลได้
ทง้ั on-air และ online ตามบริบทความพร้อมของนกั เรยี น

รปู แบบที่ ๒ การสลับชั้นมาเรยี นของนักเรยี น แบบสลบั วนั คู่ วันคี่
กรณีน้ี เช่น โรงเรียนที่เปิดสอนต้ังแต่ระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ถึงระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลาย สามารถจัดให้นักเรียนระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑ – ป.๓)
และระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.๑ – ม.๓) มาเรียนในวันคู่ และนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.๔ –
ป.๖) และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๔ – ม.๖) มาเรียนในวันค่ี สลับกันไป ในวันท่ีนักเรียนอยู่ท่ีบ้าน
สามารถให้นักเรียนเรียนรู้โดยการเรียนการสอนทางไกลได้ ทั้ง on-air และ online ตามบริบทความพร้อม
ของนกั เรียน

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๓๑

รปู แบบที่ ๓ การสลับชน้ั มาเรยี นของนกั เรียน แบบสลบั วันมาเรยี น ๕ วนั หยดุ ๙ วนั
ในรูปแบบที่ ๓ น้ี เหมาะสมกับโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่พิเศษ ที่มีจานวนนักเรียน
ต่อห้องมาก มีพ้ืนที่ห้องเรียนจากัดหรือโรงเรียนท่ีจัดการเรียนการสอนโครงการห้องเรียนพิเศษต่าง ๆ โรงเรียน
ต้องสารวจข้อมูล เพื่อวางแผนแบ่งกลุ่มนักเรียนในห้องเรียน เป็นสองกลุ่ม กลุ่ม A และกลุ่ม B
ให้สลับกันมาเรียน สปั ดาหแ์ รกและสัปดาห์ท่ีสาม กลุ่ม A มาเรียนที่โรงเรียน กลุ่ม B เรียนอยู่ท่ีบ้านด้วยการเรียน
การสอนทางไกล สัปดาห์ที่สองและสัปดาห์ที่สี่ กลุ่ม A เรียนอยู่ที่บ้านด้วยการเรียนการสอนทางไกล กลุ่ม B
มาเรียนท่ีโรงเรียนสลับกันไป นักเรียนสามารถเรียนรู้โดยการเรียนการสอนทางไกลได้ ท้ัง on-air และ
online ตามบริบทความพร้อมของนกั เรียน

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๓๒

รปู แบบที่ ๔ การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรยี น แบบเรียนทุกวนั
กรณีน้ี เช่น โรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ถึงระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลาย สามารถจัดให้นักเรียนระดับเตรียมอนุบาลและอนุบาล ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑ – ป.๓)
และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ม.๓) มาเรียนในช่วงเวลา ๘.๓๐ - ๑๑.๓๐ น. และนักเรียนระดับ
ประถมศึกษาตอนต้น (ป.๔ – ป.๖) และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๔ – ม๖) มาเรียนในมาเรียนในช่วงเวลา
๑๒.๓๐ - ๑๕.๓๐ น. ในวันท่ีนักเรียนอยู่ท่ีบ้านสามารถให้นักเรียนเรียนรู้โดยการเรียนการสอนทางไกลได้ ทั้ง
on-air และ online ตามบรบิ ทความพรอ้ มของนกั เรยี น

รูปแบบที่ ๕ การสลับกลุ่มนักเรียน แบบแบ่งนักเรียนในห้องเรยี นเปน็ ๒ กลมุ่
ในรูปแบบที่ ๔ นี้ เหมาะสมกับโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่พิเศษ ที่มีจานวนนักเรียน
ต่อห้องมาก มีพ้ืนที่ห้องเรียนจากัดหรือโรงเรียนท่ีจัดการเรียนการสอนโครงการห้องเรียนพิเศษต่าง ๆ โรงเรียน
ต้องสารวจข้อมูล เพ่ือวางแผนแบ่งกลุ่มนักเรียนในห้องเรียน เป็นสองกลุ่ม กลุ่ม A และกลุ่ม B
ใหส้ ลับกันมาเรยี น วันจันทร์ กลุม่ A มาเรยี นท่ีโรงเรยี น กล่มุ B เรียนอยู่ท่ีบ้านด้วยการเรียนการสอนทางไกล วัน
อังคาร กลุ่ม A เรียนอยู่ท่ีบ้านด้วยการเรียนการสอนทางไกล กลุ่ม B มาเรียนท่ีโรงเรียนสลับกันไป นักเรียน
เรยี นรูโ้ ดยการเรียนการสอนทางไกลได้ ทั้ง on-air และ online ตามบริบทความพร้อมของนักเรียน

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๓๓
รูปแบบท่ี ๖ รปู แบบหรอื วิธีการอืน่ ๆ
โ ร ง เ รี ย น ส า ม า ร ถ อ อ ก แ บ บ วิ ธี ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ไ ด้ ต า ม ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม
กับบริบทของโรงเรียน โดยจาเป็นต้องคานึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนในการปูองกันการติดเช้ือไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาอนุญาตจากศึกษาธิการ
จงั หวัด

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๓๔

สว่ นท่ี ๔

บทบาทของผู้บรหิ ารโรงเรยี น
ครผู ูส้ อนและบุคลากรทางการศกึ ษา นกั เรียน และผปู้ กครอง

เพอื่ ให้โรงเรียนไดม้ ีแนวปฏิบัติสาหรบั โรงเรียนในการปูองกนั การแพรร่ ะบาดของโรงติดเช้ือไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จึงได้กาหนดบทบาท
ของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง ในการปฏิบัติตน
ในชว่ งสถานการณภ์ ายใต้ “ความปกติใหม่” (New Normal) ดงั นี้

๑. บทบาทของผ้บู ริหารโรงเรียน

ผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้ที่มีบทบาทสาคัญในการวางแผน เตรียมความพร้อมการเปิดเรียน
ส่งเสริมครูในการออกแบบการจัดการเรียนการสอน กากับติดตามช่วยเหลือ ประเมินผลการจัดการเรียนการสอน
และแกไ้ ขปญั หา ตลอดจนรวมมือกบั ครู ผ้ปู กครอง ให้การตรวจสอบสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ เพ่อื ความปลอดภยั ของนักเรียน

๑. ประกาศนโยบายและแนวปฏบิ ตั ิการปอู งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ในโรงเรียน
๒. จัดตั้งคณะทางานดาเนินการควบคุมดูแลและปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
ประกอบดว้ ย ครูนกั เรียน ผปู้ กครอง เจา้ หน้าที่สาธารณสุข ทอ้ งถ่นิ ชมุ ชน และผเู้ กย่ี วขอ้ ง พรอ้ มบทบาทหน้าท่ี
๓. ทบทวน ปรับปรุง ซ้อมปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของโรงเรียนในภาวะท่ีมีการระบาด
ของโรคติดเชอ้ื (Emergency operation for infectious disease outbreaks)
๔. สื่อสารประชาสัมพันธ์การปูองกันโรคโควิด ๑๙ เกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ แนวปฏิบัติ
และการจัดการเรียนการสอนให้แก่ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการโรงเรียน ผ่านช่องทางสื่อ
ทเ่ี หมาะสม และตดิ ตามขอ้ มูลข่าวสารทเ่ี ก่ียวข้องกับโรคโควดิ ๑๙ จากแหล่งข้อมลู ทเ่ี ช่ือถือได้
๕. ส่ือสารทาความเข้าใจ เพ่ือลดการรังเกียจ และลดการตีตราทางสังคม (Social stigma)
กรณอี าจพบบุคลากรในโรงเรียน นกั เรียน หรือผปู้ กครองตดิ เชอ้ื โรคโควดิ ๑๙
๖. มีมาตรการคัดกรองสุขภาพทุกคน บริเวณจุดแรกเข้าไปในโรงเรียน (Point of entry) ให้แก่
นักเรียนครู บุคลากร และผู้มาติดต่อ และจัดให้มีพ้ืนที่แยกโรค อุปกรณ์ปูองกัน เช่น หน้ากากผ้า
หรือหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ อย่างเพียงพอ รวมถึงเพ่ิมช่องทางการส่ือสารระหว่างครู นักเรียน
ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าทีส่ าธารณสุข ในกรณีทพ่ี บนกั เรยี นกล่มุ เสยี่ งหรือสงสัย
๗. ควรพิจารณาการจัดให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพเหมาะสม
ตามบริบทได้อย่างต่อเน่ือง ตรวจสอบติดตาม กรณีนักเรียนขาดเรียน ลาปุวย การปิดโรงเรียน
การจัดให้มกี ารเรยี นการสอนทางไกล สอื่ ออนไลน์ การติดต่อทางโทรศพั ท์ Social media เปน็ รายวนั หรือสปั ดาห์

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๓๕

๘. กรณีพบนักเรียน ครู บุคลากร หรือผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ปุวยยืนยัน
เข้ามาในโรงเรียน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นท่ีเพ่ือดาเนินการสอบสวนโรค และพิจารณา
ปิดโรงเรียนตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสขุ

๙. มีมาตรการให้นักเรียนได้รับอาหารกลางวันและอาหารเสริมนม ตามสิทธิท่ีควรได้รับ
กรณพี บอยู่ในกลุม่ เสีย่ งหรอื อยใู่ นชว่ งกักตัว

๑๐. ควบคุม กากับ ติดตาม และตรวจสอบการดาเนินงานตามมาตรการปูองกัน
การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ในโรงเรยี นอย่างเคร่งครดั และตอ่ เนอ่ื ง

๒. บทบาทของครผู ้สู อนและบลุ ากรทางการศกึ ษา

ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา ต้องเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอน
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนการสอน ดูแลด้านสุขอนามัยของนักเรียนตามหลักของกรมอนามัย กระทรวง
สาธารณสุข ประสานผู้ปกครอง และนักเรียนเรื่องช่องทางการเรียนการสอนทางไกล การนัดหมายการทา
กิจกรรม ใบงาน การบ้าน หรืองานที่ครูมอบหมายต่าง ๆ ถ้าหากผู้ปกครองมีศักยภาพสามารถ
ช่วยครูจัดการเรียนการสอนได้ ให้ร่วมกับผู้ปกครองวางแผนการเรียนรู้ สาหรับการเรียนผ่านระบบทางไกล
ตามช่องทางตา่ ง ๆ ให้นกั เรยี นเรียนรตู้ ามบริบทความพร้อมของนักเรยี น

๑. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พ้ืนที่เสี่ยง คาแนะนา
การปูองกนั ตนเอง และลดความเสีย่ งจากการแพรก่ ระจายของเชื้อโรคโควดิ ๑๙ จากแหลง่ ข้อมลู ทเี่ ชือ่ ถอื ได้

๒. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก
เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่นไม่รู้รส ให้หยุดปฏิบัติงาน และรีบไปพบแพทย์ทันที กรณีมีคนในครอบครัว
ปุวยด้วยโรคโควิด ๑๙ หรือกลับจากพ้ืนที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของเจ้าหน้าที่
สาธารณสุขอย่างเครง่ ครดั

๓. แจ้งผู้ปกครองและนักเรียน ให้นา ของใช้ส่ว นตัว และอุปกรณ์ปูองกันมาใช้
เป็นของตนเอง พร้อมใช้ เช่น ช้อน ส้อม แก้วน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า หน้ากากผ้า
หรือหนา้ กากอนามัย เปน็ ตน้

๔. จัดหาส่ือประชาสัมพันธ์ในการปูองกันและลดความเส่ียงจากการแพร่กระจาย
โรคโควิด ๑๙ ให้แก่นักเรียน เช่น สอนวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
คาแนะนาการปฏิบัติตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม การทาความสะอาด หลีกเลี่ยงการทากิจกรรม
รว่ มกันจานวนมากเพอ่ื ลดความแออดั

๕. ทาความสะอาดสื่อการเรียนการสอนหรืออุปกรณ์ของใช้ร่วมกันท่ีเป็นจุดสัมผัสเส่ียง
ทกุ ครงั้ หลังใช้งาน

๖. ควบคุมดูแลการจัดท่ีน่ังในห้องเรียน ระหว่างโต๊ะเรียน ท่ีนั่งในโรงอาหาร การจัดเว้นระยะห่าง
ระหว่างบุคคลอย่างน้อย ๑.๕ เมตร หรือเหล่ือมเวลาพักกินอาหารกลางวัน และกาชับให้นักเรียน
สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อย ๆ

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๓๖

๗. ตรวจสอบ กากับ ติดตามการมาเรียนของนักเรียนขาดเรียน ถูกกักตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง
ต่อการตดิ โรคโควิด ๑๙ และรายงานตอ่ ผูบ้ ริหาร

๘. ทาการตรวจคัดกรองสุขภาพทุกคนท่ีเข้ามาใน โรงเรียนในตอนเช้า ทั้งนักเรียน
ครู บุคลากร และผู้มาติดต่อ ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายพร้อมสังเกตอาการและสอบถามอาการ
ของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส
โดยติดสัญลกั ษณ์ สติกเกอรห์ รือตราปม้ั แสดงให้เหน็ ชัดเจนวา่ ผา่ นการคดั กรองแลว้

- กรณีพบนักเรียนหรือผู้มีอาการมีไข้ อุณหภูมิร่างกายต้ังแต่ ๓๗.๕ องศาเซลเซียสขึ้นไป
ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหน่ึง จัดให้อยู่ในพื้นท่ีแยกส่วน ให้รีบแจ้งผู้ปกครองมารับ
และพาไปพบแพทย์ ให้หยุดพักท่ีบ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขเพื่อประเมิน
สถานการณแ์ ละดาเนินการสอบสวนโรค และแจ้งผ้บู ริหารเพื่อพิจารณาการปิดโรงเรยี นตามมาตรการแนวทาง
ของกระทรวงสาธารณสุข

- บันทึกผลการคัดกรองและส่งต่อประวัติการปุวย ตามแบบบันทึกการตรวจสุขภาพ
- จัดอุปกรณ์การล้างมือ พร้อมใช้งานอย่างเพียงพอ เช่น เจลแอลกอฮอล์วางไว้
บรเิ วณทางเขา้ สบู่ล้างมือบรเิ วณอ่างล้างมือ
๙. กรณีครสู งั เกตพบนักเรียนทีม่ ีปญั หาพฤติกรรม เช่น เด็กสมาธิส้ัน เด็กท่ีมีความวิตกกังวลสูง อาจ
มีพฤติกรรมดูดนิ้วหรือกัดเล็บ ครูสามารถติดตามอาการและนาเข้าข้อมูลท่ีสังเกตพบในฐานข้อมูล
ด้านพฤติกรรมอารมณ์สังคมของนักเรียน (หรือฐานข้อมูล HERO) เพื่อให้เกิดการดูแลช่วยเหลือ
รว่ มกับผู้เชีย่ วชาญด้านสุขภาพจติ ต่อไป
๑๐. วิธีการปรับพฤติกรรมสาหรับนักเรียนท่ีไม่ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่ครูกาหนด
ด้วยการแก้ปัญหาการเรียนรู้ใหม่ให้ถูกต้อง นั่นคือ “สร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์” หรือ “ลดพฤติกรรม
ที่ไม่พงึ ประสงค”์
๑๑. ครูส่ือสารความรู้เก่ียวกับความเครียด ว่าเป็นปฏิกิริยาปกติที่เกิดข้ึนได้ในภาวะวิกฤติ
ท่ีมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ และนากระบวนการการจัดการความเครียด การฝึกสติให้กลมกลืน
และเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละวัยร่วมกับการฝึกทักษะชีวิตที่เสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ ( Resilience)
ใหก้ บั นกั เรียน ได้แก่ ทกั ษะชีวิตด้านอารมณ์ สังคม และความคดิ เปน็ ตน้
๑๒. ครูสังเกตอารมณ์ความเครียดของตัวทา่ นเอง เน่ืองจากภาระหน้าทก่ี ารดแู ลนักเรียนจานวน
มา ก แ ล ะก า กับ ใ ห้ ปฏิ บั ติต า มม า ตร ก า รปู อ งกั น กา ร ติ ดโ ร คโ ค วิด ๑๙ เ ป็น บ ทบ า ทส า คั ญ
อาจจะสร้างความเครียดวิตกกังวลทั้งจากการเฝูาระวังนักเรียน และการปูองกันตัวท่านเองจากการสัมผัส
กับเช้ือโรค ดงั น้ัน เมอ่ื ครมู คี วามเครยี ด จากสาเหตตุ ่าง ๆ มีข้อเสนอแนะ ดังนี้
- ความสับสนมาตรการของโรงเรียนที่ไม่กระจ่างชัดเจน แนะนาให้สอบถาม
กับผู้บรหิ ารโรงเรียนหรอื เพอ่ื นรว่ มงาน เพือ่ ให้เข้าใจบทบาทหนา้ ทแ่ี ละขอ้ ปฏบิ ัติทต่ี รงกัน
- ความวิตกกังวล กลัวการติดเชื้อในโรงเรียน พูดคุยสื่อสารถึงความไม่สบายใจ
ร้องขอสิ่งจาเป็นสาหรับการเรียนการสอนที่เพียงพอต่อการปูองกันการติดโรคโควิด ๑๙ เช่น สถานท่ี

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๓๗

สื่อการเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้ การส่งงานหรือตรวจการบ้าน เป็นต้น หากท่านเป็นกลุ่มเส่ียง
มโี รคประจาตัวสามารถเขา้ ส่แู นวทางดูแลบคุ ลากรของโรงเรียน

- จัดให้มีการจัดการความเครียด การฝึกสติ เป็นกิจวัตรก่อนเร่ิมการเรียนการสอน
เพอ่ื ลดความวิตกกงั วลตอ่ สถานการณท์ ต่ี ึงเครียดน้ี

๓. บทบาทของนกั เรยี น

สาหรับนักเรียน ในวันท่ีมาเรียนท่ีโรงเรียนต้องเตรียมหนังสือ อุปกรณ์การเรียนให้พร้อม
เพื่อจะได้ไม่ต้องยืมอุปกรณ์จากเพ่ือน ต้องปฏิบัติตนตาม มาตรการความปลอดภัยของ ศบค. อย่างเคร่งครัด
ต้งั แต่ออกจากบา้ นมาเรียน อยู่ในโรงเรียน จนกลับถึงบ้าน ในวันท่ีเรียนอยู่ที่บ้าน นักเรียนต้องเตรียมหนังสือ
อุปกรณ์การเรียน ให้พร้อมในการเรียนทางไกล การเรียนผ่านระบบทางไกลตามช่องทางต่ าง ๆ
ให้นักเรียนตามบริบทความพร้อมของนักเรียน โดยต้องนัดหมายกับครูในการเรียนรู้ การทากิจกรรม ใบงาน
การบา้ น หรอื งานทคี่ รมู อบหมายตา่ ง ๆ

๑. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ พ้ืนที่เสี่ยง คาแนะนา
การปูองกันตนเองและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด ๑๙ จากแหล่งข้อมูล
ท่ีเชอื่ ถือได้

๒. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้า มูก เจ็บคอ หายใจลาบาก
เหนือ่ ยหอบ ไมไ่ ดก้ ลิน่ ไม่รรู้ ส รีบแจง้ ครหู รือผู้ปกครองใหพ้ าไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรค
โควดิ ๑๙ หรอื กลับจากพน้ื ทเ่ี สียงและอยใู่ นช่วงกักตวั ใหป้ ฏิบัตติ ามคาแนะนาของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่าง
เครง่ ครัด

๓. มีและใช้ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อ่ืน เช่น ช้อน ส้อม แก้วน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
ผ้าเช็ดหน้าหนา้ กากผ้าหรอื หน้ากากอนามัย และทาความสะอาดหรอื เก็บให้เรียบรอ้ ย ทุกคร้งั หลังใช้งาน

๔. กรณีนักเรียนด่ืมน้า บรรจุขวด ควรแยกเฉพาะตนเอง และทา เคร่ืองหมาย
หรอื สัญลกั ษณเ์ ฉพาะ ไมใ่ ห้ปะปนกับของคนอื่น

๕. หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยวิธีล้างมือ ๗ ข้ันตอน อย่างน้อย ๒๐ วินาที ก่อนกินอาหาร หลังใช้
ส้วม หลีกเลี่ยงใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น รวมถึงสร้างสุขนิสัยท่ีดีหลังเล่น
กบั เพือ่ นเม่ือกลบั มาถึงบา้ น ต้องรบี อาบน้า สระผม และเปลีย่ นเสือ้ ผ้าใหมท่ ันที

๖. เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย ๑.๕ เมตร ในการทากิจกรรมระหว่างเรียน ช่วงพัก
และหลังเลิกเรียน เชน่ นง่ั กินอาหาร เล่นกับเพ่อื น เข้าแถวตอ่ ควิ ระหว่างเดินทางอยบู่ นรถ

๗. สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามยั ตลอดเวลาทีอ่ ยูใ่ นโรงเรยี น
๘. หลีกเล่ียงการไปในสถานที่ท่ีแออัดหรือแหล่งชุมชนท่ีเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด ๑๙
๙. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารปรุงสุก ร้อน สะอาด อาหารครบ ๕ หมู่
และผัก ผลไม้ ๕ สี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควรเสริมอาหารเช้าจากบ้าน หรือให้ผู้ปกครองจัดเตรียม

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๓๘

อาหารกล่อง (Box Set) กินที่โรงเรียนแทน รวมถึงออกกาลังกาย อย่างน้อย ๖๐ นาที ทุกวัน และนอนหลับ
อยา่ งเพียงพอ ๙ - ๑๑ ช่ัวโมงตอ่ วนั

๑๐. กรณีนักเรียนขาดเรียนหรือถูกกักตัว ควรติดตามความคืบหน้าการเรียน อย่างสม่าเสมอ
ปรึกษาครู เช่น การเรยี นการสอน ส่ือออนไลน์ อา่ นหนงั สือ ทบทวนบทเรียน และทาแบบฝกึ หดั ทบ่ี ้าน

๑๑. หลีกเลี่ยงการล้อเลียนความผิดปกติหรืออาการไม่สบายของเพื่อน เน่ืองจาก
อาจจะก่อให้เกิดความความหวาดกลัวมากเกินไปต่อการปุวยหรือการติดโรคโควิด ๑๙ และเกิดการแบ่งแยก
กีดกันในหมู่นักเรยี น

๔. บทบาทของผู้ปกครอง

ผู้ปกครองต้องดูแลเอาใจใส่นักเรียน ในด้านอนามัยและการปูองกันความเส่ียงจากการแพร่ระบาด
ของเช้ือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) อย่างเคร่งครัด ให้ความร่วมมือกับโรงเรียน ครูประจาช้ัน
เกี่ยวกบั มาตรการการดูแลนักเรียน ผ้ปู กครองมีบทบาทสาคัญร่วมกับครูเพ่ือช่วยนักเรียนท้ังในเรื่องการเรียนรู้และ
การดูแลความปลอดภยั ของนักเรยี น

๑. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ พื้นที่เส่ียง คาแนะนา
การปอู งกันตนเอง และลดความเสี่ยงจากการแพรก่ ระจายของโรค จากแหล่งข้อมลู ทเี่ ชื่อถือได้

๒. สังเกตอาการปุวยของนักเรียน หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ
ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ให้รีบพาไปพบแพทย์ ควรแยกเด็กไม่ให้ไปเล่นกับคนอ่ืน ให้พักผ่อนอยู่ท่ีบ้าน
จนกว่าจะ หายเป็นปกติ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิด ๑๙ หรือกลับจากพ้ืนที่เส่ียง
อยู่ในช่วงกักตวั ให้ปฏิบตั ิตามคาแนะนาของเจา้ หน้าทสี่ าธารณสุขอย่างเคร่งครัด

๓. จัดหาของใช้ส่วนตัวให้นักเรียนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ทาความสะอาดทุกวัน
เช่น หนา้ กากผ้า ชอ้ น สอ้ ม แกว้ นา้ แปรงสฟี ัน ยาสฟี ัน ผา้ เช็ดหนา้ ผ้าเช็ดตวั

๔. จัดหาสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์และกากับดูแลนักเรียนให้ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนกินอาหาร
หลังใช้ส้วม หลีกเล่ียงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น และสร้างสุขนิสัยที่ดี
หลงั เล่นกับเพือ่ นและเมื่อกลบั มาถึงบา้ น ควรอาบน้า สระผม และเปลีย่ นชดุ เสอื้ ผ้าใหม่ทนั ที

๕. ดูแลสขุ ภาพนกั เรียน จดั เตรยี มอาหารปรงุ สกุ ใหม่ สง่ เสริมให้กินอาหารร้อน สะอาด อาหาร
ครบ ๕ หมู่ และผัก ผลไม้ ๕ สี และควรจัดอาหารกล่อง (Box set) ให้แก่นักเรียนในช่วงเช้าแทน
การซื้อจากโรงเรียน (กรณีที่ไม่ได้กินอาหารเช้าจากท่ีบ้าน) เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ออกกาลังกาย
อยา่ งนอ้ ย ๖๐ นาที ทุกวนั และนอนหลบั อย่างเพียงพอ ๙ - ๑๑ ช่ัวโมงตอ่ วัน

๖. หลีกเลี่ยงการพานักเรียนไปในสถานเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด ๑๙ สถานท่ีแออัด
ท่ีมีการรวมกันของคนจานวนมาก หากจาเป็นต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ
๗ ขั้นตอน ด้วยสบู่และนา้ นาน ๒๐ วินาที หรอื ใช้เจลแอลกอฮอล์

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๓๙
๗. การเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียน สาหรับนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียน โดยรถโรงเรียน
รถตู้ หรือรถอ่ืน ๆ ผู้ปกครองและโรงเรียนต้องขอความร่วมมือกับคนขับรถในการหามาตรการ
ความปลอดภัยในขณะทน่ี กั เรียนอยบู่ นรถ โดยเน้นมาตรการทางสาธารณสขุ อยา่ งเคร่งครดั
๘. กรณีมีการจัดการเรียนการสอนทางไกล ออนไลน์ ผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับครู
ในการดูแลจัดการเรยี นการสอนแก่นกั เรยี น เช่น การส่งการบ้าน การร่วมทากจิ กรรม เป็นต้น

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๔๐

ขอ้ เสนอแนะ

๑. ในการเปิดเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาร่วมกันวางแผน
เลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน บนพ้ืนฐานของความปลอดภัย
ของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน ภายใต้ “ความปกติใหม่” (New Normal) โดยต้องได้รับการประเมิน
และไดร้ บั อนญุ าตจากศึกษาธกิ ารจงั หวดั ทีโ่ รงเรยี นต้ังอยู่ใหเ้ ปดิ เรียนและดาเนนิ การจัดการเรียนการสอน

๒. การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์ไม่ปกตินั้น โรงเรียนสามารถนากระบวนการ
และรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มาออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพบริบท
ของโรงเรยี น นักเรียน และสถานการณ์ ดังน้ี

๒.๑ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Active learning) ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ทีผ่ ูเ้ รยี นไดม้ ีโอกาสลงมือกระทามากกวา่ การฟังเพียงอย่างเดียว จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ โดยการอ่าน การ
เขียน การโต้ตอบ และการวิเคราะห์ปัญหา อีกท้ังให้ผู้เรียนได้ใช้กะบวนการคิดขั้นสูง ได้แก่
การวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์ และการประเมนิ ค่า

๒.๒ การสอนแบบ “พลิกกลับ” (Flipped classroom) ครูสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ
วิธีการสอนจากแบบเดิมที่เร่ิมจากครูผู้สอนในห้องเรียน ผู้เรียนกลับไปทาการบ้านส่ง เปล่ียนเป็นผู้เรียน
เปน็ ผ้คู น้ คว้าหาความรู้ด้วยตนเองผ่านเทคโนโลยีและมาทากจิ กรรม โดยมีครูคอยแนะนาในช้นั เรียนแทน

๒.๓ กระบวนการ PLC ผู้บริหารโรงเรียนและครูยังสามารถร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากประสบการณ์ตรงในการวางแผน และแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนได้ เพื่อให้นักเรียนมีทักษะ
แห่งการเรียนเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยประสมประสานองค์ความรู้เฉพาะด้าน ความชานาญและความรู้
ต่าง ๆ เข้าด้วยกนั เพ่ือความสาเร็จของผูเ้ รยี นทัง้ ดา้ นการทางานและการดารงชีวิต

๓. มาตรการและแนวทางการดูแลด้านอนามัยและสาธารณสุขของนักเรียน โรงเรียนสามารถ
ร่วมมือกับโรงพยาบาล โรงพยาบาลชุมชุน สาธารณสุขอาเภอ กรรมการควบคุมโรคอาเภอ
และอาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.) ในการกาหนดมาตรการและแนวทางดาเนินงาน
เช่น ระบบส่งต่อนักเรียน ท่ีจะต้องกาหนดให้ชัดเจนว่าเม่ือพบว่านักเรียนมี อาการไข้แล้ว โรงเรียน
จะแยกนักเรียนไปรอท่ีไหนของโรงเรียน ดูแลอย่างไร จัดรถ รับ-ส่ง อย่างไร ไปรับการตรวจอาการ
โดยละเอียดต่อท่ีไหน ประสานแจ้งผู้ปกครองเพ่ือรับทราบ หรืออาจให้ไปรับการตรวจอาการต่อไปด้วย
เป็นการทางานร่วมกนั เพ่ือเตรยี มการปูองกันการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ เช่น ที่จะเข้ามาชว่ ยเหลือได้ ฯลฯ

๔. โรงเรียนในชุมชนเมืองที่มีความแออัด ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมีจานวนนักเรียน
ต่อห้องเรียนมาก นักเรียนจะมีโอกาสใกล้ชิดกันมาก และหากติดเชื้ออาจนาไปแพร่ต่อสมาชิกในบ้าน
โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๔๑
๕. โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่พิเศษ หรือโรงเรียนที่ครูมีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอน
มีความพร้อมของเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน โรงเรียนอาจบริหารจัดการให้ครูจัดการเรียนการสอน
ออนไลน์ และใหน้ กั เรยี นมีสิทธ์ิเลอื กครผู ู้สอนได้ หรือบรบิ ทและตามความเหมาะสมของโรงเรียน
๖. เดือนกรกฎาคม เริ่มเข้าฤดูฝน เป็นช่วงของการระบาดของโรคติดต่อ เช่น โรคทางเดินหายใจ
ของเด็ก โรคภูมิแพ้ โรคไข้เลือดออก โรงเรียนต้องเสริมการดูแลรักษาอนามัยและสาธารณสุข
ของนักเรยี น โดยเฉพาะ เฝาู ระวงั ติดตาม ในชว่ งสถานการณโ์ ควิด ๑๙
๗. สาหรับที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอนทางไกล ทั้ง on-air และ online ต้องคานึงถึง
บริบทความพรอ้ มของนกั เรยี นและครอบครัว ต้องไม่เป็นวิธีการท่ีสร้างภาระให้กับผู้ปกครองและนักเรียน เช่น
การซอ้ื คอมพวิ เตอร์ หรือโทรศพั ท์ เปน็ ต้น

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๔๒

การตดิ ตาม และประเมนิ ผล

การติดตามประเมนิ ผลเปน็ กระบวนการสาคัญที่จะต้องดาเนนิ การทัง้ กอ่ นเปดิ เรียน ระหวา่ งเรียน และ
ปิดเรียน เพ่ือติดตาม ดูแลช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาและทราบความก้าวหน้าของการดาเนินงาน ตลอดจน
รบั ทราบปัญหาอุปสรรคของการดาเนินงาน ทั้งนี้การติดตามและประเมินผล มี ๓ ระดับ ดังนี้

ระดับโรงเรยี น
๑. โรงเรียนกาหนดหรือแต่งต้ังให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลรับผิดชอบดาเนินการตามแนวทาง
การบริหารจัดการสาหรับโรงเรียน เพ่ือปูองกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) อยา่ งชัดเจน ครอบคลุมแนวทางบริหารสาหรับโรงเรียนท้งั ๔ ส่วน คอื

ส่วนที่ ๑ การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นเปดิ ภาคเรียน
สว่ นท่ี ๒ แนวปฏบิ ัติ ระหว่างเปิดภาคเรยี น
ส่วนที่ ๓ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
ส่วนท่ี ๔ บทบาทของผู้บริหาร ครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน
และผู้ปกครอง
๒. ให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รับผิดชอบ รายงานผลการดาเนินงานท้ัง ๔ ส่วนในประเด็นต่าง ๆ
ให้เป็นไปตามสภาพและบริบทของโรงเรียน สรุปผลการดาเนินงานตามแนวทางการบริหาร
สาหรบั โรงเรยี นในภาพรวม
๓. ให้บคุ คลหรือกลมุ่ บคุ คลที่รับผิดชอบ รายงานผลการดาเนนิ งานต่อผู้บริหารโรงเรียน
๔. โรงเรียนรายงานผลการดาเนินงาน แนวทางการบริหารจัดการสาหรับโรงเรียน เพ่ือปูองกัน
และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยรายงานผลการดาเนินงาน
เสนอตอ่ ศึกษาธิการจังหวัด

ระดับพืน้ ที่
๑. สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงานศึกษาธิการจังหวัด สานักงาน
การศึกษาเอกชนจังหวัด แต่งตั้งคณะทางานตรวจติดตามมาตรการรองรับการเปิดเรียนในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ของโรงเรียนเอกชน ให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลรับผิดชอบ
ดาเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการสาหรับโรงเรยี น เพ่ือปูองกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติด
เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ทกุ โรงเรียนท่วั ประเทศ

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน

๔๓
๒. คณะทางานตรวจติดตามมาตรการรองรับการเปิดเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ของโรงเรยี นเอกชน ที่ไดร้ ับแต่งตัง้ สรปุ ผลการตรวจติดตาม ยืนยันการดาเนินงาน
ในภาพรวมตามแนวทางการบริหารจดั การสาหรบั โรงเรียน เพอ่ื ปอู งกันและควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคติด
เชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
๓. ให้คณะทางานตรวจติดตามมาตรการรองรับการเปิดเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ของโรงเรยี นเอกชน รายงานผลการดาเนนิ งานตอ่ ศกึ ษาธิการจังหวดั
๔. ให้ศึกษาธกิ ารจังหวดั พจิ ารณาอนญุ าต

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๔๔

เอกสารอา้ งองิ

ศูนย์เฉพาะกิจการศึกษาทางไกล ในสถานการณ์ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สานกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน. (๒๕๖๓). แนวทางการบรหิ ารจดั การสาหรบั โรงเรียนเพอ่ื
ป้องกนั และควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโควดิ ๑๙ (COVID 19).
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (๒๕๖๓), คาแนะนาการป้องกนั ควบคมุ โรคไวรัสโคโรนา สายพนั ธใ์ุ หม่
๒๐๑๙ สาหรับสถานศกึ ษา สถานการณ์การระบาดในวงกวา้ ง ระยะเริ่มต้น. สบื คน้ ๑๒ พฤษภาคม
๒๕๖๓,จากhttps://ddc.moph.go.th/viraloneumonia/file/introduction/ introduction๐๗_
๑.pdf.

กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . (๒๕๖๓), คาแนะนาการปอ้ งกันตนเองและการปฏบิ ัตดิ ้านสขุ อนามัย
ในสถานศกึ ษา ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19). สืบคน้
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓, จาก https://www.anamai.moph.go.th/ewt_dt link.php?nid=๑๖๕๔๕

กระทรวงสาธารณสุข. (๒๕๖๓), ค่มู อื การปฏบิ ัตสิ าหรบั สถานศึกษา ในการป้องกนั การแพร่ระบาด
ของโรคโควดิ ๑๙. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

กนั ต์ เอี่ยมอนิ ทรา. ผลกระทบจากโควิด-๑๙ ตอ่ ภาคการศึกษา. ๒๓ มนี าคม ๒๕๖๓ | คอลัมน์
OVERSEAS & EDU, กรุงเทพธรุ กิจ

ศูนย์เฉพาะกิจการศึกษาทางไกล ในสถานการณ์ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน. (๒๕๖๓). แนวทางการจดั การเรยี นการสอนทางไกล
ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของ โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19).
https://www.covid๑๙.obec.go.th/

ศูนยเ์ ฉพาะกจิ การศึกษาทางไกล ในสถานการณต์ ดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สานกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๖๓). แนวทางการจดั การเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัด
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19).
https://www.covid๑๙.obec.go.th/

องค์การยนู เิ ซฟ ประเทศไทย. (๒๕๖๓). แนวทางการปฏิบัตสิ าหรับสถานศกึ ษาเพ่ือป้องกัน
และควบคุมการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -๑๙ (COVID-19). สบื ค้น ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓
จาก https://www.unicef.org/thailand/th/reports/แนวทางการปฏบิ ัติสาหรบั สถานศกึ ษา
เพื่อปูองกนั และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควดิ -๑๙-COVID-19/

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๔๕

ภาคผนวก

- แบบประเมินตนเองของสถานศกึ ษาในการเตรียมความพรอ้ มก่อนเปิดภาคเรยี น เพื่อเฝาู ระวงั
และปอู งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๔๖

แบบประเมินตนเองของสถานศึกษาในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรยี น
เพอื่ เฝา้ ระวงั และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙

สถานศกึ ษา ..............................................................................................................................................
ตาบล ................................................................ อาเภอ ...........................................................................
จงั หวัด .........................................................โทรศพั ท์ ...................................................................................

เกณฑ์การประเมิน มี ไมม่ ี หมายเหตุ
ขอ้ ประเดน็
มติ ทิ ่ี ๑ ความปลอดภัยจากการลดการแพรเ่ ชื้อโรค
๑ มีมาตรการคัดกรองวัดไข้ ให้กับนักเรียน ครู และผู้เข้ามาติดต่อ

ทุกคนก่อนเข้าสถานศึกษา หรือไม่
๒ มีมาตรการสังเกตอาการเสี่ยงโควิด-๑๙ เช่น ไอ มีนา้ มูก เจบ็ คอ

เหนื่อยหอบ หายใจลาบาก จมูกไม่ได้กล่ิน ลิ้นไม่รู้รส
พร้อมบันทึกผล สาหรับนักเรียน ครูและผู้เข้ามาติดต่อทุกคน
ก่อนเข้าสถานศึกษา หรือไม่
๓ มีนโยบายกาหนดให้นักเรียน ครู และผู้เข้ามาในสถานศึกษาทุกคน
ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
๔ มีการจัดเตรียมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สารองไว้ให้
กับนักเรียนร้องขอ หรือผู้ที่ไม่มีหน้ากากเข้ามาในสถานศึกษา
หรือไม่
๕ มีจุดล้างมือด้วยสบู่อย่างเพียงพอ หรือไม่
๖ มีการจัดวางเจลแอลกอฮอล์สาหรับใช้ทาความสะอาดมือ บริเวณ
ทางเข้าอาคารเรียน หน้าประตูห้องเรียน ทางเข้าโรงอาหาร
อย่างเพียงพอหรือไม่
๗ มกี ารจัดโต๊ะเรียน เก้าอ้ีน่ังเรียน ทีน่ ่งั ในโรงอาหาร ทีน่ งั่ พัก
โดยจดั เว้นระยะห่างระหวา่ งกัน อย่างน้อย ๑-๒ เมตร
(ยืดหลัก Social distancing) หรอื ไม่
๘ มกี ารทาสัญลักษณ์แสดงจุดตาแหนง่ ชัดเจน
ในการจดั เวน้ ระยะห่างระหว่างกันหรือไม่
๙ กรณีห้องเรียนไม่สามารถจัดเว้นระยะห่างตามที่กาหนดได้
มีการสลับวันเรียนแต่ละช้ันเรยี น หรือมีการแบ่งจานวนนักเรียน
หรือไม่

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

ขอ้ ประเด็น ๔๗
โรงเรียนมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนอย่างไร มี ไมม่ ี หมายเหตุ
๙.๑ จัดการเรียนการสอนแบบปกติ (On-site) เน่ืองจาก
มีจานวนนักเรียนและระยะห่างเป็นไปตามท่ีหน่วยงาน
ราชการกาหนด

๙.๒ จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)
(สามารถตอบได้มากกว่า ๑ รูปแบบ)
รูปแบบท่ี ๑ การสลบั ช้ันมาเรียนของนักเรียน แบบสลับวันเรียน
รูปแบบท่ี ๒ การสลบั ชั้นมาเรียนของนักเรียน แบบสลับวันคู่ วันคี่
รูปแบบที่ ๓ การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียน แบบสลับวันมาเรียน
๕ วัน หยุด ๙ วัน
รปู แบบที่ ๔ การสลบั ชว่ งเวลามาเรียนของนกั เรยี น แบบเรียนทุกวัน
รูปแบบที่ ๕ การสลับกลุ่มนักเรียนมาเรียน แบบแบ่งนักเรียน
ในห้องเรียนเป็น # กลุ่ม
รูปแบบที่ ๖ รูปแบบอื่น ๆ (โปรดระบุ) .........................
๑๐ มีการทาความสะอาดห้องเรียน ห้องต่าง ๆ และอุปกรณ์
ที่ใช้ในการเรียนการสอน ก่อนและหลังใช้งานทุกคร้ัง
เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี อุปกรณ์กีฬา หรือไม่
๑๑ มีการทาความสะอาดบริเวณจุดสัมผัสเส่ียงร่วมทุกวนั เชน่ โต๊ะ
เก้าอ้ี ราวบันได ลิฟต์ กลอนประตู มือจับประตู - หน้าต่าง หรือไม่
๑๒ มีถังขยะแบบมีฝาปิดในห้องเรียน หรือไม่
๑๓ มีการปรับปรุงซ่อมแซมประตู หน้าต่าง และพัดลมของห้องเรียน
ให้มีสภาพการใช้งานได้ดี สาหรับใช้ปิด - เปิดให้อากาศถ่ายเท
สะดวก หรือไม่
๑๔ มีการแบ่งกลุ่มย่อยนักเรียนในห้องเรียนในการทากิจกรรม หรือไม่
๑๕ มีการปรับลดเวลาในการทากิจกรรมประชาสัมพันธภ์ ายหลงั
การเข้าแถวเคารพธงชาติหนา้ เสาธง หรือไม่
๑๖ มีการจัดเหล่ือมเวลาทากิจกรรมนักเรียนเหลื่อมเวลารับประทาน
อาหารกลางวัน หรือไม่
๑๗ มีมาตรการให้เว้นระยะห่างการเข้าแถวทากิจกรรม หรือไม่
๑๘ มีการกาหนดให้ใช้ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ส่ิงของร่วมกับผู้อื่น
เช่น แก้วน้า ซ้อน ส้อม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า หรือไม่

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน

๔๘

ขอ้ ประเด็น มี ไม่มี หมายเหตุ

๑๙ มีห้องพยาบาลหรือพ้ืนที่สาหรับแยกผู้มีอาการเสี่ยง

ทางระบบทางเดินหายใจ หรือไม่

๒๐ มีนักเรยี นแกนนาดา้ นสุขภาพ จติ อาสา เป็นอาสาสมัครในการช่วยดูแล

สุขภาพเพ่ือนนักเรียนด้วยกันหรือดูแลรุ่นน้อง หรือไม่

มิตทิ ่ี ๒ การเรยี นรู้

๒๑ มีการติดปูายประชาสัมพันธ์แนะนาการปฏิบัติ

เพ่ือสุขอนามัยท่ีดี เช่น วิธีล้างมือท่ีถูกต้อง การสวมหน้ากากอนามัย

การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น หรืออื่น ๆ ท่ีเกี่ยวกับโรค

โควิด-๑๙ หรือไม่

๒๒ มีการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอน

โดยคานึงถึงการเรียนรู้ตามวยั และสอดคล้อง

กับพัฒนาการด้านสังคม อารมณ์ และสติปัญญา หรือไม่

๒๓ มีมาตรการกาหนดระยะเวลาในการใช้สื่อออนไลน์

ในสถานศกึ ษา ในเดก็ เลก็ (ประถม) ไม่เกนิ ๑ ช่ัวโมงต่อวัน และ ในเดก็ โต

(มัธยม) ไม่เกิน ๒ ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่ (กรณีที่สถานศึกษาไม่ได้ใช้

สื่อออนไลน์ในสถานศึกษา เนื่องจากจัดการเรียนการสอนแบบ

on-site ๑๐๐% ให้ทาเคร่ืองหมายในช่อง “มี”)

๒๔ มีการใช้ส่ือรอบรู้ด้านสุขภาพผ่านช่องทาง Social media เช่น

Website ,Facebook , Line , QR Code ,

E-mail หรือไม่

มิติที่ ๓ การครอบคลุมถึงเด็กด้อยโอกาส

๒๕ มีการเตรียมหน้ากากผ้าสารอง หรือไม่

๒๖ มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบท

การเข้าถงึ การเรียนรใู้ นสถานการณก์ ารระบาดของโรคโควิด-๑๙ หรอื ไม่

๒๗ มีมาตรการส่งเสริมให้นักเรียนได้รับบริการสุขภาพข้ันพ้ืนฐาน

อย่างท่ัวถึง หรือไม่

๒๘ มีมาตรการการทาความสะอาดและจัดสภาพแวดล้อม

ของท่ีพักและเรือนนอนให้ถูกสุขลักษณะ พร้อมมีตารางเวรทุกวัน

หรือไม่ (กรณีมีที่พักและเรือนนอน)

(กรณีท่ีสถานศึกษาไม่มีท่ีพักและเรือนนอน ให้ทาเครื่องหมายใน

ช่อง “มี”)

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน

๔๙

ขอ้ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ

๒๙ มีมาตรการการทาความสะอาดและจัดสภาพแวดล้อม

ให้สอดคล้องกับข้อบัญญัติการปฏิบัติด้านศาสนกิจ พร้อมมีตาราง

เวรทุกวนั หรือไม่ (กรณีมีสถานทป่ี ฏบิ ตั ิศาสนากจิ ) (กรณีท่ี

สถานศึกษาไม่มีสถานที่ปฏิบัติศาสนากิจ

ให้ทาเคร่ืองหมายในช่อง “มี”)

๓๐ มมี าตรการดูแลนกั เรยี นท่ีมคี วามบกพร่องด้านพฒั นาการ การเรยี นรู้

หรือด้านพฤติกรรมอารมณ์ รวมถึงภาวะสมาธิส้ัน และเด็กออทิสติก

ที่สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติ หรือไม่ (กรณีท่ีสถานศึกษาไม่มี

นักเรียนท่ีมีความบกพร่อง ให้ทาเครื่องหมายในช่อง “มี”)

มติ ิที่ ๔ สวัสดิภาพและการคุ้มครอง

๓๑ มีการจัดเตรียมแผนรองรับการจัดการเรียนการสอนสาหรับนักเรียน

ปุวย กักตัวหรือกรณีปิดโรงเรยี น หรือไม่

๓๒ มีการจัดเตรียมแนวปฏิบัติการสื่อสารเพ่ือลดการรังเกียจ

และการตีตราทางสังคม (Social stigma) หรือไม่

๓๓ มีการจัดเตรียมแนวปฏิบัติด้านการจัดการความเครียดของครู

และบุคลากรของสถานศึกษา หรือไม่

๓๔ มีการตรวจสอบประวัติเสี่ยงของนักเรียนและบุคลากร รวมท้ัง

ตรวจสอบเร่ืองการกักตวั ใหค้ รบ ๑๔ วนั ก่อนมาทาการเรยี นการสอน

ตามปกติ และทุกวันเปิดเรียน หรือไม่

๓๕ มีการกาหนดแนวทางปฏิบัตติ ามระเบียบสาหรับนักเรียน ครู และ

บุคลากรท่สี งสยั ติดเชื้อ หรือปวุ ยด้วยโรคโควดิ -๑๙ โดยไม่ถือเป็นวัน

ลาหรือวันหยุดเรียนหรือไม่

มติ ทิ ี่ ๕ นโยบาย
๓๖ มกี ารส่ือสารประชาสมั พันธ์ความรู้การปูองกันโรคโควดิ -๑๙

แก่นักเรียน ครูบุคลากร และผู้ปกครอง โดยการประชุมชี้แจง
หรือผ่านซ่องทางต่าง ๆ อย่างน้อย ๑ คร้ัง ก่อนหรือวันแรก
ของการเปิดเรียน หรือไม่
๓๗ มีนโยบายและแนวทางการปอู งกันการแพร่ระบาด
โรคโควิด-๑๙ ของสถานศึกษาอย่างเป็นลายลักษณ์หรือมีหลักฐาน
ชัดเจน หรือไม่

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน

๕๐

ข้อ ประเด็น มี ไม่มี หมายเหตุ
๓๘ มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา หรือไม่
๓๙ มีการแต่งต้ังคณะทางานปูองกันการแพร่ระบาดโรคโควดิ -๑๙

และกาหนดบทบาทหน้าท่ีอย่างชัดเจน หรือไม่
๔๐ มีมาตรการจดั การความสะอาดบนรถรับ-สง่ นักเรียน เวน้ ระยะห่างระหว่าง

บุคคล จัดท่ีนั่งบนรถหรือมีสัญลักษณ์
จุดตาแหน่งชัดเจน หรือไม่ (กรณีมีรถรับส่งนักเรียน)
มิตทิ ี่ ๖ การบริหารการเงิน
๔๑ มีแผนการใช้งบประมาณในการปูองกันการแพร่ระบาด
ของโรคโควิด-๑๙ ตามความจาเป็นและเหมาะสม หรือไม่
๔๒ มีการจัดหาซื้อวัสดุอุปกรณ์ปูองกันโรคโควดิ -๑๙ สาหรับนกั เรียน
และบุคลากรในสถานศึกษา เช่น หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
เจลแอลกอฮอล์ สบู่ หรือไม่
๔๓ มีการประสานแสวงหาแหล่งทุนสนับสนุนจากหน่วยงาน องค์กร
หรือเอกชน เช่น ท้องถิ่น บริษัทห้างร้าน NGO เป็นต้น เพอื่ ดาเนิน
กิจกรรมการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ หรือไม่
๔๔ มีการจัดหาบุคลากรเพิ่มเติมในการดูแลนักเรียน
และการจัดการส่ิงแวดล้อมในสถานศึกษา หรือไม่

สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน


Click to View FlipBook Version