The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Tookta Nat Rayanoy, 2023-07-07 02:30:56

แผนความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม

แผนความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม

ค ำอธิบำยรำยวิชำ รหัสวิชำ ว 21101 รำยวิชำ วิทยำศำสตร์1 รำยวิชำ พื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่1 เวลำ 40 ชั่วโมง จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ความส าคัญและความหมายของวิทยาศาสตร์ กระบวนการท างานของ นักวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สมบัติของสารบริสุทธิ์ การจ าแนกสารบริสุทธิ์ โครงสร้างอะตอม การจ าแนกธาตุและการใช้ประโยชน์ เซลล์ โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ การล าเลียง สารเข้าออกเซลล์ การแพร่ การออสโมซิส การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์พืชดอก การสังเคราะห์แสง การล าเลียงน า ธาตุอาหารและอาหารของพืช โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การส ารวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมูลข้อการอภิปราย และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ว 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11, ม.1/12, ม.1/13, ม.1/14, ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18 ว 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8 รวมทั้งหมด 26 ตัวชี้วัด


โครงสร้ำงรำยวิชำ รหัสวิชำ ว 21101 รำยวิชำ วิทยำศำสตร์ 1 รำยวิชำ พื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่1 เวลำ 40 ชั่วโมง จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วยกำร เรียนรู้ มำตรฐำน กำรเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ/ ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน 1 เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ อย่างไร • ความส าคัญและความหมาย ของวิทยาศาสตร์ • กระบวนการท างานของ นักวิทยาศาสตร์ • ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ 4 10 2 สารบริสุทธิ์ ว 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8 • สมบัติของเฉพาะตัวและ สมบัติทางกายภาพของธาตุ แต่ละชนิด • การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่ง โลหะและธาตุกัมมันตรังสี • จุดเดือด จุดหลอมเหลวของ สารบริสุทธิ์และสารผสม • ความหนาแน่นของสาร บริสุทธิ์และสารผสม • โครงสร้างอะตอม ประกอบด้วย โปรตอน นิวตรอนและอิเล็กตรอน 16 15 กลำงภำค 20 3 หน่วยพื นฐาน ของสิ่งมีชีวิต ว 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3,ม.1/4,ม.1/5 • โครงสร้างพื นฐานที่พบทั งใน เซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึม และนิวเคลียส • รูปร่างกับหน้าที่ของเซลล์ 6 10


ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วยกำร เรียนรู้ มำตรฐำน กำรเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ/ ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน • กระบวนการแพร่และ ออสโมซิส 4 การด ารงชีวิต ของพืช ว 1.2 ม.1/6,ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10 ,ม.1/11, ม.1/12, ม.1/13, ม.1/14 , ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18 • กระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสงของพืช • ลักษณะแลละหน้าที่ของ ไซเล็มและโฟลเอ็มของพืช • การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของพืชดอก • การปฏิสนธิของพืชดอก • การถ่ายละอองเรณู • ความส าคัญของธาตุอาหาร บางชนิดที่มีผลต่อการ เจริญเติบโตและการ ด ารงชีวิตของพืช • วิธีการขยายพันธุ์พืช • เทคโนโลยีการเพะเลี ยง เนื อเยื่อพืช 14 15 รวมระหว่ำงภำค 70 ปลำยภำค 30 รวม 100


โครงสร้ำงแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ รหัสวิชา ว 21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ 1 รายวิชา พื นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จ านวน 1.0 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน 1 เรียนรู้วิทยาศาสตร์ อย่างไร 1.ความส าคัญและความหมายของวิทยาศาสตร์ 2 5 2.ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2 5 2 สารบริสุทธิ์ 3.สมบัติของเฉพาะตัวและสมบัติทางกายภาพของธาตุ แต่ละชนิด 4 3 4.การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะและธาตุ กัมมันตรังสี 4 3 5.จุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม 2 3 6.ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม 2 3 7.โครงสร้างอะตอมประกอบด้วย โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน 4 3 กลางภาค 20 3 หน่วยพื นฐานของ สิ่งมีชีวิต 8.โครงสร้างพื นฐานที่พบทั งในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึมและนิวเคลียส 2 4 9.รูปร่างกับหน้าที่ของเซลล์ 2 3 10.กระบวนการแพร่และออสโมซิส 2 3 4 การด ารงชีวิตของ พืช 11.กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช 2 3 12.ลักษณะแลละหน้าที่ของ ไซเล็มและโฟลเอ็มของพืช 2 2 13.การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศของพืช ดอก 2 2 14.การปฏิสนธิของพืชดอก การถ่ายละอองเรณู 2 2 15.ความส าคัญของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผลต่อการ เจริญเติบโตและการด ารงชีวิตของพืช 2 2


16.วิธีการขยายพันธุ์พืช 2 2 17.เทคโนโลยีการเพะเลี ยงเนื อเยื่อพืช 2 2 รวมระหว่างภาค 40 70 ปลายภาค 30 รวม 40 100


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์พื นฐาน (ว21101) ชั นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สารบริสุทธิ์ เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม เวลา 2 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชั น ม.1 วันที่.…….เดือน…………พ.ศ…………. ครูผู้สอน นางสาวปราชญ์วลี บุญคง สำระส ำคัญ สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรคงที่ เป็นค่าเฉพาะของสารนั น ณ สถานะและอุณหภูมิหนึ่งแต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่คงที่ขึ นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ ด้วยกัน สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสมประกอบด้วยสารตั งแต่ 2 ชนิดขึ นไป สารบริสุทธิ์แต่ ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว มีค่าคงที่ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว และความหนาแน่น แต่ สารผสมมีจุดเดือดจุดหลอมเหลว และความหนาแน่นไม่คงที่ขึ นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ ด้วยกัน มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด มำตรฐำน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ม.1/1 อธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของ ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ โดยใช้หลักฐาน เชิงประจักษ์ที่ได้จากการสังเกตและการทดสอบ และใช้สารสนเทศที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมทั งจัดกลุ่ม ธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ ม.1/2 วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสีที่มีต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ม.1/3 ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสีโดยเสนอแนวทาง การ ใช้ธาตุอย่างปลอดภัย คุ้มค่า ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือดจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิเขียน กราฟ แปลความหมายข้อมูลจากกราฟ หรือสารสนเทศ ม.1/5 อธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของ สารบริสุทธิ์และสารผสม ม.1/6 ใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของ สารบริสุทธิ์และสารผสม


จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ควำมรู้ (K) - ผู้เรียนสามารถอธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม ทักษะ/กระบวนกำร/กระบวนกำรคิด (P) - ผู้เรียนสามารถท าการทดลองเพื่อศึกษาการแยกตัวกัน ระหว่าง น ้า น ้ามัน และ กรีเซอรอล - ผู้เรียนสามารถสรุปองค์ความรู้เรื่อง ความหนาแน่นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - ผู้เรียนมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ แสดงความคิดเห็น วางแผนร่วมกัน รับฟังความคิดเห็น สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ Introduction น ำเข้ำสู่เนื้อหำ (20 นำที) ขั้นที่1 สร้ำงควำมสนใจ ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนในคาบที่ผ่านมาว่านักเรียนได้เรียนรู้เรื่องอะไร และเข้าใจเรื่องนั นว่า อย่างไรกระตุ้นให้นักเรียนตอบ ด้วยเทคนิค ออมคะแนน ใครตอบขอให้ได้เกรด 4 ร่วมกันสรุปเนื อหาจาก คาบเรียนที่ผ่านมาสั นๆ ชมเชยให้ก าลังใจเสริมบรรยากาศเชิงบวกนักเรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 คน ตามความสมัคร ใจกระตุ้นความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม สังเกตภาพการแยกชั นของน า 7 สี ตั งค าถามดังนี เหตุใดของเหลวแต่ละชนิดจึงแยกชั นกัน เหตุใดของเหลว บางชนิดอยู่ข้างบน บางชนิดอยู่ด้านล่าง นักเรียนในกลุ่มระดมสมองอภิปรายร่วมกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ น และสุ่มกลุ่มนักเรียนโดยใช้การหมุนวงล้อแห่งการสุ่มหากลุ่มที่ใช่ ใจที่ชอบ จ านวน 2 กลุ่ม น าเสนอจากการ สังเกตว่า เหตุใดของเหลวแต่ละชนิดจึงแยกชั นกัน


Action/Activity กิจกรรมกำรเรียนรู้ (60 นำที) ขั้นที่2 ส ำรวจและค้นหำ 1. ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาใบงานวิธีท ากิจกรรมที่ 1 เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการทดลอง ท าการทดลอง บันทึกผลการทดลอง 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน มาน าเสนอผลการทดลอง โดยใช้เกมส์วงล้อ ในการสุ่ม ขั้นที่3 อธิบำยและลงข้อสรุป 4. หลังจากนั นให้นักเรียนทุกคนร่วมกันอภิปราย ผลการทดลองและค าถามหลังการทดลองจนมีความ เข้าใจที่ตรงกัน ขั้นที่4 ขยำยควำมรู้ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติการทดลอง และสืบค้นข้อมูลจาก อินเทอร์เน็ต 6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในเนื อหา เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจ และให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั น เพื่อจะใช้เป็นความรู้เบื องต้นส าหรับการเรียน ในเนื อหาต่อ ๆ ไปครูให้นักเรียนตอบค าถามตรวจสอบความเข้าใจด้วยโปรแกรม kahoot จ านวน 5 ข้อ 7. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ถาม – ตอบ ค าถามซึ่งกันและกันสะท้อนการเรียนรู้เมื่อมีข้อสงสัย รวมทั ง อภิปรายปัญหาที่ไม่กระจ่างชัด นักเรียนสามารถซักถามครูได้ตลอดเวลาในขณะท ากิจกรรม 8. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมสมองช่วยกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ความหนาแน่น น าไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ าวันอะไรได้บ้างเขียนข้อมูลใส่ในกระดาษโน้ตอย่างน้อยกลุ่มละ 2 ตัวอย่างน าไปติดไว้ที่ บอร์ด ผลงานของฉัน หน้าห้องเรียน Consolidation ประมวลสู่สิ่งที่ได้เรียนรู้ (50 นำที) ขั้นที่5 ประเมิน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเพื่อสร้างองค์ความรู้ สรุปเป็นผังมโนทัศน์ เรื่อง ความหนาแน่น ของสารบริสุทธิ์และสารผสมส่งในคาบต่อไป 2. เปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างองค์ความรู้ สะท้อนการเรียนรู้ น ามาแลกเปลี่ยนรู้กับเพื่อนในกลุ่มและนอกกลุ่มนักเรียนที่สามารถอธิบายและสอนเพื่อนจะได้คะแนนพิเศษ


3. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใดในการทดลองในครั งนี และได้มีการแก้ไขอย่างไรบ้าง เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนในครั งต่อไป 7. สื่อ / แหล่งกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื นฐาน ชั นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 2. ใบงานเรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม 3. ผังมโนทัศน์ เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม 4. สื่อค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต 8. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจผังมโนทัศน์ เรื่อง ความ หนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสาร ผสม สรุปผังมโนทัศน์ เรื่อง ความหนาแน่น ของสารบริสุทธิ์และสารผสม ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล แบบประเมินสังเกตพฤติกรรมการ ท างานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมการท างาน เป็นกลุ่ม แบบประเมินสังเกตพฤติกรรมการ ท างานเป็นกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


บันทึกผลหลังกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................... ..................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................... ..................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................... ..................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ( นางสาวปราชญ์วลี บุญคง ) วันที่………….เดือน……………….พ.ศ…………………..


ใบควำมรู้


ใบควำมรู้


ใบควำมรู้


ใบงำนผังมโนทัศน์


แผนภำพกำรแยกชั้นของน้ ำ 7 สี


วิธีกำรจัดกลุ่มโดยใช้ เกมวงล้อในกำรสุ่ม วัตถุประสงค์ สุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มโดยใช้การหมุนวงล้อแห่งการสุ่ม หากลุ่มที่ใช่ออกมาน าเสนอผลงานของตนเอง โดยนักเรียนทุกคนจะต้องมีการเตรียมตัว หากสุ่มได้ตนเองเองจะต้องออกมาน าเสนอเนื อหาที่เรียน


กำรใช้โปรแกรม Kahoot ส ำหรับช่วยในเรื่องกำรเรียนกำรสอน โปรแกรม Kahoot คือ เกมที่ตอบสนองต่อการเรียนการสอน ช่วยให้นักเรียนสนุกกับการเรียนโดยเป็น เครื่องมือช่วยในการประเมินผล โดยผ่านการตอบค าถาม การอภิปราย หรือการส ารวจความคิดเห็น Kahoot เป็นเกมการเรียนรู้ซึ่งประกอบด้วย ค าถามปรนัย เช่นการตอบค าถาม การอภิปราย หรือการส ารวจ ค าถามจะ แสดงที่จอหน้าชั นเรียนและให้นักเรียนตอบค าถามบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของตนเอง เช่น คอมพิวเตอร์มือ ถือหรือไอแพด ชื่อ-สกุล................................................................. เลขที่.........................ชั น/ห้อง...........................


แบบประเมินผังมโนทัศน์ รายการประเมิน ผลการประเมิน 1. เลือกใช้ผังมโนทัศน์เหมาะสม 1 2 3 4 5 2. ความสวยงามประณีตของผังมโนทัศน์ 3. รายละเอียดเหมาะสม 4. สาระถูกต้อง 5. การสะกดค า เครื่องหมาย การใช้ภาษาถูกต้อง 6. องค์ประกอบของผังมโนทัศน์ครบถ้วนตามที่ก าหนด 7. การน าเสนอข้อมูลดูง่ายน่าสนใจ 8. ข้อมูลที่น าเสนอชัดเจนถูกต้อง เกณฑ์กำรประเมิน 1 = ปรับปรุง 2 = พอใช้ 3 = ปานกลาง 4 = ดี 5 = ดีมาก


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประกำร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้......................................................ภำคเรียนที่...........ปีกำรศึกษำ.............. ชื่อ-สกุลนักเรียน.....................................................................ห้อง..............................เลขที่……. ค ำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ด้ำน รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และบอกความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการ ท างานกับสมาชิกในห้องเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียนและชุมชน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ น ชื่นชมในพระราชกรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะท าความผิด ท าตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และครู


แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) ค ำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้ำน รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 5. อยู่อย่ำงพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในกำร 6.1 มีความตั งใจและพยายามในการท างานที่ได้รับมอบหมาย 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้าน ความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัวและ โรงเรียน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน มีความรับผิดชอบ 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ตั งใจเรียน 4.2 เอาใจใส่ในการเรียน และมีความเพียรพยายามในการเรียน 4.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ 4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่างๆ แหล่งการเรียนรู้ทั งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สื่อได้อย่าง เหมาะสม 4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ 4.6 แลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยวิธีการต่างๆ และน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน


ท ำงำน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส าเร็จ 7. รักควำมเป็นไทย 7.1 มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสำธำรณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท างาน 8.2 อาสาท างาน ช่วยคิด ช่วยท า และแบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่น 8.3 รู้จักการดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั ง ให้ 1 คะแนน


แบบประเมินทักษะกำรแสวงหำข้อมูล รำยงำนกำรสืบค้น กำรศึกษำค้นคว้ำ ชื่อสมาชิกในกลุ่ม(กรณีงานกลุ่ม) 1……………………………………….2……………………………………… 3………………………………………4……………………………………… 5………………………………………6……………………………………… วันที่ประเมิน………………………………………………………… รายการประเมิน คะแนนที่ได้ หมายเหตุ 1 2 3 4 การวางแผนค้นคว้าแหล่งข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดกระท าข้อมูล การน าเสนอ การสรุปผล รวม ระดับคะแนนที่ได้


Click to View FlipBook Version