The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nawipapha Nawakham, 2023-05-15 05:08:36

ประวัติศาสตร์ชาติไทย

อาณาจักรสุโขทัย

อาณาจัจัก จั ก จั ร สุสุโ สุ โ สุ ขทัทั ทั ย ทั ย ประวัวัติ วั ติ วั ติ ศติ ศาสตร์ร์ช ร์ ช ร์ าติติ ติไติ ทย จัดจัทำ โดย ห้อห้งสมุดประชาชนอำ เภอสามโคก


อาณาจักรสุโขทัยได้รับการสถาปนาขึ้น ใน พ.ศ. 1762 เมื่อพ่อขุนบางกลางหาว เจ้าเมืองบางยาง และพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด ได้รวมกำ ลังกันขับไล่ขอมสมาดโขลญลำ พง ออกจากดินแดนสุโขทัยได้สำ เร็จ ซึ่งแต่เดิมกรุงสุโขทัยเคยมีผู้นำ คนไทยปกครองมาก่อนคือ พ่อขุนศรีนาวนำ ถม หลังจากพ่อขุนศรีนาวนำ ถมสิ้นพระชนม์ ขอมก็ได้มายึดอำ นาจการปกครอง ไป ดังนั้นทั้งสองพระองค์จึงมายึดอำ นาจการปกครองคืน และได้สถาปนาให้พ่อขุนบางกลางหาว ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองสุโขทัยทรงพระนามว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์ พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย และในสมัยพ่อขุนรามคำ แหงมหาราชได้มีการขยายอาณาเขตไปอย่าง กว้างขวางจนทำ ให้กรุงสุโขทัยเป็นปึกแผ่นมั่นคง อาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัย ทั (1762-1981)


ปัจ ปั จัย จั ที่เ ที่ อื้อ อื้ ต่อ ต่ การสถาปนากรุง รุ สุโ สุ ขทัย ทั ขอมเริ่มเสื่อมอำ นาจ ใน พ.ศ. 1762 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ของขอมสิ้นสุดอำ นาจ การปกครองทำ ให้อาณาจักรขอมเริ่มอ่อนแอลง ทำ ให้สุโขทัยสามารถสร้างราชธานีได้สำ เร็จ ความเข้มแข็งของผู้นำ คือพ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ตลอดจนความสามัคคี ของคนไทยทำ ให้สามารถ ต่อสู้กับทหารขอมจนกระทั่งได้รับชัยชนะและประกาศตนเป็น อิสระไม่ต้องอยู่ภาย ใต้อิทธิพลของขอมอีกต่อไป คนไทยมีนิสัยที่รักความมีอิสระเสรี ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยประจำ ชาติอย่างหนึ่งของคนไทย เมื่อพ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง มีนโยบายที่จะขับไล่พวกขอมจึงได้รับความร่วม มือสนับสนุนจากคนไทยอย่างพร้อม เพรียง สภาพทำ เลที่ตั้งของกรุงสุโขทัยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ยมทำ ให้มีความสะดวก ทั้งทางบกและ ทางน้ำ สามารถติดต่อกับเมืองอื่น ๆ ได้และไม่ต้องหวั่นเกรงกับการถูกปิดล้อมจากข้าศึก 1. 2. 3. 4. พระมหากษัต ษั ริย์ริข ย์ องสุโ สุ ขทัย ทั พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง พ่อขุนบานเมือง เป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พ่อขุนรามคำ แหงมหาราช เป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และเป็นพระอนุชา ของพ่อขุนบานเมือง พญาเลอไท เป็นพระราชโอรสของพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช พญางั่วนำ ถุม เป็นพระอนุชาของพญาเลอไท พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) เป็นพระราชโอรสของพญาเลอไท พระมหาธรรมราชาที่ 2 เป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 1 พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสยลือไทย) เป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 2 พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 3 พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงของอาณาจักรสุโขทัยและมี พระมหากษัตริย์ปกครองสืบต่อมารวมทั้งสิ้น 9 พระองค์ ดังต่อไปนี้ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.


ลัก ลั ษณะการเมือ มื งการปกครอง ของอาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัย ทั 1. การปกครองแบบปิตุราชา หรือ พ่อปกครองลูก ระยะแรกของการก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยมี จำ นวนประชากรไม่มากนักโดยเฉพาะสามรัชกาลแรกแห่งสุโขทัยตอนต้น ที่มีคำ นำ หน้าพระนาม ว่า พ่อขุนได้ใช้รูปแบบการปกครองที่ยึดหลักความสัมพันธ์ของครอบครัว พระมหากษัตริย์ทรง วางพระองค์เป็นเสมือนพ่อของประชาชนที่มีความใกล้ชิดกับราษฎร ยามใดที่ราษฎรเดือดร้อน สามารถสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้ที่ประตูวังเพื่อร้องทุกข์ พระมหากษัตริย์สามรัชกาลแรกที่ใช้การ ปกครองแบบปิตุราชา ได้แก่ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พ่อขุนบานเมือง และพ่อขุนรามคำ แหง มหาราช 2. การปกครองแบบธรรมราชา ธรรมราชา หมายถึง พระราชาผู้ปฏิบัติธรรมหรือกษัตริย์ผู้มี ธรรม ในสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 มีกำ ลังทหารที่ไม่เข้มแข็ง ประกอบกับอาณาจักร อยุธยาที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ได้แผ่อิทธิพลมากขึ้น พระองค์ทรงเกรงภัยอันตรายจะบังเกิดแก่ อาณาจักรสุโขทัย หากใช้กำ ลังทหารเพียงอย่างเดียว พระองค์จึงทรงนำ หลักธรรมมาใช้ในการ ปกครอง โดยพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในด้านการปฏิบัติธรรม ทำ นุบำ รุงพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นพระมหาธรรมราชาที่ 1 ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมเรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ที่ ปรากฏแนวคิดแบบธรรมราชาไว้ด้วย


อาณาเขตการปกครอง อาณาเขตการปกครองใน สมัยพ่อขุนรามคำ แหงมหาราชมีการขยายออกไปกว้างขวางที่สุด ได้แก่ – ทิศเหนือ มีอาณาเขตไปถึงเมืองหลวงพระบาง – ทิศตะวันออก มีอาณาเขตไปถึงเมืองเวียงจันทน์และเมืองเวียงคำ – ทิศใต้ มีอาณาเขตไปถึงฝั่งทะเลจดเขตเมืองนครศรีธรรมราช – ทิศตะวันตก มีอาณาเขตไปถึงเมืองหงสาวดี


เมืองราชธานีหรือเมืองหลวงตั้งอยู่ที่กรุงสุโขทัย เป็นเมืองที่ประทับของพระมหากษัตริย์ มีพระราชวังและวัดวาอารามที่ใหญ่โตเป็นจำ นวนมาก ตลอดจนเป็นศูนย์รวมด้านการ ปกครอง ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม พระมหากษัตริย์เป็นผู้บัญชาการและเป็นผู้ปกครอง หัวเมืองชั้นใน(เมืองลูกหลวงหรือเมืองหน้าด่าน) เป็นเมืองที่มีความสำ คัญรองมาจาก ราชธานี พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งให้พระราชโอรส หรือบุคคลในราชวงศ์ไปปกครองดูแล ต่างพระเนตรพระกรรณ เมืองลูกหลวงมีความสำ คัญด้านยุทธศาสตร์ แต่ละเมืองตั้งอยู่ราย รอบราชธานีทั้ง 4 ทิศ และมีระยะทางห่างจากราชธานีประมาณ 2 วัน ได้แก่ ทิศเหนือ ศรีสัชนาลัย ทิศใต้ สระหลวง ทิศตะวันออก สองแคว ทิศตะวันตก นครชุม หัวเมืองชั้นนอก (เมืองพระยามหานคร) เมืองนี้มีที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลูกหลวงไปอีกชั้น หนึ่ง พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งชนชั้นเจ้านายและขุนนางไปปกครองดูแล เจ้าเมืองจะมี ตำ แหน่งเป็นขุนมีอำ นาจเด็ดขาดในการปกครองตนเอง แต่ต้องเตรียมกำ ลังคนและเสบียง อาหารมาช่วยในยามมีศึกสงคราม เมืองพระยามหานคร ได้แก่เมืองนครสวรค์ เมือง กาญจนบุรี เมืองเชียงทอง เมืองชัยนาท เมืองประเทศราช (เมืองขึ้น) เป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลจนถึงชายพระราชอาณาเขตถูกรวมเข้า กับอาณาจักรสุโขทัยด้วยการทำ สงคราม ชาวเมืองมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติต่างภาษา เจ้าเมืองเดิมมีสิทธิ์ขาดในการปกครองของตนเช่นเดิม เมื่อยามสงบ เมืองประเทศราชต้อง ส่งเครื่องราชบรรณาการมายังกรุงสุโขทัยตามกำ หนด 3 ปีต่อครั้ง หากเมืองขึ้นถูกรุกราน กรุงสุโขทัยจะส่งกองทัพไปช่วยเหลือ หากมีข้าศึกยกมาตีกรุงสุโขทัย บรรดาเมือง ประเทศราชต้องส่งกำ ลังมาช่วยรบ เมืองประเทศราช ได้แก่ เมืองเวียงจันทร์ เมืองหลวง พระบาง เมืองหงสาวดี การจัดแบบแผนการปกครองในราชอาณาเขตของอาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรสุโขทัยโดยเฉพาะสมัยพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช มีการจัดแบบแผนการ ปกครองในลักษณะกระจายอำ นาจ จากราชธานีออกสู่หัวเมืองต่างๆ โดยแต่งตั้งให้เจ้าเมืองไป ปกครองดูแลตามแต่ละหัวเมืองและได้จัดลำ ดับความสำ คัญของเมือง ดังนี้ 1. 2. 3. 4. แบบแผนการปกครอง


ลักษณะเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย ขึ้นอยู่กับอาชีพหลักของราษฎร คือ การเกษตรกรรม หัตถกรรม และ ค้าขาย การเกษตร อาชีพหลักของชาวสุโขทัย คือ เกษตรกรรมได้แก่ ทำ นา ทำ ไร่ ทำ สวน และการเลี้ยง สัตว์ ชาวสุโขทัยมีการสร้างระบบชลประทานที่เป็นพื้นฐานที่สำ คัญในการประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เนื่องจากสุโขทัยมีปัญหาความแห้งแล้งในฤดูแล้ง เพราะดินเป็นดินปนทราย ทำ ให้ ดินไม่อุ้มน้ำ จึงมีการสร้างเขื่อนดินทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองสุโขทัย เขื่อนดินนี้ เรียก ว่า สรีดภงส์ หรือ ทำ นบพระร่วง สำ หรับเก็บกักน้ำ ไว้ภายในหุบเขา และขนระบายน้ำ เข้าไปใช้ ภายในตัวเมือง และบริเวณใกล้เคียงตัวเมือง นอกจากนี้ภายในตัวเมืองยังมีการขุดสระน้ำ ที่เรียก ว่า ตระพัง เพื่อเก็บกักน้ำ ไว้ใช้สอย พืชที่ปลูกมาก คือ ข้าว รองลงมาเป็นผลไม้ เช่น มะม่วง มะขาม มะพร้าว หมากพลู เป็นต้น โดยพื้นที่เพาะปลูกที่สำ คัญ ได้แก่ บริเวณที่ราบลุ่มทางแถบเมืองศรีสัชนาลัย ชากังราว สองแคว และนครชุม อุตสาหกรรม ผลผลิตทางด้านอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงมากของสุโขทัยคือ เครื่องสังคโลก มีแหล่ง ผลิตอยู่ที่เมืองศรีสัชนาลัย และเมืองสุโขทัย สินค้าเครื่องสังคโลกที่ผลิต ได้แก่ ถ้วย โถ จาน ไห กระปุก เป็นต้น นอกจากค้าขายกันภายในประเทศแล้ว ยังส่งออกไปขายต่างประเทศอีกด้วย ซึ่ง จากการสำ รวจทางโบราณคดีได้พบแหล่งเตาเผามากมาย โดยเฉพาะบริเวณทิศเหนือนอก กำ แพงเมืองสุโขทัย น้ำ โจน และเมืองศรีสัชนาลัย ริมฝั่งแม่น้ำ ยม ที่รู้จักกันดี คือ เตาทุเรียง สุโขทัย เตาทุเรียงป่ายาง และเตาทุเรียงเกาะน้อย ลัก ลั ษณะทางเศรษฐกิจกิของอาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัย เตาทุเรียง เครื่องสังคโลก


การค้าขาย การค้าขายในสุโขทัยที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 แสดงให้เห็นว่ามีการค้าขายอยู่ 2 ประเภท คือการค้าขายภายในอาณาจักรและการค้าขายกับต่างประเทศ การค้าภายในอาณาจักร เป็นการค้าแบบเสรี มีตลาดเป็นศูนย์กลางการค้า เรียกว่า ” ปสาน “ไว้สำ หรับประชาชนจากถิ่น ต่างๆ ที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนสินค้ากัน การค้าขายระหว่างเมืองจะไม่มีการเก็บภาษีผ่านด่าน ที่ เรียกว่า ” จกอบ ” ดังศิลาจารึก กล่าวว่า “เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ลู่ทาง” ทำ ให้ประชาชน ค้าขายได้อย่างเสรี ลัก ลั ษณะทางเศรษฐกิจกิของอาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัย ปสาน การค้าขายกับต่างประเทศ เช่น การค้ากับหงสาวดี ขอม มลายู ชวา ซึ่งสินค้าออกที่สำ คัญได้แก่ เครื่องเทศและของป่า เช่น พริกไทย ไม้ฝาง งาช้าง หนังสัตว์ ไม้หอม นอแรด ส่วนสินค้าเข้าเป็น ประเภทผ้าไหม เครื่องประดับ โดยเฉพาะผ้าไหมที่พ่อค้าจีนนำ มาขายเป็นที่ต้องการของเจ้านาย เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและขุนนางสุโขทัย ระบบเงินตรา สุโขทัยมีการค้าขายในชุมชนของตนเองและกับพ่อค้าต่างบ้านต่างเมือง จึงมีการแลก เปลี่ยนสินค้าและการซื้อขายในระบบเงินตรา เงินตราที่ใช้ คือ “เงินพดด้วง” ซึ่งทำ จากโลหะเงิน ก้นเบี้ยหอย มีขนาดตั้งแต่ 1-4 บาท โดยมีการใช้เงินตราเป็นสื่อการในการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้เพื่อ ความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อขาย การเก็บภาษีอากร สุโขทัยไม่มีการเก็บภาษีผ่านด่าน หรือ จกอบ แต่จะเก็บภาษีอื่น ๆ เช่น ธรรมเนียมต่าง ๆ ภาษีรายได้การค้า ค่านา เป็นต้น


การประดิษฐ์ตัวอักษรไทย ซึ่งพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1826 คือ ลายสือไทย สันนิษฐานว่า ดัดแปลงมาจากตัวอักษรขอมหวัด และมอญโบราณ นับว่าเป็นมรดกอันยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมสุโขทัย อักษรไทยที่พ่อขุนรามคำ แหงมหาราชทรง ประดิษฐ์ขึ้น มีลักษณะการวางรูปตัวอักษร คือ สระ พยัญชนะ จะอยู่บรรทัดเดียวกัน สระจะอยู่ หน้าพยัญชนะ มีวรรณยุกต์เพียง 2 รูป คือ เสียงเอกและเสียงโท ในสมัยต่อมาได้มีการปรับปรุง โดยนำ สระเขียนไว้ ข้างล่าง ข้างบน ข้างหน้า และข้างหลังของพยัญชนะ เพิ่มวรรณยุกต์จนออก เสียงได้ครบ และได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำ ดับจนเป็นอักษรที่ใช้กันทุกวันนี้ เมื่อพ่อขุน รามคำ แหงมหาราชประดิษฐ์ตัวอักษรแล้ว โปรดฯให้จารึกเรื่องราวสมัยสุโขทัยลงในหลักศิลา จารึก โดยมีหลักศิลาจารึก หลักที่ 1 เป็นหลักแรก ที่แสดงถึงเรื่องอักขรวิธีของภาษาไทยและ เรื่องราวต่างๆ ด้านการปกครอง เศรษฐกิจ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมของสุโขทัย ด้า ด้ นภาษา


หลักศิลาจารึกหลักที่ 1 หรือศิลาจารึกพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช เมื่อพ่อขุนรามคำ แหง มหาราชประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นแล้ว ทรงโปรดเกล้าฯให้จารึกตัวอักษร ลงบนหลักศิลา จารึกหลักที่ 1 นับว่าเป็นหลักแรกที่แสดงถึงอักขรวิธีของภาษาไทย และเป็นวรรณกรรมที่ แสดงถึงสภาพสังคม วัฒนธรรม ประเพณีของอาณาจักรสุโขทัย ไตรภูมิพระร่วง (เตภูมิกถา) พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) เป็นผู้พระราชนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. 1888 โดยพระองค์มีพระราชประสงค์ ใช้เทศนาโปรดพระราชมารดาและสั่งสอน ประชาชนของสุโขทัย ให้บรรลุถึงนิพพาน วรรณกรรมไตรภูมิพระร่วงจะบรรยายถึงภาพ ของนรกสวรรค์ไว้อย่างชัดเจน โดยสอนให้รู้จักบาปบุญ คุณโทษ รู้ชั่ว เกรงกลัวต่อโทษที่จะ ได้รับจากการทำ ความชั่ว วรรณกรรมในสมัยกรุงสุโขทัยมีอยู่หลายประเภท ส่วนใหญ่ออกมาในรูปของ การสดุดี วีรกรรม ศาสนา ปรัชญา โดยมีวรรณกรรม ที่สำ คัญ ดังนี้ ด้า ด้ นวรรณกรรม สุภาษิตพระร่วง นับว่าเป็นวรรณกรรมที่มีค่ายิ่ง มีวัตถุประสงค์ที่จะสอนคน ให้มีความรู้ และการปฏิบัติตนต่อบุคคลอื่น


การแตกแยกทางการเมืองภายในราชธานี เป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากการแย่งชิงอำ นาจ ระหว่างเจ้านายในราชวงศ์ของอาณาจักรสุโขทัย จนถึงมีการรบพุ่งกันเองทำ ให้เกิดความ อ่อนแอทางการเมืองภายในราชธานี เป็นเหตุให้อาณาจักรอยุธยาเข้าแทรกแซงอำ นาจได้ สุโขทัยมีการปกครองแบบกระจายอำ นาจที่หละหลวม พระมหากษัตริย์ของอาณาจักร สุโขทัย ได้ให้อำ นาจกับเจ้าเมืองต่างๆ ในการบริหารและควบคุมกำ ลังคนภายในเมืองของ ตนอย่างเต็มที่ เป็นเหตุให้หัวเมืองเหล่านั้นแยกตัวเป็นอิสระได้โดยง่าย สุโขทัยมีข้อเสียเปรียบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากสุโขทัยมีสภาพที่ตั้งลึกเข้าไปในแผ่นดินซึ่งอยู่ ห่างจากทะเลมาก ทำ ให้ไม่มีเมืองท่าเป็นของตนเอง เมื่อมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากับ ต่างชาติ ต้องอาศัยผ่านเมืองเมาะตะมะ หรือ ผ่านเมืองต่างๆ ตามแม่น้ำ เจ้าพระยาไปสู่ ทะเลอ่าวไทย อาณาจักรอยุธยาก่อตั้งขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยา อาณาจักรอยุธยาที่ก่อตั้งขึ้นบริเวณ ลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยาตอนล่างมีกำ ลังทหารและเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกว่าสุโขทัย ต่อมา อาณาจักรอยุธยาได้ยกทัพมาตีอาณาจักรสุโขทัยจนได้เป็นประเทศราช และต่อมา อาณาจักรสุโขทัยถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรอยุธยาในปี พ.ศ. 1981 อาณาจักร สุโขทัยมีการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองมาโดยตลอด โดย เฉพาะสมัยกรุงสุโขทัยตอนต้น ในสมัยพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช ทรงวาง รากฐานการปกครอง แบบปิตุราชา (พ่อปกครองลูก) และในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย ได้นำ หลักธรรมมาใช้ในการ ปกครอง เป็นการปกครองแบบธรรมราชา ทำ ให้อาณาจักรสุโขทัยมีกำ ลังทหารเข้มแข็ง จน กระทั่งสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช อาณาจักรสุโขทัยเริ่มเสื่อมอำ นาจและสูญเสียอำ นาจ โดยถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในที่สุด เนื่องมาจากสาเหตุดังนี้ 1. 2. 3. 4. ความเสื่อ สื่ มของอาณาจัก จั รสุโ สุ ขทัย


Click to View FlipBook Version