The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-bookปากบาง-บ่อโชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ณิชวรรณ จันทร์ช่วย, 2023-11-02 02:27:18

E-bookปากบาง-บ่อโชน

E-bookปากบาง-บ่อโชน

แหล่ล่ ล่งล่ ทรัรั รัพรั ยากรภาคใต้สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน าคใต้สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ปากบาง-บ่บ่อ บ่ อ บ่ โชน ที่มที่า : Akbar/pinterest.com875-244 COMMUNITY ECONOMY 1/2566


บทนำ ก ส่วส่นที่ 1 ข้อข้มูลมูทั่วทั่ ไปบ้าบ้นปากบาง-บ่อบ่ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 1 ส่วส่นที่ 2 ทุนทุชุมชุชน กรณีศึกศึษาบ้าบ้นปากบาง-บ่อบ่ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 3 2.1 ทุนทุมนุษย์ 3 2.2 ทุนทุสังสัคม 10 2.3 ทุนทุกายภาพ 17 2.4 ทุนทุธรรมชาติ 20 2.5 ทุนทุการเงิน 22 2.6 ทุนทุวัฒวันธรรม 24 ส่วส่นที่ 3 บทวิเวิคราะห์กห์ารพัฒพันาชุมชุชนปากบาง-บ่อบ่ โชนอย่าย่งยั่งยั่ยืนยื ภายใต้กต้รอบ BCG 28 ส่วส่นที่ 4 บทวิเวิคราะห์กห์ารพัฒพันาชุมชุชนปากบาง-บ่อบ่ โชนอย่าย่งยั่งยั่ยืนยื ภายใต้กต้รอบ SDGs 31 4.1 เป้าหมายที่ 1 32 4.2 เป้าหมายที่ 2 34 4.3 เป้าหมายที่ 3 36 เนื้อ นื้ หา


4.4 เป้าหมายที่ 4 38 4.5 เป้าหมายที่ 5 40 4.6 เป้าหมายที่ 6 41 4.7 เป้าหมายที่ 7 42 4.8 เป้าหมายที่ 8 43 4.9 เป้าหมายที่ 9 44 4.10 เป้าหมายที่ 10 45 4.11 เป้าหมายที่ 11 46 4.12 เป้าหมายที่ 12 47 4.13 เป้าหมายที่ 13 48 4.14 เป้าหมายที่ 14 49 4.15 เป้าหมายที่ 15 50 4.16 เป้าหมายที่ 16 51 4.17 เป้าหมายที่ 17 52 เนื้อ นื้ หา


บทนำ ก เอกสารฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 875-244 เศรษฐกิจชุมชุชน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินริทร์ ปีการศึกษา 1/2566 โดยมีอาจารย์จย์ริยริภัทร รัตรั โณภาส เป็นอาจารย์ผู้ย์ ผู้สอน เอกสารฉบับนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อการศึกษาทุนชุมชุชนของชุมชุชนหมู่ 4 บ้านปากบาง และหมู่ 7 บ้านบ่อ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำ ข้อมูลที่ได้มา วิเคราะห์กห์ารพัฒนาอย่าย่งยั่งยั่ยืนยืภายใต้กรอบ BCG และ SDGs ได้ดำ เนิน การจัดเก็บข้อมูลในช่วช่งเดือนสิงหาคม - ตุลาคม พ.ศ. 2566 ทั้งนี้การ ลงพื้นที่ศึกษาชุมชุชนสำ เร็จร็ลุล่วงได้ด้วยความอนุเคราะห์ช่ห์วช่ยเหลือในการ ลงพื้นที่และให้ข้ห้ ข้อมูลโดยสมาชิกชิ “เครือรืข่ายนักรบผ้าถุงถุ” เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหาทั้งหมด 4 ส่วน คือ ข้อมูลทั่วไป บ้านปากบาง-บ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ข้อมูลทุนชุมชุชน บท วิเคราะห์กห์ารพัฒนาชุมชุชนปากบาง-บ่อโชนอย่าย่งยั่งยั่ยืนยืภายใต้กรอบ BCG และกรอบแนวคิด SDGs ทางคณะผู้จัดทำ ขอขอบคุณ คุณศุภวรรณ ชนะสงคราม สมาชิกชิ “เครือรืข่ายนักรบผ้าถุงถุ” และบุคลากรในชุมชุชนบ้านปากบาง-บ่อโชน ต.สะ กอม อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ได้ให้คห้วามร่วร่มมือในการเก็บข้อมูลกับคณะผู้จัด ทำ และขอขอบคุณอาจารย์จย์ริยริภัทร รัตรั โณภาส ที่ให้คห้วามช่วช่ยเหลือและ คำ แนะนำ ในการจัดทำ เอกสารฉบับนี้ ขอบคุณผู้บริหริารคณะเศรษฐศาสตร์ที่ร์ ที่ให้คห้วามอนุเคราะห์ให์นการ อนุมัติงบประมาณเพื่อสนับสนุนผู้เรียรีนได้เรียรีนรู้ใรู้นชุมชุชน คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่าย่งยิ่งยิ่ว่าเอกสารฉบับนี้จะให้คห้วามรู้แรู้ละเป็น ประโยชน์แก่ผู้สนใจ หากมีส่วนหนึ่งส่วนใดมีข้อบกพร่อร่ง ผิดพลาด ผู้จัด ทำ ยินยิดีน้อมรับรั ฟังทุกๆ ความเห็นห็ คณะผู้จัดทำ


หมู่บ้านเริ่มก่อตั้งเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในอดีต มีเพียงหมู่บ้านปากบางและประกอบไปด้วยครัวเรือนเพียง 10 ครัว เรือนเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีจำ นวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ทำ ให้เกิดการแยก ตัวเพื่อก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ในระแวกใกล้เคียงอีกหนึ่งหมู่บ้าน ก็คือหมู่บ้าน บ่อโชนซึ่งปัจจุบัน หมู่บ้านปากบางมีจำ นวนครัวเรือน 350 ครัวเรือน และหมู่บ้านบ่อโชนมีจำ นวนครัวเรือน 160 ครัวเรือน ในอดีตคนในชุมชน มี 2 ศาสนา และ 2 เชื้อชาติ โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านนับถือถืศาสนาอิสลาม มีชาวบ้านที่นับถือถืศาสนาพุทธเป็นส่วนน้อย และมีชาวบ้านเชื้อสายจีนที่ นับถือถืศาสนาพุทธอีกด้วย ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำ อาชีพประมงเป็นหลัก มี การทำ การเกษตรและปศุสัตว์และมีการค้าขายสินค้ากันเองภายใชุมชน ในปี พ.ศ. 2540 มีการขุดลอกคลองปากบางให้ลึกขึ้นเพื่อให้สะดวกใน การออกเรือรวมไปถึงถึการสร้างเขื่อนกันคลื่นทรายและการทำ ประมง ชายฝั่งโดยกรมเจ้าท่าเป็นผู้ดูแล ในปี พ.ศ. 2542 คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบให้เริ่มโครงการก่อสร้างท่อส่งและโรงงานแยกก๊าซเพื่อเชื่อม จากไทยไปยังมาเลเซีย ซึ่งโครงการนี้มีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบ ต่อคนในพื้นที่ ข้ข้อข้ข้มูมูล มู ล มู ทั่ทั่ว ทั่ ว ทั่ ไปบ้บ้าบ้บ้นปากบาง-บ่บ่อบ่บ่ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 1 1


โดยต่อมามีการทำ ประชาพิจารณ์ในปี พ.ศ. 2543 ก่อให้เกิด การชุมนุมคัดค้านรวมถึงถึการสลายการชุมนุม และภายในชุมชนเริ่มมี การกัดเซาะของชายฝั่งเกิดขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างเขื่อนกัน คลื่นทราย ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการดำ เนินฟื้นฟูชายฝั่งที่ถูกถู กัดเซาะ ส่วนโรงงานดังกล่าวได้ก่อตั้งสำ เร็จและเปิดดำ เนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2546 โดยที่ชุมชนไม่มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นแม้แต่น้อย ต่อมาผลกระทบที่เกิดจากโรงงานดังกล่าวคือ มีการปล่อยน้ำ เสียลง คลองนาทับ ซึ่งคลองแต่ละสายเชื่อมกันทำ ให้น้ำ เสียนั้นไหลวนและส่ง ผลกระทบต่อชาวบ้านหมู่ 4 และหมู่ 7 ของตำ บลสะกอม รวมไปถึงถึ หมู่บ้านอื่นที่อยู่ในบริเวณคลองที่มีการปล่อยน้ำ เสียต่อมาในปี พ.ศ. 2562 ได้มีมติให้ขยายโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่ง อนาคต ผลสืบเนื่องจากโครงการดังกล่าวทำ ให้ ในปี พ.ศ. 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประกาศให้อำ เภอจะนะเป็นเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจ ส่งผลให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวบ้านเพื่อเดินทาง มาเจรจากับภาครัฐโดยมีความเห็นว่าควรยุติโครงการเมืองต้นแบบ นิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เพราะเล็งเห็นถึงถึ ปัญหาว่าจะ เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของทั้งอำ เภอจะนะ และผลกระทบ โดยตรงต่อการประกอบอาชีพประมงรวมไปถึงถึการใช้ชีวิตที่ล้วนผูก ติดอยู่กับสายน้ำ และทะเลของชาวบ้าน เพราะชาวบ้านได้เปรียบทะเล เป็นเสมือนหม้อข้าวหม้อแกงของชุมชน 2


2 กรณีศึณีกศึษาบ้าบ้นปากบาง-บ่อบ่ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา คุณสมบัติ ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และความสามารถต่าง ๆ ที่มนุษย์มีอยู่ภายในตัว ซึ่งสร้างมาจากการศึกษา การอบรม การ เรียนรู้ และประสบการณ์ในชีวิตประจำ วัน ในแง่หนึ่งแล้ว ทุนมนุษย์ สามารถมองเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สำ คัญและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ บุคคลและสังคมได้เช่นกัน เพราะความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของ บุคคลสามารถนำ มาใช้ในการทำ งาน สร้างผลผลิต และสร้างมูลค่าให้ กับองค์กร และสังคมอย่างไร้ขีดจำ กัด จากการสัมภาษณ์คนในชุมชนบ้านบ่อโชน พบว่า ชุมชนท้องถิ่นถิ่ แห่งนี้มีทุนมนุษย์ที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนในการจัดการตนเองเพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ตามสถานภาพและโครงสร้างทาง สังคม ประกอบด้วย ทุทุน ทุ น ทุ ชุชุม ชุ ม ชุ ชน 2.1 ทุนมนุษย์ (Human Capital) 3


กลุ่มลุ่ชาวประมง กลุ่มลุ่เย็บย็อวน, ถักถัอวน กลุ่มลุ่ค้าค้ขาย กลุ่มลุ่หมอชาว บ้าบ้น (หมองูปัด, หมอกระดูกดู , และหมอเริมริ ), ผู้ทำผู้ ทำพิธีพิกธีรรมทางศาสนา เช่นช่ การอาบน้ำ ศพ เป็นป็ต้นต้กลุ่มลุ่เกษตรกร (ผลไม้แม้ละสวนยาง) เช่นช่คนที่ไที่ ป สัมสัภาษณ์ ได้แด้ก่ คุณคุจูเจูดช ประกอบอาชีพชี ประมง โดยการใช้อช้วนแบบใย แมงมุมมุซึ่งซึ่ ในปัจจุบัจุนบัจูเจูดชมีอมีายุมยุากแล้วล้ลูกลูหลานจึงจึอยากให้จูห้เจูดชพักพัจาก การทำ ประมงแล้วล้ ให้ลูห้กลูหลานเป็นป็ผู้ทำผู้ ทำประมงแทน และ คุณคุอภิญญา ผกา เพชร (นิโลมา) ประกอบอาชีพชีแม่บ้ม่าบ้นและช่วช่ยสามีทำมีทำอาชีพชี ประมง ในอดีตดีนิ โลมาออกเรือรืทำ ประมงร่วร่มกับสามี แต่ใต่นปัจจุบัจุนบันิโลมาอายุมยุากขึ้นจึงจึ ไม่ไม่ด้ ออกเรือรืทำ ประมงกับสามี และนิโลมา ได้เด้ข้าร่วร่มโครงการอาหารปันรักรั อาหารที่นิที่ นิโลมาทำ ส่งส่ โครงการอาหารปันรักรัเช่นช่แกงเนื้อปูใปูบ ชะพลู จ้อจ้ ปู ขนมจีบจี ปู เนื่องจากเกิดโรคระบาดโควิดวิ-19 ทำ ให้ชห้าวบ้าบ้นในชุมชุชนส่งส่ออกปู ไม่ไม่ด้ นิโลมาจึงจึ ไปซื้อซื้ ปูที่ปูชที่าวบ้าบ้นได้มด้านำ มาแกะเนื้อมาแช่แช่ข็งเอาไว้ เพื่อพื่ช่วช่ย เหลือลืชาวบ้าบ้นที่อที่อกเรือรื ได้มีด้รมีายได้ กลุ่มลุ่ชาวประมง กลุ่มลุ่เย็บย็อวน,ถักถัอวน 1. ปราชญ์ชาวบ้าน กลุ่มลุ่ค้าค้ขาย ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน กลุ่มลุ่ค้าค้ขาย ที่มา: คณะผู้จัดทำ 4


คุณสุไหลขอ โต๊ะมุสอ (มะขอ) เป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่บ้านที่ มีความรู้ และเป็นผู้ที่จัดการในการอาบน้ำ ศพ จากการที่คุณแม่ของ มะขอเคยทำ หน้าที่นี้มาก่อน โดยมีมะขอเป็นผู้ช่วยจึงทำ ให้ได้เห็นและ ลองทำ จนทำ ให้มีประสบการณ์ ในปัจจุบันมะขอได้ทำ หน้าที่อาบน้ำ ศพร่วมกับคนในหมู่บ้านอีก 1 คน โดยมะขอจะรับผิดชอบในส่วน ของผู้หญิง รวมไปถึงถึคุณนิสากร นุ้ยประสิทธิ (นิหยาด) ประกอบ อาชีพจ้างคนกรีดยาง ในเมื่อ 20 ปีก่อน นิหยาดเข้าร่วมการ คัดค้านโครงการโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย โดยปี พ.ศ. 2543 นิ หยาดได้แต่งงานและเปลี่ยนมาประกอบอาชีพทำ ประมง และท่าเรือ ในปัจจุบันประกอบอาชีพจ้างคนกรีดยางเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสามีมีปัญหาด้านสุขภาพ และนิหยาดยังเป็นหนึ่งในสมาชิก ของกลุ่มนักรบผ้าถุงถุ , Savechana และกลุ่มอาหารปันรักในช่วง Covid-19 โดยในกลุ่มนักรบผ้าถุงถุนิหยาดทำ หน้าที่ประชาสัมพันธ์ และเป็นแอดมินเพจ รวมถึงถึ ได้เข้าร่วมกิจกรรมในการต่อต้านการ สร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จะนะ ผู้ทำผู้ ทำพิธีพิอธีาบน้ำ ศพ ทางศาสนา สมาชิกชิกลุ่มลุ่อาหารปันปัรักรั คุณคุสุไสุหลขอ โต๊ะต๊มุสมุอ (มะขอ) คุณคุนิสนิากร นุ้ยนุ้ ประสิทสิธิ (นิหนิยาด) ที่มา: คณะผู้จัดทำ 5


มีตำ แหน่งในชุมชนดังนี้คือ บาบอหรือโต๊ะครู, โต๊ะอิหม่าม, โต๊ะคอเต็บ, โต๊ะบีลา, กรรมการมัสยิด, ครูสอนอัลกุรอาน และครูสอนศาสนา เช่น คนที่ ไปสัมภาษณ์ ได้แก่ คุณจูเดช เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการมัสยิดที่ ทำ หน้าที่สอนศาสนา ให้ความรู้แก่คนในชุมชน และคอยให้คำ ปรึกษาแก่ คนในชุมชนอย่างเสมอซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับคนในหมู่บ้าน เพราะเป็น คนเก่าคนแก่ในชุมชนที่ทุกคนต่างให้ความเคารพนับถือถืและคุณไวนี สะอุ (ครูเฉม) เป็นโต๊ะครูของชุมชน เป็นครูชำ นาญการที่ทำ หน้าที่สอนหนังสือ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงถึชั้นประถมศึกษา ใช้วิธีกธีารสอนแบบดั้งเดิม คือ การ ศึกษาในระบบนี้จะเน้นหนักในเรื่องศาสนา โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนศรัทธาต่อ อัลลอฮ์ ด้วยความบริสุทธิ์ใธิ์จ และนำ ศาสนามาเป็นวิถีแถีห่งการดำ เนินชีวิต ซึ่งจะสอนให้นักเรียนรู้จักการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกถูต้องตามหลัก ศาสนาอิสลาม ต้องเป็นไปตามข้อบังคับตามหลักศาสดา 1,400 ปี หลักคำ สอน 30 ช่วง 114 บท และการสอนของครูเฉมไม่ได้รับค่าตอบแทน เป็นการสอนด้วยจิตอาสา และเป็นกรรมการมัสยิดอีกด้วย 2. ผู้นำผู้ นำทางศาสนา และจิตจิวิญวิญาณ ผู้ช่ผู้วช่ยผู้ใผู้หญ่บ้ญ่าบ้น และกรรมการมัสมัยิดยิ โต๊ะต๊ครู และกรรมการมัสมัยิดยิ คุณคุจูเจูดช คุณคุไวนี สะอุ (ครูเรูฉน) ที่มา: คณะผู้จัดทำ 6


คุณโซเฟีย (มะโซเฟีย) เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในหลักการ อ่านอัลกุรอาน มะโซเฟียเปิดสอนอัลกรุอ่านให้กับสมาชิกเพศหญิงของ ชุมชน โดยเริ่มสอนในช่วงเวลาหลังละหมาดซุฮรี และก่อนเวลาละหมาดอัส รีของทุกวัน (ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. - 16.00 น.) เปิดสอนโดยผู้ เรียนไม่มีค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน ถือถืเป็นการสอนที่หวังผลบุญ และผล ตอบแทนจากพระเจ้า สามารถสร้างความสัมพันธ์ ความสามัคคี และช่วย เหลือซึ่งกันและกันภายในชุมชน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำ ให้มะโซเฟียเปิดสอนผ่าน Online โดยใช้ แอปพลิเคชัน LINE ในการ สร้างกลุ่มเพื่อสอนอัลกรุอานให้กับสมาชิกในชุมชน และบุคคลใกล้ชิด ต่อ มาทำ ให้การสอนของมะโซเฟียเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนมีลูกศิษย์จากพื้นที่อื่น ๆ มากมาย เช่น ผู้คนมูอัลลัฟจากกรุงเทพฯ และนักเรียนจากจังหวัด ยะลา เป็นต้น ครูสรูอนอัลอักุรกุอาน คุณคุโซเฟีย (มะโซเฟีย) ที่มา: คณะผู้จัดทำ 7


3. ผู้นำ ฝ่ายท้องที่ ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสา สมัครสาธารณสุขประจำ หมู่บ้าน (อสม.) เช่น คนที่ไปสัมภาษณ์ คุณ อภิญญา ผกาเพชร (นิโลมา) เป็นหนึ่งในเครือข่ายนักรบผ้าถุงถุจะนะ กลุ่มsavechana ซึ่งในกลุ่มนักรบผ้าถุงถุนิโลมาเป็นหนึ่งในแกนนำ ที่ต่อ ต้านการสร้างอุตสาหกรรมที่จะนะ จากการเข้าร่วมคัดค้านในครั้งนั้น นิโลมาได้ถูกถูดำ เนินคดีทางกฎหมาย และนิโลมาได้ตกเป็นผู้ต้องหา ลำ ดับที่ 1 ซึ่งในปัจจุบันศาลได้ยกฟ้องให้กับนิโลมาและกลุ่มนักรบ ผ้าถุงถุทั้งหมด และ คุณสุไหลขอ โต๊ะมุสอ (มะขอ) เคยเข้าร่วมอบรมชุด รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่บ้าน ต่อมาถอนตัวจากการฝึก อบรม เนื่องจากมะขอคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับการฝึกอบรม เช่น การ ยิงปืน การฝึกรบ ต่อมามะขอได้เป็น อสม.ชุมชนได้ประมาณ 30 ปี โดยภายในชุมชนมี อสม. จำ นวน 16 คน มีการแบ่งครัวเรือนกันในการ ดูแลรับผิดชอบ โดยมะขอรับผิดชอบจำ นวน 15 ครัวเรือน ดูแลผู้ป่วย ติดตามเรื่องยา อาหาร ควบคุมดูแลโรคที่ไม่ติดต่อ รวมไปถึงถึคุณนิ สากร นุ้ยประสิทธิ (นิหยาด) เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนักรบผ้าถุงถุ , Savechana และกลุ่มอาหารปันรักในช่วง Covid-19 ซึ่งในกลุ่ม นักรบผ้าถุงถุนิหยาดจะทําหน้าที่ประชาสัมพันธ์ อีกทั้งกลุ่มนักรบผ้าถุงถุ ได้เข้าร่วมกิจกรรมในการต่อต้านการสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จะนะ และจากการเข้าร่วมการคัดค้านในครั้งนั้น นิหยาดถูกถูดําเนินคดีทาง กฎหมาย และตกเป็นผู้ต้องหาลําดับที่ 2 ซึ่งในปัจจุบันศาลยกฟ้องให้ กับนิหยาดและกลุ่มนักรบผ้าถุงถุทั้งหมด คุณอภิญญา ผกาเพชร (นิโลมา) อดีตดี ชุดรักษาความปลอดภัย หมู่บ้าน ชรบ.อสม.ชุมชน คุณสุไหลขอ โต๊ะมุสอ (มะขอ) คุณนิสากร นุ้ยประสิทธิ (นิหยาด) สมาชิกกลุ่มนักรบ ผ้าถุง/Savechana สมาชิกกลุ่มนักรบ ผ้าถุง/Savechana ที่มา: คณะผู้จัดทำ 8


4. ภาคเอกชน นายทุน (เถ้าถ้แก่คุณ) ทำ หน้าที่เป็นนายทุนให้ชาวบ้านได้กู้ยืมเงินเพื่อนำ ไปลงทุนในการ ประกอบอาชีพภายในชุมชน รวมถึงถึมีการจ้างให้ชาวบ้านออกเรือทำ ให้ คนในชุมชนมีงานทำ และมีรายได้ กลุ่มลุ่ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน กลุ่มลุ่ค้าค้ขาย กลุ่มชาวประมง ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน ชาวบ้าบ้นในชุมชุชน ที่มา: คณะผู้จัดทำ 9


จากการสัมภาษณ์คนในชุมชุชนสะกอมทำ ให้ทราบว่าทุนสังคมใน ชุมชุชนนั้นประชากรส่วนใหญ่นับถือถืศาสนาอิสลาม มีศาสนาเป็นที่ยึด เหนี่ยวจิตใจของคนภายในสังคม ซึ่งซึ่ส่วนใหญ่วิถีชีถีวิชี วิต และความเชื่อชื่จะ ตามหลักคำ สอนของศาสนาอิสลาม อีกทั้งยังมีการผสมผสานระหว่าง วิถีชีถีวิชี วิตของคนที่นับศาสนาพุทธ และวัฒนธรรมของภาคใต้ เช่นช่รำ มโนราห์ ซึ่งซึ่คนส่วนใหญ่ให้ความสำ คัญกับวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก กลุ่มส็อกแส็ก เกิดจากการรวมตัวของคนในชุมชุชนทั้งกลุ่มที่ทำ ส็ อกแส็ก และกลุ่มที่ไม่ได้ทำ ส็อกแส็ก ที่ช่วช่ยกันเอาสิ่งสกปรก พวกเศษ ต่าง ๆ ที่ติดอวนมา เศษหอย หรือจะเป็นปูที่เขาไม่ต้องการไม่มีราคา กลุ่ม นี้จะช่วช่ยกันเคลียเศษสิ่งของต่างๆออกเพื่อออกเรือในวันใหม่เขาจะได้เอา อวนออกไปใช้งช้าน เขาเลยใช้คช้นจำ นวนมากในการเคลียร์ เพราะอวนค่อน ข้างใหญ่ และมีจำ นวนเยอะ อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการส็อกแส็ก ที่ แสดงให้เห็นถึงถึอาชีพชี ประมงพื้นบ้านในจะนะ ยังมีการออกแบบส็อกแส็ก เป็นโมบาย เพื่อสร้าง “เสียง” ภายในนิทรรศการที่เกิดจากการเรียงร้อย ของเปลือกหอยและวัสดุเหลือทิ้ง จากการทำ ประมงพื้นบ้าน พร้อมเวิร์ค ชอปการปลดเศษหอย เศษปูจากอวนประมงของจริง เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ เข้าใจถึงถึกระบวนการส่วนหนึ่งที่เปรียบเสมือน เรื่องหลังบ้านของการทำ ประมงพื้นบ้าน ซึ่งซึ่ชุมชุชนได้นำ ผลงานของกลุ่มส็อกแส็กนี้ไปเผยแพร่ต่อ สาธารณะ อย่างเช่นช่งานปักษ์ใต้ดีไซน์วีค เครือข่ายนักรบผ้าถุงถุจะนะได้ มีการเผยแพร่เกี่ยวการทำ โมบาย การทำ แฮน่าจากเทียน การแปรรูป เป็นกระถางจากเปลือกหอย เป็นต้น และการทำ อาชีพชีส็อกแส็กยังถือถื เป็นการสร้างอาชีพชีสำ หรับคนในหมู่บ้านที่ไม่มีเรือ กรณีตัวอย่าง ชาว บ้านที่เป็นผู้หญิงในชุมชุชนนี้อายุ 50 ปี มีอาชีพชี ปลดส็อกแส็กสามารถ เลี้ยงพ่อของตนเองที่ป่วยติดเตียงได้ จึงเห็นได้ว่าการทำ อาชีพชีส็อกแส็ กนั้นสามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเปราะบางได้ 2.2 ทุนสังคม (Social Capital) 10


กลุ่มธนาคารปู บ้านบ่อโชน การจัดตั้งธนาคารปูม้าเป็นแนวคิดของเครือข่ายชาวประมง โดยมีบังโซ่ะ และบังหมัดเป็นคนเริ่มตั้งธนาคารปูเมื่อปี พ.ศ. 2558 - 2559 โดยมีแนวคิดที่ ว่า “เปรียบทะเลเป็นธนาคาร ถ้าถ้เราจะไปถอนอย่างเดียว(จับปู)ไม่ได้ ต้องมีการ ฝากบ้างถึงถึจะเกิดความสมดุลของธรรมชาติ” จึงได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ธนาคารปูที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเรียนรู้วิธีกธีารขยายพันธ์ุปูธ์ุปูม้า จึงนำ สิ่งที่ได้ศึกษามาถ่าถ่ยทอดให้แก่คนในชุมชนโดยการรวมตัวกันของคนในชุมชน ที่ต้องการอนุรักษ์พันธุ์ปูธุ์ ปูเอาแม่ปูมาขยายพันธ์ุ เพาะฟักลูกปูจนกว่าจะถึงถึปู วัยอ่อนที่พร้อมคืนสู่ทะเล โดยมีกระบวนการเพาะพันธุ์ปูธุ์ ปูม้า คือจับปูม้าวัยสาว ที่มีไข่ส้ม - น้ำ ตาล (ไข่แก่) มาเขี่ยไข่ออกใส่กะละมังหรือถังถัที่เตรียมน้ำ ทะเล และออกซิเจนไว้ แล้วรอให้ปูฟักไข่เป็นปูตัวเล็ก จากนั้นชาวบ้านสังเกตน้ำ ทะเล ว่ามีความเค็มที่พอดีต่อการปล่อย ไม่มีน้ำ จืดผสมมากเกินไปก็สามารถเอาปู ตัวเล็กไปปล่อยสู่ทะเลได้ สิ่งนี้เองที่จะช่วยให้คนในชุมชนได้พึ่งพาทำ การ ประมงเลี้ยงชีพกันต่อไป จึงทำ ให้เกิดองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นถิ่ขึ้น ได้ขึ้น ทะเบียนกับรัฐกับวิสาหกิจชุมชน ที่ชื่อว่า “ธนาคารปูม้า” ทั้งนี้ความร่วมมือ ของคนในชุมชนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจร่วมกันฟื้นฟู และอนุรักษ์พันธุ์ปูธุ์ ปูให้กลับ มามีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ และยั่งยืนต่อไป ที่มา: กลุ่มธนาคารปู (2565) 11


เครือข่ายนักรบผ้าถุงที่เป็นแกนนำ ปกป้องสิทธิของชุมชนจะนะ ที่มาของการเกิดเครือข่ายนักรบผ้าถุงถุจะนะนี้นั้น เกิดจากการเข้ามา ของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ได้มีการถามความคิดเห็นของประชาชน ภายในพื้นที่มาประกอบการจัดทำ โครงการ อีกทั้งวัตถุปถุระสงค์ของการ รวมตัวกันของคนภายในชุมชนสำ หรับการจัดตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมา คือ เพื่อ อนุรักษ์ท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์และธรรมชาติที่สวยงามไว้ให้แก่ลูกหลาน รวมไปถึงถึเพื่อตระหนักสำ นึกในการปกป้องบ้านเกิดจากการสร้างนิคอุตสา หกรรม และวัตถุปถุระสงค์ที่สำ คัญอีกประการ คือ การถ่าถ่ยทอดข้อมูล ความรู้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ผลกระทบ และความต้องการของกลุ่มให้กับ บุคคลภายนอกไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ให้รับรู้ถึงถึข้อมูลที่แท้ จริง ขาดการบิดเบือนข้อมูลจากที่อื่น เช่น การรวมตัวกันและเข้าชุมนุม เพื่อคัดค้านการสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จะนะ ซึ่งหากดำ เนินโครงการ ข้างต้นเสร็จสิ้น จะทำ ให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ประกอบอาชีพประมงได้รับผลก ระทบอย่างหนัก โดยในปัจจุบันการสร้างนิคมอุตสาหกรรมได้ถูกถูชะลอการ สร้าง เพื่อจัดทำ SEA หรือ การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ ที่มา: THE STANDARD TEAM (2566) 12


ที่มที่าของการทำ โครงการอาหารปันรักรัมาจากการที่ชที่าวบ้าบ้นในชุมชุชน ประกอบอาชีพชี ประมงพื้นพื้บ้าบ้นเป็นป็หลักลัซึ่งซึ่วัตวัถุดิถุบดิที่ไที่ด้มด้าจากการประกอบ อาชีพชีนั้นในบางครั้งรั้ก็นำ มาแจกจ่าจ่ยกันเองชในหมู่บ้มู่ าบ้นไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็วัตวัถุดิถุบดิสด หรือรือาหารที่ปที่รุงรุพร้อร้มทานแล้วล้การแจกจ่าจ่ยอาหารกันสะท้อท้นให้เห้ห็นห็ถึงถึความ สัมสัพันพัธ์ที่ธ์ดีที่ ใดีนชุมชุชน คนในชุมชุชนมีกมีารช่วช่ยเหลือลืเอื้ออื้เฟื้อฟื้กัน และอีกอีอย่าย่งหนึ่งที่ สะท้อท้นให้เห้ห็นห็ว่าว่ทุกทุ ๆคนมีคมีวามเข้มแข็งเป็นป็หนึ่งเดียดีวกันก็คือคืคิดคิว่าว่ทุกทุคนใน ชุมชุชนเป็นป็พี่น้พี่ น้องเป็นป็ญาติกัติ กัน จึงจึมีกมีารช่วช่ยเหลือลืกัน จนทำ ให้เห้กิดเป็นป็ โครงการ อาหารปันรักรั ในช่วช่งโควิดวิที่ผ่ที่าผ่นโครงการอาหารปันรักรัมีกมีารช่วช่ยเหลือลืผู้ที่ผู้ ไที่ด้รัด้บรั ผลกระทบโดยการแจกจ่าจ่ยอาหาร ยกตัวตัอย่าย่งเช่นช่การส่งส่อาหารไปช่วช่ยเหลือลืที่ สลัมลัคลองเตย กาส่งส่อาหารไปให้กัห้ กับพี่น้พี่ น้องชาวมุสมุลิมลิที่อที่ยู่ใยู่นหาดใหญ่ และใน ช่วช่งโควิดวินั้นโครงการอาหารปันรักรัยังยัมีกมีารขายของที่แที่ ปรรูปรูมาจากวัตวัถุดิถุบดิ ทะเล เช่นช่จ้อจ้ ปู ขนมจีบจี ปู เพราะในช่วช่งโควิดวิชาวบ้าบ้นไม่สม่ามารถที่จที่ะส่งส่ออกปูไปูด้ ราคาปูตปูกต่ำ ลง จึงจึมีกมีารช่วช่ยเหลือลืกันในชุมชุชนโดยการซื้อซื้ ปูมปูาแปรรูปรูเพื่อพื่ ให้ ชาวบ้าบ้นมีรมีายได้ และสามารถดำ รงชีวิชีตวิต่อต่ ไปได้ ในวิกวิฤติโติรคระบาดเช่นช่นี้สะท้อท้น ให้เห้ห็นห็ว่าว่แม้ว่ม้าว่ชาวบ้าบ้นจะมีคมีวามเดือดืดร้อร้นเรื่อรื่งรายได้ใด้นการขายวัตวัถุดิถุบดิที่หที่า มาได้จด้ากการทำ ประมง แต่ชต่าวบ้าบ้นไม่เม่คยเดือดืนร้อร้นเรื่อรื่งปากท้อท้ง เพราะมีแมีหล่งล่ อาหาร แหล่งล่ทรัพรัยากรที่มีที่คมีวามสมบูรบูณ์ กลุ่มอาหารปันรัก ที่มา: Thai PBS (2559) 13


‘’ศาสนา” ประชากรโดยส่วส่นใหญ่มีกมีารนับถือถืศาสนาอิสอิลาม โดยศาสนาจะ เป็นป็ที่ยึที่ดยึเหนี่ยวจิตจิ ใจของคนในสังสัคม ทำ ให้วิห้ถีวิชีถีวิชีตวิของคนในชุมชุชนจะมีศมีาสนา เข้ามาเกี่ยวข้องหรือรืเป็นป็ส่วส่นหนึ่งในการดำ เนินชีวิชีตวิ ประจำ วันวัเช่นช่ ในช่วช่งเดือดืน รอมฎอนจะมีกมีารถือถืศีลศีอดเป็นป็ ประจำ อย่าย่งทุกทุปี เมื่อมื่ถึงถึช่วช่งฮารีรรีายอจะมีกมีาร ทำ ขนมแจกจ่าจ่ยให้คห้นในครอบครัวรัรวมไปถึงถึคนในหมู่บ้มู่ าบ้นหรือรืผู้อื่ผู้ นอื่ที่แที่วะเวียวีน มา เนื่องจากคนในชุมชุชนนั้นมีกมีารช่วช่ยเหลือลืซึ่งซึ่กันและกัน ดูแดูลเหมือมืนครอบครัวรั เดียดีวกัน จึงจึมีกมีารต้อต้นรับรัที่ดีที่อดียู่เยู่สมอ มีกมีารเชิญชิชวนทำ บุญบุบริจริาคเงินเพื่อพื่ สร้าร้งหรือรืซ่อซ่มแซมกุโบร์หร์รือรืมัสมัยิดยิภายในหมู่บ้ มู่ าน หรือรื ในทุกทุ ๆ วันวัศุกศุร์จร์ะมีกมีาร รวมกลุ่มลุ่กัน เพื่อพื่ ไปละหมาดเศาะลาตุญตุมุอมุะฮ์ที่ฮ์มัที่สมัยิดยิ ประจำ หมู่บ้มู่ าบ้น หลังลัจาก การละหมาดเสร็จร็แล้วล้จะเป็นป็เวลาที่คที่นในชุมชุชนจะการพูดพูคุยคุประชุมชุชี้แชี้จง หารือรื ถึงถึปัญหาหรือรืเรื่อรื่งราวต่าต่ง ๆ ให้ทห้ราบโดยทั่วทั่กัน เพื่อพื่เป็นป็การขอความเห็นห็หรือรื รับรั ฟังฟั ปัญหา และรับรัทราบแนวทางในการปฏิบัฏิติบัเติพื่อพื่ ให้สัห้งสัคมนั้นเกิดความสงบ สุขสุหรือรืลดการปัญหาในชุมชุชนได้ ละหมาดพร้อร้มกันกัทุกทุวันวัศุกร์ เป็นข้อปฏิบัติของเพศชาย เรียรีนหลักศาสนาและ “ฮัลกุรกุอาน” เรียนพร้อมสายสามัญ และมีการสอนเพิ่มเติมในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่มา: กลุ่มธนาคารปู (2565) 14


‘’ประมง” ชุมชุชนมีพื้นที่ติดกับทะเล จึงทำ ให้การประกอบอาชีพชี โดยส่วน ใหญ่คือการทำ ประมงพื้นบ้าน และเป็นอาชีพชีที่หลักที่มีการทำ และสืบทอดมา ตั้งแต่อดีตจนถึงถึปัจจุบัน เกิดเป็นความรู้ และภูมิปัญญาในการดูว่าจะสามารถ ออกเรือได้หรือไม่นั้นสังเกตได้จากทิศทางลม กระแสน้ำ สภาพอากาศ การดู ดาวก่อนที่จะออกทะเล หรือการทำ เครื่องมืออุปกรณ์เพื่อใช้ใช้นการจับสัตว์น้ำ ที่ มีการสร้าง คิดค้นขึ้นมา และยังสามารถใช้ไช้ด้ในปัจจุบัน เช่นช่การทำ อวน ใน การจับปลาหรือปูที่ใช้ขช้นาดต่างกัน เป็นการทำ อวนเส้นใยแมงมุมเพื่อให้ได้ ขนาดมาตรฐานและป้องกันการจับสัตว์ที่มีขนาดเล็กหรือปูที่อยู่ในช่วช่งวางไข่ เพื่อให้สามารถขยายพันธุ์ต่ธุ์ต่อไปในอนาคต แต่ละครอบครัวจะมีการแบ่งหน้าที่ รับผิดชอบในการทำ งาน เช่นช่การทำ อวนไว้ใช้จัช้ จับสัตว์น้ำ การลากอวนสาวอวน การแกะปลา และปูจากอวนที่จับมาได้ เป็นต้น โดยการทำ ประมงภายในชุมชุชนจะ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การประมงชายฝั่ง ซึ่งซึ่เป็นการใช้เช้รือลำ เล็กหรือเรือของ ตนเองในการทำ ประมง และการประมงพาณิชย์ ซึ่งซึ่จะเป็นการใช้เช้รือลำ ใหญ่หรือ เป็นเรือของเถ้าถ้แก่ในการทำ ประมง และสัตว์น้ำ ที่จับได้นั้นจะมีการถูกถูคัดแยก แบ่งประเภทเพื่อเตรียมส่งนำ ขายต่อไป ถือถืเป็นการสร้างรายได้สร้างอาชีพชี ให้ กับคนในชุมชุชนจากการทำ ประมงพื้นบ้าน 15


16 ความอุดอุมสมบูรบูณ์ทางทะเลมาจากฝีมือมืของกลุ่มลุ่ดูแดูลทรัพรัยากรธรรมชาติ ในนามของเครือรืข่ายจะนะรักรัษ์ถิ่นถิ่สมาชิกชิ ในเครือรืข่ายคือคืคนในอำ เภอจะนะ ประกอบไปด้วด้ย 3 ตำ บล 3 หมู่บ้มู่ าบ้นในอำ เภอจะนะ คือคืนาทับทัตลิ่งลิ่ชันชัและสะกอม ช่วช่งปี พ.ศ. 2557 ที่ไที่ด้เด้ริ่มริ่การอนุรักรัษ์ท้อท้งทะเลให้เห้หมาะสมกับว่าว่ ‘สมบูรบูณ์’ โดย มีกิมี กิจกรรมที่ช่ที่วช่ยฟื้นฟื้ ฟูทฟูรัพรัยากร ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็การสำ รวจ เก็บข้อมูลมูสร้าร้ง โครงการธนาคารปู ปลูกลูบ้าบ้นให้ปห้ลา และทำ กันเรื่อรื่ยมาจนทุกทุวันวันี้จึงจึส่งส่ผลให้ ระบบนิเวศในท้อท้งทะเลจะนะได้รัด้บรัการฟื้นฟื้ ฟูแฟูละดีขึ้ดี ขึ้นเรื่อรื่ย ๆ ‘ทะเลเหมือมืนตู้ ATM’ คำ เปรียรีบเปรยบจากบังบันีที่จที่ะบอกเราว่าว่อยากไปเบิกบิอาหารเมื่อมื่ ไหร่ก็ร่ ก็ได้ แต่ สำ หรับรัเราพี่น้พี่ น้องชาวจะนะไม่ใม่ช่แช่ค่เค่บิกบิออกเท่าท่นั้น พวกเขายังยัคอยสร้าร้ง และ ฝากกลับลัเข้าไปให้ ATM นี้ยั่งยั่ยืนยืต่อต่ ไป สำ หรับรัพี่น้พี่ น้องชาวจะนะ ‘ธรรมชาติ’ติคง เป็นป็มากกว่าว่ความผูกผูพันพัธ์ ไม่ใม่ช่แช่ค่อค่ยู่ด้ยู่วด้ยกันมานาน ไม่ใม่ช่แช่ค่ต้ค่อต้งการผลผลิตลิ หรือรืเป็นป็ช่อช่งทางหารายได้เด้ท่าท่นั้น แต่พี่ต่น้พี่ น้องชาวจะนะเลือลืกที่จที่ะดูแดูล ฟื้นฟื้ ฟู อนุรักรัษ์ และคอยเติมติเต็มต็คำ ว่าว่ ‘อุดอุมสมบูรบูณ์’ กลับลัคืนคืสู่ธสู่รรมชาติเติสมอ


โครงสร้าร้งพื้นพื้ฐานหรือรืสิ่งสิ่อำ นวยความสะดวกที่เที่กิดจากความร่วร่ม มือมืของภาครัฐรัและประชาชนเพื่อพื่ตอบสนองความต้อต้งการ และเอื้ออื้ต่อต่ การดำ รงชีพชีของคนในชุมชุชน ซึ่งซึ่ก่อให้เห้กิดมูลมูค่าค่ทางเศรษฐกิจของชุมชุชน หมู่ 4 ปากบาง และหมู่ 7 บ่อบ่ โชน ตำ บลสะกอม อำ เภอจะนะ จังจัหวัดวัสงขลา ทุนทุกายภาพ พื้นพื้ที่บ้ที่าบ้นปากบาง-บ่อบ่ โชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา จากข้อมูลมูตำ บลสะกอมมีเมีนื้อที่ทั้ที่งทั้หมด 29.42 ตารางกิโลเมตรหรือรื 18,386.65 ไร่ โดยจากการสัมสัภาษณ์นายนัฐพงศ์ หมะหวังวัเอียอีด สมาชิกชิ สภา องค์กค์ารบริหริารส่วส่นตำ บลสะกอม หมู่ที่มู่ ที่ 4 เมื่อมื่วันวัที่ 2 สิงสิหาคม พ.ศ. 2566 พบว่าว่ชุมชุชนปากบางและบ่อบ่ โชนมีทุมีนทุกายภาพ ดังดันี้ 2.3 ทุนกายภาพ (Physical Capital) แผนที่บ้ที่าบ้นบ่อบ่ โชน ม.7 และบ้าบ้นปากบาง ม.4 ตำ บลสะกอม อำ เภอจะนะ จังจัหวัดวัสงขลา ที่มา: แผนที่ภูมิประเทศ กรมแผนที่ทหาร 17


การคมนาคม ถนนคอนกรีตรีถนนลูกลูรังรัและถนนลาดยางภายในหมู่บ้มู่ าบ้นเชื่อชื่มต่อต่ กันทุกทุหมู่บ้มู่ าบ้น ท่าท่เรือรื ประมงพื้นพื้บ้าบ้น จำ นวน 2 แห่งห่หมู่ที่มู่ ที่ 4 และหมู่ที่มู่ ที่ 7 เป็นป็สถาน ที่จที่อดเรือรื ประมงมงพื้นพื้บ้าบ้น และจำ หน่ายผลผลิตลิจากทะเล ประเภทเรือรืที่ใที่ช้ใช้นการประมง มี 3 ประเภท คือคืเรือรืท้าท้ยตัดตั, เรือรืพาย และเรือรื ประมงพาณิชย์ขย์นาดกลาง การไฟฟ้า ตำ บลสะกอมได้รัด้บรัการบริกริารไฟฟ้าฟ้จากการไฟฟ้าฟ้ส่วส่นภูมิภมิาค อำ เภอจะนะ การประปา ชุมชุชนหมู่ 4 ปากบาง และหมู่ 7 บ่อบ่ โชน มีจำมีจำนวนการประปาที่ลที่ะ 1 แห่งห่ ระบบเศรษฐกิจ ประชากรหมู่ 4 และหมู่ 7 ส่วส่นใหญ่ประกอบอาชีพชี ประมง เพราะเป็นป็ พื้นพื้ที่ติที่ดติทะเลอ่าอ่วไทย และรองลงมา เป็นป็การประกอบอาชีพชีเกษตรกรรม ได้แด้ก่ ทำ นา สวนยางพารา สวนมะพร้าร้ว สวนผลไม้แม้ละสวนผักผัสวนครัวรั รวมไปถึงถึการเลี้ยลี้งสัตสัว์เว์พื่อพื่บริโริภคภายในครัวรัเรือรืน เช่นช่เป็ดป็ ไก่ แพะพื้นพื้ เมือมืง และวัววัเป็นป็ต้นต้ 18


โรงเรียรีนบ้าบ้นบ่อบ่ โชน สถาบันบัหรือรืองค์กค์รทางศาสนา หมู่ 4 บ้าบ้นปากบาง มีมัมีสมัยิดยิ 1 แห่งห่คือคืมัสมัยิดยิสอลลาหุดหุดีนดีซึ่งซึ่ อยู่ติยู่ดติกับศูนศูย์อย์บรมเด็กด็ก่อนเกณฑ์ ประจำ มัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดีและมีกุมีกุ โบว์ จำ นวน 1 แห่งห่ตั้งตั้อยู่รยู่ะหว่าว่งมัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดีกับตลาดนัดใต้ขต้าม หมู่ 7 บ่อบ่ โชน มีมัมีสมัยิดยิ 1 แห่งห่คือคืมัสมัยิดยิบ้าบ้นบ่อบ่ โชน อยู่ห่ยู่าห่งกับ โรงเรียรีนบ้าบ้นบ่อบ่ โชนเป็นป็ระยะทาง 550 เมตร สถาบันบัการศึกศึษา หมู่ที่มู่ ที่ 4 บ้าบ้นปากบาง ประกอบด้วด้ย 1. โรงเรียรีนบ้าบ้นปากบาง ซึ่งซึ่อยู่ห่ยู่าห่งกับมัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดี 350 เมตร 2. ศูนศูย์กย์ารศึกศึษาอิสอิลามประจำ มัสมัยิดยิ (ตาดีกดีา) สอลาหุดหุดีนดี 3. ศูนศูย์อย์บรมเด็กด็ก่อนเกณฑ์ประจำ มัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดี หมู่ที่มู่ ที่ 7 บ้าบ้นบ่อบ่ โชน ประกอบด้วด้ย 1. 2. ศูนศูย์กย์ารศึกศึษาอิสอิลามประจำ มัสมัยิดยิ (ตาดีกดีา) 3. ศูนศูย์พัย์ฒพันาเด็กด็เล็กล็บ้าบ้นบ่อบ่ โชน หมู่ที่มู่ ที่ 7 4. ศูนศูย์กย์ารศึกศึษานอกระบบฯ ตำ บลสะกอม หมู่ที่มู่ ที่ 7 สถานที่อื่ ที่ น อื่ ๆ เพิ่มพิ่เติมติ ตลาดนัดใต้ขต้าม ซึ่งซึ่เป็นป็จุดจุรวมตัวตัของประชาชนในหมู่บ้มู่ าบ้น และตลาดนัดคูแคูซ ร้าร้นน้ำ ชานิเขียว อยู่ใยู่กล้กัล้ กับธนาคารปูปปูากบาง ธนาคารปูมีปูหมีมู่บ้มู่ าบ้นละ 1 แห่งห่คือคืหมู่ 4 ธนาคารปูปปูากบาง และ หมู่ 7 ธนาคารปูบ้ปูาบ้นบ่อบ่ โชน หาดบ่อบ่ โชน เขื่อนกันทรายและคลื่นลื่ (jetty) สร้าร้งขึ้นเพื่อพื่ ป้องกันการตกตะกอน อย่าย่งรวดเร็วร็ของตะกอนที่พัที่ดพัมา กับแม่น้ำม่ น้ำ ในบริเริวณปากแม่น้ำม่ น้ำ ลานSAVECHANA ห่าห่งกับมัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดี 260 เมตร มหาวิทวิยาลัยลัชาวบ้าบ้นลานหอยเสียสีบ 19


‘’ทุนธรรมชาติ” พื้นที่บ้านปากบาง - บ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลาจากการสำ รวจและการสัมภาษณ์คนในชุมชุชน เพื่อศึกษาทุน ธรรมชาติของชุมชุชนบ้านปากบาง หมู่ที่ 4 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา โดยจะเป็นการสัมภาษณ์รายบุคคล เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ผลจากการสำ รวจและการสัมภาษณ์พบว่า ชุมชุชนบ้านปากบาง หมู่ที่ 4 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา มีทุนทางธรรมชาติที่หลากหลาย เพราะมีที่ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล มีภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ตัวอย่างทุน ธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชุชนปากบางคือ คลองสะกอมซึ่งซึ่เป็นคลองน้ำ กร่อยมีพื้นที่ตั้งแต่ทางทิศเหนือจนถึงถึทิศใต้ของชุมชุชน มีระยะทางรวม ประมาณ 5.25 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแม่น้ำ คดเคี้ยว เป็นแหล่งหาราย ได้ของผู้คนในชุมชุชน เนื่องจากมีสัตว์น้ำ ให้จับมาประกอบอาหารและ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชุชน โดยเฉพาะปลา กุ้ง และปู มีทะเลที่อยู่ ทางทิศเหนือติดกับอ่าวไทยที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลที่มากมาย และมีความหลากหลาย แผนที่มุมสูงของชุมชนบ้านปากบาง องค์ประกอบทางกายภาพที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือ หมายถึงถึทรัพยากรธรรมชาติที่ชุมชนสามารถนำ ไปต่อยอดให้เกิด ประโยชน์ ด้วยการนำ องค์ความรู้ที่มีมาสร้างวิถีชีถีชีวิตที่ก่อให้เกิดการ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนก่อเกิดรายได้ที่สามารถเลี้ยงชีพได้ และ นอกจากนี้ทุนธรรมชาติยังหมายถึกถึารเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้มี ความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป 2.4 ทุนธรรมชาติ (Natural Capital) ที่มา: Google map (2566) 20


ทำ ให้เกิดการสร้างอาชีพ และสร้างรายได้จากทะเล จนเกิดเป็นวิถีชีถีชีวิต ของผู้คนในชุมชน มีหาดทรายที่ชื่อว่า “หาดบ่อโชน” ตั้งอยู่ทางทิศ เหนือของหมู่บ้านเป็นแนวทอดยาวจากแนวกั้นคลื่นที่คลองไทยระยะ ทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทำ ให้เกิดเป็นสถานที่ไว้จอดเรือ และหา อาหารทะเลของผู้คนในชุมชนมีป่าชายหาดตั้งอยู่ทางทิศเหนือทอด ยาวตามชายหาดประมาณ 1 กิโลเมตร มีต้นมะพร้าวที่กระจายอยู่ทั่ว หมู่บ้านทำ ให้เกิดการจ้างงานเก็บลูกมะพร้าวขึ้น และมีอากาศบริสุทธ์ มากขึ้นหลังจากมีการต่อต้านโรงงานอุตสาหกรรม สัตว์น้ำ ที่จับได้จาก ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็น ปลาจะระเม็ด ปูม้า กุ้งลาย ปูดำ ปลากด ปลาดดุกคัง ปลากระบอก หมึกคางคก หมึกค้างคาว กุ้งแชบ๊วย เป็นต้น ยังมีอีกหลากหลายชนิด โดยสามารถพบกุ้งได้ 23 ชนิด หอย 60 ชนิด ปู 31 ชนิด หมึก13 ชนิด และปลา 20 ชนิด ชาวบ้านและหน่วย งานภาครัฐก็ได้ทำ การปล่อยพันธ์สัตว์ทะเลเพื่อขยายจำ นวนสัตว์ ทะเลเป็นการฟื้นฟูทุนธรรมชาติของชุมชนไปในตัว นอกจากนั้นยังมี ทุนธรรมชาติในเขตตำ บลที่สร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านในชุมชน เช่น ภูเขา และป่าไม้ ที่คนในชุนชนได้ออกไปหาของป่า สมุนไพร มาใช้ ประโยชน์และสร้างรายได้ รวมถึงถึลำ ธารที่คนในชุมชนใช้หาปลาไหล เพื่อนำ มาประกอบอาหาร และสร้างรายได้ เป็นต้น ตัวอย่างทุนธรรมชาติของชุมชน ที่มา: คณะผู้จัดทำ (2566) 21


2.5 ทุนการเงิน (Financial Capital) 22 ทุนทุที่เที่ ป็นป็เงินตราที่ไที่ด้มด้าจาก การเก็บออมของชุมชุชน ซึ่งซึ่จะมีทุมีนทุที่เที่ ป็นป็ ส่วส่นกลาง เช่นช่กองทุนทุหมู่บ้มู่ าบ้น และทุนทุที่เที่ ป็นป็จากกลุ่มลุ่ต่าต่ง ๆ ในชุมชุชน ที่ เป็นป็กลุ่มลุ่กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่นช่กลุ่มลุ่อาชีพชีต่าต่ง ๆ โดยทุนทุการเงินจะ ใช้เช้พื่อพื่ตอบสนองความต้อต้งการของคน ในชุมชุชน เช่นช่การประกอบอาชีพชี การใช้ทำช้ทำกิจกรรมต่าต่ง ๆ ภายในชุมชุชน ใช้ใช้นการดำ รงชีวิชีตวิ ประจำ วันวัเมื่อมื่ ชาวบ้าบ้นไม่มีม่เมีงิน เป็นป็ต้นต้และทุนทุการเงินเป็นป็ ปัจจัยจัที่เที่กื้อหนุนในการจัดจัการ ชุมชุชน เพื่อพื่การพัฒพันาที่ยั่ที่งยั่ยืนยืทุนทุการเงินที่พที่บมีด้มีวด้ยกันดังดันี้ เครือรืข่าข่ยนักรบผ้าผ้ถุงถุจะนะ มีวั มีตถุปถุระสงค์ คือคืต้อต้งการอนุรักรัษ์ท้อท้ง ทะเลอันอัอุดอุมสมบูรบูณ์ และธรรมชาติที่ติสที่วยงามไว้ใว้ห้ลูห้กลูหลาน เพราะวิถีวิ ถี ชีวิชีตวิที่แที่สนเรียรีบง่าย ของชาวบ้าบ้นจะนะล้วล้นสอดคล้อล้งกับทะเลและผืนผืดินดิ อำ เภอจะนะ สมาชิกชิส่วส่นมากเป็นป็ผู้หผู้ ญิงอายุ 60-70 ปี ที่ลุที่กลุขึ้นมาปกป้อง บ้าบ้นเกิดของตัวตัเอง โดยการต่อต่ต้าต้นการสร้าร้งนิคมอุตอุสาหกรรมจะนะ กลุ่มลุ่องค์กค์รผู้ใผู้หญ่บ้าบ้น เก็บเงินจากสมาชิกชิเดือดืนละ 100 บาท เพื่อพื่ นำ เงินมาจัดจัทำ ศพ ศพละ 1000 บาท ปีนึง 60 - 70 คน ซึ่งซึ่เป็นป็ทุนทุการ เงิน เพื่อพื่ ใช้ใช้นการทำ กิจกรรมภายในหมู่บ้มู่ าบ้น กลุ่มลุ่ ญานะสะ เก็บเงิน 80 บาทต่อต่ครัวรัเรือรืน เพื่อพื่ช่วช่ยเหลือลืซึ่งซึ่กันและ กัน ซึ่งซึ่เป็นป็ทุนทุการเงินที่ใที่ช้เช้พื่อพื่เป็นป็แหล่งล่เงินทุนทุให้ชห้าวบ้าบ้นใช้ใช้นการดำ รง ชีวิชีตวิ ประจำ วันวั ธนาคารปู เป็นป็ โครงการในพื้นพื้ที่บ้ที่าบ้นบ่อบ่ โชน ตำ บลสะกอม อำ เภอจะนะ จังจัหวัดวัสงขลา มีอมียู่ด้ยู่วด้ยกัน 3 จุดจุอยู่ใยู่นพื้นพื้ที่หที่มู่ที่มู่ ที่ 7 จำ นวน 2 จุดจุส่วส่น อีกอีจุดจุอยู่ใยู่นพื้นพื้ที่หที่มู่ที่มู่ ที่ 4 โดยชาวบ้าบ้นจะแบ่งบ่หน้าที่กัที่ กันรับรัผิดผิชอบดูแดูล เพื่อพื่ ให้บห้รรลุตลุามวัตวัถุปถุระสงค์หค์ลักลัคือคืเพิ่มพิ่จำ นวนปูทปูะเลให้มีห้จำมีจำนวนเพิ่มพิ่มาก ขึ้นโดยเฉพาะตามบริเริวณแนวชายฝั่งทะเล ชาวประมงพื้นพื้บ้าบ้นจะได้ได้ม่ ต้อต้งออกเรือรื ไปหากินไกลจากหมู่บ้มู่ าบ้น อันอัจะช่วช่ยลดต้นต้ทุนทุในการทำ ประมง ได้ โดยเป็นป็ทุนทุการเงินที่ช่ที่วช่ยเหลือลืชาวบ้าบ้นในการประกอบอาชีพชีและยังยัมี การเลี้ยลี้งปูทปูะเลตามแนวชายฝั่ง โดยจะเป็นป็การปล่อล่ยปูทปูะเลลงริมริคลอง


การทำ วงแชร์ร่ร์วร่มกัน เป็นป็การส่งส่เงิน รวมเข้าเป็นป็ทุนทุกองกลาง เป็นป็ งวด ๆ เพื่อพื่ ให้สห้มาชิกชิวงแชร์หร์มุนมุเวียวีนกันรับรัทุนทุกองกลางแต่ลต่ะงวดนั้นไป โดยจะไม่มีม่ดมีอกเบี้ยบี้เป็นป็ทุนทุการเงิน เพื่อพื่เป็นป็แหล่งล่เงินทุนทุสำ หรับรัการ กิจกรรมต่าต่ง ๆ และการประกอบอาชีพชีของคนในชุมชุชน กองทุนทุประมง บริเริวณหมู่บ้มู่ าบ้นบ่อบ่ โชน มีกมีารจดทะเบียบีนเป็นป็วิสวิาหกิจ ชุมชุชน ช่วช่ยในการซ่อซ่มบำ รุงรุเรือรืและอาจมีกมีารระดมทุนทุเพื่อพื่การประกอบ อาชีพชีของคนในชุมชุชน และมีกมีรมประมงช่วช่ยเหลือลื ในการให้พัห้นพัธ์ปธ์ลากับ คนในหมู่บ้มู่ าบ้น โดยให้ปีห้ ปีละ 1 ครั้งรั้ โดยชาวบ้าบ้นจะนำ มาเลี้ยลี้งเอง และเมื่อมื่ โต เต็มต็วัยวัชาวบ้าบ้นจะนำ มาแลกกันหรือรืบางส่วส่นนำ ไปขายเป็นป็รายได้ใด้ห้กัห้ กับ ตนเอง กลุ่มลุ่อาหารปันปัรักรัมีกมีารขายอาหาร และมีกิมี กิจกรรมอาหารปันรักรัทัวทัร์ โดยเปิดรับรักลุ่มลุ่นักท่อท่งเที่ยที่ว เป็นป็การท่อท่งเที่ยที่วเชิงชินิเวศ เยี่ยยี่มชมที่มที่า ของอาหารทะเลซึ่งซึ่เป็นป็ทรัพรัยากรหลักลั ในพื้นพื้ที่ และมีกมีารแบ่งบ่ ปัน อาหาร คุณคุภาพดีใดีห้ผู้ห้บผู้ ริโริภค เป็นป็วัตวัถุดิถุบดิสดใหม่จม่ากทะเล นำ ไปขายให้คห้นในเมือมืง ได้กิด้ กินอาหารทะเลที่สที่ดใหม่ และสื่อสื่ถึงถึความอุดอุมสมบูรบูณ์ของอำ เภอจะนะ ส่วส่นใหญ่เป็นป็อาหารตามฤดูกดูาล รายได้หด้ลังลัหักหัค่าค่ต้นต้ทุนทุต่าต่งๆจะนำ ไปเข้า ในเงินกองทุนทุช่วช่ยเหลือลืเช่นช่กลุ่มลุ่นักรบผ้าผ้ถุงถุและมหาวิทวิยาลัยลัชาวบ้าบ้น ลานหอยเสียสีบ มหาวิทวิยาลัยลั ชาวบ้าบ้นลานหอยเสียสีบ ตั้งตั้อยู่ริยู่มริชายทะเลในพื้นพื้ที่ตำที่ตำบล ตลิ่งลิ่ชันชัหมู่ที่มู่ ที่ 2 และหมู่ที่มู่ ที่ 8 ตลอดไปจนถึงถึชายหาดทะเล ในพื้นพื้ที่ตำที่ตำบลสะ กอม เป็นป็ที่ตั้ที่งตั้ของศูนศูย์คัย์ดคัค้าค้นโครงการท่อท่ส่งส่ก๊าซและโรงแยกก๊าซ ธรรมชาติไติทย - มาเลเซียซีที่ทที่างกลุ่มลุ่คัดคัค้าค้นปักหลักลั ในการต่อต่สู้ เดิมดิ บริเริวณนี้เป็นป็จุดจุขึ้นของแนวท่อท่ส่งส่ก๊าซจากทะเลอ่าอ่วไทยขึ้นบนบก กิจกรรมงานเลี้ย ลี้ งน้ำ ชา เป็นป็กิจกรรมของกลุ่มลุ่นักรบผ้าผ้ถุงถุเป็นป็การ ระดมเงินจากภายนอก และภายใน เพื่อพื่เป็นป็ ประโยชน์กับชุมชุชน กิจกรรม ส็อส็กแส็กส็ที่มีที่มมีาตั้งตั้แต่ใต่นอดีตดีคือคือาชีพชีของกลุ่มลุ่เปราะบาง ที่สที่ามารถเป็นป็ อาชีพชีเลี้ยลี้งคนกลุ่มลุ่เปราะบางได้ นอกเหนือจากกลุ่มลุ่ที่กที่ล่าล่วมา ยังยัมีกมีาร รวมกลุ่มลุ่แบบชั่วชั่คราว เพื่อพื่รวมเงินกันสร้าร้งมัสมัยิดยิ โรงเรียรีน รวมไปถึงถึ ช่วช่ยเหลือลืผู้ปผู้ ระสบอุบัอุติบัเติหตุภตุายในหมู่บ้มู่ าบ้น 23


ทุนวัฒนธรรม พื้นที่ปากบาง - บ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา จากการสัมภาษณ์นางน่าดิย๊ะ มะเสาะ นางสะปิน๊ะ สังข์แก้ว และ นางนิเสาเด๊าะ ได้ให้ข้อมูลว่าทุนวัฒนธรรมในตำ บลสะกอม อำ เภอจะนะ จังหวัดสงขลา สามารถแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการแต่งกาย เนื่องจากตำ บลอำ เภอจะนะเป็นสังคมที่นับถือถืศาสนาอิสลามเป็นส่วน ใหญ่ดังนั้นการแต่งกายจึงต้องให้ถูกถูกับหลักปฏิบัติของศาสนา คือ เพศ หญิงจะต้องคลุมผ้าคลุมผมหรือเรียกว่า “ฮีญาบ” และต้องแต่งกาย ปกปิดร่างกาย อย่างมิดชิดชิห้ามแต่งกายด้วยชุดชุรัดรูปเป็นต้น และใน ส่วนของการแต่งกายของเพศชายนั้นจะต้องแต่งกายปกปิด ร่างกายให้ มิดชิดชิอย่างเพศหญิงเช่นช่เดียวกันแต่ต่างกันตรงที่ผู้ชายไม่ต้องใส่ ฮิญา บนั่นเอง 2. ด้านภาษา “ภาษาถิ่นถิ่สะกอม” เป็นภาษาถิ่นถิ่ที่ไว้ใช้สื่ช้ สื่อสารกันในชุมชุชนโดยเป็นภาษาที่ เป็นเอกลักษณ์แตกต่างไปจากภาษาไทยถิ่นถิ่ ใต้ และภาษามลายูปัตตานี เพราะมีคำ ศัพท์เฉพาะถิ่นถิ่ของตนเองโดยเฉพาะคำ ศัพท์ และสำ เนียง การพูดโดยผู้พูดภาษาถิ่นถิ่สะกอมจะใช้เช้สียงดังเนื่องจากต้องพูดสู้ เสียงทะเลไม่สุภาพนุ่มนวล และพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งซึ่ลักษณะอัน เป็นเอกลักษณ์ คือ จะเป็นคำ ที่มีสองพยางค์และไม่นิยมตัดคำ เหมือน ภาษาไทยถิ่นถิ่ ใต้ทั่วไป มีการเติมเสียงพยางค์หน้า และยังมีการเรียงคำ สับที่เป็นภาษาถิ่นถิ่ ใต้ทั่วไป เช่นช่บะจี๋น หมายถึงถึดีปลีในภาษาใต้ และพริก ในภาษากลางเป็นต้น และที่สำ คัญภาษาถิ่นถิ่สะกอมได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ในปี พ.ศ. 2556 ผลผลิตลิทางวัฒวันธรรมทั้งทั้ที่จัที่บจัต้อต้งได้แด้ละจับจัต้อต้งไม่ไม่ด้ทุด้นทุทาง วัฒวันธรรมที่จัที่บจัต้อต้งได้ ได้แด้ก่ โบราณสถานมรดกทางวัฒวันธรรม และผล งานศิลศิ ปะแขนงต่าต่ง ๆ เช่นช่ภาพวาด หัตหัถกรรม ดนตรี ภาพยนตร์แร์ละ วรรณกรรม เป็นป็ต้นต้ซึ่งซึ่เป็นป็สิ่งสิ่ที่วัที่ดวัมูลมูค่าค่เป็นป็ตัวตัเงินได้ใด้นขณะที่ ทุนทุทาง วัฒวันธรรมที่จัที่บจัต้อต้งไม่ไม่ด้ ได้แด้ก่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี จารีตรีวิถีวิชีถีวิชีตวิ ความเชื่อชื่และแนวทางปฏิบัฏิติบั ติเป็นป็ต้นต้ 2.6 ทุนวัฒนธรรม (Cultural Cital) 24


ทุนวัฒนธรรมด้านการแต่งกาย ที่มา: คณะผู้จัดทำ (2566) 25 3. ด้าด้นประเพณี และวัฒวันธรรม คนในสังสัคมจะนับถือถืศาสนาอิสอิลามเป็นป็ส่วส่นใหญ่ดังดันั้นจึงจึมีปมีระเพณี และวัฒวันธรรมที่สที่อดคล้อล้งกันในทางศาสนาอิสอิลามไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ ประเพณี การถือถืศีลศีอดวันวัฮารีรรีายอวันวัอาชูรชูอหรือรืวันวัทำ บุญบุกุโบร์ และทำ บุญบุงาน เมาลิดลิซึ่งซึ่รายละเอียอีดของวัฒวันธรรมประเพณีต่าต่งๆมีดัมีงดันี้ การถือถืศีลศี อดจะจัดจัทำ ปีละ 1 ครั้งรั้ ในเดือดืนรอมฎอน โดยจะเริ่มริ่ถือถืตั้งตั้แต่เต่วลาละ หมาดศุบศุฮิ (ประมาณตี 5 – 6 โมงเช้าช้) ถึงถึเวลาละหมาด มัฆมัริบริ (ประมาณ 6 โมงเย็นย็– 1 ทุ่มทุ่ ) และจะมีกมีารนำ อาหารและขนมมาแจกจ่าจ่ยกันภายใน ชุมชุชน วันวัฮารีรรีายอเป็นป็วันวัที่ชที่าวมุสมุลิมลิมารวมตัวตักัน เพื่อพื่ ประกอบ พิธีพิกธีรรมทางศาสนาโดยพร้อร้มเพรียรีงกัน ได้จด้ะมีกมีารพบปะสังสัสรรค์กัค์ กับ เพื่อพื่น ญาติพี่ติน้พี่ น้องเพื่อพื่ขออภัย ซึ่งซึ่กันและกัน ซึ่งซึ่ช่วช่งเวลาในรอบ 1 ปี ของชาวมุสมุลิมลิจะมีวัมีนวัฮารีรรีายอ 2 ครั้งรั้บรรยากาศในชุมชุชนจะมีกมีาร สังสัสรรค์ โดยการเชือชืดวัววัและทำ อาหารเลี้ยลี้งกันภายในชุมชุชน และเต็มต็ ไป ด้วด้ยเสียสีงหัวหัเราะ และความสุขสุที่เที่ต็มต็เปี่ยมวันวัอาชูรชูออ์หอ์รือรืวันวัทำ บุญบุกุโบร์ เป็นป็วันวั ไว้อว้าลัยลั ให้กัห้ กับคนที่ ล่วล่งลับลั ไปแล้วล้ โดยมีกมีารทำ บุญบุกุโบร์ และให้ลูห้กลู หลานไปทำ ความสะอาดกุโบร์ขร์องบรรพบุรุบุษรุของตน นอกจากนั้นยังยัมี การทำ ขนมที่เที่รียรีกว่าว่ “อาซูรซูอ” แจกกันภายในชุมชุชน และสุดสุท้าท้ยการ ทำ บุญบุงานเมาลิดลิซึ่งซึ่เป็นป็พิธีพิวัธีนวัเกิดของศาสดามุฮัมุมฮัมัดมั โดยจัดจั ในเดือดืน เราะบีอุบีลอุเอาวัลวัคือคืเดือดืนที่สที่ามในปฏิทิฏินทิอิสอิลาม ในส่วส่นของประเพณี ที่ทที่างขุมชนได้จัด้ดจัเป็นป็ ประเพณีของชุมชุชนเอง ได้แด้ก่ ประเพณีอะโบ๊ยบ๊ม๊าม๊ คือคื ประเพณีการแข่งแห่เห่รือรืนั่นเอง


4. ด้าด้นอาหาร ในชุมชุชนจะมีอมีาหารที่เที่ ป็นป็เอกลักลัษณ์ คือคื “ข้าวดอกราย” โดยวัตวัถุดิถุบดิ ส่วส่นใหญ่จะหาได้จด้ากภายในชุมชุชน ได้แด้ก่ ตะไคร้ หอมแดง พริกริสด เคย(กะปิ) เนื้อปลาต้มต้ ใช้ปช้ลาอะไรก็ได้ และข้าว นอกจากนี้ยังยัมีอมีาหาร พื้นพื้บ้าบ้น เช่นช่ข้าวต้มต้กะทิ ข้าวยำ บูดูบู ดูขนมซูรซูอ(ขนมสำ หรับรัแจกจ่าจ่ยใน วันวัอาซูรซูอ) กะปิสะกอม ปลาเค็มค็ ฝังทราย ลาแซ (ขนมจีนจีอิสอิลาม) เป็นป็ต้นต้ ที่มา: องค์กรบริหารส่วนตำ บลท่าอิฐ (2563) ที่มา: เนชั่นออนไลน์ (2565) ทุนวัฒนธรรมด้านอาหารของชุมชนปากบาง ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ทุนวัฒนธรรมด้านศาสนาของชุมชนปากบาง ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 26


5. ด้านศาสนา เนื่องจากว่าอำ เภอจะนะมีการนับถือถืศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ในทุกๆ วันศุกร์จึงมีการรวมตัวกันละหมาดทั้งชายและหญิงหากเพศชายขาด ละหมาด 3 ครั้งขึ้นไปจะมีการลงโทษตามกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นกันภายใน ชุมชุชน แต่ปัจจุบันได้ลดหย่อนบทลงโทษลงมาแล้ว ในส่วนของการสอน หนังสือทางศาสนา หรือเรียกว่า “ตะริกะห์” จะเรียนไปพร้อมกับการเรียน การสอนทางสายสามัญ โดยปัจจุบันเด็ก ๆ ในชุมชุชนสามารถเข้าถึงถึการ ศึกษาได้ทุกคน นอกจากนี้ในทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะมีการสอน หนังสือทางศาสนาที่เรียกว่า “อัลกุรอ่าน” ที่มัสยิดให้กับเด็ก ๆ ในชุมชุชน ด้วยเช่นช่กัน 6. ด้านอาชีพ และภูมิปัญญา อำ เภอจะนะมีภูมิศาสตร์อยู่ติดชายฝั่งทะเล ดังนั้นอาชีพชีของคนในชุมชุชน จะเกี่ยวกับการประมง ทั้งอาชีพชีการทำ อวนการออกเรือไปจับสัตว์ทะเล เป็นต้นนอกจากนี้การทำ ประมงยังสร้างภูมิปัญญาชาวบ้านที่เป็น เอกลักษณ์ให้กับชุมชุชนได้แก่ “วิชาฟังเสียงปลา” หรือ “ดูหลำ ” คือ การดำ ลงไปใต้น้ำ เพื่อฟังเสียงปลา และดูว่าปลารวมกลุ่มกันมากอยู่บริเวณไหน เช่นช่ ปลาแป้น ปลาจวด เป็นต้น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่หาดูได้ยากจนทำ ให้นัก บันทึกเสียงใต้นำ จากทั่วโลกลงพื้นที่มาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในศาสตร์ การฟังเสียงปลาด้วยเช่นช่กัน ที่มา: คณะผู้จัดทำ และ FERRY ADVAICE (2560) ทุนวัฒนธรรม ด้านอาชีพของชุมชนบ้านปากบาง ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 27


28 BCG Economy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และ เศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy) คือ โมเดล เศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแนวคิดการนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไป ยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่าง ยั่งยืนให้กับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) ได้แก่ อุตสาหกรรม เกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานและวัสดุ อุตสาหกรรม สุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและบริการ ซึ่ง BCG Model แบ่งได้เป็น 3 เศรษฐกิจหลัก 3 BCG การพั พัฒนาอย่ย่าย่ย่งยั่ยั่ง ยั่ ง ยั่ ยืยืนยืยืภายใต้ต้กต้ต้รอบ


เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พบว่ากิจกรรม ที่มีความสอดคล้องกับ มีดังนี้ 1) ส็อกแส็ก คือการปลดเศษหอย และเศษปูรวมถึงถึสิ่งต่างๆที่ติดมากับอวนประมงที่ไม่สามารถนำ ไป ขายได้ มาทำ โมบาย พวงกุญแจ และปุ๋ย ซึ่งเป็นการนำ วัสดุมาใช้ซ้ำ รวมถึงถึ ใช้วัตถุดิถุดิบอย่างเต็มวงจรชีวิต 2) กลุ่มอาหารปันรัก เป็นการ ต่อยอดจากการทำ อาหารไปแจกที่ชุมชนคลองเตยในช่วงโควิด-19 จึงต่อยอดเป็นการนำ อาหารมาขายออนไลน์หรือตามสถานที่ต่างๆ ทำ ให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรในชุมชน 3) การทำ ธนาคารปู มี การจับปูมาและแยกไข่ปูออกเพื่อไปเพาะเลี้ยงเป็นลูกปูและนำ ไป ปล่อยคืนทะเลต่อไป เกิดเป็นการหมุนเวียนและใช้ทรัพยากรเต็ม วงจรชีวิต 29 เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) พบว่ากิจกรรมที่มีความ สอดคล้อง มีดังนี้ 1) การทำ ธนาคารปู มีการนำ เอาแม่ปูที่มีไข่มาไว้ ในแหล่งที่ได้จัดทำ ขึ้นไว้เฉพาะเพื่อนำ เข้าขั้นตอนต่อๆไป จนท้าย ที่สุดนำ ผลผลิตที่ได้จากธนาคารปูไปปล่อยแหล่งธรรมชาติ 2) กลุ่ม อาหารปันรักทัวร์ มีการทำ กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การถนอมอาหาร เช่น กุ้ง ปลา มีการนำ ผลผลิตที่ได้ เช่น กุ้งแห้ง กะปิ มาขาย ชี้ให้ เห็นถึงถึความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน 3) กลุ่ม ส็อกแส็ก เป็นการนำ เอาสัตว์น้ำ หรือขยะขนาดเล็กที่ไม่มีมูลค่าที่ติด มากับอวนชาวประมงเวลาออกทะเลมาเพิ่มมูลค่า


เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) พบว่ากิจกรรมที่มีความ สอดคล้องกับ มีดังนี้ 1) การที่ชุมชุชนมีธนาคารปู มีการปล่อยปูจะสร้าง ความยั่งยืนให้กับทรัพยากรปู 2) กลุ่มอาหารปันรัก มีท่องเที่ยวในเชิงชิ นิเวศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม และมีการรวมกลุ่มทำ ประมงเชิงชิอนุรักษ์ ด้วยเช่นช่กัน 3) ซ็อซ็กแซ็กซ็ช่วช่ยลดขยะในทะเล ส่งเสริมการพัฒนาให้เกิด ความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในทะเล 4) เครือข่ายจะนะ รักษ์ถิ่นถิ่การคัดค้านนิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้มีมลพิษจากโรงงานที่ ทำ ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรในชุมชุชนและในทะเล เป็นการปกป้องทรัพยากร 5) กิจกรรมให้ความรู้ ฟื้นฟู ป่าชายเลน เป็น กิจกรรมฟื้นฟูป่าชายเลนของชุมชุชน เพื่อให้ทุกคนในชุมชุชนเข้าใจถึงถึความ สำ คัญของป่าชายเลนและมีความรู้ในการฟื้นฟู และอนุรักษ์ป่าชายเลยได้ ถูกถูวิธี ตารางแสดงความสัมพันธ์โครงการ/กิจกิกรรมต่างๆในชุมชน กับกั BCG 30


31 4ภายใต้ต้กต้ต้รอบแนวคิคิดคิคิ SDGs การพั พัฒนาอย่ย่าย่ย่งยั่ยั่ง ยั่ ง ยั่ ยืยืนยืยื เป้าหมายการพัฒพันาที่ยั่ที่งยั่ยืนยื (Sustainable Development Goals :SDGs) แนวทางการพัฒพันาที่ตที่อบสนองความต้อต้งการของคนรุ่นรุ่ปัจจุบัจุนบั โดยไม่ลิม่ดลิรอนความสามารถในการตอบสนอง ความต้อต้งการของคนรุ่นรุ่ หลังลั โดยการบรรลุกลุารพัฒพันาที่ยั่ที่งยั่ยืนยืมีทั้มีงทั้หมด 17 เป้าหมาย (Goals) ภาย ใต้หต้นึ่งเป้าหมายจะประกอบไปด้วด้ยเป้าหมายย้อย้ยๆ ที่เที่รียรีกว่าว่เป้าประสงค์ (Targets) มีจำมีจำนวน 169 เป้าประสงค์ และพัฒพันาตัวตัชี้วัชี้ดวั (Indicators) จำ นวน 232 ตัวตัชี้วัชี้ดวั เป้าหมายการพัฒพันาทั้งทั้ 17 ข้อสะท้อท้น 3 เสาหลักลัของมิติมิคติวาม ยั่งยั่ยืนยื (Three Pillars of Sustainability) คือคืมิติมิด้ติาด้นสังสัคม เศรษฐกิจ และสิ่งสิ่แวดล้อล้ม บวกกับอีกอี 2 มิติมิ ติคือคืมิติมิด้ติาด้นสันสัติภติาพและสถาบันบัและมิติมิ ติ ด้าด้นหุ้นหุ้ส่วส่นการพัฒพันา ที่เที่ชื่อชื่มร้อร้ยทุกทุมิติมิขติองความยั่งยั่ยืนยื ได้ด้ด้วด้ยกัน 5 มิติมิ ติ


32 เป้าหมายที่ 1: ขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ กลุ่มประมง: ชุมชนนี้ให้โอกาสให้คนในชุมชนมีงานทำ และรายได้จากการ ประมง ซึ่งกิจกรรมประมงมีการรองรับกันและสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน หลาย ๆ คนในชุมชน เช่น ลูกน้องเรือ, คนทำ อวน, คนลากอวน และคนทำ ซอกแซก การนำ ปลามาขายหรือแลกเปลี่ยนกับเถ้าถ้แก่ให้ได้เป็นแหล่งรายได้ สำ คัญในชุมชน กลุ่มกิจกรรมอาหารปันรักทัวร์: กลุ่มนี้มุ่งสร้างรายได้จากการนำ นักท่อง เที่ยวมาเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรทะเล และอาหารทะเลในพื้นที่ นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ทางวิถีชีถีชีวิต และอาหารที่คนในชุมชนใช้ และ โครงการนี้ส่งเสริมการแบ่งปันอาหารคุณภาพดีให้กับนักท่องเที่ยว ทำ ให้ ชุมชนได้รับรายได้เพิ่มเติมจากกิจกรรมท่องเที่ยวนี้


33 กลุ่มส็อกแส็ก: กลุ่มนี้นำ เศษซากสัตว์ทะเลที่ไม่สามารถนำ ไปใช้กช้ารต่อได้มาใช้ ให้เป็นมูลค่าเพิ่ม โดยชาวบ้านจะนำ ซากสัตว์ทะเลมาซอกแซก และนำ ไปขาย นี่ เป็นอีกแหล่งรายได้สำ คัญในชุมชุชนโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่มีโอกาสทำ งานหรือ อาชีพชีอื่น ๆ นอกฟาร์ม กองทุนประมง: โครงการนี้เป็นวิสาหกิจชุมชุชนที่มีความสนับสนุนจากกรม ประมงสงขลา เป็นการส่งเสริมการประมงในพื้นที่ โดยให้การสนับสนุนในรูป แบบของการแจกพันธุ์ปธุ์ลาฟรี และอุปกรณ์การทำ ประมง โครงการนี้ช่วช่ยเสริม สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และสนับสนุนการเพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมประมง ในพื้นที่การรวมกันของกิจกรรม และกลุ่มชุมชุชนที่แตกต่างกันนี้ช่วช่ยสร้าง โอกาส และรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชุชน และช่วช่ยให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในชุมชุชนนี้ในทุกมิติของชีวิชี วิต


เป้าหมายที่ 2 : ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับ โภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เป้าประสงค์ที่ 2.3 : เพิ่มผลิตภาพทางการเกษตรและรายได้ของผู้ผลิต อาหารรายเล็ก โดยเฉพาะผู้หญิง การเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร และรายได้ของผู้ผลิตอาหารราย เล็ก ๆ เช่น คนพื้นเมือง ครัวเรือนเกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และชาวประมง โดยเฉพาะผู้หญิง ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งรวมถึงถึการเข้าถึงถึที่ดิน ทรัพยากรและปัจจัยการผลิต ความรู้ บริการทางการเงิน ตลาด และโอกาส สำ หรับการเพิ่มมูลค่า และการจ้างงานนอกฟาร์ม อย่างมั่นคงและเท่าเทียม ในปี พ.ศ. 2573 34


35 โครงการให้ความรู้ ฟื้นฟู ป่าชายเลน ตำ บลปากบาง โครงการในตำ บลปากบางที่มีประชากรประกอบอาชีพประมง ประมาณร้อยละ 70 ในแต่ละหมู่บ้าน มีเป้าหมายในการฟื้นฟูป่าชายเลนที่ถูกถู ทำ ลายโดยกิจกรรมขุดลอกคลอง และการทำ นากุ้ง การฟื้นฟูนี้เพื่อเป็น แหล่งอาศัยของทรัพยากรสัตว์น้ำ และสนับสนุนอาชีพประมงของชุมชนใน พื้นที่ โดยเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างงานและอาชีพที่มีคุณภาพ โครงการเลี้ยงปูทะเล โครงการเลี้ยงปูทะเลตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ที่มุ่งส่งเสริมการเลี้ยง ปูทะเลในบ่อนากุ้งร้างและอุโมงค์ป่าโกงกาง เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้ชาว ประมงและเกษตรกรในพื้นที่ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการ พัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างงานที่มีคุณภาพในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดย รายละเอียดของโครงการเป็นการพัฒนาส่วนสำ คัญในพื้นที่อ่าวไทย


เป้าหมายที่ 3 : สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพ ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำ หรับทุกคนในทุกวัย เป้าประสงค์ที่ 3.3 : การช่วยเหลือในสถานการณ์โควิด-19 ในสถานการณ์โควิด-19 ชุมชนได้ร่วมแรงร่วมใจในการทำ อาหารแจก ให้คนในชุมชน ที่บอกว่า "ใครไม่เคยทำ อาหารแจกแสดงว่าเชย" ทำ ให้มีผู้คน มาร่วมกันทำ อาหาร และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ การกระทำ นี้ช่วยเพิ่มความ เอื้อเฟื้อ และความสามัคคีในชุมชนเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด-19 เป้าประสงค์ที่ 3.7 : การดูแลสุขภาพในชุมชน กลุ่มอสม. ได้แบ่งเป็นโซนในการดูแลชาวบ้าน และมีการดูแลสุขภาพ ของครัวเรือน โดยมีการติดตามอาการ และการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่เป็นโรค เบาหวานและความดันโลหิตสูง เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง มีการรับผิดชอบ จากหน่วยงานขององค์ก่ีบริหารส่วนตำ บล (อบต.) ในการดูแลผู้ป่วย และมี รถฉุกเฉินในการรับและส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล 36


เป้าประสงค์ที่ 3.8: การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและการเข้าถึงถึการ บริการสาธารณสุข เป้าหมายนี้เน้นการบรรลุการมีหลักประกันสุขภาพถ้วถ้นหน้า รวมถึงถึ การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจากการรักษาโรค การเข้าถึงถึการบริการ สาธารณสุขที่มีคุณภาพ และการเข้าถึงถึยาและวัคซีนที่จำ เป็นและปลอดภัย การสนับสนุนพฤติกรรมสุขภาพที่ดี และการจัดการระบบบริการ สาธารณสุขเพื่อให้คนทุกคนสามารถเข้าถึงถึบริการสุขภาพได้ รวมถึงถึการ วิจัยและพัฒนาความรู้ในด้านสุขภาพ การดูแลรักษาสุขภาพ และการส่ง เสริมสุขภาพในระดับศูนย์บริการสาธารณสุข การสุขาภิบาลอาหาร และการ สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และการควบคุมสิ่งแวดล้อมภายใน อาคารสถานที่ และชุมชน และการสนับสนุนพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและการแนะนำ เทคโนโลยี ทางด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค คุณภาพการบริการ สาธารณสุข และการวิจัยในด้านการควบคุมโรคและป้องกันสุขภาพ 37


เป้าป้หมายที่ 4 สร้าร้งหลักลั ประกันว่าว่ทุกทุคนมีกมีารศึกศึษาที่มี ที่ มี คุณคุภาพอย่าย่งครอบคลุมลุและเท่าท่เทียทีม และสนับสนุนโอกาส ในการเรียรีนรู้ตรู้ ลอดชีวิชีตวิ จาการได้ลด้งชุมชุชนและได้ทำด้ทำการวิเวิคราะห์ พบว่าว่ ในการศึกศึษาของชุมชุชนตำ บลสะ กอมมีกมีารศึกศึษาทั้งทั้หมด 2 รูปรูแบบ ได้แด้ก่ 1. การศึกศึษาตามหลักลัสูตสูรแกนกลางตามกระทรวงศึกศึษาธิกธิาร เช่นช่ ใน ชุมชุชนมีโมีรงเรียรีนบ้าบ้นปากบาง หมู่ที่มู่ ที่ 4, ศูนศูย์กย์ลางศึกศึษาอิสอิลามประจำ มัสมัยิดยิ (ตา ดีกดีา) สอลาหุดหุดีนดีหมู่ที่มู่ ที่ 4, ศูนศูย์อย์บรมเด็กด็ก่อนเกณฑ์ประจำ มัสมัยิดยิสอลาหุดหุดีนดี หมู่ที่มู่ ที่ 4, โรงเรียรีนบ้าบ้นบ่อบ่ โชน หมู่ที่มู่ ที่ 7, ศูนศูย์กย์ารศึกศึษาอิสอิลามประจำ มัสมัยิดยิ (ตาดี กา) บ้าบ้นบ่อบ่ โชน หมู่ที่มู่ ที่ 7, ศูนศูย์พัย์ฒพันาเด็กด็เล็กล็บ้าบ้นบ่อบ่ โชน หมู่ที่มู่ ที่ 7 และ ศูนศูย์กย์าร ศึกศึษานอกระบบฯ ตำ บลสะกอม หมู่ที่มู่ ที่ 7 ซึ่งซึ่เป็นป็การสร้าร้งหลักลั ประกันว่าว่เด็กด็ชาย และเด็กด็หญิงทุกทุคนสำ เร็จร็การศึกศึษาระดับดั ประถมศึกศึษาและมัธมัยมศึกศึษาที่มีที่ มี คุณคุภาพ และเท่าท่เทียทีม เป็นป็มิติมิหติลักลัการศึกศึษา 38


2. การศึกศึษาที่นที่อกเหนือจากการศึกศึษาตามหลักลัสูตสูรแกนกลางตาม กระทรวงศึกศึษาธิกธิาร โดยมีกมีารสอนจากการสอนจากคุณคุไวนี สะอุ (โต๊ะต๊ครู)รูและ คุณคุโซเฟียฟี (ครูสรูอนอัลอักุรอาน) จะเป็นป็การสอนแบบดั้งดั้เดิมดินั่นคือคืสอนในหลักลั ศาสนาที่ทำที่ทำให้คห้นในชุมชุชนได้รัด้บรัการศึกศึษาและความรู้ทรู้ างศาสนา เช่นช่การสอนอ่าอ่ นอัลอักุรอาน เป็นป็การสอนสำ หรับรัเยาวชนและผู้ใหญ่ โดยทุกทุคนในชุมชุชนสามารถ เข้าถึงถึด้าด้นการเรียรีน และกิจกรรมนี้ได้อด้ย่าย่งเท่าท่เทียทีมกัน โดยจะมีกมีารแบ่งบ่แยก เรียรีนชายกับหญิงให้เห้รียรีนกันคนละห้อห้งเรียรีน รวมถึงถึไม่มีม่ค่มีาค่ ใช้จ่ช้าจ่ยในการเล่าล่ เรียรีน ซึ่งซึ่เป็นป็การศึกศึษาเล่าล่เรียรีนที่แที่ตกต่าต่งไปจากที่พื้ที่นพื้ที่อื่ที่นอื่จากการศึกศึษาทั้งทั้ 2 รูปรูแบบของชุมชุชนในตำ บลสะกอม สามารถบรรลุเลุป้าหมายที่ 4 ได้ ซึ่งซึ่มีหมีลักลั ประกันว่าว่ชุมชุชนสามารถมอบการศึกศึษาที่ก่ที่ ก่อให้เห้กิดความเท่าท่เทียทีมและความเสมอ ภาคทางเพศให้สำห้สำเร็จร็การศึกศึษาขั้นพื้นพื้ฐานและค่าค่ ใช้จ่ช้าจ่ยที่สที่ามารถเข้าถึงถึให้กัห้ กับ คนในชุมชุชนได้ 39


เป้าป้หมายที่ 5 บรรลุคลุวามเท่าท่เทียทีมระหว่าว่งเพศ และเสริมริอําอํนาจให้แห้ก่สตรีแรีละ เด็กด็หญิง จากการได้ลด้งชุมชุชนและได้ทำด้ทำการวิเวิคราะห์ พบว่าว่การจะศึกศึษาทำ ความ เข้าใจสถานภาพและบทบาทของ สตรีมุรีสมุลิมลิ ในแต่ลต่ะสังสัคมอาจจะมีคมีวามแตก ต่าต่งกันไปบ้าบ้งตามเผ่าผ่พันพัธุ์ เชื้อชื้ชาติ ประเทศ ตลอดจนลัทลัธิกธิารปกครอง แต่ทุต่กทุ สังสัคมมุสมุลิมลิย่อย่มมีสิ่มีงสิ่หนึ่งที่เที่หมือมืนกันคือคืการยึดยึถือถืตามแนวทางของอิสอิลาม แต่ใต่นชุมชุชนแห่งห่นี้ ได้มีด้กิมี กิจกรรม 1 อย่าย่งที่โที่ดดเด่นด่และแสดงให้เห้ห็นห็ภาวะการเป็นป็ ผู้นำผู้ นำจากสตรีมุรีสมุลิมลินั่นคือคื “เครือรืข่ายนักรบผ้าผ้ถุงถุจะนะ” เป็นป็ชื่อชื่ ประกาศความ รักรัของมนุษย์เย์พศแม่ที่ม่พที่ร้อร้มจะยอมละทิ้งทิ้ทุกทุสิ่งสิ่เพื่อพื่ ปกป้องครอบครัวรัและ บ้าบ้นของตัวตัเอง โดยนักรบผ้าผ้ถุงถุคือคืการที่เที่หล่าล่มะ แม่บ้ม่าบ้น หรือรืผู้หผู้ ญิงจาก อำ เภอจะนะ จังจัหวัดวัสงขลา มาเป็นป็ผู้นำผู้ นำ ในการออกไปสู้เสู้พื่อพื่ที่จที่ะรักรัษาหมู่บ้มู่ าบ้น ที่ อยู่ ที่ทำที่ทำมาหากินของชุมชุชนและบ้าบ้นเกิดของตนเองไว้ โดยการต่อต่ต้าต้นการสร้าร้ง นิคมอุตอุสาหกรรม จะนะวัตวัถุปถุระสงค์ขค์องกลุ่มลุ่นักรบผ้าผ้ถุงถุคือคืการอนุรักรัษ์ท้อท้ง ทะเลอันอัอุดอุมสมบูรบูณ์และธรรมชาติที่ติสที่วยงาม ไว้ใว้ห้ลูห้กลูหลาน เพราะวิถีวิชีถีวิชีตวิที่ แสนเรียรีบง่ายของชาวบ้าบ้นจะนะล้วล้นสอดคล้อล้งกับทะเล และผืนผืดินดิแห่งห่นี้ ซึ่งซึ่ กิจกรรมนักรบผ้าผ้ถุงถุนี่ทำ ให้เห้ห็นห็ถึงถึความโดดเด่นด่ความเท่าท่เทียทีมทางเพศที่เที่ห็นห็ ได้ ชัดชัเจน มีกมีารสลับลับริบริทกันระหว่าว่งเพศชายกับเพศหญิงเพศหญิงออกไป ประท้วท้งนิคมอุตอุสาหกรรมจะนะ เพศชายทำ หน้าที่ทำที่ทำงานหาเงินเลี้ยลี้งดูลูดูกลู ๆ ภายในครัวรัเรือรืนในระหว่าว่งที่แที่ม่ ๆ ไปดำ เนินกิจกรรมเพื่อพื่ทวงคืนคืทะเลของชุมชุชน 40


เป้าป้หมายที่ 6 สร้าร้งหลักลั ประกันว่าว่จะมีกมีารจัดจั ให้มีห้น้ํมี น้ําและสุขสุอนามัยมั สําสํหรับรัทุกทุ คนและมีกมีารบริหริารจัดจัการที่ยั่ ที่ งยั่ยืนยื จาการได้ลด้งชุมชุชนและได้ทำด้ทำการวิเวิคราะห์ พบว่าว่จากการสัมสัภาษณ์ หมู่ที่มู่ ที่ 7 บ้าบ้นบ่อบ่ โชน ระบบน้ำ ประปาบาดาลเป็นป็การนำ น้ำ จากแหล่งล่น้ำ ธรรมชาติใตินชุมชุชน มาทำ เป็นป็ระบบประปา โดยมี อบต. เป็นป็ผู้ดำผู้ ดำเนินการติดติตั้งตั้ระบบน้ำ ประปาบาดาล 2 ตัวตัที่โที่รงเรียรีนบ่อบ่ โชน สามารถใช้น้ำช้ น้ำ ได้ตด้ลอด ไม่มีม่ ปัมี ปัญหาเรื่อรื่งน้ำ ที่มีที่ตมีะกอน โดย ชาวบ้าบ้นสามารถบริโริภคน้ำ ประปาบาดาลได้ หรือรืนำ ไปกรองอีกอีครั้งรั้ก่อนที่จที่ะ บริโริภค รวมถึงถึที่มัที่สมัยิดยิก็จะมีบมีริกริารน้ำ ให้ ไปกรอง 5 บาทต่อต่ขวด ที่มัที่สมัยิดยิ ไม่ไม่ด้ เอาค่าค่บริกริารหรือรืค่าค่ ไฟใด ๆ รวมถึงถึมีที่มีศูที่นศูย์เย์ด็กด็เล็กล็ก็มีใมีห้บห้ริกริารเช่นช่กัน ซึ่งซึ่ ใน ส่วส่นของหมู่ที่มู่ ที่ 4 ปากบาง มีปัมี ปัญหาเรื่อรื่งน้ำ ดื่มดื่คือคืน้ำ ไม่สม่ะอาดจากการขุดเจาะไม่ ว่าว่จะเป็นป็สถานที่ใที่ดก็เป็นป็สนิมทั้งทั้หมด โดยวิธีวิกธีารแก้ปัญหาของชาวบ้าบ้นในปาก บาง คือคืการซื้อซื้น้ำ จากบ้าบ้นบ่อบ่ โชน หรือรืซื้อซื้จากรถส่งส่น้ำ จากจะนะในราคาที่ สามารถเข้าถึงถึได้ ส่วส่นน้ำ ที่นำที่ นำมาใช้ใช้นการอุปอุโภคภายในครัวรัเรือรืน มีคมีวามเหมือมืน กันกับบ้าบ้นบ่อบ่ โชน คือคืการใช้น้ำช้ น้ำบาดาล แม้จม้ะเป็นป็สนิมแต่ชต่าวบ้าบ้นนำ มากรอง กันเอง ซึ่งซึ่ทำ ให้น้ำห้ น้ำสะอาดมากขึ้น เพียพีงพอที่จที่ะสามารถนำ มาใช้ภช้ายในครัวรัเรือรืน ได้ โดยจากระบบน้ำ ประปาบาดาล และจากการซื้อซื้น้ำ จากพื้นพื้ที่อื่ที่นอื่สะท้อท้นให้เห้ห็นห็ ว่าว่ชาวบ้าบ้นในชุมชุชนสามารถเข้าถึงถึน้ำ ที่สที่ะอาดปลอดภัยในการนำ มาใช้อุช้ ปอุโภค และบริโริภคได้ซึ่ด้งซึ่เป็นป็การสร้าร้งหลักลั ประกันว่าว่จะมีกมีารจัดจั ให้มีห้น้ำมี น้ำและสุขสุอนามัยมั สำ หรับรัทุกทุคนได้อด้ย่าย่งเพียพีงพอ 41


เป้าหมายที่ 7 : สร้างหลักประกันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงถึพลังงานสมัยใหม่ ที่ยั่งยืนในราคาที่ย่อมเยา ชุมชนบ้านปากบาง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 มีความสอดคล้องในเข้าถึงถึ การบริการพลังงานสมัยใหม่ เนื่องจากมีกาiส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความ เป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการเข้าถึงถึพลังงานสมัยใหม่ซึ่งเป็นสิ่งจำ เป็นในระดับครัว เรือน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานได้ร่วมกันพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน และบริการด้านพลังงานให้ในชุมชน เช่น สามารถให้เข้าถึงถึระบบ ไฟฟ้าได้ทุกครัวเรือนซึ่งในชุมชนได้รับการบริการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำ เภอ จะนะ สนับสนุน การดำ เนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และพัฒนาชีวิตความเป็น อยู่ให้ดีขึ้น 42


เป้าหมายที่ 8 : สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการ พัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม ชุมชนแห่งนี้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำ ประมง เนื่องด้วยพื้นที่ ชุมชนแห่งนี้ มีทรัพยากรทางทะเลที่ อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหาร ของคนในชุมชน ส่งผลให้เกิดงานมีการสร้างอาชีพ ชาวบ้านต่างก็มี เครื่อง มือจับสัตว์น้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรือ และอวนแต่ละประเภทที่เหมาะแก่การจับสัตว์น้ำ ชนิดต่าง ๆ สัตว์น้ำ ที่จับมาได้ ชาวบ้านเองก็บริโภคเองส่วนหนึ่ง และมีการนำ ไปขายเพื่อสร้างรายได้ ชาวบ้านแห่งนี้ใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรทางทะเลได้ อย่างคุ้มค่า เห็นได้จากที่ชุมชนแห่งนี้มีกลุ่มต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อนำ สิ่งที่หามา ได้จากทะเล มาใช้ประโยชน์ให้เกิดคุณค่าสูงสุด เช่น กลุ่มส็อกแส็ก กลุ่มอาหาร ปันรัก เป็นต้น สามารถตอบโจทย์เป้าหมายที่ 8 ได้ โดยชุมชนอำ เภอจะนะ สามารถทำ ให้การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สามารถบรรลุการจ้างงานที่ เต็มที่ และมีผลิตภาพ มีการงานที่มีคุณค่าสำ หรับทุกคนได้ 43


เป้าหมายที่ 9 : สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนา อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม ทางชุมชุชนบ้านปากบาง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ไม่ได้มีการพัฒนาในเป้าหมายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐมีโครงการที่จะเข้ามาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ บริเวณนี้ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วย กับโครงการนี้ ชาวบ้านเกิดข้อสงสัย มากมายในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการจ้างงานชาวบ้านเห็นว่า เป็นไป ได้ยากที่จะเกิดการจ้างงานหลายตำ แหน่ง เพราะตามแผนของโครงการดัง กล่าว มีอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ทุช้ทุนเข้มข้น คือ เน้นไปที่การ ใช้อุช้อุปกรณ์ เครื่องจักรเป็นหลัก ไม่ได้ต้องการแรงงานจำ นวนมาก ประกอบกับ ชาวบ้านในพื้นที่นี้ประกอบอาชีพชีเกี่ยวกับการประมง ท่องเที่ยวเชิงชิธรรมชาติ และการเกษตร ขณะที่โครงการนี้เห็นได้ชัดชัเจนว่าต้องพึ่งแรงงานที่มีทักษะด้าน อุตสาหกรรม ทำ ให้ชาวบ้านหลายคนมีข้อสงสัย และมีคำ ถามถึงถึความโปร่งใส และผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ 44


เป้าป้หมายที่ 10 : ลดความไม่เม่สมอภาคภายในประเทศและระหว่าว่งประเทศ เห็นห็ ได้จด้ากการทำ กิจกรรมของกลุ่มลุ่ส็อส็กแส็กส็ซึ่งซึ่เป็นป็อาชีพชีของคนใน หมู่บ้มู่ าบ้นที่ไที่ม่มีม่เมีรือรื โดยจะเป็นป็การสร้าร้งอาชีพชี ให้กัห้ กับกลุ่มลุ่คนที่มีที่คมีวามเปราะบาง ภายในชุมชุชน ซึ่งซึ่จะมีคมีวามสอดคล้อล้งกับวัตวัถุปถุระสงค์ขค์องกลุ่มลุ่คือคืเพื่อพื่ ให้ สาธารณะได้เด้ห็นห็ถึงถึการทำ อาชีพชีส็อส็กแส็กส็นั้นสามารถสร้าร้งรายได้ใด้ห้กัห้ กับกลุ่มลุ่คน เปราะบางภายในชุมชุชนได้ เช่นช่คนพิกพิาร คนจน ให้มีห้รมีายได้เด้สริมริอย่าย่งต่อต่เนื่อง และคงการเติบติ โตของรายได้ใด้นกลุ่มลุ่ประชากรรวมถึงถึการสนับสนุนการให้เห้กิด ความร่วร่มมือมืเพื่อพื่การพัฒพันาอย่าย่งเป็นป็ทางการและอย่าย่งยั่งยั่ยืนยืที่จที่ะนำ ไปสู่กสู่าร ไม่เม่ ป็นป็ขอทาน หรือรืคนเร่ร่ร่อร่นสำ หรับรักลุ่มลุ่คนเปราะบาง รวมไปถึงถึกลุ่มลุ่นักรบ ผ้าผ้ถุงถุที่ผู้ที่หผู้ ญิงเข้ามามีบมีทบาทในการต่อต่สู้เสู้พื่อพื่ ปกป้องท้อท้งถิ่นถิ่ของตนเองจาก การเข้ามาของนิคมอุตอุสาหรรมจะนะ แต่บต่ริบริทของระหว่าว่งประเทศยังยั ไม่ถึม่งถึเป้า หมายในหลักลัการของ SDGs 45


เป้าป้หมายที่ 11 : ทำ ให้เห้มือมืงและการตั้งตั้ถิ่นถิ่ฐานของมนุษย์มีย์คมีวามครอบคลุมลุ ปลอดภัย มีภูมีภูมิต้มิาต้นทานและยั่งยั่ยืนยื เห็นห็ ได้จด้ากเครือรืข่ายจะนะรักรัษ์ถิ่นถิ่และเครือรืข่ายนักรบผ้าผ้ถุงถุจะนะ ที่ต่ที่อต่สู้ เพื่อพื่ ปกป้องทะเลจะนะไม่ใม่ห้ถูห้กถูทำ ลาย และเพื่อพื่ ปกป้องบ้าบ้นเกิด จากการสร้าร้ง นิคมอุตอุสาหกรรมที่ส่ที่งส่ผลกระทบต่อต่ทรัพรัยากรทางทะเลรวมถึงถึวิถีวิชีถีวิชีตวิของ คนในชุมชุชนที่จที่ะต้อต้งเปลี่ยลี่นแปลงไปจากเดิมดิซึ่งซึ่ก่อให้เห้กิดการรวมกลุ่มลุ่ของ นักรบผ้าผ้ถุงถุที่ต่ที่อต่สู้เสู้พื่อพื่ ปกป้อง และช่วช่ยลดผลกระทบทางลบของเมือมืงที่จที่ะเกิด ขึ้นกับสิ่งสิ่แวดล้อล้ม ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็คุณคุภาพอากาศ หรือรืการจัดจัการของเสียสีอย่าย่ง ยั่งยั่ยืนยือีกอีทั้งทั้ยังยัมีภมีาษาสะกอมที่มีที่คมีวามเป็นป็เอกลักลัษณ์จนได้รัด้บรัการขึ้นทะเบียบีน เป็นป็มรดกทางวัฒวันธรรมของชาติที่ติสที่ามารถเสริมริความพยายามที่จที่ะปกป้อง และคุ้มคุ้ครองมรดกทางวัฒวันธรรมของโลกให้ยั่ห้งยั่ยืนยื 46


Click to View FlipBook Version