ขั้นท่ี 3 ขั้นสรุป
ให้นักเรียนร่วมกนั สรปุ เร่ือง ประวตั สิ ังคีตกวี โดยครคู อยให้ความรเู้ พิ่มเติมในส่วนท่นี ักเรียนไมเ่ ข้าใจหรอื สรปุ
ไมถ่ ูกตอ้ ง
ขน้ั ที่ 4 ฝึกฝนนกั เรยี น
1. ให้นกั เรียนปฏิบตั ใิ บกิจกรรมต่อไปนี้
– ใบกิจกรรมที่ 18 คตี กวีของไทย โดยบอกชอื่ คตี กวีและผลงานทีโ่ ดดเดน่ ของภมู ิ
ปัญญาดนตรีไทย
– ใบกจิ กรรมที่ 20 คตี กวีของโลก โดยบอกช่อื คีตกวแี ละผลงานท่ีโดดเด่นของภมู ิ
ปญั ญาดนตรสี ากล
– ใบกิจกรรมที่ 21 ศลิ ปินไทยที่ชนื่ ชอบ โดยศกึ ษาคน้ ควา้ ศิลปนิ ไทยท่ีชน่ื ชอบ
พรอ้ มท้งั บอกชอื่ และความสามารถทโ่ี ดดเด่น และเหตุผลท่ีชน่ื ชอบ
– ใบกจิ กรรมท่ี 21 ศลิ ปินต่างประเทศท่ชี ่นื ชอบ โดยศึกษาค้นคว้าศิลปนิ
ตา่ งประเทศท่ชี น่ื ชอบ พร้อมทง้ั บอกช่ือและความสามารถทโี่ ดดเดน่ และเหตผุ ลที่ชน่ื ชอบ
2. ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ิ กจิ กรรมบรู ณาการอาเซยี นโดยใหน้ ักเรยี นฟงั เพลงเขมรไทรโยคสามชน้ั แล้ววาดภาพภมู ิ
ประเทศตามความคดิ จินตนาการ พร้อมกบั วาดแผนท่ีจังหวัดกาญจนบรุ ีวา่ มีอาณาเขตติดกบั ประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศใด แล้วนำผลงานไปจัดแสดงใหผ้ ู้ที่สนใจชม
3. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน
4. ให้นกั เรียนทำโครงงานตามความสนใจ (ใบกิจกรรมท่ี 19 โครงงานรวบรวมช่อื บทเพลงพระราชนิพนธ์ หรือ
ตัวอย่างโครงงานในหนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกัด)
10. การวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมนิ /ให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
2. ตรวจใหค้ ะแนนผลงาน
เครื่องมือ
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
2. แบบบันทกึ ผลการนำเสนองาน
3. แบบตรวจใหค้ ะแนนผลงาน
เกณฑ์การประเมิน
1. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60
3. สงั เกตการนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
4. การตรวจผลงาน ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60
11. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ ห้องดนตรี อนิ เทอร์เนต็
2. DVD รปู แบบบทเพลงและวงดนตรใี นยุคต่างๆ
3. วงดนตรไี ทยและวงดนตรีสากล
4. ใบกจิ กรรม
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 3
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ยุคสมัยของดนตรี เร่ือง รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยดุ สมัย
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ รายวิชา ศลิ ปะ 1 ดนตรี - นาฏศลิ ป์ 1 รหัสวิชา ศ31101
เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
1. สาระสำคญั
รูปแบบบทเพลงและวงดนตรใี นแต่ละยุคสมัย ท้ังดนตรีไทยและดนตรีสากลล้วนแต่เป็นวิวฒั นาการของดนตรี
ทสี่ ่งผลมาถงึ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีทีเ่ ราได้ยิน ได้ฟัง และได้เห็นกันในปจั จุบันท้ังสิ้น การศกึ ษารปู แบบ
บทเพลงและวงดนตรีต่าง ๆ ในแต่ละยุคสมยั ท้ังดนตรไี ทยและดนตรีสากล สามารถทำใหเ้ ราเขา้ ใจวิวัฒนาการ
ของดนตรีท่ีเปลย่ี นแปลงไปในแตล่ ะกาลเวลา รวมท้ังภมู ิปญั ญาของบรรพบุรุษของเราได้เป็นอย่างดี
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งช้ัน
วเิ คราะหร์ ปู แบบของดนตรีไทยและดนตรสี ากลในยุคสมยั ต่าง ๆ (ศ 2.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. วเิ คราะหร์ ปู แบบบทเพลงและวงดนตรไี ทยในแตล่ ะยุคสมัยได้ (K)
2. วิเคราะหร์ ูปแบบบทเพลงและวงดนตรสี ากลในแตล่ ะยคุ สมัยได้ (K)
3. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดนตรีดว้ ยความสนกุ สนานและมัน่ ใจ (A)
4. อภิปรายเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัยได้ (P)
4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และค่านยิ ม (A) 1. สังเกตจากพฤติกรรมขณะ
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมรายบุคคล
1. สังเกตจากการถามและการ 1. สังเกตจากความสนใจ และปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม
แสดงความคิดเหน็ และความกระตือรือรน้ ใน 2. สงั เกตจากการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมได้อย่างคลอ่ งแคล่ว
2. จากการตรวจการวดั และ การปฏิบัตกิ จิ กรรม
3. สังเกตจากความตัง้ ใจและ
ประ 2. สังเกตจากความรับผดิ ชอบ ปฏิบัตติ ามขน้ั ตอน
เมนิ ผลการเรยี นรปู้ ระจำ และความมีระเบยี บขณะ
หน่วย ปฏิบตั ิกจิ กรรม
3. จากการตรวจแบบทดสอบ 3. สงั เกตจากการยอมรบั ความ
ก่อนเรยี น คดิ เห็นของผู้อื่นขณะปฏิบัติ
4. จากการตรวจใบกิจกรรม กจิ กรรม
5. สาระการเรยี นรู้
❖ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมยั
o รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยในแตล่ ะยคุ สมัย
o รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมยั
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การอภิปราย การวเิ คราะห์ การแสดงความคดิ เหน็ และการนำเสนอ
การปฏบิ ัติกจิ กรรม
สงั คมศึกษาฯ การปฏิบัติกิจกรรมเป็นกล่มุ การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์ และการศกึ ษาคน้ ควา้ ประวัติของ
ดนตรไี ทยและดนตรีสากลในแตล่ ะยุคสมยั
ภาษาต่างประเทศ ชอื่ บทเพลงและชื่อวงดนตรสี ากล
การงานอาชพี ฯ การสืบคน้ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ น็ต
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 6 รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมยั
ขนั้ ท่ี 1 ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเพ่อื ประเมินความรู้
2. ครูถามคำถามนักเรียนให้ชว่ ยกันตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อประเมินความรู้กอ่ นเรียนโดยถาม
ว่า “นักเรียนคิดว่าเพลงไทยสมัยสุโขทัยมีกี่ประเภท อะไรบ้าง” จากน้ันครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: มี
3 ประเภท คือ เพลงสำหรับขบั กล่อม เพลงสำหรับพิธีการ และเพลงประกอบการแสดง)
3. ครูทบทวนถึงประวัติทางดนตรีไทยและดนตรีสากลท่ีเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นพอสังเขป โดยให้
นักเรยี นรว่ มทบทวนไปพร้อมกบั ครู
ข้ันท่ี 2 ข้นั สอน
1. ให้ครูตรวจงานท่ีมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าประวัติของยุคสมัยดนตรีไทยมาคนละ 1 ยุคสมัย
จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ เช่น www.sadetmusic.com/music/music.html จากแบบบันทึกข้อมูลการ
หมอบหมายงาน โดยพิจารณาว่านักเรียนอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียนได้ถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับซักถาม
นักเรยี นว่าใครมีส่ิงใดสงสยั บา้ ง
2. ครูอธิบายเนื้อหาเร่ือง รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัย โดยอธิบายให้นักเรียนทราบถึง
ลักษณะรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัยโดยภาพรวม พร้อมท้ังยกตัวอย่าง จากหนงั สือ
เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด แล้วเปิดโอกาสให้
นักเรียนซกั ถาม
3. ครูให้นักเรียนรว่ มกันศึกษาค้นคว้ารูปแบบบทเพลงและวงดนตรไี ทยในแต่ละยุคสมัย ตามหัวข้อตอ่ ไปนี้
• สมัยสุโขทยั
• สมัยอยธุ ยา
• สมัยธนบุรี
• สมยั รตั นโกสินทร์
4. ครใู ห้ตัวแทนออกมาอภปิ รายหน้าชนั้ เรียน และรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครคู อยใหค้ ำแนะนำ
5. ครูถามคำถามเก่ียวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า เคร่ืองดนตรีท่ีใช้บรรเลงประกอบเพลงภาษาของ
ประเทศสมาชิกอาเซียนมีอะไรบ้าง ให้ยกตัวอย่าง (แนวคำตอบ: ญวนหรือเวียดนาม เคร่ืองดนตรี เช่น
ฉาบใหญ่ เมียนมา เครอ่ื งดนตรี เชน่ กลองยาว)
6. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า “โขน” การแสดงท่ีได้รับความนิยมในประเทศ
ไทย ซ่ึงในประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมาก็มีการแสดงโขนด้วยเช่นกัน แต่จะมีความแตกต่าง
กันออกไปในเรื่องของการกรีดกรายและความอ่อนช้อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางการแสดงโขน ของแต่ละ
ประเทศ
ชัว่ โมงท่ี 7 รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแตล่ ะยคุ สมัย (ต่อ)
1. ครถู ามคำถามนักเรียนให้ชว่ ยกันตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง เพ่ือประเมินความรกู้ ่อนเรยี นโดยถาม
วา่ “นักเรยี นคดิ วา่ ดนตรสี ากลในยคุ ปัจจุบันเป็นอย่างไร” จากน้ันครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: ดนตรีใน
ยคุ สมัยปัจจุบันเกิดขึ้นมากมาย มีความเป็นตัวของตัวเองและมีอิสระมากข้ึน เป็นยุคแห่งการทดลองเพ่ือ
ค้นหาความแปลกใหม่ทางด้านดนตรี)
2. ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัย โดยอธิบายให้นักเรียนทราบถึง
ลักษณะรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมัยโดยภาพรวม พร้อมท้ังยกตัวอย่าง จาก
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด แล้วเปิด
โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถาม
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันศกึ ษาค้นคว้ารูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมัย ตามหัวข้อต่อไปน้ี
- ยคุ กลาง
- ยคุ ฟ้นื ฟศู ิลปวทิ ยา
- ยคุ บาโบก
- ยคุ คลาสสิก
- ยคุ โรแมนตกิ
- ยคุ ปัจจบุ ัน
4. ครใู หต้ วั แทนออกมาอภิปรายหนา้ ชั้นเรียน และรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครคู อยให้คำแนะนำ
5. ครูถามคำถามเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า นักเรียนรจู้ ักคณะนักร้องประสานเสียงคณะใดบ้างของ
ประเทศไทยที่เคยทำการแสดงร่วมกับคณะขับร้องประสานเสียงของประเทศ สมาชิกอาเซียน (แนว
คำตอบ: คณะนักร้องประสานเสยี งสวนพลู คณะนกั รอ้ งประสานเสียงจุฬดาร์)
6. ครใู ห้ความรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า โดยส่วนมากการแสดงดนตรีคลาสสิกที่ประเทศ
เวียดนามมักจัดแสดงท่ี “โรงละครฮานอย” (Hanoi Opera House) ซ่ึงสร้างข้ึนเมื่อ ค.ศ. 1911 มีการ
ตกแต่งตัวโรงละครให้มีความงดงามตามสไตล์ฝรั่งเศส และภายในมีท่นี ่ังกว่า 900 ท่ีนั่ง ปัจจุบันโรงละคร
ยงั ใชเ้ ป็นสถานทที่ ำการแสดงดนตรีคลาสสิกอยเู่ สมอ
ขนั้ ท่ี 3 ข้ันสรปุ
1. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเร่ือง รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัย โดยครูคอยให้ความรู้
เพม่ิ เติมในสว่ นทีน่ ักเรยี นไมเ่ ข้าใจหรอื สรุปไมถ่ ูกตอ้ ง
2. ครูอธิบายให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญของเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัยที่มีความสำคัญต่อสังคม
ขนบธรรมเนยี มประเพณซี ง่ึ เปน็ วฒั นธรรมไทยทีด่ ีงาม
3. ครมู อบหมายงานให้นักเรียนเลือกคีตกวีของไทยหรอื คีตกวีของโลกท่ีนักเรยี นชื่นชอบมา 1 คน พร้อมทั้ง
ประวัติโดยย่อและผลงานที่นักเรียนช่ืนชอบ โดยนักเรียนสามารถค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง
ๆ เช่น ห้องสมุด หรือจากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 แล้วบันทึกข้อมูลลงใน
แบบบันทึกขอ้ มูลการมอบหมายงาน จากนั้นนำความรู้ทีไ่ ด้มาอภิปรายรว่ มกันในช้ันเรยี น
ขั้นท่ี 4 ฝึกฝนนักเรียน
1. ให้นักเรยี นปฏิบัตใิ บกิจกรรมตอ่ ไปนี้
- ใบกิจกรรมที่ 12 รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัย โดยระบุรูปแบบบทเพลงและวง
ดนตรีไทยในแตล่ ะยคุ สมัย
- ใบกิจกรรมที่ 13 อธิบายลักษณะของบทเพลงไทย โดยอธบิ ายลักษณะของบทเพลงไทย
- ใบกิจกรรมที่ 14 เปรียบเทียบรูปแบบวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัย โดยเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนหรือ
แตกต่างกันระหว่างวงดนตรีไทย 2 วง
- ใบกิจกรรมที่ 15 รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมัย โดยระบุ รูปแบบบทเพลงและวง
ดนตรีสากลในแต่ละยคุ สมยั ได้
- ใบกจิ กรรมท่ี 16 อธบิ ายลกั ษณะของบทเพลงสากล โดยสืบคน้ และบอกความหมายของบทเพลงสากล
- ใบกิจกรรมที่ 17 เปรียบเทียบรูปแบบวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมัย โดยเปรียบเทียบสิ่งท่ีเหมือนหรือ
แตกตา่ งกันระหว่างวงดนตรสี ากล 2 วง
2. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยช่วยกันศึกษาค้นคว้าเนื้อเพลงไทยท่ีมีสำเนียงของ
ประเทศสมาชกิ อาเซียน แลว้ นำมาจดั ป้ายนเิ ทศ เพือ่ เผยแพร่ใหก้ บั ผ้ทู ่สี นใจ
3. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยช่วยกันศึกษาค้นคว้านักดนตรีหรอื นักร้องของประเทศ
ไทยที่มีช่ือเสียงหรือเคยทำการแสดงในประเทศสมาชิกอาเซยี น ว่าได้ไปทำการแสดงในงานใด และได้รับ
กระแสตอบรับจากประเทศน้ัน ๆ อย่างไรบ้าง จากนั้นนำมาจัดป้ายนิเทศเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้ที่
สนใจ
ข้ันท่ี 5 การนำไปใช้
นักเรียนสามารถนำความรู้เรื่อง รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีในแต่ละยุคสมัย ไปใช้ในการวิเคราะห์
รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยและรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละยุคสมัย และนำข้อมูล
ไปเล่าหรือนำเสนอให้ผู้ที่สนใจได้อย่างถูกต้อง เพ่ือให้เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาด้านดนตรีไทย ตามหลัก
แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสำหรับกลุม่ สนใจพเิ ศษ
ศึกษาค้นควา้ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยและสากลในแต่ละยคุ สมัยอยา่ งละเอียด แล้วทำเป็นปา้ ยนิเทศ
เสนอผลงานให้ผู้ทสี่ นใจไดศ้ กึ ษา และนำไปเป็นความรเู้ สรมิ
2. กิจกรรมสำหรบั ฝึกทักษะเพิม่ เตมิ
นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ร่วมกนั ศึกษาค้นควา้ รปู แบบบทเพลงไทยและรูปแบบบทเพลงสากล และ
วงดนตรไี ทยและวงดนตรีสากล แล้วรว่ มกนั วิเคราะห์ลักษณะความเหมือนกันหรือความแตกตา่ งกันของดนตรี
ไทยและดนตรีสากล สรุปแล้วนำมาอภิปรายหน้าช้ันเรียน
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หอ้ งสมุด ห้องดนตรี อินเทอรเ์ น็ต
2. บทเพลงประเภทต่าง ๆ
3. ใบกิจกรรม
4. หนังสือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
การประเมินผลดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม
สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรมเขียนเครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างทีต่ รงกับความเป็นจริง
รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
321
1. ความใฝร่ ใู้ นการ 1. กลา้ แสดงออกทางดนตรีด้วยความม่ันใจ
เรียนดนตรี 2. ถา่ ยทอดกิจกรรมดนตรดี ว้ ยความคดิ และจินตนาการ
3. ตรวจสอบและปรบั ปรุงแก้ไขกิจกรรมดนตรีได้ถูกต้อง
และพัฒนาข้ึน
2. ความรับผิดชอบ 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามที่ได้รบั มอบหมาย
ขยนั และอดทน 2. ปฏบิ ัติกิจกรรมสำเรจ็ ตามกำหนด
3. ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของคนอื่น
3. ความซ่ือสัตย์ 1. ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยตนเอง
2. แสดงความคิดเห็นตามความเปน็ จริง
3. นำเสนอข้อมลู ตามจริง
4. ไมท่ อ้ ถอยต่อการทำงาน
4. ความมรี ะเบยี บ 1. ปฏิบตั ิกจิ กรรมอย่างเปน็ ระบบและสะอาดเรียบร้อย
วินัย 2. ตรงต่อเวลาและปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามขั้นตอน
5. การมเี จตคติที่ดี 1. ปฏิบตั กิ จิ กรรมอย่างมีความสุข
ต่อการปฏบิ ัติ 2. มีความสนใจและกระตือรือร้นต่อการปฏบิ ัติกิจกรรม
กิจกรรมดนตรี
คะแนนทีไ่ ด้
คะแนนรวม
ระดับคณุ ภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลีย่ 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรับปรงุ
ระดบั คุณภาพ
สรปุ ระดบั คณุ ภาพดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม (เขยี นเครอ่ื งหมาย ลงในช่อง)
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉลีย่ หาไดจ้ ากการนำคะแนนที่ได้ในแตล่ ะชอ่ งมารวมกันแลว้ หารด้วยจำนวนขอ้
จากนน้ั นำระดับคณุ ภาพเฉลี่ยมาเทียบกับเกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพและสรุปผลการประเมิน
การประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ
สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม แลว้ เขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจริง
รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
ประเมนิ ผล 321
1. ทักษะ 1. อ่าน เขียน โนต้ ดนตรีไทยในอัตราจังหวะ 2 ชั้น และ 3 ชนั้
กระบวนการใน 2.ขับร้องเพลงไทยในอตั ราจงั หวะ 2 ช้ัน และ 3 ชั้นได้
การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 3. อ่านเคร่อื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรสี ากลได้
ทางดนตรี 4. ร้องเพลงเดย่ี วได้
5. บรรเลงเคร่อื งดนตรเี ดีย่ วได้
6. ขับรอ้ งและบรรเลงดนตรรี วมวงได้
2. ทกั ษะ 1. ใชเ้ ทคนิคและถ่ายทอดอารมณเ์ พลงด้วยความคิด
กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์
2. ใชเ้ ทคนคิ ในการบรรเลงดนตรรี วมวงด้วยความคดิ
สร้างสรรค์
3. กระบวนการ 1. วางแผนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมร่วมกบั สมาชิกในกลุ่ม
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็น 2. ใหค้ วามรว่ มมือกับสมาชกิ ในกลุ่ม
กลมุ่ 3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย
4. ชว่ ยเหลือสมาชิกในกลุ่มเพ่ือใหง้ านสำเรจ็
5. แสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม
คะแนนทไ่ี ด้
คะแนนรวม
ระดบั คุณภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลี่ย 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรงุ
ระดบั คุณภาพ
สรุประดับคุณภาพดา้ นทักษะ/กระบวนการ (เขียนเคร่ืองหมาย ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉล่ียหาได้จากการนำคะแนนที่ได้ในแต่ละช่องมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดบั คุณภาพเฉล่ยี มาเทียบกับเกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล
ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่…….หอ้ ง........
คำชแี้ จง ผูส้ อนสังเกตการทำงานของผูเ้ รยี น โดยทำเครอื่ งหมายถูกลงในชอ่ งทตี่ รงกับความเปน็ จริง
พฤตกิ รรม ความสนใจ การมสี ว่ น การรบั ฟัง การตอบ ความรบั ผิด รวม
ในการเรยี น รว่ มแสดง ความคดิ คำถาม ชอบต่องาน คะแน
ชอ่ื -สกุล ความคดิ เหน็ ของผู้ ทไ่ี ดร้ ับมอบ
1 210 เหน็ ในการ 210 น
2 อภิปราย อน่ื หมาย
3 210 10
4 210 210
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ใหค้ ะแนน 0-4 ถา้ การทำงานน้ันอยใู่ นระดบั ต้องปรับปรงุ
ใหค้ ะแนน 5-7 ถา้ การทำงานน้นั อยใู่ นระดบั พอใช้
ให้คะแนน 8-10 ถา้ การทำงานนน้ั อยู่ในระดบั ดี
ลงชื่อ……………………………………………………
(…………………………………………………..)
ผปู้ ระเมนิ
บันทกึ หลงั การสอน
๑. ปญั หา / อุปสรรค
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
๒. ข้อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงแก้ไข
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.............................................ผสู้ อน
( นายนนทพทั ธ์ บุญพฒั น์ )
วันที่........เดอื น....................พ.ศ. ...........
ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่ม
....................................................................................................................................................... ..................................
...............................................................................................................
ลงชอื่ .............................................ผู้นเิ ทศก์
( นางสาวนสุ บา เตชะวัฒนารงุ่ เรือง )
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ
วนั ท.ี่ .......เดือน....................พ.ศ. ...........
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
............................................................................................................................................ .............................................
................................................................................................. .............
ลงชื่อ.............................................ผนู้ ิเทศก์
( นางสาววิชชุนี อตุ รชน )
หวั หน้ากล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ
วันที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ...........
ขอ้ เสนอแนะรองผู้อำนวยการโรงเรยี นพันทา้ ยนรสิงห์วทิ ยา
...................................................................................................................... ............................................... ....................
................................................................................................. .............
ลงชอ่ื ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นายจรนิ ทร์ ฤทธเิ ดช )
รองผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา
วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ...........
ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร
.................................................................................................................................................. .......................................
................................................................................................. .............
ลงช่ือ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นางกรองแก้ว พลู เพิ่มพนั ธ์ )
ผู้อำนวยการโรงเรยี นพนั ทา้ ยนรสิงหว์ ิทยา
วันท่.ี .......เดอื น....................พ.ศ...........
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 4
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ยุคสมยั ของดนตรี เรื่อง ประวัตสิ ังคตี
รหสั วิชา ศ31101
กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ รายวชิ า ศิลปะ 1 ดนตรี - นาฏศลิ ป์ 1 ปีการศึกษา 2564
เวลาเรียน 3 ชั่วโมง ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1
1. สาระสำคัญ
คีตกวีไทยและคีตกวีโลกเป็นบุคคลท่ีมีความสำคัญต่อวงการดนตรีเป็นอย่างมาก ในการศึกษาประวัติและ
ผลงาน รวมไปถึงสถานะทางสังคมของคีตกวีของไทยและคีตกวขี องโลกถือเป็นการตระหนักถึงความสำคัญต่อ
ภูมิปญั ญาทางดนตรอี กี วิธีหนึ่ง
2. ตวั ชวี้ ัดช่วงชนั้
วเิ คราะหส์ ถานะทางสงั คมของนกั ดนตรใี นวฒั นธรรมตา่ ง ๆ (ศ 2.2 ม. 4–6/2)
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. วิเคราะห์สถานะทางสังคมของคตี กวขี องไทยและคตี กวีของโลกได้ (K)
2. วิเคราะหส์ ถานะทางสงั คมของศิลปนิ นักร้องที่สนใจได้ (K)
3. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดนตรีดว้ ยความสนุกสนานและมคี วามมัน่ ใจ (A)
4. ตระหนักถงึ ความสำคัญต่อภมู ปิ ญั ญาทางดนตรี (A)
5. อภิปรายประวัติ ผลงาน และสถานะทางสังคมของคีตกวีของไทย คีตกวีของโลก และศิลปินนักร้องที่สนใจได้
(P)
4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นิยม (A)
1. สงั เกตจากการถามและ 1. สังเกตจากความสนใจและ 1. สงั เกตจากพฤติกรรมขณะ
การ ความกระตือรือร้นในการ ปฏิบัติกิจกรรมรายบุคคล
แสดงความคดิ เหน็ ปฏิบตั กิ จิ กรรม และปฏิบัตกิ จิ กรรมกลมุ่
2. จากการตรวจการวัดและ 2. สังเกตจากความรับผิดชอบ 2. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิ
ประเมินผลการเรียนรู้ และความมีระเบยี บขณะ กิจกรรมได้อยา่ งคล่องแคล่ว
ประจำ ปฏบิ ัติกิจกรรม 3. สงั เกตจากความตง้ั ใจและ
หน่วย 3. สงั เกตจากการยอมรับความ ปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอน
3. จากการตรวจแบบทดสอบ คิดเหน็ ของผู้อ่นื ขณะปฏิบัติ 4. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ
หลังเรียน กจิ กรรม การประเมนิ ผลด้านทักษะ/
4. จากการตรวจใบกจิ กรรม 4. ประเมนิ พฤตกิ รรมตามแบบ กระบวนการ
การประเมนิ ผลดา้ น 5. ประเมินพฤติกรรมจากการ
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ อภปิ รายนำเสนอขอ้ มลู ดา้ น
คา่ นิยม ประวตั ิ ผลงาน และสถานะ
ทางสงั คมของศิลปินนักร้อง
ท่ี
ช่นื ชอบ
5. สาระการเรียนรู้
❖ ประวตั ิสังคีตกวี
o คีตกวขี องไทย
o คีตกวีของโลก
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย การอ่าน การเขียน การอภปิ ราย การวิเคราะห์ การแสดงความคดิ เหน็ และ
การนำเสนอการปฏิบัตกิ จิ กรรม
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่ การสรา้ งมนุษยสัมพันธ์ และการศึกษาคน้ คว้า
ประวัตขิ องคีตกวีของไทยและคีตกวขี องโลก
ภาษาตา่ งประเทศ ช่อื คตี กวีของโลก
การงานอาชพี ฯ การสืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ต
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ชวั่ โมงท่ี 8 ประวตั ิสงั คตี
ขัน้ ท่ี 1 ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยให้
นักเรียนดูภาพแล้วถามว่า “นักเรียนคิดว่าคีตกวีท่านน้ีมีช่ือว่าอะไร” จากนั้นครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ:
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานริศรานวุ ดั ตวิ งศ์)
2. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่ารู้จักคีตกวีของไทยและคีตกวีของโลกคนใดบ้าง และมีความสำคัญต่อวงการ
ดนตรีอยา่ งไร ให้นักเรยี นแตล่ ะคนยกตัวอย่าง
ขน้ั ที่ 2 ข้ันสอน
1. ให้ครูตรวจงานท่ีมอบหมายให้นักเรียนเลือกคีตกวีของไทยหรือคีตกวีของโลกท่ีนักเรียนช่ืนชอบมา 1 คน
พรอ้ มท้ังประวัติโดยย่อและผลงานที่นักเรียนชื่นชอบ โดยนักเรียนสามารถค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้
ต่าง ๆ เชน่ ห้องสมดุ หรือจากหนังสือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศลิ ป์ ม. 4 จากแบบบนั ทึกขอ้ มูลการ
หมอบหมายงาน โดยพิจารณาว่านักเรียนอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียนได้ถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับซักถาม
นักเรียนวา่ ใครมสี ่งิ ใดสงสยั บ้าง
2. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่อง ประวัติสังคีตกวี โดยยกตัวอย่างคีตกวีของไทย 1–2 ท่าน อธิบายเกี่ยวกับประวัติ
ผลงาน ความสามารถ และสถานะทางสงั คมของคตี กวีเหล่านี้ใหเ้ ป็นแนวทางในการศกึ ษาคีตกวที า่ นอื่น
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าประวัติ ผลงาน และสถานะทางสังคมของคีตกวีอย่างละเอียด ตามหัวข้อ
ตอ่ ไปนี้
- พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย
- พระบาทสมเด็จพระปนิ่ เกล้าเจ้าอยูห่ ัว
- พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยูห่ ัว
- สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจ้าฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์
4. ครูสมุ่ ใหน้ กั เรียนแต่ละคนมาอภิปรายหนา้ ช้ันเรยี น และรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครคู อยให้คำแนะนำ
5. ครถู ามคำถามเกีย่ วกับประเทศสมาชิกอาเซยี นว่า เพลง “เขมรลออองค์เถา” เป็นเพลงไทยท่มี ีสำเนียงใดของ
ประเทศสมาชกิ อาเซียน (แนวคำตอบ: สำเนียงเขมร ซึ่งปัจจุบันคือประเทศกมั พูชา)
ชว่ั โมงท่ี 9 ประวตั สิ ังคีตกวี (ต่อ)
1. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยให้
นักเรียนดูภาพแล้วถามว่า “นักเรียนคิดว่าคีตกวีท่านน้ีมีชื่อว่าอะไร” จากนั้นครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ:
หลวงประดษิ ฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
2. ครูยกตัวอย่างคีตกวีของไทย 1–2 ท่าน และอธิบายเก่ียวกับประวัติ ผลงาน ความสามารถ และสถานะทาง
สังคมของคตี กวเี หลา่ นี้ใหเ้ ป็นแนวทางในการศกึ ษาคตี กวที ่านอนื่
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าประวัติ ผลงาน และสถานะทางสังคมของคีตกวีอย่างละเอียด ตามหัวข้อ
ตอ่ ไปนี้
- สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสขุ มุ พันธ์ุ กรมพระนครสวรรค์วรพนิ ิต
- พระประดิษฐไพเราะ (มี ดรุ ยิ างกรู )
- พระยาประสานดรุ ิยศพั ท์ (แปลก ประสานศพั ท)์
- หลวงประดษิ ฐไพเราะ (ศร ศลิ ปบรรเลง)
- นายมนตรี ตราโมท (บุญธรรม ตราโมท)
4. ครูส่มุ ให้นักเรียนแต่ละคนมาอภปิ รายหนา้ ช้นั เรยี น และรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูคอยใหค้ ำแนะนำ
5. ให้นักเรียนแต่ละคนเลือกศิลปินนักร้องของไทยที่สนใจ 1 ท่าน โดยศึกษาเกี่ยวกับประวัติ ผลงาน และสถานะ
ทางสังคม พร้อมทั้งนำรูปภาพของศิลปินนักร้องมาแสดง (ครูสั่งให้นักเรียนเตรียมมาล่วงหน้า) แล้วออกมา
อภิปรายงานหน้าชน้ั เรียน
ชั่วโมงที่ 10 ประวตั ิสงั คีตกวี (ต่อ)
1. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง เพ่ือประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยให้
นกั เรียนดูภาพแล้วถามวา่ “นกั เรียนคดิ ว่าคตี กวที ่านน้ีมชี อื่ ว่าอะไร” จากนัน้ ครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: โย
ฮนั น์ เซบาสเตยี น บาค)
2. ครูยกตัวอย่างคีตกวีของของโลก 1–2 ท่าน อธิบายเก่ียวกับประวัติ ผลงาน ความสามารถ และสถานะทาง
สังคมของคีตกวเี หลา่ น้ใี หเ้ ปน็ แนวทางในการศึกษาคีตกวที า่ นอื่น
3. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าประวัติ ผลงาน และสถานะทางสังคมของคีตกวีอย่างละเอียด ตามหัวข้อ
ตอ่ ไปน้ี
- โยฮนั น์ เซบาสเตยี น บาค
- ฟรานซ์ โยเซฟ ไฮเดนิ
- โวลฟ์ กงั อมาเดอุส โมสาร์ท
- ลุควกิ ฟาน เบโธเฟน
4. ครูสุ่มใหน้ กั เรียนแต่ละคนมาอภปิ รายหนา้ ช้ันเรยี น และร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูคอยใหค้ ำแนะนำ
5. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนเลือกศิลปินนักรอ้ งของโลกท่ีสนใจ 1 ท่าน โดยศกึ ษาเกี่ยวกับประวัติ ผลงาน และสถานะ
ทางสังคม พร้อมทั้งนำรูปภาพของศิลปินนักร้องมาแสดง (ครูสั่งให้นักเรียนเตรียมมาล่วงหน้า) แล้วออกมา
อภปิ รายงานหน้าชน้ั เรียน
ข้ันท่ี 3 ขัน้ สรุป
ให้นกั เรียนร่วมกันสรุปเรื่อง ประวัติสงั คตี กวี โดยครูคอยให้ความรูเ้ พิ่มเติมในส่วนท่ีนักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุป
ไมถ่ ูกต้อง
ขนั้ ท่ี 4 ฝกึ ฝนนกั เรยี น
1. ให้นักเรยี นปฏบิ ตั ใิ บกจิ กรรมตอ่ ไปน้ี
- ใบกิจกรรมที่ 18 คีตกวีของไทย โดยบอกช่ือคีตกวแี ละผลงานทโี่ ดดเด่นของภูมิปญั ญาดนตรีไทย
- ใบกจิ กรรมท่ี 20 คตี กวขี องโลก โดยบอกช่ือคีตกวีและผลงานทโ่ี ดดเดน่ ของภมู ิปญั ญาดนตรสี ากล
- ใบกิจกรรมที่ 21 ศิลปินไทยที่ชื่นชอบ โดยศึกษาค้นคว้าศิลปินไทยที่ช่ืนชอบ พร้อมท้ังบอกช่ือและ
ความสามารถที่โดดเดน่ และเหตุผลทชี่ นื่ ชอบ
- ใบกิจกรรมท่ี 21 ศิลปินต่างประเทศที่ชื่นชอบ โดยศึกษาค้นคว้าศิลปินต่างประเทศที่ชื่นชอบ พร้อมทั้ง
บอกชอ่ื และความสามารถท่โี ดดเดน่ และเหตผุ ลทีช่ น่ื ชอบ
2. ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมบูรณาการอาเซียนโดยให้นักเรียนฟังเพลงเขมรไทรโยคสามชั้น แล้ววาดภาพภูมิ
ประเทศตามความคิดจินตนาการ พร้อมกับวาดแผนท่ีจังหวัดกาญจนบุรวี ่ามีอาณาเขตติดกับประเทศสมาชิก
อาเซียนประเทศใด แล้วนำผลงานไปจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจชม
3. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน
4. ให้นักเรียนทำโครงงานตามความสนใจ (ใบกิจกรรมที่ 19 โครงงานรวบรวมชื่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ หรือ
ตัวอย่างโครงงานในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช
จำกัด)
ขน้ั ที่ 5 การนำไปใช้
นักเรียนสามารถนำความรู้เรื่อง ประวัติสังคีตกวี ไปใช้ในการศึกษาค้นคว้าประวัติและผลงานของคีตกวีไทย
และคีตกวีโลกท่สี นใจ รวมทั้งใช้เปน็ แนวทางในการศึกษาประวัติ ผลงาน และสถานะทางสงั คมของของศิลปินนักร้องที่
ชน่ื ชอบได้
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสำหรบั กลุ่มสนใจพเิ ศษ
- ศึกษาค้นคว้าประวัติของคีตกวีของไทยและคีตกวีของโลกท่านอื่น ๆ ท่ีสนใจ แล้วจัดทำเป็นป้ายนิเทศ
ทำเนยี บคตี กวี เพ่ือใหค้ วามรูแ้ กผ่ ทู้ ่สี นใจ
- จัดทำป้ายนิเทศเหตุการณ์คีตกวีของไทยและของโลกตามยุคสมัยจนถึงปัจจุบัน เพื่อเทียบช่วงเวลา
เหตกุ ารณส์ ำคัญทีท่ ำใหว้ งการดนตรีไทยและวงการดนตรสี ากลเกดิ การเปลยี่ นแปลง
2. กิจกรรมสำหรับฝกึ ทักษะเพม่ิ เตมิ
- ศึกษาประวัติและผลงานทางดนตรีของศิลปินหรือนักร้องเด่ียวท่ีตนเองชื่นชอบ แล้วนำมาอภิปรายหน้า
ชั้นเรยี นใหค้ รูและเพอื่ น ๆ ทราบเกย่ี วกับความสามารถของศิลปินท่ีตนเองชื่นชอบ
- ศึกษาค้นคว้า คีตกวีที่มีช่ือเสียงของประเทศสมาชิกอาเซียนว่ามีประวัติหรือมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
พร้อมรปู ภาพประกอบ จากนัน้ นำมาจดั ป้ายนิเทศเพอ่ื เผยแพรค่ วามรใู้ ห้กับผทู้ ีส่ นใจ
9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมุด ห้องดนตรี อนิ เทอร์เน็ต
2. ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ ดา้ นดนตรี
3. ใบกิจกรรม
4. หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
5. แบบฝกึ ทักษะ รายวิชาพนื้ ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
การประเมินผลด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม
สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรมเขยี นเครื่องหมาย ลงในช่องวา่ งทตี่ รงกับความเปน็ จรงิ
รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
321
1. ความใฝร่ ใู้ นการ 1. กลา้ แสดงออกทางดนตรีด้วยความมัน่ ใจ
เรียนดนตรี 2. ถา่ ยทอดกจิ กรรมดนตรีด้วยความคิดและจินตนาการ
3. ตรวจสอบและปรบั ปรงุ แก้ไขกจิ กรรมดนตรีได้ถูกต้อง
และพัฒนาขึ้น
2. ความรับผิดชอบ 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย
ขยนั และอดทน 2. ปฏบิ ัติกิจกรรมสำเร็จตามกำหนด
3. ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของคนอ่นื
3. ความซ่ือสัตย์ 1. ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยตนเอง
2. แสดงความคดิ เห็นตามความเป็นจริง
3. นำเสนอขอ้ มลู ตามจริง
4. ไมท่ อ้ ถอยต่อการทำงาน
4. ความมรี ะเบยี บ 1. ปฏิบตั ิกจิ กรรมอยา่ งเป็นระบบและสะอาดเรยี บร้อย
วินัย 2. ตรงต่อเวลาและปฏบิ ัติกิจกรรมตามขนั้ ตอน
5. การมเี จตคติที่ดี 1. ปฏิบตั กิ จิ กรรมอยา่ งมคี วามสขุ
ต่อการปฏบิ ัติ 2. มีความสนใจและกระตือรือรน้ ต่อการปฏบิ ัติกิจกรรม
กิจกรรมดนตรี
คะแนนทไี่ ด้
คะแนนรวม
ระดับคณุ ภาพเฉลย่ี
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลีย่ 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรุง
ระดบั คุณภาพ
สรปุ ระดับคณุ ภาพดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (เขยี นเครอื่ งหมาย ลงในช่อง)
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉลีย่ หาไดจ้ ากการนำคะแนนทไี่ ด้ในแต่ละชอ่ งมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดับคณุ ภาพเฉลี่ยมาเทียบกับเกณฑ์การตดั สินคุณภาพและสรุปผลการประเมิน
การประเมนิ ผลดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม แลว้ เขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจริง
รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
ประเมนิ ผล 321
1. ทักษะ 1. อ่าน เขียน โนต้ ดนตรีไทยในอตั ราจังหวะ 2 ชั้น และ 3 ชนั้
กระบวนการใน 2.ขับร้องเพลงไทยในอัตราจงั หวะ 2 ชน้ั และ 3 ชั้นได้
การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 3. อ่านเคร่อื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรสี ากลได้
ทางดนตรี 4. ร้องเพลงเดย่ี วได้
5. บรรเลงเคร่อื งดนตรเี ด่ยี วได้
6. ขับรอ้ งและบรรเลงดนตรีรวมวงได้
2. ทกั ษะ 1. ใชเ้ ทคนิคและถ่ายทอดอารมณ์เพลงดว้ ยความคิด
กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์
2. ใชเ้ ทคนคิ ในการบรรเลงดนตรีรวมวงด้วยความคดิ
สร้างสรรค์
3. กระบวนการ 1. วางแผนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมรว่ มกับสมาชิกในกลุ่ม
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็น 2. ใหค้ วามรว่ มมือกบั สมาชกิ ในกลมุ่
กลมุ่ 3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามหน้าท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4. ชว่ ยเหลือสมาชิกในกล่มุ เพ่ือให้งานสำเรจ็
5. แสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม
คะแนนทไ่ี ด้
คะแนนรวม
ระดบั คุณภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลี่ย 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรงุ
ระดบั คุณภาพ
สรุประดับคุณภาพดา้ นทักษะ/กระบวนการ (เขียนเครอื่ งหมาย ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉล่ียหาได้จากการนำคะแนนที่ได้ในแต่ละช่องมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดบั คุณภาพเฉล่ยี มาเทียบกับเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพและสรปุ ผลการประเมิน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล
ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่…….หอ้ ง........
คำชแี้ จง ผูส้ อนสังเกตการทำงานของผูเ้ รยี น โดยทำเครอื่ งหมายถูกลงในชอ่ งทตี่ รงกับความเปน็ จริง
พฤตกิ รรม ความสนใจ การมสี ว่ น การรบั ฟัง การตอบ ความรบั ผิด รวม
ในการเรยี น รว่ มแสดง ความคดิ คำถาม ชอบต่องาน คะแน
ชอ่ื -สกุล ความคดิ เหน็ ของผู้ ทไ่ี ดร้ ับมอบ
1 210 เหน็ ในการ 210 น
2 อภิปราย อ่ืน หมาย
3 210 10
4 210 210
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ใหค้ ะแนน 0-4 ถา้ การทำงานน้ันอยใู่ นระดบั ต้องปรับปรงุ
ใหค้ ะแนน 5-7 ถา้ การทำงานน้นั อยใู่ นระดบั พอใช้
ให้คะแนน 8-10 ถา้ การทำงานนน้ั อยู่ในระดบั ดี
ลงชื่อ……………………………………………………
(…………………………………………………..)
ผปู้ ระเมนิ
บนั ทกึ หลงั การสอน
๑. ปญั หา / อุปสรรค
...................................................................................................................................... ...................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................... ..........
๒. ขอ้ เสนอแนะแนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข
.................................................................................................................................. .......................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................... ..............
ลงชอ่ื .............................................ผ้สู อน
( นายนนทพทั ธ์ บุญพฒั น์ )
วนั ท.ี่ .......เดอื น....................พ.ศ. ...........
ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่ม
.........................................................................................................................................................................................
...................................................................................... .........................
ลงชอื่ .............................................ผู้นเิ ทศก์
( นางสาวนสุ บา เตชะวัฒนารงุ่ เรอื ง )
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ. ...........
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ บริหารงานวชิ าการ
........................................................................................................................................................... ..............................
..............................................................................................................
ลงชอื่ .............................................ผู้นิเทศก์
( นางสาววิชชนุ ี อุตรชน )
หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ...........
ข้อเสนอแนะรองผู้อำนวยการโรงเรียนพันทา้ ยนรสงิ ห์วทิ ยา
....................................................................................................................................................... ..................................
..............................................................................................................
ลงช่อื ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นายจรนิ ทร์ ฤทธเิ ดช )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนพนั ท้ายนรสงิ หว์ ทิ ยา
วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ...........
ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร
................................................................................................................................................................. ........................
..............................................................................................................
ลงชอื่ ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นางกรองแกว้ พลู เพ่ิมพนั ธ์ )
ผู้อำนวยการโรงเรียนพนั ทา้ ยนรสิงหว์ ิทยา
วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ...........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3
1. หน่วยการเรยี นรูเ้ รื่อง การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทยในโอกาสต่างๆ
2. สาระที่ 1 การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐานท่ี ศ 3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศลิ ปถ์ ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ท่ีสามารถบูรณาการปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
ตวั ชวี้ ดั มฐ ศ 3.1 ม.4-6/1 มีทกั ษะในการแสดงหลากหลายรปู แบบ
ตวั ชี้วัด มฐ ศ 3.1 ม.4-6/4 วิจารณก์ ารแสดงตามหลักนาฏศิลป์ และการละคร
ตัวชี้วัด มฐ ศ 3.1 ม.4-6/5 วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และการละครท่ีต้องการส่ือความหมาย ใน
การแสดง
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การนำนาฏศิลปไ์ ทยและการละครของไทยไปแสดงในโอกาสต่าง ๆ ต้องคำนงึ ถึงรปู แบบของงานท่จี ัด
ขึ้นว่าเป็นงานประเภทใด เช่น งานพระราชพิธี งานมงคล งานอวมงคล งานเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น สถานที่จัดการ
แสดงมีบริเวณกว้างหรือแคบมากน้อยเพียงใด ระยะเวลาที่กำหนดให้มีการแสดง และวัยของผู้ชม เพื่อท่ีจะได้จัดการ
แสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยได้ถกู ต้องเหมาะสมกับโอกาสน้ัน และถูกใจผู้ชม เช่น การละเล่นของหลวง โขน
หลวงจะนำมาแสดงในงานพระราชพิธี การแสดงท่ีสื่อความหมายถึงความเป็นสิริมงคลจะนำไปแสดงในงานมงคล การ
แสดงที่ส่ือความหมายถึงความโศกเศร้าจะนำไปแสดงในงานอวมงคล การแสดงพ้ืนเมืองนิยมนำไปแสดงในงานมงคล
และงานเทศกาลตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
4. สาระการเรียนรู้
4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
4.1.1 การแสดงหลากหลายรูปแบบ
4.1.2 การแสดงตามหลักนาฏศลิ ป์ และการละคร
4.1.3 การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5.2 ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์
5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มวี ินัย
6.2 ใฝ่เรียนรู้
6.3 มุง่ มั่นในการทำงาน
7. ชิน้ งานและภาระงาน
7.1 ใบงาน
7.2 แบบฝกึ หดั
8. การวัดและการประเมนิ ผล
8.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
8.1.1 ใบงาน
8.1.2 สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
8.2 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน
8.2.1 ตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
8.3 การประเมนิ ผลหลังเรยี น
8.3.1 ทดสอบดว้ ยแบบทดสอบหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 หลงั เรียน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมเรียนรู้ท่ี 1 การแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยในโอกาสตา่ งๆ
ขัน้ ที่ 1 ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตนเอง เพื่อประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยถาม
คำถามว่า “นักเรียนเคยชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสใดบ้าง และการแสดงน้ันมีลักษณะการ
แสดงอย่างไรบ้าง” จากนั้นครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: เคยชมการแสดงในวันปิดภาคเรียน เป็นการแสดงท่ีมี
ลกั ษณะเป็นการแสดงประเภทระบำ มกี ารแต่งกายและแปรแถวท่ีสวยงาม) พร้อมกบั ให้นักเรียนซกั ถาม
2. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับประสบการณ์ในการแสดงนาฏศิลป์เพ่ือเช่ือมโยงความรู้เก่ียวกับการแสดง
นาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสตา่ ง ๆ
ขน้ั ที่ 2 ข้ันสอน
1. ครูตรวจงานที่มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาการแสดงนาฏศิลป์ไทยว่าสามารถนำมาแสดงในโอกาสใดได้
บ้าง แล้วร่วมกันอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยพิจารณาว่านักเรียนร่วมกันอภิปรายได้
ถูกตอ้ งหรอื ไม่ และสนทนาซกั ถามนกั เรียนวา่ ใครมีสง่ิ ใดสงสยั บ้าง
2. ครอู ธิบายเน้ือหาเรื่อง การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสต่าง ๆ เก่ียวกับการนำการแสดง
นาฏศิลป์และการละครของไทยไปแสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ งานพระราชพิธี งานมงคลทั่วไป งานอวมงคล และงาน
เทศกาลต่าง ๆ โดยการบรรยายและให้ดูภาพการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสต่าง ๆ ประกอบการ
บรรยาย
3. ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วเปรยี บเทียบการนำการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไป
แสดงในงานพระราชพิธี งานมงคล งานอวมงคล และงานเทศกาลต่าง ๆ โดยวเิ คราะหว์ ่ามีลกั ษณะการแสดงที่แตกต่าง
และเหมือนกันอย่างไร พร้อมกับยกตัวอย่างการแสดงประกอบด้วย โดยให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมจาก หนังสือ
เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช จำกดั อนิ เทอร์เนต็ หนังสือนาฏศลิ ป์ไทย
ในห้องสมุด จากนนั้ นำไปให้ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง และนำไปตดิ บนผนังห้องนาฏศิลปเ์ พือ่ เปน็ เผยแพร่ความรู้
4. ให้แต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น
5. ครูถามคำถามเก่ียวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า ถ้านักเรียนจะจัดการแสดงการละเล่นของหลวงในงาน
พระราชพิธีของประเทศสมาชิกอาเซียนนักเรียนจะแสดงท่ีประเทศใด ในโอกาสใด (แนวคำตอบ: จัดแสดงที่ประเทศ
บรูไนดารุสซาลามในงานพระราชพิธีฉลองวนั คลา้ ยวันพระราชสมภพของ
สมเดจ็ พระราชาธิบดี ซึ่งตรงกบั วันที่ 15 กรกฎาคม)
6. ครูถามคำถามเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า นักเรียนคิดว่าประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศใดมีการ
แสดงโขนบ้าง (แนวคำตอบ: ประเทศลาว ประเทศกมั พชู า ประเทศเมียนมา)
ข้ันที่ 3 ขนั้ สรุป
1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยใน
โอกาสต่าง ๆ เป็นความคดิ ของชน้ั เรยี น โดยครูคอยใหค้ วามรเู้ พิม่ เตมิ ในส่วนทน่ี ักเรียนไม่ถูกต้อง
2. ครมู อบหมายงานให้นักเรียนไปศึกษาหลกั การชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย จากอินเทอร์เน็ตหรอื เว็บไซต์ต่าง
ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงในแบบบันทึกข้อมูลการมอบหมายงาน และให้นำความรู้ท่ีได้มา
อภปิ รายตามความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ของตนเอง
ขัน้ ท่ี 4 ฝกึ ฝนนักเรยี น
1. ให้นักเรียนปฏิบัติ ใบกิจกรรมท่ี 33 การแสดงนาฏศิลป์และละครไทยในโอกาสต่าง ๆ โดยให้นักเรียนทำ
เรือ่ งหมาย ใต้คำตอบทถ่ี กู ตอ้ ง
2. ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัติ ใบกิจกรรมที่ 34 โอกาสท่ีใช้ในการแสดง โดยใหน้ กั เรยี นเลอื กตอบใหถ้ ูกต้อง
3. ให้นักเรียนปฏิบัติ ใบกิจกรรมที่ 35 การแสดงนาฏศิลป์ไทยในโอกาสต่าง ๆ โดยให้นักเรียนหาภาพการ
แสดงทใี่ ชใ้ นโอกาสต่าง ๆ มา 1 ภาพตดิ ลงในกรอบพร้อมทัง้ บอกรายละเอียดวา่ ใช้สำหรับโอกาสใด
4. ให้นักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกันจัดปา้ ยนิเทศในหัวข้อ “การแสดงของ
ประเทศสมาชิกอาเซียนในงานมงคล” นำเสนอเป็นภาพชุดการแสดงต่าง ๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเป็น
ความรใู้ ห้กับผู้ที่สนใจ
5. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้นักเรียนช่วยกันสร้างสรรค์ชุดการแสดงมา 1 ชุดมี
การบูรณาการความเป็นอาเซยี นลงไปตามความคิดสรา้ งสรรค์ แลว้ นำชดุ การแสดงไปแสดงในงานเทศกาลต่าง ๆ
6. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education) จากสถานการณ์เร่ือง
โคมกันเทยี นดับ ดังนี้
ในการแสดงรำโคมเป็นการละเล่นของหลวงท่ีเล่นในงานพระราชพิธีท่ีจะแสดงกลางแจ้งซึ่งมีปัญหาเม่ือเวลา
ลมพัดมาเทียนจะดับซึ่งทำใหผ้ ู้แสดงมีความกังวลและไม่มีสมาธิในการแสดง อีกทั้งยังต้องระวังน้ำตาเทยี นท่ีจะหยดใส่
มืออีกด้วย ครูจึงต้องการให้นักเรียนประดิษฐ์โคมเพื่อป้องกันลมและน้ำตาเทียนหยดใส่มือ โดยให้นักเรียนเลือก
อปุ กรณ์ทีก่ ำหนดให้หรืออปุ กรณอ์ ่ืน ๆ ท่ีหามาได้ แต่ต้องใช้งบประมาณท่นี อ้ ย ประหยดั และมีความทนทาน
อปุ กรณ์
1) ขวดนำ้ พลาสติก 2) สีเพน้ ท์ 3) สนี ้ำมนั 4) สอี ะครลิ กิ
5) ปากกาเมจิก 6) เทียน 7) หลอดดา้ ยขนาดใหญ่ 8) เศษผา้
9) กาว 10) กรรไกร 11) คัตเตอร์ 12) โครงลวด 13) กระดาษแก้ว
วิธีปฏบิ ัติ
ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4 คน สมาชิกช่วยกนั ระบุปัญหา เป้าหมายของการแก้ปัญหา และข้อจำกัดใน
การสร้างโคมกันลม จากการสืบค้นข้อมูลและเลือกวิธีการแก้ปัญหาจากข้อมูลท่ีได้ และออกแบบช้ินงานโดยวาดภาพ
ร่างลงในกระดาษ แล้วลงมือสร้างช้ินงานตามกระบวนการทางเทคโนโลยีโดยใช้แนวคิด STEM Education (S:
วิทยาศาสตร์ T: เทคโนโลยี E: วิศวกรรมศาสตร์ M: คณติ ศาสตร)์
แต่ละกลุ่มนำโคมมาทดสอบว่ามีความแข็งแรง กันลม และน้ำตาเทียนหยดใส่มือได้หรือไม่ เมื่อสังเกตเห็น
ข้อบกพร่องให้นำมาปรับปรุง เม่ือทำกิจกรรมเสร็จครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลช้ินงานท่ีใช้แก้ปัญหาจาก
สถานการณ์ท่ีกำหนดแลว้ นำเสนอผลงานทีไ่ ด้
7. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน
8. ใหน้ ักเรยี นทำโครงงานตามความสนใจ (ตัวอยา่ งโครงงานในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศลิ ป์
ม. 4 บริษัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จำกัด)
ข้ันท่ี 5 การนำไปใช้
1. นกั เรียนสามารถนำการแสดงนาฏศิลป์ไทยไปแสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
2. นกั เรียนสามารถออกแบบเครอื่ งแต่งกายประกอบการแสดงตามหลักแนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ โดย
นำวัสดุท่ีมีในท้องถ่ินหรือวสั ดุเหลือใช้มาออกแบบสรา้ งสรรค์เป็นชุดท่ีมีความสวยงามตามจินตนาการ แล้วนำไปแสดง
ในงานร่นื เรงิ ต่าง ๆ ในท้องถิ่น เพื่อช่วยกันอนรุ กั ษ์ภมู ปิ ัญญาดา้ นนาฏศลิ ป์ไทย
10. การวัดและประเมินผล
1. ประเมิน/ใหค้ ะแนนพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
2. ตรวจให้คะแนนผลงาน
11. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. ห้องสมุด ห้องดนตรี อนิ เทอรเ์ นต็
2. DVD การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทนในโอกาสต่างๆ
3. วงดนตรไี ทยและวงดนตรีสากล
4. ใบกจิ กรรม
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การแสดงนาฏศลิ ป์และการละคร เรอ่ื ง การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทยในโอกาสต่างๆ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ รายวชิ า ศิลปะ 1 ดนตรี - นาฏศิลป์ 1 รหสั วิชา ศ31101
เวลาเรยี น 7 ชั่วโมง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
1. สาระสำคญั
การนำนาฏศิลป์ไทยและการละครของไทยไปแสดงในโอกาสต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงรูปแบบของงานท่ีจัดขึ้นว่า
เป็นงานประเภทใด เช่น งานพระราชพิธี งานมงคล งานอวมงคล งานเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น สถานท่ีจัดการ
แสดงมีบรเิ วณกว้างหรือแคบมากน้อยเพียงใด ระยะเวลาที่กำหนดใหม้ ีการแสดง และวัยของผู้ชม เพ่อื ท่จี ะได้
จัดการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยได้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาสนั้น และถกู ใจผชู้ ม เช่น การละเล่น
ของหลวง โขนหลวงจะนำมาแสดงในงานพระราชพิธี การแสดงท่ีสื่อความหมายถึงความเปน็ สิรมิ งคลจะนำไป
แสดงในงานมงคล การแสดงที่ส่ือความหมายถึงความโศกเศร้าจะนำไปแสดงในงานอวมงคล การแสดง
พ้ืนเมอื งนิยมนำไปแสดงในงานมงคลและงานเทศกาลต่าง ๆ เป็นตน้
2. ตัวชี้วดั ช่วงชั้น
เปรยี บเทยี บการนำการแสดงไปใช้ในโอกาสตา่ ง ๆ (ศ 3.2 ม. 4-6/1)
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะและประเภทของการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยที่นำไปใช้แสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้
(K)
2. ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลดิ เพลิน (A)
3. วเิ คราะหก์ ารนำการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยไปใช้แสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้ (P)
4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
1. สังเกตจากการถามและการ 1. สงั เกตจากการปฏบิ ตั ิ 1. สังเกตจากการวเิ คราะห์การ
แสดงความคิดเห็น กิจกรรมด้วยความ นำการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการ
2. สังเกตจากการอธิบายถึงการ สนกุ สนานและเพลดิ เพลิน ละครของไทยไปใช้แสดงใน
นำการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละ 2. สังเกตจากการยอมรบั โอกาสตา่ ง ๆ ได้
การละครของไทยไปใชแ้ สดง ความคิดเห็นของผู้อ่ืนขณะ 2. สงั เกตจากการปฏบิ ัติ
ในโอกาสต่าง ๆ ได้ ปฏิบัติกจิ กรรม กิจกรรม กลมุ่ รว่ มกบั ผู้อืน่ ได้
3. จากการตรวจการวัดและ 3. สงั เกตจากความซ่อื สตั ย์ใน อยา่ งคล่องแคลว่
ประเมินผลการเรียนรปู้ ระจำ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 3. ประเมนิ พฤตกิ รรมจากแบบ
หน่วย 4. สงั เกตจากความมีน้ำใจและ ประเมินผลด้านทักษะ/
4. จากการตรวจแบบทดสอบ ความเสยี สละในการปฏิบตั ิ กระบวนการ
หลงั เรยี น กิจกรรมรว่ มกับผู้อื่น
5. จากการตรวจใบกิจกรรม 5. ประเมินพฤตกิ รรมจาก
แบบประเมนิ ผลด้าน
คณุ ธรรม จริยธรรม และ
คา่ นิยม
5. สาระการเรียนรู้
- การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสตา่ ง ๆ
- การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทยในงานพระราชพิธี
- การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทยในงานมงคลทั่วไป
- การแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยในงานอวมงคล
- การแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยในงานเทศกาลต่าง ๆ
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดถงึ การนำการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไปใช้แสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ได้
การแสดงความคิดเหน็ การถาม และการตอบขอ้ สงสัยต่าง ๆ
สังคมศกึ ษาฯ การปฏิบตั กิ ิจกรรมเปน็ กลุ่มและการสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
การงานอาชีพ การใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการค้นหาขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ น็ตและจากการชมสอ่ื ทางโทรทัศน์
และเทคโนโลยี
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ชัว่ โมงท่ี 17 การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสต่างๆ
ขน้ั ท่ี 1 ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตนเอง เพ่ือประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยถาม
คำถามว่า “นักเรียนเคยชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสใดบ้าง และการแสดงน้ันมี
ลักษณะการแสดงอย่างไรบ้าง” จากนั้นครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: เคยชมการแสดงในวันปิดภาคเรียน
เป็นการแสดงที่มีลักษณะเป็นการแสดงประเภทระบำ มีการแต่งกายและแปรแถวที่สวยงาม) พร้อมกับให้
นักเรียนซกั ถาม
2. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ในการแสดงนาฏศิลป์เพ่ือเชื่อมโยงความรู้เก่ียวกับการแสดง
นาฏศลิ ป์และการละครของไทยในโอกาสต่าง ๆ
ขนั้ ท่ี 2 ข้นั สอน
1. ครูตรวจงานที่มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาการแสดงนาฏศิลป์ไทยวา่ สามารถนำมาแสดงในโอกาสใดได้บ้าง
แล้วร่วมกันอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยพิจารณาว่านักเรียนร่วมกันอภิปรายได้
ถกู ต้องหรือไม่ และสนทนาซักถามนกั เรยี นวา่ ใครมสี ่ิงใดสงสัยบ้าง
2. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่อง การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสต่าง ๆ เกี่ยวกับการนำการแสดง
นาฏศิลป์และการละครของไทยไปแสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้แก่ งานพระราชพิธี งานมงคลท่ัวไป งานอวมงคล
และงานเทศกาลต่าง ๆ โดยการบรรยายและให้ดูภาพการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาสต่าง
ๆ ประกอบการบรรยาย
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วเปรียบเทียบการนำการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไป
แสดงในงานพระราชพิธี งานมงคล งานอวมงคล และงานเทศกาลต่าง ๆ โดยวิเคราะห์ว่ามีลักษณะการแสดง
ที่แตกต่างและเหมือนกันอย่างไร พร้อมกับยกตัวอย่างการแสดงประกอบด้วย โดยให้นักเรียนศึกษาข้อมูล
เพิ่มเติมจาก หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
อินเทอร์เน็ต หนังสือนาฏศิลป์ไทยในห้องสมุด จากนั้นนำไปให้ครูตรวจสอบความถูกต้อง และนำไปติดบน
ผนังห้องนาฏศิลป์เพ่ือเปน็ เผยแพรค่ วามรู้
4. ใหแ้ ต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น
5. ครูถามคำถามเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า ถ้านักเรยี นจะจัดการแสดงการละเล่นของหลวงในงานพระ
ราชพิธีของประเทศสมาชิกอาเซียนนักเรียนจะแสดงที่ประเทศใด ในโอกาสใด (แนวคำตอบ: จัดแสดงที่
ประเทศบรูไนดารุสซาลามในงานพระราชพิธีฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดี ซึ่ง
ตรงกับวันที่ 15 กรกฎาคม)
6. ครูถามคำถามเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนว่า นักเรียนคิดว่าประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศใดมีการ
แสดงโขนบา้ ง (แนวคำตอบ: ประเทศลาว ประเทศกัมพชู า ประเทศเมยี นมา)
ขนั้ ท่ี 3 ขั้นสรปุ
1. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในโอกาส
ต่าง ๆ เปน็ ความคดิ ของชัน้ เรยี น โดยครคู อยให้ความรู้เพม่ิ เตมิ ในส่วนท่ีนกั เรียนไม่ถูกต้อง
2. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปศึกษาหลักการชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย จากอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ
เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูลลงในแบบบันทึกข้อมูลการมอบหมายงาน และให้นำความรู้ท่ี
ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ของตนเอง
ขนั้ ที่ 4 ฝกึ ฝนนักเรยี น
1. ให้นักเรยี นปฏิบัติ ใบกิจกรรมที่ 33 การแสดงนาฏศิลป์และละครไทยในโอกาสต่าง ๆ โดยให้นักเรียนทำเรื่อง
หมาย ใต้คำตอบท่ีถูกต้อง
2. ให้นักเรยี นปฏบิ ัติ ใบกิจกรรมที่ 34 โอกาสทใ่ี ช้ในการแสดง โดยให้นกั เรยี นเลือกตอบใหถ้ ูกตอ้ ง
3. ให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิ ใบกิจกรรมท่ี 35 การแสดงนาฏศิลป์ไทยในโอกาสต่าง ๆ โดยให้นกั เรยี นหาภาพการแสดงที่
ใชใ้ นโอกาสต่าง ๆ มา 1 ภาพติดลงในกรอบพร้อมทง้ั บอกรายละเอยี ดว่าใช้สำหรับโอกาสใด
4. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้นักเรียนร่วมกันจัดป้ายนิเทศในหัวข้อ “การแสดงของ
ประเทศสมาชิกอาเซียนในงานมงคล” นำเสนอเป็นภาพชุดการแสดงต่าง ๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียน
เพ่ือเปน็ ความรใู้ หก้ บั ผทู้ ี่สนใจ
5. ให้นักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้นกั เรียนช่วยกนั สร้างสรรค์ชุดการแสดงมา 1 ชดุ มีการบูร
ณาการความเป็นอาเซียนลงไปตามความคดิ สรา้ งสรรค์ แลว้ นำชดุ การแสดงไปแสดงในงานเทศกาลตา่ ง ๆ
6. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education) จากสถานการณ์เร่ือง
โคมกันเทยี นดับ ดงั น้ี
ในการแสดงรำโคมเป็นการละเล่นของหลวงท่ีเล่นในงานพระราชพิธีที่จะแสดงกลางแจ้งซ่ึงมีปัญหาเม่ือเวลา
ลมพัดมาเทียนจะดับซ่ึงทำใหผ้ ู้แสดงมีความกังวลและไม่มีสมาธิในการแสดง อีกทั้งยังต้องระวังนำ้ ตาเทียนท่ีจะหยดใส่
มืออีกด้วย ครูจึงต้องการให้นักเรียนประดิษฐ์โคมเพื่อป้องกันลมและน้ำตาเทียนหยดใส่มือ โดยให้นักเรียนเลือก
อุปกรณท์ ก่ี ำหนดใหห้ รืออุปกรณ์อื่น ๆ ทหี่ ามาได้ แตต่ อ้ งใช้งบประมาณที่น้อย ประหยัด และมคี วามทนทาน
อุปกรณ์
1) ขวดนำ้ พลาสติก 2) สเี พ้นท์ 3) สนี ้ำมนั 4) สอี ะครลิ กิ
5) ปากกาเมจิก 6) เทียน 7) หลอดด้ายขนาดใหญ่ 8) เศษผา้
9) กาว 10) กรรไกร 11) คตั เตอร์ 12) โครงลวด 13) กระดาษแก้ว
วธิ ปี ฏิบตั ิ
ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน สมาชกิ ชว่ ยกันระบุปัญหา เปา้ หมายของการแก้ปญั หา และข้อจำกดั ใน
การสร้างโคมกันลม จากการสืบค้นขอ้ มลู และเลือกวิธีการแก้ปัญหาจากข้อมูลท่ีได้ และออกแบบช้นิ งานโดยวาดภาพ
ร่างลงในกระดาษ แล้วลงมือสรา้ งชน้ิ งานตามกระบวนการทางเทคโนโลยีโดยใชแ้ นวคิด STEM Education (S:
วทิ ยาศาสตร์ T: เทคโนโลยี E: วิศวกรรมศาสตร์ M: คณิตศาสตร์)
แต่ละกลุ่มนำโคมมาทดสอบว่ามีความแข็งแรง กันลม และน้ำตาเทียนหยดใส่มือได้หรือไม่ เม่ือสังเกตเห็น
ข้อบกพร่องให้นำมาปรับปรุง เม่ือทำกิจกรรมเสร็จครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลชิ้นงานที่ใช้แก้ปัญหาจาก
สถานการณ์ทกี่ ำหนดแล้วนำเสนอผลงานที่ได้
7. ใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน
8. ให้นักเรียนทำโครงงานตามความสนใจ (ตัวอย่างโครงงานในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์
ม. 4 บริษทั สำนกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จำกัด)
ข้นั ท่ี 5 การนำไปใช้
1. นักเรียนสามารถนำการแสดงนาฏศลิ ป์ไทยไปแสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
2. นกั เรียนสามารถออกแบบเคร่ืองแต่งกายประกอบการแสดงตามหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ โดยนำ
วสั ดทุ ่ีมีในท้องถ่ินหรือวัสดเุ หลือใช้มาออกแบบสร้างสรรค์เป็นชดุ ที่มคี วามสวยงามตามจินตนาการ แล้วนำไป
แสดงในงานร่ืนเริงตา่ ง ๆ ในท้องถนิ่ เพื่อช่วยกันอนุรักษภ์ ูมปิ ญั ญาด้านนาฏศิลป์ไทย
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสำหรับกลุ่มสนใจพเิ ศษ
นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ศึกษาความเป็นมาของการแสดงโขนหลวงในงานพระราชพิธีของหลวงแล้วจัดทำเป็น
ป้ายนิเทศเผยแพร่ความรู้
2. กิจกรรมสำหรบั ฝกึ ทกั ษะเพ่ิมเตมิ
นักเรียนพิจาณาว่าการละเล่นของหลวงกับการละเล่นพ้ืนเมืองมีลักษณะการแสดงท่ีแตกต่างกันอย่างไร แล้วเขียน
บรรยายส่งครู
9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. ภาพการแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยในโอกาสตา่ ง ๆ
2. ใบกิจกรรม
3. สถานทต่ี า่ ง ๆ เชน่ โรงเรยี น มหาวทิ ยาลยั ท่เี ปดิ สอนดา้ นนาฏศลิ ป์และการละคร โรงละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เน็ต
5. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ม. 4
การประเมินผลด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม
สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรมเขียนเครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างทีต่ รงกับความเป็นจริง
รายการประเมนิ พฤติกรรมการแสดงออก คะแนน
321
1. ความใฝร่ ู้ในการ 1. กลา้ แสดงออกทางดนตรดี ้วยความม่ันใจ
เรียนดนตรี 2. ถา่ ยทอดกจิ กรรมดนตรีด้วยความคดิ และจินตนาการ
3. ตรวจสอบและปรับปรงุ แก้ไขกจิ กรรมดนตรีไดถ้ ูกต้อง
และพัฒนาขึ้น
2. ความรับผิดชอบ 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามที่ไดร้ บั มอบหมาย
ขยนั และอดทน 2. ปฏบิ ัติกิจกรรมสำเร็จตามกำหนด
3. ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของคนอ่นื
3. ความซ่ือสัตย์ 1. ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยตนเอง
2. แสดงความคดิ เหน็ ตามความเป็นจริง
3. นำเสนอขอ้ มูลตามจริง
4. ไมท่ อ้ ถอยต่อการทำงาน
4. ความมรี ะเบยี บ 1. ปฏิบตั ิกจิ กรรมอยา่ งเป็นระบบและสะอาดเรียบร้อย
วินัย 2. ตรงต่อเวลาและปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขนั้ ตอน
5. การมเี จตคติที่ดี 1. ปฏิบตั กิ จิ กรรมอยา่ งมคี วามสขุ
ต่อการปฏบิ ตั ิ 2. มีความสนใจและกระตือรือรน้ ต่อการปฏบิ ัติกิจกรรม
กิจกรรมดนตรี
คะแนนทีไ่ ด้
คะแนนรวม
ระดับคณุ ภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลีย่ 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรับปรงุ
ระดบั คุณภาพ
สรปุ ระดบั คณุ ภาพดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (เขียนเครอื่ งหมาย ลงในช่อง)
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉลีย่ หาไดจ้ ากการนำคะแนนทไี่ ด้ในแต่ละชอ่ งมารวมกันแลว้ หารด้วยจำนวนขอ้
จากนน้ั นำระดับคณุ ภาพเฉลี่ยมาเทียบกับเกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพและสรุปผลการประเมิน
การประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ
สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม แล้วเขียนเคร่อื งหมาย ลงในช่องวา่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจริง
รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
ประเมนิ ผล 321
1. ทักษะ 1. อ่าน เขียน โนต้ ดนตรีไทยในอัตราจังหวะ 2 ชน้ั และ 3 ชนั้
กระบวนการใน 2.ขับร้องเพลงไทยในอตั ราจงั หวะ 2 ช้ัน และ 3 ช้ันได้
การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 3. อ่านเคร่อื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรสี ากลได้
ทางดนตรี 4. ร้องเพลงเดย่ี วได้
5. บรรเลงเคร่อื งดนตรเี ดีย่ วได้
6. ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรรี วมวงได้
2. ทกั ษะ 1. ใชเ้ ทคนคิ และถ่ายทอดอารมณเ์ พลงด้วยความคิด
กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์
2. ใชเ้ ทคนคิ ในการบรรเลงดนตรรี วมวงดว้ ยความคิด
สร้างสรรค์
3. กระบวนการ 1. วางแผนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมร่วมกบั สมาชกิ ในกลุม่
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็น 2. ใหค้ วามรว่ มมือกับสมาชกิ ในกลุ่ม
กลมุ่ 3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย
4. ชว่ ยเหลือสมาชิกในกลุ่มเพ่ือใหง้ านสำเร็จ
5. แสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะเกยี่ วกับการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม
คะแนนทไ่ี ด้
คะแนนรวม
ระดบั คุณภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลี่ย 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรงุ
ระดับคุณภาพ
สรุประดับคุณภาพดา้ นทักษะ/กระบวนการ (เขียนเคร่ืองหมาย ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉล่ียหาได้จากการนำคะแนนที่ได้ในแต่ละช่องมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดบั คุณภาพเฉล่ยี มาเทียบกับเกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพและสรปุ ผลการประเมิน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล
ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่…….หอ้ ง........
คำชแี้ จง ผูส้ อนสังเกตการทำงานของผูเ้ รยี น โดยทำเครอื่ งหมายถูกลงในชอ่ งทตี่ รงกับความเปน็ จริง
พฤตกิ รรม ความสนใจ การมสี ว่ น การรบั ฟัง การตอบ ความรบั ผิด รวม
ในการเรยี น รว่ มแสดง ความคดิ คำถาม ชอบต่องาน คะแน
ชอ่ื -สกุล ความคดิ เหน็ ของผู้ ทไ่ี ดร้ ับมอบ
1 210 เห็นในการ 210 น
2 อภิปราย อ่ืน หมาย
3 210 10
4 210 210
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ใหค้ ะแนน 0-4 ถา้ การทำงานน้ันอยใู่ นระดบั ต้องปรับปรงุ
ใหค้ ะแนน 5-7 ถา้ การทำงานนนั้ อยใู่ นระดบั พอใช้
ให้คะแนน 8-10 ถา้ การทำงานนน้ั อยู่ในระดบั ดี
ลงชื่อ……………………………………………………
(…………………………………………………..)
ผปู้ ระเมนิ
บันทกึ หลงั การสอน
๑. ปัญหา / อปุ สรรค
.........................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................... .....
....................................................................................................................................................................... ..................
.........................................................................................................................................................................................
๒. ขอ้ เสนอแนะแนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข
.........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................... ...................................................................... .........
................................................................................................................................................................... ......................
.........................................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .............................................ผสู้ อน
( นายนนทพัทธ์ บญุ พฒั น์ )
วันท่.ี .......เดอื น....................พ.ศ. ...........
ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่ม
....................................................................................................................................................... ..................................
...............................................................................................................
ลงชอื่ .............................................ผ้นู เิ ทศก์
( นางสาวนสุ บา เตชะวฒั นารงุ่ เรอื ง )
หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วนั ท.ี่ .......เดือน....................พ.ศ. ...........
ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ
.................................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................. .............
ลงช่ือ.............................................ผนู้ ิเทศก์
( นางสาววชิ ชนุ ี อุตรชน )
หัวหน้ากลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ
วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ...........
ข้อเสนอแนะรองผู้อำนวยการโรงเรยี นพนั ทา้ ยนรสงิ ห์วทิ ยา
............................................................................................................ ............................................... ..............................
................................................................................................. .............
ลงชอ่ื ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นายจรินทร์ ฤทธเิ ดช )
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนั ทา้ ยนรสงิ ห์วิทยา
วนั ท่ี........เดือน....................พ.ศ...........
ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร
........................................................................................................................................ .................................................
................................................................................................. .............
ลงชอ่ื ………………………………..ผู้ตรวจสอบ
( นางกรองแก้ว พลู เพิ่มพันธ์ )
ผู้อำนวยการโรงเรียนพันทา้ ยนรสงิ ห์วิทยา
วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ...........
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4
1. หนว่ ยการเรียนรเู้ รอื่ ง การวิจารณ์การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทย
2. สาระท่ี 1 การวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศลิ ป์และการละคร
มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐานที่ ศ 3.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ ของ
นาฏศลิ ป์ท่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ช้วี ัด มฐ ศ 3.2 ม.4-6/1 เปรียบเทยี บการนำการแสดงไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ส่ิงสำคัญในการชมการแสดงโดยทั่วไป คือการมีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการแสดงท่ีรับชมและมีมารยาทขณะ
ชมการแสดง ซงึ่ ส่ิงสำคัญทีก่ ล่าวมานเี้ รยี กว่า หลกั การชมการแสดง และถา้ จะชมการแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของ
ไทย ควรท่ีจะมีความรู้พนื้ ฐานเกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย และมีมารยาทขณะชมการแสดง เพ่ือ
จะได้ชมการแสดงได้อย่างเข้าใจ และมีความสนุกสนานกับการแสดงท่ีรับชม ส่วนการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และ
การละครของไทย คือ การแสดงความคิดเห็นต่อการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยในแต่ละชุดที่ได้รับชมตาม
ความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ ซึ่งการวิจารณ์จะทำให้สามารถบอกถึงข้อดีและข้อบกพร้องของการแสดงที่ชม
ได้ โดยการวิจารณ์นั้นผู้วิจารณ์ต้องทำความเข้าใจเก่ียวกับองค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
กอ่ น จากนน้ั ก็กำหนดหลกั การวิจารณ์การแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทย
4. สาระการเรียนรู้
4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
4.1.1 การชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครไทย
4.1.2 การวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทย
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 มวี ินยั
6.2 ใฝเ่ รียนรู้
6.3 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
7. ชน้ิ งานและภาระงาน
7.1 ใบงาน
7.2 แบบฝึกหดั
8. การวัดและการประเมินผล
8.1 การประเมินระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
8.1.1 ใบงาน
8.1.2 สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
8.1.3 แบบประเมนิ การแสดงละคร
8.2 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน
8.2.1 ตรวจให้คะแนนใบงาน
8.2.2 ประเมนิ การแสดงละคร
8.3 การประเมนิ ผลหลังเรียน
8.3.1 ทดสอบด้วยแบบทดสอบหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 หลงั เรียน
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเพอ่ื ประเมินความรู้
2. ครูถามคำถามนักเรยี นให้ช่วยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตนเอง เพอ่ื ประเมินความรกู้ ่อนเรียนโดยถาม
คำถามว่า “นักเรียนคดิ ว่าองค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยมีความสำคญั ต่อการวจิ ารณ์การ
แสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยอย่างไรบา้ ง” จากนนั้ ครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: ช่วยใหส้ ามารถบอกถึงข้อดี
และข้อเสยี ของการแสดงทร่ี ับชมได้ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบของการแสดง เช่น ลลี าทา่ รำ ดนตรี เคร่ืองแตง่ กาย
เป็นต้น สง่ิ ตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ล้วนมสี ่วนชว่ ยใหก้ ารแสดงนัน้ ๆ ดสู วยงามและสมบูรณ)์ พร้อมกับใหน้ ักเรียนซักถาม
3. ครสู นทนากับนกั เรียนเกี่ยวกบั ประสบการณ์ในการแสดงนาฏศลิ ป์เพ่อื เช่ือมโยงความรู้เกยี่ วกับการชมการ
แสดงและการวิจารณก์ ารแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
ข้นั ท่ี 2 ขน้ั สอน
1. ครูตรวจงานทีม่ อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศึกษาหลักการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยอย่าง
ซาบซง้ึ แล้วรว่ มกันอภปิ รายตามความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ โดยพิจารณาว่านักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายได้
ถูกต้องหรอื ไม่ และสนทนาซักถามนักเรียนว่าใครมีสง่ิ ใดสงสัยบา้ ง
2. ครูอธิบายเน้อื หาเร่ือง หลักการชมการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทยอยา่ งซาบซง้ึ
โดยการบรรยายและยกตัวอย่างประกอบ โดยใชเ้ นื้อหาจากหนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
บรษิ ทั สำนักพิมพว์ ฒั นาพานิช จำกัด
3. ครแู บ่งนักเรียนออกเปน็ 2 กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศึกษาความรเู้ รื่องหลักการชมการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการ
ละครของไทยอย่างซาบซ้ึงดงั น้ี
• กลุ่มที่ 1 ความรู้พนื้ ฐานเก่ยี วกับนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
• กลุม่ ท่ี 2 มารยาทในการชมการแสดง
4. ใหน้ กั เรยี นแตก่ ลมุ่ ออกมาอธิบายถงึ ความสำคัญของเร่ืองท่ตี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ มาใหค้ รูและเพื่อน ๆ ฟัง
พรอ้ มทัง้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น
5. ครมู อบหมายงานให้นกั เรยี นไปศึกษาว่าองคป์ ระกอบของนาฏศิลป์และการละครของไทยประกอบดว้ ย
อะไรบ้าง โดยศึกษาข้อมลู จากอนิ เตอรเ์ น็ตหรือเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ เชน่ www.youtube.com แลว้ บนั ทกึ ข้อมูลลงในแบบ
บนั ทึกข้อมลู การมอบหมายงาน จากนน้ั ใหน้ ำคามร้ทู ีไ่ ดม้ าอภปิ รายตามความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ของ
ตนเอง
การวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย (ตอ่ )
1. ครตู รวจงานท่มี อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศึกษาองค์ประกอบของนาฏศิลป์และการละครของไทยว่า
ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยพจิ ารณาว่านักเรยี น
ร่วมกนั อภปิ รายไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ และสนทนาซักถามนกั เรียนว่าใครมีสงิ่ ใดสงสัยบ้าง
2. ครูอธบิ ายเนอื้ หาเร่ือง การวิจารณก์ ารแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทย โดยการบรรยาย
และยกตวั อยา่ งประกอบ โดยใช้เนื้อหาจากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศลิ ป์ ม. 4 บรษิ ัท สำนักพิมพ์
วฒั นาพานิช จำกดั
3. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 2 กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศึกษาความรู้เรื่อง การวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลปแ์ ละการ
ละครของไทย ดงั น้ี
• กลมุ่ ที่ 1 องคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
• กลมุ่ ที่ 2 หลักการวิจารณ์การแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทย
4. ใหน้ ักเรยี นแตก่ ลุ่มออกมาอธบิ ายถึงความสำคัญของเร่ืองทต่ี นไปศึกษาค้นคว้ามาใหค้ รแู ละเพื่อน ๆ ฟัง
พร้อมทัง้ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น
5. ครูเปิด DVD การแสดงระบำชุมนมุ เผ่าไทย (หรือเลือกการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยประเภทอน่ื ให้นกั เรยี นชม
และวจิ ารณต์ ามทีค่ รเู หน็ ว่าเหมาะสม) ใหน้ ักเรียนชมแล้วให้นักเรยี นทกุ คนวิจารณ์การแสดงระบำชุมนุมเผา่ ไทยโดยใช้
หลกั การวิจารณก์ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
6. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมาแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับความงาม ความไพเราะ และสาระสำคัญที่ได้
รับชมแลว้ วจิ ารณ์การแสดงระบำชมุ นมุ เผา่ ไทย (ขณะทนี่ ักเรียนกำลงั ชมการแสดงใหค้ รสู ังเกตพฤตกิ รรมเพ่ือพจิ ารณา
วา่ นกั เรียนแต่ละคนไดน้ ำหลักในการชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครไทยมาใช้หรอื ไม่)
7. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน รว่ มกนั ชมการแสดงละครปลุกใจ เรื่องอานภุ าพพอ่ ขุนรามคำแหง (หรือ
เลอื กการแสดงละครไทยชนิดอื่น เร่ืองอื่นให้นักเรียนชมและวิจารณ์ตามท่คี รูเห็นว่าเหมาะสม) ใหน้ ักเรียนชมแลว้ ให้
นักเรยี นวจิ ารณก์ ารแสดงละครปลุกใจ เรื่องอานภุ าพพอ่ ขนุ รามคำแหง โดยใชห้ ลักการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลปแ์ ละ
การละครของไทย
8. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ความงาม ความไพเราะ และ
สาระสำคัญท่ีได้รับชมแล้ววจิ ารณ์การแสดงละครปลุกใจ เรื่องอานุภาพพอ่ ขุนรามคำแหง (ขณะที่นักเรยี นกำลังชมการ
แสดงให้ครูสงั เกตพฤตกิ รรมเพือ่ พจิ ารณาว่านักเรยี นแตล่ ะคนไดน้ ำหลกั ในการชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครไทย
มาใชห้ รอื ไม่)
ขั้นที่ 3 ขั้นสรปุ
นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ และอภิปรายสรุปเรื่อง การวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และ
การละครของไทย เป็นความคิดของชั้นเรยี น โดยครคู อยใหค้ วามรู้เพมิ่ เตมิ ในสว่ นที่นักเรียนไมเ่ ขา้ ใจหรือสรปุ ไมถ่ ูกต้อง
ขัน้ ที่ 4 ฝึกฝนนกั เรียน
1. ให้นักเรยี นปฏิบัติ ใบกจิ กรรมที่ 37 การวจิ ารณ์การแสดง โดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามให้ถูกต้อง
2. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติ ใบกจิ กรรมที่ 38 เขียนวจิ ารณ์การแสดง โดยให้นกั เรยี นหาภาพการแสดงทีส่ นใจมา 1
ภาพ ตดิ ลงในกรอบสีเ่ หล่ียม พร้อมท้ังเขยี นวจิ ารณก์ ารแสดงมาตามความเข้าใจ
3. ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ิ ใบกจิ กรรมที่ 39 มารยาทในการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และการละครไทย โดยให้
นกั เรยี นทำเคร่ืองหมาย หน้าข้อท่ีถกู และเคร่ืองหมาย หน้าขอ้ ทผ่ี ดิ
4. ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิ ใบกิจกรรมท่ี 40 บอกถงึ มารยาทในการชมการแสดง โดยใหน้ ักเรียนตอบคำถามให้
ถกู ต้อง
5. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ ใบกจิ กรรมท่ี 41 วจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลปต์ ามความรู้สึก โดยให้นักเรียนเขียนวิจารณ์
การแสดงนาฏศิลป์จากภาพมาตามความรู้สึก
6. ให้นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมบูรณาการอาเซยี นโดยให้นักเรียนชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นว่า
ถ้าหากนักเรียนไปชมการแสดงของประเทศสมาชิกอาเซยี น นกั เรยี นควรมีความรู้พื้นฐานเก่ยี วกบั นาฏศิลป์และการ
ละครหรอื ไม่
7. ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมบรู ณาการอาเซียน โดยให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่
ถา้ หากนักเรียนได้ไปชมการแสดงทโี่ รงละครเอสพลานาด ประเทศสงิ คโปร์ นกั เรียนควรปฏบิ ัตติ ัวอยา่ งไรให้เหมาะสม
8. ให้นกั เรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมบูรณาการอาเซียน โดยใหน้ กั เรยี นชมการแสดงของประเทศสมาชิกอาเซยี นแล้ว
วจิ ารณก์ ารแสดงโดยใชห้ ลักการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย เขยี นบรรยายลงในกระดาษ A4
แลว้ นำมาสง่ ครู
9. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
10. ใหน้ ักเรยี นทำโครงงานตามความสนใจ (ตัวอย่างโครงงานในหนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ดนตรี–
นาฏศลิ ป์ ม. 4 บรษิ ัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกัด)
ขนั้ ที่ 5 การนำไปใช้
1. นกั เรยี นสามารถนำหลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไปประยุกตใ์ ช้เวลาชมการแสดง
อ่ืน ๆ หรือปฏบิ ัติกจิ กรรมอืน่ ๆ เช่น การแสดงดนตรี การแสดงงานภาพวาด การเข้าร่วมสัมมนา การฟงั อาจารย์
บรรยายเวลาเรยี น เปน็ ตน้
2. นักเรียนสามารถนำหลกั การวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยไปประยุกต์ใช้เพ่ือวจิ ารณ์
การแสดงและผลงานสาขาอื่นได้ เช่น การวจิ ารณ์การแสดงดนตรี การวิจารณง์ านทัศนศิลป์ การวจิ ารณว์ รรณกรรม
ประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
3. ให้นักเรยี นรณรงค์ใหค้ นในท้องถิ่นชมการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย โดยนำความร้เู ร่ืองการวิจารณ์การแสดง
นาฏศิลป์ไทยไปอธิบายให้เข้าใจวา่ นาฏศลิ ป์และการละครของไทยดีอย่างไร เพอ่ื ใหท้ กุ คนเห็นคุณคา่ ภูมปิ ัญญาด้าน
นาฏศิลป์ไทยตามหลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
10. การวดั และประเมินผล
1. ประเมนิ /ให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุม่
2. ตรวจใหค้ ะแนนผลงาน
เคร่อื งมือ
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
2. แบบบนั ทกึ ผลการนำเสนองาน
3. แบบตรวจให้คะแนนผลงาน
เกณฑก์ ารประเมิน
1. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60
3. สังเกตการนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
4. การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60
11. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หอ้ งสมุด ห้องดนตรี อินเทอรเ์ น็ต
2. DVD การแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทย
3. วงดนตรีไทยและวงดนตรีสากล
4. ใบกิจกรรม
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การวิจารณก์ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละคร เรื่อง ประเภทของการแสดงและบทละคร
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ รายวิชา ศลิ ปะ 1 ดนตรี - นาฏศลิ ป์ 1 รหสั วชิ า ศ31101
เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
1. สาระสำคัญ
สิ่งสำคัญในการชมการแสดงโดยท่ัวไป คือการมีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการแสดงท่ีรับชมและมีมารยาทขณะ
ชมการแสดง ซ่ึงสง่ิ สำคัญที่กลา่ วมานี้เรียกว่า หลักการชมการแสดง และถ้าจะชมการแสดงนาฏศลิ ป์และการ
ละครของไทย ควรท่ีจะมีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย และมีมารยาท
ขณะชมการแสดง เพื่อจะได้ชมการแสดงได้อย่างเข้าใจ และมีความสนุกสนานกับการแสดงท่ีรับชม ส่วนการ
วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย คือ การแสดงความคิดเห็นต่อการแสดงนาฏศิลป์และการ
ละครของไทยในแต่ละชุดท่ีได้รับชมตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ ซึ่งการวิจารณ์จะทำให้
สามารถบอกถึงข้อดีและข้อบกพร้องของการแสดงท่ีชมได้ โดยการวิจารณ์นั้นผู้วิจารณ์ต้องทำความเข้าใจ
เกีย่ วกับองคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทยกอ่ น จากนน้ั กก็ ำหนดหลกั การวิจารณ์การ
แสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
2. ตวั ชว้ี ดั ช่วงชั้น
1. วิจารณก์ ารแสดงตามหลักนาฏศลิ ป์และการละคร (ศ 3.1 ม. 4–6/4)
2. วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และการละครท่ีต้องการสื่อความหมายในการแสดง (ศ 3.1 ม. 4–
6/5)
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายหลกั การชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยอย่างซาบซง้ึ ได้ (K)
2. อธิบายความงามความไพเราะ และสาระสำคญั ท่ีได้รบั ชมแลว้ วจิ ารณ์การแสดงได้ (K)
3. มคี วามสนุ กสนานและเพลิดเพลนิ ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม (A)
4. ชมและวิจารณ์การแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทยได้ (P)
5. ชมและวิเคราะห์ถึงสาระสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยท่ีส่ือความหมายให้เห็นในการ
แสดงแต่ละชดุ ได้ (P)
4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
คา่ นิยม (A)
1. สังเกตจากการถามและการ 1. สงั เกตจากความซื่อสตั ยใ์ น 1. สังเกตจากการชมและ
แสดงความคิดเหน็ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม วจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศิลป์
2. สังเกตจากการอธิบายความ 2. สงั เกตจากความมนี ้ำใจและ และการละครของไทย
งาม ความไพเราะ และ ความเสยี สละในการปฏบิ ัติ 2. สงั เกตจากการชมและ
สาระสำคัญที่ไดร้ ับชมแล้ว กิจกรรมรว่ มกับผ้อู ืน่ วิเคราะหถ์ ึงสาระสำคญั
วิจารณ์การแสดง 3. สงั เกตจากการปฏบิ ตั ิ ของการแสดงนาฏศิลป์และ
3. จากการตรวจการวดั และ กจิ กรรมดว้ ยความ การละครของไทยทีส่ อื่
ประเมินผลการเรียนรปู้ ระจำ สนุกสนานและเพลดิ เพลิน ความหมายให้เห็นในการ
หนว่ ย 4. ประเมินพฤติกรรมจาก แสดงแตล่ ะชุด
4. จากการตรวจแบบทดสอบ แบบประเมินผลดา้ น 3. ประเมนิ พฤตกิ รรมจาก
ก่อนเรียนและหลงั เรยี น คุณธรรม จริยธรรม และ แบบประเมนิ ผลดา้ น
5. จากการตรวจใบกิจกรรม ค่านยิ ม ทักษะ/กระบวนการ
5. สาระการเรียนรู้
❖ การชมและวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
- หลกั การชมนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
- หลกั การวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย – การพูดอธบิ ายถึงความงาม ความไพเราะ และสาระสำคัญทไ่ี ด้รับชมแล้ววจิ ารณ์
– การแสดงความคดิ เห็น การถาม และการตอบข้อสงสัยต่าง ๆ
– ศกึ ษาภาษาในการประพนั ธ์บทเพลงและบทละคร
วิทยาศาสตร์ การสังเกตและพิจารณาองค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลป์ไทย
สังคมศกึ ษาฯ การปฏบิ ัติกจิ กรรมเป็นกลุม่ และการสรา้ งมนุษยสมั พนั ธ์
ดนตรี การศกึ ษาดนตรีและเพลงตา่ ง ๆ ทใ่ี ชป้ ระกอบการแสดง
การงานอาชีพ การใช้คอมพวิ เตอรค์ น้ หาขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ นต็ และจากการรบั ชมสื่อทางโทรทัศน์
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ชว่ั โมงที่ 18 การชมการแสดงและการวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทย
ขัน้ ท่ี 1 ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน
1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเพอ่ื ประเมนิ ความรู้
2. ครูถามคำถามนักเรียนให้ช่วยกันตอบตามประสบการณ์ของตนเอง เพื่อประเมินความรู้ก่อนเรียนโดยถาม
คำถามว่า “นักเรียนคิดว่าองค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยมีความสำคัญต่อการ
วจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยอย่างไรบ้าง” จากนั้นครูเฉลยคำตอบ (แนวคำตอบ: ช่วยให้
สามารถบอกถึงข้อดีและข้อเสียของการแสดงท่ีรับชมได้ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบของการแสดง เช่น
ลีลาท่ารำ ดนตรี เคร่ืองแต่งกาย เป็นต้น ส่ิงต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยให้การแสดงนั้น ๆ ดูสวยงามและ
สมบูรณ)์ พร้อมกบั ให้นกั เรยี นซกั ถาม
3. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ในการแสดงนาฏศิลป์เพ่ือเช่ือมโยงความรู้เกี่ยวกับการชมการ
แสดงและการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครูตรวจงานท่ีมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาหลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยอย่าง
ซาบซ้ึง แล้วร่วมกันอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยพิจารณาว่านักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ และสนทนาซกั ถามนกั เรยี นว่าใครมสี ่งิ ใดสงสยั บา้ ง
2. ครูอธิบายเนื้อหาเร่ือง หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยอย่างซาบซ้ึง โดยการบรรยาย
และยกตัวอย่างประกอบ โดยใช้เนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท
สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เร่ืองหลักการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และการละคร
ของไทยอย่างซาบซึ้งดังนี้
- กลุม่ ที่ 1 ความรูพ้ ืน้ ฐานเกี่ยวกบั นาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
- กลมุ่ ท่ี 2 มารยาทในการชมการแสดง
4. ใหน้ ักเรียนแตก่ ลมุ่ ออกมาอธบิ ายถงึ ความสำคัญของเรื่องท่ีตนไปศึกษาค้นคว้ามาใหค้ รูและเพ่ือน ๆ ฟัง พร้อม
ท้งั ร่วมกันแสดงความคิดเห็น
5. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนไปศึกษาว่าองค์ประกอบของนาฏศิลป์และการละครของไทยประกอบด้วย
อะไรบ้าง โดยศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.youtube.com แล้วบันทึกข้อมูล
ลงในแบบบันทึกข้อมูลการมอบหมายงาน จากน้ันให้นำคามรู้ที่ได้มาอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และ
ประสบการณข์ องตนเอง
ชวั่ โมงที่ 19 การชมการแสดงและการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย (ต่อ)
1. ครูตรวจงานที่มอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาองค์ประกอบของนาฏศิลป์และการละครของไทยว่า
ประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วร่วมกันอภิปรายตามความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยพิจารณาว่า
นักเรียนร่วมกนั อภิปรายได้ถูกต้องหรอื ไม่ และสนทนาซกั ถามนักเรยี นว่าใครมีส่ิงใดสงสยั บ้าง
2. ครอู ธิบายเนอื้ หาเรอื่ ง การวจิ ารณ์การแสดงนาฏศลิ ป์และการละครของไทย โดยการบรรยาย และยกตวั อย่าง
ประกอบ โดยใช้เนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนา
พานิช จำกดั
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ให้แต่ละกล่มุ ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง การวิจารณ์การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
ของไทย ดังน้ี
- กลุ่มที่ 1 องค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
- กลุม่ ท่ี 2 หลกั การวิจารณก์ ารแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย
4. ให้นักเรยี นแตก่ ลมุ่ ออกมาอธบิ ายถงึ ความสำคัญของเรื่องที่ตนไปศึกษาค้นคว้ามาใหค้ รแู ละเพื่อน ๆ ฟัง พร้อม
ทง้ั รว่ มกันแสดงความคิดเหน็
5. ครูเปิด DVD การแสดงระบำชุมนุมเผ่าไทย (หรือเลือกการแสดงนาฏศิลป์ไทยประเภทอื่นให้นักเรียนชมและ
วิจารณ์ตามท่ีครูเห็นว่าเหมาะสม) ให้นักเรียนชมแล้วให้นักเรียนทุกคนวิจารณ์การแสดงระบำชุมนุมเผ่าไทย
โดยใช้หลกั การวจิ ารณ์การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทย
6. ครูให้นักเรียนแต่ละคนออกมาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับความงาม ความไพเราะ และสาระสำคัญท่ีได้รับชม
แล้ววิจารณ์การแสดงระบำชุมนุมเผ่าไทย (ขณะท่ีนักเรียนกำลังชมการแสดงให้ครูสังเกตพฤติกรรมเพื่อ
พิจารณาว่านักเรียนแตล่ ะคนได้นำหลักในการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครไทยมาใช้หรอื ไม)่
7. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ร่วมกันชมการแสดงละครปลุกใจ เร่ืองอานุภาพพ่อขุนรามคำแหง (หรือ
เลือกการแสดงละครไทยชนิดอื่น เร่ืองอ่ืนให้นักเรียนชมและวิจารณ์ตามท่ีครูเห็นว่าเหมาะสม) ให้นกั เรียนชม
แล้วให้นักเรียนวิจารณ์การแสดงละครปลุกใจ เร่ืองอานุภาพพ่อขุนรามคำแหง โดยใช้หลักการวิจารณ์การ
แสดงนาฏศิลปแ์ ละการละครของไทย
8. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนออกมาแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับความงาม ความไพเราะ และสาระสำคัญ
ท่ีได้รับชมแล้ววิจารณ์การแสดงละครปลุกใจ เรื่องอานุภาพพ่อขุนรามคำแหง (ขณะที่นักเรียนกำลังชมการ
แสดงให้ครูสังเกตพฤติกรรมเพ่ือพิจารณาว่านักเรยี นแต่ละคนได้นำหลักในการชมการแสดงนาฏศิลป์และการ
ละครไทยมาใช้หรอื ไม)่
ขั้นท่ี 3 ขนั้ สรปุ
นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ และอภปิ รายสรุปเรื่อง การวจิ ารณก์ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละ
การละครของไทย เปน็ ความคดิ ของชัน้ เรียน โดยครูคอยให้ความรู้เพม่ิ เติมในสว่ นทีน่ กั เรยี นไมเ่ ข้าใจหรือสรปุ ไมถ่ กู ตอ้ ง
ขน้ั ท่ี 4 ฝึกฝนนักเรียน
1. ให้นักเรยี นปฏบิ ัติ ใบกิจกรรมที่ 37 การวจิ ารณ์การแสดง โดยให้นกั เรียนตอบคำถามให้ถกู ตอ้ ง
2. ให้นักเรียนปฏิบัติ ใบกิจกรรมที่ 38 เขียนวจิ ารณ์การแสดง โดยให้นักเรียนหาภาพการแสดงท่ีสนใจมา 1 ภาพ
ตดิ ลงในกรอบส่เี หลีย่ ม พรอ้ มท้ังเขยี นวจิ ารณ์การแสดงมาตามความเข้าใจ
3. ให้นักเรียนปฏิบัติ ใบกิจกรรมที่ 39 มารยาทในการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครไทย โดยให้นักเรียน
ทำเครือ่ งหมาย หนา้ ข้อทถ่ี ูกและเคร่ืองหมาย หน้าข้อท่ผี ดิ
4. ใหน้ กั เรียนปฏบิ ัติ ใบกิจกรรมท่ี 40 บอกถงึ มารยาทในการชมการแสดง โดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามใหถ้ ูกต้อง
5. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติ ใบกจิ กรรมที่ 41 วิจารณ์การแสดงนาฏศิลปต์ ามความรู้สึก โดยให้นักเรยี นเขยี นวจิ ารณก์ าร
แสดงนาฏศิลปจ์ ากภาพมาตามความรู้สึก
6. ให้นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมบรู ณาการอาเซยี นโดยใหน้ ักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นวา่ ถ้าหากนักเรียนไปชม
การแสดงของประเทศสมาชิกอาเซยี น นกั เรยี นควรมคี วามรพู้ ื้นฐานเกีย่ วกบั นาฏศิลป์และการละครหรือไม่
7. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าถ้าหากนักเรียนได้
ไปชมการแสดงที่โรงละครเอสพลานาด ประเทศสิงคโปร์ นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ติ ัวอย่างไรให้เหมาะสม
8. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยให้นักเรียนชมการแสดงของประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว
วิจารณ์การแสดงโดยใช้หลักการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทย เขียนบรรยายลงใน
กระดาษ A4 แลว้ นำมาสง่ ครู
9. ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน
10. ให้นักเรียนทำโครงงานตามความสนใจ (ตัวอย่างโครงงานในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์
ม. 4 บริษทั สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จำกดั )
ขน้ั ที่ 5 การนำไปใช้
1. นักเรียนสามารถนำหลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไปประยุกต์ใช้เวลาชมการแสดงอ่ืน
ๆ หรือปฏิบัติกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การแสดงดนตรี การแสดงงานภาพวาด การเข้ารว่ มสัมมนา การฟังอาจารย์
บรรยายเวลาเรียน เป็นต้น
2. นักเรียนสามารถนำหลักการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครของไทยไปประยุกต์ใช้เพ่ือวิจารณ์การ
แสดงและผลงานสาขาอื่นได้ เช่น การวิจารณ์การแสดงดนตรี การวิจารณ์งานทัศนศิลป์ การวิจารณ์
วรรณกรรมประเภทต่าง ๆ เปน็ ตน้
3. ให้นักเรียนรณรงค์ให้คนในท้องถ่ินชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย โดยนำความรู้เรื่องการวิจารณ์การแสดง
นาฏศิลป์ไทยไปอธิบายให้เข้าใจว่านาฏศิลป์และการละครของไทยดีอย่างไร เพ่ือให้ทุกคนเห็นคุณค่าภูมิ
ปัญญาดา้ นนาฏศิลป์ไทยตามหลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสำหรับกลุม่ สนใจพเิ ศษ
ครูพานักเรียนไปชมการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการแสดงละครของไทยท่โี รงละครแห่งชาติ หรือสถานที่อ่นื ๆ ทม่ี ี
การจดั การแสดง แลว้ สุ่มเรยี กชอ่ื นักเรยี นให้ออกมาแสดงความคดิ เห็นต่อการแสดงที่ได้รบั ชมหนา้ ชั้นเรียน
2. กิจกรรมสำหรับฝกึ ทกั ษะเพิม่ เติม
นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เลือกชมการแสดงละครไทย 1 เร่ือง แลว้ วิเคราะห์สาระสำคัญของการแสดง
ละครว่าผูส้ รา้ งสรรค์ตอ้ งการสอ่ื ความหมายให้เหน็ ถงึ สิ่งใดของการแสดงในเรื่องนี้
9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
1. DVD การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครของไทย
2. ใบกิจกรรม
3. สถานท่ตี า่ ง ๆ เชน่ โรงเรียน มหาวิทยาลัยทเ่ี ปิดสอนดา้ นนาฏศิลปแ์ ละการละคร โรงละคร เป็นตน้
4. อินเทอรเ์ นต็
5. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 4
การประเมินผลด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม
สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรมเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องว่างทตี่ รงกับความเปน็ จรงิ
รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
321
1. ความใฝ่รใู้ นการ 1. กลา้ แสดงออกทางดนตรีด้วยความม่ันใจ
เรียนดนตรี 2. ถ่ายทอดกจิ กรรมดนตรดี ้วยความคดิ และจินตนาการ
3. ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมดนตรีได้ถูกต้อง
และพฒั นาขน้ึ
2. ความรับผิดชอบ 1. ปฏิบัติกจิ กรรมตามที่ได้รับมอบหมาย
ขยนั และอดทน 2. ปฏิบัตกิ ิจกรรมสำเร็จตามกำหนด
3. ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของคนอืน่
3. ความซ่ือสัตย์ 1. ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมด้วยตนเอง
2. แสดงความคิดเห็นตามความเป็นจรงิ
3. นำเสนอข้อมลู ตามจรงิ
4. ไมท่ อ้ ถอยต่อการทำงาน
4. ความมรี ะเบยี บ 1. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมอยา่ งเป็นระบบและสะอาดเรยี บร้อย
วินัย 2. ตรงตอ่ เวลาและปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามข้นั ตอน
5. การมเี จตคติที่ดี 1. ปฏิบัตกิ จิ กรรมอยา่ งมคี วามสขุ
ต่อการปฏบิ ัติ 2. มคี วามสนใจและกระตือรือรน้ ตอ่ การปฏบิ ตั ิกิจกรรม
กิจกรรมดนตรี
คะแนนทไี่ ด้
คะแนนรวม
ระดับคุณภาพเฉลย่ี
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลยี่ 3 ดมี าก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรุง
ระดบั คุณภาพ
สรปุ ระดับคณุ ภาพดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม (เขียนเคร่อื งหมาย ลงในช่อง)
ดีมาก, ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนำคะแนนท่ไี ดใ้ นแต่ละช่องมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดับคณุ ภาพเฉลี่ยมาเทยี บกบั เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพและสรุปผลการประเมิน
การประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ
สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม แลว้ เขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจริง
รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
ประเมนิ ผล 321
1. ทักษะ 1. อ่าน เขียน โนต้ ดนตรีไทยในอตั ราจังหวะ 2 ช้ัน และ 3 ชนั้
กระบวนการใน 2.ขับร้องเพลงไทยในอตั ราจงั หวะ 2 ชน้ั และ 3 ชั้นได้
การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 3. อ่านเคร่อื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรสี ากลได้
ทางดนตรี 4. ร้องเพลงเดย่ี วได้
5. บรรเลงเคร่อื งดนตรเี ด่ยี วได้
6. ขับรอ้ งและบรรเลงดนตรีรวมวงได้
2. ทกั ษะ 1. ใชเ้ ทคนิคและถ่ายทอดอารมณ์เพลงดว้ ยความคดิ
กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์
2. ใชเ้ ทคนคิ ในการบรรเลงดนตรีรวมวงด้วยความคดิ
สร้างสรรค์
3. กระบวนการ 1. วางแผนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมร่วมกับสมาชกิ ในกลุม่
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็น 2. ใหค้ วามรว่ มมือกบั สมาชกิ ในกลุ่ม
กลมุ่ 3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามหน้าท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4. ชว่ ยเหลือสมาชิกในกล่มุ เพ่ือให้งานสำเรจ็
5. แสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะเก่ยี วกบั การปฏบิ ัติ
กจิ กรรม
คะแนนทไ่ี ด้
คะแนนรวม
ระดบั คุณภาพเฉล่ีย
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ชว่ งคะแนนเฉลี่ย 3 ดีมาก, ดี 2 พอใช้ 1 ควรปรบั ปรงุ
ระดบั คุณภาพ
สรุประดับคุณภาพดา้ นทักษะ/กระบวนการ (เขียนเคร่ืองหมาย ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
หมายเหตุ: การหาระดับคุณภาพเฉล่ียหาได้จากการนำคะแนนท่ีได้ในแต่ละช่องมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนข้อ
จากนน้ั นำระดบั คุณภาพเฉล่ยี มาเทียบกับเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพและสรุปผลการประเมิน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล
ระดบั มัธยมศึกษาปีที่…….หอ้ ง........
คำชแี้ จง ผูส้ อนสังเกตการทำงานของผูเ้ รยี น โดยทำเคร่อื งหมายถกู ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ความเปน็ จริง
พฤตกิ รรม ความสนใจ การมสี ว่ น การรับฟงั การตอบ ความรับผิด รวม
ในการเรยี น รว่ มแสดง ความคิด คำถาม ชอบต่องาน คะแน
ชอ่ื -สกุล ความคิด เห็นของผู้ ท่ีได้รับมอบ
1 210 เหน็ ในการ 210 น
2 อภิปราย อื่น หมาย
3 210 10
4 210 210
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ใหค้ ะแนน 0-4 ถา้ การทำงานน้ันอยใู่ นระดบั ต้องปรับปรงุ
ใหค้ ะแนน 5-7 ถา้ การทำงานน้นั อยใู่ นระดับพอใช้
ให้คะแนน 8-10 ถา้ การทำงานนน้ั อยู่ในระดับดี
ลงชื่อ……………………………………………………
(…………………………………………………..)
ผ้ปู ระเมนิ