คำ นำ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนนึ่งของรายวิชาส33102 สังคมศึกษาผู้จัด ทำ ได้ทำ การศึกษาเรื่อง ประวัติศาสตร์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาล ที่1 - รัชกาลที่5 เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ รายงานเล่มนี้มีเนื้อหาซึ่งประกอบไปด้วยเหตุการณ์ที่สำ คัญที่ ทำ ให้เกิดการพัฒนาประเทศและเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำ คัญของ ต่อปะเทศไทย คณะผู้จัดทำ ขอขอบคุณ อาจารย์ ธเนศ ชะพินทร ที่ให้ แนวทางในการศึกษาหาความรู้ และข้อเสนอแนะ ผู้จัดทำ หวังเป็น อย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทำ
เรื่อง คำ นำ สารบัญ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( รัชกาลที่ 1 ) - ด้านการเมืองการปกครอง - ด้านศิลปกรรม พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) - ด้านการเมืองการปกครอง - ด้านเศรษฐกิจ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 3 ) - ด้านการศึกษา - ด้านการค้าระหว่างประเทศ - ด้านการคมนาคม - ด้านความมั่นคง - ด้านศิลปกรรม - ด้านการทำ นุบำ รุงพระพุทธศาสนา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 4 ) - ด้านกฏหมายและการศาล - ด้านการเมืองการปกครอง - ด้านเศรษฐกิจ - ด้านการศึกษา - ด้านศาสนา - ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี - ด้านศิลปกรรม สารบัญ หน้า ก ข 4 4 5 5 5 5 6 6 7 7 8 8 8 9 9 10 11 11 12 12 13
เริ่อง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 5 ) การปฏิรูปด้านการเมือง การปกครอง - ด้านเศรษฐกิจ - ด้านการต่างประเทศ - ด้านสังคม - ด้านการศึกษา - ด้านวัฒนธรรม หน้า 13 13 14 15 15 16 18 พระบาทสมเด็จพระพทุธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( รัชกาลที่ 1 )
พระบาทสมเด็จพระพทุธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ( รัชกาลที่ 1 ) ป้อมพระกาฬ กฎหมายตรา 3 ดวง มีพระกรณียกิจที่สำ คัญ ดังนี้ 1. ด้านการเมืองการปกครอง 1.1 ชำ ระกฎหมายตรา 3 ดวง เรียกว่า ประมวลกฎหมายรัชกาลที่ 1 ตราสามดวง ประกอบด้วย ตราราชสีห์ (ตรามหาดไทย) ตราคชสีห์ (ตรากลาโหม ) ตราบัวแก้ว (กรมท่า) ป้อมพระเมรุ 1.3 โปรตุเกส เป็นชาติตะวันตกที่เข้ามาติดต่อ กับกรุงเทพโดยส่ง อันโตนิโอ เดอ วีเซน เข้า มาติดต่อกับราชสำ นัก คนไทยเรียกกันว่า องตน วีเสน 1.2 โปรดให้ขุดคลองรอบกรุง สร้างป้อมปราการและกำ แพง พระนคร โดยน่า อิฐจากกำ แพง อยุธยามาสร้าง รูปที่ 2 ป้อมพระเมรุ 2. ด้านศิลปกรรม 2.1 ฟื้นฟูและแปลวรรณคดีเล่มสำ คัญ เช่นรามเกียรติ์ สามก๊ก ราชาธิราช รามเกียรติ์ สามก๊ก กฎหมายในรัชกาลที่ 1 มีชื่อเรียกว่าอะไร ซึ่งประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
2.1 เรียกเก็บภาษีอากรแบบใหม่เรียกการเดินสวนและการเดินนา การเดินสวน เป็นการตั้งเจ้าพนักงานไปสำ รวจพื้นเพาะปลูกราษฎร การเดินนาเก็บหางข้าวแทนการเก็บภาษีอากร หางข้าวคือการเก็บข้าว ไร่ละ 2 ถัง 2.2 แรงงานจีนเริ่มเข้ามามีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้น เริ่มมีการ “ผูกข้อมือ” เพื่อเป็นการเก็บค่าธรรมเนียม แรงงานชายชาวจีนแทนการเกณฑ์แรงงาน 2.3 การค้ากับต่างประเทศมีการค้าสำ เภาหลวงสิ่งของที่เป็นส่วย เช่น ดีบุก พริกไทย ครั่ง ขี้ผึ้ง ไม้หอมค้าขายกับประเทศ จีน มลายู ญวน กัมพูชา 2.4 กําไรจากการผูกขาดสิน เช่นรังนก ฝาง ดีบุก งาช้างพริกไทย เนื้อไม้ ตะกั่ว พลวง 2.5 ภาษีปากเรือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ภาษีปากเรือ 2.6 ภาษีสินค้าขาเข้า เก็บจากสินค้าที่พ่อค้าต่างประเทศนำ เข้ามา จำ หน่าย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าแพรจีน เครื่องแก้ว เครื่องลายคราม ใบชา อัตรา การเก็บไม่แน่นอน ยืดหยุ่นตามความ เหมาะสม ภาษีสินค้าขาออก เก็บจาก สินค้าที่ส่งออกในอัตราที่ต่างกันไปตามชนิดของสินค้า เช่น รังนกนางแอ่น กับเขากวางอ่อน มีพระกรณียกิจที่สำ คัญ ดังนี้ 1.ด้านการเมืองการปกครอง 1.1 มีการตรากฎหมายห้ามสูบฝิ่นใน พ.ศ.2354 1.2 ความสัมพันธ์กับประเทศอังกฤษ โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา พม่า เวียดนา มลายู กัมพูชา จีน 2. ด้านเศรษฐกิจ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) รัชกาลที่ 2 มีการค้าขายกับต่าง ประเทศซึ่งมีสิ่งของเป็นส่วย ได้แก่ อะไรบ้าง ตอบ กฎหมายตรา 3 ดวง ประกอบด้วย ตราราชสีห์ ตราคชสีห์ ตราบัวแก้ว
2.1 สนับสนุนการค้ากับชาวเอเชียและชาวยุโรป โดยเฉพาะกับชาวจีน มีการแต่งสำ เภาทั้งของราชการ เจ้านาย ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และ พ่อค้าชาวจีนไปค้าขายยังเมืองจีน และ ประเทศใกล้เคียงจนมีรายได้ในท้องพระคลังอย่างมาก จนได้ รับฉายาจากพระราชบิดาว่า เจ้าสัว รวมถึงการเปิด ค้าขายกับมหาอำ นาจตะวันตกจนมีการลง นามในสนธิสัญญาระหว่างกันคือ “สนธิสัญญาเบอร์นี” ได้ เปิดสัมพันธไมตรีกับสหรัฐอเมริกาและมีการทำ สนธิสัญญาต่อ กัน นับเป็นสนธิสัญญา ฉบับแรกที่สหรัฐอเมริกาทำ กับ ประเทศทางตะวันออก 2.2 สินค้าที่ส่งออกที่เด่นคือ น้ำ ตาลทราย กรมพระคลัง สินค้า เข้าไปตรวจเลือกสินค้า 2.3 กิดระบบเจ้าภาษีนายอากร ให้สัมปทานเอกชนจัด เก็บภาษีแทนรัฐ ส่วนใหญ่ชาวจีน เป็นผู้ทำ หน้าที่นี้ สร้าง รายได้มหาศาล แต่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เก็บภาษี ในอัตราที่สูง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) มีพระกรณียกิจที่สำ คัญ ดังนี้ 1. ด้านการศึกษา 1.1 ทรงทำ นุบำ รุงและสนับสนุนการศึกษาให้กรมหลวงวงศาธิ ราชสนิท แต่งตำ ราเรียน คือ หนังสือจินดามณี และ จารึกลงใน ศิลาตามศาลา รอบพุทธาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปั้นทิ้ง ไว้ตามเขามอและเขียนไว้ตามฝาผนังต่างๆ มีทั้งอักษรศาสตร์ แพทยศาสตร์ พุทธศาสตร์ โบราณคดี หนังสือจินดามณี 2.ด้านการค้าระหว่างประเทศ สนธิสัญญาเบอร์นี รัชกาลที่ 3 ทรงทำ นุบำ รุงและ สนับสนุนการศึกษาโดยแต่งตำ รา เรียนชื่อว่าอะไร ตอบ ดีบุก พริกไทย ครึ่ง ขี้ผึ้ง ไม้หอม
4.ด้านความมั่นคง 4.1 พระองค์ได้ทรงป้องกันราชอาณาจักร ด้วยการส่งกองทัพไปสกัด ทัพของเจ้าอนุวงศ์ และขัดขวางไม่ให้เวียงจันทน์เข้าครอบครอง หัวเมืองอีสานของสยาม นอกจากนี้ พระองค์ ทรงประสบความสําเร็จในการทำ ให้ สยาม กับญวนยุติการสู้รบระหว่างกันเกี่ยวกับเรื่อง เขมร โดยที่สยามไม่ได้เสียเปรียบญวนแต่ อย่างใด ปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทร์ 5.ด้านศิลปกรรม 5.1 วรรณกรรม พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตจารึกวรรณคดีที่ สำ คัญๆ และวิชาแพทย์แผนโบราณลงบน แผ่นศิลาแล้วติดไว้ตามศาลาบริเวณวัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อให้ ประชาชนได้ศึกษาหาความรู้ 5.2 เกิดศิลปะพระราชนิยม เป็นแบบไทย ผสมจีน เช่น วัดราชโอรสาราม วัด ยานนาวา เป็นต้น วัดยานนาวา คลองบางขุนเทียน 3.ด้านการคมนาคม 3.1 ในรัชสมัยของพระองค์ใช้ทางน้ำ เป็นสำ คัญ จึงโปรดฯให้มีการขุด คลอง ขึ้น เช่น คลองบางขุนเทียน คลองบาง ขนาก และ คลองหมาหอน ตอบ หนังสือจินดามณี คลองที่ถูกขุดขึ้นในรัชกาลที่ 3 คือคลองใดบ้าง
6.2 เกิดการตั้งธรรมยุติกนิกาย โดยภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎ เป็นฝ่าย วิปัสสนาธุระ ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์โดย พระวชิร ญาณเถระ และเมื่อถึงรัชกาลที่5 ทรงมีพระบรมราชโองการให้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้นเป็น ครั้งแรกใน ประเทศไทย พระราชบัญญัติฉบับนี้ชื่อว่า “พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ รศ.๑๒๑” 6.ด้านการทำ นุบำ รุงพระพุทธศาสนา 6.1 พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธ ศาสนา และได้ทรงสร้างพระพุทธรูป เช่น พระประธานในอุโบสถวัดสุทัศน์ วัดเฉลิม พระเกียรติ วัดปรินายกและวัดนางนอง ทรง สร้าง วัดใหม่ขึ้น 3 วัด คือ วัดบวรนิเวศ วิหาร วัดเทพธิดารามและวัดราชนัดดาราม ทรงบูรณ วัดศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ตอบ คลองบางขุนเทียน คลองบางขนาก คลองหมาหอน
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) มีพระกรณียกิจที่สำ คัญ ดังนี้ 1.ด้านกฎหมายและการศาล 1.1 ตรากฎหมายขึ้น เพื่อให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาพบ้านเมือง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับมรดก สินสมรส ฯลฯ ทำ ให้เกิดการจัดตั้งโรงเรียน สอนวิชากฎหมายตรา กฎหมายขึ้นตามแบบอารยประเทศ ฉบับใหม่ และทัน สมัยที่สุด คือ กฎหมาย ลักษณะอาญา จัดตั้งกระทรวงยุติธรรมขึ้น 1.2 โปรดให้จัดตั้งโรงพิมพ์หลวง ขึ้นในพระบรมหาราชวัง “โรงอักษรพิมพการ” เพื่อใช้พิมพ์ ประกาศและกฎหมายต่างๆ เป็น หนังสือของทางราชการ เรียกว่า ราช กิจจานุเบกษา โรงอักษรพิมพการ 1.3 การปรับปรุงระบบการศาล ทรง เปลี่ยนแปลงประเพณีบางอย่างเกี่ยวกับ ระบบการ ศาล ได้แก่ ทรงยกเลิกการ พิจารณาคดีแบบจารีตนครบาล เริ่มมีการ จัดตั้ง ศาลกงสุลเป็นครั้งแรก 2.ด้านการเมืองการปกครอง 2.1 ทรงใช้ ประกาศ เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบและผดุงความ เป็นธรรมของ บ้านเมือง 2.2 ให้ราษฎรมีโอกาสได้ถวายฎีการ้องทุกข์โดยพระองค์จะเสด็จออก มารับฎีการ้องทุกข์ด้วยพระองค์เองทุกวัน โกณ ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เดือนละ 4 ครั้ง และ โปรดเกล้าฯ ให้ตุลาการ ชำ ระความให้เสร็จ โดยเร็ว ทำ ให้ราษฎรได้รับความยุติธรรมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โรงอักษรพิมพการ ในรัชกาลที่ 4 มีหน้าที่อะไร
2.3 ทรงประกาศให้เจ้านายและข้าราชการทำ การเลือกตั้งตำ แหน่ง พระมหาราช ครูปุโรหิตาจารย์ และตำ แหน่งพระมหาราชครูมหิธร อันเป็ ตำ แหน่งที่ว่างลง แทนที่พระองค์ จะทรงแต่งตั้งด้วยพระราชอำ นาจของ พระองค์เอง 2.4 ทรงริเริ่มการจัดกองทหารแบบตะวันตก 3.ค้านเศรษฐกิจ 3.1 ทำ สนธิสัญญาเบาริงแล้วการค้าของไทย เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทำ ให้มีการปรับปรุงด้าน เศรษฐกิจ ทรงเปลี่ยนการใช้เงินพดด้วง มาเป็น เงินเหรียญ และขุดคลอง ตัดถนนเพิ่มขึ้นหลาย สาย 3.2 เกิดระบบเงินตราได้มีการจัดตั้งโรง กษาปณ์สิทธิการ และ มีการใช้เหรียญกษาปณ์ สนธิสัญญาเบาริง โรงกระสาปนะสิทธิการ เหรียญกษาปณ์ 4.ค้านการศึกษา 4.1 ตั้งโรงเรียนชายที่ตำ บลสำ เหร่ ปัจจุบัน คือ โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ส่วนโรงเรียนสตรีแห่งแรกในไทย คือ โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนวัฒนาวิทยา) 4.2 มีการวางรากฐานการศึกษาในราชสำ นัก ทรงว่าจ้างแหม่มแอ นนา เลียวโนเวสน์มา ถวายพระอักษรแด่พระราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งข้าราชสำ นักฝ่ายใน โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง ใช้พิมพ์ประกาศและกฏหมายต่างๆ เป็นหนังสือทางราชการ สนธิสัญญาเบาริงทำ ให้มีการเจริญก้าวหน้าในด้านใด อะไรบ้าง
5.1 ได้ทรงทำ นุบำ รุง และบำ เพ็ญพระราชกุศลเป็นอย่างมากทรงสร้างและ บูรณะ ปฏิสังขรณ์ วัด ปูชนียสถาน และปูชนียวัตถุ ทรงส่งสมณทูตไปลังกา ทรงกวดขันความประพฤติ ของภิกษุ สามเณร ให้อยู่ในพระธรรมวินัย ตลอดจน ได้ทรงนำ พิธีทางพุทธศาสนาเข้ามา เกี่ยวข้องในการพระราชพิธีต่าง ๆ ข้าราชการสวมเสื้อเวลาเข้าเฝ้า 6.2 ทรงให้เสรีภาพประชาชน ในการนับถือ ศาสนาและประกอบอาชีพ 6.3 เริ่มจัดทำ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ชาว ต่างชาติยืนเข้าเฝ้าได้ และริเริ่มพระราชพิธี ฉัตรมงคล 6.4 ทรงเปลี่ยนแปลงพระราชพิธีการถือน้ำ พระพิพัฒน์สัตยา โดยร่วมกับขุนนาง ข้าราชการ และทรงปฏิญาณนความซื่อสัตย์ต่อ ข้าราชการทั้งปวงนับว่าพระองค์ทรงมีความ คิดที่ทันสมัยมาก 7.1 มีการก่อสร้างแบบตะวันตก เช่น พระราชวังสราญรมย์ พระนครคีรีที่ เพชรบุรี ด้านจิตรกรรม ได้แก่ ภาพเขียนฝาผนังในพระอุโบสถ และวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร จิตรกรเอก ในสมัยนี้ ได้แก่ ขรัวอินโข่ง ภาพจิตรกรรมฝาผนังขรัวอินโข่ง 5.ด้านศาสนา 6.ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี 6.1 ประกาศให้ข้าราชการสวมเสื้อเวลาเข้าเฝ้า พระราชพิธีฉัตรมงคล 7.ด้านศิลปกรรม วังสราญรมย์ ตอบ ด้านเศรษฐกิจ เปลี่ยนการใช้เงินพดด้วง เป็นเหรียญ ขุดคลอง ตัดถนนเพิ่ม ในรัชกาลที่ 4 มีจิตรกรเอกในสมัยนี้มีชื่อ ว่าอะไร
1.1 เกิดการปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่ พ.ศ.2435 มี จุดประสงค์คือ รวมอำ นาจเข้าสู่ ส่วนกลาง สร้าง เอกภาพให้สยาม 1.2 ยกเลิกจตุสดมภ์ โดยตั้งกระทรวงกรมแทน 1.3 ยกเลิกระบบหัวเมืองและประเทศราช ตั้งมณฑล เทศาภิบาล เป็นการปกครอง ส่วนภูมิภาค สุขาภิบาลท่าฉลอม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระกรณียกิจที่สำ คัญ ดังนี้ 1.การปฏิรูปด้านการเมือง การปกครอง มณฑลเทศาภิบาล 1.4 ตั้งสภา 2 สภา คือ สภาที่ปรึกษา ราชการแผ่นดิน และสภาที่ปรึกษาส่วน พระองค์ 1.5 ยกเลิกตำ แหน่งวังหน้า และสถาปนา สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์แรก คือ เจ้า ฟ้า มหาวชิรุณหิศ 1.6 มีการเสนอแนวคิดเรื่องประชาธิปไตย เช่น เทียนวรรณ ก.ศ.ร.กุหลาบ หนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ เสนอแนวคิดเรื่องประชาธิปไตย รัชกาลที่ 5 มีการ ยกเลิก จตุสดมภ์โดยการตั้งกระทรวงใด ตอบ ขรัวอินโข่ง
3.2 ทรงจ้างที่ปรึกษาชาวต่างประเทศมา ช่วยราชการ เช่นที่ปรึกษาด้านการ ต่างประเทศ การร่างกฎหมายงานวิศวกรรม 3.ด้านการต่างประเทศ 3.1 เสด็จเยือนยุโรป 2 ครั้งคือ พ.ศ.2440 และ 2450 เพื่อยกฐานะสยามในเวทีโลก 2.ค้านเศรษฐกิจ 2.1 ตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ เก็บรวบรวมภาษี ยกเลิกระบบในเมือง 4 หอรัษฎากรพิพัฒน์ 2.2 เริ่มมีการทำ งบแผ่นดินเป็นครั้งแรก 2.3 พิมพ์ธนบัตรและการจัดตั้งธนาคารของ ไทย (ธนาคารแห่งแรกของไทยคือแบงก์ สยามกัมมาจล) 2.4 มีการใช้ระบบมาตรฐานทองคำ แบงค์สยามกัมมาจล แบงค์สยามกัมมาจล เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ธนาคารแห่งแรกของไทย คือ ตอบ กระทรวงกรม
5.3 พ.ศ. 2424 ปรับปรุงโรงเรียนพระตำ หนักสวนกุหลาบให้เป็นโรงเรียน นายทหาร มหาดเล็ก ต่อมาได้กลายเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน สุขาภิบาลท่าฉลอม 5.4 พ.ศ. 2427 กำ หนดหลักสูตร นับเป็นปีแรกที่จัดให้มีการสอบไล่ วิชาสามัญ และมีการกำ หนดหลักสูตรชั้นประโยคสอง ซึ่ง เป็น หลักสูตรที่เกี่ยวกับวิชาสามัญศึกษา หมายถึง ความรู้ต่าง ๆ ที่ต้องการ ใช้สำ หรับเสมียนใน ราชการพลเรือนตามกระทรวงต่าง จัดตั้งโรงเรียน หลวงสำ หรับราษฎรขึ้นตามวัดใน กรุงเทพแห่งแรก คือ โรงเรียน มหรรณพาราม โรงเรียนมหรรณพาราม 5.5 พ.ศ. 2430 ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกรมศึกษาธิการ โดนโอนโรงเรียน ที่สังกัดกรม ทหารมหาดเล็กมาทั้งหมด ให้กรมหมื่นดำ รงราชานุภาพเป็น ผู้บัญชาการอีกตำ แหน่งหนึ่ง 5.6 พ.ศ. 2432 รวมกรม ศึกษาธิการเข้าไปอยู่ในบังคับบัญชา ของกรมธรรมการตั้งโรงเรียนแพทย์ ขึ้น เรียกว่า โรงเรียนแพทยากร ตั้งอยู่ ที่ริมแม่น้ำ หน้าโรงพยาบาลศิริราชใช้ เป็นที่สอนวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน โรงเรียนแพทยากร ตอบ แบงค์สยามกัมมาจล
4.ด้านสังคม 4.1 ยกเลิกไพร่และทาส เกิดแรงงานเสรี ทรงต้องการลดอำ นาจขุนนางเพราะท่าน คุมไพร่ ไม่ได้ และเห็นว่าไพร่ไม่ทันสมัย อีกทั้งแรงงานจีนเข้ามา ขั้นตอนแรก คือ การฟื้นฟูกรมทหารหน้า ขั้นตอนสุดท้าย คือ ออก พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร ร.ศ. 124 4.2 เลิกทาส ทาสรุ่นแรกที่เป็นอิสระ คือ ทาสที่เกิดในปีที่รัชกาลที่ 5 ขึ้นครอง ราชย์ ออก พ.ร.บ.พิกัดเกษียณอายุลูกทาสลูกไท จ.ศ.1236 ขั้นตอนสุดท้ายคือ การ ออก พ.ร.บ. ทาส ร.ศ.124 4.3 ปรับประเทศให้ทันสมัย มีสาธารณูปโภค ไปรษณีย์ ไฟฟ้า ประปา รถไฟ โทรเลข โรงพยาบาล รถไฟฟ้า โทรเลข 5.ด้านการศึกษา 5.1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เรียบเรียงแบบเรียนหลวงขึ้น 1 เล่ม เพื่อใช้เป็นบทหลักสูตรวิชา ได้มีการจัด ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เพื่อฝึกคนให้เข้ารับราชการ ได้จัด ตั้งโรงเรียนหลวงสำ หรับสอนภาษาอังกฤษ 5.2 พ.ศ. 2423 จัดตั้งโรงเรียน สุนันทาลัยในพระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนสตรี โรงเรียนข้าราชการพลเรือน ในรัชกาลที่ 5 มีการปรับเปลี่ยนประเทศ ให้ทันสมัยอย่างไรบ้าง
5.7 พ.ศ. 2435 ประกาศตั้งกระทรวงธรรมการ มีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) เป็น เสนาบดี มีหน้าที่ในการจัดการศึกษา การพยาบาล พิพิธภัณฑ์และศาสนา จัดตั้งโรงเรียนมูล ศึกษาขึ้นในวัดทั่วไปทั้งใน กรุงเทพมหานครและหัวเมือง โดยประสงค์จะขยายการศึกษา เล่าเรียนหนังสือ ไทยให้แพร่หลายเป็นแบบแผนยิ่งขึ้น และตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูเป็นแห่งแรก ที่ าบลโรงเลี้ยงเด็ก ต่อมาย้ายไปอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส 5.8 พ.ศ. 2459 จัดตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5.9 ปฏิรูปการศึกษาเพื่อผลิตคนรับราชการ ให้ทุนเล่าเรียนหลวง (คิงสกอลาชิปส์) ตั้ง โรงเรียน เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบ 6.ด้านวัฒนธรรม 6.1 การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมทรงผม ให้ชายไทยในราชสำ นัก เลิกไว้ผมทรงมหาดไทยเปลี่ยน เป็นไว้ผมตัดยาวทั้งศีรษะอย่างฝรั่ง ผู้หญิงโปรดให้เลิกไว้ ผมปีก ให้ไว้ผมยาว ทรงดอกกระทุ่ม 6.2 ให้ชายไทยในราชสานักนุ่งผ้าม่วงสีต่างๆสวมเสื้อ ราชปะแตน สวมหมวกอย่างยุโรป 6.3 ให้ข้าราชการทุกกรมกองแต่งเครื่องแบบ นุ่งกางเกง อย่างทหารในยุโรปแทนโจงกระเบน ทรงผมดอกกระทุ่ม 6.4 สตรีไทยนิยมสวมเสื้อของอังกฤษ คือ เสื้อคอตั้งแขนยาว ต้นแขนพองคล้าย ขาหมูแฮม เสื้อคอตั้งแขนยาว ต้นแขนพองคล้ายขาหมูแฮม ตอบ มีสารณูปโภค ไปรษณีย์ ไฟฟ้า ประปา รถไฟ โทรเลข โรงพยาบาล
6.5 การเปลี่ยนแปลงประเพณีการให้ยกเลิก ประเพณีการหมอบคลานในเวลาเข้าเฝ้า แต่ให้ใช้วิธีถวายคำ นับแทนและให้นั่งเก้าอี้ ไม่ต้องนั่งกับพื้น 6.6 ยกเลิกการไต่สวนแบบจารีตนครบาล 6.7 อนุญาตให้ชาวต่างประเทศนั่งร่วมโต๊ะเสวยได้ในช่วงวันเฉลิม พระชนมพรรษา 6.5 การเปลี่ยนแปลงประเพณีการให้ยกเลิก ประเพณีการหมอบคลานในเวลาเข้าเฝ้า แต่ให้ใช้วิธีถวายคำ นับแทนและให้นั่งเก้าอี้ ไม่ต้องนั่งกับพื้น 6.6 ยกเลิกการไต่สวนแบบจารีตนครบาล 6.7 อนุญาตให้ชาวต่างประเทศนั่งร่วมโต๊ะเสวยได้ในช่วงวันเฉลิม พระชนมพรรษา นุ่งกางเกงอย่างทหาร ในยุโรปแทนโจงกระเบน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
https://sites.google.com/a/srisawat.ac.th/prawatisa str-thiy/home/smay-ratnkosinthr-txn-tn พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำ คัญของรัชกาลที่ 5. 1. 2. ค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน , 2565 2. ประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่สำ คัญของรัชกาลที่ 1- 9 แหล่งที่มา : https://sites.google.com/site/konozuba1123/ . ค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน , 2565 3.สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น - ประวัติศาสตร์ไทย แหล่งที่มา : https://sites.google.com/a/srisawat.ac.th/prawatisastrthiy/home/smay-ratnkosinthr-txn-tn . ค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน , 2565 บรรณานุกรม
นายสิทธิพล นัยเกตุ เลขที่ 4 ชั้น ม.6/7 “หูกระจงควรปลูก ให้ห่างจากตัวบ้าน” นางสาวญาตาวี ดอกเบญจมาศ เลขที่ 13 ชั้น ม.6/7 “ไม่ต้องทำ วันนี้ให้ดีที่สุด เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรทำ ” นางสาวนภัสนัน ดีเสมอ เลขที่ 18 ชั้น ม.6/7 “ไม่ต้องกรีดตาให้คม เพราะเขามองนม ไม่ได้มองตา” นางสาวดวงอนงค์ เดชอาจ เลขที่ 17 ชั้น ม.6/7 นางสาวนวินวิดา ศรีเรีผือก เลขที่ 19 ชั้น ม.6/7 “นกที่บินไม่ได้ ไม่ใช่นกที่ไม่พยายาม แต่เป็นนกเพนกวิน” “พี่วาดปกเองแหละอืม วาดผช.ไม่หล่อ ไม่มีแรงทำ งานจ้า” นางสาวสาวิตวิรี เกียรติมนตรี เลขที่ 21 ชั้น ม.6/7 “ชีวิตคนมันสั้นสั้ แต่คันช่วยเกาหลังให้หน่อย”